พอดีขออนุญาตบอยลงเรื่องนี้ได้เป็นที่เรียบร้อยครับ แฮะ แฮะ
ขอลงต้อนรับเรื่องใหม่ของนักเขียนในดวงใจ ที่กำลังจะเอาเรื่องใหม่มาลงซะหน่อย
อยากอ่าน Loving Course เร็วๆจังเลย

แอบกดดันนิ๊ดนึงนะครับ บอย

เรื่องนี้อยู่ในรวมเล่มของ BBoyseries เล่มหนึ่ง ครับ
ใครสนใจไปซื้อรวมเล่มเลยนะครับ
คำเตือน : นิยายของบอยทุกเรื่องได้จำการจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามผู้ใดกระทำการลอกเลียนแบบหรือว่าดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามทางกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อทราบกันโดยถ้วนหน้า
ขอความกรุณาให้เกียรติกับผู้แต่งด้วย ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
==================================
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0===================================
- 1 -JUSTIN..ซุปเปอร์สตาร์หน้าใหม่ทำวงการเพลงสะเทือน…. ประโยคสั้นๆที่โปรยพาดหัวหนังสือพิมพ์บันเทิงรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งที่วางแผ่หราอยู่ตรงกลางโต๊ะในที่ประชุมดึงให้ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่มันด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“เราประมาทไม่ได้แล้วนะเด็กคนนี้มีดีกว่าที่เราคิด”
หนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หัวโต๊ะและเป็นคนเรียกประชุมในครั้งนี้เอ่ยขึ้นทำให้ทุกสายตาหันมองไปที่เขา
“แรกๆที่เห็นเด็กคนนี้ที่ทางค่ายเขายิงทีเซอร์ออกมา ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนี้จะดังได้เร็วขนาดนี้ สถานการณ์ค่ายเราตอนนี้กำลังตกเป็นรองค่ายคู่แข่งในสายตาของสื่อนะ ผมก็อยากจะถามทุกคนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราเคยเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด ทำไมพักหลังนี้นักร้องที่พวกคุณผลิตงานเพลงให้ถึงได้แป้กไม่เป็นท่าทั้ งหน้าเก่าหน้าใหม่ ตอนนี้เราไม่มีมีนักร้องเบอร์เจ๋งๆที่จะออกมาต้านกระแสของนายจัสตินได้เลยนะ หรือทุกคนว่าไง เด็กๆที่พวกคุณกำลังดูแลอยู่ ใครบ้างที่พอจะมีแววเรียกความนิยมของคนฟังให้กลับมาหาเราได้”
เงียบ…ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกจากปากทีม producerที่นั่งเรียงรายอยู่ต่อหน้าเมที จนเขาต้องผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา และกำลังมองสบตาเขาอยู่พอดี
เสมือนรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ ผู้บริหารค่ายเทปหนุ่มใหญ่อย่างเมทีจะต้องขอความเห็นจากเขาอย่างแน่นอน ด้วยเครดิตที่นักร้องที่อยู่ในความดูแลของเขา ล้วนแต่สร้างยอดขายเกินเป้าให้กับบริษัทแทบทั้งสิ้น
“ธีระ ตอนนี้งานใหม่ของคุณเป็นไงบ้าง”
“คุณเมทีหมายถึงอัลบั้มของฟิลิปเหรอ”
ธีระเอ่ยถึงฟิลิปนักร้องหน้าใหม่ที่ได้จากการประกวดที่ทางค่ายจัดขึ้นและตอนนี้กำลังอยู่ในความดูแลของเขากับการออกอัลบั้มแรก
“ใช่เด็กคนนี้คุณคิดว่าพอจะมีแววไปได้แค่ไหน”
“อืมตอนนี้อลบั้มก็เสร็จไปกว่า 80% แล้วล่ะ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ใหน อันนี้ผมก็ว่าน่าลุ้นนะ เพราะฟิลิปเขาก็มีความเป็นศิลปินที่โดดเด่นอยู่แล้ว คุณเมทีก็คงจะเห็นในวันประกวดอ่ะนะ”
เมทีพยักหน้าคล้อยตามคำบอกเล่าของธีระ producer มือหนึ่งของค่าย และก็ได้แต่หวังว่า ฟิลิปนักร้องชายวัยรุ่นคนใหม่ที่อยู่ในทีมผลิตของธีระ จะช่วยกู้วิกฤตขาลงของค่ายเพลงที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเพลงวัยรุ่นให้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง หลังจากที่ค่ายคู่แข่งได้เปิดตัว 'จัสติน' นักร้องหนุ่มวัย20ลูกครึ่งไทย อังกฤษกับรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นผสมกับแนวเพลง pop dance ที่กำลังครองความนิยมในตลาดเพลงวัยรุ่นเพียงคนเดียวในขณะนี้
“ผมอยากให้คุณเร่งทำเพลงหน่อยนะ ธีระ เรายังมีโอกาสที่จะต้านกระแสของคู่แข่งได้ ก่อนที่จัสตินจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ เพราะถึงตอนนั้นคงยากที่เราจะดึงตลาดกลับมา”
“คุณเมทีคงไม่ได้หมายความว่า จะให้ฟิลิปเป็นคู่แข่งของจัสตินนะ”
“แล้วมันจะผิดอะไรล่ะ ธีระ เพราะเท่าที่ผมดูแผนงานของแต่ละท่าน ผมว่าฟิลิปน่าจะต้านกระแสของฝั่งโน้นเขาได้หรือทุกคนว่าไง”
ธีระหันไปสบตาเพื่อนร่วมงานที่นั่งเงียบ ไม่มีคำคัดค้านใดๆ
“อีกอย่างผมเชื่อในฝีมือคุณนะธีระ”
“แต่กำหนดออกอัลบั้มของฟิลิปคือกลางปีหน้านะ ส่วนจัสติน ตอนนี้ก็มีข่าววงในออกมาแล้วว่าปลายปีนี้เขาจะมีคอนเสิร์ตใหญ่อย่างแน่นอน ผมคิดว่าคุณเมทีน่าที่จะลองมองนักร้องคนอื่นๆ ที่กำลังจะออกช่วงนี้ดูก่อนมั๊ย”
“แต่คุณสมบัติของฟิลิปดูจะสมน้ำสมเนื้อ ที่พอจะเป็นคู่แข่งของจัสตินได้ไม่ยาก ผมว่าผมมองคนไม่ผิดและผมก็ขอย้ำว่าผมเชื่อในฝีมือคุณธีระ”
“เมื่อคุณเมทีไว้ใจผมผมก็เต็มที่อยู่แล้ว”
“แต่ความจริงนักร้องเบอร์เก่าๆของเรา ที่พอจะขายได้ก็มีนะ ผมว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือเปล่า ทีจะทำงานลวกๆออกมาไม่โดนก็แป้กเอาง่ายๆนะ เผลอๆอาจจะโดนด่าเอานะ เพียงเพราะอยากที่จะต้านกระแสเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ดูคุณภาพของงาน”
พีรพลที่นั่งฟังการสนทนาอยู่นาน เสนอความคิดขึ้นมาค้าน เพราะเขาคิดว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะเอานักร้องใหม่ที่ชั่วโมงบินยังไม่มีออกมา ในขณะที่กระแสตอบรับของจัสตินกำลังเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้างว่า จะกำลังจะขึ้นแท่นเป็นซุปเปอร์สตาร์คนต่อไปของวงการเพลง
“แล้วใครล่ะ คุณพีรพล ลองเสนอผมมาดูสิ ขนาดเรย์นักร้องเบอร์ขายของคุณ และเป็นความหวังของค่ายยังวืดไม่เป็นท่า เพียงแค่อัลบั้มของจัสตินเปิดตัวได้ไม่ถึงเดือน จนต้องพับงานคอนเสิร์ต”
พีรพลเงียบไม่มีคำตอบรู้สึกน้อยใจขึ้นมา เมื่อโดนผู้บริหารมองว่า เรย์ ศิลปินเบอร์หนึ่งของค่ายที่อยู่ในทีมผลิตของเขามาหลายปีก่อนที่ธีระจะก้าวเข้ามา ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับงานใหม่ชุดล่าสุด
“ผมว่าเราควรจะมีกิจกรรมร่วมกับอัลบั้มของฟิลิปนะ”
ธีระเสนอความคิดออกมาอีกครั้ง ซึ่งข้อเสนอของเขาก็ทำให้ผู้บริหารอย่างเมทีเห็นด้วยได้ไม่ยาก
“อืม..ผมว่าก็ดีนะ ลำพังแค่งานเพลงอย่างเดียวก็คงจะไม่พอหรอก แล้วคุณคิดว่าควรจะเป็นกิจกรรมอะไรดีล่ะธีระ”
“ฟิลิปเกิดมาจากการประกวด กิจกรรมของเขาก็น่าจะเป็นการประกวดนะ มันอาจจะช่วยให้คนสนใจงานของเขามากขึ้นด้วย”
“คุณนี่สมเป็นโปรดิวเซอร์คนเก่งจริงๆนะ ธีระ”
พีรพลเอ่ยชมในใจ ก็คิดว่าเขาคงหมดความสามารถลงไปเยอะในสายตาของเมที
“มันก็เหมือนเป็นแผนสำรองไง คุณพีรพล เพราะถ้าฟิลิปทำไม่ได้อย่างที่เราหวังกัน ก็จะได้มีตัวตายตัวแทนได้ทัน”
“คุณนี่รอบคอบจริงๆ ธีระ ยังไงผมอาจจะต้องคุยเรื่องนี้กับทีมการตลาดอีกที แต่ตอนนี้ผมอย่างให้คุณเคี่ยวฟิลิปให้แน่น ความหวังอยู่ที่เด็กของคุณ แล้วผมอยากให้ฟิลิปเปิดตัวก่อนงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตใหญ่ของจัสติน”
ธีระมองสบตาผู้บริหารอย่างมุ่งมั่น งานนี้ของเขาน่าจะเป็นงานที่ท้าทายที่สุดเท่าที่เคยทำเพลงมา และเขาก็มั่นใจในศักยภาพของ ฟิลิป เด็กหนุ่มที่เขาเทคะแนนให้อย่างไร้คู่แข่งในการประกวดค้นหาดาวดวงใหม่