เมียหลวงตอนที่ 12 (ครึ่งหลัง)ความเดิมตอนที่แล้ว
“ไอ้งี่เง่า มึงมันบ้า ต้องรอให้มึงตายก่อนหรือไง”
เสียงแหบๆของสมาทด์ดังข้างตัวของผม ผมเห็นศีรษะที่ก้มลงและไหล่ที่ตกลงของเขา ไม่สมกับเป็นนายเลยนะสมาทด์
“หุบปากไปเลยไอ้มาทด์ พี่เกมส์เป็นไงบ้างพี่ หิวน้ำหรือเปล่า”
ผมพยักหนารับแล้วนอนมองดูน้องต้าที่ช่วยถอดเครื่องช่วยหายใจที่ผมรู้สึกมันเกะกะมากในตอนนี้ น้องต้าปรับเตียงของผมให้สูงขึ้นแล้วเอาหมอนมารองหลังในผมนั่งได้ สมาทด์ทีอยู่ข้างๆรินน้ำเปล่าที่ตั่งอยู่บนโต๊ะใส่แก้วแล้วยืนมาจอปากผม ผมค่อยๆดื่มน้ำจนรู้สึกคอที่เคยแห้งกับมาชุมชื้นอีกครั้ง
“ขะ..ขอบคุณ”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะแหบแห้งหลังจากขาดน้ำมานานพอสมควร
“พี่เกมส์หมอเขาฝากมาบอกว่าเนื้องอกไม่เหมือนหัวสิวนะครับ”
“หึ ถ้ามันเหมือนก็ดีนะสิ พี่จะได้ไม่ต้องให้มันผ่าหัวให้”
ผมพยายามที่จะไม่หัวเราะเมื่อนึกถึงหน้าไอ้หมอปลอมที่ฝากข้อความผ่านน้องต้ามา ถ้าเป็นหัวสิวก็ดีนะสิ ผมจะได้ไม่เจ็บเหมือนตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมจำความรู้สึกนั้นไม่ได้แล้วล่ะ แต่ก็รู้ว่าทรมานมาก
“มึงรู้จักกับหมอ แล้วทำไมถึงปล่อยตัวเองขนาดนี้”“พี่ยังไม่พร้อม”ผมตอบเสียงเบา
“มึงจะพร้อมเมื่อไหร่ล่ะ หรือจะรอให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก มึงคิดจะตายหนีความผิดเหรอ”สมาทด์จ้องหน้าผมเขม็งน้ำเสียงแข็งๆนั้นเล่นเอาผมใจเสีย
“พี่ยุ่งๆน่ะ ก็เลยไม่ค่อยได้มาหาหมอ”ผมพยายามจะเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขา
“มึงหยุดซักพี่เขาได้แล้วไอ้มาทด์ พี่เขาเพิ่งฟื้นให้ได้หายใจหายคอก่อน”น้องต้าเดินเข้ามาลากสมาทด์ไปนั่งที่โซฟา เพื่อเขาจะได้หยุดซักถามจากผมสักที
ผมมองสมาทด์ที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนที่หลับตาเพื่อพักผ่อนอีกหน่อย ผมรู้สึกนอนได้ไม่เต็มที่ ผมอยากพักผ่อนไม่อยากคิดอะไรทั้งสิ้น ขอสักชั่วโมงก็ยังดี
ตื่นมาอีกที น้องต้าก็ไม่อยู่แล้ว ผมเห็นแต่สมาทด์ที่นั่งขัดสมาธิอ่านอะไรสักอย่างอยู่ ผมละสายตาจากเขาก่อนที่จะลองขยับร่างกายดู รู้สึกหนักศีรษะมาก ขยับไม่ได้เลย ร่างกายเหมือนไม่ใช่ของผม ขยับอะไรตามใจตัวเองไม่ได้เลย ผมไม่รู้ว่ามันเป็นผลข้างเคียงของอะไร ระหว่างเนื้องอกหรือการผ่าตัด ผมไม่ได้รู้สึกชา แต่ก์มีอาการปวดแผลที่ศีรษะมาเป็นระลอก
ผมนิ่วหน้าเพราะรู้สึกอยากจะอาเจียน รู้สึกเวียนหัวอย่างบอกไม่ถูก แต่ตอนนี้ผมขยับร่างกายไม่ได้ จะทำอย่างไงดี จะเรียกสมาดท์ดีไหม
ผมไม่อยากกวนเขาเลย แต่จะให้ผมอ้วกให้เลอะตัวเอง ผมยอมรบกวนสมาทด์ดีกว่า
“สะ มาท”
“..หืม..ตื่นแล้วเหรอ”
“พะ..พี่”
“หิวน้ำเหรอ แปปนะเดี๋ยวรินน้ำให้”
ผมมองเขาวางเอกสารอะไรสักอย่างลงบนโซฟาและเดินตรงมายังเตียง สมาทด์หยิบแก้วแล้วรินน้ำให้ผมดื่ม
“อ่ะน้ำ”
ผมสายหัวแล้วพูดเสียงแหบๆ
“พี่..จะอ้วก”
“ห่า! แล้วไม่บอกต้องแต่แรก”
“อั้ก..อุ๊บ!”
ผมรีบเอามือปิดปาก สมาทด์ก้มลงไปหยิบกระโถนที่ตั่งอยู่ใต้เตียงขึ้นมาแล้วพยุงตัวผมที่นอนเป็นผักต้มขึ้นมาจ่อกับกระโถนรองอ้วก ผมเอามือออกจากปากแล้วขย่อนออกมา โก่งคออาเจียนอยู่นานแต่มันกลับมีเพียงน้ำ แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกดีขึ้นไม่มีอาการเวียนศีรษะเหมือนเมื่อสักครู่
สมาทด์ลูบหลังให้จนผมรู้สึกดีขึ้น แล้วเอาทิชชู่มาเช็ดปากให้ผม
“หมดหรือยัง มึงโอเคไหม อ่ะนี้น้ำเอาไปบ้วนปาก”
“ขอบคุณนะ พี่ทำเราลำบากแย่เลย”
“กูถามว่ามึงโอเคหรือยัง ไม่ได้อยากได้คำขอบคุณ เข้าใจที่ถามไหม”
สมาทด์ค่อยๆจัดผมให้นอนลงตามเดิม แล้วเขาก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบอะไรสักอย่างออกมาและเดินหายเข้าไปห้องน้ำ
ผมหลับตาลงเพื่อพักสายตา แต่อยู่ๆก็รู้สึกถึงสัมผัสเปียกแฉะจากผ้าผมลืมตาขึ้นเห็นสมาทด์กำลังเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ผมอย่างขะมักเขม้น
“สบายตัวขึ้นไหม”
ผมพยักหน้ารับ
“งั้นมึงก็นอนต่อเถอะ เดี๋ยวกูค่อยปลุกมึงขึ้นมากินข้าว”
ผมยิ้มแล้วตอบเขา
“อืม”
ขอนอนอีกสักนิดนะครับ ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมาใช่ร่างกายไปเยอะพอสมควร ร่างกายผมมันประท่วงเล่นเอาผมต้องมานอนง่อยเป็นผักต้ม รอให้สมาทด์มาพลิกซ้ายพลิกขวาน่าอายเป็นบ้าเลยฮ่ะ
ร่างบนเตียงนั้นหลับไปแล้ว เหลือเพียงแต่ร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังทำเหมือนว่ากำลังสนใจกับเอกสารตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ แต่เจ้าของร่างนั้นกลับค่อยจะชะเง้อไปมองคนที่นอนนิ่งบนเตียงอยู่ตลอดเวลา
เขานั่งชั่งใจอยู่ว่าจะเดินไปดูคนบนเตียงหรือจะนั่งอยู่เฉยๆรอคนบนเตียงตื่นดี เขาถอนหายใจรัวๆ บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีเรื่องกัดกลุ้ม และตัดสินใจลำบาก
“เอาก็เอาว่ะ”
เขาพูดก่อนที่ลุกขึ้นมาดูคนที่นอนอยู่บนเตียง เขายืนจ้องอยู่อย่างนั้น พึมพำอะไรสักอย่างออกมาแล้วลากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างๆมานั่งข้างเตียงของคนที่ตัวเล็กกว่า
“มึงนี้มันเห็นแก่ตัวแถมยังโง่อีกนะ”
ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างเตียงพูดเสียงเศร้า ไหล่หนานั้นคุดคู้ดูน่าสงสาร เสียงหน้าของเขานั้นบ่งบอกถึงความเจ็บปวดขนาดหนักที่เจ้าตัวบอกกับใครไม่ได้ เขาค่อยสอดมือตัวเองเข้ากับมือของคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง นั่งจ้องคนที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ฝันดี”
Talkหายหัวไปนาน..........
อย่าโกรธเราเลยนะ เราตันจริงๆ
คนอ่านอาจจะงงกับสมาทด์ว่าทำไมนางเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ขอบอกไว้เลยนะฮ่ะ ตัวละคร สองตัวนี้ มีเหตุผลของตัวเองทั้งคู่ อยากให้ทุกคน ค่อยติดตามพัฒนาการของควายน้อยอย่างสมาทด์และ ชาวนาผู้เลี้ยงควายอย่างพี่เกมส์ กันต่อไปนะฮ่ะ
จะพยายามเขียนตอนหน้าให้เยอะกว่าตอนนี้นะฮ่ะ สัญญาฮ่ะ
รักคนอ่านนะฮ่ะ
พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทวงนิยายกันที่ได้ที่
Madamsandy