ตอนที่ 45ธี“กระเป๋าครบทุกคนแล้วนะครับ ไปกันเถอะครับรถตู้รออยู่หน้าสนามบินแล้ว”
เจ้าของประโยคเชิญชวนมันพูดก่อนจะหว่านรอยยิ้มโชว์ฟันขาวจนถ้วนทั่วทุกตัวคนและจบลงที่ผม ผมจึงแยกเขี้ยวใส่ไอ้หมอภีมไปทีกลับยิ่งทำให้มันยิ้มกว้างกว่าเดิม จึงทำเมินตีมึนเดินนำหน้าเป็นคุณชายให้คนใช้กิตติมศักดิ์ลากกระเป๋าให้ จนไอ้วินปากมอมมันกระซิบแซวว่าเดี๋ยวนี้ผมกลายเป็น ‘คุณนาย’ ของนายแพทย์ใหญ่สบายไปเลย ก่อนมันจะรีบเดินไปโอบเอวหมอกัสพาเดินหนีฝ่าเท้าผมได้อย่างฉิวเฉียด เพื่อนคนอื่นที่เห็นผมยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงจะกินหัวไอ้วินก็ไม่มีใครคิดจะเห็นใจแต่หัวเราะถูกใจกันซะงั้น ไม่เว้นแม้แต่สาวมนที่กลับมาอารมณ์ดีดังเดิมแล้ว หลังจากนั้นพวกเราก็พากันขึ้นรถตู้เพื่อไปยังรีสอร์ทที่จองไว้ และผมเพิ่งรู้ว่าเจ้าของรีสอร์ทเป็นเพื่อนไอ้หมอภีมซึ่งก็คงเป็นมันอีกนั่นแหละที่เป็นคนติดต่อให้จนได้ส่วนลดมา มิน่าไอ้ฟินถึงดูสนิทสนมกับไอ้หมอภีมเป็นพิเศษคงเพราะมันสองคนคงคุยกันจนซี้กันไปแล้ว มันปิดผมได้เนียนมากกับการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ ทั้งๆที่โมโหมันที่ปิดบังแต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่ได้มาเที่ยวกับมันไกลๆบ้าง ด้วยผมนั้นอยากให้ไอ้หมอภีมหาเวลาพักผ่อนแบบนี้มานานแล้ว มันทำงานเยอะจนผมยังเหนื่อยแทน
รถตู้พาพวกเราทั้งเก้าคนมาถึงจุดหมายในที่สุด เมื่อขาก้าวลงจากรถสิ่งแรกที่ผมทำคือการสูดอากาศสดชื่นที่มีกลิ่นไอทะเลเข้าเต็มปอดพาให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นหลังเดินทางทั้งหมดกว่าสี่ชั่วโมง ก่อนจะกวาดสายตามองโดยรอบที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้มีส่วนของบ้านพักเป็นหลังปลูกติดทะเล นี่ถ้าอยู่ในบังกะโลแล้วนอนริมระเบียงรับลมชมทะเลสีครามและฟ้าใสคงสุขสุดๆแน่ๆครับ
“ไปครับธีได้กุญแจแล้ว” ผมคงเหม่อนานไปหน่อยจนไม่รู้ว่าพวกมันแบ่งห้องกันเสร็จแล้ว และดูท่าผมคงต้องนอนกับไอ้คนที่ชูกุญแจยืนยิ้มร่าให้ผมอยู่ตอนนี้ซะแล้ว ผมเหลียวมองรอบตัวและต้องชะงักกับสายตาล้อเลียนของบรรดาเพื่อนตัวแสบที่กำลังจับจ้องมาที่ผมสองคนอยู่
“ไปไหน ไม่ไป ผมจะนอนกับพวกมัน” แกล้งโวยวายกลบเกลื่อนความอายไปก่อนครับ ก็ดูสายตาพวกมันสิครับแพรวพราวจนผมขนลุก ขนาดไอ้พวกนี้มันยังไม่ได้ฟังการยืนยันจากปากผมนะว่าผมกับไอ้หมอภีมเป็นอะไรกัน แม่งยังล้อผมขนาดนี้ถ้าพวกมันรู้ผมคงต้องขุดรูอยู่เลยมั้งครับเนี่ย สายตาเจ้าเล่ห์ของไอ้หมอภีมที่สบอยู่ผมอ่านได้ว่ามันรู้ทันผมและมันก็คว้าข้อมือผมกึ่งลากกึ่งจูงออกเดิน
“จะนอนได้ยังไงกัน เค้าแบ่งกันลงตัวแล้วครับ ธีไปกับพี่เร็วอย่าดื้อ ฮึๆ” ข้อมือผมถูกยึดซะแน่นแกะก็ไม่ออก จึงหันกลับไปส่งสายตาอ้อนวอนสาวมนคู่ซี้เผื่อจะนึกเห็นใจผมบ้าง แต่มนดันยกมือโบกให้พร้อมรอยยิ้มพราว
“เฮียทำไมพวกมันไม่ตามมาล่ะ” เมื่อเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อนแล้วก็เริ่มสงสัยเพราะไม่เห็นมีใครตามมาสักคน สถานการณ์เริ่มไม่น่าไวใจแล้ว เหลียวมองรอบตัวก็เจอแต่บังกะโลหลังไม่ใหญ่ที่น่าจะมีเพียงห้องนอนเดียวเท่านั้น
“พวกเพื่อนๆธีเค้าพักบังกะโลแบบสองห้องกัน มันอยู่คนละโซนกับบังกะโลห้องเดี่ยวที่เราพักครับ” พูดจบผมกับมันก็มายืนอยู่หน้าประตูห้องพักที่เกือบเป็นหลังสุดท้ายของโซนนี้ และเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองว่าไอ้หมอภีมคงเตรียมการมาอย่างดีแล้วที่แยกเราออกมาจากคนอื่นๆ อย่างนี้เชื่อขนมกินได้เลยพวกเพื่อนผมมันได้สมน้ำหน้าผมแน่ ที่ทำเล่นตัวกับไอ้หมอภีมแต่พวกมันก็ไม่รู้อะไรซะแล้ว ระดับนี้ไม่มีเล่นตัวแล้วครับแต่ใส่กันไม่ยั้งต่างหาก ฮ่าๆ แต่ผมยังไม่กล้าพอที่จะบอกพวกมันอายปากว่ะครับ ถือซะว่าให้พวกมันดูและตีความกันเอาเองเถอะแต่ถ้ามีใครถามผมก็จะบอกมันตรงๆแหละครับ
บังกะโลหลังนี้ผมถูกใจมันมากที่สุดก็ตรงระเบียงกว้างที่เปิดประตูกระจกมาแล้วสามารถเห็นทะเลกว้างฟ้าใสได้ร้อยแปดสิบองศา แถมรอบบ้านก็ครึ้มไปด้วยต้นไม้สีเขียวจึงยิ่งเพิ่มความสดชื่นเข้าไปอีก และแนวต้นไม้ก็สามารถบังสายตาจากหลังข้างๆได้ด้วยส่วนตัวสุดๆครับ
“ชอบมั้ยครับ หืม พี่เลือกให้ธีโดยเฉพาะเลยนะ” เสียงนุ่มดังข้างหูขณะที่ผมมายืนปลดปล่อยอารมณ์ตรงระเบียง ก่อนที่ลมหายใจอุ่นจะเป่ารดมาที่แก้มและจมูกโด่งจึงฝังตามมาพร้อมสูดกลิ่นจนแก้มผมแทบหลุดติดจมูกมันไป
“คิดว่าผมรู้ไม่ทันเฮียเหรอ เฮียเลือกตามใจตัวเองอ่ะดิทำเป็นเอาผมมาอ้าง” ทำไมผมจะไม่รู้ครับว่าที่มันเลือกบังกะโลที่ส่วนตัวขนาดนี้เพราะอะไร ก็มันน่ะไอ้หมอจอมหื่นมันย่อมไม่ทิ้งลายอยู่แล้วผมน่ะรู้ทันมันหรอก ว่าจบแล้วแขนที่โอบรอบเอวผมอยู่ก็กระชับตัวผมจนแนบชิดไปกับอกมัน ก่อนไอ้หมอภีมจะหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ
“ฮ่าๆ เดี๋ยวนี้รู้ใจพี่แล้วใช่มั้ย หืม ฮึๆ งั้นก็ไม่ต้องอะไรมากแล้วสิเริ่มเลยแล้วกัน” ก็บอกแล้วว่ามันน่ะหื่นตัวพ่อ มาถึงนี่กะจะฟัดผมเลยเหรอคดีเก่ายังไม่เคลียร์ที่มันปิดบังผมไว้ยังจะเนียนหวังกดผมอีก ผมใช้มือดันหน้ามันออกจากซอกคอผมทันที
“หยุดดดด ทำเนียนอีกแล้ว เฮียยังไม่เคลียร์เรื่องที่ปิดผมไว้ ทำเป็นบอกไม่ว่างมาไม่ได้แต่ดันโผล่มาเซอร์ไพรส์เนี่ยนะ” ผมหมุนตัวอยู่ในอ้อมแขนมันเพื่อหันมาเผชิญหน้ากับคนเจ้าเล่ห์ ที่ยังยิ้มพรายอย่างอารมณ์ดีไม่คิดสำนึกผิดเลยสักนิด
“พี่ก็แค่อยากเซอร์ไพรส์แฟนพี่นี่ครับ จะได้สร้างสีสันของชีวิตคู่เราไง ธีจะได้ไม่เบื่อพี่” โหยมึงช่างกล้าพูดเนอะตัวก็โตอย่างกับตึกยังทำอ้อนเป็นเด็กไปได้ แถมกระพริบตาปริบๆออดอ้อนกันซะด้วย มันช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากจนไม่คิดอยากจะดูเลยครับ แม้จะคิดแบบนั้นแต่ผมก็ต้องกลั้นยิ้มแทบแย่กลัวมันเห็นแล้วจะได้ใจคิดว่าผมถูกใจกับสิ่งที่มันพูด พยายามเก๊กหน้าเก๊กเสียงคุยกับมันต่อ
“เฮียทำแบบนี้ก็ดีผมจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะพูดเรื่องของเราให้พวกมันรู้” ควายงงเป็นยังไงมาดูหน้าไอ้หมอภีมมันได้ในตอนนี้ ผมเห็นแล้วก็ขำแต่ผมยังไม่หลุดมาดนิ่งที่เก๊กไว้
“หมายความว่ายังไครับ ธีจะพูดอะไรกับเพื่อนๆ” มาแล้วครับคำถามที่ผมรอคอย ผมเลิกคิ้วอย่างเป็นต่อก่อนเอ่ยปากบอก
“ตอนแรกที่ผมขอให้เฮียมาด้วยผมกะว่าจะเปิดตัวเฮียกับพวกมันในฐานะ ‘แฟนของผม’ แต่พอเฮียบอกว่าไม่ว่างเลยเซ็งนิดหน่อยเลยกะว่าค่อยหาโอกาสใหม่ แต่พอเจอเซอร์ไพรส์วันนี้เข้าผมเลยเปลี่ยนใจยกเลิกทั้งหมดที่คิดไว้แล้ว ให้พวกนั้นมันสงสัยอยู่แบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน ฮ่าๆ” ผมขำดังขึ้นเรื่อยๆเพราะหน้าตาของไอ้หมอภีมมันเปลี่ยนหลากหลายอารมณ์มาก ตั้งแต่ยิ้มดีใจจนแก้มปริเมื่อรู้ว่าผมคิดจะเปิดตัวมัน ก่อนเปลี่ยนเป็นเสียใจสุดซึ้งทำตาละห้อยที่รู้ว่าผมยังพยายามหาโอกาสในครั้งหน้าเมื่อรู้ว่ามันไม่ว่าง และสุดท้ายตกใจตาเบิกกว้างเมื่อรู้ว่าผมไม่คิดจะเปิดตัวมันแล้ว ‘ขำชะมัดแฮะ’
“ตัดสินโทษพี่โหดมากไปรึเปล่าครับ ตัดสินใหม่เถอะพี่ขออุทธรณ์ ดูที่เจตนานะครับพี่แค่อยากให้ธีเซอร์ไพรส์ดีใจที่เห็นพี่มาด้วย ยังหัวเราะอีกนะเรา ฮึๆ แต่ไม่เป็นไรถึงธีไม่บอกพวกเพื่อนๆธีเค้าก็ดูออกแล้วว่าเราเป็นอะไรกัน ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว อืม ก็น่าสนุกแบบที่ธีว่าเหมือนกันนะครับ ฮึๆ” อ้าวไหงเป็นแบบนี้ล่ะครับหมดสนุกเลย มันดันไม่หงุดหงิดอย่างที่คิดกลับมายิ้มร่าจนน่าหมั่นไส้อีกแล้ว
“อย่างอนพี่นะครับ ธีตัดสินใจเองนะ ไม่เอาแล้วเดี๋ยวพาลงอนพี่ไปกว่านี้ บรรยากาศดีๆแบบนี้เรามาสวีทกันดีกว่า พี่คิดถึงตี๋น้อยของพี่มากรู้มั้ยไม่เจอเป็นอาทิตย์ มาทำให้พี่หายคิดถึงซะดีๆ” อ้าวไอ้นี่ตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆระดับความหื่นขึ้นสูงซะแล้ว แต่จะว่าไปถ้าไม่หลอกตัวเองผมก็คิดถึงมันอยู่เหมือนกันน้า แต่แค่นิดเดียวเหอะครับไม่ได้เยอะอะไร
ไอ้หมอจอมหื่นมันจูบผมทั้งๆที่เรายืนอยู่ที่ระเบียงและผมดันเคลิ้มไปกับมันจนได้ ถึงขั้นเอาแขนโอบรอบคอรั้งให้หน้ามาแนบชิดกับผมมากขึ้นเองด้วย จูบกันจนเพลินผมแทบเป็นลมก่อนมันจะผละลิ้นออกจากปากผม แต่ยังไม่ไปไหนไกลมันยังจูบซับไปรอบขอบปากขณะที่ผมต้องการอากาศเข้าปอดมากกว่าสิ่งใด และเริ่มรับรู้ว่ามันสอดมือมาลูบแผ่นหลังของผม อีกมือก็ลูบอยู่ที่ก้นผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ชื่นใจจัง” เสียงนุ่มแผ่วเบาดังมาจากซอกคอก่อนมันจะกดจูบแรงๆลงมา และเงยหน้าส่งยิ้มหวานมาให้ผม เอื้อมมือประกบเข้าที่แก้มทั้งสองข้างและไล้วนเบาๆ
“อยู่ใกล้ธีทีไรพี่อดใจไม่ไหวทุกทีเลย อย่าทำหน้าแบบนี้นะครับเดี๋ยวพี่เลิกล้มความตั้งใจให้เรานอนพักซะเลย รู้มั้ยว่ายั่วพี่อยู่ หืม” พูดจบมันก็กัดเบาๆเข้าที่ปากเจ่อๆของผมและกอดตัวผมจนกระดูกแทบหัก ผมไม่ได้ยั่วมันเหอะก็แค่ยังเคลิ้มกับจูบของมันเท่านั้นเอง
หลังจากนั้นมันก็ลากผมเข้าห้องมานอนบนเตียงโดยมีมันกอดไว้ทั้งตัว และบอกว่าเดี๋ยวตื่นแล้วจะพาผมไปลงน้ำ นี่มันคิดว่าผมเป็นเด็กขนาดนั้นเลยเหรอครับที่เห็นทะเลแล้วผมจะกระโจนเข้าใส่น่ะ ผมแค่อยากนั่งริมหาดจิบเบียร์หาสิ่งเจริญหูเจริญตาดูก็พอแล้วครับ แต่ก็ปล่อยให้มันพูดไปขอหลับเอาแรงก่อนดีกว่าจะได้มีแรงจิบเบียร์คิดแล้วเปรี้ยวปากอยากกินมากเหอะ อ้อมกอดจากคนที่อยู่ด้านหลังที่ผมโคตรจะเคยชินทำผมหลับใหลลงได้อย่างรวดเร็ว
..............................................
ทะเลสวยน้ำใสเบื้องหน้าทำผมสดชื่นจนต้องยิ้มออกมา หลังจากเพิ่งตื่นหลังหลับเอาแรงซะเต็มอิ่มก็ชวนไอ้หมอภีมมันออกมาข้างนอก มันยังอิดออดไม่อยากลุกทั้งๆที่ตาใสตื่นก่อนผมนานแล้ว อ้างว่ายังเพลียอยากนอนอีกนิดและกระชับกอดผมเข้าหาตัว ผมเลยจัดให้ตื่นเต็มตาโดยการถองศอกเข้าที่ท้องให้พอสะดุ้ง และชิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาท่ามกลางเสียงเสแสร้งร้องโอดโอยของคนที่ยังอยู่บนเตียง จนผมออกมามันก็ยังไม่ยอมลุกนอนหน้าบึ้งจ้องผมไม่พูดไม่จา ผมเลยทำท่าจะเดินออกจากห้องนั่นแหละถึงยอมลุกจากเตียงมารั้งผมไว้ และออกคำสั่งเสียงแข็งให้รอมันก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำออกมาหน้าใสกิ๊ก จึงได้ฤกษ์ออกมาเดินชายหาดด้านนอก ในทะเลเบื้องหน้าผมมีคนว่ายน้ำไม่มากนักเพราะเป็นชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ทดังนั้นก็จะมีเพียงลูกค้าเท่านั้นถึงมีสิทธิ์เล่นน้ำแถวนี้ และกลุ่มที่โดดเด่นที่สุดก็คงเป็นสามหนุ่มกับหนึ่งสาวที่อยู่กลางทะเล ไอ้ปรัชยืนหน้านิ่งกลางทะเลหน้าโหดโคตรอ่ะ มันคงได้รับหน้าที่เฝ้าบรรดาคนน่ารักทั้งสามเค้าเล่นน้ำ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหมอมายแฟนมันด้วย ผมว่าขืนไม่มีมันเฝ้าได้มีฉลามหนุ่มมาตอดโลมาน้อยทั้งสามแน่ๆครับ ขนาดไอ้ปรัชยืนส่งสายตาพิฆาตกราดมองขนาดนั้นยังมีคนใจกล้าแกล้งว่ายน้ำตีเนียนเข้าหาเลย แหมสามคนนั้นน่ารักน้อยที่ไหนกันครับ
“ฮึๆ หวงกันฉิบหาย” ผมอดจะส่ายหน้ายิ้มๆและบ่นแบบหมั่นไส้ไอ้พวกเพื่อนขี้หวงแฟนไม่ได้
“คนของใคร ใครก็หวงนะครับ ยิ่งรักมากก็หวงมาก” หันหน้าไปมองไอ้หมอภีมที่เดินข้างกัน ที่อยู่ๆมันก็เพิ่งเปิดปากพูดหลังจากเราเดินออกจากห้องมานานแล้ว หน้ามันนิ่งจ้องตาผมครู่เดียวก่อนหันไปมองตรงหน้าเหมือนเดิมไม่แม้แต่จะยิ้มหรือแหยผมเหมือนเคย
ไอ้ประโยคที่มันพูดผมก็เข้าใจอยู่หรอกก็เจอมากับตัวแล้วนี่ครับ แต่มันเป็นอะไรของมันเนี่ยต้องการสื่ออะไรกับผมวะครับ ‘เออเห่อแฮะ มึงงอนอะไรกูอีกเนี่ย’ ผมมองมันอึ้งๆหรือมันจะงอนที่ผมศอกใส่กันครับ แต่ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อเราสองคนก็เดินมาใกล้กลุ่มเพื่อนผมที่ตั้งกลุ่มนั่งเก้าอี้ผ้าใบใต้ร่มคันโต พวกมันหัวเราะร่าไม่รู้ว่าคุยอะไรกันก่อนหน้านั้น แต่ประโยคเด็ดจากไอ้วินปากมอมนี่สิที่ทำผมโมโห
“ไอ้ธีกับพี่ภีมหายไปเลยว่ะ เพื่อนกูฟ้าเหลืองแล้วมั้ง ฮึๆๆ” ไอ้เชี่ยวินนินทากูลับหลังมึงมันไม่รู้อะไรวันนี้กูไม่ได้ฟ้าเหลืองซะหน่อย ถ้าเป็นเรื่องจริงผมจะไม่โมโหมันเท่านี้เลยครับ จึงเดินไปจัดให้มันสักดอก
“พัวะ / โอ๊ยย” เป็นไงมึงร้องซะดังสะใจกูที่สุด
“ไอ้เชี่ยวิน มึงพูดบ้าอะไรวะ” ผมตะโกนใส่หน้ามันและได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะจากไอ้หมอภีมที่ผมเห็นว่ามันเพิ่งหน้าบูดเป็นตูดลิงหยกๆดันมีหน้ามาหัวเราะเอาตอนนี้ได้ แล้วทำไมผมต้องหน้าร้อนทั้งๆที่มันไม่จริงอย่างไอ้วินพูดด้วยเนี่ย
“กูพูดเรื่องจริงนี่หว่า เฮ้ยยย มึงหยุด กูล้อเล่น นั่งก่อนๆ พี่ภีมนั่งเลยครับ” ไอ้วินรีบแก้ตัวทำท่ากลัวเกรงผมแต่หน้าตากลับทะเล้นกวนอารมณ์ให้ผมซ้ำมันอีกสักทีจริงๆครับ
ผมกระแทกตูดนั่งลงข้างไอ้วินและมีไอ้หมอภีมที่กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิมแล้วนั่งใกล้กัน ก่อนผมจะเลิกสนใจมันหันมาเปิดเบียร์ที่มนส่งมาให้กระดกเข้าปาก และนั่งเงียบสงบอารมณ์บูดฟังพวกแม่งคุยกัน แม้ไอ้วินไอ้ฟินปากมันจะคุยแต่ตานี่ชำเลืองแฟนตัวเองที่เล่นน้ำในทะเลตลอด ไอ้พวกนี้ก็หวงเว่อร์ครับทำไมมันไม่ลงไปคุมเองเลยว้าเห็นแล้วหมั่นไส้
“ไม่ลงเล่นน้ำกันเหรอคะ” เสียงหวานใสของผู้หญิงที่ดังขึ้นทำให้พวกเราทั้งกลุ่มหันไปมอง และผมก็พบกับสามสาวสวยเซ็กซี่ในชุดบิกินีหลากสีหนึ่งในนั้นเป็นคนที่ผมคุ้นหน้า เธอคือ ‘รัน’ ส่วนคนที่ทักก็เป็นเพื่อนรัน ผมจับสายตาของรันได้ว่าเธอจับจ้องมาทางคนที่นั่งข้างผม นี่คงติดใจมันตั้งแต่สนามบินยันบนเครื่องบินจนถึงที่นี่แน่ๆครับ
“ลงสิครับ พวกคุณลงพร้อมผมเลยมั้ย” ผมเลยถือโอกาสขโมยซีนเรียกสายตาสาวๆมาไว้ที่ตัวเอง และได้ผลครับสามสาวหันมามองผมและส่งเสียงหัวเราะคิกคักทันที
จากนั้นผมจึงแนะนำคนในกลุ่มเราให้พวกเธอรู้จัก สายตาสาวรันเลิกจ้องไปที่ไอ้หมอภีมแล้วแต่เธอยังไม่ทิ้งลายทอดสายตาใส่ไอ้วินแทนซะได้ และถึงคราวสามสาวเค้าแนะนำตัวเองบ้าง ผมจึงได้รู้ว่าเพื่อนรันอีกสองคนชื่อกิ๊ฟและเปรียวทั้งสามสาวดูท่าจะเชี่ยวน่าดู นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่พลาดสักคนในนี้แน่ๆครับ แต่ตอนนี้อย่างที่รู้ว่าผมไม่สามารถขืนทำได้โดนไอ้คนที่นั่งจ้องผมนิ่งๆกินหัวผมเป็นแน่
ผมสังเกตแล้วพบว่าสาวเปรียวนั้นท่าทางจะชอบไอ้ฟินเห็นกระแซะมันใหญ่ ส่วนสาวรันที่หันเหไปสนใจไอ้วินก็ฉอเลาะหัวเราะคิกคัก ส่วนผมก็อดภูมิใจไม่ได้ที่ตัวเองยังมีเสน่ห์พอให้สาวกิ๊ฟหุ่นนาฬิกาทรายหันมาสนใจได้ ลืมอีกคนข้างๆไปชั่วขณะ สามสาวในชุดบิกินีสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กลุ่มเราได้ไม่น้อยจนกระทั่งโลมาน้อยขึ้นฝั่งมาหวงคนของตัวเอง หมอมิคที่หน้ามุ่ยกับหมอกัสที่หน้านิ่งทำเอาไอ้ฟินและไอ้วินหน้าเจื่อนรีบง้อแทบไม่ทัน ส่วนสาวๆทั้งสามก็อึ้งไปแล้วมองคู่รักเค้างอนกันตาค้างไปเลยครับ มนที่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ถึงกับหลุดขำออกมา ผมอดสงสารสาวๆไม่ได้เลยชวนทั้งสามลงทะเลหนีภาพบาดตา ไม่ได้เจ้าชู้นะครับก็แค่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษรักษาหน้าสาวๆเค้าเท่านั้น แต่ถ้าผมจะฉุกใจคิดให้ดีกว่านี้ผมจะไม่รับบทเป็นสุภาพบุรุษในครั้งนี้เลยจริงๆ
.....................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ >O<
ใครที่ค้างคาใจตั้งแต่มิคฟินก็ได้รู้แล้วเนอะว่าไอ้ท่าทางเจ้าชู้หลอกตา
ของตี๋น้อยทำเพื่อกันเฮียภีมออกจากสาวๆและแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ
รักษาหน้าสาวๆ ซึ่งผลที่ออกจะเป็นแบบไหนติดตามในตอนหน้าค่ะ^^
+1ให้ทุกเม้นท์เช่มเดิม เจอธีภีมได้ในวันศุกร์ค่ะ และเตรียมนับถอยหลัง
กันได้เหลืออีก 10 ตอนเท่านั้นธีภีมก็จะจบแล้วค่ะ ฝากเอาใจช่วยคู่หื่นด้วยน้า
ปล.ฝากเรื่องรวมเล่มในซีรีย์นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
วันนี้เอาที่คั่นหนังสือมาอวดด้วยจ้าดูได้ด้านล่างค่ะ

3.เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก 2 เล่ม >>> ธี+ภีม
รายละเอียดที่หน้าแรกค่ะตามไปนะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0