NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: NN2DarkWing:ปีกทมิฬ_เมื่อฟ้าจรดผืนน้ำ ตอนพิเศษ Rainy Day p5 2-03-59  (อ่าน 64171 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
นึกว่าจะลบรอยกันเลือดสาดแบบพี่รอทปลอบโยตอนอกหัก หึหึ
อ่านไปยิ้มไป เรก็นะ ชอบแกล้งแถมเจ้าเล่ห์อีก เรนบทนี้นายได้ใจไปเต็มๆ แรงได้ใจจริงๆ ตอกซะชะนีหน้าหงายเลย
รอมีนลุกมาแฟนตาซีบ้าง จะมีป่าวหว่าาาา คิคิ
เมื่อไหร่จะมีเลือดสาดใส่ไหลกระซิกๆจนหมดตัวน๊า อยากอ่าน 5555

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
วันนี้คึกเลยลุกขึ้นมาวาด น้องมีนของเราด้วยสีน้ำ เอ่ม จริงๆ มันเป็นสีที่เรากากที่สุดแหละ



ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
หุหุ แกล้งให้มีนหึงหราเนี้ย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เพิ่งได้มาเห็นรูปน้องมีนค่ะ อืม สีน้ำควบคุมยากเนอะแต่หน้านางเนิร์ดได้ใจเลยอ่า
อิอิ
รอตอนต่อไปนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 7 The Sea
[/b]

   ตอนนี้ผมกำลังเดินวนไปวนมาหน้าร้านเหล้าร้านเดิมที่ผมมาร้องเพลงประจำ โดยมีไอ้ท่อนไม้เจ้าเก่ายืนประกอบฉาก ทำไมนะหรอก็น้องมีนผู้นี้กำลังเดี่ยวไมโครโฟนอย่างเป็นสุขระหว่างพักพ่อผมดันโทรมาเซอไพร์ว่าอยู่หน้าหอ จึงบอกไปตามตรงว่าอยู่ร้านเหล้ามาร้องเพลง ท่านเลยออกปากว่าจะมาหาที่ร้าน ไอ้เรื่องมารับจ๊อบไม่น่ากลัวเท่าไอ้เพื่อนๆ ทั้งสี่ห้าตัวที่โต๊ะ ไม่รู้มันจะแฉวีรกรรมอะไรผมบ้าง รถเบนซ์สีดำคุ้นตาชะลอก่อนจะจอดนิ่งตรงหน้า แล้วพ่อผมก็ลงมาก่อนที่คนขับรถจะนำไปจอดให้เป็นที่เป็นทาง

   "บักหำน้อย..." นั่นไงครับ แค่เปิดตัวก็อลังการงานสร้าง ร้องเรียกผมเสียงดังซะคนแถวนั้นต้องหันมอง...และที่สำคัญ ผมไม่เล็กนะครับ

   "ป๋าหวัดดี"

   "คิดถึง มาๆ มาป๋ากอดหน่อย" และแล้วไอ้มีนผู้นี้ก็โดนพ่อจับกอดรัดฟัดเหวี่ยง แถมหอมแก้มซ้ายขวาไปอีกฟอดใหญ่...หมดกัน ภาพลักษณ์ดิบห่าม? ที่ไอ้มีนสร้างมา  ผมละเพลีย

   "พอแล้วป๋า แก้มมีนช้ำหมดแล้วเนี่ย" เบรกก่อน "นี่เร อยู่คณะเดียวกับมีน" ผมหันไปแนะนำ คนข้างตัว มันก็ยกมือไหว้พร้อมยิ้มเล็กน้อย

   "หวัดดีไอ้หนุ่ม แหม...เพื่อนเอ็งนี่หน่วยก้านดีจังเลยนะ แบบนี้ค่อยวางใจหน่อย เวลาเอ็งไปอ้อนตีนใครจะได้มีคนช่วย" พ่อผมยิ้มร่าพร้อมตบบ่าไอ้เรอย่างเอ็นดู

   "ไปข้างในเถอะป๋า พวกเจ๊ดารออยู่"

   "ไปสิไป ไม่ได้เจอไอ้พวกทโมนนั้นนานแล้ว" ว่าแล้วท่านพ่อกระผมก็กอดคอลากเข้าด้านในราวกับรู้จักที่นี่ดี ไปถึงโต๊ะก็ยกมือรับไหว้บรรดาเพื่อนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สร้างบรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์ลุงกำนัน

   "ป๋า สวัสดีค่า นั่งค่ะนั่ง คนนี้ชื่อเรนนะค่ะคนน้อง ส่วนไอ้คนที่เดินมากับป๋าชื่อเรค่ะคนพี่ ส่วนสัมภเวสีที่เหลือป๋าคงรู้จักแล้วเนอะ"  เจ๊ดาทำหน้าที่รับแขกคนสำคัญพร้อมขยับเก้าอี้ให้พ่อผมนั่ง  ก่อนเรียกเด็กเอาเมนูมาให้ "ป๋าทานอะไรมายังค่ะ ที่นี่อาหารอร่อยนะค่ะ ลองสั่งทานได้เลย หนูรับประกัน"  ที่มันดีแบบนี้ไม่ใช่อะไรนะครับ พ่อผมมามื้อนี้มีคนจ่ายชัวร์

   "ยังเลย อิ่มยังละพวกเรา ไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ เหล้าเบียร์อยากกินอะไรก็สั่งนานๆ เจอกันทีป๋าเลี้ยงเอง" นั่นไงครับเดาผิดให้เตะเลย หน้าใหญ่ตลอด สรุปวันนี้ผมคงต้องขอพี่หนิงไม่รับค่าแรงแล้วละ ท่าจะยาว

   "คร้าบบบบ / ค่ะ" หึ เกรงใจนะ รู้จักไหมพวกมึง แล้วสารพัดสิ่งมึนเมาและกับแกล้มก็ถูกสั่งมาวางบนโต๊ะ

   "หนูมีน เป็นไงมั่งที่คณะ มันก่อเรื่องอะไรหรือเปล่า" พ่อเปิดประเด็น เรียกสายตาลุกวาวจากเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะไอ้กรที่ดูคันปากอยากจะแฉเหลือเกิน

   "ก็มีเยอะครับป๋า เกรียนตามประสามันแหละครับ แต่มีเรื่องเด็ดอยู่เรื่อง ป๋าจำพะแพงได้ไหม ผู้หญิงตัวเล็กๆ ขาวๆ ที่ไอ้มีนพาไปกินข้าวกับป๋าตอน ม.หก "

   "อ้อ ว่าที่ลูกสะใภ้นะหรอ"

   "ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วป๋า เพราะเขาทิ้งมันไปแล้ว" ควับ!...ป๋าหันมามองผมทันควัน

"อ่อนจริงลูกป๋า แล้วยังไงต่อ" แง...อย่าซ้ำเติม

   "ประเด็นคือ พะแพงไม่ได้บอกเลิกมันไง แต่ชิ่งไปเลย แฟนใหม่พะแพงเลยคาใจ มากระทืบไอ้มีน" ไอ้เชี่ยกร!!!!! ผมกรีดร้องในใจแทบจะมุดโต๊ะหนีสายตาคาดคั้นจากบุพการี

   "จริงหรือ" เฮือก!!!...เสียงเข้มมาเชียว ผมจึงได้แต่พยักหน้ายอมรับ "มันเป็นใคร บังอาจมาก ป๋าจะไปจัดการมัน"

   "ม่ายยยย ป๋า เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างพวกมันก็โดนไปเยอะแล้ว" ผมรีบเบรก เดี๋ยวเกิดพ่อผมส่งเด็กไปกระทืบมันจะทำยังไง บานปลายไปกันใหญ่ "คือ...ไอ้เรมันช่วยกระทืบส่งพวกมันนอนโรงพยาบาลให้แล้ว จริงไหมเร" ผมสะกิดมันยิกๆ ตอบดิวะ

   "ครับ!" แค่นี้!? ยืนยันให้มันหนักแน่นกว่านี้สิ

   "ใช่ครับคุณพ่อ พี่ผมเป็นคนเข้าไปช่วยมีน แล้วพามีไปหาหมอด้วยครับ" ไอ้เรนช่วยขยายความแทนพี่มัน

   "เฮ้อเอาเถอะ ว่าแต่หนูมีนไม่เฮิทหรอลูก โดนหักอก" พ่อหันมาถามพร้อมลูบหัวผมไปพลาง เง้อ ทำอย่างกับผมเป็นเด็กเล็กๆ ไปได้

   "โอ๊ย! ป๋า จะเอาอะไรมาเฮิทละค่ะ ตอนนี้มันมีคนดามใจแล้ว" เจ๊ดารีบแย่งพร้อมยิ้มกริ่ม

   "หืม!? ใครละ"

   "คนคนนั้นก็คือ ระ...อื้อ!!!!" ผมรับเอามือปิดปากอีเจ๊ก่อนที่มันจะพูดออกมา คือยังไม่ตกลงซักหน่อยแค่ดูๆ ก่อน แล้วพ่อแม่ที่ไหนจะรับได้วะ ที่ลูกชายตัวเองโดนผู้ชายจีบ

   "ถ้าบอกขอให้เจ๊ขึ้นคาน" ผมแช่งมันเสียงแข็ง เหลือบตาไปมองไอ้คนโดนพาดพิง เรกลับยิ้มกริ่มพร้อมยักคิ้วให้อย่างท้าทายผม หล่อ ร้าย ชวนให้ใจสั่น... ไม่ใช่แล้ว! สติ...สติจงกลับมา

   "ฮ่าๆๆ หน้าแดงใหญ่แล้วไอ้หนู ถ้าจะเขินขนาดนี้ ไว้พร้อม เอ็งค่อยบอกก็ได้ ป๋าเข้าใจ" ปากอะเข้าใจแต่สายตาล้อเลียนนี่มันอะไรครับป๋า แล้วทั้งโต๊ะก็หัวเราะกันยกใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้ท่อนไม้ ที่หัวเราะ หึๆ อยู่ข้างตัว...แว๊กกกกก แล้วมึงจะดึงมือกูไปจับทำไม...เง้อเขิน

   "แล้วป๋ามาหามีนมีอะไร" ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนรุมยำไปมากกว่านี้

   "คิดถึงลูก มาหาไม่ได้หรอ"

   "แหมป๋าก็ เอาแบบจริงจังสิป๋า"

   "ป๋าจะไปธุระที่สิงคโปร อีกสองวัน ต้องมาขึ้นเครื่องที่กรุงเทพฯ เลยแวะมาดูว่าบักหำน้อยของป๋า มันตายยัง แล้วนี่เลยถือโอกาสมาชวนเอ็งไปด้วยเลย เผื่ออยากไปเที่ยว ลาได้ไหมล่ะ ให้ป๋าเซ็นลากิจให้ก็ได้นะ" พ่อผมทำหลายอย่างครับ เป็นกำนันและยังทำธุรกิจซื้อขายอะไหล่รายใหญ่ในอีสานทำให้ต้องเดินทางไปสัมมนาในต่างประเทศ บางครั้งก็ชวนผมไปด้วยเพื่อถือโอกาสเที่ยวไปในตัว

   "ผมคงไปไม่ได้หรอกป๋า อาทิตย์หน้าต้องไปรับน้องนอกสถานที่"

   "ที่ไหน" คือ ผมกำลังลังเลว่าจะบอกดีไหม ผมกลัวว่าพ่อจะไม่ให้ผมไปอย่างที่แล้วๆ มา

   "ทะ...ทะเลครับ"

   "ไม่ได้!!!!" ถูกค้านตามที่คาด "เอ็งจะไปไหนก็ได้บนโลกนี้ ที่ไม่ใช่ทะเล ป๋าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ"

   "ผมเข้าใจ แต่..."

   "ป๋าไม่อยากให้ไป ทะเลเอาแม่เอ็งไปจากป๋า ก็แค่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก" พ่อบอกเสียงแผ่ว ใช่ผมรู้ดี สถานการณ์ชวนอึดอัดเสียจนคนอื่นๆ ต่างเงียบเพื่อเปิดโอกาสให้เราคุยกัน

   "ผมรู้ แต่ถ้าไม่ไปผมก็ไม่ผ่านกิจกรรม แล้วผมก็อาจไม่จบปีหนึ่งนะป๋า" พยายามที่จะงัดเหตุผมมาพูด "ป๋าไม่ต้องกลัวมีนจมน้ำหรอก มีนโตแล้วมีว่ายน้ำก็เก่ง ดูแลตัวเองได้นะ...ให้มีนไปนะ"

   "ไม่ได้ งั้นเอ็งก็ย้ายไปเรียนที่อื่น ที่ๆ ไม่ต้องรับน้อง" เสียงทุ้มยื่นคำขาด มันทำให้ผมรู้สึกขุ่นเคือง ทำไมพ่อถึงต้องจมกับอดีตขนาดนี้ ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่และผมก็ไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำไม่เคยเห็นแม้แต่ภาพถ่าย ได้ยินแต่พ่อบอกซ้ำๆ ว่าผมเหมือนท่าน

   "ใจร้ายเกินไปแล้ว ทั้งๆ ที่มีนพยายามแทบตายเพื่อสอบเข้าที่นี่ แต่ป๋ากลับบอกมีนย้ายเพียงเพราะไม่อยากให้ไปทะเล" ผมบอกเสียงขุ่น พ่อไม่เคยนึกถึงความรู้สึกผมเลย เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่  เรพยายามจะดึงมือผมไว้เพราะทำท่าจะลุกขึ้น "บางทีมีนก็ไม่เข้าใจนะ ว่าทะเลมันเลวร้ายอะไรนักหนา มีนก็แค่อยากเห็นทะเลจริงๆ ที่ไม่ใช่ในทีวี ว่ามันสวยแค่ไหน ใครๆ เขาก็เคยไปทั้งนั้น แต่ป๋าดูมีนสิ จนจะสิบแปดอยู่แล้วยังไม่เคยไปเหยียบเลยซักครั้ง เพียงเพราะความฝังใจในอดีตของป๋า" ผมบอกเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์

   "ไม่ได้ยังไงก็ไม่ได้ เอ็งไม่เข้าใจ"

   "งั้นก็อธิบายเหตุผลมาสิ เหตุผลที่ไม่ใช่เรื่องของแม่" ผมถาม...เชื่อว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ท่านไม่บอกผมและยังคงนิ่งเงียบ  "หึ...อธิบายไม่ได้!? งั้นมีนก็ไม่มีอะไรจะคุยกับป๋าแล้ว" ผมเนรคุณหรือเปล่าที่คิดว่าพ่อเห็นแก่ตัว ผมหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น มันคงเป็นอารมณ์ดื้อรั้นแบบเด็กๆ ที่เมื่ออยากทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ หากถูกห้ามก็ต้องมีเหตุผลที่ดีพอแต่เผอิญตอนนี้มันไม่มี และผมก็ไม่ได้ยินดีรับฟังกับเหตุผลเดิมๆ ของพ่ออีกด้วย

   ผมเดินออกมาจากร้านไม่ไกลมาก ผมไม่อยากกลับหอเพราะมันใจพ่อผมต้องไปรอเจอที่หอแน่ๆท่านไม่เคยยอมให้ผมหลบหน้าท่านได้นานหรอก แล้วจะไปไหนละ!?...เดินคิดไปเรื่อย เริ่มจะเหนื่อยจึงนั่งพักหน้าเซเว่นเล่นกับหมาไปพลางๆ แล้วใครคนหนึ่งก็นั่งลงข้างๆ พร้อมยื่นชาเขียวเย็นให้ จะเป็นใครได้นอกจากไอ้ท่อนไม้เจ้าเดิม มองข้ามถนนไปก็เจอเอสตราโดคันสวยจอดนิ่งอยู่ ไม่รู้ว่ามันตามผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรับน้ำขวดนั่นขึ้นมาเปิดดื่ม ตั้งใจจะเดินเข้าไปซื้ออยู่แล้วแต่นั่งบิ้วอารมณ์เพลินไปนิด

   "กูไม่อยากกลับหอ ยังไม่อยากเจอป๋าตอนนี้ กูไปนอนคอนโดมึงได้ไหม" ผมหันมองคนข้างๆ ซึ่งมันก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย 

   "แต่ตอนนี้กูหิว พาไปหาอะไรกินหน่อยสิ" เรลุกขึ้นจูงมือผมไปที่รถ มันขับรถพาไปกินโจ๊กหม้อดินแถวมหาลัย โจ๊กอร่อยะดีแต่นั่งกินไม่ค่อยเป็นสุข ทำไมนะหรอ!? ก็ไอ้คนนั่งตรงข้ามมันกินไปจ้องหน้าผมไปบางทีมันก็ยิ้มให้ จนเริ่มสงสัยว่าไอ้เรมันสติดีเปล่าวะ แต่มันก็ช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้นเยอะ เริ่มสงสัยแล้วสิว่ามันชอบอะไรในตัวผมกันนะ แค่ไอ้เด็กแว่นเกรียนๆ ไม่ได้หล่อเหลาน่าเอาจนเก้งกวางต้องเหลียวหลังซักหน่อย

   ผมมานอนห้องมันบ่อยเกินไปหรือเปล่า!? ไอ้เจ้าของห้องมันก็บริการดี๊ดี กลับมาถึงเตรียมน้ำอุ่นให้อาบ มันรู้ว่าผมชอบนอนแช่น้ำในอ่าง จะว่าไปมันก็ดูใส่ใจผมดีเหมือนกันนะ เพราะเคยมีแฟนมาก็ต้องเป็นฝ่ายดูแลเอาใจเขามากกว่า มันรู้สึกดีนะที่ถูกให้ความสำคัญ  ทุกอย่างก็ดูเข้าท่าดีหรอกเว้นแต่ตอนนอนผมโดนมัน แกล้งบ้าง กวนบ้าง ลวนลามบ้าง พอเป็นพิธีแต่เอาเถอะน้องมีนหยวนให้ในฐานะที่มันทำตัวดี

   กว่าผมจะตื่นก็เกือบเที่ยงไอ้เรตื่นก่อนนานแล้ว จำได้ลางๆ ตอนสิบโมงมันบอกจะไปรับใครไม่รู้ ว่าแล้วชักหิวล้างหน้าแปรงฟันเลยเดินมึนออกมาหาอะไรกัน แต่ทันทีที่เปิดประตูออกจากห้องนอนเจอไอ้แฝดนรกกำลังนั่งเล่น PS4 กันอย่างเมามัน แต่แขกอีกคนที่นั่งอยู่ทำเอาผมถึงกับชะงัก ป๋า!...มาได้ไงวะ หันรีหันขวางไม่รู้จะทำยังไง แถมยังไม่อยากคุยตั้งใจว่าจะลี้ภัยกลับเข้าห้องแต่ไอ้เรดันคว้าผมได้ทันก่อนบังคับให้ผมนั่งลงตรงข้ามกับพ่อผม โดยมีมันล๊อคเอวไว้ส่วนอีกฝั่งเป็นไอ้เรน บรรยากาศอึดอัดเริ่มปกคลุมก่อนที่พ่อจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบเสียเอง

   “ป๋าขอโทษ” พ่อมองหน้าผมจริงจัง “ขอโทษที่ยึดติดมากเกินไปห่วงมากเกินไป จนลืมนึกถึงความต้องการของเอ็ง มันก็จริงอย่างที่เรนมันว่า ไม่มีใครหนีความจริงพ้นเราควรยอมรับมันให้ได้”

    “มีนรู้ว่าป๋าห่วง แล้วก็ ขอโทษที่เสียงดังใส่นะครับ” ผมบอกเสียงแผ่ว แต่ก็เอะใจในสิ่งที่ท่านพูด “ว่าแต่...ความจริงอะไรหรอครับ”

   “เอ่อ...ให้อธิบายคงยาก เอาเป็นว่าเกี่ยวกับเรื่องแม่ของลูก เมื่อถึงเวลาลูกจะรู้เอง” กรรม...ทำไมต้องทำตัวมีลับลมคมนัยน์อะไรกับผมด้วยเนี่ย

   “เฮ้อ!!!...บอกตรงๆ ไม่ได้หรอป๋า” ผมทำหน้ายู่ใส่ พ่อผมนะ ถ้าไม่อยากบอกอยากเล่าบังคับให้ตายท่านก็ไม่คลายออกมาหรอก

   “แล้วก็อีกเรื่อง...ไอ้หนุ่ม ชื่อเรใช่ไหมเรา” พ่อเอ่ยเสียงเข้มขึ้นพร้อมหันไปจ้องไอ้คนข้างตัวทำเอาผมสะดุ้ง “จริงหรอที่เอ็งชอบลูกข้า” เชี่ย...ป๋ารู้ได้ไงวะ

   “ครับ” มันตอบทันทีแบบไม่ลังเล งือ...แอบดีใจ...มั้ง ผมเริ่มใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เมื่อพ่อนิ่งเงียบไปพักใหญ่ แอบลุ้นว่าท่านจะตอบว่าอะไร หรือพ่อจะรับไม่ได้ ผมจะโดนว่าไหมแล้วไอ้เรจะโดนป๋ากระทืบหรือเปล่า

   “ไม่เห็นต้องทำหน้ายุ่งนาดนั้นเลยนิ” ป๋าบอกพร้อมเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ “ถึงมันไม่ใช่เรื่องปกติแต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ป๋าไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น ถ้าลูกป๋าอยู่กับใครแล้วสบายใจ ก็ยินดี ส่วนเอ็ง ได้ลูกข้าแล้วห้ามทิ้ง ทิ้งเอ็งตาย”

   “ป๋า!!!! ผมยัง...” มันชักจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วมั้ง ผมยังซิงเว้ยยย

   “ยังอะไรสภาพขนาดนี้ แล้วเสื้อที่ใส่ไม่ใช่ของไอเรเรอะ” มันก็ใช่ “แล้วไอ้รอยแดงๆ ที่คอจะบอกว่ายุงกัดหรือไง” มันก็แค่จูบกับนัวนิดหน่อย ยังไม่ได้ทำไรเลย ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้จะเถียงอะไร ถ้ามองจากหลักฐานมันก็ชวนให้เข้าใจตามนั้น...เง้อ

   “แล้วสรุปป๋ายอมให้ผมไปทะเลแล้วใช่ไหม” เปลี่ยนเรื่องดีกว่าก่อนจะโดนสอบปากคำไปมากกว่านี้
 
   “ใช่ แต่ถ้าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นไอ้หนูมีนต้องโทรบอกป๋าทันที เข้าใจไหมไอ้ลูกเขย”

   “ครับผม” ไอ้ท่อนไม้ตอบรับแข็งขัน เฮ้ย! ป๋า ทำไมยอมรับมันเป็นเขยง่ายจังวะ ถึงน้องมีนจะเป็นผู้ชายก็ช่วยหวงกันหน่อย
 
   ผมใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายทำหน้าที่ลูกที่ดี พาพ่อเที่ยวแถวๆ มหาลัยเพราะพรุ่งนี้ท่านต้องขึ้นเครื่องแต่เช้า เอาใจนิดหนึ่งเผื่อได้ตังค่าขนมไปเที่ยวเยอะๆ อ้อนไปอ้อนมาจากที่จะซื้อเวฟคันใหม่ป๋ารับปากจะถอยรถยนต์ให้เลย แกบอกปลอดภัยกว่าเนื้อหุ้มเหล็ก เห็นไหมผมมันลูกกตัญญูรักบุพการีจะตายไป
 
   ผมตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะต้องไปรับน้องนอกสถานที่ อดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะเห็นทะเลครั้งแรกถึงขนาดแพคกระเป๋าล่วงหน้าสองวันคืน ก่อนไปก็ไปสิงที่ห้องไอ้เรกลัวไม่มีคนปลุกแต่เปล่าเลย กลายเป็นผมนี่แหละคึกจัดตื่นมาอาบน้ำตั้งแต่ตีสี่แถมลากไอ้คุณเรออกจากที่นอนตั้งแต่เช้ามืดโหวกเหวกโวยวายจนไอ้เรนต้องเปิดประตูห้องมาด่าเพราะรบกวนเวลานอนมัน ใครๆ อาจจะหาว่าผมเวอร์ก็คนมันไม่เคยไปอะเข้าใจกันหน่อยสิ

   เป้าหมายทริปนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลเพราะเราไปรับน้องกันที่หัวหินในหาดส่วนตัวของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตีกลองแหกปากร้องเพลงกันไปตลอดทาง แบบนี้สิค่อยสนุก ปีนี้ดีเพราะรุ่นพี่ปฏิวัติกันแล้วไม่ใช่เอะอะก็ว๊ากถึงจะมีบ้างแต่ก็ไม่ได้เครียดตลอด มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกครับกดดันรุ่นน้องแบบแต่ก่อน ซ่าได้ไม่นานก็โดนไอ้เรกลับมานั่งประจำที่ เพลงกำลังโดนน้องมีนอยากเต้นอะ

   "เชี่ย! เร มึงเป็นพ่อกูหรอ คนกำลังสนุก" ผมดิ้นพลาดๆ "ปล่อยดิ อารมณ์ร่วมนะรู้จักไหม แทนที่จะนั่งบื้อเป็นท่อนไม้ แดนซ์โว้ย ดะ ...อื้ออออ" ด่ามันยังไม่ทันครบชุดก็โดนมันปิดปากด้วยปากเรียบร้อย...เล่นเอาทั้งรถหันมามองเราเป็นตาเดียวตามมาด้วยเสียงแซวเซงแซ่ ผมรีบมุดเข้าไปนั่งริมหน้าต่าง พร้อมดึงเสื้อแขนยาวคลุมทั้งหัวไปลี้ภัยหนีอายกับพระอินทร์ในทันที ไอ้หน้าด้าน บอกผมเงียบดีๆ ก็ได้มั้ง

   เมื่อไปถึงเราก็แยกย้ายเอาของไปเก็บในบ้านพักขนาดสี่ห้องนอนซึ่งแบ่งเป็นหลังๆ แยกหลังละเอกตามชั้นปีแยกชายหญิงอย่างละหลัง ห้องผมนอนกันห้าคนซึ่งก็แก๊งผมทั้งหมดและครับ กิจกรรมวันนี้คือเข้าฐานต่างๆ ที่รุ่นพี่จัดเตรียมไว้ ร้องรำทำเพลงสร้างความสัมพันธ์และการทำงานเป็นกลุ่ม ก่อนจะถูกปล่อยแยกย้ายตามอัธยาศัยในตอนเย็นจึงมีเวลามาร่ำสุรากันหน้าบ้านพักซึมซับบรรยากาศของทะเลอย่างเต็มที่ ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหมว่าตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ร่างกายมันรู้สึกดี ผ่อนคลายอย่างประหลาด เพราะแบบนี้สินะใครๆ จึงชอบมาพักร้อนที่ทะเล นั่งคุยเล่นกันเพลินๆ พวกผู้ชายก็ถูกบรรดารุ่นพี่ในเอกเรียกออกมาที่ชายหาด เพิ่งรู้นะว่าพี่โยก็อยู่เอกเดียวกับผม

   "ตามมาๆ กูมีภารกิจลูกผู้ชายให้มึงทำ" พี่ตั้มประกาศก่อนเดินนำพวกเราเลียบหาดมาเรื่อยๆ จนถึงสะพานส่งปลาทำจากไม้เก่าๆ ซึ่งยื่นลงไปในทะเล บวกกับพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้าให้บรรยากาศหนังสยองขวัญ ถ้ามีผู้หญิงผมยาวๆ นั่งตรงสุดสะพานนี่ใช่เลย

   "เอิ่ม ภารกิจอะไรหรอพี่" ไอ้กรถามเสียงสั่น มันเป็นพวกกลัวผีขึ้นสมองครับ

   "พวกมึงเห็นธงแดงตรงปลายสะพานนั่นไหม" พี่ผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ยืนข้างพี่โยว่าพร้อมส่องไฟฉายไปตรงจุดนั้น "ไปเอามันกลับมา แล้วพวกกูจะรับมึงเป็นน้อง ง่ายใช่ไหมละ" ง่ายอะง่าย ถ้าสะพานที่ว่าไม่ใช่ไม้ผุๆ ที่ดูผ่านร้อนผ่านหนามาหลายสิบปี

   "แล้วใครจะเป็นคนไปละ" ไอ้ก้องถาม ทำท่าพร้อมถีบผมออกหน้าแล้วครับ

   "ก็จับฉลากเอา" พี่ตั้มบอกพร้อม ชูโหลแก้วเล็กๆ ที่มีกระดาษหลายใบม้วนอยู่ "ไอ้มีนมานี่ ในฐานะที่มึงเป็นที่รักของพี่ๆ ทุกคน กูให้มึงเป็นคนจับ" !เฮือกกก!! คือ ผมมันพวกซวยบรรลัยเกิดจับได้ตัวเองทำไงวะ "ไวๆ เลยมึงรีบทำ จะได้กลับไปเมาต่อ" ผมหยิบส่งๆ ก่อนจะยื่นให้พี่ตั้มไป

   "คะ...ใครหรอพี่" ไอ้กรถาม มันเกาะไอ้ภูผาแน่นจนแทบจะขี่คอ...ถ้ามึงจะกลัวขนาดนั้นนะ

   "ไอ้มีน!!!" เชี่ย!!! จับเองได้เอง ไอ้สะพานมืดๆ ไม่กลัวหรอกครับ ประเด็นคือมันจะพังลงไปตอนไหนเถอะ รีบไปเอามาแล้วรีบกลับ ยังไม่ทันจะก้าวออกไปไอ้เรดันคว้ามือผมไว้ สายตามันดูกังวลเอามากๆ "น่า แค่เดินไปเอาธง ไม่เป็นไรหรอก"

   "มั่นใจ?"

   "อืม...มึงช่วยกูทันอยู่แล้ว" ผมบีบมือมันเบาๆ ก่อนจะก้าวเท้าลงบนสะพานนั่นช้าๆ และมั่นคง แค่รู้ว่ามันมองตามก็รู้สึกปลอดภัยแล้ว เป็นเอามากนะผมเนี่ย

   "ทำเชี่ยอะไรของมึงไอ้มีน" เพื่อนๆ ร้องลั่นเมื่อผมลองกระโดดๆ บนสะพานหลังจากเดินมาได้สิบกว่าก้าว แหมก็ต้องทดสอบความแข็งแรงกันหน่อย ถ้ามันจะพังให้มันพังซะตอนนี้ยังพอวิ่งกลับทัน แต่ทุกอย่างนิ่งสงบมีแต่เพียงคลื่นน้ำเบื้องล่างที่ดูจะเชี่ยวกราดกว่าตอนกลางวัน สะพานนี้ยาวเกือบร้อยเมตรจากการประมาณด้วยสายตาเดาว่าตรงส่วนปลายสุดที่มีธงแดงอยู่น้ำคงลึกน่าดู

   ยิ่งก้าวห่างออกมายิ่งเมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่ง ผืนน้ำที่ทอประกายของแสงจันทร์เพ็ญกลิ่นน้ำทะเลกับสายลมอ่อนๆ เหมือนดึงดูดให้เข้าหา เหมือนหูจะแว่วเพราะท่ามกลางเสียงคลื่นและลมเหมือนได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ จากรอบๆ ตัว มันไม่ได้น่ากลัวแต่กลับอบอุ่นใจอย่างประหลาด พลันเสียงนั้นกก็หยุดลง

   'ระวัง ถอยกลับไป' เสียงใครบางคนกระซิบเตือนทำเอาผมหยุดชะงัก อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงธงแดงแล้วแค่หยิบมัน 'ถอยกลับไป...เร็ว!!!' เสียงนั่นดูร้อนรนขึ้น ผมหันรีหันขวางมองหาที่มาของเสียงนั่น แล้วทุกอย่างก็กระจ่างชัดเกี่ยวกับคำเตือนนั่น เมื่อพื้นสะพานที่ผมยืนอยู่เริ่มโยกคลอน

   เปรี๊ยะ!! ตูม สะพานไม้เริ่มผุพังบางส่วนหัก บางส่วนหลุดร่วงลงไปสู้ผืนน้ำเบื้องล่าง ชิบหายแล้วกู ทำไงดี วิ่งกลับยังทันไหม ไหนๆ ก็มาแล้ว ผมเอื้อมไปคว้าธงเป็นจังหวะเดียวกับที่พื้นใต้เท้าหักลงพาร่างทั้งร่างร่วงสู่ผิวน้ำ

   "มีน!!!!" เสียงเพื่อนๆ บนฝั่งตะโกนก้อง น้ำเค็มทะลักเข้าตาเข้าปากจนแสบไปหมดผมพยายามตระกายขึ้นสู่ผิวน้ำแต่กลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่าง สงสัยจะโดยตะคริวกิน เมื่อดวงตาชินกับน้ำเค็มทำให้เห็นพระจันทร์จางๆ เหนือน้ำที่ลอยห่างไปเรื่อยๆ ผมพยายามกลั้นใจไม่ให้สำลักน้ำทะเล แต่เหมือนจะเกินลิมิตของตัวเองแล้ว อึดอัด ทรมาน เหนื่อยเหมือนจะขาดใจ นี่ผมจะต้องมาจมน้ำตายแบบนี้จริงๆ หรอ ไม่นะ ไม่ !!! ได้แต่กรีดร้องในใจ เมื่อภาพตรงหน้าเริ่มเลือนลาง ในสมองทุกสิ่งเริ่มหยุดนิ่งเพราะขาดอากาศหายใจ

   ภาพสุดท้ายที่เห็นราวกับภาพฝันเมื่อร่างบอบบางขาวกระจ่างเคลื่อนผ่าน ผมยาวๆ ที่สยายออกตามแรงว่ายระแผ่วผ่านผิวกาย ก่อนที่ลำแขนเล็กๆ นั่นจะโอบกอดร่างทั้งร่างไว้เผยให้เห็นใบหน้างดงามที่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน...นางฟ้าหรอ นางฟ้าอะไรจะอยู่ในทะเล หรือว่าผมตายแล้วเขามารับวิญญาณกันนะ

   'ไม่เป็นไรนะ' เสียงหวานกระซิบบอก 'ทะเลไม่มีวันทำร้ายเรา'

TALK TALK
[/b]

-มาอัพแล้วจ้า น้องมีนของเราแท้จริงแล้วเป็นใคร เดี๋ยวเจอกันบทหน้าจ้า

-ขอบคุณท่านผู็อ่านทุกคนที่ติดตาม สำหรับเรื่องเดิม http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47290.0 ตามลิ้งนี้ไปเลยจ้า อ่านเพลินๆ ติชมกันได้  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-10-2015 20:21:48 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ฉันว่า นังหนูมีนเป็นเงือกไม่ก็นารีน้ำ.....

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อิอิ.  มาทั้งคุณพ่อคุณแม่เลยใช่ไหม. คุณแม่น่าจะเป็น เงือกแน่.
ส่วนน้องมีนไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร. แต่ขออย่าเป็นปลาหมึกปลาดาวอะไรงี้เลย

 :กอด1:  คนเขียนสู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พึ่งมาอ่านจร้าาาาาาาา
คือชอบอ่ะ ชอบแนวนี้
นุ้งมีนเป็นเงือกแน่ๆเรยอ่ะ >\\\\\\<
รออ่านตอนต่อไป (เร ไปช่วยให้ไวค่ะ รออะไร)

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 8 Begin
[/b]

   เป็นอีกครั้งที่ผมลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มที่ไม่ใช่ห้องตัวเอง และก็ไม่ใช่ในรีสอร์ทที่มารับน้อง แล้วที่ไหนวะ? มองเลยไปตรงระเบียงฝั่งปลายเตียง ประตูไม้สีขาวบานใหญ่เปิดกว้างเผยให้เห็นวิวทะเลด้านนอก ดูจากแสงแดดจ้าๆ เดาว่าคงเป็นเวลาเที่ยงวัน แบบแปลกใจทั้งที่ไม่มีแว่นกลับมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน ลูบหน้าลูบตาตั้งสตินึกถึงเรื่องเมื่อคืน หลังจากสะพานพังลงมาผมกำลังจะจมน้ำ แล้วตอนนั้นก็มีผู้หญิงว่ายมาหาผม ใครวะ!? หรือผมกลัวตายจนหลอนไปเอง เดาว่าคนที่ช่วยผมขึ้นมาคงเป็นไอ้เรแน่นอน เพราะผมมั่นใจว่าแค่คนจมน้ำคนไม่เหลือบากกว่าแรงเรเวนแบบมัน เอาเถอะเลิกเดาไปถามมันก็รู้เอง

   ผลัก! แค่ก้าวลงจากเตียงแข้งขามันอ่อนแรงจนลงไปนั่งแหมะกับพื้น ทำไมขากู...เฮ้ย!!! หายไปไหนวะ

   "เร!!!!!" ผมแหกปากลั่นบ้านเลยทีนี้ "เร!!!!! อยู่ไหน ไอ้เชี่ยเร"

   "อะไรๆ" แล้วมันก็วิ่งหน้าตื่นมาเลยครับ

   "ขากูละ ทำไมเป็นนี้" ผมชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่ร่างกายท่อนล่างของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นหางปลาไปแล้ว

   "ก็มึงเป็นเงือกนิ" ไอ้เรบอกผม มันดูไม่แปลกใจเลยซักนิด

   "กะ...กูนี่นะ เป็น เงือก เงือกที่แม่งครึ่งคนครึ่งปลาอะนะ" ผมได้แต่อึ้ง ทึ่ง เสียวเฮ้ย! อย่างหลังไม่ใช่ ลูบเบาๆ ที่เกล็ดสีมุกของตัวเอง สัมผัสได้ถึงน้ำหนักมือที่ไล้ไปตามเกล็ดนั่น เป็นหลักฐานให้รู้ว่ามันคือส่วนหนึ่งของผมจริงๆ "โอ๊ย!!!" ผมลองดึงเกล็ดสีมุกนั่นแรงๆ จนหลุดติดมือมาอันนึง เจ็บจนน้ำตาร่วงเลยแม่ง...อารมณ์เหมือนโดนดึงขนขาเลย

   "ซน!" ไอ้เรว่า ก่อนที่มันจะอุ้มผมมาไว้บนเตียงเหมือนเดิม มันลูบเบาๆ ตรงรอยเกล็ดที่ผมดึงเล่น จนเลือดซึม

   "มึงรู้เรื่องนี้อยู่แล้วหรอ" มันพยักหน้า "ขออธิบายชัดเจนกว่านี้ได้ไหม กูรู้มึงกลัวหลุดคอนเซปห้ามพูดเกินวันละสิบคำ แต่ขอร้องเถอะ กูอยากรู้จริงๆ อธิบายด่วน" ผมเขย่าๆ ตัวมันอย่างร้อนใจ จนมันต้องรวบแขนผมแล้วกอดไว้หลวมๆ

   "เรเวนย่อมรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าใครเป็นอมนุษย์เหมือนกัน แต่แค่ไม่แน่ใจว่ามึงเป็นเผ่าพันธุ์ไหน เพราะกลิ่นไอมึงก็ไม่ได้ชัดเจนเดาว่าอาจจะไม่ถึงวัยที่แสดงพลังออกมา ซึ่งอมนุษย์ ตัวมึงเองก็ดูจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร"
 
   "อืม กูก็เพิ่งรู้"

   "พวกกูเอะใจ วันที่เมิงทะเลาะเรื่องไปทะเลกับพ่อ ตอนมึงเดินหนีไป ไอ้เรนมันเลยเข้าไปถามตรงๆ เรื่องแม่ เลยรู้ว่ามึงไม่ใช่คนตั้งแต่เกิดแล้ว" มันเป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่ไอ้เรพูดกับผมมา สับสนกับชีวิตสุดๆ เลยครับตอนนี้ เป็นไอ้แว่นเกรียนๆ อยู่ดีๆ กลายเป็นเงือกสะงั้น ผมมองสภาพตัวเองในตอนนี้ ลองขยับส่วนต่างๆ ทั้งส่วนหางส่วนครีบด้วยความรู้สึกไม่คุ้นชินพอๆ กับเด็กหัดเดิน

   "มึงเป็นคนช่วยกูไว้หรอ" ผมถามทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากท่อนล่างของตัวเอง เกล็ดสีมุกที่สะท้อนแสงบวกกับครีบสีครามอ่อนๆ อืม...มันก็สวยดี

   "มายาเป็นคนช่วย" เรบอก

   "ใครวะ"

   "เป็นเงือกเหมือนกัน บอกบ่ายๆ เดี๋ยวแวะมาหาอีกรอบ สงสัยอะไรก็ถามเอาแล้วกัน"

   "แล้วคนอื่นๆ ละ ยังอยู่ที่รีสอทร์ทหรอ" มันพยักหน้ารับ "แล้วที่นี่ที่ไหน"

   "บ้านอากู" โอเค เข้าใจแล้ว เพราะอยู่ในสภาพนี้ไอ้เรคงไม่อยากให้คนอื่นเห็น ลองนึกดูนะ ถ้าเจ๊ดามันรู้มันคงกรี๊ดจนหูผมแตกแน่ "หิวไหม!?"

   "อืม" พอมันทักก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วสิ

   "จะรออยู่ในห้องหรือจะไปว่ายน้ำเล่นในสระ" มันถาม สระ บ้านนี้มีสระว่ายน้ำด้วยหรอ ก็ดีจะได้ลองอะไรหลายๆ อย่าง

   "จะไปรอที่สระ"  ก่อนลงไปผมขอให้มันพาไปอาบน้ำ ถามว่าอายไหม ถ้าเป็นปกติคงอายแหละครับ แต่ตอนนี้ท่อนล่างมันกลายเป็นหางปลาไปแล้วครับ ว่าแต่หำข้อยอยู่ตรงไหน เงือกมีอวัยวะเพศไหมวะ หรือเป็นเหมือนของปลาเลย ไม่นะ มีนน้อยที่ผมภาคภูมิใจหายไปแล้ว...น้ำตาจะไหล เข้าใจอารมณ์คนพิการเลยครับ เหมือนเป็นอัมพาตท่อนล่างจะไปไหนลำบากให้แต่ไอ้เรมันอุ้ม จนแอบสงสัยว่าภายใต้ใบหน้านิ่งๆ นั่นมันรำคาญผมบ้างไหมนะ รู้สึกว่าผมเป็นภาระบ้างหรือเปล่า ลำพังแค่มันชอบผมจะทำให้มันอดทนทำแบบนี้ได้ถึงเมื่อไหร่

   เรเอาผมมาปล่อยไว้ในสระนอกตัวบ้าน พร้อมลากเอาร่มชายหาดมากางริมสระไว้สองสามอันเพราะกลัวไอ้น้องมีนผู้นี้จะกลายเป็นปลาแดดเดียวเพราะแดดยามบ่าย ตามด้วยอุปกรณ์สร้างความบรรเทิง ทั้งไอแพดกับโทรศัพท์พร้อมด้วยแบตสำรอง และเหาอะไรให้รองท้องอย่างนมกับขนมอีกสองห่อ แล้วมันก็ออกไปข้างนอกเพื่อซื้อเสบียง ระหว่างรอผมก็ดำผุดดำว่ายอยู่ในสระจนเริ่มคล่อง ปกติชอบเล่นน้ำอยู่แล้วแบบก็สนุกดีครับถ้าเป็นทะเลกว้างๆ คงสนุกกว่านี้ ความรู้สึกตอนอยู่ในน้ำคงอารมณ์แบบนกที่บินอยู่บนฟ้าแหละครับร่างกายมันเบาแปลกๆ

   "ไง หนุ่มน้อย" เสียงหวานทักขึ้นตรงริมสระ เรกลับมาแล้วพร้อมผู้หญิงอีกคนที่บอกได้เลยว่าสวยมาก สวยยิ่งกว่าพี่ลูกแก้วเสียอีก ผมมองใบหน้าขาวเนียนที่ตัดกันดีกับนัยน์และเรือนผมดำขลับนั่น อ๊ะ ผมจำได้แล้ว...เงือกที่ช่วยผมเมื่อวาน "พี่ชื่อ มายานะจ้ะ"

   "ดีครับ" ผมว่ายไปเกาะขอบสระพร้อมยิ้มรับ "พี่มีขาด้วยหรอ" ผมชีโบ้ชี้เบ้ไปทางสาวงามในชุดเดรสสีขาวสะอาดตา รู้สึกตื่นเต้นที่เห็นเรียวขาสวยแทนที่จะเห็นเป็นหางปลาอย่างเมื่อคืน เธอมองตอบผมพร้อมหัวเราะในท่าทางของผม

   "ก็ต้องได้อยู่แล้ว เงือกนะมีสองร่าง ไม่รู้หรอจ้ะ" ได้ฟังคำตอบแล้วรู้สึกมีหวัง ผมไม่ต้องอยู่ในสภาพนี้ตลอดไปสินะ

   "ไม่เลยครับ ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นเงือกด้วยซ้ำ" ผมตอบหน้าตื่น ใบหน้าสวยแย้มยิ้มก่อนเชยคางผมขึ้นสบตา

   "ถูกเลี้ยงแบบมนุษย์สินะ ไม่ต้องคิดมากไม่นานก็ชินเองแหละจ้ะ หางเธอสวยมากเลยรู้ไหม พี่ไม่เห็นเกล็ดสีนี้นานแล้วนะ" ผมทำหน้างงใส่เธอจึงอธิบายต่อ "ชาวเงือกส่วนใหญ่ไม่ค่อยอาศัยอยู่บนบกหรอกจ้ะ เพราะมันอันตราย"

   "อันตรายแบบไหนครับ"

   "ก็ความเชื่อว่า หากได้ดื่มกินเลือดเนื้อของเงือกจะทำให้เป็นอมตะไงละ พวกเราเลยถูกเผ่าพันธุ์อื่นล่า จนต้องหนีไปอยู่ในเมืองของตัวเองใต้น้ำ" ได้ฟังแบบนั้นแล้วรู้สึกกังวลขึ้นมาเลยครับ เพราะแบบนี้สินะพ่อถึงไม่อยากให้ผมมาทะเล

   "แล้วทำไมพี่ถึงอยู่บนบกละครับ"

   "พี่อยู่กับสามีจ้ะ" เธอบอกด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข "แล้วเดี๋ยวนี้สภากลางมีกฎคุ้มครองพวกเราแล้วด้วย จึงปลอดภัยกว่าแต่ก่อนเยอะ" เธออธิบาย "เห็นเราไม่เป็นอะไรแบบนี้ก็ดีแล้วแหละ"

   "แล้วพี่มาช่วยผมได้ยังไงครับ"

   "อืม...ชาวเงือกสามารถรับรู้ถึงพวกตัวเองได้จ้ะ ถ้าอยู่ในระยะใกล้ๆ บ้านพี่อยู่แถวนั้นรับรู้ถึงการมาของเราพี่เลยตามมาดู พอดีกับที่สะพานพังลงมาเลยไปช่วยไว้ ดูท่าทางเราแล้วคงไม่เคยเปลี่ยนร่างมาก่อนลำบากหน่อยนะ" ลำบากมากกกกกกกก...ในน้ำก็คล่องตัวดีแต่บนบกนี่สิ ง่อยชัดๆ

   "พี่สอนผมเปลี่ยนร่างได้ไหมครับ"

   "พี่ก็ไม่แน่ใจว่าของแบบนี้มันสอนกันได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นสันชาติญาณ" พี่มายาตอบพลางหัวเราะร่า "แต่จะพยายามนะ อ่า ชักหิวแล้วสิ เรซื้อกับข้าวมาเต็มเลย ยังไม่กินอะไรเลยไม่ใช่หรอ กินข้าวก่อนเนอะ ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน"

   ไอ้เรลากเสื่อมาปูริมสระก่อนที่จะลงมือทานข้าวเที่ยงในยามบ่ายกันตรงนั้น พี่มายาบอกว่าความสามารถของเงือกคือเสียง ว่ากันว่าเสียงของพวกเราสามารถสะกดคนได้ คงเคยได้ยินใช่ไหมเรื่องเล่าที่ว่าชาวประมงมักได้ยินเสียงเพลงในทะเลหากคนไหนหลงตามเสียงนั้นไปอาจถูกพวกเงือกจับไปอะไรประมาณนั้น  แล้วก็เล่าเรื่องอาณาจักรชาวน้ำให้ผมฟัง จริงก็มีมานานแล้วแถมยังมีหลายๆ ที่ทั่วโลกจะเห็นได้จากตำนานเก่าแก่ในแต่ละส่วนของโลก อย่างแอตแลนติส หรือเมืองบาดาลของไทย พี่สาวคนงามเล่าว่าที่นั่นเราก็ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปนี่แหละไม่ได้ว่ายๆไปว่ายมาอะไร เพียงแต่ พลังงานที่ใช้ล้วนเป็นวิทยาการเวทมนต์ไม่มีพวกเทคโนโลยีแบบบนบก ส่วนสภาพบ้านเมืองที่นั่นล้วนก็จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุคกลางของแต่ละพื้นที่ปนๆ กันไป ฟังไปชักอยากไปเห็นแล้วสิ บางทีที่พ่อบอกว่าทะเลเอาแม่ไป แม่ผมอาจจะมีชีวิตและอาศัยอยู่ซักที่บนโลกนี้

   "เฮ้ย!!!! พี่ทำอะไร" ผมร้องลั่นเมื่อเมื่อพี่มายาแก้ผ้าโดดลงสระมากับผมหลังจากนั่งย่อยกันซักพัก

   "จะสอนน้องมีนกลายร่างไงจ๊ะ" ครับตามนั้นเลยครับ และแล้วบทเรียนการเป็นเงือกของผมก็เริ่มขึ้น คุณครูจำเป็นบอกว่าเวลากลายร่างในยามปกติเราก็แค่ตั้งสมาธิว่าเราอยากมีขา อยากเป็นคน ฟังดูง่าย แต่เพ่งจนจะเข้าฌานแล้วครับมันก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนต้องงัดมาทุกกระบวนท่า ตั้งแต่ไอ้มดแดงแปลงร่าง ยันเซเลอมูน ส่วนไอ้เชี่ยเร! นอกจากจะไม่ช่วยห่าอะไรยังนอนขำกลิ้งอยู่ริมสระ จนเย็นพี่สาวคนสวยจำต้องขอตัวกลับบ้านเลยไล่ไอ้ท่อนไม้ไร้ประโยชน์ไปส่ง

   เฮ้อ!!! ผมถอนหายใจหนักหน่วง ถึงจะเริ่มชินกับสิ่งที่เป็นแต่ต้องอยู่ในสภาพนี้คงไม่ดี ผมจะไปมหาลัยยังไง ป๋าเห็นแล้วจะรู้สึกแบบไหน พวกเจ๊ดา ไอ้ก้อง ไอ้ภูผา และไอ้เตี้ยกรมันจะรับได้ไหม หากเป็นแบบนี้ไปตลอดผมคงใช้ชีวิตกับคนทั่วไปไม่ได้  ถึงไอ้เรมันจะดูแลผมดีแต่นานๆ ไปมันอาจจะเบื่อ มองผมเป็นภาระและทิ้งไปผมไป ปล่อยตัวลอยหงายบนผิวน้ำพลางเหม่อมองท้องฟ้าที่เริ่มมืด สุดท้ายผมคงต้องอยู่คนเดียวในทะเลจนเหงาตายแน่ๆ

   "เป็นอะไร" เสียงทุ้มดังขึ้นบอกให้รู้ว่าเรกลับมาแล้ว

   "กูกลัว...ที่จะเป็นเงือกแบบนี้ไปตลอด" ผมบอกพลางเอื้อมมือไขว่คว้าฟ้าตรงหน้าอย่างไรจุดหมาย "กูคงอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้" ผมรับรู้ถึงเสียงที่สั่นของตัวเอง

   "ก็อยู่กับกูไง" มันแย้ง

   "ไม่!!!! เดี๋ยวมึงก็เบื่อกู เดี๋ยวมึงก็รำคาญ มึงทนไหวหรอต้องคอยแบกกูไปนั่นไปนี่หาข้าวหาน้ำให้กูกิน เอากูไปเป็นภาระ ซักวันมึงคงทิ้งกู"  เงียบ...แบบที่ไอ้เรชอบทำ แค่คิดว่าโดนมันทิ้งขอบตาก็ร้อนผ่าวก่อนน้ำตาจะไหลอย่างห้ามไม่อยู่ ทำไมผมต้องคิดเรื่องมันขนาดนี้ด้วยวะ

   "มีน มานี่สิ" มันเรียกหลังจากเงียบไปนาน ผมมองมือที่ยื่นมาก่อนจะยอมว่ายไปหา ทันทีที่สัมผัสมือกันไอ้เรมันดึงผมขึ้นจากสระไปนั่งเกยบนตักมันพร้อมกอดเอวไว้หลวมๆ โดยไม่สนเลยว่าผมจะทำเสื้อผ้ามันเปียกหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเพราะแช่น้ำนานไปหรือเปล่าถึงได้รู้สึกว่าตัวมันอุ่นมากจนเผลอซุกอกกว้างๆ นั้นอย่างลืมตัว

   "อะไร" ผมก้มหน้าหลบตามัน

   "กลัวกูทิ้ง?"

   "ใช่ กูกลัว กูไม่อยากถูกทิ้งไว้คนเดียว" ผมตอบเสียงแผ่ว แต่มันกลับกอดผมแน่นขึ้น

   "น่ารักแบบนี้ใครจะไปทิ้ง" ฮะ...น่ารัก ใคร? ผมหรอ เขินหน้าแดงเลยเนี่ย "แค่คืนร่างเป็นคนใช่ไหม"

   "ช...ใช่" ผมเงยหน้ามองมันแบบมีความหวัง "มึงรู้หรอว่าทำยังไง มึงช่วยกูได้ใช่ไหม"

   "ต้องลอง" ลองอะไร!?...อื้อ ริมฝีปากร้อนประทับแน่นบนปากผม บดจูบเชื่องช้าและอ่อนโยน ไม่ว่ากี่ทีผมก็แพ้รสจูบมันตลอด พูดไม่เก่งแต่จูบเก่งเว่อ มือกร้านลูบยาวลงตามแนวสันหลังทำเอาสะท้านเฮือก อย่าบอกนะว่านี่เป็นวิธีของมันแบบว่าเอิ่ม...มันใช่หรอวะ

   "เร...มึง...อ๊ะ มั่ว อื้อ เปล่า วะ" ร่างของผมบิดเร่าอย่างคุมไม่อยู่ เมื่อไอ้เรเล่นจู่โจมผมไม่หยุด จมูกคมซุกไซร้ซอกคอในขนาดที่มือทั้งสองบีบขย้ำสะโพกผมอย่างหมั่นเขี้ยว

   "อ๊า เชี่ยเร ไม่เอา ตรงนั้นมัน อ๊ะ" ผมครางลั่นเมื่อนิ้วเรียวไล้ไปตามแนวครีบหลังก่อนจะสอดเข้าไปในช่องทางที่ถูกบดบังไว้ มันหาเจอได้ไงวะ!? ความรู้สึกวาบหวามถาโถมจนสั่นสะท้าน ราวกลับมีกระแสไฟฟ้าเล่นกระจายไปทั่วร่างในทุกครั้งที่มันขยับสิ่งที่แทรกเข้ามา เรวกกลับมามอบจูบอันดูดดื่มให้อีกครั้ง ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวกระหวัดจนผมแทบหายใจไม่ทัน ในขนาดที่มือหนึ่งยังคงปรนเปรอเบื้องล่างสวนอีกมือก็ฟอนแฟ้นแผ่นอกแบนๆ พาสติล่องลอยจนลืมขัดขืน

   "ตรงนี้หรือบนเตียง" เสียงทุ้มกระซิบถาม ยังจะมีหน้ามาถาม เร้ากันขนาดนี้ตรงไหนก็ทำๆ ไปเถอะ...ผมก้มหน้าหลบสายตาร้อนแรงนั่น รับรู้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันบั้นท้ายบ่งบอกว่าอารมณ์มันก็มาไกลพอกัน

   "ตรงไหนก็ได้" มันจูบหน้าผากผมหนักๆ ก่อนจะช้อนอุ้มขึ้นตรงดิ่งไปที่ห้องนอนแล้ววางร่างลงบนฟูกนุ่ม ร่างหนาตามมาทาบทับอย่างเร่งร้อนแล้วทุกอย่างก็เริ่มอีกครั้ง รสจูบร้อนแรงหลอกล่อให้ผมตอบสนองจนเผลอเอามือคล้องคอมันอย่างลืมตัว ริมฝีปากร้อนลากต่ำลงพร้อมทิ้งรอยไว้ทั่ว

   "เร อา!!!!!" ผมถึงกับแอ่นร่างรับสัมผัสเมื่อลิ้นร้อนลากผ่านสะดือ ก่อนจะต่ำลงผ่านท้องน้อยแล้วขบกัดเบาๆ ที่ต้นขาด้านใน ขา!?...ผมคืนร่างเป็นคนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้เพราะตอนนี้ ในสมองยุ่งเหยิงเกินกว่าจะเรียบเรียงสถานการณ์เมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองส่วนกลางพร้อมมือสากๆ ที่กอบกุมมันไว้แล้วขยับรูด

   "เสียว...ฮึก เร" มันคนละเรื่องกับตอนช่วยตัวเองเลยแม่ง...ผมสบตาสีน้ำเงินเป็นประกายนั่นอย่างเว้าวอน เหมือนถูกกดไว้แล้วกำลังกระเสือกกระสนสู่ผิวน้ำ "อย่า!...มัน..." นิ้วยาวแทรกเข้ามาในร่างช้าๆ เพราะชุ่มโชกของเจลจึงทำให้ไม่เจ็บปวดมากนัก อะไรๆ มันไวไปหมดจนไม่รู้ว่ามันไปหยิบเจลหล่อลื่นมาจากไหน การปรนเปรอจากด้านหน้าและหลังเล่นซะผมแทบคลั่ง ยิ่งไอ้เรเพิ่มจำนวนนิ้วเข้ามาเท่าไรยิ่งอึดอัดจนร่างแทบระเบิด...บ้าไปแล้ว นี่ผมกำลังจะโดนผู้ชายเอา แต่แม่งโคตรรู้สึกดี แล้วไอ้เรก็หยุดจนเผลอมองค้อนมันแบบขัดใจ?

   "อย่ายั่วสิ" มันบอก ใครเขายั่วเมิงงงง คิดไปเอง!!! ดวงตาสีน้ำเงินที่มองมา มันทั้งต้องการ และร้อนแรงจนแทบเผาผมให้ตายลงตรงนี้ ร่างสูงลุกขั้นยืนตรงปลายเตียงก่อนปลดเปลื้องพันธนาการทุกอย่าง เผยให้เห็นร่างกายกำยำที่ดูเซ็กซี่สุดๆ เมื่อบวกกับผิวสีแทนของมัน พาดผ่านด้วยรอยสักงดงามจนไม่อาจละสายตาได้ โดยเฉพาะตรงนั้นที่เริ่มตื่นตัวชวนให้ลมหายใจติดขัดขึ้นทันที เรจับขาผมแยกกว้างข้างหนึ่งเอาพาดบ่า ส่วนอีกข้างชันขึ้นกับพื้นเตียง ท่อนเนื้อร้อนรุ่มถูกจ่อตรงปากทาง ถูกไถเบาๆ เรียกเสียงครางกระเส่าจนผมนึกอายตัวเอง

   "อา จะเจ็บ บ...เบา" ผมผวาเอามือยันแผ่นอกกว้างอย่างตระหนก เมื่อความใหญ่โตนั่นชำแรกเข้ามาเบื้องล่างได้แค่ส่วนหัว เรหยุดพักให้ผมได้ปรับตัวพลางจูบปลอบไปพลาง ผมสูดหายใจลึกๆ ไขว่คว้าไหล่แกร่งเป็นหลักยึด อารมณ์ผมมาไกลเกินจะหยุดแล้ว ผมพยักหน้าเบาๆ บอกให้รู้ว่าพร้อมแล้ว...มั้ง!!!!

   "อ๊า... เร ฮึก" ผมร้องเมื่อแก่นกายร้อนๆ นั่นกดเข้ามาทีเดียวจนสุด น้ำตาไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ เผลอจิกข่วนร่างหนานั่นอย่างทรมาน มันเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ให้ความแข็งขืนเสียดสีด้านในจนเสียวซ่านระคนเจ็บ "ระ เร...กู อ๊า ถาม อ๊า ไรหน่อย ซี๊ด"

   "ถามว่า"

   "มึง ฮึก ชอบกูจริงๆ ระ...หรอ" คิ้วหน้าขมวดมุ่นอย่างขัดใจ ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เวลามาถามแต่อยากรู้ไง เอวหนากระแทกเข้ามาหนักๆ จนผมทั้งครางทั้งสะอื้น "โอ๊ย เร เบา ฮึก ซี๊ด ตอบกู อ๊ะ"

   "สำหรับมึง มันเลยคำว่าชอบไปไกลแล้ว" มันตอบพลางช้อนตัวผมลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตักมัน มือกร้านประครองสะโพกมนพลางกระแทกสวนรัวๆ แรงกดบวกกับน้ำหนักตัวทำให้อะไรๆ มันเข้าลึกโดนจุดกระสันจนแหงนหน้าครางลั่นด้วยความเสียวซ่าน  ห้วงอารมณ์ผมถูกฉุดไปไกลจนสติกระเจิดกระเจิงเกินย้อนกลับ เสียงทุ้มครางต่ำสลับกับรสจูบร้อนแรงทำเอาภาพตรงหน้าพร่าเบลอ ทำไมผมถึงเผลอตัวเผลอใจไปกับมันขนาดนี้นะ เพราะมันหล่อ เพราะมันดูแลเอาใจใส่ เพราะมันตามใจ หรือว่าผมเผลอชอบมันไปแล้ว

   "ไม่ไหว อ๊า เร อ๊า กู..." ผมครางไม่เป็นภาษาคลอไปกับเสียงหอบหายใจหนักหน่วงของร่างสูงความรู้สึกต่างๆ ถาโถมจนบอกไม่ถูกว่าสุขสมหรือทรมานแต่ช่างยาวนานจนปลดปล่อยออกมาในที่สุด
   "อา มีน" ไอ้เรกัดฟันกรอดก่อนจะเร่งจังหวะตามผมมาติดๆ ความรู้สึกอุ่นวาบเต็มตื้นตรงส่วนนั้น
   "เร..." เรวางผมลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาพร้อมถอนแก่นกายออกจนอะไรๆ มันไหลย้อนออกมาเลอะขาไปหมด ผมนอนหายใจหอบมองมันอย่างเหนื่อยอ่อนแข้งขามันหมดแรงไปหมดแถมตรงนั้นยังรู้สึกขัดๆ จนไม่อยากขยับให้เจ็บร้าวไปมากกว่านี้

   "ครั้งแรกหรอ" เชี่ย!!...ดูมันถาม

   "ครั้งแรกแล้วหนักหัวมึงหรอ" ผมคว้าหมอนฟาดมันเลย แม่งถามมาได้ ยัง...ยังจะมายิ้ม เกิดมาเคยผ่านแค่น้องนางทั้งห้ามันผิดมากหรือไง งอนสัด ได้กูแล้วก็มากวนตีน "ไม่ต้องมาแตะกูเลย งื้อ" แล้วมันฟัดแก้มผมจนหนำใจ ก่อนจะรู้หน้าที่ไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้แล้วล้มนอนลงข้างๆ ก่อนดึงผมเข้าไปกอด

   "ก็แค่ดีใจ" เสียงทุ้มกระซบบอกทำเอาร้อนผ่าวไปทั้งหน้า

   "มึงลืมอะไรหรือเปล่า" ไอ้เร!? มองผมแบบงงๆ "ใจคอมึงจะไม่ขอกูเป็นแฟนเลยหรือไง" มันหัวเราะเบาๆ พร้อมกอดผมแน่นขึ้น"ตอบเลย ถามเหี้ยอะไรก็เอาแต่ยิ้ม ก็เอาแต่หัวเราะเมากัญชาหรอ"

   "ก็เป็นเมียแล้วนี่ไง" โอเค...เข้าใจ พอ...ไม่ต้องจ้องกูแล้วเขิน  นอนครับนอน...ก่อนมันจะไม่ยอมให้ผมนอน

Talk Talk

-คิดภึงฉันไหมเวลาที่เธอไม่เจอะเจอกันกับฉัน :o8: มาอัพแล้วนะจ้ะ ช้ามากกขออภัย

-แบบไม่รู้จะบรรยาความรู้สึกการเปนเงือกยังไง ไม่ราบรื่นประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ :mew2:

-น้องมีนเสียซิงแล้วเย้ๆ :laugh:

-แอบเขียน น้องข้าสกับพี่หมอเล่นๆ อยุอะ แต่มันละนิ๊๊ดดดดด จนไม่รุจะเสร็จเมื่อไหร่ o18

   
   

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2015 22:38:36 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
กรี้ดด มีนน้อยกลับมาแล้วแต่ซิงหายไปแทน
น้องมีนน่ารักจังเลยพ่อลูกปลาน้อย. เอ๊ยเงือกน้อยสิ
เรรู้ล่ะสิว่าต้องกดปุ่มตรงไหนขาจะงอก.  อิอิอิ

สงสัยว่าท่านแม่จะไม่อยู่แล้วจริงๆเหรอ. สงสารจัง
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ. ชักสงสัยแล้วว่าหางของน้องสวยขนาดไหน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Abella

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหงือกน้อยโดนกินซะแล้วกลับร่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว เรร้ายกาจมาก มีนน่ารักที่สุดๆๆ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
น้องมีนร้อนแรงกันตั้งแต่ครั้งแรกเลยหรอ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ด เสียซิงเฉยเรยอ่ะมิน~~~~!!!
แต่ไม่เปนไร ได้ขาคืนมา แถมยังร้อนแรงขนาดเน้นี่เน้อ ^.,^

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
เงือกน้อยโดนเรเวนกินไปเรียบร้อยแล้ว 555 เสียซิงไปแล้วมีนจ๋า ต้องคอยดูว่าต่อไปมีนจะได้ออกโรงช่วยงานเรรึป่าวแล้วจะมีใครตามล่ามีนไหม ต้องเอาใจช่วย

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 9 When I fall...
[/b]


Amun-Ra Say

   ผมชื่อเร มีน้องชายฝาแฝดหน้าเหมือนแต่สันดานไม่เหมือนชื่อ เรน  เร มาจากคำว่า อมันรา หรือถ้าคุณจะอ่านแบบอียิป อ่านอมุนเรก็ได้ และมีเมียสดๆ ร้อนๆ ชื่อมีน หลายคนอาจสงสัยว่าผมไปคว้าเอาไอ้แว่นเกรียนนี้มาครอบครองได้อย่างไรในเมื่อผมเองก็ไม่ได้นิยมชมชอบเพศเดียวกันมาแต่เริ่ม มันเริ่มจากไอ้เรนน้องรักมันเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้นั่นเอง ในวันที่พวกผมกำลังไล่ล่าพวกบีสตามใบสั่งของสภาดันมีไอ้เด็กแว่นมาเห็นเข้า ตอนแรกไม่ตกใจหรอกเพราะกลิ่นไอของไอ้แว่นนั่นบอกให้รู้ว่ามันก็ไม่ใช่คน แต่ดันมายืนช๊อคตาค้างกับสิ่งที่เห็นราวกับไม่รู้ว่าตัวเองก็เป็นอมนุษย์ไม่ต่างกัน เราสองพี่น้องเลยเดาว่ามันคงคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา ไอ้น้องชายสุดรักเลยจัดการข่มขู่พอเป็นพิธี ผู้เห็นเหตุการณ์พยักหน้ารับคำด้วยความกลัว ยิ่งหันมามองผมทำหน้าอย่างกับเห็นซาตาน ออกจะหล่อขนาดนี้จะกลัวไปทำไม

   (เด็กนั่นน่ารักเนอะพี่)เสียงไอ้น้องชายดังในหัว อ้อ ที่เห็นผมเงียบๆ ส่วนหนึ่งเพราะผมกับไอ้เรนชอบโทรจิตคุยกันเพราะเราเป็นแฝดและเชื่อมถึงกัน ส่วนกับคนอื่นผมมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องคุยด้วย

   (ไม่รู้ ไม่ได้สังเกตุ)

   (อยู่มหาลัยเดียวกันด้วย ไม่พลาดแน่)

   ( เอาที่สบายใจเลยน้อง กูยังไม่อยากเป็นยอดชาย) ถามว่าไอ้เด็กนั่นหน้าตาดีไหม ไม่รู้สิใส่แว่นบังไปครึ่งหน้าซะขนาดนั้น ยิ่งไม่ใช่สาวนมโตผมคงไม่คิดจะแลตามอง

   (ได้เจออีกก็คงดี รู้สึกถูกชะตาอยากบอกไม่ถูก มันต้องเป็นพรมลิขิตแน่ๆ) แล้วน้องผมมันก็ทำหน้าเพ้อ ไม่ช้าไม่นานความปรารถนาของไอ้น้องเวรก็เป็นจริงเมื่อไอ้เด็กที่ว่านั่นดันเรียนคณะเดียวกันเอกเดียวกันกับผม แล้วมีหรอไอ้คู่แฝดผมจะไม่รู้ มันนี่รีบสั่งให้ผมตามติดชีวิตไอ้เด็กแว่นนั่นในทันที

   เราทั้งคู่มาสายเลยโดนรุ่นพี่บ่นยาว จากการแนะนำตัวเลยรู้ว่ามันชื่อมีน ชื่อแต๋วแตกชะมัด แถมไอ้เด็กนั่นยังผูกเน็คไทไม่เป็นจนต้องวานให้ผมช่วย มองมือสั่นๆ ที่ยื่นเนคไทให้ผมแล้วตลกชะมัด มันจะกลัวอะไรมากมาย ได้มองดูมันใกล้ๆ แม่งโครตขาวเลยวะ ขาวมากจนดูแทบจะเรืองแสง นี่คงเป็นลักษณะของเผ่าพันธุ์มันก็ได้ เราโดนลงโทษด้วยกันกว่าจะวิ่งรอบสนามเสร็จก็เที่ยง ครั้นจะสปีดรวดเดียวให้จบเดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันพอดีว่าผมไม่ใช่คน แต่ไอ้คนข้างๆ ที่นั่งหอบฮักๆ เป็นจะตายนี่สิเคยได้ยินว่าอมนุษย์บางเผ่าพันธุ์จะไม่มีพลังจนกว่าจะโตเต็มที่ผมว่ามีนคงเป็นแบบนั้น

   มีนเป็นคนมีสีสันในการใช้ชีวิตด้วยนิสัยที่เป็นคนเฮฮาและออกจะบ้าๆ ในบางครั้ง ทำให้ใครๆ ก็เข้าหามัน เพราะมันมักจะมีน้ำใจต่อคนรอบข้างเสมอดังเช่นวันแรกที่เจอทั้งที่กลัวผมจะเป็นจะตายมันก็ยังอุส่าฝากเพื่อนซื้อของกินมาให้ผมเพราะกลัวหิว  หรือแม้แต่เวลาที่โดนรุ่นพี่ใช้ไปทำอะไรหากไม่เหลือบากกว่าแรงมันก็ทำ ไม่แปลกใจเลยที่น้องผมรู้สึกถูกชะตากับมันมาก ขนาดผมเองที่คิดตอนแรกว่าการตามติดชีวิตมันคงหน้าเบื่อแต่ท้ายที่สุดกลับไม่เป็นอย่างนั้น การอยู่ข้างๆ มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน รู้ตัวอีกสายตาผมดันมาหยุดที่ไอ้แว่นเกรียนคนนี้เสียแล้ว

   ในวันที่มันถูกแฟนใหม่พะแพงกระทืบ ยอมรับเลยว่าผมฉุนจัด คนที่มักจะยิ้มแย้มกลับต้องทำหน้าเศร้า มันทำให้ทั้งโลกหมองลง หากไอ้มีนไม่ห้ามผมในวันนั้น พวกสวะนั่นคงถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ความรู้สึกผมมันชัดเจน ถึงแม้ว่าผมไม่นิยมผู้ชายแต่ผมชอบมันไปแล้ว นั่นแหละปัญหา ในเมื่อไอ้น้องรักก็ดูจะสนใจมีนเหมือนกันถึงขนาดยอมบอกเรื่องเผ่าพันธุ์ของเรายิ่งตอกย้ำว่าผมไม่ควรไปแทรกกลาง เมื่ออยู่ในสถานการที่ต้องเลือก แน่นอนผมต้องเลือกน้องชายผม พยายามแล้วที่จะไม่ใส่ใจ แต่ในวันที่มันเกือบโดนอมนุษย์เล่นงาน...ผมทำไม่ได้ ทั้งห่วง ทั้งโกรธ จนแทบคลั่ง ต้องหลีกหนีไปทำใจอยู่เกือบอาทิตย์เพื่อให้ไอ้เรนได้สมหวัง แต่ยิ่งห่างผมยิ่งคิดถึงมัน คิดถึงรอยยิ้มมัน เสียงของมัน หรือมือนิ่มๆ ที่มักจะจูงผมไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน สุดท้ายก็ทนความรู้สึกตัวเองไม่ไหวพาเท้าทั้งสองมายืนอยู่หน้าห้องในที่สุด เสียงร้องโวยวายของไอ้แว่นเกรียนทำเอาผมแทบจะพังประตูห้องเข้าไปถ้าไอ้เรนไม่ทักขึ้นก่อน

   (ไงพี่ กลับมาไวกว่าที่คิดนะ) เสียงร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ท่าทางไอ้แว่นมันจะขัดขืนสุดชีวิต

   (มึงทำอะไร)

   (จะปล้ำไอ้มีน ถ้าไม่มีอะไรไปที่อื่นก่อนก็ได้นะพี่) มันออกปากไล่ซะงั้น ควรจะทำตามที่มันบอกแต่ผมกลับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น...ไม่ได้!!!!

   (ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะเว้ย)

   (ไม่ถูกยังไง พี่มีเหตุผลดีพอที่จะให้ผมหยุดหรอ) เหตุผล?...มีสิ แต่ถ้าพูดไปน้องชายผมจะเสียใจไหม (ว่าไงไอ้พี่เร เอาแบบจริงๆ จากใจ ถ้ามันดีพอผมหยุดแน่) เสียงไอ้เรนยังถามซ้ำในความคิด จริงๆ จากใจนะหรอ...

   ปัง!!!! ผมผลักประตูเข้าไปอย่างแรง ไอ้แว่นเกรียนเหวอแดกไปแล้วครับ ส่วนไอ้น้องรัก แค่เห็นรอยยิ้มกวนๆ ก็รู้แล้วว่ามันแกล้งผม

   (มึงรู้!!?)

   (แหม อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ในท้องจะไม่รู้ได้ไงว่ามึงชอบใคร ไอ้พี่เร)  ไอ้มีนจ้องพวกผมพร้อมทำหน้างง เพราะไม่ได้ยินที่เราคุยกัน

   (แล้วมึงไม่ชอบมันหรอ)

   (ชอบ...แบบเพื่อน พี่ก็น่าจะรู้นิ ว่าผมรักใคร) ครับผมรู้ว่าเรนมันรักคนที่เป็นไปไม่ได้ ไอ้ที่มันทะเล้น เจ้าชู้ จีบคนนั้นคนนี้ไปวันๆ ส่วนหนึ่งเพื่อไม่ให้มันคิดถึงใครคนนั้นมากเกินไป สาเหตุที่ผมยอมถอยเรื่องมีนเพราะคิดว่าไอ้แว่นนี่คงทำให้น้องผมเปิดใจได้แต่กลับเป็นผมที่เผลอใจให้มันซะเอง

   ไอ้น้องเวรมันเฉลยทุกอย่าง ว่าที่มันทำมาเป็นแผนจับคู่ให้ผมกับมีน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้มันเจอดีแน่ แต่ตอนนี้อาจต้องขอบคุณแทนแล้วละเพราะมันช่วยให้ผมได้ไอ้แว่นเกรียนมานอนกอดดังเช่นในวันนี้

   ได้มองหน้ามันใกล้ๆ โดยปราศจากแว่นบดบัง บอกได้คำเดียวว่าแม่งโคตรน่ารัก แพขนตางอนยาว จมูกรั้นๆ และริมฝีปากแดงเรื่อ ดูตัดกันดีกับผิวเนียนขาวราวกับหยกที่ไร้ตำหนิจนอดไม่ได้ที่จะลูบไล้ร่างที่หลับใหลอยู่อย่างเพลินมือ เคยได้ยินมาว่าเงือกเป็นเผ่าพันธุ์ที่งดงามที่สุดเท่าที่โลกเคยมี เรื่องนี้ผมไม่เถียง ไม่ว่าจะในร่างมนุษย์หรือร่างของเงือกมีนสามารถดึงความสนใจจากผมได้เสมอ แต่นี่แหละคือสิ่งที่น่ากังวล เพราะพลังที่แสดงออกมาเต็มที่เมื่อได้สัมผัสกับทะเล ทำให้กลิ่นไอของมีนชัดเจนขึ้นจนผมนึกกลัวว่ามีนอาจถูกล่าเพราะไอ้ความเชื่อที่ว่าเนื้อของชาวเงือกทำให้เป็นอมตะ ถึงแม้สภากลางจะมีคำสั่งคุ้มครองชาวเงือกอย่างเข้มงวด แต่เผ่าพันธุ์นี้หากไม่ได้อยู่ในที่ของตนอย่างทะเลก็จะอ่อนแอไม่ต่างจากมนุษย์

   -Bitch better have my money!  Y'all should know me well enough.Bitch better have my money! – เสียงไอโฟนดังขึ้นตรงหัวเตียง

   “ไง” สิ่งเสียงซักนิดให้รู้ว่ามีคนรับเพราะเจ้าของโทรศัพท์ยังหลับไม่ตื่น

   “เร หรอ” เสียงแหลมแสบหู เจ๊ดาแม่ยายผมเองครับ “ไอ้มีนเป็นไงมั่ง”

   “ดีขึ้นแล้ว หลับอยู่” ผมสรุปสั้นๆ

   “ก็ดี ตอนแรกที่พวกพี่เข้าเล่าให้ฟังว่าสะพานพังแล้วมันตกไปในน้ำ ฉันนี่แทบช๊อคแต่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เดี๋ยวพวกฉันจะกลับวันนี้แหละ แกไม่ต้องรีบก็ได้ให้มันพักซักหน่อย ฝากดูมันด้วย แล้วก็ถ้าจะทำไม่ดีไม่ร้ายมันก็เพลาๆ หน่อยนะจ้ะ อิอิ” ร่ายเสร็จดาก็วางหูไป ผมหลุดยิ้มกับคำแซวของเธอ เพลาๆ หรอ ไม่ทันแล้วหละ เผลอเล่นแรงซะจนไอ้มีนนอนสิ้นฤทธิ์อยู่แบบนี้

   เมื่อวานไอ้มีนมันเครียดจัดเรื่องที่มันคืนร่างไม่ได้ ส่วนผมไม่ว่าร่างไหนมันก็น่ามองทั้งแหละ ตอนที่ผมไปส่งมายาที่บ้าน เธอดันนึกขึ้นได้ว่ามีอีกวิธีที่จะช่วยให้คืนร่างได้นั่นคือเซ็กซ์ วิธีการนี้เข้าท่าและน่าลอง หึหึ...เพราะอารมณ์ มีผลต่อการเปลี่ยนร่างของอมนุษย์ทุกประเภท ผมเป็นเรเวนผมยืนยันได้  อีกอย่างที่ผมยังไม่รีบรวบหัวรวบหางมันเพราะอยากให้เวลาเรียนรู้กัน แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเดินมาถึงขนาดนี้มีหรือผมจะไม่จัด...เอ้ย!!! ช่วยมันจริงไหม

   “อือ...ใครโทรมา” ไอ้มีนงัวเงียถามแบบคนไม่ตื่นดี ปรับสายตาซักพักแต่พอสบตามันก็รีบซุกลงกับอกผมด้วยความเขินอายกับสภาพของเราในตอนนี้

   “เจ๊ดา” ผมตอบพลางกอดมันแน่นขึ้น ความแนบชิดปราศจากอะไรมากั้นรับรู้ได้ถึงหัวใจมันที่กำลังเต้นแรงในตอนนี้

   “กูหิว...” มันบ่น “แต่กูอยากอาบน้ำก่อน แบบว่ามันรู้สึกไม่สบายตัว...มัน...”

   “ไม่สบายตรงไหน” ผมแกล้งซื่อ ไอ้อาการหน้าแดงไปไม่เป็นแบบนั้นเดาไม่ยากหรอก

   “ตรงนั้นแหละ” มันบอกเสียงแผ่ว “อ๊ะ!!!”

   “นี่หรอ” กระเซ้าถามพลางลูบก้นมันเบาๆ ก่อนจะสัมผัสช่องทางด้านหลังของมันที่ยังชุ่มเพราะสิ่งที่ผมทิ้งไว้เมื่อคืน ไอ้มีนทุบอกผมดังอั๊ก ทั้งโกรธทั้งอาย  ไอ้เงือกน้อยงอนแก้มป่อง จนผมอดไม่ได้ที่จะฟัดแก้มนิ่มๆ นั่นอย่างมันเขี้ยว ได้แกล้งมันแล้วมีความสุขชิบหาย ฟัดแก้มมันจนหนำใจจึงจัดการอุ้มมันไปอาบน้ำตามคำขอ

   “กูทำเองได้!!!! ไม่ต้องยุ่งเลย” ไอ้มีนโวยวายปัดป่ายมือผมออกจนน้ำในอ่างกระเซ็นเมื่อผมจะช่วยมันล้วงเอาน้ำที่ค้างในตัวออก มีหรือผมจะฟัง จับขาเรียวนั้นแยกกว้างก่อนจะค่อยๆ ล้วงเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มนั่นทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกคว้าไหล่ผมเป็นหลักยึด ช่องทางร้อนรุ่มตอดรัดนิ้วเรียว “อือ....ไอ้เชี่ย...เร” ดวงตาคู่สวยฉ่ำน้ำ คิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากอิ่มกัดแน่นอย่างฝืนกลั้น เมื่อผมควานนิ้วช้าๆ กวาดเอาสิ่งที่คั่งค้างออกมา มันไม่รู้ตัวหรือไงว่ายั่วผมอยู่ “อา...เสร็จยัง...วะ” ยัง...ยังมีหน้ามาถามเสียงกระเส่า เดี๋ยวต้องโดน

   “ยัง!!!” ผมบอกเสียงเข้มพร้อมกับความอดทนที่ขาดผึ่ง พาตัวเองลงไปนั่งในอ่างก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก จัดแจงท่าทางพร้อมรบทำเอาคนจะโดนกระทำเหวอแดกไปเลยครับ

   “มึงจะทำอะไร...” มันถามเสียงตื่น พยายามขืนตัวเต็มที่

   “เอามึง!!!” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะกดสะโพกมนลงบนแก่นกายรวดเดียวทำเอาร่างบางร้องลั่นน้ำตาซึม

   “ฮึก...กูเจ็บนะเว้ย มึงแม่ง...” เสียงหวานทั้งวีนทั้งสะอื้นจนต้องจูบปลอบ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนตามแรงปารถนา...ใครใช้ให้มันทำตัวน่ารักน่าเอาละครับ ผมไม่ผิดเลยซักนิด 

   "แล้วเมื่อไหร่ ฮะ!...กูจะได้กิน...อา...ข้าวว" มันยังจะถาม

   "ค่อยกิน!!!!" ก่อนมีนจะกินข้าวผมของกินมันก่อนเหอะ ไม่ไหวละ

 “อา...เร... อ๊ะ...”  เพียงแค่ขยับเบาๆ ก็เรียกเสียงครางเครือเร้าอารมณ์ของมันได้จนจังหวะช้าๆ ไม่อาจเติมเต็มความต้องการได้เพียงพอ ร่างกายของมันดูเปล่งปลั่งมากเมื่อเปียกน้ำ ผิวกายเรียบลื่นเป็นประกายดึงดูดให้ ทั้งมือทั้งปากสัมผัสไปทั่วร่างอย่างลุ่มหลง กดจูบริมฝีปากนิ่มๆ ที่เผยอครางอย่างไม่รู้จักพอ
 ไม่เคยคิดว่าจะตัวเองจะอาการหนักขนาดนี้ ตอนแรกผมสนใจมันที่นิสัย ยึดติดกับมันด้วยความชิดใกล้ และจมดิ่งไปกับความสวยงามที่ผมค้นเจอ ว่ากันว่าทุกคนต้องมีจุดศูนย์กลางในการชีวิต ผมว่าผมเจอแล้วแหละ...มีน มัสยา คือศูนย์กลางในชีวิตผม



Rain Say

   พี่ชายผมกำลังมีความสุข ที่รู้สึกได้เพราะเรามักเชื่อมถึงกันเสมอด้วยจิตวิญญาณ เรเวนมีพลังแห่งการหยั่งรู้ เพราะนกคือสัญลักษณ์แห่งการสื่อสาร ในอดีตสายเลือดของเราสำคัญเสมอในการรบเพราะการล่วงรู้แผนของศัตรูมักนำมาซึ่งความได้เปรียบเสมอ ถึงแม้สิ่งที่เรารับรู้นั้นไม่ชัดเจนและอาจเปลี่ยนแปลงได้คล้ายๆ กับทฤษฎีความน่าจะเป็น

 ตระกูลของเราเคยอยู่ในกลุ่มของซาโตนี่ (satanimus creed) ในตอนแรก และเป็นผู้สร้างประตูนรกขึ้นซึ่งมันถูกทำลายทิ้งไปแล้วตอนที่เราไปช่วยพี่โยนาห์คนรักของท่านอา ออกมาจากปราสาทอาร์เคน แต่เมื่อแนวทางของซาโตนี่เปลี่ยนไป เรเวนไม่เห็นด้วยกับแนวทางการทำลายล้างมนุษย์ขององค์กรจึงแยกตัวออกมาในรุ่นพ่อแม่ผม ท่านทั้งสองจึงถูกกำจัดเพราะล่วงรู้ความลับของซาโตนี่มากเกินไป เราสองพี่น้องถูกตามล่าทั้งที่ยังเล็ก ตอนนั้นเราทั้งคู่เพิ่งสิบขวบด้วยซ้ำแต่ก็รอดพ้นทุกอย่างมาได้เพราะเร พี่ชายฝาแฝดของผม พี่แข็งแกร่งกว่าผมมากและปกป้องผมมาตลอด ทั้งที่คิดว่าต้องหนีไปทั้งชีวิต แต่สวรรค์ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเราทั้งคู่เมื่อได้พบกับ อีคารอส ผู้นำของตระกูลซานซิโอคนปัจจุบัน และเป็นเพื่อนรักของพ่อแม่แท้ๆ ของเรา ท่านพ่อรับอุปการะเราทั้งสองเป็นลูกบุญธรรม ให้ครอบครัวที่แสนอบอุ่นและรอยยิ้มกับเราอีกครั้ง

   วินาทีแรกที่ผมเจอมีนรับรู้ได้ว่าเด็กนั่นเป็นคนพิเศษและมีบางอย่างผูกพันกับพี่ชายผม อย่างที่บอกเรเวนมีพลังแห่งการหยั่งรู้ แม้พละกำลังผมจะด้อยกว่าไอ้เรแต่พลังด้านนี้ผมมีมากกว่ามัน บอกเลยว่าผมถูกชะตาไอ้เด็กแว่นคนนี้มาก ทั้งที่เป็นผู้ชาย แต่ก็น่ารักมากแถมยังมีกลิ่นไอเฉพาะตัวที่สัมผัสได้เมื่ออยู่ใกล้ๆ จนเผลอออกปากชม แต่เหมือนไอ้เรจะไม่สนใจสิ่งเหล่านั้นเพราะมันไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกันแบบผมจนนึกหมั่นไส้มันขึ้นมา แผนจับคู่ของผมจึงเริ่มขึ้น เรทำเพื่อผมมามากพอแล้วถึงเวลาที่น้องอย่างผมต้องตอบแทน โดยการหาใครซักคนมาทำให้ชีวิตพี่ชายผมมีความสุขจริงๆ ซักที

   ไอ้พี่เรมันสมหวังไปแล้ว ส่วนผมคงต้องพยายามต่อไป ดันไปรักคนที่สูงกว่าก็ต้องทำใจ แต่ใช่ว่าจะยอมแพ้หรอกนะ ระหว่างนี้ ที่ควงๆ ถือว่าซ้อมรบไปก่อน เพราะผมกำลังพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นและมีคุณค่าเทียบเท่ากับคนๆ นั้น เมื่อวันนั้นมาถึงผมจะได้บอกกับคนที่ผมรักอย่างภาคภูมิใจและคู่ควรจะดูแลใครคนนั้นตลอดไปจริงๆ


Talk Talk
[/b]

-ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษผู้อ่านทุกท่านที่หายหัว เนื่องจากการทำงานกว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำ และติดเกมส์ The wicher 3 กาเรธหล่อมาก ฉากอาบน้ำ แซบเว่อ  :jul1:

-ยังยืนยันจะเขียนต่อไปต่อให้เหลือคนอ่านแค่ไหนเราก็จะเขียน เพราะการได้ถ่ายทอดจินตนาการคือความสุขของเรา  :mew2:

-รูปน้องมีนในร่างเงือกเอามาไถ่โทษ ให้อภัยข้าน้อยเถอะน้าาาา :z3:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2015 18:44:12 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เรนชอบใคนอยุ่น้ออ :hao3:

เรก็หื่นซะ !!! :hao7: :mew1:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อิมเมจของเร เปลี่ยนไปเมื่ออ่านตอนนี้จบเบย อิอิ ^.,^
เรน รักใครน๊าาาา แต่เหมือนตงิดๆจะเดาได้นา

ปล. รอจร้าาาา แต่มาต่อบ่อยน๊า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:     :mew1:    o13.  Finnnnn มาก
มีนสวยมากในร่างมัจฉา. กรีดร้องด้วยความฟินกับคู่รักหมาดๆ
ทีนี้หางคงไม่งอกง่ายๆใช่ไหมก็เล่นโดนกระตุ้นตลอดๆจากเร
น้องเรนน่ารักอ่า อยากให้น้องสมหวังมีความสุขบ้าง
เป็นห่วงนายเอกของเราอีกแล้วอ่า. พ่อห่วงเพราะแบบนี้เอง

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
เอาแล้วเว้ย!! ไม่ค่อยเลยนะเร ไม่ทันไรหลงเมียซะแล่ะ แต่ก็ดี ทีนี้มีนมีแต่อันตรายน่ะสิ อยากเห็นพลังของมีนจังว่าจะทำไรได้บ้าง
น้องเรนน่ารักมาก เอาใจช่วยให้น้องมีความสุขเหมือนพี่ชายน้าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กลัวมีนจะท้องก่อนแต่งจัง  :haun4:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 10 Couple
[/b][/b]


   ชีวิตคนเราไม่แน่นอนเหมือนชีวิตไอ้มีนผู้นี้ก็ไม่มีอะไรแน่นอนเลย เปิดเทอมวันแรกก็เจอไอ้คู่แฝดนรกที่มันไม่ใช่มนุษย์ แต่มันเป็นเรเวนมีปีกบินได้ แถมแรงควายยิ่งกว่าซุปเปอร์แมน สองพี่น้องทำงานให้สภาล่าเหล่าอธรรม เหอๆ อย่างกับในหนัง แถมไอ้คนพี่ยังเอาแต่แผ่รังสีอมหิตจนผมปฏิญาณกับตัวเองว่าผมจะไม่เข้าใกล้มันเด็ดขาด เอาไปเอามามันกลับกลายเป็นคนที่อยู่ใกล้ผมมากที่สุด เหมือนอวัยวะที่สามสิบสามก็ว่าได้

   หลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นเงือกอะไรๆ มันก็เปลี่ยน เหมือนเรากุมความลับระดับโลกเอาไว้  ไม่ว่าใครก็กำชับนักหนาว่าห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดแม้แต่อมนุษย์ด้วยกันเพราะมีความเชื่อที่ว่าเนื้อของเงือกทำให้เป็นอมตะ ฟังเขาบิ้วมากๆ เริ่มระแวง ชนิดที่ว่าไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้สระน้ำเพราะกลัวจะกลายร่างแบบไม่ตั้งใจแล้วโดนลากไปทำซาซิมิ

   "วันนั้นที่สะพานพังลงมากูตกใจชิบหาย" ไอ้กรมันกำลังรำลึกเหตุการณ์ตอนไปรับน้องในยามพักเที่ยง "ใจกูนะอยากช่วยมึงนะเว้ย แต่กู ว่ายน้ำไม่เป็นวะ" ก่อนจะจบท้ายประโยคเสียงเบา

   "กลัวตายก็บอก ไอ้ก้องมึงเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตอนม.ปลาย ทำไมไม่ลงไปช่วยเพื่อน" เจ๊ดาหันไปแว้ดใส่ไอ้ก้องแทน

   "โถ่ เจ๊กูยังไม่ทันตั้งท่าก็มีพระเอกพุ่งหลาวลงน้ำไปก่อนกูแล้ว" มันรีบแก้ตัว "แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่ะ เพราะพวกพี่แม่งไล่กูกลับก่อน บอกเดี๋ยวก่อเรื่องเพิ่ม เลยไม่รู้ว่าไอ้เรมันช่วยมึงยังไง" มันว่า พร้อมตบบ่าผม

   "เชี่ย...ตบขนาดนี้ทุบเลยไหม" ไอ้ก้องมันจะฆ่าผมแล้ว เท่าที่ฟังคงไม่มีใครนอกจากเร และพี่โยที่รู้ว่าผมเป็น
เงือก...สบายใจไปอีกเปลาะ
 
   “หูยยยยยย !!!! ไอ้มีน กูอิจฉาวะ” อีเจ๊ดามันเขย่าคอเสื้อผมรัวๆ เมื่อเมื่อก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ถูกนำมาถวายตรงหน้าด้วยฝีมือไอ้ท่อนไม้ของผม ก่อนที่มันจะนั่งลงข้างๆ พร้อมกับชามของมัน

   “เจ๊ก็รีบหาแฟนซักทีเถอะ เอาไอ้กรก็ได้ มันก็ไม่มีใครเอาเหมือนกัน...โอ๊ย!!!” ไรวะคนอุส่าแนะนำยังจะมาตบหัวกันอีก
   “กูไม่อยากให้ลูกขาสั้น”

   “อ่าว อีเจ๊ ถามกูยังว่าจะเอามึงเปล่า” จากนั้นสงครามน้ำลายก็เริ่มขึ้น เจ๊ดากับไอ้กรเนี่ย...ผมว่าเถียงกันมากๆ เดี๋ยวก็ได้กันเชื่อสิ

   “เดี๋ยวพวกกูไปหาซื้อข้าวแปป ไอ้เตี้ย เจ๊ เอาไร” ภูผาว่า

   “เหมือนมึง” แล้วมวยคู่เอกก็ตอบพร้อมกันก่อนจะหันไปกัดกันต่อ ผมได้แต่ส่ายหัวเอือมๆ กับมันสองตัว

   มองก๋วยเตี๋ยวในชามตรงหน้าแล้วรู้สึกเขินวะ ผมชอบกินบะหมี่ไม่ใส่ถั่วงอก ไอ้เรมันก็ซื้อมาให้ถูกต้องเป๊ะทั้งที่ไม่ได้บอก มันเป็นความใส่ใจเล็กน้อยๆ แต่ก็รู้สึกดี ดวงตาสีน้ำเงินมองมาประมาณว่า มีปัญหาอะไร กินไม่ได้หรือ หรืออะไรประมาณนั้น เดี๋ยวนี้กูอ่านใจคนได้ด้วยหรอ...ท่าจะบ้า มองหน้าเรมากๆ แล้วจะขาดใจ คนอะไรไม่ขาวก็ดูดีได้ จึงเลือกเบนสายตามองรอบแก้เก้อแต่แบบจากอารมณ์ดีๆ เริ่มขุ่นมัวขึ้นทันใด ทำไมนะหรอ...ก็พวกลิงค่าง บ่างชะนี เล่นจ้องคนข้างๆ ผมอย่างกับจะกลืนกิน บางคนก็มองมาที่ผมแบบเหยียดๆ บ้างกูซุบซิบนินทา ประมาณว่าไอ้แว่นอย่างผมมานั่งเสล่ออะไรข้างๆ เทพบุตร...หงุดหงิด รู้สึกตัวเองสาวแตกขึ้นทุกวัน นั่น...สาวโต๊ะนั้นกำลังเดินมาทางเรา...คงมาขอเบอร์ไอ้เรชัวร์…ไม่ได้โว้ย!!!

   “กินปะ” ผมคีบลูกชิ้นในชามป้อนคนนั่งข้างๆ ไอ้เรงับมันเข้าปากอย่างว่าง่าย ทำเอาสาวสวยที่ว่าจะเดินเข้าหาเราถึงกับชะงัก “ยิ้มอะไร กูจ่ายค่าที่มึงเดินไปซื้อมาให้เฉยๆ หรอก อย่ามาหลงตัวเอง ไม่มีใครเขาหวงมึงเล้ยยย” แล้วกูจะเสียงสูงทำไม เปล่าร้อนตัวนะครับ เรยักคิ้วกวนๆ ใส่อย่างล้อเลียนก่อนที่มันจะก้มลงมาจุ๊บปากแล้วหันกลับไปกินต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่สนใจเสียงฮือฮาของคนรอบข้าง ทิ้งให้ผมเหวอแดก หน้าแดงไปไม่เป็นอยู่ข้างๆ ส่วนผู้หญิงคนที่กำลังจะเดินมา เจ้าตัวรีบถอยทัพกลับไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนในทันที

โอ๊ยยยยย ทำอะไรเกรงใจคนโสดอย่างกูมั่งเถอะ นี่มันโรงอาหารนะ” เสียงแหลมกรีดร้อง ก่อนที่เพื่อนๆ จะรุมแซวผมยับ แซวเลย น้องมีนไม่ตอบโต้ เขินอยู่เข้าใจไหม

ก่อนที่ผมจะโดนเดอะแก๊งรุมทึ้งไปมากกว่านี้ พี่โยก็เดินมาหาเราพร้อมกับฝรั่งตัวสูงๆในเสื้อชอปคณะวิศวะ พี่คนนั้นยิ้มให้ผม ดูจากผิวที่ขาวจนซีดคงไม่ใช่มนุษย์แน่ชัวร์

“พี่โย...หวัดดีครับ/ ดีค่ะ” พวกผมยกมือไว้พี่เขาตามมารยาท

“มีอะไรให้รับใช้พี่” ผมถาม

“พี่นะไม่มีหรอก พาไอ้รอทมาหาหลานชายนะ” ผมหันมองตามพี่เขาบอก นี่นะหรอท่านอาของไอ้แฝดนรก ยังเรียนอยู่เลย แถวยังหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวขนาดนี้

“อามึง ยังไม่แก่เลยนี่หว่า” ไอ้กรเอ่ยแซว

“มันอายุเยอะกว่าที่เห็นนะ...จริงไหมลุง” พี่โยตอบยิ้มๆ คนถูกพาดพิงก็แค่ยิ้มรับ ก่อนจะหันไปคุยอะไรบางอย่างกับหลายชาย พร้อมเอาเอกสารอะไรซักอย่างให้ไอ้เรอ่าน คือผมก็อยากเสือกนะว่าคุยอะไรกัน แต่แม่งฟังไม่ออกอะ อังกฤษจ๋ามาเลย คงเป็นเรื่องงานนักล่าของมันละมั้ง แต่ดูจากสีหน้าไอ้เรคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่  ไอ้เรหันมามองผมด้วยสายตาวิตก ชวนให้ร้อนๆ หนาวๆ ว่าเกี่ยวอะไรกับผมหรือเปล่า ยิ่งทำให้อยากรู้ยิ่งขึ้น ...ผมควรถามมันไหม? มีสิทธิ์ที่จะถามหรือเปล่า แล้วมันจะมองว่าผมก้าวก่ายเรื่องงานของมันแค่ไหน เอาเถอะ ถ้ามันอยากบอกคงบอกเองละมั้ง

   ไอ้เรมันเงียบ เอ่อ...ปกติมันก็ไม่พูดอยู่แล้วนี่ คือจะให้อธิบายยังไงดีละ...เอ่อ มันดูนิ่งกว่าปกติเหมือนมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา ตั้งแต่กลับจากมหาลัยมา มันก็เอาแต่นั่งอยู่หน้าคอมค้นนู่นหานี่ ส่วนไอ้เรนกลับมาก็ป่วนผมเลยครับ ท้าผมดวลวินนิ่งจนล่วงเลยไปถึงมื้อเย็น ไอ้เรนจึงจัดการลากพี่มันออกจากคอม*มานั่งร่วมโต๊ะอาหาร เดี๋ยวนี้ผมย้ายมาอยู่คอนโดไอ้เรเต็มตัวแล้ว น้องมีนเปล่าแรดนะเว้ย!! แต่ก่อนก็ไปๆ มาๆ นั่นแหละ แต่เวลาผมกลับไปนอนหอไอ้เรมันก็ตามมาด้วย นึกสงสารไอ้แฝดน้องที่ต้องอยู่คนเดียว เหมือนผมมาแย่งพี่ไปจากมัน เลยย้ายมาอยู่คอนโดของไอ้แฝดเรเวนเต็มตัว

   "กับข้าวเป็นไงมั่ง" ไอเรนถาม วันนี้ไปซื้อแกงถุงมากินครับ ขี้เกียจทำ

   "มึงทำอร่อยกว่า" ไม่ได้ยอเกินจริงนะ มันทำกับข้าวอร่อยจริง

   "ชมขนาดนี้ แย่งเมียพี่ผิดไหมวะ" ผัวะ! แล้วเรนก็โดนพี่มันตบหัวทิ่มทันที "เออ หวงนักนะ เก็บให้มิดนะ กิ๊กทั้งหลายมึงนะ จะเอามาแฉให้หมด" แล้วมันก็ทิ้งระเบิดให้พี่มัน ผมไม่เชื่อหรอกแต่...

   "ว่าแต่...จริงหรอวะ กี่คน" คิดไปคิดมามันก็เป็นไปได้ คนอย่างไอ้เร อยู่เฉยๆ สาวก็วิ่งเข้าหาแล้ว ไอ้ท่อนไม้เนี่ยมันร้ายลึกดูอย่างพี่ลูกแก้วเหอะ ไม่ถึงอาทิตย์มันยังได้แอ้มเขาเลย

   "เห้ย!!! กูแหย่เล่น" ไอ้เรนร้อนรน หลังจากโดยสายตาเสียดแทงจากพี่มัน

   "กูก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น!!!"

   "เอ้อ คืนนี้นอนคนเดียวนะจ้ะ พวกกูต้องออกไปทำงาน" แฝดน้องบอก

   "ไปทั้งคืนเลยหรอ"

   "ใช่ อามาขอให้ช่วยนะ ถ้ากลับช้า ขาดเรียนยังไงก็ช่วยลาให้ไอ้เรมันด้วยนะ" ถึงว่าไอ้เรมันดูจริงจังกว่าปกติ ระหว่างที่ไอ้สองพี่น้องไปเตรียมตัวทำภารกิจผมจัดการเก็บกวาดโต๊ะ พร้อมล้างถ้วยล้างจานให้เรียบร้อย มาอาศัยเขาเลยต้องทำตนให้เป็นประโยชน์ซักนิด ผมไม่ใช่นังแจ๋วประจำบ้านหรอกนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป สลับๆ กันล้าง บางทีก็ช่วยๆ กัน ตามความสะดวกตามสภาพอารมณ์

   ผมจัดแจงติดกระดุมช่วยไอ้ท่อนไม้ เชิตสีดำเข้ากับดีกับกางเกงยีนสีซีดๆ แม่งดูหล่อเถื่อนมากมาย เรนบอกว่าพวกเราส่วนใหญ่แพ้อาวุธจำพวกเงิน หากถูกยิงกระสุนหรือถูกแทงด้วยอาวุธที่ทำจากเงินอาจบาดเจ็บสาหัสจนถึงตายได้ แต่ก่อนตอนที่รู้ว่าพวกมันทำงานเป็นนักล่าให้สภากลาง ในสายตาผมมันเป็นงานที่โครตเจ๋ง ดูเท่เอามากๆ คิดเสมอว่าระดับไอ้เรจัดการทุกอย่างได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันเปลี่ยน ยอมรับตรงๆ เลยว่าเป็นห่วงมัน คนเราผิดพลาดกันได้ แต่งานที่มันทำแม่งโคตรอันตรายผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิต ไม่ยักรู้ว่าผมเป็นพวกคิดมากขนาดนี้...เฮ้อ!!!

   "ระวังด้วยมึง" เรยิ้มรับพร้อมดึงผมเข้าไปกอดพร้อมจูบหน้าผากผมเบาๆ จากที่หน้าบึ้งหลุดยิ้มเลยครับ ^////^

   "คือพวกกูไปออกล่า ไม่ใช่ไปถูกล่า ร่ำลากันอย่างกับจะไปตาย" ไอ้เรนแซวแรง...อิจฉากูละสิ

   "เออ ไปซักทีเหอะชิ่วๆ"

   และแล้วคืนนี้น้องมีนก็ได้นอนคนเดียว...ซะที่ไหน ผมโดนพวกพี่ตั้มลากออกมาสังสรรค์ที่ผับแถวมหาวิทยาลัย พี่แกจะเลี้ยงไถ่โทษที่ผมตกสะพาน ของฟรีมีหรือไอ้มีนจะพลาด ตามมาด้วยแก๊งสามช่า ก้อง กร และภูผา ส่วนเจ๊ดานั้นวันนี้เป็นกุลสตรีครับไม่เที่ยวกลางคืน

   "ผัวไม่มาหรอวะ" ไอ้เตี้ยกรแซว

   "มันออกไปธุระกับน้องมัน"

   "จริงเหรอมันอาจไปหลีสาวก็ได้ แค่ตอแหลมึงไปงั้น" แล้วมันยังเสี้ยมต่อ ถ้ามันรู้ว่าสองพี่น้องทำงานอะไรมันคงไม่พูดแบบนี้

   "พี่ หวัดดี" พวกพี่ตั้มแอนด์เดอะแก๊งยกมือทักทาย

   "มาๆ ไอ้น้องมีนที่รัก มาให้พี่ตั้มกอดปลอบขวัญหน่อย" ว่าแล้วพี่แกก็ลากคอผมไปล๊อคเลยครับ กลิ่นเหล้านี่หึ่ง เมาแต่หัววันเลยพี่กู...ร่ำสุราพากันแดนซ์ สาวๆ แต่ละคนนี่แบบนุ่งน้อยห่อมน้อยจนอย่างจะบอกพวกเธอว่าถอดเถอะจ๊ะ พี่ขี้เกียจลุ้น แต่สรวงสวรรค์อยู่กับเราได้ไม่นานเมื่อ ภูผามันสะกิดผมให้ดูบางสิ่ง

   "ไหนว่ามันไปธุระกันวะ" ไอ้ก้องบ่น

   ตรงที่นั่งโซน VIP แฝดนรกกำลังหัวเราะต่อกระซิกกับสาวสวยที่ลุ้มล้อม คำถามมากมายผุดขึ้นให้หัวผมจนหน่วงไปหมด ไหนว่าไปทำงาน ไอ้เรนหันมาเห็นผมมันดูตกใจก่อนสะกินให้พี่มันมองตาม ผมจ้องทั้งสองอยู่แบบนั้นโดยเฉพาะเร ดวงตาสีน้ำเงิมองผมนิ่งๆ ชวนให้อึดอัด ลุ้นว่ามันจะทักผมไหม เดินมาหาหรือไม่ แต่เปล่าเลยมันหันกลับไปราวกับไม่ได้เห็นผมอยู่ตรงนี้....ทำไม!? รู้สึกหน้าชา ผมอยากรู้ว่าทำไมพวกมันถึงมาที่นี่ ผู้หญิงรอบๆ ตัวมันนี่เรียกงานใช่ไหม แต่ผมไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปถาม ท่าทีเฉยชาของเรทำให้ผมลังเล...ว่าผมยังมีสิทธินั้นด้วยหรอ

   "เอาไงวะ" ภูผามันถาม ...เอาไง...ผมไม่รู้

   "พากูกลับที" ผมตอบเสียงเครือ ก็แค่รู้สึกแย่เอามากๆ ไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้ในที่ที่มันมองเห็นแต่กลับไม่สนใจมันต่างจากตอนที่เจอพะแพงควงพี่น๊อตมาต่อหน้า เพราะตอนนั้นเราเป็นแฟนกันแค่สถานะ และลมปาก แต่กับไอ้เรตั้งแต่เราเริ่มเปิดใจให้กันก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำอะไรร่วมกันตลอด ผลกระทบต่อจิตใจจึงมากกว่า

   "กลับคอนโดนะหรอ"

   "เปล่า...กลับหอกู" เพื่อนทั้งสามพยักหน้ารับก่อนจัดการล่ำลารุ่นพี่ เจ้าภาพอย่างพี่ตั้มโวยวายเล็กน้อยที่ผมกลับไวแต่เมื่อเห็นสีหน้าแย่ๆ ของผมแกเลยยอมแต่โดยดี

   อา...คิดถึงห้องนี้จัง ผมไม่ได้นอนหอตัวเองมาเกือบสองอาทิตย์ โชคดีที่ปิดประตูหน้าต่างหมดฝุ่นจึงไม่เยอะเท่าไหร่นัก ไอ้สามเกลอเสนอตัวจะอยู่เป็นเพื่อนแต่โดนไล่กลับ ผมไม่ใช่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องฟูมฟาย เวลาเฮิธก็แค่อยู่เงียบๆ คนเดียวแล้วทำใจ พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ตัดสินในสิ่งที่เห็น ไว้ค่อยถามเจ้าตัวตรงๆ อีกทีดีกว่า...แต่ว่ามันก็ชัดแล้วนิ ที่มันเมินใส่ขนาดนั้น

   "บ้าเอ๊ย...!" ผมสบถ อย่างอดกลั้น มันไม่จำเป็นต้องทุรนทุรายอะไรเลยแต่แค่หน้าไอ้เรลอยมาในความคิดทำไมน้ำตากูไหลวะ ผมยอมแพ้ตัวเองและไม่ฝืนอีกต่อไป นอนร้องไห้เงียบเงียบๆ อยู่บนเตียง ทั้งฤทธิ์เหล้าเมื่อรวมกับความเจ็บปวดในใจชวนให้ร่างกายเหนื่อยล้าจนผล๊อยหลับไปในที่สุด

   แกรก!! เสียงบางอย่างดังมาจากระเบียงปลุกผมขึ้นมาตอนรุ่งสาง เหมือนกำลังพยายามเปิดประตูเข้ามา...หรือว่าจะเป็นโจร!? คิดได้แบบนั้นผมจึงรีบก้าวลงเตียงรูดผ้าม่านออกเพื่อให้เห็นบุคคลที่อยู่หลังกระจกนั้น

   "เร!!!" ไอ้เราก็ลืมคิดไปห้องอยู่ตั้งชั้นห้าโจรที่ไหนจะบ้าปีนขึ้นมา ใจหนึ่งผมคิดจะเดินหนีไปด้วยความน้อยใจแต่พอเห็นสภาพอิดโรยกับเนื้อตัวมอมแมมของมันร่างกายกลับทำในสิ่งตรงข้าม ทันทีที่ประตูกระจกเปิดออกร่างสูงก็รวบผมเข้าไปกอดไว้แน่นจนได้กลิ่นเลือดจากตัวมัน ลมหายใจของมันถี่ราวกับกำลังกลัว

   "อย่าหายไปไหนโดยไม่บอกกูอีก" เสียงทุ่มสั่นเครือ "กูกลัว...ว่าใครจะเอามึงไป" ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วบอกเลยว่าโกรธมันไม่ลง ถึงแม้เมื่อคืนผมต้องนอนร้องไห้เพราะมันก็ตาม

   "กูก็แค่โมโห..." ผมตอบเสียงแผ่ว "ที่มึงเมินกู"

   "เฮ้ย!!!! มึงเลือดออก" ผมร้องลั่นเมื่อผละออกมาจากอ้อมแขนมัน คาบเลือดเลอะเต็มเสื้อผมเลยครับ มองสำรวจคนตรงๆหน้าชัดๆ ทำเอาใจตกไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อกลางอกเป็นรอยเล็บบาดลึกจนเสื้อขาด แถมตามแขนยังมีรอบบาดอีกมาก
   "กูไม่เป็นไร"ใบหน้าคมที่ยิ้มตอบดูเหนื่อยอ่อนบอกให้รู้ว่าไอ้เรมันฝืนตัวเองแค่ไหน

   "ไม่เป็นไรบ้านมึงสิ เลือดออกขนาดนี้" ผมร้อนรน ไอ้ที่โกรธเคืองกันช่างมันก่อนเถอะ "หาหมอ...ไปโรงพยาบาล...กูพาไป...อื้อ" ไอ้เรจูบผมหนักๆ ก่อนเดินไปล้มตัวลงนอนนิ่งอยู่บนเตียง

   "พักซักหน่อยก็หาย" คนเจ็บบอกก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ผมมองบาดแผลตามตัวมันที่ค่อยๆ สมานตัว...แล้วถอนหายใจแบบโล่งอก จึงจัดแจงถอดเสื้อขาดๆ ของมันทิ้งพร้อมกางเกงยีนจนเหลือแต่บ๊อกเซอร์แล้วลุกไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มัน กดซับไปตามร่างกำยำนั้นอย่างเบามือ คุณคงเคยได้ยินใช่ไหมที่คู่รักบางคนทะเลาะกันจนแทบไม่มองหน้า แต่พอเช้ามาภรรยายังเตรียมกับข้าวกับปลาให้สามีเหมือนเดิม เพราะเธอคิดว่าอีกคนสำคัญกว่าเรื่องไร้สาระพวกนั้น

   "ที่กูทำแบบนั้น" คนที่คิดว่าหลับไปแล้วลืมตามามอง "มันเป็นแผน ผู้หญิงพวกนั้นเป็นเด็กของคนที่เป็นเป้าหมาย พวกกูจึงต้องเข้าไปตีสนิท กูเห็นมึงแต่ถ้าลุกหนีงานก็พัง กูรู้ว่ามึงต้องโกรธมากๆ ขอโทษนะ"ดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นเต็มเปลี่ยมไปด้วยความรู้สึก จนผมนึกละอายใจเมื่อมองดูบาดแผลมากมาย ถึงเลือดจะหยุดไหลถึงมันจะหายเองได้ แต่มันต้องเจ็บมากแน่ๆ เรไม่สนใจสภาพตัวเองกลับตามหาผมจนเจอ

   "กูสำคัญขนาดที่มึงไม่รักตัวเองเลยหรอ" ผมถามเสียงเครือ น้ำตาซึม...ขี้แยชะมัด

   "ก็กูรักมึงมากกว่า" ...เว่อ!!!!! คำตอบที่ได้รับทำเอาผมร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ด้วยความซาบซึ้ง นอกจากป๋ายังไม่เคยมีใครบอกรักผมเลย เรยิ้มกว้างพลางเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้แล้วดึงผมล้มลงไปนอนกอดก่อนจะประทับริมฝีปากลงมา ถ่ายทอดทุกความรู้สึกผ่านจูบรสหวานของเรา

   "เชี่ย พอ...มึงยังเจ็บอยู่" ผมผละออกจากตัวมัน เมื่อมือกร้านเริ่มเลื้อยเข้าสาบเสื้อ เกือบเคลิ้มแล้วไหมละ ใบหน้าคอมดูขัดใจเต็มทน "พักผ่อนเลย...เดี๋ยวไม่หาย ไม่งั้นกูจะหนีไปให้ไกล เอาแบบที่มึงตามไม่เจอเลย" ผมขู่

   "งั้น ถ้าหายจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม" เรยิ้มร้าย พลางเกลี่ยเบาๆ ที่แก้มผม ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายจนต้องหลบสายตาเจ้าเล่ห์นั้นด้วยใบหน้าร้อนผ่าว...ในหัวแม่งมีแต่เรื่องนั้นหรือไงวะ...แต่ดูถ้า ผมไม่ตอบมันคงไม่ยอมนอน...งั้นก็

   "อืม เอาที่มึงสบายใจเถอะ" -/////-   


Talk Talk
[/b]

-มาต่อแล้วจ้าขอโทษที่ช้า อาทิตยืที่ผ่านมาไปสัมนาบริษัทที่ต่างจังหวัดอะ :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2015 18:00:45 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
โอยยย คิดว่าจะหนักกว่านี้ซะแล้ววว

เข้าใจกันดีจริง แต่เรเนี่ยบาดเจ็บอยู่ก็ยังไม่หยุดหื่นนะ555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
เราคิดว่าเรแมนๆดีนะ ไม่พูดมากแนวลงมือเลย. จูบเลยจ้า สาวๆผงะกันไป
แถมอ่านใจได้สินะ อีกหน่อยยิ่งไม่ต้องพูดใหญ่เอาเวลาคุยไปสื่อสารกันทางกายแทนดีกว่าใช่ปะ

ชอบค่ะยิ่งอ่านยิ่งชอบ พี่น้องคู่นี้ดูมีอะไรๆแถมน้องมีนเองน่าจะยังมีปริศนาอยู่อีกเยอะ

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ชอบเรอ่ะ คนแมนก็งี้ ตรงๆมั่นคงจริงใจ ชอบนิสัยเรนะดูแคร์คนสำคัญดีอ่ะ
น่ารักมาก ชอบๆ แต่เราว่าอนาคตอันใกล้นี้ต้องมีเรื่องเกิดกับมีนแน่ๆ แล้วมีนมีพลังพิเศษไงบ้างน๊า

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
สมกับชื่อตอน Couple
โมเมนต์สามีภรรยามากเต็ม ฮิ้ววว!! ^///^

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
อยากรู้จังว่าคนที่เรนชอบจะเป็นใคร บางทีเรก็หื่นไปนะ

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 11 Deal
[/b]

"สรุปเมื่อคืนเป็นยังไง" ผมโดนเจ๊ดาลากมาเค้นคอก่อนกลับบ้าน วันนี้มีเรียนครับ หลังจานอนนิ่งๆ เป็นหมอนข้างให้ไอ้เรซักพักผมก็อาบน้ำแต่งตัวมาเรียน ส่วนไอ้ท่อนไม้นอนฟื้นสภาพอยู่ที่ห้อง

   "คุยกันแล้ว มันเป็นงาน" ผมอธิบาย แต่เล่าหมดไม่ได้

   "มึงนี่ เขาบอกงานก็เชื่อหรอ งานแบบไหนยะ ไปนั่งนัวกับสาว" ผมชักสงสัยแล้วสิว่าไอ้เรเนี่ยผัวใคร ดูเจ๊มันแค้นเคืองแทนผมซะเยอะ คงเพราะพวกแก๊งสามช่ามันมาเล่าให้ฟัง

   "เอาเป็นว่ากูรู้ว่ามันทำงานอะไร แต่บอกไม่ได้เข้าใจไหม งานของที่บ้านมัน"

   "มึงไม่ได้แก้ตัวแทนมันใช่ไหม" ไอ้กรย้ำ ผมส่ายหน้ายิก "โอเคกูเชื่อมึงก็ได้ แต่ถ้ามีแบบนี้อีกนะ ต่อให้มึงยอมให้อภัยมัน แต่พวกกูยาก บอกเลย" ถึงพวกมันจะชอบด่าผม แต่เวลาแบบนี้เพื่อนผมก็รักผมมาก ดูอย่างตอนพะแพงสิ เจ๊ดาเกือบตามไปตบ

   "แล้วนี่ผัวมึงไปไหน"

   "ช้ำในเจ๊ โดนตีนมานิดหน่อย นอนอยู่ห้อง จะตามไปดูไหม" พวกมันทำหน้าคิดก่อนจะปฏิเสธแล้วเราทั้งหมดก็แยกย้าย ไอ้เรนไลน์มาบอกให้ผมดูพี่แทนมัน ส่วนตัวมันจะเข้าไปเคลียรายงานเรื่องคดีเมื่อคืนที่สภากลางของพวกอมนุษย์ ผมละอยากรู้จริงๆ ได้ตึกสภากลางที่ว่าเนี่ยข้างในจะเป็นแบบไหนนะ เดินเข้าไปจะมีตัวประหลาดเพ่นพ่านไปมาแบบมอนสเตอน์อิงค์หรือเปล่า ก่อนกลับหอผมแวะซื้อข้าวหมูกรอบไปสองห่อเผื่อไอ้ท่อนไม้ของผมด้วย

   "เป็นไงมั่งมึง" ผมโผล่หน้าเข้ามาในห้องแต่เรไม่อยู่ที่เตียง กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยจากระเบียงบอกให้รู้ว่ามันสิงอยู่ตรงนั้น ชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแสดงว่ามันอาบน้ำแล้ว ร่างสูงยืนพ่นควันทำตัวชิวอยู่ตรงนั้นแต่พอเห็นผมมันก็ดับบุหรี่โยนทิ้งทันที

   "มึงสูบด้วยหรอ" มันพยักหน้ารับ "กูไม่เคยเห็นเลย"

   "เวลาเครียด"

   "เรื่องอะไรสนใจระบายให้กูฟังไหม" ผมถามพลางเอนหลังพิงระเบียงข้างๆ แต่มันก็ยังนิ่ง "กูสำคัญกับมึงหรือเปล่า" มันพยักหน้ารับ

   "มึงก็สำคัญกับกูเหมือนกัน เพราะงั้น เล่าให้กูฟังบ้าง แบ่งมาบ้างปัญหาของมึงนะ ถึงช่วยอะไรมึงไม่ได้ แค่รับฟังเป็นที่ปรึกษาให้มึงก็ยังดี" ผมจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำเงินนั่นหวังว่ามันคงเห็นความจริงใจของผม

   เมื่อดูทีท่ามันคงไม่พูดอะไรผมจึงตัดสินใจเดินหลบออกมาปล่อยมันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยของมันไป คือ...แอบน้อยใจนะ ไม่ว่าจะในสถานะเพื่อนหรือคนรัก มันก็ยังไม่บอกอะไรผมเช่นเคย ขี้เกียจจะเดา...ผมไม่ใช่เรเวน ไม่มีญาณหยั่งรู้ มันคิดว่ามันแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่คนที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ แบบผมก็อดห่วงมันไม่ได้ทุกที ผมแกะข้าวใส่จานให้เราทั้งคู่ พลันรู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่โอบกอดผมจากด้านหลัง เรเอาคางเกยไหล่ ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดข้างแก้มชวนให้ประหม่าอย่างห้ามไม่อยู่

   "งอล?" เสียงทุ้มกระซิบถาม มือทั้งสองยังแกะถุงกับข้าวต่อไม่สนใจคำถามนั้น "มีน..." ผมเงียบ...ให้มันรู้ซะบ้างว่าผมรู้สึกยังไง "มีน...เป็นไร" ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนมัน...ว่าแต่มึงจะกอดกูอีกนานไหม จะเอาขยะไปทิ้งเนี่ย...! "อย่างอลนะ" ไม่ต้องมาอ้อนเลย...ไม่ใจอ่อนหรอก

   ฟอด...แล้วมันก็หันมาเล่นงานแก้มผมแทน...เริ่มเสียศูนย์แล้วทำไงดีวะ

   ฟอด...มึงจะหอมอะไรเยอะแยะ พยายามเอี้ยวตัวหลบแต่ไร้ผมเมื่อมันล๊อคไว้อย่างนี้

   ฟอด...ช้ำ...แก้มกูช้ำหมดแล้ว

   ฟอด...เขินโว้ย!!!! พอกันที

   "ไอ้เหี้ยเร!!!" ผมหันไปว๊ากใส่มัน ไม่ต้องสาธยายว่าหน้าผมแดงแค่ไหน ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเพราะเขินกันแน่

   "ครับ...ที่รัก" โอยยย...ไอ้มีนลาตายแปป

   "มึงจะเอายังไง"

   "ยังไงก็ได้ ได้ทุกท่า" คนหล่อยิ้มร้าย ในหัวมึงมีแต่เรื่องนี้หรือไงวะ

   "สัด ทะลึ่งแล้ว... ให้เล่าก็ไม่เล่า แล้วยังจะมากวนตีนกูอีก ปล่อย!!! จะแดกไหมข้าวอะ" ผมบ่น มันยอมปล่อยแต่โดยดี ก่อนที่เราทั้งคู่จะทิ้งตัวลงเก้าอี้ตรงข้ามกัน โต๊ะอาหารห้องผมไม่ใหญ่ เหมือนเป็นที่วางของซะมากกว่า จัดการมื้อเย็นตรงหน้าก่อนที่ไอ้คนกวนตีนกว่าจะถูกไล่ไปล้างจาน

   "เล่ามาให้หมด!" ผมสั่งขณะนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง มันนั่งลงข้างๆ พร้อมเอนหลังพิงหัวเตียงสบายๆ

   "พวกซาโตนี่ (Satanimus Creed องค์กรบูชาซาตาน) อยากให้พวกกูเข้าร่วมองค์กรมัน มันอยากให้กูช่วยสร้างHell Gateให้ เพราะอันเก่าถูกทำลายทิ้งไป และต้นตระกูลเรเวนสร้างมันขึ้นมา วิธีการถูกถ่ายทอดเป็นรุ่นๆ เพราะเรเวนมีพลังแห่งการหยั่งรู้ และยังเป็นตัวแทนของการเชื่อมต่อระหว่างภพ มันจึงตามยื่นขอเสนอต่างๆ ให้กูกับเรน" ซาโตนี่หรอ อารมณ์แบบผู้ก่อการร้ายในหมู่อมนุษย์สินะถึงว่าช่วงนี้ เรดูเครียดกว่าปกติ

   "แล้วมึงจะเข้าร่วมหรอ"

   "ไม่มีทาง พวกมันฆ่าพ่อแม่กูนะ" เสียงทุ้มแข็งกร้าว "แต่มันคงทำทุกวิถีทางให้พวกกูสร้างสิ่งที่พวกมันต้องการให้ได้ ตอนนี้มันอาจพยายามคุยดีๆ แต่ท้ายที่สุด พวกสารเลวแบบนั้นคงต้องใช้วิธีการสกปรกบังคับกูแน่...และสิ่งหนึ่งที่คือกลัวคือการที่มึงถูกดึงไปเอี่ยวด้วย..." ผมพยักหน้าเข้าใจ เพราะงั้นเมื่อคืนเรมันถึงได้ร้อนรนตามหาผมสินะ

   "กูจะระวังตัวให้มากที่สุด" ผมบอกพลางเอื้อมไปกุมมือมันไว้

   "อย่าอยู่ห่างกู" จริงจังซะเหลือเกิน

   "อืม...รู้แล้วน่า กูอยู่ตรงนี้ไง"

   "ไหน..." อีกาเจ้าเล่ห์ทำฟอร์มมองไม่เห็นก้มหน้าลงมาจนแทบชิด มือถือในมือกับแว่นโดนมันกำจัดไปไว้โต๊ะข้างเตียง...ลางไม่ดีอีกแล้วกู...ไม่มีสิทธิจะโวยวายเพราะคุณท่านเล่นปิดปากผมเรียบร้อย เรื่องลวนลามขอให้บอก ไอ้ห่าเรผู้นี้ว่องไวยิ่งกว่าใคร ร่างทั้งร่างถูกมันคร่อมไว้เรียบร้อย ปากมันก็จูบไป ขบเม้มริมฝีปากผมเบาๆก่อนจะแทรกลิ้นชื้นมาหยอกล้อในปาก จูบเก่งนักใช่ไหม...จูบตอบแม่งเลย ผมลองขบเม้มริมฝีปากนิ่มๆ นั้นบ้าง ไอ้เรยอมล่าถอยอย่างรู้งานให้ผมได้เป็นฝ่ายระรานสอดลิ้นเข้าไปสัมผัสในปากมัน...แม่งโคตรตื่นเต้นเลย ใบหน้าคมเอียงรับขยับนำพารสจูบของเรา มันสอนผมทำตาม กลายเป็นจูบดูดดื่มในบัดดล ลิ้นร้อนตอบรับกันชวนให้หัวหมุนสติเริ่มหลุดมีแต่อารมณ์ล้วนๆ

   "พัก...แฮกกกก...แปบ" ผมรีบโกยอากาศเข้าปอดทันทีที่เป็นอิสระ "อือ...พอ...อ๊ะ....เดี๋ยวยาว" จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอชวนให้จั๊กจี้ ผมดันหน้ามันออก เรถอนหายใจหนักๆ อย่างขัดใจ

   "บอกเองนิ ว่าถ้าหายแล้วจะทำอะไรก็ได้" นั่นมีทวง

   "มึงยังจำได้อีก อ๊ะ เร...ซี๊ดดดด" ร่างทั้งร่างสะท้านเฮือกเมื่อยอดอกถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว

   "น่า...เห็นดิ้นทีไรก็ยอมทุกที นะ นะ ไม่ได้เอามาสองสามวันแล้ว" ดูมันต่อรอง แล้วมันก็ดึงมือผมไปสัมผัสตรงเป้ากางเกงมัน เนื้อผ้าบางๆ ทำให้รู้สึกถึงความแข็งขืนใหญ่โตนั่นชัดเจน...ทำเอาหน้าร้อนผ่าวด้วยความกระดากอาย

   "มึงมันหื่น..."

   "ไม่สงสารหน่อยหรอ...มันรอมึงมาทั้งวันแล้วนะ" คือปกติมึงไม่เห็นพูดขนาดนี้ แม่ง...ไอ้เรเวนขี้เอา

   "ช่วยตัวเองสิวะ" ผมโวยหน้าดำหน้าแดง

   "แล้วจะมีเมียไว้ทำไม" แง้...ไม่มีอะไรจะเถียง ยอมๆ มันไป ไอ้คนมือไวจับผมลอกคราบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์ดีเชียวนะ

   "อา...เร...ทำไมมึงขยันเรื่องแบบ...ซี๊ด....อ๊ะ จังวะ" โอยเหนื่อยกว่าจะจบประโยค หลุดครางซะเยอะเมื่อลิ้นร้อนลากผ่านไปตามตัวก่อนจะละเลงยอดอกทั้งสองสลับกันทำเอาผมบิดเร่าด้วยความเสียว มือกร้านลูบไล้ไปทั่วร่างแต่กลับแกล้งละเลยมีนน้อยอย่างจงใจ

   "เพราะมันรู้สึกดี มึงอยากรู้ไหมว่ากูรู้สึกแบบไหน" มันยิ้ม ยิ้มแบบที่ทำให้ผมละลาย

   "จะทำอะไร...เร..." ผมเอ่ยถามอย่างหวาดๆ เมื่อมือกร้านรั้งขาของผมขึ้นพาดบ่าแล้วดึงมือผมไปเลียจนชุ่มก่อนสัมผัสช่องทางเบื้องล่างของของผมเองแล้วบังคับให้สอดนิ้วเข้าไป รับรู้ถึงความคับแน่นและอ่อนนุ่มในร่างของตน "อ๊า มัน...เร กูไม่ทำได้ไหม....อื้อ แฮก มัน น่าอาย"

   "ลองดู...เซกซี่ดีออก" ลองช่วยตัวเองให้คนอื่นดูเนี่ยนะ บ้าไปแล้วววว"ตรงนี้ด้วย" มืออีกข้างถูกดึงไปกอบกุมมีนน้อย ก่อนที่เรจะรั้งให้ผมขยับรูดตามความยาว ซาบซ่านจนครางเครืออย่างทรมาน นัยน์ตาสีน้ำเงินลึกล้ำที่จ้องมากระตุ้นให้ทำตามอย่างเสียไม่ได้

   "อา...ฮะ เร" ครางเองอายเอง ดูมันนั่งเป็นผู้ชม บรรเทิงมากไหม เขินจนร่างจะไหม้อยู่แล้วเนี่ย ภายในกายบีบรัดนิ้วจนชาหนึบ ยิ่งขยับมือปรนเปรอตัวเองเท่าไรอุณหภูมิภายในยิ่งพุ่งสูงมากเท่านั้น  ใบหน้าคมทอดมองอย่างหลงใหล ท้าทายให้แสดงออกถึงความอยากแบบลืมผิดชอบชั่วดี กัดปากนิดยั่วเย้า ดูสิว่ามันจะทนดูอยู่แบบนั้นไอ้แค่ไหน อึดอัดทรมาน ทั้งมือทั้งแขนอ่อนล้าเกินกว่าจะพาตัวเองไปให้สุด ทำได้เพียงสบตาร่างสูงอย่างอ้อนวอน..."เร...กูไม่ไหวแล้ว...ช่วย ที"

   "ด้วยความยินดี" ราวกับนักล่าที่เฝ้ารอ ทันที่ผมออกปากร่างสูงโถมทับพร้อมมอบจูบอันร้อนแรง นิ้วถูกดึงออกก่อนจะแทนที่ด้วยแก่นกายที่สะสมด้วยแรงอารมณ์แข็งขืน ท่อนเนื้อร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้ามาถึงจัเจ็ฐแต่ก็สร้างความรัญจวนจนแทบครั้ง เผลอจิกข่วนแผ่นอกแกร่งตรงหน้าระบายความซาบซ่าน "อือ...รัดแน่นจัง"

   "เชี่ย....ฮะ อย่าทัก ซี๊ด....อ๊า" แบบไม่ต้องบรรยายได้ไหม...เรยิ้มขันก่อนก้มลงมาจูบก่อนจะระรานฝากรอยไปทั่วแล้วเริ่มขยับเอวช้าแต่หนักหน่วง สอดลึกจนโดนจุดกระสันจึงจิกทึ้งหัวมันอย่างลืมตัว "เร...ไว...ไวอีก แฮก ซี๊ด เร็ว"

   "อืม...มีน วันนี้มึงโคตรเด็ด" มันชม...แต่ผมไม่มีสติจะมาภูมิใจ เมื่อเอวหนากระแทกกระทันจนเสียงเนื้อกระทบกันดังคลอไปกับเสียงครางกระเส่าจนลั่นห้อง ข้างห้องจะด่าผมเปล่าเนี่ย!!!...ร่างของผมโยกคลอนไปตามแรง เหมือนร่างกายตอบสนองต่อความอยาก ผมคว้าไหล่มันเป็นหลักยึดพลางรั้งร่างขยับรับทุกจังหวะที่มันโถมแรงเข้ามา...เสียวสัด..."โครตรักมึงเลยมีน..."

   "อืมม...กูก็รัก ฮะ มึง" ในยามปกติคงมัวกระดากอาย ไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้สติกระเจิดกระเจิง จิตใจที่แท้จริงจึงตอบกลับไปทันควัน  บอกรักกันเวลาแบบนี้ มันควรซึ้ง หรือรู้สึกยังไงดี ภายในกายร้อนระอุเจียนระเบิด ทุกสัมผัสทุกจังหวะที่เรมอบให้ทำเอาแทบคลั่ง ทั้งครางทั้งสะอื้นจนลืมอาย...รู้สึกถึงตัวตนอีกฝ่ายได้ชัดเจนเพราะภายในตอดรัดแน่นถี่เกินควบคุม ความรู้สึกของเราสองถูกปลดปล่อยเมื่อถึงที่สุดของอารมณ์ มันเลอะไปทั่วหน้าท้องของผม ขนาดที่ภายในเต็มตื้นไปด้วยไออุ่นจากอีกคน ตอกย้ำให้รู้ว่าผมเป็นของมัน เราเป็นของกันและกัน

   "ฮะ...ไอ้เชี่ยเร กูเหนื่อยแล้ว โอ๊ยยยย ซี๊ด" ผมบ่นเสียงแผ่วเมื่อทั้งร่างถูกมันจับพลิกให้คว่ำทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมกันอยู่ ท่อนเนื้อแกร่งครูดช่องทางที่ยังชุ่มทำเอาเสียวจนร้องลั่น

   "ขออีกรอบเดียว นะ" มึงจะมานะทำไม แม่งไม่รอคำตอบแต่กลับใส่ไม่ยั้ง จนไม่เหลือจังหวะให้ปฏิเสธอีกต่อไป

   "แล้วกูจะได้...อ๊ะ อาบ ฮ้า น้ำมั้ย วัน...เชี่ยเร..." พอเลิกพูดไปคงไม่จบประโยค

   "เดี๋ยวอาบให้ ตอนนี้เป็นเด็กดี....อืม อย่าดื้อ" ดื้อพ่องงง...กูจะไปเอาแรงที่ไหนมาดื้อฮะ ไอ้รอบเดียวนะของมัน แต่กว่ามันจะจบรอบเดียวผมที่เสร็จไปหลายรอบ นอนหมดสภาพให้มันกระทำชำเราจนหนำใจ...ตาย ตาย ไอ้มีนผู้นี้จะตายคาเตียงไหมคืนนี้

 
   ...คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เหมือนไอ้เชี่ยเร...เห็นมันนิ่งๆ เงียบๆ แต่บนเตียงท่วงท่ามาเพียบนะจะบอกให้....


Talk Talk
[/b]

-รีบมาลงรีบพิม ไม่ได้ทวนเพราะเดี๋ยวไป ตจว.

-เรแม่งงงง หื่นวะ  :o8:

-รักนะจุ๊บๆ
   

   
   
   
   


   
   

   

   
   
   
   
   
   
      


   
   

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2015 15:08:22 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   ฟินไปนะเร

แหม มีนร้อนแรงจังเลย แบบนี้ไม่หื่นก็ไม่ได้สิ
แอบกลัวว่ามีนจะเป็นอะไร หาคนมาคุ้มกันน้องทีสิ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด