ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจและทุกๆคำแนะนำ ครับ

ผมคนนึงนะครับที่มองว่า “การเป็นเกย์ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แล้วก็ไม่ได้ผิดธรรมชาติ .. และผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ทำงานให้กับองค์กรฟ้าสีรุ้ง และกลุ่มเกย์การเมือง ของพี่นที ( คงไม่ต้องบอกนะครับว่าองค์กรอะไร ) และก็เป็นคนหนึ่งที่เข้ายื่นหนังสือ ต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้บัญญัติ คำว่า ..ความหลากหลายทางเพศ ไว้ในมาตรา 33 แต่น้องเค้าไม่ได้เป็นเกย์นี้ครับ ( มีเกย์ที่ไหนบ้างครับแอบซ่อนหนังสือโป๊ผู้หญิงไว้ในกระเป๋านักเรียน ตั้งแต่ผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาน้องเค้า ผมตรวจยึดมาได้ มากกว่าโหล ) ผมถึงไม่อยากให้น้องเค้าเป็น
ผมเคยนำเรื่องนี้ไปปรึกษา ที่หน่วยให้คำปรึกษา สถาบันจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น มาแล้วครับ เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับนักจิตวิทยาได้ทราบ และได้นำแบบทดสอบภาวะทางเพศของวัยรุ่น ให้นักจิตวิทยาได้วิเคราะห์แล้ว ถึงรู้ไงครับว่าน้องเค้าไม่ได้เป็นเกย์ แต่มันเป็นเพียง...ชั่วอารมณ์หนึ่งของภาวะทางเพศของวัยรุ่น... ( ภาษาของนักจิตวิทยา ) เพราะโดยสภาพแวดล้อมแล้วน้องเค้าเจอเพื่อนเพศเดียวกันมากกว่าเพื่อนต่างเพศ ( โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วนครับ ) วันหนึ่งน้องเค้า รวมถึงผมด้วย ให้ชีวิตที่สภาพแวดล้อมเป็นชายล้วนมากว่า วันละ 9-10 ชั่วโมง สัปดาห์นึง เราต้องเจอกัน 6 วัน ( วันเสาร์เรียนพิเศษ ) วัยอาทิตย์บางอาทิตย์ ก็ต้องมาทำกิจกรรม แล้วจะให้น้องเค้า ( รวมถึงผมด้วย ) เอาเวลาที่ไหนครับไปเจอเพื่อนต่างเพศ จะเจอก็เพียงอาจารย์และเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่มีอายุแล้ว
ผมเคยเรียกน้องเค้ามาคุยถามว่า..
ถ้ามีเพื่อนต่างเพศมาคุณกับคุณ มาบอกว่ารักคุณ คุณจะทำอย่างไร ( คำถามที่นักจิตวิทยาเค้าให้ผมมา )
น้องเค้าก็บอกว่า .....ผมก็ต้องเรียนรู้นิสัยกันก่อน ถ้าเข้ากันได้ ค่อยตัดสินใจคบกับ
นี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นนะครับว่า จิตใต้สำนึกน้องเค้า เค้าก็ยังเป็นผู้ชายและเค้าก็ยังรู้สึกชอบผู้หญิงอยู่ แล้วที่เค้าเคยบอกผมว่าถ้าเค้าไม่คบผม เค้าก็ไม่ไปคบกับผู้หญิง ก็เพราะน้องเค้ายังไม่เคยคบเพื่อนต่างเพศนะสิครับ น้องเค้าเรียนโรงเรียนชายล้วนตั้งแต่ ม.ต้น แล้วพอถึงชั่วภาวะอารมณ์ที่ต้องการมีความรัก หันไปทางไหนก็เจอแต่ผู้ชาย ความผูกพันก็มีแต่เพื่อนเพศเดียวกัน สังคมโรงเรียนชายล้วนยังเป็นสังคมที่แคบนะคับ
อย่างที่ผมเคยบอกถ้าผมเห็นแก่ตัว ผมก็คบกับน้องเค้า แล้วไม่ต้องแคร์อะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องแคร์คำว่าจรรยาบรรณ ไม่ต้องแคร์คำว่าครูกับลูกศิษย์ คบกับน้องเค้ามีความสุขดีด้วย แต่นี้ผมรู้งัยครับว่าน้องเค้าไม่ได้เป็นเกย์ แล้วถ้าน้องเค้าจบไปเรียนต่อที่อื่น สังคมเค้าก็จะเปลื่ยนไป เค้าต้องเจอเพื่อนต่างเพศมากยิ่งขึ้น ทั้งคณะเดียวกัน และต่างคณะ แล้วลองคิดดูสิครับ ว่าเกย์ที่คยกับผู้ชาย ใครเจ็บปวดมากกว่ากัน อีกอย่างผมก็ไม่ได้รักน้องเค้าในเชิงชู้สาว ( ชาย ) (และที่สำคัญน้องเค้ายังเด็กครับ ข้อหาพรากผู้เยาว์เดี๋ยวนี้โทษถึงติดคุกนะครับ )
ผมรักน้องเค้านะครับ แต่ความรักที่ผมมีให้ ก็เหมือนกับ พี่ชายคนหนึ่งพึงมีให้กับน้องชาย ผมจึงอยากให้เค้ามีอนาคตที่ดี และสามารถดำรงชีวิตตามวิถีแห่งความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ผมไม่เคยคิดว่าผมอยากมีอะไรกับน้องเค้า ผมไม่คิดปรารถนาในตัวน้องเค้า และที่สำคัญ มันก็คงดูแปลก ที่เด็กนักเรียนชาย อายุ 16 คบเป็นแฟนกับอาจารย์อายุเกือบ 30 อายุต่างกัน เกือบรอบ ดูๆแล้วเหมือนพ่อกับลูก เพื่อนๆพี่ๆ ที่องค์กรฟ้าสีรุ้ง บอกว่า..ผมโง่ มีเด็กผู้ชายหน้าตาดี มาสารภาพรัก แต่ผมกลับวิ่งหนี ผมยอมโง่ครับ เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กคนนึง ผมก็จะดูแลน้องเค้าต่อไป เอาใจใส่กับการเรียนของเค้ามากขึ้น ผมยอมเจ็บปวดวันนี้ดีกว่าครับ เพื่อวันข้างหน้าผมจะมองเห็นอนาคตที่สดใสและมั่นคงของเด็กชายคนหนึ่ง คนที่ครั้งนึงในชีวิตเค้าบอกว่ารักผม สุดท้ายผมคิดว่าถ้าน้องเค้าจะคิดว่าผมเป็นคนรักเค้า ก็ตามใจเค้าเถอะ ถ้ามันจะทำให้น้องเค้ามีความสุข ณ ชั่วขณะนึง ( แค่ 2 ปี เอง ) เพราะผมก็เหนื่อยเหลือเกินแล้วครับที่จะ ต่อต้านกับความรู้สึกของน้องเค้า เพราะถึงผมพยายามไม่ใส่ใจน้องเค้ามากนัก แต่น้องกลับใส่ใจดูแลผมมากกว่าเดิมอีก แต่สำหรับผม เค้าเป็นน้องชายที่น่ารักของผมเสมอ ผมเคยคิดนะครับว่าสักวันหนึ่งถ้าผมได้เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ วันที่น้องเค้าแต่งงาน ผมนี้แหละจะเป็นเจ้าภาพและเป็นเถ้าแก่ให้น้องเค้า และผมก็จะกระทำทุกอย่าง ที่พี่ชายคนหนึ่งจะทำให้น้องชายได้ เพราะทั้งผมและน้องเค้าต่างเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว เราต่างก็ไม่มีพี่น้องเหมือนกัน เรื่องราวน้องเค้าสำหรับผมบางช่วงบางตอนถึงแม้มันจะปวดร้าว แต่ก็ถือเป็นความเป็นความปวดร้าวที่งดงามครับ และมันจะงดงามอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป เพราะน้องเค้าเป็นผู้ชายคนแรก ที่เดินเข้ามาบอกรักผม ( แต่กลับแฟนคนแรกของผม และรักเดียวของผม ผมเองเป็นฝ่ายบอกรักเค้าก่อน )
แต่การการะทำของผมที่ทำกับน้องเค้า ไม่ได้แตกต่างหรือพิเศษกว่านักเรียนคนอื่นๆ หลอกนะครับ และผมเองก็ไม่เคยแสดงออกว่าผมมีความรู้สึกดีๆให้กับน้องเค้า นอกจากกำลังใจในการเรียนบ้างบางครั้ง แล้วก็แอบแซวมันบ้างเวลาเรียน แต่ก็เหมือนปกติที่เมื่อก่อนเวลาผมสอนก็จะแซวนักเรียนบ้างเพื่อคลายเครียด แต่เดี๋ยวนี้เวลาแซวมัน ดูมันมีความสุขดี นับจากวันที่น้องเค้าบอกรักผม การกระทำและการแสดงออกของผมในโรงเรียน ก็เป็นปกติ เหมือนที่ผมมาสอนใหม่ ๆๆ มีแต่น้องเค้าคนเดียวแหละครับที่เปลี่ยนไป เพราะน้อง เค้าแสดงความเป็นเจ้าของในตัวผมมากยิ่งขึ้น
ผมคิดดูแล้วครับ ว่าถ้าอะไรที่น้องมันทำแล้วมีความสุข ผมก็จะปล่อยให้มันทำต่อไป ถ้าไม่ออกนอกหน้าและผิดต่อจรรยาบรรณของผม เพราะผมคิดว่าชีวิตคนเรามันสั้น ไม่แน่วันพรุ่งนี้หรือวันอื่นผมอาจจากโลกนี้ไปก่อนน้องเค้าก็ได้
เพราะหลักการใช้ชีวิตของผม คือการทำให้ชีวิตในวันนี้มีความสุขที่สุด ใช้ชีวิตให้เหมือนกับว่าเป็นวันสุดท้าย ผมจะดีใจครับถ้าชีวิตผม ครั้งหนึ่ง ได้ทำให้ชีวิตของเด็กคนนึงมีความสุขในแบบของเค้า ผมไม่คาดหวังหลอกครับว่าชีวิต วันข้างหน้าของน้องเค้าจะเป็นอย่างไร เพียงแต่แค่เห็นชีวิตมันประสบความสำเร็จในสิ่งที่น้องเค้าคาดหวังไว้ ผมในฐานะอาจารย์คนนึงก็มีความสุขแล้ว แต่ไม่ใช่กับน้องเค้าคนเดียวนะครับ กับลูกศิษย์คนอื่นๆ ก็ เช่นกัน ผมจะภูมิใจมากถ้าลูกศิษย์ของผมทุกคนได้ดี
( วันนี้วันที่ 22 ม.ค ตรงกับวันเกิดของผม รู้ไหมครับ น้องมันไปสั่งดอกไม้ไว้ แล้วให้ที่ร้านมาส่งให้ผมที่ห้องพักครู ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะดีใจ หรือเสียใจดี เพราะน้องมันก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะให้ผมเป็นแฟนมันอยู่เหมือนเดิน อาจจะมีครู อาจารย์หลายคนนะครับที่เป็นแฟน กับนักเรียน บางที่ถึงขั้นมีอะไรกันด้วยซ้ำ แต่หนึ่งในนั้นต้องไม่ใช่ผม อาจจะดูขำนะครับว่าผมโง่ แต่คำว่าจรรยาบรรณวิชาชีพครู สำหรับผม มันคือสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอด )
ขอบคุณอีกครั้งนะครับสำหรับทุกกำลังใจ และทุกคำแนะนำ ซึ่งบางครั้งมันก็ทำให้ผมคลายศร้าลงได้บ้าง ขอบคุณคุณเจ๊..มากนะครับ แต่ผมอยากจะเรียนนะครับว่าผมไม่เคย ดูถูกสถาบัน ไม่เคยดูถูกสถานศึกษาที่ผมทำงานอยู่ ไม่เคยหมิ่นเกียรติแห่งปริญญาบัตร คำปฏิญาณทุกคำที่ปฏิญาณในวันพระราชทานปริญญาบัตร ผมยังจำได้ดี ผมรู้สึกขอบคุณด้วนซ้ำ ที่สถาบันของผม อบรมสั่งสอนให้เกย์อย่างผม ให้มีอนาคตที่ดี แม้ไม่มีความสุขมาก แต่ก็สุขแบบเหงาๆ เศร้าแบบยิ้มๆ ครับ อย่าโกรธกันนะคุณเจ๊ ถือสะว่าเราได้เป็นเพื่อนใหม่กัน ในโลกของ cyber
