
ได้แค่ไหน..(เอา)..แค่นั้น
“โอ๊ย..เจ็บ..เจ็บจังเลย..อู๊ย”
ตอนนี้มือผมจับลูกบิดประตูแล้วครับ
แต่ก็อดหันไปมองคนเจ้าเล่ห์ไม่ได้
“อูย...เลือดออกเลย ลิ้นขาดเลยมั๊งเนี่ย”
เฮียคร่ำครวญ แลบลิ้นออกมาโชว์
ชะเง้อดูนิดนึง ลิ้นยังอยู่ดีนี่
หันหลังกลับ เตรียมเปิดประตูจะออกไป
“เจ็บจัง เจ๊บเจ็บ ดูให้หน่อยสิเลือดออกด้วยนะเนี่ย”
ผมอดห่วงเฮียไม่ได้ รู้สึกผิดนิดๆ
เดินกลับไปหาคนที่นั่งอยู่ที่โซฟา แบบระวังตัว
ยืดคอมองก็เห็นเลือดติดที่ปลายลิ้น
“นิดเดียวเอง ร้องซะ”
“เลือดยังไม่หยุดเลย ดูดิ”
ผมเผลอไปนิด เลยโดนดึงเข้าไปหา
อะไรจะเหมาะเจาะ
ถ้าไม่ได้เกิดกับตัวเองจะไม่เชื่อเลย
ผมโดนดึงไปนั่งอยู่บนตักเฮียแบบหมิ่นๆ
ตัวผม หน้าผม หันเข้าไปหาเฮีย
ผมจับไหล่เฮียทั้ง2ข้าง กลัวตกอะ
มันเป็นปฏิกริยาอัตโนมัติ
ผมจับไหล่ปุ๊บ เฮียกอดเอวผมปั๊บ
แถมรั้งเข้าไปจนชิด
ผมนั่งคร่อมแกอยู่
ผมดิ้นกระแด่วๆ จะลงจากตัวเฮีย
เฮียเลิกจับเอวแล้ว เปลี่ยนเป็นกอดเอวแทน
“ชู้วส์..อยู่นิ่งๆก่อน แล้วจะปล่อย”
ผมหยุดดิ้น สู้แรงแกไม่ไหว
“นิ่งแล้ว ปล่อยได้ยังอะ”
“แป๊บนึง เฮียเวียนหัว”
เฮียกอดผมแน่นขึ้น
ผมไม่กล้าขยับ หน้าผมมันเกยอยู่บนไหล่เฮียข้างนึง
หน้าเฮียอยู่บนไหล่ผม แต่แกคงเวียนหัวจริง แกก้มลงซบตรงซอกคอ
“เฮีย..เฮีย”
“หืม”
“หายยังอะ”
เฮียสูดลมหายใจแรงๆ2-3ที
โดยยังไม่เอาหน้าออกจากซอกคอผม
“ไม่ไหวแล้วเฮีย จั๊กกะจี๋ ฮะ ฮะ”
ผมดิ้นแต่ไม่แรง กลัวเฮียเวียนหัว
เฮียคลายแขนที่กอดผมออกเล็กน้อย ซอกคอผมเป็นอิสระ
ผมดันตัวออกได้นิดนึง
“เฮีย เฮียทำทำไม”
ผมทำหน้าบึ้ง กลั้นหัวเราะจากการจั๊กจี๋ที่คอ
“เฮียทำอะไรเหรอ”
“วู๊....เฮียนี่ ผมไม่โง่นะ”
“แล้วเฮียว่าเราโง่ตอนไหน”
“เฮียไม่ได้ว่า แต่ ทำ”
“ทำอาราย”
ต่อปากต่อคำ ลากสียงถามเหมือนผมเป็นเด็กเล็กๆ
“ก็..ก็”
ผมอายปากอะ ไม่อยากพูด
“ฟอด ฟอด”
“นี่ไง เผลอไม่ได้เลย โกรธแล้วนะ”
แกหอมผมที่แก้มตอนผมหยุดคิดว่าจะพูดยังไง
ผมตีที่ไหล่แกแรงๆ
“โอ๊ยๆ”
แต่หน้าระรื่น
“หอมผม กอดผม จูบผม แถมยัง..ลิ้นเฮีย...”
เฮียปล่อยมือข้างหนึ่งจากเอว
ลูบแก้มผมแผ่วๆอย่างทะนุถนอม
ผมชะงัก ในอกมันรู้สึกตื้อๆ
ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผม ไม่ว่าจะแม่
ส่วนพ่อไม่ต้องพูดถึง เลือนลางเหลือเกิน
ความนุ่มนวลแบบนี้
เหมือนผมเป็นคนสำคัญ
ผมนั่งนิ่ง ตัวเกร็ง รอฟัง
“น้องหน่อยครับ”
ต่อมาอีกนาน ผมถึงได้รู้ทัน
เวลาเฮียอยากเอาใจ หรือมีความผิด
จะเรียกผม..”น้องหน่อย” ด้วยเสียงอ้อนๆ
“เฮียขอโทษนะครับ ที่เฮียรังแก..เฮียแกล้งน้องหน่อย”
มือเลื่อนจากแก้มลงมา
นิ้วมือไล้เบาๆที่ริมฝีปาก
อาการเจ็บระบมที่ปาก บรรเทาลงทันที
“เฮียไม่ได้ทำเพราะอยากให้น้องหน่อยโกรธ”
มืออีกข้างตรงเอวไล้เบาๆให้ผ่อนคลาย
“ยังเจ็บอยู่มั๊ยครับ”
ผมส่ายหน้าช้าๆ
“หายโกรธนะครับ”
เหมือนต้องมนตร์ ผมพยักหน้า
อารมณ์โกรธหายไป ไม่หลงเหลือ
“จุ๊บ จุ๊บ”
อีกแล้ว ปากผม ผมอ้าปากจะต่อว่า
ดีได้แป๊บเดียวจริงๆ
“ชู้วส์ ฟังก่อนครับ”
นิ้วแตะห้ามเบาๆที่ริมฝีปาก
“น้องหน่อยฟังเฮียมี่จนจบก่อนนะครับ แล้วจะโกรธจะเกลียดเฮียก็ไม่ว่า”
พอผมนิ่งฟังนิ้วก็เปลี่ยนเป็นไล้เบาๆ
จากริมฝีปากเลื่อนมาตามลำคอ
เคลิ้มเลยผม
“เฮียรู้ว่ามันเร็วเกินไป น้องหน่อยยังเด็กคงยังสับสน”
ผมเนี่ยนะสับสน มันน่าจะเฮียซะมากกว่า
“ฟอด”
หอมแก้มผมแล้วส่ายหน้าห้ามไม่ให้ผมพูด เผด็จการ
“เฮียชอบน้องหน่อยมาก ชอบมาตลอด ไม่ใช่แบบน้องชาย
แต่ถ้าชอบมากอีกนิดมันคือ รักครับ ”
ผมฟังเพลินแล้วสะดุ้งในตอนท้าย เฮียจะสื่ออะไร
มือที่เอวเลื่อนมาลูบหลังเบาๆ
ผมพอจะรู้ว่าเฮียชอบผม ผมก็ชอบเฮีย
ไม่งั้นผมจะชะเง้อมองหาเฮียทั้งวันได้ยังไง
ไหนตอนที่เฮียไปเมืองนอก
ผมก็คิดถึงเฮียมาก
“แล้ว...แล้ว...”
ผมถามเฮียแบบงงๆ
“เฮียจะรอนะครับ รอจนน้องหน่อยจะโต โตพอที่พร้อมสำหรับเรื่องรัก”
เฮียจ้องหน้าผมราวกับรอคำตอบ
“แต่..แต่ผมกะเฮียเป็นผู้ชายนะ”
“แล้วไง”
“ก็..ก็ผมไม่ได้เป็นตุ๊ดนี่”
ผมรู้นะว่าผู้ชายที่เขาเป็นแฟนกัน คนที่เด็กกว่า หรือตัวเล็กกว่า คนนั้นจะเป็นตุ๊ด
แล้วก็จะทำกริยาตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิง ผมไม่อยากทำ ถึงผมจะชอบเฮียก็เหอะ
“ฮะ ฮะ ตลกแล้ว”
พอผมหายโกรธ เฮียแกก็เลิกพูดหวานๆ
“ถ้าเราไม่อยากเป็น เฮียเป็นก็ได้อะ”
“เฮียเนี่ยนะ จะเป็นตุ๊ด”
คิดภาพไม่ออกเลย หล่อๆแบบเฮียจะทำได้
“จริงๆ เฮียยอมเสียสละเอง”
“ง่ะ..ผมไม่เชื่อ”
“เอาไว้ให้ถึงเวลาเราค่อยตกลงกันอีกทีดีมั๊ย”
“ดีครับ..เฮ๊ย..ไม่..ไม่..ผมไม่ได้รักเฮีย”
เฮียหน้าเสีย ถอนหายใจแรงๆ แล้วอุ้มผมลงจากตักไปนั่งข้างๆ
แล้วหันไปมองด้านข้างที่ไม่มีผม
โกรธผมแน่เลย ทำไงดี ผมไม่น่าต่อปากต่อคำกะเฮียเลย
อีกหน่อยแกคงไม่สนใจจะเล่นกับผมแน่
แต่ผมชอบเฮียนี่ เฮียใจดี ตามใจผม
ผมอยากมีพ่อ มีพี่ชายเหมือนคนอื่น
แม่รักผมมากก็จริง แต่มันไม่เหมือนกัน
เจ๊นิดกะไอ้นิว เราก็สนิทกันแต่ไม่ได้คุยกันได้ทุกเรื่อง
กะเฮีย คิดยังไง ผมก็พูดอย่างนั้น
ทำอะไรก็ได้ ไม่เคยดุผม
แต่ผมไม่ได้รักอะ จะให้โกหกเหรอ
“เฮีย..เฮียมี่”
ผมสะกิดที่แขนแกเบาๆ
“...”
หันมามองผมนิดเดียวจริงๆ แล้วเมิน
“โกรธเหรอครับ ผมขอโทษ”
คราวนี้ดีขึ้น หันมามองผมหน้าบึ้ง
“ง่ะ..ทำไงหายอะ”
ผมบิดมือตัวเอง
เฮียแตะมือผม ผมอยากจะดึงมือออก
แต่ไม่กล้า
“ทำข้อตกลงกัน”
“ข้อตกลง ตกลงอะไรอะ”
“ก็แบบ สัญญาอะไรยังงี้ไง”
โหได้ที ตอนนี้ละยิ้มหน้าบานเลย
“ก็ได้ครับ”
“ข้อที่1....เชื่อฟังเฮีย”
ผมพยักหน้า เป็นเด็กก็ต้องเชื่อฟังอยู่แล้ว
“ข้อ2...ไม่โกรธเฮีย”
อ้าวๆ ยังงี้ผมก็แย่อะสิ ผมส่ายหน้า
“ไม่ครับ ถ้าเฮียทำแบบนั้นอีก ผมก็จะโกรธ”
เฮียหยุดคิดนิดนึง แล้วอมยิ้ม
“เอางี้ โกรธได้ แต่ถ้าเฮียไม่ได้ตั้งใจห้ามโกรธ”
ผมพยักหน้า งง มีด้วยเหรอทำแบบไม่ตั้งใจ
เอาเหอะ คงไม่มีอะไร
“ข้อ3...”
“โอ๊ยไม่เอาแล้ว เยอะเกินไปแล้วเฮีย”
“ก็ได้ ก็ได้ ข้อสุดท้าย”
“อะไรครับ”
ทนอีกนิด จะได้จบๆ ผมชักเบื่อแล้ว
“ให้คำตอบเฮีย ถ้าเฮียเอ็นทรานส์ติด”
“คำตอบอะไรอะ”
ผมไม่เข้าใจ แกพูดถึงอะไร
“คำตอบว่า น้องหน่อยรักเฮียมี่ครับ”
“หวา”
ผมอ้าปากหวอ ตกตะลึง
“ตกลงป่ะ”
“เฮ้อ...”
เฮียแกแปลกไปนะผมว่า ดูจะจู้จี้จนชักจะอึดอัด
เฮียมี่กอดอกแล้วตั้งท่าจะหันหน้าออกไปอีกแล้ว
“ตกลงก็ได้อะ ขี้เกียจง้อแล้วเนี่ย”
ผมยอมตกลงโดยยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
เฮียหันมายิ้มแป้น รวบตัวผมเข้าไปกอด
ดิ้นไปก็เท่านั้น
“ฟอด ฟอด”
ผมถูแก้มแรงๆ
“ผมอยากกลับบ้านแล้วอะ”
วันนี้คงไม่ใช่วันดีของผม
น่วมไปหมดแล้วเนี่ย ปากก็เจ็บ แก้มก็เริ่มปวดๆ
“ครับๆ แต่ก่อนกลับ เฮียขอของฝากนะครับ”
“ผมไม่ได้ไปไหนนี่จะได้มีของมาฝาก”
เข้าใจอะไรผิดรึป่าว
“มีสิ ของฝาก ฝากไว้ให้เฮียคิดถึงเราไง”
“หา...มีด้วยเหรอ”
ธรรมเนียมเมืองนอกมั๊ง
“พรุ่งนี้เฮียจะกลับกทม.แล้ว คงไม่ได้เจอกันอีกนานเลย”
ผมใจหาย จะเปิดเทอมแล้ว
“วันหยุดก็มาได้อะ”
“เฮียคงไม่ได้กลับมาบ่อยๆ เฮียต้องเรียนกวดวิชา”
“ตั้งกะม.4เลยเหรอ”
เฮียกลับมาต้องเรียนซ้ำม.4
“อืม..จะได้สอบเอ็นติดไง”
“โห..คิดไกล”
“3ปี เฮียให้เวลาหน่อย3ปี”
ผมก้มหน้ามองมือตัวเอง เข้าใจหล่ะ
“ตกลงนะ”
“ครับ”
“งั้นขอของฝากเลยนะ”
“ไม่ช่าย ตกลงเรื่องคำตอบตะหาก”
ผมระแวงว่าของฝากต้องวนเวียนแถวๆตัวผมแน่นอน
“ไม่รู้หล่ะ”
ผมมองเฮียแกลุกขึ้นไปดึงผ้าม่านปิด
มีม่านด้วยเหรอไม่เคยสังเกตุ
แล้วจะปิดทำไมอะ
เฮียกลับมานั่ง
เฮียอุ้มผมขึ้นมานั่งตัก แล้วปิดปากผมด้วยปากเฮีย
ผมดิ้นๆ ไม่อยากจูบ เจ็บปาก
แต่แล้วก็แปลกใจ เฮียประกบริมฝีปากลงมาเบาๆ
ไล้ลิ้นแผ่วเบาไปตามริมฝีปากผม
ไล้ไปมาราวกับจะอ้อนวอนขอเข้าไปข้างใน
ผมใจอ่อนเผยอปากรับ
หวาน ซาบซ่าน
ผมอยากจะเรียกว่านี่คือจูบแรกของผม
มันอ่อนหวาน นุ่มนวล
ไม่เอาแต่ใจเหมือนครั้งก่อน
รู้สึกตัวอีกที ผมนอนอยู่บนโซฟา ไม่ได้ใส่เสื้อ
เสื้อผมหาย ช่างมันเก่าแล้ว
เฮียหล่ะหายไปไหน
ผงกหัวขึ้นมามอง
ขนลุกเลยครับ เฮียกำลังชิมลูกเกดของผม
“อะ..เฮีย..เฮีย”
คราวนี้ลูกเกดผมไปอยู่ในปากเฮียเสียแล้ว
สลับไปมา2ข้าง
“มือ..มืออะ..อือ...อ๋อย”
เฮียล้วงเข้าไปในขากางเกงผ้ายืดของผม
ตายละ ผมไม่ใส่กางเกงใน
ล้วงแล้วเจอเลย
“ฮือ..ฮือ...ไม่..ไม่เอาแล้ว”
ผมร้องไห้โฮออกมา
เฮียหยุดนิ่ง มือยังจับ(ของ)ผมเป็นตัวประกัน
ปากก็ยังงับลูกเกดของผม
“ฮือ ฮือ ผมกลัว”
เฮียกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วดึงผมเข้ามากอด
ลูบหลังผมแรงๆ2-3ที แล้วกอดแน่น
“เท่านี้แหละ เฮียขอแค่นี้”
หน้าผมซบอยู่กับอก
เฮียผลักผมออกมานิดเดียว เพื่อเช็ดน้ำตา
“ของฝากครั้งนี้ จะทำให้เฮียมี่คิดถึงน้องหน่อยตลอดไปครับ
เป็นกำลังใจให้เฮีย..อีก3ปี..เฮียจะมาทวงคำตอบนะครับ”
ผมพยักหน้าเบาๆ
เฮียกอดผมแน่นๆอีกครั้งแล้วปล่อย
แล้วเฮียก็ลุกขึ้นเดินจูงผม จะออกมาจากห้อง
“กลับบ้านดีๆนะครับ แล้วเฮียจะเขียนจดหมายมานะครับ”
ผมพยักหน้า
แล้วเขย่งขา ดึงชายเสื้อเฮียลงมา
“หืม อะไรครับ”
ผมจุ๊บเฮียที่ปลายคาง
“ของฝากครับ”
แล้ววิ่งสุดฝีเท้ากลับบ้านโดยไม่หันไปมองข้างหลัง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คิดถึงตอนนั้น ผมมันซื่อ(บื้อ)มากเลยครับ