ตอนที่ 42 : เข้าใจใจของเสือกำลังลอยไปไกล บทสนทนาระหว่างเหมากับไออุ่นเป็นเพียงเสียงแว่วๆ ที่ดังกระทบโสตประสาทแต่ไม่สามารถ
จับใจความได้ ความกังวลเริ่มแสดงออกทางสีหน้าจนลูกน้องตัวแสบของเขาสังเกตเห็น
“พี่เสือ...เฮีย” เหมาเรียกเจ้านายซ้ำสองครั้ง เมื่อเรียกครั้งแรกแล้วคนถูกเรียกยังเอาแต่นิ่งไม่ขานรับ
“ว่าไง” เสือหันไปมองหน้าลูกน้องจึงเห็นว่าทั้งสองคนต่างจ้องมองเขาอยู่
“พี่เสือเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ไออุ่นเห็นสีหน้าเสือแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เสือดูเงียบไปทั้งที่ก่อนนี้ยังคุยกันสนุกสนาน
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” เสือปฏิเสธ
“พี่เสือกังวลเรื่องที่เราคุยกันอยู่หรือเปล่าครับ” ไออุ่นหรี่ตามองรุ่นพี่ เขาคิดว่าเขาเดาไม่ผิด
เมื่อสักครู่ใหญ่เหมาเอาข่าวดารามาเล่าให้ฟัง เป็นข่าวอักษรย่อว่าดาราคู่หนึ่งแอบคบกัน ทีแรกเสือก็ยังช่วยเหมาวิเคราะห์
ว่าเป็นใคร แต่สักพักก็เงียบลงเรื่อยๆ จนไออุ่นกับเหมาสังเกตเห็น
“เฮียกลัวคนรู้เรื่องเฮียกับพี่โรมเหรอ” เหมาจี้ได้ถูกจุดจนเสือเผลอถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เป็นการยอมรับโดยดุษฎี
“พี่เสือกับโรมเคยคุยกันเรื่องนี้ไหมครับว่าจะปิดหรือจะเปิดเผย”
“ยังไม่เคยคุย” เสือไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับรเมศอยู่ในจุดที่สามารถคุยเรื่องจริงจังได้หรือยัง ถูกที่เขารู้แล้วว่ารเมศ
รักเขา แต่รักพอจะอยากสร้างอนาคตด้วยกันไหมเขาไม่เคยถาม
“กลัวคำตอบเหรอเฮีย” เสืออยากจะเตะลูกน้องสักป๊าบโทษฐานที่มานั่งกลางใจเขา เรื่องแบบนี้พูดยาก ถ้ารเมศตอบว่า
ต้องปิดเขาก็เข้าใจในเมื่อมันเป็นอาชีพการงานของอีกฝ่าย แต่ถามว่าเสียใจไหมแมนแค่ไหนก็ต้องยอมรับว่าใช่ ถ้าคำตอบ
เป็นอย่างนั้นเขาคงเสียใจ
“ผมว่าคุยไปเถอะ เฮียแก่แล้วจะได้ตั้งหลักทัน”
“ไอ้เหมา” เสือของขึ้น เมื่อก่อนใครแซวว่าแก่เสือไม่เคยสนใจ แต่เดี๋ยวนี้มันจี๊ดเข้าไปถึงในอก อายุที่ต่างกันทำให้เสือ
สั่นคลอนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ผมเห็นด้วยกับเหมานะครับพี่เสือ แต่ถ้าถามผมผมไม่เคยเห็นโรมปิดบัง โรมไปไหนมาไหนกับพี่เสือตามปกติบางทียังเห็น
เดินกอดคอ” ไออุ่นออกความคิดเห็น
“แบบนั้นเป็นแค่พี่น้องเป็นเพื่อนก็ทำได้มันไม่แปลก”
“อ๋อ เฮียอยากให้พี่โรมสวีทด้วยว่างั้นเถอะจะได้มั่นใจ”
“ไอ้เหมา” เสือว่าจะไม่แล้วเชียว สุดท้ายก็ไล่เตะลูกน้องตัวแสบจนได้
“พี่เสือมาคุยกันดีๆ ก่อนครับ เหมาลูกค้าเข้าร้าน” ไออุ่นต้องรีบแยกเจ้านายลูกน้องคู่นี้ออกจากกัน คนหนึ่งก็ชอบยั่ว
คนหนึ่งก็ยั่วขึ้นเหลือเกิน
“ไม่มีอะไรหรอกอุ่นพี่แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“ตามใจพี่เสือครับไม่คุยก็ไม่คุย แต่ผมว่าเรื่องบางอย่างก็ควรจะพูดออกมานะครับ โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกับจิตใจของเรา”
“อืมรู้แล้วอุ่น ขอบใจ” เสือรู้แล้วจริงๆ แต่จะพูดได้ไหมนั่นอีกเรื่อง คำว่าไร้สาระมันค้ำคอเขาอยู่ เป็นผู้ชายจุกจิกเรื่อง
พวกนี้ได้จริงหรือ ขนาดเขายังไม่แน่ใจแล้วรเมศจะคิดอย่างไร
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“นั่งเงียบเชียว หนังสนุกขนาดนั้นเลยเหรอลุง” รเมศแซวคนที่นั่งพิงหมอนดูหนังอยู่ข้างๆ หนังเรื่องไหนที่พวกเขาอยากดู
เสือจะเป็นคนไปหาซื้อมาให้ ได้ดูช้ากว่าคนอื่นแต่ก็ส่วนตัวกว่าไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาใคร
“วันนี้เหมาเอาข่าวดาราอักษรย่อรอเรือคบกับดาราอักษรย่อสอเสือมาเล่าให้ฟัง” เสือลองเกริ่นนำเพื่อดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
“หึหึ ลุงตามข่าวดารากับเขาด้วยเหรอ อย่าถามผมนะผมไม่รู้ ไม่สนใจ” เสือสะอึกเมื่อเจอคำว่าไม่สนใจเข้าไปแต่ก็ยังพูดต่อ
“ไม่ได้ตามหรอก เหมามันเอามาเล่าให้ฟัง”
“บอกเหมาอย่าไปอยากรู้เรื่องคนอื่นเลย เขาไม่บอกก็ต้องมีเหตุผลของเขา เป็นดารามันต้องคิดเยอะไม่ใช่นึกอยากจะบอก
ก็บอกได้ ด้วยอาชีพบางทีมันก็จำเป็นต้องปิด”
“อืม” ความมั่นใจที่เสือพกมาหายไปอย่างรวดเร็ว พูดแบบนี้แปลว่ารเมศเองก็คงอยากปิดมากกว่าเปิดเผย แล้วทำไมเวลา
อยู่ด้วยกันถึงชอบพูดว่าไม่แคร์ที่มีคนมอง แบบนั้นมันให้ความหวังเขาชัดๆ เป็นแฟนนายแบบต้องอดทนใช่ไหม แล้วเขาจะ
ทนได้หรือเปล่า
“ลุงเป็นอะไรทำไมหงอย” รเมศจับหน้าเสือให้หันมาหา เขาว่าวันนี้เสือดูแปลกๆ หน้าตาเหมือนคนคิดมาก
“เหนื่อยน่ะงานเยอะ ฟ้าชวนขยายร้านกำลังคิดกันอยู่ว่าจะเพิ่มพื้นที่หรือเปิดอีกสาขา” เสือปัดไปเรื่องงานเพราะเป็น
เรื่องที่ทำให้เชื่อได้ง่ายที่สุด
“พี่ฟ้ายังจะทำอยู่หรือ ผมนึกว่าพอแต่งงานกับพี่ธรแล้วจะเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกเสียอีก หรือไม่ก็กลับไปเป็นเลขาพี่ธร”
“ทำสิ ฟ้าเลือกทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย คลอดแล้วจะได้ไม่เหงา ทำร้านไม่จำเป็นต้องเข้าทุกวันหรือถ้าเขาก็พาลูก
มาด้วยได้ ส่วนเรื่องงานเลขาฟ้าคงไม่กลับไปทำเพราะกลัวจะเลี้ยงลูกได้ไม่เต็มที่”
“สมกับเป็นพี่ฟ้าจริงๆ” รเมศพูดจบก็หันไปให้ความสนใจจอโทรทัศน์ มีแต่เสือที่ยังวนเวียนคิดเรื่องเดิมซ้ำๆ
แฟนลับๆ ใช่ไหม สถานะของเขาในตอนนี้
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“อาโลม” เด็กชายทะเลสะกิดแขนรเมศ เขากอดตุ๊กตาหหมีไว้มือหนึ่งอีกมือจับแขนเสื้อของอาหนุ่มไว้
“ครับทะเล”
“เล่นกาน”
“เฮ้ย!ไม่ใช่”
“หือ?” รเมศหันไปทางต้นเสียงเห็นเหมาก้มหน้าก้มตาช่วยหมอกปลอกผลไม้อยู่ไม่ไกล
“เหมาเมื่อกี้พูดอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับ” เหมาส่ายหน้า เขาจะบอกได้อย่างไรว่าลูกพี่ทะเลทำเขาผิดแผน ลูกน้องเหมาสู้อุตส่าห์สอนไปตั้งเยอะ
ทำไมกลายเป็นชวนเล่นกันไปได้
“พี่เหมาทำอะไรอีกแล้วใช่ไหม” หมอกทำเสียงดุพี่ชาย เขาเห็นอยู่ว่าก่อนทะเลจะเดินเข้าไปหารเมศพี่ชายของเขากระซิบ
กระซาบบางอย่างอยู่พักใหญ่
วันนี้เป็นวันหยุดของร้านไออุ่นจึงชวนทุกคนมาที่คอนโดเพื่อทำอาหารรับประทานกัน เสือมาถึงเป็นคนแรก หมอกมาพร้อม
กับเหมาและญาดา ชลธรมากับธันวา ส่วนรเมศมาถึงเป็นคนสุดท้าย
“ไม่ได้ทำ” เหมายังปากแข็งเพราะรู้ว่าขืนบอกไปมีหวังโดนน้องชายดุเอาแน่ๆ
“ให้มันจริงนะครับ ทำอะไรไม่ปรึกษาใครเดี๋ยวก็เป็นเรื่องขึ้นมาอีก” หมอกยังไม่ไว้ใจพี่ชายตัวเอง
“บ่นจริงนี่เป็นน้องหรือเป็นแม่” เหมายกมือขึ้นโยกหัวน้องชาย หมอกอ่อนกว่าเขาสองปี เป็นน้องชายที่เรียบร้อยและเชื่อฟัง
พี่ชายดีมาก เว้นในบางครั้งก็จะผันตัวเองมาเป็นแม่เพื่อปรามเขา
“แล้วแต่สถานการณ์ครับ”
“ไม่มีอะไรจริงๆ ทำต่อเถอะ” เหมาไม่กล้าสบตาน้องกลัวหลุดพูดความจริงออกมา เขารอให้หมอกเลิกสนใจจึงค่อยๆ ปลีก
ตัวเดินไปหาสองอาหลาน
“ลูกพี่ทะเลกินเค้กไหมเค้กที่ลุงเสือเอามา” เหมาเน้นคำว่าลุงเสือเผื่อลูกพี่จะนึกอะไรออก แต่เขาลืมไปว่าคำว่าเค้กมี
อิทธิพลกับลูกพี่ทะเลมากแค่ไหน
“กิน พี่ทะเลจากินเค้ก ปายกินเค้กกัน” ลูกหมูทะเลผละออกจากตักของอาโรมชูสองแขนให้ลูกน้องเหมาอุ้ม
“เอ่อ..คิดไปคิดมาอย่าเพิ่งกินเลยนะครับลูกพี่ เดี๋ยวอาอุ่นจะว่าเอารอกินข้าวเสร็จก่อนนะ”
“ม่าย หมาวก๊ะปายอาวมาฉิ แบ่งกานกิน” นอกจากลูกพี่จะไม่ยอมแล้วยังมีน้ำใจชวนลูกน้องทำความผิดด้วยกัน
“ลูกพี่แบ่งเหมากินทีไรเหมาโดนดุคนเดียวทุกที” เหมาแกล้งบ่นเพื่อโยงเข้าเรื่องที่คิดไว้
“รักกันจริงหรือเปล่าเนี่ย หรือรักแค่อาอุ่นกับลุงเสือ เหมางอนลูกพี่แล้ว”
“อู้” ลูกหมทะเลตาโตเมื่อเริ่มจำสิ่งที่ลูกน้องเหมาสอนมาได้ รีบหันหน้าไปทางอาโรม
“อาโลม ลุงเฉืองอน” เหมาแอบยิ้มในใจในที่สุดก็สำเร็จ เขาเหลือบตาไปดูในครัว เสือ ไออุ่น ญาดายังง่วนอยู่กับการ
ทำอาหาร ส่วน ทินภัทร ชลธรและธันวาคุยกันอยู่ในห้องทำงาน นับว่าทางสะดวกมากสำหรับแผการนของเขา
“อะไรนะครับทะเล” รเมศถามหลานชายให้แน่ใจอีกที
“ลุงเฉืองอน” เด็กชายทะเลพยายามพูดช้าๆ ตามที่ลูกน้องเหมาสอนมา
“งอนอะไรครับ งอนใคร งอนอาโรมหรือ แล้วงอนเรื่องอะไร”
“งอน...งอน..พี่ทะเลม่ายยู้ หมาวบอก” ลูกพี่ทะเลชี้นิ้วไปทางลูกน้องเหมา เมื่อเจอคำถามเป็นชุดจากอาโรมเข้าไป
“อ่า..” เหมาเหงื่อแตกซิก จะหนีก็หนีไม่ทันเมื่อรเมศหันมาจ้องหน้า
“ว่าไงเหมา มีอะไรอยากบอกไหม”
“ไม่มีครับ ไม่มี้” เหมาส่ายมือส่ายหน้าพร้อมกับขึ้นเสียงสูงปรี๊ด
“มีฉิ” ลูกน้องส่ายหน้าแต่ลูกพี่กลับพยักหน้า แถมสำทับด้วยคำพูดอีกชั้นหนึ่ง
“หมาวบอก ยูกพี่ปายบอกอาโลมลุงเฉืองอน อาโลมม่ายลัก ห้ายง้อ จีบกานเยย “ ถึงตอนนี้ลูกพี่ทะเลจำได้หมดทุกอย่าง
แถมจำเกินด้วยเพราะลูกพี่จำได้ว่าลุงเสือสอนไว้ ง้อกันแปลว่าจีบ
“โหยลูกพี่อันนั้นก็เกินไป” เหมาเริ่มเสียงอ่อย เขาไม่อยากมีปัญหากับเสือ อุตส่าห์ให้ลูกพี่มาสะกิดแทน ลูกพี่ก็ช่างสะกิด
แรงเหลือเกิน
“เหมาคุยกันหน่อยสิ”
“พี่อุ่นบอกให้ผมปอกผลไม้ให้เสร็จจะได้แช่เย็นไว้กินหลังอาหาร”
“นั่งลง” เหมาเริ่มเห็นแววชะตาขาดเมื่อรเมศลงเสียงหนัก แต่เขายังพยายามเอาตัวรอด
“โธ่พี่โรม ถ้าพี่เสือรู้ผมตายแน่” เหมาโอดครวญ พักนี้เจ้านายยิ่งเพ่งเล็งเขาเป็นพิเศษอยู่ด้วย
“ก็อย่าให้รู้ ปกติก็คอยส่งข่าวให้พี่ทินกับพี่ธรอยู่แล้วนี่จะเป็นไรไป”
“พี่โรม!!” เหมาตกใจรีบยกนิ้วขึ้นแตะบ้าง ช่างไม่รู้ความสามารถของหลานชายตัวเองเสียเลย อะไรที่เป็นความลับมันจะไม่
เป็นความลับอีกต่อไปถ้าลูกพี่ทะเลอยู่ฟังด้วย
“ทะเลครับไปอยู่กับพี่หมอกก่อนนะครับ อาขอคุยกับพี่เหมาก่อน”
“พี่ทะเลก๊ะคุยด้วย” ลูกหมูทะเลไม่ยอมไปง่ายๆ ลูกน้องเหมาได้คุยพี่ทะเลก็ต้องได้คุยด้วย
“เหมาเล่าอ้อมๆ ได้ไหม” รเมศเห็นท่าดื้อดึงของหลานก็รู้ว่าคงไม่ยอมไปง่ายๆ จึงคิดเปลี่ยนวิธีคุยแทน
“ได้ครับ” เหมาสูดลมหายใจเข้าปอด ในหัวกำลังคิดว่าจะเล่าแบบจักรๆ วงศ์ๆ หรือหนังจีนกำลังภายในดี ซึ่งในที่สุดก็ตัดสินใจได้
“อะแฮ่ม คืออย่างนี้ครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า....”
แล้วเหมาผู้รอบรู้เรื่องยุทธจักร ก็เริ่มเล่าด้วยการวนอ้อมไปถึงจีนก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาไทย ทำเอาลูกพี่ทะเลงงจนเลิก
สนใจฟังไปเอง ส่วนรเมศนั้นต้องใช้เวลาฟังอยู่นานกว่าจะเข้าใจ
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“พี่ทิน ถ้ายังไงผมกับลุงขอตัวกลับก่อนนะครับ” รเมศเอ่ยกับพี่ชายหลังรับประทานอาหารกันเรียบร้อย
“อ้าวจะรีบไปไหนโรม” ชลธรยังไม่อยากกลับ เขากลัวว่าถ้าคนน้อยลงญาดาจะขอตัวกลับบ้านบ้าง
“ผมจะไปดูหนังครับพี่ธร นานๆ ว่างที”
“ไปเถอะ” ทินภัทรเป็นคนตอบ เขารู้ว่าน้องชายอยากมีเวลาส่วนตัวอยู่กับเสือ
“เจอกันที่ร้าน” เสือหันไปร่ำลาญาดากับไออุ่นบ้าง ก่อนลุกตามรเมศออกไป
“จะไปไหน” เสือมองหมายเลขชั้นที่รเมศกด ที่เขาถามเพราะมันไม่ใช่ชั้นที่รเมศพักอาศัยอยู่
“ลุงหูตึง ก็บอกแล้วว่าจะไปดูหนัง”
“ลืมแผ่นไว้ที่รถเหรอ”
“หึหึ” รเมศเพียงแค่หัวเราะเบาๆ ในลำคอแต่ไม่ยอมตอบ เล่นเอาเสือขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“อย่าบอกนะว่าจะไปดูในโรงหนัง” เสือหน้าตาตื่นเมื่อเดาได้จากสายตาของรเมศ
“เบื่อดูหนังอยู่ห้องไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกกันบ้างดีกว่า”
“เดี๋ยวๆ “ เสือดึงแขนรเมศไว้ไม่ให้ก้าวออกจากลิฟท์ แต่รเมศดึงเขาออกมาจนได้
“เกิดอะไรขึ้น ไหนบอกว่าชอบดูอยู่บ้านสบายๆ าจะได้พักผ่อนไปในตัวไง”
“อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไปน่าลุงไปดูหนังด้วยกัน” รเมศดันหลังเสือให้ออกเดินไปที่รถ เขาจับลุงขี้โมโหขึ้นนั่ง
ก่อนเดินอ้อมมาขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ลุงขี้โมโหจะมีโอกาสปฏิเสธ
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“เอาแขนออกเถอะ” เสือกระซิบเบาๆ เมื่อมีคนมองมา ห้างสรรพสินค้าที่รเมศเลือกมาดูหนังเป็นห้างขนาดใหญ่ซึ่งปกติพวก
เขาจะไม่เฉียดใกล้เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา
“ลุงก็เดินไปสิจะดูอะไรก็ดู ยุ่งอะไรกับแขนผม” รเมศยังคงวางแขนพาดบนไหล่ของเสือ เขาซื้อตั๋วหนังเรียบร้อยแล้ว แต่อีก
เกือบครึ่งชั่วโมงหนังถึงจะเริ่มฉาย จึงพากันลงมาเดินเล่นดูของระหว่างรอ
“เดี๋ยวเจอนักข่าวจะลำบาก”
“สมัยนี้ไม่ต้องนักข่าวหรอกลุง แค่คนทั่วไปถ่ายรูปเอาไปลงโซเชียลแป๊บเดียวก็กระจายแล้ว”
“รู้นี่แล้วทำทำไม ไหนบอกไม่ชอบเป็นข่าว” เสือพยายามดันมือรเมศออกแต่พอหลุดแล้วอีกฝ่ายก็ยกขึ้นมาวางพาดใหม่
“ใช่ ผมไม่ชอบเป็นข่าวแต่ไม่คิดจะหลบซ่อน สองประโยคนี้มันต่างกันรู้ไหม” แววตาที่รเมศมองมาจริงจังจนเสือต้องหลบ
สายตา
“แต่นายบอกเองว่าเรื่องแบบนี้ต้องปิด”
“เมื่อไหร่ ผมบอกลุงเมื่อไหร่” รเมศคาดคั้นเอาคำตอบ
“ก็วันนั้น” เสือเถียงเต็มที่เขายังจำวันที่คุยกันเรื่องนี้ได้ดี
“วันนั้นลุงพูดเรื่องดาราไม่ได้พูดเรื่องผม ถ้าอยากพูดเรื่องผมก็ถามมาตรงๆ สิ” เสือปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรต่อ
“ถ้าลุงคิดมากทำไมลุงไม่ถามผมตรงๆ” รเมศหยุดเดิน เขาดันเสือหลบเข้ามุมในร้านเสื้อผ้าที่เสือพาเดินเข้ามาดู ก่อนยกมือ
ขึ้นคร่อมเสือเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
“เฮ้ย!” เสืออุทาน รีบผลักแขนของรเมศออก กลัวใครจะเห็นเข้า
“ให้ถามว่าอะไร ถามว่านายจริงจังแค่ไหน จะบอกคนอื่นไหมว่าเราเป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ จะให้ฉันถามได้ยังไง
ในเมื่อฉันเองยังไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“นี่ลุงไม่รู้จริงๆ เหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” รเมศยอมปล่อยแขนออก แต่ใช้ตัวกั้นไว้ไมยอมให้เสือเดินหนี
“จะบอกว่าเป็นแฟนอย่างนั้นสิ ” เสือเบือนหน้าหลบสายตารเมศ นึกโกรธขึ้นมาในใจ ตลอดเวลารเมศเอาแต่พูดเชิง
หยิกแกมหยอก พูดว่าจีบบ้างพูดว่ารักบ้าง แต่ไม่เคยขอคบเขา ไม่เคยพูดถึงสถานะอย่างจริงจังให้เขาแน่ใจ
“ผิดแล้ว ลุงไม่ใช่แฟน”
“........”
เสือกัดปากแน่น เขาควรจะรู้ตำแหน่งตัวเองว่าไม่มีความหมายใดกับอีกฝ่าย ไม่ควรรอให้รเมศเป็นคนมาบอกแบบนี้
“ลุงไม่ใช่แฟนผมเพราะลุงเป็นเมียต่างหาก โดนไปนี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” รเมศจับคางเสือให้หันกลับมามองหน้า สายตา
ของรเมศกรุ่มกริ่มเต็มไปด้วยความหมาย
“ไอ้..ไอ้เด็กบ้า” เสือหน้าแดงแจ๋ แต่เปลี่ยนจากแดงเพราะความโกรธความน้อยใจเป็นแดงเพราะความอายแทน
“หรือมันไม่จริง ลุงเป็นเมียผมยอมรับเถอะน่า”
“ถ้า..ถ้าใช่แล้วยังไง” เสือนึกฮึดขึ้นมา ถ้าเขาเป็นเมียแล้วรเมศจะทำยังไงเขาก็อยากรู้เหมือนกัน
“ก็ไม่ยังไง เราก็ใช้ชีวิตของเราไป ผมจริงจังกับลุงนะ ตั้งแต่มีลุงผมเป็นเด็กดีไม่เคยเหลวไหล”
“แล้วถ้ามีนักข่าวมาถามนายล่ะ” เสือกลั้นใจรอฟังคำตอบ
“ถ้ามีนักข่าวมาถามก็จะตอบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวครับ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ” รเมศเห็นเสือพยักหน้ารับ แต่เขา
ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเข้าใจตรงกับเขาจริงหรือเปล่า จึงต้องจับซักให้แน่ใจ
“ลุงเข้าใจที่ผมพูดไหม”
“เข้าใจ” เสือคิดว่าเขาเข้าใจที่รเมศพูด ขอเพียงรเมศไม่ปฏิเสธเขาก็พอใจแล้ว
“ไหนเข้าใจว่ายังไงบอกผมหน่อยสิ”
“ก็เข้าใจตามที่พูด” รเมศถอนใจเฮือกใหญ่ ไอ้เข้าใจตามที่พูดนี่แหละที่เขากลัว
“ด้วยอาชีพผม มันคงออกมาเปล่าประกาศโต้งๆ ไม่ได้ว่าผมคบกับผู้ชายอยู่ อย่างน้อยก็ต้องเกรงใจสินค้าที่จ้างผม
เป็นพรีเซนเตอร์ แต่ผมไม่คิดจะปิดไม่คิดจะหลบ เราใช้ชีวิตของเราไป ใครเห็นจะคิดยังไงก็ปล่อยเขา ถ้านักข่าวถาม
ผมก็จะตอบอย่างที่บอกคือเป็นเรื่องส่วนตัวครับ หลังจากนั้นเขาจะเอาไปเขียนอะไรผมไม่สน ผมสนแค่ลุงรับได้ไหม
เข้าใจไหม เชื่อใจผมไหม” เสือไม่เคยเห็นรเมศจริงจังเท่านี้มาก่อน ทั้งสายตาท่าทางน้ำเสียง รเมศดูโตเป็นผู้ใหญ่มาก
“เข้าใจ” เมื่อรเมศยังหรี่ตามองเหมือนไม่มั่นใจ เสือจึงต้องย้ำอีกครั้ง
“ฉันเข้าใจจริงๆ” ในใจเสือเหมือนยกภูเขาออกจากอก แค่นี้ก็พอแล้ว เขาเองก็ต้องการแค่นี้ ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย
ไม่จำเป็นต้องตะโกนให้โลกรู้ แค่ให้เกียรติเขาเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ปฏิเสธการมีตัวตนของเขา
แค่นี้เสือก็พอใจแล้ว
“หึหึ”
“หัวเราะอะไรลุง” รเมศอดสงสัยไม่ได้ เมื่อคนที่ทำหน้าเคร่งเครียดมาทั้งวัน จู่ๆ ก็ยิ้มกว้างและหัวเราะออกมา
“ต้องมาเคลียร์กันเรื่องนี้ในร้านเสื้อผ้าจริงๆ เหรอ” เสือมองไปรอบๆ แล้วอดขำไม่ได้ สถานที่ช่างไม่อำนวยสักนิด
“ก็อยากเคลียร์ที่บ้านอยู่หรอกแต่กลัวใครบางคนไม่เชื่อเลยต้องพามาโชว์ตัวเสียหน่อย”
“ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้” เสือพูดไปอย่างนั้นเอง ข้างในเขาออกจะดีใจที่รเมศให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเขา
“ว่าแต่รู้ได้ยังไงว่าฉันคิดอะไรอยู่ ทำไมจู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมา” เสือเริ่มเอะใจอะไรมันจะพอดีกันขนาดนั้น เขากลุ้มเรื่องนี้
รเมศก็มาเคลียร์พอดีโดยไม่ต้องบอก
“ลุงถามซะขนาดนี้ใครจะไม่รู้” รเมศเลือกปกปิดให้กับสายสืบประจำกลุ่ม ไม่อย่างนั้นเรื่องแดงขึ้นมาไม่ใช่แค่เหมาหรอกที่
จะโดนโกรธเขาเองก็จะโดนไปด้วย
“อ๋อ” เสือเลิกสนใจเพราะมันก็จริงที่ว่าเขาเป็นคนเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน
“ไปกันเถอะหนังใกล้จะฉายแล้ว” รเมศคว้าคอเสือมากอด พาเดินออกจากร้านเสื้อผ้า สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรติดมือออกมา
นอกจากความเข้าใจ
“ลุง”
“หือ?”
“ยิ้มหน่อยสิ”
“ทำไม?”
“เผื่อมีใครถ่ายรูปไปเขาจะได้ชมว่าเมียผมสวย”
“เหอะเขาจะบอกว่านายมีผัวหล่อมากกว่า” เสือเบ้ปาก ถึงยังไงเขาก็ภูมิใจในความแมนของตัวเอง
“พูดไปเถอะลุงเดี๋ยวคืนนี้รู้กัน” รเมศกระซิบข้างหูเสือ ก่อนกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น
เสืออาจยังสับสนไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้ แต่สำหรับรเมศแล้วเขาเชื่อในความมั่นคงของตัวเอง เขารักเสือ
เมื่อแน่ใจว่ารักแล้วเรื่องทุกอย่างจะมีคำตอบของมันเอง
“นี่ลุง”
“อะไร”
“คบกันนะ”
“ไอ้เด็กบ้า ไม่รอไปขอในห้องน้ำห้างเสียเลยนะ”
“ได้ ดูหนังเสร็จเดี๋ยวพาไปขอ”
“ไอ้เด็กนรก!”
“ชู่ว นี่มันโรงหนังนะคุณ”
“อ่า..ขอโทษครับ”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**เนื่องจากปิดไม่ลง ขยายเป็น 46ตอนจบนะคะ
**ลงนิยายตอนที่ 43 วันพฤ.ที่20 พรุ่งนี้ลงมหารักค่ะ
Darin ♥ FANPAGE