อะกาลิโก..รักไร้กาล
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อะกาลิโก..รักไร้กาล  (อ่าน 64601 ครั้ง)

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
อะกาลิโก..รักไร้กาล
« เมื่อ14-05-2010 20:50:22 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





อะกาลิโก…รักไร้กาล

อะไรเอ่ย?.....มีก็เป็นทุกข์ไม่มีก็เป็นทุกข์

อะไรเอ่ย?...ยิ่งวิ่งหนียิ่งเข้าหา

อะไรเอ่ย?....ยิ่งโหยหากลับขาดแคลน





หนึ่งปี...สองปีผ่านไปแล้ว แปลว่าฤดูหนาวกำลังจะผ่านไปสองครั้งแล้วนับแต่มาที่นี่ ประเทศที่อยู่อีกซีกหนึ่งจากบ้านเกิด คิดถึงหน้าหนาวที่บ้านเหลือเกิน ท้องฟ้าสีครามไร้เมฆ ลมเย็นกำลังสบายโบกพัดพร้อมกับแสงแดดเริงแรงในทุกฤดูกาล แล้วนี่มันอะไรกัน ฝนตกในฤดูหนาว ละอองน้ำเย็นจัดนั้นยิ่งทำให้อากาศเย็นจับใจ ชายหนุ่มเจ้าของรถไพรอัสคิดก่อนจะเอารถจอดเข้าข้างทางอย่างเลือกไม่ได้ ลานจอดรถแคบๆของอพาร์ทเม้นต์ที่เขาอยู่ไม่มีที่เหลืออีกแล้ว อากาศปรวนแปรและหนาวขนาดนี้ ใครกันอยากจะออกจากบ้าน มือใหญ่ควานหาร่มจากข้างเบาะที่นั่ง ทว่าไม่พบ จึงตัดสินใจยอมลุยฝนข้ามถนนไปไขกล่องไปรษณีย์ที่ระบุ ‘Apartment P’ แล้วกวาดจดหมายที่มีอยู่ในตู้ทั้งหมดออกมาใส่กระเป๋าเสื้อโค้ต ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดต่อไป

เสียงฝีเท้าย่ำน้ำอีกคู่หนึ่งดังขึ้นที่ระเบียงชั้นสอง อพาร์ทเม้นต์ที่ช่วงกลางเปิดโล่ง เช่นนี้ไม่อาจกันฝนที่ตกแรงขึ้นกว่าเก่าได้ พื้นที่ทำจากปูนผสมกรวดเล็กๆเมื่อเจิ่งนองจึงลื่นกว่าปรกติ ชั่ววินาทีที่คนทั้งคู่สวนกันที่บันได ร่างที่กำลังกอดบางอย่างไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหนพลางวิ่งลงบันไดก็เสียหลักลื่น ทว่าโชคดีที่คนวิ่งสวนขึ้นมา คว้าแขนไว้ทัน เสียงของในอ้อมแขนนั้นตกกระแทกไปกับขั้นบันได ดังชัดท่ามกลางสายฝน เรียกให้สายตาของคนทั้งคู่มองตามจนของสิ่งนั้นนอนนิ่งบนพื้นชั้นล่าง

“Are you okay?” ชายหนุ่มผู้วิ่งสวนขึ้นมาและคว้าแขนอีกคนไว้ได้ทันถามขึ้น เรียกให้ดวงตาอีกคู่ที่เบิกกว้างด้วยความตกใจหันกลับมาก่อนจะพยักหน้าเร็วๆ งึมงำเป็นคำขอบคุณ ก่อนจะวิ่งลงไปเก็บของที่หล่นลงไปข้างล่างอย่างร้อนใจ

ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดต่อไป คราวนี้ไม่ได้เร่งร้อน เพราะตัวเปียกไปหมดเสียแล้ว เขาหยุดดูร่างที่ก้มลงเก็บห่อพลาสติกบางใสจากร้านซูเปอร์สโตร์ข้างในนั้นเป็นเท็กซ์บุ๊คเล่มหนา มือนวลๆนั้น เช็ดรอยเปื้อนบนถุงออกแล้วกอดไว้อย่างหวงแหนเช่นเดิม ก่อนจะวิ่งลงบันไดอีกชั้น เพื่อไปสู่ถนนหน้าอพาร์ทเม้นต์ เมื่อร่างนั้นลับสายตาไปแล้ว เจ้าของอพาร์ทเม้นต์พีจึงไขประตูเข้าห้อง พลางคิด อพาร์ทเม้นต์นี้มีคนเอเชียคนอื่นๆอยู่เหมือนกัน....ทว่าคนนี้ไม่เคยเห็น



ความคิดเรื่องภายนอกหยุดลงแต่ตรงนี้...พร้อมๆกันประตูห้องที่มีตัวพีสีเหลืองทองถูกปิดและลงกลอนอย่างแน่นหนา
*******

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2010 21:04:41 โดย THIP »

CaroL

  • บุคคลทั่วไป
มาคนแรก  ดีใจเว้ยๆๆๆๆๆครับๆๆๆ

มารอต่อนต่อไป น่าสนใจจังครับ

เป็นกำลังใจให้คุณเมศ :man1:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
มาคนที่สองก็ดีใจเหมือนกัน เย่ๆๆ อยากอ่านมากมาย แค่บทนำก็ชวนติดแล้ว
บวกประเดิมเรื่องใหม่ค่า

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ตอน๑

รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่สภาพไม่ค่อยน่าดูนักคันหนึ่งพุ่งฉิวไปบนถนนฟรีเวย์ฝ่าความมืดยามราตรีกาล ชายหนุ่มเจ้าของรถเอื้อมมือเปิดวิทยุทั้งที่ใจไม่ได้นึกอย่างจะฟัง ทว่าความเงียบในยามนี้ดูเกินจะรับไหวเช่นกัน รักแท้มันมีจริงนะหรือ?....สำหรับคนเพิ่งถูกทิ้งมาหมาดๆอย่างไตติลา ต่อให้คิดให้ตาย ก็ไม่ได้คำตอบ เลิกคิด....เขาบังคับตัวเอง ความรักก็แปลก ยามไม่อยากให้มาก็มา ยามอยากให้มากลับหนีหาย ไตติลายิ้มขมขื่น ในชีวิตที่ผ่านมา จะสักกี่คนที่เขาเรียกเต็มปากว่าคนรัก แล้วอย่างไร...? คนที่เขารัก ทิ้งเขาง่ายดายราวกับกระดาษชำระ หยิบเช็ดแล้วทิ้งไป สัปดาห์เดียว แค่เท่านั้น ความรักที่คิดว่าหนักหนา ระเหิดหายไร้เยื่อใย คนที่รักขาดการติดต่อ ราวอยู่คนละโลก ก่อนจะพบ...ใช่แล้วกับคนใหม่

“เลิกคิดสักที” ไตติลาพึมพำ พลางเปิดไฟเลี้ยว ออกจากฟรีเวย์ เลี้ยวเข้าถนนเงียบสงบ เพื่อเข้าบ้าน

‘บ้าน’ อพาร์ทเม้นต์เก่าแก่ ที่มีนักเรียนไทยเช่าอยู่กันเพียงสองสามห้อง ทว่าไม่วิสาสะกัน หรืออาจจะเป็นแค่ไตติลาที่เป็นมนุษย์ไม่ชอบสังคม ไตติลาลอบคิดหาคำจำกัดความให้กับชีวิตช่วงนี้ของเขา ....เหี้ยสิ้นดี... บ้านเป็นที่แห่งเดียวที่ดูจะไม่เลวร้าย เพราะเมื่อสมัยเขามาเรียนที่นี่ใหม่ๆ โชคดีที่รู้จักรุ่นพี่นักเรียนไทยที่สำเร็จการศึกษา กำลังจะกลับบ้าน จึงขายเครื่องเรือนให้ด้วยราคาถูก รวมถึงโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของห้องนี้ให้ด้วย ไตติลาแค่หาคนหารค่าเช่าบ้านด้วยก็แค่นั้น เขาเลือกคนทำงานแล้ว เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแม็กซิกันสองคน

“กลับมาแล้วหรือ? วันนี้ห้องข้างล่างขึ้นมาโวย ว่าน้ำจากห้องน้ำห้องเรารั่วลงไปข้างล่าง แจ้งเมเนเจอร์แล้ว พรุ่งนี้แลนด์ลอร์ดจะมา”ไตติลาพยักหน้ารับรู้

“ ออกไปเที่ยวหรือ?”รูมเมตสาวยิ้มรับ คืนวันเสาร์ใครๆเขาก็ออกเที่ยว

“ไม่ไปเที่ยวมั่งล่ะ?”

“ไม่ล่ะ ลอเรนไปเหอะ”ไตติลายิ้มส่ง พอร่างรูมเมตสาวหายลับหลังประตู เขายกมือลูบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน รูมเมตทุกคนรับรู้แค่ว่า เขาเป็นนักเรียน แม้การเป็นนักเรียนจะทำงานได้ แต่ชม.การทำงานของไตติลาเกินไปมากโข เขาก็เหมือนมนุษย์อื่นๆ ที่ถือสัจธรรมว่า ที่จริงแท้คือดิ้นรน แน่นอนคือ อดทน มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ไตติลา คลานขึ้นนอนบนเตียง ทั้งที่ไม่อาบน้ำ ขี้เกียจ พลางเอื้อมมือไปค้นหาสมุดเล่มเล็กที่จดตารางการทำงานและกิจกรรมทั้งหมดออกมาเปิดดู พรุ่งนี้ออกไปเสิร์ฟตอนบ่าย รอแลนด์ลอร์ดมาดูท่อน้ำก่อนน่าจะทัน ...อ้อ ก่อนออกไปต้องเอาจดหมายของผู้ชายเอเชียคนที่ใส่แว่นที่ช่วยคว้าเขาไว้ก่อนจะตกบันไดไปใส่ตู้คืนให้เขาด้วย ไตติลาคิด ก่อนจะหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความอ่อนเพลียของร่างกายและหัวใจ ทั้งที่ไฟยังเปิดสว่างกลางห้อง




แลนด์ลอร์ด และผู้จัดการอพาร์ทเมนต์จากไปได้พักใหญ่ๆแล้วตั้งแต่ช่วงสาย ไตติลาจึงพอได้มีเวลางีบหลับพักสายตาต่อบ้าง ก่อนจะตื่นพร้อมกับเสียงรูมเมตอีกสองคนคุยกันเสียงดัง เขาลุกขึ้นทำการบ้านอ่านหนังสือได้ประมาณชั่วโมงหนึ่ง จึงอาบน้ำเตรียมตัวออกจากบ้านโดยไม่ลืมคว้าจดหมายที่สภาพค่อนข้างมอมแมมจากการเปียกฝนและถูกเหยียบที่บันไดหน้าอพาร์ทเม้นต์ ติดมือมาด้วย ไตติลาอ่านพิจารณาจ่าหน้าซองอีกครั้ง ‘ Chris Bhuthapiwatta’ จึงรู้ว่าเจ้าของห้องอพาร์ทเม้นพี เป็นคนไทยเช่นกัน ไตติลายักไหล่ ก่อนจะใส่มันเข้าไปในกล่องไปรษณีย์อพาร์ทเม้นต์พี แล้วเดินตรงไปที่รถของตัวเอง เพื่อขับออกไปทำงาน



๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


ไตติลายังคงดำรงชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้เขาจะเพิ่งถูกคนที่รัก ทิ้งมาหมาดๆ เป็นการทิ้งที่น่าทุเรศที่สุด ไตติลาคิด เหมือนนึกอยากจะทิ้งก็ทิ้งไปเสียเฉยๆ ด้วยการเงียบหายไปราวไร้เงา ทำราวกับเขาเป็นสิ่งของไร้หัวใจ ชายหนุ่มพยายามบังคับเคี่ยวเข็ญตัวเองให้เลิกคิดถึงคนเลวๆอย่างนั้นเสียที ทั้งที่ภาพคืนนั้นยังติดตา คืนวันเสาร์หลังสอบเสร็จ ที่เพื่อนๆนัดกันออกไปเที่ยวตามคลับในย่านธงหลากสี เพื่อนสาวคนสนิททราบมาตลอดว่าไตติลามีสภาพทางจิตใจเป็นเช่นไร

“แน่ใจนะว่าไหว?” เพื่อนหญิงที่สนิทที่สุดของเขาถามอย่างเป็นห่วง เพราะรู้ คนที่รักของเพื่อนสนิท ห่างหายไปเสียเฉยๆ ไม่มีการติดต่อ บอกลา บอกเลิกใดๆ แค่หาย...เงียบหายไปราวหมอกควัน

“อืม เรื่องผ่านมาตั้งสัปดาห์แล้ว” ไตติลากล่าวพลางยิ้มบางราวไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร...ก็แค่รู้สึกเหมือนทำชิ้นส่วนเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ หล่นหายไป...ก็แค่นั้น

“คงไม่ใช่ตายไปแล้วหรอกนะ”ไตติลาฟังแล้วหัวเราะขัน

ผู้ชายเลวๆคนนั้นถ้าตายขึ้นมาจริงๆคงเป็นข่าวออกทีวีนั่นแหล่ะไม่น่าจะตายเงียบๆ หรอกไตติลาคิด มันจะตายได้อย่างไร ในเมื่อวันก่อนยังเห็นให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับซีรีย์ที่เขาเล่นอยู่เลย ใช่แล้ว....คนที่จะตายอย่างเงียบๆ จะเป็นใครได้อีกนอกจากตัวเขาเอง เพราะเขาเป็นแค่คนไกลบ้านเท่านั้น


ในคืนนั้นไตติลายังยิ้มได้ ดื่มไปนิดหน่อยให้พอกรึ่มๆ เห็นแสงไฟหลากสีวูบวาบผ่านสายตาไป เห็นผู้คนมากหน้าหลายตาเวียนผ่านมาแล้วผ่านไป ได้ยินเสียงดนตรีครึกโครมเร้าใจ ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความสนุกสนาน เสียงหัวเราะบันเทิงอย่างเต็มที่ ดวงตาคู่ดำขลับนั้นกวาดตาดื่มด่ำบรรยากาศรื่นเริง ทว่าร่างหนึ่งบนยกพื้นที่แม้คนในคลับจะมากเสียจนแทบจะหายใจไม่ออก เขากลับยังจำได้แม่นยำเสียยิ่งกว่าอะไร ร่างสูงนั้นเคล้าเคลียอยู่กับใครอื่นราวโลกนี้มีเพียงพวกเขาแค่สองคน ภาพนั้นทิ่มแทงนัยน์ตาไตติลาเข้าเต็มรัก ความรื่นเริงรอบตัวที่เขาพยายามซึมซับมาตลอดทั้งหัวค่ำระเหยหายไปอย่างง่ายดาย

“เฮ้ย เป็นอะไรหรือเปล่า?” เพื่อนสาวของเขาแม้จะสนุกสนานเต็มที่ แต่ก็กลับจับความผิดปรกติของเขาได้อย่างรวดเร็วหันมาจับแขนเขาไว้ ก่อนจะมองตามสายตาเพื่อน

“แม่งตายยากอีก” ไตติลาฟังแล้วก็อดยกยิ้มที่มุมปากไม่ได้ ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจ ว่ารอยยิ้มนั้น เป็นยิ้มขัน หรือยิ้มเยาะตัวเองกันแน่ ไตติลายกมือถือของตัวเองขึ้นมาดูเวลา

“อย่าเท็กซ์*นะ อย่านะ!” เพื่อนสาวร้องตะโกนแข่งกับเสียงเพลง มือนั้น ดันมือทั้งสองข้างของไตติลาที่ถือโทรศัพท์มือถือตัวเองราวพร้อมกับจะส่งข้อความออกไปได้ทุกเมื่อให้ตกลงข้างตัว

ไตติลากำลังใช้สมองที่มึนเมาของตัวเองคิด ว่าควรทำอย่างไรดี ส่งข้อความด่าหยาบๆคายๆเสียดีไหม หรือจะโทรไปกรีดเสียงร้องใส่ให้มันหูแตกตายกันไปข้าง หรือจะทำเป็นไม่เห็น ทั้งที่เห็นอยู่ตำตา หรือจะทำตัวเป็นไอ้บ้า วิ่งขึ้นไปแยกภาพบาดตานั้นเสียให้แหลกกับมือ

“เฮ้ เอาเหล้าเพิ่มหรือเปล่า?” ไตติลาตะโกนถามกลุ่มเพื่อนของตน ก่อนจะรับอาสาแยกตัวออกไปซื้อมาให้ เพื่อนสาวคนสนิทตามประกบเขาแจด้วยความเป็นห่วง รวมถึงยอมออกค่าเหล้าให้ด้วย ชายหนุ่มนิ่งมองแก้วเหล้าเย็นๆในมืออยู่ครู่หนึ่ง

“ไม่เอา ไม่ดื่มแล้ว” ไตติลาตะโกนแข่งกับเสียงเพลง ก่อนจะยัดแก้วเหล้าใส่มือเพื่อนสาวแทน แล้วสั่งน้ำเปล่าสำหรับตัวเองหนึ่งขวด

“น้ำเมาไม่ทำให้ลืม แถมผิดศีลห้าอีกต่างหาก” ไตติลาตะโกนใส่หูเพื่อนสาว ดวงตาดับขลับนั้นเริ่มมีประกายตาสดใสขึ้นอีกครั้งจนคนมองเบาใจ

“ย่ะ”เพื่อนสาวทำย่นจมูกพลางเอามือดันศีรษะเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้เต็มทน


ชายหนุ่มดื่มน้ำเย็นๆอึกใหญ่ให้ความมึนเมาจางหายไปทั้งจากร่างกายและหัวใจดวงนี้ ที่ไม่มีใครรักมันมากที่สุด เว้นเสียแต่ผู้เป็นเจ้าของ...ซึ่งไม่พ้นตัวเขาเอง เขามองขวดน้ำเปล่าในมือพลางนึกอย่างขบขัน ขอสาบานต่อน้ำเปล่าขวดนี้เลย....ว่าเกลียดนัก ไอ้พวกผู้ชายประเภทหายต๋อม ชาตินี้ชาติหน้า ขออย่าให้ได้เจออีกเลย



๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


ในวันว่างนอกจากไปยิมแล้ว ไตติลามักใช้เวลาส่วนใหญ่คลุกอยู่ในห้องนอนตัวเองภายในอพาร์ทเม้นต์เจ อ่านหนังสืออ่านเล่น เล่นเกมส์ หรือแม้แต่ดูละครไทยทางอินเตอร์เน็ต เบื่อๆก็ออกไปเดินเล่นตลาดจีนบ้าง ไทยทาวน์บ้างซื้อของสดมาลองทำกับข้าวเล็กๆน้อยๆกินเอง ทำกิจกรรมให้รู้สึกเพลินให้วันเวลาผ่านไปอย่างไม่เงียบเหงาะจนเกินไป วันนี้เขาลุกขึ้นทำกับข้าวง่ายๆสองสามอย่างเก็บใส่กล่องแช่เย็นไว้ ก่อนจะคุยกับน้องสาวผ่านทางระบบสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต แล้วนอนกลางวัน ทว่ากว่าจะตื่นก็ค่ำเสียแล้ว

“ผ้าดองไว้เต็มเลย” เขาบ่นกับตัวเอง กับกองผ้าทั้งขาวและสีที่แยกไว้เรียบร้อยแล้ว ทว่ายังไม่ผ่านการซักมาร่วมสัปดาห์ ก่อนจะเดินไปนับเหรียญควอเตอร์ออกมาจากกล่องกระดาษที่เคยใช้สำหรับใส่โฟมล้างหน้าเก่าๆ แปะรูปหมูที่ตาสองข้างเป็นสัญลักษณ์หน่วยเงินดอลล่าห์ แล้วหิ้วตะกร้าผ้าและไอพอดลงไปชั้นใต้ดินของตัวอพาร์ทเม้นต์

เสียงเครื่องซักผ้าที่กำลังทำงานเครื่องอื่นๆ ดังแทรกเสียงเพลงจากหูฟังที่ไตติลาฟังอยู่ เขาใส่เหรียญลงในช่องจนครบจำนวน ทว่าเครื่องไม่ทำงาน ...เหรียญถูกกินไปเสียแล้ว ไตติลาจึงตัดสินใจเปลี่ยนใช้เครื่องอื่น เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามา เขาจึงเหลือบตาขึ้นมา ชายหนุ่มคนที่ช่วยเขาไว้ที่บันไดนั่นเอง ชายคนนั้นกำลังก้มๆเงยๆอยู่เหนือเครื่องที่เขาเพิ่งเปลี่ยนมา

“เอ่อ...ขอโทษครับ เครื่องนั้นท่าทางจะเสีย กินเหรียญผมไปควอเตอร์หนึ่งแล้ว”ไตติลาพูดออกมาเป็นภาษาไทย ชายคนนั้น มองเขาอย่างแปลกใจครู่หนึ่ง

“เครื่องนี้ว่างครับ”ไตติลาชี้ไปที่เครื่องว่างตัวในสุด

“อ้อ คุณที่อยู่อพาร์ทเม้นต์เจ ข้างบนห้องผม” เจ้าของอพาร์ทเม้นต์เจยิ้มรับน้อยๆ พลางล้วงกระเป๋าควานหาเหรียญ จากในกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตที่สวมอยู่

“เอาของผมก่อนก็ได้ ผมหยิบมาเกิน” เจ้าของอพาร์ทเม้นต์พีเอื้อมมือมาหยอดเหรียญลงในช่องที่เหรียญขาดไปหนึ่งเหรียญ

“ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมเอาไปคืนให้”ชายหนุ่มอายุน้อยกว่ายกมือประณมไหว้ ไตติลาเห็น ริมฝีปากของชายตรงหน้ายกยิ้มจริงใจ

“ไม่ต้องหรอก ควอเตอร์เดียว”

“ควอเตอร์เดียวก็เงิน ผมไม่อยากเป็นหนี้ใคร” ไตติลาชะงักไป นิสัยเก่าๆยังไม่หาย คำพูดที่อาจจะไม่ได้คิดอะไรของใครสักคน บางทีก็บาดหูบาดใจใครอีกคนได้เช่นกัน

“เอ้า! ตามใจ เราชื่ออะไรนะ?” ชายตรงหน้าหัวเราะเบาๆราวอ่อนใจ

“ไตติลาครับ คุณคริษฐ์”ไตติลากดปุ่มให้เครื่องซักผ้าทำงานก่อนจะกล่าวลา


เมื่อไตติลาปิดประตูห้องอพาร์ทเม้นต์เจลง ‘บ้าน’ ที่ไตติลาอยู่มาหลายปี ตกอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจที่ปลายหู เขาเพิ่งตระหนักในวินาทีนี้เอง ว่า ‘ความเหงา’ ร้ายแรงเกินกว่า เกราะกำบังตนอย่าง ‘ความเข้มแข็ง’ที่เขาสั่งสมมานานปีจะทนได้ ไปตลอดกาล



๑๑๑๑๑ TBC๑๑๑๑๑



สวัสดีทุกท่านที่เเวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ เรื่องเก่าดองเพิ่งจบก็เปิดเรื่องใหม่เเล้ว  :o8:

อะกาลิโก  หลายๆคนอาจจะนึกถึงร้านเค้ก หรือบทสวดมนต์กันนะคะ ความหมายจริงๆคือ "ไม่ยึดติดกับกาล" ฟังเเล้วเพราะดีนะคะ(สำหรับเมศ)

สำหรับเรื่องยาวเรื่องนี้ เป็นการขยายผลมาจากเรื่องสั้น ๒๔ ชม. สองเรื่องคือ ใช่ว่าไม่รักกัน เเละ รักไร้กาล  ขอสารภาพว่าตอนเเรกอยากเขียนให้จบก่อนค่อยลง  เเต่มันตัน เลยอดไม่ได้ ต้องลง เพื่อความกดดัน (ซาดิสซ์นิดๆนะคะ55+)

เรื่องนี้ก็ "น่าจะ" เป็นเหมือนเรื่องยาวเรื่องอื่นๆของเมศนะคะ คือ "ไม่ยึดติดกับกาล" ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
[/color]

ปล.จะพยายามไม่ให้ดราม่ามากนะคะ  หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น

CaroL

  • บุคคลทั่วไป
ไตติลา

ไม่ยึดติดกลับเวลา

รอตอนต่อไปครับ

ดีใจจังครับคุณเมศ

สู้สู้ครับ :man1:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ชอบความหายจังเลยค่ะ

อย่าดราม่าเลยนะคะ สังคมปัจจุบันมันดร่าม่าหนักอยู่แล้ว

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ก็จะพยายามให้ดราม่าน้อยๆนะคะ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ฮาๆฮือๆ

สามารถตามอ่านเรื่องสั้น รักไร้กาลได้จากกระทู้ เรื่องสั้น ๒๔ ชม.นะคะ  เเต่ ใช่ว่าไม่รักกัน เดี๋ยวตอน๒ จะทวนให้นิดหน่อยนะคะ (สามารถเรียกได้ว่า ไม่ต้องตามกลับไปอ่านก็ได้ค่ะ เเล้วเเต่จิตศรัทธา )

เรื่องสั้น๒๔ชม.

ปล.เข้ามาปัดฝุ่นไปในตัว  :sad4:

unnoname

  • บุคคลทั่วไป
เย้ ตามมาอ่าคร่าาาาา
ชอบชื่อจัง ไตติลา แล้วจะรออ่านตอนต่อไปคร่าา
สู้ๆ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 จัดไปต้อนรับเรื่องใหม่ของคุณภานุเมศพลัง
ภาษาในการเล่าเรื่องยังคงน่าสนใจและชวนติดตาม แล้วจะรออ่านต่อน๊า
แฟนคนนี้ยังชอบเรื่องของคุณเสมอ อิอิ

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
อัพบ่อยๆให้ตายใจ  o18
(ช่องไฟทำไมใหญ่บึ้มขนาดนี้ เเต่ดูกระจายๆดี กลบเกลื่อนว่ามาเเค่ครึ่งตอน เหอๆๆๆ)

ตอน ๒.๑

  
                ฤดูหนาวเวียนมาอีกครั้งแล้ว นี่เป็นฤดูหนาวครั้งที่สองนับแต่ย้ายมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเช่นนี้    ดวงตาคมหลังกรอบแว่น มองมือของตนเองที่กุมแก้วกาแฟอุ่นๆไว้อย่างใช้ความคิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองออกไปยังโบสถ์ฝั่งตรงข้ามอพาร์ทเมนต์พี  อากาศหนาวจับหัวใจนั้นทำให้ชายหนุ่มอดคิดถึงคืนที่ยังมีใครให้ช่วยคลายหนาว  น่าเสียดายที่มันผ่านมาแล้วเนิ่นนานกว่าสองปี  คริษฐ์ลอบยิ้มกับถ้วยกาแฟในมือ เมื่อนึกถึงใครอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ไกลถึงอีกซีกโลก ก่อนจะใช้บัตรโทรทางไกลโทรที่หมายเลยปลายทาง  เขานิ่งฟังเสียงสัญญาณรอสายอยู่นาน จนเกือบจะกดตัดสายจึงมีคนรับ

  
“ครับ?” แค่เพียงได้ยินเสียง คริษฐ์จิตนาการภาพใบหน้าของคนๆนั้นได้อย่างแจ่มชัด

  
“ไง?” ยามเสียงทักทายเพียงสั้นๆ อัดแน่นด้วยความคิดถึงจนโหยหาโดยไม่รู้ตัว

  
 “คริษฐ์! แหมนึกว่าเจ้านายโทรมาทวงงาน”

  
“ยังไม่มีงานส่งอีกหรือ นี่มันจะสิ้นเดือนแล้วนา เชเอ้ย”  คนที่ปลายสาย นิทเช หัวเราะด้วยเสียงสดใส จนคนฟังอมยิ้มตามไม่ได้

  
“แน่สิ ไม่ใช่ง่ายๆนะ งานนี้”

  
“งานอะไร?”

  
“ตามกระทิง ตามมาสองสามเดือนแล้ว ยังไม่เจอสักตัว”  คนฟังหัวเราะ ด้วยงานของอีกฝ่ายเป็นช่างภาพในนิตยาสารกรอบเหลือง จึงได้รับมอบหมายงานต่าง ๆที่เจ้าตัวเห็นว่าท้าทายสมบุกสมบันผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกของเจ้าตัวนัก

  
“แล้วช่วงนี้นอกจากตามกระทิงแล้วทำอะไรอีก?”

  
“ก็เรื่อยๆ .....คริษฐ์ล่ะ” น้ำเสียงที่ตอบมานั้นแผ่วเบาลง

  
“ก็ทำงาน หยุดก็นอนเอาแรง” นิทเชตอบรับแผ่วเบา

  
“ลองมองหาใครสักคนก็น่าจะดีนะ”

  
“นั่นสิ ก็พยายามอยู่นะ  แต่ก็ยัง…”คริษฐ์ยิ้มขื่นๆให้ตัวเอง   ความเงียบโรยตัวบางเบาระหว่างคนสองคนที่ห่างกันอีกซีกโลก คริษฐ์ไม่แน่ใจ ว่าความอึดอัดที่บางเบานี้มาจากสาเหตุไหน

  
“อืม คริษฐ์ เชวางก่อนนะ กำลังจะขับรถไปทำงาน” ชายหนุ่มกระแอม เรียกเสียงของตนกลับมา

  
“อ้อ ขับรถดีๆล่ะ”

  
“วางนะ”

  
“เดี๋ยว...” ที่ปลายสายส่งเสียงคล้ายจะถาม  คริษฐ์อับจนด้วยคำพูดใดๆ  ไม่ใช่เพราะไม่มีสิ่งใดจะบอก แต่บอกออกไปไม่ได้ต่างหาก

  
“ไม่มีอะไร ทำงานให้สนุกล่ะ” ชายหนุ่มกล่าว ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

  
            คริษฐ์จุดยิ้มที่มุมปาก คนเราก็แปลก ทั้งที่ไม่ใช่คนรักของกันและกันอีกแล้ว ทว่าใครคนนั้น ก็ยังคงเป็น คนที่รักของใครอีกคนเสมอๆ ชายหนุ่มทอดกายลงเอนอิงเบาะนิ่ม ละเลียดชิมรสชาติความห่วงหาของตนเองในความเงียบ  หวาน....ทว่าขมปร่าที่ปลายลิ้น

  
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒



ท่ามกลางสายลมปลายฝนต้นหนาว ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่เสียดสีกันราวส่งเสียงกระซิบถ้อยความต่อกันบ้างร่วงโรยตามลมพัด บ้างคงอยู่ กบส่งเสียงร้องต่ำสูงอยู่เพียงไกลๆ เจ้าของบ้านสองคนกำลังช่วยกันเก็บของใช้ส่วนหนึ่งบรรจุใส่ลังกระดาษ หนังสือเล่มใหญ่ตั้งหนึ่งถูกมือนวลบางค่อยวางเรียงลงในลังอย่างเป็นระเบียบก่อนจะผนึกลังด้วยเทปกาวให้แน่นหนา

“ลังนี้หนักมาก ไม่รู้จะแตกหรือเปล่า”

“เขียนไว้ดีกว่าว่าหนังสือหนัก เวลาขนจะได้ไม่วุ่น”  คริษฐ์กล่าว พลางคว้าปากกาเมจิกเขียนข้อความลงบนฝาลัง

“คริษฐ์นี่เขียนหนังสือไม่มีหัวเลย”

“ทำอย่างกับตัวเองเขียนแล้วมี” คนฟังฟังแล้วหัวเราะก่อนจะเถียง มีสิ ก่อนจะคว้าปากกามาลองเขียนบนฝากล่องบ้าง

“เห็นไหมมีแล้ว”

“มัวเล่นอยู่ รีบเก็บของเถอะ เชจะได้รีบนอน พรุ่งนี้ประชุมเช้าไม่ใช่หรือ?” คนรับฟังทอดมองด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ


                จะมีใครเชื่อไหมว่า ‘เรา’ กำลังจะเลิกกัน ไม่ใช่สิ เราเลิกกันแล้ว คริษฐ์แค่แวะมาเก็บของก่อนจะจากไป ออกจากชีวิตของใครอีกคนไป...อาจเป็นตลอดกาล จะมีใครเชื่อไหมว่า เราคบกันเจ็ดปีเต็ม โดยไม่เคยทะเลาะกันสักครั้ง ตามใจกันทุกเรื่อง รู้ใจกันทุกอย่าง ไม่มีใครเชื่อหรอก..... แม้เพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดของทั้งนิทเชและคริษฐ์ต่างหาว่าเราทั้งคู่โกหก

“ไม่ได้โกหก” นิทเชยืนยันกับเพื่อนสนิท ทั้งที่ข้างกายเขาคริษฐ์ก็นั่งอยู่ตรงนั้น

“ทำไมแกโง่อย่างนี้วะ คริษฐ์เขาดีกับแกทุกอย่างเลยนะเว้ย ไม่เคยทะเลาะกันสักหนเลยไม่ใช่หรือ ตามใจแกทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าคริษฐ์เขาด้อยที่ตรงไหนเลยนะ การศึกษา หน้าตา ความก้าวหน้า เขาเหมาะสมกับแกทุกอย่างเลยนะ”

“ทำไมนะหรือ?” คนทั้งคู่ต่างหันไปสบสายตากันโดยไม่ต้องนัดหมาย และสิ่งที่เราไม่ได้นัดหมายกันในใจอีกอย่างคือ  ทำไมเราต้องเลิกกัน?

เพราะเราไม่เข้าใจกันหรือ? เห็นจะไม่ใช่ เพราะเราพบรักใหม่หรือ? ก็ยังไม่พบ เพราะเรา ทนนิสัยแย่ๆของอีกฝ่ายไม่ได้? ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ......หรือเพราะเราไม่เคยทะเลาะกัน??

“วันเสาร์นี้ไปงานวันเกิดด้วยกันไหม?” คริษฐ์ถามด้วยเสียงนั้นถามขึ้นเมื่อเราอยู่ด้วยกัน..คำชักชวนเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

“วันเกิดใครล่ะ?”คำตอบที่ได้รับทำให้นิทเชถึงกับต้องนิ่งคิด วันเกิดแฟนเก่า เอาแฟนคนปัจจุบันไปร่วมงานด้วย จะดีหรือ?

“คริษฐ์ไปเถอะ”

“เชไม่ไปแล้วคริษฐ์จะไปทำไม?”

“ก็เขา...เพื่อนคริษฐ์”

“เชไม่ไป ก็ไม่รู้จะคุยกับใคร” นิทเชร้องอ้าว สุดท้ายแล้ว ‘เรา’ ก็ไม่ได้ไป เพียงแต่ส่งการ์ดที่ช่วยกันเลือกไปให้เท่านั้น


ทำไมเราต้องเลิกกัน? หรือเพราะเรารักกันน้อยเกินไป ท่าทางจะไม่ใช่ หรือเพราะเราไม่เอาใจใส่กัน ก็เปล่าเลย หรือเพราะเราใกล้กันมากเกินไป จนต่างอึดอัด ก็อาจจะไม่ใช่อีก เพราะเราต่างเป็นส่วนหนึ่งของอีกคนต่างหาก

“มายืนตรงนี้เร็ว” นิทเชร้องสั่งอย่างขบขัน ก่อนจะจูงมือคนตัวโตกว่ามายืนข้างสิงห์ไม้หน้าบ้าน สัมผัสผิวกายจากมืออุ่นๆคู่นั้น คริษฐ์ยังจำได้เต็มหัวใจ

“ทำไมต้องถ่ายกับสิงห์หน้าบ้านด้วย”

“หรือจะถ่ายกับปลาคาร์ฟในบ่อ เชก็ไม่ว่านะ” นิชเชพูดพลางจัดทรงผมคริษฐ์ให้เข้าที่ ก่อนจะจัดการกับกล้องถ่ายภาพคู่ใจ

“หล่อแล้ว” คนฟังยิ้มเขินเมื่อได้ฟัง

“หล่อเชยๆ”

“รู้ไหม คริษฐ์ไม่เคยชอบการถูกถ่ายภาพเลย” คนหลังกล้องลดกล้องลง

“ถ้าไม่อยากถ่าย เชเลิกก็ได้”

“ถ่ายเถอะ” คริษฐ์ยิ้ม รับฟังเสียงชัตเตอร์ที่ดังขึ้น....ครั้งแรก...และเพียงครั้งเดียว

“พอดีกว่า รูปเดียวก็พอแล้ว”นิทเชพูดก่อนจะเก็บกล้องตัวโปรด

TBC ๒.๒
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2010 23:25:56 โดย ภาณุเมศพลัง »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Ramika

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาติดตาม และหลอกหลอน

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :o12: นึกย้อนตามที่ เมศ เขียนตอนนั้นที่อ่านก็ซึมๆ
พอมาอ่านเรื่องของ เช กับ คริษฐ์ ใหม่
มันเกิดความรู้สึกแปล๊บๆในอก แอบอินเล็กน้อย
ตอนแรกก็ว่าทำไมชื่อคุ้นๆปรากฎว่าใช้ตัวละครเดิม
มาดำเนินเรื่องราวใหม่ให้กลมกลืนกัน
รู้สึกแปลกๆกับคำว่า :“ลองมองหาใครสักคนก็น่าจะดีนะ” :
มันแบบฟังแล้วเต็มกลืนไม่รู้จะำูพูดอะไร สุดท้ายสั้นจังเธอ555+
บอกเลยไม่ตายใจหรอก อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2010 15:46:14 โดย [N]€ẃÿ{k}uñĢ »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
+ ให้ "ใคร" สักคนที่คริษฐ์ตามหาละกันค่ะ

CaroL

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]อะกาลิโก..รักไ
«ตอบ #13 เมื่อ19-05-2010 09:47:20 »

ใช่ว่าไม่รักกัน

ตอนแรกที่อ่านเรื่องนี้ในเรื่องสั้น ๒๔ชม.
ผมนึกอยากให้เป็นมากกว่าเรื่องสั้น เรื่องของสนคนนี้น่าสนใจ

ดีใจมากเลยที่คุณเมศเขียนเรื่องราวของสองคนนี้

ชอบ ชื่อนี้จังครับ นิทเช เพราะจังครับ มีความหมายว่ะไรนะ

เป็นกำลังใจให้ครับ :man1:

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
นิทเช (Nietzsche) สะกดยากขนาดนี้ ไม่ใช่ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษเลยค่ะ  เป็นชื่อของนักปรัชญาเยอรมัน เมื่อสมัย ประมาณร้อยกว่าปีที่เเล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความหมาย(หรืออาจจะมีเเต่ไม่ทราบ) ดูชื่อท่านเเล้ว หนวดท่านน่ารักดี เลยประทับใจค่ะ :o8:

ปล.ไม่ตายใจกันหน่อยหรอ...ยังจะมาหลอกหลอนอีก 55+

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เลิกกันแบบนี้มันทรมาณสุดๆนะเนี่ย หรือทั้งคู่จะรู้ตัวว่า ทั้งคู่ยังไม่ใช่

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
กรี๊ดดดดดดดดด งานคุณเมศ  ทำไมไม่เคยเห็นผ่านตาเลยอ่ะ  ยังดีว่ามาลงไว้ไม่กี่ตอนไม่งั้นใจร้าวกว่านี้แน่ ๆ
เรื่องนี้รวมตัวละครสองเรื่องมาไว้รวมกันเหรอคะ (สารภาพว่าแอบจำชื่อตัวละครไม่ได้...แต่จำเนื่อเรื่องได้ว่ามันปวดตับแค่ไหน  :m15: ยังดีว่าคุณเมศแปะลิงค์ไว้ แหะแหะ) 
เช...ไม่รู้สึกรักคริษฐ์แล้วใช่มั๊ยคะ ถึงได้ให้ลองมองใครดู  ความรู้สึกมันห้ามกันได้ที่ไหนเนาะ  :เฮ้อ:
แล้วไตติลาจะได้เจอกษิดิสตอนไหนคะคุณเมศ
อา....อยากอ่านตอนต่อไปใจจะขาด  :sad4:
+1 ขอบคุณคุณเมศค่ะ   :pig4: 

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
มาต่อให้ตายใจ...อีกที(เเต่ดูเหมือนคนอ่านจะไม่)





ฝนยามบ่ายโปรยลงมาแล้ว ละอองน้ำเล็กๆ เกาะบนกระจกใส ทำให้ภาพเบื้องนอกเลือนลาง เหมือนหัวใจคริษฐ์ในวันนั้น หัวใจที่มองสิ่งใดไม่ชัดเจน ด้วยลมฝนของความคิดคำนึงที่โปรยปรายลงมาอย่างมิอาจห้ามได้

“คริษฐ์ เราสองคนน่ะ รักกันมากเกินไปหรือเปล่า?” สัมผัสจากเส้นผมอ่อนนุ่มคริษฐ์ก็ยังจำได้ ว่าเขาชอบจับเล่น

“อะไรคือมากเกินไปล่ะ”

“ไม่รู้สิ”อ้อมกอดนั้นกระชับขึ้น ยังคงอบอุ่น และอ่อนโยนเสมอ


เราไม่เคยทำสิ่งที่ ‘เราต่าง’ ไม่ชอบ และหลีกเลี่ยงมันเรื่อยมา นิทเชเป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบวุ่นวายสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่มากเกินความจำเป็น ในขณะที่คริษฐ์ทำงานที่ต้องพบคนมากเป็นคนอัธยาศัยดี มีเพื่อนมาก
นิทเชชอบถ่ายภาพ เขารักมันยิ่งกว่าสิ่งใด เขามักไปไหนมาไหนคนเดียวกับกล้องคู่ใจ บันทึกภาพสิ่งที่ตนเห็นเก็บไว้ ทว่าไม่เคยบันทึกภาพคนที่เขารักไว้ ...เพราะคริษฐ์เคยบอกว่าไม่ชอบถ่ายภาพเพราะมีปมด้อย...เมื่อใดที่นิทเชหายไปจากบ้านออกไปตระเวนถ่ายภาพ คริษฐ์มักโทรศัพท์มักตามตัวความร้อนรนเสมอ และนิทเชก็รีบกลับทุกครั้ง เพื่อความสบายใจของ ‘เรา’

“ผมเป็นห่วง”

“ไปแค่แป๊บเดียวเอง ซื้อขนมมาฝากด้วย”

“ไว้เราไปด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ?” นิทเชแค่รับคำในคอ ไม่มีใครพูดถึงมันอีก จนสุดท้ายนิทเชก็หลงลืมไปเสียเอง

ต่างคิดไปเพียงว่า อยากให้ ‘เรา’ มีความสุข….ก็แค่เท่านั้น



“เพื่อนแทบจะจำหน้าไม่ได้แล้วนะไอ้คริษฐ์” เพื่อนคนหนึ่งของคริษฐ์ ทักขึ้นเมื่อพบกันโดยบังเอิญ

“ก็ไม่ค่อยมีเวลา” มือแข็งแรงอบอุ่น ยังคงกอบกุมมือบางไว้ในอุ้งมือ สุภาพ และอ่อนโยนเสมอ

“แหม คุณเชปล่อยๆไอ้คริษฐ์มันมั่งเหอะครับ”

“เฮ้ย พูดงั้นได้ไง ข้าเนี่ยแหล่ะติดเขา ไม่ใช่เขาติดข้า” ชายหนุ่มพูดก่อนจะหัวเราะกับเพื่อนอย่างขบขัน โดยไม่รู้เลยว่ามือนวลบางในอุ้มมือ ค่อยๆดึงออกจากการเกาะกุม แผ่วเบา...เสียจนเขาไม่รู้ตัว

“ ว่างๆก็ชวนคริษฐ์ออกไปสังสรรค์บ้างนะครับ อยู่ติดบ้านเกินไปเดี๋ยวจะเบื่อ” นิทเชพูดออกไปทั้งที่ไม่รู้สึกอย่างนั้น คนฟังหัวใจวิบโหวง ความรู้สึกที่มันทับถมกันมานานปี กำลังจะเอ่อล้นตันตื้อขึ้นในจิตใจ

“รายนี้คุณเชต้องออกปากเอง เขาถึงจะไปแหล่ะครับ” นิทเชทำเพียงยิ้มน้อยๆ

ในเมื่อเราต่างอยากให้มีความสุข...แล้วเราในตอนนี้ มีความสุขจริงหรือเปล่า??
เราจะมีความสุขด้วยกันได้ โดยที่ตัวตนของเราต่างค่อยสาบสูญไปทีละน้อย ...เราทำอย่างนั้นได้จริงๆนะหรือ?


“แล้วถ้าได้ล่ะ”คริษฐ์ ตอบตัวเอง ทั้งที่มีคำถามอื่นๆผุดขึ้นมาอีก ความสัมพันธ์ของเราจะอยู่ต่อไปได้อีกสักเท่าไหร่?

“แล้วถ้าไม่ได้ล่ะ” นิทเชตอบตัวเอง ผลของมันจะทำให้เราต่างเจ็บปวด ต่างพังทลายลงหรือเปล่า? หรือจะปิดตาตัวเองต่อไป เพื่อให้เรายังอยู่ด้วยกันได้...อีกนิด

“ผมต้องเลือกหรือเปล่า?” น้ำเสียงที่เคยนุ่มนวลนั้น จริงจัง ดวงตาคู่นั้นที่เคยมีน้ำหล่อเลี้ยงฉ่ำหวานกลับแห้งผาก มือนวลกอบกุมมือแข็งแรงที่กำหมัดแน่นไว้

“ไม่ใช่คริษฐ์คนเดียวหรอก แต่เป็น ‘เรา’” น้ำเสียงแห้งแล้งนั้น ทำให้ริมฝีปากหยักสวยสัมผัสแผ่วผิวลงบนมือบาง

“เพียงแต่เราต้องรู้ไว้ เราจะมีทุกสิ่งตามหวังไว้ไม่ได้”

“แล้วอะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆล่ะ?” ดวงตาคู่นั้นที่เคยทอประกายอ่อนโยน ทอดมองอย่างดิ้นรนหาทางออก


ความรักหรือ?....เราจะยังกุมมือกันได้สนิทใจทั้งที่พิษของความเจ็บปวดกำลังกัดกินเรานะหรือ?

“แล้วความสุขล่ะ?”

“เชไม่มีความสุขหรือ?”

“มีสิ เรามีเสมอ เมื่อเราอยู่ด้วยกัน ...แล้วคริษฐ์คิดว่าเรา ‘เป็นสุข’หรือเปล่า?” ชายหนุ่มครุ่นคิด ทว่าให้คำตอบที่แน่นอนกับตนเองไม่ได้เช่นกัน

“แล้วถ้าไม่ เราก็ควรจบกันอย่างนั้นหรือ?”ดวงตาที่คอยสบกลับมาวูบหลบ

“แล้วแต่คริษฐ์”คนฟังยิ้มทั้งที่ดวงตาโศก

“จะแล้วแต่คริษฐ์คนเดียวได้ยังไง?”

“เราอาจจะแค่ต้องการเวลา” นิทเชอดไม่ได้เลย ที่จะยื้อความสัมพันธ์เอาไว้ พอๆกับที่ห้ามตัวเองไม่ให้หลั่งน้ำตาไม่ได้

“อืม...เราอาจจะแค่ต้องการเวลา ให้ตัวตนของเรากลับมา...อย่าร้องไห้เลย”น้ำเสียงอ่อนโยนติดจะอ่อนหวานนั้นกระซิบแผ่วเบา พลางกอดคนในอ้อมแขนไว้

“เพื่อนเชจะต้องว่าเอาแน่ๆ”

“นี่ร้องเพราะกลัวโดนเพื่อนว่าเอาหรืออะไร?”คนถามร้องเสียงหลงเมื่อถูกทุบเสียเต็มแรงก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“เราอาจจะเลิกกัน...” ริมฝีปากหยักสวย มอบสัมผัสอุ่นล้ำบนริมฝีปากบาง เนิ่นนาน ก่อนจะถอนจูบอย่างเสียดาย เมื่อสบดวงตาที่ยังเอ่อล้นด้วยน้ำตาคู่นั้น เขายิ่งมั่นใจในสิ่งที่กำลังจะพูด

“แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน ใช่ไหม?” ชายหนุ่มยิ้ม นิทเชพยักหน้ารับพลางยิ้มตอบ

บางคนอาจพูดว่าโชคชะตาเปิดโอกาสให้เราต่างกลับไปค้นหาตัวตนของเรากลับมา ด้วยการสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเปลี่ยนแปลง’ นิทเชยิ้มกับตัวเอง โชคชะตาอาจจะช่วยครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เป็นเราต่างหาก ที่ ‘กล้า’ พอจะเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า คริษฐ์และนิทเช กล้าพอ ที่จะถอยหนึ่งก้าวสำหรับความสัมพันธ์ ให้พื้นที่กับหัวใจตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องเดินไปตามเส้นทางชีวิตของตนโดยไม่อาจหยุดยั้ง

“ย้ายไปทำงานต่างประเทศก็ดีนี่นา ใครเขาก็อยากไปกันทั้งนั้น ” นิทเชออกความเห็น ในค่ำวันที่ เราอยู่ด้วยกัน ...มิใช่คนรัก แต่เป็นเพื่อนใจ

“เป็นห่วงเช”

“ห่วงทำไม? เชก็ต้องเดินทางเหมือนกัน”

“ห่วงสิ เพราะเชต้องเดินทางไปหลายที่ ใครจะดูแล”คนพูดอดห่วงไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าขัด มากนัก เพราะรู้ว่านิทเชพยายามมาหลายปีกว่าจะได้รับการตอบรับให้เป็นช่างภาพนิตยสารสารคดีแห่งหนึ่ง

“ทุกคนก็ต้องเดินทางทั้งนั้น เดินไปบนทางเดินชีวิตของตัวเอง”

“คริษฐ์รู้ แต่มันก็อดห่วง...ไม่ได้”นิทเชยิ้มอย่างเข้าใจ เจ็ดปีเต็มที่คนตรงหน้านี้เฝ้าเอาใจใส่ดูแลกันไม่เคยบกพร่อง

“ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ อย่าทำงานจนลืมตัวเองไป เพราะเราต้องรัก...รักตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม”

“อืม...คริษฐ์เข้าใจ”

“ เชไม่ต้องยกลังนั้น เดี๋ยวคริษฐ์ยกเอง”ลังใส่หนังสือถูกนิชเลยกใส่รถที่จอดรอหน้าบ้าน โดยไม่ฟังเสียงค้าน

“มีอะไรต้องขนอีกไหม?”คริษฐ์ว่าไม่มีหรอก ก่อนจะเอื้อมมือมาจับไหล่บาง

“ไม่รู้จะได้เจออีกเมื่อไหร่”

“จะร้องเพลงสั่งนางด้วยหรือเปล่า?” นิทเชถามหน้าตาย ก่อนทั้งคู่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ไม่ร้องหรอก เชก็รู้ ร้องเพลงเป็นปมด้อยพอๆกับถ่ายรูปเชียวล่ะ”มือนวลหยิบรูปหนึ่งออกจากกระเป๋าอกเสื้อ

“รูปนี้คงพอพิสูจน์ได้ ว่าปมด้อยเรื่องรูปถ่ายของคริษฐ์น่ะ ไม่จริงหรอก”


รูปถ่ายขาวดำของกิจวัตรประจำวันที่เจ้าตัวมักทำทุกเช้า เป็นการฝึกสมาธิให้ตัวเองมีสติก่อนออกไป ทำงานเสมอ คนในภาพนั่งบนเก้าอี้ ค้อมกายลงผูกเชือกรองเท้าตนเองในเช้าวันทำงานธรรมดาๆวันหนึ่ง ดวงตาของคนในภาพที่เงยหน้าขึ้นดูคล้ายมองสบในที แววตานั้นฉายประกายนิ่งสงบ และลุ่มลึกกว่าครั้งไหนๆ

“อ่านข้างหลังสิ”ช่างภาพออกปาก คริษฐ์ยิ้มเมื่ออ่านข้อความ

“มิใช่ไม่รักกัน”ไม่มีลงชื่อ หรือวันที่ มีเพียงลายมือหนักแน่นของตัวอักษรไม่มีหัวและเขียนเอียงน้อยๆ ทว่าดูสะอาดตา

“รูปสวยมาก ขอบคุณ” คริษฐ์ก้มลงพิจารณาพลางคาดเดาว่าช่างภาพไปเก็บภาพมาเมื่อไหร่

“ฝนจะตกแล้วนะ” เ สียงแผ่วเบาฟังคล้ายกระซิบนั้น ทำให้ดวงตาคู่คมมองรอบกาย ให้ได้คิดทบทวน ให้ได้ซึมซับความรู้สึกรักและเจ็บปวด ให้ได้เข้าใจ ‘เรา’ ที่ไม่ใช่ฉันท์คนรัก แต่เป็น ‘ตัวเรา’

“อืม ไปล่ะ ปิดประตูบ้านดีๆนะ” มืออุ่นร้อนยังคงสัมผัสอย่างสุภาพอ่อนโยนเสมอ ก่อนริมฝีปากหยักสวยที่ยกยิ้มน้อยๆจะมอบจุมพิตครั้งสุดท้ายลงบนหน้าผากใครอีกคน...ผิวแผ่วราวสายลม ที่พัดมาและผ่านเลยไป

๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
คริษฐ์ลืมตาขึ้นอีกครั้งเนื่องจากเสียงเคาะประตู เขาเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง เขายังพอมีเวลาอีกพักใหญ่ก่อนจะลงไปเอาผ้าที่ใส่เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญที่ชั้นใต้ดิน ซองจดหมายสีขาวถูกสอดเข้ามาใต้ประตู ซองไม่ได้ผนึก หรือเขียนสิ่งใดไว้ ภายในคือเหรียญควอร์เตอร์ คริษฐ์จึงนึกขึ้นได้ถึงเด็กหนุ่มนักเรียนไทยที่เขาให้ยืมเหรียญ เมื่อเปิดประตูออกไป เขาเห็นเพียงแผ่นหลังเล็กๆในเสื้อแจ๊คเก็ตเรียบๆสีเทาหม่นเดินขึ้นบันไดก่อนจะเลี้ยวลับหายไป

ประตูอพาร์ทเม้นพีปิดลงอีกครั้ง ความเงียบสงัดของหัวใจตนเองทำให้ระลึกได้หนึ่งประการ ชีวิต ยังต้องดำเนินต่อไปแม้ว่าหัวใจอาจจะเหงาสักหน่อย ด้วยเพราะยังมีคำว่า ‘พรุ่งนี้’ ให้ได้เรียนรู้ ให้ได้คิด ให้ได้ก้าวเดินต่อไป

๒๒๒๒๒TBC๒๒๒๒๒


ไม่มีไรจะพูดอ่ะค่ะ






อ้อ



ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะคะ ช่วงนี้ตกงานเเล้ว (อดไปฝึกงานเลย) เเวะเวียนมาเยี่ยมชมดอมดมคอมเม้นต์บ่อยค่ะ

CaroL

  • บุคคลทั่วไป
Re: อะกาลิโก..รักไร
«ตอบ #18 เมื่อ20-05-2010 15:59:59 »

^
^
^
จิ้มคุณเมศ 
พรุ่งนี้
สู้สู้ครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ
ชื่อนิทเช เป็นภาษาเยอรมัน เพาะจัง
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
เป็นกำลังใจให้กันและกันค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อ่านอย่างมีความสุข :o8:
รักใหม่กำลังเริ่มหรือเปล่าเอ่ย อิอิ
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ฮาๆ เดากันได้ตามสะดวกนะคะ เท่าที่อ่านคอมเม้นต์มา(รวมทั้งอีกบอร์ดด้วย) ก็ยังไม่ค่อยเข้าเค้า อิอิ

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะคะ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เข้าไปอ่านเรื่องสั้นนะคะ กลัวตัวเองรับไม่ได้ T^T
เท่าที่อ่านมาสองตอน แบบว่า..เชกับคริษฐ์.. ทำเราซึมแล้วค่ะ
เลยขอตามลุ้นกับเรื่องยาวดีกว่า
แต่อ่านแล้วรู้สึกชอบเชค่ะ ดูเชเจ็บปวดรึเราเจ็บปวดแทนเชก้อไม่รู้ 555+

เป็นกำลังใจให้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2010 02:23:19 โดย pattybluet »

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
ชอบคำพูดปิดท้าย...
ยังมีคำว่า ‘พรุ่งนี้’ ให้ได้เรียนรู้ ให้ได้คิด ให้ได้ก้าวเดินต่อไป
ใช้ได้กับวันเวลานี้เลยนะเนี่ย อิอิ
โดยรวมตอนนี้กินใจความของเรื่องเก่าเล่าใหม่ในแบบยาวๆ
อ่านแล้วยิ้มๆ รู้สึกดีว่าในขณะที่เหงาๆ กลับยังมีคนอีกคนที่นึกถึงเราอยู่
แม้จะไม่ใ่เรื่องก็ตาม อย่างการเอาเหรียญมาคือ ^^
แล้วจะรออ่านต่อนะจ้ะ เมศ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2010 23:20:54 โดย [N]€ẃÿ{k}uñĢ »

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ยังรออ่านตอนต่อไปยู่ค่ะคุณเมศ...ท้าวความกันเป็นบทเลยอ่ะ
รอคุณดิส...แต่ไม่รอนิทเช
+1เป็นกำลังใจในการเขียน  ไฟท์ติ้งค่ะคุณเมศ!!!!

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0


ตอน ๓.๑

   ไตติลากวาดสายตามองลานจอดรถของโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ คาบเรียนตอนค่ำเพิ่งผ่านพ้นไป  สมองของเขากำลังมึนชา อาจเพราะจากการเรียนเนื้อหาที่อัดแน่นหรือเพราะการรับรู้ข่าวสารมากไปก็ไม่อาจทราบ  รถของเพื่อนร่วมชั้นเรียน ค่อยๆทยอยแยกย้ายกันออกไป บางคนที่รู้จักกันก็โบกมือให้ ไตติลายิ้มบางโบกมือตอบ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า เขาก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน ร่างโปร่งนั้นเข้าไปนั่งในรถ  กลิ่นจากชั้นเรียนติดเสื้อผ้า เขาย่นจมูกเล็กน้อย แต่ก็เริ่มชินเสียแล้ว 

“อย่าดื้อนะครับไอ้ขาวลูกรัก” ไตติลาลูบคอนโซลหน้ารถอย่างถนอม  ช่วงนี้ไอ้ขาว ชักอาการไม่ดี เดี๋ยวลากไปซ่อมก็โดนอีกร้อยละซวยหนัก เขาใส่เกียร์เตรียมจะขับออกไป โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ครับ”

“เฮ้ นี่ฮวนนะ” ไตติลารับคำในคอ เสียบหูฟังสำหรับโทรศัพท์ให้ปลอดภัยเสียก่อน ค่อยขับออกไป

“เมื่อคืนที่ไม่ได้กลับไปที่อพาร์ทเม้นต์ ....”

“อืมทำไมหรอ?” ไตติลานึกในใจ ใครจะกลับไม่กลับ เขาเกี่ยวที่ไหนกัน

“คือโดนตำรวจจับ เมาแล้วขับ” ไตติลาเหยียบเบรคอย่างแรงทั้งที่แทบไม่เหลือรถในลานจอดรถโล่งๆนี้แล้ว

“เฮ้ย  แล้วทำไงอ่ะ”

“ก็โดนยึดใบขับขี่ ไปศาล”น้ำเสียงคนตอบฟังดูเศร้าใจ จะไม่เศร้าได้อย่างไร กฎหมายบ้านเมืองเขาเบาเอาเรื่องหรือกับเรื่องเมาแล้วขับแบบนี้ 

“ต้องเข้าโปรแกรมด้วยเหรือเปล่า?”

“คงจะอย่างนั้น”

“ไอ้ที่ต้องไปดูศพด้วยใช่ไหม?” ก็ไอ้โปรแกรมที่ว่านี่แหล่ะ ถูกจับครั้งนึงคงเข็ดจนตาย นอกจากยึดใบขับขี่ จับปรับขึ้นศาลกันแล้ว ยังต้องเข้าโปรแกรม รวมถึงพาไปดูร่างผู้เคราะห์ร้ายจากการเมาแล้วขับด้วย  แน่นอนว่าไม่น่าดูแม้แต่น้อย

“ช่วยเอาของในห้องให้หน่อยได้ไหม  ตอนนี้ขับรถไม่ได้ แม่เพิ่งประกันตัวออกมาเมื่อเย็นนี้เอง” ไตติลารับคำ ก่อนจะคุยกันเรื่องค่าห้องแต่ละเดือนอีกเล็กน้อยก็วางสาย  รูมเมทคนนี้หน้าที่การงานค่อนข้างมั่นคงจึงไม่เคยเบี้ยวค่าเช่าห้อง แต่ด้วยเหตุนี้ เมทของเขาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ห้องไปอีกระยะใหญ่ๆ  หวังว่าคงจะไม่คิดย้ายออกกระทันหันให้ตั้งหลักไม่ทัน


   ไตติลาขับรถกลับบ้านอย่างเหนื่อยๆ เปิดตู้จดหมายกวาดซองทั้งหมดออกมา ซองค่าประกันรถ...ซองบิลค่าจิปาถะมากมาย ใบปลิวโฆษณาต่างๆ ...แต่ไม่เคยมีจดหมายมาจากบ้าน ไตติลาปลอบตัวเอง นี่มันยุคดิจิตอลแล้ว ใครๆเขาก็ใช้อีเมลล์ สไคป์กันหมด เขาเอาปึกจดหมายแทรกไว้ในหน้าต้นๆของตำราเรียนเล่มหนา ก่อนจะค่อยเดินช้าๆขึ้นบันไดแต่ละขั้นไปอย่างเหนื่อยหน่าย  ชั่วอึดใจหนึ่ง เขาปรายตามองประตูห้องชั้นล่างที่ตรงกับห้องเขาที่อยู่ข้างบนครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวขึ้นไปทีละขั้นๆ

   ภายในอพาร์ทเม้นเจ มืดมิด มีเพียงไฟจากถนนที่ฝั่งตรงข้ามเป็นโบสถ์ รูมเมทสาวคงจะหลับ หรือออกไปข้างนอก ไตติลาไม่สนใจ ตรงเข้าไปไขประตูห้องตัวเอง  เมื่อไฟภายในห้องเปิดเขาจึงเห็นซองจดหมายปิดผนึกจ่าหน้าซองถึงเขา สอดไว้ใต้ประตู 

“ของลอเรน” เขาพอจะรู้ว่าภายในคงจะเป็นเช็ค  หรือเงินค่าเช่าห้อง  เขาเปิดซองด้วยความหวังเล็กๆในหัวใจ



ถึงติลา

   ฉันรู้ว่ามันซ้ำซาก แต่ติลา เดือนนี้ชั้นขอจ่ายอีกครึ่งที่เหลือช้าอีก เศรษฐกิจไม่ดีเอาเสียเลย มีแนวโน้มว่าจะเลย์ออฟอีก  แล้วจะรีบหาส่วนที่เหลือมาจ่าย
ขอโทษ
ลอเรน[/i]


   ไตติลารู้สึกหมดแรง ใจหนึ่งก็สงสารรูมเมทสาว เพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่ควบคุมการเงินของตัวเองได้ไม่ดีนัก จึงจ่ายเลทมาหลายครั้ง แต่อีกใจหนึ่งไตติลาก็สงสารตัวเอง เขาไม่ใช่เศรษฐีที่ไหน ต้องทำงานออกจะลับๆล่อๆเสียด้วยซ้ำ เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย  เงินในบัญชีของเขาตอนนี้คงจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดไม่พอ  ไม่เป็นไร...ค่อยๆคิดหาทางไปใจเย็นๆ  ไตติลาปลอบใจตัวเอง สักครั้งที่ล้านแล้วตั้งแต่มาที่นี้ แต่จะให้ถอดใจกลับบ้านไปนะหรือ ไม่มีทาง เขาสู้อุตส่าห์ดิ้นรนมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องดิ้นรนต่อไป

   แม้หัวใจจะหนักอึ้งอย่างไร ไตติลายังคงดำเนินชีวิตปรกติ หาอะไรกินให้พออิ่ม อาบน้ำ อ่านหนังสือทบทวนและเตรียมบทเรียน ก่อนจะสวดมนต์เข้านอน ด้วยหวังให้ธรรมชโลมหัวใจให้สงบลงได้บ้างไม่มากก็น้อย เขานอนขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เริ่มจะเคลิ้มหลับด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายใจ ในหูแว่นเสียงฝีเท้าเดินที่ทางเดินหน้าห้อง เสียงก๊อกแก๊กที่ประตู ก่อนจะรู้สึกเหมือนมีคนโผล่เข้ามาดูว่าเขานอนหรือยัง อาจจะเป็นลอเรน รูมเมทสาวคงร้อนใจไม่แพ้กัน ไตติลากระซิบบอกในใจ ค่อยคุยกันพรุ่งนี้แล้วกัน


   


   เมื่อไตติลาลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง แสงสว่างสาดส่องเข้ามาเต็มที่แล้ว  อพาร์ทเม้นต์เจเงียบเชียบ เหลือเพียงไตติลาคนเดียว  เขาดูนาฬิกาครู่หนึ่งลอเรนคงออกไปทำงาน เขาก็ต้องออกไปเช่นกัน แต่ยังมีเวลาถมไปให้อาบน้ำทบทวนบทเรียนก่อนออกไป  ไตติลาเบื่อที่ต้องทำตัวเหมือนนาฬิกา เป๊ะไปเสียทุกอย่าง มันน่าเบื่อ ที่ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อบังคับตัวเองให้ทำนู่นทำนี่  แต่เมื่อเขา ‘เลือก’ แล้ว จึงต้องพร้อมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ทั้งดีและไม่ดี  วันนี้เขามาทำงานเสิร์ฟเนื่องจากพี่ที่รู้จักกันโทรมาขอแรงให้ช่วยงานทีภัตรคารแห่งหนึ่งที่เน้นขายอาหารประเภทเส้น

“อ้าว ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ” ไตติลาอุทาน เมื่อฟังเรื่องราวจากเจ๊เจ้าของร้านหลังจากช่วงเวลาที่ร้านคนเยอะผ่านไปแล้ว

“โน่น มันหอบข้าวหอบของจะกลับแล้วเนี่ย สงสัยทนอยู่ไม่ไหว หนักไม่เอาเบาไม่สู้ คงจะรอดร๊อก” ไตติลาฟัง...แต่ฟังเพียงพอผ่าน เก็บหูไว้ฟังเรื่องที่อยากจะฟังเสียจะดีกว่า

“แล้วทำไงอ่ะพี่ คนขาดแบบนี้?”

“ไม่รู้สิ เราว่างไหมล่ะ?” ไตติลาทำท่าคิดก่อนจะตอบรับ

“ได้นะพี่แต่เสิร์ฟฟรีไม่เอานา”

“ย่ะ”เจ๊เจ้าของร้านรับคำอย่างหมั่นไส้ เมื่อเห็นไตติลาทำหน้าทะเล้น ก่อนจะไปรับโทรศัพท์  ไตติลาเริ่มคิดเลขในใจ ค่าเช่าห้องส่วนที่รูมเมทยังจ่ายไม่ครบ น่าจะพอรอดไปได้อีกเดือน 

“ไอ้ติ โต๊ะเจ็ดดิ๊” คนในครัวเลื่อนถาดใส่อาหารให้เขายกไปเสิร์ฟ   ไตติลาทำหน้าที่ของตัวเองเป็นปรกติ ทักทายเล็กน้อยพร้อมทวนรายการอาหาร

“เอ๊ะ คุณไตติลาหรือเปล่า?”  คนถูกเรียกชื่อ เหลือมองเจ้าของเสียงนั้นแวบนึง

“อ้อ คุณคริษฐ์ มาทานอาหารหรือครับ?” เจ้าของชื่อรับคำน้อยๆ  ก่อนจะชิมอาหารตรงหน้า

“รสชาติเป็นอย่างไรครับ เขียนคอมเมนต์ได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ”คริษฐ์ยิ้มรับใบหน้าคมคายนั้นดูสว่างขึ้น จนคนมองยังลอบนึกชมว่าน่าดู

“ขอตัวนะครับ” ไตติลากลับเข้าไปหลังเคาท์เตอร์อีกครั้ง เจ๊เจ้าของร้านรีบมากระแซะ

“ใครอ่ะ รู้จักกันหรอ?”

“อืม อยู่อพาร์ทเม้นท์เดียวกัน เพิ่งจะเคยเจอเมื่อไม่นานมานี้เอง”

“หล่อนา เขาทำการทำงานอะไร”

“เจ๊ก็ไปถามเขาสิครับ”

“เอ้า ก็เห็นรู้จักกัน”

“รู้แค่ชื่อคริษฐ์”

“แน่ะเขาเรียก ไปสิ”เจ๊เจ้าของร้านรีบดันหลัง

“ทำไมเจ๊ไม่ไปเองอ่ะ”  สาวใหญ่ทำบุ้ยใบ้ไปที่ประตูหน้า ที่แท้สามีของเจ๊มาแล้วนั่นเอง

“คุณมีเมนูอะไรแนะนำอีกไหมครับ ผมยังไม่อิ่มเลย” ไตติลามองหน้าลูกค้าหนุ่มที่กินเป็นพายุ ลองเป็นไตติลาสิ ชามเดียวก็อิ่มถึงเที่ยงพรุ่งนี้แล้ว

“รับเป็นของหวานดีไหมครับ ร้านเราไอศกรีมมะม่วงอร่อยนะครับ หรือจะเป็นสมูธตี้ดีครับ เลือกที่ตู้ได้เลยครับ”

“ขอไอศกรีมมะม่วงก่อนเลยครับ ตั้งแต่มานี่ผมยังไม่เคยทานเลย” คริษฐ์พูดแล้วพลางยิ้มกว้างขวาง ไตติลารีบรับคำ ก่อนจะรับออเดอร์กลับไป

“เจ๊ไอติมมะม่วงหนึ่ง”

“ตักเลยสิยะ จะรออะไร”ไตติลายักไหล่ก่อนจะทำเสียเองทุกหน้าที่  แคชเชียร์ เดินโต๊ะ จัดจาน เอาให้ครบ เพราะวันนี้คนขาดจริงๆแม้ว่าจะเลยช่วงBusyไปแล้ว

“คุณเลิกงานกี่โมง?” คริษฐ์เงยหน้าถามขึ้นทันทีที่ไตติลาเดินมาถึง

“เที่ยงคืนได้มังครับ?” คนถามเหลือมองนาฬิกาครู่หนึ่ง เที่ยงคืนไม่ได้นานเกินไปนักนับจากนี้

“งั้นผมคงนั่งจนร้านปิด กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร นอกจากมองโบสถ์” ไตติลาหัวเราะ สงสัยว่าการมองโบสถ์ยามว่างจะเป็นสิ่งที่คนอยู่ห้องฝั่งเดียวกันทำ

“ตามสบายเถอะครับ”



TBC 3.2


รู้สึกตอนต้นๆ มันเฉื่อยดีจริงๆ
ใครรอคุณดิส นิทเช ยกมือขึ้นนนน /*ยกมือเเขนติดหู  (เห็นคห.บนเเล้ว ขีดฆ่านิทเชออกก็ได้ หึหึหึ)

จะบอกว่า รอต่อไปค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ o18


ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
:กอด1:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
คริษฐ์กับติลา มาเจอกันไม่ชวนกันเหงาหรอเนี่ย 55+
เอ๊ะ..รึเหงา (-) มาเจอกับ เหงา (-) กลายเป็น หายเหงา (+)

แต่จากที่อ่านมาแค่นี้ ยังรู้สึกว่าอยากให้คริษฐ์กับเชกลับมาเป็นคนรักกันอีกล่ะ หุหุ
ยังติดตามอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
คริษฐ์กับติลาเจอกันแล้วอาจจะมีอะไรให้ทำแก้เหงา ^^

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
+1 ค่ะ
ชอบโครงเรื่องจังคุณเมศ

อ่านแล้วถึงจะเสียดายนิทเช
แต่รู้สึกว่า ... คงรีเทิร์นไม่ได้

ชอบนิทเชนะ
แต่ก็นะ เรื่องของความรัก
มีแค่คนสองคนที่รู้ ^^

ยังมี "พรุ่งนี้"  สินะคะ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
คุณเมศมาต่อแล้วววววววว
เสียงดังก๊อกแก๊กในห้องของติใช่เสียงคุณดิสรึเปล่าคะ (คิดถึงคุณดิสมาก...อยากให้เจอกันเร็ว ๆ  แต่.....ต้องรอต่อไปใช่ป๊ะคะ55555)
แล้วจะกลับบ้านพร้อมกันรึเปล่าคะสองหนุ่ม
นั่งรอตอนต่อไปค่ะ
+1ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด