เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว  (อ่าน 537103 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ฉันไม่เชื่อนายหรอกนะโปเต้
ที่คิดจะแค่นอนกอนติณน่ะ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น่ารักเกินไปละคู่นี้  :o8:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
น่ารักเกินไปแล้วคู่นี้ ยิ่งนับวันยิ่งน่ารักอ่ะ แล้วยังงี้จะปิดพวกพี่ๆ ได้นานแค่ไหนกันเชียว

ยังไงก็เอาใจช่วยให้ปิดเรื่องไปได้จนพี่ตาลคลอดหลานๆ นะจ๊ะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อ๊ายยยยยยยยยยยยย หวานเกินไปแล้วววววว :-[

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ถึงทีโปเต้เมื่อไหร่ ติณณ์โดนจัดหนักอย่างแน่นอน หึหึ

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เราก็คิดเหมือนติณนะ 555555+

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
คนเจียนน่ารักมาอัพบ่อยๆ นิยานก็น่ารักอ่านไปก็เขินไปปปป

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เค้าหยอกกันแกล้งกันน่ารักมากค่า

ออฟไลน์ nnutchachar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เพิ่งตามอ่านจนจบค่ะ น่าร๊ากกกกกกกกกก
ไม่รู้จะบรรยายอะไรดี ปกติไม่ค่อยชอบเมะหน้าหวาน เคะหน้าหล่อนะ
แต่นิสัยของทั้งคู่โอเคเลย ลงตัวมากแงง มุ้งมิ้งๆๆ
หวังว่าจะยังไม่มีดราม่านะ ยังไม่พร้อม ยังอยากให้งุ้งงิ้งกันต่อไป ///-

ตอนล่านี่โปเต้ขี้อ้อนจัง น่ารักมาก หมดมาดจากตอนแรกๆเลย ติณก็เคะขึ้นเรื่อยๆ โง้ยจะบ้า
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขจัง อยากจะเป็นเพื่อน หรือแอดมินเพจก็ยังดี...
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านกันนะคะ จะติดตามค่ะ
 :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 26













“วันนี้ร้อนจังวะ” ผมเปรยๆขึ้นเบาๆ ในระหว่างที่กำลังพาอันปันออกมาวิ่งเล่น ที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน ซึ่งถ้าเดินไปมันก็ไกลนิดหน่อย ถ้าขับรถไปก็แป๊บเดียวถึง ตอนนี้ทุกคนในบ้านต้องสลับพากับพาอันปันออกไปวิ่ง เนื่องจากครั้งแรกที่เจ้าหมาน้อยตัวนี้ ได้ออกไปวิ่งเล่นโดยที่พี่ปาร์เป็นคนพาไป แล้วเกิดอาการติดใจซะอย่างนั้น ถ้าไม่มีใครพามาก็จะเห่าไม่หยุดแล้ววิ่งซ่านไปทั่วบ้าน หรือบางวันที่คนในบ้านกลับดึก จนเลยเวลาที่จะพาอันปันออกมาเดินเล่น เจ้าตัวหมาน้อยอันปันก็จะงอนจนไม่ยอมกินข้าวเลยทีเดียว




แล้ววันนี้ก็เป็นเวรผมที่ต้องพาเจ้าอันปันออกมา โปเต้ก็มาด้วยนะ กำลังวิ่งแข่งกับอันปันอยู่ ตอนแรกเป็นผมที่เป็นคนวิ่งกับอันปัน วิ่งเพื่อออกกำลังกายครับ หลังจากที่เมื่อประมาณเดือนก่อน ผมตัดสินใจชั่งน้ำหนัก จากที่ตอนก่อนจะคบกับโปเต้ ผมสูงร้อยเจ็ดสิบเจ็ดเซนต์ น้ำหนักผมอยู่ที่ประมาณหกสิบห้ากิโลกรัม ตอนนี้มันขึ้นมาเป็นเจ็ดสิบสามครับ เจ๊กสิบสามเลยนะ!!!




ผมอ้วนขึ้นตั้งแปดโล ..แปดกินโลเชียวนะ!




บอกเลยว่ารับไม่ได้อย่างแรง




หลังๆมานี่ถ้าเป็นไปได้ผมขออาสาพาอันปันมาวิ่งเล่นเองเลยครับ จะได้ออกกำลังเพื่อลดน้ำหนักให้ตัวเองด้วย แต่ตอนนี้พักเหนื่อยก่อน ตอนแรกเจ้าอันปันมันก็ไม่ยอม เห่าอยู่นั่นแหละ โปเต้ก็เลยต้องไปเล่นกับมันแทนผม




แต่วันนี้อากาศมันร้อนจริงๆนะเนี่ย ยังดีที่แดดไม่ค่อยมีแล้ว




“แฮ่ก..เหนื่อย” เสียงโปเต้ที่วิ่งกลับมาหาผม ก่อนจะล้มตัวลงนอนที่ตักของผมหน้าตาเฉย โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง (ซึ่งปกติโปเต้ก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว)




“ดื่มน้ำมั้ย?” ผมถามพลางชูขวดน้ำที่ผมถือตืดมือจากบ้านมา




“เดี๋ยวก่อน..” โปเต้บอกก่อนจะหลับตาลง ลมเย็นๆเริ่มพัดผ่าน มันทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น อันปันที่คงเหนื่อยไม่ต่างกัน วิ่งกลับมาแล้วล้มตัวนอนซบแขนของโปเต้ที่นอนกางแขนกางขาอย่างหมดสภาพ แต่ออร่าความดูดียังคงแผ่กระจายไม่มีหาย




“.....” ผมนั่งมองวิวรอบๆไปเรื่อยๆ คนในหมู่บ้านก็มาเดินเล่นบ้าง ส่วนมากก็มาเป็นครอบครัว หรือไม่ก็พาหมามาวิ่งอย่างพวกผมก็มีนะ




“.....”




“.....” มองวิวจนพอใจก็ก้มหน้าลงมองคนที่นอนหนุนตักตัวเอง ก็พบว่าโปเต้ลืมตามองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว




“อะไร” ผมเอ่ยถาม เพราะเขามองผมด้วยสายตาแปลกๆ




“เปล่า ...ไอ้อ้วน” ว่าจบก็ยิ้มมุมปาก ตลอดอ่ะ...เดี๋ยวนี้ชอบแซวด้วยคำนี้ตลอด




“ปากแบบนี้ อย่ามีมันเลยดีกว่ามั้ย??” ผมถามอย่างยิ้มๆ แต่มือนี่บีบปากโปเต้ไปด้วยจนเจ้าตัวถึงกับร้องโอดโอย สมน้ำหน้า




“โอ๊ย! ..เอ็บๆ (เจ็บๆ)” โปเต้ร้องบอก ผมเลยยอมปล่อยมือออก




“สมน้ำหน้า!”




“ติณณ์ไม่อ้วนหรอก ไม่ต้องลดน้ำหนักนะ...ตัวนิ่มๆแบบนี้ดีจะตาย เมื่อก่อนมันผอมไปรู้ตัวมั้ย” โปเต้ว่าก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาหยิกแก้มผมเบาๆ




“แต่ตอนนี้มันอ้วนไป หน้าผมบานจะตาย” ผมพูดไปอย่างที่คิด เพราะแก้มผมมันยุ้ยๆขึ้นจริงๆ




“กังวลเกินไปแล้ว ป่ะ...กลับบ้านกัน” โปเต้ว่าก่อนจะลุกขึ้น และจงใจแกล้งเจ้าอันปันที่นอนเอาหัวหนุนแขนโปเต้อย่างน่าเอ็นดู จนมันสะดุ้งตื่น แต่กลับไม่ยอมลุกขึ้น ก่อนมันล้มตัวลงนอนต่อ เป็นแบบนี้ทุกที เพราะวิ่งเล่นจนพอใจจนมันเหนื่อย ก็จะเอาแต่นอนอย่างเดียว ช่วงเป็นหมายที่เอาแต่ใจจริงๆ




และสุดท้ายพวกเราก็กลับบ้านกัน โดยโปเต้เป็นคนอุ้มเจ้าอันปันกลับบ้าน แต่ผมเห็นนะ ว่ามันแอบลืมตาขึ้นมองหน้าโปเต้แล้วทำท่าจะหลับต่อ เนียนจริงๆ ...เนียนเหมือนคนที่กำลังอุ้มมันอยู่เลย














“ไง พี่ติณณ์ ไม่ได้เจอกันนานเลย” น้องแป้งเดินเข้ามาก่อนจะทักผม วันนี้น้องแป้งบอกจะเอาอัลบั้มรูปของโปเต้ที่ถ่ายวันนั้นทักหมดมากให้ เลยให้ผมกับโปเต้อยู่รอก่อน




“ไง” ผมเอ่ยทักน้องเขาบ้างก่อนจะยิ้มให้นิดๆ




“อ้วนขึ้นป่ะหนิ”




“.....” หุบยิ้มเลยผม ทำไมต้องทักเรื่องนี้ว่ะ




“อย่าทักเรื่องนี้สิ” โปเต้เอ่ยบอกแทนผม




“อุ่ย ...แหะๆ หนูไม่รู้อ่ะ แต่พี่ติณณ์...หนูว่าแบบนี้ดีกว่าเมื่อก่อนอีกนะ” น้องแป้งพูดก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้ผม




“ไหนอัลบั้มรูป” ผมถาม ...ความจริงก็คือเปลี่ยนเรื่องนั่นแหละ




“นี่ค่ะ หนูล้างมาให้หมดแล้ว แต่เดี๋ยวหนูต้องไปก่อนนะ แฟนหนูรอนานล่ะ...ไปนะคะ สวัสดีค่ะ” น้องแป้งบอกก่อนจะยกมือไหว้ผมกับโปเต้ แล้วรีบเดินไปขึ้นรถที่ตัวเองพึ่งจะลงมาไม่ถึงห้านาที




“เรากลับกันเลยมั้ย” โปเต้หันมาถามผม




“รีบเหรอ” ผมถามกลับ ก็มันพึ่งจะเลิกเรียนเองนี่นา เขาจะรีบไปไหนของเขาน่ะ




“ผมหิว จะไม่ไหวแล้ว” พูดอย่างเดียวไม่พอ เอาหน้ามาคลอเคลียที่แขนผมด้วย




“อืมๆๆๆ ไปก็ไป” สุดท้ายผมก็ตามใจเขา เราออกจากมหาลัยแล้วตรงดิ่งกลับบ้านเลยครับ คือไม่อยากทิ้งพี่ตาลไว้คนเดียวด้วย ท้องใหญ่ๆแบบนั้นจะเดินไปไหนมันก็ไม่ค่อยสะดวก เป็นไปได้ผม โปเต แล้วก็พี่ปาร์ก็พยายามที่จะกลับบ้านให้เร็วที่สุด แม้ว่าตอนนี้จะมีคุณแม่ของโปเต้และพี่ปาร์มาอยู่เป็นเพื่อนในตอนที่คนอื่นๆในบ้านไม่อยู่ก็ตาม แต่ท่านก็เป็นผู้หญิงอ่ะนะ อย่างน้อยคือก็น่าจะมีพวกผมสักคนอยู่ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้ช่วยกันทัน



บอกเลยว่าตอนที่เจอคุณแม่ของโปเต้ครั้งแรก (ที่ท่านมาหาที่บ้าน) โคตรตื่นเต้นอ่ะ ผมรู้ว่าคุณแม่ของโปเต้จะมา ก็ตอนที่ท่านมาถึงบ้านแล้ว ท่านบอกว่าจะมาช่วยดูแลพี่ตาลให้ ส่วนเรื่องงานก็ประสานงานกับเลขาฯทางโทรศัพท์เอา ถ้ามีเอกสารที่ต้องเซ็นต์ ท่านก็จะให้เลขาฯ ของท่านเอามาให้เซ็นต์ที่บ้าน คุณแม่ของโปเต้เป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กมาก สูงประมาณอกของโปเต้เอง และยังดูสาวและแต่งตัวได้เปรี้ยวมาก และก็รู้มาว่าท่านมีลูกไว เพราะผมก็เคยคุยกับท่านมาบ้างตอนงานแต่งของพี่ตาลกับพี่ปาร์




แต่...เวลาที่โปเต้อยู่ข้างๆคุณแม่ ผมนี่แทบตาลาย โปเต้หน้าเหมือนคุณแม่แบบ ...พิมพ์เดียวกันเป๊ะๆ




“กลับกันมาแล้วเหรอ วันนี้แม่ทำชูครีมด้วย มาทานกันสิ” คุณแม่เรียกพวกเราเมื่อเห็นพวกเราเดินเข้ามาในบ้าน




“.....” โปเต้ที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดนี่เปลี่ยนทิศทางแทบไม่ทัน




“ไหนครับคุณแม่ เยอะมั้ยอ่ะ” โปเต้ถามคุณแม่ของเขา (บอกไว้ก่อนว่าที่ผมเรียกท่านว่าเป็นคุณแม่เป็นเพราะท่านขอเอาไว้ ตั้งแต่ที่เจอผมแรกๆนู้นน่ะ)




“เยอะสิ แม่รู้ไงว่าโปเต้ชอบของหวานจะตาย ติณณ์ก็มาทานด้วยกันสิจ้ะ” คุณแม่เอ่ยชวนครับ ผมก็เดินไปหาและหยิบมาทานชิ้นนึงตามมารยาท




“ไอ้อ้วน” โปเต้หันมาพูดใส่ผมหลังจากที่ผมหยิบชูครีมของคุณแม่ขึ้นมา ผมหยิบตามมารยาทหรอก ไม่อยากให้คุณแม่เสียน้ำใจ




“.....” ผมถลึงตาใส่เขา




“เดี๋ยวเถอะโปเต้ ไปว่าติณณ์เขาแบบนั้นได้ยังไง ไม่น่ารักเลยนะคะ” คุณแม่ว่าก่อนจะตีไปที่แขนของโปเต้ไม่แรงนัก...รึเปล่าหว่า




“โอ๊ย...คุณแม่ ตีผมทำไม ผมแค่แกล้งแหย่ติณณ์เล่นเฉยๆ” โปเต้ร้องบอกคุณแม่ทันทีที่ถูกตี




“หน้านิ่งๆแบบนี้ ใครจะไปนึกว่าล้อเล่นกันล่ะคะลูก หน้าแบบอื่นมีมั้ย ช่วยทำให้หน้าหวานๆที่แม่อุตส่าห์ให้มันดูร่าเริงกว่านี้ได้มั้ย” คุณแม่ว่าก่อนจะหยิกแก้มของโปเต้ ผมว่าพี่ปาร์นี่ได้นิสัยของคุณแม่มาเต็มๆเลยนะเนี่ย และจากที่ผมก็เคยเจอคุณพ่อของโปเต้ (ที่หน้าเหมือนกันกับพี่ปาร์) ก็พบว่าทั้งบุคลิก ท่าทาง และการแสดงอารมณ์นี่เหมือนโปเต้มากๆ นิ่งๆ แต่ดุดัน และน่าเกรงขามไปในเวลาเดียวกัน จะว่าเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาแบบนั้นก็ไม่ใช่ เพราะผมจำได้ว่า คุณพ่อกับคุณแม่ของทั้งคู่เลิกกันตอนที่ทั้งคู่ยังเด็ก โปเต้ไปอยู่กับคุณแม่ ส่วนพี่ปาร์ก็ไปอยู่กับคุณพ่อ โปเต้หน้าเหมือนคุณแม่ พี่ปาร์หน้าเหมือนคุณพ่อ แต่นิสัยโปเต้กลับเหมือนคุณพ่อ และนิสัยพี่ปาร์กลับเหมือนคุณแม่ มันช่างเป็นความต่างที่ลงตัวในแบบแปลกๆ




“เรื่องร่าเริงยกให้พี่ปาร์เถอะครับ”




“จะทำตัวเหมือนคุณพ่อไปทำไม”




“ผมก็เป็นของผมแบบนี้อยู่แล้ว” โปเต้ตอบคล้ายๆกับไม่สนใจ เพราะมือเขาเอาแต่หยิบชูครีมที่คุณแม่ทำเข้าปากอยู่นั่นแหละ




“แล้วแต่ เอาที่สบายใจเถอะค่ะคุณลูก ...ติณณ์ ไม่ทานอีกเหรอคะ ขนมคุณแม่ไม่อร่อยเหรอ” คุณแม่ว่าอย่างประชดใส่โปเต้ ก่อนจะหันมาถามผม




“อร่อยครับ แต่ผมกลัวจะกินข้าวไม่ไหวน่ะครับ” ผมตอบก่อนจะยิ้มให้คุณแม่นิดนึง ขนมของคุณแม่อร่อยจริงๆนั่นแหละ แต่เดี๋ยวก็จะได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว




“นั่นสินะ ...แต่แม่ว่าขนมของแม่คงจะอร่อยไม่เท่าขนมที่ติณณ์ทำหรอกมั้ง ติณณ์ทำขนมทีไร โปเต้ก็หวงไม่ยอมให้ใครทานด้วยเลย” คุณแม่ว่าอย่างแซวๆโปเต้ ซึ่งมันก็จริงครับ ผมทำขนมทีไร โปเต้จะกลายเป็นเด็กขี้หวงไม่ยอมแบ่งให้ใครเลย จนหลังๆมาผมต้องทำแยกเอาไว้




“ก็ติณณ์เขาบอกว่าจะทำให้ผม ผมก็นึกว่าให้ผมแค่คนเดียวน่ะสิ” โปเต้บอกหน้าตายได้หน้าตบมาก เพราะมันเหมือนเขากำลังแกล้งทำหน้านิ่งๆอย่างใสซื้อ ทั้งที่จริงมันไม่ใช่เลย ดูก็รู้ว่าเขาแกล้งทำ




“ไม่ใช่ว่าโมเม แล้วตัวเองจะฮุบไว้คนเดียวเหรอค่ะ” คุณแม่ว่าอย่างหมั่นไส้




“เรื่องจริง ใช่มั้ยอ้วน?” โปเต้ตอบคุณแม่ ไม่พอ...ยังจะให้ผมไปช่วยยืนยันอีก แต่ไอ้คำที่ใช้เรียกผมนี่สิ จาก ‘ไอ้หน้าหล่อ’ ตอนนี้ก็ลายมาเป็น ‘อ้วน’ ไม่ก็ ‘ไอ้อ้วน’ แล้ว




“ไม่จริง” ผมตอบหน้านิ่ง




“เห็นมั้ย โปเต้น่ะชอบโมเม ...แม่ไปทำข้าวเย็นดีกว่า” ว่าจบ คุณแม่ก็ลุกขึ้น ลูบหัวโปเต้สองสามทีก่อนจะเดินออกไป




“.....”




“.....”




“.....”




“.....” และแล้วความเงียบก็บังเกิดขึ้นกับพวกผมสองคน ไม่มีใครพูดอะไร สายตาผมจับจ้องไปยังโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น โปเต้เองก็เอาแต่สนใจขนม




“อ้วน” แต่แล้วอยู่ๆ โปเต้ก็เอ่ยขึ้น




“.....” ผมไม่หัน เพราะมันไม่ใช่ชื่อผม




“หึๆ ติณณ์” ผมได้ยินเสียงโปเต้หัวเราะในลำคอ ผมจึงหันกลับไปมองเขา




“...อะไร”




“มานั่งนี่สิ” โปเต้เอ่ยบอกก่อนจะตบที่ว่างข้างๆตัวเบาๆ




“.....” แม้จะไม่เข้าใจ แต่ผมก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งข้างๆเขา




“.....”




“.....”




แล้วเราก็เงียบ ไม่มีใครพูดกันอีก ผมก็ดูโทรทัศน์ไป โปเต้ก็ดูโทรทัศน์ไปด้วย กินขนมไปด้วย จนกระทั่งผมรู้สึกว่าโปเต้เริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้ผมนี่แหละ ผมจึงหันไปมองหน้าเขาอย่างสงสัย




“.....” โปเต้ที่มองผมอยู่ก่อนแล้วยิ้มนิดๆ




“อะไร” ผมถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก




“เปล่า แค่อยากนั่งใกล้” โปเต้เอ่ยบอก ซึ่งผมก็พอจะรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ช่วงนี้เรียนหนัก งานก็เยอะ นอนดึกแทบทุกคืน เตียงนี่แทบไม่มีรอยยับ เพราะพวกผมจะนั่งทำงานที่พื้นห้อง และในทุกๆวันก็จะอยู่กับพื้นห้องในแต่ละมุม แล้วแต่วันว่าจะเลือกนั่งตรงไหน และที่ผ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใกล้โปเต้มากนัก เพราะว่ามีคุณแม่เข้าๆออกๆในบ้านนี่บ่อย ไม่อยากอยู่ใกล้ กลัวจะเผลอทำอะไรรุ่มร่าม ที่มหาลัยอย่างมาก็จับมือไม่ก็นอนซบกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้ถี่แบบทุกวันเหมือนเมื่อก่อน




“นั่งตักผมเลยมั้ย” ผมเอ่ยถามอย่างประชด จริงๆก็รู้สึกเหมือนกัน ไม่ต่างจากโปเต้หรอก อยากกอดโปเต้มากๆ




“ได้เหรอ” โปเต้ถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้




“คุณแม่คะ วันนี้ทำอะไรทานเหรอคะ หอมเชียว” แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งและเด้งตัวออกห่างจากกันเมื่อได้ยินเสียงพี่ตาล ก่อนที่พี่ตาลจะเดินผ่านห้องนั่งเล่น แล้วตรงไปยังห้องครัว




เกือบไปแล้ว














“เฮ้ย! ...ตกใจหมด ทำอะไรเนี่ยโปเต้” ผมร้องอย่างตกใจ เพราะเมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ถูกไอ้หน้าหวานนี่รวบตัวเข้าไปกอดเสียแน่น




“ทำอย่างที่เคยทำ” โปเต้ว่าก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มเสียฟอดใหญ่




“มาไม้เนี่ย ปล่อยได้แล้ว ผมจะนอน” ผมว่าเสียงอ่อน




เออ...ยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยก็ได้ ว่าอยากให้กอดต่อ -////-




“ไม่ คิดถึงจะแย่ ไม่ได้กอดมาเป็นอาทิตย์แล้ว” โปเต้ว่าก่อนจะจับผมหมุนตัวให้หันหน้าเข้าหาเขา




“รู้” ผมตอบก่อนจะยิ้มเขิน อาจจะเป็นเพราะห่างหายจากความรู้สึกนี้ไปเป็นสัปดาห์ แล้วพอมาเจอแบบนี้ ไอ้อาการเขินมันก็ยิ่งจะมีแต่ปะทุมากขึ้นเรื่อยๆ




“หึๆ...” โปเต้หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่เราจะเอาแต่จ้องหน้ากันอย่างเงียบๆ ก่อนที่โปเต้จะค่อยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่าพัดหน้าผม ผมค่อยหลับตาลง รอสัมผัสที่ห่างเหินไปเพราะยุ่งๆด้วยกันทั้งคู่




สัมผัสที่นุ่มและอ่อนโยน ที่โปเต้มอบให้ มันทำให้รู้สึกคิดถึง และไม่อยากละไปจากความรู้สึกนี้เลย ริมฝีปากที่แตะกันอย่างแผ่วเบา ราวกลับว่ามาทำความคุ้นเคยกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไป รสจูบที่เริ่มทวีความรุนแรงและเร่าร้อน มันเกือบจะทำให้ผมสติแตกเอาง่ายๆ แข้งขานี่อ่อนแรงไปหมด




“.....” เราผละริมฝีปากออกจากกัน ผมมองหน้าโปเต้ด้วยความรู้สึกที่...มันยังไม่พอ ผมจึงเอื้อมมือไปคว้าต้นคอของโปเต้ลงมา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มเอง และแน่นอนว่าโปเต้ไม่มีปฏิเสธ เขาคว้าเอวของผมไว้ ก่อนจะค่อยๆดันตัวผมให้ผมเดินถอยหลัง โดยที่ริมฝีปากยังแนบชิดติดกันอยู่ จนกระทั่งขาผมสะดุดเข้าที่เตียงจนล้มลงไป




“.....” โปเต้มองผม ด้วยสายตาที่แบบว่า...มันทำให้ผมต้องหลบสายตาเขาด้วยความเขิน




“.....”




“ติณณ์...” โปเต้ตามมาคร่อมตัวผม ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบเรียกชื่อผม ที่ข้างหูของผม




“หืม” ผมร้องขานรับในลำคอ




“คิดถึง...” โปเต้พูดเสียงอ้อน ก่อนจะค่อยๆบรรจงจูบที่คอผมแบบเน้นๆ แต่ไม่ได้ทำรอยเอาไว้ แล้วลากริมฝีปากลงมาเลื่อยๆ จนถึงบริเวณไหปลาร้า




“อ๊ะ! อย่าบีบสิ” ผมร้องเสียงหลงเมื่อมือของโปเต้ไม่อยู่สุก บีบมาที่ก้นผมทั้งสองข้างโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกิดความรู้สึกแปลก และไหนจะไอ้อาการวูบๆวาบๆในท้องนี่อีก




“คิดถึงมาก รู้มั้ย” โปเต้พูดอีก ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงมาจูบผมอีกครั้ง ซึ่งผมก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ




แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ต่างคนต่างก็ต้องหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ แม้ว่าพวกผมจะไม่ได้เป็นพวกคู่รักหวานแหววที่ต้องคอยเอาใจ คอยจู๋จี๋กันตลอดเวลา ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำมันคือการแสดงความรู้สึกที่มีต่อกันมากกว่า และเราไม่อายที่จะทำ แม้ว่าจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็ตาม แต่ว่า...ตอนนี้รู้สึกได้เลย ความตัวผมเองก็โหยหาโปเต้มาก ไม่ต่างอะไรโปเต้ที่เอาแต่พร่ำบอกว่าคิดถึง ทั้งที่อยู่ใกล้กัน ไม่ใช่ว่าจะหื่นกันทั้งคู่หรอกนะ แต่เพราะเราทำแบบนี้ด้วยกันมาตลอด พอมันไม่ได้ทำ มันก็รู้สึกโหยหาเหมือนกัน เอ๊ะ...หรือนี่จะเรียกว่าหื่นว่ะ??




“.....” ผมยกมือขึ้นโอบรอบคอโปเต้ไว้แน่น หลับตาเผื่อรอรับความสัมผัสและความรู้สึกที่กำลังมอบให้กัน




“น้อง...ติณณ์...” เสียงเรียกอย่างอ่อนแรง มันทำให้ผมกับโปเต้รีบผละออกจากกัน เพราะมันไม่ใช่เสียงของโปเต้ และก็ไม่ใช่เสียงของสิ่งลี้ลับอะไรทั้งนั้น




หันไปหาทางต้นเสียง เสียงที่คุ้นเคย เสียงที่ได้ยินมาตลอดแทบทั้งชีวิตตอนนี้




“พี่..ตาล” ผมแทบจะเสียงของตัวเองไม่เจอ เห็นหมดแล้ว พี่ตาลเขาเห็นหมดแล้ว




ผม...ผมจะทำยังไงดี ...ผม...




“อ่ะ...โอ๊ย!!!” อยู่ๆพี่ตาลร้องอย่างเจ็บปวดก่อนเอามือจับที่ท้องใหญ่ของตัวเอง แล้วทรุดตัวนั่งลง พี่ตาลเป็นอะไรน่ะ!




“พี่ตาล! พี่ตาลเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ!!” ผมร้องถาม มันเป็นเพราะผมใช่มั้ย เพราะพี่ตาลเข้ามาเห็นผมกับโปเต้ แล้วอยู่ๆพี่ตาลก็ร้องอย่างปวดท้อง มันเป็นเพราะผมใช่มั้ย เพราะผมรึเปล่า




“น้องติณณ์ พะ...พี่ ปวด...โอ๊ย!” พี่ตาลหน้าซีด ก่อนจะเอื้อมมือมากำเสื้อผมเอาไว้แน่น




“พี่ตาล! โปเต! ...พาพี่ตาล! ไปหาหมอสิ!!!” ผมร้องบอกโปเต้ ตอนนี้มือไม้สั่น หัวสมองตื้อไปหมด




“เกิดอะไรขึ้น ตาล! ตาลเป็นอะไร! ปวดท้องเหรอ!!!” พี่ปาร์ที่เดินขึ้นบันไดมารีบเดินเข้ามาหาพี่ตาล




“ปาร์ ปาร์ ฮึก...ตาลปวดท้อง” พี่ตาลร้องบอกทั้งน้ำตา สีหน้าดูเจ็บปวดแล้วทรมานมาก




“ตาล...จะคลอดเหรอ โปเต้รีบไปสตาร์ทรถ เร็ว!!” พี่ปาร์หันมาสั่งโปเต้ โปเต้จึงลุกขึ้นดึงมือผมให้รีบลงไปข้างล่าง




และสุดท้ายเราก็รีบพาพี่ตาลมาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด




“โปเต้...พี่ตาลจะเป็นอะไรมั้ย” ผมร้องถาม ตอนนี้ผมกับโปเต้ และพี่ปาร์นั่งรออยู่หน้าห้อง




พี่ตาลต้องเห็นว่าผมกับโปเต้กำลังจูบกันแน่ๆ แล้วอยู่ๆก็ปวดท้องกะทันหัน มันเป็นเพราะผมใช่มั้ย พี่ตาลเลยปวดมัน มันส่งผลกระทบใช่มั้ย มันเป็นเพราะผม...เพราะผมใช่มั้ย




“ไม่หรอก ใจเย็นๆ” ติณณ์ดึงผมเข้ามากอด ตอนนี้ผมสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูกเลยสักอย่าง




“พี่ตาลต้องเห็นแน่ๆ ฮึก...แล้วพี่ตาลก็ล้มลงอ่ะโปเต้” ผมสะอื้นไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ที่พี่ตาลปวดท้องมันจะต้องเป็นเพราะผมแน่ๆ เพราะผม...มันเลยส่งผลกระทบให้พี่ตาลปวดท้อง แล้วหลานผมจะเป็นอะไรมั้ย พวกเขาจะเป็นอันตรายรึเปล่า




“ไม่ใช่หรอก ใจเย็นๆ ไม่เอา...ไม่คิดมานะ” โปเต้กอดผมพลางลูบหัวอย่างปลอบๆไปด้วย แต่มันไม่ทำให้ใจของผมสงบลงได้เลย




พี่ตาล...อย่าเป็นอะไรนะ





**************************************************



อารมณ์ของติณณ์ เราก็พอจะเข้าใจอยู่ เคยเป็นเหมือนกัน อารมณ์แบบว่าทำอะไรไม่ถูก กลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรมั้ย จะปลอดภัยรึเปล่าอะนะ วันนี้มาซะดึกเบย (ความจริงก็ดึกตลอด) ไปนอนล่ะ พรุ่งนี้จะไปหาหมอแต่เช้าาาาาาาาาาาา




FANPAGE
Twitter
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โอ่ๆๆ ติณณ์ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องๆ :sad11: :sad11: :sad11:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ติณณ์ไม่ร้องน่ะ  :mew2:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
เราอ่านแล้วเราตกใจไปด้วยเลย

 ตอนอ่านก็กำลังคิดว่าจะมีใครเข้ามาเห็นรึป่าว เพราะช่วงนี้คุณแม่มาบ่อย นึกว่าจะเป็นคุณแม่ แต่เป็นพี่ตาล

พี่ตาลท้องด้วย ตอนปวดท้องงี้ เราใจไม่ดีแทนติณณ์เลย แต่เราว่าพี่ตาลต้องเข้าใจติณณ์ ขอให้พี่ตาลปลอดภันนะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทุกอย่างมันต้องดีสิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
คลอดแล้ววววว. เป็นคุณอากะคุณน้ากันแระ

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เราว่าพี่ตาลต้องเข้าใจติณณ์แหล่ะ

อย่าคิดมากเลยเนอะๆ

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
จงดราม่าาาาาาาาาาว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ไม่มีไรหรอกน่า. อย่าคิดมากเนาะ. อย่างที่โปเต้บอกแหละ
หลานแฝดก็แบบนี้ คลอดก่อนกำหนดง่าย จะได้เห็นหน้าหลานเร็วๆเนาะ
คนเขียนสู้ๆจ้า ดูแลสุขภาพด้วย.  :mew1:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อย่ากังวลไปค่ะอ้วน เดี๋ยวก็ดีเอง
รอตอนต่อไปน้าา

ออฟไลน์ patchamai28

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หวังว่าจะไม่เป็นอะไรนะ :mew2:

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
โอยยย ต้องไม่เป็นไรสิต้องไม่เป็นไร พี่ตาลสู้ๆนะคะ น้องติณณ์ก็สู้ๆน้าา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แฝดมักจะคลอดเร็วอย่างนี้แหล่ะติณ
สงสารติณตอนนี้จัง คงเอาแต่โทษตัวเอง

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ติณณ์ใจเย็นๆ ตาลท้องใกล้คลอดแล้ว มันถึงเวลามันก็คลอดนั่นแหละจ้าอย่าคิดมาก

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
พี่ตาล คลอดแล้วขอให้ปลอดภัย
ติณใจเย็นๆๆนะ อย่าคิดมาก เชื่อว่าพี่ตาลจะเข้าใจน้องๆ สู้ๆๆน๊า

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
เราว่าพี่ตาลคงแค่ตกใจมากกว่า  แต่คงไม่โกรธติณณ์หรอกที่เป็นแบบนี้  ส่วนคุณแม่เราว่าท่านก็ไม่น่าจะห้าม เพราะที่เมืองนอกมันมีให้เห็นอยู่แล้ว

ตอนนี้เป็นห่วงแค่ว่าให้หลานแฝดปลอดภัยก็พอ  ส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยๆ เคลียร์  เราว่าพี่ตาลเข้าใจอยู่แล้ว

ออฟไลน์ ยินดีที่ได้รู้จัก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
คือตลอดเวลาที่อ่านช่วงที่อยู่ในห้องนอนจะคิดตลอดว่า ล็อคห้องยังๆเพราะสังหรณ์ใจว่าต้องมีใครมาเห็น และก็ตึ่งโป๊ะ จริงๆด้วยค่ะ :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด