เอาชีวิต
บทที่ 5
“เสือดำ สูกำลังทำอะไร”
หนึ่งในคนตัวผู้ที่ยืนล้อมข้ากับม้าขาวตะคอกใส่ข้าพร้อมกับยื่นหอกของมันจ่ออยู่ใกล้ม้าขาว พวกมันทั้งหมด
คือคนในเผ่าที่ข้ายังไม่อยากเจอะเจอในตอนนี้ แต่ข้าก็หนีมันไม่พ้น ข้าดึงแขนของม้าขาวให้ก้าวกลับมายืนอยู่ใกล้ข้าด้วย
ความเป็นห่วงในความปลอดภัยของมัน
“ปล่อยข้าไป ลิงลม”
ข้ายื่นมีดเหล็กเล่มเล็กอาวุธเพียงชิ้นเดียวที่มีไปตรงหน้าพลางจ้องตาของมันไม่ยอมหลบ ลิงลมเหลือบตาม
องม้าขาวแล้วมันก็ถึงกับแลบลิ้นเลียไปรอบปากด้วยความกระหาย
“สูได้เชลยชิ้นงามไปแล้วคิดจะพามันหนีงั้นรึ สูจะหวงไว้เพื่อเหตุใด ใยไม่แบ่งให้พวกเราได้พามันไปเยี่ยม
พระอัคนีก่อนจะปาดคอมันเล่า”
เสียงหัวร่อน่ารังเกียจดังขึ้นรอบตัวจากคนตัวผู้ที่ยืนล้อมอยู่ ดวงตาของพวกมันล้วมีแต่ความใคร่เมื่อยามมอง
ม้าขาวที่ใบหน้าเผือดสีลงเรื่อยๆ
“ไม่ได้!”
ข้าส่งเสียงขู่คำรามพลางค้อมตัวตั้งหลัก สายตาจ้องมองพวกมันไม่ละลดแม้ว่าพวกมันจะร่วมอยู่ในเผ่า
เดียวกัน แต่หากตอนนี้ชีวิตของข้ามีม้าขาวที่ต้องรักษามันไว้
“ข้าจะมิให้มันตัวใดแตะต้องคนของข้าแม้แต่ปลายนิ้ว”
พวกมันทั้งหลายกู่ร้องส่งเสียงขู่ข้า ข้าหันไปสบตากับม้าขาวและโดยไม่ต้องพูดอันใดข้ากับม้าขาวก็เป็นฝ่าย
กระโจนเข้าใส่พวกคนตัวผู้ ข้าต่อสู้กับมันโดยไม่นึกหวาดหวั่น จะเป็นห่วงก็แต่ม้าขาวที่ต่อสู้จนสุดแรงเกิด
“อ้ากกก”
“ม้าขาว!”
ลิงลมฟาดด้ามหอกลงกับแผ่นหลังของม้าขาวจนมันหน้าคว่ำลงไปกับพื้น จากนั้นก็ใช้คมหอกจ่อลงไปที่
คอหอยเพื่อหยุดม้าขาวให้หมดทางต่อสู้ ข้าเบิกตามองอย่างตกใจจนกระทั่งสูญเสียความระวังตัวและในที่สุดพวกมันก็รุม
ข้าจนกระทั่งพวกมันใช้เถาวัลย์มัดร่างของข้าไว้ได้ในที่สุด
ข้าถูกผลักให้ล้มลงกลางลานดินของเผ่าต่อหน้าสิงโตเฒ่าผู้เป็นหัวหน้าเผ่า มันเป็นคนตัวผู้ใบหน้าน่าเกรงขาม
เนื้อตัวมีแต่รอยแผลเก่าจากการต่อสู้เป็นการประกาศศักดาถึงความแข็งแกร่ง สิงโตเฒ่าจ้องมองมายังข้าด้วยสายตาที่
เต็มไปด้วยคำถาม
“สูหายไปไหนมาเสือดำ”
ยังไม่ทันตอบคำถามลิงลมก็ชิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“มันหนีไปพร้อมกับเชลย”
ข้าเงยหน้ามองลิงลมอย่างชิงชัง
“ข้าเป็นผู้จับมันได้ ข้าย่อมได้รับการเป็นเจ้าของมัน”
สิงโตเฒ่าเพ่งมองข้าด้วยความกังขา
“ก็แค่เชลย หากสูอยากได้มันไปครอบครองก็แค่บอกข้า เหตุใดต้องพามันหนีด้วยเล่า”
“เพราะเชลยที่มันต้องการเป็นคนตัวผู้ที่งดงามที่สุดในเผ่าที่เราไปบุกมาเช่นไรเล่า”
“ไอ้ลิงลม!”
ข้าจ้องมองมันอย่างเคืองแค้นแม้ว่ามันจะเป็นสหายผู้หนึ่ง มันยิ้มเยาะพลางเดินไปดึงม้าขาวที่ถูกจับมัดให้ก้าว
เข้ามากลางลานดิน มันผลักให้ม้าขาวล้มลงเคียงข้างข้า ผู้คนในเผ่าที่ยืนล้อมมองเหตุการณ์ต่างพากันมองม้าขาวเป็นตา
เดียว
เรือนร่างสมส่วนไม่ดำไม่ขาวจนเกินไปแต่งแต้มด้วยลายงดงามจากยางไม้สีสดแปลกตาทำให้ม้าขาวเป็น
เชลยที่งดงามที่สุด คนตัวเมียพากันหัวร่อคิกคักชะม้ายสายตามองในขณะที่คนตัวผู้ก็มองม้าขาวด้วยความหื่นกระหาย นั่น
เป็นสิ่งที่ข้าไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ม้าขาวเหลียวมองรอบตัวอย่างตื่นตกใจจนข้าแสนสงสาร ข้าหันไปมองสิงโตเฒ่าด้วย
สายตาเว้าวอน
“ได้โปรดเถิดท่านพ่อเฒ่า ข้าต้องการใช้ชีวิตเคียงคู่กับมันผู้นี้ ท่านผู้เฒ่าได้โปรดเห็นใจข้าด้วย”
สิงโตเฒ่าย่างเท้าก้าวเข้าไปหาพลางใช้มือบีบคางม้าขาวให้เงยหน้าขึ้น ม้าขาวมองโต้ตอบอย่างกล้าหาญ
แม้ว่ามันกำลังสั่นด้วยความหวาดกลัว รอยยิ้มแสยะเกิดขึ้นบนปากซีดแตกระแหงของสิงโตเฒ่าพร้อมกับสายตาโลมเลีย
ม้าขาวไปเสียทั้งตัว
“งดงามปานนี้ไงเล่า เจ้าเสือดำจึงอยากครอบครองเช่นนี้”
“พ่อเฒ่าข้าของร้อง”
ข้าอ้อนวอนอย่างไม่เคยทำมาก่อนแต่สิงโตเฒ่ากลับไม่ปรานีแม้แต่นิดเมื่อมันยืดตัวขึ้นประกาศก้องกลางลาน
ดิน
“คนตัวผู้อันงดงามผู้นี้จะได้รับพรอันสูงสุดจากเทพอัคนี มันจะได้เป็นกายบูชายัญแด่องค์เทพในอีกสองดวง
อาทิตย์ขึ้น คนตัวผู้ทุกตัวในเผ่าของเราจะได้สมสู่กับมันถ้วนหน้าและหลังจากนั้นเสือดำจะได้รับพรให้เป็นผู้สมสู่เป็นคน
สุดท้ายก่อนปาดคอมันเพื่อบูชาเทพอัคนี”
“ไม่!”
ข้าตะโกนก้อง ม้าขาวหน้าซีดเผือดเมื่อมันหันมามองข้าอย่างรวดร้าว ข้าขยับกายเข้าหาแต่กับถูกไม้เท้าของ
สิงโตเฒ่าฟาดใส่ใบหน้าจนหงายหลัง
“ระหว่างนี้แยกมันสองตัวออกจากกัน อย่าให้เสือดำเข้าใกล้กายบูชายัญได้”
“เสือดำ!”
“ม้าขาว!”
ข้ายื้อยึดสุดแรงเกิดเมื่อม้าขาวถูกลากให้ไกลออกไปเรื่อยๆ ความเจ็บช้ำมาเยือนจนกล้าผยองใส่สิงโตเฒ่า
“ข้าเคยนึกว่าสูเป็นผู้นำที่ดีจนเพลานี้จึงได้รู้ว่าข้าคิดผิด”
“ข้าทำอะไรผิดหรือเสือดำข้าทำทุกอย่างเพื่อเผ่าของเรา สูต้องยอมเสียสละบ้าง ข้ารู้ว่าสูหวงแหนมันผู้นั้นแต่
เพื่อเทพอัคนีที่ดูแลพวกเราสูก็ต้องยอม”
“ทั้งที่มันผู้นั้นคือคนที่ข้าต้องการใช้ชีวิตกับมันงั้นหรือ”
“ใช่แล้วเสือดำ ข้าขอเตือนสูอย่าได้คิดจะลองดีกับข้า”
มันเค้นเสียงจากปากซีดของมัน ดวงตาโปนถลนอย่างน่าหวาดกลัวก่อนจะหันกลับย่างเท้าเข้าไปในกระโจม
ใบไม้ เสียงหัวร่อเย้ยหยันจากคนตัวผู้รอบลานดินดังสะเทือนจนหน้าอกข้ากระเพื่อมจากความชิงชังพวกมัน
พวกมันมิได้พันธนาการข้าแต่ข้าก็ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ม้าขาวที่ถูกจับขังไว้ในกรงไม้ คนตัวผู้ในเผ่าผลัดกัน
เฝ้าม้าขาวไว้จนกระทั่งถึงวันครีษมายันในที่สุด
ดวงตะวันใกล้จะตรงหัว กองไฟถูกจุดจนเปลวไฟแดงฉานปล่อยควันให้ลอยละล่องไปบนฟากฟ้า ม้าขาวถูก
จับให้นั่งอยู่บนเสลี่ยงแบกหามมันไปยังเนินดินสูงที่มีแท่นหินใหญ่หน้าตัดเรียบตั้งอยู่ ใบหน้าของม้าขาวเต็มไปด้วยความ
หวาดหวั่นเมื่อร่างเปลือยเปล่าที่ข้าเฝ้าคิดถึงถูกจับจากเสลี่ยงให้ไปนอนอยู่กลางแท่นหิน
พ่อหมอของเผ่าส่งเสียงกู่ร้องโหยหวนขนลุกพลางเต้นไปรอบกองไฟและแท่นหิน คนในเผ่าพากันส่งเสียง
ตามด้วยความคะนองฮืกเหิม ข้ายืนอยู่แถวหลังสุดเพ่งมองสิ่งเหล่านั้นอยากเกลียดชัง
สิงโตเฒ่าหัวหน้าเผ่าก้าวเดินขึ้นเนินมาเป็นคนแรก มันชูแขนสองข้างขึ้นฟ้าพลางกู่ตะโกนลั่นป่าก่อนจะหัน
กลับไปมองม้าขาวด้วยดวงตาหื่นกระหาย เสียงร้องตะโกนดังพร้อมตอบรับจากคนในเผ่า ทุกคนต้องการสมสู่กับม้าขาว
แม้แต่คนตัวเมีย ม้าขาวขยับชันกายถอยหลังกรูดอยู่บนแท่นหินอย่างไร้ทางต่อสู้ ข้ากลั้นหายใจเมื่อเห็นสิงโตเฒ่าก้าวขึ้น
ไปคร่อมกายลงกับม้าขาว
“แด่เทพอัคนี”
สิงโตเฒ่าประกาศ มันจับขาของม้าขาวแยกออกจากกัน
พรึ่บ!
“อ๊ากกกก”
เสียงดังอื้ออึงพร้อมความโกลาหลเมื่อลูกดอกพุ่งแหวกอากาศเข้าไปปักที่หัวไหล่ของสิงโตเฒ่า มันร้องลั่น
อย่างเจ็บปวดกับพิษจากยางไม้ที่ข้าเคลือบไว้ที่ปลายลูกดอก ม้าขาวยกเท้าถีบมันจนร่วงไปจากแท่นหินส่วนข้ารีบคว้า
ท่อนเหล็กคมกริบที่ลอบไปตีมันขึ้นมาในถ้ำในช่วงสองวันที่ผ่านมาโดยที่ไม่มีใครสนใจ
ข้าบุกทะลวงเข้าไปใกล้แท่นหินพลางพุ่งหอกคมอีกอันหนึ่งให้ม้าขาวคว้าไว้และร่วมต่อสู้กับข้า มีดเหล็กอัน
ใหญ่ในมือล้มชีวิตคนตัวผู้ในเผ่าได้หลายคนจนกระทั่งข้าเข้าไกล้ม้าขาวและพยักหน้าให้มันออกวิ่งติดตามข้าที่ใช้มีด
เหล็กฟาดฟันเปิดทางนำข้าและม้าขาวหนีไปจากที่นี่
“ตามมันไป”
เสียงสิงโตเฒ่าบาดเจ็บลุกขึ้นมาออกคำสั่ง พวกมันที่เหลือวิ่งตามข้ากับม้าขาวมาจนกระทั่งเราต้องหยุดเท้า
ลงเมื่อเบื้องหน้าเป็นหน้าผาสูงชันและมีน้ำตกสาดน้ำซัดเสียงดังสนั่น ข้าหันกลับไปยกมีดเหล็กขู่พวกมันไว้
“สูทำผิดกฎของเผ่า ทำลายพิธีบูชายัญเพื่อเชลยเพียงคนเดียว ข้าผิดหวังเหลือเกินเสือดำทั้งที่สูเป็นคนตัวผู้
ที่ฝีมือดีที่สุดและเป็นความหวังที่ข้าตั้งไว้เพื่อสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่า”
“ข้าไม่อาจยินยอมให้ม้าขาวกลายเป็นกายบูชายัญ มันคือคนของข้า”
“เปลี่ยนใจยังทันเสือดำ”
สิงโตเฒ่าเกลี้ยกล่อม
“หากสูยังดึงดัน ข้าจะขับสูออกจากเผ่าแล้วกำจัดสูให้สิ้นลม”
ข้าหันไปกระชับมือกับม้าขาวและสบตากับมัน
ไม่มีมันก็ไม่มีข้า เราต่างมองตาและหัวใจ
และยังไม่มีใครทันคาดคิด ข้ากับม้าขาวก็หันหลังกระโจนแหวกอากาศร่วงลงสู่น้ำตกที่สาดซัดลงไปยังเบื้อง
ล่างโดยไม่หวาดกลัวความตาย
ร่างของข้าซบอยู่กับผืนดินที่ยังมีลำน้ำซัดเข้าหาเป็นระยะ ข้าเงยหน้าสูดลมหายใจและสำลักเมื่อน้ำในร่าง
ทะลักออกมาจากปาก ใช้มือยันกายขึ้นพลางมองหาจนกระทั่งเจอม้าขาวนอนแผ่อยู่ไม่ไกลจากข้านัก
“จับยึดมือข้าไว้ม้าขาว”
ตะโกนบอกมันก่อนกระโดดลงมาจากภูผาสูงร่วงหล่นลงน้ำดังตูม สายน้ำลึกหมุนวนและไหลเชี่ยวพัดพาเรา
ไกลออกมาโดยที่มือของเรายังจับกันไว้มั่น ข้าลอยตัวปล่อยให้สายน้ำเชี่ยวพัดพาเราทั้งสองมาจนกระทั่งมันพาเรามา
นอนเกยอยู่บนฝั่ง
ข้าคลานสี่ตีนเข้าไปหายกมือตบหน้าม้าขาวเบาๆ ไม่นานนักมันก็ลืมตาขึ้นมา เปลือกตาของมันปิดและเปิด
อีกไม่กี่ครั้งมันก็หันมาสบตากับข้า ม้าขาวผลักตัวเองขึ้นนั่งก่อนที่เราจะโผเข้ากอดและดูดปากกัน
“ขอบใจเหลือเกินเสือดำที่ช่วยข้า”
มันเอ่ยเมื่อเราผละปากออกจากกันแล้ว ข้ายกมือลูบหน้ามันเบาๆ
“ข้าทนไม่ได้หากสูจะต้องถูกคนอื่นย่ำยี”
“แม้ว่าสูจะถูกขับออกจากเผ่างั้นรึ สูเสียสละเหลือเกิน”
มันมองข้าด้วยสายตาหวานราวกับน้ำผึ้ง ข้าดึงมันเข้ามากอด
“ไม่อยากให้ข้าอยู่ในเผ่าข้าก็ไม่อยู่ ข้าอยู่ที่ใดก็ได้ที่มีสูอยู่”
“เสือดำ”
“อยู่เคียงข้าตลอดไปได้ไหมม้าขาว”
ข้ากระซิบกับหูและม้าขาวให้คำตอบด้วยการดึงหน้าข้าไปดูดปาก ข้าผลักมันให้กลับล้มไปนอนอยู่บนดินชื้นที่
ยังมีสายน้ำพัดเข้าหา ไล่ลิ้นไปตามลายยางไม้สวยสดจนถึงแอ่งสะดือ ม้าขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อข้าจับคว้าท่อนเนื้อของมัน
เข้าไปในปาก
“ดูดเบาๆเถิดเสือดำ ข้าจะขาดใจเสียก่อน”
ม้าขาวต่อว่าเสียงกระเส่า มันยกขาตั้งชันเปิดทางให้ข้าได้ดันกายเข้าหา ม้าขาวขยับเอวรับเมื่อข้าสอดดัน
เข้าไปทีละน้อยข้ากอดมันไว้ด้วยความคิดถึง ม้าขาวสอดมือลึกเข้ามาในเส้นผมของข้าและขยุ้มไว้เมื่อเข้าเด้าเอวเข้าใส่
กลีบปากแสนนุ่มของมันห่อเล็กและครางออกมาอย่างน่าดู
“เสียวเหลือเกิน ร่องลึกของเจ้าช่างรับข้าได้ทุกสัดส่วน”
ข้าเงยหน้ากัดฟันเมื่อความคับแน่นกำลังจู่โจมจนหน้าท้องเกร็งไปทุกส่วน ข้าชันขาลุกขึ้นยืนพลางสอดมือไป
ที่ใต้เข่าของม้าขาวยกมันจนลอยสูงเหลือเพียงสะบักที่ยังติดพื้น ความต้องการทะยานจนต้องเร่งเอวไม่หยุดยั้ง ม้าขาวส่ง
เสียงดังลั่นมันคว้าแก่นกายตัวเองรูดรั้งจนกระทั่งพากันหน้ามืดเมื่อเราล่วงล้ำไปถึงสวรรค์บนดิน
มีต่ออีกนิด...