ตอนที่ 38 : ครอบครัว (3)“น้องธารีครับ” ผมลดเสียงลงเพื่อเรียกน้องธารีให้หันมา อีกฝ่ายชะลอฝีเท้าหันมายิ้มให้ผม
“คะพี่ลี”
“ช่วยอะไรพี่นิดได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ”
“พี่อยากถ่ายรูปพี่โชกับคุณปู่ด้วยกันแต่..” ผมหัวเราะเบาๆ ดูเหมือนน้องธารีจะเข้าใจดีเพราะพลอยหัวเราะไปกับผมด้วย
“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวธารีจัดการให้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“พี่ลีเตรียมตัวเลยนะคะ ธารีซะอย่าง”
ผมยิ้มตามความสดใสของอีกฝ่าย น้องธารีเร่งฝีเท้าเดินเคียงไปกับพี่โช พักเดียวก็พูดเสียงดังขึ้นมา
“ถ่ายรูปกันดีกว่าค่ะ มาทั้งทียังไม่มีรูปเหมือนมายังไม่ถึง”
“พี่ถ่ายให้เอง” นะโมขันอาสา
“คุณปู่ถ่ายกับธารีนะคะ พี่โชด้วยค่ะจะเดินหลบไปไหน” น้องธารีท้วงเสียงดัง เมื่อพี่โชทำท่าจะขยับตัวออกห่าง แขนเล็กสอดเข้ากอดแขนพี่ชาย ดึงให้เข้ามายืนชิด สาวน้อยเพียงคนเดียวยิ้มกว้าง ร่าเริง
นะโมกดชัตเตอร์ถ่ายไปสองสามรูป ผมเองก็ยกมือถือขึ้นถ่ายด้วย
“อ๊ะ! พี่โชถ่ายกับคุณปู่บ้างดีกว่าค่ะ” น้องธารีพูดพร้อมกับเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
“พี่โชขยับไปชิดคุณปู่หน่อยสิคะ” เสียงน้องธารีสั่งการ ผมแอบอมยิ้ม คิดถูกจริงๆ ที่ขอให้น้องธารีช่วย เพราะผมเองคงทำแบบนี้ไม่ได้
“นั่นแหละค่ะ พี่นะโมถ่ายเลย”
ผมยิ้มค้างเมื่อพี่โชมองตรงมา สายตาอีกฝ่ายเหมือนรู้ว่าเป็นฝีมือของผม ผมเลยส่งยิ้มประจบ เอ~ แบบนี้เรียกว่ารู้ใจกันได้ไหมนะ ผมคิดเองยิ้มเขินเอง พี่โชคงตลกสีหน้าของผมจึงหัวเราะออกมาเบาๆ ผมได้ยินเสียงนะโมอุทาน พร้อมเสียงรัวชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง ก่อนจะลดกล้องลงหันมาบอกผม
“เมื่อกี้พี่โชยิ้มด้วยว่ะ ดีจริง”
“อืม มันดีจริงๆ” ผมภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในใจ อย่าหาว่าลูกโลภเลยนะครับ แต่ขอให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเถอะ ผมอยากเห็นพี่โชกับคุณปู่มีความสุข
“พี่โชถ่ายให้พวกผมบ้างสิครับ” นะโมส่งกล้องถ่ายรูปให้พี่โช ดึงแขนผมไปยืนข้างคุณปู่ ก่อนนะโมจะย้ายไปยืนอีกข้าง คุณปู่มองผมด้วยสายตาดุผมจึงใช้ยิ้มกว้างเข้าสู้
“ขอถ่ายรูปด้วยนะครับ ผมอยากมีรูปคู่กับคุณปู่” ผมยิ้มหวานประจบ คุณปู่ไม่ตอบแต่อย่างน้อยก็ไม่ขยับหนีไปไหน
“ยิ้มครับ” นะโมพูดเสียงดังก่อนฉีกยิ้มกว้าง ผมไม่รู้ว่าคุณปู่ยิ้มหรือเปล่าแต่ผมยิ้มกว้างไม่แพ้นะโม
“ขอบคุณครับ” นะโมรับกล้องคืนมาจากพี่โช คุณปู่ออกเดินต่อเป็นคนแรก ผมแตะแขนพี่โชให้เดินตาม
“แดดยังไม่หมดดี ผมกลัวคุณปู่จะไม่สบาย”
“ตัวแค่นี้ทำไมชอบสั่ง”
“ผมไม่ได้สั่งนะครับ” ผมรีบปฏิเสธ ตกใจเพราะพี่โชทำสีหน้าจริงจัง ก่อนอีกฝ่ายจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เล่นเอาผมตาโต
“เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้เหรอครับ”
“หึๆ” พี่โชไม่ตอบ ออกเดินตามคุณปู่ไปติดๆ ผมเดินตามหลังทั้งคู่ ได้ยินเสียงคุยน้อยมาก แต่แค่ปู่กับหลานยอมเดินด้วยกันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
พี่ธาม” ผมหันไปมอง น้องธารีกำลังโบกมือให้พี่ธามที่เดินตรงเข้ามาหา
“ธารีไม่รู้ว่าพี่ธามจะมาเดินด้วยเลยไม่ได้ชวน”
“ไม่เป็นไร พี่เพิ่งคุยงานกับพ่อเสร็จ เลยออกมาเดินเล่นพักสายตา”
“อ๋อค่ะ” น้องธารียิ้มหวานให้พี่ชาย
“เป็นไงบ้าง เรียบร้อยดีไหม” คุณปู่หันกลับมามอง ถามพี่ธามถึงเรื่องงาน พี่ธามจึงขยับขึ้นไปเดินข้างคุณปู่ รายงานให้ท่านฟัง น้องธารีเอียงคอมองพี่ชายด้วยสีหน้าสงสัย
“แปลกจัง”
“อะไรแปลกครับ” ผมชวนน้องธารีคุย พี่โชเดินนำอยู่ข้างหน้า ตามหลังคุณปู่กับพี่ธามอีกที ส่วนนะโมเดินรั้งท้ายเพราะมัวเก็บเปลือกหอยขึ้นมาเล่น
“ก็พี่ธามสิคะ ร้อยวันพันปีไม่เคยอยากออกมาเดินเล่น ขนาดธารีเซ้าซี้ชวน ยังบอกให้ธันมาเป็นเพื่อนธารีแทนเลยค่ะ”
“คงอยากพักสายตามั้งครับ” ผมตอบไปตามเหตุผลที่พี่ธามบอกเมื่อครู่
“ก็ยังแปลกอยู่ดีค่ะ” น้องธารีขมวดคิ้วมุ่นแต่ครู่เดียวก็คลายออก “ช่างเถอะค่ะคุยเรื่องพี่ลีดีกว่า ไปถึงไหนกันแล้วคะ”
ผมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของน้องธารี ก่อนหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดูอีกฝ่าย
“ก็ถึงนี่ไงครับ มาเที่ยวด้วยกัน” ผมตอบเลี่ยง
น้องธารีหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบของผม “พี่ลีฉลาดสุดๆ ไปเลยค่ะ สมแล้วที่พี่โชชอบ”
“ลี” เสียงที่ดังมาแต่ไกลเรียกให้ผมกับน้องธารีหันกลับไปมอง
“รอกูด้วย”
นะโมคงมัวเล่นเพลินถึงอยู่ห่างพวกผมออกไปมาก ผมกวักมือเรียกให้รีบตามมานะโมจึงออกวิ่ง อีกนิดเดียวก็จะถึง นะโมดันสะดุดก้อนหินบนพื้นถลาเข้าหา
ผมอ้าแขนเตรียมรับเพื่อนเต็มที่ แต่ในอ้อมแขนผมกลับว่างเปล่า รู้ตัวอีกทีพี่ธามก้าวออกไปรับร่างของนะโมอย่างรวดเร็ว
แรงปะทะทำให้พี่ธามเซเล็กน้อย เมื่อทุกอย่างหยุดลงนะโมยืนสงบอยู่ในวงแขนของพี่ธาม ผมเห็นทั้งคู่สบตากันนิ่งก่อนพี่ธามจะผละออก
“หัดเดินดูตาม้าตาเรือเหมือนคนอื่นบ้าง” น้ำเสียงคนพูดดุ แต่ผมสาบานได้ว่าตาของพี่ธามเมื่อครู่นี้บอกอีกอย่าง เหมือนเจ้าตัวตกอยู่ในภวังค์
“เอ้าก็ถ้าเหมือนคนอื่นก็ไม่ใช่ผมสิครับ” นะโมยิ้มแฉ่ง ผมว่าออกไปทางกวนมากกว่า
พี่ธามถอนใจเฮือกใหญ่ หมุนตัวกลับไม่พูดไม่จา
“เดี๋ยวครับ” นะโมดึงชายเสื้อที่พี่ธามใส่เอาไว้ อีกฝ่ายจึงต้องหันกลับมามอง
“ผมยังไม่ได้ขอบคุณเลย ขอบคุณครับ”
“อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ” พี่ธามพูดเสียงเรียบ ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน พี่ธามทำเหมือนรำคาญนะโม แต่ผมมั่นใจว่าเมื่อกี้พี่ธามไม่ได้อยู่ในรัศมีที่นะโมจะพุ่งเข้าชน ดังนั้นผมไม่สามารถหาคำอื่นมาจำกัดความได้นอกจากคำว่า..เป็นห่วง พี่ธามเป็นห่วงนะโม คิ้วของผมเลิกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก นะโมไม่เกลียดพี่ธามแล้วข้อนั้นผมมั่นใจ แต่ผมเพิ่งแน่ใจว่าพี่ธามก็เลิกไม่ชอบหน้านะโมแล้วเช่นเดียวกัน
“โดนด่าเลยกู” นะโมพูดเสียงเบา หลังจากพี่ธามเดินห่างออกไป ท่าทางขำมากกว่าจ๋อย
“เพราะเป็นห่วงน่ะ” ผมพูดไปตามที่คิด
“คิดได้ไงมึง” นะโมหัวเราะขำ แต่เสียงดังไปนิดพี่ธามจึงหันกลับมามองด้วยสายตาดุๆ
“เห็นไหม” นะโมยักคิ้วให้ผม
“เอาเป็นว่ากูเชื่อของกูแบบนี้ มึงไม่เชื่อก็ตามใจ กูไม่รีบพิสูจน์เดี๋ยวมึงก็รู้เอง”
“ได้กูจะรอดู” นะโมมองเป็นเรื่องสนุก แต่ผมคิดว่ามันคือเรื่องจริง ไม่นานเพื่อนผมจะรู้เอง
• • • • • • • •
“ธามก็ไม่ห้ามเลย ปล่อยโชพาคุณปู่ออกไปเดินแบบนั้นได้ยังไง”
ผมลอบถอนใจ พอคุณปู่ขึ้นไปพักปุ๊บอานรีก็เริ่มปั๊บ เรียกว่าไม่ให้เสียเวลาแม้แต่น้อย
“คุณปู่ไม่ได้เดินเยอะมากครับ ผมว่าออกกำลังกายบ้างจะดีกว่าสุขภาพคุณปู่มากกว่า” พี่ธามตอบด้วยเสียงสงบ
“แต่แดดยังมี ลมก็แรง ถ้าคุณปู่ป่วยขึ้นมาจะทำยังไง คนชวนก็ไม่รู้จักคิด” อานรีตวัดสายตามองพี่โช สุดท้ายก็ลงที่พี่โชจนได้
“ผมเป็นคน...” พี่โชจับบ่าผม ดวงตาที่มองมาห้าไม่ให้ผมพูดต่อ ว่าผมเป็นคนขอให้พี่โชชวนคุณปู่เอง
“อย่าบ่นนักเลยนรีพ่อก็ดูสบายดี ออกไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้างดีกว่าอยู่แต่ในบ้าน โชก็พาน้องขึ้นไปพักเถอะ ล้างหน้าล้างตา เดี๋ยวจะได้ลงมาทานข้าวเย็น”
“ครับอายุทธ” พี่โชพยักหน้าให้สัญญาณพวกผม เดินออกจากห้องรับแขกโดยไม่มองอานรีแม้แต่หางตา ผมได้ยินอานรีบ่นตามหลังมาอีกชุดใหญ่จึงได้แต่ถอนใจเบาๆ
“ลุงผมถามอะไรหน่อยสิ”
ผมมัวแต่มองตามหลังพี่โชจึงไม่เห็นว่านอกจากนะโมแล้ว ยังมีพี่ธามเดินขึ้นบันไดมาด้วย
“อะไร”
“ฝั่งที่พวกเราพักมีแค่สองห้องนอนใช่ไหมครับ”
“ใช่”
“ปกติก็ไม่มีใครเดินมาใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่ห้องนอนตัวเองจะเดินมาทำไม”
“หูยยยตอบดีๆ ก็ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรผมจะถามว่า..” นะโมเงียบไปอึดใจหนึ่ง “ว่าผมย้ายไปนอนห้องลุงได้ไหม”
“หะ!” ไม่ใช่แค่พี่ธามที่ตกใจ ผมเองก็ตกใจมากจนต้องหันไปมอง
“ลีจะได้ค้างห้องเดียวกับพี่โช เผื่อมีอะไรคุยกัน” เสียงตอนท้ายเบาลง ผมเดาได้จากสายตาที่เพื่อนมองมาว่านะโมอยากให้ผมอยู่เป็นเพื่อนพี่โชในสภาวะอารมณ์แบบนี้ แม้แต่พี่ธามก็คงเดาความคิดนะโมได้ เพราะคิ้วที่ขมวดเข้าหากันคลายออก
“อย่าเลยนะโม” ผมรีบห้ามเพื่อนเพราะเกรงใจพี่ธาม
“ไม่เป็นไร จะย้ายก็ย้ายมา”
“ขอบคุณครับ” นะโมยกมือขึ้นไหว้ ก่อนพูดเสียงดังขึ้นอีกนิด “พี่โชครับ”
พี่โชเหมือนอยู่ในภวังค์จึงไม่ได้ยิน พอนะโมเรียกซ้ำสองถึงหันกลับมามอง
“ผมขอเปลี่ยนห้องนะครับ”
“เปลี่ยนห้อง?”
“ครับ ผมจะพักกับพี่ธาม”
“เอางั้นเหรอ”
“ครับ ผมขอเข้าไปหยิบกระเป๋าแป๊บเดียว พี่โชย้ายมาได้เลยครับ”
“อืม” พี่โชพยักหน้า
ผมเข้าห้องพักไปพร้อมกับนะโม มองเพื่อนสาละวนหยิบเสื้อผ้าจับยัดกลับเข้าไปในกระเป๋า
“นะโมไม่ต้องแลกห้องก็ได้ มึงพักกับกูนี่แหละ”
“กูพักห้องโน้นดีแล้ว”
“อย่าเลย กูเกรงใจมึง”
“เกรงใจทำไม นอนห้องไหนก็เหมือนกัน กูไม่มีปัญหาอะไร”
“มึงพูดเหมือนกูไม่รู้จักมึง”
นะโมชะงัก เงยหน้าจากกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมองหน้าผม “แต่คราวนี้กูพูดจริงว่ะ ไม่ได้พูดให้มึงสบายใจ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่กูเฉยๆ ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร รู้สึกว่านอนได้สบาย สงสัยเพราะกูเคยนอนห้องเดียวกันแล้วมั้ง” นะโมยักไหล่ แต่ผมคิดว่าเพราะทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้นมากกว่า แม้จะสนิทเพราะชอบตีกันก็ตาม
“งั้นก็ขอบใจว่ะ”
“สบายมาก” นะโมยิ้มกว้าง หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายบนบ่า
“ไปล่ะ ทำให้พี่โชยิ้มให้ได้นะ อย่าให้อานรีชนะ”
“อืม ขอบใจ” ผมพูดขอบคุณเพื่อนซ้ำ นะโมยิ้มตอบ เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นะโมเดินไปเปิดให้
“ผมเก็บของเสร็จพอดีเลยครับ ลีเดี๋ยวเจอกันตอนมื้อเย็น” นะโมหันมาบอกผม
“เจอกัน” ผมยิ้มให้เพื่อน มองจนประตูปิดลง จึงหันกลับมามองพี่โช อีกฝ่ายกำลังวางกระเป๋าลงบนเตียง ผมเดินตรงเข้าไปหา สอดมือกอดจากทางด้านหลัง
“คราวนี้ได้กอดจริงๆ แล้วนะครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง เหมือนไม่เคยมีเรื่องไม่สบายใจเกิดขึ้น
พี่โชชะงักก่อนยืดตัวขึ้น หัวเราะออกมาเบาๆ
“ดีจัง” ผมแนบหน้ากับแผ่นหลังกว้าง
“อะไร”
“หลังพี่โชครับ มันอบอุ่นดีจัง”
พี่โชนิ่งจนผมไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ “พี่โชครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อพี่โชหมุนตัวกลับมา มือโอบไปรอบเอวของผม “สมกับเป็นเราจริงๆ ขอบใจมาก”
“ขอบคุณผมทำไมครับ”
พี่โชจับมือผมวางลงบนอกใกล้กับหัวใจ “ที่ทำให้ตรงนี้มันเลิกหนัก ขอบคุณที่ลีไม่ปลอบใจพี่แต่เลือกที่จะบอกพี่ว่าพี่สำคัญสำหรับใครสักคน เพราะบางครั้งพี่ก็ไม่แน่ใจตัวเอง”
“พี่โช” น้ำตาผมรื้น คนทำคงไม่รู้ว่าบาดแผลเล็กๆ หลายแผลเมื่อนานวันเข้ามันสร้างรอยแผลใหญ่ไว้ให้พี่โชโดยไม่รู้ตัว
“อย่าขี้แย พี่ไม่เป็นไร”
“ผมรู้ครับว่าพี่โชไม่เป็นไร” ผมยกมือขึ้นปาดหยดน้ำออก “พี่โชของผมเข็มแข็งที่สุด”
“พี่โชของผมอย่างนั้นเหรอ” พี่โชยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาเป็นประกาย ผมดีใจที่ได้เห็น รอยยิ้มจึงค่อยๆ กว้างขึ้น
“แน่สิครับ” ผมจิ้มนิ้วลงบนอกของพี่โช “เนี่ยของผม”
“ฮ่าๆ” พี่โชหัวเราะเสียงดัง ผมยิ้มด้วยความดีใจที่เห็นพี่โชกลับมาสดใสอีกครั้ง ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะปกป้องรอยยิ้มของพี่โชเอง
-ธาม-ผมมองคนตัวผอมที่สาละวนเก็บข้าวของพร้อมกับผิวปากไปด้วย มองเพลินจนเจ้าของร่างหันมาสบตา คิ้วเลิกขึ้นเป็นคำถามว่าผมมีอะไร
“อย่าทำเสื้อพี่ยับ”
“ว่าแล้วเชียวทำไมเดาไม่ผิด” นะโมหันกลับไป แขวนเสื้อกับไม้แขวน เลิกสนใจผม
ผมอยากคิดว่านะโมที่ผมเจอวันแรกกับวันนี้ต่างกันมาก แต่ผมรู้ดีว่าไม่ใช่ นะโมยังเป็นนะโมคนเดิม เป็นเด็กกวนประสาท เป็นเด็กพูดตรง และเป็นเด็กจิตใจดี สิ่งที่ทำให้นะโมเปลี่ยนจากเด็กที่ผมไม่ถูกชะตาเป็นเด็กที่ผมนึกเอ็นดูคือตัวผมเอง สายตากับความรู้สึกของผมเองต่างหากที่มันเปลี่ยนไป แม้ผมไม่อยากยอมรับก็ตาม
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin