(ต่อ)
ร่างบางลงจากแท็กซี่หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ยามหน้าบ้านเองเมื่อเห็นว่าเป็นปลายฝันก็เปิดประตูให้คนตัวเล็กเดินเข้าไปทันที
ใบหน้าหวานแม้จะไม่มีน้ำตาแล้ว แต่ดวงตาก็แดงกล่ำบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก สองเท้าเดินเข้าไปในตัวบ้านช้าๆ
หายใจเข้าปอดลึกๆ
กั้นความเสียใจ ไม่ให้มันออกมา
“คุณพ่อ คุณแม่อยู่ไหมฮะ” ถามแม่บ้านออกไป
“อยู่ที่ห้องนั่งเล่นค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ร่างบางตรงไปยังห้องนั่งเล่นทันที เห็นผู้มีพระคุณทั้งสองท่านกำลังคุยเรื่องการไปเที่ยวต่างประเทศร่างบางก็ตรงเข้าไปหาท่าน
ทันที พร้อมกับยกมือไหว้ทักทาย
“คุณพ่อ คุณแม่ สวัสดีฮะ”
“อ้าว? ทำไมมาที่นี่ได้ล่ะลูก ไม่ได้สอบหรือ” คุณหญิงถามด้วยสีหน้าฉงน
“สอบเสร็จแล้วฮะ” ร่างเล็กเดินไปนั่งข้างๆ คุณหญิงแล้วกอดแขนอวบ ซบหน้าลงตรงนั้นอย่างออดอ้อนจนผู้มีพระคุณมองหน้ากัน
อย่างแปลกใจ
“แล้วพวกพี่ล่ะ” อิสระถามหาลูกชาย
ปลายฝันสะอึกไปกับคำถามนี้ แต่ก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยง
“ดรีมสอบเสร็จก็มาที่นี่เลยฮะ คิดถึงคุณพ่อ คุณแม่” ร่างเล็กเริ่มเสียงสั่นเครือ แต่มีหรือที่คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนจะจับสังเกตไม่
ได้
ต้องมีปัญหาอะไรกันแน่ๆ...ประมุขของบ้านคิด
“ขี้อ้อนจังเลยน้า”
“ก็คุณแม่น่าอ้อนนี่ฮะ”
“แล้วไหนกระเป๋าเสื้อผ้าล่ะลูก”
“ดรีมไม่ได้เอามาหรอกฮะ เดี๋ยวมาใช้ที่นี่ก็ได้” ปลายฝันเงยหน้าจากแขนแล้วบอกยิ้มๆ
“ตาแดงๆ นะ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรฮะคุณแม่ สงสัยฝุ่นเข้าตา”
ดรีมเป็นเด็กไม่น่ารักใช่ไหมฮะ ที่โกหกผู้ใหญ่แบบนี้...
“ว่าแต่ว่านี่ก็เรียนจบปี 1 แล้วล่ะสิ” อิสระถาม
“ฮะคุณพ่อ”
“ปิดเทอมมีเรียนหรือเปล่า”
“ไม่รู้สิฮะ ยังไม่ได้คุยอะไรกับเพื่อนเลย สอบเสร็จก็กลับมานี่แหละครับ” ปลายฝันบอก
“รีบไปไหมหนูดรีม” แซวร่างบางยิ้มๆ
“ก็มันสอบเหนื่อยมากเลยนี่ฮะ ดรีมเลยอยากจะมาพักผ่อนที่บ้าน”
“แล้วทำไมไม่แวะคอนโดก่อนล่ะลูก พักเหนื่อยเสร็จค่อยมา แล้วนี่มารถอะไรล่ะ” คุณหญิงถาม
“มาแท็กซี่ฮะ” ตอบเสียงค่อย
“โอเคจ้ะ ถ้างั้นหนูดรีมขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าไป จะได้สดชื่น”
ปลายฝันพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เพื่อทำใจ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
“คุณพ่อ คุณแม่ครับ”
“อะไรหรือ” อิสระถาม
“จำได้ไหมฮะที่บอกว่าดรีมจบปี 1 เมื่อไหร่ ค่อยให้คำตอบว่าจะแต่งงานกับพวกพี่หรือเปล่าน่ะฮะ” ปลายฝันพูดออกมา
“จำได้สิลูก มีคำตอบให้พ่อกับแม่แล้วหรือจ้ะ” คุณหญิงถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“มีแล้วฮะ”
“ว่ายังไงลูก”
“คือว่า...คำตอบของดรีม...คือ ม่ะ ไม่แต่งฮะ” ประโยคสุดท้ายเสียงของปลายฝันเครืออย่างไม่สามารถห้ามปรามได้ เพราะกว่าจะ
พูดคำที่มันออกมาตรงกันข้ามกับหัวใจ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
“ท่ะ ทำไมล่ะลูก” คุณหญิงถามอย่างผอดหวัง
“ร่ะ เราไม่ได้รักกัน ฮึก เราไม่ได้รักกันฮะ” ปลายฝันบอกออกมาท่ามกลางสายน้ำตาที่รินไหล
ปลายฝันคนนี้อ่อนแอลงเพราะความรัก เพราะผู้ชายสองคนนั้น คนที่มีผลกระทบทุกอย่างในชีวิตและความรู้สึกของปลายฝัน
“ทำไมคิดอย่างนั้น” อิสระถามเสียงเครียด
หรือเพราะลูกบ้านั่น ยังไม่บอกรักหนูดรีมอีก...
“พี่เขาไม่ได้รักดรีม ฮึก เขาไม่ได้รักดรีม” ปลายฝันพูดว่าเขาไม่รักเอง ก็ทรมาณเอง
“หนูไปรู้อะไรมา”
“ฮือ...พี่เขา อึก คุยเรื่องแต่งานกับผู้หญิง ฮึก คนอื่น...ที่ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งดี เหมาะสมกับพี่เขาทุกอย่าง แต่กับดรีม ฮึก...ที่ไม่มี
อะไรเลย ทั้งจน ทั้งกำพร้า ที่สำคัญ ฮึก ดรีมไม่ใช่ผู้หญิง” ปลายฝันพูดเจือเสียงสะอื้น จนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ทั้งสองคนก็ยัง
ฟังชัดเจนอยู่ดี
“มันไม่สำคัญหรอกลูก” คุณหญิงพูด
“ฮะ มันไม่สำคัญ อึก ที่มันสำคัญจริงๆ คือพี่เขารักใคร คุณพ่อ กับคุณแม่ให้พี่เขาได้รักคนที่เขาอยากจะรักด้วยนะฮะ” ปลายฝันขอ
เสียงเจ็บปวด
ผู้ใหญ่ทั้งสองมองหน้าปลายฝันด้วยความสงสาร เรื่องนี้เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น หวังแค่ว่าถ้าลูกชายทั้งสองคนของพวกเขารู้แล้ว ก็ให้รีบกลับมาเคลียร์ซะ...
“ความรักของคนสามคนมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”
“พ่อถามหนูดรีมหน่อย” อิสระพูดขึ้นเสียงจริงจัง
“ฮะ”
“หนูรักพวกพี่เขาไหมลูก” สิ้นเสียงคำถาม ร่างบางก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จะโกหกหัวใจ บอกไปว่าไม่รัก มันก็ทรมานเปล่า แต่
ถ้าบอกความจริงออกไป ยังไงพวกเขาก็ไม่รู้ หรือไม่สนใจอยู่ดี
“ร่ะ รักฮะ รักมาก ไม่ใช่แค่รักใครคนใดมากกว่า แต่รักพวกพี่เขาทั้งสองคน รักที่ไม่อยากจะเสียไป แต่ก็ต้องตัดใจให้ได้ ฮึก รัก
มาก แต่ก็เจ็บมากฮะ”
“ฟังแม่นะลูก แค่รักก็พอแล้ว”
“แค่รักมันไม่พอหรอฮะคุณแม่ ดรีมอยากให้พี่เขามีความสุข มีคู่ครองที่เหมาะสมและเป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างด
รีม อึก”
สำหรับเขาแล้ว มันไม่มีทางเป็นไปได้
ไม่มีใครหรอกที่เชิดหน้าชูตาในสังคมว่ามีภรรยาเป็นผู้ชาย ที่สำคัญเป็นภรรยาที่มีสามีถึงสองคน พวกเขาจะทำยังไงที่โดนตรา
หน้ามาใช้ภรรยาร่วมกัน
มันน่าเกลียดมากจนร่างบางไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นกับคนที่เขารัก ไม่ว่าใครก็ตาม
แม้บอกว่ารักได้ แต่ในใจแล้วใครจะไม่รู้สึก...
“ถือว่าดรีมขอนะฮะ และนี่มันก็เป็นความต้องการ ฮึก ของพวกพี่เขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
“ก็ได้ๆ พ่อยอม” อิสระไม่อยากจะบังคับจิตใจร่างบางไปมากกว่านี้แล้ว
“แล้วสรุปว่าหนูจะมาเป็นลูกบุญธรรมพ่อกับแม่ใช่ไหม”
“ถ้าคุณพ่อ กับคุณแม่ยังต้องการ อึก ดรีมก็ยินดี” พูดบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลังไหมลูก” คุณหญิงถาม
“ฮะ แต่ปิดเทอมนี้ดรีมจะไปทำงานต่างจังหวัด แต่ขออนุญาตไม่บอกนะฮะว่าไปทำที่ไหน เพราะดรีมก็ไม่รู้เหมือนกัน และดรีมจะ
ย้ายออกจากคอนโด รบกวนคุณพ่อ คุณแม่บอกพี่ดินพี่เพลิงให้ด้วยนะฮะ” ขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ได้ลูก ถ้าสบายใจ พ่ออนุญาต”
“ขอบคุณนะฮะ” ปลายฝันยกมือไหว้ทั้งสองท่าน
ก็รู้สึกผิดที่ทำให้ท่านสองคนผิดหวังและไม่สบายใจ แต่ถ้าจะให้ปลายฝันทน มันก็ไม่ได้เหมือนกัน ก่อนที่เขาจะย้ายสถานะจากคู่
หมั้นมาเป็นน้องชาย
วันนั้นจะต้องเป็นวันที่เขาหมดรักทั้งคู่แล้ว
ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม…
...
...
...
“ตกลงตามนี้นะคะ” หญิงสาวถาม
“ครับ ตามนี้เลย” ปฐพีตอบ ยกยิ้มมุมปากนิดๆ เพราะกำลังมีความสุข
“เอาเป็นว่าทางเราจะจัดสถานที่และงานให้เสร็จก่อนวันจริง จากนั้นคุณช่วยบอกคุณปลายฝันด้วยนะคะ ถ้าเขาร้องไห้จะทำยังไง
คะ” ถามยิ้มๆ
“ก็ดีสิครับ” อัคนีตอบยิ้มๆ
“ถ้างั้นเราสองคนขอตัวกลับร้านนะคะ” เธอบอกพร้อมกับลุกขึ้น ซึ่งทั้งคู่ก็ได้พยักหน้าและยิ้มน้อยๆ ให้กับผู้หญิงสองคนนี้ แล้วเธอ
ก็เดินออกจากร้านนี้ไป
ปฐพีกับอัคนีเองก็นั่งดื่มกาแฟต่อโดยไม่รู้เลยว่าปลายฝันมาหา แต่ก็กลับไปด้วยความเสียใจ แต่ในจังหวะที่กำลังจะคุยกัน ก็มี
เสียงของพนักงานร้านเดินเข้ามาถามด้วยความอยากรู้
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเมื่อสักครู่ท่านทั้งคู่ได้เจอกับคู่หมั้นของท่านหรือเปล่าครับ” ปฐพีกับอัคนีหันขวับมามองคนถามทันที
ไม่สงสัยหรอกว่าทำไมถึงรู้จักปลายฝัน เพราะคนแถวนี้รู้จักหมด
“เพราะเมื่อชั่วโมงก่อนผมเห็นคุณเขาเดินเข้ามาในร้าน แต่ไม่กี่นาทีเขาก็วิ่งร้องไห้ออกไป ผมเห็นว่าท่านสองคนคุยธุระอยู่ เลยไม่
กล้าขัดน่ะครับ” พนักงานบอกอีกครั้ง
ต้องขอบคุณความสอดรู้สอดเห็นของพนักงานใจกล้าคนนี้ที่ทำให้ปฐพีกับอัคนีรู้ว่าปลายฝันมาที่นี่
ตึง!!
“ว่าไงนะ!!” ปฐพีลุกขึ้นตบโต๊ะ ตะคอกถามเสียงดัง ก่อนจะเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
“บ้าเอ้ย!! แล้วทำไมไม่มาบอกให้เร็วกว่านี้วะ” อัคนีโวยวาย หยิบแบงค์พันวางที่โต๊ะแล้ววิ่งตามปฐพีออกไป ก่อนจะกระชากไหล่
หนาของคนพี่ไว้
“จะไปไหนวะ!”
“จะไปหาดรีม” ตอบเสียงเครียด
“แล้วมึงจะไปหาที่ไหน”
“แม่งเอ้ย! เข้าใจพวกเราผิดแน่ๆ เลยว่ะ” ปฐพีสบถก่อนจะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด
“กูก็ว่างั้น ยังไงลองโทรหาดู” อัคนีแนะนำ แต่ตัวเองก็เป็นคนโทรไปอยู่ดี รอสายจนตัดไป แต่ปลายฝันก็ไม่รับ ทำให้พวกเขาคิด
ได้เลยว่า ปลายฝันโกรธ และคงจะไปที่ไหนสักแห่ง อัคนีเปิด GPS เพื่อหาตำแหน่งของร่างบางก็ต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ดรีมกลับไปที่บ้านว่ะ”
“สัญญาณบอกว่าอยู่ที่นั่นหรือวะ” ปฐพีถาม
“เออ! แต่ก็ดีแล้วที่ไม่หนีไปไหน”
“ว่าแต่มึงจะเอาไง ตามไปอธิบายหรือปล่อยไปก่อน”
“เรื่องนี้มึงก็คิดดิวะ ถ้าเราไปอธิบายแม่งความก็ต้องแตกดิ” อัคนีพูดเสียงเครียด
“แล้วจะปล่อยให้น้องเข้าใจผิดหรือไงวะ”
“มึงก็คิดดิวะไอ้ดิน มึงมันฉลาดนี่”
“กูว่าปล่อยไป แล้วทำเป็นไม่รู้ดีกว่า ให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยอธิบายทุกอย่างให้ฟัง” ปฐพีแนะนำ ส่วนอัคนีก็คิดตามก่อนจะพยัก
หน้าอย่างเห็นด้วย
“เออๆ เอาตามนี้ แล้ววันนี้มึงจะกลับคอนโดหรือว่ากลับบ้าน”
“คอนโดว่ะ”
“แล้วอย่างนี้น้องมันไม่คิดมากหรือวะ”
“เออน่า ดรีมคงไม่มีทางไปไหนหรอก ตอนนี้เราต้องเตรียมงานทุกอย่างก่อน ช่วง 2-3 นี้ คงวุ่นวายน่าดูอ่ะมึง ยังไงก็ไม่มีเวลาคุย
กับน้องเท่าไหร่อยู่แล้ว” ปฐพีบอก
“แต่น้องร้องไห้นะมึง”
“กูว่าคงร้องเพราะคิดมากมากกว่า”
“เออๆ มึงว่าไงก็ว่าตามกัน”
“ถ้างั้นมึงก็ส่งข้อความบอกไปเลย ถ้าสอบเสร็จแล้วให้ไปอยู่บ้านใหญ่ แล้วบอกว่าพวกเรางานยุ่งต้องค้างที่บริษัท” ปฐพีสั่ง ซึ่ง
อัคนีก็ทำตามทันที
“กูส่งแล้ว”
“โอเค งั้นมึงก็กลับบริษัทมึงไปทำงานเถอะว่ะ” ปฐพีไล่
“เออ! กูไปแน่ๆ ไม่ต้องไล่กูหรอกไอ้ห่า”
“งั้นกูไปล่ะ”
“เดี๋ยวไอ้ดิน” เรียกไว้ก่อนที่ปฐพีจะหันหลังเดินไปบริษัทตัวเอง
“อะไรอีกวะ!” ถามอย่างรำคาญ
“มึงแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้ กูไม่อยากให้ดรีมคิดมาจนต้องบั่นทอนจิตใจตัวเองนะเว้ย” อัคนีเครียด เมื่อคิดว่าร่างบางต้องนอน
ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน ปฐพีเองก็ใช่ว่าจะสบายใจที่รู้ว่าปลายฝันร้องไห้ แต่ให้อธิบายหรือโกหกตอนนี้ดูเหมือนร่างบางจะไม่เชื่อแน่ๆ
เพราะร่างเล็กไม่ใช่คนโง่ เพราะฉะนั้น พวกเขาจำเป็นต้องหักห้ามใจ และทำงานนี้ให้สำเร็วเสียก่อน
“กูก็ไม่สบายใจพอๆ กับมึงนะเว้ย! แต่เราต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง”
“เออๆ เป็นไงเป็นกันวะ”
“งั้นก็แยกย้าย”
“เออ”
พวกเขาไม่รู้หรอกว่า การตัดสินใจครั้งนี้ อาจจะทำให้พวกเขาต้องหนักใจกว่าเดิม เพราะร่างเล็กที่เห็นข้อความนั้นแล้ว คงจะต้องตี
โพยตีพายไปเป็นอีกอย่างแน่ๆ
แต่สิ่งนี้ พวกเขาจะต้องแก้มันเอง และหวังว่ามัน...
จะไม่สายจนเกินไป...
...
...
...
ทางด้านอิสระและคุณหญิงที่เมื่อปลายฝันไปพักผ่อนข้างบนแล้ว ก็เกิดอาการวิตกกังวล ร่างบางต้องไปเห็นหรือรับรู้อะไรมาแน่ๆ
“น้องว่าตาดิน ตาเพลิง ไม่มีทางไม่รักหนูดรีม น้องสังเกตมาตลอดทำไมไม่รู้”
“ผมก็ว่าแบบนั้นคุณหญิง มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ”
“คุณพี่โทรบอกลูกสิคะ” หันไปบอกสามีตัวเอง แต่อิสระส่ายหน้าไปมา
“ให้ลูกจัดการและเคลียร์เรื่องนี้เองดีกว่า โตๆ กันแล้ว”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่คุณหญิง เรื่องความรักผู้ใหญ่อย่างเราไม่ควรยุ่งดีกว่า เพราะเราจัดการคลุมถุงชนพวกเขาไปรอบหนึ่งแล้วนะ แล้วนี่จะ
เข้าไปอีก ถ้าหนูดรีมผิดปกติไป ไอ้พวกลูกชายตัวดีมันคงรู้เองแหละ”
“ก็ได้ค่ะคุณพี่” คุณหญิงเอ่ยอย่างจำยอม
เขาไม่อยากจะเสียลูกสะใภ้อย่างปลายฝันไป ถึงแม้ว่าถ้าไม่แต่งงานกัน ก็ยังได้เป็นลูกบุญธรรม แต่มันไม่เหมือนกัน
“น้องสงสารหนูดรีมจังเลย”
“ผมก็ไม่ต่างจากคุณหญิงหรอก”
“น้องไม่เคยเห็นหนูดรีมร้องไห้เลยนะคะ แต่นี่ร้องหนักมาก สงสัยเรื่องมันคงหนักเอาการ”
“หลังจากนี้ก็แล้วแต่โชคชะตากับความรักแล้วล่ะคุณหญิง ถ้าเกิดคู่กันแล้ว มันไม่แคล้วกันหรอก”
“น้องก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ”
พวกเขาสองคนมองหน้ากันอย่างเครียดๆ แต่ก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเรื่องของลูกๆ เสียเท่าไหร่ ยังไงก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการ
กันเองก็แล้วกัน
อย่าให้สายเกินไปนะ ไอ้ลูกชาย...

ก่อนอื่นต้องขอโทษจริงๆ นะคะที่มันอาจจะดูเหมือนรวบรัดไปหน่อย แต่เรื่องราวหลังจากที่น้องดรีมโดนยิงมันก็ไม่มีอะไรมากน่ะค่ะ พี่ดิน พี่เพลิงก็ดูแลน้องดรีมตามปกติ ออกจะเป็นแนวหวานๆ จนกระทั่งจนวันนี้ วันที่น้องดรีมหวนคิดถึงเหตุการณ์และสัญญาวันแรกที่เจอกัน ^_^
อีกสองตอนจะจบแล้วนะคะสำหรับน้องดรีม ตอนนี้ยูกิเปิดเรื่องพัฒน์ธีร์ให้เข้าไปเจิมกันแล้วนะคะ เรื่องราวไม่ค่อยใสเท่าไหร่นะจ้ะสำหรับพัฒน์ธีร์ ตามลิ้งค์นี้เลยจ้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45475.0