Lovely Kitty 1
...........................................................................................
“คุณนิวค้า ลงมาเถอะ ป้าดาอกจะแตกตายแล้ว ว้าย!! กรี๊ด!! อย่าขึ้นไปสูง มันอันตรายนะค้า”
เสียงหรีดหริ่งฤดูร้อนดัง แทรกบรรยากาศในสวนใหญ่ ถูกรบกวนด้วยเสียงวีดว้ายของหญิงวัยกลางคนจนนกกางเขนที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้พา กันบินหนีว่อนด้วยความตกใจ ป้าดาแหงนหน้าคอตั้งบ่าลุ้นระทึกกับภาพของเด็กชายตัวน้อยที่ปีนป่ายอยู่บน กิ่งสูงอย่างน่าหวาดเสียว เมื่อเอื้อมแขนสั้นๆโหนไปกิ่งข้างเคียงที เจ้าหล่อนก็หวีดร้องที
“น่ารำคาญน่า ป้า อย่าทำนิวเสียสมาธินะ!!” เสียงแหลมใสยังไม่แตกหนุ่มของเด็กชายตะโกนสวนลงมาอย่างรำคาญ
“คุณนิวก็ลงมาซักทีสิค้า เกิดเป็นอะไรไป ป้าจะไปแก้ตัวกับคุณผู้หญิงได้ยังไง”
“ก็บอกไปซี่ ว่าเด็กมันซน” เด็กชายยังคงปีนป่ายขึ้นสูงต่อไป จนถึงกิ่งใหญ่ที่เป็นจุดหมายก็พลันหยุดลง
“ชู่ว์...ไม่ต้องกลัวนะ เมี๊ยว~” ลูกแมวสีช็อคโกแล็ตขนหางฟูฟ่อง ขู่ฟ่อทั้งๆที่เล็บเท้าทั้งสี่จิกกิ่งไม้ตัวสั่น
“มานี่มะ ลงไม่ได้ใช่มั้ย ทีหลังก็อย่าขึ้นมาเองซี่” นิวยังคงพูดปลอบต่อไปโดยไม่สนใจท่าทางไม่ไว้ใจคนของเจ้าเหมียวน้อย ค่อยๆเอื้อมมือไปยังปลายกิ่งไม้ที่อยู่ห่างไปถึงช่วงตัวโดยไม่สนใจเสียงหวีด ร้องของพี่เลี้ยงด้านล่าง
เจ้าเหมียวก็ยังคงไม่ไว้ใจคน อยู่ดี มันกางเล็บยื่นขาหน้าข่วนมือเล็กที่เอื้อมมาพยายามทำความคุ้นเคย จนเจ้าของมือต้องรีบหดกลับสะบัดแก้อาการแสบจี๊ด นิวยังคงไม่ยอมแพ้ พยายามยื่นมือออกไปและก็โดนข่วนกลับมาอีกหลายครา จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจ เจ้าเหมียวน้อยจึงค่อยยอมสงบลงบ้าง มันค่อยๆเอื้อมขาอันสั่นเทา เดินไต่กิ่งไม้ไปยังเด็กชายทีละก้าวๆ จนเมื่อถึงจุดหมาย ก็กางเล็บจิกกางเกงขาสั้นเนื้อดีไว้อย่างไม่คิดจะปล่อยไปอีกจนกว่าจะถึงพื้น ดิน
“เด็กดี” เด็กชายถอนหายใจยิ้มอย่างโล่งอก กอดเจ้าเหมียวไว้แน่น
มือเล็กจับกิ่งไม้อย่างระวัง ค่อยๆกลับตัวเพื่อจะไต่ลงจากต้นไม้สูง โดยไม่ทันตั้งตัว กิ่งใหญ่ก็พลันหักเป๊าะ ส่งผลให้ร่างแบบบางหล่นตุ้บลงพื้นหญ้าอย่างแรง เจ้าลูกแมวที่ไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บเพราะอยู่ในอ้อมกอดแน่นหนา แต่คงจะตกใจเป็นกำลังก็พลันกางเล็บข่วนผิวขาวใสจนเลือดซิบเป็นทางยาว ก่อนจะกระโดดผลุงวิ่งหนีมุดพุ่มไม้ออกไปอีกทางหนึ่ง
จนเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสงบ ลง ป้าดา พี่เลี้ยงตุ้มตุ้ยจึงค่อยจำวิธีออกเสียงได้ เจ้าหล่อนกรี๊ดอย่างไร้จุดหมายพร้อมกับวิ่งเข้าไปจับมือจับแขนเด็กน้อยอย่าง เป็นห่วง
“คุณนิว ตายแล้ว แผลเต็มไปหมดเลย!! โถพ่อคุณ ป้าจะพาไปหาหมอนะคะ”
แค่คำว่าหมอก็ทำให้เด็กน้อยขนลุกตั้งสวมวิญญาณลูกแมวขู่ฟ่อได้ไม่ยาก “ไม่เอา! ไม่ไป!”
“ไม่ได้ค่ะ โดนทั้งแมวทั้งกิ่งไม้ข่วนไปตั้งหลายแผล แถมยังตกลงมากระแทกซะดังขนาดนี้ ยังไงก็ต้องไปหาหมอค่ะ” พี่เลี้ยงยื่นคำขาด
“นิวทำแผลเองได้ นิวทำเป็น!” นิวก็ไม่ยอมแพ้
“คุณนิว! อย่าดื้อสิคะ!!” เจ้าหล่อนดุเสียงดังจนเด็กชายหัวหด ให้แก่นแก้วอย่างไร เด็กๆก็ย่อมต้องเกรงพี่เลี้ยงที่ดูแลตัวเองมาตั้งแต่แบเบาะวันยันค่ำ
“แต่ว่า...นิว...” เขายังจำได้ดี ต้นปีที่ไปหาหมอ ถูกฉีดยาไปตั้งหลายเข็ม แค่เห็นไอ้เข็มยาวๆนั่นก็กลัวจะตายอยู่แล้ว ยิ่งความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆนั่นอีก หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ไป
“ถ้าไม่ไป ป้าดาจะงดขนมหวานสามวันนะคะ!!”
เอาล่ะสิ ไม้ตายมาแล้ว!
ในใจของเด็กชายตอนนี้มีตราชั่งอันใหญ่ ชั่งระหว่างเข็มฉีดยากับขนมหวานสามวัน...แต่น้ำหนักมันก็ยังเอนเอียงไปทางขนมหวานอยู่ดี
“จะไม่ให้นอนกลางวันด้วย! แล้วจะบอกคุณครูให้เพิ่มการบ้านให้อีกเยอะๆเลย”
เด็กชายเบะปากเบ้...เล่น อย่างนี้เขาจะขัดได้ยังไง ในที่สุดก็ต้องยินยอม พยักหน้าหงึกๆทั้งๆที่น้ำตาคลอหน่วย จับมือพี่เลี้ยงเตรียมจะลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องสูดปากหย่อนก้นลงไปนั่งแหมะกับพื้นหญ้าเหมือนเดิม
“นิวเจ็บขา” เมื่อก้มลงไปมองก็ต้องน้ำตาเล็ดอีกรอบ เพราะข้อเท้าตอนนี้มันบวมตุ่ยแดงก่ำน่ากลัว
ป้าดาหันรีหันขวางมองหาตัว ช่วย ถึงเจ้าหล่อนจะตัวใหญ่ตุ้บตั้บ แต่ก็ไม่มีแรงพอจะอุ้มเด็กผู้ชายอายุสิบขวบอยู่ดี…แล้วเธอจะทำอย่างไรดีล่ะ? นี่มันสวนสาธารณะ ตอนกลางวันก็ไม่มีคนผ่านไปมาซะด้วย
++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ปีใหม่~ เมี้ยว~” ณรงค์ถอนหายใจ หลังจากที่ตะโกนเรียกเจ้าเหมียวน้อยมาครึ่งชั่วโมง ถามคนแถวนี้ก็บอกว่าเห็นแว๊บๆในสวนสาธารณะนี่นา มันเป็นแมวที่เพื่อนเขาฝากเอาไว้เสียด้วยสิ
อากาศตอนสายเกือบเที่ยงก็ ร้อนใช่ย่อย ถึงสวนนี้จะมีต้นไม้สูงมากมายก็เถอะ แต่อาชีพที่ทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์อย่างเขาก็ไม่ชินอยู่ดี ชายหนุ่มตัดสินใจกดน้ำที่เครื่องขายน้ำอัตโนมัติ เปิดกระป๋องเย็นเฉียบขึ้นดื่มพลางนั่งพักเหนื่อย
ร่างสูงปล่อยตัวพิงพนักเก้าอี้หินข้างทาง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าไร้เมฆ
นานๆทีออกมานั่งเล่นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน
“เมี้ยว~” ความคิดสะดุดลงด้วยเสียงแหลมเล็กคุ้นเคยที่ดังมาจากด้านหลัง ณรงค์หันกลับไปมองก็เจอกับเจ้าแมวสีช็อคโกแล็ต ส่งสายตาสีเทาใสมาทางเขา
“เฮ้อ...กว่าจะโผล่มาได้นะ” ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก ขืนหายไป เพื่อนเขาคงมาบีบคอตาย...ก็แมวหิมาลายัน ตัวตั้งหลายพันนี่นา
ณรงค์ลุกขึ้นยืน กำลังเอื้อมมือจะอุ้มเจ้าเหมียวขึ้น ก็ต้องจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด เพราะเจ้าแมวตัวเล็กดันกระโดดหลบมือของเขาไปไกล
“เฮ้ย กลับมาดิ เสียเวลาทำงาน ต้องรีบกลับไปเปิดร้านนะเฟ้ย”
เสียงบ่นดังไปไม่ถึงความเข้า ใจของลูกแมวอายุสองเดือน มันยังคงเดินสะบัดหางไปอีกทาง เมื่อชายหนุ่มวิ่งก้มตัวลงจะจับอุ้ม มันก็วิ่งแผล็วผ่านพุ่มไม้หายแว๊บไป
ชายหนุ่มส่ายหน้าระอากับความ ซนของสัตว์ตัวเล็ก เดินไปทางพุ่มไม้ที่ลูกแมวน้อยมุดเข้าไป เขาลงทุนคุกเข่ามองลอดพุ่มไม้ที่ตัดแต่งเป็นทรงสี่เหลี่ยมสวยงามเป็นกำแพง สอดส่ายสายตาหาเจ้าขนฟู พลันสายตาก็ไปสะดุดกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่สีโกโก้แทน
เรียวขาเพรียวบางสีขาวงาช้าง โผล่พ้นกางเกงขาสั้นเนื้อดี กำลังนั่งราบอยู่ที่พื้นหญ้า ในมุมมองของเขาสามารถมองลอดกางเกงขาสั้นเข้าไปได้ลึกกว่าเดิมเสียอีก เรียวขานั้นกำลังขยับยุกยิก เมื่อเข่าชันขึ้น เนื้อหนังใต้ร่มผ้าก็โผล่วับๆแวมๆให้ชายหนุ่มหยุดหายใจไปอีกสามวินาที
เมื่อพยายามก้มตัวลงต่ำกว่าเดิมเพื่อมองในมุมที่สูงขึ้นไปอีก หัวใจก็เต้นตุ้บจนได้ยินเสียงชัดเจน
รูปร่างบอบบางในชุดเสื้อยืด พอดีตัวสีฟ้าสดใสตัดกับสีเขียวของสนามหญ้า ต้นแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อมานั้น มีรอยข่วนแดงระเรื่ออยู่ประปราย หลังคอระหงที่โผล่พ้นคอเสื้อมาระด้วยผมสีดำสนิทดูนุ่มนิ่มน่าจับ ใบหน้าเล็กน่ารัก แก้มใสแดงเรื่อแบบเด็กสุขภาพดี ริมฝีปากที่เม้มสนิทนั้นแดงฉ่ำ จมูกเล็กโด่งรั้น แล้วณรงค์ก็ต้องยกมือขึ้นกดให้หัวใจตัวเองเต้นเบาลงเมื่อได้มองเข้าไปในดวง ตาสีดำรื้นน้ำ แพขนตายาวงอนกระพริบถี่ๆราวกับเจ้าของต้องการจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล ออกมา
...เทวดาน้อย...
เป็นคำนิยามที่ไร้ข้อขัดแย้ง
ตุ้บ!
ณรงค์สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึก ถึงน้ำหนักของสี่ขาที่กระโดดตุ้งยันลงบนแผ่นหลังของเขา...เจ้าปีใหม่นี่เอง เขาละสายตาออกจากภาพที่เห็นตรงหน้า พลันก็หน้าร้อนผ่าวเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองทำตัวราวกับพวกโรคจิตถ้ำมอง... ต้องขอบคุณเจ้าเหมียวที่เรียกเขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง แต่ยังไม่ทันจะได้จับตัวเจ้าตัวยุ่ง มันก็กระโดดแผล็วไปทางเทวดาน้อยของเขาเสียก่อน
มันเดินส่ายอาดไปยังเด็กน้อย ไถสีข้างเข้ากับต้นขาขาวนวลพลางเงยหน้าขึ้นมองร้องเมี้ยวทักทาย
เทวดาน้อยของเขาก้มลงมอง แล้วณรงค์ก็เหมือนหัวใจถูกกระชากอย่างแรง เมื่อปากแดงที่เม้มแน่นเมื่อกี้กลับสยายยิ้มสดใสแทน สองมือบอบบางอุ้มแมวตัวเล็กขึ้นแนบอก ก้มหน้าลงซุกกับกลุ่มขนนุ่มนิ่ม เสียงใสน่ารักดังให้ได้ยิน “ไม่เป็นไรใช่มั้ย เจ้าเหมียว นึกว่าวิ่งหนีไปแล้วนะเนี่ย” มันร้องมี้ๆพลางไถหัวกลมเข้ากับแก้มใสของเด็กชาย
“ฮะๆๆ” ณรงค์หลับตาซึมซับเสียงหัวเราะราวระฆังแก้วอย่างชื่นใจ
++++++++++++++++++++++++++++++++
“คุณนิว ป้าว่าอย่าไปยุ่งกับมันเลย เดี๋ยวมันจะข่วนคุณนิวอีกนะคะ แล้วก็ไปหาหมอกันก่อนดีกว่านะ”
“ฮื้อ ก็นิวลุกไม่ไหวอะ รอให้หายปวดแล้วกลับบ้านเลยก็ได้” เด็กชายเริ่มโยเยหาเรื่องอ้างไม่ไปหาหมอ
“แต่ว่า...”
แช่ก!!
เสียงแหวกพุ่มไม้เรียกให้สองคนหนึ่งแมวหันขวับไปทางต้นเสียงทันที
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะก้าวผ่านพุ่มไม้มา
ครั้งแรกดวงตาสีนิลใสมอง ค้างอย่างเคลิ้มฝัน...ร่างสูงชะลูด บ่าหนาใหญ่ ใบหน้าคมเข้มสมชายชาตรี เสียงนุ่มน่าฟัง...เป็นผู้ชายแบบที่เด็กชายคิดฝันอยากจะเป็นเมื่อเติบใหญ่ที เดียว แต่เมื่อมองดีๆเด็กน้อยก็เริ่มเบะปาก น้ำตาคลออีกครั้งหนึ่ง ยิ่งเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ หยดน้ำใสก็กลิ้งหล่นระแก้มอย่างห้ามไม่อยู่
...ก็อุตส่าห์จะไม่ไปหาหมอ หมอก็ดันมาหาถึงที่นี่นี่นา!!...
นิวคว้าแขนป้าดากอด หลบหน้าหลังร่างกายอ้วนตั้บของหญิงสาวพลางกลั้นสะอื้น “ไม่เอา ไม่หาหมอ”
ณรงค์แปลกใจอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมถึงรู้ว่าเขาเป็นหมอ จวบจนก้มสำรวจตัวเองจึงค่อยนึกได้ว่า ลืมถอดเสื้อกาวน์ก่อนออกมาจากคลีนิก เมื่อเห็นว่าตนเองราวกับปีศาจร้ายในสายตาเทวดาน้อย เขาจึงตัดสินใจถอดเสื้อกาวน์ขาวสะอาดออกพาดบ่าแทน
เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ลูก แมวน้อยที่ตัวสั่นอยู่หลังสตรีร่างใหญ่ เมื่อกระซิบถามเหตุการณ์จากพี่เลี้ยงได้จึงค่อยๆแตะฝ่ามือลงกับแผ่นหลัง บางอย่างเบามือ พลางกระซิบเสียงเบา
“ขอพี่ดูหน่อยนะครับ”
ดวงหน้าเปียกน้ำตาหันมามอง เขาอย่างหวาดกลัว เมื่อชายหนุ่มยื่นมือเข้าใกล้ ร่างเล็กก็สะดุ้งถอยหนี ณรงค์จึงล้มเลิกความตั้งใจจะจับขาที่บวมช้ำ หันไปให้ความสนใจเจ้าลูกแมวสีช็อคโกแล็ตที่นอนตบยอดหญ้าใกล้ๆแทน เขาจับมันอุ้มขึ้น จับขาหน้าวางแปะไปบนแก้มใส เมื่อดวงตากลมโตหันกลับมาสบกับลูกแก้วเทาใส ชายหนุ่มก็ดัดเสียงเล็กเสียงน้อยพลางจับให้ขาหน้าเจ้าเหมียวขยับไปมา
“ผมชื่อปีใหม่ พี่ชื่ออะไรคับ”
เด็กน้อยช้อนดวงตาหวาดระแวง ขึ้นมองหน้าหมอหนุ่ม ปิดปากเงียบราวกับกลัวว่าจะถูกปีศาจสูบวิญญาณถ้าเผลอพูดออกมา แต่ร่างสูงก็ยังไม่ยอมแพ้ เชิดเจ้าลูกแมวให้จับไปที่มือเล็กบอบบาง “ปีใหม่อยากรู้จักพี่คับ พี่ช่วยปีใหม่ไว้นี่นา พี่ชื่ออะไรคับ?” ยังพูดไม่จบดีเจ้าลูกแมวก็ดันหาวหวอดปากกว้างออกมาอย่างไม่ให้ความร่วมมือ แต่มันก็ทำให้เด็กน้อยหัวเราะพรวดออกมาได้ นิวเอื้อมมือจับขาหน้าเจ้าแมวขนฟูพลางเขย่าเหมือนเช็คแฮนด์
“ปีใหม่ตัวเล็กน่ารัก พี่ชื่อนิวครับ”
ณรงค์ก้มมองเด็กน้อยอย่างเอ็นดู ช่างบริสุทธิ์สดใสราวผ้าขาวซะจริง
“พี่นิวเจ็บขาเพราะช่วยผม ให้เจ้านายผมพาพี่นิวไปรักษานะคับ”
สิ้นคำว่ารักษา เด็กชายก็สะดุ้งเฮือกกอดแขนพี่เลี้ยงแน่นอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมแพ้ ทำเสียงเศร้าพลางขยับแมวน้อยทำท่าทาง “นะคับ น้า~ ถ้าพี่นิวเป็นอะไรไป ปีใหม่จะเสียใจมากเลยนะคับ น้า” แมวน้อยปีใหม่ร้องเมี้ยวตบท้ายราวจะยืนยันว่า เจ้านายมันพูดจริงๆ ไม่ได้โกหกนะเออ
“…แต่มันเจ็บ…” เด็กชายยังคงโยเย
“ไม่เจ็บหรอกคับ พี่นิวกินเค้กช็อคโกแล็ตหมดชิ้น เจ้านายก็รักษาพี่นิวเสร็จพอดี”
เค้กช็อคโกแล็ต!!
“แถมนมสตอเบอร์รี่เย็นๆด้วยน้า”
นมสตอเบอร์รี่!!
แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มกริ่ม เมื่อใบหน้าเล็กๆพยักหงึกหงักพลางส่งดวงตาใสแจ๋วมองมาทางเขา สองแขนค่อยๆช้อนใต้รักแร้และใต้เข่าของเด็กน้อย ยกร่างบางของเด็กวัยแรกรุ่นขึ้นแนบกับอกอุ่น จมูกเผลอสูดดมกลิ่นกรุ่นของแป้งเด็กเข้าเต็มปอด ยังไม่ทันลุกขึ้น เจ้าปีใหม่ก็กระโดดผลุงขึ้นซุกตัวลงกับอกน้อยๆของนิว ร่างเล็กหัวเราะคิกคักดิ้นกุกกักกอดลูกแมวไว้แน่น...พอๆกับที่ณรงค์กอดนิ วไว้อย่างแน่นหนา ลุกขึ้นอุ้มพาไปยังคลีนิกของตน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC