[เรื่องเล่า] :+: กว่าจะรู้ว่ารัก ภาค3 :+:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า] :+: กว่าจะรู้ว่ารัก ภาค3 :+:  (อ่าน 72997 ครั้ง)

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
LINK # :+: กว่าจะรู้ว่ารัก ภาค1:+:
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1099.0

LINK # :+: กว่าจะรู้ว่ารัก ภาค2:+:
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1821.0

ก่อนอื่นต้องขอโทษเพื่อนๆที่ปล่อยให้รออ่าน [[นวนิยายเรื่อง]] ไฟรักเพลิงริษยา กันอยู่นาน
ผมลงมือเขียนไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว แต่เหตุการณ์บางอย่างก็เกิดแทรกขึ้นอีกจนได้ทำให้วามรู้สึก
ของผมที่มีต่อตัวละครบางตัวในนิยายเปลี่ยนไป และไม่อาจเขียนต่อไปได้ตามโครงเรื่องเดิมที่วางไว้
แต่สำหรับใครที่อยากติดตามงานนวนิยายของผมก็พอจะหาอ่านส่วนที่เป็นเรื่องจริงได้จากเรื่องเล่าในภาคนี้
เพราะถ้าลำดับเหตุการณ์ตามวัน เวลา กันจริงๆแล้วเหตุการณืในเรื่องเล่านี้เกิดก่อนเหตุการณ์ที่ผมจะนำมา
เขียนใน [[นวนิยายเรื่อง]] ไฟรักเพลิงริษยา เสียอีกลองอ่านไปนะครับแล้วลองสังเกตุกันดูว่าคนจริงๆที่อยู่
ในเรื่องเล่าเรื่องนี้ คนไหนคือตัวละครตัวไหนที่จะถูกนำมาแต่งในนวนิยายของผมซึ่งจะลงในลำดับต่อไปแน่นอน


ขอบคุณสำหรับการติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องครับ
ผมเอง
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2009 18:52:47 โดย +ฟ้างามยามค่ำ+ »

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
เกริ่นนำ
7 กันยายน 2548 สนามบินดอนเมือง

ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตามสถานที่แห่งนี้ไม่เคยเงียบเหงาเลยแม้แต่วินาทีเดียว ผู้คนคราคร่ำ เสียงรอบข้างเซ็งแซ่อยู่เป็นนิจ
และสิ่งที่เห็นอยู่ทุกครั้งที่ได้มาสนามบินดอนเมืองก็คือ ภาพของผู้คนมากบ้างน้อยบ้าง ที่กำลังยืนรอคอยเวลาแห่งการพบเจอ
และพรากจากกัน ฝ่ายหนึ่งคือผู้มาส่งและผู้ที่กำลังจะเดินทางไป อีกฝ่ายคือผู้มารอรับและผู้ที่กำลังจะกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง
สิ่งที่เหมือนกันของคนทั้ง2ฝ่ายนี้ คือน้ำตา ซึ่งอาจจะเกิดจากความตื้นตัน ปีติยินดี ที่ได้พบกับคนที่จากกันไปไกลในที่แสนไกล
หรืออาจจะเป็นความรู้สึกโหยหาอาทร ห่วงอาลัย และคิดถึงสุดหัวใจต่อผู้ที่กำลังจะต้องเดินทางไกลไปยังบ้านเมืองที่ไม่คุ้นเคย

น้ำตา ดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งการจากลาและการต้อนรับ ถ้าสนาบินมีชีวิตจะปลอบใจคนเหล่านี้ว่าอย่างไรหนอหรือว่าบางที
อาจจะเคยชินกับสถานการณ์เหล่านี้จนอยากจะสอนให้เราทั้งหลายเข้าใจในสัจธรรมที่ว่า “พบเพื่อจาก พรากเพื่อเจอ” แทนก็ได้
ผมเป็นอีกคนนึงที่กำลังยืนรอผู้ที่กำลังจะมาอย่างกระวนกระวายใจ ตามกำหนดเวลาที่เครื่องบินจะมาถึงก็ไม่น่าจะเกิน2ทุ่มนี่นา
แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องรอคนที่กำลังจะกลับมาหาผม คนที่ผมได้บอกลาเค้าผ่านมือถือในวันที่เค้าเดินทางจากไป
วันนี้ผมจะไม่พลาดอีกแล้ว เพราะการกลับมาคราวนี้จะไม่เหมือนกับครั้งอื่นๆ คนที่จะมากับเค้าบอกให้ผมเตรียมตัวล่วงหน้า
มีอะไรหลายอย่างที่ เทค อยากให้ผมเตรียมไว้ให้เค้าที่นี่ ผมไปจัดการตามนั้นตั้งแต่ช่วงกลางวันหลังจากที่ผมไปสมัครงานแล้ว

ผมกำลังนึกถึงเรื่องต่างๆมากมายที่ผ่านมาระหว่าง ผมกับเทค มันช่างมีความทรงจำหลากหลายเหลือเกิน คิดไปก็รู้สึกตีบตันจน
น้ำตารื้นขึ้นทั้ง2ข้าง ผมพยายามไม่ร้องไห้แต่น้ำตาก็ไหลจนได้ ผมรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาก่อนที่เค้าจะมาถึงในอีกไม่นานนี้
ผมไม่อยากให้เค้าเห็นว่าผมเป็นคนอ่อนแอ ไม่ใช่จะถือดีหรอกครับแต่การกลับมาของ เทค ครั้งนี้สำคัญมากจริงๆผมอยากสดชื่น
สดใส ไม่ใช่อ่อนแอ หรือร้องไห้เป็นเผาเต่าตั้งแต่เค้ายังไม่ทันมาเจอกับผม ผมอยากจะหยุดคิดเรื่องระหว่างผมกับ เทค ลงให้ได้
แต่ผมก็ทำไม่ได้ ด้วยว่าระยะนี้ไม่ว่าทำอะไรในความคิดผมก็จะมีแต่เรื่องของ เทค อยู่เสมอแทบจะเรียกว่าทั้งยามตื่นและหลับฝัน
น้ำตายังไม่ยอมหยุดไหลแต่ไม่เป็นไร ผมหวังแต่ว่าเมื่อได้พบกัน เทค จะเห็นว่าที่ผมร้องไห้นี้เกิดจากความรู้สึกยินดีไม่ใช่เสียใจ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2007 00:12:10 โดย :+:So Much In L »

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :impress: :impress: ตอนที่จากกันก็เศร้าซ้า  แต่ก็ยังดีนะครับที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนึง  :m1: :m1:

ขอบคุณนะครับ  ที่มาต่อเรื่องนี้ให้ :m4: :m11: :m4:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ว้าวภาค3แล้ว

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ตามมาอ่านภาค 3 เทคจะกลับมาแย้วววววว  :a1:  :a1:  :a1:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:  ภาค3กับการกลับมาของเทค  ยางมะได้ไปอ่านไฟรักเพลิงริษยาเลยอ่ะ  :m23:









ปล. ไม่เว้นวรรคหน่อยเย๋อจ๊ะพี่นิว ตาลายอ่ะ ดีที่เนื้อเรื่องยางม่ายเยอะมาก  :m26:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
มาจองที่รออ่านภาค 3 ค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ :m18:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
ตอนที่1
ความห่างไกลทำให้คิดถึง

ปี พ.ศ.2546 จนถึงขณะนี้ เทค เดินทางไปสิงคโปร์ได้หลายวันแล้วส่วนผมเองแม้เป็นช่วงปิดเทอมแต่ก็ใช่จะได้อยู่ว่างๆนะครับ
เพราะผมยังคอยช่วยติวให้เพื่อนและรุ่นน้องอยู่ทุกวัน มาถึงตอนนี้ความรู้สึกรุนแรงที่อยากจะบอกความในใจให้ เทค รู้เหมือนจะ
ลดน้อยลงจากวันที่ไปส่งเค้า ผมประเมินอารมณ์ตัวเองแล้วพอจะเข้าใจได้ว่าผมคงเสียดายที่เค้าจะไปอยู่ซะไกลผมก็เลยอยากรั้ง
เค้าไว้ด้วยคำพูดอะไรสักอย่าง เพื่อให้เค้าเปลี่ยนการตัดสินใจ ซี่งผมเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมจะรับผิดชอบคำพูดตัวเองได้
มากแค่ไหนกัน บางครั้งผมก็รู้สึกโล่งใจที่ยังไม่ได้พูดอะไรให้ เทค ฟังในวันที่ไปส่งเค้าครั้งนั้น เพราะเมื่อลองคิดทบทวนดูแล้ว
หากวันนั้นผมบอกว่าผมรักเค้า ผมก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าผมรักเค้าแบบไหนกันแน่ ลองคิดูอีกทีคำพูดนั้นอาจจะยิ่งทำร้ายเค้ามากขึ้น
อย่างน้อยๆตอนนี้ผมก็รู้ว่าการเดินทางไปสิงคโปร์ของ เทค ไม่ใช่การแยกขาดจากกันเสียทีเดียว เพราะเค้ายังโทร.มาหาผมเสมอ
ไม่ใช่แค่กับผมเท่านั้นหรอกนะครับที่ เทค ส่งข่าวให้รู้ถึงความเป็นไปแต่เค้ายังส่งข่าวให้เพื่อนๆคนอื่นรู้ทางอี-เมล์อีกด้วย เช่น ฝน
นี่เป็น FW.mail ที่ ฝน ส่งมาให้อ่านว่า เทค ส่งเมล์ไปหาเค้าหลังจากเทคไปอยู่สิงคโปร์ได้ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ สงสัยตาทึ่มจะเหงา


>From: "tayavat manopnarit" <tayavat1อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com>
>To: saytofonอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
>Subject: มีคนบ่นคนบ่นคิดถึงผม หรือครับ?
>Date: Fri, 03 Dec 2003 14:34:45 +0000

>
>ใครบางคน บอก ใครอีกคนว่า คิดถึง ผู้ชายหน้าตาดีที่ชื่อ เทค
>ตอนนี้เราก็มาอยู่ที่หน้าคอมฯแล้วไงว่าแต่ช่วงที่ไม่ได้คุยกัน
>นานแค่ไหนแล้วเนี่ย เอาเป็นว่าเรายุ่งมากเลย ไม่ได้ลืม แต่ไม่ได้ติดต่อมา
>นิวบอกว่าฝนส่งข้อความมาหาเรา เราก็เลยลองเข้ามาเชค
>ถึงได้รู้ว่าฮอทเมล์เค้าตัดการเป็นสมาชิกของเราไปแล้วแต่ก็ต่อติดใหม่ได้ง่ายจัง
>(นิวบอกว่าสมัครยาก ไม่เห็นยากเลย นิวน่ะไม่เคยอะไรง่ายซักอย่าง
>มิน่าใจแข็งเป็นบ้า)
>ช่วงนี้เรื่องของฝนนิวเล่าแล้ว แต่เรื่องของนิว นิวให้เรามาถามฝน
>(งงจัง..2คนนี้เล่นอะไรอีกเนี่ย)
>ไม่ได้คุยกันระยะประชิดตั้งนาน2คนนี้ยังไม่เลิกเล่นปริศนาทายใจกันอีกเหรอ
>สงสัยนิวมีปัญหาหัวใจแน่เลย เราลองแซวว่ามีใครมาจีบมั้ย
>พีแกเงียบไปเลยแล้วเสียงอ่อยๆลงด้วย
>(ทีแรกนึกว่า อ่อย
>แบบให้ท่าตอนหลังโดนด่ากลับมาซะเสียงดังเลยมีสติว่าคงไม่ใช่)
>เอาล่ะตอนนี้เราพอจะว่างมั่งแล้ว จะพยายามเชคเมล์บ่อยๆนะครับ
>อยากคุยกับเพื่อน(ฝน)นะ
>อื้ม........คิดถึงเมืองไทยจังเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
>ปล.เรื่องของเรา ฝนไปถามนิวแล้วกันนะรับ(555เล่นด้วยคนนะ)
>Take care
>


นี่เป็นตัวอย่างของเมล์ที่ เทค ส่งมาหา ฝน หลังจากที่เค้าเพิ่งโทร.ทางไกลมาหาผมเมื่อไม่กี่วันก่อน เรียกได้ว่าช่วงแรกๆ
เทค ใช้เวลาไปกับการส่งเมล์ตอบเมล์และคุยโทรศัพท์ทางไกลมากกว่าการไปหาที่เรียนซะอีก แต่ก็ดีกว่าเงียบหายเหมือนที่ผมกลัวใช่มั้ยครับ
ฝนบอกว่าจะสอนผมเล่น MSN ด้วยล่ะครับ แต่ผมไม่รู้จักน่ะสิว่าเจ้า MSN เนี่ยเป็นยังไง เฮ้อ…อย่างผมเนี่ยแค่ส่งเมล์ได้ก็นับว่าเก่งจะแย่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2007 15:17:39 โดย :+:So Much In L »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
คิดถึงเทคจัง หากแต่เกิดมาคู่กันจริง
ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหน กลับมาทุกๆอย่างก็ยังเหมือนเดิม
 :m1: :m1: :m1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อืม ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค  :a11:  :a11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
รักแท้ไม่แพ้ระยะทางจ้า  :m3:   :m3:  :m3:

มาเป็นกำลังใจให้น้องนิวตามสัญญา  อิอิ
รออ่านต่ออยู่น้า  สู้ๆ  :a2:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
ตอนที่2
หัดเล่น MSN

แรกๆที่ผมลองเล่น MSN ก็เป็นเพราะเพื่อนของผมอยากคุยกับผมแบบสดๆสามารถตอบโต้กันได้ แต่ผมก็เล่นเนตอยู่ที่ร้าน
ซะเป็นส่วนใหญ่ไม่สะดวกพูดคุยทางโทรศัพท์เพราะผมจะไม่มีสมาธิ สุดท้ายทั้งการเล่นเนตและคุยโทรศัพท์ก็จะไม่รู้เรื่องทั้งคู่
นึกย้อนไปผมก็ยังขำอยู่เลยเพราะเมื่อก่อนผมไม่เคยรู้ว่า MSN คืออะไรอย่างที่เล่าไว้แล้วล่ะครับว่าแค่สมัครฮอทเมล์ได้ก็เก่งแล้ว
แทบจะเรียกได้ว่าตอนที่ผมมีเมล์ของฮอทเมล์ใหม่ๆนะผมก็ส่งเมล์คุยกับเพื่อนแทบทุกเดือนเพราะกำลังเห่อของใหม่ไฮเทคนี่นา
เพื่อนๆคนอื่นอาจเห็นเป็นของธรรมดา ใครๆก็มีเมล์ ใครๆก็เล่นMSNเป็นทั้งนั้น แต่คนโลวเทคอย่างผมมันเยี่ยมมากเลยจอร์จ…
เชื่อมั้ยครับ ผมเป็นคนที่ขี้ขลาดขี้กลัว ยิ่งอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นแล้วผมรู้สึกว่ายากแล้วล่ะก็ผมจะลีกเลี่ยงให้ไกลเลย
เรื่องMSNนี่ก็เหมือนกันผมรู้สึกไปซะแล้วว่ายากเพราะแค่สมัครฮอทเมล์ผมยังทำอยู่ตั้งนานแล้วเล่นMSNจะยากขนาดไหนเนี่ย

ผมพยายามหลีกเลี่ยงการเล่นMSNมาตลอดด้วยการชวนเพื่อนที่เล่นเนตเวลาเดียวกันไปเข้าห้องแชทรูมตามเวปต่างๆแล้วก็คุยกัน
แต่สิ่งที่เป้นปัญหาอย่างมากคือ การที่เวปค้างห้องแชทรูมมีปัญหาคุยๆไปข้อความดีเลย์ขึ้นมาเฉยๆก็มีจนเพื่อนๆพากันบ่นว่าเซ็ง
ในที่สุดแก๊งแซนวิชอีกเหมือนเดิมที่คอยหว่านล้อมและสอนให้ผมใช้โปรแกรมMSNในการพูดคุยกับเพื่อนๆเป็นผลสำเร็จจนได้
หลังจากความพยายามผสมความกดดันของเพื่อนๆที่สอนผมให้เล่น MSN จนผมสามารถพิมพ์ข้อความพูดคุยโต้ตอบกับเพื่อนได้
การนัดคุยกันในเวลาเล่นเนตครั้งต่อๆมาก็ไม่ต้องไปพึ่งพาห้องแชทรูมของเวปต่างๆอีกแล้วแต่ในตอนนั้นถ้าใครอยากเห็นรูปผม
อยากให้ผมเปลี่ยนสีข้อความ แม้แต่เปลี่ยนขนาดข้อความก็ดูจะเป็นเรื่องยากเย็ญสำหรับผมขึ้นมาทีเดียว(โง่มาก่อนฉลาดแท้ๆเรา)

ผ่านไปสักระยะหนึ่ง ผมก็เริ่มเข้าที่เข้าทางกับการเล่น M (หึหึเริ่มเรียกแบบย่อๆเป็นแล้วเห็นมั้ย) ก็เริ่มได้พูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ไกล
ตอนนั้นเพื่อนที่อยู่ไกลผมที่สุดก็คือ เทค นี่ล่ะครับตอนแรกผมส่งเมล์ไปบอกเค้าว่าผมเล่นMเป็นแล้วนะเค้าก็ยังส่งเมล์กลับมาหา
ทำนองว่าไม่อยากจะเชื่อแต่พอเค้าเห็นผมเล่นMเข้าจริงๆก็เชื่อเลยวาผมเล่นได้แต่เป็นการเล่นMตามแบบของผมคือออนไลน์ได้
แล้วก็ไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรในMทั้งสิ้น พิมพ์อย่างเดียว ตัวอักษรตามที่เครื่องตั้งค่าไว้และเป็นสีดำล้วนๆเป็นแบบนี้อยู่นาน
เมื่อเล่นMSNเป็นแล้วเพื่อนที่ผมได้พูดคุยด้วยบ่อยที่สุดก็เห็นจะเป็น เทค และ ฝน นี่ล่ะครับ แม้ว่าผมไม่ได้มาออนฝนกับเทคก็คุย
กันไปอาจเพราะเค้า2คนมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายๆกัน และดูจะพูดคุยกันถูกคอซะด้วยสิครับโดยเฉพาะเรื่องนินทาผมลับหลัง
แต่ผมไม่ซีเรียสหรอกเพราะจะว่าทุกเรื่องที่เทคกับฝนคุยกัน ถ้าผมออนพร้อมกับฝนเมื่อไหร่ ฝนก็จะเล่าให้ผมฟังอย่างละเอียด
หรือแม้แต่ถ้าผมได้คุยMกับเทค เค้าก็จะเล่าให้ผมฟังว่าได้คุยอะไรกับฝนบ้าง รวมทั้งเล่าด้วยว่านินทาผมไว้ว่าอย่างไร ฮ่าๆๆๆๆ

พอเล่นนานๆไป ผมก็เริ่มวิชาแก่กล้าแล้วครับ ก็ได้วิชามาจากพวกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่คุยกันในMSNเนี่ยแหล่ะที่คอยแนะนำผม
บางอย่างผมก็ถามดูว่าจะทำอย่างที่เพื่อนๆทำต้องไปแก้ไข เปลี่ยนแปลงที่ตรงไหน จำได้ว่าอย่างแรกที่ผมหัดเปลี่ยนก็คือดิสเพลย์
แล้วถ้าใครที่ได้คุยMกับผมจะรู้ว่า ผมยังสาละวนเปลี่ยนดิสเพลย์อยู่ประจำจนถึงทุวันนี้เลยเชียว ก็การมีดิสเพลย์เนี่ยเป็นการโชว์
รูปที่เราชอบ รูปที่เราอยากนำเสนอนี่นา ผมก็นำเสนอรูปที่ผมอยากให้เพื่อนๆเห็นสิครับ(ซึ่งไม่ใช่รูปผมเนื่องจากผมรู้ตัวว่าขี้เหร่)
เริ่มแรกก็เป็นรูปต้นไม้ ใบหญ้า บ้านเรือน ดารา อะไรไปเรื่อยๆ ยิ่งช่วงไหนมีละครที่ผมกำลังปลื้มด้วยนะ ผมโชว์รูปเต็มเหนี่ยว
ลำดับต่อมา ก็เริ่มเปลี่ยนสีข้อความ เพราะเห็นคนอื่นเปลี่ยนสีกันสวยงามดีก็อยากเปลี่ยนบ้าง ทั้งที่ตอนนั้นมีให้เลือกไม่กี่สีเองนะ
แต่ผมก็ยังเลือกใช้ได้ไม่หมดเลยครับ แล้วก็มาถึงเปลี่ยนแบคกราวด์ ผมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสารพัดแบบสุดท้ายก็มาจบลงที่สีขาว
ธรรมดาที่สุด เพราะดูง่าย สบายตาและเหมาะกับสีข้อความของเพื่อนๆที่คุยกัน ซึ่งแต่ละครั้งมากันคนละหลายสีเลยก็เคยมาแล้ว

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเล่น MSN ของผมกับเพื่อนๆ คือการนัดเวลาในการคุยรวมห้อง เพราะนานๆเราจะเจอกันพร้อมหน้าทั้งแก๊ง
ส่วนใหญ่เป็นผมที่นัดกับ เทค ไว้ก่อนว่าเค้าจะว่างมาออนตอนกี่โมง และเพื่อนคนอื่นๆว่างตรงกันก็จะได้มาคุยรวมซึ่งนานๆครั้ง
ก็ตอนนี้เพื่อนผมแต่ละคนเริ่มไปทำงานกันหมดแล้วี่ครับเหลือแต่ผมที่ยังเรียนปี2อยุ่เลย แล้วก็นายทึ่มที่คุยกันล่าสุดในMบอกว่า
พ่อกำลังจะส่งเทคไปเรียนออกแบบเครื่องประดับครับหลักสูตร6เดือน นี่ก็ยังโม้อยู่เลยว่าถ้าเรียนจบจะมาฉลองกับผมที่เมืองไทย


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อ่านแล้วก็เห็นถึงพัฒนาการดีนะ

นี่คนสอนคงปวดหัวไปหลายยกเลยสิกว่าจะเป็น

 :laugh: :laugh: :laugh:

คุยกับเทคบ่อยๆไม่อ่อนไหวบ้างหรอ
 :m11: :m11: :m11:

฿oomb@b@

  • บุคคลทั่วไป
เด๋วจะเข้ามาติดตามอ่านนะครับ :m7:
 :m13:จะได้รวบรวมความรู้ อิอิ :m17:

แปะโป้งไว้ก่อง ฮะจึ๋ย :a6:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
ตอนที่3
อนาคตสดใสของนายทึ่ม

เช้าวันที่ 21 มิถุนายน 2547 ผมกำลังยืนรอเพื่อนๆในมหาวิทยาลัยที่จะมาลงทะเบียนพร้อมกันในช่วงเช้าของวันนี้ แต่ตอนนี้ผมยัง
ไม่เห็นเพื่อนในกลุ่มมาถึงสักคน นอกจากโอ๋ที่นั่งรถมาพร้อมกับผมแต่เช้า ส่วนคนอื่นคงเจอปัญหารถเมล์ไม่ยอมเข้ามาส่งอีกละ

“เฮ้ย นิวแกโทร.ถามไอ้หญิงดิ มันมาถึงปากทางยังวะ นานแล้วนะเว้ยจะ11โมงแล้วเนี่ย”
โอ๋ เร่งให้ผมโทร.เข้ามือถือของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่น่าจะมาพร้อมกับเพื่อนอีกหลายคน
“เออๆ โทร.เดี๋ยวนี้แหล่ะ ฉันก็ไม่อยากช้าว่ะ ให้ลุงมาส่งแล้วรอรับกลับด้วยเกรงใจลุงว่ะแก”
ผมพูดจบก็รีบกดหมายเลขต่อสายคุยกับ หญิง ทันที
“เฮ้ย ถึงไหนแล้ววะแก อะไรนะยังไม่เข้ามาในเมืองเลยเหรอ เอาไงดีวะเนี่ย”
“แกรอฉันกะนิ่มก่อนได้ป่ะ เออๆ ก็รีบอยู่เนี่ย ถ้าขับเองได้ไปขับแล้วล่ะแก”
หญิง บอกให้ผมกับโอ๋ รออยู่ที่มหาวิทยาลัยก่อน ผมก็ตกลงแล้ววางสายไป
“ยังมาไม่ถึงเหรอนิว นานเลยดิ ฉันว่าเราไปลงทะเบียนก่อนดีกว่าว่ะ พอมันมาก็รออีกไม่กี่คน”
โอ๋ เสนอทางเลือกเพื่อความรวดเร็วให้กับผมหลังจากผมเล่าให้ฟังว่า หญิงกับนิ่ม ยังมาไม่ถึงครึ่งทาง
“เออก็ดี จะได้เขียนใบลงทะเบียนให้เพื่อนๆเราด้วย พอมาปั๊บก็ให้มันไปจ่ายตังเนอะ จะได้เร็วๆ”
ผมเองก็เห็นด้วยกับโอ๋ ดังนั้นผมกับโอ๋จึงไปลงทะเบียนกันก่อน เพื่อนๆที่มาทีหลังก็มารับใบลงทะเบียนที่ผมเขียนไว้ให้
แล้วก็ทะยอยกันไปจ่ายเงิน ทีแรกผมยังคิดว่าอาจจะติดเที่ยงซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราจะต้องรอเจ้าหน้าที่อีกครั้งตอนบ่ายเลย
แต่โชคดีที่ หญิง นิ่ม มาถึงพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ทั้ง สุ แอ๊บ นาง นา เอ แมน ซึ่งแต่ละคนก็หอบแฮ่กกันมาเลยเชียวครับ

ในระหว่างที่รอเพื่อนๆลงทะเบียนผมกับโอ๋ก็เข้าไปเล่นเนตในห้องคอมของมหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยเล่นMSNไม่ได้ผมจึงแค่
เชคเมล์ ก็พอดีมีเมล์ฉบับล่าสุดส่งมาจาก เทค พอดีเลยครับ ผ่านมานานกว่า6เดือนแล้วผมหวังว่าจะได้ข่าวดีเรื่องการเรียนของเค้า


From: "tayavat manopnarit" <tayavat1อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com>
To: narat_narakอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
Subject: เราเรียนจบแล้วนะ
Date: Mon, 21 June 2004 08:40:48

เย้ๆๆๆๆ ว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรียนจบแล้วคร้าบบบบบบบ เฮ้ย นิวเราเรียนจบแล้วนะ
ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้พูดคำว่าเรียนจบกะเค้าด้วย 555 แต่แกก็คงทำเสียงดุเราเหมือนเดิม
ว่าจบแค่หลักสูตร6เดือนใช่มั้ย? แต่เราก็ภูมิใจนะนิว อย่างน้อยเราก็ทำอะไรสำเร็จได้บ้างเหมือนกัน
ที่เราไม่ได้ออนเลยช่วงเดือนนี้ เพราะเราเริ่มเข้ามาช่วยงานพ่อแล้วล่ะ ก็จะจบแล้วนี่ร้อนวิชาไงเลยของานพ่อทำ
รู้เปล่างานที่เราออกแบบนะขายได้เกลี้ยงเลย พ่อชมเราด้วยนะว่าเก่ง ไม่นึกเลยว่าจะทำให้พ่อภูมิใจได้ โคตรซึ้ง T-T
ตอนนี้เราจบอย่างเป็นทางการละได้ประกาศนียบัตรรับรองฝีมือไปติดฝาบ้าน1ใบกะเงินรางวัลของพ่อให้เรามาก้อนนึง
เดี๋ยวจะเอาเงินก้อนนี้กลับไปฉลองกะนิวที่เมืองไทยนะ อ้อ!ฉลอง2เรื่องเลย ก็ทั้งเรียนจบและได้งานทำด้วยไงล่ะงานดีเงินดีด้วย
ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์เชียวนะ แผนกจิวเวลรี่อ่ะ เป็นไงพอจะมีหน้ามีตาไปสู่ขอลูกชายใครได้บ้างรึยัง กร๊ากๆ
เอาไว้แค่นี้ก่อนนะ อะแฮ่ม พอดีว่า ผุ้จัดการจะต้องเตรียมงานไปเสนอกับที่ประชุมครับ กลับมาแล้วค่อยคุยกันนะที่รัก
Take care


ผมอ่านเมล์จาก เทค ฉบับนี้ด้วยความตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้เห็น เทค คนใหม่คนที่ไม่มีปมด้อย ไม่มีอดีตที่เจ็บปวด
แต่เป็น เทค ที่มองเห็นคุณค่าของตัวเอง เป็นคนที่มองเห็นจุดยืนที่มั่นคงและอนาคตที่ชัดเจนของตัวเค้าเอง ผมสัมผัสได้เลยว่า
เทค กำลังมีความสุข สดชื่น มากขนาดไหนตอนที่พิมพ์แต่ละตัวอักษรใน e-mail ฉบับล่าสุดนี้มาถึงผม “ดีใจด้วยนะเทค”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2007 23:39:02 โดย :+:So Much In L »

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o13 o13  ในที่สุดก็ใกล้จะได้เจอเทคแล้วชะมะคับนิว  :m11: :m11:

ปล. +1 ให้แล้วนะครับนิว

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ยิ่งเติบโต ก็ยิ่งเรียนรู้ว่าหัวใจรู้สึกอย่างไร
 :a4: :a4: :a4:

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ไม่มีไร แค่แวะมาให้กำลังใจเพื่อนเลิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ :m4:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
ตอนที่4
กลับมาหาเพื่อน

เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เทค ก็กลับมาถึงเมืองไทย ตอนแรกที่ผมได้ข่าวว่า เทค มาถึงเมืองไทยนั้นผมก็ออกจะแปลกใจมากอยู่
เพราะแม้จะรู้นิสัยความใจร้อนของ เทค แล้วก็ยังไม่คาดคิดว่าเค้าจะทิ้งงานที่โม้มาซะดิบดีว่ากำลังอยู่ในช่วงพีคจัดมาได้ง่ายๆ
วันที่ เทค มาถึงกรุงเทพฯ ผมก็ยังไปเรียนหนังสือในช่วงเช้า และเข้าร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่แถวๆบ้านในช่วงเย็นเหมือนทุกวัน
จนกระทั่งได้เจอกับ เทค ในMSNก็ยังนึกว่าเค้าอยู่ที่สิงคโปร์ เราคุยMSNกันจนถึงค่ำ เมื่อได้เวลาที่ผมต้องกลับบ้านก็บอกเค้าว่า
ถ้าจะมาเมืองไทยเมื่อไหร่ให้บอกด้วย เทค ก็ย้ำแต่ว่า “ก็บอกแล้วไง” ผมไม่ทันได้นึกว่าเค้ามาถึงแล้วนึกไปว่าเค้าย้ำที่ส่งเมล์มาหา
จนกระทั่งผมกลับมาถึงบ้าน ก็มีเบอร์โทรศัพท์จากบ้านของ เทค โทร.เข้าเครื่องผม ตอนนี้เองที่ผมเริ่มคิดว่าเค้าอาจมาถึงแล้วก็ได้

“ฮัลโหล หวัดดีครับ พูดอยู่ครับ”ผมตอบกลับหลังจากผู้ที่โทร.มาเอ่ยว่าต้องการพูดกับผม ผมจำได้ว่าเป็นเสียงคุณแม่บ้านที่บ้าน เทค
“……………………………….”
ปลายสายเงียบไป จนผมเริ่มไม่สบายใจต้องเรียกอยู่อีกหลายคำ ยิ่งเรียกก็ยิ่งตระหนกคิดไปทางร้ายเสียสิ้น
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ทำเสียงแตกตื่นยังกับถูกใครไล่ปล้ำ ทำไมคิดถึงเรามากเหรอจ๊ะ”
เสียง เทค หัวเราะอย่างสุดกลั้นผ่านเข้ามาทางหูโทรศัพท์ ผมรู้ตัวแล้วว่าโดนเค้าแกล้งแน่ๆ
“เล่นอะไรของแกวะเนี่ย ทำไม? กลับมาเมืองไทยต้องถูกเจิมด้วยคำด่าของเราก่อนถึงจะมีความสุขใช่มั้ย”
ผมตะหวาดกลับไปทั้งที่ในใจทั้งดีใจ โล่งใจ เมื่อได้ยินเสียงเทคที่สดใสตอบกลับมา แต่ก็อดโมโหไม่ได้จริงๆ
“ก็ใช่ดิ เราไปอยู่ที่นู่นนะมีแต่คนตามใจว่ะ น่าเบื่อจะตาย เดี๋ยวนี้พ่อก็ไม่ค่อยด่าเหมือนแต่ก่อนด้วย แม่เลี้ยงก็เอาใจอีก”
“เอ๊ะ…แกนี่โรคจิตรึเปล่าเทค ตอนที่ไม่มีใครเข้าใจก็ทำตัวมีปมด้อย พอแกทำดีมีคนชม แม่ใหม่เค้ารักแกก็ยังจะบ่นอีก”
“เฮ้ย เค้าดีกับเราเราก็ชอบไมใช่ไม่ชอบ แต่จะบอกว่าพักนี้หูไม่ค่อยชาอ่ะ ได้ยินนิวด่าซักหน่อยค่อยกระชุ่มกระชวย”
“ไอ้บ้าเทค ไอ้โรคจิต แกจะทำให้เราประสาทเสียตามไปด้วยน่ะสิรู้เปล่า”
“โห…ด่ายาวเลยนะ ก็ไอ้ที่ประสาทเสียตามเนี่ย เพราะเป็นห่วงเราใช่มั้ยล่ะ รู้น๊า”
“เปล่า แต่กำลังคิดว่าจะเอาแกไปส่งศรีธัญญาก่อนตอนไหนดี กลัวเพ่นพ่านไปกัดคนในบ้านอ่ะดิ”
“5555555555555555 เออๆสบายใจแล้ว ฝีปากการด่ายังไม่เคยตกเลยนะที่รัก”
“แกนี่นะ”
ผมจนปัญญาไม่รู้จะว่าอะไรเค้าได้อีก ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง เมื่อจนแต้มก็ยอมๆนิ่งให้เค้าบ้างละกัน
“แล้วทำไมตอนเราอยู่ร้านเนตแกไม่บอกว่ามาถึงแล้วอ่ะ โทร.เข้ามือถือก็ได้ มาเหนื่อยๆยังอุตส่าห์พิมพ์คุยอีกนะ”
“ไม่เอาหรอก ขืนบอกไปนิวก็ต้องให้เราไปพักผ่อน รอให้นิวถึงบ้านค่อยโทร.คุยอ่ะดิ ไม่เอาอ่ะ เราใจร้อน”
“ก็บอกให้เรารับโทรศัพท์ก็ได้นี่ แล้วก็โทร.เข้ามาเราก็คุยกับแกไป อ่านกระทู้ไปก็ได้”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวนิวไม่มีสมาธิ คุยกับเราก็ไม่รู้เรื่อง อ่านกระทู้ก็ไม่สนุก เราพิมพ์คุยกับนิวก็ดีแล้วล่ะ ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย”
“แกก็ตามใจเราเหมือนเดิม ที่จริงแกไม่ต้องทำเพื่อเราขนาดนี้ก็ได้ บุญคุณใหญ่หลวงทดแทนไม่หมดน่ะเข้าใจป่ะ”
“แล้วทำไมต้องทดแทนล่ะ พ่อแม่มีบุญุคุณ พี่น้องมีความผูกพัน แต่อย่างเรากับนิวมีมากกว่านั้น”
“มากกว่านั้นอะไรอีกล่ะ อย่ามาหยอดนะ เดี๋ยวก็โดนด่ายาวอีกหรอกไม่เข็ดรึไง”
“ด่าก็ดีอ่ะดิ๊ เราถือว่านิวด่าเพราะนิวรัก ไม่รักไม่ด่า ยิ่งด่าก็แปลว่ายิ่งรัก”

มาแล้วครับ มุขหยอดสไตล์นายทึ่ม คงเห็นผมไม่ด่าล่ะสิ เริ่มได้ใจเล่นซะหลายมุข หยอดจนนึกว่าเค้าขายขนมครก
“แล้วไม่คิดมั่งเหรอ ว่าไอ้ที่ด่าๆไปเนี่ย เราด่าเพราะเกลียดตะหาก อยากด่าไล่ไปให้พ้นๆ”
“เกลียดก็ไม่สนใจหรอก แค่รู้ว่าเรามีผลต่อความรู้สึกนิวมั่งก็ดีกว่าเราไม่อยู่ในความรู้สึกไหนของนิวเลย”
“อีกแล้วนะเทค”
ผมเริ่มทำเสียงจริงจังเพราะเห็นว่า ผมกับเทคเล่นกันจนหมือนจะเกินเลยความรู้สึกเล่นหัวกันซะแล้ว
“เราพูดจริงๆนะ” เทค ยืนยันด้วยน้ำเสียงสุขุม “ถ้าเราแกล้งแล้วนิวโกรธก็ยังดีกว่าเรากลายเป็นความว่างเปล่าที่นิวไม่สนใจ”
“เราจะทำแบบนั้นได้ไง เราไม่ได้โง่ถึงกับจะเฝ้ารอสิ่งที่เป็นความว่างเปล่าอยู่ได้ตั้งเกือบปีหรอกนะ ที่พูดมาตั้งยาวเข้าใจเรารึยัง”

ผมตอบออกไปอย่างนั้นเป็นการทิ้งท้ายและหวังว่า นายทึ่ม คงเข้าใจเหมือนที่ผมคิด แล้วเพื่อนๆล่ะครับเข้าใจความรู้สึกของผมมั้ยครับ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2007 23:21:38 โดย :+:So Much In L »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อ้างถึง
“เราจะทำแบบนั้นได้ไง เราไม่ได้โง่ถึงกับจะเฝ้ารอสิ่งที่เป็นความว่างเปล่าอยู่ได้ตั้งเกือบปีหรอกนะ ที่พูดมาตั้งยาวเข้าใจเรารึยัง”

 :m3: :m3: :m3: :m3:

เข้าใจแล้ว รักแต่ปากแข็งอ่ะ

จับกดเท่านั้นแบบนี้
 :m20: :m20: :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เริ่มสารภาพแล้วชะมะคับนิว :m12: :m12:

luvdisc

  • บุคคลทั่วไป
คุณน้องมาลงเรื่องต่อไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะ  เสาร์นี้เลี้ยงหนังเลย 

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
สวัสดีครับ แฟนๆ(เรื่องเล่า)

แหม... ว่าจะมาลงเรื่องเล่าต่อซะหน่อย ดันเจอคุณพี่เกี๊ยกบอกให้เลี้ยงหนัง งั้นเสาร์นี้คุณพี่เลี้ยงซิสเล่อร์นิวนะครับ ผลัดกัน เอ๊ย แลกกัน

A GE : เริ่มสารภาพแล้วชะมะคับนิว >>> จะว่าอย่างนั้นก็ได้ อีกอย่างก็ค่อยๆยอมรับตัวเองด้วยน่ะครับ ปล.เมื่อคืนทำไมไม่ออนอ่ะเรารอตั้งนาน

b|ueBoYhUb : จับกดเท่านั้นแบบนี้ >>> จับกด เนี่ย คืออะไรเหรอครับ มะได้แอ๊บแบ๊วแต่อยากรู้เจงๆบอกหน่อยน๊า นะ นะ นะ

จาก ผมเอง ครับ (แวะมายามบ่าย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2007 13:57:58 โดย :+:So Much In L »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............รักนะ........แต่ไม่แสดงออก............

...........บางทีคนรอก็ท้อนะ.......... :m17: :m17:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็เริ่มเปิดใจ
ขอบคุณที่มาต่อให้นะครับ
 :m1:

Serendipity

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจพี่นิวคับ ไม่ค่อยได้คุยกะพี่นิวเลยคับ
 :m4: :m4: :m4: :m4:
ขอโทดทีน๊าาาาาาา งานแอบเยอะน่ะคับ^^
 :m5: :m5: :m5: :m5:
แล้วมาต่อนะคับ อิอิ
 :a1: :a1: :a1: :a1:




ปล. พี่นิวไม่เหงบอกเลยคับว่าต่อภาคสามเระอ่ะคับ  :m17: :m17: :m17:

ออฟไลน์ รอยยิ้มอาบยาพิษ

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
ตอนที่5
เวลากับคนสองคน

เทค บอกว่ามีเวลาอยู่ที่เมืองไทย 2สัปดาห์เท่านั้น ทีแรกเค้าชวนผมไปเที่ยวเกาะเสม็ดด้วยกันอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมปฏิเสธครับ
ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปเที่ยวกับเค้าหรอก แต่ผมมีที่ใหม่ที่อยากพาเค้าไปมากกว่าที่เกาะเสม็ดซะอีกน่ะครับนั่นคือ ‘เกาะสีชัง’
“โธ่ นึกว่าจะพาไปสวรรค์ที่ไหน ก็ไม่พ้นเกาะอยู่ดีแหล่ะนิว” นี่เป็นคำทักท้วงของ เทค แต่เมื่อผมยินยันว่าน่าไปจริงๆเค้าก็ตกลง
ผมเคยมาเที่ยวเกาะสีชังกับเพื่อนๆในมหาวิทยาลัย ก็เพื่อนกลุ่มเดิมล่ะครับแต่จำนวนคนน้อยลงกว่าปกติ เพราะบางคนก็ไม่ได้มา
นิ่ม คือเพื่อนที่ได้งานที่เกาะสีชัง พวกเราจึงมีที่พักฟรี ดังนั้นพวกที่ไปต่างจังหวัดได้นานๆก็พากันเฮโลมาถล่มเจ้าภาพซะเต็มที่

เกาะสีชัง มีอะไรหลายอย่างที่ผมชอบ และผมก็เชื่อว่าเทคต้องชอบ เนื่องจากหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมกับเทคมักจะชอบตรงกัน
ผมชอบสถาปัตยกรรมเก่าแก่เช่น วังเก่า ตำหนักเก่า เทค ก็ชอบและหาความรู้เรื่องนี้มากกว่าผมซะอีกทั้งที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ
แต่ถ้าเจอหนังสือเกี่ยวกับ อาคารบ้านเรือนสมัยรัชกาลที่5-7เป็นไม่ได้ล่ะ เทคจะขนซื้อไปนั่งอ่านอยู่ในโลกส่วนตัวเป็นวันๆเลย
ดอกลั่นทม ที่เดี๋ยวนี้เรียกกันว่า ลีลาวดี นี่ก็เหมือนกันผมชอบมาตั้งแต่เด็ก เคยคิดว่าทำไมเอาไปปลูกในบ้านไม่ได้ทั้งที่อยากปลูก
จะว่าชื่อเสียงเรียงนามไม่มงคลแต่ทำไมต้นไม้ที่ใครๆว่าไม่มงคลกลับเติบโตแข็งแกร่งให้ร่มเงาผู้คนอยู่ในเขตวัดอันรื่นรมย์ได้ล่ะ
ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่า เทค ชอบต้นลั่นทมเหมือนกับผมจนกระทั่งผมไปเล่าให้เค้าฟังว่าที่วิทยาเขตที่ผมเรียนอยู่ปลูก
ต้นลั่นทมไว้ซะเต็มทั่วสวนด้านหลังอาคารใหญ่เลย เทค ก็กระดี๊กระด๊าทำท่าอยากมาเห็นซะให้ได้ ก็เลยคุยเรื่องลั่นทมได้ถูกคอ
ทะเล เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมและเทค ต่างก็ชอบเหมือนกัน ผมเคยบอกเทคว่าเวลาไปทะเลผมไม่ต้องเล่นน้ำทุกครั้งหรอกครับแค่ได้
นั่งมองดูท้องทะเล ดูคลื่นซัดหาฝั่งผมก็มีความสุขแล้ว เทคเองก็เนกันแต่รายนั้นยืนยันว่ามาทะเลต้องเล่นน้ำถึงจะเรียกว่ามาจริงๆ
เฉพาะสิ่งที่ผมยกตัวอย่างมานี้ก็มากพอจะทำให้ เกาะสีชัง มีเสน่ห์ดึงดูดให้เทคอยากมา และเมื่อมาแล้วก็ติดใจเหมือนที่ผมคิดไว้

ผมได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมจากเพื่อนของผม นิ่ม ยกห้องนอนให้ผมกับเทคไปเลยหนึ่งห้อง และยังคอยดูแลอาหารการกิน
เรียกได้ว่าเป็นเจ้าบ้านที่ดีสุดๆไปเลย ผมก็เป็นคนไปจ่ายตลาดบ้าง ช่วยออกค่ากับข้าวมื้อเย็นบ้าง โชว์ฝีมือทำอาหารบ้างสนุกดี
ระหว่างวันที่ นิ่ม ไปทำงาน ผมก็จะพา เทค ขี่จักรยานไปรอบๆเกาะ แต่เค้าขี่นะครับผมซ้อน ก็เค้าตัวใหญ่นี่ใครจะแบกเค้าไหว
ที่นี่มีส่วนที่เป้นทะเลอยู่หลายแห่ง เราก็ไปทีละแห่ง วันไหนที่เหนื่อยก็งดโปรแกรม นอนอยู่บ้านทั้งวัน หรือไม่งั้นก็อ่านหนังสือ
ผมพกเอาหนังสือที่ผมชอบมามากมายจน นิ่ม แซวว่าจะมาเปิดร้านขายของที่นี่หรือไง แต่ผมก็อ่านไปทีละเล่มจนเกือบหมดเลย
วันที่ นิ่ม หยุดงานก็จะเป็นไกด์พาไปเที่ยวในที่ซึ่งไกลออกไปหน่อย หรือเป็นที่ที่นิ่มเองก้เพิ่งรู้จักและอยากพาผมกับเทคไปด้วย
ช่วงเวลาหลายวันที่อยู่ด้วยกันที่เกาะสีชัง มันไม่มีแบบแผนตายตัว แล้วก็รู้สึกกันเองมากว่าไปเช่าบังกะโลหรูๆที่เกาะเสม็ดซะอีก
ผมใช้เวลาพักสมองด้วยการอ่านหนังสือ พักสายตาด้วยการนอนหลับ พักผ่อนร่างกายด้วยการว่ายน้ำทะเลในช่วงเย็นๆกับ เทค
วันไหนที่ผมไม่นึกอยากเล่นน้ำ ก็เอาสมุดจดที่มักพกติดตัวไปเสมอๆ ขึ้นมาบันทึกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของวันนั้นเก็บไว้อ่าน
บางทีมีอารมณ์สุนทรีย์มากหน่อย ก็อาจจะได้นิยาย หรือเรื่องสั้นซักเรื่องสองเรื่องเก็บไว้ในสมุดเล่มนั้นแต่เขียนได้แค่เริ่มต้นเอง
พอมีอย่างอื่นที่มาเบี่ยงเบนความสนใจของผมไป นิยายที่คิดเอาไว้ก็เป็นอันต้องนอนรอการสานต่ออยู่ในสมุดเล่มนั้นอยู่เนืองๆ

บรรยากาศ ที่ร่มรื่น อบอุ่นด้วยไอแดด เย็นสบายด้วยละอองฝนยามค่ำคืน แสงจันทร์สีนวลกลมโต ทำให้เกาะสีชังน่าประทับใจ
มากขึ้นไปอีกสำหรับผม จะว่าไปแล้วแม้การมากับเทคครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่ผมได้ไปเกาะสีชังแต่ความรู้สึกตื่นเต้นยังคงอยู่
ผมยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ต่อเรือไปที่เกาะ รู้สึกหวานละมุนเมื่อได้นั่งมองพระจันทร์ในตอนค่ำ และครื้นเครงกับเกลียวคลื่น
สถานที่อาจจะเป็นของเดิม คนรอบตัวก็คนเดิมๆ แต่ยิ่งได้รู้จักคุ้นเคย เกิดความผูกพันกันมากขึ้นเท่าไหร่ ความไว้เนื้อเชื่อใจก็มี
มากขึ้นเป็นลำดับ ‘คนกันเอง’ กับ ‘สถานที่คุ้นเคย’ กลายเป็นความทรงจำส่วนหนึ่งของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้หรอกนะครับ
แต่ที่ผมรู้ก็คือ ที่นี่มีบางอย่างก่อเกิด แจ่มชัดขึ้นในใจของผมเอง สิ่งที่ผมเคยสับสน สิ่งที่ผมเคยก้าๆกลัวๆที่จะยอมรับมันนั้น
มาถึงตอนนี้ผมรุ้สึกอิสระที่จะยอมรับตัวตนของผมเอง ตัวตนที่ผมเคยวิ่งหนี คงเพราะที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่คนในครอบครัวผม
ไม่มีสิ่งที่จะตีกรอบผมเอาไว้ ผมจึงเรียนรู้ความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในใจ นั่นก็คือการยอมรับตัวเองไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอย่างที่ผมคิดไว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2007 18:57:36 โดย :+:So Much In L »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
การยอมรับตัวเองไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอย่างที่ผมคิดไว้
 :m13:  :m13:

luvdisc

  • บุคคลทั่วไป
แล้วทำไมถึงได้ยอมรับตัวเองและความรู้สึกสายแบบนี้   :o12:

kryo_lover

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ ภาค 3มาแล้ว

มาหลายตอนเลย

มาเม้นก่อนไว้กลับมาอ่าน


 :a11:

ดีคร้าบพี่นิว


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด