ตอนที่ 44ชนนน “ฟอดดดด...นนว่าแล้ว ว่าเบสต้องอยู่ที่นี่ ทำไมไม่ปลุกนนครับ นนจะได้ตื่นมาช่วย” ผมเข้าคลอเคลียกระซิบอ้อนสุดหล่อตัวหอมทันที หลังจากขโมยหอมแก้มได้ฟอดใหญ่ ก่อนจะตัดใจปล่อยเอวคนตัวอุ่นในอ้อมกอด เมื่อเห็นว่าเบสกำลังยุ่งกับการเตรียมของตรงหน้า
“กลัวว่าจะมายุ่งมากกว่ามาช่วยน่ะสิ ฮึๆ...ล้อเล่นน่า ไม่ได้ทำอะไรมากอยู่แล้ว แค่หุงข้าวกับอุ่นกับข้าวพวกนี้ แล้วเอาใส่ถุง มันไม่ได้ยุ่งยากอะไร ตอนนี้ก็ทำเสร็จแล้วด้วย เบสก็ว่าจะไปปลุกแม่กับนนให้ลงมาใส่บาตรพร้อมกันอยู่แล้วเชียว” เดี๋ยวนี้สุดหล่อผมขี้เล่นเนอะ ฟังคำพูดคำจาที่เอามาแซวสามีของเบสซะก่อนเถอะ
‘หึ! แต่ผมอภัยให้ก็ได้นี่เห็นแก่เสียงหัวเราะสดใสของสุดหล่อเค้านะเนี่ย’ ดังนั้นพอเบสเอ่ยปากบอกให้ผมยกโต๊ะไปตั้งไว้หน้าบ้าน เพื่อวางของใส่บาตรและให้รอนิมนต์พระนั้น ผมจึงไม่คิดอิดออดแต่ฉวยจังหวะที่เบสหมุนตัวเตรียมเดินออกจากครัวไปปลุกแม่ผกา ฉกจมูกพิสูจน์กลิ่นแก้มเมียอีกฟอดใหญ่ ก่อนผมจะวิ่งตัวปลิวหนีออกมาก่อน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงสุดหล่อโวยวาย นอกไปจากเสียงหัวเราะทุ้มหูน่าฟังลอยตามหลังมาเท่านั้น แสดงว่าเมียรักถูกใจกับการกระทำของผม รู้งี้ผมจับจูบเป็นของขวัญรับอรุณให้เบสซะก็ดี
หากมีใครสงสัยว่าทำไมวันนี้เราถึงตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ผมบอกเลยว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของเบสครับ ทำให้สุดหล่อของผมลุกหนี ทิ้งสามีอย่างผมให้นอนเดียวดาย เพื่อมาเตรียมของใส่บาตรสำหรับเราสามคน ดีนะที่ผมรู้ตัวเร็วจึงตื่นมาเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองเรียบร้อยและรีบตามลงมา แต่ก็ยังมาไม่ทันได้ช่วยอะไร นอกจากการยกโต๊ะมาตั้งหน้าบ้านอยู่ดี แต่ยังดีที่สุดหล่อทำของใส่บาตรอย่างต้มฟักไก่มะนาวและกระดูกหมูอบซอสไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้เช้านี้สุดหล่อไม่ยุ่งยากและเหนื่อยมากนัก
เมื่อวานตลอดทั้งวันผมจึงมีโอกาสตามสองแม่ลูกไปซื้อของทำกับข้าวใส่บาตรสำหรับเช้านี้ และซื้อของสำหรับเตรียมถวายสังฆทานในช่วงบ่าย เรียกได้ว่าทั้งเหนื่อยและมีความสุขครับ ที่ได้ใช้เวลาไปกับแม่ยายและเมียรัก สำคัญที่ได้เพิ่มคะแนนนิยมในตัวผมในสายตาแม่ผกาอีกด้วย ว่าผมนั้นสามารถดูแลลูกชายแม่ผกาได้ แม้ผมจะมีอายุอ่อนเดือนจากสุดหล่อไม่มากนัก แต่ผมก็อยากดูเป็นคนที่พึ่งพาได้ในสายตาของแม่ผกา เพราะในอนาคตอันใกล้ผมได้วางแผนชีวิตสำหรับเราทั้งคู่ไว้แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าแม่ผกาจะอนุญาตให้ตามสิ่งที่ผมจะขอ
สำหรับสุดหล่อเองผมยังไม่ได้บอกถึงแผนการที่คิดไว้ แต่เชื่อว่ายังไงซะเบสก็คงไม่ปฏิเสธ ด้วยทั้งคำพูดและการกระทำที่ผ่านมาของเบส บอกชัดว่าเบสรักผมไม่ต่างจากที่ผมรักเบส ดังนั้นคนรักกันย่อมไม่อยากจะแยกจากกัน ไม่ว่าจะเป็นวันเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน ไม่ต้องพูดถึงระยะเวลาที่นานกว่านั้น เพราะแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ผมไม่มีสุดหล่อเคียงข้าง ความคิดถึงก็เล่นงานหัวใจผมซะย่ำแย่แล้ว ใครจะทนแยกจากกันได้ล่ะจริงมั้ย
ผมรอคู่แม่ลูกเจ้าของบ้านไม่นาน เบสก็เดินประคองแม่ผกาออกมา ผมในฐานะลูกเขยแสนดีจึงทำคะแนนด้วยการเข้าไปประคองท่านอีกข้าง จึงได้รับรอยยิ้มอ่อนหวานจากท่านมาเป็นรางวัล ก่อนผมจะส่งยิ้มหล่อใส่ตาเมียรักที่บังเอิญหันมามองกันพอดิบพอดี และผมแทบละลายเมื่อได้รับรอยยิ้มละมุนหวานตอบกลับมา ‘เช้านี้เมียผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษเนอะว่ามั้ย ไอ้นนล่ะปลื้มใจ’
เรายืนรออยู่ไม่นานพระท่านก็เดินบิณฑบาตมาถึงหน้าบ้าน ผมจึงเข้าไปนิมนต์ท่าน หลังจากนั้นแม่ผกาก็ตักข้าวสวยร้อนๆใส่บาตร ก่อนหันมาส่งยิ้มให้ผมและเบส ได้ช่วยกันใส่กับข้าวที่ถูกมัดไว้เป็นถุงๆตามลงไป ปิดท้ายด้วยการที่เบสหยิบดอกบัวที่เราช่วยกันพับกลีบ โดยที่มีผมจับข้อศอกเค้าประคองไว้อีกชั้น ก่อนเบสจะนำดอกบัววางไว้บนฝาบาตร จนกระทั่งครบห้ารูป พวกเราจึงย่อตัวลงนั่งและยกมือไหว้รับพรจากพระท่าน
“ได้ทำบุญแต่เช้ารู้สึกดีจริงๆ ต่อไปแม่คงต้องตื่นมาใส่บาตรทุกเช้าแล้วสิ...เบส มาหาแม่สิลูก” เมื่อสุดหล่อยิ้มสวยของผมเดินเข้าหาแม่ตัวเอง ท่านก็สวมกอดลูกชายตัวเองไว้แน่น ก่อนจะหอมแก้มเบสฟอดใหญ่ ผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็ได้แต่อมยิ้มไปกับภาพความใกล้ชิดของคู่แม่ลูก
“วันนี้วันเกิดเบส แม่ขออวยพรให้ลูกของแม่จงพบเจอแต่สิ่งดีๆ ผู้คนดีๆ คิดทำสิ่งใดก็จงประสบผลสำเร็จ ภัยร้ายใดๆก็จงอย่าได้กล้ำกรายลูกของแม่นะครับ...แม่รักเบสนะลูก” สิ้นคำบอกรักของแม่ผกา สุดหล่อก็ยกมือประนมและจรดลงบนบ่าบอบบางของท่าน พร้อมคำขอบคุณและบอกรักแม่ตัวเองด้วยเสียงสั่นๆ ก่อนทั้งคู่จะกอดกันกลมท่ามกลางความเงียบ และรอยยิ้มกับคราบน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ
ผมอดน้ำตาซึมไปพร้อมกับคนทั้งคู่ไม่ได้ เพราะเห็นถึงความรักความห่วงใยที่แม่ผกาและเบสมีให้แก่กันได้อย่างชัดเจน ก่อนทั้งคู่จะเหลือบมาเห็นผม และแม่ผกาก็เป็นฝ่ายอ้าแขนเปิดรับผมเข้าไปกอด ไอ้นนไม่มีชักช้าเรียกได้ว่าแทบจะโผเข้าหาเชียวล่ะ
“นน แม่รักน้องนนไม่ต่างจากเบสนะลูก แม่ดีใจที่มีนนเป็นลูกอีกคน ขอบใจที่ช่วยดูแลลูกชายแม่ แม่ฝากเบสด้วยนะครับ” หมายความว่าแม่ผกายกสุดหล่อให้ผมแล้วใช่มั้ย ‘ยะฮู้ๆๆ ไอ้นนดีใจสุดๆ’
“ครับ ผมจะรักและดูแลเบสอย่างดีที่สุด ให้สมกับที่แม่ผกาไว้ใจผม” พูดจบผมยกมือไหว้ท่านที่อก แม่ผกาเองก็ยิ้มรับและลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
ระหว่างนั้นผมได้สบตากับสุดหล่อที่ระบายยิ้มบางเบาและมองมาทางผมอยู่ก่อนแล้ว ส่วนแววตาที่ผมได้สบก็ฉายแววอ่อนโยน และมีแววตาแห่งการยอมรับในตัวตนของผม ไม่ต่างจากคำพูดของคนเป็นแม่เลย ทำเอาผมรู้สึกฮึกเหิมและมีความสุข ที่ได้รู้ว่าคนรักนั้นรักและภูมิใจในตัวผมมากแค่ไหน
ชีวิตนี้ไอ้นนก็ไม่ต้องการใครอื่นอีกแล้วครับ เพราะผมเชื่อว่าคงไม่มีใครมาทำให้ผมมีความสุขได้มากไปกว่าคนตรงหน้าคนนี้อีกแล้ว ผมเอื้อมมือไปกุมทับหลังมืออุ่นของเบส ก่อนกระชับแน่นแทนการย้ำคำพูดที่ผมได้ให้ไว้กับแม่ผกา ว่าผมจะรักและดูแลเบสอย่างดีที่สุด
หลังจากนั้นแม่ผกาก็ชวนเราสองคนเข้าบ้าน ก่อนผมจะอาสาไปซื้อน้ำเต้าหู้หน้าหมู่บ้านมาให้ท่านดื่มรองท้อง สุดหล่อของผมก็ขอตามมาด้วย ผมจึงแกล้งเหล่ตาล้อเลียน ก่อนกระซิบยั่วว่าเดี๋ยวนี้ชักทำตัวติดสามีอย่างผมใหญ่แล้วนะหรือว่าหึงกัน แต่ผมกลับต้องเป็นฝ่ายอึ้ง เมื่อเบสจ้องตาผมนิ่งๆอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกปากยอมรับชัดถ้อยชัดคำ ว่าไม่ใช่แค่หึงเท่านั้นแต่หวงผมมากไม่ต่างกัน แถมด้วยระบายยิ้มหวานหยดเป็นการปิดท้าย เล่นเอาผมหน้าระเบิด ได้แต่ยืนขาแข็งก้าวไม่ออกอยู่ที่เดิม ส่วนแม่ผกาที่ได้ยินลูกชายพร้อมผมนั้น ได้แต่หัวเราะคิกคักส่งสายตาล้อเลียนให้ผมใหญ่เชียว
“นนครับ จะไปซื้อน้ำเต้าหู้อยู่มั้ย เบสอุตส่าห์ตั้งใจว่าจะขี่จักรยานให้ซ้อนนะเนี่ย...เสียดายจัง” ไม่ใช่แค่น้ำเสียงล้อเลียนที่เบสใช้พูดกับผมนะครับ เพราะหน้าตาและแววตาที่ผมเห็นก็ออกแนวหยอกล้อผมไม่ต่างกัน
คุณว่าเดี๋ยวนี้เราสลับบทบาทกันมั้ย แทนที่ผมจะเป็นฝ่ายเกี้ยวให้สุดหล่อได้อาย โชว์แก้มแดงๆหน้าฟัดเหมือนทุกที แต่กลับเป็นผมซะเองที่โดนสุดหล่อต้อนให้อายจนทำตัวไม่ถูกอยู่แบบนี้ แต่! บอกไว้ก่อนเราสลับบทบาทแค่เรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นไม่มีทางเปลี่ยนอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าผมยึดมั่นและเห็นแก่ตัวนะครับ แต่ที่ผ่านมาการกระทำของสุดหล่อบอกชัดว่ามีความสุขกับสถานะที่เป็นอยู่ แถมเดี๋ยวนี้มียั่วให้ผมตบะแตกอีกด้วยน้า ไอ้นนล่ะสุขใจ~
“นน! เกาะเฉยๆสิ จะลูบทำไม เดี๋ยวก็ล้มไปทั้งคู่หรอก” ‘อ่า~ ก็คนมันเพลินอ่ะ’ ได้มานั่งซ้อนท้ายโดยมีเมียรักปั่นจักรยานให้นั่งเนี่ย มันช่างมีความสุขจนล้นอก ไหนจะผิวลื่นๆกลิ่นหอมๆใครจะอดใจไหวว้า
“คร้าบบบ” ผมก็ได้แต่ทำตามคำสั่งของเมียรูปหล่อ ยอมที่จะเกาะเอวเค้าเฉยๆ แต่ขอซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างๆหน่อยแล้วกัน ไม่มีใครสุขเกินชนนนตอนนี้แล้วเว้ย
เบสปั่นจักรยานพาผมมาจนถึงตลาดหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเราก็ได้น้ำเต้าหู้ทรงเครื่องมาสองถุงสำหรับผมและสุดหล่อ กับน้ำเต้าหู้เพียวๆไม่ใส่น้ำเชื่อมสำหรับแม่ผกาอีกถุง พร้อมกับข้าวเหนียวหมูปิ้งสำหรับมื้อเช้า ที่เอาไปเสริมกับต้มฟักไก่มะนาวที่เบสทำเผื่อไว้ และมีขนมครกโบราณเนื้อนิ่มหอมกลิ่นกะทิเป็นของหวานปิดท้าย ก่อนที่ผมจะเหลือบไปเห็นมันเชื่อมของโปรดท่านแม่ พอได้ลองชิมจึงตัดสินใจซื้อไปถุงใหญ่ เพราะมันทั้งเหนียวหนึบและไม่หวานมากเป็นรสชาติในแบบที่แม่อรชอบ แต่พอเหลือบไปทางสุดหล่อ ผมก็ต้องฉีกยิ้มกว้าง
เมื่อเห็นว่าสุดหล่อแทบจะเหมาลูกชุบหลากสี เพียงเพราะผมเปรยว่าเป็นของชอบของพี่กานต์และพี่อ๋อมแอ๋ม และก่อนที่เบสจะเหมาของกินจนหมดตลาด ด้วยหันไปทางไหนสุดหล่อก็นึกถึงว่าคนนั้นคนนี้ชอบและจะซื้อไปฝากซะหมด ผมจึงต้องห้ามไว้ก่อนที่เราจะหิ้วกลับกันไม่ไหว
วันนี้แทนที่เจ้าของวันเกิดจะเป็นฝ่ายได้รับของขวัญ กลับกันเจ้าของวันเกิดกลับนึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง และเป็นฝ่ายหอบหิ้วของชอบมาให้คนบ้านชลาสินธุ์ซะเอง ซึ่งผมคงไม่ต้องบอกว่าสุดหล่อเมียรักจะได้คะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมากมายขนาดไหน เพราะคุณๆคงเดาได้ถูกอยู่แล้ว
เอาเป็นว่าตั้งแต่เรากลับจากการถวายสังฆทานช่วงบ่าย และผมได้พาเบสเข้าบ้านชลาสินธุ์นั้น ผมแทบไม่ได้คุยกับสุดหล่อเมียรักเลย เดี๋ยวคนนั้นชวนคุยคนนี้ถามหาไม่ขาด โดยเฉพาะท่านแม่ครับ เรียกหาแต่น้องเบสๆ พอผมมีจังหวะจะได้คุยบ้าง ท่านแม่ก็ดึงลูกสะใภ้เล็กไปจากอกผม พอผมเตรียมโวยวายก็โดนแม่อรค้อนพร้อมตวัดเสียงใส่
“ตานนนี่ยังไง ปล่อยให้แม่คุยกับน้องเบสบ้างสิ เราน่ะเอาลูกชายแม่ไป ‘กก’ หลายคืนแล้วนะ!” ผมจะงอนหรือจะขำกับคำพูดแม่อรดีเนี่ย
ฟังแรกๆก็น่างอนอยู่หรอกว่ามั้ย แต่พอท้ายประโยคนี่สิทำเอาผมเกือบหลุดขำ ไม่ใช่เป็นเพราะใบหน้าสวยๆที่แสดงออกชัดว่าจริงจังนักหนาในสิ่งที่พูดของท่านแม่หรอกครับ แต่เป็นเพราะใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ในอาการตกตะลึงดวงตาเบิกโพลงทั้งๆที่แก้มแดงก่ำนี่ต่างหากเล่า
ผมจึงได้แต่ปล่อยให้แม่อรได้ใช้เวลากับเมียรักตามสะดวก ก่อนตัวเองจะได้แต่ยอมรับว่าอย่างไรซะ คงไม่อาจเอาตัวเข้าไปแทรกแซงท่านแม่กับเหล่าลูกสะใภ้ได้อย่างแน่นอน
คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เพราะตอนนี้ท่านแม่ที่มีสีหน้าแช่มชื่นกำลังอยู่ท่ามกลางเหล่าลูกสะใภ้ทั้งสาม นอกจากเบสและพี่อ๋อมแอ๋มแล้ว ยังมีพี่เบลล่าสาวลูกครึ่งไทยฮ่องกงใบหน้าสวยเฉี่ยว ผู้เป็นแฟนของพี่ชนะเพิ่มเข้ามาเป็นว่าที่สมาชิกใหม่ของชลาสินธุ์ด้วยอีกหนึ่งคน ซึ่งพี่ชนะไปเจอพี่เบลล่าที่ฮ่องกงตอนไปติดต่อธุรกิจที่นั่น ด้วยพี่เบลล่านั้นเป็นลูกสาวของนายห้างใหญ่ที่ติดต่อส่งสินค้าผ่านทางบริษัทเรา
พี่ชนะเคยบอกผมว่าเห็นพี่เบลล่าครั้งแรกนี่ปิ๊งเลย เพราะประทับใจในความมั่นใจและความฉลาดอย่างสาวสมัยใหม่ของพี่เบลล่า แต่ในความมั่นใจนั้น พี่ชนะเห็นถึงความอ่อนหวานที่ไม่อ่อนแอยามเจรจาธุรกิจด้วย ทำให้ตั่วเฮียผมไม่ลังเลที่จะเดินหน้าจีบ แต่กว่าพี่เบลล่าจะตกลงคบด้วย และกว่าจะมีพี่เบลล่ามานั่งในบ้านชลาสินธุ์ได้อย่างวันนี้ พี่ชนะก็อาศัยความอดทนและความจริงใจเข้าสู้มาไม่น้อย ซึ่งดูท่าแล้วอีกไม่นานต่อจากนี้ชลาสินธุ์คงจะได้มีงานมงคลอย่างแน่นอน
ส่วนคู่พี่กานต์สาวหล่อของผมกับพี่อ๋อมแอ๋ม ไม่แต่งก็เหมือนแต่งไปแล้วล่ะครับ เพราะทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่ต่างจากสามีภรรยาคู่ปกติที่บ้านชลาสินธุ์ จากความเห็นชอบของท่านพ่อและท่านแม่ ยืนยันได้จากพระองค์น้อยบนคอของพี่อ๋อมแอ๋ม ที่มีสีและขนาดไม่ต่างจากของเก่าของคุณย่าที่ท่านมอบให้แก่สุดหล่อ ด้วยท่านแม่ตัดสินใจเช่าพระแก้วมรกตขนาดใกล้เคียงกัน มาเข้ากรอบล้อมเพชรเม็ดเล็ก และมอบให้พี่อ๋อมแอ๋มพร้อมสวมให้เองกับมือ ไม่ต่างไปจากกรณีเบส เท่ากับเป็นการรับสะใภ้เข้าบ้านอย่างเป็นทางการ
ผมยังพูดไม่ทันขาดคำ เมื่อภาพตรงหน้าเหมือนเราได้ย้อนเหตุการณ์ประทับใจเดิมกลับมาอีกครั้ง และยืนยันสิ่งที่ผมเล่าให้พวกคุณฟังได้เป็นอย่างดี ด้วยแม่อรสวมพระองค์น้อยให้พี่เบลล่า ท่ามกลางสักขีพยานของคนบ้านชลาสินธุ์ทุกคน ว่าท่านนั้นยอมรับและจับจองพี่เบลล่าให้พี่ชนะแล้ว
ในคราแรกพี่เบลล่าดูงงๆ ก่อนท่านพ่อจะเป็นคนเฉลย ว่าเหตุใดแม่อรถึงมอบสิ่งสำคัญที่อยู่บนคอระหงของพี่เบลล่า คนสวยของพี่ชนะถึงกับตกใจแก้มแดง มองพี่ชนะอย่างเขินๆ ก่อนพี่ชายผมจะเข้าไปประคองพี่เบลล่าให้นั่งต่อหน้าพ่อกับแม่ และกระซิบให้ว่าที่พี่สะใภ้คนโตของผมก้มลงกราบบนตักของท่านทั้งคู่ ท่าทางเงอะงะเพราะไม่เคยของสาวลูกครึ่ง กลับสร้างความเอ็นดูให้แก่ทุกคนที่เห็น และไม่มีแม้แต่แววตาตำหนิ เมื่อเห็นถึงความตั้งใจของพี่เบลล่าที่พยายามเรียนแบบท่าไหว้ของพี่ชนะ
“แม่ถือว่าเบลล่าเป็นว่าที่สะใภ้ของชลาสินธุ์ไม่ต่างจากอ๋อมแอ๋มและน้องเบสนะลูก เจ้าชนะทำตัวไม่ดีเมื่อไหร่ให้บอกแม่นะคะ เดี๋ยวแม่ให้พ่อพลจัดการให้เอง รู้มั้ยคะคนสวยของแม่” สิ้นคำพูดของท่านแม่ปุ๊บ พี่ชนะนี่ส่งเสียงโอดโอยทันทีเลยครับ มีต่อว่าแม่อรที่ยึดพี่เบลล่าไปเป็นของตัวเอง ด้วยน้ำเสียงออดๆแบบไม่จริงจังนัก แต่หน้าตานี่ตรงข้ามและไม่ต้องบอกว่ามีความสุขมากแค่ไหน เพราะถ้ารอยยิ้มกว้างๆนั่นมันแปรผันตรงกับสิ่งที่เรียกว่าความสุขอ่ะนะ พี่ผมคงสุขใจแทบล้นทะลักแล้วล่ะครับ
แม้รอบตัวจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่มีเพียงคนๆเดียวที่นั่งนิ่งทั้งหน้าทั้งคอแดงเถือก แถมยังหลบตาผมทันทีที่ผมจ้องตาด้วย เล่นเอาผมเพิ่มระดับเสียงหัวเราะแบบไม่รู้ตัว จนพี่ชนะหันมาเขม่นคงนึกว่าผมหัวเราะเยาะในสิ่งที่แม่อรขู่อ่ะดิ แต่ที่ไหนได้ผมน่ะถูกใจกับอาการเมียรูปหล่อต่างหาก ด้วยเบสคงอายและนึกไม่ถึงล่ะครับว่าแม่อรจะพูดออกมาโต้งๆแบบนั้น ว่าท่านนับสุดหล่อเป็นสะใภ้ไม่ต่างจากพี่เบลล่าและพี่อ๋อมแอ๋ม
ผมล่ะมันเขี้ยวอยากเข้าไปงับแก้มงับปากแดงๆของผู้ชายขี้อายหน้าหล่อคนนี้ชะมัด ซึ่งก็ได้แต่มาดหมายไว้ในใจเท่านั้น รอคืนนี้ก่อนเถอะ ผมจะมอบของขวัญแก่สุดหล่อให้สมกับความน่ามันเขี้ยวนี้ให้หมดแรงเลย
..................................................
“ว่าไงมึง พร้อมมั้ย เฮ้ย! ทำไมตัวมึงสั่นๆวะ” ผมอยากจะบอกไอ้ธันว์จังครับว่าที่สั่นนี่คือสั่นสู้ แต่ทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอบมัน และชะโงกหน้าแอบมองคนบางคนจากหลังเวที ยิ่งใกล้เวลาผมยิ่งสั่น
‘อ๋ายยยย ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าไอ้นนคนนี้มันสั่น เพียงเพราะจะได้ร้องเพลงเล่นกีต้าร์เซอร์ไพรส์ต่อหน้าเมียรูปหล่อเป็นครั้งแรก’ ใช่แล้วครับ คุณฟังไม่ผิดหรอกว่าคืนนี้ ผมตั้งใจเซอร์ไพรส์วันเกิดเบสด้วยการร้องเพลงและเล่นกีต้าร์ หากให้ผมไปเต้นบ้าบอต่อหน้าคนเป็นร้อย หรือแม้แต่ให้ไปพูดต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน ผมยังไม่สั่นเท่านี้เลย เพียงแค่จินตนาการไปว่าสุดหล่อมองผมด้วยสายตาคาดไม่ถึง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความปลื้มใจ ยามที่ผมเริ่มดีดกีต้าร์พร้อมร้องคลอเพลงรักไปด้วย แต่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ผมล่ะกลัวว่าตัวเองต้องเจอกับสายตาผิดหวังของเบสจัง หากไอ้สิ่งที่ผมเพียรซ้อมมาไม่เป็นดังที่คาดไว้
คนใกล้ตัวของผมรู้ดีว่าพรสวรรค์เรื่องการเล่นดนตรีของผมน่ะต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดไหน แม้เรื่องร้องเพลงจะพอไปวัดไปวาได้ก็เถอะ แต่พอเอาสองสิ่งที่ไม่ถนัดมารวมกัน ไอ้นนล่ะเพลียจิต แต่ที่ผมคิดเซอร์ไพรส์เบสด้วยวิธีนี้ เป็นเพราะคำแนะนำของไอ้นลินแท้ๆครับ ด้วยผมโดนมันชักจูงจนเคลิ้มว่าหากสุดหล่อได้ฟังผมร้องและเล่นกีต้าร์ สุดหล่อต้องดีใจและถูกใจกับของขวัญชิ้นนี้มากอย่างแน่นอน เพราะไอ้นลินไปสืบมาจากไหนไม่รู้ว่าเบสชอบคนเล่นดนตรีเก่งร้องเพลงเพราะ บวกกับเหตุการณ์ครั้งที่ผมไปส่งสุดหล่อ และเจอเข้ากับรุ่นพี่ในคณะเล่นกีต้าร์ร้องเพลงง้อสาวเข้า ผมจำได้ถึงน้ำเสียงชื่นชมที่เบสใช้เมื่อได้เห็นได้ฟัง ไอ้ผมล่ะอยากเป็นฮีโร่ในใจเมียอยู่แล้วจึงเทใจไปมากกว่าครึ่ง
แต่จุดสำคัญที่ทำให้ผมยอมทำตามคำแนะนำของมัน เป็นเพราะมันดันหว่านล้อมผมว่าถ้าสุดหล่อถูกใจในสิ่งที่ผมทำ เผลอๆสุดหล่ออาจจะตอบแทนความตั้งใจของผมกลับมาเป็นร่างกายก็ได้ อารมณ์นั้นผมก็บ้าจี้ดันเชื่อมัน จนดั้นด้นไปฝึกเล่นกีต้าร์กับไอ้พี่แหนมเกือบทุกวัน แถมผมยังต้องปกปิดความลับนี้กับเบสไว้ด้วย
สุดหล่อเองก็มีทีท่าสงสัยอยู่เหมือนกันนะครับ ผมงี้เหงื่อตกกลัวเบสจะเข้าใจผิด เพราะเจ้าตัวดันดักทางผมว่าไม่ชอบคนโกหก แถมดันขู่อีกด้วยว่าหากผมทำคงรู้ว่าต้องเจอกับอะไร
เฮ้อออ! รู้งี้ไม่น่าเชื่อไอ้นลินเลย ป่านนี้ผมคงไม่ต้องคอยกังวล และคงได้ลั้นลานั่งพะเน้าพะนออยู่ข้างๆเมียรักแล้ว นี่อะไร!? ผมเลยต้องปล่อยให้ไอ้ฟูกับไอ้เด็กบิวได้นั่งประกบเบส เพราะทั้งคู่เป็นหนึ่งในแผนที่ต้องคอยกันเบสไว้ ก่อนที่ผมจะขึ้นเวทีร้องเพลงตามแผน ทุกคนในงานทั้งครอบครัวผม แม่ผกากับอาวิสุทธิ์ เพื่อนผมเพื่อนเบส รู้ถึงแผนนี้กันหมด ก็มีแต่เจ้าของวันเกิดคนเดียวนี่แหละที่ยังไม่รู้
“ขอบคุณสำหรับเสียงปรบมือที่มอบให้นักร้องของเราด้วยนะคะ คนอะไรไม่รู้เนอะเล่นกีต้าร์ก็เก่ง เสียงก็เพราะชวนฝัน แต่จะดีกว่านี้ ถ้า...ไม่ต้องเห็นหน้า ว่ามั้ยคะ” ฟังปากคอของไอ้หญิงซ่าก่อนเถอะครับ ผู้หญิงอะไรปากงี้อย่างกับกรรไกร แต่ก็ทำเอาทุกคนฮากระจายไปกับมุขแซวไอ้พี่แหนมของไอ้นลิน
แม้แต่ไอ้คนโดนแซวเองก็ยังแสยะยิ้มส่ายหัวให้อย่างไม่ถือสา แต่กลับมีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมาจากหน้าเวที
“ไม่จริงครับ พี่แหนมของบิวออกจะดูดี” ไอ้เด็กพันธุ์เตี้ยพิเศษของไอ้พี่แหนมนั่นเองที่ตะโกนขึ้นมา แถมหน้าตาก็ดูจริงจังจนทุกคนเอ็นดูมัน แม้แต่เจ้าแม่นลินยังต้องยอมครับ
“ฮึๆ ค่ะๆ พี่ยอมแล้วค่ะน้องบิว พี่แหนมของบิวหล่อที่สุดล่ะ จริงมั้ยคะทุกคน”
“ฮ่าๆๆ จริงๆๆๆ ที่สุดอ่ะ ไอ้แหนมแฟนมึงนี่สุดยอด ฮ่าๆๆ”
“เอาล่ะค่ะ เราจะให้คุณพี่แหนมได้ลงไปสวีทกับน้องบิวก่อนนะคะ เพราะดูท่าน้องจะงอนพิธีกรของงานแล้วค่ะ ฮึๆ แต่คืนนี้เรายังมีนักร้องอีกหนึ่งคนที่จะขึ้นมามอบความสุข ผ่านเสียงเพลงให้แก่เราทุกคนที่อยู่ในที่นี้ค่ะ และพิเศษตรงที่เค้าคนนี้ ตั้งใจมอบเพลงนี้ให้แก่เจ้าของวันเกิดของเราด้วย...รักแท้แปลว่าเธอ จากชนนนค่ะ”
สิ้นเสียงไอ้นลิน ผมสูดหายใจเฮือกใหญ่สร้างกำลังใจให้แก่ตัวเอง ก่อนจะผ่อนออกช้าๆและเดินออกมาพร้อมกีต้าร์คู่ใจ ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเป่าปาก แต่ผมไม่ได้มองใครเลย นอกจากคนที่ผมตั้งใจร้องเพลงนี้ให้ ซึ่งเบสเองก็จ้องมายังผมตาไม่กระพริบ ด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ผมจำได้ขึ้นใจ พร้อมรอยยิ้มละมุนในแบบฉบับที่ผมหลงใหล
‘*เคยเดียวดายเคยอ้างว้าง เดินลำพังจนท้อใจ ผ่านมาได้ก็เพียงเพราะเธอ
มีเธออยู่ในอ้อมแขนก็อุ่นใจ ไม่ว่าร้ายดี เธอเคียงข้างฉันเสมอ
เธอมาปิดคำว่าเหงา เธอมาเปิดคำว่าเรา ชีวิตฉันเหมือนได้เริ่มใหม่
เธอได้เปลี่ยนให้ท้องฟ้าที่มืดมน ค่อยค่อยสดใส เกินกว่าคำว่าโชคดี ชีวิตนี้ได้พบเธอ
ได้ถูกรักและได้รักเธอ ได้รู้สึกว่าหัวใจที่เขาให้กัน มันเป็นอย่างนี้เอง
แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำเพียงเพื่อตัวเอง ตั้งแต่วินาทีนั้นมา ทุกทุกอย่างที่ฉันทำ ฉันทำเพื่อเธอ
และชีวิตที่เปลี่ยนไป มันยิ่งทำให้ฉันรักเธอ ตั้งแต่วินาทีนี้ไป ฉันขอมีลมหายใจเพื่อเธอเท่านั้น
เพราะสำหรับฉัน รักแท้แปลว่าเธอ...
ในแววตาเธอที่เห็น ในอาการเธอที่เป็น ในทุกทุกเรื่องราวที่ทำ
ไม่ต้องพูดคำว่ารักเลยสักคำ ฉันก็ได้ยิน เกินกว่าคำว่าโชคดี ชีวิตนี้ได้พบเธอ
ได้ถูกรักและได้รักเธอ ได้รู้สึกว่าหัวใจที่เขาให้กัน มันเป็นอย่างนี้เอง
แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำเพียงเพื่อตัวเอง ตั้งแต่วินาทีนั้นมา ทุกทุกอย่างที่ฉันทำ
ฉันทำเพื่อเธอ เพราะเธอเท่านั้น... และชีวิตที่เปลี่ยนไป มันยิ่งทำให้ฉันรักเธอ
ตั้งแต่วินาทีนี้ไป ฉันขอมีลมหายใจเพื่อเธอเท่านั้น
เพราะสำหรับฉัน รักแท้แปลว่าเธอ... แปลว่าเธอ แปลว่าเธอ...’
“รักแท้ของนนแปลว่าเบสนะครับ” ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือ ไม่มีอะไรน่ายินดีสำหรับผมมากไปกว่า รอยยิ้มเจิดจ้าพร้อมพวงแก้มใสที่ขึ้นสีของสุดหล่ออีกแล้วครับ ไม่เสียแรงที่ผมตั้งใจมอบของขวัญชิ้นพิเศษนี้ให้แก่เบส ดูท่าสุดหล่อจะถูกใจไม่น้อยเชียวล่ะ
แม้คืนนี้ผมจะไม่ได้สิ่งตอบแทนในแบบที่หวังไว้ แต่ผมก็มีความสุขที่สุดที่ทำให้คนที่ผมรักทุกคนในที่นี้ยิ้มได้ เพราะทุกคนในนี้มีส่วนทำให้มีคำว่าเราระหว่างผมกับเบส ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกอุปสรรคที่ทำให้ความรักของผมมั่นคงมาจนถึงวันนี้ ผมสัญญาว่าจะดูแลสุดหล่อเมียรักอย่างดีที่สุด และจะไม่มีวันปล่อยมือเบสไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะรักแท้ของผมคือเบสเพียงคนเดียว
“รักนะครับ สุดหล่อของไอ้นน”
.
.
.
.
THE ENDในที่สุด “รักต้องเคลียร์” ก็จบลงด้วยความสุขและรอยยิ้มของทุกตัวละคร
เราในฐานะเป็นผู้แต่งเรื่องนี้ก็หวังว่าคนอ่านจะมีความสุขและมีรอยยิ้มไม่ต่างกันนะคะ
ต้องขอขอบคุณทุกการติดตาม ทั้งยอดวิวยอดเม้นท์และทุกบวกทุกเป็ดที่มีให้กัน
ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ
ฮั่นแน่! อย่าเพิ่งตกใจน้าที่เห็นคำว่า “THE END” แม้เรื่องนี้จะจบแล้วจริงๆ
แต่เราจะนำตอนพิเศษมาให้อ่านกันอีกค่ะ โดยจะมาลงตอนพิเศษแรกให้ในวันพุธหน้า
ส่วนวันอาทิตย์นี้ขอลงเรื่องใหม่ให้อย่างต่อเนื่องค่า หากใครได้ติดตามนิยายชุดนี้
มาตั้งแต่เรื่อง
"รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง" (ธันว์+หลี่ผิง) น่าจะรู้จัก “ฝูหรง & พอล”
และวันอาทิตย์นี้ถึงคราวที่คู่นี้จะมามอบรอยยิ้มให้คุณผู้อ่านแล้วค่ะ
ส่วนท่านใดที่ไม่ได้อ่าน อยากให้ลองติดตามดูค่ะ เพราะไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องรักหวานฯ
ก็สามารถอ่านเรื่อง
“รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ” ได้...ฝากฝูหรงกับพอลด้วยนะคะ
ปล.+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์
Credit : * รักแท้แปลว่าเธอ...บี้ สุกฤษฐิ์
http://www.youtube.com/watch?v=28h1aa2b0V4 
หัวข้อ: *หลุดจอง*{รักต้องเคลียร์} เบส & นน ...The End...[14/10/59] (อ่าน 291721 ครั้ง)
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก