"คำว่ารักฯ Part II รักแท้แม้เวลามิอาจพราก by Yo เองครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "คำว่ารักฯ Part II รักแท้แม้เวลามิอาจพราก by Yo เองครับ  (อ่าน 82781 ครั้ง)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ขอบคุณ คุณ Yo เองครับ ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ "Yo เองครับ" ก่อนนะครับ

เพราะ เรื่องนี้มีบางส่วนมากจากชีวิตจริง ตัวละครทุกตัวมีชีวิตอยู่จริง

ขอบคุณครับ

หมูพูห์  :teach:


**********************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


**********************************************************
 ผมเพิ่งจะกลับมาจากไปธุระหลายวัน เลยเข้ามาตอบคำถามพร้อมกับขึ้นตอนต่อไปให้ช้าไปหน่อยอ่ะครับ

ก่อนอื่นเลยต้องขอรับคำติชมทั้งหลายไว้ก่อน มีหลายคนถามผมว่าเรื่องทั้งหมดจริงหรือไม่

ผมต้องบอกตามตรงว่ามีทั้งส่วนที่จริงและไม่จริง ซึ่งผมจะไม่เฉลยว่าตอนไหนจริงและตอนไหนไม่จริงนะครับ ส่วนประเด็นการเลิกกันในครั้งนั้นบางคนอาจจะเห็นแตกต่างกัน

แต่ตอนนั้นบอกได้คำเดียวว่าผมคิดแบบนั้นจริง ๆ น้อมรับความเห็นต่าง ๆ เอาไว้ด้วยใจจริง ๆ ครับ

และที่สำคัญที่สุดผมต้องขอขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆและ น้อง ๆ ทุกท่านที่ช่วยเข้ามาดันและเข้ามาพูดคุยในกระทู้ คำว่ารักของฉันฯ  ต้องขอบคุณจริง ๆ ครับ

ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ผู้อ่านอารมณ์ค้างเพราะนึกว่าเรื่องนี้จบบริบูรณ์ไปแล้วด้วยความผิดหวัง

แต่พอดีผมติดภารกิจสำคัญทำให้ไม่มีเวลาเข้ามาในบอร์ดเลย เลยทำให้ขาดตอนไป แต่ก็หวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนคงจะให้การต้อนรับเช่นเคยนะครับ

ลิงค์กระทู้เก่าครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=768.0

โยครับ

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 21:02:51 โดย THIP »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 1"

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเต็มนับตั้งแต่วันที่ผมกับบูมเลิกคบกัน

ผมกับบูมก็แทบจะไม่เคยได้ติดต่อกันหรือพูดคุยกันตามประสาคนที่เคยรู้จักกันเลย

มันช่างเป็นช่วงที่ทรมานที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมา เพราะการจะเลิกคบกับใครสักคนนึง

ทั้ง ๆ ที่เรายังรักกันอยู่มันช่างเป็นสิ่งที่แสนจะทรมานมาก ๆ ดังนั้นผมจึงต้องพยายามทำตัวเป็นนินจา มาเรียนบ้างไม่มาบ้าง

ถ้าผมมาเรียนก็จะเข้ามาหลังสุดใกล้ ๆ หรือ เฉียดที่จะได้เวลาเข้าเรียน เพราะผมไม่อยากที่จะเจอหน้าคนที่จะทำให้ผมต้องรู้สึกเจ็บปวด ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นฝ่ายเลือกที่จะถอยมาเองก็ตาม

แม้ว่าผมจะมาเรียนบ้างโดดเรียนบ้างแต่การเรียนของผมก็ไม่ได้เสียเหมือนช่วงที่ผมทำร้ายตัวเองครั้งก่อน

เพราะผมจะให้เพื่อน ๆ คอยอัดเทปไว้ให้และขอยืมสมุดเล็คเชอร์ไปซีร๊อคเสมอ ๆในวันที่ผมขาดเรียน

โดยผมจะอ้างว่าผมติดธุระต้องไปช่วยงานที่บ้าน ซึ่งพวกเพื่อน ๆ ผมก็เข้าใจ ไม่ได้ระแคะระคายอะไร เพราะพวกมันไม่รู้ว่าผมกับบูมเคยกลับมาคืนดีกัน

ผมเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ เวลาที่ผมอยู่ต่อหน้าพวกมัน ผมก็จะแกล้งทำตัวให้ร่าเริงเข้าไว้ แต่พอเลิกเรียนผมก็จะรีบตรงดิ่งกลับบ้านทันที

ซึ่งพวกเพื่อน ๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันคิดว่าผมต้องรีบกลับไปช่วยงานที่บ้าน มีแต่บ่นบ้างนิดหน่อยที่ผมไม่ค่อยจะมีเวลาให้พวกมัน แต่ก็ไม่ได้มากอะไร

ตั้งแต่มีเรื่องเมื่อคราวก่อน ตอนนี้ปอนด์เองผมคิดว่าเค้าคงจะตัดใจจากผมได้มากพอสมควรแล้ว และเราก็กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิม

ปอนด์ยังคงโทรมาคุยกับผมเสมอแม้ว่าจะไม่บ่อยเท่ากับแต่ก่อนก็ตาม เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบูม

ผมได้ขอร้องให้ปอนด์ช่วยปิดเรื่องที่ผมกับบูมกลับมาคบกันไม่ให้พวกเพื่อน ๆ ผมรู้ ซึ่งปอนด์เองก็เข้าใจเหตุผล แถมยังแซวผมเล่นอีกว่า เมื่อไหร่ผมจะใจอ่อนกับเค้าสักที

ซึ่งผมก็รู้ดีว่าเค้าพูดเล่นเพราะผมเห็นปอนด์กำลังตามจีบน้องปีหนึ่งคนนึงอยู่ ซึ่งเด็กคนนั้นก็น่าจะพอใจปอนด์อยู่เช่นกัน ทำให้ผมสบายใจไประดับนึงแล้ว

พี่น้อตเองตอนนี้ก็เรียนจบแล้ว ก่อนที่จะมีงาน “bye senior” กันพี่น้อตก็พาผมกับเพื่อน ๆ ไปเลี้ยงเฮฮาตามประสารุ่นน้องที่น่ารัก

และตอนนี้พี่น้อตก็กำลังขะมักเขม้นกับเรื่องที่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ออสเตรเลียอยู่ และกำลังฟิตภาษาอยู่ที่สถาบันมีชื่อแห่งนึงย่านถนนวิทยุ....

ส่วนพี่วิทย์เอง ช่วงก่อนจะเรียนจบ ก็โทรมาคุยกับผมแทบจะทุกวัน มีช่วงนี้แหละที่หาย ๆ ไปบ้าง เพราะเห็นพี่เค้าบ่นว่างานที่รีสอร์ทยุ่งมาก

แต่พี่น้อตบอกมาว่ามีคนกำลังมาติดพันอยู่ แต่เห็นว่าพี่วิทย์ไม่เล่นด้วยนะ อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเพราะพี่วิทย์ไม่ได้บอกผมโดยตรง

และที่สำคัญพี่เค้ากลับหายหน้าหายตาไปเฉย ๆ อันนี้คงไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ ๆกันอยู่ว่าเพราะอะไร ท่าทางคงจะเข้าล็อคแล้วละมั้ง....

 ตอนนี้อีกไม่กี่วันผมก็จะต้องสอบกลางภาคเรียนที่ 1 ของปีสุดท้ายแล้ว ชีวิตของผมในตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากชีวิตของผมในตอนที่เป็นเด็กปี 3 สักเท่าไหร่นัก

ผมยังคงมาเรียนบ้างไม่มาบ้างเป็นปกติ แต่ผมจะขาดน้อยกว่าในตอนปีสามเพราะปีนี้ผมจะต้องเก็บวิชามหาโหดให้ได้ครบตามเกณฑ์ถึงจะจบ ผมเลยจำเป็นต้องมาเรียนบ่อย ๆ....

ช่วงหลัง ๆ มานี้แพทเองก็คงจะสังเกตเห็นความผิดปกติของผมกับบูม แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะผมก็ไม่ได้บอกใครว่าผมกลับมาคบกับบูมและเลิกกันอีกครั้ง

ซึ่งแพทเองก็ยังคงโทรมาคุยกับผมบ้างแต่ไม่บ่อยนัก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเค้าไม่เคยพูดถึงเรื่องของบูมอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้นมา คงจะหมดความพยายามไปแล้วมั้งครับ....

ช่วงนี้เรื่องที่พวกเพื่อน ๆ ผมกำลังตื่นเต้นกันมากก็คือเรื่องที่พวกเราใกล้จะจบและจะต้องไปสมัครงานหรือไปเรียนต่อ ซึ่งพวกมันก็มีบางคนที่จะต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วย

ทั้ง ๆ ที่พวกมันไม่ได้อยากที่จะไปเท่าไหร่นัก ช่วงนี้เลยดูเหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวความรู้สึกและมิตรภาพที่ดีระหว่างเพื่อนในกลุ่มเอาไว้

พวกเราเลยนัดกันออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยขึ้นเพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่อิสระของช่วงมหาวิทยาลัยร่วมกัน

จนกระทั้งสอบกลางภาคเสร็จ ไอ้โบ (ตอนนี้มันปีกกล้าขาแข็งฮึดสู้กับแฟนมันได้แล้ว แฟนมันเลยต้องตกเป็นเบี้ยล่างมัน

เห็นว่าไอ้โบมันทนไม่ไหว หรือมันเมาไม่รู้ขู่บอกจะเลิกกับแฟนมันจนแฟนมันยอม ตอนนี้เลยแฮบปี้มาก ๆ)

ไอ้โบเป็นตัวตั้งตัวตีอยากไปเที่ยวเกาะ แต่จนแล้วจนรอดก็หาเวลากันไม่ค่อยจะได้ เลยตกลงใจไป เกาะเสม็ด เพราะใกล้และสะดวกดี ได้บรรยากาศเกาะอีกต่างหาก

แม้ว่าบนเกาะจะไม่มีอะไรให้แสวงหาอีกต่อไปแล้วเพราะไปกันมาจนหลับตาเดินคลำทางกันได้แล้วก็ตาม ไอ้โบก็ยังคงอยากจะไปอีก งงจริง ๆ....

พวกเพื่อน ๆ ผมเลือก อ่าวไผ่ เพราะเป็นอ่าวที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และที่สำคัญเราสามารถเปิดแอร์โดยที่เค้าไม่ตัดไฟได้ทั้งวันครับ การเดินทางก็สะดวกเพราะมีเรือเร็วไปส่งถึงอ่าวเลยไม่ต้องรอ....

เรามาเช็คอินเข้าพักที่อ่าวไผ่ก็เป็นเวลา เย็น ๆ แล้ว ...( จะไม่ให้เย็นได้ไง กว่าจะมากันได้ ร่ำลาแฟนอย่างกับจะไปรบกับอิรัก) ผมกับไอ้กายต้องคอยถือกระเป๋าเข้าไปในห้องพักให้

ปล่อยให้คุณนายออฟกับคุณชายโบเป็นคนกรอกเอกสาร (ที่จริงก็ไม่อยากจะถือไปหรอกครับ แต่คนมันดวงไม่ดีอ่ะ จับฉลากได้แบบนี้ทุกที

จะมีก็แต่ไอ้กายเท่านั้นที่มันต้องเป็นคนยกอยู่แล้วไม่ต้องจับฉลาก มีพวกผมสามคนที่ได้จับฉลาก 555 ยุติธรรมไหม???) หลังจากที่ผมกับกายขนของไปยังที่พักเรียบร้อยแล้ว

และกำลังเดินออกมาเพื่อนั่งเล่นฆ่าเวลาก่อนจะได้เวลาอาหารมื้อเย็น สายตาอันฉับไวของผมก็บังเอิญไปสะดุดกับคนกลุ่มนึงที่กำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดไกลลิบ ๆ

นั่นมัน ..................

************************************************************************



meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
มีภาคสองด้วยวุ้ย :monkeylove2:

ชายกลุ่มนั้นผมว่าเป็นบูมแน่เลย สาธุ ขอให้คืนดีกันทีเถ้อ :impress:

รออ่านต่อนะครับ :yeb:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2007 12:20:49 โดย meemewkewkaw »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
อย่าบอกนะว่าเป็นบูม....โลกมันจะลมอารายปานนั้น :laugh: :laugh:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :o  ทฤษฎีนี้มานเปงจริงนะเออ  :kikkik:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
บูมละม้าง 
ภาค 2 เหรอ ขอให้แฮปปี้เหมือนชื่อเรื่องละกัน  :like2:

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
 :like2:  มีต่อภาค 2 ด้วย ฮิฮิ
กลับมารักกานเหมือนเดิมเถอะคร้าบ.....

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 2/1"

    นั่นมัน…….เจ้าหนี้เรานี่หว่า เผ่นดีกว่าเรา....(ล้อเล่นครับ)
    .
    .
    .
    .
    นั่นมัน........เพื่อน ๆ ของบูมนิ ตาฝาดหรือเปล่าเนี่ย...ผมเลยหรี่ตาเพ่งดูอีกที พร้อมกับสะกิดกายให้ช่วยดูด้วย

    “เออ ใช่ว่ะ นั่นไง ปิ๊ก แต่ไม่ยักกะเห็น....”กายหยุดคำพูดแค่นั้น แต่มันก็เพียงพอที่จะช่วยทำให้ผมมั่นใจยิ่งขึ้น

    เฮ้อ....เอาละสิครับงานนี้ จะหนีก็หนีไม่ได้เพราะว่ามันเป็นเกาะ จะไปพักที่หาดอื่นก็ไม่ทันแล้ว มันเย็นแล้วด้วยอ่ะ...

     แต่ก็ยังพอโล่งอกไปได้ ที่ผมยังไม่ได้เจอคนที่ผมพยายามหลบหน้ามาตลอดระยะเวลาหนึ่งปี หรือว่าเค้าคงจะไม่มามั้ง

    ถ้ามาก็คงจะเห็นไปแล้ว ผมคิดและยิ้มออกมาอย่างโล่งอก แล้วผมก็ตัดสินใจรีบชวนกายเดินกลับเข้าไปหาเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่ตอนนี้กำลังรออยู่บนโต๊ะอาหารแล้วหน้ารีสอร์ทแล้ว

    “กินอะไรดีอ่ะ หิวแล้ว”ไอ้กายถามขึ้น

    “อยากกิน หมูป่าผัดเผ็ดว่ะ”ไอ้โบเสนอ

    “นี่จะบ้าหรอแก พวกเรามาเที่ยวเกาะในทะเลนะ ไม่ใช่ไปแคมป์เดินป่า ชักจะเพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว เวลาขึ้นเขาก็อยากจะกินแต่อาหารทะเล เวลามาทะเลดันอยากมากินหมูป่า”

     ออฟแขวะจนพวกผมหัวเราะออกมา ซึ่งมันก็จริง ๆ อ่ะครับที่ไอ้โบมันชอบกินอะไรไม่เหมาะสมกับบรรยากาศเอาซะเลย

    “เออๆ ๆ ไม่กินก็ได้ งั้นแกสั่งเลยออฟ”ไอ้โบทำท่างอนนิด ๆ

    “อ่ะ อ่ะ อ่ะ พี่คะมีหมูป่ามั๊ยคะ เพื่อนหนูเค้าอยากทานน่ะค่ะ พี่ช่วยพามันไปล่าหมูป่าที่กลางทะเลทีคะ”ออฟแกล้งถามขำๆกับพนักงานเสิร์ฟ

    “ไม่มีครับ”พนักงานเสิร์ฟยิ้ม ทำให้พวกผมอดขำตามไม่ได้

    “งั้นเอา ปลาราดพริก.....”ออฟจัดการสั่งอาหารเพราะออฟจะรู้ดีว่าพวกผมชอบกินอะไร

    “เออนิ โย เดี๋ยวกินเสร็จฉันมีเรื่องอะไรจะบอกแกนะ”ออฟพูดกับผมแล้วหันไปพยักหน้ากับไอ้โบเป็นเชิงรู้กันสองคน

    “มีอะไรก็บอกตอนนี้เลยก็ได้ ไม่เห็นต้องรอเลย”ผมตอบกลับไปอย่าง งง ๆ

    “เออ น่า ไว้ค่อยบอก”

    “ตามใจ ลีลาเยอะนะ”ผมแกล้งแขวะออฟเพราะวันนี้ออฟกับโบชอบทำอะไรมีพิรุธอยู่เรื่อย ๆ

    หลังจากที่เราจัดการกับอาหารมื้อแรกบนเกาะเรียบร้อยแล้ว ผมก็ถามออฟถึงเรื่องที่ยังคุยค้างอยู่เมื่อสักครู่

    “นี่ตกลงจะบอกได้หรือยังว่า มีอะไรจะบอก อย่าบอกนะว่าจะให้เลี้ยงน่ะ”ผมแกล้งแซวออฟ

    “ถ้าฉันบอกแล้วอย่างกับแกจะเลี้ยง….เรื่องที่ฉันจะบอกน่ะ เมื่อกี้ตอนเช็คอิน ฉันกับไอ้โบเห็นโจทก์เก่าแกเดินออกมาจากห้องน้ำว่ะ”ออฟพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

    “โจทก์เก่าไหนอีกล่ะ เราไปเป็นจำเลยตั้งแต่เมื่อไหร่”ผมพยายามคิดไปในทางที่ดีว่าคงจะไม่ใช่......

    “ก็จำเลยรักไง จำมาโจทก์ไหนอีกล่ะ นั่นเดินมาโน้นแล้ว ตายยากตายเย็นจริง ๆ.........”ออฟแอบยิ้มพลางทำหยุกหยิก ๆ กับไอ้โบพร้อม ๆ กับชี้ให้ผมมองไปดูด้านหลัง

      ทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่ได้หันไปมองตามคำบอก แต่ผมก็กลับเสียวสันหลังวาบ ๆ ยังไงก็ไม่รู้......และแล้วสิ่งที่ผมไม่อยากจะให้เกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้นจนได้

       ผมหันหลังกลับไปเป็นเวลาที่เค้าคนนั้นเดินเข้ามาบริเวณร้านอาหารพอดี ทำให้สายตาของผมประสานกับสายตาของบูมพอดี.........

    ผมกับบูมยังคงจ้องกันอยู่ น่าจะสักครู่เห็นจะได้ จนพวกเพื่อน ๆ ผมสะกิด เพราะเห็นเพื่อน ๆ ของบูมยิ้มให้ผม ผมเลยรู้สึกตัวแล้วยิ้มตอบกลับไป

    “เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น” ไอ้ออฟตัวดีร้องออกมาได้ จนผมต้องหันกลับไปทำตาดุใส

    ่ ระหว่างที่ผมกำลังจ้องจะเล่นงานเพื่อนตัวดีของผมก็มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาทางด้านหลังผมพอดี

    “มาเที่ยวหรอโย ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะเจอกันที่นี่ โลกกลมจริง ๆ”ปิ๊กเดินเข้ามาทักทายพวกผม ส่วนบูมหันกลับไปนั่งโดยนั่งหันหลังให้กับโต๊ะผม

    “อืมมม....พอดีโบมันอยากมาเกาะน่ะ แล้วพวกปิ๊กมาได้ไงอ่ะ”ผมยิ้มให้แล้วถามกลับไป

    “อ๋อ พอดีสอบเสร็จ ก็เลยอยากพักผ่อนสมองกันน่ะ เครียด ๆ เลยนัดกันมานี่ แล้วโยจะมาอยู่กี่วัน เราเพิ่งจะมาถึงวันนี้เอง”ปิ๊กยิ้มตอบ

    “ก็คงจะสัก สามวันสองคืนนะ แล้วพวกปิ๊กล่ะ”ผมถามปิ๊กกลับไปแต่สายตาผมน่ะเหรอแอบมองบูมตลอดเลยอ่ะครับ

    “จริงดิ งั้นตอนขากลับ พวกเรากลับพร้อมกันเลยนะ เราก็คิดว่าจะมาพักสักสองคืนพอดี”

    “เฮ้ยไอ้ปิ๊กจะกินอะไรวะ”เสียงเพื่อนคนนึงในกลุ่มดังแทรกขึ้น

    “เออๆๆ เดี๋ยวกูไป งั้นเดี๋ยวเราไปเข้ากลุ่มก่อนนะ แล้วค่อยคุยกัน”ปิ๊กโบกมือลาแล้วเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง

    “เฮ้ย กลับห้องเหอะ เราว่าบรรยากาศไม่ค่อยจะดีแล้วล่ะ”ไอ้กายรีบชวนพวกผมกลับ (ช่างรู้ใจจริง ๆ)

    “เออ ชั้นก็ว่าอย่างงั้นแหละ ใช่ป่ะโย”ออฟหันมาพูดกับผม พร้อม ๆ กับหันกลับไปทำท่าแปลก ๆ กับไอ้โบ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร


    ผมลุกออกจากโต๊ะอาหารไปทักทายเพื่อน ๆ ของบูมนิดหน่อย ก่อนที่จะขอตัวกลับห้อง เพราะผมก็รู้จักเพื่อน ๆ ในกลุ่มบูมพอสมควร

    แต่ผมเองก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับบูมเป็นพิเศษ ได้แต่ยิ้มให้ ที่จริงแล้วผมไม่อยากที่จะเดินเข้าไปทักทายอะไรหรอกครับ

    เพราะผมไม่อยากที่จะไปเผชิญหน้ากับคนที่ผมคอยหลบหน้าตลอดเวลาคนนั้น ถ้าไม่ติดที่ผมเองก็รู้จักพวกเพื่อน ๆ ของบูมด้วย

    ผมคงจะรีบเดินหนีขึ้นห้องไปแล้ว ทำไมคนเรายิ่งหนีก็ยิ่งเจอนะ กลุ้มใจจริง ๆ....

    หลังจากที่ผมขอตัวกลับห้อง พวกเพื่อน ๆ ผมที่เดินกลับไปที่ห้องก่อนแล้ว ต่างก็จ้องมองผมอย่างสงสัย

    ผมคิดว่า พวกเค้าคงไม่กล้าที่จะถามอะไรเกี่ยวกับบูมหรอกครับ เพราะผมรู้ดีว่าพวกมันกลัวว่าจะมาสะกิดแผลในใจผมมั้ง

    ดีนะที่พวกมันไม่รู้ว่าผมกับบูมเคยกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ไม่งั้นมีหวังเรื่องยาวแน่ๆ

    สรุปว่าคืนนั้นพวกผมเลยไม่มีกิจกรรมอะไรข้างนอกเลย เอาแต่ชวนกันเล่นไพ่ในห้องเพราะผมกลัวว่า ผมจะต้องไปเจอกับบูมเข้าอีก เลยต้องมานั่งเล่นไพ่กันแทน......

    เช้าวันใหม่ ผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนกว่าพวกผมจะนอนก็ปาเข้าไปตีสองกว่า ๆ เพราะมัวแต่จั่วไพ่กันอย่างเมามันส์

      ปกติแล้วถ้าผมไปทะเล ผมจะต้องตื่นขึ้นมาคนแรกเสมอๆ เพราะผมชอบไปนั่งดูและถ่ายรูปเวลาพระอาทิตย์ขึ้นทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน

     ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและหยิบกล้องไปหาที่นั่งริมชายหาดเพื่อรอเก็บภาพเอาไว้ ส่วนพวกเพื่อน ๆ ผม ก็ยังคงนอนกรนกันต่อไป เฮ้อออ แล้วมันจะมาทะเลทำไมกันเนี่ย....

    เสียงคลื่นกระทบชายหาด กับท้องฟ้าที่ยังคงมืดครึ้ม อากาศที่ค่อนข้างเย็น พร้อม ๆ กับลมที่พัดโบกเข้ามาจนผมต้องลูบแขนไปมาด้วยความหนาว

    ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอเวลาที่แสงสีทองแสงแรกของวันนี้จะปรากฏขึ้นมาพร้อมๆ กับเจ้าลูกไฟดวงใหญ่ที่นำความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวามามอบให้โลกใบนี้

    “นั่งด้วยคนได้ไหม”เสียงชายหนุ่มคนนึงที่แสนจะคุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านข้างของผม พร้อม ๆ กับร่างของชายหนุ่มที่ค่อย ๆ หย่อนลงมานั่งข้างกายผม

    จบตอนที่ 2/1แล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม

    ***********************************************************



meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ . . . เอาอีกแล้ว

ชอบมาหยุดเอาตอนที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มทุกทีเลย

บีบใจคนอ่าน ตลอดเลยอ่ะ :serius2:




มาต่อไวๆนะครับ :yeb:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
สาธุ...............ขอหั้ยเป็นบูมทีเหอะ :angellaugh2:

คนรักกันมันลืมกันหรือโกรธกันไม่ลงหรอกเนอะ.... :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
บูมแน่นอน มั่นใจสุด ๆ  :monkeylove2:
 :kikkik:  :kikkik:

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
บูมแง่ม ๆ ...  :interest:
กลับมาคืนดีกานเตอะ ฮิฮิ...

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :serius2: :serius2: :serius2:

(ลุ้นคับลุ้น  :haun5:)

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ชื่อเรื่องมันบอกแล้วป่าว  คำว่ารักแท้แม้เวลาไม่อาจพรากอะ  :angellaugh2:

สาธุ  กลับมาคืนดีกันเตอะ  ภาคที่แล้วไม่ได้ใจเรยย  ขอภาคนี้ดีกันหน่อยนา  รอฉากหวีตอยู่

รอลุ้นต่อค๊าบบบ  เป็นกำลังใจให้คนโพสด้วยน้า  :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 2/2"

    “นั่งด้วยคนได้ไหม”เสียงชายหนุ่มคนนึงที่แสนจะคุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านข้างผมพร้อม ๆ กับร่างของชายหนุ่มที่ค่อย ๆ หย่อนลงข้างกายผม

    “.........................”ผมหันหน้าไปหาเจ้าของเสียงที่คุ้นเคยนี้ ทันทีที่ผมแน่ใจว่าคนๆนั้นคือใครผมก็ทำท่าจะลุกหนีไป

    “ทำไมโยต้องหนีเราด้วย...เรามันน่ารังเกียจมากนักเหรอ...ทำไมเวลาเจอเราชอบทำเหมือนกับเราไม่มีตัวตน เราไม่เข้าใจเลยอ่ะโย....

     เรารู้นะว่าที่โยทำไปทั้งหมดเพราะอะไร” ชายหนุ่มรั้งตัวผมไว้ด้วยท่อนแขนที่แข็งแรง

    “ก็ถ้าบูมรู้และเข้าใจเรื่องทั้งหมดดี ก็ปล่อยเราซะทีสิ เราจบกันแล้วนะบูม”ผมพยายามหนีจากร่างช่างหนุ่มตรงหน้าเพราะไม่อยากให้เค้ารู้ว่าผมต้องแอบซ่อนน้ำตาแห่งความปวดร้าวเอาไว้

    “โยเลิกบ้าซะทีได้ไหม เราขอร้อง” บูมพูดด้วยสายตาวิงวอน

    “เราว่าเราพูดกันเข้าใจแล้วนะว่า เราสองคนจบกันไปแล้ว...อีกอย่างเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วเราไม่อยากไปเอ่ยถึงมันอีก”ผมพยายามข่มความรู้สึกเอาไว้

    “โยแน่ใจหรือเปล่าที่พูดแบบนั้น ลองถามใจตัวเองก่อนเถอะว่ามันคิดยังไง”บูมพยายามคาดคั้น

    “เราแน่ใจ พอใจไหม”ผมพูดแล้วพยายามจะเดินหนีไปอีก แต่บูมก็ยังคงรั้งผมเอาไว้ จะเอาไงเนี่ย

    “ผู้ร้ายปากแข็ง แล้วการที่โยทำตัวเป็นนินจา มาเรียนบ้างไม่มาเรียนบ้างนี่หมายความว่ายังไง อย่ามาโกหกเลยว่าไปทำธุระที่บ้านเราสืบมาหมดแล้ว”ตอนนี้ดูท่าบูมจะถือไพ่เหนือกว่าซะแล้ว

    “ก็.............เรา ช่างเหอะ จะไปสนใจทำไม”ผมเถียงไม่ออก

    “เราขอร้อง โยทรมานเรามาปีนึงยังไม่พอใช่ไหม หรือว่าโยตั้งใจจะทรมานเราไปทั้งชาติ เรามันเลวมากเลยใช่ไหม หรือว่าเรายังรักโยไม่พอ ทำไมโยต้องทำแบบนี้กับเรา”

     บูมพูดพร้อม ๆ กับระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเหลืออด

    “ไม่ใช่บูมหรอก เราเองที่เป็นคนผิด เราขอโทษ แต่ยังไงเราว่า สิ่งที่เราตัดสินใจไปแล้ว มันดีกับทุกฝ่ายนะ เราขอร้อง

    บูมอย่าทำแบบนี้เลย ปล่อยให้เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปเถอะนะ”ผมหันกลับมาพูดกับบูมพร้อมรอยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด

    “ไม่เราจะไม่ยอมให้เรื่องมันจบแค่นี้หรอก.....โย.....ฟังเรานะ โยเลิกแคร์คนอื่นได้หรือยัง เราคบกันเพราะว่าเราสองคนรักกัน แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับคนอื่น

     อย่าไปสนใจคนรอบข้างสิ วันไหนที่เราเจ็บปวด คนรอบข้างก็ไม่ได้มารู้สึกเจ็บปวดกับเราด้วยหรอกนะ เข้าใจไหม

     ส่วนเรื่องแม่เรา เราจะจัดการเอง เราขออย่างเดียว อย่าไปจากเราอีกเลยนะ เราขอร้อง”บูมร้องไห้และกอดผมเอาไว้แน่น

    “บูมรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ใครเป็นคนบอก”ผมเอะใจที่บูมรู้เรื่องนี้ได้ยังไงเพราะเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างผมกับแม่ของบูม เอ หรือว่า ปอนด์เป็นคนบอก แต่ก็ไม่น่านะ

    “โยคิดว่าเราโง่หรอ เรารู้ตั้งนานแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ทีแรกเราก็เกือบจะเชื่อนะ แต่พอดีป้าเล็ก (แม่บ้าน) บอกว่าโยโทรไปขอเบอร์แม่ของเรากับป้าเล็ก เราเอะใจเลยตามสืบ”

     โอ้โห ก็อย่างที่บอก ทิ้งร่องรอยไว้ไม่ได้เลยนะเนี่ย บูมนี่ร้ายไม่ใช่ย่อย

    “สืบแล้วได้ความว่าไง”ผมถามต่อไปอย่างอยากรู้

    “ก็รู้หมดเลยไงว่าอะไรเป็นอะไร แล้วเราก็โทรไปถามไอ้พี่วิทย์มาด้วย ตอนใกล้ ๆ จะเปิดเทอม (มิน่าล่ะพี่วิทย์หายไปเลยนะ) เลยรู้ความจริงทั้งหมด”บูมอธิบายเป็นฉาก ๆ

    “ในเมื่อรู้แล้ว เราว่าบูมหยุดเถอะ เราไม่อยากให้เรื่องของเรามันต้องไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างบูมกับม๊านะ”ผมพยายามเบือนหน้าหนี เพราะไม่กล้าจะพูดตรง ๆ ต่อหน้าบูม

    “เฮ้อ...... เราจะเล่าอะไรให้ฟัง ... จริง ๆ แล้วม๊าก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกับเรื่องแบบนี้มากมายหรอก เพราะม๊าเค้าจบมาจากเมืองนอก

     แต่ที่ม๊าเค้ากังวลก็คงจะเป็นเรื่องสังคมภายนอกที่เค้าจะมองเรากับโยแค่นั้น ก็อย่างที่โยรู้เราเคยเป็นแฟนกับอาร์ทมาก่อนม๊าเราก็รู้

    แต่เราไม่ได้ชอบอาร์ท อาร์ทเป็นฝ่ายมาชอบเราเอง ในเมื่อมันไม่ใช่ เราก็เลยขอเลิก ม๊าเค้าก็ไม่ได้มาสนใจอะไร

   แต่กับโยไม่เหมือนกัน เพราะเราไม่เคยพาใครมาค้างที่บ้านด้วย มีโยคนเดียว พอม๊ารู้เข้า เค้าก็เลยตกใจและคิดว่าเราน่าจะเอาจริง เค้าเลยกลัว ก็แค่นั้นเอง”

    “เราเข้าใจความรู้สึกของม๊าบูมนะ แม่ก็ต้องรักลูกและเป็นห่วงลูกเป็นธรรมดา เพราะอย่างงั้นเราเลยตามใจตัวเองไม่ได้ไง.......”ผมยังคงยืนกรานในความคิดผมเหมือนเดิม

    “นี่ที่เราพูดมา โยไม่เข้าใจเลยใช่ไหม ทำไมดื้อแบบนี้นะ โยรู้ไหมว่า ปิดเทอมคราวนั้นเราไม่ได้ไปฝึกงานหรอกนะ

     วัน ๆ เราเอาแต่เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ บ้านก็ไม่ค่อยกลับ จนเรากับม๊าเราทะเลาะกันไม่รู้กี่ครั้ง

     จนวันนึงป้าเล็กทนไม่ไหวเลยพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อแลกกับการที่เราจะไม่ไปเที่ยวทุกคืน เราเลยหยุด”บูมพูดกับผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง

    “เรา.......เราขอโทษ เราไม่น่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้บูมกับม๊าต้องทะเลาะกันเลยอ่ะ”ผมพูดด้วยความรู้สึกที่เสียใจจริง ๆ

    “ไม่ได้เป็นเพราะโยหรอก อย่าคิดมาก เอาเป็นว่า ไม่ว่าใครจะมองเรายังไงเราก็ไม่สนใจ ขอแค่มีโยอยู่ข้าง ๆ เราไปตลอดก็พอแล้ว”บูมพูดพร้อม ๆ กับโอบผมเอาไว้

    “...........................................................”ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ราวกับว่าความรู้สึกผมโหยหาสิ่งนี้มาตลอดหนึ่งปีเต็ม หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่หัวใจผมต้องการ และเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ

    “ได้ไหม ขอแค่มีโยอยู่ข้าง ๆ เราแบบนี้ เราก็มีความสุขแล้ว”บูมกระซิบที่ข้างหูผมพร้อม ๆ กับกระชับอ้อมกอดผมเอาไว้

    จบตอนที่ 2/2 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

    *******************************************************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
“ได้ไหม ขอแค่มีโยอยู่ข้าง ๆ เราแบบนี้ เราก็มีความสุขแล้ว”

บางทีขอแค่มีเธออยู่ตรงนี้...แม้จะไม่ได้รับรักตอบ...มันก็มีความสุข :impress:

แต่โยต้องรักตอบสิเนอะ...จะได้สมหวัง.... :laugh: :laugh:


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
รักแท้แม้เวลามิอาจพราก   :impress3:  :impress3:

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
 :like2: :like2:  โยจายอ่อนสะทีน๊า ๆ 

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 2/3"
[/b]

    “ได้ไหม ขอแค่มีโยอยู่ข้าง ๆ เราแบบนี้ เราก็มีความสุขแล้ว”บูมกระซิบที่ข้างหูผมพร้อม ๆ กับกระชับอ้อมกอดผมเอาไว้

    “นั่นไงพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว”ผมแกล้งไม่ตอบแต่กลับเปลี่ยนเรื่องพูดแล้วลุกขึ้นไปจะถ่ายรูป

    “เอ้ยจะไปไหน....โยยังไม่ได้ตอบเราเลยนะ อย่าขี้โกงดิ”บูมรั้งผมเอาไว้

    “เดี๋ยวก่อนได้ป่ะเราจะถ่ายรูป เดี๋ยวพลาดโอกาสสำคัญ”ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของชายหนุ่ม

    “ตอบมาก่อนดิเดี๋ยวเราค่อยให้ถ่าย เราถ่ายรูปให้ก็ได้”บูมยังคงรั้งผมไว้แน่นด้วยกำลังแขนทั้งสองข้าง

    “ไม่เอา บูมมาถ่ายรูปกันก่อนเถอะ นะ นะ นะ มาถ่ายรูปกัน”ผมอ้อนเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ขึ้น

    “ไม่ให้ถ่าย เอามานี่เลย เราจะไม่คืนจนกว่าโยจะยอมตอบเราก่อนว่าได้ไหม”บูมแย่งกล้องออกไปจากมือผม

    “อะไรอ่ะ ขี้โกงนิ ส่งมาซะดีๆ อย่าให้มีน้ำโหนะ”ผมทำหน้าดุใส่แต่บูมกลับไม่สนใจ

    “ก็บอกมาก่อนดิว่า ตกลงจะว่ายังไง เรื่องที่เราถามไปน่ะ”บูมเอากล้องของผมไปแอบไว้ที่ด้านหลัง

    “อือ ๆ ๆ.......เอามาได้หรือยังล่ะ เดี๋ยวแสงมันจัดไป แล้วภาพจะไม่สวย”ผมตอบกลับไปพร้อมกับแย่งกล้องกลับมา (แอบอมยิ้มนิด ๆด้วย)

    “จริง ๆ นะ... เราดีใจที่สุดเลยอ่ะ”บูมทำท่าดีใจเหมือนเด็ก ๆ พร้อมกับจับแขนผมแกว่งไปมา

    “พอได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ได้ถ่ายรูปกันพอดี”ผมดุบูมยิ้ม ๆ

    “เราแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว เมื่อไหร่จะถึงวันกลับบ้านน๊า อยากไปค้างบ้านโยอีกจัง”เฮ้อ...ดูดิครับเพิ่งจะเริ่มดีกันหน่อยเดียวทะลึ่งซะละ

    “นี่.......ไง เอาแต่คิดเรื่องลามก วัน ๆไม่สนใจอย่างอื่นเลย”ผมหันกลับไปบิดเอวบูมที่ตอนนี้กำลังโอบเอวผมอยู่จนร้องออกมาเสียงหลง

    “โอ๊ยยยยยยยย.....ยอมแล้วคร๊าบบบบ ไม่กล้าแล้วครับ”บูมเอาแต่ลูบเอวตัวเองเพราะผมบิดไปแรงเหมือนกัน ก็มันน่าหมั่นไส้ไหมล่ะ

    หลังจากที่ผมและบูมถ่ายรูปได้พอสมควรแล้ว ผมกับบูมก็เดินจูงมือกันเดินเล่นไปตามหาดทรายที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า

    จนกระทั่งแดดเริ่มจัดหน่อย ผมกับบูมก็แยกย้ายกันไปเข้ากลุ่มของตัวเอง ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง

    สายตาของเพื่อนทั้งสามคนของผม ก็เอาแต่จับจ้องมาที่ตัวผมตลอดเวลา แถมยังอมยิ้มๆ ซุบซิบ ๆ กันอีก จนผมชักจะอึดอัดทนไม่ไหว

    “มองอะไร ไม่เคยเห็นคนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือไง”ผมพูดด้วยความรู้สึกรำคาญที่พวกมันเอาแต่จ้องผม

    “คนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นมันก็เห็นบ่อยอ่ะนะ ไม่แปลกหรอก แต่ไอ้คนที่ถ่านไฟเก่ามันคุ กรุ่น ๆ ตอนพระอาทิตย์ขึ้นนี่สิแปลก...

     ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น ยิ่งเป็นคนปากแข็งด้วยแล้ว ยิ่งไม่เคยเห็นไปใหญ่...ใช่ไหม ....เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยด่วน ๆ ๆ”

     ออฟทำเสียงเข้มพร้อม ๆ กับดึงตัวผมให้ลงไปนั่งบนเตียงเพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็เล่าให้ฟังแต่ไม่ทั้งหมดเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีกับเรื่องม๊าของบูม........

    หลังจากที่ผมเล่าเรื่องจบ พวกมันก็เอาแต่แซวผมอยู่นั่นแหละ ทีแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกเขินอะไรมากมายนักหรอกครับ

    จนผมต้องมาเขินก็เพราะคำแซวของพวกมันนี่แหละ หึ ไม่ตาเราบ้างก็แล้วไป.....จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะพอดี

    “เรามาชวนไปทานข้าวเช้าน่ะ” บูมพูดชวนยิ้ม ๆ หลังจากที่ไอ้โบไปเปิดประตูให้

    “ฮิ้ววววววววววววว.....”เสียงวี๊ดวิ๊วจากเพื่อน ๆ ผมเล่นเอาผมกับบูมอายเลย จะไม่อายได้ไง บูมหน้าแดงเลยอ่ะ ไอ้เพื่อน..........

    “เดี๋ยวพวกเราจะตามไปนะ แต่เอ...ไม่เอาดีกว่า บูมมานั่งรอเป็นเพื่อนไอ้โยมันข้างในดีกว่า พวกเราอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เหลือโยคนเดียว”

    ไอ้โบตัวดีรีบดึงบูมเข้ามาข้างใน ส่วนไอ้พวกที่เหลือรู้งานจริงนะ รีบเดินออกไปรอข้างนอก

    “อย่าลืมไปส่งโยที่โต๊ะด้วยนะ ถ้าไปไม่ไหว ลุกไม่ขึ้น ก็โทรไปเรียกพวกเราได้นะ 555” เฮ้ย ๆ ๆ นี่ไอ้โบมากไปมั้ง นี่มันเช้า ๆ นะโว๊ยยยยยยย อย่าชี้โพรง.....

    “...........................”บูมได้แต่ยิ้ม อาย ๆ

    “พอเลย ๆ จะไปไหนก็ไปปะ”ผมไล่ไอ้พวกเพื่อน ๆ ตัวดีผมออกไป “เดี๋ยวเราอาบน้ำแป๊ปนึงนะ”ผมหันกลับมาพูดกับบูมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก ๆ

    “ออฟเดี๋ยวเราอาบน้ำแป๊ปนึงนะ โธ่...ทีกะเพื่อนกะฝูงพูดอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่พอพูดกับแฟนตัวเองทำเป็นเสียงอ่อนเสียงหวาน จะอ้วก”ไอ้โบแซว

    “จะออกไปดี ๆ หรือจะออกไปแบบมีน้ำตาไอ้โบ”ผมทำตาดุใส่ไอ้โบ แต่ดูเหมือนมันจะไม่กลัวผมเลยนะ เอาแต่หัวเราะแล้วเดินออกไป

    จากนั้นผมก็ขอตัวไปอาบน้ำ ส่วนบูมก็นั่งรอผมบนเตียง ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่ สักพักนึงก็มีเสียงเคาะประตูห้องน้ำ ทีแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไร

    แต่ก็กลับมีเสียงเคาะประตูอีกรอบให้ผมเปิดประตู พอตะโกนถามก็ไม่มีใครตอบ ซึ่งที่นี้ผมรู้แล้วว่าเป็นแผนของบูม เพราะเคยโดนมาแล้วเลยไม่ยอมเปิดประตูให้

    จนกระทั่งอาบน้ำเสร็จผมก็เดินออกมา ซึ่งก็เห็นใครบางคนนั่งหน้างออยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ

    “เป็นอะไรไปอีกอ่ะ หิวข้าวหรอ เราก็ว่าเราอาบน้ำไม่นานนิ”ผมแกล้งแหย่บูมเล่น ๆ ยิ้ม ๆ

    “เออ จำไว้เลย.....หึ อย่าเผลอแล้วกัน จะเล่นให้ร้องไม่ออกเลย”บูมพูดงอน ๆ

    “555…….เชื่อก็กลัวดิ”ผมยั่วกลับไป

    “จำไว้เลยนะ รอให้กลับถึงบ้านก่อน เดี๋ยวเจอดีแน่”

    “เชื่อก็กลัวอ่ะดิ 555 ไปกันเหอะ บูมไปกินข้าวกันได้แล้ว เพื่อน ๆ รออยู่”ผมดึงตัวให้บูมลุกขึ้น ซึ่งบูมก็รีบลุกขึ้นมาแอบหอมแก้มผมทีนึง แล้วรีบเดินนำหน้าผมไป ผมได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ

    จบตอนที่ 2/3 แล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

    **********************************************************************

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
มาตามอ่านด้วยคนครับ

ต่อจากคราวก่อนหรอ

งั้นก็ต้องสนุกอีกแล้วอะจิ  เย้ดีใจจัง

 :like2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gobgab

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจังเลย.....กลับมาคืนดีกันแล้วด้วย.... :angellaugh2: :angellaugh2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ กลับมาหวานกันอีกรอบแล้ว  :like6: ชอบจัง  :yeb:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
หุหุหุ ดีจัง กลับมาดีกันเหมือนเดิมแล้ว  :impress2:

รอลุ้นกันต่อไป :yeb:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ตามมาลุ้นต่อ :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 2/4"

    อาหารเช้ามื้อนี้เป็นมื้อที่ผมกินอิ่มและมีความสุขในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มเพื่อน ๆ ของผม กับกลุ่มเพื่อน ๆ ของบูมคุยกันได้ถูกคอมาก ๆ

   ทั้ง ๆ ที่ปกติเพื่อน ๆ ของผมไม่ค่อยได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มของบูมเท่าไหร่เลย แต่วันนี้กลับดูเหมือนว่าพวกเราสนิทสนมกันมานานมากๆแล้ว

   ผมกับบูมต่างก็แอบสบตาและจับมือกันตลอด แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรมากมายเพราะเพื่อน ๆ ในกลุ่มของบูมยังไม่รู้เรื่องที่ผมกับบูมคบกัน

  ช่วงเวลาที่อยู่ที่อ่าวไผ่เป็นเวลาที่ผมกับบูมมีความสุขกันมาก ทั้งเล่นน้ำ เดินผจญภัยลัดเลาะไปตามหาดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไปกันเป็นกลุ่ม

   จะมีบางครั้งเท่านั้นที่แอบหนีไปเที่ยวกันสองต่อสอง เช่น การไปเดินริมหาดในตอนเช้า ๆ กันสองคน มีแอบไปเล่นน้ำกันบ้าง แต่ก็จะไม่นานนักเพราะเดี๋ยวจะมีคนสงสัย จนกระทั่งได้เวลาเดินทางกลับบ้าน


    หลังจากที่พวกเรากลับมาถึงฝั่งแล้ว บูมกับผมก็ขอตัวแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆ โดยบูมให้เหตุผลว่า บ้านผมและบ้านของบูมอยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งมันเป็นทางผ่านที่จะไปบ้านบูมพอดี

   เค้าเลยจะพาผมไปส่งจะได้ไม่เสียเวลาวกรถไปมา ซึ่งพวกเพื่อน ๆ ผมก็เข้าใจ แต่ก็มีมาแอบแซวเล็ก ๆ ว่า ได้แฟนแล้วทิ้งเพื่อนอะไรประมาณนั้น แต่พวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไร

    ผมกับบูมนั่งคุยกันมาตลอดทางขากลับจากระยอง จนกระทั้งเรามาใกล้จะเข้าเขตกรุงเทพแล้ว ผมก็พูดในสิ่งที่ผมเป็นกังวลมาตลอดขึ้นมา

    “บูมว่า....เราจะทำยังไงกันดี ถ้าเกิดม๊าบูมรู้เรื่องของพวกเราเข้า เราว่าเรื่องมันคงจะไม่จบง่าย ๆหรอกนะ”ผมพูดด้วยสีหน้ากังวล แต่บูมเองกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร

    “รู้ก็รู้ดิ ไม่เห็นจะต้องปิดเลย ถ้าม๊าเราไม่ยอมนะ เราย้ายไปอยู่บ้านโยก็ได้ จริงป่ะ ว่าแต่ว่า แม่ของโยจะยินดีที่จะรับเราเป็นลูกเขยอ๊ะป่าว”บูมหันมาพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ แบบไม่สะทกสะท้านกับปัญหาที่จะตามมา

    “บูมอ่ะ พูดเล่นอยู่เรื่อย เราซีเรียสนะ...เอาจริง ๆ ดิ”ผมค้านขึ้นด้วยความกังวล

    “อ่ะจริง ๆ ก็ได้คร๊าบบบ....เอาเป็นว่าเราจะไปคุยกับม๊าของเราเอง ส่วนโยก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่เราเอง สบายมาก”บูมพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ

    “เออ แล้วถ้าเกิดอาร์ทไปพูดอะไรอีกล่ะ เราจะทำยังไงดี”ผมเริ่มวิตกจริตเพิ่มขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่า เรื่องที่ผมกับบูมคบกัน อาร์ทนั่นแหละที่เป็นคนคาบข่าวไปบอก

    “โยก็จัดการไปเลยสิ เราว่าโยร้ายกว่าเราอีกนะ คนนี้เรายกให้ เราไม่อยากไปยุ่งด้วยหรอก”บูมแกล้งแซวยิ้ม ๆ

    “ไม่อยากยุ่งหรือว่าตัดใจไม่ได้มากกว่ามั้ง...ถ่านไฟเก่าท่าทางจะยังไม่มอดอ่ะดิ”ผมแซวกลับไปบ้าง

    “หึงหรอ....”บูมหันหน้ามาทำท่าล้อเลียนผม

    “ใครหึง....ขับรถดี ๆ เถอะ เรายังไม่แต่งงานเลยนะ ยังไม่อยากตาย”ผมเตือนชายหนุ่ม เพราะเค้าชอบหันหน้ามาคุยกับผมเวลาขับรถ แถมยังชอบขับรถเร็วอีก

    “ใครบอกว่าเราจะแต่งด้วยล่ะ”บูมยังแซวผมไม่เลิก

    “แล้วบูมกับเราแต่งงานกันได้ซะที่ไหนเล่า เอ้ออออ”ผมส่ายหน้าช้า ๆ บูมได้แต่ยิ้ม ๆ

    “งั้นเอาเป็นว่าพวกเราแบ่งกันจัดการกับเรื่องนี้นะ เราจะพูดกับม๊าเราเอง ส่วนโยก็โน่นอาร์ทนู่นเลย”บูมพูดสรุป

    “แล้วเราจะไปจัดการอะไรกับเค้าได้ล่ะ เค้ามายุ่งกับบูมอีกหรอไง”ผมถามด้วยความสงสัยเพราะตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาผมแทบจะไม่ได้รับรู้ข่าวคราวอะไรของบูมเลย

    มีบ้างนิดหน่อยเท่านั้นที่ได้ยินมาจากคนอื่น แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งมากมาย

    “ก็มาเรื่อย ๆ นะ แต่เราไม่สนใจหรอก เราก็เลยเลี่ยง ๆ ไป ส่วนใหญ่จะให้แพทช่วยมากกว่า บางทีก็จะให้แพทมากันให้หรือไม่ก็แกล้งบอกว่ามีนัดกับแพทบ้าง” บูมพูดยิ้ม ๆ

    “แพทนี่ก็ดีเนอะ คอยช่วยเหลือบูมตลอดเลย” ผมรู้สึกดีเมื่อนึกถึงสิ่งที่หญิงสาวได้ช่วยเหลือพวกผมเอาไว้ในหลาย ๆ เรื่อง

    “ก็ใช่อ่ะดิ เราต้องขอบใจแพทนะเนี่ย ถ้าไม่ได้แพทกับเพื่อน ๆ ของโย เราก็ไม่มีทางได้โยคืนมาหรอก” บูมทำท่าตกใจที่หลุดปากพูดเรื่องสำคัญออกมา

    “ว่าไงนะ แพทเกี่ยวอะไรว่าใหม่ดิ๊ แถมยังมีพวกเพื่อน ๆ เราด้วย พวกเค้าไปเกี่ยวอะไร” ผมถามย้ำอีกครั้ง

    “เปล่าไม่มีอะไร” บูมแกล้งเฉไฉ แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะผมได้ยินชัดเจน

    “ไม่จริงหรอกบอกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นโดน” ผมหรี่ตามองบูมอย่างเยือกเย็น

    “คร๊าบ ๆ ๆ กลัวแล้วครับ แต่ถ้าบอกแล้วโยสัญญานะว่าจะไม่ว่าอะไรเราอ่ะ”

    “อืมมม....ก็ได้ ว่ามาเลย” ผมพยักหน้ารับ

    “ก็แพทเค้าช่วยเราสืบเรื่องที่โยจะมาพักผ่อนกับพวกเพื่อน ๆ หลังสอบเสร็จให้เราอ่ะ แล้วทีนี้พอเค้ารู้เรื่องก็ไปขอความร่วมมือกับโบ รวมไปถึงช่วยคิดแผนการณ์กับพวกเพื่อน ๆ โยให้ด้วย

    ไม่อย่างงั้นเราไม่มีทางไปเจอกับโยที่อ่าวไผ่หรอก แล้วโบยังบอกอีกว่าโยชอบไปถ่ายรูปตอนก่อนพระอาทิตย์ขึ้นทุกครั้งถ้าไปทะเล เราเลยตามไปเจอถูกไง พวกนี้โบเป็นคนบอกทั้งนั้นแหละ”

    บูมอธิบายแผนการทั้งหมดให้ผมฟัง

    “หึ หึ หึ ดีนะ รวมหัวกันวางแผนมาหลอกเรา”ผมหัวเราะอย่างน่ากลัว

    “ก็โยอ่ะ ชอบเอาแต่คิดถึงใจคนอื่นอยู่นั่นแหละ ไม่คิดถึงความรู้สึกของเราบ้างเลย เราเลยต้องขอให้คนอื่นช่วย แต่ก็ถือว่าคุ้มนะเพราะเราก็ได้โยกลับมา” บูมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจนิด ๆ

    “หึ หึ หึ อยากไปอ่าวไผ่หรือ ไอ้โบ.....แก ต้องไปนอนที่แคร่ไม้ไผ่แน่ ๆ....ไอ้ออฟ....ไอ้กาย......มิน่าทำไมถึงอยากไปนักอ่าวไผ่ทั้ง ๆ ที่ไปกันมาตั้งหลายรอบ เดี๋ยวเหอะเจอดีแน่”

    “โยจะไปทำอะไรพวกเค้าอ่ะ พวกเค้าอุตส่าห์ช่วยเราให้กลับมาคืนดีกันนะ” บูมพูดเพื่อเตือนสติผม แต่ก็เห็นจะไม่ได้ผล

    “ดีกันหรอ จอด ๆ ๆ ๆ จอดรถตรงนี้แป๊ปนึง” ผมชี้ไปที่ข้างทางเพื่อให้บูมจอดรถ

    “ให้เราจอดรถทำไมอ่ะ” บูมขับรถเข้ามาจอดรถที่ข้างทางแล้วหันกลับมาถามผม

    “.......โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ยยยย ไม่กล้าแล้วครับ วันหลังไม่กล้าหลอกแล้วครับ ยอมแล้ว ยอมแล้ว” บูมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะผมบิดเอวบูมอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้

    “ดี ครั้งนี้จะยกโทษให้ แต่ถ้ามีครั้งหน้าละน่าดู ไปขับรถต่อไปได้แล้ว” ผมสั่งให้บูมขับรถต่อไป หลังจากที่ผมได้ระบายอารมณ์ไปนิดๆหน่อยๆแล้ว อิอิ

    จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายนักหรอก แต่ไม่ชอบที่พวกเค้ารวมหัวกันเท่านั้นเอง

    “อูยยย เจ็บนะ ถ้าเอวหลุดไปจะทำยังไงเนี่ย ไม่กลัวเป็นหม้ายหรอ”บูมทำตัวงอเอามือลูบเอวด้วยความเจ็บปวด แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจอยากร่วมมือกันดีนัก

    “ไปได้แล้ว บิดหน่อยเดียวเอง จะเอาอีกไหม”ผมทำท่าจะบิดเอวบูมอีก

    “ครับ ๆ ๆ ขับแล้วครับ คุณชาย” บูมรีบเข้าเกียร์แล้วออกรถไปด้วยความรวดเร็ว

    “ดี วันหลังจะได้ไม่กล้า” ผมยิ้มอย่างพอใจ

    “คิดถูกคิดผิดวะเนี่ยกูที่กลับมาคืนดีกับคนซาดิสต์ ๆ แบบนี้” บูมบ่นเบา ๆ

    “อะไรนะ ใครซาดิสต์พูดใหม่ดิ๊” จริง ๆ แล้วผมก็ได้ยินนะ แต่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะสงสารบูมเหมือนกันแหละ บิดแรงไปนิด

    “เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร” บูมลนลานรีบออกรถ จนผมอดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้ ก็พี่ท่านปกติก็ขับรถเร็วอยู่แล้ว นี่ขับรถเร็วกว่าเก่าแถมยังมองผมไปมองผมมาอีกอ่ะ ไม่แกล้งแล้วดีกว่า

    หลังจากที่ผมได้ล้างแค้นบูมสมใจแล้ว ก็ต้องหันไปจัดการเจ้าพวกเพื่อน ๆ ตัวดีของผม ด้วยการส่ง message ไปให้ไอ้ตัวการ (โบ)

    “เรารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว จำเลยยอมรับสารภาพหมดเลย ระวังความลับจะถูกเปิดบ้างนะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ ไอ้โบ........”

    จากนั้นผมก็แอบหัวเราะคิ๊กคัก จนบูมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมผมต้องดีใจขนาดนั้น กะแค่ส่ง message

    ผมเลยเฉลยให้ฟังว่า ผมกำความลับของไอ้โบเอาไว้มากมาย ป่านนี้มันคงจะกระวนกระวายใจน่าดู เล่นกะใครไม่เล่น อิอิ เพราะถ้าเกิดผมต่อสายไปหาแฟนมันนิดเดียว

    ชะตากรรมสยองในรูปแบบเดิมๆที่มันเคยได้รับจะกลับมาทันที นั่นไงมันโทรมาแล้ว รับสายหน่อยดีกว่า

    “โย เราขอโทษ ยกโทษให้เราเถอะนะ เราอุตส่าห์ช่วยให้บูมกับโยคืนดีกันนะ”ไอ้โบส่งเสียงอ้อนมาเลย

    “อย่าไปเชื่อมัน ๆ วู้ ๆ ๆ”ออฟกับกายส่งเสียงอยู่ใกล้ ๆ จนไอ้โบหันกลับไปตวาด “นี่พวกแกไม่ช่วยก็เงียบ ๆ ได้ป่ะ”

    “หึ หึ หึ....ก่อนจะทำก็ไม่คิด ช่วยไม่ได้ เราโทรไปแล้ว ระวังตัวเองให้ดี ๆ เหอะ”ผมแกล้งอำมันครับ และก็ได้ผลจริง ๆ ด้วย

    “ไอ้โย ไอ้เพื่อนเลว @#$(*&^%^%$%%$” มาเป็นชุดเลยครับ แต่ผมไม่ฟังมันหรอก เอาแต่หัวเราะ จนบูมหันมาปราม

    “เออ ๆ ๆ ยังไม่โทรไปบอกหรอกน่า.......หรือว่าจะให้ต่อสายเลยไหม”ผมพูดหัวเราะ ๆ

    “อย่าเลยครับ ยอมแล้วครับ คุณโยจะเอาอะไรครับเดี๋ยวกระผมจะจัดการให้ทุกอย่างเลยครับ นะครับ นะ” ดูมันดิ เปลี่ยนโทนโคตรเร็วเลย

    “เออ ๆ ๆ ไม่เอาอะไรแล้ว แค่นี้แหละ”ผมหัวเราะแล้วก็วางสายไป

    “แกล้งคนพอหรือยังเนี่ย พวกเรายังคงมีคดีความค้างเก่ากันอยู่นะ เราก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้” เอาละสิ คดีเรื่องอะไรอีกละเนี่ย ผมหันไปจ้องบูมอย่างสงสัย

    “คดีอะไรอีกอ่ะ”ผมถามอย่าง งง ๆ

    “ก็เรื่องไอ้พี่วิทย์นะสิ ทีนี้ตาเราเอาคืนบ้างนะ....ไหนบอกว่าเป็นแฟนกันไง จำเลยก็รับสารภาพมาหมดแล้วเหมือนกัน...

    แต่ตอนนี้เรื่องนี้พักไว้ก่อน รอให้ถึงบ้านก่อน คืนนี้ค่อยชำระคดีกัน โดนแน่ๆ ห้ามบ่น ห้ามปฏิเสธ ไม่งั้นโดนอย่างหนัก”บูมทำเสียงเข้มจนผมเริ่มหวั่น

    “งั้นบูมส่งเราแค่นี้แหละนะ เดี๋ยวเรากลับเองได้ พอดีเรานึกขึ้นได้ว่ามีธุระที่ต้องไปทำก่อนกลับบ้านอ่ะ” ผมรีบหาทางหลบหนี

    “ไม่ได้ อย่ามาโมเมซะให้ยากเลย ไปด้วยกันนี่แหละ.....เดี๋ยวก็รู้ หึ หึ หึ”บูมเร่งความเร็วรถเพิ่มขึ้นจนผมเริ่มกลัว ก็พี่ท่านเหยียบซะมิดเลย อะไรกันเรื่องแค่นี้เอง แล้วพี่วิทย์ไปสารภาพทำไมนะ ผมได้แต่นึกในใจ....

    “งั้นเราขอโทษก็ได้นะ นะ หายโกรธเราหรือยังอ่ะ นะ นะ” ผมแกล้งทำเป็นใจดีสู้เสือ แล้วเอื้อมมือไปดึงแขนบูมเพื่ออ้อนขอความเห็นใจ

    “ไม่ยกโทษให้ จนกว่า........”บูมพูดแค่นั้น

    “จนกว่าอะไร......”ผมถามย้ำอีกครั้ง แต่บูมก็ไม่ตอบได้แต่นิ่งเงียบไปตลอดทาง

    ผมนั่งอึดอัดอยู่บนรถ จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าไปในบ้านผม วันนี้แม่กับพ่อของผมไม่อยู่บ้านซะด้วยเพราะต้องไปทำธุระที่เชียงใหม่ แล้วจะเลยไปเยี่ยมคุณลุงกับคุณป้าของผมด้วย

    วันนี้ผมเลยต้องแปรสภาพมาเป็น จำเลย โดยปริยาย แบบไม่มีใครมาเป็นตัวช่วยเลยอ่ะ

    “มานี่เลย....เราต้องมาสะสางคดีกัน.”บูมลากผมขึ้นไปบนห้อง

    “สะสางอะไรอีกล่ะ เราขอโทษแล้วนะ เบา ๆ หน่อย ดิ”ผมบ่นไปตลอดทาง

    สุดท้ายไม่ต้องบอกนะครับ ว่าวันนี้จะจบลงตรงไหน ต้องเดากันเอาเองแล้วกัน........อิอิ


    จบตอนที่ 2/4 ดีกว่าครับ ช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องเบา ๆ ก่อนนะครับ เพราะปัญหาต่าง ๆ มันยังมาไม่ถึงแต่ก็ใกล้จะเข้ามาเต็มทีแล้ว ขอบคุณนะครับที่ติดตาม

    ************************************************************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
เอาคืนกันด้วยวิธีนี้หรอเนี่ย........... :haun4: :haun4:

.............จาได้เอาไปใช้บ้าง....... :laugh5: :laugh5:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
เป็นวิธีการเอาคืนที่ .....  :pighaun: :pighaun:

 :pandalaugh: :pandalaugh:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ฮ่าๆๆๆ เผื่อด้วยนะ :haun4: :haun4: :laugh5:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 3/1"
[/b]
    ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าในขณะที่บูมยังคงนอนอยู่ข้าง ๆ เพราะตั้งใจจะโทรไปขอบคุณแพทสักหน่อย ที่อุตส่าห์ช่วยเหลือผมให้ปรับความเข้าใจกับบูมไว้ตั้งหลายครั้งแล้ว

    “แพทหรอ เราขอบใจมากเลยนะที่อุตส่าห์ช่วยเรา”ผมกล่าวขอบคุณหลังจากปลายสายรับแล้ว

    “ขอบใจเรา โยมาขอบใจเราเรื่องอะไรหรอ”แพทแกล้งถามหยั่งเชิงทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว (ผมคิดเอานะ)

    “เอาเป็นว่าเราขอบใจแล้วกันนะ ขอบใจในทุกๆเรื่องเลย” ผมเลยแกล้งพูดให้กำกวมเข้าไว้

    “ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันสิ แล้วบูมล่ะเป็นไง” เห็นไหมแพทพลาดจนได้

    “บูม......บูมทำไมหรอ มีอะไรหรือเปล่า เราไม่ได้เจอเค้ามาตั้งนานแล้วนะ ก็อย่างที่แพทรู้อยู่ มีอะไรหรือเปล่า เราตั้งใจจะมาขอบใจเรื่องที่แพทให้เรายืมเลคเชอร์ตอนก่อนสอบน่ะ”

     นั่น...ผมได้ทีแกล้งอำแพทกลับไป

    “อ้าวหรอ....เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไร แล้วโยไปเที่ยวมาสนุกไหม”แพทรีบกลบเกลื่อน

    “อืมม...ก็ดีนะ เขาใหญ่บรรยากาศดีมาก ๆ เลย” ผมแอบขำที่ยังคงอำแพทต่อไป แต่ไม่ให้แพทรู้

    “อ้าว โยไม่ได้ไป อ่าวไผ่หรอกเหรอ”แพทร้องด้วยความตกใจ

    “เปล่า ไม่ได้ไป....ทำไมหรอ พอดีเราเกิดไม่อยากไปเที่ยวทะเล เลยลากพวกเพื่อน ๆ เราไป camping ที่เขาใหญ่น่ะ” ผมยังคงอำต่อไป

     (ตอนนี้น้ำตาผมเริ่มจะไหลบแล้วครับ ก็มันอดหัวเราะไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องฟอร์มไว้ก่อนเดี๋ยวหลุด)

    “ตายแล้ว.........”แพทร้องด้วยความตกใจ

    “เป็นอะไรหรอ......มีอะไรหรือเปล่า แพท” ผมแกล้งถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว

    “เปล่า ๆ ๆ แล้ว ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ” แพทปฎิเสธ

    “555 เราแกล้งอำแพทเล่นน่ะ ตอนนี้เรากลับมาคบกับบูมเหมือนเดิมแล้ว ขอบใจมาก ๆ เลยนะ เราแค่อำแพทเล่นน่ะ”ผมเฉลยให้แพทฟังก่อนที่แพทจะหัวใจวายซะก่อน

    “โหหห....อำกันได้ โยอ่ะใจร้าย เราก็นึกว่าแผนที่เราอุตส่าห์วางไว้ เสียไปหมดแล้วนะเนี่ย เฮ้อออ...โล่งอก”แพทพูดอย่างโล่งใจ

    “555 ก็อยากรวมหัวกันวางแผนก่อนดีนัก เราเลยแกล้งอำกลับไง”ผมหัวเราะชอบใจ

    “อ้าว.....ถ้าไม่ทำอย่างงั้น โยก็ไม่ยอมไปเจอกับบูมที่นั่นน่ะสิ เห็นเป็นนินจา ผลุบ ๆ โผล่อยู่นั้นแหละ มหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยไป

    เวลาเราเห็นบูมเอาแต่มองหาโยแล้วเราก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ เลยพยายามหาทางช่วย” แพทพูดเสียงเศร้า

    “แหะ แหะ แหะ ยังไงก็ขอบใจนะแพท” ผมหัวเราะอย่างสำนึกผิดนิด ๆ

    “จ๊ะ แล้วบูมล่ะ ตอนนี้อยู่ไหน” แพทถามเสียงใส

    “นี่ไง นอนอุตุ อยู่ข้าง ๆเนี่ย ขี้เกียจมาก ๆเลย” ผมพูดพร้อมกับชำเลืองมองชายหนุ่มขี้เซาข้าง ๆ

    “555 จ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเราไม่กวนแล้วนะ แล้วค่อยคุยกันนะ” หญิงสาวหัวเราะและวางสายไป

    “ได้ครับ ขอบใจนะแพท”

    หลังจากที่ผมวางสายจากแพทเรียบร้อยแล้ว ผมก็หันกลับไปดูสภาพชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงแล้วได้แต่ส่ายหน้าช้า ๆ พลางเอื้อมมือไปสะกิดเบา ๆ

    “นี่บูม จะสายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว เราหิวแล้วอ่ะ”ผมสะกิดชายหนุ่ม

    “..................................”( ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก)

    “บูมตื่นได้หรือยัง เราหิวแล้วนะ ไปอาบน้ำกัน จะได้ไปหาอะไรกินกันข้างนอก” ผมเริ่มสะกิดแรงขึ้น

    “................................” ( ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก)

    “งั้นก็ได้ไม่ตื่นใช่ไหม..............นี่” มุขเดิม...ผมจัดการบิดเอวบูมแรง ๆ จนชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมา

    “โอ๊ยยยยยยย......คราวนี้เล่นแรงเลยนะ ซาดิสต์หรือเปล่าเนี่ยโยอ่ะ” บูมบ่นเบา ๆ

    “ใครกันแน่ที่ซาดิสต์ เราเรียกบูมตั้งหลายครั้งแล้วนะ บูมก็ยังไม่ยอมตื่นนิ” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียง

    “ก็คนมันเพลียอ่ะ จะรีบตื่นไปไหนตั้งแต่เช้า มา.....โยมานอนนี่ด้วยกันนะ นะ นะ นะ” บูมเอื้อมมือมาจะฉุดผมลงไปนอนด้วย

    “ไม่เอา เราหิวแล้วอ่ะ ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย” ผมพยายามฝืนเอาไว้

    “ไม่เอา..อีกแป๊ปนึงได้ไหม..เราขอนอนอีกแป๊ปนึงนะ” บูมอ้อน

    “ไม่ได้.........ตามใจแล้วกัน งั้นเราไปอาบคนเดียวก็ได้” ผมแกล้งพูดแล้วเดินออกไป แบบไม่สนใจ

    “หา....อะไรนะ......มาแล้วครับ มาแล้ว รอด้วย ๆ ๆ” บูมรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามผมมา


    หลังจากที่พวกเราอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกับบูมก็ออกไปข้างนอกเพื่อหาอะไรกินกันสองคนและจบลงด้วยการไปดูหนังที่เมเจอร์เอกมัยจนกระทั่งถึงเวลาเย็น

    บูมกับผมก็แยกย้ายกันกลับบ้านเพราะผมมีนัดกับเพื่อน ๆ ผมต่อโดยที่บูมเดินไปส่งที่รถไฟฟ้า

    ทีแรกบูมก็จะไปส่งแต่ผมไม่อยากให้เค้าย้อมไปย้อนมา อีกอย่างเค้ายังไม่ได้กลับบ้านเลย ผมเลยให้เค้ากลับไปเลย......

    ผมเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าจากเอกมัยไปได้สักระยะก็สังเกตุเห็น ชายหนุ่มท่าทางคุ้น ๆ คนนึงเดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ทันทีที่ชายหนุ่มเห็นผมนั่งอยู่ก็รีบเดินตรงเข้ามา

    “อ้าวโย มาได้ยังไงเนี่ย”ชายหนุ่มเอ่ยถาม

    “เราไปดูหนังที่เมเจอร์มา แล้วปอนด์ล่ะ ไปทำอะไรมา ทำไมวันนี้ปอนด์สีหน้าไม่ดีเลย”ผมเอ่ยทักหลังจากสังเกตุเห็นสีหน้าชายหนุ่มตรงหน้า

    “โยว่างไหม เราขอเวลาหน่อยได้ป่ะ เรามีเรื่องอยากจะคุยด้วย ได้ไหมครับ”ปอนด์พูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่วิงวอน จนผมอดที่จะสงสารชายหนุ่มไม่ได้.........

    จบตอนที่ 3/1 ขอบคุณที่ท่านที่ติดตามนะครับ

    *******************************************************

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด