[Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)  (อ่าน 222715 ครั้ง)

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

---------------------------------------------------------


[Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ (อนิรุทธ์ & ศราวิน)

:: สารบัญ ::
 อารัมภบท 1 Update : 26/3/13
 อารัมภบท 2 Update : 26/3/13
 อารัมภบท 3 Update : 29/3/13
 อารัมภบท 4 Update : 30/3/13
 ตอนที่ 1 Update : 5/4/13
 ตอนที่ 2 Update : 10/4/13
 ตอนที่ 3 Update : 17/4/13
 ตอนที่ 4 Update : 26/4/13
 ตอนที่ 5 Update : 7/7/13
 ตอนที่ 6 Update : 2/8/13
 ตอนที่ 7 Update : 24/10/13
 ตอนที่ 8 Update : 26/3/14
 ตอนที่ 9 Update : 18/6/14
 ตอนที่ 10 Update : 28/8/14
 ตอนที่ 11  Update : 30/8/14
 ตอนที่ 12  Update : 4/9/14
 ตอนที่ 13  Update : 12/9/14
 ตอนที่ 14  Update : 22/9/14
 ตอนที่ 15  Update : 27/9/14
 ตอนที่ 16  Update : 28/12/14
 ตอนที่ 17  Update : 2/2/15
 ตอนที่ 18  Update : 22/3/15
 ตอนที่ 19  Update : 26/3/15
 ตอนที่ 20 จบ   Update : 25/4/15


:: ผลงานเรื่องอื่นๆ ::
  [Shade of Season] When Its Rain เพียงเพราะรัก (กวินท์ & รัญชน์) จบแล้วค่ะ
 Make Love วุ่นรัก ป่วนใจ (เร็น x ซัทสึกิ)  จบแล้วค่ะ

ติดต่อพูดคุยกันได้ที่
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2015 20:44:09 โดย zynestras »

ออฟไลน์ ฤดูใบไม้หลากสี

  • ผู้เป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • อิสระ ไม่อาจพรากไปจากเรา, จินตนาการก็อยู่คู่เราจนสิ้นลมหายใจ
ตอกเสาเข็ม สร้างบ้าน รอคนเขียน 55555  :mc4: :mc4: :mc4:

นี่เป็นเรื่องที่สองที่เข้ามา แต่ยังไม่ได้อ่าน 555 จะรอ ตามมาจากเรื่องกวินและรันอ่ะ (พิมพ์ชื่อไม่ถูกอย่าวว่ากันน้า)

สู้ๆคนเขียน เอิ๊กๆ  o13 o13 o13

230

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องย่อแล้วหน้าติดตาม มารอแล้วนะคับ

Violet Rose

  • บุคคลทั่วไป
รอด้วยคน มาลงเร็วๆ นะจ๊ะ  :call: :call: :call:

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เอามาลงเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
Title : Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์
Series : Tragedy Series (1st Story)
Couple : อนิรุทธ์ & ศราวิน(ซัน)
Genre : Thai Yaoi Novel ,Tragedy Drama & Romantic
Warning :: มีฉาก Non-Con/Violence โดยตัวละครอื่นค่ะ /Graphic Depictions Of Violence/Major of character death /Angst


Note : สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในซีรีย์Tragedy  ใครที่ไม่ชอบความดราม่าก็ผ่านได้เลยค่ะ ((แต่ก็มีโรแมนติกกุ๊กกิ๊กของอาจารย์หมอกับน้องหมออยู่นะ หุหุ))

ป.ล. โดยส่วนตัวไม่ใช่แพทย์ ข้อมูลที่ได้มาอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เนื่องจากอาศัยการหาข้อมูลและอ่านเอาจากหนังสือ+อินเตอร์เน็ตค่ะ ผิดพลาดประการใด สามารถแนะนำได้เพื่อจะไ้ด้เอาไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ



Tell me the Legend; Prologue 1

ร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์สีขาวสะอาดกำลังเดินไปตามระเบียงวอร์ดศัลย์ที่มีผู้คนบางตา ทั้งที่การราวน์วอร์ด[1]เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วทุกเช้า แต่วันนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นเคยเช่นเดิม เหตุก็เพราะข้างกายของศัลยแพทย์หนุ่มขาดเอ็กซ์เทิร์น[2]ร่างเล็กหน้าหวานที่มักจะคอยเดินตามเพื่อจดบันทึกและเรียนรู้ในสิ่งที่เขาคอยพร่ำสอน
"สวัสดีค่ะอาจารย์ วันนี้เอ็กซ์เทิร์นอย่างน้องซันไม่มาราวน์ด้วยแล้วเหงาหรือเปล่าเอ่ย?"

พยาบาลคนสวยประจำวอร์ดหยอกล้ออย่างคุ้นเคยโดยไม่รู้ว่าภายในของอาจารย์หมอหน้าหล่อที่ถูกหยอกนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร

นายแพทย์อนิรุทธ์ได้แต่คลี่ยิ้มบางๆตอบกลับไปโดยไม่พูดอะไรและรับเอาฟอร์มปรอทของคนไข้มาจากเธอ

ในสายตาของคนอื่น เมื่อเด็กหนุ่มเรียบจบแล้ว เขากับคนที่นางพยาบาลสาวพาดพิงถึงนั้นก็ได้ยุติความสัมพันธ์ของครูกับศิษย์ลง แล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน เขายังคงต้องเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ในโรงเรียนแพทย์แห่งนี้ ขณะที่เด็กหนุ่มที่เคยเป็นนักเรียนแพทย์ก็ต้องเริ่มต้นบทบาทของแพทย์อย่างเต็มตัว

แต่ใครเลยจะรู้...

ว่ามันเป็นจุดจบของความสัมพันธ์ที่แอบซ่อนไว้ของเขากับเด็กหนุ่มด้วยเช่นเดียวกัน...

-----

“อาจารย์ไม่รักผมแล้วอย่างนั้นหรือครับ?”

ใบหน้ากระจ่างใสที่ดูแสนเศร้าและดวงตาคู่งามที่มีหยาดน้ำตาเอ่อล้นอยู่ ยากนักที่จะหักห้ามใจไม่ให้รั้งร่างเล็กตรงหน้ามากอด  แต่นายแพทย์หนุ่มก็ต้องหักห้ามใจ ทำใจแข็งไว้แล้วเบือนหน้าหันหนีไปอีกทาง

“หมอก็รู้ ว่าเราสองคนไม่ควรรักกันมาตั้งแต่แรก..”

ไม่เพียงแค่เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ แต่ซ้ำยังเป็นครูกับศิษย์ ถึงแม้เด็กหนุ่มจะเรียนจบแล้ว อนิรุทธ์ก็ยังรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ไม่เหมาะสมเลยสักนิด

อารมณ์ที่เผลอไผลไปรักคนตรงหน้า คือความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขา

“อาจารย์ใจร้ายที่สุด..”

เสียงหวานที่แหบพร่าตัดพ้อเขา อนิรุทธ์ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ

ศราวินกำลังร้องไห้อยู่ด้วยความเสียใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

นายแพทย์หนุ่มหลับตาลงอย่างเจ็บปวด เขาเองก็กำลังร้องไห้อยู่ข้างในกับการยุติความสัมพันธ์ที่มี...

“สักวัน...คุณจะได้พบกับคนที่คุณรักมากกว่าที่คุณรักผม..”

อนิรุทธ์ไม่รู้เลยว่าการพูดประโยคนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆทำให้ความรู้สึกของศราวินมันยิ่งแย่ลงไปมากแค่ไหน นายแพทย์หนุ่มขยับเข้าไปหาคนที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่และวาดวงแขนขึ้นมากอดร่างเล็กนั้นไว้

กอดครั้งสุดท้ายที่เขาจะมีให้กับคนรักคนนี้

“ผมขอโทษ..”

เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบที่ข้างศีรษะ ศราวินสะอื้นออกมาอย่างเจ็บปวด

และเมื่อร่างสูงจะผละกอดจากเขา เด็กหนุ่มก็คว้ากอดเอวเขาไว้แน่น

“ยะ..อย่าทิ้งผมไป...ได้โปรด...”

คำอ้อนวอนที่เต็มไปด้วยความทุกข์นั้นก้องอยู่ในหู

อนิรุทธ์สูดลมหายใจลึกๆอย่างไม่ต้องการที่จะให้น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่คมของเขา

“หมอ...ผมขอโทษ..”

เขาจำใจที่จะแกะมือเล็กออกจากเอวของตัวเอง พอมองสบตากันก็ได้เห็นดวงตาที่ช้ำแดงมองเขาอย่างทั้งรักและผิดหวัง

ศราวินยอมปล่อยมือจากเอวของเขาทั้งน้ำตา

“ผมขอโทษจริงๆ...”

อนิรุทธ์เอ่ยคำขอโทษอย่างรู้สึกผิดออกมาอีกครั้ง

ริมฝีปากของคนตรงหน้าขยับยิ้มอย่างบิดเบี้ยวเพราะมันสั่นเทา

ศราวินยกมือขึ้นมาคว้าเนคไทของเขาแล้วกระชากไปหาตัวเอง แนบริมฝีปากประกบจูบที่ส่งผ่านความเจ็บปวดมาให้ เจือจางกลิ่นของความหมองเศร้าให้รับรู้ก่อนผละออกและมองด้วยสายตาเจ็บปวดระคนชิงชัง

“แล้วคุณ...จะต้องเสียใจ”

ว่าที่นายแพทย์คนใหม่เอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาที่บวมแดงจ้องมองเขาราวกับจะบันทึกภาพความทรงจำก่อนที่จะหันหลังหนี

ศราวินคว้าเอาแจ็คเก็ตของตัวที่พาดวางกับโซฟาขึ้นและผลุนผลันออกจากห้องไป...

“ซัน...ผมขอโทษ..”

อาจารย์แพทย์หนุ่มได้แต่พร่ำคำพูดนั้นเพียงลำพังในห้องที่คนรักเดินจากไป..

 

เหตุการณ์นั้นมันเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสิบสี่ชั่วโมงดี ความเศร้าที่ต้องเลิกรากันมันยังคงกรุ่นกระจายอยู่ในความรู้สึกของเขา

อนิรุทธ์พยายามสลัดความรู้สึกนั้นไปเพื่อทำหน้าที่ของตนเองต่อ เขาเดินไปหากลุ่มเรสสิเด้นท์[3]ที่ยืนคอยเขาอยู่ ทว่ายังไม่ทันจะเดินไปถึงก็มีนางพยาบาลคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเสียก่อน

“อาจารย์คะ ทางแลปนิติเวชเรียกด่วนค่ะ”

อนิรุทธ์พยักหน้าและส่งฟอร์มปรอทให้กับเรสสิเด้นท์คนหนึ่งที่เดินเข้ามาหา เขาเปลี่ยนจุดมุ่งหมายจากการไปเดินตรวจคนไข้ในชั้นนี้ไปยังห้องแลปนิติเวชที่อยู่ตึกด้านข้างแทน

ไม่แปลกอะไรที่บางครั้งเขาจะถูกเรียกลงไปร่วมการชันสูตรของทางนิติเวช แพทย์นิติเวชของทางโรงพยาบาลมีเพียงสามท่านเท่านั้น และบางทีก็ถูกเรียกตัวไปทางสถาบันนิติเวชของทางมหาวิทยาลัยใกล้เคียง

หากเป็นช่วงไหนที่เว้นว่างจากคิวผ่าติด ศัลยแพทย์ที่มีความรู้ด้านนิติเวชเป็นอย่างดีเช่นเขาก็มักจะถูกเรียกตัวให้ลงไปช่วยเสมอ

อนิรุทธ์ก้าวออกจากลิฟต์และเดินไปยังห้องแลปนิติเวชโดยไม่ติดใจนึกสงสัยอะไร

เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ศัลยแพทย์หนุ่มก็ได้พบกับหมอนิติเวชทั้งสามคนยืนล้อมเตียงอยู่ อนิรุทธ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเล็กน้อย

“หมอ..มาแล้วหรอ?”

เขาค้อมศีรษะให้แพทย์นิติเวชทั้งสามก่อนเดินเข้าไปร่วมวง ศพที่วางอยู่บนเตียงผ่านั้นมีผ้าพลาสติกคลุมเอาไว้

แพทย์นิติเวชผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเอื้อมมือมาจับแขนเขาไว้แล้วบีบเบาๆในตอนที่แพทย์นิติเวชที่ยืนฝั่งตรงข้ามจะดึงผ้าคลุมออกจากร่างของศพ

อนิรุทธ์มองที่ร่างเปลือยของศพก่อนหัวใจจะหล่นวูบ เขาหันไปทางใบหน้าของศพช้าๆและนึกภาวนาในใจขอให้มันไม่เป็นอย่างที่คิด..

“ซะ...ซัน!”

ขาของอนิรุทธ์แทบทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง

ร่างที่ไร้ลมหายใจซึ่งมีร่องรอยการถูกทำร้ายและทารุณบนเตียงนั่นคือคนที่เขาเพิ่งผลักดันให้เดินจากเขาไปทั้งน้ำตา...

ซัน...ซันของเขา

“ตำรวจพบศพของน้องเขาเมื่อชั่วโมงก่อน ร่างของน้องเขาถูกทิ้งไว้ตรงลานว่างใต้สะพานรถไฟตรงหลังโรงพยาบาลของเรา ตำรวจสันนิษฐานว่าต้องมีคนร้ายไม่ต่ำกว่าสามคนแน่ๆ พวกมันข่มขืนน้องเขาเสร็จแล้วก็..คงแทงปอดน้องเขาก่อนหนีกันไป”

คนที่พูดอธิบายชี้นิ้วไปที่รอยยาวประมาณนิ้วหนึ่งที่ปรากฏอยู่ใต้หน้าอกข้างซ้าย อนิรุทธ์มองมันด้วยอาการของคนที่พูดไม่ออก

ศราวินของเขาจะทรมานแค่ไหนกว่าจะสิ้นลมไป ไม่เพียงแต่พวกมันจงใจฆ่าให้เด็กน้อยของเขาตายอย่างทรมานเท่านั้น ทั่วทั้งร่างของศราวินก็ถูกทำร้าย ผิวกายขาวๆยับเยินด้วยรอยฟกช้ำและรอยไหม้ที่เกิดจากการถูกเผาเป็นวงกว้างบริเวณหน้าอก ต่ำลงไปตรงจุดกึ่งกลางของร่างกาย อวัยวะเพศของร่างที่ไร้ลมหายใจนั้นถูกกรีดด้วยมีดหลายต่อหลายรอย

“คนที่ทำมันสัตว์นรกส่งมาเกิดจริงๆ”

วารุณีที่ยืนอยู่ข้างกายอนิรุทธ์อ่อนไหวกว่าใครเพื่อนเพราะเป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในทีมนิติเวช เธอร้องไห้ให้กับศราวินอย่างไม่อายอะไร ก่อนยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วพูดเสียงเครือ

“น้องเขาเป็นเด็กที่น่ารักมากแท้ๆ ไม่น่าจะต้องมาเจออะไรพวกนี้เลยสักนิด ถ้าจับคนทำได้เมื่อไหร่ ต้องให้โดนโทษประหารหรือไม่ก็โดนทำแบบน้องเขาบ้างไปเลยจะได้สำนึก ชั่วจริงๆ”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องช่วยกันเก็บหลักฐานจากร่างของน้องเขาส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ได้มากที่สุด”

“เขาถูกข่มขืนด้วยหรอครับ?..”

อนิรุทธ์ที่ยืนมองร่างของคนรักอย่างหัวใจแหลกสลายอยู่นั้นโพล่งถามขึ้นมาอย่างเจ็บปวดในสิ่งที่คนรักต้องพบเจอ มันเป็นความผิดของเขาแท้ๆที่ทำให้คนรักต้องพบกับจุดจบที่โหดร้ายนี้

“ครับ..ผมส่งอสุจิเข้าแลปไปแล้ว ไม่นานก็คงตามหาคนร้ายได้ว่ามีใครบ้าง ไม่รู้พวกนั้นประมาทหรือโง่กันแน่ที่ทิ้งหลักฐานมัดตัวไว้ในร่างกายของน้องเขา”

“มันคงมีของผมด้วย..”

อนิรุทธ์หลุดปากออกไปคล้ายคนที่ไม่รู้ตัว คำบอกนั้นทำให้แพทย์นิติเวชทั้งสามสะดุ้งไม่น้อย อนิรุทธ์สูดลมหายใจลึกๆก่อนเงยหน้ามองทุกคน

“ผมกับเด็กคนนี้..เราคบกันมาสามปีแล้ว..”

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับนักเรียนแพทย์ชั้นปีที่สี่ตัวเล็กหน้าตาสดใสที่แสดงอาการตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ราวน์วอร์ดเป็นครั้งแรก มันก็เหมือนโชคชะตาที่พาให้สายตาของเขาต้องหยุดอยู่ที่เด็กคนนี้

แม้จะหักห้ามใจเพียงไรก็อดไม่ได้ที่จะหลงรักความน่ารักและสดใสนั้น...

“เอ่อ...เสียใจด้วยนะคะหมอ..”

ทุกคนมีสีหน้าที่ซีดลงไม่น้อย ไม่ใช่เพราะรังเกียจที่รับรู้ความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่เพราะเห็นใจกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น

ทั้งสามคนไม่แปลกใจเลยสักนิดที่จะได้รู้ว่านายแพทย์อนิรุทธ์จะรักลูกศิษย์คนนี้ของตัวเองถึงขั้นคบหากัน เพราะมันกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนพอจะเดาได้อยู่แล้วจากการที่เห็นว่าอนิรุทธ์เอาใจใส่กับนักเรียนแพทย์ที่น่ารักคนนี้มากแค่ไหน

มันเป็นภาพชินตาของทุกคนในโรงเรียนแพทย์ไปเสียแล้วกับการที่ต้องเห็นนายแพทย์อนิรุทธ์ในชุดกาวน์สีขาวเดินเคียงข้างกับเอ็กซ์เทิร์นหน้าหวานอย่างศราวินอยู่เสมอ

“ขอผมร่วมชันสูตรด้วยได้ไหมครับ?”

อนิรุทธ์สูดลมหายใจลึกๆแล้วเอ่ยออกมา ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างลังเล อนิรุทธ์เข้าใจดี ในเมื่ออสุจิที่นำออกไปจากร่างของคนรัก อาจจะมีของเขาปะปนอยู่ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ทำการฆาตกรรมเด็กหนุ่ม ถึงแม้ว่าหลังจากร่วมรักกันเขาจะล้างสิ่งที่ปลดปล่อยเข้าไปในร่างกายของศราวินด้วยความรักออกให้เด็กหนุ่มรู้สึกสบายตัวขึ้นทุกครั้ง แต่เขาก็รู้ดีว่าลึกภายในลำไส้ตรงที่เขาทำความสะอาดไม่ถึงมันต้องมีความรักของเขาตกค้างอยู่

ทว่าอนิรุทธ์ไม่กลัวเลยสักนิด ในตอนนี้เขาเพียงแต่ปรารถนาที่จะเป็นคนหาข้อเท็จจริงจากร่างกายของคนรัก ฟังเสียงจากร่างที่ไร้ลมหายใจนั้นบอกเป็นครั้งสุดท้าย การที่จะให้คนอื่นมาเป็นคนรับหน้าที่นี้ อนิรุทธ์ไม่อาจยอมได้จริงๆ

“นะครับ...อย่างน้อยก็ขอให้ผมเป็นคนผ่า แล้วพวกพี่เป็นคนวิเคราะห์แล้วจดบันทึกก็ได้..”

อนิรุทธ์ร้องขออย่างอ้อนวอน แพทย์นิติเวชทั้งสามมองหน้ากันก่อนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“แบบนั้น น้องเขาอาจจะยอมบอกอะไรเรามากกว่าก็ได้ แล้ว..น้องเขาก็คงวางใจมากกว่าให้พวกเราเป็นคนผ่า”

“ขอบคุณมากครับ..”

อนิรุทธ์ค้อมศีรษะให้ทั้งสามคนก่อนที่ทุกคนจะเริ่มต้นหันไปเตรียมตัวเพื่อเริ่มผ่าชันสูตรร่างของเด็กหนุ่ม..

 

หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้ว ทั้งสี่คนก็ยืนสงบนิ่งให้กับร่างตรงหน้า อนิรุทธ์รับมีดมาแล้วสูดลมหายใจลึกๆ ขอบตาร้อนผ่าวราวกับน้ำตาต้องการที่จะไหลออกมา เขามองใบหน้าของคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเจ็บปวด...

แค่หลับอยู่ใช่ไหมคนดี...ตื่นขึ้นมายิ้มให้ผม แล้วบอกผมทีว่าทั้งหมดนี่มันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นได้ไหม..

อนิรุทธ์ได้แต่นึกเฝ้าภาวนาอยู่อย่างนั้นจนมือมันสั่นเทา วารุณีที่ยืนอยู่ข้างๆเอื้อมมือมาจับมือเขาไว้อย่างเห็นใจ

“ไหวหรือเปล่าคะหมอ?”

อนิรุทธ์หันกลับมามองหน้าเธอก่อนสูดลมหายใจลึกๆ

“ไหวครับ”

เสียงทุ้มที่ดูแหบแห้งตอบกลับผ่านมาส์กที่สวมอยู่

อนิรุทธ์พยายามดึงสมาธิกลับมาและเริ่มต้นจรดมีดลงบนผิวเนื้อขาวที่มีรอยไหม้กับรอยฟกซ้ำแล้วกรีดลงช้าๆ...

กี่พันกี่หมื่นครั้งที่ได้กรีดมีดลงบนร่างของคนไข้ ที่ทั้งเป็นคนเป็นและคนตาย กี่ร้อยศพที่เคยชันสูตร อนิรุทธ์ไม่เคยนึกคิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องมาลงมีดกับเรือนร่างของคนที่รัก มีดที่กรีดลงไปตามผิวเนื้อที่ไร้ไออุ่นมันก็เหมือนกับลงมีดบนหัวใจของเขา

“น้องแกเพิ่งเรียนจบยังไม่ได้เริ่มต้นทำงานเลยแท้ๆ..น่าเสียดายจัง”

“แกน่ารักนะ เวลาสวนกันทีไรก็ยิ้มจนตาหยีให้ ไม่แปลกใจเลยที่หมอจะรักน้องเขา ผมเองยังแอบมองน้องเขาบ่อยๆเลยเวลาเดินสวนกัน”

ริมฝีปากใต้มาส์กของอนิรุทธ์ยกยิ้มเศร้าๆกับคำสารภาพของเพื่อนร่วมงาน

ใช่แล้ว..ศราวินของเขาเป็นเด็กมีเสน่ห์ที่ใครๆเห็นก็ต้องพากันเอ็นดูและหลงรักไปกับรอยยิ้มอันสดใสที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อะไร

อนิรุทธ์ยกมีดขึ้นและหันไปเลาะผิวหนังอีกข้างก่อนเอ่ยเสียงเบา

“ผมทะเลาะกับเขาเมื่อคืน...ถ้าผมไม่งี่เง่าทำเขาโกรธจนหนีออกไปจากห้อง เขาก็คงไม่ต้องเจอกับเรื่องพวกนี้..”

บรรยากาศมันหม่นหมองลงไปอีกเมื่อศัลยแพทย์หนุ่มเพียงคนเดียวที่กำลังลงมีดบนร่างไร้ลมหายใจนั้นเอ่ยอย่างตำหนิตัวเอง

“มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นะหมอ...น้องเขาคงถึงคราวจริงๆ ยังไงเราก็ต้องช่วยกันฟังเสียงจากน้อง หาหลักฐานไปเอาผิดคนร้ายให้ดิ้นไม่หลุดแล้วกันนะ”

ชานนท์พยายามพูดเพื่อให้กำลังใจเขา อนิรุทธ์นิ่งเงียบไม่พูดอะไรขณะกดมีดกรีดไปเรื่อยๆเพื่อเปิดแผ่นอกของคนรัก

 

การชันสูตรร่างกายของศราวินกินเวลากว่าหลายชั่วโมงติดต่อกัน ออกจะล่าช้ากว่าการชันสูตรศพทั่วไป เนื่องจากแพทย์นิติเวชทั้งสามปล่อยให้อนิรุทธ์เป็นผู้จัดการทำทั้งหมดโดยที่พวกเขามีหน้าที่เพียงเฝ้ามองและวิเคราะห์เท่านั้น เพราะรู้ดีว่าทั้งตัวอนิรุทธ์เองและผู้ตายก็คงปรารถนาแบบนี้เช่นกัน ร่างกายของศราวินถูกคนอื่นแตะต้องมามากพอแล้ว พวกเขาจึงเห็นตรงกันว่าควรให้อนิรุทธ์ทำหน้าที่เพียงลำพัง

และเมื่อผ่าชันสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์นิติเวชก็ทั้งสามกำลังสรุปข้อมูลกันอยู่ ในขณะที่อนิรุทธ์เริ่มเย็บรอยแผลที่ผ่าชันสูตรไปเรื่อยๆ

ศัลยแพทย์หนุ่มพยายามทำทุกอย่างให้ประณีตที่สุดเพื่อคนรัก กระนั้นรอยแผลจากการชันสูตรรูปตัววายมันก็ตราประทับอยู่บนร่างกายของศราวินตั้งแต่ช่วงอกจรดท้องน้อย

เย็บเสร็จแล้วอนิรุทธ์ก็ทำหน้าที่ทำความสะอาดศพด้วยตนเองจนเสร็จสิ้น ร่างกายของศราวินไม่มีอะไรต่างจากคนนอนหลับ แต่เป็นคนนอนหลับที่ไร้ซึ่งลมหายใจและมีบาดแผลประดับเอาไว้บนร่างกาย

ร่างของศราวินถูกนำไปไว้ในโลงเย็น อนิรุทธ์ยืนมองร่างของคนรักนอนในนั้นอย่างไม่อาจทำใจปิดฝาโลงได้

“หมอ..”

ชานนท์เดินมาหาอนิรุทธ์ที่มองคนรัก อนิรุทธ์ปลดมาส์กที่คาดอยู่บนใบหน้าออกและเอ่ยเสียงเครือ

“ขอผม...อยู่กับซันตามลำพังได้ไหมครับ?”

“อืม..”

แพทย์คนนั้นตบบ่าอนิรุทธ์เบาๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับคนที่เหลือ ทิ้งให้อนิรุทธ์อยู่กับร่างไร้วิญญาณของคนรักอย่างที่เขาประสงค์

“ซัน..”

อนิรุทธ์เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของคนรักก่อนโน้มตัวไปกอดศพในโลงนั้นไว้

“ผมขอโทษ...ผมไม่น่าใจร้ายกับคุณเลย...”

อนิรุทธ์พรั่งพรูคำพูดออกมาพร้อมกับปล่อยให้น้ำตาที่สะกดกั้นไว้หลายชั่วโมงไหลรินออกมา...

(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2020 10:45:32 โดย zynestras »

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
หากไม่ใช่เพราะเขาทำใจร้ายตัดความสัมพันธ์ที่มีระหว่างกัน

ศราวินก็ไม่ต้องผลุนผลันออกไปเจอกับพวกใจทรามเช่นนี้

ทั้งหมดนี้...มันเป็นความผิดที่เขาไม่อาจให้อภัยตัวเองได้

“ซัน...”

อนิรุทธ์ผละตัวออกมาเล็กน้อย เขาร้องไห้จนสะอื้นไม่ต่างอะไรกับที่ศราวินร้องไห้ต่อหน้าเขาเมื่อวาน ม่านน้ำตาทำให้เขามองใบหน้าของคนรักได้ไม่ชัด อนิรุทธ์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากดวงตาแล้วเพ่งมองคนรักอีกครั้ง ใบหน้าของศราวินมีรอยหยดน้ำตาจากดวงตาของเขา

“ไม่ว่ายังไง..ผมก็ยังรักคุณเสมอ...ผมขอโทษ..”

อนิรุทธ์เอ่ยพูดแล้วโน้มหน้าลงไปแนบริมฝีปากลงกับศพของคนรัก จุมพิตที่แสนเจ็บปวดและทรมานทั้งใจ

นายแพทย์หนุ่มทรุดนั่งลงข้างโลงเย็นของคนรักและซบหน้าลงกับขอบโลง มือจับมือของคนรักที่เย็นเฉียบเอาไว้ ในใจนึกโทษตัวเองอย่างสาหัส

และนึกชังโชคชะตาที่พรากเอาศราวินจากเขาไปนิรันดร์..

หากเพียงแค่ตำรวจพบร่างของศราวินเร็วกว่านี้เพียงชั่วโมงเดียว เขาอาจจะมีโอกาสที่จะยื้อชีวิตของคนรักเอาไว้ได้ แต่นี่ราวกับสวรรค์ชิงชังในความใจร้ายที่เขามีต่อเด็กหนุ่ม จึงพรากเอาลมหายใจของศราวินไปโดยไม่ให้โอกาสเขาเลยสักนิด คงเพราะอยากลงโทษให้อนิรุทธ์อยู่กับความรู้สึกผิดจนวันตาย..

“อาจารย์...”

เสียงแผ่วหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นอยู่ข้างหู..อนิรุทธ์ชะงักและเงยหน้าขึ้นมาอย่างมีความหวัง

เสียงนั่น..เสียงนั่นมันเป็นเสียงของศราวินของเขา

“อาจารย์...”

อนิรุทธ์ผุดลุกขึ้นมาก้มมองดูในโลงศพ ใบหน้าของศราวินยังคงหลับพริ้มอยู่ในความมืดของโลงศพที่มีเพียงแสงสลัว.. อนิรุทธ์เอื้อมมือไปแตะแก้มที่ไร้สีสันนั่นแล้วพร่ำถามด้วยความหวังที่มีอยู่ริบหรี่

“ซัน...นั่นเสียงของคุณใช่ไหม...นั่นเสียงของซันใช่ไหม?”

ไร้ซึ่งคำตอบจากศพที่นอนอยู่ในโลงนั้น อนิรุทธ์เริ่มสะอื้นอีกครั้ง เขาค้อมตัวลงไปซบหน้าผากแนบกับใบหน้าของคนรัก ความหวังที่มีอย่างน่าสมเพชมันถูกพัดมอดดับลงไปอีกครั้ง อนิรุทธ์สะอื้นจนไร้ซึ่งเสียงที่ออกมาจากลำคอ...น้ำตาของเขามันรินไหลจนจะแห้งเหือด ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วที่อนิรุทธ์ไม่ยอมละมือออกจากศพของคนรัก...

“อาจารย์...ผม...หนาว...”

อนิรุทธ์เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคนรักอีกหน เขากำลังจะนึกกร่นด่าจิตที่ฟั่นเฟือนของตนเองเอาเสียแล้วว่าเป็นเพราะทำใจยอมรับไม่ได้จึงหลอกประสาทรับรู้ให้ได้ยินเสียงของคนรัก แต่นาทีที่มองหน้าคนรัก อนิรุทธ์ก็ต้องตัวชาวาบ

ศราวินของเขากำลังส่งยิ้มที่อ่อนระโหยมาให้

“ซัน..ซัน!”

เขาอุทานออกมาด้วยความปิติที่ได้เห็นคนรักลืมตาขึ้นมา โดยลืมสิ้นว่าร่างตรงหน้านั้นไร้ซึ่งชีวิต ศัลยแพทย์หนุ่มเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเอาไว้ ริมฝีปากที่ซีดจางขยับยิ้มให้เขาและเอ่ยเสียงเบา

“อาจารย์...”

“ซัน...”

ไร้ซึ่งคำพูดอื่นใด อนิรุทธ์โน้มตัวลงไปจูบประทับแผ่วเบาที่ริมฝีปากซีดจางของคนรักด้วยความรู้สึกที่ล้นจากหัวใจ ศัลยแพทย์หนุ่มประทับจุมพิตเนิ่นนานก่อนเลื่อนริมฝีปากไปจูบที่หน้าผากนวล

“อาจารย์..ผมหนาว...ผม..ไม่อยากอยู่..คนเดียว...”

อนิรุทธ์มองสบตากับเด็กหนุ่ม สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เขายกมือขึ้นลูบแก้มคนรัก..

“ไม่..ซันไม่ได้อยู่คนเดียว...ผมอยู่กับคุณที่นี่..และจะอยู่กับคุณตลอดไป”

ศราวินยิ้มละมุนกับคำพูดนั้น มือเรียวเล็กยกขึ้นมาลูบแก้มของคนรัก..

“อยู่..กับซัน...ตลอดไปนะฮะ..”

“ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป..”

อนิรุทธ์ตอบและก้มลงจูบที่ริมฝีปากซึ่งร้องขอเขาอีกครั้ง...

จูบที่แสนหวานและคำมั่นคือสิ่งที่เขาเต็มใจให้กับคนรัก..

เช่นเดียวกับชีวิต...

อนิรุทธ์ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดขณะที่เซล้มลงไปในโลงศพของคนรัก ฝาโลงที่หนักอึ้งตีปิดทับลงมา ขังเขาไว้ในความมืดที่ไร้แสงสว่าง

แต่มันก็เป็นความมืดที่เขาได้อยู่กับคนที่รักตลอดไป..ตามคำสัญญา..

“ซัน...ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป..”

เพียงเสียงสุดท้ายที่ดังจากร่างที่ยังมีชีวิตในโลงเย็น...โลงศพที่หนักอึ้งนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าสู่ตู้แช่อย่างช้าๆ

จะอยู่ด้วยกัน...ตลอดไป....

 

 

“อาจารย์...อาจารย์”

เสียงของคนรักดังขึ้นอยู่ข้างหู ร่างสูงโปร่งของอนิรุทธ์ถูกเขย่าเสียจนต้องสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นมา ดวงตาคมเบิกกว้างคล้ายอาการของคนที่ตกใจ เขาหอบหายใจถี่รัว หัวใจมันยังเต้นแรงจนน่ากลัวจะทะลุออกมาจากอก อนิรุทธ์พลิกหน้าหันไปหาคนที่ส่งเสียงเรียกทันที

แสงของดวงจันทร์กลมโตที่ลอดผ่านเข้ามาจากหน้าต่างทางด้านหลังทำให้เขาพอได้เห็บใบหน้าน่ารักกำลังทำหน้าสงสัยมองเขาอยู่ มือเล็กยกขึ้นมาลูบใบหน้าชื้นเหงื่อของเขา

“ฝันร้ายหรอฮะ?”

คนรักของเขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง อนิรุทธ์คว้ามือน้อยและแนบแก้มตัวเองเอาไว้ ก่อนผ่อนลมหายใจช้าๆอย่างโล่งอก

“อืม..ฝันร้ายน่ะ”

อนิรุทธ์ว่าก่อนเลื่อนมือมารั้งร่างเล็กขาวจัดที่เปล่าเปลือยเช่นเดียวกับตัวเขาเข้ามากอดไว้แนบอก

“ฝันอะไรหรอฮะ?”

ศราวินถามอย่างไม่คลายความเป็นห่วง เด็กหนุ่มอิงหน้าลงกับบ่าของคนรัก อนิรุทธ์จับมือเล็กที่ลูบอยู่กับอกของเขาขึ้นมาจูบเบาๆอย่างรักใคร่

“ฝันถึงวันที่ไม่มีคุณน่ะ”

อนิรุทธ์จับมือคนรักเลื่อนลงมาวางที่อกเหมือนเดิม เขาบีบมือเล็กไว้แน่น...ศราวินเงยหน้าขึ้นมามองเขา

“ฝันแบบนี้น่าโกรธจัง”

ศราวินพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอดก่อนจะยิ้มหวานให้คนรัก ร่างบางยันกายลุกขึ้นและหันมาหา มือเล็กผละจากมือใหญ่ที่จับอยู่ ข้อนิ้วไล้ไปตามแก้มของคนรักอย่างรักใคร่

“อย่าฝันแบบนี้อีกนะฮะ..”

ศราวินบอกเสียงอ่อนโยนแล้วกดลงไปจูบปากคนรักที่รับจุมพิตแสนรักจากเขา

“จะไม่มีวันที่อาจารย์จะไม่มีผม...ผมจะอยู่กับอาจารย์ตลอดไป”

อนิรุทธ์ยิ้มให้กับคำพูดของคนรักก่อนดึงคนรักให้ล้มลงมากอดแนบอก

“ผมก็ไม่ยอมที่จะให้คุณไปจากผมเด็ดขาด...คุณต้องอยู่กับผมตลอดไปนะ...”

อนิรุทธ์กอดร่างเล็กที่รักสุดหัวใจเอาไว้

ความคิดที่เคยอยากให้ความสัมพันธ์ที่แอบซ่อนระหว่างเขากับศราวินยุติลงเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ไปพบเจอกับคนที่เหมาะสม ผู้หญิงดีๆสักคนที่จะสร้างครอบครัวอบอุ่นให้กับเด็กน้อยที่แสนดีของเขาได้นั้น มันมลายหายไปหมดเพราะความฝันร้ายที่เกิดขึ้น

อนิรุทธ์ขอบคุณสวรรค์นักที่ทุกสิ่งมันเป็นเพียงความฝันของเขา ไม่ใช่ความจริง

หากต้องเสียศราวินไปจริงๆแล้ว..อนิรุทธ์คงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน

ศัลยแพทย์หนุ่มคลี่ยิ้มที่มุมปากก่อนพลิกกายให้คนรักกลับมานอนเอนลงกับเตียงนุ่ม เขาทาบทับกายเล็กขาวจัดของคนรักเอาไว้

“ผมรักคุณนะซัน...รักคุณมาก”

อนิรุทธ์บอกพลางลูบปัดเอาเรือนผมสีอ่อนให้พ้นจากใบหน้าเยาว์วัยแล้วแนบจูบลงกับริมฝีปากที่มีรอยยิ้มให้กับเขาเสมอ

“ซันก็รักอาจารย์..”

คนรักบอกกลับมาให้เขาชื่นใจก่อน มือเรียวเล็กขยับขึ้นมาลูบอกของเขาและสอดแขนโอบแผ่นหลังกว้าง

อนิรุทธ์รู้สึกได้ถึงแรงขยับที่ขาของคนใต้ร่าง ศราวินแยกขาออกกว้างให้เขาแนบชิดส่วนกลางกายก่อนใช้เรียวขานั้นกอดก่ายสะโพกของเขาเอาไว้ ความต้องการมันรุ่มร้อนขึ้นมาเพราะสิ่งที่คนรักกำลังทำอยู่ อนิรุทธ์เลยอดไม่ได้ที่จะจูบเรียวปากนุ่มอีกครั้งก่อนไล้ริมฝีปากอุ่นทาบประทับกับผิวกายเนียนละเอียดพร้อมกับลูบไล้เรือนร่างบอบบางน่าพิสมัย

ศัลยแพทย์หนุ่มไล้จูบและประทับความรักไว้เป็นร่องรอยสีกุหลาบบนผิวของคนรักตลอดทางที่ริมฝีปากนั้นลากผ่าน จนกระทั่งถึงส่วนอ่อนไหวที่เริ่มแข็งตัวชูชันอยู่ระหว่างขา อนิรุทธ์ประทับจูบเนิ่นนานตรงท้องน้อยของศราวินก่อนลากริมฝีปากลงไปจูบเบาๆที่โคนขาด้านใน

“อาจารย์...”

เสียงของคนรักเรียกแผ่วเบาด้วยความกระสันซ่าน ร่างเล็กบิดตัวไปมาอย่างทรมานเพราะความปรารถนาที่เกิดขึ้น

อนิรุทธ์ยิ้มเบาๆและละจูบจากโคนขามายังส่วนอ่อนไหว ครอบครองมันด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนของตัวเอง...

“อือ...อาจารย์..”

ศราวินร้องครางแผ่วเบา มือลูบศีรษะของเขาไว้พร้อมกับหยัดสะโพกเข้าหาการกลืนกินของเขา

“อาจารย์...อะ..อา...”

เสียงหวานยังคงครางออกมาแผ่วเบาให้ชื่นใจ อนิรุทธ์ละริมฝีปากออกมา เขาใช้มือรูดเร้าความต้องการของคนรักไว้ต่อขณะโน้มกายกลับไปจูบริมฝีปากเล็กอย่างอดใจไว้ไม่ได้

อนิรุทธ์เบียดกายเข้าแนบชิดหว่างขาเรียว มือผละจากแกนเล็กมาจับที่ความเป็นชายของตนเอง เพราะเพิ่งผ่านการร่วมรักกันไปเมื่อหัวค่ำ อนิรุทธ์จึงสำรวจช่องทางเล็กพียงเล็กน้อยก่อนดันกายเข้าไปช้าๆ

สะโพกของศราวินสั่นสะท้านขณะรับเขาเข้าไปในกาย

“อ๊ะ..อา...อาจารย์...”

ศราวินกอดเขาไว้แน่น ขยับสะโพกสอดรับจังหวะการสอดแทรกของเขา อนิรุทธ์แนบหน้าลงกับหน้าผากเล็ก

“ต้องอยู่กับผมตลอดไปนะซัน...”

อนิรุทธ์บอกก่อนจูบทับเปลือกตาของคนรัก สองมือกอดร่างเล็กไว้อย่างหวงแหน ศราวินออกแรงกอดเขาไว้มากกว่าเดิม

ร่างเล็กส่งรอยยิ้มให้กับคนรักที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าบนหน้าอกของเขามีรอยแผลรูปตัววายซึ่งถูกเย็บอย่างประณีตพาดอยู่และร่างกายของเขามันไร้ซึ่งไออุ่นของความมีชีวิต

“ฮะ...ซันจะอยู่กับอาจารย์ตลอดไป...”

แม้ว่าลมหายใจของศราวินจะหมดสิ้นลงแล้วก็ตามที

แต่ศราวินจะอยู่ตรงนี้....อยู่กับอาจารย์ที่รักตลอดไป...

จะอยู่...กับอาจารย์ตลอดไป....


[1] Round ward หมายถึงการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วย (วอร์ด)

[2] เอ็กซ์เทิร์น = นักศึกษาแพทย์ปีที่ 6

[3] เรสสิเด้นท์ = แพทย์ประจำบ้าน (แพทย์ที่กำลังศึกษาในสาขาเฉพาะทางอยู่)

-TBC-

Talk : ขอบคุณหลายๆคนที่มาคอยนะคะ ขอโทษที่มาลงช้าค่ะ จริงๆจะมาลงตั้งแต่วันเปิดกระทู้แล้ว แต่สุขภาพแอบเปื่อยมาก  :hao5:

ยังไงฝากอาจารย์หมอรุทธ์กับน้องหมอซันไว้ในอ้อมใจด้วยน้า

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ฝันซะน่ากลัวเลยนะคะหมอออ

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
หลอนนะเนี่ย

gife1411

  • บุคคลทั่วไป
อ่าวกรรม ซันตายแล้วหรือนี่

เป็นผีซะงั้น แล้วจะรักกันยังไงล่ะทีนี้

แต่ชอบซันอ่า แลดูสวยน่ารักมากเลย

น่าสงสารไม่น่าเจอเรื่องแบบนี้เลย

ขอให้จับให้ได้เถอะสาธุ ไอ้พวกระยำ

บังอาจทำกะซันของเค้าได้ลงคอ :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ติดตามตอนต่อไป... :hao3:

230

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
คือสรุปซันตายแล้วใช่มั้ยค่ะ T_T
โหยไอ่พวกเลวววววววววววววววววววววววววววว
จับได้แล้วต้องเอามาทรมานอะ
แบบบีบหัวใจอีกแล้วฮ่ะๆ
คู่40ปีต่อมาขอให้แฮปปี้เอนดิ้งนะคะ

เศร้าแต่สนุกเหมือนเดิมเลยอะ!
ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
อารัมภบท 2 (Side Story; ศราวิน 1)

 

เพราะเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อกับแม่ชิงลาโลกนี้ไปตั้งแต่ตอนก้าวขึ้นมัธยมปลายเพราะอุบัติเหตุระหว่างการไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด เหลือไว้เพียงมรดกที่พอทำให้ผมใช้ชีวิตอยู่ต่อจนเป็นผู้ใหญ่ได้โดยไม่ลำบากนัก

ผมที่ไม่มีญาติพี่น้องคนอื่นก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ตามลำพัง แม้จะมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่ก็ไม่มีคนไหนที่ผมจะคบได้ด้วยอย่างสนิทใจ

กระนั้น..มันก็ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว้าเหว่เลยแม้แต่น้อย รอยยิ้มไม่เคยจางหายไปจากใบหน้าของผม เพราะผมไม่เห็นเหตุจำเป็นที่จะทำหน้าตัวเองให้บึ้งตึงจนคนที่เห็นนึกรำคาญใจ อีกทั้งรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของผมทำให้ผมได้รับรอยยิ้มจากทุกคนที่เห็นกลับมา

ผมชอบรอยยิ้มทุกรอยยิ้มที่ได้รับ และคิดว่ามันเพียงพอแล้วสำหรับความสัมพันธ์ที่คนรอบข้างมีต่อผม

แต่แล้วผมก็ต้องคิดผิด

ทันทีที่ได้เห็นใบหน้าคมสันของอาจารย์แพทย์ประจำวอร์ดศัลยกรรมคนนั้นที่หันมามองผมทั้งที่ในมือยังคงถือฟอร์มปรอทของคนไข้ไว้ในมือ

ทุกอย่างมันเหมือนหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น สิ่งรอบกาย ผู้คนมากมาย หรือแม้กระทั่งเวลาที่มันไหลไปเรื่อยๆก็เหมือนหยุดลงเมื่อเขาส่งยิ้มมาให้ผม เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนและใจดีที่พาให้รู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งกายราวกับมีอ้อมกอดอันอบอุ่นมาสวมกอดร่างของผมเอาไว้

            และทำให้ผมต้องการทุกอย่างของเขา..

ต้องการทุกสิ่งที่มากกว่ารอยยิ้มใจดีนั่น...

“ศราวินปีสี่..ลงวอร์ดศัลย์เป็นวอร์ดแรกสินะ..มาเช้าดีนะ ไปราวน์กับผมสิ จะค่อยๆสอนให้”

เสียงทุ้มของอาจารย์แพทย์ตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกนึกขอบคุณที่วันนี้ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดและมาที่โรงพยาบาลเลยโดยไม่เถลไถลอย่างพวกเพื่อนคนอื่นที่ยังมาไม่ถึงกันเพราะคิดว่าอาจารย์จะราวน์วอร์ดในช่วงเก้าโมงเช้า ไม่ใช่ตอนเจ็ดโมงครึ่งอย่างที่อาจารย์กำลังทำอยู่ตอนนี้

ผมก้าวเท้าเดินไปหาพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้อาจารย์

“ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับอาจารย์”

ผมบอกไปอย่างสุภาพก่อนที่อาจารย์จะยิ้มตอบกลับมาพร้อมเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มฟังแล้วรื่นหูต่างจากอาจารย์หลายๆคนที่มักจะเสียงดังเป็นนิสัย

“ผมอนิรุทธ์..เราคงต้องเจอกันไปอีกหลายปี ยังไงก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน”

อาจารย์ยื่นมือมาให้ผมจับตามธรรมเนียมต่างประเทศ ผมซึ่งไม่คิดที่จะปฏิเสธคำฝากตัวของอาจารย์ก็ยื่นมือไปจับกับมือใหญ่ของอาจารย์ทันทีแล้วยิ้มให้โดยไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อยว่าวันนั้น จะเป็นวันที่เราสองคนได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กัน

 

จากวันแรกที่ได้พบ วันนี้ก็เข้าสู่ปีที่สามแล้ว จากนักเรียนแพทย์ชั้นปีสี่ที่คอยเดินตามอาจารย์เพื่อเรียนรู้

วันนี้ผมเป็นเอ็กซ์เทิร์นแล้ว..

วันมะรืนก็จะเป็นการราวน์วอร์ดศัลยกรรมเป็นวันสุดท้ายในฐานะของนักเรียนแพทย์ หน้าที่ของเอ็กซ์เทิร์นที่คอยเดินตามอาจารย์และเป็นผู้ช่วยของอาจารย์คนนี้ก็จบลงด้วยเช่นกัน

“ผมยังไม่อยากเรียนจบเลย..”

ผมเอ่ยสารภาพออกไปให้คนที่นอนกอดผมได้ฟังก่อนแหงนหน้าจากอกกว้างเปล่าเปลือยของอาจารย์ขึ้นมามองหน้าเขาอย่างเหงาๆ เมื่อคิดว่าชีวิตประจำวันที่คุ้นเคยมันกำลังจะหมดลง

อาจารย์จะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า จะเหงาเหมือนผมบ้างไหมถ้าผมเรียนจบไปแล้ว..

“อย่าพูดเอาแต่ใจตัวแบบนั้นสิ..”

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นคล้ายจะตำหนิ แต่ผมที่คุ้นเคยกับอาจารย์เป็นอย่างดีรู้ดีว่าเขาไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น

“แล้วอาจารย์จะเหงาบ้างไหมถ้าผมไม่อยู่ด้วย?”

อีกสามปีต่อจากนี้ ผมต้องใช้ชีวิตเป็นแพทย์ที่ออกไปใช้ทุนรัฐในชนบท ไม่แปลกที่จะรู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ เพียงคิดว่าต้องออกไปอยู่ในที่ที่ไม่มีอาจารย์สุดที่รักคนนี้ ผมก็อยากงอแงให้เหมือนเด็กๆที่สามารถลงไปร้องโวยวายดีดดิ้นอย่างงอแงว่าไม่อยากไป แต่เพราะเลยวัยนั้นมามากกว่าสิบปีแล้ว เลยจำได้แต่เอ่ยครวญเบาๆเท่านั้น

มือใหญ่แสนอบอุ่นที่จับมีดผ่าตัดมานับครั้งไม่ถ้วนยกขึ้นมาลูบหัวผมที่อิงอยู่กับอกกว้าง ลมหายใจที่สม่ำเสมอกับเสียงหัวใจที่ดังเป็นจังหวะทุ้มไม่แพ้เสียง ผมหลับตาฟังมันอย่างคาดหวังว่าจะได้ยินเสียงอาจารย์บอกว่าตนเองก็คิดเช่นเดียวกัน แต่อาจารย์ก็ทำเพียงลูบศีรษะผมอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไร

“อาจารย์..”

“นอนเถอะ..เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่ตื่นเอา..”

คำพูดนั้น แม้จะตามมาด้วยริมฝีปากอุ่นที่ประทับแนบกับหน้าผากของผมเหมือนกับทุกครั้งก่อนนอน ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีใจเลยสักนิด

หัวใจมันเต้นอย่างทรมาน...

ทำไมอาจารย์ถึงไม่ตอบคำถามของผม..

อะไรบางอย่างในความรักของอาจารย์กำลังจะเปลี่ยนไปใช่ไหม..

ผมสัมผัสได้เช่นนั้น...

 

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเช้ามืด อารมณ์ที่ขุ่นมัวเมื่อคืนเพราะติดใจสงสัยก็เลือนหายไปหลังจากได้รับจูบอรุณสวัสดิ์หวานๆจากอาจารย์เหมือนปกติที่เคยเป็นมาทุกเช้า

“วันนี้ผมมีประชุม ยังไงตอนเย็นคุณกลับมาก่อนนะ คิดว่าคงจะกลับไม่เกินทุ่มหนึ่ง แล้วเราค่อยไปหาอะไรทานกัน”

อาจารย์บอกด้วยน้ำเสียงทุ้มและรอยยิ้มที่อบอุ่น แค่นี้ก็พาให้ผมรู้สึกมีความสุขจนต้องพยักหน้าให้เขาอย่างเด็กน้อยที่ว่าง่ายก่อนลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำพร้อมกัน

การอาบน้ำด้วยกันทุกเช้ามันก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราทำกันจนคุ้นชิน ผมเท้ามือยันกับฝาผนังเอาไว้ขณะคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังประคองกอดเอวพร้อมกับใช้นิ้วสอดเข้ามาลึกในร่างกายของผม กวาดเอาสิ่งที่ตกค้างจากกิจกรรมรักยามค่ำคืนของเราออกไปอย่างนุ่มนวล

"อ๊ะ อาจารย์?"

ผมอุทานขึ้น ขวดสบู่ที่เพิ่งหยิบมามันร่วงตกไปนอนที่พื้น เหตุก็เพราะคนรักที่เพิ่งถอนนิ้วออกมาจากซอกสะโพกของผมเบียดตัวเข้ามาพร้อมกับอ้อมแขนที่สวมกอดผมไว้ทั้งตัวอย่างแนบแน่น

"หมอ..." เสียงทุ้มเอ่ยข้างหูดูสั่นเทา ผมอดที่จะกระตุกยิ้มไม่ได้

"ทำไมครับ? จะชวนผมรักกันตอนเช้าอย่างนั้นหรอ?"

ผมเย้าคนรักทั้งที่รู้ว่าคนรักไม่มีวันทำเช่นนั้น สำหรับอาจารย์แล้ว เซ็กส์คือกิจกรรมที่สมควรทำยามค่ำคืนหรือไม่ก็ช่วงเวลาว่างเท่านั้น การจะมาทำรักกันก่อนไปทำงานนี้ไม่ใช่วิสัยของเขาสักนิด

ผมเย้าเสร็จแล้วก็แหงนหน้ามามองคนรัก แววตาคู่คมที่เห็นผ่านม่านน้ำจากฝักบัวดูหม่นหมองจนไม่เหมือนอาจารย์หมออนิรุทธ์ที่ผมคุ้นเคย

"อาจารย์..."

ผมครางเรียกเขาเสียงแผ่ว อาจารย์จูบทับลงที่เปลือกตาของผมและกอดผมไว้แน่นขึ้น อย่างกับจะเป็นสัญญาณของอะไรบางอย่างที่ยากแก่การยอมรับ

"วันนี้ ผมมีเรื่องจะคุยกับหมอนะ..."

อาจารย์เอ่ยช้าๆก่อนผละกอดไปก้มหยิบเอาขวดสบู่ขึ้นมาเทใส่มือและถูมันจนเกิดฟอง ผมยืนนิ่งให้ฝ่ามือใหญ่ลูบเอาฟองทำความสะอาดไปทั่วร่าง

ในหูยังคงก้องเสียงที่อาจารย์พูด..

'วันนี้ ผมมีเรื่องจะคุยกับหมอนะ...'

เรื่องอะไรอย่างนั้นหรอที่อาจารย์อยากคุย

อาจารย์จะโกรธหรือเปล่าถ้าผมจะกลายเป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมคุยกับอาจารย์

เพราะลางสังหรณ์มันบอกผมว่า สิ่งที่อาจารย์อยากพูดกับผม มันเป็นสิ่งผมไม่อยากฟังเลยแม้แต่น้อย

ไม่อยากฟังเลยจริงๆ

 

ในตอนเย็นที่ผมกลับมาที่ห้องพักของพวกเราตามลำพัง ความรู้สึกกดดันมันก็ยิ่งมีเพิ่มขึ้นตามเข็มนาฬิกาที่หมุนไปเรื่อยๆ

หนึ่งทุ่มอาจารย์จะกลับมา...

ผมมองดูเข็มยาวที่อีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าก็จะบอกเวลานั้นก่อนหันไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกและหยิบเอาแจ็คเก็ตยีนส์ตัวโปรดออกมา

ผมจะไม่อยู่รอให้อาจารย์กลับมาในคืนนี้เพื่อพูดในสิ่งที่เขาต้องการพูด

เพราะรู้ดีว่าอาจารย์ต้องการจะพูดอะไร

แต่ผมยังทำใจยอมรับมันในตอนนี้ไม่ได้เลยสักนิด คืนนี้คงต้องหลบไปอยู่ที่ไหนก่อน...อย่างน้อยก็ให้เวลากับอาจารย์ได้คิดทบทวนมันใหม่อีกสักครั้ง

ทว่าการตัดสินใจของผมมันก็ช้าเกินไป นาทีที่ผมกำลังจะสอดมือเข้าไปเสื้อแจ็คเก็ตอีกด้าน เสียงลูกบิดประตูถูกไขก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ผมชะงักก่อนจะถอดแจ็คเก็ตที่สวมไปเพียงข้างเดียวออกวางกับพนักโซฟา...

ไม่ยอมแม้กระทั่งจะให้ผมหนีไปเพื่อถ่วงเวลาเลยอย่างนั้นสินะ...

ใจร้ายที่สุด...

“จะไปไหนหรอหมอ?”

อาจารย์ถามเสียงเนือยๆก่อนวางพาดสูทลงกับโซฟาข้างๆที่ผมถอดแจ็คเก็ตพาดเอาไว้ เขาขยับเนคไทที่ผูกอยู่ที่คอออกพลางปลดกระดุมคอเสื้อและกระดุมข้อมือออก กลิ่นหอมของอาหารมื้อเย็นที่เขาซื้อติดมือมาโชยจากถุงที่วางไว้บนโต๊ะด้านหลัง

เตรียมพร้อมถึงขั้นซื้ออาหารเข้ามาทาน ก็เพราะรู้ดีว่าหลังจากคุยกันแล้ว ผมคงไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะออกไปข้างนอกสินะ

ผมนึกอย่างรู้ในนิสัยที่มองการณ์ไกลของคนรักจนอดไม่ได้ที่จะน้อยใจขึ้นมา..

อ้อมกอดที่อบอุ่นเสมอสวมกอดผมเอาไว้ แต่ความรู้สึกที่บอกว่ามันจะเป็นกอดสุดท้ายระหว่างเรา กอดสุดท้ายที่เขาจะมีให้ผม มันทำให้ข้างในวูบโหวง เป็นครั้งแรกที่ผมชิงชังตัวเองจับใจที่หลงรักความใจดีของผู้ชายคนนี้

“หมอ...”

“เรื่องอะไรหรอครับ..ที่อาจารย์อยากจะพูด..”

ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย ปวดร้าวในใจเกินทน..

นึกอยากเป็นเพียงคนโง่ที่อ่านสัญญาณต่างๆที่คนรักสื่อออกมาว่าเรากำลังจะจบกันไม่ได้

“ซัน..”

อาจเป็นเพราะน้ำเสียงของผมดูก้าวร้าวเกินไป เสียงทุ้มของอาจารย์ถึงได้อ่อนลงไปอีก เขาเปลี่ยนมาเรียกชื่อเล่นของผมผมแทนสรรพนามที่เรียกกันในยามปกติ...การที่อาจารย์เรียกชื่อผม มันก็เหมือนกับทุกครั้งที่เขาใช้เรียกยามที่ต้องการให้ผมอ่อนลงจากการดื้อรั้น...

มือของอาจารย์จับให้ผมหมุนตัวกลับมาหาเขา...ผมขังสายตาของตัวเองไว้ที่กระดุมเสื้อเม็ดบนกับเนคไทที่ถอดคาเอาไว้ ไม่กล้ามองสบตาเขา..

กลัวว่าแววตาคู่คมแสนใจดีที่รักหนักหนา...จะไม่เหลือเยื่อใยของความรักที่เคยมี

“อาจารย์...มีคนอื่นอย่างนั้นหรอครับ?”

ผมตัดสินใจถามในสิ่งที่นึกสงสัยออกไปตรงๆ...

“เพราะมีคนอื่น...เลยอยากจบกับผมให้สิ้นเรื่องสิ้นราวใช่ไหม?”

“บอกผมมาเถอะครับ...”

ผมบอกออกไปด้วยอาการสงบ แต่ในใจมันดิ้นพล่านเหมือนคนที่กำลังถูกเผาทิ้งเป็น...แต่เพราะรู้ว่าอาจารย์รักผมในตัวตนของเด็กดี ทุกสิ่งจึงจำต้องเก็บเอาไว้

ผมไม่อยากถูกเขาเกลียด...

จะกี่หมื่นกี่พันกี่ล้านคนบนโลกนี้ จะเกลียดผมยังไง จะทอดทิ้งผมยังไง ผมยอมได้ทั้งนั้น...

ยกเว้นเพียงเขาคนนี้คนเดียวเท่านั้น...

คนเดียวเท่านั้นบนโลกใบนี้ที่ผมอยากให้มีแต่ความรักให้ผมตลอดไป

“ซัน...ผมไม่อยากให้คุณคิดแบบนั้น...”

น้ำเสียงทุ้มอ่อนลงอย่างคนที่แสดงอาการรู้สึกผิดออกมา ผมรู้สึกว่าขอบตามาร้อนผ่าวขณะที่เงยหน้าขึ้นมามองเขา

“อาจารย์ไม่รักผมแล้วอย่างนั้นหรอครับ?”

ผมถามอย่างเว้าวอนและอ้อนวอนขอให้เขาปฏิเสธคำถามของผมออกมาทางสายตาที่มอง แต่อาจารย์กลับเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“หมอก็รู้...ว่าเราสองคนไม่ควรรักกันมาตั้งแต่แรก”

แต่เราก็รักกัน...

หรือเป็นผม...ที่รักอาจารย์ฝ่ายเดียว..

“อาจารย์ใจร้ายที่สุด...” ผมตัดพ้อเขาผ่านทั้งน้ำเสียงและน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่อาจกลั้น ผมไม่เคยรู้สึกอ่อนแอขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ตอนที่พ่อกับแม่เสีย ความรู้สึกเสียใจยังไม่อาจเทียมเท่า เพราะรู้ดีว่าอุบัติเหตุนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้ แต่ตอนนี้...ผมหาสาเหตุของการจากลาในความสัมพันธ์ของเราไม่ได้เลยสักนิด...

ผมผิดอะไร..ผมทำอะไรผิด...

ทำไมผมต้องเจ็บปวดแบบนี้..

“สักวัน..คุณจะได้พบกับคนที่คุณรักมากกว่าที่คุณรักผม...”

มันหลุดจากริมฝีปากของอาจารย์ออกมาแล้ว คำพูดที่แน่ชัดถึงความแน่วแน่ที่จะตัดความสัมพันธ์ระหว่างกันให้จบลง อ้อมแขนของอาจารย์ยกขึ้นกอดผมอีกครั้งคล้ายจะแทนคำขอโทษเพื่อจากลา...

“ผมขอโทษ...”

เพียงคำพูดแผ่วเบาที่ดังขึ้นอยู่ข้างขมับ ผมก็หยุดให้ร่างกายสั่นเทาไม่ได้ อยากจะไขว่คว้าเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ให้อาจารย์จากไปไหน ยิ่งอาจารย์ทำท่าจะผละจากกอด ผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนจะขาดใจจนต้องกอดเขาไว้แน่น

“ยะ..อย่าทิ้งผมไป..ได้โปรด..”

ตลอดชีวิตที่เกิดมา ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ผมจะวิงวอนร้องขออย่างน่าสมเพชอย่างนี้ แต่เป็นเพราะผมไม่ปรารถนาที่จะสูญเสียผู้ชายตรงหน้าไป จะน่าสมเพชมากแค่ไหนผมก็ยอม...

“หมอ..ผมขอโทษ...”

อาจารย์ย้ำคำขอโทษอีกครั้งก่อนแกะมือของผมออกจากเอวของเขา เมื่อมองเห็นดวงตาคมที่แสนเศร้าแต่ดูแน่วแน่กับสิ่งที่ตัดสินใจลงไป ผมก็ได้แต่มองเขาอย่างทั้งรักและผิดหวังจนต้องยอมปล่อยมือ

“ผมขอโทษจริงๆ...”

มีแต่คำว่าขอโทษเท่านั้น จากปากของคนที่รัก...

คำขอโทษที่ผมไม่เคยนึกปรารถนา..

ผมดึงเนคไทของอาจารย์เข้ามาและบดจูบไปอย่างทั้งรักและชังการตัดสินใจของเขา ก่อนผละออกมามองเขาทั้งน้ำตา

“แล้วคุณ...จะต้องเสียใจ”

ผมบอกเขาเช่นนั้นก่อนคว้าแจ็คเก็ตและเดินหนีจากมาโดยไม่หันกลับมามองอีก

ในนาทีนี้ มีแต่ความรู้สึกที่อยากทำให้ผู้ชายคนนี้เสียใจไปตลอดชีวิต กับการที่ทำร้ายจิตใจของผม..

แต่ไม่ได้รู้เลยสักนิด ว่าช่วงเวลาหลังจากนั้น ความเลวร้ายจะพรากเราจากกัน

หากผมรู้...ผมจะไม่มีวันเดินจากเขามา...

จะอ้อนวอนขอให้เขากลับมารักผมอยู่แบบนั้น แม้มันจะน่าสมเพชมากเพียงใด...

 

ผมเดินจากอาจารย์มาด้วยหัวใจที่แหลกสลาย สองขามันก้าวเดินผ่านไปตามความมืดที่มีเพียงแสงไฟสลัวติดอยู่ริมทาง ก้าวเดินไปเรื่อยๆโดยไม่รู้สักนิดว่าจะไปที่ใดและตนเองกำลังเดินไปที่ไหน และจังหวะการก้าวเดินของผมก็หยุดลงเมื่อมีมือเอื้อมมาจับที่บ่า

แวบหนึ่งที่ผมแอบดีใจว่าคงเป็นอาจารย์ที่เดินตามมา แต่น้ำหนักที่บีบไหล่จนเจ็บนี่กับกลิ่นลมหายใจเหม็นเปรี้ยวของแอลกอฮอล์มันไม่ใช่อาจารย์อย่างแน่นอน

"เฮ้ คนสวย ทำไมมาเดินคนเดียวล่ะจ้ะ ทุกทีเห็นเดินอยู่กับไอ้หมอหน้าหล่อตัวสูงนั่นไม่ใช่หรือยังไงกัน?"

คนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาจับไหล่ของผมไว้เป็นอันธพาลที่อยู่ในละแวกชุมชนหลังโรงพยาบาลที่ผมจำได้ว่ามันชอบจ้องมองผมเวลาเดินผ่านจากหอพักไปยังโรงพยาบาล

เคยมีแม่ค้าแถวนี้เตือนผมหลายคนว่าไอ้อันธพาลนี่มันร้ายกาจและชอบหลอกเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างผมไปฟัน ผมรับฟังไว้และคอยระวังตัวเองเสมอมาที่จะไม่ผ่านมาทางนี้ตามลำพัง

แต่เพราะวันนี้ไม่อยู่ในอารมณ์ปกติจึงเผอเรอเดินมาในทางอันตรายโดยไม่รู้ตัว

พอคิดได้และจะเดินหนีก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว ท่ามกลางตรอกแคบๆที่ไร้ผู้คน ผมถูกพวกอันธพาลห้าคนตีวงล้อมเอาไว้ทุกด้าน

"ปล่อย.."

ผมกลั้นใจเอ่ยออกไปสั้นๆอย่างรู้สึกขยะแขยงมือสกปรกหยาบกร้านของมันที่ลูบไปตามต้นแขนของผม แต่พอพูดออกไป มันกลับไม่ชักมือออกจากแขนของผม

ไอ้เศษสวะที่วันๆดีแต่ชกต่อยและทำตัวกักขฬะเป็นเดนมนุษย์กลับเบียดตัวเข้ามาชิดแล้วพ่นลมใส่หูของผมที่ผงะหนีแล้วยกแขนฟาดอกมันอย่างรังเกียจ

"หึ ท่าทางจะดื้อไม่เบานะเนี้ย แต่พี่ชอบ ตูดงอนๆเงี้ยคงเคยใช้งานกับไอ้หมอหน้าหล่อนั่นมาแล้วสิ มาให้พี่กระแทกบ้างสิจ้ะ รับรองถึงใจกว่าไอ้หมอหล่อนั่นแน่นอน"

ผมขึงตามองมันอย่างรังเกียจในคำพูดหยาบโลนของมัน และตัดสินใจว่าจะเดินหนีจากพวกมัน แค่ถอยหลังแล้วเดินออกจากวงล้อมของพวกมันให้ได้เพียงแค่สิบกว่าเมตรก็จะถึงริมถนนใหญ่ที่มีมินิมาร์ทอยู่ พนักงานในร้านนั้นคงพอช่วยผมได้บ้าง

แต่ดูเหมือนผมจะคิดผิด เพราะทันทีที่ผมหันหลังก็เจอกับไอ้ตัวสูงผิดคล้ำสองคนตีวงเบียดเข้ามา พอผมผงะถอยหลังก็เจอพวกมันกั้นเอาไว้อีก ไอ้ตัวหัวหน้าที่พูดกับผมในตอนแรกยิ้มระรื่นอย่างน่าชก

"จะรีบไปไหนจ้ะ อยู่เป็นเด็กดีอ้าขากว้างๆเป็นเมียพี่ดีกว่าน่ะคืนนี้ พี่ทนอดอยากมองตูดน้องมาหลายปีแล้ว คืนนี้ขอกระแทกให้สมใจอยากหน่อยก็แล้วกัน"

"มะ ไม่!" ผมร้องได้แค่นั้นก่อนถูกผู้ชายสองคนล็อกแขนเอาไว้
พวกมันจ่อมีดเข้าที่คอของผมแล้วกระซิบขู่

"ลองร้องสิมึง กูปาดคอหอยของมึงแน่"

ลมหายใจของพวกมันส่งกลิ่นเหม็นอยู่ข้างใบหน้าของผมตอนมันขู่ แต่ยังไม่เท่ากลิ่นเหม็นจากใจทรามๆของพวกมัน ผมไม่กล้าแม้แต่จะร้องเพราะรู้จากแรงกดมีดที่คอว่ามันไม่ได้ขู่ มีดคมๆในมือของมันพร้อมจะปาดคอผมจริงๆ

"ปล่อยฉันไปเถอะนะ"

ผมขอร้องมันและออกแรงดิ้น พอผมดิ้นอีกสองคนมันก็เดินเข้ามาแล้วจับขาผมแยกออกกว้าง ตัวของผมลอยจากพื้น มือของพวกมันลูบไล้ไปทั่วร่างให้นึกขยะแขยง

"วะ อยู่นิ่งๆสิมึง!"

ไอ้ตัวหัวหน้ามันเตะขาขึ้นมาที่สะโพกของผม เท้ามันฟาดขึ้นที่ก้นกบของผมเต็มแรงจนเจ็บร้าว มันเดินเข้ามาแล้วแสยะยิ้มท่ามกลางแสงสลัว ผมกลัวจับใจจนร้องและดิ้นไม่ออกเมื่อมันยกมีดขึ้นมา

"ถ้ามึงดิ้นอีก กูจะฆ่ามึง แล้วค่อยเอาศพมึงทำเมีย"

เป็นครั้งแรกที่ผมกลัวความตายจับใจ ผมไม่อยากตาย ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ อยากกลับไปหาอาจารย์ อยากขอโทษที่ทำตัวไม่ดีใส่อาจารย์ตอนเดินหนีออกมา

แค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อกับอาจารย์

แค่ความรู้สึกนั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมเลิกดิ้นรนและเฝ้ามองมันเอามีดกรีดเสื้อผ้ากับกางเกงของผมออกจนเป็นเศษผ้า

ลูกน้องของมันที่ยึดแขนกับขาของผมเป่าปากเสียงดังเมื่อได้เห็นร่างขาวเปลือยในความมืดที่มีเพียงแสงสลัวของผม ผมได้แต่ภาวนาให้ใครสักคนได้ยินเสียงของพวกมันหรือเดินผ่านมาเห็นและช่วยผมออกไปจากขุมนรกขุมนี้

"แม่งเอ้ย นางฟ้าลงมาให้กูเอาชัดๆ รู้อย่างนี้กูดักฉุดแม่งมาทำเมียตั้งนานแล้ว"

มันว่าแล้วเอามีดไปคาบไว้ที่ปาก ผมร้องไห้สะอื้นด้วยความกลัวเมื่อเห็นมันปลดกางเกงอย่างรีบร้อนลงแล้วควักท่อนเนื้อสีดำอ้วนสั้นสกปรกของมันออกกางเกงแล้วชักรูดไปมาต่อหน้า

"ปะ ปล่อยผมไปเถอะ"

"พูดมากจริงนะมึงนี่ จัดการปิดปากมันหน่อยสิ กูเสี้ยนจะอัดตูดมันเต็มทนแล้ว"

สิ้นคำพูดของมัน สะโพกของผมก็ถูกยัดเยียดเข้ามาเต็มแรง มันใช้นิ้วง้างเบิกทางรูแคบที่ด้านหลังของผมออกกว้างเพื่อมันจะทำการข่มขืนผมได้ง่ายขึ้น พร้อมกับที่ปากของผมถูกปิดด้วยท่อนเนื้อที่มีกลิ่นเหม็นคาวราวกับไม่เคยได้รับการทำความสะอาดมาเป็นชาติตามคำสั่งที่มันบอกให้ปิดปากผม

ผมพยายามดิ้นรนเท่าไหร่ ร่างกายก็ถูกพวกมันจับขึงพืดไว้จนไม่ออกสู้ได้ จำต้องอดสูในใจกับการโดนข่มขืนที่ทารุณจากอันธพาลทั้งห้าภายในตรอกแคบๆนั้น

 

หลังจากความโหดร้ายที่แสนยาวนานจบลง คนสุดท้ายผละออกจากร่างของผม ทิ้งให้ผมนอนคู้อยู่กับพื้นถนนที่ชื้นแฉะและเต็มไปด้วยคราบคาวของพวกมัน ผมพยายามดันกายลุกขึ้นมายืนแม้สองขามันจะสั่นเทามากเพียงไหน..สติที่มีมันเลือนไปจนแทบไม่เหลือ สิ่งเดียวที่รู้คือผมต้องพาตัวเองออกไปจากที่นี่...

ต้องกลับไปหาอาจารย์..

ต้องกลับไป...

สิ่งที่เวียนวนอยู่ในหัวเพียงแค่ความรู้สึกที่อยากได้เห็นหน้าอาจารย์อีกครั้ง พาให้ผมก้าวออกไปช้าๆอย่างไม่มั่นคงและไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าร่างกายของตัวเองมันจะเปลือยเปล่าอยู่

ทว่าความเลวร้ายที่ผมคิดว่ามันจบลงแล้วกลับกลายเป็นอารัมภบทของความโหดร้ายที่มากกว่านั้น สองในห้าคนที่แยกตัวออกไปตอนแรกเดินเข้ามาจากทางด้านหน้า ขณะที่ไอ้สามคนซึ่งตอนแรกหันไปล้อมวงเล่นยากันหลังจากข่มขืนผมเสร็จก็เดินเข้ามาสมทบ ล้อมผมไว้ในวงของพวกมันอีกครั้ง

-TBC-
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ แวะมาพูดคุยกันได้น้า เค้าจะได้ไม่เหงา >_<

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
สงสารซันมาก คือสงสารมากๆ
เราไม่รู้จะเม้นไรเลยอะคือเราอิน55555555555555555555
สงสารทั้งอาจารย์หมอด้วย
แบบอยู่ดีๆก็เสียคนรักไปแล้วมันแค้นด้วยนะ
ไอ่พวกเลวแบบโคตรเชี่ยโอ้ยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
 :hao5: พูดไม่ออก สงสารทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เฮ้ออออออออออออออออออ

ปาดน้ำตาแล้วจากไปอย่างหดหู่

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สงสารซันมากๆ ใครก็ได้มาช่วยเถอะ

230

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
เศร้าอ่ะ

ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย

ตอนแรกออกจะหลอนนิดหนึ่ง

ไม่รู้ว่าเรื่องที่หมออนิรุจน์เห็นนั้นจริงหรือฝัน

แต่ตอนนี้คงจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว

รอตอนต่อไปขอรับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เศร้าอ่ะ สงสารทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ไม่หลอนนะ แต่เศร้ามากกว่า :hao5:

สงสารซันมากๆ แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยสงสารอนิรุทธ์เท่าไหร่ เกลียดจังคนที่ชอบคิดและตัดสินใจแทนคนอื่น คนเราคบกันก็ต้องคุยกันปรึกษากันสิ ไม่ใช่อยู่ๆ มาทำแบบนี้ คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วจะคิดจะทำอะไรก็ต้องถูกเสมอรึไง :m16:

สรุปคือตายทั้งคู้แล้วใช่มั้ย

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ – อารัมภบท 3

“จะไปไหนจ้ะคนสวย...”

“เดินยังจะไม่ไหวแล้วยังลุกขึ้นมาอีก”

“หรือจะลุกมาโชว์ก้นสั่นๆให้พวกพี่อัดก้นน้องกันอีกล่ะ”
เสียงของพวกมันดังขึ้นพร้อมหัวเราะกันอย่างครื้นเครงอย่างไม่มีความรู้สึกผิดในใจกับการทำอาชญากรรมทางเพศในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย

“ปะ..ปล่อยผมไปเถอะ...พอกันแล้วไม่ใช่หรอ...”

ผมเอ่ยวิงวอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง...ร่างกายเจ็บร้าวไปทุกส่วนโดยเฉพาะช่องทางที่พวกมันฝากฝังความโสมมและมลทินเอาไว้

“ใครบอกว่าพอ? เมื่อกี้น่ะมันออร์เดิร์ฟ เมนคอร์สของน้องมันต่อจากนี้ต่างหาก”

ไอ้ตัวหัวหน้ามันพูดก่อนโยนผ้าเทปมาให้ลูกน้องของมันกรูเข้ามาจับผมมัดมือและเอาไว้ แล้วลากร่างของผมลึกเข้าไปในตรอกทะลุออกอีกด้านที่เป็นลานว่างซึ่งไม่มีคนเดินผ่านและโยนผมให้กลิ้งลงไปตามแนวเนินริมถนน

ร่างของผมกระเด็นกลิ้งไปตามความชันผ่านพงหญ้าชื้นแฉะไปหยุดอยู่บนพื้นดินที่ชื้นแฉะไม่แพ้กัน ผมคงจะร่วงตกลำคลองไปเสียแล้วหากไม่มีคนที่ยืนอยู่ใช้เท้ายันร่างของผมเอาไว้ แต่ผมไม่นึกยินดีเลยด้วยซ้ำและถ้าหากเลือกได้ก็ขอกลิ้งตกคลองตายไปก่อนเลยเสียยังจะดีกว่า

            “สวยดีนิหว่า”

ผมกระเสือกระสนจะลุกขึ้นและมองพรรคพวกที่ยืนคอยไอ้ห้าคนแรกอยู่อีกประมาณสามคนอย่างหวาดกลัวแต่ก็ถูกถีบเข้าที่อกให้ลงไปนอนหงายอีกครั้ง ผู้ชายที่มีกล้ามโตและสวมเสื้อยืดสีมอแสยะยิ้มก่อนจะก้มลงมาจิกหัวผมก่อนลากถูลู่ถูกังไปตามพื้น ขณะที่พลพรรคของมันเดินตามกันมาด้วยอาการคึกคะนอง มันลากผมเข้ามาที่ลานว่างใต้สะพานรถไฟที่ผมก็รู้ดีแก่ใจว่าพอมาอยู่ตรงนี้แล้ว ผมก็ไร้ซึ่งทางรอดที่จะหวังให้มีใครสักคนมาช่วย

ยามกลางคืนไม่มีใครที่จะกล้าผ่านมาตรงจุดนี้ เพราะนอกจะเปลี่ยวแล้วยังเป็นแหล่งมั่วสุมของอันธพาลที่มักก่อนอาชญากรรมหรือไม่ก็เสพยากัน ทั้งยังเป็นมุมอับจากสายตาของคน

            "อีหนูนี่ใช้ได้เลยล่ะพี่โต ตูดแม่งฟิตมาก อย่างกับพวกไม่เคยแต่ข้างในตอดชิบหาย"

ไอ้หัวหน้าตอนแรกรีบสอพลอไอ้ตัวใหญ่ที่จิกหัวผมให้ลุกขึ้นยืน มันพูดเหมือนยินดีปรีดาเต็มที่ที่เอาผมมาให้ไอ้คนที่มันเรียกว่าพี่โต ซ้ำยังเรียกผมว่าอีหนูราวกับผมเป็นผู้หญิงของพวกมัน ผมกัดปากแน่นข่มความเจ็บปวดและพยายามดิ้นให้หลุดจากมือสกปรกที่จิกเรือนผมกลางกระหม่อมอยู่

"ฮึ พูดซะกูเสี้ยนเลย ทำไมของดีๆแบบนี้พวกมึงถึงไม่รีบเอามาให้กูก่อนแดกกันเองห๊ะไอ้แขก!"

ไอ้โตมันตะคอกไอ้ตัวหัวหน้าที่รุมข่มขืนผมยกแรกทั้งที่ยังคงมองหน้าผมอย่างโลมเลีย

คำพูดอ้อนวอนที่จะให้มันปล่อยตัวผมไปหายไปจากความคิดเพราะรู้ว่ามันไม่มีทางปล่อยตัวผมไปจนกว่ามันจะย่ำยีผมจนสาแก่ใจของมัน ภาพตรงหน้ามันเริ่มเลือนลอย ขณะที่ร่างถูกผลักล้มลงนอนบนพื้นแฉะๆ สองขาถูกแยกออกกว้าง ไอ้โตมันควักท่อนเนื้ออกมาจากกางเกงชองมัน ท่อนลำที่ฝังมุกหลายเม็ดทำให้อวัยวะตรงกลางขาของมันน่าเกลียดพอๆกับตัวของมันเอง และเมื่อมันยัดเยียดเข้ามาในช่องทางที่เจ็บช้ำก็ส่งผลให้ผมเจ็บจนต้องสะบัดดิ้นอย่างแรง

"ฮึ่ย แม่งสุดยอดจริงๆ"

มันบอกเสียงปรีดิ์เปรมแล้วดำดิ่งลงในร่างกายของผมอย่างกระแทกกระทั้น ท่อนเนื้อกับเม็ดมุกบดขยี้จนเจ็บร้าว ผมกรีดเสียงร้องออกมาอย่างทรมานก่อนถูกมันตบจนหน้าหัน

"มึงจะร้องหาพระแสงอะไรอีกระเทยนี่! ไม่เคยเจอของใหญ่แบบกูมาก่อนหรือไง เฮ้ยปิดปากมันสิ เดี๋ยวชาวบ้านก็ได้ยินกันหมดพอดี"

ประโยคหลังมันสั่งลูกน้องและคว้าเอวผมที่พยายามถอยหนีไว้ กระแทกตัวเข้ามาอย่างไม่ปราณี

คล้ายกับเหตุการณ์มันวนซ้ำอีกครั้ง ลูกน้องของมันถลาเข้ามาหาผม จิกหัวผมให้แหงนหน้าขึ้นแล้วจัดการยัดเยียดไอ้นั่นของมันเข้ามาในริมฝีปากของผมที่พยายามจะเบือนหน้าหนี

“ปากเล็กน่ารักเชียวนะน้อง เจอของพี่เข้าไปอย่าเพิ่งปากฉีกไปก่อนแล้วกันนะ” ไอ้คนที่มันกำลังขยับสะโพกกระแทกเข้ามาในปากของผมมันว่าอย่างนั้น ท่อนเนื้อของมันทิ่มลึกเข้ามาในลำคอ ความขยะแขยงมันทำให้ผมอยากอาเจียนออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงเพื่อนพ้องของมันลอยมา

“โหยไอ้ห่า ของมึงน่ะเล็กเท่าเข็ม ของกูใหญ่กว่ายังไม่พูดเลย แต่ของพี่โตใหญ่กว่าเยอะ ดูสิตูดอิหนูนี่มันแทบจะฉีกถึงสันหลัง”

ไอ้คนพูดมันว่าอย่างนั้นแล้วตีมือลงกับสะโพกของผมที่ลอยขึ้นเพราะไอ้ลูกพี่ของมันจับยกเพื่อมันจะได้กระแทกเข้ามาได้ลึกกว่าเดิม

“อีหนูนี่แม่งสุดยอดจริง แบบนี้ค่อยคุ้มค่าที่กูออกมาจากบ่อนหน่อย” ไอ้โตมันว่าแล้วเอื้อมมือมาหยิกดึงหัวนมของผมอย่างแรงก่อนกดหัวตามลงกัด ความเจ็บที่ยอดอกทำให้ผมสะดุ้ง มันหัวเราะกับปฏิกิริยาของผม

“พอกัดนมแล้วแม่งตอดยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก สุดยอดไปเลย”

“โหย..พี่อย่าพูดให้ผมอิจฉาสิ เงี่ยนจะตายอยู่แล้ว”

หนึ่งในสามคนที่มาทีหลังมันบ่นเพราะมันเป็นคนเดียวที่ต้องยืนมอง ขณะไอ้ห้าคนแรกมันล้อมวงมุงดูผมโดนรุมโทรมไปพลางเสพยาไปพลางราวกับภาพของผมที่กำลังถูกข่มขืนคือภาพความบันเทิงใจที่เป็นกับแกล้มเสพยาของพวกมัน

“งั้นมึงก็เข้ามาสิ เฮ้ยมึงน่ะปล่อยมันก่อน”

มันสั่งลูกน้องที่เอาแต่กระแทกอยู่กับปากของผม พอไอ้บ้านั่นดึงท่อนเนื้อของมันออกจากปากผมไป ร่างของผมก็ถูกดึงให้เปลี่ยนทิศทาง ไอ้ลูกพี่ของมันเอนลงไปนอนกับพื้นแฉะๆของลานว่าง

ผมที่ไม่สามารถขยับตัวเองได้ก็ถูกจิกหัวให้กลับไปใช้ปากให้ไอ้คนเดิมที่คุกเข่าตามลงมา ระหว่างนั้นแผ่นหลังของผมก็ถูกกดลงให้แนบกับอกของไอ้โต ไอ้คนที่โอดครวญอยู่เมื่อครู่มันทรุดลงมานั่งซ้อนหลัง

ผมพยายามหันไปมองว่ามันจะทำอะไรแต่ก็ถูกกระชากหัวกลับมา แต่ผมรู้สึกได้ถึงมือของไอ้โตที่มันจับสะโพกของผมแล้วแยกออก แต่ก็มีอีกมือที่เข้ามาป้วนเปี้ยนและพยายามใช้นิ้วสอดเข้ามาดึงรูเล็กของผมให้ถ่างออกกว้าง

“อึ่ก!”

ผมดิ้นเหมือนปลาที่ถูกทุบศีรษะ ความเจ็บร้าวมันแล่นขึ้นมาจากบั้นท้ายอย่างทรมานเป็นที่สุด ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันทำอะไรกับผม ผมกำลังถูกผู้ชายสองคนรุมข่มขืนในช่องทางเบื้องหลังพร้อมๆกันไม่นับอีกคนที่กำลังใช้ปากของผมเป็นเครื่องบำเรอมัน ผมได้ยินพวกมันพูดอะไรกันไม่รู้เพราะจับใจความไม่ได้

สติของผมพล่าเลือนเพราะความเจ็บที่แสนทรมาน

แรงกระแทกทำให้ร่างกายของผมโยกคลอนไปบนตัวของไอ้หัวหน้า แต่คงเป็นเพราะมันรุมข่มขืนผมพร้อมกันสองเลยทำให้มันไม่ได้ดังใจ เพียงพักหนึ่งหลังจากนั้นมันจึงไล่ลูกน้องออกไป

“พอมึงออกไปว่าวกันเองก่อนไป กูไม่ไหวและ อยากกระแทกให้ขาแม่งอ้าไม่หุบเต็มแก่แล้ว”

ไอ้สองคนนั่นมันผละจากร่างของผมไปพลางทำท่าเสียดาย ผมสำลักอากาศเข้าปอดทันทีที่ริมฝีปากว่าง น้ำตามันไหลออกมาไม่ยอมหยุด ไม่เหลือช่องว่างให้หนีได้ ไอ้โตมันก็หมุนตัวกลับให้ผมลงมานอนอยู่ข้างล่าง มันจับขาผมแยกแล้วกดกับพื้นก่อนกระแทกเข้ามาแรงๆจนผมจุกเจ็บไปหมด

“มึงนี่สุดยอดจริงอีหนู ถูกใจพี่จริงๆ มาเป็นอีตัวในซ่องพี่ไหมจ้ะ รับรองจะจัดลูกค้าให้เยอะๆทุกคืนเลย”

ไอ้โตมันพูดอย่างนั้นก่อนก้มลงมากัดหน้าอกผมอีกหน ผมได้แต่มองมันด้วยสายตาเกลียดชังและขยะแขยงพลางพยายามเบือนหน้าหนีเมื่อมันจับคางผมบังคับให้หันมามองหน้ามัน มันแสยะยิ้มเมื่อเห็นสายตารังเกียจของผม

“ทำหน้าเหมือนลูกคุณหนูสูงศักดิ์แบบนี้กูยิ่งชอบ ไหนลองพูดหน่อยสิว่า ผัวคะ..กระแทกแรงๆ เอาหนูแรงๆหน่อยค่ะ...ลองพูดสิ พูดได้หรือเปล่า”

มันพูดแล้วก็หัวเราะเหมือนกับสะใจที่ได้หยามศักดิ์ศรีผม คนอื่นที่อยู่รอบข้างพากันหัวเราะตาม...มันใช้มือช้อนไปด้านหลังศีรษะของผมแล้วจิกหัวผมไว้อีกครั้ง..

“ถ้าเข้าไปอยู่ในซ่องแล้วมึงต้องพูดให้เป็นอีหนู อีกระเทยหน้าสวยที่ไม่ออกหญิงแบบนี้ ลูกค้ากูโคตรชอบ ตูดมึงไม่ว่างแน่ กูรับรองได้”

มันหัวเราะเสียงดังกับความคิดของมันแล้วกระแทกเข้ามาแรงๆจนหลังผมไถลไปกับพื้นก่อนมันจะกระชากกลับมา

“เฮ้ย เมื่อกี้พี่โตเขาให้พูดอะไร ทำไมน้องไม่พูดให้พวกพี่ฟังล่ะจ้ะ”

ไอ้ตัวที่มันใช้ปากผมเมื่อครู่พูดแทรกขึ้นมา แววตาของมันระยับอย่างหยาบโลนสะท้อนกับแสงของกองไฟที่พวกมันก่อเอาไว้ ผมกัดปากแน่นไม่ยอมทำตามที่มันสั่งเลยถูกมันตบหน้าเสียเต็มแรง

“พูดดิเว้ย!”

“เฮ้ยๆ เก็บหน้ามันไว้หน่อย เดี๋ยวขายไม่ออก”

หัวหน้ามันร้องปรามขึ้นมา ผมรู้สึกเค็มปร่าในปากที่คงจะแตกเพราะถูกมันตบ กรามที่ปวดร้าวอยู่แล้วจากการถูกยัดเยียดเข้ามามันระบมจนผมแทบขยับอ้าปากไม่ได้เลยสักนิด

“ว่าแต่...ไหนลองพูดสิจ้ะ...ผัวขา..เอาหนูแรงๆหน่อย เร็วสิพูดให้พี่ฟังให้ชื่นใจหน่อย” มันก้มลงมากระซิบแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากของผมที่พยายามหันหน้าหนีแต่มือของมันก็จิกตรึงศีรษะของผมให้อยู่ที่

ความกักขฬะทั้งกายและวาจาของมันรวมถึงใจทรามๆทำให้ผมอดสูไม่ได้ที่บนโลกนี้มีคนอย่างพวกมันเกิดมาให้รกโลก

แต่ขณะที่กำลังนึกอดสูมันอยู่ มันก็เริ่มโมโหขึ้นมาที่ผมไม่ยอมพูดตามคำสั่งของมัน

“เอ๊ะอีนี่ ปากมึงก็ไม่ได้อมของพวกกูอยู่ จะเก็บปากเก็บคำหาพระแสงอะไร พูดสิวะ กูบอกให้มึงพูดไง”

มันจับหัวผมโขกไปกับพื้นด้านหลัง ยังดีที่พื้นด้านหลังเป็นพื้นดินที่ชื้นแฉะไม่ใช่พื้นปูนหรือพื้นหินที่จะทำให้หัวผมแตกได้ ผมยอมให้มันทำเช่นนั้นยิ่งกว่าที่จะพูดคำพูดน่ารังเกียจนั่นออกมา

“พูดถึงผัว..ไอ้หมอหน้าหล่อที่เป็นผัวมันก็น่าเอาเหมือนกันนะพี่โต ท่าทางหยิ่งยโสจนน่าจับทำเมียให้สาวแตกไปเลย ผมแอบมองมันมาหลายทีแล้ว หล่อขรึมๆแบบนั้นสเป็คผมเลย”

ผมหันขวับไปหาไอ้คนพูดที่มันกำลังใช้มือรูดท่อนเนื้อของมันอยู่ข้างหัวผมอย่างตกใจในเจตนาที่มันพูดออกมา

“ยะ..อย่า! อย่ายุ่งกับอาจารย์นะ!”

ผมร้องออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวระคนต้องการหาทางปกป้องคนรักของตัวเอง พวกมันหัวเราะกับสิ่งที่หลุดออกจากปากของผม

“มันเป็นอาจารย์ของมึงหรอวะ สัตว์เอ้ย เอากับลูกศิษย์ตัวเองแบบนี้ เงี่ยนชิบหาย”

 "อย่าว่าอาจารย์นะ!อาจารย์ไม่ได้ระยำแบบสัตว์นรกอย่างพวกแก!" ผมผรุสวาทใส่พวกมันไปสุดเสียง มองพวกต่ำกว่าสัตว์พวกนั้นด้วยสายตาแข็งกร้าว แววตาของมันที่มองมาที่ผมวาววับอย่างแค้นเคืองที่ผมด่าพวกมัน

"หนอย อิกระเทยนี่ ด่าพวกกูงั้นเรอะ!"

ไอ้ตัวที่ยืนอยู่เหนือหัวผมมันเงื้อเท้าขึ้นจะกระทืบลงหน้าผมแต่ถูกเพื่อนของมันรั้งไว้

"ห่าจะกระทืบหน้ามันให้ดั้งหักเสียโฉมหรือไงวะ เงินทั้งนั้นนะมึง"

"นั่นนะสิน้า หน้าตาสวยๆนี่มันเงินทั้งนั้น แต่ยังไงก็ต้องลงโทษที่ปากดีกันหน่อยล่ะ"

ไอ้โตที่มันคาสะโพกสอดใส่อยู่ในบั้นท้ายของผมหยิบเอามีดพกของมันมาสะบัดควงออกจากพับ คมมีดสะท้อนกับแสงไฟ วาวอยู่เหนือใบหน้าของผมอย่างไม่น่าไว้ใจ

"เฮ้ยหาอะไรอุดปากมันหน่อยดิ"

ลูกน้องของมันยิ้มรับคำสั่งและจัดการหยิบเอาบ็อกเซอร์เน่าๆของพวกมันมายัดใส่ปาดผมที่ตอนนี้กระเสือกกระสนหนีสุดแรง

"อย่าดิ้นมากสิมึง"

ไอ้แขกเดินเข้ามาใกล้ ตามันลอยจากการพี้ยา มันเหยียบลงบนอกของผมไม่ให้ดิ้นหนีขณะที่ลูกน้องของพวกมันตีวงล้อมเข้ามาใกล้ทันทีที่ได้ยินว่าลูกพี่ใหญ่ของพวกมันจะทำโทษผม ส่วนไอ้สองตัวที่ยืนอยู่เหนือหัวผมตอนแรกมันก็ใช้เข็มขัดมันทับบ็อกเซอร์ที่ยัดเข้ามาในปากของผมไว้แน่น เสียงร้องที่หลุดจากปากของผมจึงกลายเป็นแค่เสียงอู้อี้ในลำคอที่ไม่อาจตะโกนขอความช่วยเหลือจากใครได้อีกต่อไป

"เสียดายปากมันว่ะแม่ง"

เสียงใครสักคนบ่นออดมาเช่นนั้น ไอ้โตแสยะยิ้มขณะลากมีดไปตามแผ่นอดของผมโดยจงใจให้ปลายมีดมันขูดกับผิวเบาๆ

"เดี๋ยวกูทำโทษมันเสร็จแล้วจะให้พวกมึงอัดตูดมันให้หนำใจไปเลย รับรองดีกว่าปากมันเยอะ"

"ดีพี่ พี่ทำโทษมันเลย เร็วๆ"

"พี่จะทำอะไรกับมัน?"

น้ำเสียงมันถามอย่าตื่นเต้น ผมพยายามดิ้นหนี แต่ก็มีเท้าอีกหลายเท้าเหยียบมากดที่ไหล่กับท้องและต้นขาไม่ให้ผมขยับ

"กูว่าจะเฉือนไอ้จู๋มันเล่นซะหน่อย ไหนๆก็เป็นกระเทยไม่ได้ใช้งานอยู่แล้วนิ"

ผมสั่นอย่างนึกกลัว คมมีดมันเลื่อนไปตรงกลางกายตามคำพูดของมัน ผมได้ยินเสียงหัวเราะครื้นเครงราวกับพวกมันกำลังดูมโหรสพอยู่ก่อนที่มันจะส่งเสียงเชียร์กัน

"เอาเลยพี่ เฉือนแม่งเลย"

"นั่นสิพี่เฉือนเลยๆ ไงอิหนู ดีใจไหม พี่เขาจะแปลงเพศให้มึงไง ทีนี้มึงจะได้เป็นสาวสมใจ"

ผมสั่นหน้า น้ำตาไหลไม่หยุด

ผมไม่ได้อยากเป็นอย่างที่พวกมันว่า ผมภูมิใจที่เกิดมาเป็นผู้ชาย ถึงจะมีคนรักเป็นผู้ชายแต่ก็ไม่เคยนึกอยากเป็นหญิงเลยสักครั้ง

ไอ้คนถือมีดมันจับหมับเข้าที่แกนกายของผม ออกแรงดึงราวกับต้องการจะดึงมันให้ขาดจนตัวของผม แล้ววินาทีต่อจากนั้น คมมีดของมันก็ปาดเข้าที่กลางลำ ผมดิ้นเร้าอย่างเจ็บปวด พอมันมองแล้วก็หัวเราะกันสนุกสนาน

"วางใจน่า กูยังไม่ตัดไอ้จู๋ของมึงหรอก ต้องลงโทษให้มึงสำนึกก่อนที่มาด่าพวกกู แล้วจำเอาไว้ ว่าทุกสิ่งที่มึงโดน ผัวอาจารย์ของมึงก็ต้องเจอเหมือนกัน"

ไม่...ไม่เด็ดขาด ไม่มีวัน ผมไม่ยอมให้พวกมันทำอะไรอาจารย์เด็ดขาด

สิ่งเลวร้ายพวกนี้เกิดกับผมได้ แต่ไม่มีวันที่มันจะไปเกิดกับอาจารย์

ผมได้แต่ร่ำร้องในใจก่อนกรีดร้องออกมาในลำคอสุดเสียงเมื่อไอ้สารเลวมันเอามีดแทงลงมาตามรอยแยกตรงส่วนปลาย แต่เสียงมันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากปากได้สักนิด ลูกน้องของพวกมันที่เหยียบตัวผมอยู่ผละออกมาเพราะเห็นผมเจ็บจนหมดแรงดิ้นหนี พวกมันยืนมองด้วยความสนุกสนานและชอบใจที่หัวหน้าของมันแทงมีดลงกับส่วนนั้นของผม คมมีดบาดลึกเข้ามาในส่วนที่ไม่เคยมีใครแตะต้องและลึกลงไปราวดับมันจะแทงให้ทะลุเข้าไปในท้องของผมก่อนมันจะกระชากมีดออก

"โอ้ยห่าเอ้ย! แทงมีดลงไปที รัดKกูแทบหัก ชอบความเจ็บปวดใช่ไหมห๊ะมึงน่ะ"

มันตะคอกถามผมแล้วหัวเราะ ผมพยายามส่ายหน้าแต่แล้วก็ต้องเจ็บจนตาเหลือกเมื่อมันทำซ้ำเดิมอีกหนลงที่เก่า เสียงของมันหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกับการกระทำที่ไม่ใช่มนุษย์

“เฮ้ย...พวกมึงเคยสงสัยกันบ้างไหม ว่าในนี้มันมีอะไรอยู่บ้าง”

มันเอาปลายมีดขูดไปกับพวงเนื้อใต้สิ่งที่ถูกทำร้ายตรงหว่างขาของผม ผมนึกกลัวสิ่งที่มันคิดจะทำจับใจ พอพยายามคลานถอยหนี แต่ก็ถูกลูกน้องของมันเหยียบบ่าไว้ไม่ให้หนีได้แต่นอนร้องไห้ส่ายหน้าไปมา ไอ้เดนมนุษย์มันไม่คิดจะปราณีผมเลยแม้แต่น้อย มันแสยะยิ้มจับพวงเนื้อที่ใช้กักเก็บอสุจิของผม

“อึ่ก!!” เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดมันดังอยู่ในคอทันทีที่มีดแทงเข้ามาด้านข้างของพวงเนื้อทั้งสองจนทะลุ ไอ้คนใจอัปรีย์มันหัวเราะลั่นแล้วกระชากมีดอย่างแรง ส่วนตรงกลางหว่างขาที่ถูกทำร้ายมันเจ็บจนชาไปหมด ผมรู้สึกถึงอวัยวะภายในที่ถูกเก็บรักษาไว้ใต้หนังเนื้อตรงนั้นถูกเฉือนออกจนมันเลื่อนหล่นลงไปตามซอกขาก่อนที่มันจะหยิบขึ้นมาโยนเล่นและโยนไปให้กับลูกน้องของพวกมัน

“โอ้โห..เป็นอย่างนี้นี่เองว่ะแม่ง”

มันหัวเราะกันครื้นเครงแล้วโยนสิ่งที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของผมข้ามตัวผมไปมา

ผมเจ็บจนไม่เหลือแม้แต่แรงจะหายใจ ไอ้โตมันเริ่มต้นกระแทกตัวเข้ามาอีกครั้ง ร่างผมไถลไปกับพื้นดิน ดวงตาเปิดกว้างแต่มองไม่เห็นแสงสว่าง สิ่งที่ผมเห็นคือน้ำตาของตัวเองที่ถูกพวกมันย่ำยีทำร้ายโดยไม่อาจปกป้องตัวเองได้

อาจารย์..ผมคิดถึงอาจารย์

อาจารย์จะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ผมกำลังถูกทำร้าย

อาจารย์จะเจ็บปวดไหมกับการที่จะต้องรู้ว่าร่างกายของผมที่อาจารย์เคยกอดเคยรักอย่างทะนุถนอมมันถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้

“สัตว์เอ้ย! กูชักไม่อยากเอาอีนี่เข้าซ่องแล้ว เล่นกับมันแบบที่เล่นกับไอ้คนก่อนดีกว่า อีนี่คงสนุกกว่าไอ้คนก่อนเยอะ”

พอไอ้หัวหน้ามันพูดแบบนั้น พวกมันก็ส่งเสียงเฮกัน ผมมองพวกมันที่ขยับตัวกันอย่างตื่นเต้นด้วยความหวาดกลัว

เล่น?

พวกมันจะเล่นอะไรกับผม?

คำพูดที่เอ่ยด้วยธรรมดาๆของมันดูน่ากลัวมากในความรู้สึกของผมตอนนั้น การเล่นของพวกมันเป็นอะไรที่ผมไม่อยากคิด

และดวงตาของผมก็ต้องเบิกโพรงเมื่อสองในแปดคนมันเดินเข้ามาพร้อมคบไฟในมือ ไอ้โตที่ข่มขืนผมอยู่มันรับเอาขวดเล็กๆจากลูกน้องของมันมา

“ดูสิ..ว่าผิวขาวๆของมันจะแดงน่าดูได้แค่ไหนกัน”

มันพูดแล้วบีบขวดน้ำมันก๊าดในมือลงบนอกของผม น้ำมันก๊าดเหม็นฉุนไหลพุ่งจากปลายรูเล็กมานองอยู่บนอก ผมพยายามกระเสือกกระสนที่จะหนีสุดชีวิตเพราะรู้แล้วว่ามันจะทำอะไร แต่การทำแบบนั้นทำให้น้ำมันก๊าดมันไหลเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง

“เอ้าๆ..จะดิ้นให้มันไหลไปทางอื่นทำไมว่ะไอ้โง่ เดี๋ยวก็ไหม้ทั้งตัวหรอกมึง!” มันตะคอกใส่ผม แล้วส่งน้ำมันก๊าดกลับไปให้ลูกน้องของมันก่อนรับคบไฟมา

“รอดับไฟให้ดีล่ะพวกมึง แม่งดิ้นซะหกไปขนาดนั้น”

มันกำชับลูกน้องก่อนหันมามองผมตาวาว ผมกลัวจับใจ ถ้ามันจุดไฟนั่นลงกับตัวผม คราวนี้ผมคงต้องตายแน่ๆ ผมเกลือกดิ้นไปมาพลางส่ายหน้าหนีไปด้วยจนเข็มขัดที่มัดตรงปากมันหลุดลงมากองที่คอ ผมรีบถ่มบ็อกเซอร์เหม็นคาวของพวกมันออกจากปากแล้วพร่ำพูดเสียงสั่น

“พี่...ขอร้องล่ะ...ปล่อยผมไปเถอะ...ผมยังไม่อยากตาย”

ความหวาดกลัวทำให้ผมพรั่งพรูคำร้องขอชีวิตออกมาทั้งน้ำตา

ผมยังไม่อยากตาย...

ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ...

แม้จะต้องพิการหรือมีบาดแผลไปชั่วชีวิต

แต่ผมก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ยังไม่อยากต้องตายไปทั้งแบบนี้ ทั้งที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกับอาจารย์

ยังไม่ได้บอกอาจารย์ ว่าผม...รักอาจารย์มากแค่ไหน

(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2014 20:23:29 โดย zynestras »

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
“ฮึฮึ กลัวตายหรอจ้ะคนสวย?”

“ถ้างั้นลองพูดว่า ผัวขา เอาหนูแรงๆหน่อยสิ”

“พูดเลยๆ” พวกมันส่งเสียงกันราวกองเชียร์ขณะที่ตัวหัวหน้ามันแสยะยิ้มอยู่เหนือร่างผม โบกคบไฟในมือราวกับพร้อมจะจุดไฟลงบนอกผมที่ชุ่มด้วยน้ำมันก๊าด

“ถ้าพูด...แล้วจะปล่อยผมไปไหม?..”

ผมถามมันเสียงสั่น ในใจนึกคาดหวังที่จะได้เป็นอิสระจากเรื่องเลวร้ายที่ถูกทำอยู่นี่ ไอ้โตมันกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเลิกคิ้ว

“ก็ได้ แต่ต้องพูดหวานๆให้พี่ชื่นไปถึงข้างใจล่ะ ถ้าไม่ชื่นใจพอ ไม่ปล่อย”

มันบอกอย่างนั้นแล้วถอยคบไฟออกห่างจากตัวผม ผมมองตามเปลวไฟที่สั่นไหวเคลื่อนห่างออกไปก่อนมองหน้ามัน ในใจนึกอดสูกับสิ่งที่ต้องทำเพื่อแลกกับการมีชีวิตอยู่ต่อ

ผมอ้าปาก สมองนึกถึงขำพูดที่มันสั่งให้พูด แต่พอนึกแล้ว เสียงมันก็ไม่ออกจากคอ พวกมันหัวเราะครื้นเครงที่เห็นผมพูดไม่ออก

“เอ้าเร็วอิหนู พูดให้พี่โตฟังให้ชื่นใจเร็วๆเข้า”

ไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างซ้ายมันเอาขาเตะสีข้างของผม กระทุ้งให้ผมพูด ผมอ้าปากอีกครั้งและพบว่ามันยังคงเหมือนเดิม ไม่มีเสียงรอดออกมาจากปาก ศักดิ์ศรีมันขวางกั้นคำหยาบคายนั้นเอาไว้

“ถ้าพูดไม่ได้ งั้นเผาเลยแล้วกัน” มันคว้าคบไฟกลับมาอีกครั้ง

“เดี๋ยว!” ผมร้องแล้วดิ้น เมื่อคบไฟมันกลับเข้ามาใกล้อีกรอบ

“...แรงๆ...”

เสียงของผมหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากที่แตกจนได้เลือดแผ่วเบาจนพวกมันคงไม่ได้ยิน แต่แค่นี้ก็พาให้อดสูเสียจนแทบทนไม่ได้

“พูดว่าไงนะ พี่ไม่ค่อยได้ยินเลย”

มันเสือกคบไฟในมือให้ลูกน้องไปถือไว้แล้วโน้มหน้าลงมาใกล้ผมทำท่าเงี่ยหูฟัง...

ผมสะอื้นเพราะไม่อยากพูดซ้ำ แต่ก็ต้องพูดเพื่อเอาชีวิตรอดออกไปจากนรกตรงนี้...

“ผัวขา... เอาหนู..ระ...แรงๆ...”

เสียงของผมขาดช่วงเพราะแรงสะอื้นที่ทำให้ทั้งตัวสั่นเทา มันทั้งอดสูทั้งหวาดกลัว ทั้งสมเพชตัวเอง รู้ซึ้งของความอยากมีชีวิตต่อไปที่ต้องยอมเสียสละซึ่งศักดิ์ศรีของตนเองมากแค่ไหน

“ฮะฮ่าๆ พี่ได้ยินไม่ค่อยชัดเลยล่ะ ไหนพูดดังๆให้บรรดาผัวๆของน้องได้ยินกันทุกคนหน่อยสิ”

ผมส่ายหน้าไปมากับคำสั่งของมัน แค่พูดครั้งเดียวก็อดสูจะแย่ มันยังสั่งให้ผมพูดถึงสองสามครั้ง ไอ้เดรัจฉานมันไล้ลิ้นเลียริมฝีปากและแก้มของผมอย่างหยาบคาย ทำกับร่างกายของผมตามอำเภอใจอย่างกับผมเป็นตุ๊กตาของมัน

“เร็ว..พูดดังๆสิจ้ะคนสวย..หรือจะยอมถูกเผาดี?”

มันรู้ว่าผมกลัวไฟเลยเอามาใช้ขู่ผมอีกครั้ง ผมหลับตาแล้วร้องพูดประโยคที่แสนอัปยศอีกครั้งด้วยความรู้สึกในใจที่อยากหนีออกไปเพื่อกลับไปหาอาจารย์อีกครั้ง

“ผัวขา...เอาหนูแรงๆ...”

เสียงหัวเราะอย่างขบขันและสะใจดังขึ้นรอบๆ ผมปล่อยน้ำตารินไหลอย่างไม่คิดจะห้ามปรามตัวเอง ไอ้โตมันแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจแล้วเอื้อมมือมาลูบแก้มผม

“ดีมากจ้ะเมียรัก...แต่เผอิญว่าผัวคนนี้ มันเป็นคนเลวน่ะนะ...”

ผมเบิกตามองมันที่พูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ มันแสยะยิ้มใส่ผมที่รู้ตัวทันทีว่าตกลงไปในกับดักของมัน

“คนเลวเขาไม่มีสัจจะกันหรอก จำเอาไว้นะอีหนู อย่าอ่อนต่อโลกให้มากเลยมึง”

สิ้นคำ มันก็คว้าเอาคบไฟมาจากลูกน้อง พร้อมกับลูกน้องของมันที่ก้มลงเอาผ้ามาอุดปากผมไว้ ไฟที่ร้อนจัดพอถูกก๊าดไวไฟมันก็ลุกติดพรึ่บ ผมทั้งร้องทั้งดิ้นเพราะความร้อนมันกระจายขึ้นมา ไฟมันลามติดจากอกซ้ายไปอกขวาและลงต่ำ ร่างของผมถูกกระชากเข้าไปหาไอ้โต มันกระแทกท่อนเนื้อร้อนใส่ผมขณะตะโกนสั่งลูกน้องของมัน

“เฮ้ย! ดับไฟก่อนมันตายด้วย”

ร่างของผมถูกกระแทก ผมถูกข่มขืนต่อในช่วงเวลาที่ถูกเผานั่น ความแสบร้อนมันมากขึ้นเรื่อยๆ ผมสำลักอากาศอย่างหายใจไม่ออกกับแรงกดที่บังใบหน้าอยู่แล้วก็ต้องเจ็บจนตัวงอเมื่อไอ้คนที่รุมกันอยู่รอบข้างมันกระทืบลงมาที่อกของผม เท้าด้านเปื้อนดินชื้นๆกระทืบลงซ้ำๆทั่วอกและท้องของผมเพื่อดับไฟ จนไฟมอดหมดผมก็รู้สึกช้ำข้างในจนขยับตัวไม่ได้

“อึ่ก..”

เหยื่อคนก่อนของพวกมันก็ถูกทำแบบนี้เหมือนกันอย่างนั้นหรอ...

เธอหรือเขาคนนั้นโดนทารุณแบบผมหรือมากกว่าผม ผมไม่สนใจตรงนั้น ผมเพียงแค่อยากรู้ว่าเหยื่อของพวกมันมีชะตาชีวิตต่อไปเป็นเช่นไร

ดวงตาของผมเปิดค้าง...

อาจารย์...

ผมเจ็บเหลือเกิน...

“แม่งเอ้ย! สุดยอดกว่าอีคนก่อนอีก เอาอีกรอบดิพวกมึง แล้วก็ดับให้เร็วกว่านี้หน่อยสิพวกมึง เดี๋ยวมันก็ตายก่อนพอดี อดสนุกกัน”

ระยำ...พวกมันเลวกว่าสัตว์เดรัจฉานหลายขุม มันเห็นชีวิตและร่างกายของคนไม่มีค่าเลยสินะ นอกจากความสนุกของพวกมัน

ขอให้จุดสุดท้ายของชีวิตพวกมันต้องพบเจอกับสิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าที่มันทำไว้กับผม...ทำไว้กับเหยื่อของพวกมันทุกคน

ผมคิดอาฆาตขณะที่ร่างกายไม่สามารถขยับตัวได้ แผ่นอกที่แสบร้อยเพราะถูกเผาถูกราดด้วยน้ำมันก๊าดอีกครั้ง ไอ้หัวหน้ามันยังคงกระแทกซ้ำๆที่บั้นท้ายของผม ผมมองมันและการเคลื่อนไหวของมันด้วยความอาฆาตแค้นแต่มันกลับไม่สะทกสะท้าน

“เหยื่ออย่างมึง ก็ทำได้แค่มองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อกูเท่านั้นแหละวะ แต่คนล่าเหยื่ออย่างพวกกูนี่แหละ จะกินเลือดกินเนื้อมึงให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่เส้นผมไว้เป็นหลักฐานเลยคอยดู”

มันบอกเสียงเหี้ยมก่อนกระแทกตีคบไฟลงมากลางอกของผม ไฟมันลามช้าลงกว่าเก่าเพราะบนแผ่นอกของผมมันเต็มไปด้วยขี้ดินจากเท้าของพวกมันตอนดับไฟเมื่อครู่ แต่กระนั้นมันก็สร้างความแสบร้อนทรมานเจียนตายให้ ผมกรีดเสียงร้องและดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด แต่เพราะระหว่างที่ถูกราดด้วยน้ำมันนั้น ผมถูกจับมัดริมฝีปากไว้อีกครั้ง

เสียงร้องของผมจึงกลายเป็นเสียงที่ไม่มีวันที่จะมีคนได้ยิน

และร่างที่บอบช้ำของผมก็ถูกกระทืบซ้ำอีกครั้งเพื่อดับไฟ

ผมหายใจอย่างติดขัด เจ็บร้าวไปทั่ว โสตประสาทต่างๆเหมือนถูกทำลายไปพร้อมๆกัน

            สติการรับรู้ของผมเริ่มทดถอย ในเวลาที่คิดว่าตัวเองคงใกล้ตายเต็มที่แล้วนั้นเอง เสียงของสุนัขข้างถนนก็เห่าดังขรม พวกอันธพาลสะดุ้งหันกลับไปมองกันก่อนสบถออกมา

            “เหี้ยเอ้ย! แม่งคงได้กลิ่นเนื้ออีนี่ไหม้”

            ผมได้ยินคนที่อยู่ใกล้ที่สุดมันสบถออกมาอย่างนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงคล้ายถังน้ำสังกะสีถูกขว้างมาตกถนนเหนือหัว คงมีชาวบ้านสักคนที่รำคาญเสียงหมาหอนเลยตื่นขึ้นมาไล่

            “สัตว์เอ้ย! แยกย้ายเว้ยเฮ้ย!”

ไอ้ตัวลูกพี่มันโบกมือไล่ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรกัน อาจเป็นเพราะพวกมันกลัวคนเห็นสิ่งที่พวกมันทำกัน ลูกน้องของพวกมันแตกฮือกันไปทีละคนสองคน จนเหลือไอ้คนแรกที่เข้ามาทักผมกับตัวมันเองที่รีบถอนกายออกจากตัวผมและใส่กางเกง

“เอาไงกับมันดีพี่โต?”

“ฆ่ามันเลยสิวะ จะเอาไปด้วยก็ไม่ได้ ฆ่ามันทิ้งตรงนี้แล้วคืนพรุ่งนี้ค่อยเอาศพไปทิ้ง”

ฆ่า...

ฆ่าผมอย่างนั้นหรอ...

ไม่...ผมยังไม่อยากตาย ผมจะกลับ...กลับไปหาอาจารย์...

คิดแล้วผมก็พยายามพลิกตัวแล้วกระเสือกกระสนหนี

“จะไปไหนคนสวย..เสียดายจริง ยังเล่นด้วยไม่พอเลย”

มันพูดก่อนหยิบเอามีดของมันมา ผมส่ายหน้ารัวๆ แม้จะไม่สามารถขัยตัวได้มากนักก็ตามที

“อย่าเพิ่งขึ้นอืดไปก่อนล่ะอิหนู เผื่อพรุ่งนี้ศพมึงยังเช้งอยู่กูจะได้เอาอีกสักรอบสองรอบ”

ไอ้สัตว์นรกมันบอกก่อนแทงมีดเข้ามาที่ใต้หน้าอกของผม ร่างของผมงอไปตามแรงแทงของมันก่อนที่มันจะกระชากมีดกลับไป มันเอามีดปาดไปมากับต้นขาเปลือยของผม เช็คคราบเลือดที่มันแทงผมจนหมดแล้วพับมีดเก็บใส่กระเป๋าไป

ผมยังไม่ตาย....แต่ก็เจ็บเจียนขาดใจ

“พี่โต มันยังไม่ตายเลยนะ?”

ลูกน้องของมันพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลที่เห็นผมซึ่งนอนคู้อยู่บนพื้นดินพยายามยังหายใจอยู่

“แทงตรงนั้น มันจะได้ตายช้าๆ ศพจะได้ขึ้นอืดช้าหน่อยไงไอ้โง่!”

มันบอกแล้วตบหัวลูกน้องของมันก่อนจะพากันเดินจากไป ทิ้งให้ผมนอนจมกองเลือดของตัวเองในสภาพที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้

แม้แต่จะหายใจเพื่อเหนี่ยวรั้งชีวิตของตัวเองยังทำได้ยาก สูดลมหายใจเข้ามากเท่าไหร่ก็ไม่พอ อากาศที่หายใจเข้าไปมันทะลุผ่านออกมานอกอกตรงบาดแผลที่มันแทงทะลุปอดของผมไว้

น่าแปลกที่ช่วงเวลาใกล้ตายเต็มทน น้ำตายังคงไหลออกมาได้ไม่หยุด

ตลอดเวลาของการเป็นนักเรียนแพทย์มาหกปี ผมเห็นความตายต่อหน้ามานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะมาหาตัวเองได้ไวขนาดนี้

ผมยังไม่อยากตาย...

ผมยังอยากมีชีวิต...

อยากที่จะอยู่ต่อไปกับอาจารย์...

อยากจะถามอีกสักครั้งด้วยเสียงของตัวเองว่าอาจารย์ไม่รักผมแล้วหรือ..

อยากจะ...มีชีวิตอยู่เคียงข้างกับอาจารย์ตลอดไป....

อาจารย์...ที่ผมต้องปกป้องเขา....

สติของผมดับไปในความมืดที่เหน็บหนาวและโหดร้าย...

และลมหายใจที่พยายามสุดชีวิตเพื่อเหนี่ยวรั้งความมีชีวิตอยู่มันก็หมดลงในที่สุด....

-TBC-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2014 20:22:53 โดย zynestras »

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ไอ่พวกเหี้ย แม่งเลว
คือสงสารซันมากๆๆๆ มาลองคิดๆว่าถ้าไม่ตายแต่ก็คงแย่ไปเลยเหมือนกันดูไอ่พวกระยำทำไว้ดิ

ตอนต่อไปจะเป็นอ่านสองคนนี้ตายแล้วใช่มั้ยคะ
เค้ายอมอ่านอะไรแบบนี้ดีกว่าตอนสะเทือนใจตอนนี้อะ
นี่แบบอ่านผ่านๆสุดฤทธิ์55555555555555

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อ่านแล้วเศร้าอ่ะ สงสารซันมากๆ ไอ้พวกคนชั่วหวังว่าจะจับพวกมันได้นะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
หลงมาอ่านตอน 3 จนได้ เขียนเก่งจน..... อ่านไปจะอ้วกนะครับ...ฮือ... บรรยายโหดมาก ผมยอมซูกฮกให้เลย แต่ไม่ไหวเหลี่ยว....

gife1411

  • บุคคลทั่วไป
โหหหหห บอกตามตรง รับไม่ได้อย่างแรง

มันโหดร้ายมากเกินไปแล้ว :o12:

ทำไมซันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ฮือ

อ่านนผ่านๆ รับไม่ไหว :sad4:

สู้ๆนะคะ ติดตามผลงานค่ะ สนุกมากจริงๆ o13

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
โอยยย สงสารซันมากๆๆ ไอพวกนั้นมันเลวจริงๆ
ไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยายเลย
ซันจะเป็็นไงต่อเนี่ย ขออย่าซ้ำรอยเลยนะ
แล้วไอ้พวกนรกนั่น ขอให้โดนลงโทษแรงๆซะะ กรรมตามสนองแน่ๆ

ออฟไลน์ BExBOY

  • กัญชาเป็นยาเสพติด โปรอ่านฉลากก่อนสูบ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ซาบถึงทรวง :ling1:
อ่านไปน้ำตาปริมๆ เสียใจที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันครั้งสุดท้าย
สุดท้ายขอบอกว่า ไอ้พวกเหี้ย


 :m31:  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด