ตอนที่ 4
วันนี้ผมต้องออกจ๊อบวันแรกครับเลยนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นนิดหน่อย ตื่นแต่เช้าไปที่ทำงานไปถึงเพิ่ง 7 โมง ผมเลยออกไปหาอะไรกินแถวที่ทำงาน ก็เป็นพวกข้าวแกงธรรมดาแหล่ะครับ กำลังนั่งรอข้าวที่สั่งไปอยู่ก็มี คนมานั่งตรงข้ามครับ ........
ไม่ใช่พี่ต่ายหรอกครับ อย่าเดากันซิ แหมอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น แต่เป็นใครก็ไม่รู้ ผมไม่รู้จัก แต่เคยเห็นแว๊ปๆที่ทำงาน อายุ30กว่าแล้วครับท้วมๆ หน้าตาใจดี แล้วเค้าก็ชวนผมคุยครับ
“คุณอยู่สายเพ็ญใช่ไม๊ ผมว่าใช่นะ คนที่นั่งคุยหน้าห้องเพ็ญน่ะ ขึ้นไปคุยกะพี่ฑูรย์ทีไรก็เห็นนั่งคุยอยู่หน้าห้องน่ะ”
อ้าวซวยละซิ ภาพพจน์ผมไปหมดล่ะกลายเป็นไอ้คนคุยเก่งไปแล้วซิ ผมเลยได้แต่แฮะๆตอบพี่เค้ากลับไปว่า
“ครับอยู่สายพี่เพ็ญ พี่อยู่ชั้น 3 เหรอครับ”
“ใช่ผมชื่อมีน สายผมอยู่ชั้น 3 แต่เด็กใหม่ปีนี้สายผมมีแต่ผู้หญิงนะซิ กำลังว่าจะไปคุยกะเพ็ญขอแลกตัวซะหน่อย เพราะบางจ๊อบต้องการผู้ชายไปลุย คุณมาอยู่กับผมไม๊ล่ะ"
5555555 ทางสว่างแล้วครับ อย่าว่าผมใจง่ายเลยครับ แต่ผมหาทางออกได้แล้วที่จะไม่ต้องไปกับพี่ต่าย ตอนนั้นผมลืมหมดเลยครับ เนย อ้อม หมี พี่เพ็ญที่แสนห้าวของผม ตอนนี้ขอพ้นหน้าไอ้พี่ต่ายก่อน
“ครับพี่ ถ้าพี่อยากให้ผมไปผมไปได้ แต่พี่ต้องคุยกับพี่เพ็ญเอง เดี๋ยวพี่เค้าจะเข้าใจผมผิด” ผมกลัวพี่เค้าเปลี่ยนใจครับเลยต้องรีบตอบรับ
ตอนนั้นเราคุยกันไปกินกันไป พี่มีนใจดีมากครับ เป็นกันเองมากๆขนาดเป็นระดับหัวหน้าสายแล้ว พี่มีนเป็นรุ่นพี่พี่เพ็ญอีกที เค้าซี้กันมากปกติกลางวันก็ไปทานข้าวด้วยกันตลอด อย่างที่ผมบอกแหล่ะครับพี่เพ็ญแกห้าวก็เลยคุยกันกับผู้ชายได้สนิทสนมดี อันนี้พี่มีนเป็นคนบอกผมเอง พี่มีนบอกว่าได้ยินว่าพี่เพ็ญได้เด็กใหม่เป็นชาย 2 เลยอยากขอแบ่งมาคนนึง เค้าก็ยังไม่เจอหมีหรอกครับ แต่แกคงคิดว่าใครก็ได้ขอเป็นผู้ชายแล้วกัน
คุยกันไปจนผมมาดูนาฬิกา ตายห่า7.30น.แล้ว ผมเลยขอตัวพี่มีนรีบกลับออฟฟิซเพราะพี่ต่ายนัดเจอตอน7.30น. ผมเลยได้แต่หวังว่าพี่มีนจะไปสู่ขอผมเอง กะพี่เพ็ญ แต่ยังไงวันนี้ก็คงต้องทนไปก่อน กว่าจะเดินไปถึงที่ทำงาน7.45 ครับ กูจะซวยไม๊ว้า
ปรากฎว่าพี่ต่ายยังมาไม่ถึง โชคดีไปมีแต่เนยนั่งอยู่ผมยิ้มเลยครับ รอดตายไปอีกหนกรู เนยบอกว่า
“โอมพี่ต่ายโทรเข้ามาบอกว่านัดลูกค้าไว้ที่นู่นจะไปคุยรายละเอียดก่อน ให้เราสองคนไปกันเอง ไปเจอกันที่นู่นเลย ไม่ต้องรอพี่เค้าแล้ว”
“แล้วพี่เค้าถามไม๊ว่าเรามายัง” ผมยังกลัวอยู่ครับเลยอดถามไม่ได้
“ไม่เห็นถามอะไรนี่ บอกว่าพร้อมแล้วก็ออกไปเลยเพราะตอนนี้พี่เค้าอยู่ที่ลูกค้าแล้ว”
เออรอดของจริงครับ ผมเลยชวนเนยออกไปเลยครับ คนกำลังไฟแรงกลัวไปช้าด้วยเพราะเช้าๆแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่ารถติดขนาดไหน
เราไปถึงกันหลังจากนั้นซักชั่วโมงครึ่งครับเก้าโมงกว่า เข้าไปที่บริษัทลูกค้าเค้าก็พาไปที่ห้องที่จัดไว้ให้พวกเรา ยังไม่มีใครนั่งเลยครับเป็นห้องประชุมเล็ก แต่มีกองเอกสารวางอยู่เต็มเลยครับ นั่นละครับงานของเรา นั่งกันไปแป๊ปนึงพี่ต่ายก็เข้ามาครับ........
กับหญิงสาวสวยคนนึงเลยล่ะชื่อพี่ แต้ว เป็นสมุหบัญชีของที่นี่ จะว่าสวยมากก็ไม่เชิงแต่ดูคล่อง เท่ห์ เก๋บอกไม่ถูก เป็นหญิงทำงานยุคใหม่ อายุน่าจะแก่กว่าพี่ต่ายนิดหน่อย
พี่ต่ายแนะนำผมกับเนย ให้พี่แต้วรู้จัก พี่แต้วก็น่ารักมาก
“สวัสดีค่ะน้องๆ มีอะไรไปคุยกับพี่ได้โดยตรงเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ แต่ต่ายมาคุมนี่เราเบาใจไปเยอะเลยนะ งานคงเสร็จทันแน่”
ฟังดูก็รู้ซิครับว่าสนิทกันแค่ไหน
“คุณแต้วก็เชื่อใจผมจริงเหรอ ตอนก้องมาก็บอกว่าเชื่อก้อง เฮ้อคนเราเค้าถึงว่า 1 ปีจาก นารีเป็นอื่น 55555” ครับพี่ต่ายคนเดียวกันนี่แหล่ะ แต่แกเปลี่ยนโหมดมาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปแล้ว ผมละรับไม่ทัน
“บ้าต่ายเนี่ย เค้ามีแต่ 3 วันจากนารีเป็นอื่น ไปเอามาจากไหน 1 ปี” พี่แต้วแกไม่ว่าเฉยๆครับมีตีที่แขนเบาๆด้วย เอ๊ะนี่ตกลงเค้ามาทำงานหรือมาทำไรเนี่ย ผมละแปลกใจ มิน่าพี่แกรีบมาคนเดียวแต่เช้าเลย สงสัยกลัวพวกผมมาขัดคอแกมั๊ง
แล้วเค้าลืมไปไม๊ว่ามีอีก 2 หัวโด่อยู่ในห้องด้วยหรือว่าโลกนี้มีเพียง 2เรา พี่ต่ายแกตอบครับ
“ก็แหมกว่าจะมาเจอกันอีกทีก็ปิดงบปีหน้า ก็ต้อง 1 ปีซิครับ คุณแต้ว”
“ไม่คุยด้วยแล้ว ต่ายจะชักใบให้เรือเสีย พวกน้องๆจะได้ทำงานกัน ยังไงก็ช่วยพี่หน่อยแล้วกันนะ ขอไวนิดนึง นะเนยกับน้องอะไรนะคะ” พี่แต้วหันมาถามผม
ผมกำลังอ้าปากจะตอบแต่มีคนตอบแทนครับ
“ชื่อน้องโอมครับ อยู่มหาลัยเดียวกับคุณแต้วนี่แต่ไม่รู้ว่ากลุ่มเดียวกันด้วยหรือเปล่า”
“อ้าวรุ่นน้องคณะเหรอ ดีๆเลยได้คุยกันง่ายหน่อย แต่พี่ไม่ถามรุ่นดีกว่ากลัวแก่ เอาเป็นว่าสงสัยอะไรเข้าหาพี่ได้เลยนะ เข้าหาพี่นะง่ายใช่ไม๊ต่าย ขึ้นอยู่กับว่าอยากเข้าหารึเปล่า หึหึหึ” พร้อมส่งสายตาวิบวับให้พี่ต่ายด้วย
พี่แต้วเนี่ยเปรี้ยวจังเลยนะครับ ผมละอึ้งกะคำพูดแกเลย พี่ต่ายก็คงอึ้งเหมือนกันเห็นหน้าแดงไปเลย แล้วพี่แต้วก็จากไปครับ ทิ้งไว้เพียงประโยคเด็ดของแก กับชายหนุ่ม 2 คนที่ยืนงง กับสาวสวยอีกคนที่ยังไม่ได้พูดซักคำ
“เอ่อ คือเนยว่า พี่ต่ายแบ่งงานเลยไม๊ค่ะ จะ10 โมง แล้ว” ในที่สุดก็มีคนทำลายความเงียบครับ เนยขอบใจเธอมากเลย เธอทำให้เรายังรู้สึกว่าผู้หญิงมีมุมที่อ่อนหวานอยู่
ถ้าเจอแบบพี่แต้วบ่อยๆเราคงหัวใจวาย
พี่ต่ายแกคงรู้สึกตัวแล้วครับ “โอเค เนย”
แล้วแกก็เปลี่ยนมาโหมดเดิมครับ
“เนยทำ.....นะพี่ขอพรุ่งนี้บ่ายโอเคไม๊ ส่วนเราน่ะทำ........ขอวันนี้เย็นหรืออย่างช้าเช้าวันพรุ่งนี้” ครับใช่ทีเนยเรียกชื่อสนิทสนม ทีผมชื่อก็มีไม่เรียกเรียกเรา แล้วเมื่อกี้ใครใช้ให้คุณไปแนะนำชื่อแทนผม เซ็งว่ะคนอะไรแบบนี้
แต่พอนึกถึงที่พี่แกสั่ง “ขอวันนี้” พี่บ้าป่าว ผมมาทำงานวันแรกนะพี่ แล้วผมยังไม่รู้อะไรเลย ทำไมมันโหดนักว่ะ ใครจะไปทำทัน
“พี่ผมทำไม่ทัน”ปากไปก่อนครับ แล้วก็ตกใจอ้าวดันพูดที่ใจคิดไปล่ะ เวรละซิ เอ๊ะเมื่อกี้ว่าคิดในใจนี่หว่า ไหงมีเสียงออกมาแล้ว
ครับหน้าแบบเดิมๆกลับมาอีกแล้ว เคยดูละครไทยไม๊ครับ ที่เวลาตัวร้ายทำหน้าให้รู้ว่าโกรธ หรือเยาะเย้ย ดูแล้วแบบไม่ต้องคิดมากนะครับ มาแบบนั้นเลย
“ไม่ได้ถามเลยว่าทำทันไม๊ บอกว่าพรุ่งนี้ต้องเสร็จ”
เบื่อครับ เคยไม๊ที่เซ็งเพราะคำพูดคนจนไม่อยากทำอะไรเลย ประชดนะครับ แต่อย่างที่เคยบอกผมน่ะสู้คน
“โอเค พี่ พรุ่งนี้เสร็จ” ปากก็บอกไป แต่คิด เอาอีกแล้วกูหาเรื่องใส่ตัวอีกล่ะ รู้ก็รู้ว่าทำไม่ทันดันไปอยากเอาชนะ เนยก็งงครับ พี่ต่ายก็งง
“เออก็ดี” ครับพี่เค้าพูดแค่นี้แล้วเค้าก็ไปนั่งทำงานเค้าครับ แล้วเราก็แยกย้ายกันทำงานครับ เงียบมากครับได้ยินแต่เสียงลมหายใจ เสียงพลิกกระดาษ ไม่มีใครคุยกันเลย โคตรอึดอัดเลย พอดีผมมีส่วนที่ต้องไปคุยกับลูกค้าเพื่อขออะไรเพิ่มผมเลยลุกออกไปข้างนอกครับ ซัก 15 นาทีได้กลับเข้ามาหายกันไปหมดล่ะ มาดูนาฬิกา อ้าวเที่ยงกว่าแล้วนี่มิน่าเมื่อกี้ลูกค้าดูลุกลี้ลุกลน แล้วทำไมไปกินข้าวไม่รอกรูเลย เนยนะเนยทิ้งกันได้ลงคอ ไอ้พี่ต่ายน่ะไม่หวังหรอกคนอย่างนั้น ผมนะเซ็งสุดๆ เดินไปกดลิฟท์รอให้ลิฟท์มา พอผมก้าวเข้าไปลิฟท์กำลังจะปิด
เคยดูหนังเกาหลีไม๊ครับลิฟท์จะปิดแล้วมีมือโผล่มากันแล้วลิฟท์เปิดออก ครับพี่กระต่ายแสนซนของผมเอง หอบมาเลยครับ แถมด้วยโวยอีกทีนึง
“ทำไมไม่รอ” อ้าวพี่ตกลงพี่ทิ้งพ้มหรือพ้มทิ้งพี่ หรือใครทิ้งใคร งง
“อ้าวผมไปที่ห้องไม่เจอใครเลยนึกว่าไปกันหมดแล้ว” พูดไปก็ยังงงกรูผิดหรือใครผิด
“น้องเนยไปแล้วเค้านัดแฟน ผมเห็นคุณยังไม่มาเลยไปเข้าห้องน้ำกลับมาก็ไม่เห็นล่ะ คนอะไร อุตส่าห์รอ ยังไม่ขอบคุณอีก” เออกรูผิดก็ได้ อะไรๆก็ผิดหมดแหล่ะ ไม่รู้จะไปแก้ตัวทำไม ผมเลยเงียบ พี่ก็เงียบ ลิฟท์ก็เงียบ เงียบมากขนาดที่ว่าเหมือนเราสองคนกลั้นลมหายใจเพราะกลัวเสียงดังรบกวนอีกฝ่าย
แล้วก็มีเสียงดังทำลายความเงียบขึ้นมา
“ป๊าดๆๆๆๆ.....ฟิ้ว..” พร้อมกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ครับขึ้นลิฟท์กัน 2 คน ต่างคนก็ต่างรู้ว่าใครเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติขึ้นมา แต่เป็นก๊าซที่เอามาเป็นพลังงานทดแทนไม่ได้ แถมเอาไปช่วยชาติก็ไม่ได้ เราสองคนหันมามองหน้ากันครับ
แล้วก็ “เอ่อ...”พร้อมกัน