ตอนที่ 35 ♥ 2: ทีละเล็กทีละน้อย“สวย โคตรสวยเลยพี่ธร” เหมาสุดจะบรรยายกับภาพที่เห็นตรงหน้า เขายืนเกาะขอบระเบียงที่ถูกออกแบบมาให้เป็นลาน
กว้างยื่นออกไปนอกตัวอาคาร มองเห็นไร่องุ่นกว้างสุดลูกหูลูกตา
“สวยจริงๆ ครับ” ไออุ่นออกเสียงสนับสนุนอีกคน ยิ่งในเวลาเย็นแบบนี้ ฟ้าเป็นสีอมชมพู ลมพัดเอื่อยๆ อากาศกำลังดี
“อุ่นชอบเหรอครับ เดี๋ยวพี่ขอแบ่งซื้อที่จากเจ้าธร เราสร้างบ้านเอาไว้มาพักผ่อนกันดีไหม” ไออุ่นที่กำลังเพลินเพลินกับ
ทิวทัศน์ตรงหน้าถึงกับต้องหันกลับมามองหน้าคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เออ ก็ดีนะทิน ฟ้ากับลูกทรายจะได้ไม่เหงา ที่จริงจะมาพักด้วยกันที่นี่ก็ได้ แต่ฉันรู้ว่านายคงอยากได้ความเป็นส่วนตัว”
“ขอสักสิบไร่ไหวไหมธร ถ้าไม่ได้ห้าไร่ก็ยังดี” ทินภัทรเจรจาโดยไม่รอคำตอบจากไออุ่น
“ห้าแล้วกันครับพี่ทิน อีกห้าผมขอ จะได้มาด้วยกัน ลุงก็น่าจะชอบที่นี่” รเมศเอ่ยปากขอแบ่งจากพี่ชายอีกต่อ
ไออุ่น ญาดา เสือ มองหน้ากันไปมา เมื่อชื่อถูกดึงเข้าไปมีเอี่ยวแต่กลับไม่มีใครหันมาถามความสมัครใจพวกเขาสักคน
หนุ่มๆ คุยกันเป็นตุเป็นตะราวกับมั่นใจว่าพวกเขาจะมาด้วยแน่ๆ
“ให้ได้แค่สิบแล้วไปแบ่งกัน ปลูกหันมาทางไร่ใช้วิวเดียวกันก็จบ ธันว่าไงให้ได้ไหม”
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา” ธันวานั่งจิบไวน์สบายๆ เขาเป็นพวกไม่เรื่องมากอยู่แล้ว เพื่อนพี่ก็เหมือนเพื่อนเขา
“โห แล้วเหมากับหมอกล่ะครับ มีสักสักสองร้อยสามร้อยวาไหม เป็นไรคงไม่มีปัญญา” เหมาแกล้งโอดครวญ เขาไม่ซื้อ
จริงๆ หรอก อย่าว่าแต่ไร่เลยแค่วาก็ยังไม่มีสิทธิ์
“จะซื้อทำไมอยากมาเมื่อไหร่ก็มา ทุกวันนี้ได้นายกับหมอกช่วยดูแลฟ้าให้ก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว” ชลธรเอ่ยปาก
อนุญาต เป็นความจริงที่ว่าเขาอุ่นใจขึ้นมากเมื่อสองพี่น้องย้ายเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนญาดาที่บ้าน ชลธรรู้ว่าทั้งสอง
พึ่งพาได้แน่นอน
“ไม่ต้องซื้อหรอกเหมา เลือกเอาเลยว่าจะอยู่หลังไหน ว่างมันทุกหลังนั่นแหละ ไม่มีใครมาอยู่ด้วยหรอก” ญาดาเป็นทัพหน้า
ประกาศตัวก่อนเป็นคนแรก หมั่นไส้หนุ่มๆ ที่ไม่ถามพวกเธอสักคำ
“ฟ้าไม่ชอบภูเขาเหรอครับ งั้นทะเลไหมเดี๋ยวผมลองถามเพื่อนๆ ดูเผื่อมีใครพอหาที่ให้ได้”
“อวดรวย” ญาดาเริ่มอ่อนใจ เมื่อพ่อของลูกไม่ได้รู้สึกรู้สมกับความหมั่นไส้ของเธอสักนิด ยังเอาแต่พูดเรื่อยเปื่อยไม่หยุด
“ธรนายนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลย ของอย่างนี้มันต้องถามความสมัครใจก่อน ดูอย่างฉันสิจะทำอะไรก็ต้องถาม” ทินภัทรกลับ
ลำได้เป็นคนแรก เขาชิ่งเพื่อนเอาตัวรอดก่อนทันที คิดในใจว่าดีนะที่เมื่อกี้เขาถามไออุ่นออกไป
“ใช่ครับ พี่ทินพูดถูกแล้วต้องถามก่อน แต่ที่พี่ทินทำอยู่นี่เขาเรียกว่าบอกไม่ใช่ถาม”
“อ้าว” คนนึกว่ารอดหน้าจ๋อย เป็นทีของเพื่อนสนิทอย่างชลธรได้หัวเราะเยาะบ้าง
“นึกว่าจะรอดเหรอ หึหึ มันก็พอกันแหละวะ”
“พี่อุ่นกับพี่ฟ้ารับปากไปเถอะครับ ดูลุงสิ รู้ว่าผมซื้อเพราะลุงชอบ เลยไม่ว่าอะไรผมสักคำ” รเมศโมเมเองเสร็จสรรพ
เมื่อเห็นว่าเสือไม่พูดอะไร
“ลุงนี่หมายถึงฉันเหรอ นึกว่าหมายถึงพ่อคุณทิน” เสือพูดหน้าตาย ทำเหมือนไม่รู้ว่าหมายถึงตัวเองตั้งแต่แรก
“หึหึ พ่อคงชอบว่ะโรม ขอบใจนะ” ทินภัทรเล่นมุกต่อจากเสือ มันต้องอย่างนี้สิ โดนก็ต้องโดนด้วยกันทั้งหมด อย่าให้
ใครรอดมาเกทับกันได้
“โหพี่ทิน ไม่รู้อะไรอย่างลุงเนี่ยเขาเรียกว่าดุกลบเกลื่อนความเขิน ที่จริงแอบดีใจที่แฟนเด็กรักแฟนเด็กหลงเอาใจทุกอย่าง”
“โว้” เป็นเสียงอุทานปนทึ่งของเหมา ลีลาป้อสาว เออ..ไม่ใช่สิ ลีลาป้อคนแก่ของพี่โรมนี่มันเด็ดดวงจริงๆ เล่นเอาเฮียของเขา
หน้าแดงก่ำ มองแล้วแยกไม่ออกว่าโกรธหรือเขินอยู่
“ไอ้เด็กบ้า” เสือแทบจะเข้าไปขย้ำคอรเมศ ถึงคนในกลุ่มจะรู้เรื่องเขาบ้างแล้ว แต่จะให้ออกมาทำท่ารักกันหวานแหววหรือ
พูดอะไรแบบนี้ เสือก็ยังทำใจไม่ได้
“ลุงเฉือพูดม่ายเพาะ พี่ทะเลตีเปี๊ยะๆ เยย” ลูกหมูทะเล ยื่นมือป้อมๆ ไปตีแขนลุงเสือที่นั่งถัดจากอาอุ่นไป
“จำน้า อย่าทามอิก” ลูกหมูทะเลพยายามทำหน้าดุ เลือนแบบคำพูดคนเป็นพ่อมาเกือบเป๊ะ
“ใช่ครับทะเล ดุลุงเสือเยอะๆ เลย ลุงเสือพูดไม่เพราะกับอาโรม” รเมศใช้หลานเป็นเครื่องมือ เขาซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้
เมื่อเห็นลุงขี้โมโหทำหน้าไม่ถูกที่โดนหลานดุเอา
“ลักกานฉิ” ทะเลรีบสอนลุงกับอา แด๊ดบอกเสมอว่าต้องรักกัน อย่าทะเลาะกัน
“หึหึ พี่เสือว่ายังไงคะ รักหรือเปล่า” ญาดานึกสนุกไปด้วย กระเซ้าเสืออีกคน นานๆ ทีจะเห็นเสือหลุดมาดหน้าแดงขนาดนี้
“ลัก ลุงเฉือลัก” พี่ทะเลรู้เลยช่วยตอบแทนให้
“ฮ่าๆ รู้กับเขาด้วยเหรอเรา” ญาดานึกเอ็นดูเด็กชายทะเล คิดเอาว่าคงพูดเองเออเองไปตามประสาเด็ก
“พี่ทะเลยู้ ลุงเฉือลัก ลุงเฉืออาโลมจุ๊บจุ๊บกันเยย ” ลูกหมูพูดอย่างเดียวกลัวไม่มีใครเชื่อ จึงเอานิ้วจิ้มเข้าที่ปากตัวเองประกอบคำพูด
!!!!!!!!!
“เอ่อ..ทานกันเลยไหมครับ เดี๋ยวอาหารจะเย็น” ไออุ่นทำเป็นหยิบโน่นหยิบนี่บนโต๊ะอาหาร เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น
“นั่นสิครับ เดี๋ยวมืดแล้วมองไม่เห็นวิว” ชลธรเองก็หลบสายตาเสือ ไม่ใช่ว่าเขารับไม่ได้แต่เขากลัวตัวเองจะเผลอหัวเราะ
ออกมา หน้าเสือตอนที่ได้ยินลูกหมูทะเลพูดตลกมาก ตะลึงตาค้างไปเลย
“ลูกพี่ ลูกพี่เห็นอะไรอีกบอกเหมามั้งสิ” ลูกน้องเหมาเป็นคนเดียวที่ไม่กลัวตาย ถึงกับเดินเข้านั่งยองๆ ข้างเก้าอี้ลูกพี่แล้ว
สะกิดถาม
“พี่ทะเลเห็น...” เมื่อลูกน้องถามลูกพี่ก็ต้องบอก
“ทะเลครับ ทานแกงจืดนะอาอุ่นตักให้” ไออุ่นแทบจะตะครุบตัวลูกหมูทะเล แค่นี้เสือก็คงอยากเผ่นกลับกรุงเทพฯ จะแย่แล้ว
“เหมา ไปนั่งได้แล้ว” ไออุ่นไม่ลืมหันไปดุลูกน้อง ที่ทำหน้าเสียดายไม่ได้รู้ความลับที่ลูกพี่กุมอยู่
“โอ๊ย” เหมากุมหัวร้องลั่น พลาดที่เดินวนไปทางที่เสือนั่งอยู่ เลยโดนเข้าไปเต็มๆ แหมรักดอกจึงหยอกเล่น เขาแค่อยากให้
เฮียของเขาทำตัวให้ชินเร็วๆ จะได้มีความสุขเสียที
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“โอ้ย อยากให้แม่มาเห็นจังหมอก แม่ต้องชอบแน่” หลังจากชิมไวน์ไปหลายขนาน หมดจนนับแก้วไม่ทัน เหมาผู้เคยชินแต่
เบียร์กับเหล้าไทยถึงกับอารมณ์ดีแบบกู่ไม่กลับ ฮึมฮัมร้องเพลง เดินป่วนเขาไปทั่ว นี่ก็ลากน้องชายออกมายืนเกาะระเบียง
ชมท้องฟ้ายามค่ำคืน
“อือ แม่คงชอบมาก ถ้าได้พาแม่มาเที่ยวแบบนี้ก็ดีสิ” หมอกไม่ได้แตะแอลกอฮอล์แม้แต่น้อย เขาไม่ชอบและคิดว่าควร
มีสติไว้ดูแลพี่ชาย
“เอาไว้พี่มีตังค์ก่อนจะพามาทั้งบ้านเลย” เหมากางแขนออกสุดมือ จนปอเปี๊ยะเห็ดทอดที่ถืออยู่ กระเด็นไปโดนธันวา
ที่ดึงเก้าอี้มานั่งชมวิวอยู่ริมระเบียง
“โอ๊ะ เจ็บเปล่าคุณธัน” เหมาเดินเซๆ เข้ไปใกล้คนที่เพิ่งถูกประทุษร้าย
“พี่เหมา เดินดีๆ” หมอกร้องห้ามเมื่อเห็นพี่ชายขาชักไม่แข็งแรงเดินเป๋ไปเป๋มา
“สบายๆ แค่นี้เหมาสบายมาก” เหมายังทรงตัวได้จนเดินไปถึงธันวา
“หนาย..อยู่หนาย” น้ำเสียงอ้อแอ้กับมือที่ควานไปทั่วตัก ทำให้ธันวาต้องรีบบอก
“ไม่ต้อง ฉันโยนทิ้งไปแล้ว” ธันวาหยิบปอเปี๊ยะทอดโยนใส่จานที่เขาวางไว้ที่พื้นตั้งแต่มันกระเด็นมาโดน จึงไม่เหลือ
อาหารให้เหมาเก็บ
“แหมะ ไวจริง เหมาทำให้ก็ด้าย” เหมายังใช้มือปัดไปทั่วไล่ตั้งแต่ตักขึ้นไปถึงอก ทำเหมือนปัดเศษอาหารที่ตกค้างออกให้
“พอแล้ว” ธันวาดึงมือของเหมาออก แต่เพราะอีกฝ่ายเมาจนหัวเกือบทิ่ม เมื่อถูกดึงเพียงเล็กน้อยจึงเสียการทรงตัว
ล้มเข้าหา ปากกระแทกเข้ากับปากของธันวาอย่างจัง
เป็นเพียงเสี้ยววินาทีจริงๆ ที่ปากสองปากแนบชิดกัน ก่อนที่ธันวาจะผละหน้าออก ใช้สองมือจับไหล่ของเหมาเอาไว้
“โทด โทดคุณธัน” เหมาตะกายลุกขึ้นมายืนจนได้ ยกมือข้างนึงขึ้นเป็นการขอโทษคนที่หล่นลงไปทับ
“พี่เหมา” หมอกรีบเข้ามาประคองพี่ชายตัวเองไว้ หน้าซีดเพราะกลัวธันวาโกรธ ฉากเมื่อกี้มันเกินคำบรรยายจนเขาหน้าแดง
มันไม่ใช่การโดนกันผ่านๆ แต่มันประกบลงไปตรงๆ ปากแนบปากเต็มๆ โชคดีที่ไม่มีใครตกใจร้องออกมา ไม่อย่างนั้น
ได้หันกันมาทั้งกลุ่มแน่
“ขอโทษนะครับคุณธัน พี่เหมาเมาแล้ว” หมอกรีบออกตัวแทนพี่ชายทันที เมื่อเห็นธันวาทำหน้าพิกล เขาเลยเดาไม่ออกว่า
โกรธหรือเปล่า
“อย่าบ่นน่าไม่มีไรสักหน่อย จูบยังกะเด็ก จิ๊บๆ นึกว่าเอาปากกระแทกประตูละกันเนอะคุณธัน” เหมาตั้งใจจะบอกว่า
มันเป็นอุบัติเหตุ คิดเสียว่าเดินไปสะดุดประตูก็แล้วกัน แต่สมองกับปากมันสั่งการไม่ตรงกัน เลยได้ออกไปแบบนี้
“พี่เหมา!” คนที่ปวดหัวที่สุดคงได้แก่หมอกผู้มีสติสมบูรณ์ เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ได้แต่ก้มหัวขอโทษธันวา ก่อน
ประคองกึ่งลากพี่ชายให้กลับไปที่โต๊ะอาหาร ที่ๆ คนอื่นๆ ยังนั่งคุยกันอยู่อย่างออกรส
“มีอะไรหรือเปล่า” หมอกรีบส่ายหน้าให้กับไออุ่นที่หันมาถาม เขาไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเมื่อสักครู่มีใครสังเกตเห็น
หรือไม่ แต่เมื่อไม่มีใครพูดถึงเขาก็จะทำลืมๆ มันไป และหวังว่าเมื่อเหมากับธันวาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้
ฤทธิ์น้ำเมาจะทำให้ทั้งสองคนลืมเรื่องนี้ไปด้วยเช่นกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“มันควรจะโดนถีบไหม เมาเสียหัวราน้ำ” เสือบ่นอุบเมื่อทิ้งร่างของลูกน้องตัวแสบลงบนเตียง ใครเอาอะไรให้ชิม
ชิมหมด
“ขอบคุณครับพี่เสือ” หมอกยกมือไหว้เจ้านายที่ช่วยกันประคับประคองพี่ชายมาส่งจนถึงห้อง
“ปล่อยไว้แบบนี้ล่ะรู้สึกตัวก็อาบน้ำเอง หมอกไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะ”
“ครับ”
เสือเดินออกจากห้องของลูกน้อง พรุ่งนี้คงต้องบ่นให้หูชาจะได้ระวังตัวมากกว่านี้ ความจริงเหมาก็ไม่ได้ทำตัวเสียหาย
อะไร แต่เขาก็ไม่อยากให้เหมาจนไม่มีสติแบบนี้ ถ้าไปกับคนอื่นมันอันตราย เสือเป็นห่วง
“ช้า” เสือสะดุ้งเฮือก เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปเจอรเมศนอนอยู่กลางเตียง
“ไปนอนห้องตัวเอง” เสือไล่กลายๆ เพราะถ้าไม่พูดเลยเดี๋ยวจะได้ใจ แต่ถามว่าอยากให้ไปจริงไหม คำตอบรู้อยู่เต็มอกว่าไม่อยาก
“นี่แหละห้องผม ลุงนอนห้องไหนก็ห้องนั้น”
“ทำไมไม่ไปอาบน้ำ” เสือมองหุ่นล่ำสันที่ใส่แค่กางเกงยีนส์ตัวเดียว เห็นกล้ามท้องเป็นลอน
“รอลุง” รเมศลุกขึ้นมานั่งตัวตรง เขามองเสือที่กำลังดึงข้าวของออกจากกระเป๋ากางเกงมาวางบนโต๊ะ
“อาบให้ไหม” เสือเหลือบตามองคนพูด หน้าของรเมศมีเพียงรอยยิ้มอ่อนๆ ไม่ได้สื่อไปทางเรื่องอย่างว่า
“เอาสิ” เสือเองก็เหนื่อยเพราะต้องตื่นแต่เช้า ไหนจะขี่ม้าที่ไม่เคยหัดมาก่อน ไปเดินชมไร่องุ่น แล้วยังดื่มไวน์เข้าไป
อีกมากโข ตอนนี้ร่างกายเขาล้าไปหมด มีคนดูแลก็ดี
“มาเถอะ” รเมศลุกขึ้นยืน เขายื่นมือไปให้ร่างที่สูงไล่เลี่ยกัน ดวงตาคู่นั้นลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกมาจับมือเขาไว้
รเมศจูงเสือเข้าไปในห้องน้ำที่เขาเข้ามาเปิดน้ำอุ่นรอไว้ให้แล้ว ก่อนหันมาถอดเสื้อผ้าให้เสือและถอดกางเกงยีนส์ของตัวเอง
เขาก้าวลงไปในอ่าง จับเสือให้นั่งอยู่ตรงหว่างขา ดึงไหล่ให้พิงลงมากับอกเขา รเมศกดสบู่เหลว ค่อยๆ ลูบไปตามแขนและแผงอกของเสือ
“สบายไหม”
“อืม” เสือหลับตา เกียจคร้านจนไม่อยากพูดอะไรออกมา เขาปล่อยให้รเมศเป็นคนอาบน้ำให้อย่างที่พูด รเมศจับเขาเอียงคอ
ซ้ายขวา ดันหลังให้นั่งตรง เสือไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมามอง เขาแค่ขยับร่างกายตามที่อีกฝ่ายชี้นำ
“หันหน้ามาทางนี้” เสือหมุนตัวตามที่รเมศบอก เขาพิงขอบอกอีกด้าน ยื่นเท้าวางบนตักของรเมศ ปล่อยให้อีกฝ่ายทำงาน
ไปเรื่อยๆ
“จะแช่ก่อนไหมหรือจะล้างตัวเลย”
“ล้างตัวเลย” เสือลืมตาขึ้นมาช้าๆ มองหน้าคนที่กำลังง่วนกับการปล่อยน้ำออกจากอ่าง รเมศเด็กกว่าเขามากแต่เวลา
แบบนี้กลับทำหน้าเป็นผู้ใหญ่ คอยดูแลเขาอย่างดี
“ลุกครับ” รเมศลุกขึ้นยืน ก่อนยื่นมือฉุดเสือให้ลุกขึ้นตาม เขา กดแชมพูแล้วสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมหนา ช่วยนวดไปเรื่อยๆ
จนแน่ใจว่าสะอาดแล้ว จึงเปิดน้ำจากฝักบัวให้ราดรดแชมพูและสบู่ออกจากตัวเสือ โดยมีเขาช่วยถูให้อีกแรง
“เสร็จแล้ว” รเมศเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่เตรียมไว้มาพันเอวให้เสือ ก่อนใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมให้จนหมาด
“ลุงออกไปแต่งตัวก่อน ขอผมอาบน้ำแป๊บเดียวเดี๋ยวตามออกไป” เสือพยักหน้า เขาเปิดประตูห้องน้ำออกไป
หยิบไดร์เป่าผมมาเป่าจนผมแห้ง ใส่เสื้อยืดกางเกงขายาวผ้านิ่มแล้วขึ้นไปเอกเขนกรอรเมศบนเตียง
เสือคิดว่ารเมศคงต้องการเรื่องอย่างว่า ซึ่งเขาพร้อมจะตามใจ ถึงแม้ว่าจะเคล็ดขัดยอกเพราะขี่ม้าจนระบมไปหมดก็เถอะ
แต่เขาโตพอที่จะใช้เหตุผลในการคิด เรื่องอย่างนี้เขาเป็นผู้ชายย่อมรู้ดี ถ้าเขาไม่อยากให้รเมศไปมีใครอื่น เขาก็ไม่ควร
ปล่อยให้คนที่ยังหนุ่มยังแน่นอดอยากปากแห้ง โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้เจอกันบ่อยๆ เหมือนคู่อื่น
เสือคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีคนสอดร่างเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน ไฟในห้องมืดหมดแล้ว เขาคงเผลอหลับ
ไปไม่รู้ตัว
“โรม” เป็นครั้งแรกที่เสือเรียกรเมศด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้
“ครับ” เสียงอู้อี้มาจากคนที่สอดแขนเข้ามากอด หน้าซบอยู่กับแผ่นหลังของเขา
“ไม่ทำเหรอ” เสือถามออกไปตรงๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพียงแค่กอดเขาไว้ ไม่มีทีท่าจะทำอย่างอื่นต่อ
“อยากแต่ไม่ทำ ลุงปวดเอวใช่ไหม” โรมเคยฝึกขี่ม้ามาก่อนเขาย่อมรู้ดีว่าตอนนี้เสือมีอาการเช่นไร
“มันก็ใช่แต่ถ้าอยากทำก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไร ผมไม่อยากให้ลุงคิดว่าผมมาหาเพราะเรื่องนั้น มาเพราะคิดถึงอยากใช้เวลาด้วย” รเมศกดจูบลงบนต้นคอเสือ
เบาๆ ก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“เรื่องนั้นมันก็อยากแต่อยากเพราะคิดถึงลุง แต่ถ้าผมทำแล้วมันทำให้ลุงคิดว่าผมมาเพราะเรื่องนั้นก็อย่าดีกว่า”
“จะโชว์ว่าโตแล้วว่างั้น” เสือหัวเราะออกมาเบาๆ เขาทั้งขำทั้งคิดว่ารเมศน่ารักที่คิดอะไรแบบนั้นออกมาได้ เสือจึงไม่พูด
ให้เด็กน้อยเสียกำลังใจ ว่าเขาเป็นผู้ชายเหมือนกัน ของอย่างนี้สำหรับผู้ชายบางทีมันก็แยกออกจากกันไม่ได้ ทำไมเขาจะ
ไม่เข้าใจ
“ผมโตนานแล้ว ดูแลลุงได้ไม่ใช่เพิ่งโต” รเมศขัดใจที่เสือทำเหมือนเขาเป็นเด็ก เขาอยากให้เสือรู้ว่าเขาเป็นผู้ใหญ่พอ
ดูแลเสือได้ และเขาอยากให้เสือพิ่งพาเขาให้มากกว่านี้
“หึ โตก็โต ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจจะนอนล่ะ อย่ามาบ่นทีหลัง”
“ไม่บ่นหรอกน่าลุงพักเถอะ พรุ่งนี้กลับกรุงเทพฯ พร้อมกันตกลงไหม” รเมศหมายถึงให้เสือย้ายมานั่งรถคันเดียวกับเขา
“อืม” เสือตอบรับด้วยเสียงในลำคอ เขาหลับตาลงช้าๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นของคนที่นอนกอดอยู่ด้านหลัง
“ผมรักลุงนะ ราตรีสวัสดิ์” รเมศกดจูบลงบนต้นคอเสืออีกครั้ง เขากระชับแขนให้แน่นขึ้นก่อนหลับตาลงบ้าง
“เหมือนกัน”
เสียงลอยลมมาเบาๆ ทำให้รเมศลืมตาขึ้นทันที เขาไม่พูดอะไรออกมาเพราะรู้จักนิสัยของเสือดี รเมศจึงเพียงแค่
กดจูบลงบนลาดไหล่หนาซ้ำๆ ก่อนซบหน้าลงไปเหมือนเดิม
ไม่ต้องพูดกันให้มากความ แค่รับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกันก็พอแล้ว
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**เขาว่าไม่ควรดูถูกผู้ชายเกินสามครั้ง ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น อย่าสปอยเหมาล่วงหน้าเลย
**ไม่ได้ลืมคู่หลักนะคะ แต่เราอยากนำเสนอเรื่องนี้เป็นครอบครัวใหญ่ ให้เห็นความเป็นไปของตัวละครทุกตัว
ไม่อยากให้ใครเด่นกว่าใคร อยากให้ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง (เดี๋ยวพี่่ทินกลับมาทวงตำแหน่งพระเอกแน่นอน ^^)
**ลงอีกทีวัน ศุกร์ที่ 23 นะคะ พรุ่งนี้ลงมหารัก
Darin ♥ FANPAGE