มีรัยจะระบายก่อนอ่าน
เมื่อวานอยากกินมะม่วง
เลยลงทุนซื้อมะม่วงมาสองโล
แล้วก็มีดปลอกผลไม้
คนปลอกให้มันปลอกไม่ทันใจ
เลยจะโชว์เทพ
ฉึกเข้าให้ เนื้อนิ้วหัวแม่มือนี่ ไสลด์เป็นแผ่น เลือดอาบไปนั่น
ดีนะหัวแม่มือไม้ได้ใช้กดอะไร กดแค่สเปชบาร์ ไม่งั้น
ฮี่ฮี่ จะไม่มีตอนนี้ให้อ่าน

ลูกชาย(พระเอก)
ชื่อ อันเดรส Andres (ภาษาสเปนแปลว่านักรบ)
นามสกุล อภิทวีทรัพย์
ลักษณะทั่วไป เป็นทารกรูปร่างจ้ำม่ำน่าหยิก ผิวสีแทนเหมือนพ่อ ดวงตาและสีผมสีน้ำตาลเข้มเหมือนพ่อเช่นกัน ตามหลักตอนนี้เป็นลูกเสี้ยวเสปน แต่ยังไม่รู้ว่าแน่ชัดว่าฝั่งแม่มีเชื่อสายอะไรบ้าง
ตอนที่ 6 หลบล่า ปู่ย่ามหาภัย
เช้ามืดของอีกวัน
“นี่คุณ”เสียงทุ่มเรียกพลางเอานิ้วจิ้มแก้มขาวๆของกุ้ยช่าย
“อืม”กุ้ยช่ายปัดนิ้วออกอย่างรำคาญก่อนหันหนี
“นี่คุณ ตื่นหน่อยสิ”คราวนี้มาตินเขย่าคนขี้เซา
“อืม ตั้งโอ๋มีอะไรเหรอ”กุ้ยช่ายพูดแต่ยังไม่ลืมตา
“ตั้งโอ๋ยังไม่ตื่นหรอกคุณ แต่อันเดรสน่ะ อึอีกแล้ว”
“ห่ะ”กุ้ยช่ายสะดุ้งลุกขึ้นตื่นเต็มตา
นึกขึ้นได้เมื่อคืนเขาไม่ได้กลับบ้าน เพราะคำอ้อนวอนของที่ฝ่ายที่ทำท่าทำทางหมาหงอย เลยได้มานอนห้องรับแขกกับตั้งโอ๋
ย้อนไป เวลาหัวค่ำของเมื่อวาน กุ้ยช่ายอุ้มเจ้าตัวอ้วนใส่เป้สะพายขึ้นหลัง ล่ำลาเสร็จตกลงว่าจะมาอีกทีพรุ่งนี้แปดโมงเช้า อีกอย่างตอนรีบกลับเพราะบ้านอยู่ไกล
เดินออกมาจะพ้นประตูรั่วมือบางก็ถูกรั้งไว้อย่างกะทันหัน เลยหันไปมอง ก็เห็นคุณพ่อมือใหม่ตัวยุ่งส่งสายตาหมาหงอยมาให้ แถมคำพูดคำจาน่าสงสาร อ้างว่า ไม่มั่นใจว่าจะดูแลอันเดรสคนเดียวได้มั้ย อ้างสารพัดสารเพ จนเขาต้องยอมค้างคืน
กลับมาที่ปัจจุบัน กุ้ยช่ายเดินตามมาตินไปที่ห้องนอนใหญ่ของเจ้าตัว ผิดกับห้องรับแขกลิบลับ ห้องนี้ใหญ่โต มีทุกอย่างครบครัน พอมองไปข้างเตียงก็เห็นเปลเด็กอยู่ข้างๆ
อันเดรสน้อยยกมือยกเท้าทำเสียงอ้อแอ้ จะร้องก็ไม่ร้องเพราะมีจุกนมอุดอยู่ที่ปาก ว่าแล้วก็หันไปหาพ่อตัวดี ที่ดันเดาจุกนมยัดปากลูกไม่ให้ลูกร้อง เจ้าตัวก็ทำท่าแหะๆใส่ จนกุ้ยช่ายต้องส่ายหัว
ก้มลงจะเปลี่ยนแพมเพิส ก็เห็นว่าแพมเพิสถูกแกะแล้วเลยหันมาถาม
“แกะแล้วทำไมไม่เปลี่ยนล่ะคุณ”
“ก็”มาตินเถียงไม่ออก
“ก็อะไร”
“ก็ อยากให้คุณเปลี่ยนมากกว่า”เหตุผลของคุณพ่อตัวดีทำเอากุ้ยช่ายแทบเงิบ
“นี่ลูกคุณนะ ให้ตายเถอะ หยิบกะละมังใส่น้ำอุ่นมาเตรียมไว้เลย จะได้อาบน้ำทีเดียว”กุ้ยช่ายบ่นพลางเช็ดก้นแล้วเอาแพมเพิสออก จนสะอาดเอี่ยมน่าฟัดเหมือนเก่า ได้สักพักพ่อตัวดีก็ออกมาจากห้องน้ำบอกน้ำพร้อมจึงอุ้มอันเดรสน้อยเข้าไป กำลังจะถึงประตูห้องน้ำเชียว
แง แง
เสียงร้องจากห้องนอนรับแขกดังขึ้นมาอีก ตั้งโอ๋หาพ่อลั่นบ้าน
คนนึงก็อุ้มเด็กอยู่ ส่วนคนที่ว่างมองหน้ากระพริบตาปริบๆ
“เอ้า จะยืนเฉยทำไมล่ะ คุณก็ไปดูตั้งโอ๋สิ”กุ้ยช่ายบ่น
มาตินยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ แล้วเดินไปห้องนอนรับแขก ตกลงใครเป็นเจ้านายวะเนี่ย
ในห้องน้ำ กุ้ยช่ายเอะใจก่อนที่จะเอาอันเดรสน้อยแก้ผ้าวางลงไปในกะละมัง จึงเอามือจุ่มลงวัดอุณหภูมิน้ำ เกือบชักมือกับแทบไม่ทัน ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงปี๊ดด้วยความโมโห นี่นะน้ำอุ่นของมัน มันจะต้มลูกรึไง ใจใจได้แค่คิดก่อนเทออกแล้วเอาน้ำเย็นผสม พอเห็นเจ้าตัวเล็กยิ้มอ้อแอ้ดีใจ ความโกรธก็หายเป็นปลิดทิ้ง
จังหวะเดียวกันมาตินก็อุ้มตั้งโอ๋ที่มีคราบน้ำตาเต็มหน้าเข้ามา
“นี่คุณ ให้ผมอาบให้ตั้งโอ๋เลยมั้ย”มาตินถาม ใบหน้าคมฉีกยิ้มอย่างเอาหน้า
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู”กุ้ยช่ายหันปรายตามองแล้วหันไปอาบน้ำให้อันเดรสน้อยต่ออย่างอารมณ์ดี
หันไปเห็นมาตินเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำที่อยู่ข้างๆเค้าเตอร์อ่างล้างหน้าที่เขาอาบน้ำให้อันเดรสอยู่ ร่างสูงเทสบู่ใส่จนฟองขึ้นเต็ม จนเจ้าตัวอ้วนส่งเสียงดีใจตื่นเต้นใหญ่
“นี่คุณอย่าให้น้ำร้องเกินไปนะ เด็กไม่ได้หนังหนาเหมือนคุณ”เห็นแล้วมันอดไม่ได้เมื่อมาตินหันมายักคิ้วให้ เหมือนจะอวดที่ทำให้เจ้าตัวอ้วนตื่นเต้นแต่เจ้า น่าหมั่นไส้ กุ้ยช่ายบ่นในใจ
“จ๋าฮับ น้องไม่ย้องแย้วเหยอฮับ”ตั้งโอ๋ถามพลางตีฟองสบู่ในอ่างเล่น
“ไม่ร้องแล้วครับ เพราะน้องไม่ดื้อ ถ้าตั้งโอ๋ไม่อยากดื้อต้องเลิกร้องให้นะครับรู้มั้ย”
“ฮับ ตั้งโอ๋จะไม่ดื้อ”เห็นรับปากทุกที แต่ตื่นนอนทีไร ร้องไห้เรียกหาตลอด
พออาบน้ำเสร็จก็พากันออกมาแต่งตัว ก็แปดโมงเช้า อันเดรสน้อยใส่ชุดแขนยาวขายาวมีหมวกคุมสีน้ำตามีหูกลายเป็นลูกหมีน้อยไปโดยปริยาย ส่วนเจ้าตัวกลมก็ให้ใส่เสื้อผ้าสำรองที่ติดกระเป๋าไว้ ส่วนตัวเองน่ะเหรอ เน่าสถานเดียว
ยิ่งคุณพ่อตัวดีล่ะก็ไม่ต้องถามถึง เสียงอาบน้ำฮัมเพลงอยู่ในห้องน้ำสบายใจเหลือเกิน กุ้ยช่ายหันไปไปอุ้มเจ้าหมีน้อยขี้นแนบอกโยกไปมาแล้วฮัมเพลงบ้าง เจ้าหมีตัวจ้ำม่ำก็เคลิ้มกำลังจะหลับ
“นี่คุณไม่อาบน้ำเหรอ”ตาที่กำลังจะหลับแหล่มิหลับแหล่กลับลืมตาใส่แจ๋วเหมือนเก่าเมื่อได้ยินเสียง
“นี่คุณ อันเดรสกำลังจะหลับ คราวหลังพูดเบา อ่า เบาสิ”ประโยคแรกก็เสียงแข็งอยู่หรอก แต่ประโยคหลังผ่าวเบาจนแทบไม่มีเสียง หันไปก็เจอคุณพ่อตัวดี ยืนเปลือยอกล่ำๆอยู่หน้าประตูห้องน้ำ แผงอกสีเข้มเต็มไปด้วยกล้ามเป็ดมัดๆ ประปรายไปด้วยหยดย้ำแพรวพราว ท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนขาวพันไว้ ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงก่ำ จะโกรธก็โกรธจะอายก็อาย จะอิจฉารึก็ใช่
“โห คุณยุงหย่อยะเบิด โตขึ้นตั้งโอ๋จะมีกล้ามใหญ่แบบคุณยุง”ตั้งโอ๋ที่นั่งอยู่บนขอบเตียงตบมือชอบใจ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่มาตินยักคิ้วอวดกุ้ยช่าย จนกุ้ยช่ายหมั่นไส้ หรืออิจฉาก็ไม่แน่ใจ เสหน้าหลบ
“นี่คุณ จะมายืนแก้ผ้าให้ฟ้าผ่ารึไง ไปแต่งตัวสิ”กุ้ยช่ายหันหลังพูดใส่
“แล้วคุณล่ะ ไม่อาบน้ำเหรอ”
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยุ่ข้างหู เสียงทุ้มกระซิบเบา ไออุ่นๆแผ่ผ่านมาจากทางเบื้องหลัง
“ก็ ก็ผมไม่มีเสื้อผ้า”กุ้ยช่ายแก้เก้อหน้าแดง อุ้มอันเดรสโยกไปมา อันเดรสก็จ้องมองคุณพ่อตาแป๋วพลางดูดจุกนม
“เสื้อผ้าผมก็มีนะ ผมไม่ถือถ้าเป็นคุณ”มาตินบอกข้างหู จมูกโด่งก้มต่ำไปที่คอ สูดดมกลิ่นหอมจางๆ กลิ่นหอมที่ครั้งก่อนยังติดใจไม่หาย หอมแบบไม่ปรุงแต่งเหมือนน้ำหอมฉุนๆที่เหล่าคู่ขาของเขาใช้ ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งอยากสัมผัส ว่าเจ้าเนื้อที่มีกลิ่นหอมจางๆจะนุ่มละมันเหลือนกลิ่นมั้ย สมองคิดแต่เรื่องฉวยโอกาส จมูกเตรียมกดลงไปที่ลำคอขาว
“นี่คุณ จะมายืนใกล้ทำไม ตัวก็เปียก ไปแต่งตัวสิ ผมจะได้อาบบ้าง”กุ้ยช่ายเดินหนี
“ผมแค่จะมาดูอันเดรสเฉยๆ คุณก็ขี้บ่นไปได้”มาตินบ่นยิ้มกริ่มเดินเข้าหากุ้ยช่ายที่ถอยหนี ตั้งโอ๋ก็นั่งมองอยุ่ตาปริบๆ
“เอะนี่ คุณ จะมาเดินตามทำไมเดี๋ยวอันเดรสก็เปียกหรอก ไปแต่งตัวไป”กุ้ยช่ายบ่นหน้าแดงก่ำพาอันเดรสเดินหนี สายตาเหลือบไปเห็นมาตินน้อยดันผ้าขนหนูนูนขึ้นมา
โฮ่งๆ โฮ่งๆ
เสียงกีกี้เห่ามาจากชั่นล่าง มาตินเกาหัวมองหน้ากุ้ยช่าย
“คุณก็ไปดูสิ”กุ้ยช่ายไล่ หน้ายังไม่หายแดง
ร่างสูงทำหน้าบูดเกาหัวเดินลงบันได มือก็กระชับผ้าขนหนูที่เอว กำลังสนุกอยู่เชียว พอลงมาถึงก็เห็นคุณกีกี้ส่ายหางระริกระรี้อยู่หน้าบันได
“มีอะไรครับคุณกีกี้”
กีกี้ไม่ตอบได้แต่วิ่งกระโดดไปที่ประตูหน้าบ้าน แน่นอนล่ะ ถ้ามันตอบก็ได้วิ่งกันล่ะ มาตินเดินเกาหัวไปเปิดประตู
ฉับพลันประตูยังเปิดไม่ทันดีก็ปิดกระแทงปึงเหมือนเก่า มือหนายกกุมหัวใจที่เต้นระรัวกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ คิดได้ก็รีบวิ่งโครมครามขึ้นไปยังห้องนอน
“คุณ คุณ ไปห้อง ไปห้องนอนรับแขก”ร่างสูงดันหลังกุ้ยช่ายไปที่ห้องนอนรับแขก
“อะไรของคุณเนี่ย”กุ้ยช่ายอดที่จะบ่นไม่ได้ เมื่ออันเดรสน้อยไม่ได้หลับได้นอนสักที
“เออน่า ไปห้องนู้นกันให้หมดเลย”
กุ้ยช่ายพยักหน้าแล้วเดินอุ้มอันเดรสเข้าห้องนอนรับแขกส่วนตั้งโอ๋ก็เดินตามพ่อตาปริบๆ
ตามมาด้วยมาตินที่ดันเปลเด็กเขามาหลบอยู่มุมห้อง
“อะไรของคุณเนี่ย”
“ชู่ว เงียบๆนะคุณ พ่อแม่ผมมา”ว่าเสร็จมาตินก็ปิดประตูวิ่งลงข้างล้างทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
หน้าประตู ร่างสูงปัดเนื้อปัดตัวเข้าที่เข้าทาง ฉีกยิ้มแหยๆเต็มที่ จากที่เมื่อสักครู่เป็นหยดน้ำเกาะ ตอนนี้เป็นเหงื่อผุดแทนเต็มตัว
“แฮ่ๆ มอร์นิ่งครับ ลมอะไรหอบมาแต่เช้าครับเนี่ย ผมนี่ตื่นเต้นเลย”ร่างสูงเปิดประตู
“น้อยๆหน่อยมาตี้ เมื่อกี้แกเพิ่งปิดประตูใส่หน้าพ่อกับแม่แก อย่ามาเฉไฉ”
“พอดีผม ตื่นเต้น ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่มา ไม่เห็นต้องลำบากมาเลยนี่ครับ โทรมาบอกให้ผมไปหาก็ได้”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ทำไมแกไม่แต่งตัวดีดี แล้วทำไมเหงื่อโทรมขนาดนี้”หญิงสูงอายุถามพลางมองสำรวจรอบบ้าน
“ไม่มีอะไรครับ พอดีผมออกกำลังกาย”มาตินพูดแล้วจับเอวหมุนซ้ายหมุนขวา จนคนเป็นแม่มองหน้า
“เชื่อตายล่ะ ถ้าฉันเชื่อแก ฉันคงออกลูกมาเป็นหมีควาย ใครจะบ้านุ่งผ้าเช็ดตัวออกกำลังกาย”ผู้เป็นแม่เดินรอบบ้าน
หญิงสูงวัยคน แต่ดูยังสวยสง่ามีราศี พูดภาษาไทยชัดมากเพราะว่ามีพ่อเลี้ยงเป็นคนไทย ใบหน้าหวานจมูกโด่ง โครงหน้าได้รูป ดวงตาและเรือนผมดัดลอนสีน้ำตาลเข้ม ผิวสีน้ำผึ้งตามแบบฉบับชายสเปน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพ่อตัวดีได้ใครมาเต็มๆ
ส่วนคุณพ่อถึงแม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังดูไม่แก่มากนัก ใบหน้าหล่อเหลาตามแบบคนสูงอายุ แต่ยังคงดูมีภูมิฐานตามธรรมดาของนักธุรกิจ แต่ตอนธุรกิจยกให้เจ้าลูกชายตัวแสบแล้ว ส่วนตัวก็ออกรอบตีกอร์ฟ ออกงานสังคมกับภรรยา ท่องเที่ยวดูเส้นทางทัวร์ให้กับบริษัทไปเรื่อยเปื่อย
“นี่แก อย่าบอกนะว่ามีผู้หญิงซ่อนอยู่”
“เฮ้ย ปล่าวนี่แม่ มาเหนื่อยๆนั่งพักก่อนดีกว่า”มาตินรีบขวางก่อนคนเป็นแม่จะเดินขึ้นบันได พลางดันหลังให้ไปนั่งที่โซฟาข้างพ่อ
“นี่แก อย่ามาดันหลังฉัน อย่าให้ฉันจับได้นะว่าพาผู้หญิงมานอน”มีหรือจะยอมคนเป็นแม่ไม่ยอมหยุดง่ายๆ เดินหลบขึ้นบันไดไปจนได้
หญิงสูงวัยเดินไปเปิดประตูห้องนอนลูกชายเข้าไปสำรวจ
“เห็นมั้ย ผมบอกแล้วว่าไม่มี”ร่างสูงปาดเหงื่อ
“อย่าให้ฉันจับได้ก็แล้วกัน”คนเป็นแม่พูดจบก็เดินสะบัดเตรียมลงบันได
เคร้ง
“เสียงอะไร”หญิงสูงวัยหันมาถาม
“เสียงทีวีมั้งครับ สงสัยพ่อดูทีวีเสียงดัง”มาตินบอก ตัวยืนบังประตูห้องนอนรับแขกไว้
“ไหนขอฉันดูห้องนั้นหน่อยสิ”แม่ดันลูกชายตัวใหญ่ออกแล้วเปิดประตูเข้าไป
ปรากฏว่า
เงียบไม่มีอะไรผิดปกติ ร่างสูงชะโงกหน้าเข้าไปดู มือหน้าปาดเหงื่อถอนหายใจโล่ง กำลังจะปิดประตูคืนที่ สาวตาคุณแม่ก็เหลือบไปเห็นบางอย่างผิดปกติอยู่มุมห้อง
เปลเด็ก!!
“นั่นอะไร”เสียงแหลมสูงถามแล้วปรี่เข้าไปที่เปลเจ้าปัญหาทันที
“อา คือ”มาตินอ้ำอึ้งเกาหัวแกรกๆ
“เลิกเกาหัวแล้วตอบฉันมาว่านี่คืออะไร Qué ? respuesta”ประโยคหลังถามเป็นภาษาสเปน(คืออะไร? ตอบมา)
“ก็ เปลเด็กไงครับ”มาตินเกาหัวยิ้มแหยๆ
“แล้ว?”ยืนกอดอกถามอย่างคาดคั้น
“แล้ว มันก็คือเปลเด็ก”
“ฉันรู้ว่ามันเป็นเปลเด็ก แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ก็คือ”มาตินปวดหัวตึ๊บ ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาโกหกดี ตาก็เหลือบมองที่ระเบียงที่มีผ้าม่านปิด แต่ประตูระเบียงยังปิดไม่สนิท ส่งผลให้ผ้าม่านปลิวไสว
“ตอบชั้นมา ก่อนที่ชั้นจะย้ายแกไปอยู่บ้านใหญ่”
“คือ เปลนี่ เป็นของ”กำลังจะโกหกอยู่แล้วเชียว
แว๊ แว๊ แว๊!!!!!
***************
เอาแบบหอมปากหอมคอก่อน ตอนนี้ไม่ค่อยมุ้งมิ้งเท่ารัย
ไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะมาต่ออ่ะป่าว
ร๊ากกคนอ่านฝุดๆ
ถ้าคนอ่านร๊ากคนเขียน
คนเขียนก็จะมาต่อไวๆ
ขอบคุณทุกคนติชมเลยค่ะ
จะเอาไปปรับปรุง
แล้วก็ขอบคุณกำลังใจมากเลย อยู่ได้ด้วยกำลังใจเลย
คนเขียนชอบซาดิส คริคริ นี่พูดเลยฮี่ฮี่

สุดท้ายก็ขอบคุณมากเลยค่ะที่ติดตาม

ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ

บ่นเยอะเดี๋ยวไม่มีใครอ่าน 555+
ตอนต่อไปกดคร่าา
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45960.164