ตอนที่ 11
เปลี่ยน (ครึ่งหลัง)
~ Tell them all I know now shout it from the roof tops ~
ปลายฝันขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์ของคนที่ไม่คิดว่าจะโทรมาอย่างสงสัย ก่อนจะกดรับสายอย่างไม่ลังเลอะไร
“ครับคุณดิน”
ญาณินและก้องภพหันมาสนใจคนที่คั่นกลางทันที
(เรียนหรือยัง) เสียงทุ้มถาม
“ยังครับ อาจารย์ยังไม่เข้าสอน คุณดินมีอะไรหรือเปล่าครับ”
(ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันแค่โทรมาบอกว่าวันนี้ฉันไม่กลับห้องนะ ต้องประชุมจนดึก คงจะนอนที่บริษัทฯ)
“ครับ ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องบอกผมก็ได้นะครับ”
(ฉันแค่อยากจะบอก กลัวว่าเธอจะคิดถึง)
ปลายฝันหน้าร้อนทันที
“บ่ะ บ้าแล้ว ใครจะไปคิดถึง” กระซิบเสียงค่อย เพราะกลัวเพื่อนจะได้ยิน แล้วเอาไปล้อ
(หึ ไม่คิดก็ไม่คิด เธอไม่คิด แต่ฉันคิดนะ...)
“วางไปเลยคุณดิน ถ้าจะโทรมากวนกัน” ถึงจะทำเป็นไล่ ที่ใบหน้าก็เต็มไปด้วยร้อยยิ้ม
ไม่ไหวๆ ถ้าคุยนานกว่านี้ หัวใจวายตายแน่ๆ
คนที่เคยร้ายกาจ หายไปไหนกันนะ...
(หึหึหึ ฉันจะทำงานต่อแล้ว ไม่เห็นฉันก็อย่านอนไม่หลับก็แล้วกัน) ไม่วายหยอดมาอีก จนปลายฝันแอบเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
“คุณน่ะหลงตัวเอง”
(ก็อยากให้ใครมาหลงเหมือนกัน หลงตัวเองจนเบื่อแล้ว)
โอ้ยยยย...วันนี้คุณดินไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่าเนี่ย
“เอาไว้พูดกับสาวๆ คุณเถอะ มีตั้งเยอะ”
(แล้วพูดกับคนนี้ไม่ได้หรือไง)
ฮือ...ไม่ไหวแล้วนะ เมื่อไหร่จะหยุดพูดจาแบบนี้เสียที
“ค่ะ...ใครล่ะ ก็ไปบอกเขาสิ แค่นี้นะครับ” ปลายฝันพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด แต่ก็ติดสั่นนิดๆ อยู่ดี
(เดี๋ยวสิ...ขอกำลังใจหน่อยได้หรือเปล่า) เสียงทุ้มนิ่งของปฐพีเอ่ยขอ
“อ่ะ อะไร”
(ตั้งใจเรียนนะ) ปลายสายบอก เรียกเลือดมารวมที่หน้าสวยอย่างดี
“ต่ะ ตั้งใจทำงานนะครับ” พูดจบปลายฝันก็ตัดสายทันทีด้วยความเขิน ก่อนจะซุกหน้าลงกับแขนตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ฮั่นแน่ๆ มีเขินด้วย” หญิงสาวแซว ส่วนก้องภพก็เงียบสนิท
“อย่าแซวน่าหญิง” เสียงอู้อี้บอก
“หน้าแดงมากเลยรู้ตัวเปล่า ฮ่าๆ”
ญาณินแซวปลายฝันได้ไม่ทันเต็มที่เท่าไหร่ อาจารย์ก็เข้ามาในห้องเสียก่อน จากนั้นทั้งสามคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก ตั้งหน้าตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปลายฝัน ที่ไม่มีความคิดที่จะออกนอกลู่นอกทางเลยสักนิด ตั้งใจเรียน ส่งงานทุกครั้ง นับเป็นว่าเป็นคนที่มีคะแนนอันดับต้นๆ ของชั้นปีเลยทีเดียว
ตอนเย็น
ปลายฝันกลับถึงบ้านในเวลาปกติคือ 5 โมงเย็น เพราะไม่มีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยอะไรแล้ว ก็พบร่างสูงของอัคนีนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซนนั่งเล่น
“คุณเพลิงกลับมานานแล้วหรือครับ” ร่างบางถาม
“ใช่ วันนี้ฉันไม่มีงาน แต่พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางไปมาเลเซีย” อัคนีตอบ ก่อนจะตบโซฟา บ่งบอกให้คนตัวเล็กนั่งคุยกันก่อน
“ไปนานไหมครับ” ปลายฝันถามพลางนั่งลงข้างๆ
“3 วันน่ะ ทำไม กลัวคิดถึงล่ะสิ”
พี่น้องสองคนนี้วันนี้ไปกินอะไรแปลกๆ มาจริงๆ สินะ ถึงได้พูดแต่เรื่องแปลกๆ กัน
“ใครจะไปคิดถึงกันล่ะ แค่ถามไม่ได้หรือครับ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ถามน่ะถามได้” ยักไหล่บอก
“วันนี้ไอ้ดินไม่กลับบ้าน ไม่ต้องทำอาหารในส่วนของมันนะ” อัคนีบอกแต่ไม่มองหน้าคู่สนทนา
“ผมรู้แล้วครับ”
“รู้? ใครบอกเธอ ไอ้ธีร์หรือ” หันมาถามด้วยความสงสัย
“เปล่าครับ คุณดินโทรมาบอกเอง”
เมื่อได้รับคำตอบ อัคนีก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
ร้ายเหมือนกันนี่หว่า... กูยังไม่เคยโทรหาเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่เป็นคนซื้อโทรศัพท์ให้แท้ๆ
“อืม...ถ้างั้นวันนี้เราไปกินข้าวข้างนอกดีไหม” อัคนีชวน
อัคนีรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อไม่ให้น้อยหน้าปฐพี เลยเอ่ยชวนคนตัวเล็กไปทานอาหารนอกบ้านซะเลย
“คิดยังไงถึงชวนครับ” ถามอย่างแปลกใจ
“ก็พาเปลี่ยนบรรยากาศ อย่าถามมากได้ไหม ตอบแค่ว่าไปหรือไม่ไปก็พอ” เริ่มมีน้ำโหตามประสาคนอารมณ์ร้อน
“ถ้างั้นผมไม่…”
“โอเค ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ใส่ชุดใหม่ที่ไอ้ดินมันซื้อให้นะ”
อัคนีรู้ว่ายังไงแล้วปลายฝันก็ต้องปฏิเสธเลยพูดตัดคนตัวเล็ก โดยไล่ให้ร่างบางไปอาบน้ำแต่งตัวทันที ซึ่งปลายฝันก็มองหน้าร่างสูงแบบโกรธๆ
“คุณเพลิง”
“เรียกทำไม”
“เปล่าครับ ถ้างั้นผมขอตัวไปอาบน้ำ” ร่างบางรีบขอตัวเพราะเห็นสายตาเอาเรื่องจากอัคนี
“ก็ดี ฉันเองก็จะไปอาบน้ำ 6 โมงเย็นทุกอย่างต้องพร้อม เพราะร้านมันค่อนข้างไกลจากที่นี่”
“ครับ”
ปลายฝันเดินเข้าห้องไปอย่างเบื่อๆ จะมีวันไหนไหมที่สามารถเอาชนะสองแฝดได้ สักครั้งก็ยังดี
“เฮ้อออ...ต้องใส่ชุดไหนล่ะเนี่ย” มือบางเปิดตู้เสื้อผ้าก็ถอนหายใจยาว
เสื้อผ้าที่คุณดินซื้อให้ก็ใช่ว่าจะน้อย... ซื้อมาเยอะมากจนแทบต้องเอาของเก่าไปบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้า ไหนจะกระเป๋า ร้องเท้าที่คุณเพลิงซื้อให้ และยังบังคับให้ใช้อีก
ใช้ไม่หมดแน่ๆ ชาตินี้
อัคนีและปลายฝันก้าวเข้าไปในร้านอาหารสุดหรูของเมืองไทย ผู้จัดการร้านที่ทราบว่าอัคนีโทรมาจองโต๊ะ ก็มารอต้อนรับอย่างดี เพราะไม่บ่อยนักที่นักธุรกิจใหญ่จะมารับประธานอาหารที่ร้าน
“สวัสดีครับคุณอัคนี วันนี้พาคู่หมั้นมาทานข้าวหรือครับ” ผู้จัดการร้านถาม
ปลายฝันยกมือไหว้ จนผู้จัดการร้านตกใจ ยกมือไหว้กลับแทบจะไม่ทัน เพราะกลัวว่า ถ้าหากตนไม่ยอมเคารพเด็กหนุ่มแล้วล่ะก็ อาจจะถูกอัคนีเอาเรื่องได้
“ใช่...”
“ถ้างั้นเชิญด้านนี้เลยครับคุณอัคนี” ผายมือให้ทั้งคู่เดินเข้าไปยังโต๊ะที่จองไว้
เมื่อไปถึงโต๊ะ ก็พบว่ามีอาหารจำนวนไม่น้อยวางไว้อยู่แล้ว เนื่องจากอัคนีเป็นคนสั่งเอาไว้ เพราะถ้าเขากับปลายฝันมาถึงจะได้ทานได้เลย ไม่ต้องหิ้วท้องรอ อัคนีเดินไปดึงเก้าอี้ให้ร่างบางนั่ง ซึ่งปลายฝันก็นั่งลงแบบเขินๆ
“ขอบคุณครับ” พูดแบบอายๆ อัคนีเองก็ยกยิ้มพอใจ ก่อนจะอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้าม คนตัวเล็กไม่กล้ามองหน้าอัคนี จึงเลือกที่จะหันไปมองวิวยามค่ำคืนของเมืองหลวงแทน
ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ นะ
ขาดหายอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย...
“กินสิ ไม่หิวหรือไง มองไปข้างนอกคงอิ่มอยู่หรอก” อัคนีแอบแขวะเล็กน้อย ร่างบางหันมามองหน้าคนพูดนิดๆ ก่อนจะลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า
“คุณก็ทานสิครับ มัวแต่พูดคงจะอิ่มอยู่หรอก”
“ยอกย้อนหรือ ระวังจะเจอลากเข้าห้องนะ”
“พูดบ้าๆ” ร่างบางเริ่มทานอย่างอายๆ อัคนีเห็นแบบนั้นก็เลิกแกล้ง แล้วเริ่มกินตาม เพราะทนหิวไม่ไหวแล้ว
ที่จริงอัคนีหิวตั้งแต่กลับมาจากทำงานแล้ว แต่รอปลายฝันมาหาอะไรให้ทานก็เท่านั้น พอได้ยินจากปากร่างบางว่าปฐพีโทรหา ก็อยากที่จะทำคะแนนบ้างโดยการพามาทานข้าวที่ภัตตาคารหรูแห่งนี้
“ไม่ต้องกินจนอิ่มล่ะ ฉันสั่งของหวานไว้ให้”
“อ้าว? แล้วคุณสั่งมาทำไมเต็มโต๊ะ เสียดายออก”
“ก็ให้เธอและฉันนี่แหละ ไม่เป็นไรหรอกน่า”
“ที่หลังหัดใช้เงินประหยัดๆ บ้างนะครับ ไม่ใช่รวยแล้วเอาแต่ฟุ่มเฟือย แบบนี้ไม่นานเดี๋ยวมันก็หมด”
“อย่าบ่นนักเลยน่า ฉันเองก็กินมันนานๆ ทีนะ”
“ใครเชื่อก็บ้าแล้ว” พึมพำกับตัวเองเบาๆ
“พูดจริงๆ ตั้งแต่มีเธอมาอยู่ด้วย ฉันก็กินฝีมือเธอตลอด นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือนเลยนะ” อัคนีอธิบาย
“ครับ ผมเชื่อคุณก็ได้ แต่ก็ควรเก็บเงินไว้บ้างนะครับ อะไรไม่จำเป็นก็อย่าซื้อมาก อย่างโมเดลรถนั่น ตอนนี้ตู้เต็มแล้วนะครับ”
“งั้นหรือ อืม...เดี๋ยวค่อยซื้อตู้ใหม่”
นี่ไม่ฟังที่เราพูดเลยใช่ไหม ทำไมเป็นคนแบบนี้
ร่างบางส่ายหัวอย่างจนใจที่จะพูด ซึ่งปลายฝันไม่รู้หรอกว่าอัคนีแกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ น่าแปลกที่อัคนีคิดที่จะทำตามคำที่ปลายฝันบอก
เธอนี่...มีความพิเศษจริงๆ นะ
“ฉันแค่ล้อเล่น ถ้าเธออยากให้ทำแบบนั้น ฉันจะทำก็ได้”
คนบ้า! ทำไมต้องพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ด้วยเล่า...
รู้ไหมว่ามันหวั่นไหว...
วันนี้ ทำไมปฐพีและอัคนีถึงได้พูดดีแบบแปลกๆ ด้วย
แบบนี้ปลายฝันไม่ชินเลยนะ!!
100%

เอาครึ่งหลังมาลงต่อให้แล้วนะคะ ขอบคุณมากๆ กับกำลังใจที่ให้ว่า ช่วงนี้จิตใจยูกิเข้าที่แล้ว หลายวันมานี่เหนื่อยมากจริงๆ ไหนจะอะไรก็ไม่รู้เข้ามาจนยูกิแทบท้อ บอกตรงๆ ว่าไม่อยากจะลงนิยายแล้ว แต่เพื่อความฝันและเพื่อนักอ่านอีกหลายคน ยูกิก็มีกำลังใจขึ้นมาเยอะ
เพราะฉะนั้นแล้ว
เลิกดราม่า นะคะ สำหรับคำแนะนำ ข้อติเตียน หรือว่าสงสัยอะไรยังไง ก็ยังโพสได้เหมือนเดิมนะคะ ยูกิรับได้อยู่แล้ว เพราะมีนักอ่านหลายท่านสงสัยว่าเป็นเพราะโพสของท่านหรือเปล่าที่ทำให้ยูกิเกิดท้อ ขอบตอบว่า
ไม่ใช่เลยจ้า แค่มีบางคนไม่พอใจเท่านั้น อิอิ แต่ยูกิไม่แคร์ค่า
อยากว่าก็ว่าไป ยูกิเป็นตัวของตัวเอง ไม่ทำตามความคิดใคร แต่ข้อแนะนำ ติเตียนยูกิจะนำมาปรับแก้ไขค่ะ ต้องขอขอบคุณพวกคุณด้วยซ้ำ แม้ว่ามันอาจจะทำให้ยูกิเสียเซลฟ์ไปบ้าง แต่พวกคุณก็ยังอ่านนิยายของยูกิ ซึ่งนับเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง (ฮา) พูดคุยกับยูกิได้ตลอดที่แฟนเพจนะคะ ส่วนน้องดรีมแผลงฤทธิ์คงอีกนาน ตอนนี้อยากให้ถึงจุดเปลี่ยนก่อนอีก รอประมาณ 3 4 ตอนนะจ้ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki
คลิกด้านล่างเพื่ออ่านตอนต่อไป
ตอนที่ 12.1