พอมีคนมารอ เราก็บ้าจี้เอามาลง 555555555 
เรื่องนี้อ่านสบายๆ นะจ้ะ แต่รับรองสนุก ไม่ซ้ำใคร แน่นอน 
ขอบคุณสำหรับคำแก้ไข ติชม นะฮะ รู้สึกมีกำลังใจเป็นกองเลย
อ้ออ้อ.....อย่าลืม!! ว่านี่เป็นเพียงแค่นิยาย เป็นจินตนาการของคนแต่ง อาจจะเว่อร์ไปบ้าง แต่เราก็มีความสุขที่ได้บรรยายมันออกมา
ตอนที่ 2
[/b][/size][/b]
ปริ๊นนนนนนนนนน...................
ทุกอย่างหยุดชะงัก
ผมหันมามองรถสปอร์ตสีดำที่จอดอยู่ท้ายรถตู้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ทันที
ประตูรถฝั่งคนขับเปิดออก แล้ว...............
ไอ้หน้าหล่อคนนั้นลงมาจากรถสปอร์ตสีดำนั่น ด้วยใบหน้าเรียบขรึม สายตาที่ติดจะเย็นชาอยู่แล้วยิ่งเย็นชามากกว่าเดิม ก่อนจะตวัดสายตาคมกริบไปยังไอ้สี่หน่อนั่น
ชายทั้งสี่คนนั้นรีบถอยห่างจากผม และรีบจุรีจุจอมายืนข้างรถตู้ ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วโค้งทำความเคารพทันที ผมจึงรีบถอยห่างจากพวกนั้นออกมายืนด้านนอกรถ ห่างสักสามเมตรเพื่อเตรียมตั้งรับใหม่
พฤติกรรมแบบนี้........คุ้นๆว่ะ (เหมือนในหนังเลย)
................มาเฟียป่าววะ??.................
ท่าทางแบบนั้นกูขอตัดสินว่าพวกมึงเป็นมาเฟียเลยละกัน
หึหึ...กูเจอมาเฟียว่ะ ไอ้แพทไอ้ภูมิ กูชอบดูหนังบู๊ กูชอบอ่านการ์ตูนวาย และกูก็เจอมาเฟีย... (เกี่ยว?)
“เป็นไรมากมั้ย?” คนสายตาเย็นชาเบนสายตามาทางผม
“อ้ะ!! ผะ..ผม.....ไม่เป็นไรครับ” ผมอ้ำอึ้งตอบ อ่า....คนหล่อๆ นี่เสียงนุ่มอย่างนี้ทุกคนรึเปล่าวะ แล้วกูจะตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเพื่อ??
“..............” แล้วสายตาของเขาก็มองสำรวจผมอย่างรวดเร็ว
“.......??.......”
....ผมรู้สึกขนลุก........เมื่อกี้ผมก็กลัวนะครับ แต่ความตกใจมีมากกว่า แต่ตอนนี้...มันแบบ.....ตื่นเต้นแปลกๆ
จากนั้นไอ้หน้าหล่อก็ใช้สายตาอันคมกริบมองอย่างกดดันไปยันไอ้สี่คนนั้น เหมือนจะตรึงให้พวกมันยืนนิ่งอยู่กับที่ยังไงอย่างงั้น
...............เงียบ..............
“..............” พวกมันยังคงก้มหน้านิ่ง และแม้บางคนจะมีอาการสั่นเล็กน้อยให้เห็นก็ตาม
...........เงียบ..........บรรยากาศกดดันลอยอบอวลอยู่ครู่หนึ่ง
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ.............ส่วนนี่ค่ารถไฟฟ้า ” คนรูปหล่อพูดพร้อมกับใช้มือล้วงหยิบเงินในกระเป๋าเสื้อมายื่นให้ผม
ผมที่กำลังมองซ้ายขวาอย่างสำรวจ จึงสบเข้าไปในสายตานั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“...เอ่อ........” เยอะไปมั้ย?
“หึหึ...รับไปสิ แล้วเธอพักที่ใหนล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอละกัน”
.....อ๊ากกกกกกกกกกกกก คนหล่อยิ้มมุมปากนิดๆด้วยอ่ะ....
..............ตึงตัง ตึงตัง ผมรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นอีกแล้ว มันจะแปลกเกินไปแล้วนะ..............
.....แล้วมือกูจะสั่นเพื่อ.....
เหมือนผมโดนสะกด ผมค่อยๆ ยื่นมือสั่นๆ พร้อมทั้งหัวใจที่เต้นกระเด็นกระดอนไปมา เพื่อจะรับเงินนั้น ในขนาดที่สายตาของผมยังคงเหมือนถูกตรึงและดึงดูดด้วยสายตาของคนๆนั้น และก่อนที่มือของผมจะแตะจำนวนเงินที่เขายื่นมาให้ อ่ะ!!........ความฝันกู.............
........... นี่อาจเป็นโอกาสที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิตของผม ใช่แล้ว!! เวอร์จิ้น 18 ปี กับคนที่ทำให้ผมใจเต้นแรงแบบนี้เพียงคนเดียวและคนแรก และไม่รู้ว่าจะมีอีกรึเปล่า......ผมชะงักมือไว้กลางอากาศและ...
...........แล้วเขาจะหาว่ามึงใจง่ายมั้ยวะ..............สีขาว -_-
...........ไม่หรอก น้ำแตกแยกทาง.............สีดำ ^_^
...........แหวะ ทฤษฎีของคนใจง่ายนั่นสิ..............สีขาว -_-
“หืม...หึหึ” (ไอ้รูปหล่อหัวเราะ)
............แต่ก็.....คงไม่เจอกันอีก ไม่เป็นไรหรอกน่า..........สีดำ ^_^
.....เออ ใช่ๆ ...........
คิดได้ก็ยิ้มบานเลยสิครับผม V________V
“ครับ? หึหึ” รู้สึกมันจะขำบ่อยไปแล้วนะ
ผมเผลอใจลอยนิดหน่อยก่อนจะรู้ตัวเมื่อได้ยินเสียงของคนๆนั้น.....ฉ่า.....อ๊ากกกกกกกกกกกก คนหล่อ คนหล่อยิ้มครับ ยิ้มกว้างเลย ผมแพ้คนหล่อนี่เข้าให้แล้ว
หางตาของผมเห็นแวบๆว่าไอ้สี่หน่อนั่น ยังยืนอยู่ที่เดิม แถมยังทำหน้าอึ้งๆด้วย
.....อ่า ช่างหัวพวกมัน ผมตัดสินใจได้แล้ว เริ่มล่ะนะ ปฎิบัติการถวายเวอร์จิ้น.......
“เอ่อ.....คือ........ตลอด 18 ปีที่ผ่านมาของผม ไม่เคยมีใครทำให้ผมใจเต้นเท่าคุณมาก่อน ดังนั้นคุณช่วยรับเวอร์จิ้นของผมได้มั้ยครับ!!!”
.............อ่า.......พูดไปแล้ว ตื่นเต้นชะมัด ผมหลับหูหลับตาก้มหน้าพูดด้วยความเร็วแสง........
.......................เงียบ......................
ผมค่อยๆเงยหน้าช้าๆ และช้อนตาขึ้นมามองคนตรงหน้าอย่างตื่นเต้น ลุ้นว่ะ จะยอมมั้ยวะ
.......นั่นน่ะ...เวอร์จิ้นกูเลยนะเว้ย............
“...............”
“...............” (คนหล่อคงกำลังอึ้ง)
....ฉ่า......ผมว่าหน้าผมต้องแดงมากกว่าเดิมแน่ๆเลย ก็....เขาทำหน้า.......บ.....แบบ....ยิ้มทั้งปากทั้งตาแบบนั้น
.............แต่............ช้าก่อน เราเจอกันครั้งนี้ครั้งเดียวน่า เอาวะเป็นไงเป็นกัน..........
“ตะ..ตอ...ตอบแทน!!!” ...........กูจะตะโกนเพื่อ..........
“หืม??” อย่าขมวดคิ้วงั้นดิวะ
“.......ก.....กับค่ารถไฟ..ฟ..ฟ้า” ผมพูด ถ้าแบบนี้คงจะยอมนะ อย่าสั่นสิกู
...........อ่า...ใหนๆก็ใหนๆแล้ว ครั้งเดียวในชีวิตน่า.....ใจหนอใจ จะเต้นแรงเกินไปแล้วนะ..........
“.....อ้อ........หึหึ” ไอ้หน้าหล่อยิ้มพร้อมทำสายตาวิบวับ
“เอ่อ...” เสียงไอ้สี่หน่อคนใดคนหนึ่ง
“ไม่ต้อง พวกแกกลับไปได้แล้ว บอกพี่ไนท์ด้วย ครั้งนี้ฉันยอมยกให้ แล้วฉันจะเข้าไปหาพรุ่งนี้”
หนึ่งในสี่คนนั้นกำลังอ้าปากจะพูด แต่ถูกเขาคนนั้นขัดก่อน
พวกมันสี่หน่อ?โค้งทำความเคารพอีกครั้ง จากนั้นก็ค่อยพยุงกันขึ้นรถและออกรถไปอย่างรวดเร็ว
แล้วไอ้หล่อเขาก็หันกลับมามองผม
....................เกิดความเงียบชั่วขณะ.......................
ผมเหลือบมองคนรูปหล่อตรงหน้าไม่วางตา และแอบกลืนน้ำลายลงคอเฮือกหนึ่ง
เขาหล่อจริงๆนะ เหมือนตาเขายังยิ้มอยู่เลย ทั้งที่เมื่อตะกี้ ตาเขาดุขนาดนั้นแท้ๆ
.............กูว่ากูปลี่ยนใจดีมั้ยวะ................
“หึหึ....ขึ้นรถสิ”
.............แล้วกูก็เปลี่ยนใจอีกครั้ง............สินะ.......
“ครับ”
...
“สุดยอด” ผมอุทานออกมาเบาๆ ที่นี่เป็นโรงแรมที่ใหญ่และหรูหราอลังการมากกกกกกกกกกกกกก
ชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศเลยนะนั่นน่ะ
..........ไอ้แพทไอ้ภูมิเอ๋ย พวกมึงต้องอิจฉากูแน่ๆ กูเสียเวอร์จิ้นที่นี่ กูก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะ......
ว่าข้างนอกหรูแล้วนะ พอได้เข้ามาข้างในจริงๆหรูมากกว่าอีก ผมมองสำรวจไปรอบๆด้วยสายตาชื่นชมไม่มีปิดปัง การตกแต่งที่ทันสมัยแต่ก็ผสมผสานความเป็นไทยเข้าไปได้อย่างลงตัว อันที่จริงจะว่าไปแล้วนะ เราตกเป็นเป้าสายตาจากคนที่อยู่ในบริเวณนั้นทันทีที่เดินลงมาจากรถแล้ว แต่ด้วยความงามของโรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ก็ทำให้ผมไม่ได้สนใจต่อสายตาอยากรู้อยากเห็นเหล่านั้น
ผมเดินสำรวจด้วยความชื่นชมในการตกแต่งอย่างเคลิบเคลิ้ม
.....เคลิ้มเลยกู เคลิ้มเลย...........
จนไอ้รูปหล่อต้องเอามือมาจับเบาๆตรงต้นแขนผม ผมสะดุ้งนิดหน่อย แต่ก็หันไปยิ้มให้คนข้างๆอย่างไม่รู้สึกผิดอะไร ก่อนจะหันกลับไปเก็บบันทึกภาพความสวยงามของโรงแรมต่อ ไอ้รูปหล่อเขาจะพาเดินไปทางใหนผมไม่สนอ่ะ ขอดูการตกแต่งในนี้ให้ชื่นใจก่อนแล้วกันนะ เท้าเดิน แต่ตาผมก็มองสำรวจไปรอบๆ ไม่สนใจใครแล้วตอนนี้ ไม่รู้ว่าชาตินี้ผมจะได้เข้ามาอีกรึเปล่า
อ่า.........แม้แต่การตกแต่งเล็กๆน้อยๆในลิฟต์ก็ยังตรึงสายตาผมได้
รู้ตัวอีกทีผมก็ เดินเข้ามาอยู่ในห้องสูทห้องหนึ่งของโรงแรมแล้ว ห้องนี้หรูและกว้างมาก และคงอยู่บนชั้นที่สูงพอควร เพราะสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพได้งดงามทีเดียว อ่า...เหมือนดาวบนพื้นโลกเลย
............................สวย............................นิยามคำเดียวที่ผมมองภาพกรุงเทพผ่านกระจกบานใหญ่ๆที่กั้นอยู่นี่ เหมือนภาพวาดเลย
...อ่า........ผมยกมือขึ้นมาจับที่ตำแหน่งหัวใจทันที รู้สึกว่าใจผมจะเต้นแรงมากขึ้นนะเนี่ย
“นั่งสิ ตรงใหนก็ได้”
เมื่อถูกเชื้อเชิญ ผมก็ดึงสายตากลับมามองไปรอบๆห้องอีกครั้ง แล้วเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องทันที ห้องนี้ตกแต่งได้อบอุ่น คงเป็นผลมาจากแสงที่ใช้ด้วย มันดูอบอุ่นและโรแมนติกดี
ถึงตอนนี้ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งเมื่อคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ผมยิ่งตื่นเต้น อยู่ๆก็รู้สึกลังเลขึ้นมา แล้วยิ่งสายตาที่จับจ้องมาที่ผมโดยไม่คลาดไปไหนแล้วนั่นด้วย ผมว่าสายตาของเขาจะเยิ้มมากไปแล้วนะ แถมมุมปากยังยกยิ้มอยู่ตลอดเวลาด้วย
“หน้าผมมีอะไรแปลกหรอครับ” นั่นสิจ้องอยู่นั่นแหละ ผมก็อายเป็นนะ และยิ่งเสียงหัวใจที่เต้นแรงอยู่ตลอดเวลานี่อีก เขาจะได้ยินไหมนะ
“..............” อีกฝ่ายไม่ตอบ แต่เขายิ้มให้ผมมากขึ้นและเดินไปที่บาร์เล็กๆที่อยู่อีกมุม หยิบขวดเหล้าอะไรสักอย่างมา จากนั้นก็รินใส่แก้วสองใบที่วางอยู่บริเวณนั้น
เขาเดิน มาและยื่นแก้วหนึ่งให้ผม น้ำข้างในเป็นสีเขียวใสๆ กลิ่นหอมเย็นเจือแอลกอฮอล ผมมองหน้าเขา เขายกมันขึ้นมา ผมเข้าใจว่าเขาเชิญชวนให้ผมดื่มมัน ผมลังเลนิดหน่อย แต่ก็ยอมยกมันขึ้นมาดื่ม
ระหว่างเรามีแต่ความเงียบ ผมรู้สึกแปลกๆ มันดูโรแมนติกนะไม่ใช่กดดัน แต่ผมก็ไม่ปฎิเสธหรอกว่าผมไม่ชอบบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบนี้
ผมยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว มันหวานๆ ฝาดๆ แต่ผมว่าอร่อยดี
“โอ้!! ดื่มแบบนั้นพรุ่งนี้เธอจะลุกไม่ขึ้นเอานะ” เขาอุทานด้วยสีหน้าแปลกเล็กน้อย แล้วเอื้อมมือมาหยิบแก้วออกจากมือผม แล้ววางแก้วของเราทั้งสองคนไว้กับโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ
“......???........” อะไร?? คือลุกไม่ขึ้น ระหว่างที่ผมยังทำหน้างงก่งก๊ง แทนที่ไอ้หล่อเขาจะอธิบาย กลับพูดขึ้นมาใหม่ว่า
“ฉันชื่อฟราน” คงเป็นลูกครึ่งสินะ ถึงได้หล่อคมแบบนี้
เขายังคงมองหน้าผมอยู่ นิ่งๆ
“อ่ะ..ครับผมชื่อ..กรีนครับ” ผมรีบแนะนำตัวเองบ้าง นั่นสิเรายังไม่รู้จักชื่อกันเลยนี่นา ตั้งแต่เจอกัน
“.................”
“.................”
เราจ้องตากันนิ่งๆ สักครู่
ผมยังคงสบตากับคุณฟรานอยู่และเริ่มรู้สึกแปลกๆ ผมรู้สึกว่าคุณฟรานยังไม่เคลื่อนสายตาจากผมไปไหนเลยนะ และนั่นยิ่งทำให้ร่างกายของผมแปลกมากขึ้น แบบ........ร่างกายของผมมันเริ่มร้อนวูบวาบๆ กับสายตาที่เขาส่งมาน่ะ
“...อ่า...เริ่มแล้วสินะ”
“ครับ??”
“อ้อ.. ที่นี่แขกส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง เหล้าที่เธอดื่มไปเขาเรียกว่า 'เหล้าเจ้าสาว' ”
“........??........” ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วเกี่ยวอะไรกับผม
คุณฟรานเดินมานั่งตรงที่วางแขน ตรงโซฟาที่ผมนั่ง เขาพาดแขนข้างหนึ่งมาวางไว้ข้างหลังโซฟาที่ผมพิงอยู่เหมือนกำลังโอบผมกลายๆ การเคลื่อนไหวของเขาดูนุ่มนวล มันจึงไม่ทำให้ผมรู้สึกกดดัน ก่อนจะสบตาผมและพูดต่อ
“ชาวตะวันออกกลางมีประเพณีอย่างหนึ่ง คือ คู่บ่าวสาวจะต้องร่วมรักกันต่อหน้าพยานในคืนเข้าหอ เหล้าเจ้าสาวจึงมีส่วนผสมของสารบางอย่างที่จะช่วยให้การร่วมรักนั้นผ่านไปด้วยดี”
หลังจบประโยชน์นั้นผมก็เบิกตากว้างทันที
“ทำไม??” ......ยังไงกูก็จะยอมอยู่แล้ว....แบบว่าเพ้อมานาน
“เธอตื่นเต้นมากไป เหล้านี่จะช่วยเธอได้มาก และอันที่จริงเธอจะเพียงแค่รู้มึนนิดๆเท่านั้น แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะดื่มมันรวดเดียวหมดแก้วแบบนั้น”
...อ่า ...เป็นความผิดผมงั้นสิ ก็ใครจะไปคิดล่ะ ว่าจะมีของแบบนั้น อีกอย่างผมก็ดื่มของพวกนี้ไม่เป็นด้วย
“.....ผม.....” ทั้งๆที่ผมรู้สึกร้อน แต่ผมกลับขนลุกไปทั้งตัว
“ฉันต้องขอโทษเธอด้วย ไม่ต้องห่วงฉันจะอ่อนโยนกับเธอ”
...‘คงไม่ทันแล้วครับคุณฟราน’ ผมคิด เพราะตอนนี้ใบหน้าของผมคงแดงแจ๋อย่างเห็นได้ชัดแล้วล่ะ
คุณฟรานพูดแค่นั้น แล้วเขาก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงมา
อาจเพราะบรรยากาศพาไป
อาจเพราะผมดื่มเหล้านั่น
อาจเพราะน้ำเสียงที่นุ่มนวล
อาจเพราะผมพอใจในสายตาที่คุณฟรานส่งมาให้
หรือ.................
อาจเพราะคุณฟรานในเวลานี้ดูจะมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจมากจนเกินไป
ผมจึงค่อยๆปิดเปลือกตาลง ผมไม่อยากเห็นหน้าเขาตอนนี้ เพราะมันยิ่งทำให้ผมรุ่มร้อนมากขึ้น ตอนนี้ผมไม่อยากคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้ คนที่ทำเอาผมใจเต้นแรงคนแรกในชีวิตจะเป็นคนมีเสน่ห์ได้ขนาดนี้ ผมอ่านแต่การ์ตูนวายก็จริง แต่ในการ์ตูนวายหรือในชีวิตจริง ผมยังไม่เคยเจอใครโรแมนติกแบบนี้ อยู่ๆผมก็เกิดรู้สึกภูมิใจลึกๆกับการตัดสินใจครั้งนี้ แม้เพียงเจอกับคนๆนี้เพียงคืนนี้คืนเดียว ผมก็ยังรู้สึกดี
สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากแล้วหายไป มันนุ่มนวลเหมือนกลีบกุหลาบและทำให้ผมสั่นไหวไปทั่วทั้งร่าง
“มองตาฉันสิ อย่าหลับตา นั่นแหละ.......ตาของเธอใส...และสวยมาก”
..........ฉ่า.....เขินสิครับ...........
มีหลายคนเคยชมว่าตาผมสวยมาก แต่ไม่เคยมีครั้งใหนที่ทำให้ผมรู้สึกเขินเท่านี้มาก่อนเลย
ผมว่า ผมชักเคลิ้มไปกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติกและคนทรงเสน่ห์อย่างเหลือร้ายนี้แล้วสิ
คุณฟรานใช้มือข้างหนึ่งจับท้ายทอยของผมและบังคับให้ผมเงยหน้าขึ้น เขาก้มลงมาจุมพิตผมอย่างช้าๆ เขาใช้ริมฝีปากของเขาหยอกล้อกับริมฝีปากของผม เขาทำมันอย่างช้าๆไม่เร่งรัด เหมือนกลัวว่าผมจะตกใจ กลีบปากเขานุ่มมาก ผมรู้สึกแบบนั้น คุณฟรานค่อยๆสอดปลายลิ้นเข้ามาในกลีบปากของผม มันเป็นจูบที่อ่อนโยนก่อนจะค่อยๆเร่าร้อนมากขึ้น
“อืม........”
ผมครางออกมาโดยไม่รู้ตัว ผมรู้สึกตัวลอยๆ สมองขาวโพรงว่างเปล่า รับรู้ถึงแต่ปลายลิ้นเรียวของเขาที่มันกำลังหยอกล้อกับลิ้นของผม
“เธอน่ารักกว่าที่ฉันคิดนะ”
...ฉ่า..........อ่า.......หน้าผมคงแดงมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว....... พอเขาถอนปากออกมา ผมก็รีบสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกลั้นหายใจอยู่ และผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำให้ผมเขินมากไปกว่านี้อีกไหม
และผมก็เพิ่งรู้สึกว่า ตัวผมเองกำลังถูกคุณฟรานประคองโอบกอดท่อนบนไว้อยู่
คงเพราะฤทธิ์เหล้านั่นแน่ๆ จึงทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมเย็นขึ้นในขณะที่เหงื่อออกมากขึ้นด้วย
คุณฟรานมอบจุมพิตที่แสนหวานให้ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูดดื่มและยาวนานมากขึ้น ผมเบียดตัวเข้าหาคุณฟรานมากยิ่งขึ้นอีก พร้อมกับมือผมที่กำลังขยุ้มเสื้อของคุณฟรานเพื่อระบายความรัญจวนที่กำลังก่อ ตัวขึ้นในช่องท้องน้อยของผม
...............ทรมาน......ใช้คำนี้ได้ไหม??.....เหมือนอยากให้เขาสัมผัสมากกว่านี้........
เหงื่อของผมออกมากขึ้น
“ทรมานสินะ..........เพราะฉันเชื่อว่ามันเป็นครั้งแรกของเธอ หวังว่าเธอคงจะประทับใจ”
...................อ่ะ....ชัดไม่อยากให้มันเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวซะแล้วสิ.....................
รอยยิ้มน้อยๆของเขาเริ่มทำให้ความต้องการของผมทะยานสูงขึ้นไปอีก เหมือนคุณฟรานจะรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไร เขาค่อยๆช้อนตัวผมขึ้นมาและเดินตรงไปที่เตียงหลังใหญ่ที่ปูด้วยผ้าคลุมสีแดง
.............จะร้อนแรงเกินไปแล้วนะ....................
.............ไอ้แพทไอ้ภูมิ ถ้ากูเล่าพวกมึงต้องไม่เชื่อแน่ๆ...............
...
TBC
เอ่อ.............นายเอกจะเป็นพวกเกินๆ เพ้อฝัน และก็โลกส่วนตัวสูงน่ะค่ะ
จากที่บรรยายมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเพียงมุมมองของนายเอกเท่านั้น
จริงๆนายเอกเป็นคนที่น่ารักมาก (คนเขียนตั้งใจจะสื่อแบบนั้น

)
ส่วนพระเอก เป็นคนที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบไปซะทุกด้าน ไม่เคยรักใคร และที่สนใจนายเอก เป็นเพราะดวงตาที่ใสแจ๋วไร้เล่ห์เหลี่ยมของนายเอก อีกทั้งนายเอกเป็นคนในสเป็คพระเอกอยู่แล้ว
ตอนแรก ยังไม่รักกันนะคะ เรื่องเซ็กส์ พระเอกของเราไม่ซีเรียสค่ะ
เรื่องนี้ซับซ้อน แต่ไม่ดราม่าค่ะ
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
เม้นต์เยอะๆ แล้วจะมาต่อไวๆ

uri
อ้อ...........ตอนต่อไปเป็น NC นะคับ เอ่อ...........คิดว่ามันคงจะเร่าร้อนพอควร ขณะคนแต่งยังขนลุกไปด้วยแต่งไปด้วย
แหะๆ จินตนาการล้วนๆ เน้อ!!
[/size][/color]