เหตุเกิดจากเสียง...2
ปึงๆๆๆ!!!
ผมเคาะประตูห้องข้างๆ ห้องที่เป็นต้นเหตุทำให้ผมต้องหัวเสียแบบนี้ ที่จริงเรียกว่าทุบเถอะ ผมคงไม่มีมารยาทมากพอที่จะมานั่งบรรจงเคาะประตูห้องเรียกไอ้พวกเปรตทั้งหลายหรอก ถ้าจะให้ดีผมอยากทุบหน้าพวกมันเรียงตัวมากกว่าทุบประตูห้อง!
“เฮ้ยไอ้แซม มีคนมาเคาะห้องมึง!”
“เออๆ”
ผมได้ยินเสียงพวกมัน เลยลดมือที่กำลังจะทุบประตูอีกรอบลง เออ! เร็วๆเลยพวกมึง อารมณ์กูกำลังขึ้น กำลังพีคสุดๆ
แต่พอนึกได้ว่าตอนนี้ไอ้พี่แซมกำลังจะเดินมาเปิดประตู ผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ ความโมโหเริ่มลดน้อยถอยลง ยังไม่ทันที่จะคิดตัดสินใจอะไรประตูก็เปิดออกดัง ผลั้ว!
“นี่! พวกนายนะ...!” ผมอ้าปากค้างเพราะคนที่เปิดประตูนั้นเป็น...เป็นใครวะ แต่มันน่ารักดีแหะ เฮ้ย! นี่มันใช่เวลามาชมชาวบ้านไหมไอ้สตางค์ครับ
“เอ๋...” คนที่มาเปิดประตูมองหน้าผมพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ไม่ครับ เขาไม่ใช่ไอ้พี่แซม แต่เป็นใครไม่รู้
“คือว่าพวกนายช่วย...” แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรคนที่มาเปิดประตูก็ตะโกนขึ้นมาก่อน
“ไอ้แซม! เด็กมึงมาหา”
ห๊า! เด็ก....เด็กใคร ใครเด็ก?? งงครับงง
“อะไรของมึงไอ้ต๊าด!” เสียงทุ้มอันทรงพลังลอยมา
เสียงที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“ไหน ใครมาวะ อ่อ...”
คราวนี้ไม่ได้มาแค่เสียงครับ มันมาตัวเป็นๆเลย ดูสายตามันสิครับ ถ้ามันถลกหนังหัวผมได้มันคงทำไปแล้ว
“ว่าไงครับน้องสตางค์ มาหาพี่นี่คิดถึงเหรอ” ไม่พูดเปล่าครับ มันเอามือมาเชยคางผมด้วย
“เอ่อ ปล่าว แค่...” แล้วผมก็เกิดอาการพูดไม่ออกซะงั้นได้แต่ก้มหน้า อาการโมโหโกธาเมื่อครู่ไม่มีหลงเหลืออยู่เลย มีแต่อาการหวั่นๆในใจแทน
“แค่อะไรครับ” ไอ้พี่แซมเดินเข้ามาใกล้ผม ผมเลยก้าวถอยหนีแต่พี่มันกลับดึงผมไว้ให้เข้าไปหาตัวมันอย่างแรงจนตัวผมปะทะเข้ากับอกแกร่งที่มีเพียงเสื้อกล้ามบางๆกั้น
ผมผิดไปแล้ว อย่าทำอะไรผมเลย ต่อไปนี้ผมจะไม่มียุ่งกับพี่มึงอีกแล้วครับ!
“ว่าไงครับ!” พี่มันตะโกนใส่หูผมครับ
“ผมแค่จะมาบอกว่าพี่ช่วยลดเบาเสียงหน่อยได้ไหม ผมอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลย” ผมพูดลิ้นระรัวเพราะตกใจ
“งั้นเหรอครับ ได้สิ”
“ห๊า...” ผมเบิกตากว้าง นี่ผมหูฟาดไปหรือเปล่า ร้อยวันพันปีพี่มันไม่เคยจะใจดี แต่วันนี้กลับพูดง่าย
“เอ่อ ขอบคุณครับ” ผมบอกลาแล้วก็หมุนตัวจะเดินกลับห้อง แต่เสียงมารดันรั้งขาเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว!”
ผมหยุดยืนนิ่ง ขามันค้างครับ ก้าวไม่ออก
มันอะไรอีกวะครับเนี่ย รู้เรื่องแล้วก็ปล่อยผมไปเถอะ
“อ๊ะ” ผมสะดุ้ง พลางย่นคอหนีลมร้อนๆที่เป่ารินรดอยู่ที่บริเวณต้นคอ
“พี่จะเบาเสียงให้ก็ได้ ถ้าคืนนี้น้องสตางค์ยอมให้พี่ไปนอนด้วย” มันบอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วชวนขนลุก ผมไม่กล้าหันไปมองมัน เพราะได้แต่อึ้งกับคำพูดเมื่อกี้
นอน...นอนห้องผม ไอ้บ้าพี่แซมมันจะมานอนห้องผม!!!
ไม่!
ผมไม่ยอม!
“ว่าไงครับ” น้ำเสียงเหยียบเย็นนั่นเป็นตัวเร่งปฏิกริยาได้เป็นอย่างดี
“ทะ ทำไมต้องมานอนห้องผม” ผมค่อยๆหันไปถามมัน แล้วก็ถอนหายใจเบาๆในใจเพราะไอ้พี่แซมมันยืนห่างจากผมมากว่าที่คิดไว้
ขอเหตุผลหน่อยครับ ผมกับไอ้พี่แซมก็ไม่ได้สนิทกัน หรือว่าง่ายคือไม่ถูกกันจะง่ายกว่าเพราะมันเคยกวนตีนผมและตอนนั้นผมไม่รู้จักมันเลยย้อนกลับ หลังจากวันนั้นผมโดนมันแกล้งมาโดยตลอด แต่ช่วงเทอมแรกหนักหน่อย โดนมันแกล้งทุกวันหลังอาหารสามเวลา
เห็นไหมครับทุกคนว่าชีวิตผมมันน่าสงสารแค่ไหน ผมโดนรังแก!
“เพราะห้องพี่มันเต็ม”
“เออ แล้ว...”
“หุบปากแล้วกลับไปอ่านหนังสือได้แล้วครับน้องสตางค์ ถ้าพี่ง่วงจะไปนอนด้วย”ปัง!
บอกได้คำเดียวครับว่าเงิบแดก!
คำสั่งนั้นเป็นเหมือนคำประกาสิตที่ทำให้ผมอยากจะลาตาย อาจารย์ครับ ถ้าพรุ่งนี้ผมทำข้อสอบไม่ได้ อาจารย์ก็มาด่าไอ้พี่เวรนี่แทนนะครับ ผมเครียด!!!
ผมโต้แย้งอะไรไม่ได้เลย
มึงกลับมาเดี๋ยวนี้นะไอ้เชี่ยพี่แซม!
กลับมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน!
ว่ามึงนอนห้องกูไม่ได้!!!อ๊ากกกกกกกก
