รักนาย ❤❤ มายรูมเมท....ตอนที่สี่สิบสอง...อวสาน (01/10/14) จบแล้ว..ย้ายได้เลยครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักนาย ❤❤ มายรูมเมท....ตอนที่สี่สิบสอง...อวสาน (01/10/14) จบแล้ว..ย้ายได้เลยครับ  (อ่าน 119921 ครั้ง)

herenoi

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

 :m5: :m5:


สวัสดีอย่างเป็นทางการครับผม

เนื่องจากผมได้คืน USERNAME ที่ยืมใช้มาเป็นปีจากพี่ที่เคารพ
เวลานี้ได้ฤกษ์ยามที่จะมี USERNAME เป็นของตัวเองแล้วครับ
และด้วยนิยายเพิ่งเริ่มไปได้เพียงหกตอน
จึงได้แจ้งลบเรื่องจาก USERNAME เดิม เพื่อมาประเดิม USERNAME ใหม่

ขอบคุณและขอโทษที่ไม่สามารถนำคอมเม้นท์ที่ท่านเคยเม้นท์ไว้มาลงด้วยครับผม


 :katai2-1: :katai2-1:
 
ผลงานเรื่องอื่นๆครับผม

รักจริงยิ่งกว่านิยาย  จบแล้วครับ

ทาสรัก...สมัครใจ  จบแล้วครับ

รักจริงยิ่งกว่านิยาย...SEASON 2  กำลังออนแอร์ครับ


 :pig4: :pig4:


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...INTRO


เขม...นักศึกษารูปหล่อพ่อรวย เอาแต่ใจตัวเอง ทั้งเจ้าชู้และเนื้อหอม

แต่จำนวนรูมเมทเก้าคนที่ขอย้ายออกไป

บ่งบอกถึงการเป็นคนที่อยู่ด้วยยาก



วิน...หนุ่มน้อยขี้อาย ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว

เขาหน้าตาน่ารัก มีรอยยิ้มสว่างไสว ใครๆก็อยากเป็นเพื่อน อยากรู้จัก

การที่โอนย้ายหน่วยกิตมาเรียนที่นี่ เพราะวินถูกชายคนรักหักหลัง

วินเป็นเกย์ ทำให้เขากลัวว่าเขมจะรังเกียจรูมเมทแบบเขา

แต่แค่อาทิตย์เดียวของการเป็นรูมเมท ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย



สารบัญครับ


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่หนึ่ง สอง และสาม

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สี่ และห้า

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่หก

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่เจ็ด

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่แปด

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่เก้า

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สิบ


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สิบเอ็ด

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สิบสอง

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สิบสาม

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สิบสี่



 :n1: :n1:

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2014 22:07:55 โดย herenoi »

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
มีไหนอ่า

herenoi

  • บุคคลทั่วไป
 :pig2: :pig2:

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่หนึ่ง



“แม่ครับ....เดือนนี้รายจ่ายเยอะมากอ่ะครับ เขมต้องเลี้ยงน้องรหัส
อุปกรณ์การเรียนที่ต้องใช้ก็เยอะขึ้น แต่ละอย่างก็แพงๆทั้งนั้น
แล้วกิจกรรมภาคบังคับก็ดันผุดขึ้นมาอีกมากมาย เดือนนี้เขมขอเงินเพิ่มนะครับ”

“ได้สิ แกจะเอาเงินเพิ่มเท่าไหร่ก็บอกมา เดี๋ยวแม่โอนเข้าบัญชีให้”
แม่ผมไม่มีขัดสักคำ

“พ่อครับ...มือถือเขมมันเอ้าท์แล้วครับ ฟังก์ชั่นลูกเล่นก็จิ๊บๆ
วันก่อนเขมเผลอทำหล่น หน้าจอมันมีรอยด้วยครับ ใช้แล้วน่าอายนะพ่อ”

“เออๆ..อยากได้รุ่นไหนแกไปรูดบัตรได้เลย”
พ่อผมก็ไม่น้อยหน้าแม่

“แม่ครับ...นาฬิกาเรือนที่ใส่อยู่มันหนักข้อมือจังครับ
เขมเห็นโฆษณาโรเลกซ์สปอร์ตตัวใหม่เบาหวิว น่าใส่จังเลยครับ
วันก่อนเขมไปดูที่พารากอน มันเป็นลิมิเตทต้องรีบจองด้วยนะครับแม่”

“พ่อครับ...เขมอยากได้เข็มขัดหลุยส์ซีซั่นซัมเมอร์นี้จัง
เนี่ยเส้นที่ใส่อยู่มันถลอกแล้วครับ ลายก็เริ่มซีดๆ ดูเก่าๆ เสียบุคลิกหมดเลยครับ”

“บลาๆๆๆๆๆ....”

ไม่ว่าจะขออะไร ผมก็ไม่เคยถูกปฏิเสธ
พ่อกับแม่สารพัดจะจัดหามาให้ โดยไม่ปริปากบ่นสักคำ

ยกเว้น.....

“แม่ครับ พ่อครับ ซื้อคอนโดนะครับ หอพักของมหาวิทยาลัยมันอึดอัดชะมัด
ห้องเล็กกว่าห้องน้ำที่บ้านอีกอ่ะ แล้วรูมเมทก็กรนเสียงดัง
เขมนอนหลับไม่สนิทสักคืน”

“ไม่”

“ไม่”

 :angry2: :angry2:


ทำไมนะ...ไม่ว่าจะยกเหตุผลร้อยแปดมาอ้าง
ก็ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ใจอ่อนได้เลยครับ
ไม่ใช่ว่าพวกท่านไม่มีเงินซื้อให้ผมนะครับ

“แกก็ไปพักที่บ้านแม่แกสิ ไม่เห็นจะยาก รถราพ่อก็ซื้อให้แล้ว
รึแกจะเปลี่ยนคันใหม่”

พ่อผมเป็นคนแรกเลยที่ไม่เห็นด้วยกับการซื้อคอนโด
ผมขอมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยตอนปีหนึ่ง
แทนที่จะซื้อคอนโดพ่อกลับถอยรถใหม่ป้ายแดงมาให้ผมแทน
ราคาก็ไม่เบา เกือบๆจะเท่าคอนโดหรูๆใจกลางกรุงสักห้อง

“เอามั๊ยเขม...มาพักที่บ้านแล้วแม่จะถอยรถใหม่ให้แก”

“ไม่...ผมไม่ไป...ผมจะอยู่หอพักมหาวิทยาลัย”

“ก็แค่นั้น รู้ว่าไม่ได้ก็ยังไม่เลิกตอแย จริงมั๊ยคะคุณ”

“นั่นน่ะสิ จะขอให้พ่อกับแม่ใจอ่อนซื้อคอนโดให้น่ะ
ไม่มีทางหรอกไอ้เขมเอ๊ย”

“พ่อ...แม่...ทีงี้ล่ะความเห็นตรงกันขึ้นมาเลยนะครับ
ถ้าเห็นตรงกันทุกเรื่องก็ดีสิครับ”


“เขม...พ่อเสียใจ ขอโทษนะลูก”

“แม่ด้วยจ๊ะลูก อย่าโกรธพ่อกับแม่เลยนะ”   


เริ่มเดากันได้แล้วใช่มั๊ยล่ะครับ
คืองี้ครับ
ผม...นายเขมชาติ เป็นลูกชายคนเดียวของพ่อกับแม่
ที่ท่านทั้งสองทั้งรักและตามใจผมมาก
เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจของท่าน ที่หย่าร้างกัน
ผมไม่ได้คิดอะไรมากนักหรอกครับ ในเมื่อมันแก้ไขไม่ได้แล้ว
อีกอย่างปีนี้ผมก็อายุ21ปีแล้ว เรียนมหาวิทยาลัยปีสาม

พ่อกับแม่ต่างคนก็ต่างมีครอบครัวใหม่
พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงของผม...งงป่ะ
ทั้งสองคนนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันนะครับ
ทั้งสองคนพ่อใหม่กับแม่ใหม่(ต่างกันรึไง) ทั้งคู่เป็นคนดีครับ

แต่ผม...ไม่อยากเข้าไปอยู่ในบ้านของแม่กับพ่อเลี้ยง
ส่วนพ่อผมท่านได้ย้ายไปทำกิจการส่งออกอยู่ที่อังกฤษหลังหย่าร้างกับแม่ผม

ใครว่าคนที่เลิกกันแล้วจะเกลียดไม่มองหน้ากัน สาวไส้ประจานกัน
สำหรับพ่อกับแม่ของผม...ไม่ใช่ครับ

ความรักความหลงถึงแม้จะจืดจางจนแทบจะหมดไปตามกาลเวลา
แต่ความผูกพันมันมัดพวกเราสามคนไว้ด้วยกันเสมอครับ
มัดไว้จะตึงหรือจะหย่อนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

การที่พวกท่านตามใจผม...ก็คือ....หย่อน

แต่การที่ไม่ตามใจผมเรื่องซื้อคอนโด...ก็คือ....ตึง

มันต้องมีเหตุผลสิครับว่ามั๊ย

ถ้าซื้อคอนโดให้ผม ผลเสียที่ประเมินออกมาหลักๆก็ตามนี้เลยครับ

ข้อแรก ผมเรียนไม่จบแน่นอน
การต้องอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยจะเป็นวิธีที่
ทำให้ผมจำต้องไปเรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าอยู่คอนโดเป็นได้ปาร์ตี้โต้รุ่งไม่เลิกรา

ข้อสอง ผมคงต้องพลาดพลั้งมีหลานมาให้พ่อแม่หลายต่อหลายคน
หรือไม่ก็อาจจะเกิดศึกชิงนายขึ้นที่คอนโด
นั่นก็แปลว่าผม..ทั่วถึง(มั๊ง)

ข้อสาม ผมอาจเสียผู้เสียคนจากอบายมุขทั้งหลาย
นอกจากมีรูปทรัพย์ ทรัพย์สมบัติ ผมยังเป็นคนเฮไหนเฮนั่น

สรุป...
ผมขออะไรก็ได้ทุกอย่าง ไฟเขียวตลอด

ยกเว้น...
การซื้อคอนโด หรือถึงจะเป็นการเช่าก็ไม่ได้

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมเต็มกลั้นกับรูมเมท
แล้วแอบมาเช่าคอนโดใกล้มหาวิทยาลัย
ไม่ถึงสองอาทิตย์ ผมต้องรีบบอกคืนยกเลิกการเช่าคอนโด

ก็พอพ่อกับแม่รู้เรื่อง บัตรเครดิต รถยนต์ ถูกยึดคืนหมดเลยครับ
โธ่...ตัดเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงร่างกาย
แล้วผมจะอยู่ได้ยังไงล่ะครับ

แล้วเพื่อนฝูงถูกคอสนิทสนมรู้ใจไม่มีบ้างรึไง
จะถามแบบนี้ใช่ไหมล่ะครับ
ไอ้มีมันก็มี แต่พวกมันก็จับคู่ดูโอกันไปหมดแล้วสิครับ
ไอ้ผมก็ชะล่าใจคิดว่าจะได้นอนคอนโด ที่ไหนได้เหมือนโดนเตะโด่งลงมา

ผมมันตัวเศษส่วนเกินในกลุ่มเลยต้องมาหารูมเมทเอาข้างหน้า
แต่ละคน อย่าให้พูดถึงเลยครับเป็นอดีตไปหมดแล้วทั้งเก้าคน

อ่ะๆ...เม้าท์ให้ฟังกันบ้างพอขำๆก็ได้ครับ

บางคน...นอนกรน...เหมือนมีโรงสีโรงเลื่อยโรงโม่หินอยู่ในห้อง

บางคน...สกปรก...ข้าวของกองสุม โดยเฉพาะเสื้อผ้า ถุงเท้ารองเท้าเหม็นๆ

บางคน...เพ้อเจ้อ พูดมาก ไร้สาระ เจื้อยแจ้วได้ตลอดวัน

บางคน...เงียบเหมือนอมอะไรเอาไว้ กว่าจะพูดจะจามาแต่ละทีก็นานหลายวัน

บางคน....ไม่เกรงใจ หยิบฉวยข้าวของผมไปใช้โดยไม่ได้ขอ
ก็ไม่ได้หวงครับ แต่บางทีมันก็มากไป

โอย...จาระไนไม่หมดหรอกครับ
เอาเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังจะได้รูมเมทคนใหม่ คนที่สิบแล้วครับ

ถ้าพระเจ้าเมตตาเห็นใจไอ้เขม
ช่วยส่งรูมเมทดีๆมาสักคนเถอะครับ
ขอแจ่มๆหน่อยเหอะ
ไอ้เขมจะได้ไม่ต้องโดนคนเขานินทาว่า


“ไม่มีใครอยู่กับนายเขมชาติได้”


 :katai1: :katai1:


******************************************************************************************

 :pig4: :pig4:


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สอง

“วิน...วิน ถึงแล้วลูก”

“คะ...ครับ”

ผมหยุดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองลงเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพ่อ
ทั้งพ่อละแม่ต่างก็ส่งสายตามองมาด้วยความกังวลใจ

“โห...น่าอยู่จังครับ”

ถึงเวลาที่ผมจะต้องไม่เอาอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวของผม
มาทำให้พวกท่านต้องไม่สบายใจตามผมไปด้วย

“วินแน่ใจนะลูก”

แม่ก็ยังเป็นแม่ที่ห่วงใยและหวังดีต่อผมมาตลอด
แล้วทำไมผมจึงต้องให้ความสำคัญกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวผมด้วยล่ะ

“ครับแม่”

ผมยิ้มให้พวกท่าน
ยิ้มให้แก่คนที่พร้อมจะอ้าแขนรับทุกความผิดพลาดของผม

ผม...นายวีรชาติหรือที่คนรอบข้างเรียกผมกันง่ายๆสั้นๆว่า....วิน
ผมโอนย้ายหน่วยกิตมาจากมหาวิทยาลัยเดิมที่เรียนอยู่..ที่เชียงใหม่บ้านเกิด
ทั้งๆที่ผมเรียนปีสามแล้ว

ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายผมคงไม่ทำแบบนี้หรอกครับ
แล้วพ่อกับแม่ของผมท่านก็คงไม่ยอมให้ผมย้ายมาเหมือนกัน
แต่มันมีเรื่องและเรื่องมันก็ยาว
เอาเป็นสรุปสั้นๆว่า “ผมอกหัก”
แฟนของผม ที่เราคบกัน รักกันมากมาตั้งแต่ม.ปลาย ปันใจไปให้หญิงอื่น

ครับ...ผมเป็นเกย์
แฟนคนแรกและคนเดียวของผมเป็นผู้ชายครับ

พ่อกับแม่และพี่ชายผม
รับรู้รับสภาพตัวตนของผมมานานแล้ว
โชคดีก็ยังมีอยู่บนความโชคร้ายครับ
คนในครอบครัวรักผมในสิ่งที่ผมเป็น
มากกว่าที่จะรักผมในแบบที่สังคมทั่วไปอยากให้เป็น

ผมซึมเศร้าอยู่นานนับเดือน หดหู่อยู่กับความผิดหวัง
กินไม่ได้นอนไม่หลับ แทบไม่เป็นผู้เป็นคน
ยังดีที่เป็นช่วงปิดเทอม
ดังนั้นจึงมีแค่เพียงครอบครัวและเพื่อนสนิทของผมสองสามคนที่รู้เรื่อง
ผมจมอยู่ในความทุกข์ นานจนพ่อกับแม่ต้องพาผมเข้าพบจิตแพทย์

“ต้องให้วินออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ที่จะกระตุ้นเตือนให้คิดถึงเรื่องนั้น”

ลุงหมอที่เป็นจิตแพทย์และคุ้นเคยกับครอบครัวเราดี
ท่านให้คำแนะนำ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเรามายืนอยู่หน้าหอพักของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
พร้อมกับข้าวของของผม

   
 :ling2: :ling2:


“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ แตงเป็นคนดูแลหอพักที่นี่ค่ะ
แล้วนี่น้อง...”

“ผมวิน...วีรชาติครับพี่..เอ้อ...พี่แตง”

พี่ผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกับแม่ผมออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น
เธอมีรอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกว่า
ที่หอพักแห่งนี้คงจะไม่เลวร้ายหรอกนะ

“สวัสดีค่ะคุณแตง พี่ฝากน้องวินด้วยนะคะ
ใจจริงที่บ้านก็ไม่อยากให้น้องย้ายมาเลยค่ะ”

แม่ผมยิ้มให้เธอ ส่วนพ่อก็อมยิ้มน้อยๆ

“โชคดีนะคะเนี่ย ที่ย้ายมากะทันหันแล้วบังเอิญมีห้องว่างพอดี
คนเก่าเพิ่งย้ายออกไปเมื่อสองวันก่อนค่ะ”

หอพักของมหาวิทยาลัยมักจะเต็มตลอดครับ
ก็ทั้งราคาถูกและสะดวก เดินไปเรียนยังได้เลยครับ
แต่ในขณะเดียวกันกฎระเบียบก็มากมาย

จังหวะที่ผมแจ้งขอย้ายเข้ามา พอดีกับมีคนย้ายออก
ไม่งั้นมันคงจะวุ่นวายยุ่งยากไม่น้อยในการจะหาหอนอก
ที่นี่มันกรุงเทพนะครับ
ส่วนที่ผมจากมา จังหวัดบ้านเกิดนั่นแหละครับ...เชียงใหม่

ตอนเรียนที่เชียงใหม่ถึงจะอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยก็จริง
แต่ก็กลับบ้านได้ทุกเมื่อที่ผมต้องการ

ผมใจหายเมื่อถึงเวลาต้องจากกัน
ผมไม่เคยจากพ่อแม่ จากเชียงใหม่
ตั้งแต่เล็กจนโต ผมก็อยู่กับพวกท่าน เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน
และเรียนต่อในมหาวิทยาลัย...ที่ไม่ไกลนัก

มีบ้างบางช่วงที่สนุกติดเพื่อน ติด..หมอก

หมอก....อดีตที่ผมไม่อยากพูดและไม่อยากคิดถึง
ผมอยากจะฝังความทรงจำเหล่านั้นลงไปลึกๆ

“อ้าว...น้องเขมมาพอดี น้องเขมมานี่หน่อยค่ะ”
ขณะที่ผมปาดน้ำตาที่หางตาทิ้งเร็วๆ
ก็เห็นผู้ชายตัวสูงๆในชุดนักศึกษาเดินผ่านมา

“มีไรครับพี่แตง แล้วนี่อะไรครับ มาผิดหอเหรอครับ
หอหญิงอยู่เลยเข้าไปด้านในนะครับ..น้อง”

เขา...เขาพูดแบบนี้ได้ยังไง
โดยที่สีหน้าท่าทางดูบริสุทธิ์ใจ ไม่มีวี่แววของการล้อเลียน

“ฮะ ฮะ น้องเขมเข้าใจผิดไปแล้วล่ะ
ตอนแรกพี่แตงก็คิดว่าน้องวินเป็นทอม
ดีนะคะที่โทรติดต่อมาก่อน ไม่งั้นพี่คงบอกให้ไปหอหญิงแล้วเหมือนกัน”

ทุกคนขำแม้แต่พ่อกับแม่ของผม แต่ผมไม่ขำสักนิด

ถึงแม้ผมรู้ตัวเองดีว่า...
รูปร่างหน้าตาของผมมักจะชวนให้คนเข้าใจผิดก็เถอะ
แต่มานินทากันระยะเผาขนแบบนี้ รับไม่ได้ครับ

“อย่าหน้างอสิจ๊ะวิน ลูกต้องทำตัวเป็นมิตรกับทุกคนนะ
ทำแบบนี้แม่ยิ่งเป็นห่วง เริ่มต้นใหม่ก็ขอให้ยิ้มสู้นะวิน”

แม่กระซิบข้างหูผมในจังหวะที่ไม่มีใครสนใจ

“ครับแม่ วินขอโทษ”

ในความหมายของคำขอโทษ
แม่รู้ว่ามันมีความหมายมากกว่านี้
มันหมายถึงการขอโทษในทุกเรื่อง
ที่ทำให้พวกท่านทุกข์ใจโดยที่มีสาเหตุมาจากผม

“คุณพ่อคุณแม่...น้องวินคะ นี่น้องเขมรูมเมทของน้องค่ะ
แหมบังเอิญจัง งั้นพี่แตงยกหน้าที่ให้คำแนะนำกฎระเบียบหอพัก
ให้น้องเขมเลยนะคะ อยู่ด้วยกันจะได้ราบรื่น ไม่มี..ปัญหาอีก”

ประโยคท้ายๆพี่แตงแกออกเสียงเน้นๆแปลกๆ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:   


********************************************************************


“พ่อกับแม่กลับก่อนนะวิน อยู่ทางนี้ลูกต้องเข้มแข็งดูแลตัวเองให้ดี”

พ่อลูบหัวผมเบาๆ ตอนที่ผมเดินมาส่งพวกท่านที่รถ

“ครับพ่อ”

ผมพยักหน้าแล้วก้มหน้าลงซ่อนน้ำตาที่มันกำลังจะไหลออกมา
ผมจะต้องไม่ให้พวกท่านเห็นน้ำตาของผมอีก

แม่ดึงผมเข้าไปกอด แล้วลูบหลังผมแรงๆ
ก่อนจะผละออกไป

“วิน...จำไว้นะลูก ทุกคนมีเวลาสามวัน
เมื่อวานนี้ วันนี้ และพรุ่งนี้ วินอยากให้วันพรุ่งนี้ของลูกเป็นยังไง
วินคนเก่งของแม่คงรู้นะลูก ว่าวินต้องทำยังไงกับวันนี้”

ผมยิ้มให้พ่อกับแม่ แล้วกราบท่านที่อก

“พ่อครับ แม่ครับ วินจะเริ่มต้นใหม่ เป็นคนใหม่ที่นี่ครับ”

  :ruready :ruready 


“อะแฮ้ม..มีอะไรให้ผมช่วยยกอีกมั๊ยครับ”

คนเขากำลังอินกับความรักในครอบครัว
ไอ้คนข้างหลังผม มันตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แล้วมันได้ยินได้เห็นอะไรไปบ้างเนี่ย

“อ้อ...หนู...เขม ใช่มั๊ยลูก”
แม่ผมถามพร้อมกับยิ้มให้อย่างเอ็นดู

“ครับคุณน้า”
ก็ดูสุภาพอ่อนน้อมดี

ยกเว้นสายตาล้อเลียนที่มองมาทางผม

“เรียกพ่อกับแม่เถอะจ๊ะ เพื่อนวินก็เรียกแม่กันทั้งนั้น”

ต่างจังหวัดเรามักจะเรียกกันแบบนี้แหละครับ
พ่อแม่เพื่อนก็เรียกขานกันในความหมายเดียวกับพ่อแม่เรา

“ครับแม่..พ่อครับแม่ครับ มีอะไรให้ลูกคนนี้ช่วยบ้างครับ”

อะไรฟ๊ะ..หน้าทนชะมัดเลยผู้ชายคนนี้ ไม่กระดากปากสักนิด

“ของขนไปหมดแล้วลูก..เขม เหลือแต่ไอ้หล้านี่แหละ”

พ่อผมตบไหล่...มัน..เบาๆ


“ไอ้หล้า..ใครครับ...อ้อ...ฮะ ฮะ...ผมรู้แล้วครับ
ไอ้หล้า...วิน ฮะ ฮะ”

มันชี้หน้าผมแล้วหัวเราะไม่ยั้ง

“เขมเนี่ยเป็นคนอารมณ์ดีนะพ่อ ดีล่ะแม่จะได้ไม่ห่วงวิน
ยังไงลูกทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็รักกันนะลูก
หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องให้อภัยกัน มีอะไรไม่ชอบใจก็อย่าเก็บเอาไว้
เปิดอกพูดคุยกันนะลูก เรื่องเล็กจะได้ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่”

แล้วทำไมผมกับมันต้องยกมือไหว้พ่อกับแม่พร้อมเพรียงกัน

มัน..มันเหมือน...กับว่า

พวกท่านกำลังจะ



“ส่งตัวผม......เข้า.....หอ”



อ๊ากกกกกกกกกก


 :katai1: :katai1:


*********************************************************************************************



 :L2: :L2:


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สาม


“เคร้ง...”

“ให้กูกินข้าวให้เสร็จก่อนได้มั๊ยวะ
พวกมึงมานั่งจ้องหน้ากันแบบนี้กูกินไม่ลงนะโว๊ย”

ผมทั้งหิวทั้งเหนื่อย และตอนนี้...หงุดหงิดครับ

ก็กว่าจะช่วยไอ้หล้า...ก็..วิน นั่นล่ะครับ
ผมช่วยมันขนของที่ไม่รู้ว่าจะขนมาทำไมมากมาย
น้องๆย้ายบ้านเลยครับ
แล้วมันก็นะ ทำไรก็ไม่เป็น
ทั้งปูเตียงจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ ข้าวของที่กองสุม
อย่างไม่รู้จะวางไว้ที่ไหน
เดือดร้อนผมที่ต้องทั้งปูเตียง จัดเสื้อผ้าเข้าตู้
เรียงหนังสือ ของใช้จิปาถะให้เข้าที่

โอย...หลังผมแทบหัก

คนอย่างผมถึงแม้พ่อแม่จะสปอยด้านเงินทอง
แต่การดูแลตัวเองก็ได้รับการอบรมบ่มเพาะมาไม่น้อย
ไอ้ครั้นมาเห็นหน้าหวานๆเศร้าๆของรูมเมท
เอวบางร่างน้อยยังกะผู้หญิง
จะใจจืดใจดำไม่ดูไม่แล ผมก็ทำไม่ได้

วิน...มันดูน่ารักดีครับ เงียบๆ
แต่ที่ผมเซ็งก็ข้าวของเกินจำเป็น
ที่ตอนนี้มันกินพื้นที่มากเกินจนล้นมาทางฝั่งของผม

ฮ่วย...นาฬิกาติดผนังมันยังขนมา
ก็ไม่แปลกหรอกครับ
ถ้าไม่ใช่นาฬิกากุ๊กกู...
ที่มันจะมีนกโผล่ออกมาจุ๊กกรู้ทุกขั่วโมง

ภาพถ่ายในกรอบแขวนผนังขนาดน้องๆฟิวเจอร์บอร์ด
ภาพที่ถ่ายออกมานับร้อยใบ แล้วตัดมาแปะได้อย่างลงตัว
คนในภาพมีคนสี่คน หลากหลายอิริยาบถ
แต่คนที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน...
แน่นอน..จะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจาก...รูมเมทของผม

ข้อความใต้ภาพล่างสุด..

“สู้ๆนะ...วินนี่”

“จะคิดถึงวินนี่ตลอดไป”

“รักนะ...จูบุ๊ๆ”

สาบานว่าเพื่อนผู้ชายเขาเขียนให้กัน
ถ้าผมไม่เห็นเพื่อนมันในรูปที่เป็นผู้ชายทั้งสามคน
ก็ต้องคิดว่าสาวๆเขียนอำลาอาลัยกัน

วิน...วินนี่...น่ารักหว่ะ...”

 :hao6: :hao6:
   


“ว่าไงไอ้เขม มึงริอ่านพาผู้หญิงขึ้นห้องกลางวันแสกๆ
อย่าคิดว่าจะรอดหูรอดตาพวกกูไปได้นะมึง”

ไอ้คนพูดมันชื่อ “โซล”ครับ สูงยาวเข่าดี
ตัวพอๆกับผม แต่หน้าตาด้อยกว่าผม

“เชี้ยแล้วมึง..ไอ้เขม
นี่ถ้าหลินแฟนมึงรู้เข้า งิ้วได้ออกโรงแน่”

ไอ้ปากปีจอนี่ “ไอ้โอม”ครับ
หน้าตาโอเค แต่เจ้าเนื้อไปหน่อย

“พวกมึงก็ให้มันกินให้อิ่มก่อนสิวะ ค่อยซัก”

อืมมมม “ไอ้รุจน์” พูดจาเข้าหูกูดี ไอ้นี่มันเป็นเกย์รับ
ถึงจะเป็นเกย์คนเดียวในกลุ่ม แต่มันเป็นคนดีครับ
พวกผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรมัน
ตราบใดที่มันไม่จับพวกผมทำผัว

“เดี๋ยวพอมันแดกเสร็จ
กูนี่แหละจะล้วงความลับตับแตกของมันเอง”

ไอ้นี่มันเชือดนิ่มๆ มันชื่อ“ไอ้ฉัตร”ครับ

พวกผมมีด้วยกันห้าคน

ผมกับรุจน์ มาจากโรงเรียนเดียวกัน
ที่เหลืออีกสามคน
มาสนิทกันที่มหาวิทยาลัยนี่ล่ะครับ

รุจน์ หน้าตาจัดว่าหล่อ ตาหวานเยิ้ม แต่ตัวมันเล็ก
ถึงจะไม่เล็กไม่บางเท่ารูมเมทของผมก็เถอะ

โซล รูปร่างสูสีกับผม ที่มั่นใจว่าหุ่นดีกว่าใครในสามโลก
หกแพคยังไงยังงั้น
แต่หน้าตายังต้องปรับปรุงอีกประมาณหนึ่ง
ถึงจะจัดว่าหล่อเท่าผมได้

โอม มีดีที่คารม หากไม่เตี้ยไปนิด
อวบไปหน่อยนี่ สาวๆน่าจะตรึม

สุดท้าย ฉัตร มันหล่อเลว โหดๆนิ่งๆ
แต่ถ้ามีเรื่องนี่มันออกหน้าคนแรกครับ


จะให้จัดลำดับความหล่อเหรอครับ

ผม.....เอบวก

ฉัตร....เอ

รุจน์...บีบวก

โอม...บี

โซล...บีลบ

ในที่นี้ ระดับหรือเลเวล ผมใช้น้าเดช เป็นมีนนะครับ

มีนคือ...บี
เพราะฉะนั้น คุณมโนเอาเถอะว่า

พวกผม...เนื้อหอมขนาดไหน


ส่วนความสูง
ผมกับโซล เสมอกันที่ 185 
ฉัตรลดลงมา2ขีด อยู่ที่183 แต่ล่ำกว่าใคร
โอม 180 ส่วนรุจน์ 175
ถ้าให้เดา วินไม่น่าจะถึง170
คงขาดไปสักเซ็นสองเซ็นครับ

   

****************************************************************************************


“กูอิ่มล่ะ เชี้ยจ้องกูซะ...แดกไม่ลง”

ผมรวบช้อน หลังจากซัดข้าวผัดไปหนึ่ง
ก๋วยเตี๋ยวหนึ่ง โค๊กอีกขวดจนเรียบวุธ

“กล้าพูดนะมึง เกลี้ยงซะขนาดนั้น”
รุจน์มันค้อนผม

ต่อหน้าคนอื่นมันไม่แสดงออกนะครับ
แต่อยู่กับพวกผมมันดูเป็นตัวของตัวเอง
แต่ก็ไม่ได้สาวแตก

“เอาล่ะ ได้เวลา มึงตอบคำถามกูได้แล้ว เล่นองค์นักนะมึง”
โซลมันตัดบท

“ตามสบาย..เชิญ”

แล้วรายการยี่สิบคำถามก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

โซล....“มึงพาผู้หญิงขึ้นหอ”

ผม.... “เปล่า”

โซล.... “วันนี้ตอนบ่ายสอง มึงอยู่ที่หอ”

ผม.... “ใช่”

โซล... “มึงพาคนขึ้นหอ”

ผม....”ใช่”


“แล้วมึงว่าไม่ได้พาผู้หญิงขึ้นหอ แต่พาคนขึ้น
ตกลงมันยังไงกันแน่วะ อย่าอมพะนำสิมึง
กูอยากรู้จนตัวสั่นแล้ว”

ไอ้โอมทำท่าตัวสั่น แต่หน้ามันไม่อินไปด้วย

“เฮ้อ...กูพาคนขึ้นหอจริง แต่ไม่ใช่ผู้หญิง
มันเป็นรูมเมทคนใหม่ของกู เก๊ทป่ะ พวกมึง”

ผมคิดว่าครอบคลุมแล้วนะ ยังไม่วาย

“ไม่จริง ใครๆที่เห็นก็ว่าคนที่มึงพาขึ้นห้อง
เป็นผู้หญิงหน้าหวานๆ ตัวบางๆ”

รุจน์มันไม่ลดละ

“มึงกล้าพาผู้หญิงมากินตับบนห้องเลยเหรอวะ”

ฉัตรที่มันนิ่งฟังมาตลอด เลิกคิ้วถามผมกวนๆ

 :m12: :m12:

“วิน...รูมเมทคนใหม่กูจริงๆโว๊ยยยย
ตอนแรกกูก็คิดว่าเป็นผู้หญิง
กูยังแซวว่ามาผิดหอแล้วด้วยซ้ำ”

ถึงผมไม่ใช่คนที่จะโกหกอะไรบ่อยๆ
แต่พวกมันก็ไม่เชื่อถือคำพูดผม

หลังกินข้าวที่ร้านตามสั่งหน้ามหาวิทยาลัยเสร็จ
ผมจำต้องพามันไปพิสูจน์ความจริงที่ห้อง

   


***************************************************************************


“อยู่เปล่าวะ ปิดไฟมืดเลย”
โอมมันเข้าไปคนแรก แล้ว..

“แชะ”
หลอดไฟส่องสว่างทั่วห้อง
แต่ทุกสายตาจับจ้องไปที่จุดเดียว
บนเตียงของรูมเมทผม

“อ๊ะ...พวก..พวกนายเป็นใคร”

อุต๊ะ...พระเจ้าโจ๊ก...นี่มันนางฟ้าตกสวรรค์รึไงฟ๊ะ

ผมจะบรรยายให้คุณเห็นภาพวินตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยครับ

ผมนิ่มพลิ้วสีน้ำตาลอ่อนยุ่งเหยิง
บางส่วนรุ่ยมาปิดหน้าเล็กน้อย
ปลายผมระดับระต้นคอ ส่งให้ใบหน้าสวยหวาน

ตากลมโตมีแววตระหนกคล้ายลูกกวางน้อยหลงทาง
จมูกแหลมเล็กเหมาะเจาะ
ปากบางแดงสั่นระริกคล้ายหวาดกลัว

สองมือกอด..กอด...หมีพูห์ตัวเหลืองแนบอก
แขนเรียวงามสีอ่อนลออตัดกับสีของตุ๊กตา
ต้นขาเรียวที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นตัวจิ๋วนวลเนียน

เฮ๊ย...ยังกะนางแบบถ่ายนู๊ด
โดยมีตุ๊กตาปิดอยู่เพียงตัวเดียว


วะ...เสื้อเชิ๊ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงยีนส์สี่ส่วนสีขาว
ถอดกองอยู่หน้าเตียง

“พวกเราเป็นเพื่อนของไอ้เขมมันครับ คุณ...”

ฉัตรมันไวกว่าใครเพื่อน
มันขยับเดินเข้าไปใกล้เตียงอีกนิด

“เอ้อ..ผม..ผมชื่อ..วิน”

วินวางตุ๊กตาในอ้อมกอดลง
พลางวาดขาทั้งสองข้างอย่างน่าหวาดเสียวลงที่พื้นข้างเตียง

เสื้อกล้ามสีขาวเนื้อบางที่ใส่อยู่
มันไม่ต่างกับการไม่ใส่ แขนคอเว้าลึก
แถมชายเสื้อลงมาปิดกางเกงขาสั้นตัวจ้อย

ไอ้ฉัตรกลืนน้ำลายเสียงดัง
จนพวกผมหันไปมองหน้ามัน

“วิน...ไปแต่งตัว”
เสียงผมมันห้วน
ทั้งๆที่ผมก็พูดในระดับโทนเสียงปกติของผม

“จะ..จะพาเราไปไหน”
วูบหนึ่งผมเห็นความดีใจในแววตาของวิน

“เอ่อ....ไป...ไปกินข้าว...กูหิว”
ผมตะกุกตะกักทำไมวะ
ไอ้สี่ตัวนั่นมันก็จ้องหน้าผมอีก

   

***************************************************************


“อร่อยจัง...พวกนายทำไมไม่กินกันล่ะหิวไม่ใช่เหรอ”

วินเงยหน้ามาจากจานข้าวด้วยรอยยิ้มใสๆ


“กินๆ พวกมึงกินดิวะ”
ผมขยิบตาให้พวกมัน

“กูอิ่มจนจะอ๊วก”
ไอ้โอมกระซิบข้างหูผม

“วินย้ายมาจากไหนเหรอ”
รุจน์ที่นั่งข้างๆวินหันไปชวนคุย

“งั่มๆ...เราย้ายมาจากเชียงใหม่น่ะ”

มันบอกผมแล้วว่าปีสามเหมือนกัน
แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นเฟรชชี่ก็น่าเชื่ออยู่ครับ

“ถึงว่าหน้าสวย...เอ๊ย..หน้า..เอ๊ย...ตัวขาวจัง”

โซลมึงจะตะกุกตะกักเพื่อ
นั่นมันผู้ชายนะโว๊ย
มีทุกๆอย่างเหมือนกูกับมึง

แค่หน้าหวาน ตัวบาง
ผิวเนียน ผมนุ่ม ตัวหอม

ก็แค่นั้นเอง


จะหวั่นไหวทำไมวะ


 :m29: :m29:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2014 13:06:08 โดย herenoi »

herenoi

  • บุคคลทั่วไป


 :กอด1: :กอด1:


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สี่


“วิน...ทำไมนายย้ายมาเรียนที่นี่ล่ะ”

ถามออกไปแล้วผมก็อยากจะตบปากของตัวเอง
เมื่อหน้าหวานๆของวินสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แววตาปวดร้าวฉายออกมาให้เห็น

“เอ่อ....”

วินกัดริมฝีปากล่างอย่างขบคิดและสับสน

...เซ็กซี่...อ่า..

มันใช่เวลาคิดแบบนั้นมั๊ย...ไอ้เขม เสื่อมจริงๆกู

“ไม่..ไม่เป็นไร กูไม่อยากรู้ล่ะ
ไปกินไอติมกันต่อดีกว่าว่ะ
เนี่ย...กูยังไม่ค่อยอิ่มเลย”

ผมทำท่าลูบท้องที่เริ่มหลามออกมา
จากการกินข้าวมากเป็นสองเท่าของทุกวัน
ซึ่งเป็นผลมาจากปากที่พูดไม่คิด

 ในขณะที่ไอ้เพื่อนสี่ตัวอ้าปากหวอ

“คราวนี้กูอ้วกแน่นอน..ไอ้สัดเขม”
ไอ้โอมคำรามขึ้นมาเบาๆ

“โอม...อยากกินสับปะรดเหรอ”

วินลืมเรื่องภายในใจได้เร็วกว่าที่ผมคิด
คงจะเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมาตลอดสินะ...ดีจัง

“มะ...มะ...เอ้อ...อยากกินสิ กินข้าวแล้ว
กินผลไม้ล้างปากสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน พวกมึงว่ามะ”

ไอ้โอมตอนแรกจะปฏิเสธ
แต่สายตาหวานๆทำให้มันใจอ่อน
ผมรู้มันไม่ชอบกินสับปะรดหรอกครับ
สมน้ำหน้ามันโว๊ย

   

ระหว่างที่เดินย่อยอาหาร ทั้งข้าว ทั้งไอติมและผลไม้
ที่จำต้องฝืนกินเข้าไป
เดินเพื่อจะเข้าไปเอารถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ในมหาวิทยาลัย

ฉัตรที่เดินทอดน่องอย่างจงใจ
มันดึงแขนผมให้เดินช้าลง

“มึงว่า...วิน..อกหักเปล่าวะ”
มันกระซิบถามผมเบาๆ

ผมมองด้านหลังของวินที่กำลังคุยจ้ออยู่กับเพื่อนใหม่
ไอ้สามตัวนั่นก็ล้อมหน้าล้อมหลังเกินจำเป็น

“อาจจะเป็นไปได้นะกูว่า
เพราะพ่อกับแม่มันก็ดูรักมันดี
ข้าวของเครื่องใช้ถึงจะมาจากเชียงใหม่แต่มันก็มีแบรนด์ว่ะ
แล้วที่มันบินมากทม.แทนการนั่งรถทัวร์
ก็น่าจะต้องมีฐานะระดับหนึ่งล่ะวะ”

“ไม่ใช่ปัญหาครอบครัว ไม่ใช่ปัญหาการเงิน
งั้นเรื่องเพื่อนเหรอวะ..”

ผมคิดถึงภาพที่เพื่อนมันบรรจงทำมาให้ที่ฝาผนังห้อง
ที่ผมต้องตอกตะปูให้มัน
ทั้งๆที่หอพักห้ามเจาะผนัง
ตอนย้ายออกต้องเสียตังค์แน่กู
ของๆมัน..แต่ผมเป็นคนเจาะ..รู

“ไม่น่านะ..มึงเห็นรูปที่ผนังป่ะล่ะ”

“อกหัก...ชัวร์”
ไอ้ฉัตรลูบเคราแพะที่คางของมันอย่างใจลอย

   
 :o9: :o9:

****************************************************************************


“เจอกันพรุ่งนี้นะ เดินทางดีๆล่ะ”
เสียงแจ้วๆตรงประตูทำให้ผมขำ

วินมันทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี
ตามออกไปส่งแขกสี่ตัวถึงหน้าประตูห้อง..หอ
เดินทางดีๆไรวะ...หอเดียวกัน ห้องห่างกันไม่กี่ก้าว

“เพื่อนๆของเขมน่ารักทุกคนเลย ใจดีด้วย”

วินพูดขึ้นมาลอยๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

 :katai2-1: :katai2-1:   


ผมนอนมองรูมเมทสวดมนต์อยู่เป็นนานสองนาน
คงจะสวดระลึกถึงพระท่าน...

ตั้งแต่เชียงใหม่ ไล่ลงมา ลำปาง นครสวรรค์
กว่าจะมาถึงกทม.นี่คงจะหลายร้อยโล
ผม...หลับดีกว่า

ผมเคลิ้มหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมง

“กุ๊กกู..ๆ...ๆ......”

ท่ามกลางความมืด
ผมยกนิ้วขึ้นมานับในใจได้สิบเอ็ดครั้ง
อืมมม ถ้าผมหลับอีกที...
ผมก็ต้องตื่นมาตอนมันร้องอีก
ครั้งหน้า สิบสองครั้ง

ตายๆ ผมต้องตื่นทุกหนึ่งชั่วโมงงั้นเหรอ

ชำเลืองดูคนบนเตียงนอนหลับสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ
ผมลุกขึ้นแล้วเดินโหย่งปลายเท้าไม่ให้เกิดเสียงดัง

เสร็จกู
ไปสิงสถิตย์ข้างนอกตรงระเบียงเถอะ...ไอ้นกเวร

   
 :laugh5: :laugh5:


ผมปิดประตูกระจกตรงระเบียง
แล้วเดินด้วยปลายเท้าเหมือนเดิม

แวะดูรูมเมทมันซะหน่อย พ่อแม่มันอุตส่าห์ฝากฝัง

แสงสลัวจากภายนอกที่ลอดเข้ามาในห้องสลัวๆ
ทำให้ผมมองเห็นเสี้ยวหน้าข้างหนึ่งของวิน

ผมพยายามจะมองหาที่ติ...ที่...ไม่มี
ถ้าจะมีก็ตรงที่หน้าหวานเกินไป
จิ้มลิ้มเกินไปสำหรับผู้ชาย

ผมดึงผ้าห่มที่ลุ่ยลงมาถึงบั้นเอวขึ้นมา
แล้วบรรจงห่มคลุมที่หน้าอกของวิน

เสื้อกล้ามสีขาวที่ใส่
มันดูกลมกลืนกับผิวของวินในความมืด
ผิวพรรณในร่มผ้าที่เผยออกมา
ดูนวลเนียนกว่าผู้หญิงหลายๆคนของผม
แม้กระทั่ง..หลิน..แฟนคนปัจจุบันของผม

ตอนที่ก้มลงพิจารณาใกล้ๆ...
กลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งเด็กที่วินใช้

มันทำให้ผม...ปากคอแห้งผาก

   
 :hao6: :hao6:

****************************************************



“ฮือๆ...หมอก...ตัวอย่าทิ้งเค้าไปนะ..อึกๆ”

เสียงไรวะ

“แม่ครับ..วินเจ็บ..เจ็บที่นี่ ข้างในนี้..ฮือๆ”

แม่ใครเจ็บป่วยแถวนี้วะ

“ฮือๆ...เค้าทำอะไรผิด ตัวถึงทำแบบนี้กับเค้า...ฮือๆ”

ทำไมมันยังดังอยู่นะ


“โว๊ยยย ใครวะ”
ผมลุกขึ้นนั่งด้วยความหงุดหงิด
เหมือนหลับได้แป๊บๆแล้วโดนปลุกซ้ำซาก

“ฮือๆ...วินคิดถึงพ่อ..คิดถึงแม่...ฮือๆ”

เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่เริ่มแหบแห้ง
ทำให้ผมรู้ว่าวินต้องร้องไห้มาสักพักแล้วครับ

“วิน..วิน...”
ผมเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงวิน

“วิน..เป็นอะไรรึเปล่า..เฮ๊ย”

แค่ผมทรุดตัวลงนั่งริมเตียง
แล้วแตะที่ไหล่ของวินเบาๆ
ผมก็โดนวินดึงตัวผมลงไปนอนบนเตียง
เป็นเพราะผมยังไม่ทันตั้งตัว
หรือผมไม่ขัดขืนกันนะ

“แม่..แม่ครับ...วินคิดถึงแม่”
หน้าของวินเกลือกกลิ้งอยู่กับอกผม

เหมือนจะซุกหา..เย้ย...มันจะดูดนมผม
มันคิดว่าผมเป็นแม่

“ปล่อยสิวะ”
ผมดันตัววินออกไปจากอกผม
ที่มันเป็นฝ่ายเข้ามาซุก

“แม่...ฮือๆ...แม่ไม่รักวิน...ฮือๆ”
วินแหกปากร้องเสียงดังขึ้นมาอีก

ผมกลัวเสียงจะดังไปห้องอื่น
เดี๋ยวคนจะว่าผมรังแกรูมเมทอีก

ผมจึงดึงตัววินเข้ามา...เอ่อ...เข้ามากอด

สาบาน..ผมไม่ได้คิดอะไรกับมัน
มันเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างหาก

ก็ไม่ได้เดือดร้อนรบกวนอะไรผมมากมายนี่ครับ
ผมเองก็นอนกอดสาวจนสว่างคาตาก็หลายครั้ง
อืมมมม...ตัวมึงทั้งนุ่มทั้งหอม

ถ้าน้องกูตั้งขึ้นมา...มีเฮแน่


 :m10: :m10:   


“หมอก...ตัวกลับมาหาเค้าแล้วเหรอ..อึกๆ
วินคิดถึงหมอกมากเลยรู้มั๊ย”
ผมอึ้งไปชั่วขณะ

คนในอ้อมกอดของผม...เหมือนเผือกร้อน
ที่ผมแทบจะทนไม่ไหว จนต้องกัดฟัน

ถึงผมจะไม่ใช่คนดีอะไรนัก

แต่ผมก็ไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร


*************************************************************


“ตุ๊บ..”

“เฮ๊ย...ไรวะ”

“นาย...นายมานอนที่นี่ได้ยังไง”


ผมที่นอนหมอบอยู่ข้างเตียง
กับไอ้คนบนเตียงที่มันทำหน้าบึ้ง

คุณคิดว่าใครที่จะต้องเป็นคนอธิบาย


“วะ...วิน...มึงฟังกูก่อน...คือ...”

“ตุ๊บๆ...ๆ.ๆ..”

ข้าวของประดามีบนเตียงของวิน ลอยมาปะทะหน้าผม
ถึงจะรับไว้ทัน แต่บางดอกก็โดนเต็มๆ

กว่าจะเคลียร์กันได้ หัวหูเนื้อตัวผม..

ราวกับไปฟัดกับหมาบ้ามาทั้งฝูง

   
 :ling1: :ling1:


“เขม...เขมมมมมม”

หน้าหวานๆที่โผล่มาตรงหน้า
ทำให้ผมต้องกลั้นยิ้ม

“ไร..”

“วินขอโทษน้า วินคงละเมออีกแล้ว”
หน้าสลดของวิน ทำให้ผมโกรธไม่ลง

“เป็นบ่อยมั๊ย”
ผมถามด้วยความเซ็ง

ทุกคืน ทุกสองคืน ทุกสามคืน หรือทุกครั้งที่หลับ

“ก็..ก็ไม่ค่อยแล้วล่ะ”
วินก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่จับกันแน่น

วินมันต้องมีความลับความหลังอะไรสักอย่าง
ที่ผิดหวัง และรุนแรง

“เมื่อก่อนตอน...เอ้อ...เมื่อก่อน...เรา...”

“พอแล้ว...ไม่อยากรู้แล้ว ไป..ไปเรียนกันเถอะ”

น้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาที่แฝงความปวดร้าวกับเหตุการณ์ในอดีต
ทำให้ผมไม่อยากรู้ เมื่อเจ้าตัวยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย

   


“หลินฟ้อนเล็บเหรอวะ...ฮะ ฮะ”

ไอ้โอมมันหัวเราะเมื่อเห็นรอยข่วนเล็กๆตามตัวผม
ที่แขน ที่คอ และที่สำคัญ
รอยข่วนเล็กๆจางๆที่ใต้ตาซ้ายของผม

“ไม่ได้นะเขม มึงจะให้เมียข่มแบบนี้ไม่ได้นะโว๊ย
หรือ..หรือมึงจริงจังกับหลิน”

ไอ้รุจน์มันทำหน้าสยดสยอง

ผมรู้เพื่อนๆผมไม่มีใครรังเกียจหลินถ้าจะเป็นแค่คู่ควง
แต่ถ้าเป็นตัวจริงพวกมันรับกันไม่ได้

หลินเองก็รู้ว่าเราสองคน
คบกันเพราะพอใจรูปร่างหน้าตากัน
เมื่อไหร่จืดจาง เบื่อหน่ายก็จบกัน
สาวๆในสต๊อคของผมรู้ดีว่า
เมื่อไหร่ที่มาวีนมาเหวี่ยงกับผม....ผม...จบ

หลินเป็นคนที่ผมคบนานที่สุด
คบกันตอนปีหนึ่งได้สองสามเดือน
แล้วก็เลิกรากันด้วยดี

ครั้งนี้เรากลับมาคบกันใหม่ได้เกือบๆสองเดือน
หลินรู้จักผ่อนสั้นยาว
เวลาผมควงคนอื่น เธอจะทำไม่รู้ไม่เห็น

แต่สำหรับผม...ถ้าคบซ้อน..ผมเลิก

เห็นแก่ตัวใช่ไหมล่ะครับ

ผมก็ไม่ได้บังคับ สมัครใจกันทั้งสองฝ่าย
ถึงอีกฝ่ายจะไม่ซิงผมก็ไม่มาย
ผมเป็นผู้ชายคบกี่คนก็ไม่มีอะไรสึกหรอ
แต่ในขณะที่เป็นผู้หญิงของผมๆไม่ชอบแชร์กับใคร
แค่บอกกันตรงๆ แล้วเดินออกไปได้เลย

หลินอาจจะโชว์หึงหวงเล็กๆน้อยๆแต่ไม่ล้ำเส้น
ผมก็อ่อนข้อให้

ทำให้หลายๆคนคิดว่าคนๆนี้คือตัวจริง

“เขม..มึงอ่อนว่ะ”

ไอ้ฉัตรมันไม่ค่อยพูดมาก
แต่ๆละคำที่พูดออกมา แดกดันกูประจำ

“เอาจริงเหรอวะเขม..มึงก็รู้”

ไอ้โซลมันหวังดีครับ
หลินประวัติก็ผ่านมาเยอะพอสมควร

ควงได้แต่ถ้าจริงจังคงต้องคิดหนัก

ผมไม่ทันจะตอบ ตัวต้นเรื่องก็ออกหน้า

“เอ่อ...คือ...”

“มีไรวิน มันทำอะไรวิน”

รุจน์มันรีบจับไหล่วินให้หันมา
แล้วสำรวจไปทั่วตัววิน
โดยเฉพะที่ปากแดงๆของวิน

“ไม่..ไม่มีอะไร..”
วินเบี่ยงตัวออกอย่างอึดอัด


วินเป็นพวกไม่ชอบสกินชิพ
ผมสังเกตว่าหลายครั้ง
ที่พวกเราคนใดคนหนึ่งเข้าใกล้
วินจะหลบเลี่ยงเหมือนหวงตัวแปลกๆ

รูมเมทของผมคนนี้มีอะไรมากมายให้น่าค้นหา

 :m26: :m26:   


“ฮะ ฮะ......”

ผมคิดอะไรเพลินๆ
เสียงพวกมันหัวเราะขำกันใหญ่

“ทีนี้เราก็ศอกซ้าย พอเขมลุกขึ้นมา
เราก็ข่วนไปที่หน้าเขมอย่างแรง”

“เฮ๊ย...มึง..มึงว่าอะไรนะ...”

เหตุการณ์มันตาลปัตรกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง


“เขม..มึงว้อนท์มากเหรอวะ
ถึงวินมันจะหน้าหวานเหมือนผู้หญิง
มึงก็ไม่น่าจะหน้ามืดไปปล้ำมัน”

ไอ้โซลมันส่งสายตาตำหนิโจ่งแจ้งมาให้ผม

“ไอ้...ไอ้วิน...”
ผมชี้หน้าตัวต้นเหตุ


“คริคริ...ไม่เป็นไรเราให้อภัยเขม”

มันหัวเราะ แต่ไม่กล้าสบตาผม


ฝากไว้ก่อนเถอะ...


ไอ้รูมเมทตัวแสบ

 :m16: :m16:


**********************************************************************************************

 :3123: :3123:


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่ห้า


ในรั้วมหาวิทยาลัย
การเรียกชื่อคนโน้นคนนี้ เราก็มักจะต่อท้ายด้วยคณะที่เรียน
เพื่อที่จะได้ไม่ผิดฝาผิดตัว หากบังเอิญชื่อซ้ำชื่อโหล
พวกผมก็มักถูกเรียกขานกันง่ายๆว่า...

เขม...วิดวะ
รุจน์...วิดวะ
โอม...วิดวะ
โซล....วิดวะ
และ ฉัตร...วิดวะ

ส่วน รูมเมทผม...มันก็จะต้องเป็น..วิน...นิเทศน์



คณะนิเทศน์เป็นคณะที่พวกผมไม่อยากเฉียดเข้ามาใกล้
เด็กคณะนี้แต่ละคน..
จ้องพวกผมยังกะพวกผมเป็นพวกเกรียน ห่ามและหื่น
คนที่เรียนวิศวะ มันก็มีหลากหลายนี่ครับ
มีทั้งเกรียน ทั้งเนี๊ยบ ทั้งเนิ้ด มีหมด
แล้วแต่คุณจะได้สัมผัสกับคนแบบไหน

สายตาคนภายนอกจะดูว่าพวกผม
หยิ่งนิดๆ เจ้าชู้หน่อยๆ เกรียนไม่น้อย
แถมยังเข้าขั้นหน้าตาดี มีฐานะ
ถึงไม่ได้ดีเลิศแต่ก็ไม่เลว...น่าลองใช่มั๊ยล่ะครับ


“ดูดิเขม สองนาฬิกา...กูล่ะหนักอกหนักใจแทน”

ไอ้โอมทำหน้านิ่งไม่วอกแวก
แต่ตามันถลนจนแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า

“ไหนๆ...โหย...กูกลัวหายใจไม่ออก..ปอดบวมว่ะ..ฮะ ฮะ”
ไอ้โซลมันหันไปมองทันทีอย่างไม่ระวัง
เรื่องนมต้องมาก่อนเสมอครับ

“ตุ๊บ..อย่าหันไปดิวะ เดี๋ยวเขารู้ตัวก็อดดูหรอกมึง”
ไอ้ฉัตรแม้จะไม่วอกแวก
แต่ก็ซัดไปที่ไหล่ไอ้โชลไม่เบานัก

“เชี้ยยย...อย่าดังไปดิวะพวกมึง”
ไอ้โอมทำท่าจะโวยวายตามนิสัยมัน

“เบาสิพวกมึง กลับไปเรียนกันเถอะ”

ผมห้ามพวกมันกับเรื่องเหล่สาว
ผมมองสาวนิเทศน์แบบไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่
ผมไม่ชอบพวกเรียนแอคติ้ง
มองหาตัวตนที่เป็นธรรมชาติไม่ค่อยเจอ
ไม่รู้ว่าการกระทำที่ออกมาเป็นจริงหรือแสร้งแสดงออก
(ความคิดของไอ้เขมมัน ไอ้หน่อยไม่เกี่ยวครับผม)

พวกผมเดินเกาะไหล่กันกลับมาจากการยกขบวนไปส่ง
ไอ้วิน..เด็กใหม่ปีสาม ที่คณะนิเทศน์

เอ่อ...ดูจำนวนขากลับมันร่อยหรอลงไป

“อ้าวเฮ๊ย..ไอ้รุจน์ล่ะ”
เดือดร้อนพวกผมต้องเดินกลับไปตามหามัน
กลัวมันจะหลง..ฮะ ฮะ

 :katai5: :katai5:   


“ป๊าบ....”

“ยืนดูไรอยู่วะ”

ไอ้รุจน์มันสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันทีที่ไอ้โอมตบไหล่แล้วถาม
หน้ามันที่หันมาแดงก่ำอย่างมีพิรุธ
ผมมองตามภาพที่มันยืนดูอยู่ก่อนหน้าที่พวกผมจะมาตาม

“อีกแล้วเหรอวะรุจน์”

ชายหนุ่มหน้าตาดี ขาวๆสูงๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะ
แวดล้อมไปด้วยสาวๆสวยๆ

“อืมมม...ไปเหอะ”

ไม่มีใครพูดอะไรให้รุจน์คิดมาก
สามปีแล้วที่ไอ้รุจน์แอบมองคนๆนี้อยู่ห่างๆ
มันเป็นรักแรกพบล่ะมั๊งครับ
ผมไม่เข้าใจความรักแบบนี้สักนิด
ความรักของผมมันต้องได้สัมผัสถึงจะรู้ว่ารัก
ประเภท...เห็นหน้าแล้วปิ๊งเลยแบบนี้ไม่เคยหรอกครับ

อ้อ...อาจมีบ้างที่ถูกชะตา เหมือนไอ้วิน รูมเมทผม

 :hao3: :hao3:   


ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย
ไอ้รุจน์ที่ดีแต่ปาก มันไม่เคยจีบใคร ไม่เคยมีแฟนจริงๆ
มีแต่คนมาจีบมาแซว ควงกันดูหนังกินข้าวครั้งสองครั้ง
แล้วมันก็ชิ่งหนีเขา เหมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน

“ก็กูไม่ได้ชอบเขานี่หว่า คบๆไปก็ต้องเลิก”

เหตุผลของมันครับ เพราะฉะนั้นเชื่อได้ว่า...มันซิง

“เมื่อไหร่มึงจะเข้าไปคุยกับเขาวะ
กูเห็นแล้วทั้งรำคาญทั้งอึดอัด”
ไอ้ฉัตรที่ว่านิ่งๆมันยังทนไม่ได้

“ไม่เอาว่ะ กูกลัวเขาไม่ชอบกู”
ไอ้รุจน์มันส่ายหน้า

มันหล่อครับ แต่ไม่ได้หล่อเข้ม มันออกแนวหล่อน่ารัก(ยังไงน้อ)
แต่ไม่ใช่สวยหวานเหมือนผู้หญิงแบบไอ้วินนะครับ

แล้วทำไม...ไม่ว่าพูดถึงเรื่องอะไร
ผมต้องเอาไอ้วินมาเปรียบเทียบตลอดๆ
ผมสะบัดหัวแรงๆให้ไอ้รูมเมทหน้าหวาน
มันออกไปจากสมองของผม

“เป็นเชี้ยไรวะเขม จะส่ายหัว..เพื่อ....”
ไอ้โซลมันดันเห็น


“ไม่มีไร..กูไม่ได้คิดอะไรกับมัน”


  :mew5: :mew5:   


********************************************************************************


“เฮ๊ย...”

ไอ้รุจน์ร้องออกมา
เมื่อไอ้วินเดินตรงมาหาพร้อมกับ.....


“เพื่อนๆ เราพาเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จักน่ะ
นี่ปาล์ม...เพื่อนคนแรกของเราที่คณะ”
ไอ้วินแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน

“รุจน์เป็นไรอ่ะ ไม่สบายเหรอ..หน้าแด๊งแดง”
ไอ้วินเข้าไปมองหน้าไอ้รุจน์ใกล้ๆ
แล้วแตะปลายคางที่ก้มงุดของไอ้รุจน์ให้เงยขึ้น

“ยะ...อย่า..ไม่เอา..วิน”
ไอ้รุจน์เอามือจับข้อมือวินไว้ หน้ามันเจื่อนๆ

“โห...ไม่สบายแน่เลย มือเย็นเจี๊ยบ”
ไอ้นี่ก็ไม่รู้อะไรกับเขาเลย

“รุจน์เป็นอะไรครับ ไปห้องพยาบาลมั๊ยครับ”
ไอ้ปาล์มขยับเข้ามาใกล้

ยิ่งอยู่ใกล้...
ผมถึงได้เห็นหน้าไอ้คนที่อยู่ในใจเพื่อนรักของผมมาตลอดชัดๆ
หน้าตามันขาวใส ตี๋ๆ ดูสุภาพ
กลิ่นน้ำหอมราคาแพงโชยมาบางเบา กลิ่นแมนๆ
ท่าทางจะสำอางน่าดู เสื้อผ้าผมเผ้า...กริบ...
พอๆกับผมเวลาตั้งใจจะให้เป็น

บางเวลาผมก็แต่งตัวง่ายๆสบายๆไม่ได้เนี๊ยบตลอดเวลา


“ไม่..ไม่เป็นไรอ่ะ..จะ..จะไปเรียนแล้ว”

ขำไอ้รุจน์ชะมัด ธรรมดา...วะ โว๊ย ตอนนี้มี...อ่ะ เออะ
เขินเขาล่ะสิมึง
ผมหันไปดูไอ้เพื่อนที่เหลือ
พวกมันก็กำลังจดจ้องรอดูเหตุการณ์เหมือนผม

“อืมมม...งั้นให้เพื่อนๆไปเรียนกันก่อน
แล้วเดี๋ยวปาล์มไปส่งรุจน์ที่ห้องพยาบาลเอง
ตอนนี้ปาล์มไม่มีเรียนแล้วครับ”

แหมๆ...เข้าทางไอ้รุจน์
แต่มันทำท่าลังเล ขืนเป็นแบบนี้...อดแด๊กล่ะมึง
จำผมต้องช่วยดัน

“ไปเหอะมึง กูเช็คชื่อแทนเอง”

ไอ้รุจน์มันทำตาปริบๆ ทีงี้ล่ะไม่กล้า

“รุจน์กลัวปาล์มเหรอ ปาล์มเป็นคนดี เรารับประกัน”
โห...ไอ้วินมันกล้าพูด
ได้ข่าวว่ามึงเพิ่งเจอหน้ามันไม่กี่ชั่วโมง

“”เอ่อ...ไม่ใช่อย่างนั้น...”

“งั้นเราไปเป็นเพื่อนด้วยอีกคนอ่ะ”
ไอ้วินมันเสนอตัว ไปเป็นไม้กันหมา

“ไม่ต้องเลยมึง ไปเรียนกับกู ยิ่งโง่ๆอยู่”

ผมดึงไหล่มันให้เข้ามาใกล้ตัว
แล้วลดมือลงมาแตะที่เอว
ต้องกันไว้ก่อนครับ ไอ้นี่มันเดาทางยาก

“วู๊...เขม อย่ารัดสิ..อึดอัด”
มันดิ้นยุกยิก

“อยู่เฉยๆดิวะมึง ไปๆแยกย้ายกัน”

ผมตัดบทแล้วโอบเอวมันให้เดินตาม
ในขณะที่มันพยายามจะดิ้นให้หลุด

“ไม่อาววว...ไม่เรียนนนนน”

   
 :ling1: :ling1:

***********************************************************


“ฮะ ฮะ ฮ่า...หน้ามึง”

ไอ้โซลมันหัวเราะหน้าหงิกงอของไอ้วิน
ที่นั่งอยู่ข้างๆผมในห้องเลกเชอร์

“ถึงจะช่วยเพื่อนแต่ก็ไม่ควรแกล้งเรานี่นา”
ไอ้วินบ่นงึมงำ แต่ผมได้ยิน

“มีน้ำใจมั่งสิวะมึง”
ผมกระซิบข้างหูมัน

ถึงแม้อาจารย์จะยังไม่เข้าสอน
แต่เราก็ไม่ควรส่งเสียงดังในห้องเรียนใช่ไหมล่ะครับ
กลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆ
ทำให้ผมหักห้ามใจที่จะไม่สูดดมเข้าไป...ไม่ได้

   


“เย๊ย...นายทำไรเนี่ย”

ไอ้วินมันหน้าแดงทำไมวะ
แล้วเช็ดแก้มทำไม

“กูทำไรมึง..อย่าเวิ่น”
ผมลอยหน้าลอยตาอย่างที่ไม่เคยทำ
ทำไมกูแต๋วๆไงไม่รู้

“มึงหอมแก้มมัน”
ไอ้ฉัตรพูดหน้านิ่งเสียงนิ่ง

“หอมมั๊ยวะ...ฮะ ฮะ ฮ่า”
ไอ้โอมมันทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นกะทันหัน

“ก็...มึงล้างหน้ามั่งป่าววะ”
ผมหันไปถามไอ้วินที่ตอนนี้ทำหน้างง

“ล้าง..ล้างดิ ถามบ้าไร”
ผมเห็นแต่ใบหูแดงๆที่โผล่มาให้เห็น
เพราะเจ้าตัวกำลังก้มหน้างุดลงกับโต๊ะ


************************************************************************


“วิน...วิน...”
ผมขยับไหล่ที่มันพิงหลับอยู่อย่างสบาย

“หืมมม...อ้าว เลิกแล้วเหรอ”
มันงัวเงียขยี้ตา

“ป่ะ...กินข้าวกัน วันนี้ไปกินที่ห้างกันดีกว่า”
ไอ้โซลมันเสนอ

ทุกวันศุกร์พวกเราก็จะออกไปนอกสถานที่กันครับ
เพราะพอวันหยุดทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ยกเว้น..ผม กับไอ้ฉัตร

คนกรุงเทพกันทุกคนครับ
ยกเว้นไอ้ฉัตรที่เป็นคนใต้...สงขลา

ผมนานๆทีก็กลับไปเยี่ยมแม่ น้อยครั้งที่จะนอนค้าง
แต่ถึงผมไม่กลับ แม่ก็คงไม่เหงา
ที่บ้าน..นอกจากแม่..พ่อเลี้ยง..ก็ยังมีน้องสาว..น้องใหม่
ลูกคนใหม่ของแม่กับพ่อเลี้ยงนั่นแหละครับ


“ไอ้รุจน์ล่ะ ไม่เห็นมันกลับมาเรียนเลย
หรือมันจะไม่สบายจริงๆวะ”
ผมเริ่มไม่สบายใจ
ไม่รู้ว่ามันจะหลุดแสดงให้ไอ้ปาล์มรู้ความในใจรึป่าว

“มันโทร.มาบอกแล้ว ไปเจอกันที่ห้างเลย”
ไอ้โอมมันชูมือถือประกอบคำพูด
คงจะเพิ่งคุยกันเสร็จ

“เจอกันที่ห้างว่ะ”

ผมรวบหนังสือพร้อมกับกองชีท
ทั้งของผมของวินมาไว้ในอ้อมแขน
อีกมือก็ดันหลังมันให้ออกเดิน

ทุกคนมีรถ แต่ก็ผลัดๆกันเอารถออก
แต่พอผมมีรูมเมท
ผมก็ตั้งใจจะเอารถออกมาเองทุกวัน
เพื่อความคล่องตัวหรอกครับ
เผื่อวินมันงุ่มง่ามชักช้าจะได้ไม่ถ่วงเพื่อน

 :seng2ped: :seng2ped:   


“ถามเราสักคำยังอ่ะ ว่าอยากไปด้วยป่าว”
มันบ่นงุ๊งงิ๊งตอนนั่งลงที่เบาะตอนหน้า

“คาดเข็มขัดด้วยสิวะ”
ผมแกล้งไม่ได้ยิน
ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมัน

มันหน้างอค้อนผม แล้วหันไปดึงประตูรถเข้ามา


“ปัง”

“เฮ๊ยยยย”

มันปิดประตูแรงพอใช้
ผมชะโงกไปดึงเข็มขัดมาคาดให้มัน

จังหวะมันหันหน้ามา

“ฟอด..”

ชื่นใจชะมัด กลิ่นเด็กอ่อน

   

“นายทำบ้าอะไรเนี่ย”
มันถูแก้มแรงๆ จนแดง

“มึงอย่าถูสิวะ แดงหมดแล้ว”

ผมดึงมือมันออกจากแก้ม
มันสะบัดมือออกจากมือผมทันที
แล้วหลังมือผมมันก็ค้างเติ่งที่แก้มแดงใสข้างนั้น

ผมไล้หลังมือเบาๆกับแก้มนิ่ม

“แก้มมึงนิ่มว่ะ”
ผมละมือแล้วเริ่มสตาร์ทรถ

“ทำไม..นายทำแบบนี้ทำไม...เขม”
เสียงไอ้วินสั่นๆ เหมือนจะร้องไห้

“ก็...ก็กูเห็นว่ามึงมาจากบ้านนอกไง
กู..กูก็กลัวมึงจะคาดเข็มขัดไม่เป็น”

ผมชำเลืองมอง..มันเม้มปากแน่น

“มันอันตรายนะมึง ตำรวจจับ ปรับด้วย
กูไม่อยากมีปัญหา”

วะ...กูพูดอะไรออกไป


“จริงอ่ะ...”
มันหรี่ตาข้างหนึ่งมองผมอย่างจับผิด

“น่ารักว่ะ”
ผมหลุดปากชมมัน

“ห๊ะ”

“เอ่อ...มึง..มึงมัน...บ้านนอกชะมัดว่ะ”

“เชียงใหม่ไม่บ้านนอกซะหน่อย
แล้วบ้านเราก็มีรถด้วย”

ปากแดงๆของวิน

มันดูขยายใหญ่

ใกล้เข้ามา

ใกล้เข้ามา

แล้วผมก็...


“จุ๊บ..”


ผม...ผมทำอะไรลงไป
ผมจูบลงบนปากของมัน
แม้จะแค่ชั่ววินาทีเดียวก็ตาม


“นาย...นายชอบผู้ชายเหรอเขม”

เสียงพูดของมันอู้อี้
เพราะมันเอามือปิดปากเอาไว้
เหมือนกลัวผมจะจูบอีก

“มึง..มึงพล่ามอะไรวะ”

ผมหันหน้ากลับมา
พร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วกว่าปกติ
มือที่จับพวงมาลัยคล้ายจะอ่อนแรง
จนผมต้องออกแรงกำพวงมาลัยแน่นกว่าปกติ

ท่ามกลางความเงียบในรถ
ผมกลัวมันจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจผม

“ปะ..เปิดเพลงดิวะ ทำตัวให้มันมีประโยชน์หน่อย”
ผมพูดลอยๆขึ้นมา

เสียงเพลงบรรเลงขึ้นมา
ผมชำเลืองดูเสี้ยวหน้าด้านข้าง
มันขึ้นสีเรื่ออย่างน่าดู

ทำไม..มึงไม่เป็นผู้หญิงวะ..วิน

   
 :z6: :z6:

************************************************************************


“นี่ๆ...โอมกินปลาซาบะน้า
ส่วนโซลก็กินปลาหมึกย่างน้า”

“ฉัตรกินทงคัตสึสิ..น่าอร่อยอ่ะ”

“รุจน์ก็กินเทมปุระ”

“ปาล์มมมม..ยากิโซบะสีเข้มๆซอสชุ่มๆน้า”

“เขม...กินข้าวปะ...เอ่อ...”

ประโยคทั้งหมดข้างต้น
มาจากปากแดงๆที่เพิ่งโดนผมสัมผัส
แต่ประโยคสุดท้ายขาดหายเข้าไปในลำคอ
เมื่อเจ้าตัวหันมาสบสายตาผมที่มองอยู่

“ที่พูดโน้มน้าวมาทั้งหมดเนี่ย
เพราะวินอยากกินใช่มั๊ย”

เสียงไอ้ปาล์มมันนุ่มทุ้ม
แต่ผมฟังแล้วมันขัดหูผม

“ก็..ก็เราอยากกินทุกอย่างเลยอ่ะ”
สายตาอ้อนๆแบบนั้น มันน่าหมั่นไส้ชะมัด

“เลยต้องอ้อนคนอื่น”
ผมว่ามัน...ผมรู้สึกรำคาญไอ้วินขึ้นมา
ลับหลังมันคงจะอ้อนเพื่อนมันสินะ

“วินอยากกินก็สั่งมาเถอะ
สั่งที่อยากกินมากที่สุดมาสักสามสี่อย่าง
ส่วนเมนูอื่นเดี๋ยววันหลังปาล์มพามาเลี้ยงนะ ดีมั๊ย”
มือของไอ้ปาล์มลูบหัววินเบาๆ

“แม่ง...อวดรวย”
ผมคิดในใจแต่มันดันหลุดออกมา

“เขมมมมม...”
รุจน์เรียกชื่อผมเป็นเชิงปราม เตือนสติ
ถึงแม้ว่าตัวมันเอง
ก็กัดปากล่างจนเป็นรอยให้เห็น

“นายหมายความว่ายังไง”
ปาล์มมันจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง

“ก็อย่างที่พูด มึงอวดรวยจะเลี้ยงวินมันทำไม
มันเมทกู กูเลี้ยงเองได้”

ผมกินนอนห้องเดียวกับวิน
มันไม่ควรมาแทรกมาเสือก

“กูก็เพื่อนรักมัน...จริงมั๊ยครับวิน”
มันไม่ยอมแพ้หันไปถามคนกลาง

กลางจริงๆครับ
วินมันนั่งคั่นระหว่างผมกับไอ้ปาล์ม



“อย่าเสียงดังกันสิ เราไม่มีสมาธิ”
วินเงยหน้าขึ้นมาจากเมนูอาหาร ตาเขียว

   

“ห๋า..”

แสดงว่าตลอดเวลามันไม่ได้รับรู้อะไรเลยเหรอเนี่ย


“รุจน์กินไรอ่ะ เราได้ไม่สั่งซ้ำ
แล้วเอามาแบ่งกัน”
วินมันถามรุจน์ที่นั่งตรงข้าม

“งั้นยกหน้าที่สั่งให้มึงเลยแล้วกันวิน
พวกเรามีหน้าที่กินอย่างเดียว”
ไอ้ฉัตรที่นิ่งฟังอยู่นานตัดบท

"เย้...วินจัดห้ายยยย"
มันดีใจจนเกินเหตุ

เมื่อทุกคนพยักหน้ารับ รวมทั้งผมด้วย

แล้วอาหารมื้อนี้ก็เป็นอาหารที่

ไอ้วินมันเป็นคนเลือกทั้งหมด..เฮ้อ


 :เฮ้อ: :เฮ้อ:



 

herenoi

  • บุคคลทั่วไป

 :L2: :L2:

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่หก



กลับมาจากกินข้าวที่ห้าง
ผมกับวินนั่งรถที่มีผมเป็นคนขับกลับมาที่หอพัก

บรรยากาศหอพักนักศึกษา
ตอนหัวค่ำของวันศุกร์สุดสัปดาห์ค่อนข้างเงียบเหงา
เพราะคนในหอพักมากกว่าครึ่งกลับบ้านกัน
ไอ้ฉัตรมันขับรถของมันนำหน้า ซิ่งกลับมาก่อน
แล้วก็คงไปสิงที่ห้องสาวคนไหนสักคนของมัน

คาดว่าผมคงจะได้เห็นหน้าอันซีดเซียวของมันอีกที
ก็เช้าวันจันทร์โน่นล่ะครับ
ซีดเซียวจากเรื่องอะไรก็คงไม่ต้องบอกกันหรอกนะครับ
ผมคิดว่าคุณรู้

   

ผมนอนเงียบๆมองดูวินจากบนเตียงนอนของผม เพลินดีครับ

เหมือนผมกำลังนอนดูมิวสิควีดีโอเพลงรักหวานๆสักเพลง
โดยที่มีคนแสดงเพียงคนเดียว
แต่สามารถดึงดูดสายตาของผมไว้ที่คนๆนั้นได้ตลอดเวลา

วินมันเป็นคนที่...ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ดูน่ามอง
นิ้วมือเรียวๆค่อยๆหยิบจับข้าวของให้เข้าที่
ซึ่งดูแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
เรียกว่าหยิบของที่กองอยู่
มายัดๆให้รวมกันเป็นกองเดียวกันซะมากกว่า

หน้าที่ก้มน้อยๆน่าดูมากสำหรับผม มองได้ไม่เบื่อ
รอยยิ้มหวาน และการเอียงคอน้อยๆมองดูผลงานของตัวเอง
ผลงานที่ไม่ได้ใช้สมองและแรงงานสักเท่าไหร่

มันกลับทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
วินไม่ต้องทำอะไรมากมาย
แต่ก็ทำให้ผมเกิดรอยยิ้มขึ้นได้บ่อยๆ

วิน...มันจะมีคนรู้ใจรึยังนะ
คนน่ารักแบบมันไม่น่าจะว่าง ไม่มีใครเข้ามาจีบ
แล้วคนที่โชคดีคนนั้นจะหน้าตารูปร่างเป็นยังไงนะ 
ผมอยากเห็นจริงๆ

จะดูดีได้เท่าวินมันมั๊ย 
แฟนมันคงต้องเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ
ต้องบอบบางน่าทะนุถนอมมากๆ...มากกว่ามัน

ผมยังคิดภาพผู้หญิงลักษณะแบบนั้นไม่ออกเลยครับ
สาวๆที่ผ่านเข้ามาสำหรับผม ล้วนแล้วแต่แรงและเผ็ดร้อน
หวานๆ อ่อนโยน ผมไม่เคยได้สัมผัส และก็ไม่อยากด้วยครับ
จะให้มานั่งเอาใจ พูดจาหวานๆผมก็ทำไม่ได้และไม่อยากทำสักเท่าไหร่


***************************************************************************


“ก๊อกๆ..”

เสียงเคาะประตูทำให้ผมหยุดชะงักความคิด

ผมลุกขึ้นไปเปิดประตู
และทันได้เห็นสายตาของวินที่เหลือบมองมา
ตั้งแต่กลับมามันยังไม่มองหน้าไม่พูดกับผมสักคำ
ทีกับคนอื่นอ้อนเอาอ้อนเอา ฝากไว้ก่อนเถอะ

“เขม...ไม่โทรมาหาหลินบ้างเลยนะคะ
ต้องให้หลินบุกมาหาถึงห้อง”
สองแขนเรียวของคนตรงหน้าประตู
ยกขึ้นคล้องต้นคอด้านหลังของผมอย่างเคยชิน

“จุ๊บ..”
ผมเผลอจูบปากบางๆเคลือบสีชมพูหวานของลิปสติกตามปกติ
โดยลืมว่าวินคงกำลังมองอยู่

“นั่นใครคะ”
ผมหันไปมองข้างหลัง

วินที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนข้างโต๊ะเขียนหนังสือของมัน
มือที่กำ ปากแดงๆที่เม้มแน่น แววตาที่หมางเมิน
มันทำให้ผมใจหาย

แต่สิ่งที่ผมมองเห็นทั้งหมด
มันก็หายไปในชั่วนาทีเดียว

“สวัสดีครับ ผม...วิน รูมเมทของเขม”
วินเป็นฝ่ายยิ้มให้ก่อน

“หลินค่ะ..แฟนเขม”
หลินเกาะแขนผมแน่นตอนที่แนะนำตัว

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมขอตัวก่อนนะ”
ไม่รอฟังอะไรทั้งนั้น
พูดจบวินก็เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว เข้าห้องน้ำไป
เป็นการบอกให้รู้ว่า...เข้าไปอาบน้ำ

“ทำไมเขมไม่บอกหลินล่ะคะ ว่ามีเมทใหม่แล้ว
ถึงว่าโทรมาก็ไม่รับ ทำอะไรกันอยู่คะ”

ผมล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงออกมาดู
จริงด้วย...มิสคอลจากหลินเกือบสิบสาย

“ผมขอโทษ ผมลืมเปิดเสียงน่ะครับ”
ผมลูบแก้มหลินเบาๆอย่างใจลอย

แทนที่จะกลัวหลินโกรธ
ผมกลับกังวลถึงจิตใจคนในห้องน้ำ
ไม่รู้ว่าวินจะคิดอะไรอยู่ สีหน้าท่าทางของวินดูไม่ดีเลย

“แล้วเขมออกไปไหนมาคะ ไม่เห็นชวนกันบ้างเลย”

เย็นวันศุกร์ส่วนใหญ่ถ้าผมไม่พาหลินไปกินข้าวกับเพื่อนผม
อย่างน้อยผมก็จะโทรหา หรือพาเธอออกไปค้างข้างนอก
อาจจะห้องเธอ หรือโรงแรมดีๆสักที่

“ผมขอโทษจริงๆนะหลิน พอดีผมพารูมเมทไปแนะนำให้พวกเพื่อนรู้จัก
แล้วเลยไปเลี้ยงฉลองตามประสาผู้ชาย เลยไม่ได้ชวนหลิน”
ผมไม่ได้โกหกถูกมั๊ยครับ
ที่พูดมาก็เป็นความจริงทุกอย่าง

“งั้นเหรอคะ ได้เพื่อนใหม่จนลืมหลินเลยนะ”
หลินเป็นแบบนี้ผมถึงคบกับเธอได้นาน
ไม่เซ้าซี้จนน่ารำคาญ

“หลินของผมน่ารักจัง”
ผมก้มลงหอมแก้มเธอ
แต่พอจะผละออกมา
หลินกลับดึงหน้าผมไว้
แล้วบดจูบอย่างรุนแรง
ผมจูบตอบเธอ
หลินจูบเก่งทีเดียวครับ
จูบจนทำให้ผมเกิด....

“ไปค้างข้างนอกกันนะคะ..เขม”
หลินกระซิบชิดริมฝีปากของผม

“ไปสิครับ เบบี๋”
ผมตอบรับ
แล้วลูบคลึงที่สะโพกของหลินอย่างเคยชิน

เรายังกอดกันจูบกันอีกสักพัก
ก่อนที่ผมจะหันกลับไปเพื่อจะหยิบของใช้ส่วนตัว..ภายในห้อง

“เอ่อ...วิน...กู...กู...”
ผมพูดอะไรไม่ออก
สายตาวินที่มองมาทำให้ผมเปลี่ยนใจ
ไม่อยากออกไปค้างข้างนอก
มันเป็นสายตาของลูกแมวตัวน้อย
ที่กำลังหลงทาง และกำลังจะถูกทอดทิ้ง

“หลินขออนุญาตพารูมเมทไปค้างข้างนอกนะคะ..วิน”

แขนเรียวที่วางเกาะตรงบั้นเอวผมกระชับรัดขึ้นมาเล็กน้อย
ผมหันหน้ากลับไปมองหลิน
เสียงเธออ่อนหวาน แต่สายตาดูนิ่งกว่าปกติ
คล้ายกำลังหยั่งเชิง

“ตามสบายครับ”
วินยิ้มจางๆส่งมาแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดยุกยิก
เป็นการแสดงว่าไม่มีอะไรจะพูดอีก

ผมเก็บของใช้ส่วนตัว ก็แค่...กระเป๋าตังค์กับมือถือ
ที่เหลือมีของใช้ติดรถไว้ตลอด

“เขมไม่ต้องเอาชุดนอนไปหรอกนะคะ คงไม่ได้...ใช้”

หลินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
หน้าขาวๆของเธอขึ้นสีเรื่อๆอย่างน่าดู
โดยภาพรวมดูเหมือนสาวน้อยที่อ่อนต่อโลก เอียงอาย อ่อนเดียงสา
หากแววตาที่ไม่สามารถปั้นแต่ง..
กลับเชิญชวนยั่วยวน

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้
ที่วินยังไม่ได้เข้ามาเป็นรูมเมทของผม
ผมคงจะรีบกระชากเธอขึ้นรถ
แล้วบึ่งไปโรงแรมที่ใกล้ที่สุด
เพื่อสนองอารมณ์ดิบที่เริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างฉุดไม่อยู่

แต่ตอนนี้ต่อหน้าวิน
ไม่สิลับหลังวิน เพราะมันนั่งอยู่บนเตียง
และหันหลังให้ผมกับหลิน

ตอนนี้ผมอยากจะนอนฟังเสียงไอ้นกเวรตะไล
ที่ร้องกุ๊กกูอยู่ในความมืดมากกว่า
อยากนับนิ้วว่ามันร้องกี่ครั้ง
แล้วผมก็จะย่องเอามันออกไปขังไว้นอกระเบียงห้อง

แล้วผมก็อยากจะลุกเดินเบาๆด้วยปลายเท้า
เพื่อไปดูว่าไอ้วินมันนอนดิ้นจนผ้าห่มหลุดลุ่ยออกจากตัวรึป่าว
ผมจะได้ดึงขึ้นมาห่มให้มัน
ก็พ่อแม่มันฝากผมไว้นี่ครับ ให้ดูแลมัน

แล้วผมก็อยากเข้าไปดูมันใกล้ๆ
ตอนที่มันร้องไห้จากฝันร้ายหรืออะไรสักอย่างที่อยู่ภายในใจของมัน

 :mew2: :mew2:   


“วิน...กู....”

ผมเรียกมัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับมัน

"เจอกันพรุ่งนี้นะ"
"ฝันดีนะ"
"ห่มผ้าด้วยล่ะ"
หรือ

"กูจะไปนอนกับหลิน"

คำพูดที่ผมคิดได้ตอนนี้และอยากพูดจริงๆ คือ

"กูไม่อยากไป"

แล้วมันพูดได้เหรอครับในสถานการณ์แบบนี้
มันไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่ไปกับหลิน
ก็ในเมื่อเธอเป็นแฟนผม
ผมจะออกไปค้างกับแฟนมันก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน

แต่ทำไมใจผมมันไม่เห็นด้วย

“ไปเถอะค่ะเขม..ทุกนาทีมีค่า จริงมั๊ยจ๊ะวิน คริคริ”
หลินดึงแขนผมลากออกมาจากห้อง
แล้วยังไม่วายพูดทิ้งท้ายให้วินหันกลับมามอง

“ครับ”
เสียงตอบรับแผ่วเบา

สีหน้าเศร้าๆเหมือนตอนที่พ่อกับแม่ของมันจะจากไป
เด็กหนอเด็ก...มันคงไม่เคยจากบ้าน
และตอนนี้คงรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง


“แล้วกูจะรีบกลับ”

ผมบอกมันด้วยเสียงหนักแน่น

ก่อนที่หลินจะดึงประตูปิด

   
 :a2: :a2:


****************************************************************************


ผมอัดบุหรี่เข้าปอดแรงๆสองสามทีแล้วถอนหายใจยาว

ผมเป็นอะไรไป บทรักที่ร้อนแรงเพิ่งผ่านพ้นไป
ผมน่าจะกำลังนอนหลับสนิท แล้วกอดหลินอยู่บนเตียง

ผมมองผ่านประตูกระจกเข้าไปในห้องนอนของหลิน
ห้องหรูบนคอนโดที่หลินเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ราวสองเดือน
ก็เท่ากับระยะเวลาที่เรากลับมาคบกันรอบสอง
ถูกแล้วครับ ผมเช่าคอนโดให้หลิน

ผมคงยังไม่เบื่อหลินหรอกนะ
แต่คืนนี้ใจผมมันฟุ้งซ่าน
แววตาตัดพ้อของไอ้วินมันทำลายความสุขทางกายที่ผมเพิ่งได้รับ

ผมเหลือบตาดูนาฬิกาบนผนัง..ตีสาม
นี่ถ้าเป็นที่ห้องผม ผมคงไม่ต้องมองดูเวลาแบบนี้
กุ๊กกูมันคงทำหน้าที่ของมัน

ป่านนี้ไอ้วินมันจะเป็นยังไงบ้างนะ
คืนวันศุกร์แบบนี้ทั้งหอคงจะเงียบเหงา
ผมดับก้นบุหรี่ลงบนกระถางต้นไม้เล็กๆใกล้ตัว

แล้วตัดสินใจ...

กลับหอ

 :hao7: :hao7:   


********************************************************************


ผมขับรถโดยใช้ความเร็วเกือบร้อยสี่สิบ
ถึงจะดึกดื่น แต่ก็ยังมีรถราวิ่งกันอยู่
แต่ละคนที่อยู่บนท้องถนนเวลานี้ กำลังจะไปไหนกัน

ไปเที่ยวต่อ หรือรีบกลับบ้านเหมือนผม ที่มีใครบางคนรออยู่

ความรู้สึกที่มีคนรอเราอยู่ที่บ้าน
รอเรากลับบ้านเป็นแบบนี้เองเหรอครับ
ความรู้สึกนี้....มันดีจังเลยครับ


แค่คิด....ผมก็รู้สึกได้ถึง

หัวใจที่พองฟูขึ้นมา...จนคับอก


 :impress2: :impress2:


Singleman

  • บุคคลทั่วไป
น่าติดตาม มาต่อเร็วๆนะครับ

herenoi

  • บุคคลทั่วไป

 :mc4: :mc4:


มาถึงตอนใหม่แล้วนะครับ


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่เจ็ด



ผมกลับมาถึงห้อง(หอ)ก็เกือบตีสี่แล้วครับ
ล้วงกุญแจมาไขเปิดประตูห้องได้ก็พยายามบิดลูกบิดอย่างเบามือที่สุดในชีวิต
ก้าวเข้ามาได้ก็หันกลับไปบรรจงปิดประตูให้มันเกิดเสียงดังน้อยที่สุดในชีวิตอีกเช่นกัน
วะ...นาทีนี้...ผมเหมือนคุณสามีที่หนีคุณเมียเที่ยวแล้วย่องกลับเข้าบ้านกลางดึกเกือบสว่างกันเลย
แต่ทำไมฟิวส์นี้...มันถึงได้รู้สึกดีจังครับ

 :m20: :m20:

ในห้องคงจะมืดมิดแน่ๆถ้าโคมไฟที่โต๊ะเขียนหนังสือของผมมันจะไม่เปิดทิ้งเอาไว้
ถึงแม้จะมีผ้าบางๆผืนหนึ่งคลุมอยู่เพื่อให้แสงที่ลอดผ่านผ้าออกมาอ่อนแสงลง
ไอ้วินมันคงเป็นคนละเอียดอ่อนและใส่ใจคนรอบข้าง
มันคงกลัวว่าเวลาผมกลับเข้าห้องแล้วจะมืดมองอะไรไม่เห็น มันจึงเปิดโคมไฟทิ้งไว้

ท่ามกลางความสลัวเลือนรางของแสงจากโคมไฟ
ไอ้วินมันหลับสนิทอยู่บนเตียงของมัน
ตัวที่กอดอกงอคุดคู้ บวกกับใบหน้าที่นิ่วคิ้วขมวด และคราบน้ำตาบนแก้มทั้งสองข้าง
ไหนจะเสียงสะอื้นน้อยๆที่มีมาเป็นระยะ
ทั้งหมดที่ผมได้เห็นและได้ยินทำให้ผมถึงกับกลืนน้ำลายในปากกลับลงคอไปอย่างยากลำบาก
เพราะมันมีก้อนแข็งๆขึ้นมาจุกอยู่ในลำคอ ทั้งๆที่ผมก็ไม่รู้ว่าที่มันเป็นแบบนี้...
เพราะผมไม่กลับห้องหรือเพราะปัญหาส่วนตัวของไอ้วินมันเองกันแน่


ผมทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงแล้วเพ่งดูใบหน้าของไอ้วินยามหลับ
มันเหมือนเด็กเล็กๆที่อ่อนแอและบอบบาง
ผมไม่รู้ว่ามันผ่านเรื่องยากลำบากอะไรมาบ้างและหนักหนาสาหัสแค่ไหนกัน
จนถึงขนาดที่ทำให้มันต้องย้ายที่อยู่ที่เรียน จากบ้านมันที่เชียงใหม่มาอยู่ที่นี่
ที่ห่างไกลจากครอบครัวระยะทางหลายร้อยกิโล
ที่มหาวิทยาลัยแห่งใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักมัน
และมาใช้ชีวิตอยู่ในหอพักห้องเดียวกับผมที่ก็ไม่ต่างกับ...คนแปลกหน้า

ผมปัดผมด้านหน้าที่ตกระมาที่หน้าผากของมันออกอย่างเบามือ
จังหวะเดียวกับที่ไอ้วินมันถอนสะอื้นฮั่กออกมาอีกครั้ง
ผมอดใจไว้ไม่ไหวที่จะลูบแก้มใสของมัน ผิวมันนุ่มมือจริงๆเลยครับ
และเมื่อมองต่ำลงมาก็มองเห็นริมฝีปากของมันที่ผมเคย...
มันดูยั่วยวนให้ผมอยากเข้าไปสัมผัสอีกครั้ง

 :z1: :z1:

ผมตัดสินใจก้มตัวโน้มลงไปจนใบหน้าของผมกับไอ้วินเกือบจะชิดกัน
ผมลังเลชะงักอยู่ชั่วอึดใจ ยังไม่ทันจะเดินหน้าหรือจะถอยดี
ไอ้วินมันขยับพลิกตัวจากตะแคงเป็นนอนหงาย
ริมฝีปากบางเฉียดฉิวพาดผ่านปากผมไป
กระแสไฟฟ้าอ่อนๆในตัวที่เกิดขึ้น กระตุ้นให้ผมเลื่อนตัวลงนอนตะแคงชิดตัวไอ้วิน
ผมยันตัวขึ้นเล็กน้อยด้วยข้อศอกข้างหนึ่ง แล้วชะโงกหน้าอยู่เหนือใบหน้าของมัน


ริมฝีปากไอ้วินเบี่ยงหลบไปด้านข้างเล็กน้อยอย่างรำคาญจากการรบกวน
เมื่อสัมผัสกับปากผมที่ก้มลงสัมผัสแผ่วเบา
ผมใช้มืออีกข้างแตะปลายคางมันให้หันกลับมา แล้วผมก็บดริมฝีปากลงไป
จากแค่บางเบาในตอนแรก แล้วเพิ่มน้ำหนักลง จน...

“อืมมมมม....”
ไอ้วินเผยออ้าปากตอบรับ
 
หวานเหลือเกิน ริมฝีปากของเราทั้งคู่ประกบกัน
ปลายลิ้นเล็กๆของมันเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้ามาก่อน
แต่ครั้นพอผมส่งลิ้นเข้าไปสัมผัส มันกลับถอยร่นออกไป แล้วยั้งรอคล้ายเชิญชวน
จากจูบที่นุ่มนวลอ่อนหวาน มันเพิ่มระดับตามแรงอารมณ์ที่กระพือขึ้น
จนถึงขีดสุดที่เราทั้งสองคนจะขาดอากาศหายใจเสียก่อน ผมเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออก

ทันที่ที่ผมเห็นขนตายาวงอนของมันขยับยุกยิก
ผมรีบทิ้งตัวลงซบหน้าลงไปที่ซอกคอของมัน

ตัวของผมซีกหนึ่งคว่ำทับอยู่บนตัวของมันที่นอนหงาย และผมรับรู้ได้ว่ามันเริ่มขยับตัว

“อ๊ะ...”
มันหยุดนิ่งเมื่อเริ่มรู้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคืออะไร

 :o8: :o8:

ลมหายใจร้อนๆของผมที่รินรดซอกคอหอมสะอาดด้วยกลิ่นแป้งเด็กของมัน
แขนข้างหนึ่งของผมที่พาดผ่านช่วงบั้นเอวอย่างไม่ตั้งใจ
ร่างกายบางส่วนของผมที่เกยก่ายลำตัวของมัน

มันคงจะสัมผัสได้ถึงแรงสะท้อนจากการทำงาน
ของอวัยวะสำคัญที่ไม่สามารถบังคับได้ภายในอกของผม


“ขะ...เขม...เอ้อ...นาย....”
มันใช้มือทั้งสองข้างยกแขนผมที่พาดเอวมันอยู่ขึ้นอย่างช้าๆ
มันคงไม่แน่ใจว่าผมหลับหรือตื่นอยู่

“อืมมมม...อยู่นิ่งๆสิวะ”
ผมพึมพำขึ้นมาพร้อมกับขยับตัว
แล้วแกล้งกระชับแขนข้างนั้นให้แน่นกว่าเดิม
พร้อมกับเบี่ยงหน้าจนจมูกและปากร้อนๆของผมสัมผัสผิวตรงลำคอของมัน

“เอ้อ...เขม...นาย....”
ไอ้วินมันอึกอักอยู่ในลำคอ เมื่อผมไล้ปลายจมูกไปมาเบาๆ

“เงียบๆสิวะ กูง่วง”

ผมเบียดตัวเข้าไปอีกจนต้นขาของผมสัมผัสบางสิ่งบางอย่างของมันที่เริ่มเปลี่ยนแปลง
และในขณะเดียวกันบางสิ่งบางอย่างของผม
ก็เริ่มมีปฏิกริยาก็เบียดชิดติดกับสะโพกด้านข้างของมัน

“อ๊ะ...”
ไอ้วินมันพยายามขยับตัว แล้วก็ต้องหยุดนิ่ง
เมื่อมันรับรู้ได้ถึงบางอย่างของผมมันเริ่มประท้วงและดุนดันอยู่ตรงสะโพกของมัน

 :mew5: :mew5:


“จะนอนมั๊ย หรือว่า...อยาก....”
ผมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยตอนกระซิบเข้าที่ข้างหูมัน

การทำแบบนั้นทำให้ตัวผมมันขยับเบียดชิดเข้าไปอีกนิด
จนผมเองก็เริ่มปวดหนึบขึ้นมา ทั้งๆที่เพิ่งใช้งานไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมง

“นะ...นอนแล้ว”
ไอ้วินรีบระล่ำระลักตอบแล้วหยุดนิ่ง

มันนอนตัวแข็ง แต่ผม...แข็งทั้งตัว

นี่ผมจะแกล้งมันหรือจะทรมานตัวเองกันแน่วะ

 :haun4: :haun4:


“ซี๊ดดดด”
ผมเผลอครางเบาๆเมื่อรู้สึกเสียวซ่านตรงกลางตัว
เมื่อไอ้วินที่มันหลับสนิทแล้วหลังจากนอนเงียบๆกันมาสักพัก
มือของมันพลิกมาวางที่สะโพกด้านที่ผมเบียดชิดอยู่
หลังมือของมันสัมผัสกับพี่เขมแล้วเลยทิ้งน้ำหนักมือพักพิงอิงอยู่อย่างสบายใจ


ผมอดที่จะขยับขาและสะโพกของตัวเองเบียดเข้าไปอีกไม่ไหว
ต้นขาของผมที่อยู่ชิดน้องวินเสียดสีถูไถคล้ายคนโรคจิต

“ซี๊ดดดด”
เสียงสูดปากที่ไม่ใช่เสียงจากปากของผมดังขึ้นเบาๆ
เมื่อท้องแขนของผมมันลดต่ำลงจนสัมผัสได้ถึงสิ่งที่แข็งขืนของไอ้วินมันบ้าง
และความเปียกชื้นเล็กๆของกางเกงตรงส่วนสำคัญที่เกิดขึ้น
ทั้งของมันและของผมไม่ต่างกันเลย ผมรู้สึกได้

ไอ้วินขยับตะแคงตัวเล็กน้อยมาทางผม
แล้วสอดแขนมันข้างหนึ่งมาพาดตรงบั้นเอวของผม
ทำให้ตอนนี้ผมกับมัน เรียกได้ว่า...นอนกอดกัน

 :hao6: :hao6:


*************************************************************************************


“อะ...อรุณสวัสดิ์”

ไอ้วินมันโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มเมื่อผมเปิดประตูห้องน้ำออกมา
โดยที่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันเอว
หน้าของมันที่แดงก่ำบวกกับสายตาหวานๆแม้จะดูเอียงอายแต่ก็ไม่ขัดตา
ผมกลับรู้สึกว่ามันน่ารัก ในทางกลับกันถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นทำ ผมว่ามัน...น่าอ้วก

“ไงมึง ตื่นซะสาย”
ผมเดินผ่านเตียงมันทำไม่สะทกสะท้าน
ทั้งๆที่ภายในหัวใจผมเต้นตูมตาม

“เราป่าวสาย นายตื่นเช้าเองนะ”

“ไม่ตื่นไงไหว ไอ้เชี้ยนกเว....”
ผมชำเลืองดูหน้าไอ้วินที่เริ่มซีด
มันจ้องนาฬิกาที่ผมเกลียดแล้วหันมาหาผม
สายตาที่มองมามันว่างเปล่าเหลือเกิน

“ถ้า...ถ้านายไม่ชอบกุ๊กกู เราจะ....”
ไอ้วินมันเม้มปากสะกดกั้นอารมณ์

“เฮ้ย...กูแค่รำคาญนิดหน่อย แต่ก็นะ...เริ่มชินแหละ”
สิ่งที่พูดออกมาเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับภายในใจเป็นที่สุด

รอยยิ้มเล็กๆที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของมันทำให้ผมคิดว่า...คุ้ม

คุ้มกับการต้องตื่นขึ้นมาฟังเสียงร้องทุกชั่วโมงของไอ้นกเวรนี่

“ขอบ..ขอบใจนะเขม นายดีกับเราจริงๆ”
เสียงอ้อนๆของมันทำให้ผมต้องยิ้มตาม

 :m1: :m1:


**********************************************************************************

ก็ไม่ได้ว่างหรอกนะ แต่ผมยังเพลินกับการแอบมองพฤติกรรมของรูมเมท

เริ่มจากการที่มันโกยผ้าที่พื้นที่มันถอดหมักหมมมาได้สองสามวันใส่ตะกร้า
หมุนซ้ายขวามองหาอะไรสักอย่าง แล้วเอาตะกร้าเข้าเอวเดินเข้าห้องน้ำไป
เสียงรื้อค้นของในห้องน้ำทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้
แต่พอมันเดินออกมาผมรีบก้มหน้าลงแกล้งว่ากำลังอ่านหนังสืออะไรสักอย่างในมือ

“เขม..นาย...นายมีผงซักฟอก แปรง กาละมัง อะไรพวกนี้บ้างมั๊ยอ่ะ”
ผมเงยหน้ามามองหน้ามุ่ยของมัน

“ระเบียง”
ผมบุ้ยปากไปที่ระเบียงด้านนอกห้อง

ผมรู้ว่ามันกำลังคิดจะซักผ้า แต่ผมจะยังไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือมันหรอกครับ
เพราะผมคาดว่าคงจะได้เห็นอะไรดีๆ

เสียงกุกกักดังขึ้นมาเพราะมันปิดประตูระเบียงไม่สนิท
สักพักก็มีเสียงโคร้งเคร้งของกาละมัง พร้อมกับ

“โว๊ยยยยยยยยย”

ผมชะโงกดูเห็นมันยืนหันหลังให้ มันกำลังทึ้งผมตัวเอง
ให้ตายเถอะมันคิดจะทำอะไร ถึงได้ใส่แต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว
ยืนยันว่าตัวเดียวครับ เพราะเมื่อคืนผมสัมผัสได้
อ้อ เมื่อคืนผมนอนทั้งชุดเต็มยศ ชุดที่กลับมาจากคอนโด
ดีนะที่ผมใส่กางเกงยีนส์ ไม่งั้นมีเฮ ถูไถกันซะขนาดนั้น

นี่มันคงจะถอดเสื้อกล้ามออกมาเพื่อจะซักด้วย

ผมรีบก้มลงมองหนังสือในมือเมื่อได้ยินเสียงมันเดินกลับเข้ามาในห้องเพื่อหยิบมือถือ
พอมันเดินออกไปที่ระเบียงอีกครั้ง ผมก็ได้ยินเสียงมันคุย
เป็นคุณๆจะย่องไปแอบฟังใกล้ๆมั๊ยครับ แน่นอน ผมทำ

 :katai5: :katai5:


“แม่ครับ บอกช้าๆสิวินงงไปหมดแล้ว”
มันวางมือถือไว้ใกล้ตัวโดยเปิดสปีกเกอร์

“เอาล่ะ ใจเย็นๆนะครับ ก่อนอื่นวินบอกแม่มาสิ ว่าผ้าที่จะซักมีอะไรบ้าง”
แม่มันโคตรของโคตรใจเย็น

“เฮ้อ...มีเสื้อนักศึกษาสองตัว กางเกงนักศึกษาสองตัว เสื้อวันที่ใส่มากับกางเกงสีขาว
บลาๆๆๆ...”

จะบ้าตายมันนั่งยองๆลงไปหน้ากองเสื้อผ้า
แล้วหยิบขึ้นมาดูและแจกแจงที่ละชิ้น

“ก่อนอื่นนะ วินแยกเสื้อสีขาวออกมาก่อน.....”
ผมคาดว่าครึ่งวันนั่นแหละครับกว่าจะถึงขั้นตอนสุดท้าย
รึไม่แบตมือถือของมันก็จะต้องหมดเสียก่อน



“ก๊อกๆ”
ผมเคาะกระจกที่กั้นด้านหลังห้องเบาๆ


 :onion_asleep: :onion_asleep:


ขอบคุณทุกการติดตามครับผม


 :bye2: :bye2:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2014 14:28:40 โดย herenoi »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
วินเอ้ยยย ลูกคุณหนูจริงงงงงงงง 555+

รอแม่สอนวันนี้จะได้ซักไหม?

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :laugh:  หนูวิน  จะซักผ้า  :laugh:

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
เขมนิสัยแย่มากอ่ะ ตัวเองยังไม่ชัดเจนแต่ก็ชอบไปลวมลามวิน
แกอย่ามาทำให้วินหวั่นไหวนะ วินเจ็บมาแผลใจก็ยังไม่หายดี
ไม่งั้นวินต้องน่าสงสารแน่ๆ เรารอให้วินมีคนมารุมจีบเยอะๆ เขมมันจะได้รู้ตัวและชัดเจนซักที
แล้วอย่าลืมไปบอกเลิกยัยชะนีร่านหลินนั่นล่ะ ไม่งั้นไม่ยกวินให้จริงๆด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
พี่เขมได้เวลาทำคะแนนแล้ว o18

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
พี่เขมชีวยวินเลย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ pumpui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
วินนี่  อย่าแกล้ง แอ๊บแบ๊วน่ะลูก หุหุ เดี๋ยวพี่เขมก็มาช่วยเองแหละลูก

PoMArmKuB

  • บุคคลทั่วไป
ตัดบทได้ไรเยื่อใยมากอะ อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอตอนต่อไปนะจร้า

 :bye2: :bye2: :bye2:

herenoi

  • บุคคลทั่วไป
 :katai4: :katai4:


รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่แปด


“ก๊อกๆ...”

“มีไรอ่ะ”

ไอ้วินมันหันหน้ากลับมาถามผมเบาๆเพราะมือถือของมันยังเปิดสปีกเกอร์อยู่
ผมบุ้ยบ้ายให้มันวางหูไปก่อน

“แม่ครับ แค่นี้ก่อนนะครับ พอดีมีเพื่อนมา”

“งั้นแม่จะรอลูกนะครับ วินเสร็จธุระแล้วโทรมาหาแม่ด้วยล่ะ”

“ครับๆ หวัดดีครับแม่”


วินมันลุกขึ้นยืนแล้วหันมาหาผมทั้งตัว
จะเป็นเพราะแสงจากดวงอาทิตย์ใกล้เที่ยงที่ส่องผ่านมาจากทางด้านหลังของมันหรือเปล่านะ
จึงทำให้ผมเห็นบรรยากาศรอบตัวของมันคล้ายกับมีออร่าสว่างไสว
ผิวขาวจัดที่เปลือยเปล่ามีเพียงบ๊อกเซอร์บางๆตัวเดียวห่อหุ้ม
ซึ่งเมื่อแสงแดดสาดมาก็ไม่ต้องจินตนาการถึงส่วนของสิ่งที่เหลืออยู่ในร่มผ้าเลยครับ

มัน....ทะลุปรุโปร่ง


“ว่าไงเขม..นายมีไร”
ผมรู้สึก...หูอื้อตาลาย จนต้องสะบัดหัวแรงๆ
สงสัยเพราะมันเลยมื้ออาหารมาแล้วมั๊ง กาแฟแก้วเดียวที่กินก่อนหน้านั้น
ย่อมไม่หลงเหลือในร่างกายแล้วตอนใกล้เที่ยง

“เขม..นายเป็นอะไรไป”
ไอ้วินปราดเข้ามาประคองตัวผมแล้วพาผมกลับเข้ามาในห้อง

ตอนนี้ผมกำลังนั่งพักสงบจิตใจอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ

“นายเป็นยังไงบ้างเขม”
วินยื่นแก้วน้ำที่บรรจุน้ำเย็นจนเต็มแก้วมาให้ผมด้วยสีหน้ากังวล
กลิ่นเหงื่ออ่อนๆจากตัวของมันโชยผ่านลมที่พัดเข้ามาทางประตูระเบียง
ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นลงคอไปอีกครั้ง
กลิ่นเหงื่อเนี่ยมันมีกลิ่นหอมกันได้ด้วยเหรอวะ

แล้วจุดแดงๆสองจุดระดับสายตา...
โอย...มึงจะแกล้งกูไปถึงไหนกัน


“กู..กูไม่ได้เป็นอะไร”
ผมรับแก้วน้ำมาดื่มอย่างกระหาย เพราะปากคอแห้งผาก
ไอ้อาการแบบนี้ ก่อนหน้าที่มันจะโผล่เข้ามาในชีวิตผม....ผมไม่เคยเป็น

“ไม่จริงอ่ะ นายหน้าซีดจ๋อยเลย”
ปากแดงๆของมันขยับพูดอย่างน่าเอ็นดู
ผมสะบัดหัวอีกครั้งจนเริ่มมึน จึงต้องรีบตัดบท

“คือ...กูจะเอาผ้าไปส่งซัก มึงจะไปด้วยมั๊ย”
ผมไม่มองหน้ามัน ตัวมัน และเสมองไปทางไหนสักทางที่ไม่มีมันอยู่

“ส่งซัก...เย้...ไชโย ไอ้วินรอดตายแล้ว”
ไอ้วินร้องด้วยความดีใจ

ผมหันกลับมามอง มันกำลังกระโดดเล็กๆ
ทำให้บางส่วนของมัน...แกว่ง

อ๊ากกกกกก สมอง หัวใจ ตับไตไส้พุงของผมมันทำงานหนักเกินไปแล้ว

 :katai1: :katai1:


“เชี้ยเอ๊ย ไปแต่งตัวดิวะ”
ผมหน้าชาตอนที่ด่ามัน ชาแบบเห่อๆเวลากระดากน่ะครับ

“ปากเสียอะเขม แต่ช่างเหอะ เราไม่ถือ รอแป๊บ...น้า”
มันส่ายหน้าน้อยๆพร้อมรอยยิ้มหวาน


“แม่คร้าบ วินไม่ถามแม่แล้วนะครับ เดี๋ยวเขมจะพาไปที่ร้านซักรีด”

เสียงแจ้วๆดังลอดมาให้ได้ยิน สักพักมันก็เดินมาหยุดยืนตรงหน้าผม
ในชุดเสื้อยืดเนื้อนุ่มสีฟ้าอ่อน กางเกงสกินนี่ขายาวสีซีด

“ไอ้นี่..มันแต๋วไปมั๊ยวะ”
ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ก็เสื้อผ้าของมันแต่ละตัว
สีออกโทนหวานแหวว คัดติ้งเนี๊ยบ ดูนุ่มนวล ดูดี และดูคุณหนูชิบ

“แม่เราจะคุยด้วยอ่ะ”
มันยื่นมือถือมาให้ผม

“เฮ๊ย...”
มันยัดมือถือใส่มือผมแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินไปตรงระเบียงนอกห้อง
รึว่า..มันจะฟ้องอะไรแม่มันป่าววะ


“ครับแม่...”

“ลูกเขมเหรอจ๊ะ แม่ขอบใจลูกมากนะที่ช่วยดูแลน้องวิน”

“มะ...ไม่เป็นไรครับ”
มันกับผมรุ่นเดียวกันนะ แม่มันลืมรึไงฟะ

หลังจากนั้นแม่มันก็พร่ำพูดฝากฝังไอ้วินเอาไว้กับผมจนผมแทบจะหูชา
นี่จะให้ผมเป็นผู้ปกครอง ป้อนข้าวอาบน้ำให้มันด้วยเลยมั๊ยครับท่าน


“เดี๋ยว...”
ผมเรียกไอ้วินไว้ก่อนที่มันจะเดินดี๊ด้านำหน้าผมไปที่ประตูห้อง

“เอ๋...”
มันทำเสียงโนเนะ แล้วยังทำตาโตอย่างน่ารัก แบ๊วจริงมึง

“มาให้กูดูเสื้อผ้าในตะกร้ามึงก่อน”
ผมชี้นิ้วไปยังตะกร้าที่มันกระเดียดเข้าเอว
ผมเรียกถูกป่ะครับ มันเอาเข้าเอวเหมือนที่พวกแม่บ้านเขาทำกัน

“เขมจะดูมัยอ่ะ มีแต่เสื้อผ้าใช้แล้ว”
มันทำหน้างง แต่ก็ยอมวางตะกร้าลงบนพื้นห้อง

“งั้นมึงลองแจกแจงให้กูฟังสิว่า ผ้าในตะกร้าของมึงมันมีอะไรมั่ง”
ผมยืนกอดอกพิงด้านหลังประตูห้อง มองหน้ามันนิ่งๆอย่างพยายามทำใจให้เย็น

“วู๊..จู้จี้ชะมัดอ่า”
มันบ่นงึมงำแต่ก็เทผ้าในตะกร้าทั้งหมดออกมาให้ผมดู

“ก็ชุดนักศึกษาสองชุด ชุดวันใส่มา เสื้อกล้าม บ๊อกเซอร์
กางเกงใน ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว”
มันหยิบขึ้นมาดูทีละผืนแล้วก็โยนใส่ตะกร้าไป

“เฮ๊ยยย.มึงจะส่งซักทุกอย่างไม่ได้นะโว๊ย แล้วกางเกงในมึง โว๊ยยยย”
ครับ...เป็นวง...เป็นเลขแปด

“ทำไมการกระทำของมึงมันถึงได้ขัดกับหน้าตานักวะ”
ผมทึ้งผมบนหัวของตัวเองด้วยความหงุดหงิด

 :angry2: :angry2:


“ไม่ได้เหรอ....เขมมมม”
มันที่นั่งยองๆอยู่กับพื้นเงยหน้าเอียงคอขึ้นมาถามผม

ให้ตาย...มันอ้อนผมทั้งคำพูด ทั้งตาและปาก

“วิน...มึงฟังกูให้ดีแล้วจำใส่สมองไว้นะ เสื้อผ้าที่เป็นพวกชั้นใน ถุงเท้าส่งซักไม่ได้”
มันทำตาปริบๆนิ่งคิดตามคำพูดของผม

“ทำไมอ่ะ มันจะหายเหรอ”
มันโง่หรือผมอธิบายไม่เคลียร์วะ

“คือ...ของพวกนี้มันก็...ก็มีเลอะบ้างไรบ้าง มึงต้องซักเอง”
นี่กูมีลูกที่เพิ่งย่างเข้าสู่วัยเริ่มว่าวรึไงวะ

“อ๋อ...เข้าใจล่ะ”
มันทำหน้าแบบคิดออกและพยักหน้าหงึกๆ

“เวลาเข้าส้วมไม่ทัน ท้องเสียไรงี้เหรอ รับรองผ้าในกองนี้ไม่มีเลอะแน่นอน”
มันยืดอกขึ้นมาแบบภาคภูมิใจ
แต่หน้าอกที่ดันเสื้อออกกมาเป็นตุ่มไตของมันดันเตะตาผม

“เฮ้อ..เอางี้ กูไม่อธิบายให้มึงฟังแล้ว เอาเป็นว่า...
มึงเอาชุดชั้นในและถุงเท้าของมึงออก เข้าใจมั๊ย ไม่งั้นกูไม่พาไป”
สั่งเลยดีกว่าครับ คงต้องเผด็จการแทนการสอน

“เขมใจร้าย..”
มันทำปากหมุบหมิบ แต่ผมก็ยังพอจับประเด็นได้ แน่ะค้อนกูอีก แม่ง

“เออๆ...กูมันไม่ดี กูมันเลว กูมัน....”

“เพี๊ยะ...”
ผมพูดยังไม่ทันจบ มันก็ลุกพรวดขึ้นมายืน แล้วปรี่เข้ามาตบปากผม

 :z6: :z6:


“ไอ้วิน..มึง..มึงกล้า”
ผมหน้าบึ้งตอนที่ลูบปาก เจ็บว่ะ มือบางๆไม่น่าจะหนักได้ขนาดนี้

“ยัง...ยังอีก...จะด่าตัวเองอีกมั๊ย”
ไอ้วินเงื้อมือขึ้นมาพร้อมที่จะตบลงมาที่ปากผมอีกครั้ง

“มึง..ตบ...ปาก...กู”
ผมดึงคอเสื้อยืดด้านหน้าของมันเข้ามาใกล้


“นายจะด่าหมาด่าแมวก็เรื่องของนาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่นายด่าตัวเอง
เราก็จะตบปากนายอีก”
มันลอยหน้าลอยตา แล้วเอามือมาแกะมือผมจากคอเสื้อออก

“คนเราอะนะ ด่าตัวเองได้มันก็ไม่รักตัวเอง แล้วจะให้ใครเขามารักเล่า”

“จะด่าใครก็ด่าไป ด่าตัวเองไม่เจริญ”

“ตัวของเรา เราก็ต้องรู้สิว่าเป็นยังไง ไม่ดีก็แก้ไข”

“คนอย่างนายนี่มันต้องปรับ....อ๊ะ...”

ปากแดงๆที่ลอยไปมายั่วยวนอยู่ตรงหน้า ทำให้ผมทนไม่ไหว(อีกแล้ว)

ทันทีที่ผมปิดปากแดงที่กำลังเจื้อยแจ้วเป็นนกแก้ว เสียงทุกอย่างในห้องก็เงียบลง
แล้วแทนที่ด้วยเสียงจ๊วบจ๊าบจากริมฝีปาก เสียงลมหายใจที่เริ่มหอบ และเสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม
ผมจูบมัน...อีกแล้ว และมันก็จูบตอบผมอย่างเงอะงะ
แต่แม่ง...กล้าส่งลิ้นเข้ามายั่วถึงในถิ่นผม ลิ้นของผมกับมันพัวพันกันเหมือนค่อยๆจะเริ่มเรียนรู้กัน

มือของผมทั้งสองข้างไล้ไปตามสีข้างของวิน แล้วลากเลยไปถึงสะโพก

“อ่า..”
ถอนปากเพียงเล็กน้อยให้ได้สูดลมหายใจเข้า แล้วก็ผวาเข้าหากันทั้งคู่

ทั้งหวานทั้งหอมจนผมไม่อยากหยุด
ทั้งๆที่ในหัวของผมมีแต่คำถามเต็มไปหมด

 :m28: :m28:


“@#$%&…”

เสียงริงโทนที่ผมตั้งขึ้นเฉพาะสำหรับหลินดังขึ้น ทำให้ผมกับมันผละออกจากกัน

“เอ่อ...กู...กูไปรอที่รถ...”
ผมมองหน้ามันแต่มันก้มหน้างุด


 :-[ :-[


“ครับ....หลิน”
ผมโทรกลับไปหาหลินเมื่อขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยบนรถแล้ว

“เขมตัดสายหลินทำไมอะ...ทำอะไรอยู่ หรือว่าอยู่กับใคร”
เสียงแว๊ดๆดังขึ้นมาทำให้ผมหงุดหงิด

“เยอะไปแล้วนะหลิน”
ผมตอบด้วยเสียงนิ่งๆ เธอชักจะล้ำเส้นที่ผมขีดไว้ให้

“แหม...หลินก็แค่ถาม แล้วเขมอยู่ไหนคะ อยากเจอกันรึเปล่า”
น้ำเสียงที่ปรับเปลี่ยนกลับมาอ่อนหวานเหมือนเคย
และแอร์เย็นๆที่จ่อใบหน้าทำให้ผมใจเย็นลง

“ผมอาจจะแวะเข้าไปค่ำๆนะหลิน ตอนนี้มีธุระ”
ไม่รอฟังคำตอบผมก็ตัดสายทิ้งไป

เอนหลังพิงเบาะรถแล้วหลับตาลง
ท่ามกลางความเงียบที่มีแต่เสียงลมหายใจและการเต้นของหัวใจ
นี่...ผมใช้ชีวิตเรี่อยเปื่อยเกินไปรึเปล่านะ
ถึงเวลาที่ผมควรจะหยุดและจริงจังกับใครสักคนเสียที่สินะ
อีกไม่ถึงสองปี ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมันก็ต้องจบลง
จะเรียนต่อ จะทำงาน มันก็นับว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ต้องรับผิดชอบทุกอย่างรอบตัว

แล้วใครล่ะที่ผมจะหยุดทุกอย่างไว้ที่คนๆนั้น

หลินเหรอ...
ไม่แน่นอน คนที่จะมาเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตผมต้องไม่ด่างพร้อย ไม่ผ่านมามากมายหลายมือ

ผู้หญิงไม่ต่ำสิบที่ผมมีความสัมพันธ์ด้วย บางคนแค่วันไนท์แสตนด์ ไม่มีสานต่อ
ไม่มีสักคนที่ผมจะลึกซึ้งด้วย หลินนับเป็นคนที่คบนานที่สุด เพราะการวางตัวของเธอ
แต่สองวันที่ผ่านมา หลินเริ่มจะเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่จู้จี้ตามจิก
ผมคงต้องคุยกับเธอตรงๆเสียแล้วว่า...เราสองคนจะถึงทางแยกกันได้รึยัง

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:


ทำไมนานนักวะ ผมดูเวลาตรงคอนโซลรถ..เที่ยงครึ่ง
คงต้องแวะหาอะไรกินซะก่อน เอ...วินมันชอบกินอะไรนะ

“หึๆ..”

ขำตัวเองว่ะ ปกติไปกับสาวๆถ้าเป็นช่วงแรกๆผมก็ตามใจพวกเธอ
แต่พอหมดโปรผมก็ค่อนข้างตามใจตัวเอง
จะกิน จะดูหนัง จะค้างคืนมั๊ย มันขึ้นอยู่กับผมทั้งนั้น

อาหารญี่ปุ่นดีมะ..
เมื่อวานตอนที่ไอ้วินมันกินก็ดูมันชอบมากเหมือนกัน
แล้วต่อด้วยหนังสักเรื่องท่าจะดี
อากาศร้อนๆแบบนี้ตากแอร์เย็นๆในโรงหนังน่าจะเวิร์คสุด

คิดถึงไอ้วิน มันก็มีเรื่องให้ผมสงสัยอยู่หลายข้อครับ


หนึ่ง มันมีปัญหาความลับความหลังอะไรนักหนา

สอง ไอ้นกเวรข้างผนังมีความสำคัญหรือความหมายอะไรรึเปล่า

สาม มันไม่ชอบการสัมผัสจากเพื่อน

สี่ มันคิดยังไงกับการที่ผมจูบมัน

และ

ห้า


ผมเป็นเชี้ยไร ถึงได้ชอบจูบปากมัน


 :hao6: :hao6:









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2014 13:42:12 โดย herenoi »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
ขอให้วินใจแข็งนานๆด้วยเถอะ แบบยังรักฝังใจกับรักแรกเลยกลัวเจ็บอีก
อีกอย่างวินก็เห็นสันดารของเขมแล้วหวังว่าวินจะเจ็บแล้วจำนะ ถือว่าเป็นการให้บทเรียนกับเขม
ที่ชอบมั่ว เอาไปทั่วเจ้าชู้ พอเจอรักจริงเขากลับไม่แลอะไรแบบนี้ เขมมันจะได้เห็นคุณค่าของความรัก
และรู้สึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาที่เคยทำกับพวกผู้หญิงเอาไว้ซะเยอะ

herenoi

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: :L2:

รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่เก้า


ตลอดระยะเวลาของการเดินทาง มีเพียงเสียงเพลงฮิตจากแผ่นที่ผมเปิดฟังอยู่ในรถ
ทำไมวันนี้เสียงเพลงมันเพราะ ไพเราะและโดนใจกว่าทุกวันนะ
ทั้งๆที่มันก็เป็นเพลงเดิมๆที่เคยเปิดฟังอยู่บ่อยๆ
บรรยากาศในรถตอนนี้ถึงแม้จะเป็นเวลาที่ท้องผมมันหิวโหย เบาโหวง
ถ้าเป็นปกติธรรมดาผมก็จะต้องเริ่มหงุดหงิด ขวางหูขวางตา
แต่วันนี้มันวันพิเศษอะไรกันวะ

ไอ้รถคันที่เพิ่งบึ่งออกจากซอยข้างทางแล้วซิ่งตัดหน้ารถผมไป
ผมก็ไม่คิดเคืองหรือโมโห คิดแค่ว่า.....มันคงรีบละมั๊ง

แต่ผมไม่รีบนี่นา


“ช้า...”
หือ..เสียงอะไรวะ ผมหันไปมองไอ้วิน ก็เห็นมันเบือนหน้าออกไปมองนอกรถ

“หิว...”
เสียงเดิมแต่ห้วนขึ้นและดังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

“เรา...หิว”
ผมหันไปมองหน้าไอ้วินที่ขึ้นสีเรื่อ มันอายที่มันหิวเหรอวะ

“อยากกินไร”
ผมพูดขึ้นมาลอยๆ พยายามกลั้นยิ้ม
มีแต่โมโหหิว ไอ้นี่..อายแล้วหิว..หรือหิวแล้วอายวะ

“ไม่รู้ดิ เราไม่ใช่คนแถวนี้”
มันค้อนพองาม ไอ้นี่เปลี่ยนอารมณ์เร็ว และดูโกรธใครได้ไม่นาน

“อาหารญี่ปุ่น..”
ผมพูดขึ้นมา แล้วรอคำตอบจากมัน หวังว่าคงจะถูกใจมัน

“เพิ่งกินอ่ะ จำเจ”
ปากมันเชิดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ

“แล้วมึงอยากกินไรวะ”
ผมให้โอกาสมันเลือกอีกครั้ง อย่ามาทำอาร์ทตัวแม่กับกูนะมึง

“เอ๊ะ..เขมนี่ยังไงนะ ก็บอกแล้วว่าเราไม่ใช่คน....”

จังหวะรถติดไฟแดง ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมใช้ปลายนิ้วชี้ข้างหนึ่ง
แตะไปที่ปากแดงของมันเบาๆ เป็นการห้ามให้หยุดพูด

“ไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวกูจัดให้”
ผมชักนิ้วกลับได้ทันก่อนที่มันจะทันปัดออก

“ไอ้บร้า...”
เสียงงึมงำพึมพำที่มันพยายามลดเสียง แต่ผมได้ยินครับ

“หึๆ”
ผมอดหัวเราะขำมันอยู่ในลำคอไม่ได้

อ้าว ค้อนกูอีก ขยันค้อนควักจริงนะมึง

 :m20: :m20:


**********************************************************************************

บนชั้นสี่ของสยามเซ็นเตอร์ หลังจากรอคิวหน้าร้านอาหารชื่อดังได้สักยี่สิบนาที


“เราหิวอ่า...”

“เออ..กูรู้”

ไอ้วินมันคร่ำครวญแล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆกับพื้นหน้าร้านด้านข้างที่รอคิวกันอยู่

ผมยืนพิงกระจกร้านอยู่ใกล้ๆ เผลอเอื้อมมือไปลูบหัวมันเป็นการปลอบ

“อดทนนิดนะ...วิน”
เสียงนุ่มๆที่เอาไว้ใช้พูดกับสาวๆตอนโปร ทำให้ไอ้วินหน้าแดงก่ำ ยิ่งทำให้ผมได้ใจ

“นะ...นะ...ครับ”
คราวนี้มันพยักหน้าแล้วรีบก้มหน้างุดลงไปที่เข่าทั้งสองข้าง

“คุณเขมสองท่านค่ะ”
สิ้นสุดการรอคอยเสียที
ผมเดินนำหน้ามันเข้าไปในร้านไก่ทอดกรอบสไตล์เกาหลี

“เป็นไง”
ผมนั่งดูมันเคี้ยวตุ้ยๆไม่ยอมหยุด เศษซากกระดูกไก่ที่กองอยู่ในที่ทิ้ง
พูนขึ้นมาจนมองเห็นได้ชัดว่า..ซัดกันไปไม่น้อย


“ง่ำๆ...หร่อยอ่ะ..กินดิ”
มันใช้ส้อมจิ้มไก่ทอดชิ้นใหญ่มาใส่ในจานของผม รู้สึกดีแฮะ

“อ๊ะ...”
ไอ้วินผงะขยับถอยหลังเมื่อผมเผลอใช้ทิชชูเช็ดที่ปากของมัน

“นาย..นายทำไรเนี่ย”
ไอ้วินมันเอ็ดผมเบาๆ สายตาก็เหลือบดูรอบๆ

“ก็...ก็ปากมึงเลอะ..มึง..มูมมามว่ะ”
กูเป็นอะไรไปวะ ผมสะบัดหัวแรงๆ ไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม มันเป็นผู้ชายนะโว๊ย

“บอกเฉยๆก็ได้นี่นาแล้วนายเป็นไรมากป่ะ เห็นสะบัดหัวบ่อยๆ ไม่สบายปวดหัวเหรอ”
ไม่ถามเปล่า มีเอาหลังมือมาแตะวัดไข้ที่หน้าผากผมอีก

“เฮ๊ยยย...แต๊ะอั๋งกู”
ผมเป็นฝ่ายผงะ แล้วขยับถอยหลังบ้าง

“เอ่อ..กู...ไม่ได้ตั้งใจ”
อยากตบปากตัวเองที่ตะคอกมัน

ก็ตอนนี้ไอ้วินหน้ามันสลดเลยครับ
ผมก็นะ ทั้งๆที่มันเป็นฝ่ายมาแตะต้องตัวผม และที่สำคัญมันไม่ได้มีทีท่ารังเกียจการสัมผัสกับตัวผม
เหมือนตอนที่พวกเพื่อนผมเข้าใกล้มัน
ผมควรจะช่วยเหลือมันมากกว่าที่จะทำให้มันรู้สึกแย่ลงกว่าเดิมสิ

“เอ่อ...กู..กูขอโทษ”
ผมกลายเป็นฝ่ายต้องขอโทษอย่างเต็มใจ
ขอโทษในความผิดอะไรสักอย่างที่ผมก็งงเหมือนกัน

“ไม่..ไม่เป็นไร”
ไอ้วินเงยหน้าที่ก้มลงมองจาน และเผยอริมฝีปากที่เม้มออก
มันฝืนยิ้ม...ผมรู้

 o16 o16

******************************************************************************

“อ่ะ...ส่วนของเรา”
ไอ้วินยื่นแบงค์แดงๆสองใบมาให้ผม

“กูเลี้ยง”
ผมไม่รับและทำเฉย

“ไม่เอา เมื่อวานเขมก็เลี้ยงเราแล้วนี่”
มันส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับการที่ผมเป็นฝ่ายควัก(ตังค์)

“เมื่อวานกูเลี้ยงรับรูมเมท วันนี้กูเลี้ยง...เอ่อ..ขอโทษมึง”
ผมเหลือบเห็นหน้าหวานๆของมันเคลือบรอยยิ้มและดูสดใสขึ้น
มึงไม่เคยโกรธใครนานสินะไอ้วิน 

 o13 o13


“เขม..ยังไม่กลับเหรอ”

ไอ้วินวิ่งตามหลังผมมา เพราะมันเผลอเข้าใจผิดเลี้ยวไปทางลานจอดรถ
ที่เป็นคนละทางกับที่ๆผมกำลังจะไป

“กูอยากดูหนัง..จะดูมั๊ย”
ผมหยุดยืนรอ ปลายจมูกของมันมีเหงื่อซึมนิดๆ ไอ้วินมันขี้ร้อนครับ
อยู่ทางเหนืออากาศคงเย็นสบายกว่าที่นี่

“ดูๆ..เราอยากดูเอ๊กซ์เมนน้า..นะ...นะ..นะเขม”
มันมาเขย่าแขนผมแรงๆอย่างลืมตัว โชคดีที่ตอนนี้อยู่กันในลิฟท์ที่ไม่มีใคร
นอกจากผมกับมันเพียงสองคน

ผมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาใสแจ๋วของมัน ทำไมมึงดูใสซื่อนักวะ

“ไม่รับปากว่ะ....เดี๋ยวไปดูที่หน้าโรงก่อน”
ผมแกล้งมันไปงั้นแหละ เห็นหน้าจ๋อยๆของมันแล้ว...เอ่อ..น่ารักดี

“ให้เราเลี้ยงหนังน้า”
ผมกับมันยืนอยู่หน้าตู้ซื้อตั๋ว ผมไม่สนใจมัน กดๆๆๆๆ จนได้ตั๋วมาสองใบ

แน่นอน...เรื่องที่มันอยากดู

“เขมอ่ะ...”
มันถอยหลังไปยืนหน้างอ ปากแดงๆเชิดขึ้นมาอีกแล้ว

“ตังค์ในบัตรกูมันเหลือเยอะ เดี๋ยวหมดอายุ”
ผมพูดแล้วคว้าข้อศอกของมันให้ออกเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปหน้าโรง

“ป๊อบคอร์นมั๊ย”
ผมกระซิบถามมันที่ข้างหู ความรู้สึกเหมือนเป็นเดทครั้งแรกในชีวิต
ทั้งๆที่พาสาวๆมากินข้าวดูหนังจนแทบจะหลับตาเดิน
ในสยาม-พารากอน-เซ็นทรัลเวิร์ดได้เลย(อันนี้ไอ้หน่อยด้วยครับ)

“เอาๆ..รสหวานน้าเขม”
เลือกรสชาติได้เข้ากับหน้าหวานๆของมึงมาก

“รับเป็นชุดดีมั๊ยคะ..บลาๆๆๆ”
พนักงานสาวก็สาธยายไม่หยุด แต่สายตาที่มองมาเยิ้มๆ
นี่ถ้าผมมาเดี่ยวเป็นได้ลองดูสักตั้งสองตั้ง ฮะ ฮะ

แล้วผมก็ได้ป๊อบคอร์นรสหวานกล่องใหญ่หนึ่งกล่อง กับโค๊กอีกสองแก้ว

“เราจ่ายๆ”
ไอ้วินพยายามจะเบียดมาที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า ผมหันไปแล้วคว้าเอวมันเอาไว้

“เบาๆสิวะ กูจะใช้แต้มในบัตร”

“ก็ใช้ไปดิ”
มันค้อนผมอีกครั้ง พร้อมกับทำปากยู่

 :m19: :m19:


***************************************************************************


ช่วงนั่งรอเวลาอยู่หน้าโรงไอ้วินมันก็เริ่มบ่น

“ที่เชียงใหม่ไม่เห็นจะมีเงินในบัตรหมดอายุเลยอ่ะ”

“อืมมม ที่นี่โคตรเอาเปรียบผู้บริโภคเลยว่ะ”
ผมผสมโรงเข้าไปให้มันจบๆ มันมีหมดอายุแต่ก็โอนเงินที่ค้างอยู่เข้าบัตรใหม่ได้หรอกครับ (เค้าโปรโมทให้แล้วนะ)

 :laugh: :laugh:


“เขม...ไม่กินเหรอ”
ไอ้วินยื่นหน้ามากระซิบถาม เมื่อเริ่มฉายหนังตัวอย่าง

“อืมมม กูยังอิ่ม”

“โห...ช่วยเรากินมั่งสิ เยอะอ่ะ”
จะให้กูกินได้ไง กูไม่ชอบรสหวาน กูชอบรสชีส

“อ๊ะ..กินเข้าไป”
มันเอาป๊อบคอร์นยัดปากผม ไอ้เด็กเวร

แล้วหลังจากนั้นผมเลยต้องคอยอ้างับป๊อบคอร์นเหมือนปลาคอยฮุบอาหารเม็ด
เพราะผมไม่ยอมหยิบกินเอง..ก็กูไม่ชอบ ชัดมั๊ย
มันเลยต้องคอยยัดเยียด
เออ...แล้วกูก็ยอม...

รสหวานนี่มัน....โคตรเลี่ยนเลย

ผมนั่งดูหนังกับไอ้วินหัวเราแทบจะชนกัน เพราะมันคอยเอียงเข้ามาป้อนผม
มีบางครั้งที่มันทำท่าเหมือนสะดุ้งเมื่อนิ้วมือมันมาสัมผัสริมฝีปากผม
บางทีผมก็แกล้งส่งลิ้นไปแตะปลายนิ้วมัน หวานโคตร

แต่กว่าป๊อบคอร์นจะหมดกล่อง...โอย...ท้องกูจะแตก
สองครั้งแล้วที่ผมต้องฝืน...กิน

“สนุกมั๊ย”
ผมอดใจไม่ไหวเมื่อกลิ่นหอมอ่อนๆของมันยั่วยวนอยู่ใกล้ๆ
แกล้งยื่นหน้าเข้าไปถามจนเกือบชิดแก้ม พอมันหันมาตอบก็..โป๊ะเชะ

“ฟอด...”

“โอ๊ย...ซี๊ดดด”
ไม่ได้เสียว..แต่เจ็บครับ ไอ้วินมันหยิกแขนผม

“สมน้ำหน้า”
มันเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วนั่งกอดอก
แอบชำเลืองมองใบหน้าด้านข้างของมัน มันยกยิ้มที่มุมปาก

“เฮ้ออออ...”
ผมถอนหายใจยาวๆดังๆ แล้วเอนหลังพิงพนักบ้าง

“นายเบื่อเหรอ”
มันหันมาถาม

“ง่วง...”
ผมโกหกมัน ทั้งๆที่หนังทั้งสนุกทั้งตื่นเต้น แต่ผมแทบไม่ได้ดู ในหัวมีแต่มัน

“พิงมาสิ”
ไอ้วินขยับตัวมาใกล้ทำให้ขาผมกับขามันแนบชิดกัน

เก้าอี้คู่ราคาแพงที่ผมซื้อทำให้ไม่มีอุปสรรคคั่นกลาง และยังปลอดสายตาคนเพราะมันอยู่แถวบนสุด
ผมเอนตัวแล้วพิงหัวไปที่ไหล่บอบบางของวิน
ผมรู้สึกปลอดโปร่งใจ สบายใจ อยากให้มันอยู่ข้างๆตัวผมไปนานๆ

 :impress2: :impress2:


“เขม...แม่ฝากน้องวินด้วยนะลูก”

คำพูดของแม่ไอ้วินลอยเข้ามาในหัว ทำให้ผมหน้าชาด้วยความละอาย
นี่ผมกำลังเล่นอยู่กับอะไร

ความรู้สึกของพ่อแม่และลูกครอบครัวหนึ่ง
ที่พ่อกับแม่ไว้วางใจผม และที่สำคัญไอ้วินที่หนีปัญหามา

ผมทำแบบนี้ได้ยังไง...เลวจริงๆ

ผมค่อยๆขยับตัวขึ้นนั่งช้าๆไม่ให้วินผิดสังเกต
ต่อไปผมจะต้องพยายามหักห้ามใจ ไม่ล่วงเกินมันอีก

ขีดสถานะของเราไว้แค่...”รูมเมท”

 :ling2: :ling2:


*******************************************************************************

“ทำไมนายเงียบไปอ่ะ”
ไอ้วินหน้าเสียที่ผมนิ่งๆไปเมื่อกลับมาถึงห้อง

“ไม่มีไร..กูแค่เหนื่อย”
ผมพูดแบบไม่คิดอีกแล้ว

“เรา..เราขอโทษนะที่ทำตัวเป็นภาระ”
ไอ้วินมันหน้าสลด

“เฮ้ย...ไม่ใช่กูไม่ได้เหนื่อยเพราะมึง”
ผมรีบแก้ตัวก่อนที่จะไปกันใหญ่

“จริงนะ”
สายตาที่ออดอ้อนแกมคาดหวังของวิน ทำให้ผมต้องพูดปด

“จริงสิ กูแค่เหนื่อยกับความคิดไร้สาระในหัวกูนี่แหละ”


ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับตาด้วยความเพลียทั้งกายและใจ
การเป็นคนดีนี่มันยากแฮะ ต้องใช้พลังงานมากขนาดนี้เลยเหรอวะ

“ไม่เป็นไรนะ มะ...เรานวดให้”

ผมลืมตามามองก็เห็นไอ้วินมันทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงผม
แล้วใช้มือเล็กๆของมันบรรจงนวดขมับ และหน้าผากให้ผม

“เนี่ยห้ามขมวดคิ้วมันจะเป็นรอยย่น เดี๋ยวหน้าแก่ด้วย”

ผมหลับตาลงอีกครั้งด้วยความรู้สึกเหมือนมีมือแม่มาลูบไล้ใบหน้าอย่างอ่อนโยน ยามผมอ่อนล้า
อยากให้สิ่งเหล่านี้ คนๆนี้อยู่กับผมตลอดไป 
ความโหวงเหวงว่างเปล่าภายในใจของผมมันจะได้หายไป


“อยู่ที่บ้านเราก็นวดให้พ่อบ่อยๆ พอวันไหนพ่อเลิกงานมาแล้วบ่นว่าเหนื่อย เราก็.....”

เหมือนไฟในอกนรกในใจมันแผดเผาผมทันที ที่ไอ้วินพูดถึงคนในครอบครัว

 :katai1: :katai1:


“ไปอาบน้ำก่อนไป กูหายล่ะ”

ผมลุกขึ้นนั่งแล้วดันไหล่มันให้ลุกออกไป


 o6 o6



*******************************************************************************************


ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และการติดตามครับผม

 :pig4: :pig4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2014 20:38:15 โดย herenoi »

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เลิกหลอกตัวเองเหอะเขม

ออฟไลน์ pumpui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ทำไม วินนี่ ไม่โวยวายเวลาโดน เขม จูบ หอม บ้างอ่ะ  หรือว่า วินนี่ แอบรักเขม โอ๊ย วินนี่ ลูก จะเสียใจมั๊ยเนี่ย เขมยังไม่ได้จัดการตัวเองกะ หลินเลย  เศร้าแทน วินนี่ อ่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อ่า แวะมาบวกเป็ดเป็นกำลังใจค่ะ
วินนี่น่าสงสารอ่า คงกลัวจะรักเขมอยู่เหมือนกัน อีตาเขมนี่ก็จูบเอาจูบเอาอยู่ได้ เห้อ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ติดตามๆ อ่านรวดยาวๆ  :katai4: น่ารักอ่ะเรื่องนี้  o13

เขม เลิกกะชะนีเถอะ จะได้ไม่ต้องสับสน :angry2:

ถ้าเขมจะชอบวินขนาดนี้ ขอวินเป็นแฟนเห๊อะ!!!  :laugh:

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
แลดูเป็นคนมีน้ำใจกับเพื่อนนะเขม แต่ไอ้ที่ตอดเล็กตอดน้อยนิมันคืออัลไรค้าาาา o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด