- 18 -
(part2)
“ไอ้เตี้ย”
“ไอ้เตี้ยยยย ตื่นนน”
ไม่ได้มาแค่เสียง แม่งเล่นเขย่าตัวผมซะร้าวไปทั้งตัว จำใจต้องลืมตาขึ้นมามองไอ้คนปลุกที่ไร้มารยาทกับคนป่วยอย่างไอ้บูม
อันที่จริงไม่ต้องลืมตาก็รู้ว่าเป็นมัน ซึ่งไอ้บูมไม่ได้มาคนเดียว คนหัวฟูตัวสูงอย่างกับเสาไฟฟ้าก็มาด้วยแหะ
“สาดด เขย่าทำไม กูเจ็บ”
“เออๆ ลืมว่ะ โทษที” ไอ้บูมขอโทษลวกๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียง “เป็นไงบ้างมึง เจ็บไหมวะ?”
“ก็ปวดๆ” ผมนิ่วหน้าพลางกุมท้องตรงจุดที่โดนต่อยเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมา “พวกมึงมาได้ไงเนี่ย” แน่นอนว่าคำถามนี้ไม่ได้ถามแค่ไอ้บูม แต่รวมไปถึงไอ้จ๊อบด้วย
“พวกกูใช้ประตูของโดราเอมอนมา”
“เหรอ แล้วโดเรมอนไปไหน”
“อยู่มิดเดิ้ลเอิร์ธ” ไอ้จ๊อบตอบหน้าตาย “กำลังไปไล่เสกคาถาอะวาดาเคดาฟราใส่พวกที่มันทำร้ายมึงอยู่”
เอ่อออออ พวกมึงมาสร้างความเครียดให้กูใช่มั้ย อย่าไปบอกใครนะครับว่าผมรู้จักพวกมัน
“ดูทำหน้าอย่างกับหมาตัวเมียเมนส์ไม่มา” เปรียบเทียบแบบนี้เหยียบหน้ากูเลยเหอะไอ้บูม
“เอาดีๆ” ทำเสียงเข้มให้รู้ว่าควรเข้าโหมดจริงจังได้ละ
“ไอ้โทพามา มันเล่าให้พวกกูฟังหมดแล้ว” ไอ้จ๊อบตอบ “ส่วนตอนนี้มันไปซื้อของกินให้มึงอยู่”
ผมหันไปมองนาฬิกา ข้างนอกคงมืดแล้วสินะ
“มึงเลิกไปทำงานร้านกุ้งเต้นเหอะว่ะ อันตรายชิบหาย ทางเปลี่ยวจนกูไม่กล้าเดินเลย” ไอ้บูมเสริม มองหน้าผม ผมรู้ว่ามันหวังดี แต่ถ้าผมไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ แถมเฮียโกวก็เป็นผู้มีพระคุณกับผม ให้สวัสดิการดีขนาดนี้ ค่าจ้างก็งาม หาได้ที่ไหนอีก
“กูว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร้านกุ้งเต้น มันอยู่ที่ไอ้เหี้ยหลามมากว่า” ผมหันไปมองคนพูดแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย นานๆ ทีไอ้จ๊อบจะพูดมีสาระ
นี่แสดงว่ารู้สันดานที่แท้จริงของไอ้เหี้ยหลามแล้วใช่มั้ย มันคงรู้ว่าผมสงสัยเลยชิงพูดออกมาก่อนที่ผมจะได้อ้าปากถาม
“กูว่าในกลุ่มพวกเราแปลกๆ ไปก่อนที่มึงจะถูกแฉว่าขายตัวในเว็บเกย์อีกไอ้โม คือมันเป็นบรรรยากาศอึดอัด ซึ่งกูไม่ชอบมากๆ แต่แม่งเอ๊ยยย ไม่มีใครเล่าอะไรให้กูฟังสักอย่าง” จ๊อบมันว่า “ตอนนั้นในห้องน้ำกูไม่เชื่อเท่าไหร่หรอกนะว่ามึงจะสิ้นคิดไปขายตัวน่ะ”
ฟังถึงตรงนี้ผมนี่น้ำตาซึมเลยครับ อย่างน้อยมันก็คิดได้
“ให้กูทำไงได้วะ ก็ได้แต่เงียบๆ เก็บข้อมูล” ตามนิสัยมันเลยครับ ไม่พูดมาก ไม่โตกตาก แอบแดกเงียบๆเหมือนสาวๆ ของมันไง
“วันนั้นกูบังเอิญไปเห็นไอ้โททะเลาะกับไอ้หลาม เสียงดังสัด ไอ้โทโมโหมากอย่างกับจะฆ่าไอ้หลามให้ตายตรงนั้น กูกำลังจะเข้าไปห้าม ไอ้หลามแม่งจู่ๆก็บอกว่ารักไอ้โทแล้วก็จะจูบไอ้โททันที กูอึ้งไปเลยนาทีนั้น”
ผมกับบูมนั่งฟังเงียบๆ คนเล่าไม่ได้พูดถึงสิ่งที่โททำกับผมก่อนหน้านั้นเลย แสดงว่ามันยังรู้ไม่หมด
ดีแล้ว...
“อึ้งแล้วไงต่อ?”
“อย่าเร่งดิวะ สัด กูยังงงไม่หายเนี่ย แม่งไอ้หลามไปรักไอ้โทตอนไหน กูยังเห็นมันฟันหญิงไปเรื่อย” ท่าทางแววตาของมันคงอึ้งจริงๆ และอึ้งในแบบที่รับไม่ได้ซะด้วย...
“มึงก็ฟันหญิงไปเรื่อย”
“เปล่า กูแค่สอนวิชากายวิภาคให้สาวๆ” ไอ้บูมกำลังจะเถียงต่อ แต่คนพูดขัดขึ้นมาก่อน “มึงจะฟังต่อมั้ย?”
“ครับๆ ฟังต่อครับ”
“พอกูอึ้งเสร็จ ไอ้โทแม่งถีบไอ้หลามกระเด็นเลยเว้ย แล้วมันพูดว่าไงรู้มั้ย?”
ผมกับไอ้บูมนิ่ง รอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
“ไอ้โทพูดว่า ‘กูรักนะโม อย่าเสือกมายุ่งกับคนที่กูรักอีก ไม่งั้นจะหาว่ากูไม่เตือน’ …” ไอ้จ๊อบหันหน้ามาทางผม มองลึกเข้าไปในดวงตา
“...”
ผมเงียบ ไม่พูดอะไรทั้งนั้น นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไอ้หลามโดนไอ้โทกับจ๊อบห่างเหินสินะ
“รู้มั้ยว่าตอนนั้นกูโกรธมาก” ไอ้จ๊อบพูดต่อ
“รับไม่ได้...ที่เพื่อนเป็นเกย์เหรอ” ไอ้บูมถามเสียงเบาจนเกือบจะไม่ได้ยิน
“กูรับไม่ได้...”
สิ้นคำทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
“กูรับไม่ได้ที่พวกมึงไม่ยอมบอกเหี้ยไรกูเลย ต้องให้กูมารู้ด้วยตัวเองเนี่ยไอ้สัด” เท่านั้นล่ะครับ ไอ้บูมเงยหน้า ตาเป็นประกาย
“โอ๋ๆ น้องฟูของพี่ ไม่งอน ไม่น้อยใจนะจ๊ะ เดี๋ยวพวกพี่จะเล่าให้ฟังทุกอย่างเลย” ได้ทีไอ้บูมรีบลูบหัวคนผมฟูเลยครับ
“สัด ถ้าพวกมึงคิดว่ากูรังเกียจเกย์ กูคงไม่คบกับไอ้โทมาจนถึงตอนนี้หรอก” ไอ้จ๊อบขมวดคิ้ว “คนเหี้ยไรเก๊กชิบหาย จะตายมั้ยแค่ทำดีกับไอ้เตี้ยนี่ เอาแต่ปากแข็งอยู่ได้ กลัวเสียเพื่อน เสียห่าเหวไรไม่รู้”
“มึงรู้?” ผมไม่ได้ถาม โน่น ไอ้บูมต่างหาก
“เออ แสดงออกชัดเจนขนาดนั้นใครไม่รู้ก็ควายแล้ว”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ไอ้บูมหัวเราะลั่น แม่งเหลือบหางตามาทางผมนิดๆด้วย “เอาน่ะ ความรักของแต่ละคนมันแสดงออกไม่เหมือนกัน”
ยอมรับว่าการที่พวกมัน 2 ตัวขึ้นมานั่งคุยเล่น ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก แต่พอวกมาเรื่องไอ้โทกลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปลบ พาลเอาไม่อยากจะคุยกับพวกมันซะดื้อๆ
“เรื่องโทรศัพท์เดี๋ยวกูเก็บเงินใช้คืนให้” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“เห้ย ไม่ต้องหรอก เครื่องละไม่กี่พัน แค่มึงรอดปลอดภัยได้กูก็ดีใจแล้ว”
“งั้นกูขอเครื่องนึงดิ” ไอ้จ๊อบแทรก
“อย่างมึงเอาซองจดหมายไปแทนละกัน ติดต่อได้เหมือนกัน”
“ขอบใจแต่ไม่ต้องดีกว่า อันที่จริง...คบกับพวกมึงก็ไม่เลวนะ”
คนหัวฟูยิ้มกว้าง
“แต่เหี้ยเลย! ฮ่าๆๆๆๆๆ”
พวกเรา 3 คนนั่งคุยเล่นกันได้สักพัก เสียงประตูก็เปิดเข้ามา คาดว่าคงเป็นคนที่ไปซื้อข้าวมานั่นแหละ ไอ้โทไม่ได้เข้ามาตามในห้อง มันเรียกไอ้จ๊อบออกไป สักพักมันก็ถือข้าวต้มและก๋วยเตี๋ยวเข้ามา ที่แขนมันหนีบโต๊ะพับแบบเล็กๆไว้ พอวางทั้ง 2 ชามแล้ว จึงกางโต๊ะลงข้างๆเตียงฝั่งที่ผมนอน หยิบเก้าอี้ทำงานหน้าทีวีมานั่งแล้วเริ่มแดก
“อ่าวแล้วของกูอ่ะ?” ไอ้บูมถาม
“ไปหยิบเองดิวะ”
ไอ้บูมเบะปาก แต่ก็ลุกไปหยิบเอง พร้อมกับน้ำมาอีก 2 แก้ว
“แล้วแก้วน้ำกูล่ะ?”
“ไปหยิบเองดิวะ”
มันย้อนครับ ไอ้จ๊อบเหวอเลย 555555
ผมเห็นข้าวผัดต้มยำกุ้งของไอ้บูมแล้วเกิดอาการน้ำลายสอเลยครับ หอมมากๆ แล้วทำไมของผมแม่งมีแต่น้ำข้าวเหลวๆว่ะเนี่ยย
“ไม่ต้องเลย คนไม่สบาย จะแดกแบบคนปกติได้ยังไง กินเสร็จแล้วเดี๋ยวกินยาด้วย” แม่งรีบเถิบจานข้าวหนีผมเลยครับพอผมจะแอบจิ๊กปลาหมึกของมัน
โต๊ะเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วย 3 จาน 3 ชีวิตที่นั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย คุยกันเสียงดังจนลืมไปว่ายังมีอีกบุคคลที่กินข้าวคนเดียวเงียบๆ ตรงโต๊ะรับแขก
ดีแล้ว ให้ผมกินข้าวพร้อมหน้ามันคงกินไม่ลง
อีกอย่าง...โต๊ะคงไม่พอวางจานที่ 4 แล้วด้วย
หลังจากกินเสร็จผมก็ต้องกินยาตามระเบียบ แต่ที่ไม่เป็นระเบียบคือไอ้ 2 ตัวที่สาละวนช่วยกันทายาตรงแผลฟกช้ำหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ
“โอ๊ย!” ร้องรอบที่เก้าร้อยห้าสิบหก “พวกมึงจะให้กูหายไวๆ หรือจะช่วยให้รอยช้ำมันมากกว่าเดิมวะ”
“โทษๆ”
“เอามานี่ กูทาเองดีกว่า”
“โอเค งั้นเดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน” ไอ้บูมว่าก่อนจะเดินออกไป
“เออเดี๋ยวคืนนี้กูกับไอ้บูมนอนด้วย” คนตัวสูงบอกขณะที่เปลี่ยนช่องทีวีหาซีรีย์เกาหลี หน้าอย่างมันมีอยู่สาเหตุเดียวที่ดู เพราะต้องการเลียนแบบพระเอกไปป้อสาว มันบอกเคล็ดลับเมื่อกี้ตอนที่ไอ้บูมถามถึง
ผมไม่ได้ตอบรับอะไร แค่รู้สึกดีที่อย่างน้อยคืนนี้ไม่ต้องอยู่ในห้องกับไอ้โท 2 คน
“เป็นบุญของกูจริงๆ ที่ได้มายลโฉมห้องมัน อยู่ๆตอนเย็นไอ้โทบอกให้กูกับไอ้บูมเก็บเสื้อผ้ามานอนคอนโดมัน ตอนแรกกูก็งง แต่พอเห็นมึงกูกระจ่างเลย”
ปล่อยให้หัวฟูพล่ามไปครับ ผมทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น ยุ่งอยู่กับการทายาที่พุงตัวเอง
สักพักไอ้บูมก็เข้ามา ถือผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้หัวตัวเองไปด้วย จากนั้นไอ้จ๊อบก็ไปอาบน้ำต่อ ซึ่งมันใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที
“นี่มึงอาบหรือวิ่งผ่าน?” ผมถาม
“มึงนอนริมเลยนะสัดฟู” ไอ้บูมยี้อย่างเห็นได้ชัด
คืนนี้เตียงกว่างคงต้องทำหน้าที่หนักหน่อย เพราะแบกรับน้ำหนักผู้ชายถึง 3 คนด้วยกัน โดยเฉพาะไอ้ฟู ที่ขามันเกือบยื่นเลยออกไปนอกเตียง ส่วนผมเหรอ...เหลือให้เตะบอลยังได้เลย (แล้วจะเล่นตัวเองทำไมวะเนี่ย)
“เฮ้ยๆ ลุกขึ้นมาถ่ายรูปกับกูหน่อย” ไอ้บูมสะกิดเรียก ผมยังนอนไม่หลับหรอกครับ ยังไม่ถึงเวลานอน ไอ้จ๊อบก็คงคุยอยู่กับสาวๆ ในไลน์
“1 2 3 แชะ นอนต่อๆ ไม่มีไรละ”
“มึงจะลงเฟซหรอ?”
“เออ”
“ไหน กูหล่อยัง เอารูปมาดูดิ๊” ไอ้จ๊อบกระเด้งตัวขึ้นมาทันที แม่งห่วงภาพพจน์ตัวเอง กลัวไม่หล่อ รูปไหนมันหน้าเหี้ยหรือไม่ถูกใจมัน มันจะรีบลบแท็กออกเลยครับ
“เออ ผ่าน”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เป็นเจ้าของห้องที่เปิดประตูเข้ามา นี่พวกเรา 3 คนอยู่ในสถานะที่เจ้าของห้องต้องเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าห้องตัวเองแล้วหรอวะ
“พรุ่งนี้เมคอัพคลาสอาจารย์ดนัยตอน 9 โมง”
“เหี้ย กูลืมไปเลย”
เมคอัพในทีนี้ไม่ได้หมายถึงการแต่งหน้านะครับ แต่หมายถึงการเรียนชดเชย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆ
ใบหน้าได้รูปหันมาทางผมเพียงชั่วครู่ ก่อนจะปิดประตูออกจากห้องไป
Next Chapter >> - 19 - (part1)เฮง เฮง เฮง ต้อนรับวันตรุษจีนนะค้าบบบ
ครบรอบ3ปีนิยายเรื่อง When we call it 'LOVE' ... ด้วย เย้ๆ จุดพลุๆไม่อยากสัญญา แต่จะพยายามให้จบในปีนี้นะคะ คือเอาจริงๆเรื่องมันก็ดำเนินมาไกลแล้วนะ
ก็ตามหลักนิยายทั่วไป พระเอกง้อนายเอก 55555555555555555555
ถ้าแพรทำผิดพลาด เขียนไม่ถูกใจ ต้องขออภัยด้วยนะคะ
แพรรู้สึกเลยว่าเรื่องนี้แพรเขียนได้แย่มาก แต่ยังมีคนเฝ้าอ่านและรอคอย ทำให้ทิ้งเรื่องนี้ไม่ลงจริงๆ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามและรอคอยเสมอมาค่ะ