บทนำ“ไอ้ภีมมึงเป็นเกย์เหรอวะ กูจะอ้วก กูคบกับมึงได้ยังไงเนี่ย”
เด็กหนุ่มตัวเล็กผิวขาวจัดในชุดนักเรียนยืนชี้หน้าตะคอกเด็กหนุ่มใส่แว่นหนาตัวสูงเก้งก้าง ใบหน้าขาวของคนตัวเล็กไม่เหลือเค้าความน่ารักอยู่เลย ด้วยแววตาโกรธเคือง คิ้วขมวดชนกันแน่น แถมอาการเหยียดปากรังเกียจคนตรงหน้าชัดเจนทำเอาคนที่เห็นใจหาย เด็กหนุ่มตัวสูงพยายามเอื้อมมือคว้าข้อมือบางที่ชี้หน้าตัวเองไว้ แต่โดนปัดมือออกอย่างรังเกียจ
“พีท กู.....”
เสียงห้าวเรียกชื่อเพื่อนตัวเล็กที่ตนแอบหลงรักแผ่วเบาและไม่สามารถสรรหาคำใดมาค้านสิ่งที่คนตัวเล็กพูดได้ คนสองคนที่จ้องตากันอยู่คนหนึ่งมีแต่แววตารังเกียจเดียดฉันท์ ส่วนอีกคนส่งแววตาละห้อยหาอย่างคนรู้สึกผิดและกลัวมิตรภาพของคำว่าเพื่อนจะจบลง เพราะคนตัวเล็กได้รู้โดยบังเอิญว่าเพื่อนสนิทแอบชอบตัวเองแถมเพื่อนคนนั้นก็เป็นผู้ชาย
“กูไม่ได้เป็นเกย์และกูก็ขยะแขยงคนที่เป็นแบบนั้น แถมมึงก็มาชอบกู ทุเรศว่ะ”
เสียงเล็กโวยวายดังขึ้นทำให้นักเรียนคนอื่นที่อยู่ในบริเวณเดียวกันเริ่มให้ความสนใจ แต่คนตัวสูงที่ได้ยินนั้นไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้างว่าจะแสดงแววตาแบบไหนหรือรังเกียจกันรึเปล่า สนแค่สายตาเพียงคู่เดียวตรงหน้านี่ต่างหากที่ทำให้ใจเจ็บได้ หนุ่มตัวสูงได้แต่ก้มหน้ารับคำบริภาษจากคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนสนิท
“นี่ ไอ้พี่ตัวใหญ่ มึงตัวใหญ่ซะเปล่าปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กนี่มันด่าอยู่ได้”
ประโยคยาวๆจากเสียงที่ไม่คุ้นเคยทำให้คนที่ก้มหน้ารับคำต่อว่าของคนที่ตัวเองแอบรักเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง ก็พบกับเด็กนักเรียนรุ่นน้องหน้าตี๋ตัวผอมสูงเก้งก้าง มีหน้าตาของคนไม่สบอารมณ์อย่างมากและคงไม่คิดเกรงกลัวว่าคนที่ตัวเองต่อว่านั้นจะเป็นรุ่นพี่ที่ต้องให้ความเคารพ
“ส่วนคุณพี่ตัวเล็กครับ เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอด่าเพื่อนแบบนั้นไม่คิดจะเป็นเพื่อนกันอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” ตี๋น้อยหันไปทำหน้ากวนบาทาใส่คนตัวเล็กที่ยืนเอ๋อเพราะยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้า
“คุณพี่ตัวใหญ่ครับ อย่าว่าโดนเด็กสั่งสอนเลยนะ ผมว่าพี่ตัดใจดีกว่ามั้งอย่าเอาเลยแฟนแบบนี้ได้ไปมีแต่ปวดตับ เพราะท่าทางที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่เอ่ยปากด่าเพื่อนตัวเองฉอดๆแบบนั้นน่ะ” ตี๋น้อยท้าวเอวสั่งสอนรุ่นพี่ตัวสูงที่ยืนเอ๋อไม่แพ้เพื่อนตัวเองอยู่
“ไอ้เด็กบ้า มึงว่ารุ่นพี่ได้ไง” คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเอ่ยแหวเสียงดังแต่ไม่กล้าเข้าหาตี๋น้อยที่มีรูปร่างได้เปรียบกว่าตัวเอง
“แค่อายุมากกว่านี่อ่ะนะ แต่ตัวและปัญญาไม่ได้โตกว่ากันเลยนี่ครับ คุณรุ่นพี่” เสียงกวนๆยังถูกส่งไปให้คนตัวเล็กไม่ขาดทำเอาคนที่โดนเหน็บเริ่มทนไม่ไหวจะเข้าไปทำร้ายไอ้รุ่นน้องปากดี แต่โดนอีกคนจับไว้ซะก่อน
“ไอ้ภีมมึงจับกูทำไม อย่ามาโดนตัวกู” เสียงตวาดจากร่างที่โดนจับทำเอาคนที่ออกแรงจับตัวไว้แววตาไหววูบและหมดแรงต่อต้านทิ้งมือไว้ข้างลำตัวซะดื้อๆ
“ส่วนมึงอย่าอยู่เลย ไอ้เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ” เจ้าของประโยคกระโจนเข้าใส่รุ่นน้องหน้าตี๋ทันที
ด้วยรูปร่างที่ได้เปรียบทำให้คนตัวเล็กที่กระโจนเข้าใส่ทำอะไรตี๋น้อยไม่ได้ ส่วนคู่กรณีที่โดนตัดรอนไม่เหลือเยื่อใยได้แต่ยืนมองทั้งคู่นิ่งๆด้วยแววตาสับสนปนเจ็บปวด คนหนึ่งคือคนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิททั้งคนที่ตัวเองแอบหลงรักและเป็นคนที่ทำให้ตนเจ็บปวดใจได้มากที่สุด ส่วนอีกคนเป็นแค่รุ่นน้องในโรงเรียนที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จักชื่อ แต่กลับเป็นคนที่ยื่นมือมาปกป้องกันไว้
“เฮ้ยยยย ไอ้ธีมึงมาไม่ถึงเดือนก่อเรื่องอะไรวะ” เสียงห้าวของคนมาใหม่ดังขึ้นและกระโจนเข้าห้ามคนทั้งคู่ที่กำลังมีเรื่องกันอยู่
“ไอ้พีท หยุดดดด นี่น้องกู มีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจากันซิวะ” เด็กหนุ่มหน้าตี๋ที่มีใบหน้าละม้ายกับคนที่มีเรื่องแต่มีรูปร่างสูงและหนากว่า เป็นคนเอ่ยห้ามทั้งเพื่อนและน้องตัวเอง
“น้องมึงเหรอธัช แม่ง! มันหาเรื่องกูก่อน” คนตัวเล็กได้ทีฟ้องไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายของคู่กรณี
“ไอ้ธีมึงนี่มัน....” พี่ชายทำท่าจะต่อว่าน้องตัวเองที่หน้ามุ่ยอย่างหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะการออกกำลังกาย แต่คนเป็นพี่ต้องหยุดประโยคต่อว่าน้องชายตัวเองไว้
“ธัช มึงอย่าว่าน้องเลยว่ะ เพราะกูทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด ‘ธี’ ใช่มั้ย พี่ขอบใจนะที่เตือนสติพี่ ส่วนมึง ‘พีท’ กูขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกแย่ที่ได้รู้ว่ากูเป็นเกย์และชอบเพื่อนสนิทแบบมึง เพื่อความสบายใจของมึงต่อไปนี้กูกับมึงเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องกันเท่านั้น แต่ขอให้มึงรู้ไว้ว่ากูยังหวังดีกับมึงอยู่แม้มึงไม่ต้องการความหวังดีจากกูแล้วก็ตาม”
ประโยคยาวๆของคนตัวสูงที่เอ่ยออกมาทำเอารอบตัวเกิดความเงียบเพราะต้องการรู้บทสรุปของคนทั้งคู่ ไม่เว้นแม้แต่พี่น้องหน้าตี๋ที่เชิญตัวเองมาร่วมวงกับคนทั้งคู่ด้วยตัวเอง
“ดี ต่อไปนี้มึงกับกูเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น” เจ้าของเสียงกร้าวหันหลังและเดินจากไปทันทีที่พูดจบ
เมื่อคู่กรณีไม่อยู่แล้วคนที่มุงดูอยู่รอบตัวก็เหมือนนกแตกรังเลิกสนใจและต่างแยกย้ายไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ เหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่เกิดอะไรขึ้น
“เฮ้ออออ” คนตัวสูงคู่กรณีที่เหลือได้แต่ทอดถอนใจและมองส่งเจ้าของแผ่นหลังบางอย่างต้องการจดจำมิตรภาพระหว่างเพื่อนและความรักที่มีให้กับคนที่จากไป
“ปั้บๆ / อย่าคิดมากเลยว่ะพี่เพื่อนห่วยๆแบบนั้น ตัดได้ก็ตัดไปเถอะ”
แรงตบที่ไหล่ทำให้คนที่ทอดอาลัยหันมามองเจ้าของมือและพบกับรอยยิ้มจริงใจตายิบหยีของเด็กตี๋รุ่นน้อง ก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มจริงใจที่มีให้กับคนที่ไม่รู้จักจะเดินจากไป
“มึงอย่าไปถือสาไอ้ธีมันเลย มันก็บ้าๆแบบนี้แหละ แต่น้องกูมันก็เป็นคนจริงใจคิดอะไรมันก็แสดงออกให้รู้แบบนี้แหละว่ะ” เพื่อนตี๋ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคนที่เพิ่งเดินจากไปยิ้มให้น้อยๆ แม้ปากจะต่อว่าน้องชายแต่แววตาออกแนวภูมิใจในตัวน้องชายตัวเองอยู่มาก
คนที่ได้เห็นพี่น้องคู่นี้ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้แม้ใจยังเจ็บ และได้รู้ที่มาที่ไปของไอ้ตี๋น้อยน้องชายเพื่อนว่าเพิ่งย้ายมากลางเทอมเพราะไปมีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียนเก่า เพราะว่าคู่กรณีคิดว่าตี๋น้อยไปแย่งแฟนเลยยกพวกมารุมแต่เรื่องดันรู้ถึงหูครูปกครองเพราะมีอีกฝ่ายเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล ผลก็คือโดนให้ออกทั้งคู่ทำให้พ่อแม่ต้องหาที่เรียนให้ใหม่ซึ่งที่ใหม่ก็คือโรงเรียนเดียวกับพี่ชายคนที่สองของตัวเอง
หลังจากเหตุการณ์แตกหักของเพื่อนสนิทเหตุเพราะคนหนึ่งหลงรักเพื่อน ส่วนอีกคนรับไม่ได้ที่เพื่อนเป็นเกย์และดันมาชอบตัวเองนั้น คนทั้งคู่แยกห่างจากกันโดยสิ้นเชิงไม่มีคำพูดในฐานะเพื่อนหรือแม้แต่หน้าก็ยังไม่เหลือบแล ความรู้สึกของคนที่แอบรักเพื่อนนั้นเจ็บเพราะเสียทั้งเพื่อนและมิตรภาพที่เคยมี แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวดเพราะการอกหักได้ คือตี๋หนุ่มรุ่นน้องที่เข้ามาในสายตาของคนเป็นรุ่นพี่แบบไม่รู้ตัว เห็นที่ไหนสายตารุ่นพี่มักจะจับแต่ภาพของตี๋น้อยเสมอ หรือแม้แต่ข่าวสารผ่านทางคนเป็นพี่ชายที่คอยมาเล่าความเกรียนความซ่าของน้องตัวเองให้เพื่อนสนิทคนใหม่ฟัง ซึ่งเพื่อนตัวสูงมักจะสนใจใคร่รู้ฟังไม่เบื่ออดเอ็นดูน้องชายเพื่อนไปด้วยไม่ได้ จวบจนกระทั่งจบการศึกษาชั้นมัธยมปลายรุ่นพี่ที่เอ็นดูน้องเพื่อนเป็นพิเศษ ผู้ที่ไม่แม้แต่เข้าไปทำความคุ้นเคยกับตี๋น้อยที่ตนสนใจ ปล่อยให้เวลาผ่านไปต่างคนมีวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง เรื่องที่เคยแจ่มชัดและประทับใจในความทรงจำเริ่มลางเลือนไปตามกาลเวลา
เมื่อฟ้าลิขิตให้ทั้งคู่ต้องมาพบเจอกัน คนหนึ่งเป็นหมอหนุ่มรูปหล่อที่รู้ตัวว่าเป็นเกย์ชอบเพศเดียวกันและไม่ต้องไขว่คว้าหาคนรักเหมือนแต่ก่อนก็มีคนมาเสนอตัวให้ถึงที่ กับอีกหนึ่งหนุ่มหน้าตี๋อินเทรนด์หนุ่มอารมณ์ดีเจ้าคารมจนสาวๆติดตรึมและมั่นใจตัวเองเต็มร้อยว่าชอบผู้หญิง จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งคงต้องติดตามใน “เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก”
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ >O<
ดีใจมากที่ได้ลงเรื่องใหม่ที่เฝ้าฟูมฟักมาพักหนึ่งให้ทุกคนได้อ่าน
เรื่องนี้จะขอนำเสนอความสนุก(เหรอ?)และหวานตามแบบฉบับ MiSS-Uค่ะ
นำบทนำมาเปิดตัวเรียกน้ำย่อยกันก่อน เป็นเหตุการณ์พบหน้ากันครั้งแรก
ที่ตี๋น้อยสร้างความประทับใจให้กับหมอหนุ่ม เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ
คงต้องฝากติดตามกันต่อนะคะ เจอกันอีกทีวันศุกร์ค่ะ
ปล.ฝากตี๋ธีกับหมอภีมด้วยนะคะ ช่วยเม้นท์แนะนำแสดงความคิดเห็นกันด้วยค่ะ
เราแค่อยากรู้ว่าคุณคิดยังไง^^
ปล.2 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีตัวละครเกี่ยวพันกันกับอีกสองเรื่องก่อนหน้า ซึ่งใครที่ยังไม่ได้อ่าน
หรืออ่านเรื่องนี้แล้วอยากรู้เรื่องราวความรักของคู่อื่นๆในเรื่องนี้สามารถตามลิ้งค์ไปได้เลยค่ะ
แล้วคุณจะไม่ผิดหวังถ้าชอบความหวาน 555 (ช่างกล้านัก)
เสน่ห์รักปักใจ (กัสวิน)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28474.0เสน่ห์มัดใจนายเพลย์บอย (มิคฟิน)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29669.0 
และ

ที่ติดตามกันค่ะ