ตอนที่ 43ธีเสียงหัวใจเต้นในอก ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดหัว เสียงนุ่มออดอ้อนกระซิบแผ่ว สัมผัสอ่อนโยนจากมืออุ่นที่ลูบปลอบทั้งหัวและแผ่นหลัง ทั้งหมดนี้มาจากคนที่ทำผมโกรธถึงขีดสุดแต่ก็เป็นคนเดียวกันนี้ที่ทำให้ผมใจอ่อนยวบยาบยอมยกโทษให้ง่ายๆภายในหนึ่งวัน ไอ้ที่ผมบอกว่าจะเอาคืนพอถึงเวลาทำไมผมถึงกลายเป็นลูกแมวอ้อนๆตัวหนึ่งได้ก็ไม่รู้ แค่เพียงเห็นสีหน้าสำนึกผิดและกิริยาเอาใจใส่ของคนที่กอดผมอยู่ตอนนี้ใจก็อ่อนไปกว่าครึ่ง และเหตุผลทั้งหมดที่ได้ฟังก็ทำให้รู้ว่าตัวเองงี่เง่าแค่ไหนที่ทำตัวเป็นสาวน้อยขี้งอน ตอนนี้ก็เลยทำตัวสงบเสงี่ยมกว่าที่เคยยอมตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นที่ชอบและไม่คิดจะโวยวายให้อีกคนนึกรำคาญใจ ทั้งหมดทั้งมวลผมโทษการนอนไม่พอทำให้อารมณ์หงุดหงิดง่ายกว่าปกติ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ติดใจผมอยู่และอยากจะได้ความมั่นใจจากไอ้หมอภีม
“เฮียยย” เอาวะครับไหนๆก็สาวแตกมาแต่เช้า ขออ้อนให้มันหลงอีกนิดคงไม่เป็นไร นั่นไงตาวิบวับคู่สวยที่ได้สบทำให้รู้ว่าการอ้อนของผมมันได้ผลแต่แอบเสียวตูดวาบๆไงพิกล
“ครับ” เสียงนุ่มตาฉ่ำมาเชียวนะไอ้หมอหื่น นี่ถ้าไม่อยากได้สิ่งที่กำลังขอมากๆผมไม่มีทางอ้อนมันแบบนี้แน่ๆครับ นอกจากมันจะจับผมกรอกไวน์น่ะนะ
“ต่อจากนี้เฮียต้องให้ความสำคัญกับผมรองจากคนในครอบครัวด้วย สัญญากับผมได้มั้ย....ครับ” เอาวะเอาให้มันสุดๆไปเลย แต่รู้สึกว่าหน้าผมจะร้อนวูบวาบซะแล้วสิ ด้วยฝ่ามืออุ่นๆที่สัมผัสใบหน้าและลูบไล้แก้มไปมา ตาระยับพราว ปากแดงคลี่ยิ้มละลายใจตั้งใจหว่านเสน่ห์ใส่ นี่ถ้าผมลงไปนอนม้วนบนพื้นได้ผมทำไปแล้วเหอะ
“พี่คงให้สัญญากับธีแบบนั้นไม่ได้หรอก” คุณเคยนั่งดูหนังกำลังเพลินๆในฉากที่กำลังเข้าได้เข้าเข็มแล้วไฟดับมั้ยครับ นั่นแหละอารมณ์ของผมตอนนี้ ผมมองมันตาค้างเริ่มโมโหกรุ่นๆขึ้นในใจเตรียมสะบัดตัวออกจากมันเต็มที่ แต่เหมือนไอ้หมอภีมมันจะรู้ตัวรีบตะครุบตัวผมไปกอดไว้ซะก่อน และมันยังมีหน้ามาหัวเราะให้ได้ยินด้วย เอาสิวะ! มือโดนล็อคแต่ปากยังว่าง ผมกะใช้แผนเดิมจะฝังเขี้ยวให้มิดคอมันไปเลยถ้าเป็นไปได้จะเอาให้เลือดพุ่งกระฉูดนอนตายอยู่หน้าทีวีนี่แหละ ‘ไหนมึงบอกว่ารักกูนักหนา แค่นี้ก็ให้ไม่ได้เหรอวะ แม่งเอ๊ยยย’
“เดี๋ยวครับเดี๋ยว เป็นเจ้าตูบเหรอเรา ฮึๆๆ ฟังพี่ก่อนคนเก่ง ที่บอกว่าพี่ให้สัญญาแบบนั้นไม่ได้ก็เพราะว่าพี่เห็นธีสำคัญเท่ากับคนในครอบครัวของพี่ หรือจะเปรียบว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็ได้ เพราะงั้นพี่สัญญาว่าจะให้ความสำคัญกับธีเท่ากับคนในครอบครัวครับ พอใจรึยัง หืม”
ถ้าจะบอกกันดีๆแต่แรกก็สิ้นเรื่องทำเป็นเล่นลิ้นไปได้ บอกกันแบบนี้ผมก็เขินแย่สิ จึงได้แต่ซุกหน้าเข้าหาอกกว้างทำตัวเป็นแมวน้อยอีกครั้ง ไม่มีแม้แต่คำตอบรับหลุดจากปากก็ให้มันแปลเอาเองละกันว่าผม ‘พอใจ’ กับคำสัญญาที่ให้ไว้ ผมได้ยินเสียงหัวเราะในคออย่างถูกใจจากไอ้หมอภีมก่อนมันจะเอื้อมมือมาลูบหัวผม แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับไม่ต้องบอกว่าจะรักกันตลอดไปหรือรักแค่ไหน ผมขอแค่ให้มันเห็นผมอยู่ในสายตาและให้ความสำคัญกันอยู่ก็พอแล้ว
“สัญญาไว้แล้วจำด้วยเหอะ ห้ามลืม ถ้าวันไหนเห็นใครสำคัญกว่าผมล่ะก็ผมไม่ง้อนะคร้าบ เฮียเตรียมตัวโดนผมทิ้งได้เลย”
ขอวางมาดหน่อยเถอะครับผมยอมมาตลอดแล้วนี่ และผมคิดแบบนั้นจริงๆนะอย่างทุกวันนี้มันบอกว่ารักผมเห็นผมสำคัญกับมัน แต่ถ้าวันหนึ่งมันเห็นคนอื่นสำคัญกว่าผมนั่นหมายความว่ามันหมดรักผมแล้ว ยื้อไปก็เปล่าประโยชน์ ไอ้หมอภีมมันดันตัวผมออกจากอกหน้าเครียดเชียวสงสัยจะคิดจริงจังเรื่องที่ผมเพิ่งพูด ดีแล้วคิดให้เยอะเข้าไว้เพราะผมคนจริงทำอย่างที่พูดแน่ๆ
“พี่จะเห็นใครสำคัญกว่าธีได้ยังไงกันครับ เรื่องเขี่ยพี่ทิ้งลืมไปได้เลย อย่าแม้แต่จะคิดเชียว อ้อออ อีกเรื่อง” หน้ามึงจะโหดไปไหนวะครับ ผมว่าผมเพิ่งเป็นต่อนะแต่ทำไมตอนนี้กลายเป็นเบี้ยล่างเหมือนเดิมแล้วล่ะ ใครไม่มาเห็นหน้ามันตอนนี้ไม่รู้หรอกครับว่าน่ากลัวขนาดไหน ผมได้แต่แกล้งค้อนเพื่อหลบสายตาข่มขู่คู่นี้ ไม่อยากจะสนใจเรื่องที่มันจะพูดไม่รู้มีเรื่องอะไรนักหนากัน ‘งอนว่ะ’
“วันหลังอย่าเที่ยวไปสนิทกับใครง่ายๆแบบวันนี้อีกนะครับ” ใครที่ว่านี่มันใครวะครับ หันกลับมามองหน้ามันอย่างสงสัย ผมไปทำท่าทางสนิทกับใครเข้ามันถึงมาหาเรื่องผมได้ล่ะเนี่ย
“ไม่ต้องงงเลยนะเรา ก็มิสเตอร์ฌอนไง เพิ่งรู้จักกันแท้ๆให้มันมาถึงเนื้อถึงตัวได้ยังไง แถมส่งยิ้มให้มันซะหวานเลย น่านักเชียว” พูดจบมันเอานิ้วมาคีบปากผมและบิดไปมา ผมจะทนนิ่งได้เหรอครับร้องห้องแตกสิไม่ว่า
“โอ๊ยยย อ่อยยยย (ปล่อยยยย)” มันปล่อยปากผมได้ก็นั่งหัวเราะอย่างถูกใจ สงสัยวันไหนไม่แกล้งผมนี่ไอ้หมอบ้ามันจะอยู่ไม่ได้นะครับเนี่ย ผมเอามือลูบปากตัวเองเบาๆ ‘อย่างเจ็บอ่ะ’
“เฮียลืมอะไรไปรึเปล่า ผมเป็นผู้ชายนะครับไม่ใช่ผู้หญิง เรื่องถึงเนื้อถึงตัวสำหรับผู้ชายมันปกติเหอะ และมันก็มีสาเหตุเฮียก็น่าจะเห็นว่าเพราะอะไร ดีเท่าไหร่ได้ฌอนช่วยไว้ไม่งั้นหัวฟาดพื้นความจำเสื่อมอีกรอบพอดี อ้อ อีกข้อหา ผมยิ้มของผมปกตินะครับ มันหวานตรงไหนกันว้า” ผมก็พร่ำไปตามเรื่องแต่ไม่ได้มองหน้าอีกคนหรอกครับว่ามันจะทำหน้ายังไง อยากทำผมเจ็บตัวทำไมกัน เมื่อผมพูดจบก็โดนมันคว้าตัวไปกอดไว้เฉยเลยเปลืองตัวโคตรๆอ่ะ
“พี่รู้ว่าธีเป็นผู้ชายไม่งั้นพี่จะชอบได้ไง ส่วนนายฌอนนั่นถึงธีไม่คิดแต่มันไม่เสมอไปว่าอีกฝ่ายจะไม่คิดด้วย” ผมหันไปจ้องมันทันทีที่มันพูดจบ มันคงไม่ได้หมายความว่าฌอนมาชอบผมนะครับ ‘โอ้ มาย ก็อด’ มีตัวผู้มาชอบผมอีกแล้วเหรอครับ ผมมีอะไรดึงดูดกับเพศเดียวกันนักหนาเนี่ย
“ไม่ต้องตกใจเลย อย่างที่ธีคิดนั่นแหละพี่มองตามันก็รู้แล้ว” เออ! ก็ใช่สิ มึงน่ะพวกเดียวกันนี่หว่า
“เพราะฉะนั้นต่อไปช่วยระวังของๆพี่ไว้ด้วยนะครับ พี่หวงมาก” หน้าตาผมตอนนี้คงตลกมากเพราะไอ้หมอภีมหัวเราะซะลั่นห้องเลย จะอะไรล่ะครับก็ผมกำลังงงนี่หน่าว่าผมเอาของอะไรมันมาถึงให้ผมระวังและมันถึงได้หวงขนาดนั้น
“ฮ่าๆๆ ยังไม่รู้ตัวอีก นี่ไงของๆพี่ พี่หวงนะครับ ฮึๆ” ว่าจบมันก็ยกตัวผมจนลอยและช้อนก้นผมมานั่งคร่อมตักมันไว้ และออกแรงบีบก้นผมทั้งสองข้าง
“โอ๊ะ เฮ้ยยย” สะดุ้งสิครับงานนี้ บีบเต็มแรงขนาดนั้นไม่ต้องย้ำแล้วว่าของๆมันหมายถึงอะไร
“เฮียแม่งหื่นว่ะ วันนี้ไม่เอาแล้วนะโว้ย แผลเก่ายังไม่หายเลย” เมื่อแรกก็เสียงดังอยู่หรอกครับแต่ไหงท้ายประโยคมันถึงแผ่วขนาดที่ว่าไอ้หมอภีมมันต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ถึงได้ยินด้วย
“ใครหื่นกันแน่พี่ยังไม่ได้คิดอะไรเลย ธีน่ะคิดไปเอง ฮึๆๆ มานี่มา” หลังมันพูดให้ผมได้อายจนหน้าแทบไหม้ก็รั้งคอผมมาซบไหล่ และเอนตัวลงนอนราบกับโซฟาโดยมีผมทับมันไว้ทั้งตัว ดีเอาให้มันแบนไปเลยจะได้ไม่มีแรงคิดสรรหาคำพูดให้ผมได้อายไปกว่านี้อีก
“ต่อไปนี้สัญญานะครับว่าจะรักษาของๆพี่ให้ดีพี่หวงมากรู้มั้ย ถ้าไม่รู้ก็รู้ซะนะครับ เฮ้อออ พี่โล่งใจจังที่เราเคลียร์กันได้วันนี้พี่ทำงานไม่มีสมาธิเลย กังวลแต่เรื่องของธี อย่าใช้สายตาแบบนั้นมองพี่อีกนะครับ” ผมนอนเพลินเลยกับเสียงนุ่มๆมืออุ่นๆของไอ้หมอภีม แต่ก็สงสัยขึ้นมาเมื่อมันพูดถึงสายตาที่ผมใช้มองมันแล้วผมใช้สายตาแบบไหนกันครับ และเร็วเท่าความคิดปากก็เอ่ยถามทันที
“สายตาแบบไหนครับที่ผมใช้กับเฮีย” เงยหน้าจากอกมองสบตา ผมก็พบสายตาวูบไหวของมันเข้าก่อนจะจางไปและมันก็คลี่ยิ้มหวานมาแทนที่
“ไม่มีตัวตน ไม่มีความสำคัญ พี่เห็นสายตาธีเป็นแบบนั้นใจหายมากรู้มั้ยครับ” มืออุ่นส่งมาลูบหน้าผมแต่เจ้าของมือยังยิ้มได้ ผมก็เบาใจจึงก้มลงซบอกกว้างตามเดิม
“ผมโกรธมากเหอะ ไม่สนใจกันแล้วยังดุได้ดุดี” เสียงผมก็สะบัดได้สะบัดดีเหมือนกัน เหอะๆ อย่าให้ใครได้ยินเชียวคงหมั่นไส้น่าดูที่แมนๆอย่างผมกล้าทำ แต่ก็กล้าทำกับไอ้หมอภีมมันคนเดียวแหละครับ
“ขอโทษครับ เราดีกันแล้วน้าไม่งอนพี่อีกนะครับ ใจพี่ขาดแน่ๆ ฮึๆ” เลี่ยนโคตรอ่ะครับ แต่ไม่อยากยอมรับว่าชอบที่มันพูด
“เลี่ยนตลอดอ่ะเฮีย ฮึๆ” ผมอดหัวเราะกับคำพูดของไอ้หมอจอมเลี่ยนไม่ได้จริงๆ หลังผมหัวเราะใส่มันคงมันเขี้ยวผมมากจึงออกแรงกอดซะแน่นและก้มฟัดหัวผมจนผมยุ่งไปหมด แต่ผมก็ยอมอยู่นิ่งๆให้มันได้ทำตามใจแหละครับ ให้ความรู้สึกว่าที่มันทำแบบนี้กับผมเพราะยังใส่ใจสนใจและเห็นผมอยู่ในสายตา
เรากอดกันอยู่ในท่านี้ตั้งนานแต่ไอ้คนที่อยู่ข้างล่างมันก็ไม่ยักกะบ่นว่าหนักนะครับ เป็นผมเองที่เริ่มเมื่อยและหิวข้าวแล้วจึงชวนไอ้หมอภีมไปกินข้าวจะได้รีบกลับไปพักผ่อนที่คอนโดต่อ อาชีพหมอนี่ไม่สบายอย่างที่ผมเคยคิดไว้เลย อย่างวันเสาร์ที่เป็นวันพักผ่อนของคนทั่วไปคนเป็นหมอแบบมันกลับต้องมาทำงาน แถมยังมีขึ้นเวรช่วงดึกอีกแต่ดีหน่อยที่วันนี้ไอ้หมอภีมมันไม่ต้องขึ้นเวร เราจึงกลับไปนอนที่คอนโดกันได้ อย่างเรื่องเที่ยวกลางคืนนี่มันแทบไม่ได้ไปเพราะแค่เวลาพักผ่อนยังแทบไม่มีจะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยวกัน ซึ่งผมก็โดนพ่วงไปด้วยจะอะไรล่ะครับก็มันนั่นแหละออกคำสั่งเด็ดขาดว่าห้ามไปถ้าไม่มีมันไปด้วย แต่ก็มีบางครั้งที่ผมได้รับอนุญาตจากท่านนายแพทย์ใหญ่ ซึ่งก็มีกำหนดเวลาให้ผมเสร็จสรรพและโทรจิกตลอดเวลา ใครมันจะไปสนุกกันครับและตั้งแต่นั้นมาผมเลยไม่ค่อยอยากจะไปเท่าไหร่
“อ้าว วิว เพิ่งกลับเหรอครับ” เสียงคนข้างตัวผมส่งเสียงทักหมอวิวสาวสวยที่กำลังเดินผ่านหน้าเรา เธอหยุดชะงักและส่งยิ้มหวานมาให้ไอ้หมอภีม แต่เมื่อได้เห็นว่ามีผมอยู่ด้วยเธอชะงักยิ้มเพียงนิดก่อนส่งยิ้มหวานเผื่อแผ่มาทางผม นี่ถ้าผมไม่จับตาดูอยู่จะไม่เห็นความผิดปกตินี้เลยครับ
“ค่ะ วิวมีเคสติดพันนิดหน่อย แล้วภีมล่ะคะเพิ่งกลับเหรอ” เสียงหวานได้ไม่ต่างจากแววตาที่มีให้ไอ้หมอภีม จนผมชักหมั่นไส้คนข้างตัวครับ มันมีดีอะไรนักหนาหญิงถึงชอบขนาดนี้
“ครับ วิวครับนี่ธีแฟนผม ธีนี่หมอวิวเพื่อนพี่นะครับ” มืออุ่นยื่นมาแตะหลังเอวผมพร้อมแนะนำให้ผมรู้จักหมอวิว เธอหน้าซีดเม้มปากแน่นตาสั่นไหว ผมเห็นก็เริ่มสงสารเธอที่คงคิดกับไอ้หมอภีมเกินเพื่อนจริงๆ ไม่รู้ว่าไอ้หมอภีมมันจะรู้มั้ยว่าหมอวิวแอบชอบ แต่เล่นซะโจ่งแจ้งแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนเค้าจะรับได้กัน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ผมส่งยิ้มหวานปลอบใจหมอวิว แต่เหมือนทำดีไม่ได้ดีครับ เธอจ้องผมหน้านิ่งแววตาแข็งกร้าวก่อนสะบัดบ๊อบใส่ไม่แม้แต่ทักทายผมกลับ และหันไปยิ้มหวานให้ไอ้หมอภีมอีกครั้งทำผมเหวอไปเลย นี่ผมผิดมากใช่มั้ยเนี่ยอุตส่าห์เห็นใจ ผู้หญิงนี่น่ากลัวชะมัด
“ภีมจะไปไหนต่อคะ ไปทานข้าวรึเปล่าถ้าไปวิวขอไปด้วยได้มั้ยคะ” เอาล่ะโว้ย ดูสิมีสาวสวยมาอ้อนต่อหน้าแบบนี้ไอ้หมอภีมแสนสุภาพมันจะทำยังไง ผมเงยหน้ามองมันเก็บรอยยิ้มขำไว้อยากรู้ว่ามันจะทำยังไง จะดีแต่ปากสักแต่ว่าสัญญาแล้วทำไม่ได้มั้ยน้อ เออแฮะ! อารมณ์ของผมตอนนี้ช่างแตกต่างจากตอนเช้านักทั้งๆที่สถานการณ์ก็คล้ายๆกัน ตัวละครก็ตัวเดิมแต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม อยู่ๆมือที่เพียงแตะที่หลังเอวก็เลื่อนมาโอบเอวแทนและดึงเข้าแนบข้างลำตัว
“ผมต้องขอโทษวิวด้วย ธีไม่ค่อยสบายแต่เช้าแล้ว ผมว่าจะแวะซื้ออาหารเข้าไปทานกันที่คอนโดน่ะครับ” เด็ดขาดมากครับมึงไอ้แพทย์ใหญ่ ผมได้ฟังยังอึ้งแล้วสาวสวยที่ถึงกับอ้อนขอจะเหลือเหรอครับ นั่นไงหน้าจ๋อยไปแล้วส่งสายตาตัดพ้อให้กันอีกด้วย โอ้! ถ้าเป็นผมนี่ได้ใจอ่อนแพ้สายตาออดอ้อนคู่นี้แน่ๆครับ
“เออ งั้นวิวกลับก่อนนะคะ แล้วเจอกันค่ะ” นั่นส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ให้ไอ้หมอภีมอีกช็อตพร้อมยิ้มหวาน ก่อนเหล่มองผมเพียงนิดและเดินจากไปแบบไม่เหลียวหลัง ‘พิษรักแรงหึง’ แท้ๆเชียว
“มองตามขนาดนี้ไปส่งเลยดีมั้ยครับ” เสียงประชดประชันจากคนข้างตัวทำให้ผมต้องเหลียวกลับมามอง และก็เจอคนหน้าบึ้งตาดุคนเดิม ผมว่าผมควรจะเป็นคนทำกิริยาแบบนี้แทนมันนะครับ ‘ไอ้หมอภีมมึงเล่นผิดบทรึเปล่าเนี่ย’
“ก็อยากไปส่งอยู่หรอก แต่คนที่หมอวิวอยากให้ไปส่งไม่ใช่ผมมั้งเฮีย ใช่ป่ะ” เอาให้มันรู้ตัวหน่อยว่าทำอะไรคิดซะบ้างหึงไม่ดูความเป็นจริงซะเลย พูดจบผมก็ได้แต่ส่ายหัวให้ไอ้หมอบ้าและออกเดิน ก่อนจะโดนจับเข้าที่ข้อมือหันไปไอ้หมอภีมก็เดินมาตีเสมอและส่งยิ้มให้กันซะแล้ว ผมเลยยิ้มส่งๆให้มันไปมันจะได้ไม่ยิ้มเก้อเดี๋ยวหาเรื่องชวนทะเลาะอีก
“ธีอยากกินอะไรพี่จะได้แวะซื้อถูก” เสียงไอ้หมอภีมถามขึ้นขณะที่เราเข้ามานั่งในรถกันแล้ว ผมที่กำลังเอนพิงเบาะฟังเพลงเพลินๆก็หันไปมอง เห็นหน้าด้านข้างของไอ้หมอภีมยิ้มพรายฮัมตามเพลงสายตามองตรงไปด้านหน้า ผมก็อดยิ้มตามไม่ได้และคิดอะไรดีๆขึ้นมาได้
“ไม่ต้องแวะที่ไหนหรอกเฮีย วันนี้ผมจะแสดงฝีมือให้เฮียกินเป็นบุญปากเอง” เอาวะครับไหนๆมันก็ทำตัวดีสมกับที่สัญญาไว้ ผมก็ขอตอบแทนมันด้วยวิธีนี้แล้วกัน ไม่ใช่อะไรขี้เกียจแวะซื้อกว่าจะได้ของกว่าจะถึงคอนโดอีกได้หิวตายซะก่อน ทำเองดีกว่าด้วยฝีมือขั้นเทพดั่งเชฟกระทะเหล็กแบบผมแล้วตวัดข้อมือแป๊บเดียวได้กินแถมอร่อยจนเหาะได้เลยล่ะ
“ฮึๆ ครับๆ แล้วธีสบายตัวดีแล้วใช่มั้ยถึงคิดจะทำอาหารให้พี่ทานน่ะ” เสียงหัวเราะอย่างถูกใจพร้อมรอยยิ้มกว้างเต็มหน้าหันมามองผมแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองถนนตามเดิม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผมยิ้มตามได้แล้วครับ
“ยิ่งกว่าสบายอีกเหอะ แค่ทำอาหารมันเรื่องจิ๊บๆอ่ะเฮีย ผมเทพมากๆเฮียไม่รู้เหรอ ฮ่าๆ” มืออุ่นถูกยื่นมาโยกหัวผมและวางแหมะอยู่แบบนั้นให้รำคาญเล่น ผมก็พยายามปัดๆออกแต่มือมันก็กลับมากุมมือผมไว้แทน
“ธีสบายดีแล้วใช่มั้ย งั้นคืนนี้พี่ก็กอดธีได้สิ ฮึๆ” มาเรื่องแล้วครับไอ้หื่นตัวพ่อมันช่างหาช่องทางจับผมกดอีกแล้ว
“มั่วอีกแล้วเฮีย หื่นโคตรๆว่ะ สงสารผมมั่งเหอะครับ ตูดระบมยังไม่หายเลย หัวเราะไรนักหนาว้าๆๆ”
“ฮ่าๆๆ”
ผมก็โวยวายไปครับไอ้หมอภีมมันก็ท่าจะบ้าหัวเราะไม่หยุด ไม่รู้จะถูกใจอะไรนักหนาสิ แกล้งผมได้แกล้งผมดีแต่คนโดนแกล้งอย่างผมทำไมต้องมาแอบยิ้มด้วยวะครับ
.............................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ >O<
ตี๋น้อยอ้อนน่ารักเนอะเป็นลูกแมวเหมียวเลย และในที่สุดก็กลับมาหวาน
กันเหมือนเดิม ส่วนหมอวิวก็ปิ๋วโดนเฮียตัดขาดอย่างน่าสงสาร!? 555
ตอนหน้าเราจะไปเที่ยวทะเลกันค่ะ ย้อนรอยกันอีกครั้ง ใครที่สงสัยหรือ
ติดใจฉากไหนก็จะได้รู้กัน เนอะ ฮุๆๆ
+1ให้ทุกเม้นท์เช่นเดิมค่ะ เตรียมแพ็คของไปทะเลกันและเจอกันวันจันทร์ค่า^^
ปล.ฝากเรื่องรวมเล่มด้วยนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
รายละเอียดที่หน้าแรกค่ะตามไปนะคะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0 