ตอนที่ 11
เปลี่ยน (ครึ่งแรก)
“สวัสดีดรีม” เสียงแหบเสน่ห์เรียก พร้อมกับเจ้าของหุ่นนักกีฬาวิ่งมาหาปลายฝันอย่างรวดเร็ว
“อ้าว! ก้อง สวัสดี ทำไมถึงใส่ชุดนี้ล่ะ” ร่างบางถามเมื่อสังเกตเห็นเพื่อนอยู่ในชุดนักกีฬา แทนที่จะเป็นชุดนักศึกษา
“พอดีว่าเรามีซ้อมบาสฯ กับรุ่นพี่น่ะ กำลังจะไปเปลี่ยนชุดแล้ว” ก้องภพตอบ
“อ๋อ...ให้เรารอไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราค่อยถามขึ้นไปดีกว่านะ ดรีมไปก่อนเถอะ แล้วนี่ใครมาส่ง”
“พี่พัฒน์น่ะ”
“พี่ชายหน้าโหดนั่นใช่ไหม”
“ใช่แล้ว ทำไมหรือก้อง” ปลายฝันถามเมื่อสังเกตเห็นถึงความปกติของเพื่อน
“เปล่า เราคิดว่าคุณดินคุณเพลิงมาส่งน่ะ” แอบแซวนิดๆ
“บ้าเหรอก้อง พวกเขาไม่คิดที่จะมาส่งหรอก” ปลายฝันตอบยิ้มๆ
เจ็บดีไหมล่ะ ถามเอง เจ็บเอง อยากได้รอยยิ้มแบบนี้จากปลายฝันบ้าง
ยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มให้แบบเพื่อนอย่างที่ยิ้มให้กับเขา
ยิ้มที่บ่งบอกว่าสุขเหลือเกินที่คนที่ยิ้มให้ไม่ได้คิดถึงเขา..
“เราก็คิดว่าจะมาส่ง ดรีมน่ะดังใหญ่แล้วนะ ดูสิ ไม่มีใครไม่รู้จักดรีมเลยนะเนี่ย” ก้องภพแสร้งยิ้ม
“อย่าแซวเราสิก้อง หวั่นๆ นะเนี่ย”
“ฮ่าๆ เราไม่แซวแล้วก็ได้”
“เอ่อ...ก้อง” ร่างบางเรียกเสียงไม่มั่นใจ
“อะไรหรือดรีม”
“ก้องรับได้ใช่ไหมกับเรื่องของเราอ่ะ” ปลายฝันถามด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ จนก้องภพยกยิ้มอย่างเอ็นดู
“เราเพื่อนกันนะดรีม รับได้อยู่แล้ว” สิ้นคำตอบของก้องภพ ปลายฝันก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี
จากที่คิดว่าเพื่อนต้องรังเกียจ หรือไม่ชอบจนเลิกคบ ก็สบายใจขึ้นทันที
“ขอบคุณนะ เพื่อน”
ใช่แล้ว ‘เพื่อน’
ทั้งๆ ที่คิดแบบนี้ แต่ทำไมถึงยังเกินเลย
“งั้นเดี๋ยวเราเข้าไปรอที่ห้องนะ มาเร็วๆ นะก้อง”
“โอเคๆ” ตอบรับพร้อมกับพยักหน้า มองร่างบางที่เดินจากไปด้วยสายตาเศร้าๆ ยิ่งเห็นแหวนที่นิ้ว กับสร้อยข้อมือแล้ว ก็ยิ่งผิดหวัง
แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยสินะ
“อย่างเรา จะเอาอะไรไปสู้เขาสองคนวะ” ก้องภพพึมพำเบาๆ
ยอมรับเลยว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกับปลายฝัน ก้องภพก็ตกหลุมรักใบหน้าหวานนั่นแล้ว ไหนจะรอยยิ้มสวยนั่นอีก ปลายฝันทำให้หัวใจของก้องภพเต้นแรงตั้งแต่เจอหน้า
แต่ปลายฝันกลับมองเขาแค่เพื่อน
ถ้าเพียงแค่ปลายฝันบอกว่า ‘ชอบ’ เขาก็จะยอมทำทุกอย่างเพื่อแย่งปลายฝันมาจากปฐพีกับอัคนี
แม้ว่าเด็กอย่างเขาจะไม่มีอะไรสู้ได้เลยก็ตาม
ร่างเล็กก้าวเข้าไปในห้องเรียนวิชาแรกก็ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนในห้องทันที เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นเมื่อคนตัวเล็กเดินเร็วๆ เพื่อไปนั่งยังที่นั่งของตน หยิบหนังสืออกมาอ่าน ก้มหน้าก้มตาไม่สบตากับใคร
‘ดรีมใช่ไหมที่หมั้นกับลูกชายของอภิหชัยบดินทร์ทั้งสองคน’
‘ใช่ๆ น่าอิจฉาจังเลยนะแก’
‘ฉันว่านะ พี่ดินกับพี่เพลิงไม่ได้เต็มใจที่จะหมั้นหรอก’
‘เออๆ เห็นด้วย ถูกพ่อแม่บังคับแน่ๆ เพราะดูท่าทางแล้วหมอนี่ท่าทางจะประจบคนเก่ง เลยเข้าทางพ่อแม่ไง’
‘นั่นสินะ แต่อย่างว่าแหละ สักวันก็คงจะถูกเขี่ยทิ้ง เพราะมันไม่มีทางที่คนสามคนจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้หรอก’
‘ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยแล้ว ใครมันจะไปยอมรับกันล่ะเรื่องแบบนี้’
‘ถึงแม้จะบอกว่ารับได้ แต่เรื่องแบบนี้ มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น’
‘ใช่แล้วเธอ คนเราน่ะ รักใครได้แค่ครั้งละคนเท่านั้นแหละ’
เสียงซุบซิบนินทาดังเข้ามาในโสตประสาทของปลายฝัน แต่ส่วนมากก็เป็นไปในทางที่ไม่ดี อย่างที่นักข่าวเคยถามจริงๆ ด้วย ร่างเล็กนึกหัวเราะสมเพชคนพวกนี้อย่างมาก
ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง แต่ก็ยังจะพูดให้คนนั้นเสียหาย
แต่ก็มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแหละที่เข้ามากระทบจิตใจของปลายฝัน
คนเราน่ะ รักใครได้แค่ครั้งละคนเท่านั้นแหละ
แล้วความรู้สึกของปลายฝันที่มีต่อปฐพีและอัคนีล่ะ
มันก็แค่ความหวั่นไหวใช่หรือไม่
“ดรีมๆ เราเห็นข่าวดรีมออกทีวีทุกวันเลยอ่ะ ตั้งแต่วันเสาร์จนถึงวันนี้ เขาก็ยังพูดถึงดรีมอยู่” เพื่อนสนิทสาวอีกคนนามว่าญาณินเดินมานั่งข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม
“น่าอิจฉาจังเลย คุณดินคุณเพลิง ตัวจริงจะหล่อขนาดไหนน้า” ทำหน้าเพ้อฝัน จนปลายฝันต้องส่ายหน้าด้วยความขำ
“หญิงก็เว่อร์ไป เขาไม่ได้หล่อขนาดนั้นหรอก” บอกเพื่อนยิ้มๆ
แต่หล่อมากๆ เลยต่างหาก
หล่อจนน่าหมั่นไส้...
“ชิ! เราหมั่นไส้อ่ะ ทำบุญด้วยอะไรน้า ถึงได้มีคู้หมั้นหล่อๆ รวยๆ ถึงสองคนแบบนี้”
“เราว่าทำบาปมากกว่าอ่ะ”
“ดรีมอย่าเถียงเรานะ บุญก็บุญสิ”
“โอเคๆ” ปลายฝันจำเป็นต้องยอมเมื่อเห็นเพื่อนกำลังจะงอนตน
เหอะ! ไม่มีใครเป็นปลายฝัน ก็ไม่รู้หรอกว่ารู้สึกยังไง ต้องผ่านอะไรบ้าง
พวกนั้นน่ะ มันปีศาจชัดๆ
“แต่หญิงรับได้ใช่ไหมที่ เอ่อ...” ปลายฝันถามอย่างลำบากใจ
ถ้าหากว่าตอบมาว่าไม่ได้ล่ะ
“ถึงเราจะคบกันมาได้เพียงเดือนเดียวนะดรีม แต่ดรีมก็เป็นเพื่อนของเรานะ ไม่ว่าดรีมจะเป็นยังไง เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน”
“ขอบคุณนะหญิง”
“ไม่เป็นไร อย่าคิดมาก เขาจะพูดอะไร ก็ปล่อยมันไป อย่าได้แคร์จ้า”
“ฮ่าๆ หญิงน่ารักจัง”
“แต่ก็ไม่ได้น่ารักเท่าดรีมหรอกเนอะ คนอะไร๊! หน้าหวานกว่าเราอีก” ญาณินเอ่ยแบบไม่จริงจังนัก
“หยุดแซวปมด้อยเราได้แล้วนะ” ปลายฝันว่าด้วยสีหน้างอนๆ
“ปมด้อย!! ช่างกล้าพูดนะคะเพื่อน ลองมาเป็นผู้หญิงแบบเราแต่สวยน้อยกว่าดรีมดูสิ ใครกันแน่ที่มีปมด้อยมากกว่ากัน”
“ฮะๆ ดรีมล้อเล่นนะ อย่างอนนะหญิง”
“ไม่งอนก็ได้ แต่ดรีมต้องสัญญาก่อนว่าจะพาคุณดินคุณเพลิงตัวเป็นๆ มาให้เพื่อนเห็น”
ข้อเสนอที่ทำให้ปลายฝันหนักใจ แต่ก็รับปากเพื่อนไปแบบไม่เต็มใจ
“ก็ได้”
“จริงนะ! กรี๊ดดด...ฉันจะได้เห็นพี่ดิน พี่เพลิงตัวจริงแล้ว!!” หญิงสาวตะโกนลั่นห้อง ทำเอาทุกคนหันมามองแบบหงุดหงิดปนอิจฉา จนปลายฝันปรามเพื่อนไม่ทัน
“เบาๆ สิหญิง”
“โทษที ดีใจไปหน่อย ขอโทษนะจ้า!!” ประโยคแรกหันมาบอกปลายฝัน ส่วนประโยคที่สองญาณินตะโกนขอโทษแบบไม่จริงจังนัก
ใครจะกล้าขัดญาณินล่ะ ตัวแม่ของรุ่นเชียวนะ!
ปลายฝันส่ายหัวให้กับความบ้าของเพื่อนสนิทสาว ที่ไม่มีความสาวเลยสักนิด เป็นผู้หญิงที่ไม่รักษาความเป็นผู้หญิง เป็นคนที่มีความมั่นใจสุดๆ ก่อนจะคิดถึงผู้ใหญ่สองคนที่ชอบแกล้งตนในทุกๆ วัน ก่อนจะคิดไปถึงงานหมั้นที่แสนจะวุ่นวายที่ผ่านมา
หลังจากจบงานหมั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อิสระ อัญมณี และลูกชายทั้งสองของพวกเขา ต่างก็อยากรู้ว่าปลายฝันพูดอะไรกับสองหญิงสาวนั้น แต่ปลายฝันก็ไม่ยอมบอก บอกเพียงว่า
‘ดรีมแค่สอบถามอะไรบางอย่าง แล้วก็คอยช่วยเหลือพวกเธอเท่านั้น’ ทั้งสี่คนที่ได้คำตอบมาแบบนี้ ก็เลิกเซ้าซี้ไป แต่ในใจก็ยังอยากรู้ ก่อนที่ปลายฝันจะเอ่ยขออนุญาตจากคุณอิสระ
‘ดรีมขอช่วยพวกเธอนะฮะคุณพ่อ’
‘ได้สิ ตามใจหนูเลย’ อิสระพูดยิ้มๆ
‘ขอบคุณนะฮะ’
ไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นปลายฝันพูดกับพวกเธอว่ายังไง ไม่รู้กระทั้งว่าปลายฝันจะช่วยเหลือสองหญิงสาวแบบไหน ทั้งๆ ที่อำนาจของปฐพีและอัคนี แค่สั่งนิดเดียวก็ตามสืบรู้แล้วว่า เรื่องราวมันเป็นยังไง
แต่เขาก็ไม่ทำ...ถ้าปลายฝันอยากบอก ก็คงจะบอกได้ในสักวัน...
เกือบหนึ่งเดือนที่อยู่ด้วยกันกับปฐพีและอัคนี ปลายฝันก็รู้สึกได้ว่ามันก็ไม่ได้เลวร้าย และเหนื่อยเหมือนวันแรกๆ เลย ถึงแม้จะจะโดนกวน โดนแกล้งบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับต้องทำให้เสียใจ พวกเขาเริ่มที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็มักที่จะถึงเนื้อถึงตัวกับปลายฝันตลอด
ร่างบางเองก็ไม่คิดจะรังเกียจสัมผัสจากคนตัวใหญ่ทั้งสอง จนรู้สึกแปลกใจกับความรู้สึกของตัวเอง ตอกย้ำอยู่กับตัวเองทุกวัน ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น...
ไม่ใช่แค่หวั่นไหวกับใครคนใดคนหนึ่ง แต่กลับหวั่นไหวกับร่างสูงทั้งสอง แบบไม่สามารถหักห้ามใจได้ ไม่รู้ว่ามีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไร่
ความรู้สึกที่ไม่อยากให้ปฐพีกับอัคนีเป็นของใคร
ยิ่งรู้สึกแบบนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปวดหนึบที่หัวใจยิ่ง
“เป็นอะไรไปดรีม ทำหน้าเครียดจัง” ญาณินถาม เมื่อเห็นปลายฝันที่นั่งข้างๆ เงียบไป
“เราคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” แสร้งทำมาเป็นยิ้มเหมือนเดิม
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ไหวเมื่อไหร่ก็บอกเราได้นะ” หญิงสาวบอกด้วยความจริงใจ ปลายฝันเองก็ยิ้มตอบกลับไปด้วยความซึ้งใจ
เพิ่งรู้ว่าการมีเพื่อนที่ดี มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง
“สวัสดีหญิง” ก้องภพที่เดินเข้ามาเอ่ยทักหญิงสาว
“ดีจ้า”
“เป็นยังไงบ้าง งานเสร็จหรือเปล่า” ก้องภพถามถึงงานที่อาจารย์ให้ทำทันที
“ก็เสร็จย่ะ แหมๆ ถ้าไม่ติดว่านายมีแข่งนะ ฉันไม่ทำให้หรอก บอกไว้ก่อนเลย” ญาณินเบ้หน้าใส่ร่างสูงที่เดินมานั่งลงข้างๆ ปลายฝันอีกฝั่งหนึ่ง
“ก็ขอบใจไปแล้วไง จะเอาอะไรอีก” ก้องภพเถียง
“แหม มันคงแทนกันได้ เนอะดรีม” หันไปหาแนวร่วม ซึ่งปลายฝันที่คั่นกลางระหว่างทั้งคู่ก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ เพราะชินแล้วที่เห็นเพื่อนสนิทเถียงกันแบบนี้
“ก็เห็นหญิงบ่นตลอด แต่ก็ยอมทำให้ก้องนี่นา” เป็นประโยคที่ทำให้ญาณินถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย
“ดรีมอ่ะ”
“โอ๋ๆ ไม่งอนนะ” ปลายฝันหันมาง้อ
“ขี้งอน!” ก้องภพพึมพำ
“ก้อง! หยุดได้แล้ว” ปลายฝันหันไปดุ
“ก็ได้ เราเห็นแก่ดรีมนะ” ก้องภพว่า ก่อนจะมองหน้าญาณินแบบโกรธๆ ที่พอไม่อยู่ในสายตาของปลายฝันก็เล่นหูเล่นตาใส่
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะปลายฝันไม่มีวันเข้าข้างแน่ๆ
50%

สวัสดีเย็นวันศุกร์ค่ะนักอ่านทุกๆ คน ตอนนี้ร่างกายของยูกิได้พักผ่อนแบบเต็มที่แล้ว เมื่อสองวันที่แล้ว ยูกิเหนื่อยจากงานมาก แล้วพอมาเจอคอมเม้นท์ต่างๆ ก็เลยท้อไปเลย แต่ตอนนี้โอเคแล้วค่ะ ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ มีความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
สรุปผลโหวตจาก 3 เว็บที่ยูกิลงนิยายนะคะ
1. ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก เหมือนเดิมดีแล้ว = 29 คน
2. เปลี่ยนเป็น ‘นาย’ ดีกว่า = 26 คน
3. ตามใจยูกิเลย = 29 คน
มีผลโหวตเท่ากันอยู่ 2 ข้อ ก็คือ 1 กับ 3 แต่ถ้าถามว่าตามใจยูกิคืออะไร ยูกิก็ขอตอบเลยว่า เหมือนเดิม เพราะมันมีเหตุผลอยู่ว่าทำไมต้องเป็น ‘เธอ’ ในความรู้สึกของยูกินะคะ ถ้าผู้ใหญ่เรียก เธอมันน่ารักดี เอาเป็นว่ายูกิจะรีไรท์เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่แน่นอน
ใครที่รอดรีมออกฤทธิ์ ขอบอกว่าตอนนี้ยังไม่ค่อยออกเท่าไหร่นะคะ ยูกิแต่งให้ดรีมเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยยอมพี่ดินพี่เพลิง ก็ยอมไปหมด แต่ดรีมออกฤทธิ์มีแน่ แต่จะเป็นยังไงนั้นก็ติดตามกันนะคะ
พูดคุยที่แฟนเพจเลยจ้า
https://www.facebook.com/sawachiyuki 
คลิกด้านล่างเพื่ออ่านตอนต่อไป
ตอนที่ 11.2