บทที่ 4 พลัดพราก(2)
................
“แฮ่กๆ”
เสียงเหม่ยจิงวิ่งหอบอย่างเหนื่อยล้าท่ามกลางป่าเขาอันแห้งแล้ง ในมือซ้ายอุ้มราตรีพิสุทธิ์ที่ได้รับบาดเจ็บจากลูกหลงของพลังเวทมนตร์ของราชาปีศาจจนเกือบเจียนตาย หลังจากเดรคเข้ามาปกป้องคนรักจนตัวเองถูกปีศาจโครงกระดูกตัดปีกทั้งสองข้างแล้ว เดรคก็ได้ร่วงหล่นลงยังพื้นแผ่นดินท่ามกลางสายตาอันตะลึงของเหม่ยจิงที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ ซึ่งเธอไม่มีเวลาดูตอนคนรักของตัวเองตกลงไปถึงพื้น เพราะราชาปีศาจดันใช้พลังเวทมนตร์สาดใส่ราตรีพิสุทธิ์ตอนที่เหม่ยจิงเผลอ แถมตัวเธอเองก็พลอยโดนลูกหลงพลังของราชาปีศาจจนบาดเจ็บไปด้วยอีกคน เพราะเหตุนี้จึงทำให้เหม่ยจิงต้องรีบหนีออกมาโดยไม่คิดจะหวนกลับไปดูคนรักของตัวเองว่าเป็นตายร้ายดีหรือไม่
“แอ้” ราตรีพิสุทธิ์เองก็ใช่ว่าเจ็บแล้วจะสลบไปเลยทันที เธอยังฝืนทนความเจ็บปวดด้วยการส่งเสียงให้ท่านแม่ได้ทราบว่าเธอยังสบายดีอยู่
“เจ็บหรือลูกรัก? โอ๋ๆ อดทนอีกหน่อยนะราตรีพิสุทธิ์ เดี๋ยวแม่จะพาลูกไปยังที่ปลอดภัย” เหม่ยจิงพูดปลอบลูกชายในขณะที่วิ่งอยู่บนพื้นดิน ส่วนเหตุผลที่เหม่ยจิงไม่บินขึ้นท้องฟ้าอีก ก็เพราะเธอเกรงว่าจะเป็นเป้าสายตาของพวกกองทัพปีศาจ
แต่เธอจะพาลูกชายหนีรอดจากเงื้อมมือของราชาปีศาจได้แน่หรือ?
เหม่ยจิงขบริมฝีปากของตัวเองด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจที่ต้องมาเผชิญสถานการณ์อันเลวร้ายโดยไม่รู้ความเป็นไปของเดรคผู้เป็นสามีของหล่อนเลยสักนิด แต่ความปลอดภัยของลูกต้องมาเป็นที่หนึ่งก่อน ดังนั้นเหม่ยจิงจึงเลือกที่จะปกป้องลูกชายอย่างสุดชีวิต
ตูม!
เพราะเหม่ยจิงมัวแต่ครุ่นคิดจึงทำให้ตัวเองกับลูกชายมีอันต้องกระเด็นไปตามแรงระเบิดของพลังที่ซัดเข้ามา
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์โดนโจมตีจากราชาปีศาจ พลังลดเหลือ 50 ค่ะ”
เสียงของระบบประกาศดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นรอบที่ห้าหลังจากราตรีพิสุทธิ์โดนพลังของราชาปีศาจ ราตรีพิสุทธิ์ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับค่าพลังงานชีวิตของตัวเองในเกมสักเท่าไหร่ แต่เธอก็สามารถรับรู้ได้จากข้างในร่างกายอันบอบบางนี้โดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
แย่แล้วสิ ขยับตัวไม่ได้เลย
ราตรีพิสุทธิ์คิดในใจ ตอนนี้เธอได้กระเด็นหลุดจากมือของท่านแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ราตรีพิสุทธิ์!” เหม่ยจิงร้องเรียกหาลูกที่ตนเผลอทำหลุดมือ ก่อนจะหันไปเห็นลูกชายนอนจมกองเลือดอยู่ห่างออกไปถึงสองเมตร “ไม่นะ! ราตรีพิสุทธิ์แม่ขอโทษ”
เหม่ยจิงพูดเสียงร่ำไห้พลางวิ่งเข้าไปอุ้มลูกชายขึ้นมาแนบอก เท่าที่เธอดูสภาพราตรีพิสุทธิ์แล้ว ลูกชายคงจะทนความบาดเจ็บได้อีกไม่นานแน่
“ทนหน่อยนะ เดี๋ยวแม่จะรักษาลูกเดี๋ยวนี้แหละ” เหม่ยจิงบอกก่อนจะถลกแขนเสื้อสีเหลืองลายดอกไม้ออก เผยให้เห็นผิวขาวนวลหิมะ เมื่อเหม่ยจิงถลกแขนเสื้อออกแล้ว เธอจึงนำมีดสั้นที่พกไว้ในเสื้อคลุมออกมากรีดข้อมือตัวเอง ก่อนจะนำเลือดสีแดงที่ผุดออกมาจากบาดแผลป้อนเข้าปากลูกชายตนเอง “ดูดเลือดแม่ซะนะลูกรัก เจ้าจะได้หายไวๆ”
ถึงสติของราตรีพิสุทธิ์จะเลือนรางแต่เธอกลับได้ยินชัดเจน ดังนั้นเธอจึงรีบดูดเลือดตามคำบอกของท่านแม่อย่างว่าง่าย
ขม
ราตรีพิสุทธิ์คิดในใจ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่เคยคิดรังเกียจที่จะได้ดูดเลือดของผู้เป็นแม่ ซึ่งพอราตรีพิสุทธิ์ดูดเลือดไปสักพัก เธอก็รู้สึกถึงพลังในร่างกายกำลังเริ่มฟื้นฟู บาดแผลบางส่วนที่เคยมีตามร่างกายก็เริ่มค่อยหายไปทีละนิด
เลือดมังกรรักษาบาดแผลได้ด้วยรึเนี่ย?
“เนื่องจากผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเลือดจากแม่มังกร ทำให้ร่างกายเริ่มฟื้นฟูสภาพ10%”
เสียงของระบบประกาศดังก้องหัว แต่ถึงกระนั้นเลือดของเหม่ยจิงไม่สามารถให้พลังงานแก่ราตรีพิสุทธิ์ได้เพียงพอ ดังนั้นเธอจึงร่ายมนตร์รักษาพร้อมกับถ่ายเทพลังของเธอให้กับลูกชายอย่างเต็มที่โดยไม่คำนึงถึงสภาพร่างกายของตัวเองที่บอบช้ำ
“ท่านได้รับการฟื้นฟูจากพลังเวทย์ 80%”
เสียงระบบประกาศพร้อมกับร่างกายอันบอบบางเริ่มฟื้นฟูบาดแผลจนหายสนิท
“เนื่องจากผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับพลังตบะจากแม่มังกรระดับ 80 จึงเลื่อนระดับพื้นฐานให้เป็นเด็กทารกระดับ 7, 8”
ดูมัน ขนาดเวลาหน้าสิวหน้าขวานก็ยังประกาศบอกอยู่ได้!
ราตรีพิสุทธิ์คิดอย่างแค้นเคืองกับระบบเกมที่ประกาศบอกไม่รู้จักจบจักสิ้น แล้วราตรีพิสุทธิ์ก็รู้สึกว่าท่านแม่กำลังถอนมือออกจากตัวเธอ
เอ๋ ท่านแม่รักษาเสร็จแล้วเหรอ?
พอราตรีพิสุทธิ์ลืมตาขึ้นมองแม่มังกร เธอก็พบกับรอยยิ้มอันอ่อนโยนจากผู้เป็นแม่
“ในที่สุดลูกก็ลืมตาขึ้นเสียที” เหม่ยจิงพูดอย่างโล่งอกที่เห็นว่าลูกของเธอปลอดภัยดีแล้ว “เอ่อจริงสิ แม่มีอะไรบางอย่างให้ลูกด้วยนะ”
เหม่ยจิงพูดพลางถอดสร้อยคอออกมาก่อนจะสวมสร้อยคอเส้นนั้นให้กับราตรีพิสุทธิ์
“ท่านได้รับสร้อยคอผลึกเกล็ดย้อน 1 เส้น”
เสียงระบบประกาศ ซึ่งราตรีพิสุทธิ์ไม่สนใจที่จะฟังมันอีก
“เก็บไว้ให้ดีล่ะ อย่าให้หายเด็ดขาดนะลูกรัก”
พอท่านแม่พูดจบ ท่านก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะพาราตรีพิสุทธิ์ไปยังลำธารที่ไหลเชี่ยวกราก
ทะ...ท่านแม่คิดจะทำอะไรนะ!
ราตรีพิสุทธิ์ครุ่นคิดในใจอย่างหวาดหวั่น ซึ่งพอมาถึงลำธารแล้ว ท่านแม่ก็หยุดเดินทันที
“แม่ขอโทษด้วยนะราตรีพิสุทธิ์ ขอโทษด้วยจริงๆ” เหม่ยจิงพูดขอโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก่อนจะนั่งลงยอง “ไว้แม่เสร็จธุระทางนี้แล้ว แม่จะตามลูกไปทีหลัง จริงสิ ลูกไม่ต้องห่วงท่านพ่อหรอกนะ เดี๋ยวแม่จะไปตามท่านพ่อกลับมาให้ลูกด้วย”
พอเหม่ยจิงพูดจบ ก็ค่อยๆหย่อนตัวลูกชายลงน้ำ ซึ่งคราวนี้ราตรีพิสุทธิ์รู้ได้ทันทีเลยว่าท่านแม่คิดจะทำอะไรกับเธอ
ไม่นะ...
ท่านแม่อย่าทิ้งหนู...
“มะ...มัมมะ!”
เสียงเล็กๆดังออกมาจากริมฝีปากของราตรีพิสุทธิ์ ทำเอาคนเป็นแม่ชะงักมือทันที
“เมื่อครู่นี้ลูกเรียกแม่งั้นหรือ?!” เหม่ยจิงพูดอย่างดีอกดีใจจนน้ำตาไหลพราก “โอ้...แม่ดีใจเหลือเกิน ดีใจที่ได้ยินลูกพูดชื่อแม่ก่อน ขอบคุณสวรรค์ ท่านช่างเมตตาให้ข้าได้ยินคำพูดคำแรกของลูกชาย ไม่มีอะไรน่ายินดีกว่านี้อีกแล้ว...จริงๆ”
จากนั้นเหม่ยจิงก็กอดราตรีพิสุทธิ์อย่างแนบแน่น สักพักจึงหอมแก้มลูกชายเบาๆ ก่อนจะหย่อนตัวราตรีพิสุทธิ์ลงน้ำอีกครั้ง
“แม่จะไม่มีวันลืมคำพูดคำแรกของลูกแน่ ราตรีพิสุทธิ์ แม่ให้สัญญา”
เหม่ยจิงพูดจบ เธอก็ปล่อยร่างน้อยให้ลอยไปตามกระแสน้ำก่อนที่สร้อยคอผลึกเกล็ดย้อนจะทำหน้าที่ของมัน โดยเป็นม่านอาคมกันมิให้ราตรีพิสุทธิ์ต้องจมน้ำตาย ซึ่งภาพสุดท้ายที่ราตรีพิสุทธิ์จะได้เห็นคือรอยยิ้มอันอบอุ่นของผู้เป็นแม่ที่ส่งมาให้เธอ
“มัมมะ! มัมมะ!!”
..............................
หลังจากพลัดพรากจากผู้เป็นแม่แล้วเธอก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ซึ่งพอตื่นขึ้นมาอีกที ราตรีพิสุทธิ์ก็มานอนอยู่ที่ริมตลิ่งท่ามกลางป่าสีเขียวที่ไม่รู้จักแล้ว
จะให้ทำยังไงต่อดีล่ะ
ราตรีพิสุทธิ์คิดอย่างหนักใจ เพราะตอนนี้เธอเป็นเพียงแค่เด็กทารก จะให้ไปมีชีวิตรอดท่ามกลางป่าเขาที่ใหญ่โตนี่ได้ยังไงกัน ส่วนเรื่องที่จะไปขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นเกมคนอื่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แค่คลานให้ออกไปจากป่านี้จะได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้
เอาเถิด คลานไปก่อนดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ
ราตรีพิสุทธิ์คิดได้ดังนั้นจึงเริ่มออกคลานทันที โดยเธอใช้ตำแหน่งที่พระอาทิตย์ขึ้นซึ่งเป็นทิศตะวันออกเป็นตัวกำหนดทิศทางที่เธอจะต้องคลานไป แต่ทว่าราตรีพิสุทธิ์หาได้รู้ไม่ว่า เกมนี้ไม่ได้สร้างให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกแต่เป็นทางทิศตะวันตกแทน ดังนั้นเธอจึงคลานไปอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ ซึ่งราตรีพิสุทธิ์คลานไปได้ซักพักใหญ่ เธอก็ได้เห็นอะไรบางอย่างที่มีลักษณะกลม สีแดงเข้มผสมสีเหลืองอ่อน แถมข้างล่างก็มีขาสองข้างเป็นสีขาวด้วย
นั่นเห็ดนี่! ราตรีพิสุทธิ์แทบตะลึงเมื่อได้เจอเห็ดตรงหน้า เพราะเห็ดที่เธอกำลังเห็นอยู่นี้ มันมีลักษณะคล้ายกับเห็ดในเกมมาริโออย่างไม่ผิดเพี้ยน ถ้าเป็นในเกมมาริโอ มาริโอกินเห็ดนี่เข้าไปตัวก็จะโตไม่ใช่รึ
ราตรีพิสุทธิ์คิดในใจก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออกได้
จริงสิ ถ้าเรากินเห็ดตามมาริโอบ้าง ตัวเราคงจะโตเป็นผู้ใหญ่เหมือนกับเกมนั้น แล้วทีนี้เราก็สามารถย้อนกลับไปช่วยท่านพ่อกับท่านแม่ได้!
แล้วราตรีพิสุทธิ์ก็ไม่รอช้า เธอจึงคลานเข้าไปหาเห็ดอย่างเงียบเชียวเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวเสียก่อน และเมื่อถึงเป้าหมาย ราตรีพิสุทธิ์ก็อ้าปากกว้างก่อนจะ...
งับ!
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์โจมตีบอสเห็ดมาริโอระดับ10 ค่ะ”
“อ้าก!! ใครงับหัวข้า!!” เสียงกรีดร้องดังมาจากเห็ด ซึ่งทำเอาราตรีพิสุทธิ์ตกใจจนถูกอีกฝ่ายสะบัดให้กระเด็นกลิ้งม้วนตีลังกากลับไปด้านข้างเห็ด “ฮู้ๆ เจ็บๆ ฮือ ใครกันที่บังอาจทำร้ายข้า”
เห็ดสีแดงพูดอย่างเจ็บปวดก่อนจะหันหน้ากลับมามองราตรีพิสุทธิ์ ซึ่งเธอกำลังจะตั้งตัวขึ้นมาใหม่หลังจากกลิ้งล้มไม่เป็นท่า
“อ้าวไอ้เด็กเปรตนี่” เห็ดสีแดงพูดด้วยน้ำเสียงกวนบาทา “คิดจะกินข้า คิดผิดคิดใหม่ได้นะเว้ยไอ้เด็กนรก ชิ ให้ตายสิ พ่อแม่ไม่สั่งสอนไงวะ เดี๋ยวปัดตบหัวหลุด”
อ้าวไอ้เห็ดปากหมา เดี๋ยวแม่กระโดดเหยียบเลยนี่
ราตรีพิสุทธิ์แค่นด่าทอบอสเห็ดในใจ แล้วเธอก็กวักมือเรียกเห็ด ก่อนจะยกนิ้วกลางขึ้นมา
“ท่านได้รับทักษะยั่วประสาทระดับ1” เสียงระบบประกาศบอก
แก่ก็มีหัวใจนะเว้ย
ส่วนเห็ดสีแดงก็ทำท่าโกรธทันทีที่เห็นราตรีพิสุทธิ์ทำท่ายกนิ้วกลางใส่
“อย่าอยู่เลยไอ้เด็กเปรต!”
เห็ดสีแดงหรือบอสเห็ดมาริโอแผดเสียงร้องลั่น ก่อนจะวิ่งเข้าหาราตรีพิสุทธิ์เพื่อจะฆ่าให้ตาย ซึ่งทำให้ราตรีพิสุทธิ์สะดุ้งตกใจ เพราะเธอนั้นไม่สามารถต่อสู้กับเห็ดสีแดงนี่ได้เลย
ตายแน่เลยเรา! ท่านพ่อท่านแม่ช่วยหนูด้วย!!
ราตรีพิสุทธิ์คิดพลางหลับตาปี๋อย่างหวาดกลัว
แวบ!
จู่ๆ เสียงประหลาดดังขึ้นพร้อมกับแสงสีขาวจ้า ทำให้บอสเห็ดหยุดวิ่งก่อนจะหลับตาลงเพื่อหลบแสงสีขาวนั่นทันที
“ท่านได้รับ Toy Hammer ระดับ10 จำนวน1อันค่ะ”
เสียงระบบประกาศ ซึ่งราตรีพิสุทธิ์ลองลืมตาขึ้นมาดู ก่อนจะพบเห็นค้อนพลาสติกสีชมพูปนเหลืองซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเธอเล็กน้อยกำลังลอยอยู่ตรงหน้า
ค้อนเด็กเล่น? ราตรีพิสุทธิ์มองค้อนของเล็กสำหรับเด็กอย่างสงสัย มันมาได้ยังไงเนี่ย??
ส่วนบอสเห็ดมังกรหลังจากลืมตาขึ้นแล้ว มันก็ได้แต่มองค้อนตรงหน้าอย่างสงสัยเช่นเดียวกับเธอ แต่ทว่าตอนนี้อยู่ในช่วงวิกฤต ราตรีพิสุทธิ์คิดว่านี่คือโอกาสอันล้ำค่าของเธอแล้ว ดังนั้นราตรีพิสุทธิ์ไม่รอช้า เธอรีบหยิบค้อนเด็กเล่นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะฟาดลงบนหัวของบอสเห็ดมาริโอโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันระวังตัว
บิ๊บ! บิ๊บ! บิ๊บ! บิ๊บ! บิ๊บ!
100
98
80
90
100
เสียงกระทบกระทั่งระหว่างค้อนปะทะหัวบอสเห็ดมาริโอ ทำให้เกิดค่าตัวเลขจากการโจมตีรัวของราตรีพิสุทธิ์ถึงห้าครั้ง แต่ทว่าบอสเห็ดมาริโอได้รับเพียงแค่บาดแผลเล็กน้อย
“เล่นทีเผลอแบบนี้ลูกตุ๊ดนี่หว่า”
บอสเห็ดมาริโอด่า ซึ่งทำเอาราตรีพิสุทธิ์รู้สึกโกรธจนฟืนลุกเป็นไฟ
เล่นกันถึงท่านพ่อท่านแม่ แบบนี้ให้อภัยไม่ได้
แกได้ลงหม้อต้มยำแน่ไอ้เห็ดเวรตะไล!
“แอ๊! อายอ๊ะไอเอ็ดเอนอะไอ (ย๊าก!ตายซะไอ้เห็ดเวรตะไล)”
ราตรีพิสุทธิ์แผดเสียงร้องลั่นก่อนจะใช้ค้อนเด็กทุบลงหัวบอสเห็ดมาริโออีกครั้งอย่างไม่ยั้ง
บิ๊บ! บิ๊บ! บิ๊บ! บิ๊บ! บิ๊บ!
105
100
99
110
90
“โอย...แอก...ไอ้...อั๊ก...เด็ก...เอ๋ง...บ้า!” บอสเห็ดมาริโอแผดเสียงร้องด่าราตรีพิสุทธิ์อย่างไม่เป็นภาษา “แก...อั่ก...ไม่...ได้...เอ๋ง...ตาย...อั๊ก...ดีแน่!”
ถึงราตรีพิสุทธิ์จะโจมตีแบบรัว แต่ถึงกระนั้นแรงเด็กมีหรือจะสู้บอสเห็ดมาริโอที่มีร่างกายตัวใหญ่กว่าได้ ซึ่งไม่นานนักราตรีพิสุทธิ์ก็หมดแรงข้าวต้ม
“อะไรกัน หมดแรงแล้วหรือไอ้เด็กเปรต” บอสเห็ดมาริโอพูดอย่างสบายๆ ซึ่งตามเนื้อตามตัวมีบาดแผลจ้ำเลือดจากการทุบด้วยค้อนเด็กนิดหน่อย “ถ้างั้นก็ถึงตาของข้าบ้างล่ะ!”
เมื่อบอสเห็ดมาริโอพูดจบ ก็ทำท่าจะกระโดดทับร่างเล็กให้บี้แบนภายในทีเดียว แต่ทว่า...
ปัง!
เสียงคล้ายอาวุธปืนดังก้องป่า ก่อนร่างบอสเห็ดมาริโอจะกระเด็นหงายท้องไปนอนกับพื้น
“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมครับน้องชาย”
น้ำเสียงทุ้มแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนดังมาจากทางหลัง ซึ่งทำให้ราตรีพิสุทธิ์รีบหันหลังกลับไปดูต้นเสียงอย่างเร็ว ก่อนจะเผยให้เห็นสองหนุ่มที่ยืนคู่กัน หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าหวานผมสีทองยาวกลางหลังในชุดคลุมสีขาวกำลังถือคทาไร้ลวดลาย กับอีกหนึ่งหนุ่มหน้าเข้มผมสั้นสีดำปนขาวในชุดคาวบอยกำลังถือปืนที่มีควันลอยครุกกรุ่นอยู่
ผู้ชายคนนั้นสินะที่เป็นคนยิง
แต่เก่งเป็นบ้า...แค่เพียงนัดเดียวก็สามารถล้มบอสเห็ดมาริโอได้
น่านับถือ...
ราตรีพิสุทธิ์คิดในใจก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ไอ้เอ็นไอ (ไม่เป็นไร)”
“งั้นเหรอครับ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ” ชายหนุ่มผมทองยิ้ม แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้ามาหาราตรีพิสุทธิ์ “น้องเป็นผู้เล่นใหม่สินะครับ แหม โดนสุ่มให้เกิดเป็นทารกเลยหรือนี่ คงลำบากมิใช่น้อยเลยนะครับ”
ราตรีพิสุทธิ์พยักหน้าทันทีที่อีกฝ่ายถามจบ
ลำบากก็จริงแต่เราก็รู้สึกสนุกที่ได้อยู่กับท่านพ่อท่านแม่มังกร
“คุยกันจบรึยัง จะได้ไปกันสักที” ชายหนุ่มในชุดคาวบอยสะกิดเรียกเพื่อนอย่างเร่งรีบ
“เดี๋ยวสิครับ ขอผมคุยกับน้องเค้าสักครู่เดียว” ชายหนุ่มผมทองตอบก่อนจะหันมาทางราตรีพิสุทธิ์ต่อ “ขอโทษนะครับที่พวกพี่อยู่ช่วยน้องต่อไม่ได้ นี่ถ้าพี่มีเวลาแล้วล่ะก็ พี่คงจะพาน้องไปยังเมืองเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง...อืม...เอาอย่างนี้แล้วกันนะ”
ว่าแล้วชายหนุ่มผมทองก็หันไปปรึกษากับเพื่อนของตัวเอง ซึ่งชายหนุ่มผมดำขาวสั้นในชุดคาวบอยก็พยักหน้าตอบตกลงก่อนจะเดินไปยังบอสเห็ดมาริโอที่ยังคงนอนนิ่งจมกองเลือดที่พื้นอยู่
ผัวะ!
จู่ๆ ผู้ชายคนนั้นใช้ขาเตะเข้าที่ลำตัวของบอสเห็ดมาริโออย่างแรง ซึ่งทำเอาราตรีพิสุทธิ์สะดุ้งตกใจ
“เลือกเอา ต้มยำ แกงเห็ด ยำเห็ด”
คำพูดขู่ที่แสนจะเย็นยะเยือก ทำเอาร่างที่นอนฟุบอยู่กับพื้นรีบผุดลุกขึ้นยืนอย่างไว
“แง้ กลัวแล้วครับ หนูยอมแพ้แล้ว อย่าเตะหนูเลยนะครับคุณพี่ชายสุดหล่อ ฮือๆ”
บอสเห็ดมาริโอเสียงหลงเมื่อถูกสยบเกรียนจนสิ้นลาย แต่ทว่าคำขอกลับไร้ผล บอสเห็ดมาริโอถูกชายผมดำเตะนับสิบรอบได้ ซึ่งทำเอาบอสเห็ดมาริโอถึงกับน่วม
“ผมว่าพอแค่นี้เถอะครับ ประเดี๋ยวบอสเห็ดมาริโอจะตายเสียก่อน” หนุ่มผมทองพูดเตือนอย่างเป็นกังวล จึงทำให้ร่างสูงยอมเลิกเตะแต่โดยดี “ถ้ายังไม่สลบล่ะก็ โปรดช่วยฟังผมให้ดีนะครับคุณบอสเห็ดมาริโอ เพราะผมจะพูดเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“คะ...ครับ...คุณพี่ชาย...หน้าหวาน”
ฝากไว้ก่อนไอ้หน้าตุ๊ด อย่าให้เจอตอนเผลอเชียว
ผัวะ!
“เอ๋ง!”
บอสเห็ดมาริโอร้องลั่นไม่เป็นภาษาเมื่อโดนร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ๆโบกเข้าไปเต็มแรง
“หนูทำอะไรผิด...ก็แค่เรียกพี่ชายหน้าวะ...”
ผัวะ!
ตอนนี้ราตรีพิสุทธิ์พอเข้าใจแล้วว่าทำไมชายผมดำคนนี้ถึงได้ตบบอสเห็ดมาริโอ
“เอาล่ะ คุณฟังผมให้ดีล่ะคุณบอสเห็ดมาริโอ” ชายผมทองเริ่มพูดเข้าเรื่องต่อโดยไม่สนใจสภาพบอบช้ำของบอสเห็ดมาริโอ “จงยอมเป็นทาสรับใช้เด็กคนนี้เสียแต่โดยดี อย่าให้ผมต้องบังคับหรือขู่เข็ญคุณจนต้องลงไม้ลงมืออีก...มิเช่นนั้นแล้วอย่ามาหาว่าผมไม่เตือนคุณ”
“ฮือๆ ครับคุณพี่ชาย หนูยอมทุกอย่างแล้ว แต่อย่าตบเตะหนูอีกเลยนะงับ ฮือๆ”
บอสเห็ดมาริโอตอบอย่างว่าง่าย
“ดีมาก ถ้างั้นก็ช่วยทำสัญญาพันธะว่าจะเป็นทาสรับใช้เด็กคนนี้ตลอดไปด้วยล่ะ”
“ครับคุณพี่ชาย”
ใครจะยอมเป็นเบ้เด็กตัวกะเปี๊ยกวะ เผลอก่อนเถอะ ป๋าจะฆ่าไอ้เด็กเปรตนี่ซะ!
ผัวะ!
บอสเห็ดมาริโอโดนไม้คทาปลิวมากระแทกเข้าที่ใบหน้าเต็มๆ ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เตะกับต่อยบอสเห็ดมาริโอ แต่เป็นชายผมทองที่ยืนอยู่ข้างราตรีพิสุทธิ์แทน
“จะยอมทำหรือยังครับคุณบอสเห็ดมาริโอ อย่าให้พวกผมต้องรอนานสิ” ชายผมทองพูดเตือนโดยที่ใบหน้ายังยิ้มแย้มอยู่
น่ากลัว คนอ่านใจได้แบบนี้หนูไม่เล่นด้วยแล้ว!
บอสเห็ดมาริโอพยักหน้าก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินมาหาราตรีพิสุทธิ์เพื่อทำพันธะสัญญาตามที่ตกลงกันไว้
“บอสเห็ดมาริโอได้ยื่นข้อเสนอเป็นทาสรับใช้ประจำตัวของท่าน”
เสียงระบบประกาศดังก้องในหัวราตรีพิสุทธิ์
“อกอง (ตกลง)”
“บอสเห็ดมาริโอได้เป็นทาสรับใช้ประจำตัวของท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงระบบประกาศอีกครั้ง ก่อนจะอธิบายต่อ “หากท่านสงสัยในข้อพันธะสัญญาระหว่างทาสรับใช้ประจำตัว ท่านสามารถติดต่อได้ที่ตึกผู้เล่นใหม่ค่ะ”
“เกิดเป็นเห็ด แท้จริงแสนลำบาก เกิดเป็นบอส ยากลำบากกว่าหลายเท่า”
บอสเห็ดมาริโอบ่นหลังจากทำพันธะสัญญาเสร็จ ซึ่งชายผมทองก็ได้หันหน้ามาคุยกับราตรีพิสุทธิ์ต่อโดยไม่สนใจว่าบอสเห็ดมาริโอกำลังบ่นเรื่องอะไรอยู่
“หลังจากนี้น้องก็ใช้งานบอสเห็ดมาริโอได้เต็มที่เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” ชายผมทองพูดพลางหยิบของอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะวางของไว้บนมือราตรีพิสุทธิ์ “แต่ถ้ามันดื้อรั้นไม่ฟังที่น้องพูดแล้วล่ะก็ น้องก็เอาแส้อันนี้ไปใช้ได้เลย พี่ให้ฟรีครับ”
“ท่านได้รับแส้กำราบสัตว์ระดับ 50 จำนวน 1 ชิ้น”
อดีตบอสเห็ดมาริโอได้เห็นแส้กำราบสัตว์แล้วถึงกับสะดุ้งวาบ
ฉิบหายล่ะ ซาดิสต์นี่หว่า แม่จ๋าช่วยหนูด้วย!
ผัวะ!
เห็ดมาริโอถูกตบด้วยก้อนหินที่ลอยมาจากชายผมทอง
“พี่ว่าน้องควรจะกำราบนิสัยของมันที่ชอบคิดด่าลับหลังคนอื่นให้ได้เสียก่อนแล้วมั้งครับ”
ชายผมทองพูดอย่างเป็นปริศนา ซึ่งราตรีพิสุทธิ์ไม่ค่อยเข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องอะไร แต่พอคาดเดาได้ว่าเขากำลังต้องการให้เธอจัดการนิสัยของเห็ดมาริโอให้ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้เสีย
มันก็น่าสมควรอยู่หรอก ปากจัดขนาดนั้น
แต่ไม่ต้องห่วง...เดี๋ยวอีแก่คนนี้ จะดัดนิสัยให้รู้ซึ้งถึงทรวงกันไปเลย
ราตรีคิดในใจพลางนึกย้อนอดีตสมัยที่เธอเคยใช้ไม้เรียวสยบลูกหลานมานักต่อนัก โดยเฉพาะนพ สมัยเด็กๆ ดื้อยิ่งกว่ากระไรดี กว่าเธอจะปราบได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญเลยทีเดียว
“ตอนนี้พวกพี่ก็ต้องขอตัวก่อนนะครับน้อง ถ้าเจอกันคราวหน้าพี่หวังว่าน้องคงจะกำราบเจ้านี่ได้”
“แอ้ (ครับ)”
แล้วทั้งสองหนุ่มก็เดินจากไป จะเหลือก็แต่ราตรีพิสุทธิ์กับอีกหนึ่งดอกที่ยังคงอยู่ ซึ่งราตรีพิสุทธิ์ก็ใช้สิทธิของการเป็นเจ้านายโดยการปีนขึ้นไปบนหัวเห็ดมาริโอ ก่อนจะสั่งให้มันเดินไปยังเมืองเริ่มต้นโดยตัวเธอไม่ต้องคลานเองให้เสียแรง
จะว่าไปลืมถามชื่อพวกเขาเลยแหะ
เมื่อร่างเล็กขี่เห็ดมาริโอออกไปไกลจากจุดเดิมแล้ว สองหนุ่มที่รีบจากไปเมื่อครู่นี้ก็ได้เดินกลับมายังจุดเดิมอีกครั้ง
“อ้าวแล้วกัน ไปซะแล้วหรือเนี่ย” ชายผมทองบ่นด้วยความเสียดายเมื่อไม่เห็นน้องชายผมสีเงินกับเห็ดมาริโอ “เพราะคุณเลยทีเดียว ทำให้ผมรีบจนลืมให้ของอีกชิ้นหนึ่งกับน้อง เฮ้อ แล้วนี่จะทำยังไงกันดี”
“โลกในเกมมันกลม ยังไงเจ้ากับผู้หญิงคนนั้นก็ต้องได้พบเจอกันอีกนะคีย์*”
ชายผมดำสั้นแกมขาวตอบก่อนจะเอามือลูบศีรษะของชายผมทองอย่างแผ่วเบา
“นั่นสินะครับคุณโซล** ผมลืมไปซะสนิทเลย”
เมื่อทั้งคู่พูดจบ สองร่างก็พลันหายไปกับมวลอากาศอย่างรวดเร็วท่ามกลางป่าเขาสีเขียวอันชอุ่ม
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
* คีย์ หรือลูฟาเอล แขกรับเชิญจากเรื่อง tale of fantasy online
** โซล แขกรับเชิญจากเรื่อง tale of fantasy online
(ทั้งคู่แอบมาเล่นเกมเรียลไลฟ์กันแค่2คนโดยไม่บอกเพื่อนๆ)