┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]  (อ่าน 366663 ครั้ง)

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER32 P.23 [24/02/17]
«ตอบ #690 เมื่อ27-02-2017 18:38:47 »

-33-

 

"นี่ๆครูอาบน้ำตรงนี้ได้เลย" น้องจาชี้ไปที่ลำธารที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านของผมนัก เดินมาไม่กี่นาทีก็ถึง แต่ถึงจะพยักหน้าเข้าใจหรืออะไรก็ตาม ผมก็ยังทำใจอาบน้ำไม่ลงอยู่ดี

"พวกเราก็อาบกันตรงนี้เหรอครับ"ผมหันไปถามน้องจา แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นว่าเจ้าตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆกำลังเดินดุ๊กดิ๊กไปที่ลำธารก็เกือบจะพุ่งตัวเข้าไปหา ดีที่คนข้างๆผมไวกว่า โซโล่อุ้มน้องมูนขึ้นมา ทำท่าเหมือนจะดุอะไรสักอย่างจนน้องเบะปาก พอเขาทำท่าจะปล่อยน้องลงพื้น น้องก็กอดคอแล้วเม้มปากแน่นเหมือนกำลังกลั้นน้ำตาสุดความสามารถ

"เปล่าครับครู ปกติบ้านพวกเราอยู่อีกฝั่งก็จะอาบกันฝั่งโน้น ไม่ค่อยมีใครมาอาบแถวนี้กันหรอก"

ผมพยักหน้าเข้าใจ ปล่อยให้น้องจาเดินไปเล่นกับเพื่อน ส่วนตัวเองก็เดินเข้าไปหาพ่อหมากับลูกหมาที่ยืนกอดกันอยู่ น้องมูนไม่ร้องไห้แต่ตาแดงจนน่าสงสาร แขนเล็กๆกอดคอโซโล่ไม่ยอมปล่อย ผมก้มลงหยิบตุ๊กตาพระจันทร์ที่น้องปล่อยตกไว้ที่พื้นขึ้นมา ช่วยปัดเศษฝุ่นออกแล้วยื่นให้น้อง

"เป็นอะไรกันครับ"

"เด็กนี่ทำท่าจะวิ่งลงน้ำ พอดุก็ทำท่าจะร้องไห้"โซโล่หันมาตอบ เขาแค่อุ้มน้องไว้เฉยๆไม่ได้ลูบหัวลูบหลังปลอบอะไร "ผมเลยบอกว่าถ้าจะร้องก็ร้องไปคนเดียว"

"ใจร้ายจังเลย"ผมแกล้งว่า คราวนี้เจ้าหมาเบะปากบ้าง ยิ่งเห็นผมยื่นมือไปหาแล้วน้องโผเข้ามาให้ผมอุ้มแทน เจ้าหมาตัวโตก็ยิ่งหน้าบูด

"กีตาร์ใจดีไป เดี๋ยวก็นิสัยเสีย"

"พี่สงสารนี่นา"

เห็นเด็กๆแล้วก็นึกถึงช่วงที่ผมต้องดูแลน้องๆตัวเอง เพราะเป็นพี่คนโตถึงต้องสอนหรือคอยห้าม แต่พอน้องร้องไห้ทีไรก็ใจอ่อนยวบจนต้องปลอบอยู่ดี

"ผมถึงต้องคอยดุแทนไง"โซโล่ขยี้หัวน้องจนยุ่งเหยิง เจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากหัวเราะคิกคักเหมือนกำลังสนุก

"น้องมูนอยู่กับใครครับตอนนี้"ผมเมินคนขี้บ่น หันมาถามน้องที่กำลังกอดตุ๊กตาแทน

"อยู่กับคุณยายจิตครับ"

"น้องมูนเป็นน้องชายของพี่จาเหรอครับ"ผมถามอย่างแปลกใจ เหมือนตอนแรกป้าจิตจะเคยบอกว่าน้องจาเป็นหลานของแก แต่ดูแล้วน้องสองคนหน้าไม่เหมือนกันเลยสักนิด

"เปล่าครับ"น้องส่ายหน้า ทำท่าทางครุ่นคิดจนแก้มป่อง "คุณยายบอกว่าน้องมูนไม่มีพ่อไม่มีแม่เหมือนคนอื่น แต่คุณยายจะเลี้ยงน้องมูนให้โตมาเป็นเด็กดีเอง"

ผมเงียบไปครู่หนึ่งจนคนข้างๆคงสังเกตเห็น โซโล่ยื่นมือมาแตะมือผมที่อุ้มน้องมูนอยู่ สัมผัสอุ่นๆที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ที่พักพิงทำให้สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

ผมไม่ได้เศร้าหรือเสียใจอะไรกับการไม่รู้จักพ่อแม่ตัวเอง อาจเพราะความเคยชินและตัวเองก็มีแม่ใหญ่อยู่แล้ว แค่คิดว่าเวลามองภาพน้องมูนแล้วเห็นน้องซ้อนทับกับตัวเองตอนเด็กๆก็เท่านั้น

"พวกลูกแกะ ไปต่อเร็ว!"คุณเจย์ตะโกนเรียกเด็กๆอยู่ไม่ไกลจากผมเท่าไหร่ ผ่านไปครู่เดียวฝูงลูกแกะก็วิ่งเข้ามาหาอย่างว่าง่าย

"ยายบอกให้พาครูไปหาคนอื่นๆ"น้องผู้ชายคนหนึ่งดึงมือคุณเจย์ให้เดินตาม พวกผมเลยต้องเดินตามเขาไปด้วย

ตอนแรกผมไม่แน่ใจนักว่าคนอื่นๆที่ว่าหมายถึงใคร แต่พอได้เดินไปตามทางถึงได้รู้ว่าพวกเขาหมายถึงคนในหมู่บ้านที่กำลังทำงานกันอยู่

สถานที่แรกที่พวกผมเห็นเมื่อเดินตัดผ่านหมู่บ้านมาคือแปลงผักกว้างขวางที่ปลูกเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ตรงนั้นมีชาวบ้านกำลังทำงานอย่างแข็งขันอยู่หลายคนซึ่งหนึ่งในนั้นมีลุงมั่นอยู่ด้วย

"พ่อ!"เด็กคนหนึ่งวิ่งออกจากกลุ่มเข้าไปหาลุงมั่น

"มาทำอะไรไอ้เสา อ้อนครูได้แล้วหรือไง"ลุงมั่นยิ้ม ยกตัวน้องขึ้นสูงแล้วหมุนไปมาจนน้องหัวเราะเสียงดัง

"ครูบอกว่าจะทำความรู้จักกับที่นี่ก่อน พวกผมเลยพามาไงพ่อ"

ลุงมั่นพยักหน้า ท่านหันมาทางผมแล้วเดินเข้ามาหา พอเห็นว่าผมกำลังอุ้มน้องมูนอยู่ก็ลูบหัวน้องเบาๆ

"เด็กนี่มันขี้อ้อนหน่อยนะครับครู"

"ไม่เป็นไรครับ"ผมยิ้มให้ลุงมั่น วางน้องลงกับพื้น พอเห็นผมปล่อยลงร่างเล็กๆก็อุ้มตุ๊กตาเดินไปเกาะขากางเกงโซโล่ไว้แทน

"มาทางนี้สิครับครู"ลุงมั่นเรียก พาผมเดินเข้าไปใกล้แปลงผักมากขึ้น มีชาวบ้านหลายคนหันมาหา พวกเขาส่งเสียงทักทายด้วยภาษาไทยที่ไม่ชัดนัก แต่รอยยิ้มจริงใจบนใบหน้ากลับชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

"กว้างจังเลยนะครับ"ผมบอก ทอดสายตาออกไปยังแปลงผักที่กินพื้นที่มากพอควร

"เมื่อก่อนเป็นแค่แปลงเล็กๆเท่านั้นเองครับครู...มีแต่ผักที่เอาไว้เก็บทานเลี้ยงชีพกันไปวันๆ"

ผมมองผักใบเขียวที่ดูมีคุณภาพด้วยสายตาแปลกใจ

"ดูมีคุณภาพมากเลยนะครับ คนที่นี่เก่งมากเลย"

"ไม่ใช่หรอกครับ"ลุงมั่นส่ายหน้า ก้มลงหยิบดินที่พื้นขึ้นมาอย่างไม่รังเกียจ "คนที่นี่ไม่มีความรู้ ที่หากินทำกินได้ก็เป็นเพียงสัญชาติญาณ ดินดีแต่คนใช้ประโยชน์ไม่เป็นมันก็เป็นได้แค่ของตกแต่งธรรมชาติ"

"แล้วทำไม..."

"เมื่อสี่ปีก่อนผมเข้าเมืองไปหางาน ลำพังพวกเราผู้ชายไม่เท่าไหร่ แต่พวกผู้หญิงจำเป็นต้องมีของใช้ส่วนตัว เราจำเป็นต้องใช้เงิน ลำพังแค่ขนผักเหี่ยวๆลงมาขายก็ไม่มีคนซื้อ ผมสิ้นหวังเพราะไม่มีใครรับเข้าทำงาน แต่แล้วก็มีผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งเข้ามาถามทางขึ้นมาที่นี่ ท่านบอกว่าท่านเคยบริจาคสิ่งของขึ้นมาบนนี้ ท่านอยากมาเป็นครูอาสา อยากมาช่วยเหลือ"

"..."

"ผมไม่เคยเข้าใจว่าคนในเมืองจะมาต้องการอะไรจากเรา ไม่เคยเข้าใจว่าคำว่าช่วยเหลือที่ท่านว่ามันหมายถึงอะไร วันที่ผมพาครูใหญ่เดินขึ้นมาที่นี่ ท่านพูดว่ามันเป็นที่ที่วิเศษมาก"ลุงมั่นเกลี่ยดินในมือไปมาจนมันล่วงหล่นลงไปที่พื้น "ท่านนั่งลง หยิบดินบนแปลงผักเฉาๆขึ้นมา แล้วบอกว่าแม้แต่ธรรมชาติก็ยังเป็นใจ ทุกสิ่งมันวิเศษไปหมด"

"ครูใหญ่ไม่ได้สอนแค่เด็ก ท่านสอนทุกๆคนที่นี่ ตอนที่ผมถามว่ารู้วิธีปลูกผักด้วยเหรอ ท่านหัวเราะ บอกว่าท่านก็ไม่ได้รู้ดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ท่านสอนเราได้..."ลุงมั่นหันมาหาผม ส่งรอยยิ้มจริงใจที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่มาให้ "ลองผิดลองถูก"

"ลองผิดลองถูก?"

"ครับ...หลังจากนั้นทุกวันที่สอนเด็กๆเสร็จแล้วครูใหญ่จะมาที่นี่ ช่วยเราปลูกผักด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกด้วยกัน ใช้ของเท่าที่มี ลำบากมากทีเดียว…แต่พอเวลาผ่านไปเราก็เริ่มมีกิน จากแปลงผักเล็กๆก็ขยายขึ้นตามความคิดกว้างไกลของท่าน จากที่ต้องลงเขาเอาผักไปขายก็กลายเป็นมีพ่อค้าคนกลางขึ้นมารับด้วยตัวเอง"

"ท่านเป็นคนเก่งครับ"ผมยิ้มยามนึกถึงใบหน้าใจดีของแม่ใหญ่ ท่านเคยบอกผมว่าท่านไม่ใช่คนเรียนสูงอะไร ท่านเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้น คงเพราะท่านทำมาแล้วทุกอย่าง ลองผิดลองถูกมานับไม่ถ้วน สิ่งที่ท่านให้พวกผมจึงไม่ใช่แค่ความรู้ แต่เป็นประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งกว่าตัวอักษรในตำรา

"ตอนที่ครูใหญ่มาที่นี่ท่านเป็นเหมือนผู้ช่วยชีวิตของเราทุกคน และตอนที่ผมเห็นครูมาที่นี่…ผมมองเห็นภาพของครูซ้อนทับกับครูใหญ่ตอนนั้น แม้แต่ที่ที่ครูยืน ครูใหญ่ก็เคยยืนมาก่อน"

ผมเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรพูดอะไร สายตามองลงไปที่พื้นดินที่กำลังยืนอยู่โดยอัตโนมัติ ผมนั่งยองๆ วางมือแตะผืนดินด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งเศร้าใจ ดีใจ คิดถึง แต่เหนือสิ่งอื่นใด...

มันคือความภูมิใจ

"ความช่วยเหลือที่ท่านเคยพูด มาวันนี้ผมเข้าใจชัดเจนทีเดียว มันคือความช่วยเหลือจริงๆ ความช่วยเหลือที่ไม่หวังอะไรตอบแทน"

"ครับ"ผมตอบรับด้วยเสียงแผ่วเบา คลี่ยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ "ไม่ทราบว่าลุงมั่นพอจะเหลือพื้นที่กับเมล็ดพันธุ์บ้างไหมครับ"

"เรื่องนั้นครูใหญ่ให้เตรียมไว้นานแล้วครับ"ลุงมั่นชี้ไปที่พื้นที่ว่างๆไม่ไกลนัก แต่กว้างพอจะปลูกผักได้หลายต้น "ท่านไม่ได้บอกว่าให้เหลือไว้ทำอะไร แต่ผมคิดว่าครูน่าจะรู้"

ที่ตรงนั้น...คงเป็นที่ๆท่านเตรียมไว้ให้ผม

"กีตาร์..."

ผมหันไปหาเจ้าของเสียง คลี่ยิ้มอารมณ์ดีส่งไปให้

"โซเคยปลูกผักหรือเปล่าครับ"

"ไม่เคย"

"เรามาลองกันหน่อยไหม"

โซโล่เลิกคิ้วแปลกใจ แต่สุดท้ายก็ส่งรอยยิ้มกลับมาให้พร้อมการพยักหน้าตกลง

"เด็กๆมานี่เร็ว"ผมหันไปเรียกเด็กๆที่ยืนอยู่กับคุณเจย์ พอคุณเจย์เดินมาก็เกินตามกันมาเป็นกลุ่ม ผมมองภาพพวกเขาเคลื่อนตัวเข้ามาพร้อมๆกันแล้วก็ได้แต่ขำ…อย่างกับฝูงแกะจริงๆเลย

"เรามาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่า"ผมเริ่มพูด พอเด็กๆได้ยินก็ทำตาโต ส่งเสียงดีใจกันยกใหญ่ พวกเขาดูกระตือรือร้นมากจนน่าเอ็นดู

"เรียนเลยๆ"

"ห้องเรียนอยู่บนเขา ผมพาครูไปเอง"

"ไม่ใช่ครับ"ผมส่ายหน้า เด็กๆรวมถึงโซโล่กับคุณเจย์มองมาเหมือนไม่เข้าใจ

"ทำไมล่ะครับครูยิ้ม"

"ครูยิ้ม?"ผมหันไปมองคุณเจย์อย่างไม่เข้าใจ เขาแค่หัวเราะเบาๆแล้วทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้

"นี่ไงยิ้มๆ"เด็กๆชี้นิ้วที่หน้าตัวเองแล้วฉีกยิ้มออกมาเหมือนจะบอกว่านี่ไงยิ้ม

"ครับ...ครูยิ้มก็ได้ แล้วนี่ล่ะครูอะไร"ผมชี้ไปที่คนข้างๆ โซโล่หัวเราะหึหึก่อนจะมองไปที่น้องมูนแล้วพยักหน้าให้น้อง

น้องมูนกระพริบตา แก้มกลมๆพองขึ้นกว่าเดิมเมื่อน้องยกยิ้มกว้าง

"ครูหล่อ!"

"อะไรนะ..."ผมมั่นใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้าเหวอสุดๆ หันไปมองโซโล่ก็เห็นว่าเจ้าตัวกำลังยกนิ้วโป้งให้น้อง

"ครูหล่อรวย!"น้องมูนพูดซ้ำ คราวนี้คุณเจย์หัวเราะเสียงดัง แถมยังยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาด้วย มีแค่ผมที่ยังยืนนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก

"ครูหล่อรวยๆๆๆ"เด็กๆส่งเสียงเรียกตามกันยกใหญ่ แต่สุดท้ายก็เงียบลงเมื่อโซโล่ยกมือห้าม

"หล่อพอ...รวยมันเหมือนอวดไป"

"เหรอออออออออ"ผมหันไปลากเสียงใส่คนข้างๆอย่างอดไม่อยู่ มารู้ตัวว่าขี้อวดตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วมั้ง พูดไปตั้งกี่ครั้งแล้ว

"หรือไม่จริง"โซโล่ยกยิ้มน่าหมั่นไส้ ก่อนจะยื่นมือมาจิ้มแก้มผม "ว่าไงครับครูยิ้ม"

"พี่ไม่คุยกับโซดีกว่า"ผมหันหน้าหนี ไม่อยากให้คนขี้อวดได้ใจ…เพราะผมไม่แน่ใจนักว่าตัวเองเผลอทำหน้าแดงออกไปหรือเปล่า โซโล่ไม่ได้เซ้าซี้ แต่ผมได้ยินเสียงหัวเราะอารมณ์ดีนั่นชัดเจนทีเดียว ผมตัดเรื่องของหมาบ้าออกจากหัว หันหน้ามาสนใจเด็กๆที่มองมาตาแป๋วแทน

"แล้วจะเรียนอะไรครับครู"

ผมมองไปที่ลุงมั่น ก่อนจะชี้ไปที่แปลงผักว่างๆ

"ปลูกผักครับ...เด็กๆปลูกผักเป็นไหม"

"ผมเคยเห็นพ่อทำนะ"

"ผมเคยช่วยแม่รดน้ำ"

เด็กๆแย่งกันตอบเสียงดัง ดูเหมือนทุกคนจะเคยช่วยพ่อแม่ตัวเองทำงานเวลาว่างกันหมด พวกเขาดูภูมิใจกับการได้พูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำได้มากจนผมรู้สึกดีตามไปด้วย

"แต่วันนี่เราจะปลูกผักของตัวเองกันครับ"ผมยิ้มเมื่อทุกคนมองมาเหมือนไม่เข้าใจ "วันนี้พวกพี่จะเป็นนักเรียนด้วย ให้ลุงมั่นช่วยสอนพวกเราปลูกผัก"

"น้องมูนจะมีผักเป็นของตัวเองเหรอครับครู"น้องมูนทำตาโตแล้วเดินมากอดขาผม

"ครับ...ทุกคนจะมีผักเป็นของตัวเอง"

"ผมอยากปลูกผักกาด!"

“ผมด้วยๆ”

"แต่มีข้อแม้ครับ เป็นบทเรียนแรกของเรา"ผมแกล้งทำหน้าตานิ่งๆ เกือบหลุดยิ้มเหมือนกันเมื่อเห็นว่าเด็กๆตั้งใจฟังมากแค่ไหน "ผักของใครคนนั้นต้องปลูกเอง ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองไปตลอด คิดว่าผักที่ปลูกเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแล ห้ามหงุดหงิด ห้ามเปลี่ยนชนิด สัญญากับพี่ได้หรือเปล่า"

"สัญญาครับ"

"ลุงมั่น..."ผมหันไปหาลุงมั่นอย่างเกรงใจ แต่นอกจากยิ้มแล้วลุงมั่นก็ไม่ได้ตอบอะไร ท่านหันไปบอกให้คุณลุงคนหนึ่งจัดหาของมาให้แล้วบอกให้พวกผมรอ

คุณลุงขนเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์มาให้จนครบ พวกเด็กๆเข้าไปเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ตัวเองต้องการ พอแย่งกันก็โดนเจ้าหมาดุจนหน้าหงอย สุดท้ายคนที่ทำตัวดุก็ช่วยแบ่งของให้เท่าๆกันเด็กๆถึงยิ้มได้

น้องที่โตหน่อยรู้วิธีการทำดีอยู่แล้วถึงได้ทำทุกอย่างไวไปหมด แม้แต่ผมเองยังต้องให้น้องจามาสอน ถึงจะเคยอ่านหรือเรียนมาบ้างแต่การลงมือทำมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ยิ่งกลางอากาศหนาวๆแบบนี้ด้วยยิ่งแล้วใหญ่

"น้องมูนทำอะไรครับ"ผมนั่งยองๆข้างน้องมูนที่กำลังจ้องหลุมผักด้วยดวงตากลมๆ

"พี่จันทร์จะเลอะไหมครับ"

"พี่จันทร์?"

"นี่ครับ"น้องชูตุ๊กตาพระจันทร์ในมือให้ผมดู มือเล็กๆพยายามจะใช้มือเดียวในการขุดหลุมซึ่งดูเหมือนจะยากเกินไป

"อืม...งั้นให้พี่ช่วยดีไหมครับ"

"ไม่เอา...ครูหล่อบอกว่าน้องมูนต้องทำเอง"

ผมหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าตั้งอกตั้งใจของน้อง สุดท้ายก็ได้แต่ดึงตุ๊กตาของน้องออกมาถือไว้ให้

"พี่ทำเสร็จแล้ว จะช่วยรับฝากพี่จันทร์ไว้ให้นะครับ"

น้องมูนยิ้มแฉ่ง ก้มลงขุดหลุมด้วยความตั้งใจโดยมีน้องจาที่ทำเสร็จก่อนใครเพื่อนช่วยดูให้ ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปหาคนหน้าบึ้งที่กำลังมองหลุมผักของตัวเองอยู่ไม่ไกลนัก

"เจย์ ทำให้หน่อย"

"คุณกีล์บอกว่าต้องทำเองนี่ครับ คุณชายยังบอกน้องมูนให้ทำเองอยู่เลย"

"ผมทำมาแปดหลุมแล้วนะ"

"ก็คุณชายอวดพวกลูกแกะว่าตัวเองทำได้เป็นร้อยๆหลุมเองนี่ครับ"

ผมแอบขำเมื่อได้ยินประโยคสนทนาของพวกเขา โซโล่ขมวดคิ้วมุ่นแต่มือก็ยังทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เสื้อผ้าราคาแพงของเขาเลอะเทอะไปหมดจนผมเสียดายแทน ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวคงต้องเอาไปซักให้สะอาดด้วยตัวเอง ส่วนเจ้าของเสื้อผ้าที่ตอนแรกนั่งยองๆตอนนี้ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นดินแบบไม่กลัวเลอะไปแล้วเรียบร้อย

"ให้พี่ช่วยไหมครับ"

คนหน้าบึ้งเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นเป็นผมเขาก็ยิ้มนิดๆ

"ของกีตาร์เสร็จแล้วเหรอ"

"เรียบร้อยแล้วครับ เด็กๆก็ช่วยกันอยู่"

"ผมต้องทำอีกเก้าสิบหลุม"

"พี่ว่าพื้นที่แค่นี้คงทำถึงร้อยไม่ได้หรอกครับ"ผมหัวเราะแล้วมองไปรอบๆ นับดูแล้วคงปลูกได้สักสี่สิบหลุม แค่เด็กๆก็ปาไปยี่สิบแล้ว "เอาเป็นว่าเรามาทำให้มันเต็มก็พอเนอะ"

"ครับ"โซโล่ตอบรับ ก้มหน้าก้มตาทำต่อ ผมมองมือเลอะๆของเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆ

มันเหมือนเขาอยู่ผิดที่...

"สนุกดี"

"อะไรนะ"

"ที่ทำอยู่นี่ไง...สนุกดี"โซโล่ดึงมือของผมไปวางไว้ในหลุมที่เขาขุด "ผมเพิ่งรู้ว่าดินให้ความรู้สึกแบบนี้"

ผมไม่แน่ใจว่ากำลังมองหน้าคนความรู้สึกไวด้วยสายตาแบบไหน แต่คำพูดที่เขาพูดออกมาดูราวกับจะปฏิเสธสิ่งที่ผมคิด เหมือนจะบอกว่าผมคิดผิด

"ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้กำลังเรียนรู้...และมันรู้สึกดีมาก"เขาย้ำ กำมือผมแน่นจนรู้สึกอุ่น

ผมเห็นภาพโซโล่อยู่กับความสะดวกสบายจนชิน ทุกๆสิ่งรอบตัวเขาแม้แต่เสื้อผ้าล้วนเป็นของมีราคา พอมาเห็นเขาต้องทำอะไรแบบนี้ผมเลยเผลอคิดแทน...แต่ดูเหมือนผมจะลืมคิดไปว่าเขาเต็มใจจะทำมันหรือเปล่า

"ครับ...มาเรียนรู้ไปด้วยกันนะ"ผมนั่งลงข้างๆ ปล่อยให้เสื้อผ้าราคาแพงที่เขาซื้อให้เลอะไปด้วย เดี๋ยวค่อยเอาไปซักก็แล้วกัน

ผมใช้เวลาอยู่ที่แปลงผักอยู่นาน ช่วยเด็กๆปลูกผักจนเสร็จแล้วก็ช่วยกันปลูกหลุมที่ว่างต่อ เป็นการร่วมมือกันที่มีความสุขมากจนอยากจะเก็บภาพเหล่านี้ไว้นานๆ รู้ตัวอีกทีก็มีคนมาเรียกพวกเรากลับบ้านเพราะเริ่มมืดแล้ว

ผมใช้เวลานานกว่าจะทำใจอาบน้ำได้ ถึงปีนี้จะไม่หนาวขนาดอาบน้ำไม่ได้แต่ก็เย็นเกินไปสำหรับผมอยู่ดี จะไม่อาบก็ไม่ไหวเพราะเปื้อนไปทั้งตัว หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเราก็นั่งทานข้าวที่บ้าน เป็นกับข้าวที่ลุงมั่นเอาใส่ปิ่นโตมาให้ ข้างๆมีน้องมูนเดินกอดตุ๊กตาตามมาด้วย

"ผมไปบ้านไอ้จามา เห็นมูนมันบอกว่าจะมาหาครูให้ได้เลยพามาส่งครับ"ลุงมั่นบอกแล้วส่ายหน้าหน่ายๆ "สงสัยจะติดครูมากจริงๆ"

"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมบอกให้น้องมาหาเอง"ผมแก้ตัวแทน จำได้ว่าโซโล่เป็นคนบอกให้น้องมาหาเอง "ถ้าอย่างนั้นให้น้องนอนกับผมที่นี่ก็ได้ครับลุง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปส่งแล้วเรียกเด็กๆไปเรียนทีเดียว"

เพราะมัวแต่เพลินกับการปลูกผักกันผมเลยลืมไปเลยว่ายังไม่ได้นัดเวลาเด็กๆ

"ได้ครับครู ผมจะไปบอกแม่จิตให้เอง"

พอลุงมั่นเดินไปแล้วผมก็หันมาสนใจน้องมูนที่ยังกอดตุ๊กตาตัวเดิม น้องใส่เสื้อผ้าที่ดูเก่าแต่สะอาดสะอ้าน ใบหน้าเล็กๆดูสดใส พอเห็นว่าใครเดินออกมาจากในบ้านก็วิ่งเข้าไปหาแล้วกอดขาไว้แน่น

"น้องมูนทานข้าวหรือยังครับ"

"ทานแล้วครับ"

ผมพยักหน้า หันไปเรียกโซโล่กับคุณเจย์แทน น้องมูนเดินเกาะขากางเกงโซโล่ตามมานั่งข้างๆ ตากลมๆมองพวกผมทานข้าวโดยไม่พูดอะไรแทรก

พอทานเสร็จโซโล่ก็จูงมือน้องเดินออกไปด้านนอก ชี้ชวนกันดูอะไรก็ไม่รู้ พอก้มหน้าแล้วหันไปมองอีกที เจ้าของแผ่นหลังกว้างก็เดินไปไกลกว่าเดิมเสียแล้ว

"ผมจัดการตรงนี้ให้เองครับ"คุณเจย์ยิ้มให้ผม มองตามทางที่โซโล่เดินไปเป็นเชิงบอกให้ผมตามไป

"ขอบคุณนะครับ"

ผมวิ่งไปตามทางที่เห็นทั้งคู่เดินไป พอเห็นแผ่นหลังคุ้นตาอยู่ในระยะที่มองเห็นก็หยุดวิ่งแล้วเดินตามไปเงียบๆ ได้ยินเสียงน้องมูนพูดเจื้อยแจ้วอยู่คนเดียวไม่หยุดตลอดทาง สุดท้ายโซโล่ก็หยุดเท้าแล้วนั่งลง

ผมเดินไปนั่งข้างๆ มองสำรวจรอบด้านด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ที่ตรงนี้มองเห็นท้องฟ้าชัดเจน ไม่มีต้นไม้หรืออะไรมาบดบัง นอกจากอากาศดีแล้ววิวยังสวยมากจนคิดว่าต่อให้นั่งมองนานแค่ไหนก็คงไม่เบื่อ

"รู้จักที่นี่ได้ยังไงครับ"ผมหันไปถามคนข้างๆ ระหว่างเรามีน้องมูนนั่งคั่นอยู่ตรงกลาง

"ไม่ได้รู้จักหรอก แค่เดินมาเรื่อยๆจนเจอ"

ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ รอบกายมีเพียงความเงียบกับเสียงพูดของน้องมูนที่กำลังคุยกับพี่จันทร์ในอ้อมแขน

"นั่นไงพระจันทร์"โซโล่ทำลายความเงียบ ชี้ชวนให้น้องมูนมองไปที่ดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า

"พระจันทร์ตัวเท่าพี่จันทร์เลย"น้องมูนยกตุ๊กตาขึ้นซ้อนทับกับดวงจันทร์บนฟ้า

"อืม...ต่อไปถ้าคิดถึงครูใหญ่ก็มาดูสิ"

ผมหันไปมองหน้าโซโล่ เช่นเดียวกับน้องที่หันไปมองอย่างไม่เข้าใจ

"ครูยิ้มบอกว่าครูใหญ่อยู่บนฟ้าใช่ไหม"โซโล่ก้มลงถามน้องมูน "พระจันทร์สำคัญกับนายใช่หรือเปล่า"

"ใช่ครับ"

"ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ครูใหญ่คงดูนายอยู่บนนั้น"

"แล้วทำไมน้องมูนเข้าไปหาครูใหญ่ไม่ได้"

"อืม...บางทีอาจเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลา"

"แต่น้องมูนอยากเจอครูใหญ่"

"ท่านก็มองอยู่นั่นไง แค่เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปกับพูดไม่ได้มันจะทำให้นายรักท่านน้อยลงหรือไง"

น้องมูนส่ายหัว ตามองไปยังดวงจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟ้า

"ครูใหญ่อยู่ที่ไหน เป็นแบบไหน พูดได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร น้องมูนพูดคนเดียวก็ได้!"

ผมหัวเราะออกมากับคำพูดของเจ้าตัวเล็กที่ดูจะไม่ได้เข้าใจอะไรเท่าไหร่ พูดจบแล้วก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเอง คุยจ้อกับดวงจันทร์บนท้องฟ้าไม่สนใจใคร

"ท่านไม่ได้เป็นแค่พระจันทร์หรอก"โซโล่หันมาหาผม เราสบตากันท่ามกลางความมืดมิด "ท่านเป็นทุกอย่าง...ที่คนๆหนึ่งอยากให้เป็น"

"..."

"อยู่ที่ว่ากีตาร์อยากให้ท่านอยู่ในรูปแบบไหนก็เท่านั้น"

รูปแบบไหน...

ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า สำหรับน้องมูนคงเห็นแม่ใหญ่เป็นดวงจันทร์ สำหรับคนที่นี่แม่ใหญ่คงเป็นผู้มีพระคุณ และสำหรับผม...

"ท่านเป็นครอบครัว...และจะยังคงอยู่ในใจพี่ตลอดไปครับ"

ผมคงไม่มีสิ่งของอะไรมาแทนเหมือนที่น้องมูนมี ผมจะเก็บท่านไว้ในใจ เป็นคนที่ครั้งหนึ่งเคยสำคัญที่สุดในชีวิต...แต่ท่านไม่ใช่ปัจจุบันของผม ผมจะไม่ยึดติดกับท่าน เพราะถ้าทำอย่างนั้นผมคงต้องเสียใจและร้องไห้ไปกับความสูญเสียครั้งนี้ตลอดชีวิต

"วันนี้น้องมูนได้เจอคุณครูสามคนด้วยนะครับครูใหญ่ มีครูเฮีย ครูยิ้ม แล้วก็ครูหล่อ"

ผมหันไปยิ้มให้โซโล่ เขาเองก็มองกลับมา น่าแปลกที่แม้ไม่ได้สัมผัสกันแต่ผมกลับรู้สึกเหมือนเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร

'คิดถึงได้แต่อย่ายึดติด...'

"น้องมูนคิดถึงครูใหญ่มากๆเลย"

ผมก็คิดถึงแม่ใหญ่เหมือนกันครับ

------------------------------------------

 

ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์



Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 20:14:47 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #691 เมื่อ27-02-2017 18:48:36 »

น้องมูนน่ารักน่าเอ็นดูมากอ่ะ  :-[

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #692 เมื่อ27-02-2017 19:08:28 »

น่ารักกกกก   อยุ่กันอย่างนี้นานๆนะ

ออฟไลน์ Nattharikan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #693 เมื่อ27-02-2017 19:56:19 »

แม่ใหญ่เป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์มากๆ  :mew6:
น้องมูนเป็นลูกหมาของโซโล่ไปแล้ว
ครบพ่อหมา แม่หมาและลูกหมาแล้วววว
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #694 เมื่อ27-02-2017 21:02:31 »

หลงน้องมูนน่ารักกก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #695 เมื่อ27-02-2017 21:18:00 »

น้องมูนน่ารัก แต่ถ้าครูทั้งสามพากันกลับนี่น้องมูนน่าสงสารทันที :mew6: :mew6: :mew6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #696 เมื่อ27-02-2017 21:36:58 »

น้องมูนน่ารักมากๆ
ถ้าครูๆกลับไปคงเหงาแน่ๆ

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #697 เมื่อ27-02-2017 21:44:30 »

น้องมูนน่ารักกกกกกก ><

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #698 เมื่อ27-02-2017 22:40:01 »

อยากให้กีตาร์กับโซโล่ พาน้องมูนไปเลี้ยงด้วยจัง  :katai2-1:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #699 เมื่อ27-02-2017 23:15:21 »

Yคิดถึงครูใหญ่
สงสารกีล์มาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
« ตอบ #699 เมื่อ: 27-02-2017 23:15:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #700 เมื่อ28-02-2017 00:37:30 »

น้ำตาซึมเลยครับ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #701 เมื่อ28-02-2017 01:05:31 »

น้องมูนน่ารักน่าเอ็นดูมากเลย พี่กีล์กับโซจะพาน้องมาอยู่ด้วยไหมนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #702 เมื่อ28-02-2017 07:30:14 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #703 เมื่อ28-02-2017 19:03:17 »

 :L1: :pig4:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #704 เมื่อ28-02-2017 21:05:39 »

 :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #705 เมื่อ28-02-2017 23:05:22 »

ฮืออออ อ่านไปร้องไห้ไป ตอนเล่าถึงแม่ใหญ่นี่ดีมากๆเลยค่ะ รู้สึกได้ถึงความรักของทุกคนจริงๆ

ออฟไลน์ loukmoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #706 เมื่อ01-03-2017 00:56:10 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #707 เมื่อ01-03-2017 10:25:56 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #708 เมื่อ01-03-2017 17:28:16 »

งุ้ยยยยยย เอาน้องมูนไปเลี้ยงด้วยเลย

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
«ตอบ #709 เมื่อ03-03-2017 21:09:44 »

-34-

 

ผมใช้เวลาไปกับการสอนหนังสือเด็กๆเสียส่วนมาก วันแรกค่อนข้างลำบากเพราะเราทั้งสามคนไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน แต่พอผ่านเข้าสู่วันที่สามก็เริ่มชิน ช่วยกันแบ่งสอนคนละวิชา ส่วนมากจะเป็นเรื่องภาษากับสิ่งที่ใช้ได้ในชีวิตจริง จนมาถึงตอนนี้ก็เกือบอาทิตย์แล้วที่ผมอยู่ที่นี่

"ครูครับๆ แล้วเราจะได้ใช้ภาษาอังกฤษตอนไหนเหรอครับ"

โซโล่ทำหน้ายุ่งกับคำถามของน้องเสา สุดท้ายก็เป็นคุณเจย์ที่เข้ามาตอบคำถามแทน

"วันหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่ครับ ถึงเวลานั้นเด็กๆต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่คุยกับนักท่องเที่ยวนะ"

"นักท่องเที่ยวไม่ได้พูดภาษาไทยเหรอครับ"

"นักท่องเที่ยวมีหลายชาติครับ และภาษาอังกฤษที่พวกเราเรียนอยู่ก็เป็นภาษากลางที่คนหลายประเทศใช้..."คุณเจย์ตอบอย่างใจเย็น กว่าจะอธิบายให้พวกลูกแกะช่างสังสัยเข้าใจได้ก็ใช้เวลาไปมากพอดู

"พักก่อนนะครับเด็กๆ อย่าลืมไปดูแลผักของตัวเองนะ"ผมเตือน คั่นความสงสัยต่อๆไปของเด็กๆไว้ คุณเจย์ถึงขนาดถอนหายใจ หันมาพยักหน้าขอบคุณกันเลยทีเดียว

ห้องเรียนของเด็กๆทำจากไม้ไผ่ที่พวกชาวบ้านช่วยกันสร้างให้ ไม่มีเก้าอี้ มีแค่โต๊ะที่ทำจากไม้ไผ่ง่ายๆเป็นโต๊ะคู่ประมาณสิบตัว ที่นี่ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ไกลจากแปลงผักเท่าไหร่นัก เวลาผมบอกว่าให้พักพวกเขาจะวิ่งไปที่แปลงแล้วดูแลผักของตัวเองกันอย่างตั้งใจ เห็นแล้วผมก็ดีใจ...

การจะดูแลอะไรสักอย่างให้ได้ดี ควรจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆใกล้ตัว...เหมือนที่แม่ใหญ่บอกไว้

"พวกเขาหัวไวกันมากเลยนะครับ"คุณเจย์เดินเข้ามาหา สายตามองตามหลังพวกเด็กๆไป

"ครับ...ถ้ามีโอกาสที่ดีพวกเขาคงเป็นคนที่มีความสามารถมาก"

แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะช่วยตรงไหนได้บ้าง อีกไม่นานก็ต้องกลับแล้ว

"กีตาร์...ดูเด็กๆไปก่อนนะ เดี๋ยวผมกับเจย์มา"

ผมหันไปพยักหน้าให้โซโล่ วันสองวันมานี้เวลาพักเขากับคุณเจย์จะไปหาป้าจิตกันเป็นประจำ พอถามก็ได้ความว่าคุยกันเรื่องธุรกิจอะไรสักอย่างที่ผมไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาบอกแค่ว่าถ้าเรียบร้อยแล้วจะอธิบายให้ฟัง แค่รู้ว่าเขาหวังดีกับที่นี่ผมก็ดีใจมากแล้ว ตามไปฟังด้วยตอนนี้ก็คงไม่เข้าใจอะไร แถมเจ้าหมายังย้ำว่าให้เขาจัดการเองด้วย

ผมรู้ดีว่าโซโล่อยากให้ผมพักผ่อน เขาไม่อยากให้ผมคิดมาก เพราะงั้นผมถึงไม่อยากปฏิเสธความหวังดีนั้น เอาไว้ให้เขาพร้อมแล้วค่อยมาบอกก็ไม่สาย

ผมเดินตามเด็กๆมาทีแปลงผัก หลังจากดูผักของตัวเองแล้วก็เดินมาหาเจ้าตัวเล็กที่นั่งยองๆยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เข้าไปเล่นกับพี่ๆ

"น้องมูนทำอะไรครับ"

"ป้ายชื่อครับ"มือเล็กๆชี้ไปที่หลุมผักของตัวเอง บนนั้นมีกระดาษที่ถูกวาดเป็นรูปทรงกลมๆแล้วระบายสีเหลืองวางไว้ "ป้ายชื่อว่าเป็นของน้องมูน"

ที่แท้ก็วาดรูปพระจันทร์...

"แต่น้องมูนวางตรงนี้ไม่ได้นะครับ"ผมหัวเราะ ช่วยขยับกระดาษที่ถูกห่อด้วยถุงพลาสติกกันน้ำออกมา "ถ้าน้องมูนวางตรงนั้นก็ทับรอยคุณผักแล้วคุณผักจะขึ้นได้ยังไงล่ะครับ"

"จริงด้วย!"น้องยิ้มกว้างจนแก้มป่อง ขยับป้ายตัวเองออกมาไกลกว่าเดิม

"แล้วนี่น้องมูนทำเองเหรอครับ"

"ครับ..."น้องตอบรับเสียงใส แต่แล้วก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ส่ายหัวตามลำดับ "ไม่ใช่ๆ น้องมูนทำกับครูหล่อครับ"

อย่างนี้นี่เอง คนที่ห่อถุงกันน้ำให้ก็คงจะเป็นครูหล่อของน้องมูนสินะ

ผมหันไปไหว้ลุงมั่นที่เดินเข้ามาหา ท่านรับไหว้แล้วถอดหมวกออก ดูไปแล้ววันนี้การแต่งกายของลุงมั่นแลดูเรียบร้อยกว่าทุกวัน

"ครู...เดี๋ยวผมจะลงไปทำธุระในเมือง ครูอยากได้อะไรหรือเปล่าครับ"ลุงมั่นยิ้มใจดี วางหมวกสานใบโตลงบนหัวน้องมูนที่กำลังหัวเราะคิกคัก

"ไม่รบกวนดีกว่าครับ แล้วนี่ลุงมั่นลงไปคนเดียวเหรอครับ"

"เห็นครูเฮียของเด็กๆบอกว่าจะลงไปทำธุระด้วยน่ะครับ"

"งั้นเดินทางปลอดภัยนะครับ"

"ขอบคุณครับครู ฝากเด็กๆด้วยนะครับ"

ลุงมั่นเดินกลับไปทางหมู่บ้านแล้ว ส่วนพวกเด็กๆก็วิ่งเล่นกันเหมือนเดิม พวกเขาเป็นเด็กดีและเชื่อฟังผู้ใหญ่ บอกอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ไม่แปลกที่ใครๆก็เอ็นดู รวมถึงผมด้วย

โดยเฉพาะ...

"ครูครับ ซักทำยังไงเหรอครับ"เจ้าตัวเล็กเอามือเกาะขาผม ตากลมๆกระพริบปริบๆเหมือนสงสัยเสียมากมาย

"ทำไมถึงถามล่ะครับ"

"ครูหล่อบอกว่าพี่จันทร์เหม็น...ถ้าไม่ยอมซักจะไม่อุ้มน้องมูนแล้ว"น้องมูนก้มหน้าลงดมตุ๊กตาตัวโปรดแล้วทำหน้าไม่เข้าใจ สุดท้ายก็ยื่นมาให้ผมดมบ้าง จริงๆมันก็ไม่ได้เหม็นอะไรมากมาย แต่ก็ดูมีคราบดำๆจากฝุ่นอยู่พอควร คงเกิดจากเวลาที่น้องทำหล่น

"งั้นให้พี่ซักให้ดีไหมครับ"

"ไม่เอาครับ"น้องมูนส่ายหน้ารัวๆ แก้มป่องๆสะบัดไปมาดูน่ามอง "ตอนแรกน้องมูนขอให้ครูหล่อซักให้ แต่ครูหล่อบอกว่าน้องมูนต้องทำเองเพราะพี่จันทร์เป็นของน้องมูน"

จะว่าไงดี...คำสอนมันก็ดูดีอยู่หรอก แต่ผมคิดว่าเจ้าหมาน่าจะพูดเพราะขี้เกียจมากกว่า

"งั้นหลังเลิกเรียนพี่จะพาไปซักนะครับ"

"ครับ!"

เรากลับขึ้นมาบนห้องเรียน ถึงอากาศจะหนาวหรือเรียนกันนานแค่ไหนเด็กๆก็ไม่เคยบ่น พวกเขาดูมีความสุขกับการเรียนมาก และมันทำให้ผมมีความสุขกับการสอนตามไปด้วย พวกเขาดูสนใจกับเรื่องตัวเลขเป็นพิเศษ น้องจาบอกว่าเขาอยากฟังเรื่องที่พวกคนรับซื้อผักคุยกับชาวบ้านที่นี่ออก

"เด็กๆมีความฝันกันหรือเปล่าครับ"

นั่นคือคำถามที่ผมให้เด็กๆเขียนลงในกระดาษ พวกเขาเขียนหนังสือได้ ถึงจะช้าและต้องใช้เวลานึกแต่สุดท้ายก็ทำได้ แม้แต่น้องมูนที่ตัวเล็กที่สุดก็เขียนได้ พวกเขาบอกผมว่าแม่ใหญ่สอนมานานแล้ว

พอถึงเวลาเลิกเรียนผมก็ปล่อยให้เด็กๆกลับบ้าน ส่วนตัวเองก็นั่งอยู่กับพื้น จ้องมองกระดาษที่มีความฝันของเด็กๆเขียนเอาไว้

"กีตาร์..."โซโล่เดินเข้ามา ที่ขามีน้องมูนเกาะติดเป็นลูกหมาตามคาด

"คุยเสร็จแล้วเหรอครับ"

"อืม..."โซโล่พยักหน้า นั่งลงที่พื้นข้างๆผม ส่วนน้องมูนก็นั่งลงอีกฝั่งอย่างรู้หน้าที่ "เดี๋ยวเล่าให้ฟัง รอเจย์กลับมา"

"ครับ"

"กีตาร์ทำอะไรอยู่"

"พี่กำลังดูความฝันของเด็กๆครับ มาดูด้วยกันสิ"ผมยิ้ม ขยับตัวให้โซโล่เข้ามาใกล้มากขึ้น ไม่ลืมดึงเจ้าตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก

เด็กที่โตที่สุดอย่างน้องจาไม่ได้เขียนสั้นๆแล้ววาดรูปเหมือนคนอื่น น้องเขียนความฝันของตัวเองเป็นประโยคยาวๆแล้ววาดรูปเล็กๆที่ใต้ภาพ

'ความฝันของผมคือการพัฒนาที่นี่ ผมอยากให้พ่อแม่มีความสุข อยากให้มีคนมาที่นี่เยอะๆ ครูเฮียบอกว่าถ้ามีคนมาเราจะมีรายได้ มีเงินซื้อยากับของใช้จำเป็น แต่ครูบอกว่าเราอยู่เฉยๆไม่ได้ เราต้องพยายามด้วย'

ใต้ภาพของน้องเป็นรูปเด็กผู้ชายที่กำลังถือไม้ชี้ไปที่กระดาน...เหมือนตอนที่เห็นพวกลุงมั่นประชุมกับชาวบ้านคนอื่นๆ

ของน้องเสาลูกชายลุงมั่นเป็นภาพภูเขาที่มีสีเขียวเต็มไปหมด ตรงกลางเป็นรูปคนมากมายที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า

'ผมอยากปลูกผักให้ได้เยอะๆเหมือนพ่อ เอาให้เต็มเขาเลย!'

ผมอมยิ้มเมื่อได้อ่านความฝันของน้อง ยิ่งเปิดกระดาษไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งยิ้มมากขึ้นเท่านั้น

'ผมอยากเป็นเหมือนครูเฮีย ครูเฮียเท่มากเลย'

"ทำไมเจย์หัวโล้น"

"นั่นสิครับ"ผมหัวเราะกับคำถามของโซโล่ เขาเองก็หัวเราะไม่ต่างกัน น้องมูนเองก็พลอยหัวเราะคิกคักตามไปด้วยทั้งที่ไม่น่าจะเข้าใจ

ผมพลิกไปที่กระดาษแผ่นต่อไปเรื่อยๆ ความฝันมากมายทั้งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังไปทั่วห้องเรียนเล็กๆ

จนมาถึงแผ่นสุดท้าย...

"ของน้องมูนๆ!"เจ้าตัวเล็กส่งเสียงดัง ท่าทางตื่นเต้น ผมสบตากับโซโล่ขำๆ ก่อนจะก้มลงมองแผ่นกระดาษที่ถืออยู่

รูปวาดดูจะเป็นองค์ประกอบหลักของกระดาษแผ่นนี้ ผมไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรเพราะรายละเอียดมันเยอะจนดูไม่ออก...หมายถึงสีที่ปนกันจนคิดว่าน้องน่าจะใช้ครบทั้งกล่องนะ ด้านล่างกระดาษมีตัวอักษรหยึกหยักที่ไม่ได้สวยนักแต่ก็พออ่านออกกำกับไว้

'ความฝันของน้องมูนคือเป็นพระจันทร์ให้ทุกคน'

"หมายความว่ายังไงเหรอครับ"ผมก้มลงถามเจ้าตัวเล็กที่ตัก น้องมูนหัวเราะฮิฮิ ขยับนิ้วจิ้มไปที่รูปภาพ

"นี่พระจันทร์...พระจันทร์คือน้องมูน"น้องขยับมือชี้ไปที่กลุ่มคนที่มีหลากสี "นี่ทุกคน มีครูหล่อ ครูยิ้ม ครูเฮีย ครูใหญ่ พี่จา พี่เสา ยาย แล้วก็คนอื่นๆเยอะแยะเลย"

"แล้วนี่อะไรเหรอครับ"ผมชี้ไปที่กองอะไรสักอย่างสีเขียวๆ

"เงิน"

"เงิน?"

"ครูหล่อบอกว่าถ้าอยากให้ทุกคนสบายต้องมีเงินด้วย"

ผมหันขวับไปมองคนสอน โซโล่ยกยิ้ม ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้

"แล้วที่เขียนล่ะครับ"ผมชี้ไปที่ตัวหนังสือ น้องมูนยิ้มแป้น เงยหน้าขึ้นอธิบายเสียงสดใส

"น้องมูนอยากเป็นพระจันทร์ให้ทุกคน อยากเป็นความอ่อนโยนที่ทำให้ทุกคนมีความสุข...แต่ครูหล่อบอกว่ามันไม่พอ ครูหล่อบอกว่าน้องมูนต้องขยัน ตั้งใจเรียน มีงานทำ มีเงินใช้ แล้วก็จะช่วยทุกคนได้"

ผมมองหน้าโซโล่อย่างคาดโทษ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เขาสอนน้องมูนได้ ที่เขาพูดเป็นความจริงทุกอย่าง สิ่งสำคัญในโลกปัจจุบันคือเงินจริงๆ มีเงินก็ทำได้แทบทุกอย่าง

แม้แต่ผมก็คิดแบบนั้น

"มีเงินแล้วจะทำให้ทุกคนสบายก็จริง...แต่น้องมูนห้ามลืมความอ่อนโยนและความรู้สึกที่อยากทำให้ทุกคนมีความสุขนะครับ"ผมลูบหัวน้องมูนเบาๆ ยื่นนิ้วก้อยไปให้

"ครับ!"น้องรับคำด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนจะยื่นนิ้วเล็กๆมาเกี่ยวนิ้วผมไว้

"แล้วความฝันของกีตาร์ล่ะ"

ผมเงียบไปกับคำถามของโซโล่ ที่เงียบก็เพราะกำลังคิดว่าควรตอบแบบไหน ถ้าหมายถึงอยากเป็นอะไร แล้วตอบเป็นชื่ออาชีพเหมือนที่ใครชอบตอบกันก็คงไม่มี แต่ถ้าตอบแบบที่เด็กๆที่นี่ตอบ...

"อยากเป็นคนรวยครับ"

โซโล่ทำหน้าแปลกใจ คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง หน้าตาของเขาแสดงออกชัดเจนว่ากำลังคิดว่าผมล้อเล่น

"กีตาร์ไม่ได้อยากเป็นวิศวกรเหรอ"

"จะว่าไงดี..."ผมหัวเราะเบาๆกับคำถามที่เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก "พี่ไม่ได้อยากเป็นวิศวกรหรอกครับ"

"แล้วกีตาร์อยากเป็นอะไร"

"ถ้าโซถามว่าอยากทำอาชีพอะไร พี่คงต้องตอบว่า อะไรก็ได้"ผมลูบหัวน้องมูนที่กำลังมองมาตาแป๋ว ดูไม่เข้าใจที่ผู้ใหญ่พูดแต่ก็พยายามจะฟัง "ก็เหมือนที่โซบอกน้องมูน เงินเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับใครหลายๆคน นั่นรวมถึงพี่ด้วย"

"แล้วทำไมต้องวิศวะ"

"พีไม่ได้มีอาชีพที่ฝัน หรือมีคนให้เดินรอยตาม แต่พี่มีสิ่งที่ทำได้ดี เพราะงั้นพี่ถึงเลือกเรียนสิ่งที่พี่คิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุด เวลาจบไปจะได้มีงานดีๆทำ และทำตามความฝันที่อยากเป็นคนรวยของตัวเองได้"ผมมองหน้าน้องมูน นึกถึงความฝันของน้อง และความฝันของเด็กๆหลายๆคน

"ความฝัน..."

"ความฝันคือสิ่งที่ทั้งเป็นไปได้และไม่ได้ สำหรับบางคนก็นึกถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาถึงได้เรียกว่าความฝัน เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง แต่สำหรับบางคนที่นึกถึงสิ่งที่เป็นไปได้ มันก็ขึ้นอยู่กับจะทำตามความฝันของตัวเองได้หรือเปล่า ความฝันของพี่เป็นความไม่แน่นอน มันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้...แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า"

"แล้วทำไมกีตาร์ถึงอยากรวย"หมาขี้สงสัยถามต่อ มือก็ดึงตุ๊กตาพี่จันทร์ของน้องมูนออกแล้วทำหน้าแหยง

"ใครๆก็อยากรวยไม่ใช่เหรอครับ"

"ก็ใช่..."โซโล่ละสายตาจากน้องมูน หันมาจ้องหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง "แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะฝันแบบนั้นแล้วจริงจังเหมือนที่กีตาร์เป็น"

ผมยกยิ้มให้เจ้าหมาที่บางทีก็ทำตัวเป็นพ่อหมาที่รู้ทันไปเสียทุกอย่าง แต่บางทีก็ทำตัวเป็นลูกหมาขี้อ้อนน่าหยิก

"ที่พี่อยากมีเงิน ก็เพราะอยากให้แม่ใหญ่สบายครับ จะงานอะไรก็ได้ แต่ถ้าจบวิศวะที่พี่ถนัดแล้วได้เกรดดีๆ ได้เป็นวิศวกรก็คงจะได้เงินดี"

ผมเห็นแม่ใหญ่ลำบากมาตลอด ทั้งที่อายุมากแต่ก็ต้องดูแลเด็กหลายสิบคน ไม่รู้ตั้งกี่คนที่ได้ครอบครัวดีๆรับไปเลี้ยงดู แต่แม่ใหญ่ก็ยังอยู่ที่เดิม ดูแลคนอื่นๆต่อไป

"แต่ตอนนี้ท่านก็ไม่อยู่แล้ว..."

ความฝันเลยเหมือนจะหยุดชะงักตามไปด้วย

"กีตาร์..."

"ครูครับ!"

เสียงตะโกนโหวกเหวกมาพร้อมกับร่างของน้องเสาที่วิ่งหอบมาแต่ไกล ผมรีบดันร่างน้องมูนไปหาโซโล่แล้วลุกขึ้นไปหาน้องที่ทรุดตัวลงกับพื้น

"น้องเสา เป็นอะไรครับ ทำไมรีบขนาดนี้"

"ครู...ครูช่วยด้วยครับ"น้องพูดไปหอบไป ตาแดงเหมือนจะร้องไห้

"เกิดอะไรขึ้นครับ"

"ทะ...ที่หมู่บ้าน"

ผมสบตากับคนข้างๆ โซโล่อุ้มน้องมูนขึ้น เราวิ่งตรงไปทางหมู่บ้านโดยมีน้องเสาวิ่งหอบตามมาไกลๆ ผมไม่มีเวลาห่วงเพราะกำลังกลัวว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน กลัวว่าใครจะเป็นอะไรไป

ภาพแรกที่เห็นคือกลุ่มคนไม่คุ้นตากว่าสิบคนที่กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับพวกชาวบ้าน มีแค่ลุงหมายกับป้าจิตที่ยืนอยู่ด้านหน้า ถึงจะยืนหยัดแต่ผมเห็นความหวาดกลัวจากพวกเขา โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่กอดเด็กๆเอาไว้

"มึงเป็นแค่ชาวเขา จะไปรู้อะไรเรื่องการค้าขาย"ผู้ชายตัวใหญ่ใส่เสื้อผ้าดูดีมีราคากว่าคนอื่นตวาดเสียงดัง ผมขมวดคิ้ว เดินเข้าไปใกล้กว่าเดิม

"ครูใหญ่สอนหมดแล้ว ทำไมเราจะไม่รู้ว่าพวกคุณโกง"ป้าจิตพูดกลับด้วยเสียงสั่นๆ ผมมองออกว่าป้าแกไม่ได้กลัวพวกนั้น แต่กลัวคนอื่นจะโดนทำร้ายมากกว่า

"แล้วอีครูใหญ่แก่จวนจะลงโลงนั่นไปไหนเสียล่ะ เถียงพวกกูเหมือนมีความรู้ พอกูมาด้วยตัวเองล่ะหดหัว"

"ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าครับ"ผมเดินเข้าไปหา พยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติธรรมดา ทั้งที่ตอนนี้ในใจเดือดกว่าใคร

คนทั้งหมดหันมาทางผม พวกชาวบ้านมองมาด้วยสายตาขอร้องและดีใจ ส่วนอีกฝั่งที่ผมว่าน่าจะเป็นนายหน้าค้าขายมองมาเหมือนไม่พอใจโซโล่ปล่อยให้น้องมูนวิ่งไปรวมกับกลุ่มเด็กๆ แล้วเดินมาอยู่ข้างๆ

"มึงเป็นใคร เสือกอะไร"คนจากกลุ่มนั้นสักคนตะโกนถาม ผมรั้งแขนโซโล่ไว้เมื่อเขาทำท่าเหมือนจะหงุดหงิดกว่าเดิม

"ผมเป็นครูของเด็กๆครับ"ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่ดูเหมือนฝั่งนั้นจะไม่สนใจฟังอะไรสักอย่าง

"เหอะ...ต่อจากอีแก่นั่นก็เป็นพวกท่าทางปวกเปียกเนี่ยนะ"

ผมยิ้มน้อยๆ ไม่สนใจท่าทางกับคำพูดดูถูกที่ได้รับ

"ไม่ทราบว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ"

ใครสักคนทำท่าจะโวยวาย แต่ผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหน้ายกมือห้ามไว้เสียก่อน

"มึงไปคุยกับชาวบ้าน บอกให้พวกมันขายของให้กูตามราคาที่กูบอก แล้วจะไม่มีใครเจ็บตัว"

ผมไม่ได้ตอบอะไร ดึงแขนโซโล่ให้เดินตามไปหาป้าจิต

"เกิดอะไรขึ้นครับป้า"

"ไอ้พวกนี้มันมาขอซื้อของเราหลายทีแล้วจ้ะครู ปกติไอ้เหลียงหัวหน้ามันไม่ได้มาด้วย มันมากันสี่ห้าคน จะแบกเอาของไป แต่ปกติมีครูใหญ่คอยขู่คอยเตือนพวกมันเลยกลัว ท่านพูดจาแบบคนมีความรู้ ไอ้พวกนักเลงแบบมันเลยไม่กล้า ป้าอธิบายแล้วว่าเราส่งขายให้คุณเฟื่องเจ้าเดียว แต่พวกมันก็ไม่ฟัง ยังจะกดราคาเรา ขอซื้อราคาต่ำกว่าคุณเฟื่องหลายเท่าตัว"ป้าจิตว่าทั้งน้ำตาคลอ "ป้ากลัวแต่มันจะทำร้ายเรา จะขายให้แต่ขอราคาที่สมเหตุสมผล พวกมันก็ไม่ยอม อาทิตย์ก่อนก็ทีแล้วที่โดนโกงไป ครั้งนี้มันยังมาอีก"

"ไม่เป็นไรนะครับป้า"ผมจับมือป้าจิตไว้ ดึงตัวท่านให้ถอยไปรวมกับชาวบ้านคนอื่นๆ ลุงหมายเองก็เดินตามมา

"จะขายไม่ขาย!"

ผมหันไปหาคนที่ตะโกน ถึงจะไม่พอใจแต่สติน่าจะสำคัญที่สุดตอนนี้

"เราค้าขายกันแบบเป็นธรรมจะดีกว่าไหมครับ เรื่องพวกนี้ผิดกฏหมาย การบังคับขู่เข็ญไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ถ้าแจ้งความพวกคุณจะเข้าคุกได้นะครับ"ผมพูดเสียงเรียบ พยายามไม่ให้ตัวเองแสดงความไม่พอใจออกไปทางคำพูด

พวกคุณเหลียงมองหน้ากันแล้วหัวเราะเสียงดัง ถึงจะไม่เข้าใจว่ามีอะไรน่าขำแต่ผมก็มีมารยาทมากพอที่จะรอให้พวกเขาหัวเราะเสร็จ

"นี่มึงคิดว่ากฏหมายจะมาสนใจพวกบนเขาบนดอยแบบไอ้พวกนี้เรอะ ไอ้หน้าอ่อน"

"ถึงที่นี่ความเจริญจะมาไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้ความว่าคุณจะเอาเปรียบใครก็ได้นะครับ"

"แล้วมึงจะมาเสือกอะไร เป็นครูก็อยู่ส่วนครูไปสิวะ พวกมึงไปจัดการมัน!"

ผมถอนหายใจ ยื่นมือไปจับแขนเสื้อโซโล่แล้วหันไปกระซิบ

"พี่ไม่ค่อยถนัดเรื่องการพูดคุยกับพวกไร้การศึกษาเลยครับ"

"มึงพูดอะไร!"

ดูเหมือนจะกระซิบดังไปหน่อย...แต่เอาเถอะ ยังถ่วงเวลาได้ผลอยู่

"ขอโทษด้วยครับ ปกติผมไม่ค่อยได้คุยกับคนไม่มีการศึกษา...กรุณาอย่าเข้าใจผิด คนบางคนไม่ได้เล่าเรียนแต่มีความคิด ตรงกันข้ามกับคนมีการศึกษาบางคนที่ทำตัวเหมือนไร้การศึกษา"ผมนิ่งไปเล็กน้อยเพราะไม่แน่ใจว่าจะใช้คำพูดแบบไหน ต้องขอบคุณฝั่งนั้นที่มัวชะงักค้างเลยมีเวลาพอให้ผมเรียบเรียงคำพูด "ต้องบอกว่าพวกไร้การศึกษาที่ผมว่า ผมไม่ได้วัดจากได้เรียนหรือไม่ได้เรียน แต่ผมหมายถึงพวกไร้พัฒนาการทางสมอง ไม่ค่อยจะคิดอะไรสักอย่าง ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่นน่ะครับ"

"มึง!"

ผมยกมือเกาแก้ม ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าคำพูดมันหาเรื่อง แต่จะให้ยืนนิ่งรอคนมาด่ามาหาเรื่องอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ อีกอย่างที่พูดไปผมก็คิดว่ามันจริงทุกอย่าง และคิดว่าอธิบายแบบสุภาพชนมากที่สุดแล้วนะ ตอนมีปัญหากับเด็กที่มหา'ลัย ใช้คำพูดก็พอจะรู้เรื่องกันอยู่ เพราะเด็กนั่นยังพอมีความคิด แต่กับคนพวกนี้...

ผมโดนดันให้ถอยไปอยู่ด้านหลังด้วยฝีมือของคนข้างๆ โซโล่ยืนบังอยู่ด้านหน้า เขาหันมามองผมแล้วยกยิ้มน้อยๆ มือก็ยกขึ้นขยี้หัวผมเบาๆ

"กีตาร์นี่นะ"

"เขาว่าแม่ใหญ่"ความอดทนมันมีขีดจำกัด โดนพูดรัวๆใส่แบบนั้นเป็นพ่อพระมาจากไหนก็คงทนไม่ได้ทั้งนั้น

"ครับ รู้แล้ว"โซโล่หันกลับไป ดันตัวผมให้ถอยไปอีกก้าว

"พวกมึงไปทำให้มันหายปากดี!"คุณเหลียงตะโกนเสียงดัง หน้าแดงก่ำน่าจะด้วยความโมโห

วินาทีที่คนของคุณเหลียงจะพุ่งเข้ามา ผมมองเห็นเงาร่างของคนหลายๆคนที่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้ชัดเจนมากขึ้น และถ้าผมคิดไม่ผิด...น่าจะเป็นคุณเจย์

"ไม่ตายดีแน่มึง!"

ผมขมวดคิ้ว มองดูคนฝั่งนั้นที่พุ่งเข้าหาเจ้าหมา ก้อนหินในมือที่ผมถือไว้แต่แรกเขวี้ยงใส่หน้าของผู้ชายคนนั้นจังๆ แต่ผลที่ได้คือโดนเพ่งเล็งมาทางนี้แทน

ผัวะ!

เพราะโซโล่เข้ามาขวางผมถึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หน้าของคนขวางโดนต่อยเต็มแรง

"โซ!"ผมเข้าไปประคองคนตัวเซไว้ พวกชาวบ้านผู้ชายลุกขึ้นมาช่วยกันพวกนั้นไว้ให้ แต่คนในอ้อมแขนผมแลดูจะสติหลุดไปแล้ว ดวงตาคมนิ่งที่เห็นเป็นประจำทอประกายกร้าว วินาทีต่อมาโซโล่ก็ดันผมออกแล้วเดินผ่านชาวบ้านเข้าไปถีบคนที่ต่อยเขาเต็มแรง

ผมช่วยกันไม่ให้พวกผู้หญิงกับเด็กๆโดนลูกหลง พอมองภาพความวุ่นวายตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ร้อนใจ

ผมไม่คิดว่าคุณเจย์จะมาถึงช้าขนาดนี้ ถึงจะไม่รู้ว่ามีใครบ้างแต่กลุ่มคนที่เดินมากับคุณเจย์มีมากกว่าสิบคนแน่นอน ผมมองเห็นพวกเขาแต่แรกแล้วและคิดจะถ่วงเวลาจนกว่าพวกเขาจะมา เพียงแต่ว่าสถานการณ์ทุกอย่างมันไวเกินไป ผมนึกเสียใจอยู่เหมือนกันที่ไม่พูดถ่วงเวลาให้นานกว่านี้

"โซ!"ผมเรียกเสียงดังเมื่อโซโล่พลาดท่าโดยต่อยเข้าที่หน้าอีกหมัด อยากจะพุ่งเข้าไปหาแทบตายแต่เด็กสองสามคนที่เกาะผมไว้ก็ปล่อยไปไม่ได้

"เจย์!"โซโล่ตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงเจือความหงุดหงิดชัดเจน

"จัดการให้หมด!"เสียงออกคำสั่งของคุณเจย์ดังขึ้นพร้อมกับร่างของผู้ชายหลายคนที่เดินเข้ามา จากการต่อสู้กันสองฝ่ายเริ่มเป็นฝ่ายคุณเหลียงที่โดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว

ผมส่งตัวน้องๆให้พวกคุณลุงที่เดินถอยมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่ทำหน้าตาเหมือนอยากจะฆ่าใครตาย โซโล่กำมือแน่น มองภาพพวกนั้นที่โดนยำจนเละเทะด้วยสายตาเย็นชา

"โซ..."ผมเรียกเบาๆ แตะหลังมือของคนที่ยืนนิ่ง โซโล่หันมาหา สายตาอ่อนลงแทบจะทันที "เจ็บไหมครับ"

"ไม่เป็นไร"

ไม่เป็นไร...แต่ปากแตก

"คุณชาย"คุณเจย์เดินเข้ามาหา หน้าตาเคร่งเครียดผิดปกติ

"จัดการพวกมัน อย่าให้มายุ่งกับที่นี่อีก"โซโล่สั่งเสียงเรียบ ก้มหน้าให้ผมใช้ผ้าชุบน้ำที่ชาวบ้านส่งมาให้เช็ดหน้าให้เบาๆ

"ครับ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง แต่เรื่องที่สำคัญกว่านั้น..."

โซโล่ผละหน้าออก หันไปจ้องหน้าพวกที่เดินมาพร้อมคุณเจย์ ซึ่งกำลังจัดการกับพวกคุณเหลียงอยู่

"พวกนั้นมาได้ไง"

"พวกนั้นถูกส่งให้มาหาตัวคุณชายครับ"คุณเจย์ตอบด้วยเสียงเคร่งเครียด ท่าทางของเขาดูไม่ดีจนผมอยากถามว่าเป็นอะไรไหม แต่ก็ไม่อยากแทรกบทสนทนา

"ปกติพ่อไม่เคยยุ่งกับผมขนาดนั้นนี่"โซโล่ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ แต่พอได้สบตากับคุณเจย์เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น "หรือว่า..."

คุณเจย์พยักหน้า ใบหน้าของเขาดูเจ็บปวดเหมือนจะร้องไห้

"คุณท่านมาถึงไทยเมื่อวานนี้ครับ...มาพร้อมกับคุณลินดา"

---------------------------------------

 

 ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์



Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2017 20:16:06 โดย CHESS. »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER33 P.24 [27/02/17]
« ตอบ #709 เมื่อ: 03-03-2017 21:09:44 »





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #710 เมื่อ03-03-2017 21:35:28 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #711 เมื่อ03-03-2017 21:54:05 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nottto

  • MaxNuzz
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #712 เมื่อ03-03-2017 23:06:20 »

รอออออ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #713 เมื่อ03-03-2017 23:15:37 »

ง๊อออออ...ใครอะไรยังไง

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #714 เมื่อ03-03-2017 23:30:49 »

น่ารักที่สุดดด อุตส่าห์มาลงให้อ่าน สู้ๆนะคะ!!

พ่อโซมาแล้ว จะเป็นยังไงต่อนะ  :katai1:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #715 เมื่อ03-03-2017 23:34:50 »

 :hao5: คุณพ่อสามี(รวย)กำลังมา!!!

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #716 เมื่อ03-03-2017 23:47:04 »

มารอน้องมูนทุกวันนน ขุ่นพามาแล่ววว มาดีใช้มั้ยคะ กดดันๆๆ

ออฟไลน์ zonpine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #717 เมื่อ04-03-2017 00:06:45 »

ฉันค้างงงงงงงง!!!!
แง่! จะเกิดอะไรขึ้นต่อล่ะนี้. ลุ้นๆ
มาต่อไว้นะคะ

ออฟไลน์ Nattharikan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #718 เมื่อ04-03-2017 03:09:34 »

 :a5: เอ๊ะ ลินดาคือใคร มาทำไม????
 น้องมูนนี่น่ารักน่าหยิกมากลูก แบบว่าน่าหมั่นเขี้ยว  :mew3:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER34 P.24 [03/03/17]
«ตอบ #719 เมื่อ04-03-2017 12:09:07 »

ชอบน้องมูนน้องน่ารัก
ชีวิตรักของกีล์จะดร่าม่าไหมเนี้ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด