มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 711946 ครั้ง)

swordtails

  • บุคคลทั่วไป
คุณดอกไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม้ !!!! /ตัวอยู่กรุงเทพแต่อยากจะกรีดร้องให้ดังลั่นไปถึงนราธิวาส/

โฮฮฮฮฮฮฮ ทำไมคุณดอกไม้ถึงทำกับคู่พี่สิงห์น้องจ้อยแบบนี้ล่ะค่ะ T^T
เหตุการณ์ตอนเช้ากับช่วงเย็นย่ำค่ำคืนช่างกลับตาลปัตร หน้ามือเป็นหลังเท้า นี่มันอะไรก๊านนนนน !!!!

เรารู้สึกได้ทุกตอนเลยว่า คู่พี่สิงห์กับน้องจ้อยเนี่ย มัน " สวนทาง " กันตลอดเลยนะ
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูด อ้อ ความคิดก็ด้วยค่ะ !
คนหนึ่งคิดอย่างหนึ่ง ... ส่วนอีกคนก็คิดอีกอย่าง
หลายครั้งอ่านแล้วก็อึดอัดขัดจิตเป็นบ้า T^T อยากตะโกนใส่จังว่า " อย่าคิดแทนกันได้ไหม "
ใช่ ... เวลาจะพูดจะทำอะไร เราควรจะนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นด้วย
แต่ในกรณีของพี่สิงห์และน้องจ้อยเนี่ย ต่างคนต่างคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายมากเกินไป
มากเกินไปจนไม่กล้าพูดออกมา ทั้ง ๆ ที่ ถ้าได้พูดออกมา อะไรหลาย ๆ อย่างมันจะง่ายมากขึ้นทีเดียว
แต่ก็ ... ไม่มีใครยอมพูดออกมาสักที ปากหนักกันทั้งคู่จริง ๆ

ถ้าพี่สิงห์พูดออกไปว่า ที่ไปทะเลาะวิวาทในตลาดนั่นเพราะอะไร ?
มีหรือน้องจ้อยจะใจจืดใจดำ ด่าทอพี่สิงห์ได้ลงคอ ?
เอาล่ะ อาจมีต่อว่าบ้างว่า ดีแต่ใช้กำลัง แต่ ... ผลลัพธ์ของมันไม่มีทางลงเอยได้ร้ายกาจรุนแรงแบบที่เป็นอยู่นี่แน่ ๆ

ส่วนน้องจ้อยก็เหมือนกัน หลายครั้งที่น้องจ้อยปากไวเกินไป แล้วก็มานั่งนึกเสียใจทีหลัง
ถ้าหนูคิดให้มาก ไตร่ตรองให้ดี ไม่เอาอคติที่เกิดขึ้นเพราะเรื่องเก่าก่อนยกขึ้นมาบังตา
หนูก็จะเห็นว่าความรู้สึกของพี่สิงห์ที่มีต่อหนูน่ะมันอ่อนโยนมากแค่ไหน
ใช่ว่าพี่สิงห์เป็นคนอ่่านยากเสียเมื่อไหร่กันเล่า ?

ฮึ้ยยยยย อ่านแล้วอยากจะพุ่งเข้าไปในจอ ลากทั้งคู่ให้มานั่งประจันหน้ากันแล้วก็พ่นไฟใส่เสียจริง ๆ ค่ะ  :m31:

แล้วนี่ .. โอ๊ยยยยย อะไรกันอีก !!!
อะไรมันจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผีซ้ำด้ำพลอย ซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อน ซวยซ้ำสองไม่เป็นรองใครได้เท่านี้อีกไหม !
ปกติมีแค่ไอ้ลอยคนเดียวก็รับมือได้หนักหนาอยู่แล้ว คราวนี้มากันเป็นแพ็คคู่กับแม่ทองใบ
แล้วน้องจ้อยของพี่สิงห์จะรอดไหม T^T ฮึกกกก พี่สิงห์ สร่างเมาด่วนค่ะ  :z6:

รอตอนต่อไปด้วยใจร้าวรานค่ะ  :o12:

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์ รักจ้อย+พี่สิงห์  :L1:

อากาศใต้ผ้าห่ม

  • บุคคลทั่วไป

มันยิ่งกว่าการฆ่าจริง ๆ ค้างมานานกว่า ....
11 วัน = 264 ชั่วโมง = 15840 นาที = 950400 วินาที

แล้วคนเขียนยังจะมาเถียงว่าไม่ได้ดองอีกรึ?
ถ้าดองไข่เค็มตอนนี้ไข่ก็เค็มจนขายได้แล้ว


 :sad4: คนเขียนใจร้ายยิ่งกว่าไอ้ลอยยยยยยยยยอีกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
อยากอ่านต่อมาก จนอ่านซ้ำมาสามรอบแล้ว โฮฮอ

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ลุ้นคู่รองมากกว่า
ทำไมรังแกจ้อยอย่างนี้
พี่สิงห์บ้ามาช่วยน้องด่วน

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
โอยยยยย อ่านเรื่องนี้ทีไรสงสารสิงห์มากๆ รักเค้าแต่ทำตัวไม่ถูก บอกไม่เป็น แล้วเป็นไง ใช่จะเจ็บคนเดียว ทำจ้อยเจ็บไปด้วย
แล้วตอนนี้มันยังไง ไอลอยมันจะข่มเหงเองหรือจับมาให้สิงห์เนี่ย หวังว่าจะเป็นแบบที่สองนะ ไม่งั้นจะกรีดร้องให้ก้องบอร์ดเลยค่า
เผื่อไอสิงห์ได้ยินไม่ชัด จะได้มาช่วยจ้อยได้ทัน อิอิ


ปล. เมื่อไหร่สิงห์จะเลิกคบไอลอยแล้วไปเข้ากลุ่มเพื่อนจ้อยสักทีนะ จะได้เป็นผู้เป็นคนกับเค้ามากกว่านี้ จะบอกว่าตอนนี้ลุ้นคู่นี้มากค่า อยากให้มีความสุขกันสักที เสียน้ำตามาเยอะแล้ว ฮือๆๆๆ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :กอด1:

เข้ามารอพี่สิงห์ที่รักนะคะ คุณดอกไม้

MelodyKJJ

  • บุคคลทั่วไป
โอยยยยย จะอ่านเป็นรอบที่ห้าแล้วนะครับ ถ้าไม่มาอัพอ่ะ  :z3:
ได้โปรด อัพเถอะครับ please :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๒๐

ยิ่งกว่าการฆ่า

(ครึ่งหลังจ้ะ :L2:)


ไอ้ลอยหัวเราะหึ  สาวเท้าเข้าหาทีละก้าวอย่างใจเย็น  มันช่างฉลาดและเจ้าเล่ห์  ชาติก่อนมันคงเป็นจิ้งจอกที่ใช้เล่ห์เพทุบายล่าเหยื่อเพื่อขบกินหัวใจ  ริมฝีปากยิ้มกระตุก  แต่ดวงตาไม่ไหวติง 

นักเรียนครูคนซื่อหายใจไม่ทั่วท้อง  เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมเต็มหน้าผาก  มือไม้เย็นเฉียบ  หวาดกลัวชิงชังจับหัวใจ  จนจ้อยคิดว่าหากผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นเสือสาง  เป็นภูตผี  จ้อยอาจไม่กลัวมากเท่านี้ด้วยซ้ำ 
   
เจอเสือเจอผียังดีเสียกว่า!

ในหัวสมองตีกันวุ่น  จ้อยจะสู้ หรือจะหนี  ถ้าจะสู้  สู้แรงมันไม่ได้แน่  แต่ถ้าจะหนี  ยังพอมีทาง! 
      
สองขาสั่นเทาถอยหลังกรูด  ไอ้คนใจมารหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ  ยามจ้อยหันหลังขวับตั้งใจจะวิ่งหนีไม่คิดชีวิต  แต่วิ่งไปได้สองก้าวก็ชนตุบเข้ากับร่างหนึ่งอย่างจัง 

“เคี้ยกๆๆๆๆ”

ท่ามกลางความมืดมิดจนมองไม่เห็นหน้า  แต่เสียงหัวเราะแหลมเสียดแทงใจนั้นบอกให้จ้อยรู้ได้ไม่ยากว่าเป็นใคร

ไอ้หมาน!  มันมายืนอยู่ข้างหลังจ้อยตั้งแต่เมื่อไร! 
   
จ้อยทั้งโกรธทั้งกลัวจนแทบร้องไห้  เริ่มตระหนักว่าเขาพาตัวเองเข้าสู่มุมอับของชีวิตโดยแท้  โง่แสนโง่  วิชาความรู้ที่พากเพียรเรียนมาไม่ช่วยให้เขาทันคนขึ้นเลยสักนิด 

หัวใจคล้ายถูกมือปีศาจบีบเค้นจนแตกป่น  ลำพังไอ้ลอยคนเดียว  จ้อยก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดยังไงแล้ว  แล้วนี่.. ดันมีลูกน้องจอมจัญไรของมันเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง  หากไอ้ลอยเป็นเสือสาง  ไอ้หมานก็ไม่ต่างอะไรกับงูพิษ  ตัวไม่ใหญ่แต่พิษสงร้ายกาจ  ถนัดนักเรื่องลอบกัดคนจากด้านหลัง  จ้อยไม่เคยสบายใจเลยเมื่อดวงตาเรียวเล็กของมันจ้องมองมา
   
เหมือนที่ยายเคยว่าไว้

‘คนตางู  คบไม่ได้’   
   
ในบรรดาลูกน้องของสิงห์  คนที่จ้อยกลัวที่สุดก็คือไอ้ลอย  รองลงมาคือไอ้หมานนี่แหละ 

บัดนี้พวกมันทั้งสองกำลังย่างสามขุมเข้าหา  ไอ้หมานกางมือกางไม้เหมือนชวนเล่นตี่จับ  หนุ่มน้อยหันซ้ายหันขวา  ไม่รู้จะหนีไปทางใดดี  ได้แต่ลนลานถอยกรูด  ความมืดและดงกล้วยรกเรื้อช่วยเพิ่มพูนอุปสรรค  เท้าเล็กสะดุดกิ่งไม้ซวนเซ  ในเมื่อหมดทางหนี  จ้อยก็จะขอสู้กับพวกมันถวายชีวิต 
   
“ยะ..อย่าเข้ามานะ!” เสียงเล็กตะโกนใส่  ไม่วายสั่นพร่าฟ้องความหวาดกลัวในใจจนหมดสิ้น  มือบางฉวย ‘อะไรก็ได้’ รอบตัว  หวังใช้แทนอาวุธสู้สุดใจ
   
“บอกว่าอย่าเข้ามา!” โธ่เอ๋ย.. จ้อยคว้าได้แต่ก้านกล้วยเปราะๆ  ตีหมาหมามันยังไม่ร้องเลย 

ภาพคนตัวเล็กกวัดแกว่งก้านกล้วยสะเปะสะปะ  ปากเก่งราวกับว่าข้าแน่  ยังความสบใจมาสู่พวกคนชั่วเหลือหลาย  เสียงหัวเราะทุ้มต่ำและเล็กแหลมเคล้ากัน  สั่นสะเทือนประสาทจ้อยแทบเป็นบ้า
   
ร่างผอมเกร็งของไอ้หมานโจนเข้าใส่  แย่งอาวุธในมือจ้อยไปหักดังเป๊าะโยนทิ้งข้ามไหล่อย่างง่ายดาย  นักเรียนครูหอบหนักจนตัวโยน  หัวใจเต้นรัวเร็วจนเจ็บอก  วินาทีที่หันหลังวิ่งหนี  ไอ้ลอยก็ตะครุบตัวไว้ได้ทันในก้าวเดียว  อ้อมแขนกำยำกอดรัดแน่นจากด้านหลัง  จ้อยดิ้นรนด้วยความขยะแขยงจับขั้วหัวใจ
   
“ปล่อย! ปล่อยกู!” เสียงเล็กร้องลั่นอย่างเสียขวัญ  มือบางพยายามแกะแขนล่ำสันที่กอดรัดแน่น  ออกแรงขัดขืนสุดชีวิต  ทว่าคนใจโฉดยิ่งรัดเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ  เรี่ยวแรงมหาศาลยกจ้อยลอยหวือทั้งตัวจนเท้าแทบไม่ติดพื้น
   
“ไอ้พวกชาติชั่ว! ปล่อยกู!” เสียงจ้อยเดินทางไปไม่ถึงจิตใจมืดบอดของพวกมันสักนิด “ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! ยายจ๋า!”     
   ความหวาดกลัวของเหยื่อ  เป็นความหฤหรรษ์ของผู้ล่าโดยแท้  พวกมันพากันหัวเราะร่วน 

“ร้องไปเลย” เสียงแหบต่ำก้มลงกระซิบริมหู  มันเปล่งเสียง ฮึบ เบาๆ ออกแรงเขย่าร่างเล็กเพื่อกอดรัดได้แน่นขึ้น
   
“โอ๊ย” จ้อยเจ็บจนน้ำตาเล็ด  เจ็บเหมือนซี่โครงจะหัก 
   
“ร้องให้ตายก็ไม่มีใครได้ยินมึงหรอกไอ้จ้อย” ไอ้ลอยพึมพำเสียงหื่นเหี้ยม  ปลายจมูกเสียดไซร้ตามไรผมชื้น  จ้อยพยายามเบี่ยงกายหนี  ขนลุกเกรียวด้วยความขยะแขยง  ถูกหนอนไต่ยังไม่รังเกียจเท่านี้ 
   
“เก็บเสียงไว้ครางดีกว่าน่า” ไอ้หมานว่าเป็นลูกคู่  คำพูดมันกระตุกหัวใจดวงเล็กหล่นวูบ  คราง.. ครางอะไร..
   
หากความกลัวเป็นเหล็กแหลม  ตอนนี้ใจจ้อยคงพรุนพังลงทั้งดวง
   
“ช่วยด้วย!  ใครก็ได้ช่วยที! ช่วยด้วย!” หนุ่มน้อยตะโกนแล้วตะโกนเล่าจนเสียงแหบแห้ง  ออกแรงดิ้นรนเท่าไรก็ไม่หลุดพ้น  ยิ่งขัดขืนยิ่งล้าแรงลงไปทุกที  ผมเผ้าที่อุตส่าห์หวีเรียบมาจากบ้านยุ่งกระเซิง  เสื้อใหม่ที่ลงทุนรีดเรียบกริบบัดนี้ทั้งยับย่นทั้งเปียกเหงื่อโชก  ไม่เหลือสภาพเดิมตอนจ้อยตั้งใจออกมาตามพี่ที่ตลาดสักนิด     
   
“อย่าดิ้นเลย เหนื่อยเปล่า” ไอ้ลอยกระซิบอีกครั้ง  หนนี้มันไซ้ลงซอกคอ  จ้อยดิ้นหนีเร่าๆ  แก้มซ้ายขวายิ่งถูกมันหอมเอาๆ ดังฟอดๆ       
   
“เก็บแรงไว้ตอนพวกกูซอยเถอะ” ไอ้หมานว่าหยาบคาย  หัวเราะเสียงแหลมเสียดแก้วหู 
   
“ทายซิ.. คืนนี้มึงจะมีผัวกี่คน?” คำถามจากไอ้ลอยย้ำหัวตะปูถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับจ้อยได้ปรุโปร่ง  หนุ่มน้อยชาดิกไปทั้งร่างด้วยความสะพรึง   

ความทรงจำในค่ำคืนเลวร้ายไหลบ่าราวละรอกคลื่น  เสียงสายฝนรุนแรงซัดสาด  เสียงสายฟ้าคำรามกึกก้อง  เสียงพวกคนใจโฉดหัวเราะครื้นเครง 
   
เสียงครวญครางเจียนขาดใจของเขาเอง  เขาที่นอนเปลือยเปล่าแยกขาอยู่ใต้ร่างผู้ชาย ๔ คน

ไม่..

จ้อยยอมให้มันเกิดขึ้นกับจ้อยไม่ได้  ถ้าหากมันเกิดขึ้น  ชีวิตของจ้อยจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป  ชีวิตของจ้อยจะถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง  กลายเป็นสิ่งแตกหักชำรุดที่ไม่อาจซ่อมแซมได้  รอเวลาถูกโยนทิ้งลงถังขยะในที่สุด

ไม่ยอม!

ฟันคมงับลงท่อนแขนกำยำชนิดจมเขี้ยว  ไอ้ลอยร้องลั่น  จ้อยสบจังหวะที่อ้อมแขนแกร่งคลายออกเพราะความเจ็บปวด  สลัดมันทีเดียวหลุด  ทันทีที่เป็นอิสระ  หนุ่มน้อยก็ตั้งใจโกยอ้าว  แต่ไปได้เพียงสองก้าวก็ถูกไอ้หมานจับตัวไว้  ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่อย่างนั้น       
   
“มึงเป็นหมาเรอะ” ไอ้ลอยซี้ดปาก  รสเค็มคาวติดปลายลิ้นฟ้องว่าจ้อยกัดมันจนถึงเลือด “ดี! กูจะล่อให้ครางอย่างหมาเลย”
   
ร่างสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่นกระโจมเข้ามา  ถึงแขนจะถูกไอ้หมานยึดไว้  แต่จ้อยก็ยังมีแรงพอโดดยันมันเข้าที่ยอดอกดังปึ้ก  แรงไม่มาก  แต่ก็เล่นเอามันเซได้ก็แล้วกัน
   
คนขี้ยาอย่างไอ้หมาน  จ้อยพอสู้กับมันไหว  กำปั้นเล็กชกโครมเข้าให้  จ้อยปล่อยมวยแมวเข้าใส่  ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง  จนมันยอมคลายมือออก  เมื่อนั้นจึงเตลิดหนีไม่คิดชีวิต 

ร่างเล็กวิ่งกระเซอะกระเซิงอยู่ในดงกล้วยกว้างใหญ่  ได้ยินเสียงพวกมันไล่ล่ามาข้างหลังแต่จ้อยก็ไม่คิดเหลียวไปมอง  รองเท้าแตะกระเด็นหายไปเมื่อไรไม่รู้  หนุ่มน้อยย่ำลงใบตองแห้งกรอบด้วยเท้าเปล่า  ไม่สนใจคมหญ้าที่บาดขาขาวจนเลือดซิบ  ไม่สนใจหนามไหน่ไม้แห้งที่ทิ่มตำ  ความหวาดกลัวสั่งให้เขาหนี!  หนีไปให้เร็วที่สุด!  หนีไปที่ไหนก็ได้ให้พ้นจากนรกขุมนี้!
   
เหมือนพระมาโปรด!

ท่ามกลางความมืดมิดอย่างทมิฬ  จ้อยเห็นแสงสว่างวอมแวมอยู่ข้างหน้า  บ้านคน!  บ้านใครไม่รู้  ในวินาทีวิกฤติเช่นนี้  เหมือนคนกำลังจมน้ำแล้วมีกิ่งไม้ยื่นมาให้  สองขาที่เริ่มล้าแรงวิ่งกะเผลกไปหาแสงสว่าง
   
ณ ที่แห่งนั้น  ท้ายดงกล้วยรกครึ้ม  แสงตะเกียงสลัวสาดส่องมาจากกระท่อมเก่าทะมอทะแม  หลังคามุงจาก  ฝาขัดแตะพอคุ้มแดดคุ้มฝน  เสียงน้ำคลองไหลเอื่อยอยู่ไม่ไกล  กลิ่นหอมเย็นของดอกมหาหงส์โชยมาตามลม
   
“ช่วยด้วย!” จ้อยถลาเข้าไปทางประตูที่เปิดกว้าง  หอบหนักเหน็ดเหนื่อย  ร้องขอความช่วยเหลือจาก ‘ใครก็ได้’ ที่อยู่ในนั้น

โต๊ะไม้ตัวใหญ่ตั้งอยู่ชิดผนัง  ‘ใครคนหนึ่ง’ นั่งอยู่ตรงนั้น  คนที่จ้อยจำได้ไม่มีวันลืม
   
ลูกชายกำนันนั่งดื่มเหล้าเงียบๆ  มือแกร่งคว้าแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก  กลืนอึกๆ จนลูกกระเดือกเป็นระลอก  เขาดูไม่ใส่ใจสักนิด  ดั่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีใครคนหนึ่งวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา
   
“พี่..พี่สิงห์!” จ้อยละล่ำละลัก  ปราดเข้าไปหาเหมือนลูกหมาหนีตาย  หูตั้งหางกระดิก  ดีใจน้ำตาแทบร่วง  ร่างสั่นสะท้านโผเข้ากอดแขนพี่  หวังคว้าเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้าย  “พี่สิงห์ช่วยด้วย!  พี่สิงห์!” 
    
จ้อยเขย่าแขนกำยำจนแก้วเหล้ากระฉอก  เสี้ยวหน้าคมสันค่อยๆ หันมา  จ้อยยิ้มทั้งหอบ  พร่ำเรียกชื่อพี่ซ้ำๆ เหมือนคนบ้า
   
แสงตะเกียงหรุบหรี่เหลือเกิน  จ้อยไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าพี่สิงห์มองจ้อยด้วยดวงตาแบบไหน  รู้เพียงว่าเขาเงยหน้าขึ้นมองหน้ากัน  แล้วใบหน้าคมคายนั้นก็ค่อยๆ ก้มลงต่ำ..

จนสายตาอยู่ระดับเดียวกับหน้าอก!

จ้อยชะงัก  ก้มลงมองตามสายตาพี่  เมื่อนั้นจึงเพิ่งรู้สภาพตัวเองว่าผ้าผ่อนหลุดลุ่ย  กระดุมหลุดไปสองสามเม็ดจนสาบเสื้อแยกกว้าง  เปิดเผยเนื้อหนังโดยไม่ได้ตั้งใจ  หัวไหล่แทบจะโผล่ออกมาแล้ว  สงสัยจะเป็นเพราะตอนเขาสู้กับไอ้หมานเมื่อกี้ 
   
มือเล็กกระชับสาบเสื้อเข้าหากันโดยสัญชาติญาณ  แต่พอพยายามจะกลัดกระดุม  มือแข็งราวคีมเหล็กก็คว้าข้อมือจ้อยหมับ 
   
“พี่สิงห์..”  สติเริ่มคืนมาทีละนิด  จ้อยเพิ่งฉุกพิจารณาทุกสิ่งรอบกาย  กลิ่นสาบสางระเหยคละคลุ้ง  ขวดเหล้าระเกะระกะ  ก้นบุหรี่เกลื่อนพื้น 
   
“พี่..” จ้อยครางแผ่ว  ลางสังหรณ์แปลกประหลาดเริ่มก่อตัว  จ้อยจะถอยหนีเมื่อร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ยืนขึ้น  แต่มือแข็งแรงดึงรั้งไว้  เมื่อพี่ยืนเต็มความสูง  เทียบกันแล้วเหมือนกำแพงหินผากับกอหญ้าเล็กๆ ประจันหน้ากัน 
   
ดวงตาแดงก่ำมองสบมา  ยามนั้นจึงเห็นดวงตาเข้มลึก  กระหายด้วยปรารถนา  น่าสะพรึงกลัว  เงาอันมโหฬารและถมึงทึงของพี่ที่ตะเกียงกระป๋องวอมแวมบันดาลให้เกิดขึ้น  ทาบอยู่กับผนังไม้เก่า  พี่กำลังจ้องมองมาด้วยสายตาของเสือที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ 
   
พ่อพระมาโปรดหายไปไหน  กลับกลายเป็นเงื้อมเงาปีศาจไหวระยับในประกายตา  เสียงกลองดังระงมขึ้นจากไหนกัน 

ไม่ใช่.. มันคือเสียงหัวใจอันเต้นไม่เป็นส่ำของจ้อยเองต่างหาก  เต้นรุนแรงเสียจนเจ็บในอก 

“พี่สิงห์..” เสียงสั่นพร่าพยายามเหนี่ยวรั้งให้ ‘พี่’ กลับมา  แต่คนตรงหน้า.. เงียบงัน.. เฉยชา..

ดั่งไม่เข้าใจภาษามนุษย์ 

“หึๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังมาก่อนตัว  จ้อยหันขวับ  ไอ้ลอย ไอ้หมาน เดินหน้าระรื่นเข้ามา  จ้อยเพิ่งเห็นว่ามีไอ้หมูตอนเลิศนั่งสัปหงกอยู่แถวหน้าประตูอีกคน

เสียดแปลบในอกดังเข็มนับพันทิ่มแทง 

ไม่จริง..
   
จ้อยกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม..


นักเรียนครูหันกลับมามองพี่  ดวงตากระหายคู่นั้นยังนิ่งมองมาด้วยแววของเสือมองเหยื่อเช่นเดิม
   
แต่จ้อยไม่ใช่เหยื่อ.. จ้อยเป็น ‘น้อง’ ของ ‘พี่’
   
ไม่ใช่หรือ..


จ้อยยืนตัวสั่น  มือสั่น  แม้ดวงตาที่มองพี่ก็ยังไหวระริก  ขอบตาร้อนผ่าวรุนแรง  ภาพพี่ดูพร่าเลือนลงไป 
   
“พี่เป็นลูกพี่  พี่เอาก่อนเลย” เสียงไอ้ลอยดั่งคำสั่งประหาร  วินาทีที่พี่รวบร่างจ้อยเข้าไปกอดรัดแน่น  วินาทีนั้น.. ดั่งคมดาบเฉือนขั้วหัวใจขาดสะบั้น
   
ฆ่าจ้อยเถิด.. ฆ่าจ้อยเสียดีกว่า..

สิงห์ยังตกอยู่ในฤทธิ์ของมึนเมา  กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่โชยฟุ้งอยู่ในลมหายใจร้อนระอุ  แขนกำยำรัดแน่น  จ้อยดิ้นรนหนีสุดชีวิตแต่ก็ไร้ผล  ใบหน้าคมคร้ามโน้มลง  บดขยี้กลีบปากสั่นระริกอย่างรุนแรง  ยิ่งจ้อยส่ายหน้าหนี  พี่ยิ่งตระโบมจูบคลุ้มคลั่ง  ลิ้นแข็งราวกระเบื้องยัดเยียดเข้ามาในโพรงปากเล็ก  ดูดดุนรุนแรง  จ้อยส่ายหน้าหนี  พี่ยิ่งรุกหนักขึ้นทุกที  การดิ้นรนเปลี่ยนเป็นปะทะ  สองมือเล็กทั้งผลักไส  ทั้งทุบตี  ทั้งกรีดข่วนสะเปะสะปะ  กระท่อมแทบไหวสะเทือน  จ้อยผลักศีรษะ  พี่ยิ่งดื้อดึง  จ้อยกรีดร้อง  พี่ยิ่งย่ามใจลำพอง 
   
ชายหนุ่มยิ้มเป็นประกาย  เมื่อเห็นร่างเล็กตัวสั่นในอ้อมกอด  น้ำตาเอ่ออาบแก้ม  ร่างแข็งแรงยิ่งกอดรัดแน่น 

smileiiz

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามากรี๊ดดดดดดด ก่อนอ่านครึ่งหลัง ค๊า ฮื๊อออออออออ เหมือนกับรอดพ้นจากบ่วงมาร (รึป่าววว).

 :sad4: :sad4: :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
พี่จะดูแลจ้อยเอง  ดูแลตลอดไปเลย..
   
พี่กระชากจ้อยเข้าไปหาโต๊ะใหญ่  มือหนากวาดแก้วกวาดขวดเหล้าบนโต๊ะลงพื้นแตกเปรื่อง  ออกแรงน้อยนิดก็ยกร่างเบาหวิวขึ้นไปเกยพาดบนโต๊ะอย่างง่ายดาย 
   
“อย่า!!” จ้อยกรีดร้องลั่น  แต่คล้ายพี่ไม่ได้ยิน  ร่างเล็กพยายามกระถดหนี  แต่กลับถูกกระชากข้อเท้าลากเข้าหาอย่างป่าเถื่อน  สองขาพยายามถีบถอง  สองมือพยายามผลักไส  พี่ยิ่งรุนแรงเข้าใส่  ร่างกำยำโถมลงทับจ้อยทั้งตัว 
   
ลูกน้องพี่กรูกันเข้ามาอำนวยความสะดวก  ไอ้ลอยเตะไอ้หมูเลิศที่นอนอืดให้ลุกขึ้นมาช่วยกัน  ร่างอ้วนเผละสะดุ้งโหยง  มันหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นภาพความรุนแรงตรงหน้า
   
เสียงร้องไห้คร่ำครวญของจ้อย  เสียงหัวเราะสาใจของไอ้ลอยไอ้หมาน  เสียงหอบครางหื่นกระหายของสิงห์  เสียงการปะทะ ต่อสู้ ดิ้นรน โครมครามจนกระท่อมแทบไหวสะเทือน   

คนขี้ขลาดอย่างไอ้เลิศยืนเงอะงะ  ในขณะที่ไอ้ลอยรี่เข้ามายึดข้อมือน้อยทั้งสองข้างกดตรึงกับโต๊ะ  ไอ้หมานจับข้อเท้าเล็กข้างหนึ่งแยกออก  ให้ลูกพี่แทรกกายเบียดเสียดเข้ามาถนัดถนี่
   
“อย่า!  ปล่อยกู! ปล่อย!” จ้อยกรีดร้องปานจะขาดใจ  น้ำหูน้ำตาไหลพรากเต็มหน้า  ร่างน้อยทุรนทุรายอยู่ในกลุ่มชายฉกรรจ์ ๓ คน 
   
“ไม่!! พี่สิงห์! อย่า!” เสียงเล็กผวาร้องลั่น  เมื่อสิงห์กระชากเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของจ้อยขาดควากออก  และดึงกางเกงขาสั้นและกางเกงชั้นในของจ้อยออกด้วยการออกแรงเพียงครั้งเดียวเช่นกัน  ซอกมุมเร้นลับเปิดเผยต่อหน้าสายตา ๔ คู่ 
   
“วู้ว.. ขาวโว้ย!” ไอ้ลอยคราวอู้ให้กับผิวกายขาวผ่อง  ขาวเสียยิ่งกว่าพวกอีตัวในซ่อง 

สิงห์ตระโบมจูบหื่นกระหาย  ลมหายใจของนักเลงหนุ่มมีแต่กลิ่นเหล้าอวลซ่านคละคลุ้ง  เมื่อผสมปนเปกับกลิ่นยาสูบแล้วกลายเป็นกลิ่นอายโสมมที่ทำให้จ้อยแทบคลั่งด้วยความขยะแขยง  ริมฝีปาก  หน้าผาก  สองแก้ม  ใบหู  ไม่มีส่วนไหนไม่ถูกบดขยี้  เหมือนเสือตะกรุมตะกรามกินเหยื่ออย่างหิวโหย  มือหยาบหนาสำรวจไปทั่วเรือนกาย  ยิ่งจ้อยบิดกายหนีเร่าๆ  เหมือนยิ่งยั่วยุอารมณ์อีกฝ่ายให้พลุ่งพล่าน   
   
ริมฝีปากร้อนเหมือนถ่านนาบไซ้ลงซอกคอ  ขบกัดเนื้ออ่อนจนเจ็บแปลบ  ฟอนเฟ้นไปทั่ว  ไหปลาร้า  ลาดไหล่เนียน แผ่นอกเปลือยที่กระเพื่อมขึ้นลงแรงถี่  เหมือนร่างกายจ้อยเป็นอาหารอันโอชะที่เขาต้องกัดกินให้สิ้นซาก 
   
“อ๊ะ!” จ้อยสะดุ้งวาบเมื่อปากอุ่นครอบลงยอดอก  ลิ้นสากระคายไล้เลียดูดกลืนสลับกันไปมาทั้งสองข้างอย่างหื่นกระหาย  ร่างเล็กดิ้นพราด  แอ่นกายบิดหนีไปมา  กลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้มือใหญ่ช้อนแผ่นหลังเล็กป้อนเนื้อหวานเข้าปากเอร็ดอร่อย 
   
“ไหนว่าถ้านมไม่โตจะไม่แตะให้เสียมือ  นี่ทั้งเลียทั้งดูดอร่อยไปเลยนะ” ไอ้ลอยหัวเราะร่วน  บางส่วนในร่างกายร้อนอ้าวแข็งตึงตามสัญชาติญาณดิบ  ไอ้หมานไม่พูดอะไร  ได้แต่สูดปากสูดคอ  จ้องมองภาพการทารุณตรงหน้าด้วยดวงตาวาววับ 

จ้อยสะดุ้งเฮือกทุกครั้งที่ริมฝีปากอุ่นกดจูบไปทั่วหน้าท้องขาว  สะอื้นไห้หนักขึ้นทั้งที่ยังขัดขืนไม่หยุด  ดิ้นหนีเร่าๆ เมื่อมือหยาบกระด้างกอบกุมส่วนที่อ่อนไหวไว้เต็มอุ้งมือ  รูดรั้งรัวเร็ว 
   
“ฮือ..พี่..พี่สิงห์..อย่า..” เสียงวิงวอนที่ปนเคล้ากับเสียงลมหายใจขาดห้วง  จ้อยไม่รู้เลยว่ามันช่างยั่วเย้าอารมณ์อีกฝ่ายจนคุกรุ่น  ใบหน้าคมสันเงยขึ้นมองกัน  แลบลิ้นเลียริมฝีปาก  หัวเราะเสียงต่ำในลำคอ  ก่อนก้มลงทำสิ่งที่จ้อยคาดไม่ถึง

ปากร้อนครอบลงแก่นกายสีเรื่อ  จ้อยผวากระตุกสุดตัว!

“ไม่!!” มิไยจ้อยจะร้องห้ามจนเสียงแห้ง  สิงห์ยังคงดูดกลืนส่วนนั้นอย่างโหยหา  สองมือจับสะโพกเล็กไว้แน่น  ดื่มกินตะกรุมตะกราม  ลามเลียไปถึงช่องทางคับแคบสีเรื่อ  ถ่มน้ำลายลงอย่างกักขฬะ  ก่อนสอดแทรกนิ้วแข็งชอนไชลงลึก 

“เจ็บ!!” เสียงเล็กกรีดร้องคับกระท่อม  สะบัดกายเร่าๆ จนไอ้ลอยไอ้หมานต้องเพิ่มแรงตรึงไว้  นิ้วยาวกระแทกกระทั้นระรัว  ปากร้อนผ่าวยังคงทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง  จ้อยพยายามหนีบขาเข้าหากัน  กลับถูกไอ้หมานยกแยกออกกว้างกว่าเดิม 

อย่างนี้เอง.. ความทุรนทุรายเหมือนถูกแผดเผาจากส่วนลึกที่สุด  เสียงหัวเราะของปีศาจดังก้องอยู่ในเปลวไฟ  ความหึงหวง  ความเคียดแค้น  ความมัวเมา  จับมือกันเริงร่าย 
   
หักหาญ อุกอาจ ปราศจากความยับยั้งชั่งใจหรือความหวาดเกรงใดๆ เป็นการกระทำเยี่ยงสัตว์โดยแท้ 

ร่างเล็กหอบสะท้าน  ทั้งที่กลัวแสนกลัว  ทั้งที่ขยะแขยงจับขั้วหัวใจ  แต่ความเสียวซ่านที่น่ารังเกียจก่อตัวขึ้น  ชั่ววินาทีที่ร่างกายไม่เชื่อฟังคำสั่งจากสมอง  เหมือนจุดเปลวไฟใต้น้ำ  ค่อยๆ ลามเลีย แผดเผา  จนประทั่งประทุ   
   
ทั้งร่างสั่นกระตุก  เกร็งสะท้าน  ปลดปล่อยสายธารหวานล้ำหลั่งริน  กระฉูดกระฉอก  ให้อีกฝ่ายดูดกลืนลงคอจนหมดสิ้น   
   
“แตกแล้วโว้ย  ข้นเชียว  ไม่ค่อยได้เอาออกสิมึง” เสียงไอ้ลอยโห่ฮาหยาบคาย  เสียงไอ้หมานเป่าปากเป็นลูกคู่  ผ่านหูจ้อยไปเหมือนสายลมบางเบา  เสียงที่แจ่มชัดที่สุดคือเสียงหัวใจเต้นเป็นกลองรัว  เสียงลมหายใจหอบสะท้านรวยรินของตัวเอง 
   
และของ ‘พี่’

ไม่สิ.. ไม่ใช่พี่  ไม่มีพี่สิงห์ของจ้อยอีกแล้ว  นับจากวินาทีนี้  พี่สิงห์ของจ้อย.. ความรักของจ้อย.. ตายไปจากใจจ้อยแล้วจนหมดสิ้น 
   
เหลือเพียง ‘มัน’
   
เดรัจฉานในร่างคน!


จ้อยหลับตาลง  ปล่อยน้ำตาหยดหนึ่งรินไหลจากหางตา  อยากหลับลงแล้วตื่นขึ้นอีกครั้ง  เพื่อพบว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี่เป็นเพียงฝันไป
   
หารู้ไม่ว่า ‘ฝันร้าย’ ที่แท้จริง  กำลังจะเริ่มต้นขึ้น! 

‘มัน’ พลิกร่างจ้อยให้คว่ำลงด้วยเรี่ยวแรงดั่งช้างสาร  หน้าท้องจ้อยกระแทกกับขอบโต๊ะจนจุกเสียดไปหมด  มันระดมจูบไซ้ไปทั่วแผ่นหลัง  ส่งเสียงฮึ่มฮ่ำในคอเมื่อเสื้อขาดรุ่งริ่งของจ้อยเป็นอุปสรรค  มันถลกเสื้อเชิ้ตที่ซื้อให้จ้อยเองกับมือขึ้นไปกองอยู่บนราวคอ  ร่างมันปลาบด้วยหยาดเหงื่อลดระดับลงทาบทับอยู่เหนือแผ่นหลังจ้อย  กลิ่นลมหายใจอวลซ่านรุนแรงยิ่งขึ้น  มือหยาบลูบไล้ไปทั่วก่อนเลาะลงต่ำขยี้ขยำเนินเนื้อสะโพกขาวจนแทบนิ่มเหลวคามือ
   
ชั่วขณะที่มันผละออกไป  จ้อยได้ยินเสียงกระชากเสื้อ  เสียงรูดซิป  ตามมาด้วยเสียงครางอู้จากพวกลูกน้องของมัน
   
“โอ้โห!”
   
“วู้ว!”

ร่างเล็กตัวสั่นสะท้าน  เมื่อมันโถมลงทาบทับอีกครั้ง  อวัยวะที่มีชื่อเรียกหยาบคายชิ้นนั้นของมันกำลังตื่นตัวเต็มที่  และถูไถอยู่กับต้นขาขาวที่ฉ่ำไปด้วยหยาดเมือกของจ้อย 

ชายหนุ่มพยายามผ่านเข้าไปในเรือนกายสั่นสะท้าน  ดั่งเรือลำใหญ่พยายามลัดเข้าคลองน้อย  พอจ้อยอ้าปากจะเปล่งเสียงก็ปิดเสียด้วยจูบรุนแรง  หางตามีหยดน้ำไหลหยาด  สิงห์เกือบแผดเสียงเหมือนหมาป่ากระชากคอลูกแกะ  เมื่อท่อนฟืนร้อนวาบดุนดันเข้าไปในกลีบดอกไม้แรกแย้ม  แผดเผาแทบลุกไหม้
   
“อ๊าา!!” จ้อยกรีดร้องสุดเสียง  เจ็บเหมือนร่างกายจะฉีกออกเป็นสองส่วน  มือเล็กที่ถูกตรึงไว้ออกแรงตะกุยโต๊ะจนเนื้อไม้เป็นรอยเล็บครูด 
   
“เฮ่ย ถ้ารูมันเล็ก ต้องแหกขากว้างๆ” ไอ้ลอยสั่งไอ้หมาน  มันกักขฬะทั้งคำพูดและการกระทำ  มือหยาบรวบข้อมือน้อยไว้ด้วยมือเดียว  อีกมือกดแผ่นหลัง  ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองส่วนที่เชื่อมต่อเขม็ง “ไว้หลวมอย่างอีทองใบค่อยหนีบ”
   
เหมือนงูพิษ  เหมือนปีศาจ  เหมือนเหล็กแหลม  น่าชิงชัง  น่าขยะแขยง  น่าสะพรึงกลัว  ทิ่มแทงทะลวงเข้ามา 

“เจ็บ!” จ้อยสำลัก  น้ำตาพรูเหมือนตาน้ำทลาย  “เอาออกไป!  ออกไป!” ความเจ็บปวดมาจากไหนกัน  เบียดเสียดแทรกแซงในร่างกาย 

มือเทอะทะเป็นใบพายจับเอวเล็กกระชากเข้าหาเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกแกร่งที่กระแทกสวนเข้าใส่ไม่หยุด  ถะโถมถั่งถี่  ระรี่ระรัว  จ้อยร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด  น้ำตาไหลพรากอาบแก้มเผือดซีด     
   
“ดิ้นพราดเลยเว้ย!  ไอ้เหี้ยอ้วน มาช่วยกันจับสิวะ!” เสียงห้าวของไอ้ลอยตะโกนสั่งไอ้เลิศที่เอาแต่ยืนเงอะงะด้วยความขลาดอยู่กลางกระท่อม 
   
“พ..พี่ลอย.. มันเป็นผู้ชายนะ” ใบหน้าอ้วนอูมเหยเกดั่งจะร้องไห้  ละล้าละลังไม่กล้าเข้าร่วมการข่มขืนกระทำชำเราอย่างป่าเถื่อนครั้งนี้ 
   
“ผู้ชายแล้วยังไง! เอาได้เหมือนกัน!” ไอ้ลอยหงุดหงิดใส่ความไม่ได้อย่างใจ  ก่อนหันมาพยักพเยิดกับคนหูอื้อตามัว “ใช่ไหมพี่สิงห์”

สิงห์ไม่ตอบคำ  นัยน์ตาเหลือกลอยเหมือนหลุดพ้นจากโลกขึ้นไปสวรรค์ชั้นฟ้า  ใบหน้าเปลี่ยนไป  ละม้ายเจ็บปวด  แต่หากสุขสม  สะโพกแกร่งเดี๋ยวขยับเป็นจังหวะถี่  เดี๋ยวสอดแทรกเนิบช้า  เดี๋ยวกระแทกเน้นแรงลึกล้ำ  เสียงขาโต๊ะลั่นเสียดสีกับพื้นกระดานดังออดแอด  เสียงเนื้อต่อเนื้อกระทบกัน  เสียงครวญครางราวจะขาดใจของจ้อย  และเสียงหอบครางอย่างซ่านกระสันของสิงห์  นานาสรรพเสียง  ปะปนคละเคล้า 

นี่มันนรกขุมไหนกัน!

“ถ้ามึงไม่กล้าก็ออกไปดูต้นทางเลยไอ้สัตว์!” ไอ้ลอยตวาดใส่คนขี้ขลาด  ไอ้เลิศจำต้องเดินตัวสั่นงันงกออกไปข้างนอก 
   
เสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างทรมานยังเล็ดลอดตามออกมา  เนิ่นนานราวไม่มีวันจบสิ้น  ดงกล้วยท้ายตลาดรกร้างห่างไกลผู้คน  ต่อให้จ้อยร้องจนคอแตกตายก็ไม่มีคนหรือหมาแมวที่ไหนได้ยิน 

สิงห์ฆ่าจ้อยทั้งเป็นด้วยสัมผัสทารุณ  ร่างบอบบางสะท้านสะเทือนไปตามแรงกระแทกกระทั้น  ชายหนุ่มแหงนหน้าส่งเสียงครางกระเส่า  สีหน้าบ่งบอกถึงความหฤหรรษ์  มือหยาบใหญ่ขยำลงเนินเนื้อขาวซีดจนเป็นรอยบุ๋มลงไปตามนิ้วทั้งสิบ  เลือดสดๆ ไหลอาบลงไปตามลำขาขาว 

เนิ่นนาน.. จนจ้อยเริ่มอ่อนล้า  ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน  ได้แต่นอนทอดร่างเป็นเหยื่อสังเวยฝูงผีห่าซาตาน  ร่างเล็กแน่นิ่งดั่งไร้วิญญาณ  มือหยาบใหญ่จับร่างอ่อนเปลี้ยพลิกคว่ำจำหงายได้ดั่งใจเหมือนเล่นตุ๊กตา 
   
ไอ้ลอยไม่ต้องคอยจับจ้อยตรึงอีกแล้ว  มันทนดูลูกพี่ตระโบมกินอย่างสาสมใจอยู่พักหนึ่ง  เกิดอดใจไม่ไหวขอร่วมวงด้วย..
   
ตามที่ตกลงกัน..


“ปากล่างได้กินเยอะแล้วนะ หืม์..” ร่างสูงใหญ่เดินเข้าหาร่างที่นอนแผ่หงายอยู่บนโต๊ะสั่นสะเทือน  “ปากบนยังไม่ได้กินเลยนี่..” 
   มือใหญ่ตบแก้มซีดเผือดเบาๆ  ดวงตาคู่สวยเหม่อลอยคว้างราวกับไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป  ขนตาชุ่มน้ำติดกันเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อต้องน้ำค้าง  ไอ้ลอยบีบคางเล็กเบาๆ หมายให้กลีบปากบางเปิดออก 
   
แล้วรับความร้อนระอุของมันเข้าไปในโพรงปากที่ดีแต่พ่นถ้อยคำอวดดีนั่น

แก่นกายใหญ่โตจดจ่ออยู่ห่างจากปากเล็กไม่กี่เซ็น 

ผลั่วะ!

กำปั้นลุ่นๆ ของไอ้สิงห์ซัดเปรี้ยงใส่หน้ามันทีเดียวกระเด็น  วินาทีที่ไอ้ลอยมัวแต่จดจ่ออยู่แต่กับอาวุธประจำกายจนไม่ทันระวัง  มารู้ตัวอีกทีก็เซถลาไปกระแทกผนังกระท่อมเข้าแล้ว
   
“อะไรวะ!” มันลุกขึ้นโวยวายลั่น  เจ็บซี้ดที่มุมปาก  ได้รสเค็มปร่าแทรกปลายลิ้น  ไอ้สิงห์ต่อยมันจนได้เลือด! 

ลูกพี่ไม่ตอบ  แต่ดวงตาแดงก่ำแข็งกร้าว  และสองแขนที่รั้งร่างน้อยขึ้นกอดแนบอกอย่างหวงแหนนั้นแทนคำตอบได้ทุกสิ่ง 
   
มันกอดคนที่มันย่ำยีไว้แน่นเต็มสองแขน  แสงตะเกียงสะท้อนร่างเปลือยเปล่ามันปลาบด้วยหยาดเหงื่อและน้ำลายโสโครก  เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำและรอยฟันขบกัด  ซบร่างระทดระทวยอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง  บางส่วนยังเชื่อมติดกัน 
   
“ตกลงกันไว้แล้วนะว่าเอามันได้ทุกคน” ไอ้ลอยทวงสัญญา  พลางสาวเท้าเข้าหา  อีกฝ่ายคำรามฮึ่มใส่เหมือนหมาบ้า  ดวงตาวาวโรจน์ราวกับพร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ

ไอ้ลอยหัวเราะหึ  ขบกรามกรอดให้ไอ้จ่าฝูงเฮงซวยที่เก็บเหยื่อไว้กินคนเดียวไม่เผื่อแผ่ลูกฝูง         
   
มันจัดการเก็บอาวุธที่ยังแข็งตึงคั่งค้างรอการปลดปล่อยลงกางเกงยีนส์เนื้อหนาอย่างอึดอัด  ก่อนเดินออกไปนอกกระท่อม  ไอ้หมานเดินตามไปงงๆ  ท้วงถามว่าจะไปไหนก็ไม่ได้รับคำตอบ
   
ที่หน้ากระท่อม  ร่างอ้วนเผละของไอ้เลิศยังนั่งกอดเข่าตัวสั่น  มันยกเท้ายันโครมไปทีแล้วเดินอาดๆ ไปหารถเครื่องที่จอดไว้  โดดขึ้นคร่อม  สตาร์ท บิดคันเร่งกระหึ่ม  ก่อนกระชากเครื่องตะบึงไปชนิดไอ้หมานโดดซ้อนแทบไม่ทัน 

มุ่งหน้าไปทางซ่องนางทองใบ

ไอ้เลิศเยี่ยมหน้าไปดูในกระท่อม  เสียงกรีดร้อง เสียงดิ้นรนขัดขืนเงียบหายไปนานแล้ว  เหลือเพียงเสียงครางคำรามหื่นกระหายของคนที่มันยกย่องเป็นลูกพี่
   
สิงห์เหมือนคนคลุ้มคลั่ง  พาจ้อยเคลื่อนไหวด้วยพลังมหาศาล  ร่างเล็กถูกผลักให้นอนราบบนพื้นเสื่อ  มือหยาบแยกขาเรียวออกกว้างก่อนยกขึ้นพาดบนลาดไหล่ที่เส้นเลือดปูดโปน 

จ้อยหยุดร้องไห้นานแล้ว  แต่น้ำตายังไหลไม่ขาดสาย  ร่างกายโยกโยนเหมือนเรือในทะเล  อับปางด้วยคลื่นลม  พายุโหมกระหน่ำสุดควบคุมได้  ดวงตาแดงช้ำว่างเปล่าจ้องมองใบหน้าบิดเบี้ยวเสียวกระสันที่อยู่ห่างแค่คืบนิ่งงัน  มือที่ตกเปลี้ยอยู่ข้างกายยกขึ้นช้าๆ  แตะลงบนเสี้ยวหน้าคมสัน  ไล้ลงจากหน้าผาก หางคิ้ว ปลายตา ข้างแก้ม
   
ดวงดาวที่สวยที่สุด  เคยบรรจุอยู่ในดวงตานี้  ดาวดวงที่หายลับไปเมื่อ ๗ ปีก่อน  ค่อยๆ เปล่งแสงเรืองรองขึ้นเมื่อเช้า  หากกลับดับวูบลงอีกครั้งในคืนนี้  ปีศาจตนใดขโมยดาวสุกใสของจ้อยไป  จ้อยไม่เห็นอะไรเลยในตาคู่นั้น  นอกจากความหื่นกระหาย  มืดบอดเหมือนสัตว์ป่ากระหายเลือด 
   
ใช่แน่ๆ  เดรัจฉานในร่างคน  กำลังฉีกทึ้งจ้อยเป็นชิ้นๆ  กัดกินเลือดเนื้อ หัวใจจ้อยจนแหลกเละ  แม้เป็นเศษซากแล้ว  มันยังตะกรุมตะกรามกินไม่หยุด 
   
ตลอดเวลาสิงห์ไม่พูดอะไรเลยสักคำ  ราวกับมันละทิ้งจิตวิญญาณมนุษย์  กลายเป็นเดรัจฉานไปแล้วในค่ำคืนนี้  มันคว้ามือน้อยมากดจูบลงไปกลางฝ่ามือ  ก่อนวางมือข้างเดิมนั้นให้พาดลงลาดไหล่  แต่จ้อยกลับทำตกเปลี้ยลงข้างกาย  ดั่งคนไร้วิญญาณ 

ในสมองพร่าเลือน  ในสายตาพร่ามัว  ปรากฏภาพแห่งวัยเยาว์แจ่มใสกระจ่างชัด  ฟ้าสดสวยสูงโล่ง  รวงข้าวพลิ้วไหว  พี่น้องเดินเคียงกันไปตามคันนาชุ่มน้ำค้าง

เด็กชายตัวโตจูงมือน้องน้อย  มือนั้นแข็งแรง  อบอุ่นนัก  เสียงสดใสร้องเพลงเรือที่เคยได้ยินพวกลุงป้าน้าอาร้องเล่นกันหน้าน้ำนอง   

“จะเสี่ยงสัตย์อธิษฐาน ขอให้เป็นพยาน อย่าคลาดไป
ถ้าน้องเป็นน้ำ ตัวพี่จะตามเป็นปลา จะได้เย็นอุรา พี่ชาย
ถ้าน้องเป็นข้าว พี่จะขอเป็นเคียว พี่จะได้ตามไปเกี่ยว ฉาดไป
ถ้าน้องเป็นไม้ พี่จะขอเป็นนก จะได้ชื่นอกชื่นใจ..”


เสียงเล็กร้องรับเจื้อยแจ้ว

“เหลืองเอยใบยอ  หอมช่อมะเขือเปราะ
รักกันให้มั่น  เหมือนเชือกขันชะเนาะ
สามปีสี่เดือน  อย่าให้เลื่อนสักเปลาะ
รักน้องให้มั่นเหมาะใจเอย”

   

รักน้องให้มั่นเหมาะใจเอย..

   
น้ำตายังไหลรินลงอย่างเงียบเชียบ  ความเจ็บปวดซาลงจนชาด้าน  ทว่าที่เจ็บที่สุดคือหัวใจที่แหลกสลาย  แตกละเอียดเป็นเศษแก้วป่น  ร่วงหล่นกรูกราว  บาดเลือดเฉือนเนื้อ

จ้อยจะฝังมันไว้ที่นี่.. หัวใจที่แหลกสลาย.. ความรักที่พังทลายของจ้อย..

ลูกชายกำนันเปล่งเสียงร้องลั่นห้อง  กระแทกกายเข้ามาเป็นครั้งสุดท้าย  หลั่งรินความอำมหิตเคลือบอาดูรลงในส่วนที่ลึกที่สุด  หนุ่มน้อยรู้สึกถึงอาการสั่นสะท้านก่อนซบลงแน่นิ่ง  เหงื่อซึมท่วมตัว  กลิ่นของมันคาวจัด  จ้อยเบือนหน้าหนีไปอีกทาง  ความขมเปรี้ยวแล่นเอ่อขึ้นตามลำคอ  ทอดกายปล่อยแขนขาแข็งทื่อ

ในขณะที่ ‘มัน’ ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด  แต่จ้อยกลับตกลงมา..

เด็กหนุ่มร่วงลงเหวลึกชั้นแล้วชั้นเล่าไม่มีสิ้นสุด  มีเพียงความว่างเปล่าเสียดสีอณูเนื้อกาย  โพรงดำมืดของจิตใจคนขยายออก  ดูดกลืนจ้อยลงไป 


ดิ่งละลิ่วสู่ดินแดนแห่งการไม่อาจอภัยชั่วนิรันดร์


โปรดติดตามตอนต่อไป
   
___________________________________________________________________________   
* ยิ่งกว่าการฆ่า, สุรัฐ พุกกะเวส - คำร้อง, พิทยา บุญยรัตพันธ์ - ขับร้อง



เฮ้อ.. ขออนุญาตสงบนิ่ง ๑ นาที
ไว้อาลัยให้ความรักของน้องจ้อยค่ะ

รักคนอ่านเสมอ (ถึงเราจะเขียนช้าอัพช้า T^T)
ดอกไม้

๑๑ พ.ย. ๕๕

ปล. ขอมอบสิ่งนี้ให้พี่สิงห์


(ขอบคุณ Facebook สมาคมมุขเสี่ยวฯค่ะ :L2:)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2012 22:36:12 โดย ดอกไม้ »

midnightblue

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยย ปวดตับ :o12: :o12:

เกลียดไอ้ลอยใครมายิงมันทิ้งซักทีซิ  :m16: :m31:

smileiiz

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบ ตาย ค๊าาาาาา พี่สิงค์บ้าาาาาาาาาาา ฮื๊อออออออ :z3:

ออฟไลน์ moomew

  • ติดตาม นิยาย ด้วยนะคร๊าบบบบ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34263.0
กร้สสสสสสสสสสสสสสส

มาแล้ว รอรอรอรอรอ น่ะๆๆๆ :really2:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
น่าสงสารน้องจ้อยจริงๆๆ

 :m15:

ออฟไลน์ PRMWi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สมองไม่ประมวลผล รับรู้แต่ว่าเสียใจ…

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ปวดตับบบ
เกลียดการแค้นกันไปมาอ่ะะะ  :z3: :z3:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย หดหู่แทนจ้อย แล้วแบบนี้จะมีความหวังให้รักกันได้อยู่มั้ย

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
น้ำตาไหล
สงสารน้องจ้อยอ่ะ

ออฟไลน์ jilantern

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
สงสารจ้อยอ่าาาาา ㅠ [ ]ㅠ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :o12:

ทำไมพี่สิงห์ต้องทำอย่างนี้ อย่าทำให้น้องจ้อยต้องเอาใจออกห่างพี่ไปมากกว่านี้เลยนะ กระซิกๆ

ไอ้ห่าลอย  :angry2:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
 :m15: :m15: :m15: ร้องไห้เลยค่ะ สงสารจ้อยมาก พี่สิงห์บ้าไปแล้ว เตรียมรับผลการกระทำของตัวเองได้เลย
อยากได้จ้อยหนีไปไกล ๆ จากสัตว์เดรัจฉานพวกนี้นัก แต่จ้อยก็มียาย ไปไหนไม่ได้อีก หมดแล้วจิตใจจ้อย
พี่สิงห์มันเมามันไร้สติมากเกินไป ชั้นเกลียดแกจริงๆ นะตอนนี้ ที่เลวมากคือไอ้พวกนั้นอยู่ด้วยตอนมันย่ำยีจ้อย
ยังดีที่พอไอ้ลอยมันจะร่วมทำมันยังดึงน้องมากอดไว้ ไม่งั้นชั้นสาบส่งแกจริงๆ นะ

ตอนต้นเรื่องที่ไอ้พี่สิงห์เมาอยู่ที่กระท่อม ถ้าน้องจ้อยไม่หนีออกมาได้จากพวกไอ้ลอยไอ้หมาน น้องจ้อยต้อง
โดนข่มขืนจากไอ้ลอยใช่มั้ย แค่คิดก็ขนลุกแล้วนะ

เศร้ามากค่ะ เศร้าจริง ๆ ยิ่งตอนจ้อยนึกถึงอดีตที่เค้าเคยรักกันพี่น้องยิ่งแบบ เฮ้อ คู่นี้มันจะยังไงกันต่อคะเนี่ย   :monkeysad:


ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-11-2012 18:30:05 โดย ่patsaporn »

ออฟไลน์ ละล้าละลัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องจ้อยของพี่ จะทำยังไงดี
ไอ้พี่สิงห์!! อุตส่าห์เชียร์มานาน ทำไมทำโง่ๆ อย่างนี้ น้องจ้อยไม่มีวันอภัยให้แกแน่ๆ

It_s_me

  • บุคคลทั่วไป
โว๊ยยยยย ไอ้พี่สิงห์!!
เมาจนขาดสติ ทำร้ายน้องจ้อยเยี่ยงเดรัจฉาน
แล้วงี้เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน ห๊ะ?! T______T

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
คนแต่งใจร้ายมากจริงๆ เราปวดใจกับสิงห์และจ้อย เพราะคนรอบข้างทำให้ทุกอย่างพัง

เรามองไม่ออกเลยว่าจะลงเอยกันได้ไง เสียใจ :o12:

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
ฮือออ สงสารจ้อยที่สุด เกลียดไอลอยมากๆๆๆๆๆๆ เืมื่อไหร่เวรกรรมจะตามมันทันสักที เฮ้อ.. :angry2: :angry2:

ว่าแต่สิงห์เถอะ ต่อไปจะทำยังไงเี่นี่ย ถ้าปกติอาจยังมีลุ้น แต่รอบนี้ยากแน่ๆ  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
สารภาพเลยว่าคิดไว้แล้วว่าต้องลงเอยอย่างนี้

และตัวเราเองก็ยอมรับว่าเราอ่านแบบผ่านที่สุดเท่าที่จะผ่านๆได้ (จบภายใน 45 วิ)

อย่าโกรธเราเลยนะ คุณเขียนได้ละเอียดดีจริงๆ เพราะความละเอียดละเมียดละไมนี่แหละ ที่มันทำร้ายหัวใจเราสุดๆ

เราไม่สามารถเสพได้จริงๆ นอกจากรอพายุพัดผ่านไปก่อน (ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไร)

เราเข้าใจอารมณ์ของตัวละครดี แต่เป็นคนที่ยอมรับฉากข่มขืนไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะจากนักเขียนมากฝีมือ ยิ่งอินจริงอะไรจริง

นี่มันเลวร้ายยิ่งกว่าลากจ้อยมาซ้อมให้น่วมซะอีก การข่มขืนมันคือการทำร้ายร่างกาย จิตใจ และเหยียบย่ำศักดิ์ศรีมนุษย์อย่างทารุณที่สุด

ไม่รู้สิ ถ้าในชีวิตจริง คงยากที่คนคนนึง จะย้อนหลับมาลงเอยกับคนที่ฆ่าเราให้ตายทั้งเป็นได้

แต่เราก็เชื่อฝีมือคุณดอกไม้  ว่าจะดำเนินเรื่องให้ไปสู่จุดที่ลงเอยไ้ด้ ถึงแม้ว่าตัวเอกจะต้องบอบช้ำจนคนอ่านคิดว่า น่าจะตายแบบไม่ได้ผุดได้เกิดมาอีกครั้งแล้วก็เถอะ เราจะติดตามเสมอ แต่ถ้าตอนไหนเราอ่านผ่านๆ เราก็คงต้องสารภาพตามตรง จิตตกจริงๆ พอๆกับดูหนังสยองขวัญ อาชญกรรมแบบแรงๆจำพวก Last house on the left ของ เวส คราเวนอะไรอย่างนั้นเลยอ่ะ
(ใครจะว่าเว่อร์ก็ยอม) (นี่จิตตกยิ่งกว่า เพราะคนที่ทำกับจ้อย คือคนที่รักจ้อยมากที่สุด)

ถ้าจะแนะนำอะไรอย่างหนึ่ง เวลามีฉากนายเอกโดนข่มขืน ขอให้ setting มีแค่ พระเอก กับนายเอกได้มั้ย ให้เค้าประกอบกิจกรรมนี้ขึ้นกันสองคนอ่ะ หรือมากสุด มีตัวร้ายหลักอีกหนึ่งคนก็ได้ แต่อย่ามีสมุนนู่นนี่นั่นมาช่วยจับช่วยยืนดูเลย รู้สึกเหมือนคนอ่านเป็นประจักษ์พยานการรุมโทรมยังไม่รู้ (ซึ่งเป็นอาชญกรรมที่เรากลัวและหดหู่ที่สุด)



keep repeating, it's just a fiction  :dont2:

(ขออภัยถ้าเราเยอะไปนะคะ)


RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
ทำไงดี อ่านแล้วรู้สึกแย่มากเลย
พอดีเราอินกับนิยายมากกกกกกกก น่ะค่ะ คุณแต่งนิยายดีมากเลยนะคะทำให้เรารู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ o13 ชมจริงๆนะ 555555555555555
พี่สิงห์นี่ดีแต่โง่นะ ไม่ใช่เป็นคนดีแต่โง่ แต่โง่จริงๆ
ใช้แต่อารมณ์ เดรัจฉานเหมือนที่จ้อยเปรียบ :)
ถ้าจ้อยกับสิงห์จะลงเอยกันเมื่อไหร่ (คงจะอีกนาน) ขอหวานๆๆๆๆๆให้จำนวนตอนพอๆกับดราม่านะ -__- คู่นี้ มองไม่เห็นเลย
อยากจะรอให้เรื่องนี้จบแล้วมาอ่านทีเดียวจัง แบบปรื๊ดดดดเดียวจบ แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า   :z3:

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
การใช้อารมณ์มากกว่าสติจะนำไปสู่ความพินาศ แล้วสิงห์ก็จะได้บทเรียนที่มีค่าอีกบทหนึ่ง ก็หวังว่าหลังจากบทเรียนครั้งนี้จะทำให้สิงห์โตขึ้นนะ

ออฟไลน์ treerat002

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
สิงห์เอ๊ย!!! จากที่เลวร้ายอยู่แล้ว มันกลับกลายเป็นยิ่งกว่าหายนะ  :z3:

สงสารจ้อย...แต่ส่วนหนึ่งก็ไม่ชอบนะ พ่อจะซื่อไปไหน...ก่อนหน้านี้เขา "รัก" ตัวเองขนาดไหน ไม่เคยสะกิดใจบ้างเลยหรือ  :เฮ้อ:

ไม่มีใครผิด...แต่ก็ไม่มีใครถูก

หลังจากนี้คงจะไม่มีวันดีกันได้แล้วสินะ...ตราบใดที่จ้อยยังตามืดบอดอยู่ละก็  :sad2:

รู้ทั้งรู้ว่าที่นายสิงห์ทำมันผิด...แต่ทำไมใจมันถึงเอนเอียงมาให้กว่าครึ่งนะ....แค่รู้สึกว่าสิ่งที่จ้อยทำ...มันไม่ค่อยยุติธรรมกับความรู้สึกของสิงห์ เท่านั้นเอง

รัก...จะรอต่อไปค่ะ  :z10:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด