ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด : ตอนพิเศษ 30/07/56
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด : ตอนพิเศษ 30/07/56  (อ่าน 790625 ครั้ง)

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

==============================================================

- นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาทั้งหมด  ตัวละครทุกตัวถูกสมมุติขึ้นมาทั้งหมด  ไม่มีอยู่จริง

- โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

- จัดอยู่ในประเภทรับชมได้ทุกวัย



สารบัญค่ะ
 
      ขอบคุณที่รักกกกกก

 



ตอนที่  1


ฤดูร้อนกำลังจะหมดไปพร้อมกับการปิดเทอม
 
หน้าฝนที่พกพาเอาความชุ่มชื่น  เย็นสบาย  โชยกลิ่นดิน  หอมกลิ่นหญ้ากำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ผมขับรถออกจากบ้านแต่เช้าตระเวนรับเพื่อน ๆ  เพื่อมาเรียนโรงเรียนเอกชนค่าเทอมแพงกระเป๋าแทบฉีกพร้อมกัน  วันนี้เปิดเทอมวันแรกครับ  พวกผมนัดกันตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะรีบมาส่องสาวกัน  น้อง ม.1  น่ารัก ๆ ทั้งนั้น  สายรายงานว่าน้องมิ้นท์  น้องครีมพี่น้องสองสาวดาวคอนแวนต์ข้าง ๆ จะย้ายมาเรียนที่นี่เพราะ....เพราะไรไม่รู้  นาทีนี้ใครจะสนล่ะครับ
 
มาถึงโรงเรียนพวกผมก็ตรงไปที่ประจำเลยครับ  มุมอับหน้าห้องพยาบาล
 
ห้องพยาบาลโรงเรียนผมอยู่ตรงหัวมุมถนนที่จะผ่านไปแคนทีนครับ  แล้วก็ถือเป็นถนนหลักที่เชื่อมทางเดินไปตึกเรียนแต่ละตึกซะด้วย  อย่าได้คิดว่าจะผ่านพวกผมโดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อนะครับ  เห่ากันกระจาย  เหอะเหอะ  ส่วนมากก็มีแต่ผมกับเพื่อน ๆ  เท่านั้นละครับ  ไม่ค่อยมีกลุ่มอื่นมานั่งเห่ากับพวกผมหรอก
 
เสียงออดยาว  มันเป็นสัญญาณให้เราต้องละจากกิจกรรมทุกอย่างที่ทำอยู่เพื่อไปเข้าแถว  แต่มันใช้ไม่ได้กับคนบางจำพวก  และก็เป็นคนจำพวกเดียวกับกลุ่มผมครับ
“น้องทำไรหล่นน่ะจ่ะ  เอ๊า!!! บอกแล้วยังจะเฉย...น้องน่ะแหละ”  สิ้นเสียงเห่าของก้อง  หนุ่มน้อยที่ทุกคนเรียกกันว่า  “ก้อง ทงบัง” มันไม่ได้หน้าคล้ายยุนโฮเพียงอย่างเดียวนะครับ  มันยังมีแฟนเป็นลูกเสี้ยวเกาหลีอีกด้วย
สาวน้อย...คาดว่าจะเป็นน้อง ม.1  เพราะหางเต่าเขียวเชียวครับ  ไหนจะแววตาเดียงสาคู่นั้นอีก  น้องหันรีหันขวาง  แล้วก็ชี้นิ้วใส่หน้าอกตัวเองอย่าง งง ๆ
“ใช่ครับน้องแหละ  ทำของหล่นแล้วก็ไม่ยอมเก็บ...เอ้า...ไม่เก็บเหรอครับ”  อาศัยจังหวะที่น้องมองหาของที่ตัวเองทำหล่น  มันก็เดินไปประกบหลังแล้วก็กระซิบใส่หูน้องเบา ๆ แต่ก็ดังพอให้พวกผมได้ยิน
“หัวใจพี่ที่อยู่แทบเท้าน้องไงครับ...ฮิ้ววววววววววว ก๊ากกกกก” มันพูดจบพวกผมก็ฮากันครืน  น้องได้แต่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก  จะอายหรือจะโกรธยังก็แยกไม่ถูก  นี่แหละครับ  ผลของการเดินผ่านหน้าห้องพยาบาลคนเดียว
“เฮ้ย!!!  นี่มันจะเข้าแถวอยู่แล้วนะเว้ย  กูยังไม่เห็นแม้แต่ชายกระโปรงน้องครีมเลย  ไอ้เชี่ยอ๋องมึงเอาข่าววงในเหี้ยไรมาบอกกู!!!”เต๋าหนุ่มสะตอแดนใต้  แต่พออยู่ต่อหน้าสาวมันจะกลายเป็น...เต๋าสตรอว์เบอร์รี่  แยกเขี้ยวด่าอ๋องหนุ่มหน้าตี๋ที่มีดีตรงลักยิ้มแก้มขวาทันที  ไอ้อ๋องไม่รีรอสวนไปทันควัน
“สัตว์!!!! กูจะรู้มั้ยว่าทำไมน้องครีมยังไม่มา  แต่ข่าวกูเชื่อถือได้แน่นอน  ป้านิ่มแม่บ้านน้องเค้าบอกกูเองเลยนะเว้ยว่าน้องครีมกับน้องมิ้นท์จะย้ายมาเรียน ร.ร. เรา...”
“กูว่าเราไปดูที่แถวดีกว่าป่ะ  ง่ายกว่าเยอะ!!!! ไอ้วินมึงลอกการบ้านเสร็จยัง  นั่งลอกตั้งแต่เจ็ดโมงนี่ออดเข้าแถวดังแล้วยังไม่เสร็จอีก”  ชาย  ด้วยมาดนิ่ง ๆ  ทำให้พวกผมเรียกมันคุณชายได้อย่างไม่กระดาก  มันยื่นน้ำให้ผม  ก่อนจะฉุดมือผมให้ลุกขึ้น  แต่ยังไม่ทันก้าวขาไปไหน  วิน  หนุ่มผิวขาว  สูง  โปร่ง  มันเหมาะกับคำว่าคุณหนูมากครับ(ถ้ามันไม่เปิดปากพูด)ก็เอ่ยขัดขาพวกเราขึ้นมาว่า
“ไอ้เหี้ยยยยย อีกข้อเดียวเว้ยยยยย  ของกูเสร็จนานแล้วแต่ที่กูนั่งเขียนเนี่ยมันของพิ!!!” ...ผมลืมเลยครับว่ามันอาสาลอกการบ้านให้ผม
“เอ๊า..งั้นก็ช้า ๆ ไม่ต้องรีบ  พวกกูรอได้”ไอ้ก้องพูดยิ้ม ๆ  ผมหันหน้าไปมองมันก็ระบายยิ้มไว้เต็มหน้า  จนผมอดยิ้มตามมันไม่ได้  หึ!! นี่ล่ะครับเพื่อนผม  ทุกอย่างที่เป็นผม  หรือของผม  เพื่อนต้องให้ผมเป็นที่สุดเสมอ
“เสร็จละ!!! ระดับกูมันเลยขั้นเทพไปแล้วเว้ย”  ผมขอบใจไอ้วินด้วยฝ่ามือปราบเทพ  ไม่แรงอะไรหรอกครับ  เหมือนยีหัวเล่นมากกว่า
ผมมักจะเดินนำหน้า  ชายเดินตามหลังและตามด้วยเพื่อน ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  แต่สาว ๆ ห้องผมเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า  “การเฝ้าระวังตูดให้หัวหน้าฝูง” สาวบางคนชอบจับคู่ผมให้คนโน้นคนนี้  จับคู่กับผู้ชายนะครับ  น่ากลัวเหมือนกัน55+  พอผมถามว่าแล้วไม่คิดจับให้ตัวเองบ้างเหรอ  เธอก็บอกว่าผมเป็นเคะในฝัน  เคะในฝันนี่..ยังไงครับ?  เธอก็อมยิ้ม..ทำหน้าเหมือน  ‘มึงอยากรู้อะดิ’ แต่ก็ไม่บอกผมซักที  ช่างมันครับ  แค่อยากหาเรื่องคุยด้วยเท่านั้นเองไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่   
พวกผมย้ายตูดมาอยู่ที่แถวตัวเองแล้วก็ชะเง้อคอมองแถวเด็ก ม.2  ผมกับไอ้ชายสูงที่สุดในกลุ่ม  เอิ่ม...ในห้องดีกว่าครับ  178  นี่ก็สูงมากสำหรับเด็ก ม.3  แล้วครับก็เลยเป็นหน้าที่ของชายไม่เกี่ยวกับผมครับ หึหึหึ  เพ่งดูว่าน้องครีมกับน้องมิ้นท์มาเรียนรึเปล่า
“ว่าไงมั่งวะ  เห็นเปล่า?  ไอ้อ๋อง!!!ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่พาดหัวข่าว...มึง  อ่วม!!!!”สิ้นเสียงไอ้ก้องก็ฮากระจาย  เพราะไอ้อ๋องถลึงตาใส่และสวนไปว่า...
“เอื้อก!!!”  มันทำท่ากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ด้วยครับ  ผมก็ได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วส่ายหัวกับอาการของพวกมัน  ผมกำลังจะช่วยชายดูสองสาว
เฮ้ย..ใครมันมาบังวิสัยทัศน์ผมวะ  หันมองข้าง ๆ ก็ไอ้ชายนี่หว่า  มันจะมีใครสูงมากกว่าผมกับไอ้ชายได้วะ  ผมกำลังจะทัก  มันก็หันมาพอดี
“..........”
ต่างคนต่างเงียบ  มองค้างกันอยู่แบบนั้น  หน้ามันไม่ได้เหมือนญาติข้างไหนของผมนะครับ  แต่มัน....
ปิ้งป่อง  ปิ้งป่อง
“นายพิรุณ  ห้อง 3/2  พบอาจารย์ที่ห้องปกครองด่วน” อ้าวววว  ผมนี่หว่า
“เฮ้ย!!! เค้าเรียกมึงนี่หว่า   รีบไปป่ะ  เดี๋ยวแม่งก็โฟนอีก  กูอายแทนว่ะ”  หืม...ไอ้ชาย  เค้าเรียกกูนะ  ทำจะอายแทน  ไอ้เหียก
“พูดแค่นี้ต้องด่ากูด้วยเหรอ”มันล็อคคอผมแล้วเหวี่ยงไปมา  ผมก็ได้แต่ขำมัน  สงสัยผมจะคิดดังแฮะ
ผมรีบวิ่งออกจากแถว  แต่ก็ยังไม่วายมองไปที่แถวเด็ก ม.2  หวังจะเห็นน้องครีมกับน้องมิ้นท์   แต่เหมือนผมจะลืมอะไรไปซักอย่าง
อืม...ผมลืมอะไรกันนะ?
.
.
.
ผมชะโงกหน้าดูความเคลื่อนไหวในห้องปกครอง  ข้างหลังนั่นมันเหมือนพี่ช้างเลยนี่หว่า  แต่...พี่ช้างจะมาทำไมที่ ร.ร. ผมล่ะ
“พิรุณ  เข้ามาสิ  ญาติเธอมาพบน่ะ”ผมขอบคุณอาจารย์ก่อนจะเสมองไปทางญาติ  พี่ช้างจริง ๆ ด้วย
ผมยกมือไหว้พี่เค้า  ถึงพี่เค้าจะเป็นลูกจ้างของตาแต่พี่เค้าก็อายุมากกว่าผม
“พี่ช้าง...มีอะไรครับ?”  พี่ช้างทำหน้าบอกไม่ถูกเหมือนคนคิดไม่ตก
แล้วผมก็ได้รู้...ว่าทำไมพี่ช้างถึงต้องถ่อมาหาผมถึงที่โรงเรียน

..............................
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2013 16:15:07 โดย jira »

V_we

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #1 เมื่อ04-06-2010 14:23:40 »

 :mc4:
ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า
เป็นกำลังใจให้จ้าjira
เริ่มเรื่องน่าสนใจดี พี่ช้างมีเรื่องอะไรมาบอกน้อ
ตอนที่อ่านอ่ะ ฮามุกนี้มาก “หัวใจพี่ที่อยู่แทบเท้าน้องไงครับ...ฮิ้ววววววววววว ก๊ากกกกก”
ถ้าเป็นวีนะ จะถามว่าจริงหรือคะพี่ งั้นไม่เกรงใจล่ะน่ะ จากนั้นก็ใช้ปลายเท้าขยี้ตรงที่มันชี้นั่นซะเลย :jul3:
+1 ให้จ้า :กอด1:

Laxxeez

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #2 เมื่อ04-06-2010 14:33:28 »

Oh! แค่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจแล้วคับ ดูลึกลับ เย้ายวน ชวนค้นหาดีคับ จัยนะคับ :3123:

ออฟไลน์ bellebee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #3 เมื่อ04-06-2010 18:13:16 »

โอ้ว....  น่าสนุกค่ะ ชือเรื่องแบบ  ลึกลับ โรแมนซ์ จะเป็นแนว  ชาติก่อนเราเคยผูดพันกันรึเปล่าหนอ?

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #4 เมื่อ04-06-2010 18:24:58 »

 :mc4:

ชื่อเรื่องน่าสนใจมาก
รอตอนต่อไป

 :L2:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #5 เมื่อ04-06-2010 22:54:28 »

 :3123:

หนูจะเอ้า

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #6 เมื่อ04-06-2010 23:04:56 »




 :mc4:








 :L2: ตอนรับนิยายไหม่

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #7 เมื่อ04-06-2010 23:26:20 »

ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคนค่า
เริ่มเรื่องได้น่าสนใจมากๆเลย ทำให้เราต้องรอลุ้นไปด้วยว่าพี่ช้างมาบอกอะไร
แถมชื่อเรื่องก็น่าติดตามสุดๆ
จะออกแนวลึกลับหรือเปล่า ก็คงต้องติดตามต่อไป
เป็นกำลังใจให้จ้า

NiNETEENTH™

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #8 เมื่อ04-06-2010 23:33:25 »

สนุกดีครับ อยากอ่านต่อเร็วๆ แล้ว


:pig4:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #9 เมื่อ05-06-2010 03:47:44 »

สะดุดตรงเคะในฝันเนี่ยล่ะคะ...

ขอเฝ้าอ่านล่ะนะ :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
« ตอบ #9 เมื่อ: 05-06-2010 03:47:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






puremind

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #10 เมื่อ05-06-2010 07:14:25 »

 รออ่านตอนต่อไปคร๊าฟ  :pig4:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #11 เมื่อ05-06-2010 23:00:07 »

ขอบคุณสำหรับการต้อนรับนะคะ  :pig4:
:mc4:
ตอนที่อ่านอ่ะ ฮามุกนี้มาก “หัวใจพี่ที่อยู่แทบเท้าน้องไงครับ...ฮิ้ววววววววววว ก๊ากกกกก”
ถ้าเป็นวีนะ จะถามว่าจริงหรือคะพี่ งั้นไม่เกรงใจล่ะน่ะ จากนั้นก็ใช้ปลายเท้าขยี้ตรงที่มันชี้นั่นซะเลย :jul3:
เคยแซวรุ่นน้องแบบนี้ค่ะ  แล้วก็ถูกรุ่นน้องไล่เตะ...มันไม่เคยคิดว่าเราเป็นผู้หญิงเลยอ่า  :sad4:
Oh! แค่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจแล้วคับ ดูลึกลับ เย้ายวน ชวนค้นหาดีคับ จัยนะคับ :3123:
โอ้ว....  น่าสนุกค่ะ ชือเรื่องแบบ  ลึกลับ โรแมนซ์ จะเป็นแนว  ชาติก่อนเราเคยผูดพันกันรึเปล่าหนอ?
:mc4:
ชื่อเรื่องน่าสนใจมาก
 :L2:
แถมชื่อเรื่องก็น่าติดตามสุดๆ
จะออกแนวลึกลับหรือเปล่า ก็คงต้องติดตามต่อไป
อย่าคาดเดาว่าชื่อเรื่องมันจะสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเลยนะคะ  ไม่ได้ลึกลับอะไรมากหรอกค่ะ
ตอนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมากำลังคิดว่าการเกิดความรักของผู้ชายกับผู้ชาย  ผู้ชายบางคนเค้าก็รักกันแบบไม่รู้ตัวอ่ะ  เหมือนนั่งมองพระจันทร์ที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกมาจากเมฆ  จนสามารถส่องแสงได้อย่างสวยงามบนท้องฟ้า..เอ่อ...ไม่ต้องเข้าใจก็ได้ค่ะ555+
สะดุดตรงเคะในฝันเนี่ยล่ะคะ...
มันโดนประชดค่ะ555+  แต่ก็จะโดนจับให้เคะอยู่
ต้อนรับนิยายใหม่
:pig4:
สนุกดีครับ อยากอ่านต่อเร็วๆ แล้ว
:pig4:
รออ่านตอนต่อไปคร๊าฟ  :pig4:
เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ
จิ้มบวกขอบคุณทุกคนค่ะ
 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #12 เมื่อ05-06-2010 23:08:08 »

^
^
จิ้มบวกเป็นกำลังใจให้เรื่องใหม่ค่ะ ชอบชื่อเรื่องจังเลย ^^

fungfung

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #13 เมื่อ06-06-2010 04:44:26 »

เข้ามาจิ้มเรื่องใหม่ด้วยคน
มาต่อไวๆ น้ารออยู่  :mc4:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #14 เมื่อ06-06-2010 05:07:35 »

อ้างถึง
อย่าคาดเดาว่าชื่อเรื่องมันจะสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเลยนะคะ  ไม่ได้ลึกลับอะไรมากหรอกค่ะ
ตอนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมากำลังคิดว่าการเกิดความรักของผู้ชายกับผู้ชาย  ผู้ชายบางคนเค้าก็รักกันแบบไม่รู้ตัวอ่ะ  เหมือนนั่งมองพระจันทร์ที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกมาจากเมฆ  จนสามารถส่องแสงได้อย่างสวยงามบนท้องฟ้า..เอ่อ...ไม่ต้องเข้าใจก็ได้ค่ะ555+

หวังว่าตอนจบเรื่องนี้คงไม่ใช่ เมฆฝนขยายตัวบดบังเเสงจันทร์ นะคะ

ไม่อยากให่เศร้าเลยจริงๆ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: ดั่งจันทราซ่อนกายในเงามืด
«ตอบ #15 เมื่อ06-06-2010 05:45:38 »

+1 เป็นกำลังใจเรื่องใหม่

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ตอนที่  2


ผมนั่งกอดเข่า  มองออกไปอย่างไม่มีจุดหมายอย่างนี้มากี่นาที  กี่ชั่วโมงแล้วนะ

มองไปทางไหนผมก็เห็นแต่ท้องทุ่งนาสีเขียวสด  ลมพัดเย็นสบาย

แต่มันไม่ทำให้ใจผมรู้สึกสบายไปด้วยเลยจริง ๆ      

ทุ่งนาผืนใหญ่กว้างสุดลูกหูลูกตาผืนนี้...มันเคยเป็นของตา  

แต่ตอนนี้...นาที่ตารัก  ที่เคยดูแล  และทำหาเลี้ยงผมมาผืนนี้มันกำลังจะเป็นของผม

ผม...ที่เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของตา

ใช่ครับ...ผมเป็นหลานชายคนเดียว  ...และเป็นญาติที่ยังอยู่เพียงคนเดียวของตา  

ตาเล่าให้ฟังว่าตาไม่ใช่คนที่นี่  แต่ทวดมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่  แล้วตาเองก็ไม่รู้จักใคร   ญาติสนิทที่ยังติดต่อได้ก็ล้มหายตายจากกันไป  ตัวตาแต่งงานมีครอบครัวก็ไม่ได้กลับไปบ้านเกิดอีกเลย  จนมามีแม่กับน้า  ยายก็มาด่วนจากไปอีก  แต่ตาก็เลี้ยงแม่กับน้ามาจนโตได้อย่างดี  

ตาบอกว่าร่างกายแม่ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนท้องผมหมอก็ให้อยู่ในความดูแลของหมอตลอด  แม่คลอดผมออกมาแบบสมบูรณ์  น้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐานก็จริง  แต่ร่างกายแข็งแรงดี  ตัวแดงแจ๋  แล้วก็ร้องไห้ลั่นห้องคลอดเลย

ตอนที่ตานั่งรออยู่หน้าห้องคลอด  ข้างนอกมีฝนตกมาปรอย ๆ ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง พยาบาลเข็นแม่กับผมออกมาพอดี  ตาเลยตั้งชื่อผมว่า “พิรุณ” เรียกผมเล่น ๆ ว่า พิ   (แม่ผมชื่อพระพาย น้าชื่อโย มาจากวาโย  ชื่อมาจากลมเหมือนกัน)แม่ผมหลังคลอดผมก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ เรื่อยมา  ด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่แรก  ท่านสิ้นลมตอนผม 2 ขวบพอดี  

น้าโย...ตาไม่เคยพูดถึงเลย  ผมรู้จากพี่ ๆ คนงานว่าน้าเป็นผู้ชายที่เก่ง   กล้า  และอ่อนโยน  แต่ทะเลาะกับตาอย่างหนักเลยออกจากบ้านไปตั้งแต่ผมยังไม่เกิด  รูปถ่ายซักใบผมก็ไม่เคยเห็น

ส่วนพ่อ...ตาไม่ค่อยพูดถึงบ่อยนัก ทุกครั้งที่ผมถามถึง ตาจะตอบว่า

“พ่อเอ็งมันไปมีแม่ใหม่แล้ว อยู่กับตานี่แหละลูก ไม่ต้องกลัว
ตาเป็นพ่อเป็นแม่ให้เอ็งได้  ไม่ให้หน้าไหนมันมาว่าได้ทั้งนั้นล่ะ”    

ตาเลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมจำความได้  ผมไม่เคยรู้...ว่าครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมันเป็นยังไง  

มันเป็นแค่นิทานก่อนนอนสำหรับผมเท่านั้น...

ไม่เคยร้องเพลง  เล่นกีตาร์  เตะบอลหน้าบ้านกับพ่อ  

ไม่เคยช่วยแม่ทำกับข้าว  ล้างจาน  ตากเสื้อผ้า...  

ผมมีแต่ตา...ที่คอยกอดผมก่อนไปโรงเรียน  ห่มผ้าให้ผมตอนนอน  สอนผมปั่นจักรยานตอน ป.2  
ตาเป็นทุกอย่างให้ผมได้จริง ๆ  ผมไม่เคยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา  ตาบอกผมเสมอว่า...

“พิ  เอ็งเป็นของขวัญที่พระพายมันให้ตาไว้  ตารักเอ็งเหมือนลูก...ตั้งใจเรียนนะพิ  ตาให้เงินทองกับเอ็งได้  แต่ตาให้ความรู้ติดตัวเอ็งไม่ได้  เอ็งต้องไขว่คว้าเองนะลูก”

ผมตั้งใจเรียน  ขวนขวายสิ่งที่คิดว่ามันเป็นประโยชน์กับตา  ไม่ว่าจะเป็นการทำปุ๋ยหมักเอง  การทำยาฆ่าแมลงจากพืชธรรมชาติ  หรือแม้แต่การทำยาสมุนไพรกินเอง  ผมรักตา  ตาเป็นทุกอย่างของผม  ตาให้ทุกอย่างได้ไม่ว่าจะเป็นรถ (กระบะตอนเดียว  มือสอง  แต่อุตส่าห์ดีดสูงทำโฟร์วีลให้ผม)เอาไว้ไปดูนาแทนตา  บ้าน(ไม้ชั้นเดียวยกสูง  ใต้ถุนบ้านลมโกรกตลอดเวลา)ของตา  อย่าคิดว่ามันเป็นบ้านหลังเล็กนะครับ หึหึ  ผมล่ะเกลียดวันส่งท้ายปีจริง ๆ  มันเป็นวันทำความสะอาดครั้งใหญ่ของที่บ้าน  แต่ผมไม่เคยทำความสะอาดเสร็จในวันเดียวซักปีครับ  ขนาดว่ามีลูกน้องตามาช่วยทำนะครับ  

นึกแล้วก็อดยิ้มไม่ได้  ลูกน้องตาอายุมากกว่าผมก็หลายคนครับ  แต่พวกเค้ากลับเรียกผมว่าลูกพี่บ้าง  พี่พิบ้าง  แรก ๆ ผมก็เขิน ๆ แต่ตอนนี้ชินซะมากกว่า

“พี่พิ!!!  ตา... ตา” เจ้าอินวิ่งกระหืดกระหอบมาทางผม  ผมผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“ตาทำไม?  ตาเป็นอะไร!!!” คาดว่าผมคงเสียงดังไปหน่อย  อินมันหน้าเสียไปนิดหนึ่ง

“ตาให้มาตามเฉย ๆ  ครับพี่พิ  .....” ผมมองมัน  ประกายตาของเด็กมันสื่อว่ามันไม่ได้ตั้งใจ  ผมจะทำไรมันลงล่ะครับ

“พี่จะเข้าบ้านใหญ่  อินจะไปด้วยรึเปล่า...เอ้า!!! ถ้าไปก็ขึ้นมาเลย  วิ่งมาไม่ใช่เหรอเรา...
เหม่ออะไร  ตัวแค่นี้หัดเหม่อแล้วเหรอเรา  เร็วเข้า” อินเป็นลูกชายของพี่ช้างครับ  ปีนี้ก็  13  พอดี  เสียงมันกำลังแตกเลยครับ  ชอบพูด  ชอบคุย  ยิ้มเก่งครับ  

แต่ทุกอย่างไม่เคยเกิดกับผมเลย  พูดติดอ่างเวลาคุยกับผม  คุยกันไม่ถึงประโยคก็หลบหน้า  ยิ้มก็เหมือนแค่นยิ้ม  มันอะไรครับ!!!

อินนั่งเงียบมาตลอดทาง  ผมนึกสงสารน้องมันนะครับ ต้องทนฝืนนั่งกับคนที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้า  ผมเองก็เห็นว่าน้องมันอุตส่าห์วิ่งมาตามเรา  ก็เลยชวนมาด้วยกัน  แต่ดันลืมคิดไปว่าน้องมันต้องอึดอัด  เฮ้อ..เอาเถอะ  ทางมันก็ไม่ได้ไกลมาก  เดี๋ยวก็ถึงแล้ว  ผมจอดรถที่โรงรถเสร็จก็กำลังจะลง  เหลือบไปมองคนข้าง ๆ เพราะเห็นว่ายังไม่ขยับตัวไปไหน  ก็เห็นว่าน้องมันมองผมอยู่  ผมมองตอบมันก็ทำท่าอึกอัก...แล้วก็รอว่าน้องจะพูดอะไร

“ขะ ขอบคุณครับพี่พิ”ผมยังไม่ทันตอบอะไรอินมันก็พรวดพราดลงจากรถไปแล้ว  ผมได้แต่ส่ายหัวกับความบ๊องของเด็กมัน
  
เห็นบ้านแล้วก็นึกไปถึงเมื่อวานที่พี่ช้างไปหาผมที่โรงเรียน
.
.
.
.
.
.
“พี่ไม่มีอะไรหรอกพิ  แต่ที่มีน่ะ...ตา  

ฟังดีดีนะพิ  ตาเป็นลม  ตอนนี้อยู่ ร.พ.”

...ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมมาถึง รพ. ได้ยังไง  มันเคว้งไปหมด  พี่ช้างบอกว่าลาอาจารย์ให้แล้วก็รับผมมา ร.พ. เลย  แกคิดอยู่ว่าผมจะตกใจแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้  แววตาเหมือนคนสิ้นหวัง  ไม่เหลือประกายความสดใสของเด็กอายุแค่  15  เลย  

ดีว่าตาไม่เป็นไรมาก  หมอบอกว่าความเครียดประกอบกับอากาศร้อนจัดเลยทำให้เป็นลมไปเท่านั้น

ผมได้แต่นั่งจับมือตาไว้ไม่ยอมปล่อย  

ตัวตายังอุ่นอยู่  หัวใจยังเต้น  ยังมีลมหายใจ  

ตายังไม่ไปไหน  

ยังอยู่ตรงนี้...







ยังอยู่กับผม  


...................................


เอาครึ่งแรกไปอ่านก่อนนะคะ  
ส่วนครึ่งหลัง...คืนนี้เอามาเสิร์ฟให้ค่ะ

ขอบคุณ  JJHJJH, fungfung, Tifa, Little Devil  สำหรับกำลังใจค่ะ...
ส่วนตอนจบ...คนแต่งก็ไม่ชอบเรื่องเศร้าค่ะ
จิ้มบวกขอบคุณกลับนะคะ
 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2010 10:28:43 โดย jira »

puremind

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่  2


ผมนั่งกอดเข่า  มองออกไปอย่างไม่มีจุดหมายอย่างนี้มากี่นาที  กี่ชั่วโมงแล้วนะ

มองไปทางไหนผมก็เห็นแต่ท้องทุ่งนาสีเขียวสด  ลมพัดเย็นสบาย

 :pig4:

ชอบจังบรรยากาศแบบนี้  อ่านแล้วนึกภาพออกเลย  ยิ่งอากาศเย็นๆ   ฟ้าสลัว  ลมพัดเบาๆ
 นั่งใต้ร่มไม้หรือใต้เถียงนา ได้บรรยากาศมาก น่านอนที่สุด   :t3:อิอิ        :pig4:ครับ
 

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
พิไม่ธรรมดานะเนี่ย...
อ่านแล้วไม่เหมือนเด็ก 15 ต้องรับภาระอะไรเยอะแยะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
อ่านแล้วแอบเศร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






salapaw

  • บุคคลทั่วไป
รอครึ่งหลังค่ะ

ชอบที่บรรยายเกี่ยวกับตา แต่บทแรก รู้สึกว่ามึนนิสหน่อย เหอะๆๆ
+ยังไม่ได้เอา :3123: ไปก่อนนะคะ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
.
.
.
พอตาฟื้นแกก็รีบโอนที่ให้ผมเลยครับ  ผมก็ทานไว้ก่อนเพราะตอนนี้ผมแค่เด็กอายุ  15   วุฒิภาวะอะไรก็ยังไม่มี  อย่างเดียวที่เด่นคือโตกว่าเด็กทั่วไปเท่านั้นเอง  ไม่ใช่แค่รูปร่าง...แต่รวมไปถึงการใช้ชีวิต  ความรับผิดชอบ  อะไรหลาย ๆ  อย่างมันทำให้ผมต้องโตกว่าเด็กทั่วไป  อ่อ...แล้วขนผมก็ขึ้นก่อนคนอื่นนะครับ  หึหึ

เดินขึ้นบ้านมาก็มองหาตาก่อนเลยครับ  

ตานั่งเหม่อ...มองออกไปนอกหน้าต่าง  

ผมรู้แล้วครับว่าผมถอดแบบมาจากใคร  ก็ผู้ชายที่เข้มแข็ง  ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ คนนี้ไงล่ะครับ

“อ้าว...ให้เจ้าอินมันไปตามตั้งนานละ  พิไปอยู่ไหนมาล่ะ”ผมสวมกอดตาแล้วก็นั่งค้างอยู่บนพนักพิงอย่างนั้น

“ดูรวงข้าวข้างบ้านมาน่ะตา  พิได้ยินแม่ค้าในโรงอาหารเค้าพูดกันว่าเพลี้ยมันลงหนัก  ก็เลยดูของเราบ้างว่ารวงมันลีบ  หรือใบข้าวหงิกรึเปล่าน่ะครับ”ตามองผมนิ่งนาน  แล้วเอื้อมมือกอดผมตอบ

"เหนื่อยมั้ยลูก...ลูกบ้านอื่นเค้าได้เที่ยว  ดูหนัง  แต่พิของตากลับต้องมาเดินดูข้าว  คอยคุมคนหว่านปุ๋ย  บางทีต้องลงฉีดยาเอง  ไปเที่ยวบ้างก็ได้นะลูก” ผมยิ้ม  กระชับกอดให้แน่นขึ้นอีก

"พิจะเหนื่อยได้ไง  ตอนตาอายุเท่าพิ  ตาเคยท้อรึเปล่าครับ  
พิเป็นหลานตาต้องเก่งเหมือนตาสิ  พิไม่อยากเที่ยว ไม่อยากดูหนังเหมือนเด็กบ้านอื่นหรอกครับ  
เดี๋ยวนี้มันมีอินเตอร์เน็ตนะตา  อยากดูหนังก็ดูในเน็ตได้  
ส่วนเที่ยวน่ะเลิกเรียนตอนไปส่งไอ้เต๋าก็เที่ยวบ้านมันได้  บ้านมันเป็นห้างนะตา  พิเห็นจนเบื่อละไม่อยากเดินให้เมื่อยน่อง  มีแต่พวกมันน่ะอยากมาเที่ยวบ้านเรา  ก็ตาพิทำสวนสวยแล้วก็มีของให้เล่นเยอะนี่  พิจะอยากไปไหนทำไมในเมื่อบ้านเราดีที่สุดแล้ว” ตายิ้ม  ยิ้มของตาเป็นฝนที่ตกลงมาให้ผมได้ชื่นใจเสมอ  ผมมักจะแทนตัวเองด้วยชื่อครับ  นอกจากตาจะเป็นคนตั้งให้  ตายังบอกอีกว่าการเรียกชื่อตัวเองทำให้จิตใจอ่อนโยนและมันก็เหมือนผมยังเป็นพิตัวน้อยของตาด้วย  ผมแทนชื่อตัวเองแบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าจะต่อหน้าใคร  ผมไม่เคยอายครับ

 นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่  ป้าอรก็มาตามให้ไปทานข้าว  ตาเองก็ต้องทานยาให้ตรงเวลาตามที่หมอสั่ง  

ป้าอรเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านนี้เลยครับ  ตั้งแต่สมัยยายยังอยู่ป้าอรก็มาช่วยทำกับข้าวเลี้ยงคนงาน  จนเดี๋ยวนี้ป้าอรก็ยังทำเลี้ยงคนงานอยู่เหมือนเดิม  แต่ก็มีลูกมือช่วย 4 – 5  คน  เจ้าอินก็เป็นหนึ่งในลูกมือครับ

 "ป้าอรครับ  ทำไข่เจียวหมูสับเพิ่มอีกอย่างด้วยนะครับ  เดี๋ยวเพื่อนพิจะมาทานข้าวแล้วก็จะค้างด้วย” ป้าอรเค้ารู้ครับว่าไอ้พวกนี้มันกินกันจุขนาดไหน  ข้าวนี่ต้องหุงเผื่อเป็นหม้อเลย

เสียงรถจอดหน้าบ้านแบบนี้คงมากันแล้วล่ะครับ  นั่นไง...ไอ้วินต้องเดินกอดป้าอรนำมาก่อน  ตามด้วยไอ้ก้อง  ไอ้เต๋า  ไอ้อ๋อง  และปิดขบวนด้วยชายซึ่งถือกระเป๋าของทุกคนอีกที  

ชายมันชอบเอาใจเพื่อนครับทั้งที่บ้านมันไม่ได้เลี้ยงให้มันต้องมาคอยซับพอร์ทใครแบบนี้  บ้านมันเป็นโชว์รูมรถครับ  นำเข้ารถนอกเท่านั้น  รวยมาตั้งแต่รุ่นทวดแล้วมั้ง  ถึงได้เรียกกันคุณชายแบบไม่กระดากไงครับ

“สวัสดีครับ  ตาเป็นไงบ้างครับ  
พิไม่ยอมบอกว่าตาไม่สบายพวกเราเลยไม่ได้เยี่ยมตาที่ ร.พ.  
พวกผมเอาของมาฝากด้วยครับ  ดีกับสุขภาพนะครับ  ลดความดัน  แล้วก็ไม่มีน้ำตาลด้วย
นี่พวกเราปรึกษาว่าที่หมอมาแล้วนะครับ” ไอ้เต๋าพูดจ้อเลยครับ  ผมบอกคุณรึยังว่ามันน่ะ...เต๋าสตรอว์เบอร์รี่  ส่วนว่าที่คุณหมออย่างอ๋องก็ได้แต่ยิ้มครับ  มันไม่เคยพูดทันใครเค้าหรอก  อ๋องไม่ได้ชอบหรืออยากเป็นหมอนะครับ  แต่บ้านมันเป็นโรงพยาบาลน่ะครับอยู่ในเมืองโน่น  ไม่ใช่ที่พาตาไปรักษานะครับคนละที่กัน  ที่พาตาไปเพราะมันใกล้บ้านที่สุด  เอกชนแต่ค่ารักษาไม่ได้แพงเท่าไหร่  เร็วดีด้วยครับ..อ๋องกูไม่ได้ว่าบ้านมึง  ดูมองเข้า

“ขอบใจมาก  แต่วันหลังเอาแต่ตัวมาเยี่ยมก็พอนะลูก  ตามสบายนะเด็ก ๆ  เดี๋ยวตาขอตัวไปนอนก่อน”ผมพยุงตาลุกขึ้น  ก่อนจะเข้านอนต้องสวดมนต์ก่อนแล้วค่อยเข้านอน  แต่วันนี้แปลกครับสวดมนต์แล้วยังไม่ยอมนอน  ตาบอกให้ผมเปิดตู้หนังสือแล้วก็หยิบห่อกระดาษในซอกเล็ก ๆ ออกมา  ผมยื่นให้ตาแต่ตากลับไม่ยื่นมือมารับห่อกระดาษ  ผมเลยเปิดออกดูเอง

ในห่อนั้นมีรูปกับจดหมายเก่า ๆ หลายฉบับครับ  มีรูปขาวดำของผู้ชายคนหนึ่ง  ยืนกอดคอเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายเอาไว้  ในภาพนี้บ่งบอกถึงความสุขได้เป็นอย่างดี  ทั้งสามคนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าทุกคน  ผมเองยังยิ้มตามเลยครับ  ผมรู้จักคนในรูปสองคน  เด็กสาวผมว่าต้องเป็นแม่  ส่วนผู้ชายที่ยืนตรงกลางต้องเป็นตา  แต่เด็กผู้ชายคนขวามือนี่สิ  ผมไม่เคยเห็นมาก่อน...หรือว่า

“ใช่...นั่นน่ะ  น้าโย......  
ตาเหลือรูปใบนี้ใบเดียวเท่านั้น  นอกนั้นตาฉีกทิ้ง  เผาไปบ้างก็มี”ตายิ้มขื่น  ก่อนจะเล่าต่อ

“พิ... น้าโยน่ะนิสัยเหมือนยายไม่มีผิด  ใจร้อน  มุทะลุไม่มีใครเกิน”...ผมก็เหมือนกันครับตา

“มีเรื่องมีราวไม่เว้นแต่ละวัน  แต่ก็ไม่เคยถึงกับต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเลยซักครั้ง  ผิดเป็นผิด  ถูกเป็นถูก  แถวนี้ไม่มีใครเกลียดมันลงซักคน  เค้ารู้กันทั่วว่ามันเป็นคนดี...” อ่อ...นิสัยแบบนี้ผมได้มาจากยายกับน้าโยนี่เอง

ยามที่ตาพูดถึงน้าโย  ตาดูมีความสุขมาก  ตาเว้นช่วงไปพักใหญ่  ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา...แต่คราวนี้ยิ้มของตามาพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

“ตั้งแต่ทะเลาะกันครั้งนั้น  มันก็ผลุนผลันออกจากบ้านไป  เสื้อผ้า  ของใช้ซักชิ้นมันก็ไม่เอาติดตัวไป
 
โยมันจดหมายมาหาตาหลายฉบับ  แต่...ตาเผาทิ้งทั้งหมด  ไม่เคยเปิดอ่านแม้แต่ฉบับเดียว
 
แม่เอ็งเค้าก็เลยแอบเก็บจดหมายเอาไว้เอง  แล้วก็เขียนตอบกันโดยที่ตาไม่รู้
 
โยมันไปอยู่กับเพื่อนมันที่กรุงเทพ  ทำงานหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
 
ส่งมาให้แม่เอ็งใช้ก็หลายครั้งแต่แม่เอ็งก็เก็บหอมรอมริบไว้  หวังจะให้มันเอาไว้ใช้ตอนแก่เฒ่า
 
จนแม่เอ็งคลอดเอ็งออกมา  แล้วก็เสียไปแล้วนั่นล่ะตาถึงได้รู้ว่าโยมันติดต่อกับพระพายตลอด
 
จดหมายฉบับสุดท้ายของโยเพิ่งหยุดไปเมื่อวันก่อนนี่เอง”ตาเล่าเรื่องน้าโยต่อ  โดยไม่คิดจะเช็ดน้ำตา

“หึหึ  ตาสวมรอยเป็นพระพายมาสิบกว่าปี  

ตาคิดว่ามันคงไม่รู้ว่าพระพาย...แม่เอ็งมันเสียแล้ว
 
แต่เปล่าเลยลูก.....

โยรู้มาตลอดว่าคนที่ตอบจดหมายเป็นตาไม่ใช่แม่เอ็ง
 
จดหมายฉบับสุดท้ายมันเขียนบอกตาว่าถ้าตาได้รับจดหมายฉบับนี้โยคงไม่มีลมหายใจแล้ว  

โยติดเหล้า  กระเพาะทะลุเพราะดื่มเหล้าหนักมานานมาก...หมอรักษาไม่ได้แล้ว

กราบเท้าขอโทษที่ไม่เคยได้ทดแทนคุณตากับยาย

ขอให้ตายกโทษ..อโหสิกรรมให้  ชาติหน้า...ขอเกิดมาทดแทนคุณเป็นพ่อเป็นลูกกันอีกชาติ”ตาสะอื้นไห้  ก่อนจะพูดต่อ

“ตาขอโทษพิ  ถ้าตาไม่ทิฐิมาก  ยอมฟังที่น้าโยพูดบ้างเรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก  พิคงมีครอบครัวที่เหมือนคนอื่นเค้า  มีคนคอยให้ปรึกษา  มีคนคอยดูแล...”ผมไม่รอให้ตาพูดจบ

“ตาอย่าพูดแบบนี้...ตาไม่เคยทำให้พิรู้สึกน้อยใจอะไรเลย

ตาเติมให้จนเต็ม  ทุกวันนี้พิมีความสุขมากอยู่แล้ว

ไม่ได้อยากได้คนมาคอยให้ปรึกษาหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ตากำลังคิด  

พิรักตานะครับ  คนเรามันเดินผิดพลาดกันได้   แต่พิรู้...ว่าน้าโยเองก็เสียใจไม่ต่างกับตา

แล้วน้าโยเองก็รู้มาตลอดว่าตายังรักแล้วก็เป็นห่วงน้าโย  น้าโยต้องมีความสุขอยู่กับแม่บนสวรรค์แน่ครับ”ผมกับตากอดกันแน่น  ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกของตา...และระดับการเต้นของหัวใจที่เริ่มเป็นปกติ  

ผมกลั้นใจถามตาในสิ่งที่คาใจผมมาตลอดออกไป






“ตา...ทำไมน้าโยถึงหนีออกจากบ้านล่ะครับ?”





......................................................
  


ก็ยังค้างอยู่ดี555+
จิ้มบวกขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
นั่งโพสต์นิยาย  ดูไฟอมตะไปด้วย...มันเศร้าดีจริง ๆ
เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ

ตอบคุณ puremind  มีนาหลังบ้านประกอบการจิ้นค่ะ  ลมเย็นมาก  ยิ่งตอนเย็น ๆ นี่ยิ่งชื่นใจค่ะ
            fuku         เพราะต้องช่วยตาทำงานตั้งแต่เด็ก  เลยกลายเป็นเด็กที่มีความคิดมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกันค่ะ...ซึ่งมันห่างไกลกับตัวคนแต่งราวฟ้ากับเหว555
          JJHJJH      อยากลองแต่งว่ามันจะเศร้ามั้ย...ขอบคุณที่เข้าถึงค่ะ
            salapaw    ครึ่งหลังก็ยังเป็นตาอยู่ค่ะ  บทแรกดูงงใช่มั้ยคะ  จะได้เอามาปรับปรุง  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2010 10:06:12 โดย jira »

ออฟไลน์ Ayame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ แต่มีเค้าว่าจะดราม่าตั้งแต่ตอนแรกๆซะแล้ว  :เฮ้อ:

ยังอยากรู้อยู่ดีว่าชายหนุ่มที่สูงกว่าพิคนนั้นเป็นใคร

รอตอนต่อไปค่า  :mc4:

ออฟไลน์ Red_sister

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
สวัสดีนิยายเรื่องใหม่นะ
 เพิ่งเข้ามาอ่านอ่ะชอบมากๆที่บอกว่าเคะในฝัน 555 น่ารักอ่ะ เป็นแฟนนิยายตอนนี้ยังทันไหม?

Laxxeez

  • บุคคลทั่วไป
สิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วในอดีต แต่ถ้ามันเปลี่ยนมาเป็นบทเรียนสอนใจได้ในวันนี้ ก็นับได้ว่าไม่ได้ผิดพลาดไปเสียเปล่านะคับ อบอุ่นดีจังถึงจะมีแค่ตากับพิก็เถอะ :กอด1:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ไหนว่าไม่ชอบเรื่องเศร้าจ๊ะ

ซิกๆ เเต่เดี๋ยวคงดีเนอะ ชิมิ

fungfung

  • บุคคลทั่วไป
ดราม่าไหมเนี่ยบอกเพื่อให้ทำใจนิดนึง

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคน
มาถึงก็กินมาม่ากันเลย เหอแ ดราม่าซะ
แต่ชอบนะ บรรยายได้เหงา เศร้าๆดีจัง
ปล. + ให้เรื่องใหม่ด้วย

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วก็ซึ้งปนสุข รักคุณตา รักพิ รักเพื่อนๆของพิด้วย
จะรอตอนต่อไปนะคะคุณjira

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3


ตอนที่  3



ตัวตากระตุกไปนิดหนึ่งหลังจากที่ฟังผมถามออกไป...

นั่งนิ่งอยู่นาน...

“ไม่เป็นไรครับตา...พิแค่สงสัยเท่านั้น  ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไรครับ”...ตาไม่ตอบอะไรผม

“นอนเถอะครับตา  มันดึกมากแล้ว  พิจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าตาจะหลับนะครับ”พอล้มตัวลงนอน  ตาก็แทบจะหลับทันทีเลยครับ  คงเพลียมาทั้งวันและยังร้องไห้อีก

ผมดึงผ้าห่มผืนบางมาคลุมให้ตาถึงอกก่อนจะเดินออกไปเงียบ ๆ

ถ้าเมื่อไหร่ตาพร้อมก็คงจะบอกผมเอง...ในสักวัน

ดึกป่านนี้ไอ้ลิงทโมนทั้งหลายคงบุกห้องผมไปแล้วแน่ ๆ

ผมย่องเอาหูแนบกับประตูหน้าห้อง  ได้ยินเสียงคุยกันแว่ว ๆ เลยผลักประตูห้องซึ่งเป็นไม้เข้าไปอย่างสุดแรง

“เฮ้ย!!/ เหี้ย!!/ สัตว์!!”  ภาพที่ปรากฎต่อสายตาคือ...

ไอ้วินโดดขึ้นเตียง

ไอ้อ๋องตกเก้าอี้

แต่ที่หนักสุด...

ไอ้ชาย  คุณชาย...โดดกอดคอไอ้ก้อง  ซึ่งช่วงตัวเตี้ยกว่ามัน

หัวไอ้ชายโขกเข้าปลายคางไอ้ก้องก่อนจะหงายหลังลงไปทั้งคู่

ไอ้ชายลุกมานั่งกุมหัว

ไอ้ก้องนอนนิ่ง...แทบสลบ 

ส่วนผมกับไอ้เต๋า...ขำกลิ้งในสภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ555+
.
.
.
“ถ้ากูสลบไปจริง ๆ  กูฟื้นขึ้นมาจะตุ๋ยตูดมึงก่อนเลยไอ้พิ!!!!  มึงจะโดนคนต่อไปไอ้เต๋าเสือกหัวเราะเยาะกู  อูย...” ไอ้ก้องสบถด่าแล้วจับคางตัวเองป้อย ๆ  ผมยิ้ม ๆ เดินเข้าไปพร้อมหลอดยา  ดึงมือมันออกแล้วมองหาร่องรอยความเสียหาย  จับพลิกซ้ายพลิกขวาก็ไม่เจออะไรนอกจากรอยแดง ๆ  ตรงปลายคาง

“ไม่เกิดความเสียหาย  อืม...มีรอยแดงนิดหน่อย มึงกลั้นหายใจทำไมไอ้ก้อง...ปากกูเหม็น?”ผมถามพร้อมจ้องตามัน  ไอ้นี่ก็หลบตาอย่างรวดเร็ว  เบี่ยงตัวหลบผมอีกต่างหาก

“เป็นไร?  โกรธเหรอ  กูขอโทษ...ชายมึงมาขอโทษพร้อมกูเลย  มึงทำมันเจ็บอ่ะ”ผมดึงแขนไอ้ชายมาหวังจะให้มันมาง้อพร้อมกับผม  ไอ้นี่ก็ดันสะบัดแขนหนีผมอีก

“เป็นอะไร...”มันเงียบกันหมด  ผมก็นิ่งบ้าง...

“...ถามว่าเป็นอะไร  พวกมึง...โกรธกูเรื่องอะไร”ไม่มีเสียงตอบจากใคร  ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ  ผมได้ยินแต่เสียงลมหายใจเท่านั้น  เหมือนทำสงครามประสาท...ใครที่ทนความกดดันไม่ได้ก็ต้องโพล่งออกมาก่อน
 
แล้วก็มีคนที่ทนไม่ได้อีกต่อไป

“มึงไม่รู้จริง ๆ  หรือมึงไม่เคยสนใจห๊ะ!!!!”ไอ้เต๋าปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อผมเข้าหาตัวมัน  ก่อนจะด่าผมอีกชุดใหญ่

“เมื่อวานจู่ ๆ มึงก็ไม่เข้าเรียน  กลับบ้านหรือไปไหนก็ไม่บอกใคร

ติดต่อก็ไม่ได้  พวกกูโทรหามึงเป็นร้อยสายก็ไม่รับ

ถ้าไอ้อ๋องไม่โทรเข้าบ้านพวกกูก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

คิดไปต่าง ๆ นานา  ถ้ามึงถูกยำตีนโดยที่พวกกูไม่อยู่กันซักคนมึงจะเป็นยังไง

มึงคิดบ้างมั๊ยว่าทุกคนเป็นห่วงมึง...

มึงยังเห็นพวกกูเป็นเพื่อนมึงรึเปล่าไอ้พิ!!!!”!!!!”...ผมพูดหรือเถียงอะไรไม่ออก...เมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดของเต๋า  และของเพื่อน...เพื่อนผมทุกคน

“...กูขอล่ะ  มึงอย่าหายตัวไปแบบนี้  มึงอย่าทำแบบนี้อีก...”  เต๋าปล่อยคอเสื้อผมแล้วแต่เลื่อนมือมาจับชายเสื้อแทน  ซบหน้าลงกับบ่าผม  แรงสะอื้นของเต๋าทำให้หัวใจผมแทบระเบิด  ผมไม่เคยคิดว่าพวกมันจะเป็นห่วงผมขนาดนี้ 

ผมผิดเอง

“...ขอโทษ  กูขอโทษ

กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูไปถึงโรงบาลได้ยังไง

กูไม่รู้ว่ามีใครโทรหา...มีใครเป็นห่วง

ต่อไปกูจะมีสติ  จะบอกพวกมึงก่อน...

ไม่ว่าเรื่องอะไร

พวกมึงต้องรู้ก่อนใคร

อย่าร้องไห้สิวะ...วินร้องตามมึงเห็นมั้ยเนี่ย”  เต๋าเงยหน้ามามองผมแล้วหันไปมองรอบ ๆตัว 

“มึงสัญญาแล้วนะพิ...จำด้วย”ผมพยักหน้าเบา ๆ เต๋าเอาหน้าถูเสื้อผมเพื่อเช็ดน้ำตา...เรายิ้มให้กัน  ผมหันไปมองรอบตัวแล้วกางแขนออกทั้งสองข้าง  วินเดินเข้ามาก่อนใครพร้อมกับปล่อยโฮกอดผมแน่น  เต๋ายิ้มแล้วกอดพวกเราอีกที  คนอื่น ๆ ทยอยเดินมากอด  แต่...ชาย  ไอ้ชายตบหัวผมอย่างแรงครับ  ดัง ‘ปั่ก’
ผมร้อง ‘อุ๊ก’  โห...ขี้เลื่อยสะท้านอ่ะ  แต่มันก็กอดอยู่ดี
ชาย...กูจะคิดค่ากอดเป็นสกายคิกเข้ายอดหน้ามึง  ตบมาได้...เจ็บชิบหาย

ผมไม่เคยคิดว่าความรักที่เพื่อนคนนึงจะมีให้กันมันมากได้ขนาดนี้ 

ความอบอุ่นนั้นมันค่อย ๆ ซึมลงมาในหัวใจผมอย่างช้า ๆ

ผมกระชับกอดแน่นขึ้นอีกจนไอ้วินที่อยู่ในสุดร้องประท้วง  ถึงได้ผละออกจากกันและหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข

ผมได้รับความรักจากตา  ซึ่งเป็นคนในครอบครัว  เป็นธรรมดาที่ต้องรัก  ผูกพัน  และมีแต่ความหวังดี  ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนอะไร

แต่ผมไม่เคยคิดว่าความรักจากเพื่อน  ที่ไม่ใช่คนในครอบครัว 

ไม่ได้มาจากสายเลือดเดียวกัน...

มาจากคนละที่...ต่างสังคม

มันจะแน่นแฟ้น  ไม่ต่างจากความรักของคนในครอบครัวเดียวกันเลย

ผม...พวกมัน  พวกเรา...แค่มองตาก็รู้ครับ  ไม่จำเป็นต้องสื่อสารกันด้วยคำพูดด้วยซ้ำ

และมันจะเป็นสายใยที่ไม่มีวันขาดออกจากกันได้


 

ผมหวังไว้อย่างนั้นนะครับ

.
.
.
.

ห้องผมกว้างพอที่ผู้ชายล่ำ ๆ 6  คนจะอัดกันได้ครับ  ของใช้  เครื่องใช้ไฟฟ้ามีครบแต่ก็เป็นธรรมดาที่มันจะรกบ้าง

“พิ...ทำไมเป็นก้อนกลมขนาดนี้วะ  มึงเช็ดไรมาเนี่ย?”ผมมองตามเสียงเรียกของวิน

“...วินลองดมดิ๊  มีกลิ่นอะไรเปล่า?”ไอ้อ๋องบอกหน้าตาย 

วินขมวดคิ้วเล็กน้อย เอียงคอมองกระดาษทิชชู่ด้วยใบหน้าสงสัย  พอไอ้วินยกมาดม...กำลังจะถึงจมูก  ไอ้ก้องรีบผลักข้อมือไอ้วินทันที  ส่งผลให้ทิชชู่เช็ดคราบน้ำตาของพิน้อยเมื่อคืนทาบเต็มจมูกไอ้วินพอดิบพอดี 

เต๋าเห็นแบบนั้นก็รีบปรี่เข้าไปช่วยไอ้วินอีกทาง...คือกดทิชชู่ลงให้แนบสนิทกับใบหน้าที่สุด

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” วินดิ้นขลุกขลักโดยมีอ๋องกอดไว้แน่น  เป็นผมเองล่ะครับที่ทนเห็นไอ้วินมันตรวจสอบหลักฐานการทำร้ายร่างกายไม่ไหว  ต้องเข้าไปแยก...แต่พอแยกได้แล้วแทนที่มันจะขอบใจผม  มันกลับโดดเตะผมซะอย่างนั้น  เพื่อเป็นการระบายแค้นผมเลยหันไปเตะไอ้เต๋าต่อ  แล้วก็วิ่งไล่เตะกันจนป้าอรขึ้นมาเตือนนั่นล่ะครับถึงได้หยุด





“ไอ้พิ  ไอ้เหี้ย  ไอ้จัญไร  มึงไม่ทิ้งลงถังวะ”ผมอมยิ้ม

“ใครจะไปรู้ว่าจะมีคนจัญไรกว่าหยิบมาดม  กูลืมถ่ายคลิปไปปล่อยเน็ตว่ะ...หน้าแม่งเหมือนคนขี้ไม่ออก555”  ไอ้วินงอนไปแล้วครับเดินหนีไปนั่งปลายเตียง  ผมก็นั่งคุยกันต่อบนพื้น  อ๋องหันไปเล่นเกมส์ต่อ  ชายกับก้องรื้อหนัง  ผมคุยกับเต๋าเรื่องเรียน

“มีการบ้านมั้ยวะ?  ใครสั่งงานไรบ้าง?”ผมถามเต๋า

“มีรายงานส่ง อ.นิรมล  กำหนดส่งอาทิตย์หน้า  แต่พวกกูทำเผื่อมึงแล้ว  มึงอ่านย้อนแล้วก็ปรับเองนะ  จะได้ไม่เหมือนกันมาก  เออ...แล้วน้องครีมกับน้องมิ้นท์น่ะอยู่ห้อง  1  ทั้งคู่ว่ะ  เมื่อวานตอนเย็นพอกูได้ข่าวเรื่องมึงแล้วพวกกูก็ไปสอดแนมห้องน้องมา  น่ารักเว่อร์...หน้าใส  ตากลม  ปากน่าจูบ  แต่พี่ชายแม่งโคตรหวงอ่ะ  มองกูอย่างกะกูจะจีบน้องมันงั้นล่ะ  กูอ่ะมีแฟนแล้วนะ  รักกันมากด้วย...”ผมยิ้มแล้วก็แซวมัน

“ถุย!!!! พรุ่งนี้กูจะไปดู  ถ้าน่ารักอย่างที่มึงว่ากูอาจจะจีบ...มองไรวะ...ก้อยไม่ได้อยู่นี่แล้วนะ  แล้วก็ไม่รู้มีใหม่ไปแล้วรึยัง  กูโทรหาก็ปัดกูตลอด...จะเลิกกูก็ไม่ว่านะ  อย่ามาทำเหมือนกั๊กไว้แบบนี้  กูไม่ชอบ”แฟนผมครับ..คบกันมาเกือบปีละ  ย้ายโรงเรียนตามแม่ไปอยู่จังหวัดอื่น  แรก ๆ ก็โทรหา  m  กันตลอด  แต่หลัง ๆ ไม่ว่าง  กิจกรรมหนัก   แค่เจียดเวลาคุยยังทำไม่ได้  ระยะทางมันทำให้ความรักเปลี่ยนไปได้จริง ๆ 

“...แล้วแต่มึงว่ะ  เออ...เมื่อวานตอนกูกลับบ้านไอ้เด็กโรงเรียนปริ๊นซ์ที่คราวก่อนมันแย่งกิ๊กกูอ่ะ  มันมาเดินเล่นในบ้านพ่อกู(ห้างบ้านมัน)  กูเลยเข้าไปทัก...แม่งไม่พอใจไรไม่รู้ต่อยกูซะตาเขียว  แล้วก็พากิ๊กกูหนีไปเลย”

“หึ.....เต๋ามึงทักมันว่ากวนตีนใช่มั้ย  พอมันต่อยมึงมึงก็ใส่ไม่ยั้ง  จัดหนักเลยสิ  แล้วกิ๊กมึงมึงก็หิ้วกลับบ้านไป...อย่ามาหลอกกูไอ้เต๋า  กู  15  แล้ว ไม่ใช่เด็กสามขวบ...

ไอ้ก้อง!!!! เมื่อวานเย็นมึงอยู่กับมันด้วยรึเปล่า”ไอ้ก้องสะดุ้ง...แต่ยังรื้อหนังต่อไป

“ชายเรื่องนี้กูไม่เคยดูว่ะ  เปิดดูดีกว่า...เอาเรื่องนี้ด้วย  วินมาดูด้วยกันสิ”จู่ ๆ  ไอ้วินก็เลิกงอน  ลงไปนั่งรื้อหนังกับไอ้พวกนี้เฉยเลย  หรือว่า....

“ไอ้วิน...อย่าบอกนะว่ามึงเล่นกะมันด้วย  พ่อมึงรู้รึเปล่าว่ามึงแอบไปมีเรื่อง  แล้วไอ้เด็กปริ้นซ์ต้องนอนโรงบาลรึเปล่า” เพื่อนผมมันก็วัยรุ่นทั่วไปล่ะครับ  ชกต่อยมีเรื่องบ้างให้พอมีอะไรทำ  แต่พวกมันตีนหนักมือหนักครับ  มีเรื่องทีไรต้องให้พ่อวินเคลียร์ให้ทุกที  มันก็โดนดุไปตามระเบียบ  แต่มันน่ะลูกรักทำอะไรก็ดีไปหมด  ทำเรื่องหนักมาแต่พอถึงพ่อมันเรื่องก็เบา...หายไปเลยก็มี

“...พวกมึงนี่น้า   ทำอะไรไม่ปรึกษากูก่อน(หางตาเหลือบเห็นไอ้ชาย)  เอาเหอะ...มันผ่านไปแล้วใช่มั้ย  กูรู้ไอ้ชายว่ามึงต้องพูดแบบนี้  ต่อไปจะทำอะไรก็ปรึกษากูก่อน...มันตายขึ้นมาจะแก้ยังไง”เงียบกันไป...แป๊บเดียวเท่านั้นล่ะครับ  เดี๋ยวพวกมันก็ทำลืม

“กูอาบน้ำแป๊บ...เดี๋ยวค่อยดูหนังกัน  อ๋องมึงเปิดลิ้นชักล่างสุด  กูได้มาใหม่  3  เรื่อง”ผมถอดเสื้อกับกางเกงแล้วถึงจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า  หยิบผ้าเช็ดตัวมาพาดบ่าแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ  ....อายทำไมครับผู้ชายเหมือนกัน
ออกมาพวกมันก็นั่งดูกันแล้ว...ไม่รอกูเล้ยยยย

ผมเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขนมกับเบียร์มานั่งกิน  หนังไม่ค่อยดูเท่าไหร่ครับ  คอยด่าไอ้วิน...มันชอบสปอยหนัง  ถ้ารู้ตอนต่อไปก็ไม่มันส์แล้วครับ  ไอ้วินเป็นคนแบบนั้นล่ะครับ  ผมมานอนก่อนเพราะง่วงจัด  ปล่อยให้พวกมันดูหนังกันไป  ไอ้อ๋องคลานมานอนข้างผม  ส่วนที่เหลือก็ปิดหนังแยกย้ายกันนอน  พอหัวถึงหมอนผมก็หลับเลยครับ  เหนื่อยมาทั้งวัน  พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้า

แต่วันนี้เป็นวันที่ผมหลับสนิทที่สุด  เพราะรอบตัวผมมีแต่ที่ผมรัก  และรักผม




คืนนี้.....คงเป็นคืนที่ผมหลับฝันดีอีกคืน







...................................


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด