รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 118085 ครั้ง)

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
รักดั่งเส้นขนาน
« เมื่อ25-06-2008 23:56:50 »

เปิดเรื่อง

เรื่องเล่านี้เป็นเรื่องราวของผู้เขียน สมัยที่ยังอยู่ชั้น ม.5 (ตอนนี้ก็ 5 ปีผ่านมาแล้ว) ซึ่งเป็นประสบการณ์รักครั้งแรกของตัวเอง แล้วมันก็ยังคงอยู่ในความทรงจำ ที่นับวันมันก็เลือนลางลงไปทุกที ถ้าได้เขียนออกมาเป็นเรื่องเล่าก็คงจะมีคนอ่าน จึงได้เอามาลงที่นี่กันคับ

เนื้อเรื่องและตัวละครในเรื่องนี้แต่งขึ้นเพิ่อความบันเทิง โดยมีบางส่วนที่มาจากเรื่องจริง เรื่องนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะมีกี่ตอน เพราะเรื่องราวจะค่อนข้างมีความละเอียดพอสมควร และที่แตกต่างกันไปก็คือ จะมีบทสนทนาอยู่ด้วยซึ่งมีเยอะมาก บางอันเราก็จำได้ บางอันเราก็จำไม่ได้ จึงต้องมีการแต่งเติมกันบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังมีพื้นฐานบางส่วนมาจากเรื่องจริงอยู่ดี

นี่เป็นงานเขียนครั้งแรกของผม ลองอ่านดูนะคับ มันอาจไม่ซึ้ง ไม่หนุก ก็โพสReplyเอาไว้ จะได้ปรับปรุงเนื้อหาและทักษะการเขียนให้มันดีกว่านี้คับ

--------------------------------------

ตอนที่ 1 จะทักทำไม
“เฮ้ย นายนาย คนนั้นน่ะ มานี่หน่อยดิ”
ผมไม่ได้ยินเสียงนี้ครั้งแรกในชีวิตผมหรอกคับ ผมเคยได้ยินเสียงมันมาก่อน แต่ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้พูดกับผมนี่หว่า มันเป็นหัวหน้ากองร้อยตอนเรียน ร.ด.ปี1 (ม.4) น่ะคับ ดังนั้นเวลาจะทำความเคารพครูฝึกก็ต้องได้ยินเสียงมันเป็นธรรมดา

ผมชื่อใหญ่คับ อายุตอนนั้นก็16ปี อยู่ชั้น ม.5 ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง (ติดอันดับ1ใน100ด้วย) ผมเองหน้าตาก็พอใช้อ่ะคับ ไม่หล่อ ไม่ขาว ไม่เตี๊ย ไม่ผอมแต่ไม่อ้วนคับ แต่สิ่งหนึ่งที่รู้อยู่แก่ใจก็คือ ผมชอบผู้ชายคับ ดูข้างนอกก็ดูไม่รู้เพราะไม่แสดงออก แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีแฟนเป็นผู้ชายซักที และก็ไม่คิดจะมีด้วยตอนนั้น ไม่มีใครถูกชะตาซักคน คบกันเป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้วคับ มิตรภาพของเพื่อนอยู่ได้ยาวนานกว่าอยู่แล้ว

แล้วไอ้คนที่มันเรียกผมอ่ะใคร มันชื่อเดชคับ เรียนอยู่คนละห้องกับผม มันเป็นหัวหน้ากองร้อยคับ เป็นตั้งแต่มันอยู่ ม.4 เป็นผู้ชายที่แบบว่าไงล่ะ ขี๊เก๊ก เตี๊ยแต่ไม่เจียม หมั่นใส้ ชอบโชว์พาเวอร์ตอนเรียน ร.ด. เสียงดังน่ารำคาญโคตรๆ อยู่ใกล้ๆยังพูดดังๆ กลัวเขาไม่รู้รึไงว่าคุยไรกันน่ะ ลักษณะภายนอกหน้าตาก็ไม่ดีซักเท่าไหร่หรอกคับ เตี๊ยกว่าผม แต่รูปร่างสมส่วนกำลังดี ขาวกว่าผมแต่ไม่ได้ขาวเว่อร์ เดชมีเพื่อนสนิทอยู่ 3 คนคับ ชื่อเต้ เข้ม แล้วก็เอก

ชั่วโมงนั้นเป็นชั่วโมงพิเศษคับ เป็นคาบวิชาเคมี ที่อาจารย์ให้รุ่นพี่ที่จบไปแล้วมาสาธิตการทำสื่อการสอน (ตั้งแต่ ม.5 อ่ะนะ) แล้วห้องที่เรียนกับอาจารย์คนนี้ทั้งหมดก็เข้าไปฟัง แต่ว่าใครว่างก็เข้าไปฟัง ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร แล้วเราก็ว่างกับเพื่อนในห้องอีก 10 กว่าคนก็เข้าไปฟัง >>> จะได้ทำเป็นไงล่ะ แล้วห้องเดช เดชกับเพื่อนห้องมันก็เข้ามาฟังอยู่ 10 กว่าคนเช่นกัน

หลังจากรุ่นพี่สาธิตเสร็จก็เป็นการตอบข้อสงสัย แต่เราก็ไม่เคยจะสงสัยหรอก หันไปคุยกับเพื่อนตามปกติ แล้วตอนนั้นมันก็แหกปากเรียกผมดังสนั่น ไม่รู้จะเรียกทำไมดังอย่างงั้น อายคนเขาบ้างเซ่ะ คนมันก็ไม่ใช่น้อย หลังจากสิ้นสุดคำเรียกผมก็เดินไปหา หน้าตาหงุดหงิดเล็กน้อยถึงปานกลาง รู้จักกันก็ไม่ ทำไมต้องเดินไปหามันด้วยอ่ะ

“มีไรเหรอ”
“โห เราอุตส่าห์ทักดีดีนะเนี๊ย”
“อ๋อ นี่เหรอเรียกว่าดี แหกปากให้เขารู้กันทั้งห้องอ่ะนะ”

แต่ทั้งห้องก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะว่ามันจบการสาธิตแล้ว เหมือนปล่อยพักอ่ะ

“เราจะจีบต่ายน่ะ”
“แล้วไง”
“นายช่วยหน่อยเด่ะ นะนะ เห็นนายก็สนิทกับต่าย”
สวนกลับไปทันที “ไม่ แล้วมีไรอีกป่ะ”
“โห ไรวะ ยังไม่ทันจะคุยกันเลย ปฏิเสธซะละ”
“อ้าว ในเมื่อรู้ชื่อว่าต่ายแล้ว ทำไมไม่ไปจีบเองล่ะ”
“ก็ไม่กล้า ก็นายก็อยู่ห้องเดียวกับต่าย ก็ช่วยเราหน่อยเถอะ”
“ทำไมต้องช่วย”
“เออเออ จำไว้ ไม่ช่วยนะ เออเออ จำไว้”
“อย่าให้จำไว้นานล่ะ รกสมอง” (ต่อปากต่อคำเก่งเหมือนกันนี่หว่า)
 “ปากดีเหมือนกันนี่หว่านายอ่ะ”
“แน่นอน มีไรอีกป่ะ”

ไม่ทันฟังคำตอบ ผมก็เดินออกมาจากตรงนั้นเลย กลับมาเข้ากลุ่มเพื่อนๆเช่นเดิม จนจบการสาธิตก็เดินออกจากห้องไป กลับไปที่ห้องเรียนของตัวเองเพื่อเอากระเป๋า จะไปเรียนพิเศษ เพราะตอนนั้นก็ 4 โมงกว่าแล้วด้วย เด๋วไปสยามไม่ทัน แต่ระหว่างที่จะเดินออกไปนอกโรงเรียนอ่ะดิ ผมก็เดินไปกับเพื่อนตามปกติแหล่ะคับ แล้วเดชมันก็เดินมาหา บอกว่ามีธุระจะคุยด้วย ให้เพื่อนเราเดินไปก่อน
 
“มีไร” เราเริ่มถามก่อน เพราะว่ารีบ
“เราชื่อเดชนะใหญ่”
“ไปรู้ชื่อเรามาจากไหน” – แน่ะยังจะต่อปากต่อคำกับมันอีก
“เออน่า ขอเบอร์ต่ายหน่อย”
“ไม่ให้ ถ้าเพื่อนไม่อนุญาต”
“นะนะ ขอหน่อยดิ”
“มี 0 กับ 2 สองตัว ที่เหลือไปหาเอาเอง”
“ไรเนี๊ย รู้ว่า 02-......... แล้วอะไรต่อเล่า”
“โทษนะ เรารีบ เราจะไปสยาม เพื่อนเรารออยู่”
“ไปทำไร”
“ทำไมต้องบอกแกล่ะ”
“เออ ก็แค่ถามดู”
“เออ ขอเบอร์ใหญ่ได้ป่ะ”
“ไม่”
“เอาไว้โทรคุยกันไงล่ะ”
“ไม่ ไปล่ะ”

แล้วผมก็วิ่งไปเลย เพื่อนมันรอผมคนเดียว รู้สึกผิด แล้วหนึ่งในนั้นก็ถาม

“ใครวะใหญ่”
“แฟนคลับของต่ายน่ะ จะมาจีบต่าย แต่อยู่อีกห้องนึงอ่ะ เขาเห็นกรูสนิทกับต่ายมั้ง ก็เลยจะใช้กรูเป็น...พ่อสื่อมั้ง”
“ได้ไงวะ มรึงก็รู้ว่าไอ้ไม้มันก็จีบต่ายอยู่ แล้วมรึงว่าไง ไอ้ไม้รู้ยัง”
“กรูก็ไม่ได้ว่าไรไปหรอก มันมาขอเบอร์แต่ก็ไม่ได้ให้ไป แล้วกรูก็รู้ว่าไอ้ไม้มันก็จีบต่ายอยู่ กรูไม่หักหลังเพื่อนหรอกน่า ยังไงก็อย่าไปบอกไอ้ไม้ละกัน เด๋วมันรู้แล้วมันจะไม่สบายใจเพราะคู่แข่งมันจะเพิ่มขึ้น”

แล้วผมกับเพื่อนก็เดินทางไปสยามเพื่อไปเรียนพิเศษกัน เกือบไปสายแหน่ะ เพราะเดชคนเดียว วันหลังเจอหน้ากรูจะด่า
-------------------------------

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 20:37:49 โดย THIP »

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #1 เมื่อ01-07-2008 22:14:39 »

 :a12:
ไม่มีคนมาเม้นเลยอ่า...

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #2 เมื่อ03-07-2008 22:53:37 »

ตอนที่ 2 กว่าจะได้ เล่นเอาเหนื่อย
 :m29:
“เฮ้ย ใหญ่ หวัดดี”
“เป็นใครมาหวัดดีเราน่ะ”
“ทักไม่ได้ใช่ป่ะ หยิ่งเหรอ”
“ได้ แต่ไม่ใช่แก มันไม่คู่ควรกับการทักทาย”
“ขอเบอร์ต่ายหน่อยดิ”
“บอกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าต่ายไม่อนุญาตก็ให้ไม่ได้”
“ต่ายไม่รู้หรอกน่า”
“ไม่ ก็คือไม่”
ด่ากันจบก็เดินเข้าห้องเรียนทันทีอย่างไม่มีการเหลียวหลังหันมามอง

นี่เป็นบทสนทนาในเช้าวันที่สอง หลังจากที่เมื่อวานเราได้คุยกัน แบบไม่สบอารมณ์ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเราไม่ชอบไอ้เดชมันอยู่แล้ว แล้วมันจะยังมาตามตื้ออีก มีเหรอที่คนอย่างเราจะเอาไว้ ห้องเรียนของเรากับของเดชใกล้กันคับ อยู่ถัดกันไป 2 ห้องเอง ผมอยู่ห้องริมสุดติดบันได ส่วนห้องเดชก็อยู่เลยไปอีก 2 ห้อง ซึ่งเวลาเดชมันจะเดินไปไหนมันก็ต้องผ่านห้องผมเป็นเรื่องธรรมดา  แต่โชคดีอยู่อย่างนึงคือ เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ จะไม่เจอห้องเดช เพราะจะเข้าแถวเป็น Blockๆ ละ 6 ห้อง แล้วห้องสุดท้ายของBlockแรกก็คือห้องผมพอดี ห้องเดชจะเป็นBlockที่สอง ดังนั้นตอนเข้าแถวผมจึงไม่เห็นห้องมัน

กิจกรรมการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างปกติ จนถึงเวลาพักกลางวัน วันนี้ไม่รู้ทำไมผมถึงไปกินข้าวกับต่าย เพราะผมมีเรื่องอยากจะคุยกับต่ายซะหน่อย เรื่องเดชนั่นแหล่ะ แต่โดยปกติกลุ่มของผมกับต่ายก็มักจะนั่งโต๊ะใกล้ๆกันอยู่แล้ว ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผมจะไปนั่งกับต่าย เพื่อคุยอะไรบางอย่าง ในขณะกำลังเดินจากโรงอาหารเพื่อกลับไปที่ห้องเรียน ผมก็ขอคุยกับต่ายเป็นการส่วนตัว

“ต่าย ถามไรอย่างนึงดิ”
“เรื่องเดชใช่ป่ะ”
“รู้ได้ไงอ่ะ”
“ไม้มันบอก มันบอกว่าเห็นแกอ่ะไปคุยกับเดช”
“ไอ้ไม้มันรู้ได้ไง”
“ไอ้รักษ์มันบอก มันบอกว่าแกคุยกับมันเมื่อวาน เรื่องนี้”
“อืมๆ ใช่แหล่ะ จริงๆก็ใช่ ว่าแต่จะให้เราทำยังไงล่ะ”
“ทำยังไง อะไร”
“เรื่องที่ว่ามันจะขอเบอร์แกอ่ะ”
“ไม่ให้นะ ขอร้องเหอะ เราไม่อยากมีภาระตอนนี้ เราไม่อยากมีแฟน”
“นี่แกรวมถึงไอไม้ด้วยป่ะ”
“ใช่ๆ ขอร้องเหอะนะ ถ้าคบเป็นเพื่อนน่ะเรายินดี แต่ถ้าจะมาเป็นแฟนน่ะ เราขอเถอะ นะนะ ใหญ่ อย่าให้เบอร์เรากับเดชเลยนะ”
“เออเออ ไม่ให้ก็ไม่ให้”
แล้วเราก็เดินมาถึงห้องเรียนกันอย่างสงบ กับเพื่อนกลุ่มเราและก็กลุ่มต่าย โดยนิสัยส่วนตัวต่ายเป็นคนที่ขยัน ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างต่ายก็จะเอาหนังสือมาอ่าน เอาการบ้านที่สงสัยมาถามคนนั้นคนนี้ บางทีก็เอาการบ้านจากที่เรียนพิเศษมานั่งทำ บางทีก็เอามาถามเราบ้าง ถามคนอื่นบ้าง นับว่าต่ายก็เป็นคนขยันที่สุดในห้องคนนึงก็ว่าได้ รองจากไอ้เด็กเทพที่มันได้แต่ 4.00 มาตลอดชีวิต แต่ผมน่ะ พักกลางวันก็คือเวลาพักคับ พักจริงจัง เล่นโน้นเล่นนี้ ตั้งแต่เตะบอล เล่นน้ำเต้าปูปลา โบราณเรียกชื่อ จนถึงการ์ดที่มี 52 ใบ แจกคนละสองใบให้มีแต้มรวมกันใกล้ๆเก้า

กิจกรรมการเล่นของผมก็ดำเนินไปตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ มันมีเสียงเรียกชื่อผม ไม่ใช่เพื่อนเรียกหรอก แต่เป็นเสียงไอ้เดช มันเรียกผมจากห้องมันเอง คิดดูละกันว่าผมอยู่ห่างกับมัน 2 ห้องแต่ผมได้ยิน ใครได้ยินก็คงรำคาญใช่ป่ะล่ะ เมื่อผมได้ยินตอนแรกผมก็ไม่สนใจ เพราะผมคิดว่ามันคงเรียกเพื่อนในห้องมันเองแหล่ะมั้ง ซักพักมันก็เงียบคับ แล้วก็ส่งตัวแทนเพื่อนมันมาเรียกผมแทนถึงที่ห้องเรียนผมเลย ผมบอกกลับไปบอกว่าเด๋วจบตานี้ผมเดินไปหามันเอง แล้วก็บอกขอบคุณที่อุตส่าห์เดินมาบอก (นึกในใจ วันหลังไม่ต้องก็ได้นะ) ผมทำตามคำพูดคับ จบตานั้นผมก็เดินไปหามันที่ห้อง

“เรียกตั้งนานไม่ยินเหรอ”
“ได้ยิน แต่ไม่คิดนี่หว่าว่าจะเรียกเรา”
“แหกปากซะลั่น หูตึงรึไงล่ะ เรียก ใหญ่ๆๆๆ”
“จะรู้ไม๊ล่ะ นึกว่าเรียกเพื่อนห้องตัวเอง ว่าแต่มีไรล่ะ กำลังมือขึ้น จะไปเล่นต่อ”
“เมื่อตอนไปกินข้าว เราเห็นแกคุยกับต่าย”
“เพื่อนกันคุยกันไม่ได้หรือไง”
“จะไม่ถียงซักครึ่งนาทีได้ไม๊ว้า....”
“....เออ เออ ก็คุยเรื่องแกอ่ะ บอกว่าแกจะจีบเขา แล้วก็บอกว่าแกอ่ะจะขอเบอร์ แต่เสียใจด้วยนะ เขาไม่ให้ว่ะ”
“จริงอ่ะ โห่ย ช่วยหน่อยเหอะ ตื้อเยอะๆเดชะ เด๋วต่ายก็ใจอ่อนเองแหล่ะ”
“เราคงช่วยไม่ได้จริงๆแหล่ะนะ เพราะขนาดเพื่อนห้องเรา เขายังไม่อยากจะเป็นแฟนด้วยเลย ต่ายเขาบอกว่าเขาไม่พร้อมตอนนี้ เขายังไม่อยากมีแฟน”
“ไอ้ไม้ใช่ป่ะ แต่ถึงยังไง ไอ้ไม้ก็มีเบอร์ต่ายอ่ะ แกเอาเบอร์ต่ายมาให้หน่อยเหอะน่า”
“โทษทีนะ เราไม่อยากผิดสัญญาเพื่อนว่ะ ขอโทษจริงๆ แล้วมีอะไรอีกป่ะ เด๋วจะเรียนคาบบ่ายแล้ว”
“ตอนเย็นหลังเลิกเรียน นายมาหาเราที่ห้องเรียนหน่อยดิ มีเรื่องจะคุยด้วย”
“เออเออ” - -ผมตอบรับมันด้วยความจำเป็นก่อนที่ผมจะเดินกลับห้องไป

แล้วตอนเย็นหลังเลิกเรียนผมก็เก็บกระเป๋าอะไรเรียบร้อย วันนี้ไม่ต้องไปเรียนพิเศษ ผมเลยอยู่เย็นได้ แล้วก็พอดีเพื่อนผมชวนไปกินน้ำปั่น แล้วพวกมันจะไปเล่นเกมกันต่อ ผมบอกว่าเด่วจะไปกินน้ำปั่นด้วยละกัน แล้วเด๋วจะกลับบ้านเลย เมื่อตกลงกันเรียบร้อยผมก็เดินไปหาเดชที่ห้องเรียนของมัน เดชกำลังเดาะบอลเล่นอยู่ เมื่อมันเห็นผมมันก็ทัก

“มาเร็วดีนี่”
“มีไรว่ามา เร็วๆ เพื่อนรอ”
“จะมีซักวันไม๊ที่ไม่รีบไปกับเพื่อน”
“อะไรล่ะ ว่ามาเซ่ะ ถ้าไม่มีจะไปละนะ”
“ขอเบอร์นายหน่อยดิ”
“ไม่ให้”
“ไว้โทรคุยกันไงล่ะ”
“โรงเรียนก็มีให้คุยกัน เจอกันก็ทักกันได้”
“อย่างกับแกเคยทักเราดีดีงั้นแหล่ะ”
(คิดไปก็จริง) “เออ ต่อไปจะทักดีดีก็ได้”
“นะนะ ขอเบอร์นายหน่อยดิ”
“02-XXXXXXX อย่าโทรก่อน 6 โมงเย็น เพราะยังไม่กลับ และอย่าโทรหลัง 4 ทุ่มเพราะนอนแล้ว”
“เรื่องมากจริงๆ ขอบใจเว้ย”
“เรียกมาแค่นี้ใช่ป่ะ”
“โห เพื่อนรัก ขอบคุณค้าบ...ที่มาหา”
(คิดในใจ เป็นเพื่อนรักกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ) “เออ ไปละ เพื่อนรอ บายๆ”

แล้วผมก็เดินกลับห้องไปเอากระเป๋า แล้วก็เดินออกจากโรงเรียนไปกับเพื่อน กินน้ำปั่นตามแผนที่ได้วางไว้ แล้วผมก็กลับบ้านคับ
---------------------

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #3 เมื่อ06-07-2008 14:48:43 »

มาให้กำลังใจค่ะ

 สนุกดีค่ะ...รออ่านต่ออยู่นะค่ะ

 :bye2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #4 เมื่อ07-07-2008 12:03:10 »

ตอนที่ 3 โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย

ผมก็กลับบ้านไม่ค่อยจะเหมือนทุกวันแหล่ะคับ ทางกลับบ้านผมบางวันเปลี่ยวๆ ก็เดินเอา บางวันเพื่อนเยอะ ก็ขึ้นรถเมล์ บางวันผมจะไปเล่นเกม ก็นั่งรถเมล์กลับบ้านคับ วันนี้ก็เหมือนเคย ไปกินน้ำปั่นแล้วก็นั่งรถกลับบ้าน พอดีวันนี้ไม่มีอารมณ์เล่นเกม เลยขอกลับละกัน เมื่อกลับถึงบ้านผมก็กินข้าว อาบน้ำ ดูทีวีตามปกติ แล้วสิ่งที่ไม่ปกติก็เกิดขึ้น เมื่อมีโทรศัพท์มาถึงผม ซึ่งปกติมันก็ไม่ค่อยจะมีหรอก แม่เราก็เดินไปรับ แล้วก็บอกว่าให้เราไปคุย บอกว่ามีธุระสำคัญ ไอ้เราก็นึกว่าสงสัยจะเป็นเรื่องรายงานภาษาไทยล่ะมั้ง

“ฮัลโหล ไอ้ใหญ่เหรอ”
“เออ ใครน่ะ”
“เดชไงล่ะ”
“เออ มีไรเหรอ”
“คุยเฉยๆไม่ได้เหรอว้า...... (เสียงออดอ้อนเต็มที่)”
“คุยไรล่ะ โรงเรียนเจอกันก็คุยกันก็ได้”
“อยากคุยตอนเนี๊ยะ”
“มีไรจะคุยล่ะ”
“ถามเรื่องไอ้ไม้น่ะ ที่มันจะจีบต่าย”
“เออ ทำไม ก็รู้ เห็นว่าจะจีบมานานแล้วด้วย”
“นั่นแหล่ะ นั่นแหล่ะ ใหญ่คับ ช่วยเดชด้วยนะ เดชอยากจีบต่ายจริงๆ”
“แกไปบอกเขาเองเหอะปะ เราช่วยไม่ได้ว่ะ ก็อยากช่วยอ่ะนะ แต่แกคิดดู ต่ายเองก็ไม่อยากมีใครเป็นแฟนเขาตอนนี้ แล้วไหนจะมีไม้ที่จะจีบอีกล่ะ แล้วคนอื่นๆอีกล่ะที่เราไม่รู้ แล้วจะแกอีกล่ะ”
“ใหญ่ ก็นายไงล่ะที่จะเข้าไปช่วยให้เราเป็นแฟนต่าย”
“แกคิดดีดีนะ ไม้มันเป็นเพื่อนห้องเรานะ ถ้าต่ายจะได้เป็นแฟนใคร มันก็น่าจะมาเป็นแฟนกับไม้ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่เพื่อนของตัวเอง เพราะอย่างน้อยเราก็สามารถเชื่อใจไม้ได้ว่ามันไม่ทำอะไรต่ายแน่นอน”
“เราก็ไม่ทำอะไรต่ายหรอกนะ เขาเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะเว้ยเฮ้ย”
“แล้วเราจะเชื่อได้ยังไงล่ะ”
“ขอเบอร์ต่ายหน่อยดิ”
“อ่ะโธ่ สุดท้ายก็วนมาเรื่องนี้ นี่คือเรื่องหลักที่โทรมาใช่ป่ะ”
“อย่าว่างั้นดิ ใหญ่เพื่อนรัก” (น้าน....ไปรักกันตอนไหนวะน่ะ)
“เอางี๊ ไว้เราไปถามต่ายอีกที ถ้าต่ายให้ก็จะให้ ถ้าต่ายไม่ให้ก็ไม่ให้ โอเคนะ”
“ไม่ แกต้องเอาเบอร์ต่ายมา ไม่ว่ายังไง เรารู้นะแกมีเบอร์ต่าย”
“เราคุยกันไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า ถ้าต่ายไม่อนุญาตเราก็ให้ไม่ได้น่ะ”
“เออน่า ต่ายไมรู้หรอกเอาจากใคร”
“รู้แน่นอน เพราะเราบอกต่ายแล้วนี่นาว่าแกจะจีบเขา แล้วก็ใช้ให้เราไปขอเบอร์”
“เอางี๊ เราจะบอกว่า ใหญ่เผลอทำสมุดภาษาไทยร่วง แล้วเราก็เก็บขึ้นมา พอดีเห็นเบอร์เลยโทร นายว่าเจ๋งป่ะ”
“แทบจะทั้งห้องเขารู้นิสัยเราหรอกน่า ว่าเราไม่ซุ่มซ่ามขนาดนั้น เรื่องสมุดตกน่ะไม่มีทางเลย แล้วเราก็ไม่เคยเขียนเบอร์โทรเพื่อนลงสมุดเลย”
“สรุปว่า ไม่ให้ ใช่ป่ะ”
“เออ ไม่ให้”
“เออ ว่าแต่แกทำไรอยู่วะใหญ่”
“ตั้งนานเพิ่งจะมาถาม ดูทีวีอยู่ เสียอารมณ์หมดเลยแ_ร่ง”
“เออ ขอโทษ ก็อยากคุยด้วยนี่นา”
“โรงเรียนก็มีทำไมไม่คุย”
“ก็ตอนอยู่โรงเรียนนายคุยไม่ถูกชะตาเลยอ่ะ เราเกือบโมโหใส่นาย แต่เราก็อดทนไว้ เพราะเราจะจีบเพื่อนนาย ยังไงก็ต้องใช้นายอยู่ดี”
“โห ตรงดีเนอะ วันหลังไม่ต้องมาเรียกเลยนะ เห็นเราเป็นสะพาน ว่างั้นเถอะ”
“อย่าว่าอย่างงั้น เรียกว่า กามเทพดีกว่า”
“โคตรลิเก - มีไรอีกไม๊จะไปดูทีวีต่อ”
“ขอไรอย่างดิ เวลาคุยกับเรา คุยกันดีดีหน่อยได้ป่ะ ถึงเราจะจีบต่าย แต่นายก็เป็นเพื่อนเรานะ เราอยากคุยกับนายดีดีดูบ้าง อย่าดุใส่เราดิ”
“เออๆ จะพยายาม”
“โชคดีใหญ่ ฝันดีนะ”
“เออๆ เช่นกัน”
พูดจบก็วางโทรศัพท์ไป ไม่วางเปล่าล่ะซิ ใจมันก็คิดโน่นคิดนี่ เรื่องเดชนั่นแหล่ะ เราไม่เคยพูดดีๆกับมันเลยตั้งแต่รู้จักมันมา 2 วัน มันก็คงจะน้อยใจเป็นแหล่ะ อยากเป็นเพื่อนกันแต่ก็ไม่เคยพูดดีดี สงสัยเราคงต้องคุยดีดีกับมัน คบมันเป็นเพื่อน แม้จะคงละห้องก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง

เช้าวันศุกร์ ตื่นเช้ามาเราก็ไปโรงเรียนเป็นปกติ (สายเป็นปกติ แล้วทั้งโรงเรียนก็ต้องรอเราไปเชิญธงชาติ สรุปเช้านั้นเข้าห้องเรียนคาบแรกสายไป 10 นาที เพราะเรา)  เรียนคาบเช้าแล้วก็พักกลางวันเช่นกับทุกวัน พอเรากินข้าวเสร็จระหว่างทางกลับห้องเราก็คุยกับต่ายเรื่องเดชนั่นแหล่ะ บอกไปว่ามันโทรหาเราแล้วก็ออดอ้อนที่จะขอเบอร์ต่าย และต่ายก็ยังคงยืนยันที่จะไม่ให้เบอร์ อืม ไม่ให้ก็ไม่ให้ ไม่อยากขัดใจเพื่อน ไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจ แล้วพักกลางวันนั้นก็โดนเดชเข้าไปเรียกพบเช่นเดิมที่ห้องของมัน คราวนี้มันไม่แหกปาดกเรียกแล้ว มันให้เพื่อนเดินาเรียกเราที่ห้อง แล้วก็ถามเรื่องเบอร์โทรเหมือนเดิม เราก็บอกว่าต่ายไม่ให้เหมือนเดิม เสียใจด้วยนะ (คราวนี้เราคุยกับมันดี) แล้วก็ขอกลับห้องไปอย่างสุภาพ

หลังเลิกเรียนเรากำลังเก็บกระเป๋าหนังสือ พยายามเอาของกลับบ้านให้น้อยที่สุด เพราะมันหนักและยังต้องไปเรียนพิเศษอีก ระหว่างกำลังเก็บของเข้ากระเป๋าก็มีคนมาเรียกข้างหลัง ใครล่ะ เดชนั่นเอง มันก็กล้าเนอะที่มันมาเรียกเราด้วยตัวเอง เพื่อนๆในห้องก็หันมามองแต่ก็ไม่สนใจอะไรมากมาย มันเดินจูงมือเราไปที่ห้องเรียนของมัน ในมุมที่ไม่ค่อยจะมีคนสังเกตได้จากภายนอก เดชจูงมือเราเดินไปหาเพื่อนของเดชอีก 3 คน สายตาที่เพื่อนเดชมองเราอย่างกับเป็นนักโทษ แล้วก็เริ่มเปิดฉากบทสนทนาขึ้น โดยเพื่อนของเดชคนหนึ่ง

“ใหญ่ ไอ้เดชมันชอบต่ายจริงๆนะ ตั้งแต่อยุ่กับมันมาปีนึง ไม่เคยเห็นมันเพ้อถึงใครมากมายอย่างงี๊มาก่อน”
 “ใช่ๆ”อีกคนเสริมขึ้น
“ให้เราทำไงล่ะ”
“ใหญ่ แกไม่ต้องทำไรมากเว้ย เอาเบอร์ต่ายให้ไอ้เดชมัน”
“เราทำงั้นไม่ได้ว่ะ เรารักเพื่อน เราอยากเห็นเพื่อนมีความสุขในสิ่งที่เพื่อนมันจะมี อะไรที่เพื่อนเราสบายใจเรายินดีทำ และสิ่งที่เพื่อนเราสบายใจก็คือ การที่เราไม่ให้เบอร์โทรของเขากับคนอื่น”
“ใหญ่ค้าบ......” เดชพูดพร้อมกับกุมมือของเราไปที่หน้าอกของมัน “ถือว่าช่วยหมาวัดอย่างผมละกันนะ”
“อืม เอาเบอร์ให้เดช แค่นั้นก็จบ” เพื่อนเดชเสริม
“เอางี๊ ถ้าใหญ่เอาเบอร์ให้เดช เดชมันจะยอมแกทุกอย่างเลยอ่ะ” เพื่อนเดชอีกคนเสริม แล้วก็หันไปมองหน้าเดช “เอาน่า รักคือการลงทุน”
“เราไม่ได้หวังขนาดนั้น เอางี๊ เสาร์-อาทิตย์ต่ายจะไปเรียนพิเศษ เด๋วเราลองแวะไปถามให้ละกัน เผื่อต่ายเขาใจอ่อน”
“ขอบใจมาก ใหญ่” แล้วเดชก็เข้ากอดเราซะแน่น จนเราอายคนในห้องเดชที่ยังอยู่ “แล้วคืนนี้จะโทรหานะ”

แล้วผมก็กลับมาที่ห้องคับ กลับมาพร้อมกับความรู้สึกบอกไม่ถูก ผมไม่เคยถูกเพื่อนกอดเลยคับ ถ้าไม่นับวันจากเหย้า หรืองานอำลาอะไรเนี๊ย ผมไม่เคยไปกอดใคร หรือมีใครมากอดผมเลยคับ และส่วนใหญ่เพื่อนในห้องผม พวกผู้ชายมันก็ไม่กอดกันหรอกคับ แม้กอดคอกันก็ยังไม่เคย แต่เมื่อผมถูกกอดครั้งนี้ ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมมันอบอุ่นอย่างนี้ ทั้งๆที่ผมกับเดชก็เพิ่งจะรู้จักกันไม่นานนี้เอง ผมก็เหม่อๆ จนเพื่อนบอกว่าสี่โมงครึ่งแล้ว เด๋วไปเรียนพิเศษไม่ทัน เอากับเขาสิ อยุ่ห้องคิง เรียนกับเด็กระดับเทพ ผมก็ต้องปฏิบัติตามเทพด้วย (เผื่อจะได้เป็นเทพกับเขามั่ง) แต่ก็ดีนะคับ เรียนก็เรียน เล่นก็เล่นคับเพื่อนห้องผม

ชีวิตของเด็ก ม.ปลายในเมืองหลวงนี่ก็เหนื่อยนะคับ เช้าไปโรงเรียน ไปคุย เย็นๆไปเรียนพิเศษกัน ซึ่งผมก็ไม่ต่างจากเด็กพวกนี้หรอกคับ ต้องไปเรียนพิเศษ ทั้งๆที่ก็ไม่ค่อยอยากเรียนซักเท่าไหร่คับ ตามเพื่อนมากกว่า ที่ไหนเพื่อนมากก็ลากกันไป ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถูๆไถๆกันไป ผมเป็นคนที่รักเพื่อนมากคับ ผมจึงไม่ค่อยจะอยู่คนเดียว (ฟังเพลง – เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย จะได้อารมณ์มาก) เมื่อผมกลับถึงบ้านก็มีเบอร์โทรศัพท์อันนึงวางบนโต๊ะ (ตอนนั้นมือถือยังไม่แพร่หลายขนาดนี้นะคับ) แม่บอกว่าคนชื่อเดชให้โทรกลับด้วย ผมก็ล้างหน้าถอดเสื้อและกางเกงออก นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้วก็มาโทรศัพท์หาเดช

“ขอสายเดชคับ” – เราบอก
 “ใหญ่เหรอ กำลังรออยู่เลย ไปไหนมาน่ะ”
“เรียนพิเศษ ที่สยาม”
“ต่ายไปด้วยป่ะ”
“ไม่ได้ไป ต่ายเรียนวันอาทิตย์”
“เหรอเหรอ จดไว้ก่อนนะ”
“จดไปทำไม” – เราถาม
“ก็...นะ เผื่อเราได้เป็นแฟนต่าย จะได้ไปรับถูกวันและเวลา แล้วรู้ป่ะว่าเรียนรอบกี่โมง”
“ไม่รู้ ไม่เคยถาม”
“มีไรอีกไม๊ จะไปอาบน้ำ”
“ตอนนี้นุ่งชุดไรอยู่” – น้าน ถามมาได้
“ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว”
“เซ็กซี่เว้ยเห้ย”
“คิดไรอยู่น่ะ”
“คิดว่า ใหญ่ในชุดผ้าเช็ดตัวผืนเดียว มันจะสยองยังไง”
“มีไรอีกป่ะ” – เราถาม
“พรุ่งนี้เราจะไปสุพรรณ เอาไรป่ะ”
“ไปทำไรอ่ะ”
“เอาของไปให้พ่อที่สุพรรณ เออลืมบอก เราเป็นคนสุพรรณ”
“อ่ะเหรอ”
“ใหญ่เป็นคนจังหวัดไรล่ะ”
“กรุงเทพ”
“ดำอย่างงั้นน่ะนะ อยู่กรุงเทพ” – แล้วเดชก็หัวเราะ
“ขำไรวะ จะไปอาบน้ำแล้วนะ ร้อนๆ”
“แก้ผ้าเลยดิ”
“ตลกละ” (ใจไม่กล้าพอ)
“เออใหญ่ไปอาบน้ำเหอะ ว่าแต่ไม่เอาอะไรใช่ป่ะ”
“ไม่อ่ะ ขอบคุณ”

ร่ำลากันซักพัก ผมก็ไปอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำไปก็คิดว่า ไอ้เดชนี่มันก็ขำๆเนอะ แม้ภายนอกมันจะไม่น่าคบก็ตาม แต่มันก็เป็นคนดีเลยทีเดียว ไม่รู้ดิ เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงเป็นอย่างงั้น พออาบน้ำเสร็จผมก็หลับไปเลย โดยเรื่องของเดชก็วนเวียนในหัวก่อนจะหลับ ก่อนจะนึกในใจว่า  “โชคดีในการเดินทางนะ”
----------------------

ปล. ดีใจจังมีคนเม้นแล้ว :oni2:

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #5 เมื่อ07-07-2008 21:41:13 »

มาทักทายและให้กำลังใจอีกค่ะ

     หนูว่าพี่น่าจะย้ายกระทู้นะค่ะจะได้มีคนไปเม้นให้เยอะๆ
 
    จะได้มีกำลังใจมากกว่านี้ย้ายไปหน้านิยายเลยน้า
 
    จะติดตามอ่านตอนต่อไปนะค่ะ ....  สู้   :a2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #6 เมื่อ07-07-2008 22:13:37 »

ขอบคุณคับ
 :m23:
ว่าแต่ผมจะย้ายไปยังไงอ่ะคับ
ต้องบอกใครหรือเปล่า

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รัก&#
«ตอบ #7 เมื่อ08-07-2008 22:22:44 »

คงไม่ต้องบอกใครหรอกค่ะ
การย้ายก็น่าจะต้องลบกระทู้นี้ออกแล้วไปลงใหม่ในหน้านิยายนะค่ะ

ปล.ไม่รู้เหมือนกันนะค่ะ :m23:

ลองปรึกษาพี่ๆ (Moderators: oaw_eang, THIP, Poes) ดูค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2008 22:24:52 โดย joypluss »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #8 เมื่อ09-07-2008 02:24:58 »

ย้ายมาแล้วนะ เดี๋ยวจะมาตามอ่านจ้า  :m4:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #9 เมื่อ09-07-2008 06:14:35 »

 :a6: โธน้องขราาาาาาา เอานิยายไว้ผิดที่พี่เลยไม่รู้ไงฮ่ะ

ไม่งั้นก็มาลงทะเบียนนานแล้ว สู้ๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-07-2008 06:14:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #10 เมื่อ09-07-2008 07:16:10 »

 :mc4: มาเจิมนิยายใหม่ด้วยคน

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #11 เมื่อ09-07-2008 10:58:56 »

ตอนที่ 4 ได้มาซักที

เช้าวันเสาร์ผมก็ตื่นนอนในเวลาปกติ มันก็เป็นเรื่องปกติแหล่ะคับ เพราะเช้าผมต้องไปเรียนภาษา บ่ายๆก็ต้องไปเรียนเคมี แทบจะไม่ได้พักกันเลย วันหยุดสุดสัปดาห์ของเด็ก ม.ปลายมันช่างโหดร้ายได้เพียงนี้ ทุกทีผมจะถูกปลุกโดยนาฬิกาปลุกคับ จากนั้นจะตามมาด้วยเสียงแม่ แต่เช้านี้ผมถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์คับ พอดีที่บ้านไม่มีคนอยู่ แม่ไปตลาด พ่อไปซื้อของตั้งแต่เช้า ผมก็เลยต้องมารับโทรศัพท์ด้วยเสียงอันสลึมสลือ เพราะไม่คิดว่าโทรศัพท์นั้นจะโทรมาหาผม

“ใหญ่เหรอ เดชนะ”
“เออ มีไร” – เสียงง่วงนอนเต็มที่
“ถึงสุพรรณแล้วนะ ตอนเช้าอากาศดีมากเลย”
“อ๋อเหรอ อืม” - ตอนนั้นคิดว่าอยากนอนต่อเหลือเกิน
“วันนี้จะไปไหนมั่งล่ะ” – เดชเริ่มถาม
“ก็ไปเรียนภาษาตอนเช้า บ่ายก็ไปเรียนเคมี”
“ต่ายล่ะ ไปเรียนกับใหญ่หรือเปล่า”
“เปล่า ไม่ได้เรียน ต่ายเรียนวันอาทิตย์ทั้งหมด ส่วนเราเรียนวันเสาร์ทั้งหมด”
“ก็คงจะไม่เจอต่ายใช่ป่ะวันนี้”
“ก็คงงั้น”
“ไหนบอกว่าจะถามต่ายให้ไง เรื่องให้เบอร์โทรเรา”
“เราโทรถามต่ายก็ได้”
“นี่ใหญ่ยังไม่ตื่นใช่ป่ะ เฮ้ย ตื่นได้แล้ว อากาศตอนเช้าสดชื่นนะเฟ้ย”
“เออ ขอนอนอิ่มๆซักวันนึงเหอะ มีไรอีกป่ะ”
“เรียนเสร็จโทรหาเบอร์มือถือเราได้ป่ะ 01-xxxxxxx” – ตอนนั้นใครมีมือถือ ถือว่ามีฐานะดี และตอนนั้นยังไม่มี 8
“มือถือแกเหรอเดช”
“เปล่า ของพ่อเราน่ะ ยืมพ่อมาใช้ เออ เรียนเสร็จโทรหาเราด้วยนะ”
“เออ เออ แค่นี้นะ”

หลังจากนั้นผมก็นอนไม่หลับดิคับ เสียงมันแว่วในหัวผม ไม่รู้ทำไม หกโมงครึ่งเป็นเวลาที่ผมไม่เคยตื่น ก็ต้องตื่นซะแล้ว แต่ก็ดี อากาศตอนเช้ามันดีจริงอย่างที่เดชมันว่าจริงแหล่ะ ผมออกไปเดินเล่นข้างนอก ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน เดินเล่นซักครึ่งชั่วโมงก็กลับเข้าบ้าน กินข้าว แล้วก็ไปเรียนภาษา เช้าวันนั้นผมก็เรียนไปตามปกติ ผมไปเรียนภาษาคนเดียวคับ เพราะที่ที่ผมเรียนมันเป็นอาจารย์จากต่างประเทศมาสอน ผมได้เจอเพื่อนใหม่เยอะเหมือนกัน ตั้งแต่วัยเดียวกัน จนถึงวัยประมาณ 40 ซึ่งสถานที่เรียนก็อยู่แถวๆสวนลุมอ่ะคับ พอเรียนภาษาเสร็จก็ไปสยาม เพื่อไปเรียนเคมี เป็นเรื่องที่แปลกว่า ต่ายมาเรียนเคมีวันนี้ ปกติต่ายเรียนวันอาทิตย์ แต่ไม่รู้ทำไมถึงมาเรียนวันเสาร์แทน ถามไปถามมาต่ายบอกว่า ตอนนี้การบ้านมันเยอะ กะว่าบ่ายวันอาทิตย์จะกลับไปทำการบ้าน (ผมไม่เคยรู้สึกว่ามีการบ้านเลยคับ จะส่งค่อยลอกคนอื่นเอา) วันนั้นผมก็เลยนั่งเรียนเคมีกับต่าย แต่ก็ไม่ได้ชวนคุยกันหรอกนะ ผมค่อนข้างที่จะรู้กาลเทศะดี นอกโรงเรียนผมไม่ทำอะไรที่มันไม่ควรทำหรอก

พอเลิกเรียนผมก็กะว่าจะไปเล่นเกมตู้ที่มาบุญครองซักหน่อย ตามประสาเด็กผู้ชายอ่ะคับ แต่ต่ายบอกว่าจะไปซื้อหนังสือคู่มือที่ศูนย์หนังสือจุฬา ให้ผมช่วยเลือกหนังสือให้ต่ายหน่อย ผมเลยไม่ได้ไปเล่นเกมเลยคับ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก นานนานจะได้เดินกับต่ายแค่ 2 คน ถ้ามองข้างนอกเขาคงนึกกันว่าผมกับต่ายเป็นแฟนกัน –ไม่ใช่หรอกคับ ผมเป็นเพื่อนกับต่ายแค่นั้น และผมก็ไม่ชอบผู้หญิง เราเดินเลือกหนังสือ ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยจะซื้อหนังสือคู่มือหรอกคับ เปลืองเงิน และอีกอย่างผมเปิดได้สามวันผมก็เบื่อแล้ว ก็นั่นแหล่ะคับผมจึงให้คำแนะนำกับต่ายไม่ได้ แต่ก็เดินเลือกหนังสือกัน คุยกันไปเพลิน อยู่ดีดีต่ายก็ถามเรื่องเดชกับเรา

“ใหญ่ เดชยังมาคุยกับแกอยู่ป่ะ”
“คุยอยู่ ไมเหรอ”
 “เดชมันนิสัยไม่ค่อยจะดีนะ เราได้ยินข่าวมา”
“ใครบอกมาอ่ะ”
“เพื่อนห้องมันน่ะแหล่ะ เขารู้จักกับเราที่เรียนพิเศษ บอกว่าเดชนิสัยแปลกๆ เหมือนนักเลงประจำห้อง”
 “อันนี้เราก็ดูออกนะ มันเสียงดังอ่ะ แล้วอีกอย่างนึง มันจะจีบแก เราก็เลยไม่ค่อยอยากให้มันจีบแกหรอก เราสงสารแกว่ะ มันไม่เหมาะสม”
“เหรอ ใหญ่ เราก็ยังไม่อยากมีแฟนตอนนี้”
“เรารู้น่า”
“แต่แกลำบากใจป่ะล่ะใหญ่ แกต้องมารับโทรศัพท์มันทุกวัน”
“เพิ่งจะ 2-3 วันเอง อีกอย่างน่ะ เราไม่คิดอะไรจริงจังอยู่แล้ว ทุกอย่างมันอยู่ที่แกนะต่าย แกอยากจะคุยกับมันหรือเปล่า”
“แต่ถ้ามันต้องมาทำให้แกลำบากใจ ที่ต้องมาทนเดช เพียงแค่จะขอเบอร์เรา เราให้เบอร์กับเดชก็ได้นะ มันจะได้ไม่โทรมาหาแกอีกไง”
“แล้วแต่แกนะ แกคิดดีดี”
“เราว่าเราคิดดีแล้วล่ะ ใหญ่ แกไม่ต้องมาลำบากเพื่อเราก็ได้ ชีวิตของเรา เขาชอบเรา เราก็ควรจะเป็นผู้ที่บอกว่าจะคบหรือไม่”
“ซึ่งคำตอบก็คือ.....” “ไม่”
“ใช่… ใหญ่ แกก็รู้นี่นา ว่าเราไม่อยากมีแฟนตอนนี้”
  “เออ เรารู้น่า” “ตกลงให้เบอร์ ใช่ป่ะ”
  “เราตัดสินใจแล้วใหญ่”

แล้วเราก็คุยกันเรื่องอื่นๆ ต่อ จนถึงป้ายรถเมล์กลับบ้าน เรานั่งรถสายเดียวกัน แต่เราลงก่อน ต่ายบอกว่าคืนนี้จะโทรหาเรา เพราะมีเรื่องจะคุยเหมือนกัน เรื่องของเดช แต่เราบอกว่าไม่ต้องก็ได้ อ้างว่าแกจะทำการบ้านไม่ใช่เหรอ ไว้ที่โรงเรียนค่อยคุยกัน

การตัดสินใจของต่ายที่จะให้เบอร์โทรศัพท์กับเดช ถือว่าเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เท่าที่เรารู้มาโดยปกติต่ายจะไม่ให้เบอร์โทรกับผู้ชายคนไหนเลย แม้กระทั่งเพื่อนผู้ชายก็บอกว่าอย่าโทรไปนานนัก เพราะที่บ้านของต่ายเขาไม่ชอบให้ผู้ชายโทรมา  แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมต่ายถึงให้ และยังบอกว่าจะโทรหาเราด้วย ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้น แต่การตัดสินใจของต่ายตอนนั้นแทบจะว่างเปล่า เพราะสุดท้ายเดชก็เอาเบอร์โทรของต่ายมาได้อยู่ดี เรารู้ได้จากโทรศัพท์ที่เดชโทรหาเราเมื่อตอนเย็นวันนั้น

  “เราได้เบอร์ต่ายมาแล้ว 02-*******”
  “ไปเอามาจากใครล่ะ”
  “เดชเป็นใคร เป็นถึงหัวหน้ากองร้อย เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้”
  “ใครให้แก”
  “ทำไมต้องดุด้วยล่ะ”
  “ใครให้แก ตอบมา เราว่าเราไม่ได้ให้”
  “ก็...เราให้เพื่อนห้องเราไปสืบมาให้ แบบว่ารอนายอย่างเดียวนายก็ไม่ช่วยเราซักที”
ผมเกือบจะบอกเรื่องที่ผมคุยกับต่ายเรื่องที่ว่าต่ายยอมให้เราบอกเบอร์โทรแล้ว แต่พอมันรู้แล้วผมก็ไม่บอกดีกว่า
  “เงียบไมวะใหญ่”
  “เปล่า เออนี่ ในเมื่อได้เบอร์ต่ายไปแล้ว แกก็ไม่ต้องโทรหาเราอีกนะ”
  “ทำไมล่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะ ไรว้า...”
  “ก็ได้เบอร์ต่ายไปแล้ว จะโทรหาเราอีกทำไม”
  “หน้าที่แกยังไม่หมด ใหญ่ แกต้องโทรไปบอกต่ายว่า เดี๋ยวเดชจะโทรไปหา”
  “ทำไมต้องบอก แกก็โทรไปดิ บอกเขาไปเลยว่าแกไปเอาเบอร์มาจากไหน”
  “โห ใจร้ายว่ะใหญ่ นะค้าบ สงสารเดชน้อยเหอะ นะนะ ใหญ่ กิ้วๆๆ” – น้ำเสียงอ้อนเต็มที่
  “เออเออ จะโทรบอกละกัน ไม่ประกันผลทีจะเกิดขึ้นนะเฟ้ย” – สุดท้ายเราก็ใจอ่อน
  “ใหญ่ แกจะไม่ถามเราซักคำเลยเหรอว่าเรากำลังทำไร”
  “ไม่ได้อยากรู้”
  “เอาอีกละ พูดดีๆได้ป่ะ”
  “ไม่ได้อยากรู้นี่ครับ ไม่รู้ว่าใหญ่จะถามทำไมครับ”
  “อยากรู้หน่อยเหอะ เรากำลังจะอาบน้ำ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวคุยโทรศัพท์กับนายอยู่เนี๊ย”
  “เลียนแบบเราวันนั้นเหรอเฮ้ย”
  “เปล่า ก็เรารอนายโทรมาจนเย็นนายก็ไม่โทรมาซักที เราก็เลยจะอาบน้ำ แล้วก็ลองโทรหานายดู”
  “เราไปเรียนพิเศษมา” - เกือบบอกว่าไปกับต่ายแล้ว
  “ทำไมเลิกเย็นจัง”
  “ไปซื้อหนังสือกับเพื่อน”
  “เหรอ เออวันหลังนายมาห้องเราดิ หนังสือคู่มือเราเยอะเลย ใหญ่นายเอาไปอ่านได้นะ เราไม่หวง”
  “เราไม่ได้ซื้อ เพื่อนซื้อ เราแค่ไปเป็นเพื่อนมัน” (เพื่อนที่ว่า ก็ต่ายนั่นแหล่ะ) “แกไปอาบน้ำเหอะเดช เหม็นเข้าโทรศัพท์แล้ว”
“ไอ้ใหญ่เว่อร์” เดชหัวเราะ “เราอาบน้ำกินข้าวเสร็จเราจะโทรหานายนะ”
 
แล้วผมก็วางโทรศัพท์แล้วก็ไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วเดชก็โทรมาคุยเล่นอีกแป๊บนึงแล้วก็นอนคับ

--------------------
ปล.ขอบคุณทุก comment คับ และขอบคุณพี่ๆที่ย้ายมาห้องนี้ให้คับ
 :pig4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #12 เมื่อ09-07-2008 17:00:33 »

เห็นชื่อเรื่องแล้ว  o7 เศร้าปะเนี่ย จบไม่แฮปปี้แน่เลย ทำไมเป็นเส้นขนานล่ะ น่าจะทำมุมฉากนะ จะได้มาบรรจบพบกัน  :laugh: :laugh:

แล้วจะมาเม้นท์ใหบ่อยๆจ้า  :a2:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #13 เมื่อ09-07-2008 18:46:02 »

เรื่องสนุกคับ  แต่.................................


เศร้าแน่เรยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :serius2: :serius2:

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #14 เมื่อ09-07-2008 19:44:41 »

 :m4:

เย้ๆย้ายมาแล้ว...เห็นมะมีคน เม้น เต็มเลย

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #15 เมื่อ09-07-2008 21:01:58 »



ไอ้พวกหัวหน้ากองร้อน รด. มันขี้เก็ก กันทุกโรงเรียนเลยน่ะเนี่ยๆๆๆๆ เหอๆ

อ่านแร้วคิดถึงเมื่อครั้งปางบรรพ์ :a11: :a11: :a11:

a22a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #16 เมื่อ10-07-2008 00:47:08 »

มาต้อนรับนิยายเรื่องใหม่คับ สงสัยจะเศร้าแน่เลย o7 :o12:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #17 เมื่อ10-07-2008 01:08:41 »

อย่าเพิ่งเดาดิคับ
 o2
อ่านไปเรื่อยๆนะ ลุ้นดีออก

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #18 เมื่อ10-07-2008 01:53:56 »

ลงให้ต่อเนื่องนะ อย่าดองล่ะ แล้วพี่จะตามอ่านจ้า  :m1:

ก็ชื่อเรื่องมันออกมาในทางเศร้านิขอเดาไว้ก่อน  :laugh:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #19 เมื่อ10-07-2008 09:15:10 »

เห็นชื่อเรื่องแล้วไม่กล้าอ่าน :m21:


กลัวเศร้าอ่ะ แต่อ่านแล้วชอบอ่ะ :m23:


รอลุ้นต่อไป :a1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
« ตอบ #19 เมื่อ: 10-07-2008 09:15:10 »





ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #20 เมื่อ10-07-2008 09:23:41 »

เดชจะจีบใครกันแน่เนี่ย หุหุ  :oni2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #21 เมื่อ10-07-2008 11:02:38 »


เข้ามาทักทายนิยายใหม่  อิอิ

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #22 เมื่อ10-07-2008 15:45:31 »

เจิมเรื่องใหม่ครับผม :oni2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #23 เมื่อ11-07-2008 10:34:31 »

ตอนที่ 5       รายงานตัว
 o13
เช้าวันอาทิตย์คับ ไม่มีใครอยากจะตื่นเช้าๆหรอกคับ เมื่อนานนานจะได้ตื่นสายซักที เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้นอนยาว เพราะเมื่อวานผมต้องมาตื่นเช้า เพราะโทรศัพท์ของเดช ก็คิดว่าเช้านี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ จนโทรศัพท์ดังอีกแล้ว เวลาเดิมเป๊ะ แต่...ไม่ใช่หรอกคับ เพื่อนแม่โทรมาคับ ก็เลยนอนต่อไปจนถึงแปดโมง โทรศัพท์ก็เป็นของผม ผมถูกปลุกมาด้วยเสียงอันสดใสของเดช

“เฮ้ย ใหญ่ หวัดดี”
 “อะไรอีกล่ะ”
“แปดโมงแล้ว ตื่นๆ นอนกินบ้านกินเมืองหรือไง”
 “ไปหนักตรงไหนของมรึงเดช”
“โห ไอ้ใหญ่ เดี๋ยวนี้ก้าวหน้าเรียกมรึงกับผมเหรอ”
 “ไม่ชอบคำหยาบเหรอ”
“เปล่าหรอก จริงใจดี เราชอบ”
 “อ่อเหรอ เออโทรมามีไร”
“อ๋อ เราจะบอกว่า วันนี้เราต้องขับรถไปส่งของให้พ่อน่ะ ทั้งวันเลยแหล่ะ”
“เหรอ แล้วไงล่ะ”
 “จะบอกว่า วันนี้คงไม่ได้โทรหาต่ายนะ แต่จะโทรหานายแทน”
“เพื่อ”
 “เพื่อเราเป็นเพื่อนกันไงใหญ่ ใหญ่เป็นเพื่อนเดช เดชไปไหนเดชก็ต้องโทรบอกใหญ่ดิ”
ผมอึ้งไปซักพัก แล้วเดชก็พูดต่อ
“วันนี้ไม่ไปไหนเหรอ”
“ไม่อ่ะ ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านให้ที่บ้านชื่นใจบ้างเถอะ”
“รู้ป่ะว่าต่ายไปไหนมั่งวันนี้”
“เรียนพิเศษ” – ผมโกหกเดชคับ เพราะว่าต่ายบอกไว้เมื่อวานว่าวันนี้ต่ายจะอยู่บ้าน
“รอบไหนล่ะ ใหญ่รู้ไม๊ ”
“ไม่ได้ถาม”
“เป็นเพื่อนกันนี่ไม่รู้เลยเหรอ”
 “อ่อ บางเรื่องเราก็ไม่ได้อยากรู้น่ะ เช่นเรื่องเวลาเรียนพิเศษ เราว่ามันไม่จำเป็นต้องรู้ว่าต่ายจะเรียนวันไหน เวลาไหน เพราะเราก็เป็นแค่เพื่อนต่าย ไม่ได้เป็นแฟนต่ายซักหน่อย”
“ก็ถ้าเราเป็นแฟนต่าย ใหญ่ แกก็ต้องรู้”
 “เหรอ เฮ้อ แต่!! ยากหน่อยนะ แกอย่าลืมว่ามีไอ้ไม้ที่ห้องเราอีกนะ”
“นั่นไงล่ะ แกก็ช่วยเราจีบต่ายดิใหญ่”
 “อ่ะเหรอ เออ เด๋วคิดดูก่อนละกัน”
“ไม่ต้องคิด ทำเลย เพื่อเรา”
“อ่อ เออมีไรอีกไม๊ เราปวดท้อง”
“อยู่บ้านทั้งวันใช่ป่ะใหญ่”
“ใช่ๆ ทำไมเหรอ”
“เผื่อเราจะได้โทรหานายไง จำไว้นะ ถ้าวันนี้นายออกไปไหน ให้โทรบอกเราด้วยนะ”
“เออ ไปละ ปวดท้อง”
ผมก็วางสายโทรศัพท์ไปคับ ไปเข้าห้องน้ำจริง ผมไม่ได้อ้างเพื่อวางสายหรอกคับ แต่ผมเองก็ขี้เกียจคุยคับ ง่วงอยู่เลยไม่อยากคุยกับใคร

เช้าวันอาทิตย์ อะไรจะสุดยอดเท่ากับการตื่นสายอีกล่ะคับ แต่ในเมื่อผมต้องถูกปลุกมาตอน 8 โมง เพราะโทรศัพท์เจ้ากรรม ผมก็เลยมาดูการ์ตูนแก้เซงคับ ก็นับว่าแก้เซงได้ดีทีเดียว ผมชอบดูการ์ตูนคับ ตั้งแต่จำความได้ผมก็ดูการ์ตูนแล้วคับ แต่ขึ้น ม.ปลายมาผมไม่ค่อยจะได้ดูแล้วคับ เพราะว่าผมต้องตื่นเช้าวันเสาร์ แล้วตื่นสายวันอาทิตย์ กว่าจะตื่นการ์ตูนก็จบพอดี แต่วันนี้ผมได้ดูคับ ดูจนจบก็อาบน้ำ กินข้าวเช้า+กลางวันในมื้อเดียว แต่ผมยังไม่ทันจะเอาข้าวเข้าปากโทรศัพท์ก็ดังอีกแล้วคับ พ่อผมไปรับสายแล้วก็บอกว่าคนชื่อเดชโทรมา ผมก็เดินไปรับอย่างหมดอารมณ์

“เดชมีไร”
“ตอนนี้เราขับรถอยู่ ไปส่งของให้พ่ออ่ะ” – ตอนนั้นยังไม่มีกฏหมายที่ว่าต้องใช้ Smalltalk ตอนขับรถคับ
“ส่งไรเหรอ”
“เสื้อผ้าทหาร แม่เราเป็นคนตัดชุดพวกทหารอ่ะ”
“งี๊ชุด ร.ด. ของแกก็ไม่ต้องซื้อดิ”
“ใช่ นอกจากไม่ต้องซื้อแล้ว บ้านเรายังมีอุปกรณ์เกี่ยวกับทหารภาคสนามอีกด้วยนะ สนเปล่า”
“ไว้เรียนปีสามค่อยซื้อละกัน”
“อะไรกัน ซื้อไว้เลยเนี๊ย เด่วปีหน้ามันขึ้นราคา”
“ไม่รู้จะรีบซื้อไปทำไม”
“เออ ว่าแต่ใหญ่ทำไรอยู่ล่ะ”
“กำลังจะกินข้าว ข้าวคำแรกยังไม่เข้าปากเราเลย”
“อ่อเหรอ ข้าวเช้าหรือกลางวัน”
“ข้าวเช้าบวกกลางวัน เช้าตื่นไม่ทัน”
“เฮ้ย มันไม่ดีต่อสุขภาพนะเว้ย”
จากนั้นผมโดนเดชสวดเรื่องอาหารเช้าที่จำเป็นต่อสุขภาพ ประมาณ 10 นาที
“แล้วต่ายทำไรอยู่รู้ป่ะ”
“จะไปรู้เหรอ อยากรู้ก็โทรไปถามดิ เบอร์ก็มี”
“ไม่อ่ะ เราบอกแล้ววันนี้จะโทรหานายคนเดียว”
“เออ ให้เราไปกินข้าวเถอะ”
“อ่อ เออ ขอโทษ อย่าลืมนะเว้ย วันหลังมาโรงเรียนเช้าๆดิ เด๋วเราพาไปกินข้าว”
“อ่อเหรอ คงไม่อ่ะ ไปโรงเรียนทุกวันก็สายอยู่แล้ว – เออ แค่นี้นะ”
ผมก็ได้กินข้าวซักทีคับ แต่กับข้าวเย็นหมดแล้ว พ่อกับแม่ก็เลิกกินแล้วคับ สุดท้ายผมก็กินกับข้าวเย็นชืดอยู่คนเดียว คิดแล้วมันแค้น มาทำลายความสุขตอนกินข้าวไปลงคอ

บ่ายๆวันอาทิตย์ ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรคับ การบ้านมีนะ แต่ไฟไม่ลนก้นไม่ทำหรอกคับ การบ้านต้องทำขณะร้อนๆ ถึงจะดี ความรู้จะได้สดใหม่ ดังนั้นบ่ายวันอาทิตย์ผมจึงตัดสินใจนอนอยู่บ้านเฉยๆ แต่...ผมก็นอนเฉยๆไม่ได้หรอกคับ โทรศัพท์มันมาอีกแล้ว

“อะไรอีกล่ะ” – ผมถามอย่างหงุดหงิด กำลังเคลิ้มๆอยู่เลย
“บ่ายนี้เราต้องไปส่งของให้พ่ออีก เมื่อเช้าคิดว่าหมดแล้ว แต่ยังเหลืออีกตั้งเยอะ”
“อ่อเหรอ แล้วเราช่วยไรได้ไม๊”
“ช่วยให้เราหายเหงาไงล่ะ ขับรถไปคนเดียว เหงาออก”
“เพื่อนห้องแกก็มีไมไม่โทรหาวะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้อยากโทรหานายคนเดียว”
“คิดไรกับเราป่ะเนี๊ย”
“คิด” เดชหยุดไปซักพัก “คิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน”
“เออกูรู้ ไม่ต้องเน้นบ่อยๆก็ได้”
“คนสุพรรณ จริงใจเว้ย เพราะฉะนั้นเราก็จะจริงใจกับต่าย แต่ต่ายจะเห็นคุณค่าหนือเปล่าเนี๊ย”
“เออ คงเห็น”
“นั่นไง ใหญ่ นายต้องช่วยเรานะ”
“เออ ทำตัวให้มันน่าช่วยหน่อยละกัน” - ผมบอกปัด
“เออ ว่าแต่นายไม่สนใจอุปกรณ์สนามเหรอ”
“หัวการค้าเชียวนะ ไม่ ไม่สน ถึงเวลาค่อยซื้อ”
“ลดพิเศษเพื่อใหญ่เลยนะ”
“ถ้าฟรีแล้วค่อยมาคุยกันละกันนะ”
“ไอ้งก”
“เออ งก จะทำไม”
“ไม่ทำไมหรอกคร้าบ....” - น้ำเสียงเดชยียวนกวนประสาทเหลือเกิน
“ทำมานานยังเนี๊ย”
เดชเล่าประวัติตัวเองและครอบครัวให้ฟังประมาณ 10 นาที (ขับรถไปด้วย) เราก็ได้แต่เออๆ ตามไป เพราะไม่รู้นี่นา แต่ว่าไปเราก็ไม่เคยรู้ประวัติเพื่อนเราในห้องเลยนะเนี๊ย พ่อเป็นใคร อยู่กันยังไง
“ท่าทางบ้านแกคงน่าอยู่เนอะ” - ผมพูดกับเดช
“วันหลังไปเที่ยวบ้านเราดิ”
“แต่เรามี.....”
“...เรียนพิเศษ ใหญ่ แกจะไม่เรียนซักสัปดาห์ได้ไม๊ว้า... แกก็เก่งอยู่แล้วแหล่ะ ไม่ต้องไปเรียนหรอก”
“เออ ไม่เรียนก็โง่ดิ เทพห้องเราเยอะจะตาย”
“ใหญ่ ถ้าแกมาอยู่ห้องเรา แกจะไม่เครียดเลยเว้ย เพราะเดชจะสร้างความสนุกสนานให้ห้องเอง”
“ตัวป่วนล่ะไม่ว่า” – ผมพูดเบา แต่ตั้งใจให้มันได้ยิน
เดชถึงที่หมายที่ส่งของแล้ว แล้วก็บอกว่าถ้าส่งของเสร็จจะโทรมาอีก ผมบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เปลืองค่าโทรศัพท์เปล่า แค่เดชบอกว่าไม่เป็นไร เพราะพ่อมันจ่าย (โห ไรเนี๊ย)

ผมวางโทรศัพท์ 15 นาทีผ่านไป เดชโทรมาอีกครั้ง คราวนี้เดชคุยเรื่องของตัวเดชเองว่าเพราะอะไรถึงมาเรียนที่นี่ ตอนแรกก็มาสอบ ร.ร.เตรียม แต่สอบไม่ติด เลยมาเข้าที่นี่แทน แล้วก็มาถามผมว่าทำไมผมเลือกจะอยู่โรงเรียนนี้ เราคุยกันอยู่นานพอควร พอดีเดชถึงบ้านแล้ว เลยขอตัวก่อน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

วันอาทิตย์นี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หมดไปกับการคุยโทรศัพิ์กับเดชไปเกือบจะทั้งวัน จนกระทั่งตอนค่ำ ก็มีโทรศัพท์มาอีกแล้ว คราวนี้เดชกำลังกลับกรุงเทพฯ

“ใหญ่เหรอ”
“เออ ว่าไง”
“ต่ายชอบอะไร”
“ของฟรี” - เป็นพื้นฐานของเด็กห้องผมคับ
“ของกินล่ะ รู้ป่ะ”
“ไม่รู้ อะไรก็ได้มั้ง ถามทำไมเหรอ”
“ซื้อของฝากให้ต่ายน่ะ”
“แกอยากรู้แกก็โทรไปถามต่ายดิ”
“ไม่เอาอ่ะ งั้นซื้อขนมสาลี่ดีกว่า แล้วแกอ่ะใหญ่ แกชอบกินไร”
“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่มะระ”
“กินง่ายดีเนอะ เหมือนเราเลย”
“เออ ไม่ต้องซื้อมาให้เราหรอกนะ บ้านเราไม่ค่อยกินกัน”
“ก็เอาไปกินที่โรงเรียนก็ได้นิ เอาไปกินกับไอ้ไม้ก็ได้”
“คู่แข่งจีบต่ายอ่ะนะ มันรู้มันจะคิดยังไง”
“แกก็อย่าให้มันรู้ดิ เอาน่า เด๋วเราซื้อขนมไปฝากนายนะ”
“แล้วแต่แกละกัน อย่ากลับมาให้มันดึกล่ะ เด๋วพรุ่งนี้มาโรงเรียนสาย”
“ก็ดีดิ มาสายจะได้เจอกับนาย”
“คงเป็นไปได้ยาก เพราะเราต้องเชิญธงชาติน่ะ ยังไงเราก็ไม่ต้องเข้าแถวกับนักเรียนมาสายอยู่แล้ว”
“งี๊มันก็ไม่แฟร์ดิ”  - เดชสวนขึ้นมา
“เราเป็นคณะกรรมการนักเรียนนะ”
“นี่เลย ใช้อำนาจในทางมิชอบ”
“งั้นเหรอ...เออว่ะ”
“ใหญ่ นายช่วยเส้นเราหน่อยดิ ให้เราไม่ต้องเข้าแถวกับพวกมาสายเวลาเรามาสาย”
“ถ้าแกมาโรงเรียนเช้าๆมันก็จบแล้ว ไม่ต้องไปดิ้นรนให้มาสายหรอก”
“ไรวะเนี๊ย ทีตัวเองล่ะ” - เดชค้อน
“มาเช้าๆ น่ะดีแล้ว ไหนว่านายจะพาเราไปกินข้าวเช้าไงล่ะถ้าเรามาโรงเรียนเช้า”
“เออใช่ว่ะ”
 “ว่าแต่เดชแกอยู่ไหนน่ะ”
“ร้านขายของฝากไงล่ะ ตกลงเอาอะไรก็ได้ใช่ป่ะ”
“เออ”
“โอเค เด๋วเราคิดเงินก่อน แล้วไม่ต้องมาให้เงินเราทีหลังนะ เราซื้อมาฝากนาย”
“เออเออ”
“ใหญ่ เด๋วเราเหงาๆ จะโทรไปหาอีกนะ”
“แกอย่าลืมนะ 4 ทุ่มเรานอนแล้ว”
“โอเคคับ”

วันนี้ทั้งวันเหมือนผมนั่งอยู่กับเดชตลอดเวลา ผมรู้เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับเดช ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว นิสัยส่วนตัวของเดช จริงๆแล้วมันก็เป็นคนดีนะ แต่แค่ภายนอกมันเถื่อนๆไปนิด แต่จริงใจ แล้วก็เดชเป็นที่ความรู้สึกอ่อนไหวเหมือนกันนะ ผมรู้สึกได้จากการคุยกันทั้งวันนี้ แม้ผมจะไม่ได้เห็นหน้ามันก็ตามทีเหอะ ผมก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของมัน ซึ่งผมว่า ถ้าผู้หญิงคนไหนได้มันเป็นแฟนน่าจะดีใจนะ แม้มันหน้าตาไม่ดีแต่มันก็จริงใจ

โทรศัพท์ดังอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้ายของวันอาทิตย์นี้ เดชบอกผมว่าเดชอยู่แถวปทุมธานีแล้ว อีกไม่นานเดชก็คงจะถึงหอ ผมก็บอกมันว่าขับรถดีดีแล้วกัน อย่าไปเฉี่ยวใครล่ะ แล้วคืนนั้นผมก็นอนหลับไปพร้อมกับความรู้สึกดีๆระหว่างผมกับเดช แม้จะไม่เห็นหน้ากันก็เหอะ
------------------

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #24 เมื่อ11-07-2008 14:18:12 »

ระวังคุยไปคุยมาจะหลงรักเขาแล้วเจ็บปวดเองนะครับ :o12:

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #25 เมื่อ11-07-2008 16:27:48 »



ตามมาเชียร์คับ จะมาอ่านเรื่อยๆน่ะ  o13 o13 o13

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #26 เมื่อ11-07-2008 20:22:06 »

มาดัน .. อิอิ

ชื่อเรื่องมันน่าเศร้า แต่ก็ลุ้นไปอีกแบบจริงๆ

ว่าแต่ เดช ..คลุมเครือ นะเนี้ย

จะจีบต่ายจริงใช่ปะเนี้ย? ..  :a4:

แต่พฤติกรรมการโทร ไม่ใช่เลยง่า  :a11:

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #27 เมื่อ11-07-2008 22:57:57 »

เดชนี่พูดเก่งจังเลยเนอะ.... :angry2:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #28 เมื่อ12-07-2008 20:55:27 »

ยังไม่เคลียกับเดชเท่าไร เอาไงแน่ จะติดตามต่อไปคับ :a4:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องเล่า - รักดั่งเส้นขนาน
«ตอบ #29 เมื่อ12-07-2008 23:26:08 »

เดี๋ยวก็รู้คับ
 o2
(ปล่อยให้อยากแล้วจากไป)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด