ตอนที่ 7 : คนที่ทำให้ยิ้มได้เป็นเช้าที่วุ่นวายจนผมเกือบลืมหายใจ เมื่อเอกสารที่ต้องส่งอาจารย์ภายในวันนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ผมวิ่งวุ่นหาจนเกือบจะถอดใจ กว่าจะรู้ว่ากล้าหยิบติดมือไปจากห้องของผม
“โทษทีว่ะ กูโกยหนังสือมาเลย ไม่เห็นว่ามีของมึงติดมาด้วย” กล้าขอโทษขอโพยเมื่อผมแวะไปเอาเอกสารที่คณะ
“ไม่เป็นไร แค่ไม่หายกูก็ดีใจแล้ว” ผมเก็บเอกสารใส่ลงในกระเป๋า “มึงกลับขึ้นไปเรียนเถอะ”
“อืม โทษนะมึงเลยต้องมาเอาถึงนี่”
“ก็มึงเรียนอยู่นี่หว่าทำไงได้”
“เดี๋ยวกูแวะไปหาที่ร้าน” กล้าหมายถึงร้านหนังสือของพี่ซินที่ผมทำงานอยู่
“ได้ เดี๋ยวเจอกัน”
ผมมองตามหลังกล้าวิ่งขึ้นตึกเรียน ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาชั่งใจระหว่างรีบกลับคณะหรือแวะหาอะไรกินก่อนดี ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเพราะมัวแต่ตกใจ
ผมตัดสินใจแวะทานข้าวที่โรงอาหารคณะของกล้า ไม่ได้หวังว่าจะเจอตฤนแค่ลองดูเผื่อฟลุ้ค ไม่รู้ว่าวันนี้จะมาหรือเปล่าหรือออกไปทำงานที่ไหน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูหน้าจอ ยิ้มให้กับภาพที่ปรากฏขึ้นมา
“วันนี้เกือบซวยแล้ว หวังว่าวันนี้นายจะไม่ซวยนะ”
“แช่งใคร?” เสียงเย็นๆ ดังมาจากด้านหลัง ผมสะดุ้งโหยง รีบหมุนตัวไปดู
“เปล่า” ผมส่ายหน้าแรงๆ เมื่อเห็นตฤนยืนอยู่
“นั่นรูปฉัน” ตฤนชี้มือมาที่โทรศัพท์ของผม “ส่วนคำว่าซวยของนายก็ดังเต็มสองหู”
“หาเรื่องแล้วฟังยังไงว่าแช่ง ที่พูดเนี่ยเป็นห่วง” ผมหน้ามุ่ย รีบยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง กลัวอีกฝ่ายจะดึงไปดู รูปหน้าจอเห็นแล้วก็ช่างมันแต่ในโทรศัพท์นี่สิมีรูปตฤนอีกเพียบ
“คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทักว่าวันนี้จะซวยหรือเปล่า เขาต้องทักว่าวันนี้ขอให้โชคดี วันนี้ขอให้มีความสุขไม่ใช่เหรอ” คนถามเลิกคิ้วขึ้นสีหน้ากวนประสาท แต่นอกจากผมจะไม่โกรธแล้วยังหัวเราะเก้อๆ ออกมา “นั่นสิ โทษทีว่ะ”
“เป็นอะไร”
“หือ?” ผมไม่แน่ใจคำถามลอยๆ ของตฤน จึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ที่บอกว่าวันนี้เกือบซวย”
“อ๋อ ต้องส่งเอกสารให้อาจารย์น่ะแต่หาไม่เจอ”
“เรียบร้อยแล้ว?”
“อืม กล้าหยิบติดมือมาด้วย ตกใจหมด”
“หยิบติดมา?”
“ใช่ ช่วงนี้กล้ามาค้างที่ห้อง ของมันวางกองๆ กันอยู่”
“ห้องนาย?”
“อืม” ผมตอบโดยไม่ได้คิดอะไร
“อยู่แถวนี้เหรอ”
“ใช่ อยู่ใกล้ๆ ร้านหนังสือที่แวะไปวันนั้นไง”
“อืม” รอยยิ้มที่กดลึกมุมปากของตฤนทำให้ผมชักระแวง
“ฉันพูดอะไรประหลาดหรือเปล่า เฮ้ย!” ผมร้องออกมาเมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “ฉันกับกล้าไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ! เราเป็นเพื่อนสนิทกัน”
“จะโวยวายทำไม ฉันได้พูดอะไรหรือยัง”
“ก็นายมองแปลกๆ นี่หว่า”
“หึ” ตฤนทำเสียงขึ้นจมูก
“เดี๋ยว จะไปไหน” ผมรีบเรียกไว้เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเดินแยกไป “โอ๊ะ! โทษที เชิญตามสบาย” ผมเกือบลืมตัว เสียมารยาทจริงๆ ที่ไปถามแบบนั้น
“จะไปกินข้าวไม่ใช่เหรอ”
“รู้ได้ไง!”
“ข้างหน้าไม่ใช่โรงอาหารมั้ง”
“ฉันอยู่คณะอื่น” ผมชี้มือเข้าหาตัวเอง ไม่ใช่คนในคณะถือว่าไม่ผิด
“หึๆ” เสียงหัวเราะไม่เท่ากับดวงตาขบขันที่มองมา ก่อนเจ้าตัวจะเดินนำหน้าผมไป
“หึๆ” ผมหัวเราะเลียนแบบตฤน แอบย่นจมูกใส่หลังอีกฝ่าย เก๊กอยู่ได้
ผมตาโตด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นมือที่วางจานข้าวลงตรงหน้า ผมนึกว่าตฤนแยกไปทานเอง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินมานั่งด้วย
“เห็นผีหรือไง”
“ทำยังกับไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้ของแฟนคลับ ก็บอกแล้วว่าฉันเป็นแฟนคลับ” ผมบ่นพึมพำ จะตกใจทำไม ผมมั่นใจว่าตฤนต้องเคยเห็นสีหน้าตื่นเต้นตกใจแบบนี้บ่อยๆ แน่ “อ๊ะถ้าไม่เชื่อดูนี่ เห็นไหมฉันตักรูปนายเป็นภาพหน้าจอด้วย” ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดหน้าจอให้ดู ถือห่างๆ ระวังไม่ให้อีกฝ่ายหยิบไป
“ทำไมถึงเป็นแฟนคลับฉัน”
“อืมมม” เจอคำถามยากเข้าแล้ว ถ้าบอกไปว่าชอบเพราะตฤนดูแย่ผมจะโดนเกลียดไหม ก็นั่นมันคือสาเหตุที่ทำให้ผมชอบตฤนจริงๆ นี่นา “ก็เห็นหน้านายแล้วทำให้มีกำลังใจ” ผมว่าผมตอบได้ดีนะ ถือว่าเป็นความจริงไม่ได้มุสา
“อย่างนั้นเหรอ”
“อืม”
“....”
“ไม่เชื่อเหรอ” ผมยื่นหน้าเข้าไปถามเมื่อเห็นตฤนเงียบไป
“เปล่า”
“ดีจัง นึกว่านายไม่เชื่อเสียอีก” ผมถอนใจโล่งอก
“เชื่อ เพราะ...” ตฤนเงียบไปก่อนจุดยิ้มขึ้นที่มุมปาก ผมว่าตฤนตอนยิ้มน่ารักกว่าตอนเก๊กหล่อเป็นไหนๆ
“เพราะอะไรเหรอ”
“เพราะฉันคิดว่าฉันก็มีคนแบบนั้นอยู่เหมือนกัน”
เดี๋ยวนะ! เดี๋ยว! ผมกำลังเป็นแฟนคลับขี้หวงอย่างนั้นเหรอ ทำไมผมถึงรู้สึกถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัว ไม่ชอบใจของตัวเอง
“จำแฟนคลับที่นายถามถึงวันนั้นได้ไหม”
“วันไหนเหรอ” ตอนนี้ผมไม่อยู่ในอารมณ์นึกถึงความหลังเท่าไหร่
“คนที่ชื่อหวาน”
ผมตาค้างอ้าปากกว้างก่อนจะรีบหุบฉับ เมื่อเห็นดวงตาวาววับที่เต็มไปด้วยความขบขันของตฤนมองมา ท่าทางของผมตอนนี้ต้องน่าเกลียดมากแน่ๆ
“อ๋อ..” ผมพยายามทำสีหน้าเหมือนเพิ่งจำได้ ทั้งที่ในใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ “พอจำได้ มีอะไรเหรอ”
“ก็คนที่พูดถึง” จังหวะที่พูดเป็นจังหวะที่ตฤนก้มหน้าลงตักข้าวพอดี ผมจึงไม่เห็นสายตาของอีกฝ่าย ซึ่งถือว่าเป็นโชคช่วยเพราะผมก็ไม่อยากให้ตฤนเห็นสีหน้าของผมตอนนี้เหมือนกัน เพราะมันทั้งเห่อร้อน ดีใจจนออกนอกหน้า อยากจะตะโกนโห่ร้องให้ดังก้องโลก
“อ๋อ..อืม” ผมตอบด้วยเสียงในลำคอ อีกฝ่ายจะได้จับความดีใจของผมไม่ได้
“ไม่กินข้าวเหรอ”
“อ๋อ..กิน” ผมพยักหน้า รีบหยิบช้อนขึ้นมาข้าวเข้าปาก
“เอ๋อหรือไง พูดอ๋อๆ อยู่ได้”
“แค่อ๋อไม่ได้เอ๋อ” ผมรีบค้าน มองค้อนร่างสูง เพราะใครล่ะที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้
“หึ”
ผมตักข้าวเข้าปาก ตาก็แอบเหลือบมองร่างสูง อยากรู้ใจจะขาดว่าทำไมหวานถึงทำให้ตฤนรู้สึกดีได้แต่ก็ไม่กล้าถาม ได้แต่รอลุ้นให้อีกฝ่ายเล่าต่อ แต่จนแล้วจนรอดจนข้าวเกือบหมดจานตฤนก็ยังไม่พูดถึง ผมจึงลงทุนถามขึ้นก่อน
“เคยเจอกันไหม”
“เคย”
“เคย!!!” ใจผมร่วงลงสู่ตาตุ่ม โธ่ไปเจอสาวสวยชื่อหวานคนไหนมาอีกละเนี่ย
“จะแหกปากทำไม” เสียงดุๆ ทำให้ผมต้องรีบลดเสียงตกใจของตัวเองลง ดีแค่ไหนที่ไม่ลุกพรวดขึ้นยืน
“เคยเจอแล้วเหรอ”
“อืม..คิดว่านะ”
“อ๋อ” ผมลากเสียงยาวด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็แค่คิดว่าใช่ ไม่ได้ปักใจเชื่อ
“เอ๋อ” เสียงพูดติดหัวเราะของตฤนดังขัดผมขึ้นมา
“บอกว่าอ๋อไม่ใช่เอ๋อ”
“แค่นี้จะดุทำไม”
“ดุที่ไหนเล่า ก็นายว่าคนอื่นเอ๋อ”
“ก็นายมันเอ๋อจริงๆ กระต่ายเอ๋อ”
“อ่านแล้วจริงๆ ด้วย” ผมยิ้มหน้าบาน ลืมไปเลยว่ากำลังต่อล้อต่อเถียงกันอยู่ “ถ้ายอมอ่านจริงเป็นกระต่ายเอ๋อก็ได้เอ้า” ผมใจปล้ำ เพราะแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
“หึ”
“ว่าแต่..” ผมลากเสียงยาว พยายามหาวิธีเข้าเรื่องที่อยากรู้โดยไม่ให้ดูน่าสงสัย
“จะถามอะไรก็ถามมา อยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมแฟนคลับคนนี้ถึงต่างกับคนอื่น”
“อืม ก็ฉันเป็นแฟนคลับนายเหมือนกัน หนังสือก็ซื้อให้ก็ต้องอยากรู้เป็นธรรมดาว่าต่างกันตรงไหน” ผมใช้สิทธิ์แฟนคลับของตัวเองขึ้นมาอ้าง
“เพราะรู้สึกว่าเขาใส่ใจ ห่วงใยฉันจริงๆ มั้ง”
“พูดงี้ก็ไม่ถูก แฟนคลับคนอื่นจะน้อยใจเอานะ”
“หมายถึงตัวเองด้วยหรือเปล่า”
“ก็ด้วย” ผมรับเสียเลย ดีกว่าต้องสงสัยว่าเป็นหวาน
“ขอโทษ” ผมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจไม่คิดว่าตฤนจะเอ่ยปากขอโทษ
“เอาเป็นว่าเพราะมันไม่รู้สึกถึงอย่างอื่นในข้อความนั้นนอกจากความห่วงใยก็เลยรู้สึกดี” ผมว่าผมเข้าใจสิ่งที่ที่ตฤนพูด “ตลกไหม ถ้าจะบอกว่าฉันรู้สึกเหมือนโดนครูดุ” ดวงตาของตฤนอ่อนแสงลง ริมฝีปากยกยิ้มบาง
ผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ส่งสายตาล้อเลียนอีกฝ่าย “งี้ นายก็ชอบฉันด้วยสิ”
“เพี้ยนหรือไงหะ!” ใบหน้าของตฤนผละออก ผมขำก็ขำแต่ต้องกลั้นเอาไว้
“อ้าวก็นายพูดเองว่าฉันดุ ไม่ใช่แค่วันนี้ด้วยวันนั้นก็พูด งี้ฉันก็ต้องเป็นแฟนคลับที่ทำให้นายยิ้มได้เหมือนกัน”
“ไอ้บ๊อง”
“ชิ” ผมถอยตัวกลับมานั่งตามเดิม ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่เดี๋ยวนะ.. ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ตฤนอีกครั้งแต่คราวนี้ด้วยสายตาเป็นประกาย
“นายขี้อาย” ผมจับได้แล้ว ใบหน้าของตฤนขึ้นสีแดงนิดๆ แถมเจ้าตัวยังเสไปมองทางอื่นด้วย “จริงๆ ด้วย” ผมยิ้มดีใจจนออกนอกหน้า ก่อนจะโดนดีดเข้าที่หน้าผากแรงๆ
“แบบนี้อายพอไหม”
“บอกกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องทำร้ายร่างกายด้วย” ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ
“เลิกพูดได้แล้ว คิดผิดจริงๆ ที่มานั่งนี่ หาเรื่องปวดหัวให้ตัวเองชัดๆ” ผมรีบเม้มปาก ไม่น่าเลยกู คราวหลังจะยอมมานั่งด้วยกันอีกไหมหนอ
“ไม่พูดแล้ว” ผมพูดเสียงอ่อย ก้มหน้าคอตกตักอาหารเข้าปาก กินอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่เพียงครู่เดียวผมก็ยิ้มออกมาได้ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ลอยเข้าหู ผมก้มหน้าลงซ่อนยิ้ม ผมว่าผมก็ทำให้ตฤนยิ้มได้เหมือนกันละน่า
ไม่ว่าจะเป็นหวานหรือว่าน การที่ได้รู้ว่าเราทำให้คนที่เราชื่นชอบยิ้มได้มันสุขใจเหลือจะกล่าว หัวใจของผมพองโต วันที่วุ่นวายกลายเป็นวันสงบนิ่ง รอบตัวคล้ายปุยนุ่น ดูทุกอย่างเบาสบาย
“ว่าน”
“หือ?” ผมเงยหน้าขึ้นมองตฤน ใบหน้ายังยิ้มค้าง
“นานไหมกว่าจะถึงบ้าน”
“อะไรเหรอ?”
“วนรอบกรุงเทพฯ ฝั่งธนสนุกไหม”
!!! ผมอ้าปากค้าง ตกใจจนลืมอาย ตฤนหัวเราะเสียงดังลั่นจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง สีหน้าดูชอบใจมากที่เอาคืนผมได้
โอ๊ย! ทำไมถึงร้ายแบบนี้ ผมว่าแล้วเชียว ว่าแล้วเชียว มิน่าตอนถามเรื่องที่พักตฤนถึงทำสีหน้าแปลกๆ ไอ้ว่านหนอไอ้ว่าน มึงไม่เนียนเอาเสียเลย
“ก็แค่อยากนั่งรถไปด้วย” ผมพูดเสียงอ่อย ยอมรับไปตรงๆ
“หึ”
“ขอโทษ วันหลังไม่ทำแล้ว” ผมยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว
“ดี”
เจอคำนี้ผมเลยยิ่งจ๋อยเข้าไปใหญ่ ถูกจับได้ซะแล้ว ขายหน้าชะมัด
“วันหลังถ้าอยากคุยก็บอกจะได้ยังไม่กลับ”
!!!
ดวงตาของตฤนเป็นประกาย ดูเหมือนเจ้าตัวกำลังขำสีหน้าเหวอๆ ของผมอยู่ แต่ผมไม่สนหรอก ตอนนี้ผมทั้งดีใจทั้งมีความสุข “ได้ๆ วันหลังจะบอกแน่นอน”
“ที่นี้ก็ช่วยเก็บอาการ ทำหน้าให้เหมือนคนปกติแล้วนั่งกินข้าวดีๆ ได้แล้ว นายกำลังทำให้ฉันขายหน้าคนอื่น”
“ขอโทษ~” ผมรีบขอโทษขอโพยแต่มันก็ยังหุบยิ้มไม่ได้อยู่ดี
“กระต่ายเอ๋อเอ๊ย” ตฤนส่ายหัว สีหน้าดูอิดหนาระอาใจกับผม
ผมกับตฤนสบตากัน ดวงตาของเราทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนเสียงหัวเราะจะหลุดลอดออกมา หลังจากนั้นพวกเรานั่งกินข้าวกันเงียบๆ ไม่มีเสียงพูดคุยอีก แต่ทำไมผมถึงรู้สึกมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก
คุณพระจันทร์ก็ยังเป็นคุณพระจันทร์อยู่ดี ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้ผมยิ้มได้เสมอ ขอบคุณนะ เพราะวันนี้มันไมได้แย่อีกต่อไป
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
คิดว่าใครจะเป็นคนรุกจีบใคร ^^
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin