
สวัสดียามเย็นครับ ถึงบ้านกันรึยังเอ่ย?
เนื้อหาในตอนนี้ หากล่วงเกินอาชีพทันตแพทย์ไปบ้าง ผมก็ขอโทษนะครับ
ไม่มีเจตนาเหมารวมคนในอาชีพเดียวกันครับ เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล

********************************************************
เสียวฟัน....2
ผมนอนไม่หลับทั้งคืน เสียวฟันจี๊ดๆหนึบๆ
ทั้งๆที่กินยาแก้ปวดเข้าไปแล้วตั้งสองเม็ดโตๆ
“ทำไมสีชมพูเนี่ย ยานอนหลับป่าวเฮีย”
ยาแก้ปวดที่เฮียส่งมาให้หน้าตาไม่น่าไว้ใจ
เม็ดโตกว่ายาพารานิดนึง แถมสีชมพูแปร๋นสะดุดตา
ไม่ใช่พาราแน่นอน ไอ้หน่อยฟันธง
“ตัวนี้แก้ปวดได้ผลดีกว่าพาราครับ”
เฮียมี่พูดยิ้มๆ แล้วส่งแก้วน้ำตามมาให้ถึงมือ
ผมเป็นคนกินยาง่ายครับ แค่นี้ไม่หวั่น
“ฮือๆ เสียวฟันอะ อูยยยย เฮียผมเสียวฟันปวดฟัน”
ร้องมีแต่เสียง ไม่มีน้ำตาหรอกครับ
“รออีกเดี๋ยว รอให้ยาออกฤทธิ์ก่อนครับ มาๆลูบหลังให้”
เฮียมี่ลูบหลังผมที่ซุกหน้าลงกับหมอนอย่างทรมาน
ผมเกลียดมัน...เอ๊ยไม่ใช่...ผมเกลียด..วุ้นนนน
คนกล่อมหลับสนิทไปแล้ว แต่ผมยังไม่หลับ
แค่พอเคลิ้มๆ แล้วอาการหนึบๆมันก็ทำให้ผมตื่น
ผลของความตะกละกินไปเล่นคอมไป
ทำให้ไม่มีสมาธิในการกิน วุ้นมันถึงได้ติดฟันเอา...ชิมิ

****************************************
“หมอพิมไปประชุมนะคะหมอมี่ ตอนนี้ที่ว่างอยู่ก็หมอบอมค่ะ”
พี่ต้อยพี่ผู้ช่วยทันตแพทย์ แกตอบมาทางโทรศัพท์ภายใน
มาถึงโรงพยาบาลเฮียก็รีบโทรไปห้องฟันทันที
จะรีบไรมากมายก็ไม่รู้ (คนเขาต้องทำงานนะแก)
พี่หมอพิมเป็นรุ่นพี่เฮียอีกครับ อายุใกล้ห้าสิบแล้วมั๊ง
แกเป็นหัวหน้าแผนกทันตกรรม
และเป็นพี่หมอใจดีที่คอยทำฟันให้ผมทุกครั้ง
“โอเคตามนั้นครับพี่ต้อย งั้นผมส่งน้องไปเลยนะครับ”
“วันนี้เราคงต้องเปลี่ยนหมอนะครับ
หมอบอมแกก็เก่ง เพิ่งจบเฉพาะทางรักษารากฟันมา”
ว่าแล้วเฮียก็ทั้งลากทั้งจูงผม ออกมาจากห้องพักแพทย์
“ไม่อาววว ผมรอพี่หมอพิมวันหลังก็ได้อะ
เนี่ยไม่ค่อยปวดแล้วด้วย สบายมาก แหะ แหะ”
ที่ไม่ปวดก็กินยาแก้ปวดมาอีกสองเม็ดครับ
จุ๊ๆ เมื่อคืนตอนตีสองผมลุกมาพาหน่อยน้อยไปร้องไห้
ผมแอบกินยาไปอีกสองเม็ด คริ คริ กล้าเกิน
เช้านี้เฮียแกไม่รู้ แกให้กินอีกสองเม็ด
เริ่มแสบๆท้องแล้วสิครับ ยาพวกนี้มันกัดกระเพาะครับ
“ไม่รอแล้วครับ เดี๋ยวคืนนี้ไม่ต้องนอนกันอีก”
เฮียไม่ฟังผมเลย ลากผมมาจนถึงหน้าแผนกทำฟัน
“ชิส์ ตัวเองไม่ได้เป็นคนถูกทำฟันก็พูดได้ดิ”
ผมบ่นงึมงำด้วยความโมโห ทั้งกลัวทั้งพาล
เฮียส่งผมถึงมือพี่ต้อยแล้วหันหลังจากไป
“ทำเสร็จแล้วโทรบอกผมด้วยนะครับ”
คำสั่งเสียสุดท้าย ที่เฮียให้กับพี่ต้อยไว้
“พี่ต้อยครับ หมอบอมมือหนักป่าวครับ”
ผมกระซิบถามพี่ต้อย ท่ามกลางสายตาคนไข้ที่นั่งรอคิวกันอยู่
แอบใช้เส้นสายนิดหน่อยอะครับ แหะๆ
อ้อ...ผมใช้บัตรทองด้วยครับ...(ทำ)ฟันฟรี
“น้องหน่อยขี้กลัวเหมือนเดิมเลยนะคะ ฮะ ฮะ ฮ่า”
เป็นที่รู้กันในแผนก ด้วยผมเคยแผลงฤทธิ์มาแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นผมยังละอ่อนน้อยนะเอ้อ
เมื่อทนเจ็บไม่ไหว ผมโวยวายจนต้องเลิกทำฟันไปกลางคัน
มาได้พี่หมอพิมนี่แหละครับ ที่เอาผมอยู่
ขอโทษคุณหมอฟัน ท่านที่ผมสร้างวีรกรรมไว้กับแกด้วยนะครับ
ดังนั้นพอเฮียส่งผมถึงมือพี่ต้อยแล้ว แกก็ชิ่งหายไปทำงานเลยครับ
ไม่รอให้ผมเวิ่นเว้อ

“สวัสดีครับ”
ผมยกมือไหว้หมอที่เด็กกว่า อ่อนน้อมเข้าไว้ครับ
เผื่อแกจะได้เมตตา เบามือบ้างไรบ้าง
“น้องหน่อยเป็นน้องหมอมี่ค่ะ หมอบอม”
พี่ต้อยรีบแนะนำว่าผมเป็นเด็กเส้น
“สวัสดีครับพี่หน่อย ไม่ต้องกลัวนะครับ”
อ๊ากกก อีเด็กเมื่อวานซืนมันไม่รับไหว้ผม
แต่ทะลึ่งมาจับมือผม
“มือเย็นเฉียบเลยครับ กลัวมากเหรอ”
หมอบอมปล่อยมือผมออก แล้วดึงผ้าปิดปากลงมาที่คาง
“อุต๊ะ...พวกเดียวกันนี่นา”
ผมแอบคาดเดาในใจ แล้วแกน่าจะขั้วเดียวกับผมนะ
มาทำหยอดๆเยิ้มๆมัยเนี่ย
มือแกเบาพอสมควรครับ ฉีดยาชาด้วยครับ
ปากเบี้ยวเลย
ช่วงทำฟันแกก็พูดตลอดเวย์ ผมฟังมั่งไม่ฟังซะมาก
พวกหมอฟันนี่เขาไม่รู้เหรอว่า
คนไข้ในอุ้งมือ โต้ตอบไม่ได้ ถามโน่นนี่นั่นไม่หยุด
จนพี่ต้อยแกว่า
“หมอบอมท่าจะถูกใจน้องหน่อยสิคะเนี่ย ชวนคุยไม่หยุดเลย”
อ้อ...ผมขอพี่ต้อยช่วยเป็นผู้ช่วยตอนผมทำฟันครับ
ยังไงหมอพิมไม่อยู่ พี่ต้อยแกยังอยู่ให้ผมอุ่นใจได้บ้าง
“เสร็จแล้วครับ บอมอุดวัสดุที่หลุดให้
แล้วเคลือบฟลูออไรด์ให้พี่หน่อยด้วยนะครับ”
อืมมม ส่งกระจกมาให้ดูก็พอ
ไม่ต้องมาช่วยแตะแก้มแตะปากหรอกหมอ
“พี่หน่อยผิวดี๊ดี”
สายตาที่มองมา ผมไม่อยากคาดเดา ข้อมูลยังไม่แน่น
“หมอบอมก็ผิวสวยครับ เนียนด้วย”
แหะ แหะ เอื้ออาทรกันครับ
“แล้ว...พี่หน่อยกินกลูต้ารึฉีดหล่ะครับ”
“ห๊ะ...”
แววตาวูบหนึ่งที่ผมเห็นมันดูเยาะๆ แล้วกลับมาเป็นมิตรเหมือนเดิม
“บอมล้อเล่นหน่ะ อย่าคิดมากสิครับ
เดี๋ยวโบท็อกซ์ที่ฉีดมาเอาไม่อยู่นะครับ ฮะ ฮะ ฮ่า”
เฮ๊ยย อะไรของมันวะ มาหลอกด่าอยู่ได้
“เอิ่มมม หมอบอมดูจะรู้ละเอียดดีนะครับ
ท่าทางจะเชี่ยว ฮะ ฮะ ฮ่า ผมล้อเล่นหน่ะครับ”
สะใจวุ๊ย นางทำหน้าอยากจะกรี๊ด
อ้อ ตอนที่คุยกันนี่พี่ต้อยแกออกไปแล้วนะครับ
“ว่าแต่พี่เป็นน้องหมอมี่จริงเหรอ”
เลิกแอ๊บเลยวุ๊ย นังเหมียวบอมเบย์
“ครับ พี่กับเฮียหมอเป็นพี่น้องท้องติดกัน
อุ๊ย...ม่ายช่ายยยย อ่ะ ล้อเล่นครับ”
หน้านางเหวอเลยครับ คงไม่คิดว่าผมจะกล้าพูด

“ก๊อกๆ”
เสียงเคาะประตูแล้วเปิดทันที
“หวัดดีครับน้องบอม เป็นไงบ้างครับ”
เฮียมี่เหลือบมองหน้าผมนิดเดียว
แล้วหันไปทักทายเจ้าของห้อง
“ก็ดีครับพี่มี่ มีเหงาๆนิดหน่อย”
สีหน้าหมอบอมเบย์ไม่ปิดบังเลยว่า...อ้อน
“ฮะ ฮะ ฮ่า พี่หมายถึงอาการเสียวฟันของน้องพี่ตะหากครับ”
เฮียมี่หัวเราะเต็มเสียงอย่างอารมณ์ดี ชิส์
“แหม พี่มี่อ่ะ ล้อบอม”
เล่นกันเข้าไป ผมนั่งแก้มโย้อยู่เนี่ย เห็นมั่งป่าว
ผมนั่งหน้างออยู่บนเตียงทำฟัน
ในระหว่างที่หมอบอมสาธยายว่า ทำอะไรในปากผมไปบ้าง

“นั่งเงียบเลย ยังปวดอยู่มั๊ยครับ”
เฮียมี่มาส่งผมที่บ้านทรายทอง
วันนี้ผมเบี้ยวไม่ไปร้านกาแฟแล้วครับ
ยาชามันทำให้มึนๆงงๆ
แต่เฮียแกต้องกลับไปทำงานตอนบ่ายอีกรอบครับ
บ้านกะโรงพยาบาลก็ห่างกันยี่สิบกว่าโลเอง
มื้อกลางวันเฮียก็เลยถือโอกาสกินข้าวที่บ้าน พร้อมหน้ากัน
ทุกคนมีอาหารอร่อยตรงหน้า
ส่วนผมมีข้าวต้มเครื่องแหยะๆเละๆอยู่ตรงหน้า
“เหมือนอ๊วกเลย”
ผมบ่นเบาๆ แต่แม่เฮียแกได้ยิน
“อาหน่อยอย่าว่าของกินแบบนั้น มันบาปรู้มั๊ย”
โดนทันทีเลยผม
“ขอโทษครับแม่ ผมปวดฟันเลยหงุดหงิดอะครับ”
ผมยกมือไหว้แม่สะมี อย่างสำนึกเงาหัวลีบๆของตัวเอง
“ถึงว่าหน้าบวมแก้มโย้เลย ฮะ ฮะ ฮ่า”
เจ๊อ๋องครับ พี่สะมีลูกคู่ของแม่
“ก็ผมไปทำฟันมานี่ครับเจ๊อ๋อง เจ็บโคตร”
ผมหันไปยิงฟันให้เจ๊อ๋องที่นั่งข้างๆดู เป็นการยืนยัน
“พูดไม่เพราะอีกแล้ว มี่แกนี่ไม่รู้จักสั่งสอนเมียแก
นับวันปากจัดจนไม่น่ารักแล้วนะ แล้ววันๆเอาแต่เล่นเกมส์
ไม่รู้จักเอาเวลามาหัดทำงานบ้านบ้าง บลาๆๆๆๆ”
ยิ่งสูงวัยมากขึ้นแม่เฮียยิ่งขี้บ่น
อ๊ะๆ แต่ผมก็รักของผมนะครับ
แกขี้บ่นตามประสาคนค้าขาย ที่ต้องคุมลูกน้องมากมาย
“กินไม่ลงก็ไปกินนมไป๊ เอากล่องในครัวหล่ะ
ในตู้เย็นมันจะยิ่งปวดฟัน”
โห...ไม่บอกตั้งกะเมื่อคืนนะแม่
“คร้าบบบ ขอบคุณครับ”
ไอ้หน่อยกราบแทบตักด้วยความซาบซึ้ง
ที่แม่เฮีย ทั้งฟ้องทั้งบ่นและทั้งรักแถมเป็นห่วง...งงป่ะครับ

“เฮีย...เฮีย...แย่แล้วๆๆ”
ผมโวยวายทันทีที่แปรงฟันเสร็จ
เฮียที่กำลังจะออกไปจากห้องนอน รีบเดินกลับมาที่ห้องน้ำ
“มีอะไร เป็นอะไร”
เฮียเชยคางผมขึ้นมา แล้วง้างปากผม ย้ำ ง้างปาก
“ที่อุดมันหลุดอ่ะ อ๊ากกกก ผมไม่อยากไปหาหมอบอม”
มันวันศุกร์บ่ายนะครับ
ไม่กลับไปทำฟันกับหมอบอมแล้วจะทำไงหล่ะ
“ไปโรงพยาบาลกันครับ”
เฮียไม่สนใจเสียงโวยวายของผม ลากลงมาจากชั้นสอง
“ยิ่งกลัวยิ่งเจอ ฮะ ฮะ ฮ่า”
เจ๊อ๋องที่เดินมาเจอหัวเราะเยาะผม
วันศุกร์13ป่าวเนี่ย
มีแต่คนหัวเราะเยาะผมทั้งวัน
เฮียมี่ เจ๊อ๋อง พี่ต้อย หมอเหมียวบอมเบย์
มันต้องแกล้งผมแน่ๆเลยครับ เจ็บซ้ำเจ็บซ้อน
ไปถึงก็ตรงไปแผนกฆาตกรรม เอ๊ย...ทันตกรรมครับ
“อ้าววว พี่มี่มีอะไรครับ”
เดินเข้ามาในห้องหมอบอมสองคน
แต่นางทำเหมือนไม่เห็นผม
เฮียมี่หันมามองหน้าผม
“ที่อุดมันหลุดอะครับ”
เสียงผมน่าสมเพชชะมัด ก็ผมกลัวนี่(หว่า)
ขึ้นเตียงไปนอนทำตาปริบๆ
“ทำไมหลุดหล่ะครับ”
อ้าว..ถามงี้ต่อยกับไอ้นิวมั๊ย ชิส์
ว่าแล้วหมอบอมแกก็อุดฟันให้ผมใหม่
ตอนทำเฮียมี่แกยืนดูอยู่ด้วยครับ
ไม่รู้ว่าจะอยู่เป็นกำลังใจผม หรือจะอยู่คุยกับหมอเหมียว
“ทีนี้อย่าเพิ่งเคี้ยวข้างที่อุดอีกนะครับพี่หน่อย”
น้ำเสียงตำหนิชัดเจน
“ผมไม่ได้เคี้ยวนะ ยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วย อุดไม่ดีเองป่าวเนี่ย”
ทำเสร็จแล้วไอ้หน่อยไม่กลัวหรอก สู้คนนะเอ้อ
“หน่อยอย่าพูดแบบนี้สิ”
เฮียมี่หันมาเอ็ดผมเบาๆ
หมอเหมียวมันคงได้ยิน ทำหน้าเยาะ
“หน่อยยังไม่ได้กินอะไรเลยครับน้องบอม”
เฮียมี่พูดเสียงสุภาพ แต่น้ำเสียงเย็นชาเล็กๆ
คนไม่ใกล้ตัวอย่างผม ไม่มีทางรู้หรอกครับว่าเฮียแกไม่พอใจ
“อ้อ...คือบอมเคลือบฟลูออไรด์ให้พี่หน่อยหน่ะครับ
ไอ้ที่หลุดเป็นที่เคลือบไว้ ไม่ใช่วัสดุอุดฟัน
แต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้วครับ รับรองไม่หลุดอีกแน่นอนครับ”
นางเหมียวยิ้มหวานก้อร่อก้อติกเฮียมี่อย่าโจ่งแจ้ง
ผมยอมเสียมารยาทเดินออกมาจากห้อง
เฮียมี่รีบเดินตามผมออกมา
แล้วหมอเหมียวแกก็เดินตามเฮียมาอีกที..งงป่ะครับ
สรุปเดินออกมาจากห้อง(เชือด)ทำฟันกันทั้งสามคน
“พี่มี่ครับ”
หมอเหมียวดึงแขนเฮียมี่ของผมไว้
พอเฮียแกหันมามองด้วยสายตานิ่งๆ
หมอเหมียวแกรีบปล่อยมือทันที
“มีอะไรครับน้องบอม”
เฮียมี่ยิ้มมารยาทแล้วถามนางเหมียว
ผมยืนมองเฮียมี่ว่าแกจะทำอย่างไร นี่ต่อหน้าผมนะครับ
“คือบอมจะบอกว่า ให้พี่หน่อยมาขูดหินปูนหน่ะครับ
เอาไว้ว่างๆบอมจะโทรไปนัดกับพี่มี่นะครับ”
ช่างกล้าเหลือทน ผมมองหน้านางที่ทำเป็นหวังดี จริงใจไม่ไก่กา
หากตอนอยู่กับผมสองคน นางก็ออกอาการเยอะเหมือนกัน
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ น้องหน่อยเขาขาประจำหมอพิม
คุ้นเคยกันอยู่ ยังใจก็ขอบใจน้องบอมนะครับ”
เฮียมี่เดินนำหน้าผมออกไปจากแผนก
แต่ก่อนจากไอ้หน่อยขอสักหน่อยเถอะ
“หมอบอมครับ สงสัยพี่หมอพิมกลับมา
ผมคงต้องให้แกช่วยดูหินปูนให้สักหน่อยแล้วหล่ะ
ทำฟันกับแกมาเป็นสิบปี แกไม่เคยบอกว่าฟันผมมีหินปูนเลยสักครั้ง
ถ้ามีจริงคงต้องให้เฮียมี่ต่อว่าแกสักหน่อยแล้ว หึหึ”
หมอเหมียวคอแข็งตั้งตรง ชายตามามองผมเหยียดๆ
“เชิญ”
แกผายมือให้ผมเป็นการไล่
“ไม่ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ หมอบอม”
ผมยิ้มหวานอย่างประดิษฐ์ แล้วเดินเริ่ดๆเชิดๆออกไป
ผมขอบอกอย่างภาคภูมิใจครับ
ฟันทุกซี่ในปากของผม ไม่เคยมีหินปูน
พี่หมอพิมยังชมว่าผมรักษาความสะอาดและแปรงฟันได้หมดจดทุกซอกทุกมุม
แม้แต่ฟันกรามซี่ในสุดยังแปรงได้เรี่ยมเร้เรไร
เพราะฉะนั้นการที่หมอบอม จะนัดผมมาขูดหินปูน
ก็เป็นเรื่องหาเหตุคุยกับเฮียมี่เสียมากกว่าครับ
มันคนละชั้นกันครับ
ชั่วโมงบินของนางยังห่างจากผมเยอะ
ว่าแต่...
“เฮียมี่”
“ครับ”
“ทำไมผมไม่เคยเห็นหมอบอมอ่ะ”
“แกเพิ่งย้ายมาใช้ทุนครับ”
“แล้วสนิทกันป่ะ”
“ไม่รู้ ไม่ได้สนใจ และไม่มีวันสนใจครับ”
เฮ้อ...
ไอ้หน่อย
สุขใจจริ๊งงงง

สนุกป่ะครับ ผมก็สนุกตอนเล่า
แต่ตอนเสียวฟัน...กลัวแทบตาย คริคริ

เอาภาพหมอบอมมาฝากครับผม
แมวเหมียวบอมเบย์
[attachment deleted by admin]