ขอบคุณ คุณดิน ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน
ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจาก คุณดิน ก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
หมูพูห์
**********************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0-----------------------------------------------------------------------------------------
นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำ
---------------------------------------------------------------------------------------
"คำสารภาพของเด็กขาย (รุ่นเก่า)"
อ่านเรื่องที่คนอื่น เล่ามาก็หลายเรื่อง นึกคันน่ะครับ ก็เลยเอาเรื่องประสบการณ์ จริงๆ 1 ปี ในชีวิตของผมที่มีอันต้องไปเป็นเด็กขายน้ำในบาร์เกย์ มาแชร์กับเพื่อนๆ ดีกว่า ขอรับรองว่าเรื่องที่ผมจะเล่า เป็นเรื่องจริงทั้งหมดครับ ยกเว้น ชื่อคนที่เกี่ยวข้อง และสถานที่ ที่ผมไม่อยากจะเอาที่เกิดเหตุจริงๆ มาเปิดเผย เพราะ ปัจจุบัน สถานที่นี้ก็ยังมีอยู่ครับ แต่อาจจะเปลี่ยนเจ้าของไปแล้วมั๊ง ไม่แน่ใจครับ เพราะเรื่องมันก็นานมากแล้ว
อัน ที่จริง เรื่องนี้มันก็นานมากแล้วละครับ ตั้งแต่สมัยผมยังเรียนปีสุดท้ายอยู่ที่มหาวิทยาลัยโน่นแหละครับ เป็นเรื่องที่ผมเก็บไว้เป็นความลับกับตัวมาตลอด ยี่สิบสองปีมาแล้วครับ เหลือคนสนิทๆ รู้อยู่ไม่กี่คนหรอกครับ
ตัวผมเอง ก็ไม่ได้หล่อเหลาอะไรนักหนาหรอกครับ พอไปได้ ค่อนไปทางตี๋ด้วยสายเลือดที่มีอยู่ แต่สิ่งที่ป๊าให้ติดตัวมาน่ะสิ ไม่เบาเลยละครับ ประสบการณ์ ที่ผ่านๆ มา ผมบอกได้เลยครับ ว่า วัดกันตัวต่อตัว ผมเจอคนที่ทั้งใหญ่และยาวกว่าผม (ที่เป็นคนไทย) ไม่ถึงสิบคน คงพอจะเดาออกนะครับ ว่ามันคงอลังการพอสมควรละครับ เกือบอยู่เหมือนกันครับ ที่จะโดนหนังสือเล่มหนึ่งเอาไปถ่าย “ทูบิ๊กทูลอง” ในสมัยนั้น พอดีมีพี่ที่เค้าหวังดี ห้ามไว้ เพราะเห็นว่า ผมเรียนกำลังจะจบและ อาจจะมีชีวิตที่ดีกว่า และไม่เป็นแผลจนเกินไปที่จะมีอนาคตในภายหน้า ทุกวันนี้ผมก็ยังนึกขอบคุณพี่คนนั้นอยู่เลยครับ
เขาเรื่องดีกว่าครับ ตอนนั้น เรียนมหาวิทยาลัยเปิดอยู่ปีสี่ ฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยเท่าไรหรอกครับ คือมันยังไงล่ะ จะรับเงินบ้าน มันก็โอเค แต่ ดูๆ ไป ให้ป๊ากับแม่เอาไปให้น้องดีกว่า ส่วนตัวเรา กึ่งๆ อยากลองด้วยแหละครับ ว่ามันจะเป็นยังไง ประสบการณ์ กับผู้ชายก็มีอยู่บ้าง โดนกระเทยหลอกดูด (กึ่งสมยอม) ก็หลายหน ของดีก็มีอยู่กับตัวอยู่แล้ว อ่านหนังสือกีฬา เห็นเค้ามีโฆษณา “รับสมัคร พนักงานเสริฟชาย อายุไม่เกิน 25 ปี รายได้ดี” ประมาณนี้ เดาไม่ยากว่ามันคืออะไร ใช่ไหมครับ ตัดสินใจอยู่ไม่นาน ก็ลองโทรไปตามเบอร์โทรที่มีอยู่ ปลายสายบอกว่า ให้มาสมัครด้วยตัวเองที่ร้านประมาณ 1 ทุ่ม
ตอนนั้นก็สองจิตสองใจครับ ‘เอาไงดีวะไอ้ดิน เอาแน่หรือมึง’ แต่ในที่สุดก็ ‘เอาวะ ลองดู โดนหลอกฟรีมาก็หลายรอบ เอาตังค์ด้วยเลยดีกว่าวะ’
----------------
บทที่ 1 เทสต์ก่อนหลัง จากตัดสินใจแล้ว ‘เอาวะ ลองดูก็ได้’ ผมก็ไปที่ บาร์ที่โทรไป และถามถึงสถานที่จากปลายสาย ตามเวลาที่นัดหมายคือ หนึ่งทุ่มตรง มันเป็นบาร์อยู่ในซอยแถว..... ลักษณะเป็น ห้องแถว ด้านหน้า มีประตูเปิดเข้า – ออก บานเดียว ข้างในเป็นเก้าอีโซฟาร์นั่งเป็นชุดๆ อยู่ สี่ห้าชุดชิดไปด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นทางเดิน มีเก้าอี้สตูล อยู่ หกเจ็ดตัวตั้งอยู่ริมผนัง ก่อนจะถึงเวทีเล็กๆ ด้านใน เป็น เคาน์เตอร์ บาร์ ตรงข้ามกับห้องน้ำ (มาถึงตรงนี้ คนเก่าๆ คงเดาไม่ยากแล้วละครับ)
มีเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกับผม นุ่งกางเกงขาสั้น ทำความสะอาดพื้นอยู่ คนเดียว หันมามองผมแล้วเลิกคิ้วเหมือนเป็นคำถาม
“หวัดดีครับ ผมมาหา พี่รัตน์ครับ” ผมบอกชื่อคนที่ เค้านัดให้ผมมาหา”
เด็กหนุ่มคนนั้น พยักหน้านิดนึง “เดี๋ยวนะ” ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน มีประตูหลัง ก่อนจะตะโกน “เจ๊รัตน์ มีเด็กมาหา”
ครู่เดียว คนชื่อรัตน์ก็ออกมา ดูก็เป็นผู้ชาย ธรรมดาๆ นี่นา ทำไมเรียก ‘เจ๊’ กันฟะ
“สวัสดีครับ ผมชื่อ ดิน ที่โทรมาเมื่อเช้า”
“อือ... ตามพี่มานี่” เจ๊รัตน์ที่เด็กๆ เรียก พยักหน้าก่อนจะบอกให้ผมตามเจ๊เข้าประตูหลัง (ยังครับ ยัง นี่มันประตูทางออกไปด้านหลัง อยู่หลังเคาเตอร์ เท่านั้น) ขึ้นบันไดไปด้านบน เป็นห้องนอนมีเตียงอยู่ด้านหนึ่ง
“ชื่อดินเหรอ”
“ครับ”
“อายุเท่าไร”
“ยี่สิบครับ” (ผมเรียนเร็วนะครับ ออกตัวไว้ก่อน เดี๋ยวใครบางคนหาว่าผมตอแหล อายุยี่สิบ เรียนปีสี่ได้ยังไง)
“ของใหญ่ไม๊ ยาวกี่นิ้ว”
“ครับ ก็เกือบเจ็ดนิ้ว”
“โม้รึเปล่า ท่าทางไม่น่าใหญ่ ไหนถอดออกมาดูซิ” เจ๊ทำท่าไม่เชื่อเท่าไร
มา ถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็เลยถอดกางเกงนอก กางเกงในออก ให้เจ๊รัตน์ดู อาการตื่นเต้น มันก็เลยทำให้ลูกชายผมเกิดอาการตื่นคน ไม่ยอมออกมาสู้หน้าเจ๊
“เอ๊า... ทำให้มันแข็งด้วยสิ นิ่มๆ อย่างนี้ จะไปรู้อะไรว่าเล็กหรือใหญ่แค่ไหน เร็ว... เสียเวลา” เจ๊ทำท่าบ่น แต่ไม่ได้จริงจังอะไรนัก
ผมถอยไปนั่งที่ ขอบเตียง จัดการรูดๆ ลูกชายอยู่ไปมาสักครู่นึง แต่คงไม่ทันใจเจ๊ เจ๊เลยถลกเสื้อผมขึ้น ช่วยดูดนมผม... ได้การครับ พรึบเดียว...ไอ้ลูกชายตัวดี ก็ยืดหัวออกมาให้เจ๊ดูความอลังการ แต่เจ๊ก็ทำท่าเบะปาก วางฟอร์ม
“ก็ไม่เท่าไร ราคาคุยรึเปล่ายะ ว่า เกือบเจ็ดนิ้วน่ะ”
แต่ มือนึงก็ลงไปกำคอลูกชายผมไว้แน่นเหมือนกะขนาด... “เอ้า... ฝังมุกด้วยเหรอเรา” เจ๊อุทานเมื่อจับๆ ไปโดนเม็ดแข็งๆ อยู่ใต้หนังหุ้ม ลำท่อนที่อยู่ในมือ...
“ครับ... เพื่อนมันฝังให้”
“กี่เม็ด”
“หกครับ เจ๊”
“ฝังไปทำไมยะ ของตัวเองใช่ว่าจะเล็ก” อ๊าว... เมื่อกี้ยังบอกว่าราคาคุยอยู่เลย
“ก็ เมาน่ะครับ เห็นเพื่อนมันฝังกัน ก็เลยเอาด้วย”
“ไม่ค่อยดื้อเท่าไรเลยสิเรา”
“ครับ ก็ พอได้ครับ”
“เออ... ทำงานได้ตังค์ ก็เก็บๆ ไว้บ้างอย่าดื้อ อย่าเมามากนัก เอ้า นุ่งกางเกงได้แล้วไปข้างล่าง ทำงานวันนี้เลยหรือเปล่า”
“ครับ เจ๊”
ผม รับคำเบาๆ อย่างงงๆ กับเจ๊รัตน์อยู่เหมือนกัน เพราะ เท่าที่เจอมา กระเทยรายไหนรายนั้น พอจับของผม ก็จะไม่แค่จับเฉยๆ มันเลยเถิดไปจนลูกชายผมร้องไห้ร้องห่มทู๊กทีสิครับ แต่เจ๊รัตน์มาแปลก... และก็ตลอดเวลา ปีนึงเต็มๆ ที่ผมทำงานอยู่ร้านเจ๊รัตน์ ก็ไม่เคยมีอะไรกับเจ๊รัตน์เลยสักกะครั้ง จนเลิกทำ
.....
TBC.