จิระxจิระ
ตอน 34 ทะเลาะ
ผมอยู่ในสภาพบอบช้ำระดับขี้ประติ๋ว ปวดเมื่อยเนื้อตัวแค่ภายนอก หากแต่ภายใน...
“ทำไมกูไม่รู้เรื่องอริชื่อเชษฐ์นี่เลยล่ะ” จิระของผมเอ่ยเชิงถาม
“รู้เรื่องว่า?”
“ว่าไปมีเรื่องตั้งแต่ตอนไหน ทำไมถึงต่อยกัน เพราะอะไร?”
“...” เงียบและเงียบคือคำตอบเพราะไม่อยากพูดความจริง ผมขยับหันข้างให้ดูหัวไหล่แดงโร่แทนคำตอบ
จิระตาคมโผล่เข้ามาในโรงยิมทันเห็นผมกับเชษฐ์กำลังยืนรับการลงทัณฑ์จากรุ่นพี่นักกีฬาทีมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย หัวโจกว่ากล่าวปาวๆ คือพี่ติณ ปี 2 ไม่ใช่พี่เคกัปตันทีม ปี 3 แต่อย่างใด...ดูก็รู้ว่าใครใหญ่
เราคู่กรณีสภาพฟัดกับหมาฝูงใหญ่ เชษฐ์คิ้วแตกมีเลือดซึมย้อยลงหางตา ผมปากแตกมุมปากบวมตุ่ย เอเจ พี่ฮูกและพี่ไข่มุกดึงคนของผมออกไปนอกห้องพักนักกีฬาทันควัน ท่าทางคงเล่าให้ฟังคร่าวๆ บ้างไม่มากก็น้อย
เชษฐ์หมัดหนักสมหน้าตาเข้มโหด เจ็บจริงต่อยจริงเลือดร้อนใช้ได้ คบไว้แก้เครียดน่าจะพอไหว
“ว่ายังไงเล่า!?” ถามผมซ้ำ
“โอ๊ย” แสร้งร้อง
เจอตบเจลยาบนรอยแผลตรงหัวไหล่ดังเปรี้ยงเล่นเอาตัวงอเป็นกุ้งกันเลยทีเดียว แมวตัวนี้มือหนักมากกว่าเชษฐ์เสียอีก
เมียใครวะ
“เวลามีเรื่องล่ะไม่คิด ทีตอนนี้เสือกร้องไม่เป็นภาษาคน จะเล่าไม่เล่า”
“...” ผมเลือกที่จะเงียบรอดูเชิงอีกรอบ ถ้ายังพูดถามจ้อยๆ อย่างนี้ยังไม่ต้องเฉลยหมดก็ได้ เอเจหรือพี่ฮูกคงแค่เล่าเหตุการณ์โรมรันแต่ไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง
ก็น่าอยู่หรอก ใครจะรู้ว่าผมคิดอะไร ใช่ไหม
“งั้นกูโทรถามเหยี่ยวเองก็ได้ มันไม่ตอบล่ะน่าดู” จะหยิบโทรศัพท์มือถือเอาจริงนะนั่น
“หงุดหงิด” ผมเฉลย ใจอ่อนยอมเปิดเผยความนัย
“หา! หงุดหงิดอะไร กับใคร กับไอ้หมอนั่นน่ะนะ” ดูทำตาโตน่ารัก น่าจับหม่ำเหลือเกิน
“ไม่ใช่มัน”
“ไม่ใช่มันแล้วใครที่ไหน?”
จะใครที่ไหนถ้าไม่ใช่จิระตรงหน้าคือเหตุผลสำคัญ
จิระกับจิระเพิ่งมีอะไรกันหมาดๆ แต่เสือกรับโทรศัพท์คนอื่น อยู่ในมหาวิทยาลัยก็ตัวติดกับไอ้อาโปนั่นอีก ตามดูแลไปส่งถึงโรงอาหารก็ดีแต่ปล่อยให้มันถึงเนื้อถึงตัวได้ยังไง
คุณเป็นของผมโจ๊ก ผมหวง พูดปาวๆ แต่ไม่เคยฟัง
เชษฐ์ซวยเพราะผมระงับอารมณ์หงุดหงิดไม่อยู่ แค่นั้นเอง
“อืม ตรงนั้นล่ะ” จงใจตัดบทเลี่ยงไม่ต่อความ ก้มลงเลิกชายเสื้อให้นายพยาบาลดูชายโครงที่ถูกทำร้ายจนเขียวช้ำเรียกคะแนนสงสาร อย่างนี้น่าจะเวิร์กกว่าเห็นๆ
“อูย...ทนได้ยังไงเขียวช้ำซะขนาดนี้ รอยตรงนี้ยาวเชียว โดนอะไรมา รถเข็นลูกบาสแถวนั้นเหรอ?”
“งั้นมั้ง”
“บ้าเอ๊ย มึงมันบ้า...เจฟ” ได้ยินสียงถอนหายยาวแล้วชักสลดเหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้ ความหึงหวงไม่เข้าใครออกใคร
โทษทีว่ะเชษฐ์ มึงเข้ามาถูกจังหวะซวยเอง...ช่วยไม่ได้
...
ผมกับเชษฐ์โดนทัณฑ์บนสองสถาน
1. ถ้าจะไม่เอาก็อย่าโผล่ไปที่ชมรมอีก
2. ถ้าเลือกเล่นบาสเกตบอลทีมมหาวิทยาลัย บทลงโทษคือเบ้ชมรมทั้งเทอม ตั้งแต่เปิดโรงยิมทำความสะอาดสนาม ห้องล็อกเกอร์ยันเก็บกวาดเมื่อจบวัน
เชษฐ์เลือกข้อสองอยู่แล้วเนื่องจากเป็นนักศึกษาทุนนักกีฬาชนิดนี้ ไม่เอาก็ตาย
...
...
ประเด็นนั้นจบง่ายดายด้วยมีพี่ติณคุ้มกะลาหัว ที่ไม่จบคือเสียงสั่นครืดเตือนสายเข้าบันดาลผมฟิวส์ขาดอีกรอบ
(‘ครืดๆๆๆ’)
“ฮัลโหลแฮงค์ มีอะไร โทรมาบ่อยนักวะวันนี้” โจ๊กของผมรับสาย
หมายความว่ายังไง เมื่อเช้าได้ยินขณะอยู่บนรถโฟลค์แช็กกี้ พักเที่ยงเราทานข้าวด้วยกัน นี่ค่ำแล้วยังมีอีกหรือ ไอ้แฮงค์ที่ว่าชักจะสามเวลาหลังอาหารเกินไปล่ะ ในบ้านกู แถมนั่งตัวติดกับกูด้วย บัดซบเอ๊ย!!!
“...ฮึ่ม...!” ผมกัดฟันกรอด ดึงเท้าออกจากพุงเจ้าเจสเตอร์เกรงจะเผลอกระทืบลูกหมาจนไส้ไหล
“เชี่ยล่ะ จะมาหาที่นี่ทำไม พี่เข้าบ้านแล้วไม่ได้อยู่ใน ม./...../ เพื่อนมึงอยู่แถวนี้ก็ช่างเพื่อนมึงซิกูไม่เกี่ยว ไปหาเพื่อนมึงโน่นไป๊”
“ใคร?” วิสาสะเสียมารยาทส่งเสียงถามตรงๆ โต้งๆ
“...เด็กรุ่นน้องตัวควายๆ ที่ซื้อรถวันนั้นไง มันจะจองเพิ่มเลยอยากเจอตัวเป็นๆ” มือบังโทรศัพท์พลางบอกผม
“อ้อ” เก๊กพยักหน้ารับทราบแต่ข้างในเดือดปุด
“เฮ้ย! อยู่หน้า ม. แล้วเหรอ มาถูกได้ไงวะ/...../ ไม่เอาขี้เกียจ ไม่ออกไปหรอก หิวข้าวจะกินข้าว ค่ำแล้วอาบน้ำทำการบ้านนอน”
ชัดล่ะ ไอ้เห้แฮงค์คิดจะเคลมเมียกูชัดๆ
เรียกแกมบังคับให้ออกไปเจอกันด้วย
รู้จักเจฟเฟอร์สันน้อยไปนะมึง!!!
“รุ่นนั้นมีสีเหลือง ดำ โอ๊ย!...อื๊อ! (ผมจับคอตีเข่าดูดคอสร้างคิสมาร์กแรงๆ เร็วๆ เสียงดังจ๊วบจ๊าบ) เชี่ย! เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!”
“...อืม...” ส่งเสียงงึมงำในลำคอดังๆ กะให้อีกฝ่ายได้ยินชัดเจนไม่ต้องพึ่งเซอร์ราวด์
“เฮ้ย! หยุด! ไม่ได้ว่ามึงนะแฮงค์ หมาแถวนี้มันกัดกู โอ๊ย...เจ็บ หยุดซิวะไอ้หมาบ้า” สาละวนหนีผม
ร้องไปเถิดเบบี๋ อยากไม่วางดีนักผมจึงดูดต่อชุดใหญ่ 1,2,3 แดงเทือกรอบคอ สงสารหรือไม่มีทาง ได้ยินเสียงร้องถามพี่โจ๊กเป็นอะไรครับในสายสะใจฉิบหาย
“จุ๊บ! บอกไป หวง” ผมซัดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“หวงเชี่ย หวงใครพูดให้มันดีๆ หน่อย บ้าเอ๊ยคอกูแดงรึเปล่าไม่รู้ แกล้งกูเหรอไอ้ซาดิสต์!”
(“เอ่อ...แฟนพี่โจ๊กเหรอครับ”)
“เออ” ผม
“ไม่ใช่! ไอ้หมาบ้าต่างหากเล่า!” คนของผมตอบเกือบพร้อมกัน
“ไม่ใช่นะ ฮึ่ม!” ผมงับลาดบ่าจนร้องจ๊าก
“อ๊าก! ไอ้บ้า เจ็บ!”
(“แหะๆ ไปไม่เป็นเลยกู ผู้ชายด้วย เหมือนจะฟาลว์”) เสียงหัวเราะแห้งๆ ในสายลอดออกมา
“รู้ก็ดีแล้ว” ติ๊ด ผมแย่งกดตัดสายก่อนโยนมือถือเจ้าปัญหาลงถังน้ำอุปกรณ์ทำแผล ล้างเช็ดเบ็ดเสร็จทีเดียว
“เจฟฟฟฟฟฟ มือถือกู!” โวยลั่นบ้าน
...
ต่อจากนั้นไม่ต้องเดา ผมโดนมวยวัดจัดหลายดอกยิ่งกว่าไฟท์ที่เจอเชษฐ์เสียอีก หมัดแมวน่ากลัวมากครับ
คืนนั้นผมเคาะห้องนอนเล็กตามง้อขอคืนดีทั้งคืน จิระของผมแอบใส่กลอนติดตายไว้กับบานประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เห็นเตียงกว้างในห้องนอนใหญ่แล้วพาเปล่าเปลี่ยวหัวใจ สุดท้ายจึงหอบผ้านวมไปนอนหน้าของเขา
ประสบการณ์หน่วงสุดๆ ครับ
...
...
เช้านั้นผมสะดุ้งตื่นมาเห็นห้องเปิดได้แล้วแต่คนหาย รีบวิ่งลงมาถึงเห็นนักศึกษาร่างสันทัดกำลังจะออกจากบ้านพอดี
“โจ๊ก...”
“...” เงียบ โอยตาย นี่เองสิ่งที่ผมกลัว
“รอก่อนเดี๋ยวออกไปพร้อมกัน”
“...” เขาไม่หันมาแต่หยุดยืนนิ่งไม่ไหวติง
“โอเค รอแป๊บ” ผมย่ามใจรีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว หากทว่าจิระของผมกลับออกไปก่อนแล้ว หน่วงที่สองรับอรุณ
...
...
พักเที่ยงผมตรงดิ่งเข้าคณะศิลปศาสตร์ทันทีที่หยุดคลาส แวะที่ห้องชมรมก่อนไม่เห็นเงาถึงรีบเร่งไปที่โรงอาหารคณะ โทรถามพี่หยกบอกว่าเจอตัวแมวพยศที่นั่น
เป้าหมายนั่งเท้าคางเหม่อลอยเขี่ยข้าวเล่นอยู่กับอาโป ไอ้ทองแดงนี่อีกคน ช่วงนี้ศัตรูเยอะฉิบ
“โจ๊กครับ” ผมเรียก
“อ้าว เจฟฟรี่” อาโปทัก
“อ๋อเหนื่อย ตามควายไปไหนเจฟฟรี่ เรียกก็ไม่หัน จะมานี่ดันไม่บอกกูก่อนวะ เกือบสั่งข้าวให้แล้วนะเนี่ย” เหยี่ยวแซงมาทรุดนั่งเก้าอี้ก่อนผม
“ไงโจ๊ก อาโป แนะนำหน่อยที่นี่อะไรอร่อย” กายตามมาอีกคน เอาเข้าไปไอ้พวกนี้
“เออ หวัดดี ยกโขมงมาถล่มคณะกูนะวันนี้” อาโปทักกาย “ไม่รู้ว่ะ เพิ่งเคยกินนี่แหละ จะไปคณะมึงแต่เพื่อนมึงดึงกูไว้ เสี่ยงดวงเอา ข้าว 1-2-3-4 ร้านน้ำอยู่ตรงนั้น” อาโปคุยกับกายและเหยี่ยว ปล่อยผมมาคุกับตาคมของผมตามลำพัง
“โจ๊กครับ” ทรุดนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพลางเรียกซ้ำ เขาวางช้อนเคร้งก่อนกระชากข้ามไปถามเหยี่ยวไม่ชายตามองผมด้วยซ้ำ
“เหยี่ยว แถวคอนโดมึงมีว่างบ้างไหมวะ หอแถวนั้นก็ได้พอรู้หรือเปล่า”
“ทำไม มีอะไร จะหาให้ใครเหรอโจ๊ก?”
“เปล่า กูจะไปอยู่เอง อยากย้าย”
“เฮ้ย ย้ายทำไม เจฟฟรี่มึงไปทำอะไรมันวะ?” เหยี่ยวหันควับมาขอรับอรรถาธิบายจากผม
“มันไล่ถามหอว่างตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว บังอาจจะไปอยู่กะกูให้ได้ด้วย ถามว่าทำไมก็ไม่พูด” อาโปเผยความลับ “แต่พอดีช่วงนี้ญาติมานอนด้วย เลยนั่นแหละ” อาโปพยักพเยิดเชิงบอกปัด
“เอ๋...” เหยี่ยวเหล่ผมซึ่งกัดกรามอยู่กรอดๆ
“โจ๊กจะย้ายออกจากบ้านเจฟฟรี่เหรอ ทำไมล่ะ มีปัญหาอะไร?” กายสงสัย
“ห้องกูเป็นแบบสตูดิโอไทป์ห้องเดียวเบ็ดเสร็จเหมือนหอพัก แต่ถามนิติคอนโดให้ก็ได้ว่ามีว่างไหม...โอ๊ย!” ผมเตะเท้าเพื่อนใต้โต๊ะจนเหยี่ยวหลุดร้อง OUCH
“...ไม่...เหยี่ยว”
“...ไม่เหรอวะ?”
“...เออ!” ผมกับเหยี่ยวซุบซิบกันเองสองคน
“ถ้ายังไงโจ๊กไปอยู่กับเราก่อนก็ได้ ห้องนอนยังว่างอยู่ห้องนึง” กายเจ้าของเพนธ์เฮ้าส์ชวนเสียเรื่อง ผมอยากฆ่ากายจริงๆ ตอนนี้
“ก็ดี งั้นไปเย็นนี้เลย แค่นี้นะ” จิระของผมลุกพรืดจะจรลี
“เดี๋ยวโจ๊ก!” ผมคว้ามือร่างเล็กกว่าไว้ทัน
“ปล่อย...”
“จะรีบไปไหน กินข้าวก่อน” อาโปร้องท้วง
“ไม่กิน ไม่หิว ปล่อยกูไอ้หมาบ้า!”
“ไม่ปล่อย” ผมเข้าข้างหลังกอดล็อกเอาไว้ เจอกัดข้อมือเข้าให้ “อ๊าซซซ!” ลงเขี้ยวเต็มๆ ฟันคมสุดๆ จนเผลอปล่อยหลุด เหยี่ยวเห็นท่าไม่ดีถึงวิ่งขวางทางไว้ทัน
“โว้! โจ๊กใจเย็น อีซี่แมน”
“กูไม่อีซี่กับมึง หลีก เหยี่ยว”
“ก็ได้ แต่ไม่ต้องไปอยู่กับกายหรอก ไกลตายชัก บ้านมันหวงลูกชายด้วย และกูหล่อ กูรวยสามารถหาห้องให้มึงได้ฟรีๆ เดี๋ยวนี้เลยยังได้” เหยี่ยวกล่อม “นะโจ๊ก ไปเที่ยวกันก่อน เย็นนี้ไงกูอุตส่าห์จองโต๊ะไว้แล้ว เมาก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
“เอางั้นเหรอ”
“เอาน่า กูอยู่ข้างมึงนะ” เหยี่ยวยกมือทำท่าสาบานแต่อีกมือไขว้นิ้วข้างหลังให้ผมเห็น
จิระตาคมหันมาค้อนขวับก่อนสะบัดเดินจากไป ผมทรุดฮวบฟุบลงกับโต๊ะให้พวกแร้งรุมทึ้ง
“ว่ามาเจฟฟรี่” เหยี่ยว กาย อาโปดาหน้ามาหา
...
...
ยอมเผยบางเสี้ยวว่าโจ๊กโกรธที่ผมใช้กำลังกับเชษฐ์จึงไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ไม่เล่าคือเขาทราบแล้วว่าผมโมโหหึงเด็กแฮงค์จนถึงขั้นโยนโทรศัพท์มือถือแช่น้ำ
“555” อาโปหัวเราะ “เหมือนไอ้เชษฐ์เพื่อนกูจะเป็นตัวสร้างปัญหานะว่าไหม”
“ง้อมันเลยมึง ง้อสถานเดียว” เหยี่ยวตบบ่าปุๆ แรงจนตัวเซ
“โจ๊กน่าจะพูดง่ายอยู่หรอก” กายให้กำลังใจ
“แต่กูเพิ่งเคยเห็นภาคมาคุแล้วเงียบ อย่างนี้ต้องจับกรอกให้เมาปลิ้น” อาโป
“แล้วร้องไห้ 555” เหยี่ยว
“อ๋อ จำได้” กาย
แต่ละคนหัวเราะขำล่วงหน้า ส่วนผมกุมหัว...กลุ้มโว้ย!!!
...
...
ผับ...
ผมเข้าไปช้ากว่านัดหมายเกือบครึ่งชั่วโมง มัวแต่เสียเวลาที่ร้านขายมือถือ จิระของผมกรอกแอลกอฮอลล์เข้าปากแก้วแรกก็พูดจ้อได้ตามเดิมที่เคยแล้ว
“มันหายไปไหน เพื่อนมึงน่ะ” โจ๊ก
“หมายถึงใคร เจฟฟรี่น่ะเหรอ” เหยี่ยว
“กูไม่ได้ถามถึงมันซะหน่อย”
“งั้นก็แล้วไป อ้อมาพอดี ใครก็ไม่รู้บ่นถึง กูหูชาเลยเนี่ย” เหยี่ยวยิ้มๆ ลุกเปิดทางให้ผมเข้าไปนั่งแทนที่
“ไม่ได้บ่น” อุบอิบค้อนผมแต่ยอมให้นั่งด้วย
“อ้าว แล้วที่พูดตลอดทางมาตลอดคือด่าใช่ไหม ตกลงคอนโดกูไม่ว่างนะเจฟฟรี่ รับคนของมึงกลับบ้านก่อนคืนนี้”
“ไม่กลับ!”
“โจ๊กเบาๆ” กายปราม
โจ๊กกับเหยี่ยวตะลอนทัวร์ตั้งแต่เลิกเรียน เหยี่ยวหลอกล่อพาไปดูที่พักแถวคอนโดและไปรับส่งที่บ้านแทนผม สองคนนี้ออกมาผับก่อนหน้า ประวิงให้ผมมีเวลาไปหาซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่มาให้
“ไม่เบา ใครจะทำไม มึงก็ดูเป็นคนดีนะกาย แต่ยิ่งรู้จักเรายิ่งห่างไกลกันมากไม่รู้ เพื่อนมึงทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ จะให้สนิทกันบางครั้งต้องเถื่อนบ้างไรบ้าง เช่นกูไง แทงกั๊กวางมาดหล่ออยู่ทำไม กินไม่ได้เข้าใจม้าย!”
“อ้าวๆ ลามปาม” เหยี่ยวดุขำๆ “...มันว่ากายไนซ์กายจนกลัวเกิน คุยปรัชญาความรักความกล้าของเช กูวารา เทือกนั้น” เพื่อนพูดกับผมเบาๆ พอได้ยิน
“อ้อ” ผมรับทราบ
“เสียแรงที่เคยนิยมชมชอบ” จิระของผมไม่หยุดเล่นงานกายง่ายๆ “ตั้งกำแพงไว้ทำด๋อย ชีวิตเราต้องกล้า ลุยเข้าไปลูก อันนี้เจ๊กูบอก ส่วนเฮียพูดว่าไงรู้มั้ย”
“เฮียว่า?” กายเล่นด้วย
“กล้าหาญชาญชัยเข้าไว้แล้วซัดมันเลยไอ้น้อง เอ้า ชน!”
“ครับพี่ ต่อไปผมจะกล้าหาญชาญชัยครับ” กายยิ้มๆ จะชนแก้วกันสองคน
“เฮ้ย ชนแก้วๆ” เหยี่ยวแจมชนเครื่องดื่มดังกริ๊งกร๊าง
“เหยี่ยว...” คนเมาเรียก
“ครับคุณโจ๊ก เรียกผมทำไมครับ” เหยี่ยวเสนอหน้า
“แบ่งๆ ความกะล่อนให้ไอ้กายบ้างนะเว้ย มันป๊อด”
เหยี่ยวเกาหัวบอกกายเป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้ว แบ่งไปคงเสียเปล่า
...
“ปล่อยให้มันไนซ์กายแบบนี้แหละดีแล้ว จะได้ไม่แย่งหญิงกับคาสโนวาอย่างกูไง”
“ไม่เอาดิ มึงห้ามจิ๊จ๊ะกะฟ้าใสของกูนะ ห้าม คนนี้ห้ามเด็ดขาด”
“อ้าวๆๆ ฟ้าใสของกูไหนครับคุณโจ๊ก นั่นเด็กผม” เหยี่ยวเหวอ ผมก็เหวอ
หัดเหล่หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ไอ้แฮงค์คนเดียวยังไม่พอใช่ไหม
“ฟ้าใสของกู นั่นกูเล็งตั้งแต่วันแรกเจอแล้ว โหวตฟ้าใสดาวศิลป์สาดคร้าบ ห้ามยุ่ง ห้ามแย่ง ห้ามเจาะไข่แดงฟ้าใสกูด้วย ไม่งั้นตาย!”
“โอ้ว้าว กลัวจัง” เหยี่ยวทำท่าสยองขณะผมยืนสองมือล้วงกระเป๋าพร้อมกำหมัดแน่น
“ผู้หญิงดีๆ มีตั้งเยอะ มึงเลวเกินไป ห้ามเจ้าชู้เพลย์บอยกับฟ้าใสเด็ดขาด ห้ามๆๆ”
“โห ถ้าฟ้าใสเอากูเองล่ะ”
“ไม่ได้ ห้าม กูพูดไม่ได้ยินเหรอ งั้นเอางี้ กูล่าแต้มมาก่อนเดี๋ยวปรมาจารย์สอนให้”
“แรงจูงใจใช้ได้ โอเครับทราบ สรุปกี่แก้ววะโจ๊ก สงสัย” เหยี่ยวแกล้งถาม
“แก้วเดียวเองจ้า 555 ไงจ๊ะสาวๆ นั่งกับพี่มั้ยเอ่ย”
ชูแก้วพลางหงายหลังทิ้งตัวตูมจมโซฟา เราอยู่ชั้นลอยพื้นที่ค่อนข้างส่วนตัว โซฟายาวรูปเกือกม้านอนเล่นได้ สาวๆ โต๊ะข้างๆ กำลังส่งยิ้มหวานเชื้อเชิญพวกเราอยู่ ผมถอนหายใจแรงพร้อมนับ 1 ถึง 10
“คุยกันเองล่ะกัน ไปเว้ยกาย” เหยี่ยวชวนกายลุกจากโต๊ะ พยักพเยิดจะลงไปแจมพี่ไข่มุกกับเอเจที่แดนซ์อยู่ฟลอร์ชั้นล่าง
“จาไปหนายยยย”
“ไปโทรบอกเลิกฟ้าใส โอเคมั้ย”
“โอเช! กูรักมึงว่ะเหยี่ยว 555”
“เวรเอ๊ย เมาแล้วเรื้อนชิบ...ตามึงแล้วเจฟฟรี่” เหยี่ยวกระแทกไหล่ผมก่อนผละไปขำๆ
...
“พอแล้ว”
“จะกินเหล้า กินให้เมาสวดยอด”
“โจ๊ก...!” ผมแย่งแก้วมาถือไว้เอง ยื่นให้บริกรก่อนโบกมือให้ถอยเหลือแค่เรา ท่ามกลางผู้คนมากมาย แสงสีเสียงเพลงเทคโนดังสนั่นทว่ามีเพียงเรา แค่เขาคนเดียวจริงๆ ที่ดึงความสนใจจากผม...ทั้งหมด
“...” เงียบอย่างนี้ล่ะที่น่ากลัว
“โจ๊กครับ”
“...อึก...!”
“โจ๊ก...คนดี” ผมแทบคุกเข่าอ้อนวอน ทำอย่างไรก็ได้เพียงดวงตาคมคู่นั้นมองมาที่ผมดังเคย
“มึงไม่รักกูแล้วใช่มั้ย”
“ใครว่า”
“กูนี่แหละว่า! หมดรักถึงคิดจะเขี่ยทิ้งกันง่ายๆ แบบนี้เรียกว่าน้ำแตกแล้วแยกทางชัดๆ”
“โจ๊ก”
“ฮือ...บังอาจปล่อยกูตะลอนหาหอกับไอ้เชี่ยเหยี่ยวทั้งวันไม่คิดจะรั้งไว้ซักแอะ เสียใจนะรู้มั้ย บอกมาเลยว่าเลิกกันเถอะยังดีซะกว่า”
“โจ๊ก...ผมคิดว่าคุณอยากไปจริงๆ” เล่นเงียบขรึมไม่มองหน้ากันเลย ผมก็รวดร้าวเป็นเหมือนกันนะครับ
“อยากไปพ่อง! อยู่กับมึงสบายจะตาย เอากันก็มันส์โคตรๆ แล้วทำไมต้องอยากไปด้วย มึงนั่นแหละผิดที่ไม่ยอมห้าม มึงผิดไอ้หมาบ้า!”
“โอ๊ย...!” ถูกแมวคลั่งกัดบ่าจนร้องจ๊าก
...
อยากหัวร่อ ได้ยินเสียงกร๊ดกร๊าดวี้ดว้ายจากผู้หญิงโต๊ะข้างๆ แล้วสะใจเป็นบ้า คนนี้ของกูโว้ย ฮะฮ่า
ผมรัดวงแขนกอดเขาไว้แน่น ฟังประโยคตัดพ้อพร้อมน้ำตารดบ่าเปียกชุ่ม
“กูเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะสัด มาอยู่กับมึงเพราะเลือกที่จะมาอยู่กับมึง ตกลงจะเป็นเกย์ทั้งตัวและหัวใจ เสี้ยมให้เป็นรักแล้วทำไมต้องไล่กันทางอ้อมด้วย ไม่เข้าใจ...อือ...”
“โจ๊กครับ ชู่...คนเก่ง ยกโทษให้ผมนะครับ”
“ไม่! มึงต่อยควายเชษฐ์ไม่ว่า ไม่เกี่ยวกันแต่จุ่มโทรศัพท์กูลงน้ำเพราะไอ้เห้แฮงค์อ่ะ โกรธ”
“ผมขอโทษ ผมหึงคุณ เก็บกดมาทั้งวันเลยระเบิดลง”
สารภาพหมดเปลือก เป็นไงเป็นกัน คิดว่าไม่น่าใส่ใจมากด้วยตาคมหวานเชื่อม เมรัยน่าจะกึ่มๆ พอประมาณ
“ไม่เชื่อ”
“เชื่อเถอะ ผมไปไม่เป็นเพราะคุณ ครั้งนี้ไม่กล้าดึงคุณไว้เพราะกลัวมาก กลัวเกือบตายเลย”
“กลัวกะผีน่ะซิ”
“จริงๆ เมื่อคืนนอนร้องไห้ทั้งคืน ลงทุนเฝ้าหน้าห้องกลัวคุณหายไปตอนดึก ยุงกัดเต็มตัวแถมฝันร้ายอีกเพียบ” ใส่ไข่ บ้านมีมุ้งลวดครับไม่ต้องห่วง
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย ทีตอนฟาดปากเขาทำไมไม่คิด”
“คิด แต่มันคิดไม่ทันไง มือมันไปแล้วถึงนึกขึ้นได้ ความผิดของคุณโจ๊ก คุณทำให้ผมเป็นแบบนี้” ผมโบ๊ยบรรลัยจักร ทุ่มสุดตัวครับงานนี้
“จะเชื่อดีไหมนี่”
“เชื่อเถอะ ครั้งต่อไปจะพยายามไม่มีแล้ว...จริงๆ”
“แค่พยายามเหรอ ต่อไปห้ามใช้กำลัง จะเก็บกดแค่ไหนก็มาลงกะกูนี่ บอกมาเลยตรงๆ ห้ามไปทำคนอื่นเขาเดือดร้อน”
“ไม่รับปาก ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงหยุดตัวเองไม่ได้”
“มัดมือชกกันชัดๆ เลวว่ะ”
“ผมเลวเพราะรักคุณ”
“...” เงียบเว้ย เม้มปากแน่น หน้าแดงก่ำหลบสายตา อาการเขินอายแต่ยังปั้นบึ้ง น่ารักสุโค่ย
“ผมรักคุณ...โจ๊ก”
...บอกทุกวัน
...นิ่งเฉยแค่ไหนก็อยากบอก
...ร่ายเวทย์เพราะอยากให้ได้ยิน
...
“พูดอีก...”
“หือ?”
“บอกให้พูดอีกยังไงเล่า”
“พูดว่าอะไร คำสามคำนี้น่ะเหรอ?”
“ใช่”
“ใช่ไหน? คนที่ผมรักเขายังโกรธผมอยู่ บอกจะแยกบ้านด้วย” ขอเล่นแง่บ้าง อยากได้ยินคำบอกรักสะท้อนกลับมาบ้างเท่านั้นเองฮันนี่
“งั้นวันนี้ไปนอนรังไอ้นกกระจอกดีกว่า”
“ใจร้าย” ผมตีหน้ายุ่ง ตาคมคืนนี้ดุเป็นพิเศษ ซ้ำเขี้ยวเล็บงอกยาวอย่างเห็นได้ชัด เหยี่ยวสอนบทเรียนกำราบผมมาหรืเปล่าไม่รู้ ยิ่งไม่น่าไว้ใจอยู่
“งอนเป็นตุ๊ดเชียว ยกเลิกไม่ไปแล้วแต่ยังงอนอยู่ อยากได้ยินกูรักมึง พูดมาไม่งั้นไม่ยกโทษให้จริงๆ ด้วย”
“โอย เศร้าจัง อุตส่าห์หาของขวัญมาง้อแล้วแท้ๆ ดูนี่ได้อะไรมา ทะด๊า!”
ผมโอ๋เด็กเอาแต่ใจ คว้าถุงมือถือใหม่เอี่ยมมาโชว์ตัวแสบถึงชะโงกหน้ามาดูพร้อมรอยยิ้มกว้าง หึหึ สถานการณ์ค่อยคลี่คลายหน่อย
จัดการประกอบโทรศัพท์แป๊บๆ ก่อนยื่นให้ จิระของผมตาโตรับไปกดนั่นนี่วุ่นวาย ก่อนจะ...
“กูยังโกรธอยู่...เจฟ”
“เฮ้ย! เพิ่งซื้อมา”
ตูม!!! หย่อนมือถือใหม่เอี่ยมลงถังน้ำแข็งแบบเดียวกับที่ผมเคยทำเมื่อเย็น โอ้ บระเจ้าจ๊อด ผมสองมือกุมหัวค่าขนมทั้งเดือนของกู
“โทษฐานที่ไม่ไว้ใจกัน นิสัยเสียหึงเลือดขึ้นหน้าจนชกใครต่อใครเขาไปทั่วแถมมาง้อช้าเป็นชาติอีกต่างหาก”
“โจ๊ก!”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้น...” น้ำตาหยดใหม่ไหลอาบแก้ม
“...” ผมอึ้งรอฟัง
“เผื่อมึงต่อยเขาตาย เผื่อไอ้ควายนั่นมีกรงเหล็กงอกจากนิ้วเหมือนวูฟว์เวอร์รีนแทงมึงตายบ้าง...ไม่มีมึงแล้วกูจะอยู่กับใครเจฟ”
“คนดี...” ผมอ่อนยวบทั้งใจ
...
ท่ามกลางผู้คนมากมายผสมกับสิ่งเร้าหลากหลาย เพลงเทคโนดังสนั่นกับคลื่นความสนุกในงาน หากเราเท่านั้นที่มองตากันนิ่งนาน
“จำไว้ว่ากูเลือกมึงเอง ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น”
ผมควรจะโกรธ โมโห หรือตะโกนไชโยโห่ร้องดี
...เขาปั่นความรู้สึกผมจนหมุนติ้วลอยคว้างเท้าไม่ติดพื้น
...เขายิงลูกกระสุนเงินทะลุตรงกลางหัวใจ
...เขาที่ชื่อ...จิระ
...
...
บ้านเรา...
“ถอดเสื้อก่อน เปื้อน เหม็น”
ดึงร่างเล็กกว่าเข้าห้องนอนแขกชั้นล่าง (ใช้บ่อยจนกลายเป็นห้องนอนลับของเราทั้งคู่ไปแล้ว) จัดการลอกคราบแมวดื้อก่อนดึงลงนั่งลงกับชักโครก ฉีดน้ำพร้อมล้วงมือเบาๆ เตรียมการ รู้ว่าจิระของผมขี้อายเรื่องบนเตียง ผมเองต่างหากที่ยินยอมบริการเขาอย่างเต็มใจ
“อือ...ต้อง ทะ...ทำแบบนี้ทุกครั้งเหรอ”
น่าจะสร่างเมาและรู้ล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ก็ใครบอกจะทำให้ผมมีความสุขไง”
“แต่วันนี้เมา ง่วงด้วย วันหลังไม่ได้เหรอ”
“วันหลังก็ส่วนวันหลัง แต่วันนี้ผมอยากรักคุณเป็นบ้าเลย...นะครับโจ๊ก” อ้อนหน่อยไม่เสียหาย หึหึ หน้าสุกเป็นลูกตำลึงแต้มให้เห็น ไม่หลงก็บ้าแล้วครับยาหยี
ผมจูบเขา เราจูบกัน
...
กดร่างลงบนฟูกนุ่ม โน้มลงหอมแก้ม จูบริมฝีปากดูดกลืนรสชาติในโพรงปากพร้อมๆ สอดนิ้วเคลือบเจลลื่นบิกทาง
“อ๊ะ...เจฟ”
“เจ็บเหรอ”
“อื๊อ มะ...มันเสียว”
“หึหึ” ผมชอบใจ
เพิ่มนิ้วสองสามลึกถึงจุดที่ต้องการ คนใต้ร่างหลุดอุทานพลางโอบแขนคล้องคอ จิกมือลงกับแผ่นหลังจนเจ็บแปลบ
“เป็นของผมนะครับคนดี”
ดูดจูบสร้างรอยแดงที่เนินหน้าอกตำแหน่งหัวใจอีกคน
“เจฟ...รักเจฟ”
ได้ยินคำหวานที่รอคอย
“ผมรักคุณ...โจ๊ก”
บอกรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าขณะแทรกตัวผ่านเพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
...ในค่ำคืนของเรา
*************
มันเดย์

*************
---- nekko 32.5 รู้ด้วยเหรอ โอยยยย รักตายเลยงานนี้
แต่โจกี้บอกลูกผู้ชายไม่กินที่ลับไขในที่แจ้งอ่ะ ทำไงดี
---- greensnake ช่าย สาเหตุลึกๆ เริ่มต้นจากพ่อหนุ่มตาคมนี่แหละ แฮงค์เลยโดนหมายหัวไม่รู้ตัว อ่านทะลุไปไหนคนเน้!
----Tun_Bow รู้จักแฮงค์ของเจนด้วย โว้ๆๆๆ กดบวกและเป็ดเติมให้อย่างว่อง
----The_Dark_lady ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทาย เหี้ยแฮงค์ของเจนยุทธ กับฟ้าใสพี่ของเด็กขาวถูกต้องที่สุด จุ๊ๆ อุตส่าห์จะไม่ลิงค์ถึงแล้วเชียว

ฟ้าใส เคยเอ่ยถึงในลมเหนือ
- ฟ้าใสเล่นไวโอลิน เอกเดียวกับลม สองคนเป็นสายรหัสกัน
เหยี่ยวคุยแค่ครั้งเดียว บอกดีเกินไปเหมาะสำหรับเป็นแม่ของลูก ไทม์มิ่งคือตอนนี้นี่ล่ะ
อ่านพิทักษเทพและฟ้าใส ได้ที่นี่ :-
ลมเหนือ ตอนเลี้ยงสาย (p.184)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20598.msg1538319#msg1538319- แฮงค์ตามจริง ณ เวลานี้สนใจพี่โจ๊กอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน
(แฮงค์ขณะนี้ยังตัวเห้อยู่โข จะเจอเจนในช่วงไฟนอลเทอมสุดท้ายก่อนจบ)
แต่ได้แค่สน 555 คนที่คุณก็รู้ว่าใครขี้หวงมว้ากกกก
พ่อมดตามล้างตามเช็ดแฮงค์-ศาสตราในอีก 2-3 ปีให้หลัง
--- อ่านชื่อแฮงค์ได้ที่นี่ Stoloen Heart ตอนเจนยุทธxศาสตรา (p.5)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38326.msg2422524#msg2422524--- และแฮงค์โดนพ่อมดเชือด ในตอนไส้ศึก (p.7)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38326.msg2427611#msg2427611แฮงค์เข้าล็อกอินไม่ได้ต้องให้กริชช่วย เนื่องจากเจอแฮกเกอร์ชื่อ Wizard Jazz ป่วนเข้าให้
เจฟฟรี่บอกว่า "แค้นนี้ไม่มีวันสาย หึหึ"
นิสัยเก็บแค้นใส่ช่องฟรีซเหมือนใครก็ไม่รู้
