ตอนที่ 44ธี“เฮ้ยยย มาได้ไงวะ”
ผมแทบช็อคที่อยู่ๆไอ้คนที่ไม่คิดว่าจะเจอมันก็มาให้เจอแบบตัวเป็นๆ เสียงโวยวายของผมจึงเรียกสายตาของเพื่อนๆรอบข้างให้หันมามอง ก่อนที่พวกมันจะเดินยิ้มกริ่มส่งสายตาล้อเลียนมาให้และเข้าไปทักทายไอ้หมอภีมด้วยท่าทางสนิทสนมเหมือนพวกมันเป็นเพื่อนสนิทกันมานานสร้างความหมั่นไส้ให้ผมเหลือเกิน ยิ่งไอ้ฟินถึงขั้นจับมือเขย่ายิ้มกว้างปากฉีกให้ไอ้หมอภีมอีกต่างหาก ส่วนผมนั้นเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆจะอะไรน่ะเหรอครับ ก็ไอ้คนที่ยืนยิ้มกว้างท่ามกลางเพื่อนผมนั้นมันเป็นคนบอกผมเองว่ามาไม่ได้ แต่มันดันโผล่มานี่หมายความว่ามันหลอกผมใช่มั้ย ‘หึ้ย หงุดหงิดอยากกัดคอคนโว้ย’ และตอนนี้ไอ้หมอหน้าหล่อมันส่งยิ้มตาพราวเดินตรงมาทางผมแล้วครับ
“เซอร์ไพรส์มั้ยครับ” ยังมีหน้ามายิ้มร่าให้อีก ‘กูไม่จิ้มตามึงก็บุญเท่าไหร่แล้ว’ ผมเก๊กหน้านิ่งมองมันเฉยๆก่อนเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์เช็คอินของสนามบิน และหยิบหนังสืออ่านเล่นขึ้นมาแกล้งไม่สนใจคนตัวโตที่ตามมานั่งเคียงข้าง ปล่อยมันไปอยากเซอร์ไพรส์ดีนัก เซอร์ไพรส์คนเดียวซะให้พอ
วันนี้ผมและเพื่อนสนิทมีทริปท่องทะเลหลีเป๊ะสามวันสองคืนโดยมีไอ้ฟินเป็นเจ้ามือทุกอย่าง เหตุที่มันต้องมาเป็นเจ้ามือเลี้ยงเพื่อนๆก็เพราะเป็นบทลงโทษของบรรดาคุณหมอตัวเล็กคือหมอกัสและหมอมาย ข้อหาที่ไอ้ฟินมันทำหมอมิคเพื่อนสนิทของทั้งคู่เสียใจ คราวนั้นทั้งไอ้ฟินและหมอมิคต่างก็แย่ทั้งคู่ห่างกันเป็นเดือนเกือบจะเลิกกันแล้วด้วยซ้ำ จนไอ้ฟินเข้าโรงพยาบาลครั้งนั้นมิคถึงยอมใจอ่อนคืนดีด้วย และกว่าพวกเราจะเคลียร์งานให้ว่างตรงกันได้ก็ผ่านมาหลายเดือนจนมาวันนี้ที่ได้ฤกษ์เดินทาง
ก่อนหน้านี้ผมชวนไอ้คนหน้าหงอยที่นั่งข้างๆแล้วด้วยซ้ำอยากให้มันไปด้วยไหนๆก็ของฟรี แต่มันดันบอกว่าไม่ว่างไม่สามารถปลีกตัวได้จริงๆมีเคสผ่าตัดห่าเหวอะไรของมันก็ไม่รู้จนผมต้องตัดใจเลิกตื๊อ สาเหตุที่คนอย่างผมยอมลดตัวไปอ้อนวอนมันก็เพราะมีเหตุผลนะครับเห็นผมเป็นคนแบบนี้ก็เถอะ เหตุผลสำคัญคือมันเป็นของฟรีข่าวว่าทั้งที่พักอาหารการกินเสี่ยฟินมันทุ่มไม่อั้นเพื่อคนรักตัวเล็กของมัน จะว่าผมไม่เข็ดเรื่องอะไรที่ได้มาฟรีๆนั่นก็ใช่แหมของฟรีดีๆมันก็มีนะครับ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือผมตั้งใจว่าจะพาไอ้หมอภีมมันมาสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับกลุ่มเพื่อนสนิทผมไว้ เพราะไหนๆผมก็ยอมรับมันเป็นแฟนแล้วจึงคิดว่าครั้งนี้เป็นโอกาสเหมาะที่พามันมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มันดันปฏิเสธผมก็เลยตัดใจว่าจะค่อยหาโอกาสเหมาะอีกที พอเหตุการณ์เป็นแบบนี้แล้วมันทำผมหงุดหงิดที่มาหลอกกัน จึงไม่คิดจะทำแบบที่ตั้งใจไว้แล้วปล่อยให้ไอ้พวกเพื่อนๆสงสัยกันต่อไป และที่สำคัญปล่อยมันมีสถานะเป็น ‘ผัวเก็บ’ ของผมต่อไปละกันครับ
“ธี ได้เวลาเช็คอินแล้ว ไปครับ” ไอ้หมอภีมมันทำเนียนรั้งข้อศอกผมให้ลุกขึ้นยืน ก่อนทำท่าจะลากกระเป๋าเดินทางไปให้ ผมที่ทำอะไรไม่ได้แล้วจึงเดินนำทำหน้านิ่งเก๊กหล่อต่อไป
ระหว่างเข้าแถวรอเช็คอินกลุ่มของผมทั้งหมดเก้าคนยืนเป็นกลุ่มเด่นกลางสนามบินเรียกสายตาคนรอบข้างได้ไม่น้อย อย่าว่าผมคุยเลยหน้าตาแต่ละคนนี่โกอินเตอร์ได้เลยนะครับ ซึ่งสมาชิกร่วมทริปครั้งนี้ประกอบด้วยเพื่อนกลุ่มผมทุกคน บรรดาแฟนตัวเล็กของพวกมัน และพ่วงไอ้หมอภีมห้อยท้ายซึ่งอย่าไปสนใจมันเพราะผมงอนมันอยู่ ผมเหลือบมองหน้าพวกมันแต่ละตัวนี่หน้าตามีความสุขมากยิ่งไอ้ฟิน ไอ้วิน ไอ้ปรัช ด้วยแล้วแววตามันที่ไม่ละจากใบหน้าของคนรักของตัวเองนั้นแทบจะกลืนกินคนของตัวเองลงท้อง ส่วนสาวเท่ของผมเห็นยุ่งแต่กับโทรศัพท์ตลอดเดี๋ยวกดเดี๋ยววางหน้างี้นิ่งจนน่ากลัว ถ้าให้เดาคงเป็นเฮียติณห์นั่นแหละครับเป็นต้นเหตุไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทะเลาะอะไรกันรึเปล่า แต่ตอนนี้ผมไม่กล้าถามหรอกเดี๋ยวรอมนอารมณ์เย็นผมค่อยกระแซะ
“คุยกับพี่หน่อยสิครับ” เสียงอ้อนดังขึ้นชิดหูจนผมต้องเอนตัวหลบก่อนหันไปมองคนที่อาจหาญทำประเจิดประเจ้อกลางสนามบิน ไอ้หมอภีมยังมีหน้ามายิ้มหวานทำตาละห้อยใส่ผมได้อีก ผมเปิดปากเตรียมตอบโต้แต่เสียงยังไม่ทันออก ตัวก็ถลาไปด้านหน้าจากแรงกระแทกด้านหลัง เหมือนไอ้หมอภีมรู้จังหวะอ้าแขนเปิดรับผมไว้ทั้งตัว ทำให้ผมเห็นรอยยิ้มมันใกล้ชนิดที่ว่าเพียงฝ่ามือแทรกผ่านได้เท่านั้น ก่อนจะได้ยินน้ำเสียงตกใจดังขึ้นข้างหลัง
“อุ๊ย! รันขอโทษค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ” สาวสวยผมซอยสั้นเอ่ยขอโทษหน้าตาสำนึกผิดแต่แววตากลับพราวระยับ ผมจะดีใจมากถ้าน้องรันคนสวยจะมองมาที่ผม แต่นี่เธอกลับมองเลยข้ามหัวผมไปส่งสายตาให้ไอ้คนที่เพิ่งรับตัวผมไว้แทน
“ไม่เป็นไรครับ” ในที่สุดสายตาพราวเสน่ห์ยั่วตาก็หลุบมาจ้องผมจนได้ ผมก็เลยจัดการโปรยยิ้มพิฆาตให้ได้รู้กันไปว่าผมก็ดูดีไม่แพ้อีกคน สาวรันก็ส่งยิ้มหวานมาให้ผมทันทีคงเพราะติดใจยิ้มเสน่ห์ของผมเข้าแล้ว แต่เรายังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ก็มีเสียงเรียกรันให้เอากระเป๋าไปชั่งน้ำหนักซะก่อน เธอเลยลาเราแบบลวกๆโบกมือให้และยิ้มหวานละลายใจมาอีกที
“ทีกับพี่ไม่ยอมพูดด้วยยิ้มสักนิดก็ไม่มีให้ แต่กับสาวๆนี่จัดเต็มเลยนะครับ หืม” เสียงเข้มกดหนักท้ายประโยคทำให้ผมละสายตาจากสาวหุ่นสวยกลับมามองคนหน้าบึ้งไม่พอใจข้างๆแทน นี่มันจะรู้มั้ยครับว่าการที่ผมโปรยเสน่ห์ใส่รันน่ะเพื่อกันมันออกมา ดูก็รู้แล้วว่าเธอชอบไอ้แว่นตรงหน้าผมนี่ ยังๆมีหน้ามาดุอีก ‘เดี๋ยวเถอะมึงกูจะงอนตลอดทริปให้มึงเฉาไปเลย’
“เฮีย อย่าเบี่ยงเบนประเด็นได้ป่ะ งานนี้เฮียยังมีความผิดอยู่เหอะ หลอกผมทำไมว่าไม่ว่าง” เอาสิครับคดีพลิกอีกรอบ ไอ้จำเลยเริ่มหน้าจ๋อยยิ้มประจบส่งมาให้แทนหน้าบึ้งเป็นตูดแล้ว ‘เออนะ ไอ้หมอมาดเนี้ยบก็มีอารมณ์แบบนี้กับเค้าเหมือนกัน’ ผมยกยิ้มมุมปากยักคิ้วเย้ยมันไปยังไม่ทันได้ภูมิใจนานไปกว่านี้ ก็มีเสียงกวนๆดังแทรกเข้ามา
“อย่าเพิ่งจีบกันครับ พี่ภีมเอากระเป๋ามาโหลดก่อนไปนู่นยังมีเวลาอีกเยอะครับ เพื่อนผมมันหนีไปไหนไม่รอดหรอก ฮึๆ” ทั้งเสียงหัวเราะทั้งแววตากวนได้อีกมึงไอ้ฟิน และผมว่าไอ้นี่นี่แหละที่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการเอาไอ้หมอภีมมาด้วย อย่าให้รู้ว่ามันร่วมมือกันหลอกผมนะครับ ผมจะใส่ไฟหมอมิคเรื่องความเจ้าชู้ของมันและให้มาจัดการมันแน่ๆ แต่เอ๊! หมอมิคคนน่ารักของไอ้ฟินที่กำลังยิ้มล้อเลียนผมนี่ผมจะจัดการยังไงดีครับ เฮ้อ ปวดตับ
รอจนทุกคนโหลดกระเป๋าหมดแล้วพวกเราก็เตรียมขึ้นเครื่องเพราะใกล้เวลามากแล้ว และผมแอบเห็นสาวรันอยู่ไกลๆว่ามากับเพื่อนอีกสองคนสวยสูสีกันเลยล่ะครับ ดังนั้นผมต้องเพิ่มระดับการระวังภัยเป็นสามเท่าซะแล้วสิ คิดแล้วก็หมั่นไส้ไอ้หมอภีมที่มักจะโดนผู้หญิงเล็งก่อนผมเสมอ หันไปมองหน้าคนที่เดินข้างกันก็ได้แต่ปลงและยอมรับในความหล่อของมัน ขนาดผมเห็นมันออกจะบ่อยยังไม่เบื่อจะมองหน้ามันเลยนับประสาอะไรกับคนที่เพิ่งเจอกัน
“ทำหน้าเป็นตูดอยู่ได้ระวังพี่ภีมจะเบื่อมึงนะไอ้ธี” เสียงกวนๆของไอ้ฟินที่นั่งข้างหน้าผมดังขึ้น ความพยายามในการแซวผมของไอ้ฟินสูงมากเพราะมันเอี้ยวตัวข้ามเบาะเอาหน้าและเสียงกวนๆส่งมาให้ผมที่นั่งเบาะหลังมันได้ยล
“เสือกนะมึง” ไอ้นี่นี่วอนแซวผมตลอดไม่รู้อะไรนักหนาสิ คนยิ่งเก๊กๆอยู่เดี๋ยวหลุดขึ้นมาไอ้หมอภีมจะได้ใจ
“แรงอ่ะ มึงหัดทำตัวให้น่ารักเหมือนที่รักกูบ้าง ผู้ชายเค้าชอบคนนิสัยน่ารักๆอ้อนๆหน่อย ไม่ใช่ปากจัดแบบมึงใช่มั้ยพี่ ฮ่าๆๆ” มันยักคิ้วหลิ่วตาให้ไอ้หมอภีมที่นั่งหลังมัน ไอ้หมอบ้าก็ยิ้มกว้างตอบกลับมันซะอีกไม่มีทุกข์ร้อนเป็นเพื่อนผมเลย
“แต่ได้ข่าวว่ากูก็ผู้ชายเหอะ กูก็ชอบน่ารักๆอ้อนๆแบบที่มึงว่านั่นแหละ” พูดไปสองไพเบี้ยไอ้ฟินมันหาฟังไม่ มันเบะปากทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผมและยักคิ้วให้ไอ้หมอภีมส่งสายตาให้กันแปลกๆ
“คนอื่นจะชอบยังไงไม่รู้ แต่พี่ชอบเด็กแสบปากร้ายมากกว่า” เอาสิครับอึ้งแดกเลย ไอ้หมอบ้ามันก็พูดซะตรงจนผมไปไม่เป็นไม่กล้าปากร้ายใส่มันเลย ‘กูโดนเน้นๆเลยงานนี้’
ส่วนไอ้ฟินมันนิ่งอึ้งจ้องพี่ภีมของมันตาถลนก่อนส่งยิ้มถูกใจไปให้มันแถมยกนิ้วให้กันอีก มันไม่ทันจะล้อผมก็ต้องหันกลับไปเพราะหมอมิคสะกิดเรียกมันตาปรือท่าจะง่วงจัด เหมือนว่าเมื่อคืนมิคนอนดึกมากเพราะเคลียร์งานวิจัยให้เสร็จเพื่อทริปนี้โดยเฉพาะ ผมเลิกสนใจคู่รักตรงหน้าหันไปมองหน้าไอ้หมอภีมแทนใช้สายตาปรามมันว่าอย่ามากนัก ‘กูอายโว้ย’
“มองหน้าพี่ทำไมครับ คิดถึงพี่ล่ะสิ” ผมเบะปากเลียนแบบไอ้ฟินส่งให้คนถามที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ ถึงสิ่งที่มันพูดจะมีความจริงส่วนหนึ่งก็เถอะแต่ใครจะยอมรับกันครับเสียหน้าแย่ ก็ตลอดอาทิตย์มันอ้างว่างานยุ่งจนแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลยมีก็แต่คุยกัน คงเพราะมันเคลียร์งานเพื่อมาเที่ยวพร้อมผมนั่นแหละครับแต่ดันปิดไม่ให้ผมรู้
“เฮอะ” ประชดใส่มันแล้วก็หันหน้าหนีสายตาวิบวับรู้ทันตรงหน้า มองปุยเมฆสีขาวด้านนอกดีกว่ามองหน้าคนเจ้าเล่ห์เป็นไหนๆครับ ต้นแขนผมโดนสะกิดหันไปมองก็เจอยิ้มอ้อนตาใสของมันเข้า เมื่อเห็นผมยังเฉยมันจึงใช้นิ้วจิ้มฉึกๆที่หัวไหล่อีก ผมเลยเอนไหล่หนีเบะปากอีกทีก่อนเบือนหน้าหนีซ่อนยิ้ม นี่ก็เป็นอีกด้านหนึ่งของไอ้หมอภีมที่น้อยคนจะได้เห็นในความติงต๊องของมันแต่ก็เป็นผมที่ได้รับอภิสิทธิ์นี้ ผมล่ะอดจะภูมิใจไม่ได้จริงๆ
“อุ๊ย! บังเอิญจังขึ้นเครื่องลำเดียวกันด้วย จำรันได้มั้ยคะ” เสียงหวานดังขึ้นข้างตัวเจ้าของเสียงคือสาวรันคนสวยที่เจอกันตอนเช็คอิน เธอยืนส่งยิ้มหวานให้กับไอ้หมอภีมก่อนโปรยยิ้มเผื่อแผ่มาให้ผม ผมจึงยิ้มนิดๆก้มหัวให้รันเป็นการทักทาย และรันก็หันไปให้ความสนใจกับคนข้างตัวผมแทน
ในเมื่อหญิงไม่สนผมก็ไม่ง้อครับผมอาจจะไม่ใช่สเป็คเธอ จัดการเอาหัวพิงพนักแสร้งหลับตาพักเอาแรงเพราะกว่าเครื่องจะลงก็อีกชั่วโมงกว่า แต่เสียงฉอเลาะหวานหูที่ดังเข้าหูก็ทำให้ไม่สามารถหลับได้สนิท สงสัยสาวรันจะเป็นเจ้าหนูจำไมช่างสงสัยอยากรู้เรื่องไอ้หมอภีมไปซะทุกเรื่อง หรือเธออาจจะเป็นนกขุนทองกลับชาติมาเกิดก็ได้ครับเจื้อยแจ้วได้ตลอดไม่เหนื่อยบ้างรึไงไม่รู้ ระหว่างที่ผมคิดก็มีมืออุ่นมากุมทับมือผมไว้จนต้องลืมตามอง จะเป็นใครถ้าไม่ใช่คนที่สาวรันสนใจ ไอ้หมอภีมส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ผมและกุมกระชับมือจนแน่น ผมเงยหน้ามองสาวรันก็พบว่าเธอกำลังหลบทางให้คนเดินผ่านอยู่จึงไม่ได้มองมาที่เรา ก็เล่นยืนจังก้าขวางทางคนอื่นอยู่นี่ครับทางเดินก็ไม่ได้กว้างมากมายอะไร ผมพยายามเอามือออกจากการเกาะกุมแต่ไอ้คนกุมไว้กลับไม่ยอมปล่อย ส่งสายตาสื่อแล้วก็ไม่ได้ผลมันยังทำมึนส่งยิ้มให้กันได้อยู่ เลยตัดสินใจลุกขึ้นซะเลย
“ไปไหนครับ” คิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องถาม ใจจริงไม่อยากตอบแต่ถ้าขืนไม่ตอบมันก็คงไม่เปิดทางให้ผมออกไปอยู่ดี
“เข้าห้องน้ำ” ตอบเสร็จบิดมือออกจากการเกาะกุม ส่งยิ้มให้สาวรันที่หันมาพอดีก่อนหันกลับมาส่งสายตากดดันให้ไอ้หมอภีมมันลุกขึ้น ‘ตัวยังกับตึกมึงไม่ลุกกูจะออกได้มั้ย’ เพราะมันนั่งติดทางเดินส่วนผมนั่งติดหน้าต่าง ที่แคบๆแบบนี้มันไม่ลุกผมก็ออกไม่ได้หรอกครับ
“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับคุณรัน ไปครับธี” ไอ้หมอภีมใช้เสียงนุ่มตอบกลับสาวสวย ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ผมเดินนำ ผมส่งยิ้มให้รันนิดหน่อยก่อนเดินลิ่วไม่คิดจะรออีกคน
เปิดประตูห้องน้ำได้ก็แทรกตัวเข้าไปทันทีแต่ยังไม่ทันปิดก็ต้องตกใจกับแรงกระชากให้เปิดของคนด้านนอก และไม่ใช่ใครมันคือไอ้หมอภีมที่แทรกตัวตามผมเข้ามาก่อนปิดประตูลงกลอน
“เฮ้ย! เฮียเข้ามาไมเนี่ย” ผมตกใจจริงนะครับไม่ได้โม้ ผู้ชายตัวโตๆสองคนอยู่ในห้องน้ำแคบๆด้วยกันอึดอัดโคตร เรื่องขัดขืนนี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะแค่ขยับตัวยังแทบทำไม่ได้เลยครับ ยิ่งมันรวบกอดผมไว้ทั้งตัวด้วยแล้วแค่กระดิกนิ้วยังยากเลย ส่วนไอ้คนหน้ามึนมันยังทำเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เค้าจะเข้าห้องน้ำพร้อมกัน
“พี่คิดถึงธีนะครับ ตั้งแต่เจอหน้ากันธียังไม่ยอมพูดดีๆกับพี่เลย” น้ำเสียงตัดพ้อถ้าใครได้ฟังคงคิดสงสาร แต่ผมที่ได้ยินไม่คิดแบบนั้นก็ไอ้แววตาเจ้าเล่ห์ส่งแสงวิบวับคู่นี้น่ะสิที่ไม่ได้ทำให้เจ้าของมันน่าสงสารสักนิดเดียว แถมคำพูดที่ได้ยินก็ทำผมหงุดหงิดจึงอดประชดแม่งไม่ได้
“เรื่องไรล่ะ ผมอยากพูดยังไงก็จะพูด ถ้าชอบคนพูดดีๆก็ข้างนอกนู่นเลย ปล่อยผมและออกไปเลยไป” แววตามันเรืองแสงทันทีที่ผมออกปากไล่ จนผมนึกเสียใจนิดๆที่พูดออกไปแต่ความอวดดียังคงทำให้ผมนิ่งเฉยจ้องสบตามันนิ่งอยู่แบบนี้
“อย่าไล่พี่เพราะพี่จะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น” เสียงแข็งดังรอดไรฟันออกมาจนผมผวานิดๆแต่ยังฝืนจ้องตามันอยู่ ไม่คิดจะตอบโต้อะไรอยากรอดูว่ามันจะทำยังไงกับผม เห็นผมยอมมาตลอดคิดว่าจะทำยังไงกับผมก็ได้เหรอมันคิดผิดแล้ว และเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ได้จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ผมว่าผมไม่ผิด ถ้าจะผิดก็มันนั่นแหละที่เสือกเสน่ห์แรงเกิน มันถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนรั้งหัวผมซบไหล่และลูบแผ่นหลังผมไปจนทั่ว
“เรามาเที่ยวกันอย่าเพิ่งทะเลาะกันเพราะคนอื่นเลย เห็นใจพี่หน่อยนะตี๋น้อยพี่รีบเคลียร์งานมาเที่ยวด้วย ไม่เจอหน้ากันเป็นอาทิตย์ธีไม่คิดถึงพี่เลยหรือครับ หืม” เจ้าของเสียงนุ่มมันดึงผมออกจากไหล่และส่งสายตาอ่อนหวานมาให้
ผมเริ่มเย็นลงเพราะเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่มันพูด แต่ปากก็หนักเกินกว่าจะเอ่ยอะไรออกไป เราสบตากันนิ่งก่อนไอ้หมอหน้าหล่อมันจะส่งยิ้มหวานละลายใจแบบที่ผมชอบมาให้ มันส่งมือมาลูบแก้มผมแผ่วเบาไล้นิ้วผ่านริมฝีปาก และปากแดงๆที่จับจ้องอยู่ก็โน้มเข้าหาจนผมรับรู้ถึงความนุ่มชื้น เรียวลิ้นมันไล้ผ่านกลีบปากและแทรกผ่านมาตะล่อมจนผมใจอ่อนยอมเปิดรับ ลิ้นร้อนกวาดไปทั่วโพรงปากจนเจอลิ้นผมเกี่ยวพันอ่อนหวาน เราแลกเปลี่ยนความคิดถึงกันอย่างเชื่องช้านุ่มนวลจนผมเริ่มหมดลมหายใจจึงใช้มือดันอกมันออกและยืนหอบโกยอากาศเข้าปอด ผมร้อนวาบไปทั้งหน้าเมื่อรู้สึกถึงแรงดุนดันที่หน้าท้อง
“เฮียแม่ง หื่นว่ะ! จัดการมันเองเลยนะ” ไอ้หมอภีมจอมหื่นมันช่างขยันทำผมหน้าร้อนแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนักเชียว และไม่เคยเลือกสถานที่หื่นเลยนี่บนเครื่องบินแท้ๆภีมน้อยยังตื่นได้ ถ้าคิดว่าผมจะยอมมันที่นี่คิดผิดกันแล้วครับ นี่ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายข้างนอกคนอย่างเยอะเกิดรู้ว่าเราทำอะไรกันในนี้ ผมไม่รู้จะหนีอายไปที่ไหนได้บนเครื่องแคบๆแบบนี้เพราะงั้นไม่ยอมแน่นอน
“ฮึๆ ไปรอพี่ข้างนอกนะครับ ออกไปพี่ต้องเจอธีนั่งรออยู่นะ” มันกอดและยกตัวผมหมุนพลิกสลับตำแหน่งจนหลังผมชนประตูแรงมันเยอะโคตรอ่ะ ก่อนมันจะก้มจูบหน้าผากและเสียงคลิกปลดกลอนประตูก็ดังขึ้นข้างหลัง
ผมหมุนตัวหันหลังให้ใบหน้ายิ้มพรายของไอ้หมอภีมและเดินดุ่มๆกลับที่นั่งไม่แม้แต่จะมองใคร และไม่กล้าสนใจใครด้วยว่าจะมีใครเห็นผมออกมาจากห้องน้ำบ้างโดยยังมีอีกคนอยู่ต่อ ยอมไม่รู้ไม่เห็นดีกว่าและปล่อยให้คนที่เห็นเค้าคิดกันไปครับ ผมนั่งลงแล้วปิดตาทันทีสักครู่ก็รับรู้ว่าอีกคนมันกลับมาจากห้องน้ำแล้ว แต่มันก็ไม่ได้กวนผมและมันก็กุมมือผมไว้ตลอดการเดินทาง
....................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป >O<
เริ่มทริปด้วยบทงอนง้อน่ารักๆของคู่รักธีภีมกันไปนะคะ
งานนี้เริ่มต้นก็มีมารผจญซะแล้ว แต่ตี๋น้อยก็มีวิธีแบบแปลกๆ
ที่จะกันสาวสวยออกจากหมอภีม ซึ่งตอนหน้าสาวสวยกลุ่มนี้
ก็จะออกโรงเต็มตัว ใครที่พอจำได้คงจะรู้ว่าสาวๆเค้ามาป่วนวิธีไหน
ติดตามทะเลเดือด!? ได้ในวันพุธค่ะ
+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.ฝากเรื่องการรวมเล่มด้วยค่ะ^^ รายละเอียดอยู่หน้า 1 ค่ะ
3.เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก 2 เล่ม >>> ธี+ภีม
รายละเอียดที่หน้าแรกค่ะตามไปนะคะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0
หัวข้อ: >O<{เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก} ธี & ภีม >>>MiSS-U<<< (อ่าน 1014947 ครั้ง)
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก