*หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]  (อ่าน 152507 ครั้ง)

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
อิจฉาาาาาาา ดุท่าว่าความหวานของคู่นี้จะไม่มีทางลดลงเลยแม้แต่น้อย หวานเอาๆทุกตอนอ่ะ น่ารักมากๆเลยยยยยยย :mew1: :mew1: แบบนี้ดีแล้ว ไม่ต้องเอามาม่าให้หนักอกหนักใจ อ่านไปยิ้มไปทุกตอนแบบนี้ สบายใจดีค่ะ

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
แม้ไม่ได้อยู่ใกล้ก็ยังตามมากกมากอดกันถึงที่เชียวนะพอล
อีกทั้งยังดูแลดีสุดๆ อย่างนี้กระต่ายน้อยจะกล้าหนีได้ยังไงกันล่ะ
ทั้งหมดที่ฝูหรงทำก็เพื่อจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันมากขึ้นนั่นแหละ
รู้เหตุผลแล้วก็รีบหารางวัลให้คนขยันเขาหน่อยนะ
หรือว่าเตรียมไว้แล้ว เห็นบอกว่านอกสถานที่ด้วย :z1:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ดูแลกันหวานมากค่ะ จงหวานต่อไปนะคะ  :mew3:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 17

โจวพอล

   “เป็นอะไร  ทำไมทำหน้าแบบนั้น  ฝูหรงไม่สบายรึเปล่า”  ผมชะโงกตัวเข้าไปในรถทันทีที่เห็นหน้าซีดๆของคนที่ผมเปิดประตูให้  แต่อุณหภูมิบนหน้าผากนวลก็ไม่แตกต่างจากผมนัก  ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้แก่ผมว่าฝูหรงเป็นอะไร  ทั้งๆที่ก่อนออกจากบ้านก็ยังดูปกติดีอยู่แท้ๆ

“ปะ...เปล่าไม่เป็นไร  เข้าไปกันเถอะ”  ผมขยับตัวให้กระต่ายน้อยลงจากรถ  แต่ตัดสินใจรั้งข้อมือบางไว้  เมื่อได้เห็นสีหน้าของคนที่หลบตาผมไม่ดีขึ้น 

ผมตัดสินใจเปิดประตูด้านหลังของรถและยัดร่างน้อยเข้าไป  ก่อนตัวเองจะตามไปประกบ  พร้อมกอบกุมแก้มใสขึ้น  เพื่อสบตากับคนที่ปิดบังอะไรบางอย่างกับผมอยู่

“ฝูหรงเป็นอะไร  บอกพอลสิ  อย่าโกหกว่าไม่เป็นอะไร  พอลเคยบอกแล้วว่าตากลมๆคู่นี้ของฝูหรงน่ะบอกพอลหมดว่าคิดยังไง  ฝูหรงกังวลเรื่องอะไรครับ”  หลังคำถามคาดคั้นของผม  ฝูหรงเม้มปากแน่นและใช้แววตาไม่แน่ใจจ้องผมไม่กระพริบ  ก่อนจะหลบตากัน 

อาการทั้งหมดนี้ยืนยันได้ว่าผมคิดถูก  จนผมเริ่มคิดหาวิธีการบางอย่าง  เพื่อใช้คาดคั้นเอาความจริงจากกระต่ายน้อยปากแข็ง  แต่แล้วคนที่ผมคิดว่าดื้อเงียบและคงไม่ยอมปริปากง่ายๆ  กลับเป็นฝ่ายพูดออกมา

“ก็แค่กังวลว่าเพื่อนๆพอลจะคิดยังไงที่พอลควงฝูหรงเข้างาน”  ผมถึงกับถอนใจพรืดด้วยความโล่งใจ  ก่อนจะเชยคางมนขึ้นเพื่อให้ฝูหรงหันมาสบตากันอีกครั้ง

“ใครคิดอะไรไม่สำคัญ  เท่ากับฝูหรงคิดอย่างไรต่างหาก  เลิกคิดเลิกกังวลให้หมด  แล้วเปลี่ยนมายิ้มหวานๆให้พอลดีกว่า  ไหนยิ้มสิครับ  ฮึๆ  น่ารักมาก  แต่แบบนี้เค้าเรียกว่าแยกเขี้ยวใส่มากกว่านะครับ...ฝูหรง  พอลจะบอกอะไรให้  ทีแรกว่าจะไม่บอก  เพราะตั้งใจว่าจะพาฝูหรงไปเจอพวกมันทีเดียวเลย  ความจริงไอ้พวกนั้นมันอยากจะทำความรู้จักกับกระต่ายน้อยของพอลจะแย่แล้วรู้มั้ย  แต่พอลนี่แหละที่ยื้อเวลาไว้  ไม่อยากพาฝูหรงไปเจอพวกมัน  เพราะกลัวพวกมันมาหลงเสน่ห์กระต่ายน้อยของพอลเอาน่ะสิ”

“ตกลง  นายน้อยก็รู้เรื่องของเราแล้วสิ!”  ผมหุบยิ้มทันที 

นี่รึเปล่าความกังวลที่แท้จริงของฝูหรง  ‘กลัวไอ้หลี่ผิงรู้เรื่อง!’  หรือก่อนหน้าที่เราจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง  ฝูหรงมีใจให้หลี่ผิงจริงๆ  และตอนนี้ก็ยังคงเหลือเยื่อใยให้มันอยู่

ฝูหรงเห็นปฏิกิริยาของผมก็มีทีท่าร้อนรนทันที  ยิ่งผมแกล้งขยับตัวหนี  ทำท่าเหมือนจะลงจากรถ  เจ้าตัวถึงกลับกระโจนขึ้นมานั่งคร่อมตัก  ในความเร็วที่ผมเองยังตกใจ

“เดี๋ยวๆ  เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”  หากเป็นยามปกติผมคงต้องมีกอดรัดฟัดเหวี่ยง  เจ้าของใบหน้าตื่นๆตาโตๆตรงหน้านี้ด้วยความมันเขี้ยวแล้วล่ะ  แต่นาทีนี้สิ่งที่ผมทำคือจ้องเข้าไปในดวงตากลมๆคู่นั้น  และย้อนกลับด้วยเสียงหนักๆว่าผมเข้าใจผิดเรื่องอะไร 

วันนี้เรื่องหลี่ผิงต้องเคลียร์สักที  แม้ลึกๆผมจะค่อนข้างมั่นใจว่าหัวใจทั้งดวงของฝูหรงเป็นของผมทั้งหมด  และเจ้าตัวก็รักผมมากอยู่  แต่ฝูหรงอาจจะยังเหลือความชื่นชมหลงใหลในตัวหลี่ผิงอยู่บ้าง  ซึ่งผมไม่ชอบความรู้สึกนั้น  ด้วยเหมือนมีเสี้ยนหนามเล็กๆที่ชื่อหลี่ผิงคอยทิ่มแทงอยู่ตลอด  ยิ่งเราเป็นเพื่อนสนิทกัน  บวกกับหลี่ผิงเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับฝูหรง  ผมยิ่งอยากเคลียร์ความรู้สึกของคนรักของตัวเองให้ชัดเจน  เพี่อให้แน่ใจว่าผมเป็นทั้งหมดของฝูหรงในทุกเรื่องจริงๆ  ซึ่งใครจะเหน็บแนมว่าผมขี้หวงและเอาแต่ใจก็ได้  ในเมื่อผมรักของผม  ผมก็อยากได้ทั้งหมดของคนๆนั้นเป็นของตัวเอง  ทั้งตัวและหัวใจ

“ฝูหรงไม่ได้ชอบนายน้อย!  พอลกำลังคิดแบบนั้นอยู่ใช่มั้ยเล่า!  อย่างที่เคยบอกว่าแค่ชื่นชม  ในความรักและการแสดงออกของนายน้อยที่มีต่อคุณธันว์เท่านั้น  ที่กังวลก็แค่กลัวว่านายน้อยและคุณไรอันกับคุณโจเซฟ  จะรังเกียจฝูหรงที่เป็นแค่เลขา  แต่ดันกลายมาเป็นคนรักของพอล  พาลจะอคติกับพอลไปด้วยน่ะสิ  ที่สำคัญฝูหรงหนักใจตรงที่เป็นแค่เลขาของนายน้อย  กลัวว่านายน้อยจะคิดว่าฝูหรงไม่เจียมตัว  พาลคิดว่าฝูหรงไม่เหมาะกับพอล” 

น้ำเสียงตื่นตระหนกแต่แรกด้วยกลัวว่าผมไม่ยอมอยู่ฟังเจ้าตัว  ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นออดอ่อยในท้ายประโยค  พร้อมใบหน้าน่ารักๆนั่นก็ดูสลดสอดคล้องไปกับถ้อยคำที่สื่อถึงความกังวลใจ  ผมถอนใจพรืดใหญ่ให้กับพ่อกระต่ายน้อยช่างคิดมาก  และเป็นฝ่ายเปลี่ยนมาประคองแก้มกลม  แทนมือเล็กๆที่ตกลงข้างตัวทันทีที่เจ้าของพูดจบ

“คิดมากจริงๆ  พอลยืนยันได้ตรงนี้เลย  ว่าไม่มีใครคิดแบบที่ฝูหรงคิดแน่นอน  เพื่อนสนิทที่เรียกว่ายอมตายแทนกันได้แบบพวกมัน  มีแต่ยินดีสิไม่ว่าที่พอลเจอคนที่พอลรักและเค้าก็รักพอล  ไม่มีใครในพวกมันรังเกียจฝูหรงหรอก  แม้แต่หลี่ผิงที่ยังไม่รู้เรื่องของเราเองก็เถอะ  พอลก็เชื่อว่ามันต้องยินดีไปกับเราทั้งคู่  เลิกคิดมาก  และเข้าไปสนุกในงานกันดีกว่านะครับ” 

ผมส่งยิ้มจริงใจใส่ตากลมๆที่ทอประกายสดใส  พร้อมส่งกล่องของขวัญใบไม่เล็กไม่ใหญ่ที่เราไปเลือกด้วยกัน  สำหรับเจ้าของงานวันเกิดในวันนี้ให้ฝูหรงถือไว้  ด้วยดูจากแววตาคู่สดใสตรงหน้า  พบว่ากระต่ายน้อยพร้อมที่จะควงคู่เข้างานกับผมแล้ว  ด้วยคงเข้าใจและเลิกคิดมากตามที่ผมชักจูง  ซึ่งผมเองก็สบายใจที่เห็นคนรักกลับมายิ้มได้ดังเดิม  ไหนจะเรื่องหลี่ผิงที่เปรียบเป็นเสี้ยนหนามเล็กๆกลางใจก็ถูกบ่งออกจนหมดอีกด้วย

ดังนั้นนาทีนี้คู่ควงควบตำแหน่งเจ้าของหัวใจ  จึงเดินตีคู่ให้ผมจับจูงด้วยใบหน้าอิ่มเอิบสบายใจ  เข้างานฉลองวันเกิดของน้องนลินหนึ่งในเพื่อนสนิทของน้องธันว์  ซึ่งงานนี้คนรักของมาเฟียใหญ่ลงแรงจัดงานให้เพื่อนสนิทด้วยตัวเอง  แม้เราจะเข้างานช้าไปนิดเพราะมัวแต่ปรับความเข้าใจกัน  แต่เมื่อเราเหยียบย่างเข้างานก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของงานวันเกิด 
เป็นไปตามที่ผมบอกฝูหรงว่าไม่มีใครคิดรังเกียจเจ้าตัวสักนิด  มีแต่พยายามสร้างไมตรีด้วย  เพราะพื้นฐานฝูหรงเป็นคนขี้อายไม่ค่อยพูด  ทุกคนรอบตัวเราจึงใส่ใจเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะเด็กน้อยของมาเฟียใหญ่ที่มีโอกาสเมื่อไหร่  มักจะส่งคำถามสื่อถึงความเอาใจใส่ให้ฝูหรงตลอด  จนกระต่ายน้อยช่างคิดมากของผมยิ้มไม่หุบ  พาลให้หลี่ผิงเขม่นฝูหรงที่ขโมยความสนใจของน้องธันว์ไปจากตัวเอง 

ไอ้มาเฟียขี้หวงคนนี้  แรกเห็นผมกับฝูหรงเข้ามาพร้อมกัน  มันก็แค่มองด้วยแววตาแปลกใจนิดหน่อย  แต่ไม่ได้ทักอะไรจนผิดสังเกต  ก่อนจะวางตัวปกติเหมือนรับรู้ความสัมพันธ์ของเลขาของตัวเองกับผมอยู่แล้ว  หรือแม้แต่เจ้าของวันเกิดและคู่รักนนกับเบสเอง  พยายามสร้างมิตรภาพกับฝูหรงด้วยความจริงใจ 

แต่มาหนักตรงน้องนลินนี่แหละครับ  ที่มีวิธีทำความรู้จักกับฝูหรงแบบแปลกๆ  แม้ปากจะเอ่ยทักแต่สายตาคู่สวยกลับวิบวับเหมือนรู้อะไรๆดีหนักหนา  ทำเอากระต่ายน้อยของผมได้แต่เงียบและยิ้มแก้มแดงตลอดเวลา  แม้จะถูกใจในอาการของคนรักไม่น้อย  แต่ผมก็อดเห็นใจไม่ได้  จึงหันไปวานพี่อู๋ให้พาฝูหรงไปเข้าห้องน้ำ  ด้วยไม่อยากให้คนรักเขินจัดพาลขยาดไม่กล้ามาด้วยกันอีก 
หลังจากนั้นสาวสวยเจ้าของวันเกิดก็ยังแซวผมไม่เลิกเรื่องเลือกของขวัญ  จนผมจุดประเด็นขึ้นแบบไม่ตั้งใจ  ไปเรียกขานฝูหรงว่าเป็นเลขาของหลี่ผิง  ผลก็คือเจ้าของตัวจริงของหลี่ผิงอย่างน้องธันว์สวนขึ้นมาทันที  เด็กน้อยเตือนผมไม่ให้เติมคำแสดงความเป็นเจ้าของแบบนั้น  เพราะหลี่ผิงน่ะเป็นของเจ้าตัว  ทำเอาเงียบไปทั้งวง 

พอน้องธันว์รู้ตัวว่าหลุดพูดความในใจออกมาก็เขินตัวแดงไปไม่เป็น  แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะบรรดาเพื่อนสนิท  เหมยอิง  ไม่เว้นแม้แต่ผมกับโจเซฟยังโห่แซวเจ้าตัวด้วยความเอ็นดู  ไอ้หลี่ผิงนี่ยิ้มตาพราวอย่างถูกใจที่โดนคนรักหวงแบบไม่ทันตั้งตัวเข้า  แต่ยังมีแก่ใจเอาใจคนรักตัวน้อยด้วยการหันมาปรามพวกเรา  แถมด้วยการเตะขาผมกับไอ้ไรอันใต้โต๊ะอีกคนละที  ซึ่งคู่รักหนุ่มหล่ออย่างนายนนนายเบสคงสงสารเพื่อน  จึงหันไปชวนน้องธันว์ออกไปร้องคาราโอเกะหนีสายตาคนรอบตัว

แขกในงานนี้นอกจากบรรดาเพื่อนสนิทกลุ่มเจ้าของวันเกิดและกลุ่มของเราแล้ว  ตอนนี้ยังขาดไอ้โจเซฟอีกคน  เห็นน้องนลินว่ามันกำลังเตรียมของขวัญมาเซอร์ไพรส์อยู่จึงขอมาช้าหน่อย  ยังมีบรรดาเพื่อนๆในคณะที่สนิทของนลินด้วย  แม้แต่น้องสาวฝาแฝดของหลี่ผิงอย่างเหมยอิงก็มา  ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่ากับใครเป็นคนพามา  แต่คงพอเดาได้ว่าเป็นใครถ้าไม่ใช่ไอ้ไรอัน  ด้วยไรอันคงใช้อภิสิทธิ์เจ้าของสถานที่อย่าง  I-Oke  อาสาพาคุณหนูตระกูลหวางมาที่งานด้วยตัวเอง 

งานนี้คงไม่ต้องบอกว่ามาเฟียขี้หวงจะเขม่นใส่ว่าที่น้องเขยมั้ย  เรียกว่าเขม่นทุกครั้งยามที่ไอ้ไรอันคอยแทคแคร์เหมยอิงต่อหน้าต่อตามันเลยทีเดียว  แต่ยังดีที่หลี่ผิงไม่ทำอะไรออกนอกหน้า  คงเห็นแก่ความเป็นเพื่อนและความจริงใจของเพื่อนสนิทนั่นเอง 
ผมก็ได้แต่กระตุกยิ้มใส่ตาไรอันแทนการส่งกำลังใจให้มัน  ยามที่มันเหลือบตามาทางผม  หลังจากที่ตีสีหน้าออดๆ  อ้อนใส่ว่าที่แฟนอย่างน่าหมั่นไส้

“Chic!!  อ๊ายยย...Chic จริงๆด้วย  กรี๊ดดด  อเล็กซ์  ลีโอ  ซีอาร์  Chic  ตัวจริง  กรี๊ดดด”  เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของเพื่อนสนิทหน้าเข้มเคราดกอย่างไอ้โจเซฟ  และกลุ่มนักร้องบอยแบรนด์อย่างวง  Chic 

ดูท่าแล้วของขวัญที่น้องนลินว่าไอ้โจเซฟจะหามาให้  คงเป็นการพานักร้องดังในค่ายมาเอนเตอร์เทนในงานวันเกิดนี่เอง  ซึ่งดูท่าของขวัญชิ้นนี้จะถูกใจเจ้าของวันเกิดไม่น้อยเลย  เพราะเสียงกรี๊ดของน้องนลินนั้นดังกว่าใคร

ระหว่างการแนะนำตัวของนักร้องดังและกลุ่มเจ้าภาพอย่างเรา  โดยมีโจเซฟเป็นคนแนะนำนั้น  จากปลายสายตาผมเห็นฝูหรงเดินกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง  จึงปลีกตัวเดินมารับคนรักถึงที่  ก่อนจะคว้าข้อมือบางมาจับไว้  ร่างน้อยสะดุ้งทันทีมีเตรียมสะบัดออก  แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผมคนน่ารักถอนใจเฮือกใหญ่  ก่อนจะยื่นมือมากุมทับหลังมือข้างนั้น  พร้อมเงยหน้าส่งยิ้มตาปิดมาให้ด้วยความโล่งใจ 

แต่ฝูหรงจะรู้มั้ยว่าทำให้คนที่ได้รับรอยยิ้มนั้นอย่างผม  แทบหยุดหายใจและอยากจะอุ้มเจ้าตัวกลับบ้านซะนาทีนี้เลย  แต่สิ่งที่ผมทำคือลดใบหน้าลงเพื่อก้มกระซิบข้างใบหูหอมๆนั่น

“กระต่ายน้อยรู้ตัวมั้ยว่ากำลังยั่วพอลอยู่”  ผมกระตุกยิ้มข้างใบหูขาวที่ขึ้นสีระเรื่อคาตา  ก่อนจะแอบเม้มมันเบาๆด้วยความมันเขี้ยว  และไม่คิดรอฟังคำตอบ  แต่เลือกที่จะจูงเจ้าของข้อมือน้อยให้ออกเดิน 

ผมเห็นเต็มตาว่าคนน่ารักของผมแก้มและใบหูแดงแจ๋  มีเม้มปากแน่นและไม่กล้าแม้แต่จะสบตากัน  ทั้งๆที่ผมเพียรส่งสายตาให้ตลอดทาง

เมื่อผมพากระต่ายน้อยกลับมายังกลุ่มเพื่อนๆอีกครั้ง  ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกตินัก  เมื่อสังเกตได้ถึงปฏิกิริยาของคนรอบตัว  และลอบสบตากับเพื่อนสนิทอย่างไอ้ไรอัน  ที่มันบุ้ยใบ้ไปยังหลี่ผิงที่โอบน้องธันว์ไว้ไม่ห่างตัว  โดยที่คนโดนกอดนั้นหน้าบึ้งจัด  และจ้องไปยังหนึ่งในนักร้องดังอย่างไม่พอใจ 

แม้ผมจะไม่รู้ที่มาที่ไปทั้งหมด  แต่ก็พอประเมินได้ว่าเสน่ห์ของมาเฟียใหญ่  คงไปกระแทกตานักร้องหน้าใสเข้าอย่างจัง  และทำให้อีกฝ่ายกระทำการบางอย่าง  จนว่าที่นายหญิงแห่งหวางหย่งกังออกอาการอย่างที่เป็น  ดูท่างานนี้คนที่เคยเป็นแต่ฝ่ายหึงหวงสะบัด  จะเป็นฝ่ายโดนกระทำคืนบ้างแล้ว

“พอล  นายน้อยกับคุณธันว์...”  ผมส่งยิ้มพร้อมส่ายหน้าให้กับเจ้าของน้ำเสียงเล็กๆ  ที่เขย่งตัวยื่นหน้ามากระซิบข้างหู  แม้ไม่ได้เห็นแววตากังวลคู่ตรงหน้า  ผมก็พอเดาออกว่าฝูหรงคิดอย่างไร

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ  เชื่อสิว่าหลี่ผิงจัดการได้”  สิ้นเสียงผมเท่านั้น  ทุกเสียงกระซิบกระซาบรอบตัวพลันเงียบลง 

เมื่อมาเฟียใหญ่สร้างโลกส่วนตัวกับคนรัก  ด้วยการหันไปซับเหงื่อให้น้องธันว์แบบไม่สนใจสายตาใคร  ยังไม่หมดเท่านั้น  มาเฟียใหญ่ยังวาดลวดลายด้วยการยื่นหน้าเข้าเกือบชิดใบหน้าแดงๆของคนรัก  พร้อมจุดรอยยิ้มที่มุมปากอย่างอ่อนโยน  ใส่ตาคู่กลมที่จ้องมันไม่กระพริบคู่นั้นด้วย 

เหตุผลหลักของหลี่ผิงคงทำเพื่อตัดปัญหา  และตั้งใจประกาศตัวอย่างชัดเจน  ถึงความสัมพันธ์ของตัวมันเองกับน้องธันว์ต่อหน้าทุกคน  โดยเฉพาะคนที่มีทีท่าสนใจในตัวมันนั่นเอง  ซึ่งการกระทำนี้ของหลี่ผิงไม่ทำให้ผมแปลกใจเท่าไหร่  เพราะเหมาะสมกับตัวตนของหวางหลี่ผิงที่ผมรู้จักแล้ว  ‘มั่นคง  ชัดเจน  ตรงไปตรงมา’

บรรยากาศหวานๆรอบตัวของคู่รักตรงหน้า  แผ่กระจายอบอวลจนทุกคนสัมผัสได้  ยิ่งกระต่ายน้อยขี้เขินของผมยิ่งแล้วใหญ่  ด้วยฝูหรงจ้องทั้งคู่ด้วยตาโตๆไม่มีกระพริบ  แถมแก้มใสก็ขึ้นสีจัดจนน่ากลัวว่าจะแตกได้ทุกเมื่อ  ที่สำคัญฝูหรงดันหันกลับมาเหลือบตา  จ้องหน้าผมด้วยแววตาสะเทิ้นอาย  ก่อนจะตวัดมองยังริมฝีปากผมแวบหนึ่ง  และเสหลบตาไปมองเพียงอกเสื้อของผมไม่ยอมสบตากันอีกเลย  ยังไม่เท่านั้นผมยังแอบเห็นลิ้นเล็กๆแลบเลียริมฝีปากแดงๆชั่วเสี้ยววินาทีด้วย

ผมเห็นอากัปกิริยาเหล่านั้นก็ตีความได้แล้ว  ว่าคนน่ารักกำลังคิดอะไรและจินตนาการถึงเรื่องไหนอยู่  ซึ่งความคิดนี้แหละที่ทำให้ความยับยั้งชั่งใจของผมที่มีต่อกิริยาน่ารักๆ  และความช่างคิดช่างจินตนาการของกระต่ายน้อยหมดลง  ‘คนอะไรไม่รู้ช่างน่ารักแถมขี้หื่นแบบไม่เก็บงำ’  ผมลองแกล้งสะกิดและส่งสายตาหยอกเย้า  แถมด้วยการพยักพเยิดไปทางคู่หวานหวังให้ได้อาย  กระต่ายน้อยดันตีสีหน้าขึงขังเข้าใส่ด้วยแก้มแดงแจ๋  พาเอาผมใจสั่นไปหมด

เมื่อเห็นว่าหลี่ผิงพาเด็กน่ารักหลบไฟริษยาของนักร้องดัง  ไปนั่งยังโต๊ะเดิมของพวกเราแล้ว  ผมกระตุกข้อมือน้อยให้ออกเดินหลบออกจากกลุ่มคนในงาน  ท่ามกลางความมึนงงของคนแก้มแดงที่ก้าวเท้าตามผมมาติดๆ  และทิ้งสถานการณ์วุ่นวายของเพื่อนสนิทไว้ข้างหลัง  ด้วยเชื่ออย่างมากว่าระดับว่าที่นายใหญ่หวางหย่งกังสามารถจัดการปัญหาเล็กๆนี้ได้ด้วยตัวเอง  ส่วนผมขอจัดการความรู้สึกมันเขี้ยวในอกที่มีต่อกระต่ายน้อยช่างยั่วนี่ก่อนเถอะ

“พอลพามาห้องน้ำทำไม  เอ๊ะ!...[ปึง!  แก๊ก]...อ๊ะ!  อื้ออออ”  หลังจากดันร่างน้อยเข้ามาในห้องน้ำห้องในสุดได้  ผมรีบปิดประตูตามหลังทันที  ก่อนเข้าประชิดตัวและก้มหน้าปิดปากเล็กๆที่เตรียมโวยวาย  เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมฉกลิ้นเข้าหาลิ้นนุ่มนิ่ม  และดูดกลืนความหวานให้สมอยาก

คราแรกร่างน้อยเกร็งตัวต้านสัมผัสผม  แต่เป็นอยู่ได้ไม่นานก็ตัวอ่อนระทวยพร้อมครางเสียงอู้อี้คาปาก  เมื่อผมจงใจดูดลิ้นเล็กๆเต็มแรงและขยำก้นกลมทั้งคู่  พร้อมรั้งร่างบางเข้าหาอก  ก่อนจะสลับตำแหน่งโดยใช้แผ่นหลังตัวเองผิงไปกับบานประตู  และใช้แผ่นอกรองรับร่างน้อยที่ซวนซบเข้าหา

“พอลทนไม่ไหวแล้ว  ฝูหรงผิดที่ยั่วพอล”  ผมกระซิบเสียงพร่าและแหย่ลิ้นใส่รูหูน้อยๆของคนที่หอบตัวโยนจากฤทธิ์จูบยาวนานของเรา  พร้อมสอดมือลูบไล้ผิวเนียนแถวเนินสะโพก  และจงใจแหย่นิ้วผ่านรอยแยกอุ่นๆ

“แฮ่กๆ...อ่ะ  อ่า  พะ...พอล~  ใส่ร้าย  อึก  งานล่ะ”  ฝูหรงมีอาการตัวอ่อนเสียงพร่าตาเยิ้ม  และจ้องมายังผมไม่กระพริบ  ปฏิกิริยาเหล่านี้บ่งบอกได้หมดว่าคนน่ารักมีอารมณ์ร่วมไปกับการชักนำของผมแล้ว  แต่เจ้าตัวยังอุตส่าห์คิดจะแก้ตัวและเป็นห่วงงานเลี้ยงข้างใน

“ช่างสิ  ตอนนี้ฝูหรงมารับผิดชอบพอลก่อนดีกว่านะ”  จบคำผมคว้ามือขวาของฝูหรง  ตะปบลงบนกลางลำตัวของตัวเอง  ทำเอาคนน่ารักสะดุ้งแก้มแดงจัด  พยายามชักมือหนี  ก่อนจะก้มหน้างุดจนผมเห็นแต่กลุ่มผมดำขลับ  ยามที่ผมเบียดสะโพกเข้าหาฝ่ามือน้อยๆข้างนั้น  พร้อมสอดปลายนิ้วทักทายรอยแยกด้านหลังเบาๆ

“อ่า  พอล~”  ไม่ต้องแปลกใจไป  ว่าทำไมคนน่ารักถึงครางเรียกผมเสียงแผ่วหวิว  พร้อมบดเบียดร่างน้อยเสียดสีไปกับร่างกายส่วนหน้าของผม 

ใครจะทนได้เมื่อจุดอ่อนไหวทั้งบนและล่าง  อย่างยอดอก  แก่นกาย  และซอกหลืบอุ่นๆ  ถูกปลุกเร้าไปพร้อมกัน  ทำเอาผมได้ใจลงลิ้นพร้อมขยับมือทั้งคู่ให้เร็วขึ้น  ตั้งใจเร่งส่งคนน่ารักให้ถึงฝั่ง  ด้วยรู้แก่ใจว่าสถานที่ไม่เหมาะเท่าไหร่  อาจจะมีคนเข้ามาได้ทุกเมื่อ 

ยังไม่ทันไรก็มีเสียงเปิดประตูและเสียงคนเดินดังขึ้น  กระต่ายน้อยที่อารมณ์เตลิด  ถึงกลับสะดุ้งและเกร็งร่างหนีสัมผัสผมทันที

“ชู่ๆๆ  ไม่เป็นไร”  ผมยื่นหน้าไปตะล่อมกระต่ายน้อยขี้ตื่นชิดริมฝีปากสีสด  ก่อนจะกดจูบปิดกั้นเสียงที่เตรียมปฏิเสธ  พร้อมเร่งขยับมือกระตุ้นอารมณ์หวิวให้ร่างน้อยอีกครั้ง  สุดท้ายผมก็ได้กลืนกินเสียงครางหวานๆไว้กับตัว 

ผมรอจนแน่ใจว่าไม่มีแขกที่ไม่รับเชิญอีกแล้ว  จึงปล่อยริมฝีปากหวานให้เป็นอิสระ  ก่อนหันมาชิมผิวชื้นๆแถวซอกคอ  และขยับรั้งความอุ่นร้อนในอุ้งมือให้อ่อนตัวลง  เมื่อแน่ใจว่ากระต่ายน้อยเริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเองดีแล้ว  ผมจึงพลิกและผ่อนร่างบางให้นั่งลงบนฝาชักโครก  ก่อนจะเชยคางมนขึ้น  เพื่อส่งสายตาสื่อความนัยใส่ดวงตาหวานเยิ้ม  ที่ยังคงคั่งค้างอารมณ์แห่งความปรารถนา

“ช่วยพอลหน่อยนะครับ”  ผมยกยิ้มกว้างใส่ดวงตาคู่กลมที่มีแววสะท้านและเต็มไปด้วยความเข้าใจ  ก่อนจะรั้งหัวทุยเข้าหากึ่งกลางลำตัว

“อืมมม  ฝูหรงดีมากเลยครับ  อ่าๆ  กระต่ายน้อย~”  ถึงคราวที่ผมต้องครางผะแผ่วบ้างแล้ว  ด้วยความนุ่มนิ่มของเรียวลิ้น  และความอุ่นชื้นของโพรงปากเล็กๆ  แต่ทรงประสิทธิภาพ

แม้ผมอยากจะขยับสอยสะโพกสวนทางโพรงปากอุ่นที่มอบความสุขให้  แต่ผมต้องยับยั้งชั่งใจไว้  ด้วยรู้ว่าขืนผมหักโหมเอาตามแต่ใจ  กระต่ายน้อยที่แสนน่ารักของผมคงได้คอแตกเจ็บตัวได้  จึงได้แต่อดใจและปล่อยให้เจ้าตัวเค้าวาดลวดลายได้เต็มที่  พร้อมซึมซับความสุขสมที่คนรักตั้งใจมอบความสุขให้อย่างเต็มความสามารถ 

เรื่องความเก่งหรือเทคนิคไม่ต้องพูดถึง  เพราะฝูหรงออกจะเงอะงะไปด้วยซ้ำ  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะเพียงแค่คนน่ารักตามใจและเต็มใจทำให้  ผมก็เต็มตื้นและมีความสุขได้อย่างที่สุดแล้ว  จึงไม่ต้องแปลกที่ผมจะปลดปล่อยออกมาเร็วกว่าที่เคย  แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะรั้งใบหน้าคนรักขึ้น  ก่อนจะคว้ามือนุ่มมาช่วยขยับรั้งความแข็งขืนกลางตัวเพื่อปลดปล่อย  พร้อมก้มจูบริมฝีปากนุ่มเพื่อปิดกลั้นเสียงครางของตัวเอง

“อืมมมม...พอล~”  ผมไล้ปากและจมูกเข้าที่มุมปากเจ่อๆ  ก่อนจะไล่งับมาตามแก้มร้อนๆ  และจบที่หน้าผากมนด้วยการจรดริมฝีปากไว้นิ่งๆ

“ขอบคุณครับที่ตามใจพอล  รักนะครับกระต่ายน้อย”

...................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อะไรยังไงนี่คู่นี้  ข้างนอกออกจะมาคุ  แต่ดันหนีมาสวีทวี่วีในนี้   o18
แต่ก็อย่างที่พอลบอกฝูหรงแหละเนอะ  ว่าหลี่ผิงจัดการได้อยู่แล้ว
นายพอลเลยถือโอกาสหื่น  เอ้ย!  หวานนอกสถานที่กับกระต่ายช่างยั่วเสียเลย
เป็นกำไรคุณผู้อ่านไปเนอะ   :laugh:

ตอนหน้าตามอ่านความหวานได้ต่อค่ะ  แต่จะมีตัวป่วนที่2ออกมาแล้ว
ใบ้ให้ว่าเป็นผู้หญิง  จะเป็นใครลองเดาดูน้า
ติดตามพอลและฝูหรงได้ในวันเสาร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.สามารถติดตามเหตุการณ์เดียวกับตอนนี้ในมุมหลี่ผิงได้นะคะ
แปะไว้เผื่อคนที่เคยอ่านแต่ลืมไปแล้ว  และสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านแต่สนใจ

• รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง "ประกาศรัก"

 :pig4:  :กอด1:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
หวานกันไม่แคร์สถานการณ์ด้านนอกเลยนะ


ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ฝูหรงน่ารักจนอดใจไม่ไหวใช่มั๊ยพอล คิคิ >.<

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
จัดหนักทุกที่ทุกเวลาจริงๆเฮียพอล

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
«ตอบ #429 เมื่อ18-08-2014 14:13:33 »

แหม กระต่ายน้อยของพอลก็แอบหื่นเหมือนกันนะเนี่ย เขินนนน~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
« ตอบ #429 เมื่อ: 18-08-2014 14:13:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ต้องบอกหื่นนอกสถานที่มากกว่านะ  :z1:   พอลจัดหนักจัดเต็ม

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
กระต่ายน้อยก็หื่นเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ THE KOP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
หวานกันได้ทุกที่จริงๆสำหรับคู่นี้ ก็แน่ล่ะ..กระต่ายน้อยของพอลน่ารักตลอดเวลานี่นา ชอบเวลาที่ฝูหรงอ้อนพอลเวลากลัวพอลโกรธอ่ะ :mew3: :mew3: มันแสดงให้เห็นถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้ต่อกัน ไม่น่าเชื่อว่าเลขาผู้เงียบขรึมของหลี่ผิงเวลาอยู่กับคนรักจะขี้อ้อนขนาดนี้ เอาหวานๆแบบนี้เยอะๆน๊าาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เอร๊ยยยย ><
ขอกรี๊ดพอลก่อนสำนึกผิด...
คือแบบว่า...ไม่ได้เม้นท์นานมากกกก
เค้าขอโทษษษษ ไม่ได้แตะคอมอย่างว่างๆ นานแล้ว
อ่านทุกสิ่งระหว่างเดินทางตลอดเลยอ่ะ เม้นท์ในมือถือไม่ฟินนัก พูดเลย ^^
แต่พอเจอตอนนี้เข้าไป...แทบตะกายมาเปิดคอมเม้นท์ไม่ทัน

คือว่า...จะเปลี่ยนสถานที่ก็ให้มันกว้างหน่อยมั้ยคะ คุณพอล
แต่ก็นะ...ไม่ต้องใช้ความกว้างเท่าไหร่นี่เนอะ ฮ่าๆ
แอบสงสารกระต่ายน้อย ยิ่งขี้เขินอยู่ ^^

เข้ามาส่องความหวานน่ารักแล้วจากไปตามทางเดิม...
ยังอ่านอยู่ทุกตอนนะ แค่ไม่ปรากฏตัวเท่านั้นเอง แหะๆ
ก็เม้นท์จากมือถือมันไม่ไวนี่นา...ป้าเซ็งอ่ะ บ่องตง ^^v

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
กรี๊ดดดดดดดด

ต่ายน้อยยยยย ยั่วมากกกกก

เป็นแล้วอยากฟัดเลยอ่ะ

นาทีนี้ไม่สนสถานที่แล้วสินะ คึคึ

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ตายแล้ววว หวานและหื่นไม่แคร์สถานที่กันเลย  :-[

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
หวานตลอดดดดดดดดดดดดดดดด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พอลเนี่ยหาเรื่องฟัดกระต่ายน้อยได้ทุกเวลาเลยนะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ข้างนอกวุ่นวาย แต่ข้างในหวานฉ่ำ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
แอบมาสวีทหวานกันสองคนซะงั้น
 :mew3:

ตัวป่วนที่2 ผู้หญิงซะด้วย จะเป็นใครหว่า??
จะเป็นกิ๊กเก่าพอล?
หรือยัยป้ามิสเคอหลานอะไรนั่นนะ ที่ลิสต์นางไว้เป็นตัวอันตรายคนนึงเลยนะนั่นน่ะ


ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
มีคนเอาแต่ใจ แต่ก็มีคนตามใจนี่น่าอิจฉาจังเลยน๊า
อยากจะกัดจะงับแก้มกระต่ายแบบพอลบ้างจะได้ไหม
รู้สึกมันเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูก :hao7:

ออฟไลน์ Der Adler

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +126/-0
หวานแบบไม่สนใจสถานการณ์เลยคร้าาาาา....คู่นี้ o22 o22 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
อะไรคือ นอกสถานที่ ตาพอลลลล หื่น :hao6:

แต่อ้างว่ากระต่ายน้อย ยั่วตลอดๆ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 18

เจินฝูหรง
   
“ฮึๆ  เสน่ห์แรงนะนายน่ะ”  ผมเหลือบตามองคนพูดนิด  พลางกระตุกข้อมือคืน  แถมด้วยการลงเล็บเข้าที่หลังมือ  แต่ไอ้ลูกครึ่งหน้าคมก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยข้อมือกันง่ายๆ  จนผมเริ่มทำอะไรไม่ถูก  เมื่อสายตาเกือบสิบคู่หันมาให้ความสนใจเรา  ไม่เฉพาะคนที่พอลหยอกเย้าด้วยอย่างนายน้อยหลี่ผิง 

นาทีนี้ผมจึงได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาเหล่านั้น  ด้วยรู้สึกว่าแก้มร้อนฉ่า  และได้แต่ปล่อยเลยตามเลย  ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะฮึฮะเบาๆจากนายน้อย  ผมจึงยิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง  จนพอลแตะมือเข้าที่หลังเอวส่งสัญญาณให้ผมขยับตัว  เพื่อนั่งลงยังเก้าอี้ตัวที่ว่าง  ขณะเดียวกันนั้นผมต้องหันไปรับแก้วเครื่องดื่มจากพี่อู๋  ที่นำมาเสิร์ฟให้ผมกับพอล  ผมถึงมีโอกาสถอนใจอย่างโล่งอก  เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครส่งสายตาล้อเลียนให้อีกแล้ว 

การกระทำของผมไม่รอดพ้นสายตาของไอ้ลูกครึ่งจอมหื่น  คนที่เพิ่งจับผมฟัดในห้องน้ำมาหมาดๆ  ด้วยพอลส่งสายตารู้เท่าทันมาให้  แรกที่เห็นผมชะงักนิดหน่อยกับแววตากรุ้มกริ่มคู่นั้น  ก่อนจะรีบปรับตัวด้วยการยู่หน้าและถลึงตาปราม   แต่ผมกลับจ้องตาแพรวพราวอยู่ได้ไม่นาน  ต้องเสก้มจิบเครื่องดื่มในมือ  ยามภาพความทรงจำในห้องน้ำเมื่อสิบนาทีก่อน  ลอยเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ 

ผมขอสารภาพเลยว่านาทีนั้น  อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลใดๆ  แม้จะกังวลกลัวใครมารับรู้พฤติกรรมที่แสนน่าอายของเราแค่ไหนก็ตาม  แต่ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นก็ทำเอาผมเคลิ้มยอมตามใจจนสุดทางอยู่ดี  ยามที่ผมมีสติและสามัญสำนึกเต็มร้อยเช่นนี้  ผมจึงเฝ้าตำหนิตัวเองไม่ได้  ที่ดันยอมตามใจคนรักในที่สาธารณะเช่นนั้น  ขืนมีใครมารับรู้เข้า  ผมก็ไม่รู้ว่าจะแบกหน้าออกไปพบเจอใครได้อีก

“ที่กงอินจัดการเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย  ตกลงใครเป็นตัวการ”  ผมหูผึ่งทันทีกับประโยคคำถามของคุณโจเซฟ 

คำถามนี้ถูกส่งให้นายน้อยหลี่ผิงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม  บวกปฏิกิริยาของพอลและคุณไรอันที่ตีสีหน้าจริงจังไม่ต่างกันเข้าไปอีก  ทำเอาผมที่กำลังจิบน้ำส้มในมือต้องเกร็งตัวตาม  และพอเดาได้ว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีนักกับโรงแรมในกงอินที่สร้างใกล้เสร็จแล้วอย่างแน่นอน  แต่จะเป็นเพราะใครนั้นผมก็สุดรู้ 

ผมจึงพลอยกังวลไปด้วยไม่ได้  เพราะโรงแรมในกงอินนั้นใกล้เสร็จเต็มที  สำคัญที่นายน้อยตั้งใจเตรียมห้องหนึ่งในนั้น  มอบให้คนรักอย่างคุณธันว์ด้วย  ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าหากโรงแรมในกงอินเสียหายหนัก  จนต้องเลื่อนงานเปิดตัวออกไป  ไอ้คนที่เป็นตัวการจะโดนอะไรบ้าง  ด้วยพอเดาได้จากสายตาดุดันของนายน้อยในยามนี้

นายน้อยเองมีเหลือบตาไปมองคุณธันว์นิด  เมื่อเห็นว่าคุณธันว์กำลังคุยอย่างออกรสกับคุณหนูเหมยอิงและเพื่อนอย่างคุณเบสแล้ว  จึงรีบเล่าแบบรวบรัด  ก่อนตัดจบด้วยการหันมาถลึงตาใส่พอลที่เตรียมซอกแซกถามลงในรายละเอียด  ทำเอาผมถึงกับกลั้นขำในท่าทางชะงักค้าง  มีเผยอปากเตรียมส่งคำถามออกมานั่นของพอล  แม้ผมจะยังตกใจกับข่าวคราวที่เพิ่งได้รู้  ว่าโรงแรมในกงอินถูกลอบวางเพลิงก็ตาม  ภาพตรงหน้าเรียกว่าหมดมาดเจ้าพ่อรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งวงการอสังหาฯไปเลยทีเดียว 

พอลเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจในเจตนาของเพื่อนสนิทที่ไม่อยากให้คนรักไม่สบายใจ  ยอมปิดปากไม่ถามต่อความ  แต่ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นดันแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม  ยามหันมาเห็นว่าผมอมยิ้มเหลือบตามองกิริยาเจ้าตัวผ่านปากแก้ว  แต่แล้วผมก็ต้องเป็นฝ่ายไม่สบอารมณ์  เมื่อได้ยินประโยคหยอกเย้ากระซิบชิดใบหู  และทำผมลืมนึกถึงกิริยาใกล้ชิดเกินจำเป็นของเราไปเสียสนิท

“อย่าบอกรักพอลผ่านสายตาแบบนั้นสิครับกระต่ายน้อย”  คนอะไรขี้ตู่เข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด 

ผมได้แต่ฮึดฮัดเข้าใส่เจ้าของใบหน้าคมเข้มที่กำลังระบายยิ้ม  แต่ยิ่งผมทำท่าไม่พอใจมากเท่าไหร่  รอยยิ้มที่จุดอยู่ตรงมุมปากกลับขยายกว้างมากขึ้นเท่านั้น  จนผมต้องเป็นฝ่ายหลบตาคู่แพรวพราว  และได้แต่ก้มหน้าหลบตาทั้งๆที่แก้มร้อนฉ่า  บวกเข้ากับยามหันมาเห็นสายตาหยอกเย้าอีกสามคู่ของบรรดาเพื่อนสนิทของพอลเข้า  ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าผมกับพอลถูกจับตามองจากพวกเขา  ตั้งแต่เราเริ่มสร้างโลกส่วนตัวแบบไม่รู้ตัวเข้าแล้วล่ะ

“ฮึๆ  เห็นมั้ย  เชื่อพอลรึยังกระต่ายน้อยว่าไม่มีเพื่อนคนไหนของพอลจะรังเกียจฝูหรง  ออกจะเอ็นดูกระต่ายน้อยของพอล  มากจนเกินพอดีไปด้วยซ้ำ”  ผมได้แต่ยิ่งกดคางลงที่อก  ยามได้ยินประโยคดังกล่าวของพอล

ทุกคนสนุกไปกับงานอย่างเต็มที่จนเกือบค่อนคืน  ผมก็ได้ระบายยิ้มเต็มหน้าเป็นครั้งแรกของคืน  เพราะรู้สึกชื่นชมและยินดี  ไปกับภาพแห่งความประทับใจของเพื่อนสนิททั้งสาม  ที่ประกอบไปด้วยเจ้าของวันเกิดอย่างคุณนลิน  คุณธันว์และคุณนนช่วยกันเป่าเค้กก้อนเดียวกัน  ท่ามกลางเสียงเพลงอวยพรวันเกิดโดยมีนักร้องวง  Chic  ทั้งสามเป็นต้นเสียง 

แม้ผมจะซาบซึ้งและเต็มตื้นไปกับสายสัมพันธ์ของเพื่อนแท้ทั้งสาม  แต่อดไม่ได้ที่จะสะท้อนใจไปกับชีวิตตัวเอง  ด้วยผมนั้นไม่มีเพื่อนแท้แม้แต่คนเดียว  เพื่อนที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุข  คอยแบ่งปันเสียงหัวเราะและน้ำตาของกันและกันเหมือนกับกลุ่มคนตรงหน้าเลย

หากเป็นช่วงห้าปีที่ผ่านมา  ช่วงที่ผมไม่มีเจ้าของมือใหญ่ผู้ที่กุมมือผมขณะนี้  ถ้าผมได้มาเห็นภาพแห่งความประทับใจของเพื่อนสนิทเช่นยามนี้แล้วล่ะก็  ผมคงรู้สึกแย่และน้อยใจในโชคชะตาไม่น้อย  แต่ยามนี้ผมมีเพียงความอิจฉาเล็กๆเท่านั้น  เพราะความรู้สึกแย่ๆที่น่าจะเกิดกับผม  ถูกความรักความเอาใจใส่ของพอลปัดเป่าไปจนหมด 

ผมที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ  เมื่อคนที่อยู่ในความคิดกระซิบชิดริมหู  พร้อมลมอุ่นๆที่เป่ารดแถวข้างแก้มผะแผ่ว

“อยู่เป็นเพื่อนน้องธันว์กับเพื่อนๆตรงนี้นะครับ  พอลกลับไปรอที่โต๊ะนะ”

“อืม”  ผมรับคำแค่ที่ลำคอ  แต่อดใจไม่ไหวที่จะเหลียวหลังกับไปมองแผ่นหลังกว้างผึ่งผายด้วยความภาคภูมิใจ  ทั้งๆที่มือต้องคอยส่งจานเพื่อใส่เค้กชิ้นที่คุณนลินตัดแบ่งแล้ว

“พี่ฝูหรง...พี่ฝูหรงคะ  เฮ้ย!  ฟู่ๆๆ  ดีที่จับไว้ทัน  ฮั่นแน่...แอบมองตามหลังแฟนนี่เอง  คิกๆ  อิจฉาคนมีแฟนจังน้า  แต่น่าจะบอกให้อีกฝ่ายรู้มากกว่า  ไม่ใช่แค่แอบมองแล้วทำตาเยิ้มแบบนี้  ดูท่าจะหลงมากเลยนะเนี่ย  จริงมั้ย  ฮุๆ”  ผมที่ตกใจจนเกือบทำจานเค้กในมือหล่นพื้น  ต้องเปลี่ยนมาเป็นเขินจัดกับถ้อยคำรู้ทัน  และสายตาหยอกล้อของสาวสวยเจ้าของวันเกิด 

แต่ดูท่าประโยคดังกล่าวจะไม่ได้มีผลต่อผมคนเดียวซะแล้วล่ะ  เพราะคนมีแฟนที่มีอาการดังกล่าวยืนอยู่ตรงนี้อีกตั้งสามคน  อย่างคุณเบสหนุ่มมาดเนี้ยบหน้าใสหล่อจัดแบบหาตัวจับยาก  จุดยิ้มมุมปากแก้มขึ้นสีน้อยๆไม่กล้าสบตาใคร  และทำเป็นยุ่งกับการลำเลียงจานเค้กที่ถูกตัดแล้ว  ส่งให้บรรดาเพื่อนคนอื่นๆที่อยู่รอบตัว 

ผิดกับหนุ่มมาดเข้มหล่อคม  ผู้เป็นคนรักที่มีรอยยิ้มกว้างขวางเป็นเอกลักษณ์อย่างคุณนน  ที่นาทีนี้รักษาคุณลักษณะเด่นดังกล่าวอย่างเหนียวแน่น  ด้วยการฉีกยิ้มกว้างและมองคุณเบสด้วยดวงตาระยิบระยับเต็มไปด้วยความรัก  ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผมและคนพูดอย่างไม่หวั่น  ทำเอาคุณนลินถึงกับหัวเราะลั่นถูกใจไม่แพ้กัน  แต่กิริยาดังกล่าวกลับทำให้เพื่อนสนิทอีกคนที่เหลือออกอาการหมั่นไส้  ทั้งๆที่แก้มแดงแจ๋กว่าใครจนน่าหยิกเบาๆด้วยความน่าเอ็นดูนักเชียว

“เหอะ!  รู้ดีไปแล้วนลิน  กูขอให้มึงมีแฟนเร็วๆ  แล้วหลงแฟนจนมีอาการหนักกว่าพวกกู  เพี้ยง!”  ไม่ใช่แค่ผมที่ขำกิ๊กกั๊กกับอาการยกมือท่วมหัวเป่าลมออกจากปาก  ด้วยสีหน้าจริงจังประกอบคำพูดของคุณธันว์เท่านั้น 

เรียกได้ว่าทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนที่มาร่วมงานก็มีอาการเดียวกัน  ไม่เว้นคุณนลินที่ไม่ถึงกับหลุดขำ  แต่ก็ระบายยิ้มกว้างเหล่ตามองเพื่อนอย่างอารมณ์ดี

“ขอบใจสำหรับคำอวยพรของมึงนะเด็กน้อย  รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าบอกความในใจออกมาให้พวกกูรู้จนหมด  ยอมรับแล้วสิ  ว่าหลงเฮียกูจนถอนตัวไม่ขึ้น  ฮ่าๆ  แต่ไม่มีทางซะล่ะ  อย่างกูนี่มีแต่อีกฝ่ายจะต้องหลงกูสิไม่ว่า  ฮุๆ”  ผมออกจะเห็นด้วยกับคำพูดเธอไม่น้อย  ด้วยหน้าตาสะสวย  นิสัยร่าเริง  และฉลาดเป็นกรดอย่างคุณนลิน  ผมเชื่อหากมีใครมาตกหลุมรักคงได้หลงเธออย่างปากว่า

“ฮึๆ  พูดไป  ธันว์  กูว่าลุ้นให้มันมีแฟนก่อนดีกว่ามั้ย  เพราะผู้ชายรอบตัวที่เคยมองๆไอ้นลิน  ต่างบ่ายหน้านี้ไปหมดแล้ว  ฮ่าๆ”  ประโยคนี้ของคุณนนเรียกเสียงหัวเราะได้ครืนใหญ่  แต่ทำให้เจ้าของวันเกิดหุบยิ้มฉับ

“ไอ้นน!!  หยุดหัวเราะเลยนะ  พวกมึงด้วย  มึงสองคนนี่ยังไง  อ้าว!?  พี่เบสพี่ฝูหรงก็เป็นไปกับมันด้วย  หึ้ย!”  ดูท่าคุณนลินจะงอนเข้าจริงๆแล้วครับ  แต่ก็เป็นไปไม่นานเมื่อสองเพื่อนสนิทต่างเข้าไปง้องอน  แถมยังมีประเด็นร้อนเข้ามาแทรก  ชนิดที่ว่าเรื่องหยอกเย้าระหว่างเพื่อนเลือนหายไปในพริบตา

“เฮ้ย!  เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น  ทำไมซีอาร์ทำท่าจะมีเรื่องกับมิสเตอร์หวางด้วยล่ะ  ธันว์  นายเข้าไปดูหน่อยมั้ย”  เป็นประโยคของหนึ่งในเพื่อนร่วมคณะที่คุณนลินเชิญมาร่วมงาน  และคงไม่ต้องมีใครบอกซ้ำ  คุณธันว์ก็ก้าวเข้าหากลุ่มคนดังกล่าวทันที  โดยมีเพื่อนสนิททั้งสองและมีผมกับคุณเบสก้าวตามไปไม่ห่าง

จนกระทั่งมาถึงกลุ่มคนที่ประกอบด้วย  คุณไรอัน  คุณโจเซฟ  และไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อของผม  โดยทั้งหมดยืนเยื้องออกมาด้านหลัง  เหมือนเป็นกองหนุนให้นายน้อยและคุณหนูเหมยอิง  ที่กำลังยืนเผชิญหน้ากับนายซีอาร์แห่งวง  Chic  มองผ่านๆเหมือนนายนักร้องหน้าใสจะโดนรุม  พาลให้เรานึกสงสาร  แต่ถ้อยคำที่ได้ยินแว่วๆก่อนหน้า  ทำให้ผมไม่คิดแม้แต่จะเห็นใจ  ด้วยนายนั่นสารภาพว่าชอบนายน้อย  ทั้งๆที่ก็เห็นอยู่ว่านายน้อยมีใครเป็นเจ้าของหัวใจ  นอกจากคนตาบอดใจบอดเท่านั้นที่ไม่เห็นการแสดงออกเปิดเผยของนายน้อยที่มีต่อคุณธันว์

“ไอ้นี่มันหาเรื่องชัดๆ  ไม่รู้อะไรควรไม่ควรซะแล้ว  หึ!  น่าสงสาร”  ผมเงยหน้าผ่านปลายคางเขียวๆ  ขึ้นไปมองสีหน้าแววตาของพอลก็ให้นึกขยาดแทนนายซีอาร์  เพราะผมพอเดาออกว่านายนั่นจะต้องเจอกับอะไรบ้าง  ด้วยคนที่มีรักมั่นคงอย่างนายน้อยคงไม่ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อ  จนเป็นเหตุให้มาทำร้ายจิตใจคนรักได้หรอก

ผมไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหน  ยามที่แปลความหมายในคำพูดของพอลได้  จนกระทั่งพอลก้มหน้าลงมองผมด้วยแววตาประหลาดใจปนตกใจเล็กๆ  ก่อนจะระบายยิ้มบางเบามาให้  พร้อมไล้หลังมือผ่านข้างแก้ม

“หน้าตาตื่นหมดแล้ว  กระต่ายน้อยอย่ากังวล  ปล่อยให้หลี่ผิงมันจัดการเอง  พวกไม่รู้จักคิดก่อนพูดต้องเจอของจริงบ้าง”  ผมได้แต่พยักหน้ารับช้าๆ  ก่อนจะโดนรั้งเอวเข้าประชิดตัวคนพูด 

พอลโอบผมจากด้านหลัง  จนแผ่นหลังสัมผัสกับแผ่นอกกว้าง  และยังไม่ทันตั้งตัวดีนัก  จมูกโด่งก็โฉบลงบนหัวผมแบบผ่านๆอย่างรวดเร็ว  ระหว่างที่ผมได้แต่อมยิ้ม  เพราะรอยอุ่นจางๆที่เกิดขึ้นในอกก็ต้องอึ้ง  กับคำพูดตรงไปตรงมาที่ดังขึ้นของคนที่กำลังได้รับความสนใจจากคนทั้งงาน

“เลิกคิด  เลิกหวังซะ...ดูไว้ซะ  คนนี้คือคนที่ฉันรัก  และความรักของเราก็ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน  ถ้าไม่มีคนในอ้อมกอดฉันคนนี้...หวางหลี่ผิงแห่งหวางหย่งกังคงไม่รู้จักคำว่า ‘รัก’ ”  ทันทีที่นายน้อยพูดจบก็เชยคางคนในอ้อมกอดขึ้น 

ผมเองถึงกลับกลั้นลมหายใจ  และเผลอขบริมฝีปากกลั้นเสียงอุทาน  ด้วยนึกรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น  ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้  เมื่อนายน้อยก้มหน้าลงหาใบหน้าคุณธันว์อย่างช้าๆ  ก่อนประทับจูบอ่อนโยนบนลงริมฝีปากของคุณธันว์  ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนทั้งงาน  โดยเฉพาะนายซีอาร์ที่ยืนตกตะลึงตาค้าง  จ้องภาพคู่รักที่กำลังจูบดูดดื่มไม่วางตา 

นายน้อยประกาศตัวชัดขนาดนี้  หากนายซีอาร์ยังดื้อดึงตื๊อไม่เลิก  มีหวังคงได้รับบทเรียนมากกว่าการทำร้ายจิตใจเหมือนในขณะนี้อย่างแน่นอน  อาจถึงขั้นรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ  เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าสำหรับนายน้อยหลี่ผิงนั้น  คุณธันว์คือคนสำคัญที่สุด  และนายน้อยย่อมยอมทำทุกวิถีทาง  เพื่อรักษาความสุขของคุณธันว์ไว้

“ฮึๆ  สมกับเป็นหลี่ผิง”  เสียงนี้มาจากคุณไรอันที่ดังพอให้พวกเราได้ยิน  ซึ่งเพื่อนสนิททั้งสองอย่างพอลและคุณโจเซฟมีปฏิกิริยาคล้ายกันคือ  หัวเราะอยู่เพียงลำคอและส่งยิ้มให้กันอย่างถูกใจ  บรรยากาศผ่อนคลายลงในพริบตา  เพราะต่างรู้ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นถ้วนหน้า

ส่วนคนอื่นๆในกลุ่มมีปฏิกิริยาต่างๆกันไป  คุณหนูเหมยอิงอมยิ้มน้อยๆมองคู่รักด้วยความประทับใจ  คุณนลินกอดอกฉีกยิ้มกว้าง  แต่มีแสยะยิ้มน่ากลัวใส่กลุ่มนักร้องวง  Chic  ที่มองมา  จนคุณนนที่กลั้วหัวเราะน้อยๆกับคุณเบสอยู่นั้น  ถึงขั้นส่ายหัวให้กับพฤติกรรมห้าวเกินหญิงของเพื่อน  แต่กลับไม่มีใครห้ามใคร  ก่อนทั้งสามคนจะพร้อมใจกันหันไปแสยะยิ้มยักคิ้วเยาะเย้ยใส่นายซีอาร์  ที่กวาดตามองมาทางกลุ่มเราอย่างพาลๆอีกต่างหาก 

จนเพื่อนนักร้องสองคนที่เหลือต้องเข้าประกบและรั้งแขนไว้  ซึ่งนายซีอาร์อะไรนั่นที่ก็คงเกรงใจคุณโจเซฟผู้เป็นนายอยู่บ้าง  จึงยอมยืนอยู่นิ่งๆด้วยใบหน้าบูดสนิทไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น  แต่ขืนคิดไม่ได้และคิดใช้กำลัง  ยังไงซะนายนั่นก็คงเข้าไม่ถึงตัวนายน้อยกับคุณธันว์หรอก  เพราะการ์ดที่คอยระวังอยู่รอบวง  คงถึงตัวนายซีอาร์ก่อนอย่างแน่นอน

ท่ามกลางเสียงฮือฮาของผู้ร่วมงานกับการประกาศบอกรักของมาเฟียใหญ่  และปฏิกิริยาหลากหลายของคนใกล้ตัว  ผมกลับโดนหมุนตัวเข้าหาอกอุ่น  จนใบหน้าฝังไปกับกล้ามเนื้อแน่นๆ  พร้อมกลิ่นหอมสะอาดแสนคุ้นเคยลอยเข้าจมูก  ทำให้ผมเผลอดสูดกลิ่นหอมๆไปจนเต็มปอด  พาลลืมตัวให้พอลกอดอยู่แบบนั้น 

นานเท่าไหร่ไม่รู้มารู้ตัวก็ต่อเมื่อ  มืออุ่นที่เคยลูบขึ้นลงแถวแผ่นหลัง  เปลี่ยนมาลูบหัวอย่างอ่อนโยน  พร้อมเสียงนุ่มๆที่ดังขึ้น

“ฝูหรงครับ  อยากสนุกต่อหรือกลับบ้าน”  ผมที่กำลังมึนๆก็ได้แต่พยักหน้าใส่ตาคู่หวานที่จ้องกันไม่กระพริบคู่นั้น  จนคนถามถึงกลับกลั้วหัวเราะน้อยๆ 

การกระทำนั้นของพอลทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัว  ว่าเรากำลังอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่  ผมอายแทบแทรกแผ่นดิน  ด้วยเพิ่งรู้ตัวว่าสายตาของคนเกือบทั้งงานมองมาที่เราทั้งคู่  จะมีเว้นก็แต่คู่หวานที่สร้างปรากฏการณ์ประกาศรักสะท้านวงการและสามนักร้องนั่นที่ไม่อยู่ในงานแล้ว 

ผมจึงได้แต่ก้มหน้างุดและพึมพำพอให้พอลได้ยินว่าอยากกลับบ้าน  ก็ใครจะกล้าอยู่สนุกต่อในงานท่ามกลางสายตาล้อเลียนกันเล่า

“ไม่เป็นไรค่ะเฮียพอล  เฮียพาพี่ฝูหรงกลับก่อนได้เลย  แค่เฮียกับพี่ฝูหรงมาอวยพรให้นลิน  นลินก็ดีใจและขอบคุณมากแล้วค่ะ  เหตุการณ์เป็นแบบนี้  อีกพักเดียวนลินก็ว่าจะปิดงานอยู่เหมือนกัน  หึ!  นายซีอาร์นั่นกล้ามาก  คอยดูเถอะ  นลินจะเลิกติดตามวงนี้ไปเลย”  หลังจากประโยคนี้ทุกคนรอบตัวก็ได้แต่หัวเราะเจ้าภาพสาวสวยอย่างเอ็นดู  ก่อนพอลจะเอ่ยลากับคนอื่นๆ  ให้ผมทำเพียงแค่ส่งยิ้มเขินๆและเดินตามแรงจูงของมืออุ่น  จนหลุดออกมาจากงาน

“ฝูหรงรู้มั้ย  นับวันทำตัวให้พอลหลงจนไม่มีตาไว้มองใครแล้วนะ”  ผมเงยหน้าพรึ่บและจ้องตาคนพูดอย่างเอาเรื่อง  จนพอลที่กำลังระบายยิ้มหน้าระรื่นมีอันชะงัก  เปลี่ยนมาเป็นมองผมอย่างหวั่นๆแกมไม่เข้าใจ 

‘คนอะไรยังมีหน้ามาทำสีหน้าแววตาแบบนี้อีก’

“อย่าบอกนะ!  ตั้งแต่คบกัน  นายยังมีตาไว้มองคนอื่นอีก!!”  บอกเลยว่าฉุนมาก  ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นมันยังมีตามองคนอื่นนอกจากผมอีกเหรอ  เห็นผมยอมอ่อนข้อให้มากไปใช่มั้ย

“เดี๋ยวๆ  ฝูหรงอย่าเพิ่งเข้าใจพอลผิด  ที่พูดก็แค่เปรียบเปรยเท่านั้น  ตั้งแต่พอลเจอฝูหรงอีกครั้ง  สาบานว่าไม่เคยมองใครเลย...กระต่ายน้อยของพอลก็ขี้หึงเหมือนกันน้า~  ดีใจจัง  ฮึๆ”  ผมกลับเป็นฝ่ายชะงักและอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน 

‘ไม่น่าขี้ตื่นคิดมากไปเองเลยให้ตายสิ’  เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองก็ขี้หึงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“อะ  เอ่อ...กลับกันเถอะ”  ผมชิ่งออกมาจากสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจทันที  ดูตาไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นซะก่อนเถอะ  วิบวับอย่างน่ากลัว  ขืนผมยังยืนอยู่ตรงนั้น  คงได้ตกเป็นเป้าสายตาของเหล่านักท่องราตรีรอบตัวเป็นแน่ 

แต่ด้วยความรีบร้อนผสมกับที่ผมไม่ทันมองทาง  ผมก็ชนเข้ากับใครบางคนจนได้

“อ๊ะ!  เอ่อ  ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ  คุณเป็นอะไรรึเปล่า...[เพี้ยะ!]...อ่ะ!”  รอยแดงปรากฏบนหลังมือทันที  ยามที่ผมแตะเข้ายังท่อนแขนเรียว  หวังช่วยประคองตัวคนที่ผมไม่ตั้งใจชนขึ้นจากพื้น

“นี่!  นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้ว  ยังคิดจะลวนลามฉันอีกเหรอ”  ข้อกล่าวหาแบบไม่ทันตั้งตัว  ทำให้ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก  ด้วยไม่คิดว่าจะถูกเข้าใจผิดขนาดนี้ 

ระหว่างที่ผมตะกุกตะกักเอ่ยขอโทษสาวสวยตรงหน้านั้น  เสียงทุ้มหนักก็ดังขึ้น  พร้อมๆกับที่ร่างผมลอยหวือไปตามมือคู่ใหญ่  แต่สัมผัสและกลิ่นหอมที่คุ้นเคย  ทำให้ผมไม่คิดต่อต้าน  แต่กลับรู้สึกโล่งอกโล่งใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก  ด้วยรู้ว่าผมสามารถพึ่งพาคนๆนี้ได้

“เกิดอะไรขึ้น!  ฝูหรงไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ”  ผมพยักหน้ารับแทบจะทันที  เมื่อเห็นใบหน้าเครียดขึง  พร้อมจะเอาเรื่องใครสักคนของพอลชัดตา  จนเผลอขยุ้มเสื้อด้านหน้าของพอลเป็นหลักยึด

“ไม่เป็นอะไร  ฝูหรงชนเข้ากับผู้หญิงคนนี้  พยายามขอโทษและช่วยพยุงเธอ  แต่ถูกเข้าใจผิด  พอลช่วยพูดหน่อยสิ”  อารมณ์นี้ไม่ฟ้องก็เหมือนฟ้อง  แต่เจตนาของผมแค่ต้องการให้พอลช่วยปรับความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นเท่านั้น 

พอลเองลูบหัวลูบหลังผม  และไล่สายตาสำรวจตัวผมไปจนทั่ว  ไม่ได้สนใจคู่กรณีที่กำลังฟึดฟัด  และพยายามลุกขึ้นมายืนด้วยใบหน้าบูดสนิทด้วยตัวเองสักนิด

“หึ!  มีพวกมาช่วยด้วย  อย่าคิดจะรุมกันก็แล้วกัน  ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย  เอาให้รู้กันไปเลยว่านักร้องดังอย่างฉันโดนผู้ชายทำร้ายก่อน...นี่นาย!...อ่ะ  พอล!!”  เจ้าของเสียงแหลมๆที่โวยวายไม่เลิก  เข้ามากระชากไหล่พอลอย่างแรง  จนตัวผมเองยังลอยติดมือใหญ่ที่กุมข้อมือกันไว้  ทำให้ผมต้องเผชิญหน้ากับคนที่อ้างว่าเป็นนักร้องดัง 

แม้ผมจะรู้สึกคุ้นๆกับใบหน้าสวยจัด  แต่อีกฝ่ายดันทำท่ารู้จักคนของผมเข้าแล้ว  ที่สำคัญพอลเองก็เหมือนจะรู้จักเธอดีด้วย

“มิลลี่!”  ผมมองพอลและนักร้องสาวนามว่ามิลลี่ไปมา  จนเริ่มรู้สึกขัดใจเพราะเริ่มสงสัยอย่างหนัก  เมื่อคนทั้งคู่ต่างเงียบและจ้องตากันไม่กระพริบ  ด้วยสายตาเรียบสนิทติดเย็นชา  ทำให้ผมเดาได้ว่าคู่นี้ต้องมีอดีตร่วมกันมาก่อน  และไม่ว่าอดีตมันจะดีหรือร้าย  จะมีความเป็นมาอย่างไรก็ตาม  แต่พฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความไม่ชอบใจให้แก่ผมอยู่ดี

“พอล!”  ผมกระแทกเสียงเรียกไอ้ลูกครึ่งหน้าหล่อทันทีที่คิดได้  ด้วยไม่อยากให้ทั้งคู่สร้างโลกส่วนตัวที่มีเพียงกันและกันไปนานกว่านี้ 

ผลที่ได้คือพอลละสายตาจากเธอคนนั้น  และก้มลงมามองผมด้วยสายตาติดดุ  จนผมเองถึงกับชะงักพาลให้น้อยใจและคิดไปไกล  ว่าผมไปขัดจังหวะระลึกความหลังของเจ้าตัวเข้า 

การแสดงออกของผมคือปล่อยชายเสื้อในมือ  พร้อมกระตุกมือออกจากการเกาะกุม  และเมินหลบสายตาคู่คมที่ยังจ้องมายังผมอย่างไม่เข้าใจไม่เลิก  ยิ่งเพิ่มความน้อยใจให้ผมเข้ามาอีก  ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงเกิดความรู้สึกอย่างนี้ขึ้น  ด้วยคงเป็นความรู้สึกขัดใจเรื่องราวในอดีตระหว่างคนทั้งคู่ที่ผมไม่รู้ก็เป็นได้

“ผมขอโทษคุณผู้หญิงอีกครั้งครับ  แต่อยากจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ  หากคุณไม่เชื่อผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว...ผมขอตัวก่อน”  ผมเลือกที่จะเป็นฝ่ายขอโทษอีกครั้ง  ด้วยไม่อยากอยู่ในสถานการณ์น่าอึดใจนี้อีกต่อไป 

ผมเตรียมที่จะปลีกตัวออกมาก่อน  ตั้งใจไปรอยังรถที่จอดไว้  เพื่อปล่อยให้ทั้งคู่มีโอกาสคุยกันโดยที่ไม่มีผมเป็นก้างขวางคอ  แต่ผมยังไม่ทันก้าวไปได้เกินสองก้าว  พอลก็รั้งข้อศอกผมไว้และดึงให้ไปยืนข้างกัน  แม้ความตั้งใจที่จะปลีกตัวออกห่างจะถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี  ผมก็เลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปยังที่ๆไม่มีภาพคนทั้งคู่อยู่ในสายตา 

ใครจะว่าผมขี้ใจน้อยขี้งอนไม่มีเหตุผลและชอบคิดไปเองก็ช่างสิ  คุณไม่เป็นผมไม่รู้หรอก  ว่าการได้เห็นคนของตัวเองยืนสบตากับสาวสวยจัดนานขนาดนั้น  ความรู้สึกมันแย่แค่ไหน  เหมือนผมไร้ซึ่งตัวตนและไม่สำคัญ  ทั้งๆที่ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้

“หึ!  เพราะชอบแบบนี้นี่เอง  คุณถึงทิ้งมิลลี่ไป...พอล  คุณก็แค่เกย์เลวๆที่คบผู้หญิงบังหน้า”

“มิลลี่!!  หยุดโยนความผิดให้คนอื่นซะที  ทั้งๆที่รู้ดีแก่ใจว่าทำอะไรไว้ได้แล้ว”

ผมสะดุ้งตั้งแต่ถ้อยคำเหยียดหยามที่สาวมิลลี่ใช้กับพอลแล้ว  แต่ประโยคนั้นของเธอก็ทำให้ผมรู้ว่าทั้งคู่เคยคบกัน  และประโยคต่อมาของพอลก็ได้บอกผมว่าทั้งคู่เลิกกันแบบไม่ดีนัก  นาทีนี้ความรู้สึกน้อยใจไม่พอใจที่เคยมีหดเหลือเล็กนิดเดียว  แทนที่ด้วยความอยากรู้เรื่องของคนทั้งคู่มากกว่า 

ระหว่างที่ผมตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก  นักร้องสาวสวยที่ชื่อมิลลี่ก็ตวัดสายตามามองผม  ก่อนจะแสยะยิ้มและส่งสายตาดูถูกดูแคลนมาให้  ทำเอาผมขนลุกด้วยนึกหวั่นไปกับสายตาคู่นั้น  จนเผลอขยับตัวชิดร่างหนา  พอลเองก็แสนดีกระชับอ้อมแขนรอบเอวผม  ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา  ก่อนพอลจะกดเสียงเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้าเหมือนปรามไปในที  แต่เธอก็หาได้สนใจด้วยยังคงมองผมไม่กระพริบ

“ระวังตัวไว้เถอะ  นายเองก็จะถูกผู้ชายใจโลเลคนนี้ทิ้งเหมือนฉัน”  มิลลี่ทิ้งระเบิดด้วยคำพูดไว้เสร็จก็สะบัดหน้าใส่ผม  และเดินกระแทกไหล่พอลจากไป

ผมเองได้แต่ยืนอึ้งพูดไม่ออก  เรียกว่ามึนและสับสนไปกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น  ซึ่งผมมารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อฝ่ามืออุ่นๆประกบเข้าที่แก้ม  ก่อนจะช้อนใบหน้าผมขึ้นสบตา  และสายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยแววตารักใคร่นี่ต่างหาก  ที่ทำให้สติที่เคยปลิวหายลอยกลับมาเข้าร่างดังเดิม  แต่มันคนละเรื่องกับความคับข้องใจที่ติดอยู่ในใจผมขณะนี้

“กระต่ายน้อย  พอลรู้ว่ามีคำถามมากมายที่ฝูหรงอยากถาม  สัญญาว่าจะเล่าทุกเรื่องให้ฟัง  แต่ขอร้องว่าอย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อน  และให้เชื่อใจว่าพอลไม่มีทางเป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูด...ฝูหรงทำให้พอลได้มั้ย”  ทั้งสายตาจริงใจและน้ำเสียงทุ้มนุ่มอย่างน่าฟังของพอล  บวกความอยากรู้ที่อยู่ในใจผม  มันจึงไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องฝืนใจนักที่ผมจะเอ่ยปากตอบรับตามความต้องการของพอล

“อืม  เราจะคุยกัน  พอลต้องเล่าความจริงระหว่างพอลกับผู้หญิงคนนั้นให้ฝูหรงฟังทั้งหมด”

“ได้ครับกระต่ายน้อย”  พอลระบายยิ้มกว้างพร้อมตอบรับผมอย่างหนักแน่น

แม้ผมจะมีข้อเสียอย่างการขี้ใจน้อยขี้งอนและชอบคิดไปเองก็ตาม  แต่ผมก็เลือกที่จะฟังคนของตัวเองก่อน  ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร  เพราะประสบการณ์ครั้งก่อนมันคอยย้ำเตือน  และผมเลือกที่จะเอาคำพูดของคนที่ผมไม่รู้จักเลย  มาเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆของการตัดสินใจเท่านั้น  ซึ่งผมก็คงไม่เชื่อไปทั้งหมด  เพราะอย่างน้อยก็ขอให้เกียรติความรู้สึกดีๆของตัวเองที่มีต่อคนที่เรารักเป็นอันดับแรก

......................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

มาแล้วตัวป่วนที่ 2 อย่างมิลลี่  แม้จะมาเร็วไปเร็วดังพายุ
แต่ไม่รู้ว่าพายุลูกนี้จะทิ้งความเสียหายให้มากแค่ไหนกัน
คงต้องรอติดตามได้ในตอนต่อไปค่ะ

เจอกันอีกทีวันพฤหัสฯนะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตาม

 :pig4:  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด