[เรื่องสั้น] ❆ At the beginning of the end ❆ (จบในตอน) 25/12/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ❆ At the beginning of the end ❆ (จบในตอน) 25/12/58  (อ่าน 4536 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


สวัสดีค่ะ
นำเรื่องสั้นมาแบ่งปันค่ะ
เราลองเขียนฉากที่ไม่เคยเขียนดู
อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างช่วยบอกด้วยนะคะ
 :pig4:
Lavender's blue

งานเขียน
[เรื่องสั้น] เรา (จบในตอน)
[เรื่องสั้น] At the beginning of the end ❆ (จบในตอน)
★ Lucky! ดีกว่านี้ไม่มีแล้ว ★ จบแล้ว
Just Love ❤ รักนะครับ จบแล้ว
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2016 20:45:21 โดย Wendy »

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
At the beginning of the end
Story by Lavender’s blue




 



บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัดได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของคนข้างกาย ป้ายรถประจำทางภายในมหาวิทยาลัยข้างสระน้ำขนาดใหญ่ยามนี้ปราศจากผู้คนต่างจากช่วงเวลากลางวันสถานที่แห่งนี้มักเต็มไปด้วยเสียงจอแจของเหล่านักศึกษาชายหญิงที่มาคอยรถโดยสารเพื่อไปยังอาคารเรียนต่างๆ



โทรศัพท์มือถือบอกเวลาสามทุ่มกว่า แสงสว่างจากเสาไฟสีนวลเผยให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งผมสีดำสนิทในทรงตามสมัยนิยมแผ่นหลังกว้างในเสื้อเชิ้ตสีขาวปล่อยชายเสื้อออกมาด้านนอกคลุมสะโพก ต่ำลงมาเป็นช่วงขาเพรียวยาวในกางเกงแสลคสีดำ เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นเป็นจังหวะยามก้าวเดิน



เขาหลุบสายตาจากกายของคนด้านหน้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองมาที่มือของตนเองซึ่งขณะนี้ถูกเกาะกุมไว้จนอุ่น ฝ่ามือหนาที่จับอยู่ไม่แน่นไม่หลวมหากบิดข้อมือปฏิเสธคงทำได้โดยง่าย แต่ก็เลือกที่จะไม่ทำ เพราะอะไรนะ


“เมื่อยหรือเปล่า” คนที่เดินนำอยู่ราฝีเท้าลงมาเดินเคียงกัน พอถามจบก็ส่งยิ้มอวดลักยิ้มสวยอย่างเคย เขย่ามือที่เกาะกุมไว้น้อยๆ อย่างเรียกร้องความสนใจ


“มาไกลขนาดนี้ เพิ่งจะถาม?”


“โธ่ ยังไม่แก่สักหน่อย แค่นี้ไม่เหนื่อยหรอกใช่ไหม” พูดจบก็กระชับฝ่ามือแน่นเข้า


เขาได้แต่ส่ายหน้ากับคำพูดที่เหมือนจะห่วงใยนั่น สุดท้ายไม่ว่าอย่างไร คนตรงหน้าก็มักจะสรุปเองอย่างเอาแต่ใจซึ่งเขาก็ไม่เคยขัดเลยทุกครั้ง


“ทำไมมาจอดถึงนี่ล่ะ” ลานจอดรถที่เห็นอยู่อีกฝั่งของสระน้ำโล่งเหลือรถยนต์จอดอยู่ไม่กี่คัน

“ที่จอดเต็ม วันนี้เข้ามาตอนบ่าย” สายลมปลายเดือนธันวาคมแม้จะไม่หนาวมากแต่คนที่เอาแต่นั่งอยู่ในห้องปรับอากาศทั้งวันต้องห่อตัวน้อยๆ เมื่อแขนขยับอีกคนจึงหันมา

“หนาวเหรอ?”

“นิดหน่อย”

“มานั่งนี่ก่อน”



โดนบังคับให้นั่งลงบนม้านั่งยาวตรงป้ายรถเมล์ คนข้างกายคลายมือที่กุมกันไว้ออกแล้วคว้าเอากระเป๋าของเขาไป รื้อค้นจนทั่วแล้วนั่นล่ะจึงจะพบของที่ต้องการ ยื่นเสื้อคลุมตัวบางสีเทาอ่อนมา




“ชวนไปออกกำลังกายด้วยกันก็ไม่ไป เห็นไหมพอโดนลมนิดหน่อยก็หนาวแล้ว” ปล่อยให้อีกคนบ่นไปเรื่อย หยิบเสื้อคลุมสวม

“ก็ไม่ชอบ”

“เดี๋ยวก็ไม่สบายอีก วิตามินที่ให้ไป ได้กินบ้างหรือเปล่า”

นึกถึงขวดสีน้ำตาลใสขนาดพอดีมือ เพิ่งได้มาเมื่อเดือนก่อน เอาไปวางไว้ที่ไหนแล้วนะ คงจะเผลอคิดนานไปหน่อยคนข้างกายคงพอเดาถึงสาเหตุที่ไม่ตอบได้ จึงถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“ไม่กินอีกแล้ว ต้องทำยังไงถึงจะดูแลตัวเองสักทีล่ะ” น้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจเขาอดไม่ได้ต้องยิ้มออกมา

“เอาน่า ยังไม่ป่วยเลย” 

“ไม่อยากต้องรอให้ป่วยก่อนถึงจะสนใจสักหน่อย”



นั่นสินะ ทำไมต้องรอให้เกิดเรื่องก่อนทุกทีจึงจะสนใจอย่างถ้อยคำบ่นปนห่วงใยนั่นด้วย แสงสีอ่อนสะท้อนภาพของคนพูดทำแก้มพองลมอย่างแสนงอน เขาหัวเราะเบา ท่าทางอย่างนั้นช่างไม่เข้ากับใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายเอาเสียเลย คนขี้งอนพูดจบก็คว้ามือไปกุมไว้บีบแล้วคลายเป็นจังหวะหันหน้าไปอีกทาง


“ประชุมเหนื่อยไหม” เขาเอี้ยวตัวไปมองหน้าคนที่หันหน้าหนีไม่ยอมสบตา

“นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” ตอบเสียงสะบัด

“ฮะฮะ ไม่งอนสิ”

“จะง้อก็ง้อดีๆ สิ มีอย่างที่ไหนเอาเรื่องงานมาง้อ” เขาเลิกคิ้ว โดนรู้ทันด้วยแฮะ

“แล้วจะหายไหม” เมื่ออีกคนหันกลับมาสบตา เขาเอียงคอถามยกยิ้มที่มุมปาก

“เล่นถามแบบนี้ก็ต้องหายป่าววะ” ว่าแล้วก็บีบมือแน่นแล้วเขย่าไปมา เปลี่ยนใบหน้างอง้ำเป็นยิ้มกว้างทันตา เขาส่งยิ้มจนปิดให้ สบตากันก็หัวเราะออกมาอย่างไม่มีเหตุผล


แต่หากจะให้หาเหตุผลล่ะก็ ... คงเพราะสุขใจล่ะมั้ง






 
ลมเย็นพัดมาเป็นระรอกส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ส่ายไหว ส่งเสียงซู่ซ่าเริงระบำเป็นเงาตะคุ่ม ไกลออกไปหลังสระน้ำเป็นสนามฟุตบอล แสงไฟจากสปอตไลท์ดวงใหญ่ส่องให้เห็นผืนหญ้าสีเขียวกว้าง นักกีฬาหลายคนวิ่งไล่ลูกกลมๆ ได้ยินส่งเสียงโห่ฮาลอยตามลมมาเป็นระยะ


เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำสนิท คาดหวังท้องฟ้าพร่างพราวด้วยแสงดาว แต่ทว่าคืนนี้ท้องฟ้าไม่มีดวงเลยสักดวง

 





“เป็นแฟนกันเถอะ”








ฝ่ามือไม่ได้ถูกเขย่าอีกต่อไป มันถูกกุมไว้จนรู้สึกอุ่น ... กว่าทุกครั้ง
คำพูดแผ่วเบานั่น หรือเขาจะหูแว่วไปเอง
 


 








ปล่อยให้เวลาผ่านไป ไม่กล้าเอ่ยเสียงใดรบกวนโมงยามที่สงบสุขราวกับต้องมนต์นี้ ถ้าเพียงแต่คนที่กุมมือเขาอยู่จะเอ่ยคำพูดออกมาอีกครั้งด้วยเสียงหนักแน่นช้าชัดอย่างที่เคยได้ยินเสมอ ไม่แผ่วเบาและรวดเร็วตามลมปลิวอย่างเมื่อครู่
บางทีถ้อยคำที่ได้ยินเมื่อครู่ เจ้าตัวอาจไม่ได้ตั้งใจพูดออกมาก็ได้

 









ดำดิ่งกับความคิดของตนเองเนิ่นนานเมื่อลมหนาวพัดมาอีกคราว ครั้งนี้เขาสะท้านจนความอบอุ่นจากฝ่ามือหนาที่เกาะกุมกันไว้หายไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่รู้สึกตัวเลย



เขาหันไปถามคนที่นั่งเงียบราวกับจมอยู่ในความคิดของตนเองเช่นเดียวกัน

“กลับกันไหม”

“ไปสิ”


ชายหนุ่มรุ่นน้องสะดุ้ง ยกมือขึ้นลูบหน้าตาราวกับเพิ่งตื่น ลุกเดินนำไปยังลานจอดรถ ติดเครื่องรถยนต์จากนั้นจึงขับออกไปด้วยความนุ่มนวล บนรถไม่มีบทสนทนาใดนอกจากเสียงเพลงจากวิทยุที่เปิดคลอไว้ผ่อนคลายบรรยากาศที่เปลี่ยนจากสบายๆ เป็นน่าอึดอัด






รถยนต์เข้ามาจอดหน้าอาคารสูง เขาเปิดประตูลงจากรถอ้อมไปด้านฝั่งคนขับ ทำมือให้เลื่อนกระจกลง

“กลับบ้านดีๆ นะ” ใบหน้านิ่งเฉยดูผ่อนคลายลง

“อืม”

“อย่าขับเร็ว” ถ้าไม่เตือนคงจะขับรถเร็วอย่างเคย คนขับยกยิ้มพริบตาเดียวก็กลับมาตีหน้านิ่งพยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยเสียงติดรำคาญ

“ขึ้นห้องได้แล้ว หนาวไม่ใช่หรือไง”

“ไปก่อนสิ” ยังไม่ยอมไปง่ายๆ เพราะจะยืนส่ง


ฝ่ามืออุ่นยื่นออกมานอกกระจก ไล้ปลายนิ้วสัมผัสแก้มแผ่วเบาเพียงเสี้ยววินาทีก็ผละไป โบกมือไปมาแล้วเร่งเครื่องออกส่งถนนสว่างโล่งยามค่ำคืน




สัมผัสอุ่นที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีกระจายความอบอุ่นไปทั้งร่างกาย
ช่างเป็นบุคคลที่อันตรายจริงๆ   
 

 






 
.

.

.






เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ใกล้เข้ามา บรรดาห้างร้านไปจนถึงถนนหลายสายถูกประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟน้อยใหญ่หลากสีสันแพรวพราว ผู้คนออกมาชื่นชมบรรยากาศอันอบอวลไปด้วยความสุขนี้ รอยยิ้มเผื่อแผ่แก่กันและกันส่งมอบความปรารถนาดีต้อนรับสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต



“ยิ้มอีกแล้ว” เสียงทุ้มห้าวกระซิบข้างหู เขาละสายตาจากแสงไฟวิบวับสีอ่อนตรงหน้าหันมาสบตากับคนข้างกาย

“สวย” ถนนสายหลักของกรุงเทพมหานครยามนี้ถูกประดับด้วยแสงไฟนับล้านดวงบนต้นไม้ใหญ่ทุกต้น เสาไฟทุกเสาไม้เว้นแม้กระทั่งกำแพงรั้วสูงของอาคารต่างๆ ตลอดสาย

“บอกว่าอย่ายิ้มเยอะไง” คำตอบที่ได้รับคงจะทำให้เจ้าของเสียงไม่พอใจ ส่งเสียงจิ๊จั๊กมุ่ยหน้า เขาจินตนาการว่าหากเจ้าตัวเป็นเด็กคงจะต้องลงไปกระทืบเท้าตึงตังเป็นแน่


“มีความสุขไม่ให้ยิ้มเหรอ”

“ยิ้มได้แต่อย่ายิ้มแบบนี้” มือที่แกว่งไกวถูกคว้าไปกุม ฝ่ามืออบอุ่นช่วยขับไล่ความเย็นไปจนหมด

“ยังไงล่ะ” เขาหัวเราะกับท่าทางเอาแต่ใจของคนตัวใหญ่ ถามจบก็เริ่มออกเดินนำอย่างไม่สนใจคำตอบ


กลายเป็นว่าตอนนี้เขาเดินจูงมือคนตัวสูงใหญ่ให้เดินตามต้อยๆ ในสายตาของคนนอกมันคงเป็นภาพที่แปลกน่าดู

“ไม่ชอบ” รอยยิ้มของเขามันมีปัญหาตรงไหนกันนะ


“หืม? จริงสิ”



ว่าแล้วก็ลองหันไปยิ้มให้กับคนที่เดินสวนมาสองสามคน ไม่เห็นมีใครไม่ชอบเสียหน่อย เขาได้รับยิ้มเขินอายกลับมาจากหญิงสาวและยิ้มที่มุมปากจากกชายหนุ่มซึ่งทำท่าจะเดินเข้ามาหาแล้วหากไม่เพราะถูกคนข้างๆ แยกเขี้ยวใส่ก่อนล่ะก็นะ



“ยิ้มแบบนี้คนมองขวัญเยอะ ไม่ชอบ” ได้ฟังเหตุผลก็หัวเราะออกมาอีกแล้ว นิสัยเด็กขี้หวงนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังไม่เรียกพี่อีก”




นึกย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย หนุ่มรุ่นน้องตัวสูงใหญ่คนนี้มีความเคารพนอบน้อมกับทุกคน เว้นแต่เขาที่เจ้าตัวนอกจากจะไม่เรียกพี่แล้วยังเอาแต่เรียกชื่อเล่นจนเบื่อจะท้วง ชื่อเล่นที่เขาไม่ชอบให้เรียกเลยเพราะมันฟังดูเป็นผู้หญิงเหลือเกิน


“ไม่ได้อยากให้เป็นพี่สักหน่อย”

“เอาแต่ใจอีกแล้ว”




ทั้งที่โดนเรียกด้วยชื่อเล่นที่ไม่ชอบ โดนลากไปทำกิจกรรมสารพัด เขากลับไม่ขัดขืนหรือต่อต้าน ปล่อยให้อีกคนเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตมากมาย จนวันหนึ่งเมื่อรู้ตัวอีกทีก็ยากที่จะขยับตัวหนีเสียแล้ว


แต่ด้วยความดื้อดึงส่วนตัว เขาต่อต้านในช่วงสุดท้ายของการเรียนในมหาวิทยาลัย ดื้ออย่างที่คนใกล้ตัวต่างพากันระอา ปีสี่ภาคเรียนสุดท้ายเขาเลือกที่จะเดินหนี ตัดการติดต่อทุกช่องทาง หากต้องเผชิญหน้าก็เพียงแต่ส่งยิ้มให้อย่างเคยแต่ก็รีบปลีกตัวออกมาให้เร็วที่สุด


หนุ่มรุ่นน้องเหมือนจะรู้ตัวจึงไม่พยายามติดต่อเขาเช่นกัน เหมือนรถยนต์สองคันที่วิ่งมาบนถนนเดียวกันใช้เวลาร่วมกันยามรถติดสัญญาณไฟสีแดง พอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวรถคันหนึ่งเลี้ยวซ้ายอีกคันเลี้ยวขวาค่อยห่างกันไปเรื่อยๆ
ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงราวกับไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อน


ในวันที่กลับมาพบกันอีกครั้ง เขากลับจำรายละเอียดของรุ่นน้องคนนี้ได้มากมายจนตนเองยังแปลกใจ



“รอให้ขวัญใจอ่อนคงยาก” 

“ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย” ทำไมใครๆ ถึงบอกว่าเขาใจแข็งทั้งที่ความจริงแล้วมันอ่อนเหลวเสียยิ่งกว่าอะไร

“เจอกันคราวนี้ไม่ปล่อยให้หนีแล้วนะ” คนพูดสาวเท้าเข้าใกล้ กระชับมือแน่นขึ้นราวกับจะให้ทั้งคำพูดและสัมผัสตอกลึกลงไปในใจคนฟัง



ได้เจอกันอีกครั้ง ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้สอนให้เขาเรียนรู้ ความกลัวเกรงเปลี่ยนมาเป็นการเผชิญหน้า การพุงเข้าชนอาจเป็นเรื่องโง่เขลาสำหรับใครหลายคน แต่กับตัวเขาเองในตอนนี้มันอาจช่วยกำจัดตะกอนในใจที่ติดค้างมาหลายปีให้จางหายไปก็ได้


เขาไม่ตอบคำถามแต่ส่งยิ้มกว้างจนตาเป็นขีดโค้ง กระชับมืออุ่นเข้าอย่างยินยอมต่อถ้อยคำ


เขาจะไม่หนีอีกแล้ว






.

.

.




ปีนี้ฤดูหนาวมาช้า ใกล้ปลายปีแล้วอากาศจึงเริ่มเย็นลง ซ้ำร้ายฝนที่ควรจะต้องหมดไปตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมยังคงโปรยปราย ไม่ต่างจากวันก่อนเม็ดฝนพร่ำเกิดเป็นหยดน้ำบนกระจกใส อากาศที่เย็นลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดฝ้าบางบนกระจกหน้าต่างไม้ในร้านเล็กแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ระหว่างอาคารสำนักงานสูงหลายสิบชั้นใจกลางกรุง


กลิ่นกาแฟปนกลิ่นวานิลาอวลอบ ร้านกาแฟตกแต่งด้วยไม้ให้บรรยากาศอบอุ่น ด้านหนึ่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่สไตล์ฝรั่งเศสซึ่งเป็นกระจกยาวตลอดผนัง เคาน์เตอร์ไม้สีเข้มวางยาวขนาดกับหน้าต่าง บนเคาน์เตอร์มีกระถางต้นไม้ใบเล็กวางเรียงเป็นระยะ ดอกไม้ช่อน้อยเบ่งบานอวดสีสวย


ตรงข้ามเป็นฝาไม้สีอ่อน ภาพภูเขาในมุมต่างๆ ถูกจัดไว้ในกรอบไม้สีขาว โต๊ะเก้าอี้เข้าชุดพร้อมหมอนอิงใบโตหลากสีสันตบจนฟูแล้วถูกจัดเข้าที่ ตู้ไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ชิดผนังกลางร้านอัดแน่นไปด้วยหนังสือทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ นิตยสารท่องเที่ยววางอยู่บนตู้เล็กข้างกัน 
 

เสียงไฟสีส้มอ่อนภายในร้านค่อยดับลง เหลือเพียงดวงเดียวเหนือตู้กระจกใสว่างโล่งซึ่งยามเช้าเคยเต็มไปด้วยขนมชิ้นน้อยใหญ่และเค้กหลากหลายรูปแบบ ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟ ไอร้อนทำให้แก้มเนียนใสมีเลือดฝาด




เสียงกระดิ่งที่แขวนเหนือประตูดังขึ้น คนที่ง่วนอยู่กับการจัดของบนเคาน์เตอร์ไม้ตรงข้ามประตูทางเข้าร้านเงยหน้าขึ้นมา กำลังจะเอ่ยปากบอกข้อความบางอย่างเช่นเดียวกันกับป้ายเล็กที่แขวนไว้หน้าร้านแล้วกลับเปลี่ยนใจเมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามา


“บ้านไม้หอมยินดีต้อนรับครับ”


ส่งยิ้มอย่างที่มีคนบอกว่าไม่ชอบไปให้ชายรูปร่างกำยำในชุดสูทราคาแพง


“หืม? พนักงานใหม่เหรอครับ ไม่เคยเจอมาก่อนเลย” ดวงตาสีเข้มพราวระยับ กวาดตามองสำรวจ กลับเป็นคนเอ่ยทักเองที่ประหม่ากับสายตานั่นจนต้องยึดแก้วกาแฟสีนวลไว้แน่น


“เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อวันก่อนครับ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับอะไรดีครับ” 
 

“มารับ ‘ของขวัญ’ ครับ” คำว่าของขวัญถูกเน้นด้วยเสียงนุ่มนวล จนคนฟังหน้าซับสีอ่อน เขาเสมองนาฬิกาตั้งพื้นทรงโบราณสูงประมาณอกที่ตอนนี้บอกเวลาสามทุ่มกว่าแล้วก็เลิกคิ้ว

“มาช้าไปเกือบชั่วโมงอย่างนี้ คงหายไปแล้วล่ะครับ”

“งั้นขอรับเป็นพนักงานใหม่แทนละกันครับ” รู้ตัวอีกทีก็ลอยหวือ ขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์ เอวถูกมือหนาจับไว้มั่นทั้งสองข้าง สบตากันแล้วเขาเห็นเปลวไฟกำลังมอดไหม้อยู่ในดวงตาสีเข้มที่แวววาวล้อแสงไฟ


“มาช้านิดเดียว อย่างอนสิ” เสียงทุ้มเข้ามากระซิบชิดหู ลมหายใจอุ่นร้อนทำเอาเขาสะบัดร้อนสะบัดหนาว ขยับตัวดิ้นลงก็โดนยึดไว้จนอดไม่ได้เอ็ดขึ้น


“จะกลับบ้านไหมเนี่ย”

“ขับรถฝ่ารถติดมาเหนื่อยๆ ขอพักก่อน”



พูดจบก็ฝั่งใบหน้าลงกับซอกคอ พอหยุกหยิกจะดันคนตัวโตกว่าออกก็โดนสองแขนรัดแน่นหนา ยิ่งไปกว่านั้นริมฝีปากอุ่นร้อนที่แนบเข้ากับผิวเนื้อเย็นเฉียบทำเขาหยุดดิ้นได้ชะงัด จนเมื่อเจ้าตัวพอใจแล้วนั่นแหละจึงปล่อย เร่งให้เก็บของแล้วถูกลากออกไปยังรถยนต์สีดำสนิทที่จอดอยู่หน้าร้าน















ทันทีที่ปิดประตูห้อง ไม่ทันได้เปิดไฟก็ถูกคว้าไปกอด ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจัดจะเข้ามาช่วงชิงลมหายใจปลายลิ้นหนาไล้กลีบเนื้อเขาเปิดปากยอมกับการรุกไล่ ลิ้นไล้วนไปตามแนวกระพุ้งแก้ม พอปรับการหายใจได้ก็ส่งเนื้อนุ่มหยุ่นเข้าทักทาย กระแสไฟฟ้าแล่นปร๊าบตอนที่ปลายลิ้มสัมผัสกันและกัน แผ่วเบานุ่มนวลจากนั้นเปลี่ยนเป็นเร่งเร้าทว่าอ่อนหวานจนต้องตอบสนองกลับไปอย่างไม่แพ้กัน




ลำตัวร้อนวูบวาบเพราะถูกฝ่ามือหนานวดเฟ้น นิ้วเรียวกระตุกผ้ากันเปื้อนออกแล้วสะบัดทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เศษเหรียญจากช่องกระเป๋ากระดอนกระทบพื้นเสียงขรม ฝ่ามืออุ่นจัดแตะต้องผิวเนื้อ เขาสะท้านตัว ยามอีกฝ่ายละริมฝีปากออกเขาสูดหายใจเข้าปอดลึก แล้วต้องร้องออกมาเสียงหลงเมื่อคนตรงหน้ามุดตัวเข้ามาในเสื้อ ลากริมฝีปากร้อนผ่าวไปตามเนื้ออ่อน


“ฮือ”


ส่งเสียงประท้วงได้ไม่ถึงครึ่งคำปลายนิ้วหนาก็เข้ามาแทนที่ขยับเย้าหยอกกับลิ้นเล็ก ยอดอกถูกขบเม้มจนต้องกัดนิ้วหนาระบายความกระสันที่ตีรวนขึ้นมา ลิ้นร้อนลากวนเวียนสลับดูดดันจนต้องแอ่นตัว รู้สึกถึงฝ่ามือร้อนอีกข้างนวดเฟ้นแผ่นหลัง ก่อนจะลากวนต่ำลงมายังเนิ่นเนื้อสะโพก


การถูกรุกรานอย่างหนักหน่วงนี้ทำเอาร่างกายทรงตัวแทบไม่อยู่ เอนตัวพิงประตูอย่างหมดแรง เขาปลดปล่อยออกมาทั้งที่ยังไม่ถูกแตะต้อง ทรุดตัวลงช้าๆ คนข้างในเสื้อเลิกเสื้อขึ้นก่อนจะถอดออก


“คิดถึงกันขนาดนี้ก็ไม่บอก”


เสียงทุ้มพร่ากระซิบข้างหู ถูกรวบตัวขึ้นสองขาเกี่ยวเอวคนตัวโตไว้เมื่อร่างกายก้าวเดิน สองมือหนาที่ประคองสะโพกฟอนเฟ้นจนต้องบิดตัว สองมือขาวค่อยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทำงานของอีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่ง ตาสบตา



“พรุ่งนี้วันหยุดใช่ไหมนะ”



คำถามนั้นดูไม่เข้ากับสถานการณ์เอาเสียเลย เสื้อแขนยาวปลดกระดุมออกหมด เขาลากปลายนิ้วเย็นเฉียบไปตามแผ่นอกแกร่ง แนบฝ่ามือลงไปยังอกข้างซ้าย หัวใจเต้นตุบตับใต้ฝ่ามือเขา



“อื้อ หยุดยาวจนถึงปีใหม่เลย”



แต่ก็ตอบออกไป เอียงหน้าซบอกหนา เสียงหัวใจเต้นของคนตรงหน้าเป็นจังหวะหนักแน่น ตึกตัก!



“หนาวไหม”



ทั้งที่เป็นคนทำให้ร่างกายเขาเปลือยเปล่า กลับถามคำถามอย่างนี้ออกมาเสียได้ นิสัยเสียจริงๆ



“ถ้าหนาวจะทำไง”



หยุดร่างกายหน้าประตูกระจกริมระเบียง พลันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งแผ่นหลังเพราะถูกดันติดกระจก ร่างกายผวาเฮือกเสียดสีหน้าท้องแบนราบ



“ว่าจะพาไปที่ระเบียง แต่ถ้าหนาวก็ข้างในละกัน” 



หน้าอกชูชันถูกดูดดึงซ้ำๆ จนต้องร้องครางเสียงพร่า สองมือเกาะเกี่ยวลำคอหนาไม่ต่างจากสองขาที่เกาะเกี่ยวสะโพกแกร่ง ร่างกายขยับไปตามแรงกระตุ้นสิ่งแปลกปลอมขยับขยายช่องทางอ่อนไหว นาทีที่หลอมรวมร่างสูงใหญ่โน้มหน้าผากลงมาแตะกัน


“ขวัญ”


ตึกตัก! เรียกชื่อที่เขาแสนเกลียดด้วยน้ำเสียงและหน้าตาแบบนั้น
 
แสงสลัวจากด้านนอกทำให้เห็นโครงหน้าของอีกฝ่ายเลือนราง เขาไม่คิดแม้แต่จะกะพริบตาด้วยอยากจดจำใบหน้าของคนตรงหน้าไว้ทุกช่วงเวลา



“สอง”


ดวงตาสีเข้มจ้องเขม่ง ริมฝีปากที่เอื้อนเอ่ยถูกขบกัดย้ำ ไม่ต่างจากร่างกายที่ถูกบดเบียด เนิบนาบ “เรียกอีก” กระซิบเสียงต่ำพร่าไม่เว้นจังหวะให้หายใจ




“..สะ..สอง”




กดลึกและผละออก
บ้างช้าจนต้องเรียกร้อง บ้างรัวไหวจนสั่นคลอน




“อื้อ ไม่ไหว”



ส่งเสียงประท้วงที่ไม่เคยสำเร็จ แต่คราวนี้กลับได้ผล
ร่างกายหยุดเคลื่อนไหว ริมฝีปากถูกดูดกลืน
สองเท้าออกเดินอีกครั้งทั้งที่ร่างกายยังเชื่อมต่อ
เขาบิดตัวแต่ไม่อาจส่งเสียงร้องเพราะริมฝีปากยังคงติดพัน




ล้มลงบนเตียงนุ่ม ร่างของอีกคนใช้สองแขนค้ำตัวเองเอาไว้ไม่ให้ตกลงมา แสงไฟสีอ่อนเผยให้เห็นร่างกายของอีกฝ่ายชัดเจน รอยข่วนปรากฏเป็นทางบนผิวสีน้ำผึ้งทำเอาคนมองหน้าร้อน



“อายทำไม ทำเองแท้ๆ” คงเห็นสายตาของเขา เจ้าของร่างกายจึงเอ่ยกระเซ้า แล้วโลกก็ตีลังกากลับหัวกลับหาง เขาขึ้นมานั่งทับหน้าท้องแกร่งแทนที่อีกคนที่ลงไปนอนราบกับเตียงนอน



“อืม อย่างนี้วิวดีกว่าจริงๆ” 



ย่นจมูกใส่คำพูดสองแง่สามง่าม แล้วต้องกลั้นเสียงเมื่อสะโพกถูกกดลงบดเบียดส่วนร้อนจัด ของเหลวถูกปาดลงช่องทางอุ่นร้อน เย็นวาบไปทั้งตัว



“เมื่อกี้บอกไม่ไหว ทำเองแบบนี้คงดีกว่าเนอะ”



ไม่รอให้เขาตอบรับสะโพกก็ถูกยกขึ้นด้วยแขนแกร่งเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างใช้เบิกทางเพิ่งที่จะให้เขากลืนกินตัวตนของอีกฝ่ายให้ง่ายขึ้น



“ฮืม”



เสียงครางในลำคอหนาจากคนด้านล่าง ใบหน้ากึ่งทรมานกึ่งสมใจนั่นทำเอาใจหวิว อยากทำให้คนตรงหน้าแสดงสีหน้าแปลกๆ ออกมา จึงเริ่มขยับ ความรู้สึกเสียวแปร๊บตอนทรุดตัวลงทำให้ร้องลั่น



หยดน้ำใสผุดขึ้น แผ่นอกชูชันยามปลายลิ้นร้อนไล้วน ทุกสัมผัสเหมือนไฟไล่เลีย เขาขยับตัวเร็วขึ้น กรีดร้องดังขึ้นเมื่อคนด้านล่างขยับกายสวน ผวาเฮือกใหญ่ยามส่วนอ่อนไหวถูกไถ่หน้าท้องที่เกรงจนขึ้นลอน



“ไม่ต้องเสร็จเองหรอกเนอะ ช่วยกันสองคนดีกว่า”



ถ้อยคำชวนบาดหูแต่การกระทำกลับตรงข้าม ร่างกายถูกพลิกกลับมาอีกครั้ง คราวนี้เขาจมลงไปกับเตียงเพราะคนด้านบนไม่ติดจะยั้งน้ำหนักตัว กดทับเข้ามาเต็มที่ซ้ำยังขยับสะโพกบดเบียนอย่างจงใจ



“อ่า..”



“ชอบแบบไหน ช้า..” สองแขนถูกกดแนบลำตัว สะโพกแกร่งบดเบียดลงมาทีละนิด ใจเต้นกระหน่ำยามแนบสนิท “หรือเร็ว” ว่าแล้วก็ขยับตัวเข้าออกร่างกายสั่นคลอนจนต้องกัดปากระบายความเสียวกระสัน



ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าชิดใบหู “แบบไหนดี หนึ่งหรือสอง” ขบเม้มดึงดันติ่งหู เขาแหนงหน้าเพริด แอ่นอกให้ฝ่ามือหนาบีบเค้น ความละอายเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาแล้วหายไปราวกับโดนลมเป่า



“ไม่ตอบอีกแล้ว จะตามใจถูกไหมครับ...ขวัญ” ลากเสียงอ่อนตรงชื่อเล่น น้ำตาจนเจียนจะหยดยามมือใหญ่เคล้นคลึงไปตามร่างกายที่บิดพล่าน



“..ยังไงก็ได้ แค่สอง...แค่เป็นสอง..ก็พอละ--.. อื้อ”




จูบที่ไม่ได้เป็นจูบแรกกลับลึกซึ้งราวกลับจะพรากวิญญาณ สติสุดท้ายที่อยู่กับตัวก่อนที่จะถูกตัณหาเข้าครอบงำคือเสียงทุ้มพร่า



“งั้นก็เรียกให้ได้ตลอดนะ”



“..สอง..อ่า..”





อากาศเย็นจัดแต่เหงื่อกลับโทรมกาย เหงื่อหยดแล้วหยดเล่า ใบหน้าแหงนเงย ริมฝีปากเจ่อด้วยการตะบมจูบ ร่างกายที่ทุกตารางนิ้วถูกเฟ้นฟอน ร้องเรียกชื่อคนหนึ่งซ้ำๆ จนลำคอแห้งผาก ร่างกายประสานเป็นหนึ่งเดียวซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับคนหลงทางกลางทะเลทรายมาพบแหล่งน้ำ ตักตวงดื่มกินอย่างกระหาย




ในช่วงจังหวะเร่งรัว เขาขยับตัวสอดประสาน อารมณ์ทะยานขึ้นสูงก่อนระเบิดออกเป็นดวงนับร้อยพัน สมองว่างโล่งขาวโพล่น ดวงดาวค่อยร่วงหล่น เคลื่อนตัวตามประกบปากหนา ตวัดลิ้นไล้เลียกระซิบเสียงแหบ


“..สอง..”

“..ขวัญ..”



เป็นคนตรงหน้าที่ไม่พอกับร่ายกายของเขาหรือเป็นเขาเองที่ไม่พอกับร่างกายของคนตรงหน้า ทุกครั้งผละออกจากกันอากาศหนาวเหน็บก็เข้ามาแทนที่ทันที เขาตามไปไขว่คว้าเกาะเกี่ยวร่างกายอุ่นร้อน



“ไม่เอา...สอง..กอด” ไม่อยากให้จากไปไหน




“ถึงได้ถามว่าพรุ่งนี้หยุดหรือเปล่า”





 บทรักเริ่มขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง






.


.


.




สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะปลายจมูกเย็นเจี๊ยบ ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยผ้านวมผืนใหญ่ไม่ต่างจากคนที่นอนหลับสนิทข้างๆ เขาหันซ้ายขวาแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าตอนนี้ตนเองนอนอยู่ริมระเบียง ลมหนาวพัดโกรกจนต้องห่อตัวแม้ว่าร่างกายจะสวมเสื้อผ้าอุ่นหนาแล้วก็ตาม



เวลาดึกสงัดมองลงไปยังเบื้องล่าง แสงไฟยังคงพร่างพราวไม่ต่างจากช่วงหัวค่ำเพียงแต่บนถนนไม่มีรถติดยาวเป็นขบวน อากาศก็ดูจะปลอดโปร่ง ควันพิษคงจะจางไปบ้าง ลองหรี่ตามองแสงไฟจากมุมสูงความมืดทำให้อาคารบ้านเรือนกลมกลืนกันแสงไฟน้อยใหญ่เป็นดวงดาวส่องสว่างนับหมื่นนับแสนดวงคล้ายทะเลดาว



หันไปพิจารณาคนนอนคุดคู้ข้างกายแล้วอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบีบสันจมูก ลูบปลายนิ้วบนริมฝีปากหนาที่บวมน้อยๆ แนบฝ่ามือลงบนแก้มลากเพราะไรหนวด



“คนขี้แกล้ง” ขยับเข้าไปกระซิบชิดใบหู แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อคนที่ติดว่านอนอยู่พลิกใบหน้าแนบปากลงกลางฝ่ามือ



“ดีกว่าคนปากไม่ตรงกับใจ” ริมฝีปากจูบไล่ที่ละนิ้ว ขยับออกไม่ได้เพราะถูกยึดไว้



“ไม่ไหวแล้ว” รีบบอกเสียงอ่อยยามปลายนิ้วเย็นถูกตวัดเลีย เม้มเป็นจังหวะ คนทำไม่สนใจคำขัดยกยิ้มมุมปากให้แล้วดูดกลืนต่อไป


“อื้อ”



ดวงตาหวานฉ่ำกับท่าทางดูดดันนิ้วมือทำให้คนมองข่มอารมณ์ไม่ไหว ส่งเสียงครางทั้งที่ลำคอแหบพร่า ชักมือออกจากการเกาะกุมแล้วก้มหน้าเข้าแทนที่ ขบริมฝีปากหนาเป็นจังหวะ เม้มปากแน่นไม่ยอมให้ลิ้นร้อนล้วงแล้วกดปากแนบแช่ไว้อย่างนั้น ไม่มีการล่วงล้ำ ไม่มีการไล้โลมนานจนลมหายใจของกันและกันเริ่มสงบ


“ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ” ว่าคนเจ้าเล่ห์เข้าให้

“ต่ออีกรอบก็ยังไหว บอกแล้วให้ไปออกกำลังด้วยกัน”

“ไม่เอา” ปฏิเสธทุกครั้งแต่ก็ยังชวนเสมอ เสมองไปยังท้องฟ้ามืดแล้วก็ต้องอุทานออกมา “สวย”




ท้องฟ้ามืดสนิทค่อยเปลี่ยนสีที่ละน้อย ตรงเส้นขอบฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้มก่อนจะค่อยจางลงเป็นสีฟ้าใสพริบตาราวกับถูกวาด สีชมพูสดป้ายลงทับสีฟ้าอ่อนใสค่อยอ่อนลงพร้อมกับความมืดที่ล่าถอย สีชมพูเข้มจางลงแทนที่ด้วยแสงสีทองทอประกาย คราวนี้มาพร้อมกับพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงเข้ม จากเสี้ยวขยับขึ้นสูงยามเห็นตะวันเต็มดวง ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีกุหลาบ



มืออุ่นเข้าโอบเอวแล้วถูกดึงไปชิดแผ่นอกกว้างที่สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ เสียงหัวใจเต้นแนบหูให้ความรู้สึกมั่นคง แผ่นฟ้าเปลี่ยนเป็นสีฟ้าทอง ดวงอาทิตย์ส่องแสงอ่อน ก้อนเมฆสีขาวกระจายอยู่ในอากาศก่อนจะปลิวหายไปตามแรงลม




สัมผัสเย็นเฉียบที่ปลายนิ้วทำให้เขาหันมอง แหวนสีเงินเกลี้ยงถูกสวมลงบนนิ้วเรียว มันเปล่งประกายสะท้อนแสงแดดอ่อนยามเช้า พลิกตัวกลับไปสองมือประคองใบหน้าคมเข้มที่ยามนี้ประด้วยรอยยิ้มอุ่น 



ถ้อยคำอัดแน่นในดวงตา ตาสบตาสื่อสาร แล้วก็เป็นเจ้าของแหวนเองที่เอ่ยปาก






“ขอบคุณสำหรับของขวัญครับ”










Fin


-----------------------
[25.12. 58]
เป็นเรื่องสั้นช่วงปลายปี
เราตั้งธีมเป็น Warm Christmas
ไม่ทราบว่าคนอ่านจะรู้สึกได้ไหม
อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรรบกวนบอกด้วยนะคะ
จะนำไปปรับปรุงค่ะ
 :L2:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
Lavender’s blue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2016 22:31:57 โดย Wendy »

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
น่ารัก อ่านแล้วให้ความรู้สึกอยอุ่นดี :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เรียบเรื่อยดีจัง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
หนาวๆอยู่นี่อุ่นขึ้นมาทันทีเลย

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
อุ่นดีค่ะ ร้อนนิดๆตอนจบ :-[

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ชอบอ่ะ รู้สึกอบอุ่นไปด้วยเลยยย   :m1:

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานและอบอุ่นมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
 :mew1: :mew1:

ละมุน

ออฟไลน์ a.amyw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักละมุมละไม อบอุ่นไปหมดทั้งเรื่อง ชอบบบ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
โอ้ น่ารักๆๆๆๆ ///

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เอ้า!!เขียนธีมหน้าหนาวหรอ..นึกว่าธีมหน้าร้อน  :hao3:

เห็นวอร์มกันจนร้อนทะลุความหนาวเลยเนี่ย  :z1: :z1:  :hao6:

ออฟไลน์ คุณบี๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หวานละมุนอบอุ่นดีจัง

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ละมุนกับใจ  :-[
 :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด