➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14  (อ่าน 70498 ครั้ง)

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อ้างถึง
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

เพิ่มเติม >> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





โพสแรก เป็นกฏ กับแจ้งข่าวสารนะคะ เผื่อไว้สารบัญในอนาคตด้วย

    - นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ทั้งบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ที่อ้างถึงในเรื่องล้วนไม่มีอยู่จริง
    - มีฉากหวาบหวิวอยู่เป็นนิจ (เขินนนน >///< ) ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน นะคะ
    - เป็นแนวเรื่อยๆ มาเรียงๆ รักแบบไม่รีบร้อนจ้า เด็กๆ ต้องการเวลาในการเติบโต อิอิอิ

    - คนเขียนเรื่องนี้ยินดีรับคำติเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหน้าไมค์หรือหลังไมค์ก็ได้ ถ้ามีความคิดเห็นว่าตรงไหนอยาหให้ปรับปรุง โปรดบอกกันคะ




ขอบคุณทุกๆ ยอดวิว คะแนน +เป็ด และทุกคอมเม้นต์นะคะ คุณคือกำลังใจและแรงผลักดันเลย
จะพยายามอัพให้สม่ำเสมอ ไม่เกเรนะ
 ฝากติดตามด้วยนะคะ
   :katai4:


   ผลงานอื่นๆ
[เรื่องสั้น] ☻☺☻ เหงา...ตัวเท่าบ้าน เรื่องของคนขี้เหงา จบ.
[เรื่องสั้น] คิงไซซ์ ใจเดียวกัน (จบ.)
➽ ลอง เจ็บซ้ำ... Try Again. ➽ เรื่องแยกจากกระทู้นี้ คู่ฟ้าเท (ยังมิจบ)



เพจคนหัดเขียน >> https://web.facebook.com/Brosohub/
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2017 08:11:08 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: love Again. ย้ำรัก [บทนำ]
«ตอบ #1 เมื่อ16-01-2016 20:49:04 »


- บทนำ -

------------------------------------------------------------



   วันนี้คือวันแรกของชีวิตมหาลัย...

   ผมอยู่ปีหนึ่ง เฟรชี่หมาดๆ

   ผมตื่นเต้นกับวันนี้มากๆ นึกว่าเปิดมาจะต้องเรียนหัวหมุนกันตั้งแต่ชั่วโมงแรก แต่ตารางเรียนครึ่งเช้าของวันเปิดเทอมวันแรกถูกยกเลิก เพราะมีกิจกรรมที่ผมยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ คือการจับสายรหัส จับจริงๆ ครับ ที่นี่เล่นให้พี่ๆ จับรหัสน้องจากในปีบ เหมือนจับฉลากของขวัญปีใหม่ โคตรง่าย เข้าใจง่ายดีสมกับเป็นวิดวะครับ ฮ่าๆๆ

   ครับ ผมนั่งรอให้พี่ประกาศรหัสรวมกับเพื่อนๆ ดูก็รู้ว่านี่เป็นห้องเรียนที่เก้าอี้ถูกยกออกไปเหลือแต่พื้นโล่งๆ มีพี่ตั้งแต่ปีสอง สาม และสี่มารอต้อนรับน้องๆ เข้าสู่สิ่งที่เรียกว่าสายรหัสกันอย่างอบอุ่นจนผมรู้สึกแอร์ไม่พอ เป็นปกติของระบบมหาลัยมั้ง คงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ผมเห็นเพื่อนๆ ที่แยกย้ายไปเรียนที่อื่นก็มีกันทุกที่ ไอ้สายรหัสเนี่ย คณะผมแต่ละปีรับนักศึกษาไม่เคยเท่ากัน เพิ่มบ้างลดบ้าง บางปีรับน้อยลงพี่สองคนก็จับมือกันดูน้องคนเดียว อย่างปีผมรับมากขึ้นก็กลับกันพี่ปีสองบางคนจะได้น้องรหัสสองคนครับ ทั้งหมดนี้พี่เขาอธิบายก่อนเริ่มจับ พี่บางคนก็มาเงียบๆ จับเสร็จก็พาน้องออกไปทำความรู้จักกันเงียบๆที่นอกห้อง แต่พอเป็นคนดัง คนหล่อคนสวย ก็มีทั้งคำบรรยายสรรพคุณและเสียงโห่ร้องแซวเล่นกันดูคึกคักสนุกสนานดี

   ในที่สุดก็ถึงคิวผมครับ พี่พิธีกรประกาศรหัสผม

   เยส!

   โคตรดีใจ  เพราะ  เธอ  สวย  มาก!

   “กรี๊ด ได้น้องผู้ชาย ขุนแม่ปลื้มค่ะ” พี่จับแก้มแล้วทำหน้าตาดีใจออกนอกหน้า ท่าทางเธอดูเป็นกันเองสนิทกับทุกคน และดูร่าเริงมาก เอ่อพี่ ผมก็เขินนะ แต่ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเอง ทั้งพี่ๆ ที่มารอรับน้อง และเพื่อนๆ ที่นั่งเรียงแถวกันสลอน มองมาส่งสายตาเชือดเฉือน อะไรพี่จับได้ผมเอง ไม่ใช่ความผิดผมนะ

   ผมค่อยๆเดินแหวกทางออกไปให้พี่รับผมที่ข้างหน้าห้อง

   //โนอาดาวมหาลัยของเราดูท่าจะได้น้องไปปั้นเป็นเดือนมหาลัยแล้วนะค่ะ แหมมมม สูงแว่นขาวตี๋ สเปคเจ้ เจ้ชอบบบบบ ถ้าอยากได้พี่เลี้ยงบอกพี่นะค่า// ผมตกใจเสียงพิธีกรครับ ปกติก็ตุ้งติ้งธรรมดา แต่สามประโยคสุดท้ายดันทำเสียงแมนโคตรใหญ่ มันน่ากลัวมากพี่ผมขอบอกในใจ

   “อย่าหวังจะได้แอ้มย่ะมีมี่ น้องฉันอย่ามาทำน้องฉันแปดเปื้อน เช้อะ” คำพูดเหมือนจะกัดกลับ แต่เขาสองคนก็ยิ้มให้กันนะ สงสัยจะเล่นๆ พี่รีบดันผมออกจากความวุ้นวายให้กิจกรรมดำเนินต่อไปได้อย่างไม่เสียเวลา

   “ว่าไงไอ้น้องชาย ยินดีที่ได้รู้จัก” พี่ยืนมือมาตบไหล่ผมปุๆ “แนะนำตัวสิ”

   “หวัดดีครับ ผมแม็ตครับ ภาคคอมฯ”

   “อุ้ย! ภาคเดียวกันด้วย หวัดดีจ๊ะ พี่โนอานะ ต่อไปนี้มีอะไรสงสัยก็ถามพี่ มีเรื่องอะไรก็บอกพี่ ไม่มีอะไรก็บอกพี่ ใครแกล้งก็บอกพี่ ไม่ชอบใครก็บอกพี่ ชอบใครยิ่งต้องบอกพี่ เข้าใจนะ”

   “ครับ”

   “บ้านอยู่จังหวัดอะไร?”

   “เพชรบุรีครับ”

   “เหรอ พี่ชลบุรีนะ แล้ว อยู่หอแถวไหน มีเมทรึเปล่า”

   “หออยู่หลังมอครับ ซอยสอง อยู่คนเดียว” ผมตอบไป พี่ผมก็จดทุกอย่างลงในสมุดโน้ตเล็กๆ ของเธอ จริงจังขนาดนั้นเลย?

   “ลูกคนที่เท่าไหร่ มีพี่น้องกี่คน”

   เอาจริงเหรอเนี่ย? “สามครับ ผมคนโต”

   “กินเหล้าเบียร์รึเปล่า?”

   “ก็ กินได้นะครับ”

   “ดีๆ ไม่แพ้เหล้าเนอะ แล้วอาหารล่ะ แพ้อะไรมั้ย”

   “ไม่แพ้ผมกินได้หมด แต่ผมไม่กินเนื้อ กับหัวหอม ผมว่ามันเหม็น”

   ดูเหมือนเธอจะลิสรายการที่จะถามไว้ล่วงหน้าแล้ว

   “วันเกิดล่ะ?”

   “พฤหัสฯ”

   “วันที่”

   “15”

   “เดือนปี”

   “ธันวา 40 ครับ”

   “กรุ๊ปเลือด”

   “โอครับ”

   “มีโรคประจำตัวมั้ย”

   “ไม่มีนะครับ”

   “เอาเท่านี้ก่อน เดี๋ยวน้องตกใจ” ผมตกใจเรียบร้อยแล้วพี่ โห “มาแลกเบอร์กัน” ผมบอกเบอร์ตัวเองให้พี่รหัสทีนี้เธอยกมือถือขึ้นมากด พิมพ์เสร็จพี่ก็ยิงเข้าเบอร์ผม บอกให้ผมเมมไว้ด้วยเดี๋ยวลืม ผมยังไม่ทันหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง พี่แกก็ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์มาทักทาย นี่เมมเบอร์ผมเสร็จแล้วเหรอ ผู้หญิงกับมือถือนี่ไวมาก

   “เย็นนี้หลังเลิกเชียร์ ให้ไปกินเลี้ยงกับโต๊ะนะ พี่จะไปดูแล ไม่ต้องห่วง ฟรีตลอดรายการ แล้วก็ปลอดภัยด้วย รับประกัน แล้วก็!” พี่สาวที่ตัวแค่ไหล่ชี้หน้าผม อยู่ๆ จากร่าเริงก็ทำหน้าจริงจัง “ให้เข้าเชียร์ด้วย เข้าใจไหม เรื่องนี้พี่ขอ เพราะเด็กสมัยเนี้ยไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เชียร์เลย ไม่เข้าซะดื้อๆ ไม่รู้หรอกว่าคนพวกนั้นพลาดอะไรดีๆ ไปบ้าง นะๆ พี่ขอ ถือว่าทำเพื่อพี่”

   “ผมก็กะว่าจะเข้านะ อย่างน้อยก็ครั้งแรก”

   “ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก แค่ไปร้องเพลงคณะ คำหยาบก็ไม่มี ทำโทษก็ไม่เคย ที่น่ากลัวๆ แบบที่เห็นในข่าวนั้นไม่มีเลย เป็นเชียร์ที่ชิลและเท่ที่สุดเลย”

   “จริงเหรอครับ?”

   “จริงจริ้ง!”

   ผมจะไม่เชื่อก็ตรงคำยืนยันของพี่เนี่ยแหละ

   “ไม่มีลุกนั่ง วิดพื้นโดดสระน้ำดำๆนะ”

   “โหดูการ์ตูนมากไปป่ะเนี่ย ถ้าจะมีก็คงที่อื่น ที่นี่ไม่มีแน่นอน”

   //รหัส 887 อยู่ไหนยกมือสิ// ผมเห็นพี่รหัสทำตาโตก่อนหันไปมอง ผมก็เลยหันตามไป

   //มา ออกมาหาพี่รหัส มึงอย่าแกล้งน้องนะเว้ย ถ้าจะแกล้ง ให้มาแกล้งกุที่ห้อง กุรออยู่// ผมได้ยินพิธีกรการจับสายรหัสพูดใส่โข่งแซวเพื่อน ดูท่าทางพี่คนนี้ก็ฮ๊อตพอๆ กับพี่โนอาล่ะมั้ง ดูจากเสียงแซวและเสียงโห่ร้องโต้ตอบกัน

  “แม็ต เรารหัส 888 ใช่ป่ะ?”

   “ครับ?” พี่ต้องจำได้อยู่แล้วก็เพิ่งจะจับได้เลขรหัสผมจากในกล่องขนมปีบเมื่อกี้ ผมเห็นพี่โนอากรี้ดดีใจเพราะเลขสวย ไม่ได้ดีใจที่ได้ผมเป็นน้องหรอกนะ แต่ที่สงสัยคือจะถามย้ำทำไม

   “ตอนบ่ายมีเรียนแลปฟิสิกซ์ใช่ป่ะ”

   ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก ใช่ ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วทำไมล่ะ?

   “จำเพื่อนที่รหัส 887 คนนั้นไว้ให้ดีนะ”

   “ทำไมเหรอครับ?”

   “ก็นั้นแหละ คู่แลปเรา” คงเห็นผมทำหน้าสงสัย พี่เลยอธิบายต่อ “ชื่อวิชาก็บอกอยู่แล้วว่าแลป ต้องมีการทดลองนั่นนี่ทางฟีสิกต์ นอกจากอุปกรณ์กับพื้นที่จะมีจำกัดแล้ว การทำโน้นทำนี่ทั้งหมดคนเดียวมันก็เป็นไปไม่ได้ เลยต้องจับคู่ทำ นั่นแหละคู่ขาเรา”

   “คู่หูรึเปล่าพี่?” ผมฟังแล้วขัดหู ถ้าไม่อะไรก็จะไม่แย้งหรอกนะ

  “ฮ่าๆๆๆ นั้นแหละๆ” พี่ตบบ่าผมอีกแล้ว “นอกจากวิชานี้แล้วยังมีวิชาอื่นอีก ถึงจะอยู่คนละสาขา แต่ลองไปขอตารางเรียนดูสิ แทบจะเหมือนกันทุกวิชาแหละเหมือนยันเสคที่เรียน ถ้าเข้าขากันได้ดี หนูจะมีเพื่อนเดินไปเรียนด้วยอีกสองขานะ บ่ายนี้ก็ลองทำความรู้จักกันไว้ล่ะ”

   เพราะอย่างนี้เอง เขาถึงต้องมีพี่รหัส จับสายยังไม่ทันเสร็จก็แนะโน้นนำนี่ผมซะยืดยาว พี่รหัสผมนอกจากจะเป็นดาวคณะแล้วความแฟลลี่เป็นกันเองก็ทำให้เป็นขวัญใจหนุ่มๆ จริงๆ ผมรู้เพราะเมื่อกี้พิธีกรพูดสรรพคุณพี่ผมหมด ผมถึงโดนสายตาทิ่มแทงจากเพื่อนๆ ทันทีที่ยกมือและลุกขึ้นไง

   “แล้วก็ลากมันไปเชียร์ด้วย อันนี้พี่ก็ขออีก” พี่โนอาไม่ลืมย้ำ

   ผมมองไปที่เพื่อนรหัส887 เขาผิวขาวเหลืองเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่หน้าคม และตาคมแบบคนไทย ผมสีทองอ่อนจนเกือบขาวแถมยาวกว่าคนอื่นๆ ผมจับผมตัวเอง ตัดเกรียนมาตลอดตอนมัธยม ปิดเทอมแค่สองเดือนก่อนเปิดเทอมก็ไปเล็มให้เข้าทรง ก็ยาวได้นิดหน่อยเอง ผมจับหัวตัวเองที่ยังดูออกว่าเพิ่งผ่านช่วงหัวเกรียนมาหมาดๆ ผมยังมองเขาอยู่ ในขณะที่เขาก็บังเอิญมองมา เราสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนเขาจะต้องเดินตามไปคุยกับพี่รหัสต่อ


   หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน ได้ดี




------------------------------------------------------------------------

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยจ้า หลังวางมือนิ่งๆ มานานอยู่ๆ ก็คันมือ อิอิ เรื่องนี้เป็นแรกที่เขียนมาลงเล้า และกะว่าคงไม่ได้ลงที่อื่น เพราะ ขี้เกียจ 5555

แอบตกใจค่ะ พอก็อปฯมาวาง รูปแบบหน้าหายหมด
นี่ถ้าเจอตอนปกติ เข้าไปคงเคาะกันมือหงิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:36:51 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: love Again. ย้ำรัก [บทนำ]
«ตอบ #2 เมื่อ16-01-2016 22:08:44 »


- บทที่ 1 - วันแรกของชีวิตมหาลัย -

------------------------------------




    ผมรู้สึกโชคดีอย่าง คือไม่ต้องมานั่งลุ้นนอนลุ้นเรื่องพี่รหัสสายรหัสให้มากความ เพราะทันทีที่เปิดเทอมวันแรกก็ประกาศกันโต้งๆ ไปเลย จะได้ช่วยในการปรับตัวและใช้ชีวิตในมหาลัย เสร็จจากกิจกรรมจับสายรหัสพี่โนอาก็พามาโรงอาหารในคณะ แนะนำร้านอร่อยเลี้ยงข้าวเที่ยง ซื้อขนมให้กินโดยบอกว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินของสาย พอผมถามว่าพี่ปีสามกับปีสี่ไปไหน พี่โนอาบอกว่าพี่ปีสี่ฝึกงานอยู่ญี่ปุ่นยังไม่กลับ พี่ปีสาม ไทร์ ผมนี่สยองเลย

    ทั้งที่ใส่กระโปรงพี่โนอาแว้นมอร์ไซฯเพื่อนกลับหอไปเอาหนังสือเรียนวิชาของบ่ายนี้มาให้ผมด้วย (ส่วนที่เหลือเอาไว้วันหลังจะเอามาให้ทุกเล่มทุกวิชาเลย เพราะพี่ไม่มีที่เก็บพี่โนอาบอก)

    การมีพี่รหัสมันดีอย่างนี้เอง ก่อนแยกกัน พี่โนอาถามแล้วถามอีกว่าจะให้ไปส่งไหม เพราะรู้ซึ้งว่าตึกที่เรียนนั้นอยู่ไกลแค่ไหน แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะอยากทดลองเดินดู ถ้าไม่ไหวค่อยให้พ่อส่งรถตามมาให้ใช้

    ใกล้เวลาเข้าเรียนผมเดินข้ามคณะ ไปฝั่งคณะวิทยาศาสตร์คนเดียว เดินหาจนเจอห้อง 401 ดูแล้วเวลาเหลือพอไปห้องน้ำก่อนได้ พี่โนอาเตือนว่าวิชาพวกแลป ห้ามสายห้ามขาด ไม่งั้นได้ไปเรียนกับรุ่นน้องปีหน้าแน่

    ผมเดินเข้าห้องชิลๆ ก่อนเวลาห้านาที มีบางคนมาถึงก่อน บางคนนั่งกระจายๆ กันอยู่ตามโต๊ะ หลายคนยังออกันอยู่กระดานหน้าห้อง ผมเดินเข้าไปดูว่าเพื่อนมุงอะไรกัน เวลาแบบนี้นี่แหละความสูงมีประโยชน์

   อ้อ เช็คชื่อ พร้อมบอกโต๊ะที่นั่ง และคู่แลป เพื่อนรอเช็นชื่อนี่เอง

    ผมต่อแถว เซ็นชื่อ และไปนั่งตามโต๊ะที่ระบุ คนที่ท่าทางจะเป็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง พร้อมลูกมือที่ยกหนังสือมาอีกสองตั้งใหญ่ๆ

    “ให้เวลาอีก10นาทีนะ” แล้วทั้งหมดก็ทิ้งกองหนังสือไว้ และจากไป
งงครับ

    ผมหันไปดูนาฬิกาเรือนที่แขวนอยู่หน้าห้อง บ่ายโมงเป้ะ เข็มวินาทียังไม่ครบรอบ อะไรจะตรงเวลาปานนั้น

    ผมมองหาเพื่อนคู่แลปที่ยังไม่มานั่งที่โต๊ะ ในกลุ่มที่ต่อแถวก็ไม่มี โอ้ย จะทันมั้ยนะ

    ผมทำใจนิ่งๆรอจนครบสิบนาที ตอนนี้ทุกเก้าอี้มีคนจับจองเกือบครบแล้ว ขาดแค่ไม่กี่คน ขาดคนข้างๆ ผมด้วย

    ผมไม่ได้สาย  แต่ทำไมตื่นเต้นจังว่ะ

    เหมือนเสียงนกหวีดดังครับ อาจารย์เดินเข้ามาแล้ว พร้อมผู้ติดตามซ้ายขวา ผมนี่แทบปาดเหงื่อ

    “เอาล่ะ วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก และกติกาสำหรับวิชานี้กันก่อน”

    “ถ้าเป็นการเรียนการสอนจริง คนที่เดินเข้าประตูมาหลังอาจารย์ ถือว่าสาย สายแปลว่าขาด” เชดดดดดดดด

    “ปากกาแดงจะถูกขีดทับรายชื่อที่ยังว่างอยู่เมื่อเลยเวลา อาจารย์จะเข้ามาเริ่มสอนเวลานี้ คือบ่ายโมงสิบนาทีตรง นี่หยวนๆให้แล้วนะ” ในน้ำเสียงทุ่มอบอุ่นผมรู้สึกถึงความเย็นเยือกในนั้นอยู่ครับ “ผลและสรุปการทดลองจะให้ส่งในนี้” อาจารย์เดินไปอีกโต๊ะที่มีตะกร้าใส่เอกสารเปล่าๆ วางอยู่ “เซ็นชื่อแล้วก็เอามาวางไว้นี่ รายงานจะส่งอาทิตย์ต่ออาทิตย์ เช่นทำอาทิตย์นี้ ส่งก็ตอนมาเรียนอีกทีในอาทิตย์หน้า ของที่เรียนอาทิตย์หน้า ก็ส่งอาทิตย์โน้น เข้าใจนะว่าที่วิศวกร และนี่” อาจารย์ผายมือไปทางประตูทางเข้าข้างๆ ตัวแก “คือตัวอย่างของผู้มาสาย”

    ผมเห็นคนที่เปิดประตูเดินเข้ามานี่แทบเอาหัวโขกโต๊ะ ผมสีอ่อนกับตาคม นั่นคู่แลปผมเอง มึง มานี่ มาๆๆ โคตรอาย ผมอายแทน

    “ไปนั่งที่ก่อน อาจารย์พูดจบค่อยมาเซ็นชื่อนะ” อาจารย์ยิ้มปิดท้ายพูดเหมือนจะดูใจดี แต่ฟังแล้วผมหวิวๆ ไงไม่รู้ ผมกวักมือเรียกสุดชีวิต “โน้น เพื่อนเรียกแล้ว”

    ทุกคนหันพรึบมาทางผม ผมนี่หน้าชา ต้องเอาประโยคเด็ดเมื่อหลายปีก่อนมาใช้ ‘เหมือนตบเด่นกลางสี่แยก’

    ไอ้คู่แลปผมก็คงรู้สึกอายไม่ต่างกัน มันขอโทษอาจารย์แล้วพุ่งพรวดเดียว กระโจนข้ามห้องมานั่งหอบข้างผม

    “ชิบหายอะไรวะเนี่ย” มันบ่นเบาที่สุดพร้อมๆ กับหอบไปด้วย “ไงก็ขอบใจนะเว้ย”

    “ไม่เป็นไร ฟังอาจารย์ก่อนเดี๋ยวจะอธิบายทีหลัง”

    “ในหนังสือนี่ จะมีรายละเอียดการทดลองต่างๆ ตลอดทั้งเทอมนี้ อยู่ทั้งหมด เล่มเดียวจบ การบ้าน คืออ่านและทำความเข้าใจวิธีการทดลองของชั่วโมงต่อไป มา ง่ายม้ากกกกกกก” ถ้าไม่นับช็อตเมื่อกี้ ผมว่าผมชอบวิธีพูดของอาจารย์คนนี้นะ ดูพลิ้วไหวฟังสบายน่านอนมาก “เข้าห้องมา เช็คชื่อ ส่งงาน รับและเช็คอุปกรณ์การทดลอง แล้วก็รอฟังการแสดงตัวอย่างของอาจารย์และอาจารย์ผู้ช่วย และทำการทดลองเองตามขั้นตอนตามลำดับที่ถูกต้อง บันทึกผลไว้ ทำเสร็จ เก็บของให้ทุกอย่างเหมือนตอนที่เข้าห้องมา เซ็นคืนอุปกรณ์ เปิดตูดออกจากห้องได้ทันที ใครเสร็จก่อนกลับก่อนอย่าได้แคร์”

    โอ้ย อาจารย์รุ่นๆ พ่อผมเลย แต่ศัพท์แต่ละคำ วัยรุ่นมาก

    “จบ ปล่อยล่ะวันนี้”

    “หา?” หลายคนอุทาน เกิดเสียงงึมงำๆขึ้นทั่วห้อง

    “ใจเย็นๆ ก่อนกลับก็มารับหนังสือ กับจ่ายเงินค่าหนังสือที่โต๊ะนี้ก่อนนะ ใครที่คู่แลปยังไม่มาก็ซื้อให้เพื่อนด้วยล่ะ รอบหน้าไม่มีแล้วนะ จารย์ไปล่ะ บ๊าย!” เกิดเสียงงึมงำอีกครั้งและคนเริ่มลุกขึ้นทยอยไปหน้าห้อง

    ผมชอบอาจาย์นะ บ๊าย!

    “รีบแทบตาย โอ้ย”

     คนนั่งข้างผมฟุบหัวลงกับโต๊ะ ทิ้งแขนห่อยไปข้างตัว เขายังหายใจเหนื่อยๆ อยู่เลยเมื่อกี้

    “นายๆ ไปเซ็นชื่อก่อน เผื่ออาจารย์เดินกลับมาเก็บใบเช็คชื่อ”

    “เออว่ะ” มันพุ่งตัวไปเซ็นชื่อที่หน้าห้อง จริงๆเขาไม่ได้มาสายสุดหรอกครับ รายชื่อยังว่างอยู่อีกสองสามชื่อ แต่จังหวะมันโคตรซวย

    “นายชื่อ อดิศร เหมือนกันเหรอ?”

    “ใช่ หวัดดี เราแม็ต”

    “เออดี”

    “เฮ้ย ชื่อกุเลย อดิพัฒ ชื่อเล่นต่อว่ะ เอกโยธา”

    “กูอดิพันธิ์ เรียกเว เอกไอที เมื่อกี้มึงบอกชื่อเล่นยัง?”

    “ยังมั้ง มะนาว เรียกนาวก็ได้ เมื่อกี้จารย์เข้าก่อนกูมานานป่าววะ”

    “ไม่นะ แค่สองสามนาที แต่ถ้าเป็นอาทิตย์หน้าที่จะเรียนจริง จะถือว่าขาดเรียนไปเลย”

    “เหี้ยมาก”

    “อื้ม สายสามครั้ง ไม่มีสิทธิสอบ ก็ถือว่าตก” ผมบอกเพื่อน

    “เฮ้ยจริงดิ้ เมื่อกี้อาจารย์ไม่เห็นบอก” เวหันมาถามตาโต

    “อื้ม พี่รหัสบอก”

    “พี่กุไม่เห็นบอกอะไรเลย” ต่อบ่น ต่อป่าววะ ต่อมั้ง ถ้าจำชื่อไม่ผิด

    “ยังดีกว่าพี่กู ทำกูสายเนี่ย แล้วจารย์บอกไรอีกป่าวที่กุควรรู้” นาวหันมาสบตาผมไปเซ็นชื่อมาคงรู้แล้วว่าเราต้องทำงานคู่กันตลอดเทอมนี้

    “ก็ไม่มีไร ส่งงานอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ทำเป็นคู่ ส่งเป็นคู่ แค่นั้นแหละยังไม่ได้พูดอะไรมาก” ต่อกับเวชวนกันไปซื้อหนังสือเพราะคนเริ่มน้อย

    “อ้อ อื้มๆ” นามทำหน้าเข้าใจ แล้วหันไปดูคนที่ต่อแถวซื้อหนังสืออยู่หน้าห้อง

    เพราะขนตายาวนี่เองตาถึงได้ดูคม คมออกไปทางหวานนะผมว่า

    มะนาวก้มลงเปิดกระเป๋าสะพายข้าง ผมเผลอมองตาม มันเปิดช่องนั้นช่องนี้แล้วทำหน้าตกใจ

    “เชี้ย เป๋าตังหาย”

    “จริงเหรอ หาดูดีๆ”

    “ไม่มี” มันเททั้งกระเป๋าออกมาบนโต๊ะ มีสมุดโน้ตเล่มเท่าผ่ามือ หูฟังไอพอตชัฟเฟิล พาวเวอร์แบง แฟรตไดร บิลเซเว่น กับเศษเหรียญสองสามเหรียญ ไม่มีอะไรที่หน้าตาคล้ายกระเป๋าตังเลย

    “หายหรือลืม” ผมถามให้มันย้อนคิด ทำไมผมต้องตื่นเต้นไปกับมันอีกแล้วเนี่ย

    “ไม่รู้ โทรหาพี่แปป เผื่อเขาเก็บไว้ให้” มันตบๆ กระเป๋ากางเกง

    “เฮ้ย! โทรศัพท์ก็หาย” มะนาวตกใจจนโต๊ะข้างๆ หันมามองหลายคนเลยครับ

    “...” ผมพูดไม่ออกเลย

    “ยืมโทรศัพท์หน่อย” ผมหยิบให้มันอย่างรู้งาน ปลดล็อกให้เสร็จสัพ

    มันกดเบอร์อย่างรีบ แล้วโทรออก คงโทรเข้าเบอร์ตัวเอง

    “ติดแล้วๆ” มันบอกผม หรือบอกตัวเองวะ รนทั้งคู่เลยตอนนี้

    “เออดีๆ รับมั้ยๆ”  ทำไมผมต้องตื่นเต้นไปกับมันขนาดนี้เนี่ย

    “ฮัลโหลๆ นั้นใครครับ”

    “อ้าว พี่เท โหยพี่ ผมหัวใจจะวาย เป๋าตังด้วยเหรอ เออๆ อ้าว” มันยกหูออก คนที่ชื่อเทวางไปแล้วครับ คุยได้แปปเดียวไม่ถึง 30 วิฯเลย

    “ว่าไง” ผมถาม พร้อมๆ กับที่มะนาวส่งโทรศัพท์คืนผม

    “พี่เก็บไว้ให้ ทั้งโทรศัพท์ ทั้งกระเป๋าตังเลย บอกว่ากุลืมไว้ที่โต๊ะกินข้าว เรียกก็ไม่ทัน นี่เขาติดเรียน เรียนเสร็จจะโทรกลับเบอร์นี้ เอาของมาให้”

    “ดีแล้วที่ไม่มีอะไรหายนะ ใจเย็นๆ”

    “ดีไงล่ะ แล้วจะซื้อหนังสือไงล่ะเนี่ย”

    “เดี๋ยวออกให้ก่อน ได้เป๋าตังค่อยคืนไง ยังไงก็ต้องรอเอาของพร้อมกันใช่มั้ยล่ะ”

    “เห้อ ลำบากมึงแล้วล่ะ”

    “เอาน่า รอนี้นะ” ผมลุกขึ้นไปซื้อหนังสือ หันไปมองก็เห็นมันเอาหัวซบโต๊ะ แขนห้อยโตงเตงอีกรอบ


     ...........



    “พี่พาไปกินอะไรมาถึงสาย”

    “บุพเฟ่ชาบู หน้ามอรถโคตรติดสายตรงนั้นแหละ”

    ผมมานั่งร้านกาแฟ รอพี่รหัสมะนาวเลิกเรียน ผมก็รอเข้าเชียร์

    “นาวจะเข้าเชียร์มั้ยเย็นนี้”

    “ว่าจะไม่เข้านะ ขี้เกียจ มึงอ่ะ”

    “คงเข้าแหละ อย่างน้อยก็ครั้งแรก”

    “เหรอ” มันทำท่าคิดหนักจนหน้าเบี้ยว ดูท่าจะเกลี้ยกล่อมได้นะ

    “ไปลองดูมั้ย พี่รหัสบอกไม่น่ากลัว แค่ไปนั่งร้องเพลงพวกเพลงคณะกับเพลงมหาลัย”

    “เหรอ กูชอบร้องเพลงนะ แต่...”

    “ไปดิ กุก็ไปไง”

    “ไปก็ได้ ลองดู เพราะพี่กูบอกให้โทรบอกแม่ไปแล้วว่าวันนี้ค้างกับพี่ เห็นว่ามีปาตี้”

    “ฮ่าๆ อยู่เพราะปาตี้?”

    “แม่น สาวๆ เพลงดึ้บๆ” มันทำหน้าฟินอย่างร้ายกาจครับ

    พนักงานยกกาแฟมาเสริฟ มะนาวสั่งโกโก้ปั่น ผมสั่งอเมริกาโน่ครับ ผมอายุเท่านี้ก็กินกาแฟเป็นนะ ตายายผมทำสวนกาแฟครับ

    “มันคืออะไรวะ” มะนาวชี้แก้วผม คงคุ้นเคยกับกาแฟใส่นมสีขุ่นๆ

    “อเมริกาโน่ ปกติกินกาแฟรึเปล่าล่ะ?”

    “กินแต่ลาเต้ ไม่ก็คาปู”

    “ชิมมั้ย”

    มะนาวรับไปชิมจริงๆ ครับ ผมนี่เตรียมหัวเราะเลย

    “อื๋ม” มะนาวทำหน้ายู่เลยครับ นอกจากมันจะเป็นกาแฟดำไม่มีนมและคลีมปน ผมยังสั่งไม่ใส่น้ำตาลด้วย

    เป็นภาพที่น่ามองมากครับ ผมเปล่าแกล้งนะ

    “ฮ่าๆๆๆ”

    “กินได้ไงว่ะ แม่ง”

    “กินแบบนี้แหละ ไม่อ้วน มีประโยชน์”

    “ยังไงว่ะ”

    “ช่วยเผาผลานไง”

    “กูจะไม่สั่งแดกครับ ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์ตรง”

    ผมหยิบมือถือขึ้นมาเช็คเฟสกับอ่านข่าวในทวิตได้แปปเดียวก็นึกขึ้นมาได้ว่าเพื่อนผมไม่มีมือถือเล่น ตอนนี้มันหยิบขายหัวเราะมาเปิดผ่านๆ แต่ทำหน้าเซ็งมาก ผมเลยนึกอะไรออก

    ผมเปิดเกมที่เล่นกันสองคนขึ้นมา และยื่นให้มันเริ่มเล่นก่อน

    “อะไรว่ะ ปริศนาฟ้าแล็ป?” มันรับมือถือผมไปครับ “กูเกลียดเกมนี้ แม่งไม่เคยชนะใครเลย”

    มะนาวบ่นแต่กดเริ่มเล่นเกมทันทีครับ ผมได้ยินเสียงเฮียปัญญาบอกจับเวลา มันเป็นเกมตอบคำถามที่มีตัวเลือกให้เลือกครับ ต่างจากรายการในทีวีที่ต้องมั่วคำตอบเอง ผมเลือกแบบแบทเทิล ที่มีคำถามเหมือนกันให้เล่นคนละรอบ

    มะนาวขมวดคิ้วกับคำถามครับ อ่านไปทำปากขมุบขมิบไป เวลาตอบถูกมันดีใจออกทางสีหน้า เวลาตอบผิด ก็ ฟ้องออกมาหมดครับ ตลกดี แค่เห็นสีหน้ามะนาวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาผมก็ขำแล้วครับ

    “เชี่ย อย่าหัวเราะดิ เสียสมาธิ” ผมโดนดุเฉยเลยครับ ฮ่าๆๆๆ

    “เหี้ย  ตอบไม่ทัน”

    “ได้เท่าไหร่?

    “ห้า โคตรน่าเสียดายผิดตรงหกทุกที”

    “ตากูบ้าง” ผมกดเริ่มเล่นครับ

    มะนาวมายืนลุ้นว่าผมจะตอบอะไรโง่ๆออกไปให้เขาหัวเราะตอนไหน เล่นมายืนหัวเราะอยู่ข้างหลังผมแบบนี้ผมก็ไม่มีสมาธิสิครับ แล้วผมก็ได้สี่ครับ

    พอผลออกมา มันยิ่งหัวเราะชอบใจใหญ่ บอกว่าชาตินี้เพิ่งเคยชนะคนอื่นครับ

    “ตาต่อไปกูเล่นก่อนบ้าง” ผมกดเล่นต่อ เจอแต่คำถามติ้งต๊องครับ แค่อ่านคำถามก็หัวเราะแล้ว

    แล้วสรุป ผมก็ชนะในตาที่สอง และตาที่สามสี่ด้วยครับ จนมันโวยวายบอกไม่เล่นแล้วๆ ผมเลยเปิดเกมจับผิดภาพมาสุมหัวเล่นกันครับ

    ไม่นานพี่เทก็โทรมา ผมนึกว่าต้องรอถึงสี่โมงเย็นซะแล้ว มะนาวรับโทรศัพท์แล้วบอกพิกัดร้านกาแฟไป ให้พี่เอาของมาให้
พี่เทของมะนาว ตัวเท่ามะนาวเลยครับ แต่ล่ำดูมีกล้ามเนื้อมากกว่า ผมว่าพี่คนนี้คงเป็นคนออกกำลังกาย มะนาวแนะนำผมให้พี่เทรู้จักครับ

    “นี่แม็ต ข้างรหัสผมพี่”

    “หวัดดีครับ”

    “เออๆ หวัดดี พี่รหัสชื่ออะไรอ่ะเรา”

    “พี่โนอาครับ”

    “โอ้ว โคตรโชคดี ได้ดาวมหาลัยเป็นพี่รหัส”

    “แลกกัน แม็ต แลกพี่กับ”

    มะนาวโดนโบกไปทีครับ หายอยากเลย ฮ่าๆๆ

    พี่เทก็เป็นอีกคนครับ ที่ย้ำว่าให้พวกเราเข้าเชียร์ ทำไมพวกพี่ๆเขาต้องย้ำนักย้ำหนาด้วยนะ?

    แต่ยังไง ผมก็ตั้งใจจะเข้าอยู่แล้วนี่ครับ

 

.........................................


 (มีต่อ)
    V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:37:38 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: love Again. ย้ำรัก [บทนำ]
«ตอบ #3 เมื่อ16-01-2016 22:12:07 »

(ต่อจ้า)

.........................................



    ผมว่าความซวยกำลังจะมาทักทายผมแล้ว

    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง นับตั้งแต่เลิกเชียร์ที่ออกแนวซีเรียสจริงจัง เป็นปาตี้สนุกสนานเหมือนกับปิดร้านเลี้ยงกันเลยทีเดียว บอกตรงๆ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามากรุงเทพสามวันก่อนเปิดเทอม ไม่เคยนั่งร้านเหล้าแถวนี้แน่นอน ร้านที่พี่ๆ พาปีหนึ่งที่สมัครใจมาเลี้ยงเป็นร้านนั่งฟังเพลงชิลครึ่งนึง อีกครึ่งร้านปิดมิดชิดเปิดเพลงที่เขาเรียกว่าแนวตื้ดๆ ตอนยังไม่ดึกเราต่อโต๊ะยาว เสียงดังโวยวายกันอยู่ข้างนอก พอเริ่มเมาๆ ก็เริ่มแตกฝูงมีทั้งประชันกันอยู่ข้างนอกต่อ ดิ้นแด่วๆ อยู่ข้างใน ประเด็นคือ ข้างรหัสผมครับ คออ่อนแต่เสือกจัดหนัก ผมเลยเห็นเงาความซวยอยู่รำไรๆ

    “ไอ้นาว มึงอยู่บ้านรึอยู่หอ” ผมถามมันก่อนมันจะเมาไม่รู้เรื่อง จะได้ส่งถูกไม่ใช่อะไร พวกพี่ๆเขาบอกให้เช็คเพื่อนก่อนเมาสิ้นสภาพว่าใครจะกลับกับใครอะไรยังไง

    “บ้าน” มันตอบสั้นๆ

    “อยู่แถวไหน ถ้าเลิกเดี๋ยวกุไปส่ง”

    “ไม่ได้”

    “อ้าว?”

    “กุเมา แม่กุต้องไม่ปลื้มแน่ทั้งเรื่องเมาทั้งเรื่องขับรถกลับ พี่กูรอบคอบให้กูโทรบอกแม่ไปแล้วไงว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน”

    “แล้วมึงทำไง?”

    “ค้างกับพี่เทไง”

    “เออ ดีแล้วๆ”

    “กุรู้สึกเหมือนกุอกหัก”

    “ห่ะ?” มันได้ฟังผมรึเปล่า นอกเรื่องไปไกลแล้ว

    “แค่รู้สึกไม่ได้อกหักจริง เพราะกุยังไม่ได้ลองจีบเลย กูโวยวาย กูฟูมฟาย กุเสียใจ แม่ง คนที่เขามองโคตรดูดี”

    “เอาน่ะๆ ใจเย็นๆ” ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ แต่ผมก็ปลอบเพื่อนไป มองเห็นพี่โนอาเดินออกมาจากห้องน้ำ ท่าทางพี่รหัสผมก็ไม่ไหวเหมือนกันแหะ กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่คงมากินด้วยกันหลายครั้งแล้วผมก็พอดูออกว่าปลอดภัย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเราเนี่ยแหละ

    “แม็ต” ผมโดนจับคางให้หันกลับมาที่คู่สนทนา

    “อะไร” ผมก้มลงมองหน้าคนข้างๆ แม้จะนั่ง แต่ผมก็ยังสูงกว่านิดหน่อย ผมเห็นมันหน้าแดงแขนก็แดง คอก็แดงเป็นจ้ำๆ มันเป็นประเภทกินแล้วตัวแดง แดงเถือกจนน่ากลัว ผมเห็นมันเป็นงี้เลยยกมือขึ้นอังหน้าผาก แล้วก็แนบหลังมือกับคอมัน ตัวอุ่นๆแต่ก็ปกติคนกินเหล้ามั้ง

    มันปัดมือผมออก “กินแค่นี้กุไม่ตายห่าหรอกน่า”

    “เอ่อๆ”

    “วันนี้กุไปนอนกับมึงนะ” มันพูด ทำคอย่น ตาปรือแบบคนเมา “นะ ได้ป่าว”

    “กุว่าแล้ว”

    “มึงตอบตกลงได้อย่างเดียว ตอบดิ” เมื่อกี้มันยังทำเอียงคอขอร้องอยู่เลย ตอนนี้มันทำหน้าดุแล้วครับ คนเมานี่น่ากลัวจริงๆ

    “เออๆ แล้วมึงบอกพ่อแม่แล้วใช่มั้ยว่าวันนี้ไม่กลับ เดี๋ยวเขาเห็นห่วงนะ”

    “บอกแล้ว พี่รหัสกุบอกให้โทรบอกพ่อแม่ไปเลยว่ามีพี่รหัสดูแลสบายหายห่วงไว้ตั้งแต่กลางวันไง แต่มึงดูพี่กุดิ”
มันชี้ไปทางโซฟาโต๊ะข้างหลัง มีศพกองอยู่ “พี่รหัสที่กุนับถือ”

    “แม่งอ่อนทั้งสาย” พูดจบผมก็โดนมันตีหน้าขาครับ แม่งมือก็ไว

    “หิ้วกุกลับด้วย กุไปเต้นข้างในก่อน มีที่ซุกหัวนอนสบายใจ” พูดจบมันก็ยกแก้วขึ้นจิบแล้วลอยไปโซนข้างใน
ผมมองตาม ตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายโต๊ะข้างทางเข้าที่นั่งกันสามคน มองตามเพื่อนผม ผมยกแก้วขึ้นจิบ ขยับแว่นนิดๆ ให้เข้าที่ มีคนนึงลุกขึ้นเดินเข้าไปโซนข้างใน เพื่อสองคนของหมอนั่นหัวเราะชอบใจ ผมอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ก็เลยลุกช้าๆ เบี่ยงไปทางห้องน้ำ แล้วลัดกลับมาข้างหลังสองคนนั้น ผมเห็นคนนึงหยิบแบ้งพันออกมาสองสามใบ โยนลงบนโต๊ะ

    “มึงเอาจริงเหรอวะ?”

    “เอ่อดิ มึงก็รู้เพื่อนมึงชอบแนวนี้ นี่สเปคมันเลย กุไลน์บอกมันก่อนมันจะได้ยิ่งมีกำลังใจจีบ จีบติดกุเลี้ยงเหล้า ฮ่าๆๆๆ”

    “ห่า แบบนี้กุก็แย่ดิ มันยิ่งคึกๆอยู่”

ผมเข้าใจทั้งหมดแล้ว เป็นเพื่อนคุณคุณจะยอมเหรอ ถึงผมกับนาวจะเพิ่งรู้จักกันวันนี้ก็เถอะ แต่ถ้ามีการพนันเข้ามาเกี่ยวแถมยังเป็นพวกที่ดูไม่ธรรมดาแบบนี้อีก ผมเดินเข้าโซนข้างในอย่างไม่ต้องคิด

    ข้างในเปิดเพลงเสียงดังและมีจังหวะกว่า มืดกว่า และบรรยาการอึมครึมชวนมึนเมามากกว่า ผมเดินไปหน้าเวทีที่พวกพี่ๆ เพื่อนจับกลุ่มกันอยู่ มองหาเพื่อน

    ผมเห็นนาวอยู่อีกฝั่ง คนที่เพิ่งตามเขามายืนดูโทรศัพท์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จากแสงไฟมือถือ ผมเห็นเขายิ้มมุมปาก แล้วกดปิดมือถือ คงอ่านไลน์ที่เพื่อนส่งมาเสร็จแล้ว ผมที่รอดูท่าที ถูกพี่รหัสตัวเองกระชากแขนอย่างแรง

    “น้องรหัส เข้ามาในนี้ต้องเต้นสิ มาๆ โยกๆๆ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่ผมเมา แต่ดูมีสติดี ผมเลยชั่งใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมว่าพี่โนอาน่าจะช่วยได้ เพราะพี่เป็นที่รู้จัก เจ้าของและเด็กร้านทุกคนรู้จักพี่ บอกไว้ก่อนกันพลาด หรือเกิดอะไรขึ้นดีกว่า คือเอาจริงๆนะ ผมยังไม่คุ้นเคยกับที่แบบนี้ แถมคุยกับคนเมานี่ก็รู้ๆว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

    “พี่โนอาผมมีเรื่องจะบอก” ผมมองทางวิทว่าไปถึงไหนก่อนก้มตะโกนสู้เสียงเพลงข้างหูพี่โนอา

    “อะไยเหยอ? บอกมาๆพี่หาให้หมดเพื่อน้องรหัส ฮ่า”

    “มีคนพนันกันมาจีบข้างรหัสผม เดี๋ยวผมจะไปดึงเพื่อนออกมา ถ้าเกิดอะไรขึ้นพี่เป็นแบล็คให้ผมด้วยนะ”

    “อ้อด้ายเลยยย กาดร้านนี้เข้มแข็งอยู่แว้วว ไหนล่ะ เดี๋ยวพี่ไปบอกพี่กาดให้ลากออกไปเลย”

    “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกพี่ เดี๋ยวผมลองจัดการเองดูก่อน”

    “ได้ๆ มีไรบอกพี่นะ โอเคนะ”

    “พี่เมาแล้วใช่ป่าวเนี่ย?”

    “นิดนึง อย่าบอกใครนะว่าพี่เมา เดี๋ยวคนอื่นรู๊”

    “ฮ่าๆๆ ไม่รู้เลยพี่ ผมไปล่ะ” พี่โนอาทำหน้าโอเคและทำมือโอเคไว้ข้างตาที่ยิ้มหยี อารมณ์ดีจริงๆ

    ผมเงยหน้าขึ้นใช้ความสูงโดยไม่ต้องพยายามมองข้ามเพื่อนๆพี่ๆไปอีกฝั่งของเวที เห็นผู้ชายคนนั้นกระซิบอะไรข้างหูนาว มันยิ้มตอบและพยักหน้าแบบถ่อมตัว

    ผมเดินเข้ามาใกล้ๆสองคนนั้น ผู้ชายใส่เชิทเหมือนพวกทำงานอ๊อฟฟิสชวนวิทคุยอีกครั้ง เหมือนจะขอเต้นด้วย
คิดๆๆ เอาไงดีว้าไอ้แม็ต

    พอสองคนนั้นเริ่มเต้นต่อนาวยกมือขึ้นชูตามเพลงที่เปิดเหมือนหมอนั้นพยายามจะเข้าใกล้ ผมที่ยังคิดอะไรไม่ออก ปราดตัวเข้าข้างหลังนาว มายืนกระโดนๆ อยู่ข้างๆ มัน นาวเห็นผมทีแรกเหมือนจะตกใจว่าใครพรวดเข้ามา แต่เมื่อมันเห็นว่าเป็นผมมันก็ยิ้มให้ผมก่อน ผมก็เลยยิ้มตอบ ใจก็คิดยังไม่รู้จะบอกมันท่าไหน

    ไอ้หน้าแก่นั้นมองหน้าผมตาขวาง มันยื่นมือข้างนึงมาทำท่าจะโอบเอวเพื่อนผมที่หลับหูหลับตากระโดดเหยงๆไม่สนใจอะไร เอ้ะ ไอ้นี่!

     ผมไวกว่าดึงเอวนาวมาชิดกับตัวทั้งที่กระโดดอยู่พร้อมกัน ผมลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กลัวก็กลัวไอ้นั้นต่อยผม อย่าลืมว่าผมตัวใหญ่แต่ก็อายุแค่ 18 นะครับหน้าไอ้หมอนั้นอายุสัก 28 ได้ ให้ผมกลัวหน่อยเถอะ ประเด็นคือ ไอ้เพื่อนครับ มันก็มองหน้าผม แต่ยังห่วงกระโดดอยู่นะ

    “มึงโดดเซจนจะล้มแล้วเนี่ย” ผมกระซิบข้างหูมัน ได้ผลครับ มันเลยเอาแขนข้างนึงกอดคือผมไว้ แล้วเต้นต่อ ไอ้หมอนั้นก็ไม่ยอมไปครับ ยังทำท่าโยกๆ มองนั้นมองนี่ มองนาว และมองผม แต่ผมก็พยายามไม่สบตามันเดี๋ยวจะกลายเป็นยั่วโมโหมัน กลัวมันต่อยครับ

    พอจังหวังเริ่มช้าตอนใกล้จบเพลง นาวมันเหมือนจะหมดแรง หยุดโดด เหลือแต่โยกคอ หมอนั้นเริ่มเว้นระยะห่างจากเรา ผมก็เลยปล่อยเอวนาว แต่มันยังเกี่ยวคอผมไว้อย่างเหนี่ยวแน่นครับ ตัวมันย้วยไปย้วยมา คอที่โยกๆก็โขกกับไหล่ผมสองสามที เหมือนมันแกล้ง จนสุดท้ายมันทิ้งหัวพิงไว้กับไหล่ผม ดนตรีเปลี่ยนจังหวะ ผมก้มมองนาวที่ยกแก้วขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่ แล้วยิ้มแบบ ผมจะบอกยังไงดี ยิ้มแบบคนเมามั้ง บอกไม่ถูก หนำซ้ำทั้งที่หัวยังพิงไหล่ผมมันยังยกแก้วชนกับคนที่ตามมาจีบมันด้วย เอ่อ อัธยาศัยดีไปแล้วมึง กุกลัวโดนมันต่อยไม่ใช่อะไร

    “เพื่อนน้องนาวเหรอ?”

    “แฟนครับ” ผมชิงตอบแทนนาว  มันหันมามองหน้าผมเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

    “เออออกับกุเร็ว”

    “เฮ่อๆ” มันหัวเราะทำหน้างงได้แค่นั้นผมก็เลยชิงตอบอีก

    “ผมเพิ่งเปิดตัวครับ เขายังไม่ชิน” จริงๆ คือเราสองคนเพิ่งเจอกับครั้งแรกในชีวิตก็วันนี้เนี่ยแหละพี่น้อง

    “เหรอ ฮ่าๆๆๆ” ไม่รู้มันเชื่อมั้ย มันยิ้มเจื่อนแล้วขอตัวไปห้องน้ำ

    “มึงทำไรเนี่ย?”

    “ไอ้บ้านั้นเพื่อนมันพนันกันว่ามันจะหิ้วมึงไปด้วยได้มั้ยคืนนี้”

    “มึงรู้ได้ไง”

    “กุได้ยินเพื่อนมันข้างนอกคุยกัน”

    “แปลว่ามึงเพิ่งช่วยกุ จากไอ้หน้าหื่นนั้น”

    “ดูออกด้วยเหรอว่ะ”

    “งั้นที่มึง...”

    “?”

    “เปล่า กลับไปข้างนอกเถอะ” มันซดรวดเดียวหมดครึ่งแก้วที่เหลือ แล้วผมก็เดินตามมันออกมา


    มาถึงข้างนอกมันก็ตรงรี่เข้าไปหาขวดเหล้าที่วางอยู่หน้าพวกปีสามปีสี่ ไปขอเติมเหล้า เลยโดนเช็คชื่อไปอีกรอบหมดแก้วในสองการกระพริบตาและเชื่อเถอะเดี๋ยวก็มีแก้วสองสามสี่ตามมาติดๆกัน ผมมองมันก็ปลง ดูอาการมันไม่น่ามีชีวิตรอดกลับมาได้ ผมละสายตาจากมันเพราะพี่โนอาที่เดิมมาทัก คงตามผมออกมา

    “ไหนคนไหนที่ไปจีบนาว”

    “เสื้อเทา โต๊ะขวามือของประตูครับ” พี่โนอาทำเป็นมองไปที่บาร์ แล้วแอบเหลือบไปมอง

    “มันยังมองนาวอยู่เลย ทั้งโต๊ะเลย”

    “เหรอครับ” ผมไม่กล้าหันไปมองเท่าไหร่ ผมคงต้องยิ่งระวัง

    “แต่เมื่อกี้เพื่อนๆ เธอฟินตายกันเป็นฝูงเลนรู้มั้ย?”

    “หื๋อ?”

    “เราได้คู้จิ้นแห่งห้อง F ภายในชั่วข้ามคืน วู้ๆ เด็กๆ กรี้ดพวกเธอกันเป็นแถบ แทบไม่ได้เต้นเลยเมื่อกี้”

    “อะไรนะ?”

    “อย่ามาแอ็ปแบ้วน่ะ สมัยนี้ใครๆ ก็รู้จักทั้งนั้นแหละ คู่จิ้นอ่ะ คู่จิ้น”

    “ผมกับนาว”

    “แม่นแล้ว”

    “แก้ข่าวเลยพี่โนอา”

    “อะไร ไม่ล่ะ ฉันชอบแบบนี้” เธอยิ้มตาหยี

    “น้าๆ น้องขอ” พี่โนอารักผมมากครับเอามือเล็กๆ ดันหน้าผมที่ก้มอ้อนไม่ดูสารร่างตัวเองเลยว่าใหญ่โตขนาดไหน ดันแบบไม่ใยดี ดันทิ้งดันขว้างเลยครับ

    “ดูน้องนาวด้วยล่ะ เพราะคุณพี่ เมาแล้ววววว ฮ่าๆๆๆ” หัวเราะหงายหลังซะหมดสวยเลยครับพี่ผม ช่างมันเถอะ เรื่องเพื่อนค่อยแก้ข่าวพรุ่งนี้ วันนี้ผมต้องดูไอ้นาวก่อน นี่แก้วที่สามหรือสี่ติดๆ กันแล้วช่วงแป็ปเดียวที่ไปนั่งตรงนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าความซวยอยู่ที่ผม



........................................................


    กว่าผมจะเอามะนาวกลับมาห้องตัวเองได้ เกือบตาย

    “มึง มาเช็ดตัว” ผมเอาผ้าไปชุบน้ำกลับมาเช็ดๆถูๆมั่วๆไป เพราะมันบ่น ร้อนๆตลอดทาง

    เสื้อก็ถอดแล้ว กางเกง ผมแอบแง้มดูครับว่ามันใส่บ็อกเซอร์มั้ย เห็นมันใส่ผมก็เลยปลดเข็มขัดรูดซิบ ดึงกางเกงยีนต์น่าอึดอัดออก แค่นี้ก็พอมั้ง

    ก่อนจะทิ้งมันไปอาบน้ำ

    ผมกลับมาเห็นมันกุมเป้า เกาไข่ เกาไม่ว่าครับ มันโด่

    เชี่ย


    แต่... ก็ปกติมั้ง ธรรมชาติร่างกายผู้ชายแหละ คงไม่มีอะไร ผมปิดไฟล้มตัวลงนอนอีกฝั่ง นอนไปๆก็รู้สึกเตียงยวบครับ มันขยับตัว มันลุกขึ้น แสงสลัวๆทำให้เห็นเงามันคลานมา มันจูบแก้มผมเอาจมูกมาถูๆเหมือนอ้อน  ระดับนี้ ถ้าหันไป ถ้าผมหันไป...

    ผมจะหันไปดีมั้ยริมฝีปากมันคลอเคลีย งับแก้มผมเบาๆ ผมค่อยๆหันไปช้าๆ  เหมือนมันจะนิ่งรอจนริมฝีปากเราชนกันเบาๆ มันเชยคางดันมาน้อยๆ แล้วดันลิ้นเข้ามาแตะริมฝีปากผมมือมันคว้าหัวผมไว้ทั้งสองข้างเหมือนจะกลัวผมหนี กลิ่นแอลกอฮอล์แทรกเข้ามา ความรู้สึกของลมหายใจ...

    เรากำลังจูบกัน ผมไม่รู้ว่ามันรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไร แต่สติผมมันเต็มร้อย ตัวมันอุ่น ลิ้นมันก็อุ่น นี่ผมกำลังทำอะไร? ในฐานะอะไร? ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง และไม่เคยมีความคิดแม้เสี้ยวที่จะชอบผู้ชาย แต่ผมกำลังจูบกับผู้ชาย อะไรเป็นสาเหตุให้ผมไม่ปฏิเสธมัน

    มะนาวยกขาขึ้นมาพาดเอวผม เรานอนตะแคงเข้าหากัน ผมโอบเอวมันไว้ดึงให้เข้ามาใกล้ มันดึงรั้งให้ผมเข้าแนบชิดอีก
ผมควรจะหยุดมั้ย ผมควรจะแสดงท่าทีหยุดสานต่อแล้วห้ามมันมั้ย ก่อนที่... จะเลยเถิด

     มือมะนาวที่อยู่ด้านบนขยำผมที่ท้ายทอยผม มันปัดมือผ่านกรามแล้วอ้อมไปคอด้านหลังซุกมือลงไปใต้เสื้อกล้ามเกลี่ยผิวที่หลังผมไปมา ผมเริ่มบีบเฟ้นเอวมันเบาๆ ตอนมันนอนตะแคงเอวมันคอดเหลือนิดเดียว อยู่ๆ มันก็คว้ามือผมให้กุมส่วนนั้นของมัน นาวทาบทับมือผมไว้ให้ปรนเปรอมัน ผมรูดเบาผ่านบ็อกเซอร์นวดวนเบาๆก่อนจะถือวาสาสะล้วงเข้าไป รูดขึ้นลงซ้ำๆช้าๆ ทั้งที่ยังจูบกันอยู่ มันครางฮึมในลำคอปัดป่ายหาร่างกายผม มันคว้าส่วนนั้นของผมได้กำไว้นิ่งๆเหมือนมันจะเริ่มเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก ริมฝีปากมันล้วงจูบผมรุนแรงขึ้นในพริบตา เสียงครางอึดอัดจนแรงสั่นมาถึงผม ผมเร่งจังหวะที่ส่วนนั้นของมันขึ้นอีก ไม่นานมันก็เสร็จ เสียงครางในคอบอกความพอใจไม่นานก็เงียบลง เปลี่ยนเป็นเสียงหายใจสม่ำเสมอ


    มัน หลับ!


    ทิ้งผมไปซะดื้อๆ

    ผมกัดกรามหลับตาข่มใจ หายใจเข้า หายใจออกลึกๆ ดีแล้ว มันหลับไปอย่างนี้ดีแล้ว ถ้ามีต่อเนี่ยสิ จะแย่

    ในความมืด ผมเช็ดคราบที่มันทำเลอะเทอะให้ลวกๆ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำเงียบๆ


    ผมมายืนอยู่ในห้องน้ำ ก้มมองสภาพตัวเองแล้วถอนหายใจ


    ให้ตาย นี่เหรอวันแรกของการเปิดเทอม!





-----------------------------------------
----------------


เป็นตอนแรกที่ค่อนข้างยาว แต่ก็ช่วยให้พอมองภาพรวมออกเนอะ (ถามเองตอบเอง)

ติชมได้นะคะ ยิ่งเป็นคำติยิ่งขอน้อมรับ อยากให้ติเพราะเราอยากจะปรับปรุง บางอย่างที่เรามองข้ามถ้ามีคนช่วยเตือนมันดีนะ
เจอกันตอนหน้าจ้า
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2016 22:23:33 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ย้ำรัก. love Again. [บทนำ + ทบที่ 1]
«ตอบ #4 เมื่อ16-01-2016 23:46:31 »

 o22

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [บทนำ + ทบที่ 1]
«ตอบ #5 เมื่อ18-01-2016 18:05:26 »

เอิ้มมม สองคนนี้เขาจะย้ำกันบ่อยมั้ยอ่ะคะ? :hao6:
แม็ตดูปล่อยตัวปล่อยใจ แบบนี้แอบมีใจแต่ไม่แสดงออกรึเปล่า??? :-[

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [บทนำ + ทบที่ 1]
«ตอบ #6 เมื่อ18-01-2016 21:31:09 »


- บทที่ 2 - ร่ายมนต์คุ้มครอง -

----------------------------------


“อร้ากกกกก ปวดหัว แม็ต มึงมียาแก้ปวดมั้ยวะ”

ใครทำเสียงดังวะ?

“ตื่นแล้วเหรอ ตื่นนานยัง” ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องยามานั่งเปิดบนเตียง หยิบยาให้มัน ก่อนลุกไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้มันด้วย

“เดี๋ยวนี้แหละ ขอบใจ”

ผมมองมันกินยากินน้ำตามหลายอึก ปิดกล่องยาแล้วเสือกไปส่งๆ แล้วนอนต่อ

“มึง กี่โมงแล้ว”

ผมหยิบมือถือให้มันดูเวลาเอง น่าจะสักเก้าโมง ผมไม่มีเรียนเช้า รวมมันด้วย เลยนอนต่อชิลๆ

“หิว”

“หึหึหึ”

“หัวเราะไรว่ะ?”

“มึงดิ ตื่นมาก็โวยวาย เอานั่นเอานี่ นี่มึงหายเมายัง”

“น่าจะหายแล้วแหละ ไม่งั้นคงไม่ปวดหัวขนาดนี้ นี่กลับมาไงกูไม่รู้ตัวเลย”

“มึงจำอะไรได้เป็นอย่างสุดท้าย?” ผมลองเชิงแย็บถามมันดู

“เช็คชื่อไปสัก แก้วที่ห้าที่หก”

“เออ หลังจากนั้นมึงไปชนกับพี่เขาเองอีกเจ็ดแปดแก้วได้” ไม่รู้คึกอะไรนักหนา

“ขนาดนั้นเยเหรอวะ”

“เออ”

“แล้วกูกลับมาไง”

“กูขับรถมึงกลับ แล้วแบกมึงขึ้นห้องมา”

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไร”

“แล้ว...” มันนิ่งเหมือนนึกอะไรอยู่ ก้มมองสภาพตัวเองอีก ผมนี่รีบนอนหันหลังให้มันเลยครับ ไม่รู้ กุเปล่า กุไม่ได้เริ่ม กุไม่ผิด!

“กุหิว มีไรกินป่าววะ”

“ตู้เย็น มีหนมปังกับนมข้น มาม่าก็มีอยู่แถวนั้นแหละ ร้านข้าวก็ข้างๆ ไม่ไกล มึงเอาเลยตามสบาย”

“ถ้าลงไปตากแดดตอนนี้กุคงหน้ามืด กุต้มมาม่ามึงนะ”

“เอาเลยๆ”

ได้ยินเสียงมันก๊อกแก็กๆ ส่วนผมทำเป็นง่วงจะหลับต่อ แต่ใจผมเต้นแรงมาก กลัวมันจะเอ่ยถามถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมา ไม่รู้จะตอบมันยังไง

แต่มันไม่พูดอะไร ไม่มีท่าทีอะไร มันหน้าตาย หรือจำอะไรไม่ได้จริงๆนะ ถ้ามันไม่พูดอะไร ผมจะทำเป็นลืมๆไปก็แล้วกัน

“ซู้ดดดดดด โคตรซี้ดเลยมึง มาม่าร้อนๆ ตอนซ่างเมานี่ใช่มาก” มันพูดเหมือนรู้ว่าผมไม่ได้หลับจริง คือห้องผมมันก็เล็กนิดเดียว กลิ่นนี่ฆ่ากันเถอะ

“สนใจป่าวๆ อื้มม หร่อย อร่อยจริงๆ” ดูท่าจะพูดไปเคี้ยวไป

“เหี้ย!” ผมลุกขึ้นทำท่าหัวเสียอย่างไม่จริงจังนัก

“ฮ่าๆๆๆ มาๆ กุแกะไว้เผื่อมึงแล้ว เหลือแค่กดน้ำร้อน” มันว่า พลางยกอีกชามไปเติมน้ำร้อนให้ผม

“ไม่ใช่ว่ามึงจะเบิ้นสองเหรอ?”

“โว้ะ รู้ทัน”

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไร ถือว่าหายกับที่มึงแบกกุกลับ แบกกุขึ้นตึกเมื่อคืน”

“มึงนี่กำไรไปนะ มาม่านี่ก็ของกุ”

“ฮ่าๆๆๆ”

หลังกินเสร็จมันก็ล้างจานให้ผม แล้วขออาบน้ำ บอกจะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยเข้าเรียนบ่าย มันเลยนัดผมโรงอาหารใต้ตึก จะได้เข้าเรียนพร้อมกัน เพราะตอนเย็นก็มีเข้าเชียร์อีก ผมก็ต้องไปกับมันอยู่ดี เพราะหลังจากเข้าเชียร์ครั้งแรก เขาก็บอกให้คนที่เข้าตามข้างรหัสเข้าห้องเชียร์ด้วยให้ได้ ผมไม่อะไรเรื่องเข้าไปนั่งนิ่งๆในห้องเชียร์ ส่วนนาวมันก็บอกว่าถ้าผมเข้ามันก็เข้าก็ได้


เห็นมันปกติดีผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร

ได้แต่หวั่นๆว่าถ้ามีครั้งหน้าอีกจะรับมือมันยังไงเท่านั้นเอง 



………………………………………………………………………….



“ห้องมึงพาไปเลี้ยงไหนวะเมื่อคืน?”

“ร้านสบาย มึงอ่ะ”

“กุร้านฮัชช่ะ” ผมได้ยินชื่อร้านแล้วคิดว่าน่าจะมันกว่าของผมนะ

ผมกำลังคุยกับเพื่อนสนิทผมครับ ชื่อน้ำนิ่ง บ่ายน้ำมีเรียนตึกเดียวกันแต่คนละห้อง เลยเรียกมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน

ผมสนิทกับมันมาตั้งแต่ประถม แถมบ้านอยู่ไม่ไกล เลยทำให้ไปมาหาสู่กันบ่อย เลือกเรียนนี่ก็เพราะเลือกตามๆ กันเนี่ยแหละครับ ไม่รู้ใครตามใคร แต่ไปลงที่เดียวกับเป็นพอ

“มึงจะไปคัดตัวเข้าชมรมบาสมั้ย?”

“ไม่รู้ว่ะ ต้องรอจบเชียร์ก่อนนิ เขาถึงจะเปิดรับ รอดูก่อนเผื่อมีอย่างอื่นน่าสนใจ” ผมโดนบังคับให้เล่นบาสมาตลอดครับ เพราะ สูงเหตุผลเดียวเลยจริงๆ ตั้งแต่เด็กๆ ครูพละให้ผมลงบาสโรงเรียนตลอด ผมไม่รู้จะปฏิเสธทำไม ก็เลยเล่นๆไป

“แล้ว คู่จิ้นมึงอยู่ไหนวะ”

“แค่กๆๆ”

“อะไร แสดงว่าจริง” ผมสำลักจริงจังครับ มันต้องยื่นน้ำให้

“มึงรู้ได้ไง”

“มีรุ่นพี่ห้องกู เขาไปหาเพื่อนที่ร้านที่มึงนั่งกัน แล้วไปเห็นช็อตเด็ดพอดี กลับมาโม้ทั้งโต๊ะ รู้กันหมดห้องเลย ฮ่าๆๆ แต่คนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร แต่กุเป็นกุไง สูงๆ ขาวๆ ใส่แว่นกูว่าไม่พ้นเพื่อนกุเนี่ยแหละ”

ชิบหายละ

“พี่มึงเล่าว่าไง”

“เกิดศึกชิงนายขึ้นที่ห้องเอฟแหละพวกแก อร้ายฉันไม่อยากพูด พูดแล้วฉันเขิน คืองี้น้องคนนึงตัวเล็กๆ บางๆ ถ้าลำพังน้องก็หล่ออ่ะ แต่ตาหวานเยิ้มโคตร โดนเฒ่าหัวงูจีบ แล้วเจ้าของทนไม่ไหว เจ้าของเขาเลยมากระชากเอวไป ซบไหล่อย่างนี้เลย ก้มคุยกันงุงิๆ ไม่สนใจโลก เฒ่าหัวงูนั่นเลยถอยไปเอง นี่ๆๆ แล้วพอไอ้แก่นั้นออกไปนะ เขายังมองสบตากันปิ้งๆ สายตายังระยับอยู่เลย คิดถึงแล้วฉันจะเป็นลม ยาดมอยู่ไหนๆ” มันเล่าด้วยอินเนอร์เต็มแบบที่ทำผมขนลุก

“ห่ะ!”

“พี่กุเล่าหลายรอบ แต่ละรอบก็ประมารนี้แหละ แต่ใส่อารมณ์กว่านี้อีก”

“เหี้ย แม่งไปไกลมาก”

“กระชากมากอดนี่จริงมั้ย”

“กุแค่ดึงมันออกมาไม่ให้เขาลวนลาม”

“มีคนซบมึงนี่ไม่เป็นเรื่องจริง?”

“จริง”

“งั้นที่พี่กุเล่าผิดตรงไหน ฮ่าๆๆๆ”

“แค่แว้บเดียว มันเมาหัวมันหนัก เลยพิง แค่ไม่กี่วิ” จริงๆ เกือบครึ่งเพลงครับ น้ำตาจะไหล

“มึงน่าจะเข้าใจแรงจิ้นของสาวๆ นะ อย่างกะไม่เคย”

“ก็ตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง มึงเพื่อนจริงๆ”

“แปลว่า รอบนี้ของจริงดิ ชัดเลย ชัดเลย มึงอย่ามาแก้ตัว ฮ่าๆๆ” จับอะไรได้มันไล่บี้ผมยับเลยครับ

“ไปกันไหญ่แล้ว”

“เอาน่า กุไม่บอกใครก็ได้ ให้มันเป็นไปตามกลไกแรงจิ้น ฮ่าๆๆ” ผมทำหน้าเหนื่อย ไม่ต้องบอกก็คงพอเดาออกนะครับ ว่าตอนมัทยมเนี่ย เพื่อนๆกับพวกรุ่นน้องจิ้นผมกับน้ำกันอย่างจริงจัง “แล้วมึงนัดกันไว้รึเปล่า เรียนด้วยกันไม่ใช่รึไงบ่ายเนี่ย”

“เออ นาวมันกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดเมื่อเช้านี้” สายแล้วเนี่ยยังไม่เห็นเลย ผมมองนาฬิกา แล้วมองไปทางหน้าคณะ ใจก็ไม่ได้ห่วงอะไรมาก เพราะนัดก่อนเวลาเข้าเรียนครึ่งชั่วโมงกะกินข้าวด้วย นัดไว้เผื่อๆ เผื่อมันสายเนี่ยแหละ สายจริงๆ ซะด้วย

“บ้ะ! ค้างกับมึงด้วย”

“ตอนแรกมันจะไปนอนกับพี่มัน แต่แปปเดียวพี่มันก็ทิ้งตัว เมื่อคืนพี่มันนอนเฝ้าร้านจนสว่าง คนอื่นบอกถิ่นพี่มัน พี่มันนอนบ่อย มันจะนอนด้วยก็กะไรมันเลยมานอนห้องกุ”

“ไหนๆ มึงก็อยู่คนเดียวก็ชวนมันมาเป็นเมทดิ”

“ไม่ละว่ะ”

“อ้าว ไมวะ”

“เผื่อมึงไม่มีที่ซุกหัวนอน มึงจะได้มาซุกห้องกุได้ไง ฮ่าๆๆๆ”

“เหอะ ขอบใจที่อุส่าแช่ง” มันไม่เถียงครับ มันมีสิทธิเป็นความจริง พายุมาเมื่อไหร่มันอาจกระเด้งไม่มีที่นอน

ผมก้มดูมือถือที่สั่นอยู่ข้างจานข้าว นาวไลน์มาสองสามอันติดๆ

“เมื่อไหร่ข้างรหัสมึงจะมา กุอยากเห็นหน้า”

“หวัดดีหนุ่มๆ เมื่อเช้ามีเรียนอิ้ง อ.หล่อม้ากกกกกก กุไม่มีสมาธิเรียนเลย” เพื่อนโรงเรียนอีกคน เธอเป็นผู้หญิงเปิดเผย ไม่ใช่ห้าวเหมือนทอมนะ แต่แรดอย่างเปิดเผย คือ ไม่ใช่ผมใส่ร้ายมันนะครับ มันให้คำจำกัดความของตัวมันไว้งี้เอง

“หวัดดีเอ้”

“มันสายว่ะ บอกให้กุเข้าเลย เช็คชื่อให้ด้วยถ้าทำได้” ผมหันไปบอกน้ำ

“พูดถึงใครอ่ะ?” เอ้ผู้มาใหม่สงสัย

“ข้างรหัสไอ้แม็ต มันมีคู่จิ้นแล้วนะเว้ย รอบนี้ไม่ใช่กู ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้ย! จริงดิ้”

ผมเห็นสายตาแพรวพราวปิ้งๆ ของเอ้แล้วต้องถอนหายใจผู้หญิงกับสายวายนี่แยกกันยากจริงๆ ทำไมใครๆ รอบตัวผมต้องเดินสายนี้กันหมดนะ

“อย่าฟังน้ำมาก”

“หล่อมั้ยวะเมิงงงงง” มันหันไปถามน้ำ ไม่สนในคำแก้ตัวของผมสักนิด

“กุก็รอดูอยู่เนี่ย ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน”

“หน้าตาเป็นไงวะแม็ต”

ผมเงียบ มองหน้ามันสองคนสลับกันเหนื่อยๆ

“แม็ตตตต”

“ตัวเตี้ยวกว่าไอ้น้ำหน่อยนึงมั้ง ผอมกว่าเหมือนคนขาดสารอาหาร ผิวขาวเหลือง เกือบแทน”

“หน้าอ่ะ” เอ้เร่ง

“ก็หน้าคมๆ แบบคนไทยแท้ แก้มตอบๆ คิ้วเข้มมั้ง”

“ทำไมมันบรรยายแล้วกูนึกภาพไม่ออกวะ” เอ้บ่น

“เข้าเรียนกันเถอะ ของกูมีเช็คชื่อ” ผมบอกทั้งสองคน ยกจานเตรียมไปเก็บ

เอ้หันไปบ่นทำหน้ายู่ยี้ใส่น้ำ เป็นเชิงรำคาญผม ผมไม่สนใจเดินไปห้องเรียนที่ไม่เคยเข้าเรียนมาก่อน พอเดินเข้าประตูเท่านั้นแหละผมแทบอ้าปากค้างห้องเรียนโคตรใหญ่ สวยด้วย (พี่โนอาบอกว่าถ้าเป็นคนขี้หนาวให้เอาเสื้อกันหนาวมาเรียนด้วย แม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม) เป็นสโลบเหมือนที่เคยเห็นในทีวี น่าจะจุได้สามสี่ร้อยคน

ผมเข้าก่อนเวลา เห็นเพื่อนต่อแถวรอเซ็นชื่อกันอยู่สองสามคน ใบเซ็นชื่อเป็นตารางโล่งๆ ไม่มีชื่อให้ดูเหมือนตอนเรียนแลป ผมตัดสินใจเซ็นชื่อนาวก่อน เพราะผมกลัวจะลืมนามสกุลมันที่สู้อุส่าท่องมา เขียนเสร็จผมเดินออกไปนอกห้อง แล้วเดินกลับเข้ามาต่อแถวใหม่ให้คนอื่นมาเซ็นต่อ ถ้าเซ็นติดกัน ลายมือเหมือนกันก็น่าสงสัยไม่ใช่เหรอครับ เนียนๆ

เสร็จแล้วผมหาที่นั่ง เอาริมๆ ไว้ เข้าออกง่ายดี อาจารย์ยังไม่มา ก็เลยไลน์ไปบอกนาว

Maths : เซ็นแล้วนะ

Maths : เข้ามาก็หาที่นั่งเลย

NAWNAW : ใจว่ะ บุญคุณครั้งนี้จะเซ่นกาแฟนะ

     เมื่อวานระหว่างรอพี่มันเลิกเรียน ผมซดกาแฟดำเพียวๆ ครับ มันเลยเหมาว่าผมนิยมชมชอบการกินกาแฟ

Maths :   ไม่ต้องหรอก แต่ถ้าวันหลังเสี่ยงกับชีวิตจะคิดแพงกว่ากาแฟ

NAWNAW:   จะไม่ให้มีอีกเลย 5555

Maths :    ใกล้ถึงยัง?

มันจะสายจริงๆ แล้วครับ เลยบ่ายโมงมาสองสามนาทีแล้ว
   
NAWNAW :   ใกล้แล้ว

NAWNAW :   มึงนั่งไหน

Maths :    มึงเข้ามานั่งไหนก็ได้ โคตรกว้าง

NAWNAW :   ไม่อ่ะ มึงนั่งไหน

Maths :   เข้ามา ขวามือ เกือบบนสุด

มันอ่าน แต่ก็เงียบไป คงขับรถอยู่ เอาจริงๆ ที่ผมนั่งตรงนี้ก็เผื่อว่ามันจะมองหาผมได้สะดวกๆ ที่นั่งข้างๆ ก็เอาของวางจองไว้ให้มันแล้ว ไม่รู้ทำอะไรผมเลยเล่นเกมรอเหมือนคนอื่นๆ

“แมตตตตตต” ผมเงยหน้าดูเห็นเพื่อนสาวในชุดนักศึกษาชายตัวกลมกระโดดเหยงๆ โบกมือให้ผมอยู่ข้างโต๊ะเช็คชื่อ เสียงดังจนคนเงยหน้าจากมือถือมองกันเกือบทั้งห้อง

“แก เดี๋ยวไปนั่งด้วย จองที่ข้างๆ หัวใจให้ด้วยนะ วิชานี้ขอเป็นเมียมึงล่ะกัน จุ๊บ”

มันส่งจูบมาตามอากาศ ผมขมวดคิ้วมองความปัญญาอ่อนของมัน มองตามอากาศที่ว่างเปล่าสูงขึ้นมาๆ ทำตาจ้องเป่งเหมือนมองอะไรสักอย่าง ยกมือขึ้นคว้าอากาศตรงหน้าเฉียดปลายจมูก ขยำอากาศจริงๆ จังๆ ด้วยสองมือ แล้วทำท่าชูตไปทางถังขยะมุมห้อง

“อร้ายยยย แมตเหยียบย้ำหัวใจเมีย ขี้เล่นแบบนี้ไงเมียถึงรักเอาหลงเอา”

หลายคนที่มองผมกับมันอยู่หัวเราะ รวมทั้งผมด้วย พงศ์เป็นเพื่อนมัธยมของผมอีกคนที่มาเรียนที่นี่เหมือนกันครับ แต่ไม่ได้สนิทมาก แต่มันเป็นคนที่สนิทกับทุกคน เพราะความเป็นสาวเปิดเผยและเป็นคนตลก

“อะไรว่ะ?”

“อ้าว” ก็ไมสายนี่หว่า นาวเดินมานั่งลงข้างผมครับ มาตั้งแต่เมื่อไหร่? สงสัยเพราะหัวทองๆตอนนี้กลับเป็นสีเข้มเกือบดำผมเลยไม่ทันสังเกต สงสัยที่มาช้าเพราะไปโกรกผมอยู่

“ใครอ่ะ คนรู้จักมึงเหรอ?” มะนาวถาม

“อื้ม เพื่อนโรงเรียน โกรกผมแล้วเหรอ” ผมมองแล้วลูบคางสงสัยบางอย่าง

“ทำไม? มันทำให้กูดูไม่หล่อเหมือนเดิม?”

“ก็ดีไปอีกแบบ” ผมดำแบบนี้ทำให้ตามะนาวดูคมกว่าเดิมเข้าไปอีก หน้าเขาดูอิ่มๆ

...หรือเพราะเมื่อคืนมันได้ปลดปล่อยกันแน่  โอ๊ย ตายๆ ผมเลิกสงสัยดีกว่า

“โอ๊ย เหนื่อยยยย นี่มันห้องเรียนคณิตวิชาปีนเขาเนี่ย แฮ่กๆ” พงศ์ผู้อยู่เงียบๆ ไม่เป็น เดินขึ้นมาก็โวยวายมาตลอดทาง

 “ใครอ่ะ? หล่อเซ็กสเปคตุ๊ด” พงศ์นั่งลงอีกข้างของผมออกปากถามทันที

 “ข้างรหัสเรา คู่แลป ชื่อมะนาว” มะนาวยกมือทักทายหน้าแห้งๆ แบบกล้าๆกลัวๆ คงได้ยินประโยคเมื่อกี้ชัดเจน

“แลกกันมั้ย กุได้ชะนีน้อย กินไม่ได้เซง” พงศ์ทำท่าไม่สบอารมณ์เอามากๆ จนผมทำท่าจะดึงปากล่างมันเล่น พงศ์เลยพูดต่อ

“นาว” พงศ์ชะโงกหัวเพื่อคุยกับนาวข้ามหัวผม “เย็นนี้เพื่อนๆ เรามีปาตี้วันเกิด หลังเชียร์เลิกไปด้วยกันสิๆ”

“วันเกิดใครว่ะ” ผมงง

“อ้าวอิผัว ไม่เช็คเฟสเลยเหรอวันๆ ก็วันเกิดเอ้ไง ในกรุ๊ปไลน์ก็นัด นี่เจ้ามิได้เช็คข่าวสารบ้านเมืองเลยอย่างนั้นรึ”

“เออว่ะ ลืม” เมื่อกี้ก็เจอเจ้าตัว ลืมซะสนิท

“ไปนะนาว เพื่อนแม็ตก็เหมือนเพื่อนเมีย แม้ตอนนี้เมียจะอยากได้เพื่อนแม็ต” ประโยคหลังมันกระซิบให้ได้ยินแค่ผมครับ โคตรน่ากลัว

“คือ ถ้ากินกันกูขับรถกลับบ้านไม่ได้วะ” ตาขวาผมกระตุกๆ ครับ จนผมต้องขยับแว่นขยี้ตา

“หาที่นอนแถวนี้ไง เยอะแยะ ห้องเราก็ได้ คนกันเอง” นาวมันคงคิดว่าไปกันเองกันนี่ตอนไหนครับ มันถึงรีบพูดออกมา

“งั้นกูนอนห้องมึงนะแม็ตคืนนี้” นั้นไง ผมว่าแล้ว


........................................
 

พี่รหัสผมดูแลผมดี แบบคุณแม่มือใหม่ครับ ในขณะที่พี่รหัสมะนาว แนะนำมันแบบเด็กวิดวะ อย่างกินเลี้ยงสังสรรค์พี่มันก็แนะนำไว้ว่า

“ให้ทำเหมือนพร้อมเข้าค่ายอยู่ตลอดเวลา ให้กูจัดเสื้อผ้าติดรถไว้ชุดสองชุด”

“เอ่อ พี่มึงนี่แนะนำน้องดีว่ะ” ผมหัวเราะชอบใจ ในขณะที่มะนาวทำหน้าเซง

“กุอยากได้พี่รหัสแบบของมึงมากกว่า ผู้ชายแม่งอะไรก็ส่งๆ หน้างาน จัดการเอง ตลอด”

“มึงเพิ่งมีพี่ได้สองวัน”

“เอ่อ ว่ะ ฮ่าๆๆ”

หลังเลิกเชียร์ ผมกับนาวกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันก่อนออกไปต่อ

ผมเลือกชุดแขนยาวผ้านิ่มๆ ใส่สบาย กับกางเกงยีนส์ง่ายๆ มะนาวที่จัดการตัวเองเรียบร้อยนอนคว่ำเล่นมือถืออยู่บนเตียงผม พูดลอยๆ ขึ้นมา

“เชี่ย โคตรหล่อ”

“...” ผมที่ยืนส่องกระจกเช็ดผมอยู่ เปลี่ยนเป็นลูบคางอย่างหลงตัวเอง ชมผม ผมไม่ปฏิเสธแน่นอน

“มึงสูงเท่าไหร่วะ ถึง 190 มั้ย?”

“ไม่อ่ะ ร้อยแปดสิบ...” ผมทิ้งช่วง “เก้า”

“ใส่รองเท้าก็เก้าสิบเอ็ดล่ะวะ กวนตีน แม่งสูงจนน่าอิจฉา สาวๆ คงใฝ่ฝันถึงคนแบบมึง 175 เซ็นฯครึ่งของกูนี้โดนมองข้ามตลอด”

“ฮ่าๆ”

“ไหล่มึงโคตรกว้าง ผู้หญิงคงต่อคิวซบกันยาวเหยียด”

“ช่วงนี้ไหล่กุไม่ว่างว่ะ”

“ไมว่ะ มึงมีแฟน?”

“เปล่าแฟนไม่มี แต่คนแถวนี้อ่อนเมาแล้วเป็นภาระกุต้องเอียงไหล่ให้ซบ”

“เชี่ยแม่ง” มันปาหมอนของผมมาใส่ผมครับ ผมรับไว้สบายๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงฝั่งที่ว่างแล้วเช็ดผมต่อ หยิบมือถือเช็คอะไรไปเรื่อย

“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมจงใจล้อมันเผื่อมันจะคิดได้ว่าไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเมามากเหมือนเมื่อวาน

“มึงมองเห็นเหรอ?”

นาวเงยหน้ามองผม ขมวดคิ้วสงสัย

“เห็นดิ ทำไม?”

“ก็มึงไม่ได้ใส่แว่น” ผมโยนผ้าเช็ดผมไปพาดพนักเก้าอี้ แล้วหยิบแว่นผมที่วางอยู่ข้างคอมมาใส่ให้มัน

“ไง?”

“อ้าว ไม่ใช่แว่นสายตาเหรอ นึกว่ามึงสายตาสั้น”

“เปล่า ตาแพ้แสง แต่กลางคืนแบบนี้ไม่ต้องใส่ก็ได้ แสงไม่ได้จ้า”

“เซ็ตผมมั้ย กูเซ็ตให้”

“หื๋อ?”

“เชื่อมือพี่เถอะน้อง” มันจับผมหันไปตรงกับกระจกประตูตู้เสื้อผ้า จัดการหยิบแว็กจากกระเป๋ามันออกมาเซ็ตผมให้ผมครับ จากชี้ๆ ตกๆ ตามแรงโน้มถ่วง มันเซ็ตตั้งมีสไตอย่างกะออกมาจากร้านทำผม มันมองหัวผมอย่างภาคภูมิใจ


หวังว่ามันจะคิดได้ ว่าที่ผมว่ามันอ่อน เพราะอยากให้มันระมัดระวังตัว


.................................................................................


“เชี่ย! พี่แม็ตเหรอวะนั้น” เอ้เห็นผมแล้วอุทานจนผมเสียความมั่นใจ

หลังมะนาวเซตผมให้ผม มันก็บอกว่าวันนี้ไม่ต้องใส่แว่นออกมาหรอก เกะกะ ผมตอนนี้เลยดูแปลกจากปกติไปนิดหน่อยมั้ง

“แม็ต มึงมาหล่อขนาดนี้กะนอกใจกูใช่มั้ย จะยั่วให้กูหึงเหรอ” น้ำพูดด้วยท่าทางจริงจัง ถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อน มันชอบเล่นเป็นแฟนผมครับ เซอร์วิชเอ้แต่ต่อไปคงมีพงศ์ร่วมฟินด้วย

พงศ์ยืนขึ้นกุมสองมือไว้ใต้คาง และกระพริบตาถี่ๆ

เอ่อ... เส้นกระตุกเหรอ?

“บ้า น้ำ มึงอ่ะ เล่นไรเกรงใจคนมากับเขาหน่อย กรี๊ดๆ มึงๆ แนะนำเร็วๆ” ผมบอกพวกนี้ไว้ ว่าอย่าพูดถึงเรื่องคู่จิ้น เรื่องจริงมันไม่มีอะไร ยังไม่อยากให้นาวมันคิดมาก

มะนาวที่เดินตามผมมาทำหน้าไม่ถูก

“ทุกคนนี่มะนาว ข้างรหัสกู”

“ขอบใจนะพงษ์ ที่ชวนคนหล่อมาให้กูลวนลามทางสายตาในวันเกิด น้ำตาจะไหล”

“ไม่เป็นไรค่ะอีดอก กูชวนมากะหลอกแดกเองไม้ได้เผื่อมึงอยู่แล้ว”

“อร้ายๆๆๆ” เสียงสาวๆ เขาตีกันเป็นเรื่องปกติครับ

“นั่งนี่นาว อย่าคิดมากเขาเล่นกันงี้เป็นปกติแหละ”

“ใช่ คงเบื่อของเก่ากันแล้ว เห็นหน้าใหม่มาเลยดีใจใหญ่” น้ำเสริม

“น่ารักดีนะ แบบนี้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ” มะนาวหมายถึงเอ้กับพงศ์

“แต่ไม่ค่อยสบายกายนะ เพราะจะโดนลวนลามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เราน้ำนิ่งนะ หวัดดี”

“หวัดดี เป็นเพื่อนกันมานานแล้วเหรอ ดูสนิทกันมาก”

“พวกนั้นอ่ะ ม.ปลาย แต่ไอ้เนี่ย ตั้งแต่ขนยังไม่ขึ้น” ผมตอบ

“มึงแอบดูของกูเหรอ” น้ำไขว่สองมือปิดไหล่แบบหวงตัว

ผมหัวเราะหึๆ พร้อมจัดการชงเครื่องดื่มสำหรับตัวเองและมะนาวอยู่ครับ

“อะไรขนๆ ขึ้นๆ ค่ะ หูแว้วๆ ถ้าได้ยลจะถือเป็นบุญตามากค่ะ”

“เมียไม่มีบุญหรอก ขาอ่อนกูมึงก็ไม่ได้เห็น” ผมแกล้งพงศ์อีกรอบ

“วันนี้พี่แม็ตโคตรฮ๊อต บอกเคล็ดลับความหล่อของวันนี้ให้พวกเราหน่อยค่ะ” เอ้จ่อปากขวดโค้กทำเหมือนเป็นไมโครโฟนมาทางผม

“ก็แค่ไม่ได้ใส่แว่น กับเซตผม”

“ร้อยวันพันปีมึงไม่เคยเซตผมเพราะขี้เกียจสระ ทำไมวันนี้เซต เอ้มันจะถามอย่างนี้” น้ำแปล

“มะนาวเซ็ตให้”

“กรี้ดดดดด” เอ้กับพงศ์กรี้ดออกมาพร้อมกับ ระหว่างรอ เอ้คงกระจายข่าวสารให้พงศ์ผู้ร่วมอุดมการณ์ทราบเรื่องคู่จิ้นแล้ว ที่กรี๊ดนี่ก็คงเพราะเรื่องคู่จิ้น ไม่ใช่เพราะความหล่อของผมแต่อย่างได

ผมล่ะเพลีย

“ไมอ่ะ ไม่ดีเหรอ?” มะนาวทำหน้าเหมือนรู้สึกผิด

“ดีค่ะนาว มันดีมาก ขอบคุณอีกครั้ง” เอ้กุมมือมะนาวแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

“อีดอก จับมือผู้ชายหน้าไม่อาย ขอบคุณนะมะนาว” พงศ์ก็กุมอีกข้างครับ

“ดีๆ กูกับมึงสบายล่ะคืนนี้” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดน้ำ มะนาวหน้าตาดีครับ อาจจะไม่ได้โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล แต่ใครได้มองมันนานๆ ก็คงนึกได้ว่ามันหล่อชวนมอง ดึงดูดสายตาให้มองซ้ำที่ดวงตานั่น ใบหน้าที่มีหลายหลายอารมณ์ให้มองได้ไม่มีเบื่อ กับยิ้มที่แจกทุกคนอยู่เสมอทำให้เขาดูเข้าหาง่าย


สักพักเพื่อนอีกสามคนตามมาสมทบ พร้อมเซอร์ไพเป่าเค้กที่เราไม่ได้บอกเอ้ก่อนว่าจะมี มันดีใจมากร้องให้บอกว่าไม่ได้เป่าเค้กมาตั้งแต่แปดขวบ ก่อนจะขึ้นเวทีไปรับเหล้าวันเกิดอีกขวดมาเพิ่มดีกรีความเมาของพวกเรา ประมารเที่ยงคืนเราก็แยกย้าย เพราะทุกคนดูเหมือนจะมีเรียนเช้า ผมขับรถมะนาวไปส่งพงศ์กับเอ้ที่หอ ก่อนจะกลับหอตัวเอง มีมะนาวนั่งตาปรือปากจู๋อยู่ข้างๆ

ผมแอบมองมะนาวที่แทบจมไปกับเบาะ วันนี้ดูไม่ใช่ศึกหนักอะไรครับ เพราะมะนาวไม่ได้เมามาก ดูยังมีสติ แค่ช้ากว่าปกตินิดหน่อย



.............................................................................


แต่พอกลับเข้าห้อง ความทรงจำเมื่อคืนวานก็กลับมาหลอกหลอนผม แม้สถานการณ์จะต่างจากเมื่อวานแต่อะไรๆมันยังชัดเจนจนผมเห็นภาพเหตุการณ์เมื่อวานวนเวียนอยู่ในหัว

เป็นธรรมชาติดิว้า ไอ้แม็ต มะนาวไม่ได้เมาพับเหมือนเมื่อวานไม่เห็นเหรอ ไม่มีอะไรหรอก วันนี้ต้องไม่มีอะไร

“มึงไม่เมานี่หว่า” ผมหยิบน้ำในตู้เย็นยื่นให้มะนาว

“กูไม่อ่อนไง” มันนั่งกอดขวดน้ำยักคิ้วแบบช้าไปครึ่งจังหวะมาให้ผม ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเต็มที่แล้วล่ะวะ

“กินน้ำเยอะๆ ฉี่บ่อยๆ จะได้ซ่าง” มะนาวทำตามที่ผมบอกครับ

“เปลี่ยนชุดมะ ใส่กางเกงยีนส์นอน อึดอัดตาย

นาวเหมือนจะเห็นด้วย มันไม่พูดอะไร รูดซิบทั้งที่นอนอยู่อย่างนั้น ดันกางเกงพ้นตูดได้ก็สะบัดๆ ขา จนกางเกงกองลงไปตามพื้น ผมหยิบไปใส่ไม้เขวนให้มัน หยิบผ้าผืนเล็กไปชุบน้ำแล้วยื่นให้มันจัดการตัวเอง

“แล้วเมาๆ ไม่ต้องอาบน้ำนะ เอานี่รับไป” นาวรับไปอย่างเข้าใจ เช็ดหน้า เช็ดแขนลูบคอ แล้วก็เอาไปวางผึ่งไว้บนหน้า

“เมื่อวานมึงเช็ดตัวให้กูเหรอ?”

“มึงจำได้เหรอ?” ชิบหายแล้ว ผมสะดุ้ง ยังดีที่มันนอนหลับตาอยู่เลยไม่เห็นอะไรผิดปกติจากผม

“เปล่า ก็ดูจากวันนี้เนี่ยแหละ”

“เอาจริงๆ นะ กูจำอะไรไม่ได้เลยว่ะ พี่ปีสี่แม่งมอมกุแน่ รู้ตัวเลยว่าไม่เคยกินเยอะขนาดนี้ มึงขับรถกูกลับมาหอใช่ป่าวเมื่อวาน แถมหิ้วกูขึ้นหอมาด้วยใช่มะ กุจำไม่ได้เลย”

“มึงอาละวาดด้วย”

“จริงดิ้”

“มึงทำแก้วแตกไปหลายใบ ขวดโซดาด้วย ยังดีมึงไม่โดนบาด” จริงๆ มันทำแก้วแตกแค่ใบเดียวครับ ตอนที่เมาแล้วมันมาชนแก้วกับผม ชนแรงจนแตกคามือมัน มันไม่โดนบาด แต่ผมโดน

น้ำตาแทบไหลเป็นสายเลือด

“แผลที่นิ้วชี้มึงนั่น ผลงานกุรึเปล่า”

“ก็...” ผมลังเล ซ่อนมือจากสายตามัน

“ไม่ต้องแอบ กูเห็นตั้งแต่แลคเชอร์เมื่อบ่ายแล้ว มือถนัดมึงนี่”

“ก็มีส่วน กุเก็บแก้วให้มึงไง”

“เชี่ย มึงไม่บอก ถ้ากุรู้กุเมาแล้วเป็นงั้น วันนี้กุจะไม่แตะเลย”

“ฮ่าๆๆ อย่าคิดมากดิ ถือว่าทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไง แล้วถ้ามึงกินเท่าวันนี้ รู้ลิมิตตัวเอง มันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่เห็นยากเลย”

มันทำตัวเหี่ยวพยักหน้าเข้าใจอย่างรู้สึกผิด พึมพำขอโทษผมเบาๆ เห็นแล้วน่าสงสาร ผมบอกให้มะนาวนอนเลย ก่อนจะหลบเข้าห้องน้ำ

หวังว่าการสร้างเรื่องร่ายมนต์คุ้มครองของผมจะมีผลยืดยาวพอ จนกว่ามันจะมีคนมาดูมันได้ทุกๆ เวลาแล้วกันนะ


---------------------------------------------------------
จบบท 2


หวังว่าคนอ่านในเล้าจะยังไม่เบื่อสังคมวิศวะกันนะคะ

แม็ตจะเป็นคนเดินเรื่อง เป็นมุมมองของบุคคลที่ 1 ชัดเจน ดังนั้นอะไรที่พี่แม็ตไม่เห็นไม่รู้ไม้ได้คิด เราก็จะไม่รู้ด้วย บางทีอาจจะดูเซื่องๆซื้อๆ เพราะพี่แม็ตแกเป็นคนดีค่ะ พูดเลยดีเกินไป
ต่อไปในอนาคต(อันไกลโพ้น)คงได้ฟังมุมมองทางมะนาวกันบ้าง คงจะดีดมาก เพราะคนเขียนอัดอั้น 555
ขอบคุณทุกกำลังใจ และยอดวิวนะคะ ในฐานะคนเขียน บอกตรงๆกำลังใจทำให้มีแรงปั่น 5555
ย้ำอีกครั้งว่าติชมกันได้จ้า ติมาๆ พร้อมแก้ไขปรับปรุง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:38:26 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
«ตอบ #7 เมื่อ18-01-2016 22:23:59 »

 :z13:
เป็นกำลังใจให้นะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
«ตอบ #8 เมื่อ18-01-2016 22:25:47 »

นึกว่าจะเจออีกคืนนี้

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
«ตอบ #9 เมื่อ20-01-2016 03:16:51 »


- บทที่ 3 - มนต์เสื่อม -



 
“กูหาหออยู่แถวนี้ดีมั้ยวะ?”

เรานั่งกินข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ในโรงอาหารในคณะครับ นาวถามขึ้นลอยๆ ทุกคนเหมือนไม่อยากอาหารเพราะยังแฮงค์จากเมื่อคืน

“อย่าแม้แต่จะคิดค่ะ ผัวหมายเลขสาม” พงศ์รีบพูด

“อื้ม ไม่ต้องหรอก” เอ้สนับสนุน

“แต่กิจกรรมโคตรเยอะ ได้ข่าววันนี้หลังเชียร์ก็จะมีพี่ๆ พาไปเลี้ยงอีก”

“ก็แค่ช่วงนี้ เดือนสองเดือนเดี๋ยวกิจกรรมก็ซา”

“แถวมหาลัยค่าหอแพง ไหนจะค่ามัดจำอีก เป็นหมื่นนะค่ะ เสียดายตัง เก็บไว้เลี้ยงชาบูกูค่ะ เดี๋ยวพาไปนอนด้วย”

“แม็ต งั้นถ้ามีไรต้องค้างกับมึงอีกกูช่วยค่าหอนะ” มันพูดอย่างเกรงใจ

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่รู้ฉายาพ่อแม็ตของเราซะแล้ว ขานี้เขาไม่อะไรหรอกค่ะ ใจดีกับทุกคน จนชะนีแท้ชะนีเทียมหลงใหลได้ปลื้มจนคิดว่าคุณพ่อแกมีใจหรืออ่อยนั่นเองค่ะ แต่ไม่จริง คุณพ่อใจดีเป็นปกติ ได้ฉายา แม็ตพ่อทุกสถาบันเลยค่ะ สำหรับฉันชอบอีกอันค่า พี่แม็ตผัวทุกสถาบัน อุอิ” พงศ์พูดซะผมดูดี เอ้ะ หรือไม่ดีนะ?

“จริงอ่ะ?” มะนาวทำหน้าไม่ค่อยเชื่อครับ

“กูเป็นคนดี” ผมทำหน้ากวนตีน ทั้งที่จริงๆก็เขินที่พวกนี้พูดตรงๆ คือผมก็ไม่ได้ดีเวอร์ขนาดนั้น ผมแค่ทำมันด้วยความเคยชิน

“ยังไงว่ะ”

“แม็ตมีน้องสาว มันก็เลยคิดว่าผู้หญิงทุกคนคือน้องสาวของมัน แล้วนิสัยหยิบโน้นทำนี่ให้ มันก็ติด นาวมึงต้องเคยเจอแบบ แค่คิดว่าจะไปหยิบอะไร ต้องการอะไรแล้วอยู่ๆ แม็ตก็ยื่นให้บ้างไหมล่ะ เดี๋ยวมึงก็คงเจอ อย่าหวั่นไหวล่ะ มันเป็นงี้กับทุกคน” เอ้เสริมพงศ์

“รวมมึงด้วยใช่ไหมค่ะที่หวั่นไหว” เอ้โดนพงศ์ขัด เลยฟัดกับเบาๆ ไปหนึ่งยก “ตอนผัวน้ำแขนเดาะ ผัวแม็ตนั่งป้อนข้าวกลางโรงอาหารไม่แคร์สายตาคนทั้งโรงเรียนเลยค่ะ กลัวเพื่อนอดข้าวกลางวัน ฉันอยากจะเอามือไปให้รถทับจะได้เป็นง่อยมาอ้อนผัวคะผัวขา”

“กูห้ามมันแล้วนะ มันไม่ยอม” น้ำที่นั่งหัวเราะเงียบๆ มานาน วันนี้มีบทแค่นี้ครับ

“พงศ์อย่าลืมสิ พงศ์ไม่ใช่น้ำนะ”

“ต๊ายยยยย คำพูดคำจา สุภาพแต่โคตรแรง บอกมาตรงๆ เลยก็ได้ค่ะ ว่าอิฮั้นไม่สำเหนียกตัวเองริอาจเอาตนอันต่ำต้อยไปเทียบท่านน้ำนิ่งอันสูงส่ง”

“ฮ่าๆๆ เออ” ผมตอบตรงๆ แกล้งมันครับ เพราะต่างไม่จริงจัง โว้ยวายทุบผมใหญ่

“แล้วทำไมแม็ตกับน้ำไม่อยู่ห้องเดียวกันล่ะ สนิทกันไม่ใช่เหรอ?”

“ชิบหาย สายแล้ว” พงศ์หยิบมือผมไปพลิกดูเวลาก่อนจะอุทานลั่นเสียงใหญ่ๆ แล้ววิ่งไปเลย

มันกับน้ำมีเรียนแลปครับ สายไม่ได้ ผมมีแลคเชอร์ ตึกก็ใกล้ๆ เดินชิล เอ้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำและแยกกันเลยผมเดินไปเรียนกันสองคน

“น้ำมันชอบมึงรึเปล่า”

“ฮ่าๆๆ ทำไมคิดงั้น”

“ไม่รู้ดิ มึงสนิทกันจนอาจจะมองข้ามความรู้สึกกันก็ได้ กูเป็นคนนอก กูเลยมองออก”

“ไม่มีทาง น้ำไม่ได้ชอบกูหรอก”

“มึงรู้ได้ไง มึงอยู่ใกล้ใครก็ดูแลเขาดีไปหมด เขาอาจจะมีใจให้มึงก็ได้”

“นาว มึงยังไม่เข้าใจ”

“อะไรล่ะ ก็บอกกุสิ”

“มันมีแฟนอยู่แล้ว มาหาบ่อยๆ แล้วแฟนมันโคตรน่ารัก กุถึงมีเมทเป็นมันไม่ได้ไง แล้วมึงจะโมโหอะไรเนี่ย”

“คือ ก็ เปล่า ก็มึงกวนตีนกู บอกตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”

“อะไรของมึง”

“ถ้าน้ำไม่ชอบมึง แล้วมึงชอบน้ำรึเปล่า?”

“น้ำเป็นคนที่เข้าใจกูมากกว่าคนอื่นนะ เหมือนพี่น้องที่โตมาด้วยกัน” ผมตอบไปอย่างไม่ต้องคิด ผมมีน้องสาวอยู่แล้ว น้ำก็คงเป็นเหมือนน้องชายแต่อายุเท่ากันล่ะมั้ง

มะนาวไม่พูดอะไรอีก เดินตามผมจนถึงห้องเรียน


เป็นนานกว่าผมจะฉุกคิด ว่าทำไมมะนาวต้องถามคำถามพวกนี้กับผม?

เสียงอาจารย์บรรยายผ่านหู แต่ความคิดผมยังวนเวียนอยู่กับคำถามพวกนั้น น้ำชอบผมรึเปล่า? ผมชอบน้ำรึเปล่า?

เขาจะอยากรู้ไปทำไม? เขาสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ
 
มะนาวดูปกติกับผมมาก แต่กับน้ำ ไม่

หรือมะนาวจะชอบน้ำ?

ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนมะนาวทำปากพูดแบบไม่มีเสียง

‘ไม? ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ?’

กับผมเขายังกวนตีนผมได้ปกติจริงๆ นะ
 

........................................


ผมว่าการเข้าเชียร์ของที่นี่เป็นอะไรที่สบายมาก เข้าก็ดี ไม่เข้าก็ได้ด้วย

เขาให้ปีหนึ่งนั่งเรียงกัน มีรุ่นพี่มาสอนเพลงสถาบันกับเพลงของคณะส่วนใหญ่เป็นเพลงคณะ พวกสอนเพลงจะใจดีครับ มีอีกพวกพี่ว้ากที่พูดเสียงดังๆ ทั้งๆ ที่พูดสอน แต่ทำเสียงดังให้เหมือนดุด่าอยู่ทำไมก็ไม่รู้ ไม่รู้หรือไงว่าคนเขาไม่ชอบ มีเพื่อนบางส่วนไม่เข้าเพราะแบบนี้ กับอีกคน ที่รู้สึกจะมีคนเดียว พวกพี่ว้ากเรียกเขาว่า ‘ประทานเชียร์ของผม’ มามาดนิ่งมากครับ พูดแต่ละทีประโยคเด็ดๆ ทั้งนั้น เสียงไม่ดุ แต่ก้องไปทั่ว โคตรมีพลัง ขนาดผมเป็นผู้ชายยังมองว่าประธานแม่งเท่ชิบหาย เพื่อนผู้หญิงผมส่วนใหญ่มาเข้าเชียร์ยอมโดนว้ากก็เพราะอยากมานั่งมองหน้าประธานเชียร์ฟินๆ เนี่ยแหละครับ

เปิดเทอมมาอาทิตย์นึงพอดี เข้าเชียร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ เป็นครั้งที่ต่างออกไปพี่ปีสองมายืนกันเต็มข้างหน้าและประกาศว่าจะมาสอนเพลงรุ่นเขาครับ ผมเห็นพี่โนอาอยู่หน้าสุด แอบยักคิ้วให้ผมตอนเราสบตากันใกล้ๆ มีพี่เทพี่รหัสมะนาวด้วย ปีสองทักทายได้สักพักกำลังจะสอนร้องเพลงอยู่ๆ ก็มีเสียงขัดครับ จากข้างหลัง อยากหันไปมองมากแต่เขาห้ามหันหลังครับ จริงๆ คือเขาห้ามทำทุกอย่าง นั่งนิ่งๆ ได้อย่างเดียว

“น้องรหัสต่อไปนี้ ให้ยกมือขึ้น”

อ้อ เหมือนทุกวันผมสงสัยมาตลอด ว่าเขาเรียกรายตัวออกไปทำไม บางคนก็กลับเข้ามาบางคนก็ออกไปเลย ผมเลยเดาว่ามีผู้ปกครองมารับ

“0001” โห เลขสวย “0085 0266 0349 0399 0541 0792 0888 0951”

ผมยกมือขึ้นแล้วเหงื่อแตกนิดๆ ทำไมมีรหัสผมวะ พ่อแม่ไม่ได้อยู่แถวนี้ให้มาหาได้นะ แม่งไม่น่าอยากรู้เลย

“ทั้งหมดที่ยกมืออยู่ ลุกขึ้น แล้วเดินออกมาด้านหลัง เร็ว เร็วๆ”

ผมทำตามงงๆ พี่โนอาที่มองผมอยู่ปัดมือไล่ให้รีบไปข้างหลังครับ

มีพี่นำผมออกจากห้อง และเช็คว่ารหัสตรงกับที่เรียกไหม พี่เขียนรหัสใส่กระดาษแล้วเอามาแปะอกผมไว้ แล้วก็ทิ้งพวกผมไว้ในห้องเล็กๆ แล้วก็ออกไปกันหมด เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก

งงครับ

“เขาให้เราออกมาทำไมว่ะ”

“ดีเลยกำลังเมื่อยพอดี”

“ไม่รู้ มึงทำไรผิดไว้ป่าว”

“ไม่ได้ทำอะ ถ้าทำแม่งจะรู้เหรอ นี่รู้รหัสด้วย”

“กูเคยแต่งตัวไม่เรียบร้อยในคณะ จะเกี่ยวมั้ยวะ”

“รหัสสวยนะ” อยู่ๆผมก็แทรกพวกเพื่อนๆ ขึ้น เพราะถ้าพี่ว้ากแอบฟังอยู่ มาบอกความผิดตัวเองในนี้ได้มีด่าเรียงตัวแน่

“888 ก็สวยนะ” เพื่อน 0001 ชมกลับครับ เขินเลย

“มึงชื่อไร กูโอ้ต” 85 บอกชื่อตัวเองครับ

“ซี” 0001 บอกชื่อตัวเองแล้วพยักหน้ามาทางผม คล้ายๆ ถามว่าแล้วผมล่ะ?

“แม็ต”

“กูดินครับ”

“บลูนะ” แล้วปีหนึ่งก็ทำความรู้จักกันครับ ทุกคนบอกชื่อกันหมด ผมคงจำได้ไม่หมด ให้ไล่อีกทีผมจำได้แต่ไอ้สองคนแรกมั้งครับ
แลกเปลี่ยนกันไปมา คนที่เรียนสาขาเดียวกันก็ขอเบอร์กัน มี 0001 กับ 0792 ครับเข้ามาขอเบอร์ผม (คือผมจำชื่อไม่ได้แล้ว) ผมก็ให้ไปแบบไม่คิดมาก เพราะพี่โนอาบอกไว้ ว่าปีหนึ่งให้รู้จักเพื่อนไว้เยอะๆ พอปีสองปีสามขึ้นไปไม่มีเวลาจะทำความรู้จักเพื่อนใหม่แล้วนะ พี่ขู่ครับ

“นี่เขาจะให้เราทำอะไรวะ ให้มารอเฉยๆ เนี่ยนะ”

“กูอยากไปร้องเพลงดาวปีสองสอนเพลงเองเลยนะเว้ย”

“เออ โคตรพลาด” ผมรู้สึกผิดครับ ไม่เข้าใจตัวเอง อยากจะกระซิบบอกว่านั่นพี่รหัสผม แต่ไม่ดีกว่า

“อยากไปมองหน้าประธานรุ่นปีสอง” มีผู้หญิงสองสามคนครับ ในหมู่คนที่เรียกออกมา พูดถึงประธานเชียร์กับประธานรุ่นปีสองสลับกันไปมา ผมเห็นเพื่อนมีกำลังใจเข้าเชียร์ผมก็ดีใจ


..................................


“แม็ตๆ ทางนี้โว้ย”

ผมเดินไปหานาว เลิกเชียร์นี่เหมือนผึ้งแตกรังครับ คนเยอะเสียงดังและวุ้นวายมาก

“เขาเรียกมึงออกไปทำไมวะ กูนี่ใจเต้นเลย กลัวมึงโดนซ่อม”

“เขาไม่ใช้ความรุนแรงกันสักหน่อย คิดมากมึง”

“ตอนมึงเดินออกไป กูรู้สึกเหมือนมึงจะไม่ได้กลับเข้ามาอีก โคตรใจหายเลยนี่หว่า แล้วเขาเรียกมึงแยกออกไปทำไมวะ?”

“ไม่รู้ ไม่เห็นได้ทำอะไรเลย เรียกไปไว้ห้องเล็กๆ แล้วก็ทิ้งไว้งั้นอ่ะ ไม่มีใครเข้ามาหรือบอกให้ทำอะไรสักนิด เลยไปนั่งคุยกันอยู่ในห้องเกือบครึ่งชั่วโมงมั้งเขาก็ปล่อยออกมานั่งอยู่หลังสุด”

“แบบนี้ก็สบายดิ กูนั่งหลังตรงจนเมื่อยตูด”

“อยากลองโดนเรียกดูบ้างไหมล่ะ?”

“ฮึ ใครจะรับรองได้ว่าเรียกไปจะได้นั่งสบายทุกครั้งวะ”

“ก็จริง”

“ไปต่อมั้ย?” มันหมายถึงว่า หลังจากนี้พี่ปีสองนัดเลี้ยงครับ มันถามความเห็นผม ผมเลยถามมันกลับ

“แล้วมึงไปมั้ยล่ะ”

“ไป เพราะ ฟรี”

“ฮ่าๆๆๆ”

“มึงอย่ามาหัวเราะ มึงมีเวลากินฟรีหนึ่งปีเท่านั้น จ่ายอีกสามปี มึงคิดดีๆ ไม่กินตอนนี้ กินปีหน้าแม่งต้องจ่ายเองแถมจ่ายให้น้องด้วยนะเว้ย”

“มึงนี่คิดการณ์ไกล”

“เอ่อดิครับ เอานี่” พอมาถึงรถ มันยื่นกุญแจรถให้ผม แปลว่า ให้ผมขับงั้นสิ

ผมรับมาโดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เพราะผมเริ่มชิน เหมือนตัวเองมีรถยนต์

“มึงขับกลับหอ ขับไปร้าน แล้วก็ขับกลับหออีกที คืนนี้กูยกรถให้มึงเลย”

“ถามกูไหมว่ากูอยากได้ไหม?”

“ฮ่าๆๆ ไปเถอะๆ อ้อ ไปรับพงศ์น้ำเอ้หน้าโรงอาหารด้วย มันติดรถกลับด้วย”

ผมเริ่มชิน กับการมีมะนาวไปไหนมาไหนด้วยแล้วล่ะครับ มะนาวเองก็คงเหมือนกัน


................................................


ทำไมมนต์ผมเสื่อมเร็วขนาดนี้ครับ?


วันนี้พี่ๆ พาปีหนึ่งมาเลี้ยงกับอีกที่ เป็นร้านนั่งเล่นที่มืดและทึบเกือบปิด หัวค่ำเปิดเพลงฟังสบายๆ แต่พอดึกๆ คนเริ่มเมาก็เปิดเพลงเร่งจังหวะขึ้นมา ใครเมาก็ลุกขึ้นเต้นกันตรงนั้นเลยครับ รวมถึงไส้ติ่งผมด้วย มะนาว!

“พาไปฉี่หน่อย” ผมอยากจะหัวเราะ สภาพ ผมว่าอีกสองแก้วมันก็วาร์ปแล้วล่ะครับ ต้องพามันไประบายแอลกอฮอล์ออกที่ห้องน้ำสักหน่อย

ที่นาวต้องให้ผมพาไป เพราะคนในร้านเยอะมาก คนแน่นมาก รอบที่แล้วมันพยายามไปเองครับ ชนชาวบ้านเขาทำแก้วแตกไปอีก ยังดีไม่มีใครเจ็บ และคนที่มันชนเป็นผู้หญิง เขาไม่ถือสาอะไร เลยรอดไป ลองไปเจอผู้ชายขาใหญ่ๆ ไอ้นี่ตายครับ ผมก็คงช่วยไม่ทัน

ผมพยักหน้าลุกขึ้น มันจับบ่าผมไว้ข้าง ประมารว่าทางก็จะไม่มอง จะตามผมอย่างเดียว

“แม่ง มึงก็กินพอๆ กับกูนะ ทำไมไม่มีอาการเลยวะ” มาถึงห้องน้ำที่ไฟสว่างขึ้นและเสียงเพลงเบาลงมันก็บ่นครับ

“ไม่รู้ดิ” ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ผมเลยยืนทำธุระอยู่ข้างๆ มันเนี่ยแหละครับ

ครับ ผมดื่ม น่าจะมากกว่ามะนาวด้วยซ้ำ เพราะพี่รหัสผมชอบพาเพื่อนมาแนะนำ ไม่ก็พาผมไปแนะนำกับเพื่อนๆ พี่ๆ เขา
แต่ทำไมไม่เมาอันนี้ผมไม่รู้ ร้อนนิดๆ ซู่ซ่าดี พอให้ผมอารมณ์ดียิ้มง่ายแทนที่จะเมา

“มึงเคยเมามั้ย?”

“นี่ก็เมานะ แต่ไม่อ่อนไง”

“สาดดดดดดดดดดดดดด” มันยืนล้างมือแล้วด่าผมจากในกระจก

“ฮ่าๆๆ ไปเถอะๆ”



ผมเดินมายังไม่ถึงโต๊ะดี พี่เทพี่รหัสมะนาวก็ยืนกวักมือเรียกยิกๆ อยู่

“ว่าแล้วต้องไปเข้าห้องน้ำ ถือแก้วตามกูมาทั้งคู่เลยมึง”

“ใครอีกอ่ะพี่ ผมไม่ไหวแล้วนา” มะนาวประท้วงครับ

ผมจัดการเติมแก้วเหล้าให้มัน จริงๆ เติมแต่โซดา ใส่โค้กไปสองสามหยดให้สีมันสวยๆ ครับ ส่วนของผมชงปกติ ก่อนจะยื่นแก้วให้มัน แล้วเดินตามมันไป มีผู้ชายแขนยาวขายาวดูเท่มีสไตไข่วห้างแบบตั้งหน้าแข่งเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นโลกนั่งรออยู่
ผมว่าผมจำคนนี้ได้นะ ประธานรุ่นปีสอง

“มึง นี่น้องรหัสสุดที่เลิฟกูเอง ไหว้น้องกูซะสิ” ทำท่าจะไหว้จริงครับ มะนาวสะดุ้งหลบ ก่อนพี่คนที่พี่เทแนะนำจะหันไปฟาดหัวเพื่อนเขา

“มันใช่เหรอ”

“ฮ่าๆๆ เอ่อๆ แนะนำตัวกับประธานรุ่นพี่สิ”

“หวัดดีครับ ผมมะนาว ปีหนึ่ง ภาคอิเล็คครับ”

“น้องกูๆ นี่ด้วยๆ นี่น้องโนอา”

“สวัสดีครับ ผมแม็ตภาคคอมครับ”

“พี่ฟ้านะครับ เอาง่ายๆ คือพี่เมาแล้ว เดินสายทุกร้านแล้ว กะจะมานอนตายที่ร้านนี้นี่แหละครับ”

“ดีมาก กูนอนไหนมึงเป็นเมทกูมึงก็ต้องนอนนั่น” พี่รหัสมะนาวตบเข่าเพื่อนอย่างภาคภูมิใจ

“เมทพี่เหรอ” มะนาวถาม

“เออสิครับ”

“เมทพี่โคตรเจ่งอ่ะ ไม่เหมือนพี่เลย” ครับ พี่เขาดูเท่จริงๆ สูงผอม ใส่เดฟกับช็อปแต่ตอนนี้ถอดเก็บเหลือเสื้อคอวีสีขาว ผมลองทรงสูง ไถข้างเป็นลวยอะไรไม่รู้ รู้แต่สวย เจาะหูข้างพร็อปทุกอย่างดูเข้ากันดีบนตัวพี่แก

“ถุ้ย น้อง กูพี่มึงนะ”

“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นพี่”

“มาๆ มาชนกัน หมดแก้วนะครับ ไม่หมดมีซ่อม” พี่ฟ้าบอก

“ซ่อมอะไรวะ”

“ซ่อมอิ้งที่มึงตกไง”

“ถุ้ย!” พี่เทถึ้งหัวตัวเอง “ทำไมมีแต่คนแกล้งกรู กรูไม่เข้าใจ”

“มึงน่าแกล้ง น้องมึงยังสัมผัสได้” มะนาวพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ฟ้า “เดี๋ยว” อยู่ๆ พี่ฟ้าหยุดมือมะนาวไว้ คว้าแก้วมันไปชิมครับ
โฮ ซวยแล้ว ผมที่กำลังเตรียมกระดกทีเดียวให้หมดแก้ว ชะงักเหงื่อแตกเลยครับ

“มะนาวเมาแล้วเหรอ?” หลังจากชินเขาก็เอ่ยถาม

“หูย จะเหลือเหรอพี่ เมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วคร้าบบบ”

“แล้วนี่ใครชงให้มึง”

“ผมครับ” ผมไม่ได้แมนหรอกครับ แต่มะนาวไม่รู้เรื่อง จะให้มันซวยเพราะความหวังดีของผมไม่ได้ พี่ฟ้าใช้มือที่ถือแก้วชี้หน้าผม เสียวต้นคอเกรียวเลยครับ บรรยากาศสนุกสนานเมื่อกี้หายวับไปกับตาครับ บทจะโหดนี่อยู่ในสายเลือดเด็กวิดวะจริงๆ

“รักเพื่อนนะมึง” พี่ฟ้าจ้องตาผมไม่กระพริบในเวลาแบบนี้ผมก็ไม่ควรหลบตาใช่ไหม? มะนาวที่ยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นมองหน้าผมสลับกับพี่ฟ้างงๆ พี่เทด้วยครับ คู่นี้เหมือนกันมาก

“...” ผมไม่พูดอะไร ก็เขาไม่ได้ถามอะไรไง จะให้ผมตอบอะไรล่ะครับ แค่นี้ผมก็ซ่างเมาแล้วคร้าบบบ

“อ่ะ รอก่อนอย่าเพิ่งกิน” พี่ฟ้าคืนแก้วให้มะนาว มันรับมาอุดปากรอคำสั่งกิน แล้วพี่ฟ้าก็แย่งแก้วผมไปชิมอีก

“อ้อ โอเค ของมึงอร่อยดี แต่ในฐานะที่มึงเป็นคนดี รักและหวังดีกับเพื่อน กูจะให้รางวัลมึง”

ท่านประธานปีสองเทแก้วผมออกเกือบครึ่ง ยกขวดที่มีน้ำสีอัมพันเทเติมให้แก้วผม เต็มปรี่จนเกือบล้น ใช้ที่คีบน้ำแข็งคนสองสามทีแล้วคืนให้ผม

ผมแอบถอนหายใจ ดีที่ไม่เติมให้แก้วมะนาวครับ ให้ผมกินเองน่ะพอไหวเท่าไหร่ก็ได้พี่ไม่ได้กลัว แต่ผมไม่ได้พูดออกไปนะ เดี๋ยวจะหาว่ากวนตีน ซวยอีกสิครับ

“ชนแก้ว” พี่ฟ้ายื่นแก้วออกมาชนอีกรอบครับ ผมชนแล้วยกดื่มช้าๆ รีบเดี่ยวสำลักจะหาว่าผมตุกติกครับ

“อื๋อ อื้ม” มะนาวที่กำลังกินอยู่เหมือนกัน หันมามองหน้าผมเหมือนจะเข้าใจแล้วครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงโดนเพ่งเล็ง

“อย่าคิดมากล่ะ แต่ก็ให้มึงรู้ไว้ ว่ากูยังโดนแค่นี้ ถ้าแก่กว่ากูก็หนักกว่านี้ ถ้ามึงโดนจับได้”

“ครับขอบคุณครับพี่” กว่าผมจะยกหมดแก้ว ตาลายไปเหมือนกัน หื๋ม

“มะนาว คืนนี้ไปนอนห้องพี่ใช่มะ” พี่เททวง

“ไม่อ่ะพี่ ตั้งแต่พี่ตายทิ้งผมไปวันนั้น ผมก็เลยตั้งใจว่าจะไม่ขอฝากชีวิตไว้กับพี่อีก”

“เหี้ย วันนั้นกุโดนมอม” พี่เทรีบแก้ตัว

“จะขับรถกลับบ้านเหรอ?” พี่ฟ้าถามครับ เหมือนจะเข้าโหมดคุณพี่ไปแล้ว คือคณะนี้มีกิจกรรมดึกๆ ดื่นๆ บ่อย ทั้งปีหนึ่งที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พี่ๆ จะประกบตลอด ถ้ากลับคนเดียวจะไปส่ง ถ้ามีเพื่อนกลับก็ต้องให้กลับพร้อมกันหลายๆ คน พร้อมทั้งกำชับตลอดว่าดูแลกันด้วย ดูแลเพื่อนด้วย แบบนี้ตลอดครับ พี่โนอาของผมถึงจะเป็นผู้หญิงก็ปลอดภัยร่าเริงเป็นตัวของตัวเองได้ เพราะมีสังคมแบบนี้คอยดูแลมาตลอดครับ

“เปล่าครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ผมให้แม็ตขับให้ แล้วก็ไม่ได้กลับบ้านครับ กลับหอหลังมอ ใกล้ๆ เอง ถ้าเมาทั้งคู่จะไปแทคซี่พี่ ไม่ต้องห่วง”

“อื้มๆ ดีแล้ว” พี่เทกับพี่ฟ้าพูดพร้อมกันครับ ดูท่าเขาจะไม่ห่วงจริงๆ ชงให้ผมสองคนอีกรอบครับ แต่อย่าเรียกว่าชงเลย เทเหล้าอย่างเดียว น้ำแข็งโซดาน้ำเปล่า หาเติมกันเอาเองครับ

“แม็ตอยู่นี่เอง พี่หาตั้งนาน ฟ้า มึงแกล้งน้องกูเปล่า”

“บ้า มันทำตัวมันเอง”

“เหรอ อย่าให้รู้นะ มึงแกล้งน้องกู กูจะแกล้งเมทมึง” พี่เททำหน้าเหรอหรา

“เอาเลยครับ ตามสบาย ฮ่าๆๆ”

“ชิ้ แม็ต ตามพี่มา”

พี่โนอาพาผมไปนั่งกับกับเพื่อนๆ เขาครับ



รู้ตัวอีกทีก็เกือบตีสองแล้วครับ ร้านจะปิดเพราะเพลงเริ่มเบาลง ผมขอตัวกลับ ป่านนี้มะนาวไม่เหลือแต่กากแล้วเหรอครับเนี่ย ผมมองหามะนาวที่โต๊ะเดิมก็ไม่มีครับ ในกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ไม่มี ผมเลยย้อนกลับไปโต๊ะพี่เทพี่ฟ้าครับ เจอจริงๆ ด้วย มะนาวฟุบหมดสภาพอยู่บนขาข้างนึงของฟ้าประธานรุ่นปีสองครับ ไหล่อีกข้างของพี่ฟ้ามีพี่เทซบอยู่ เหมือนจะหลับ แต่หัวยังโงนเงยแบบสติเหลือน้อยเต็มทีครับ

“รับมือสองเลยเหรอพี่ ไหวมั้ย”

“นึกว่าหนีกลับแล้วซะอีก เห็นหน้ามึงแล้วโคตรดีใจเลยว่ะบอกตรง นึกว่าต้องแบกสองศพซะแล้วคืนนี้”

“ขอบคุณมากพี่ที่ดูมันให้ มาพี่ ไอ้นี่ผมจัดการเอง” ผมกลัวเพื่อนผมทำอะไรพี่เขามากเลยครับ สภาพมันตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอีกแล้ว


เมาหลับแบบเนี่ย เดี๋ยวต้องเป็นเรื่องแน่


................................................


นี่มันเทปม้วนเดิมชัดๆ

หลังจากออกจากร้านอย่างทุลักทุเล มะนาวแทบจะไม่ขยับขาเลยครับ จนผมต้องแบกขึ้นหลังโยนใส่เบาะหลังรถ แล้วขับกลับหอ แบกมันขึ้นชั้นสามอีก ถ้าห้องผมอยู่ชั้นห้าจะทิ้งมันไว้หน้าประตูหอจริงๆ ยังดีที่แค่ชั้นสาม และยังดีที่ตัวมันเบาครับ ผมยกมันพาดไหล่สบายๆ

มาถึงห้องผมก็ลังเลครับ ว่าจะเช็ดตัวให้มันเหมือนวันก่อน หรือปล่อยมันหลับแบบนี้ไปเลยดี

เหมือนมันรู้ว่าผมคิดอะไรครับ มันยังไม่หลับ แต่ตาปิดอยู่ ร้องอึ้อ่ะๆ บิดไปมาเหมือนไม่สบายตัว ผมเปิดแอร์แล้วมานั่งข้างนาวปลงๆ ถอนหายใจแล้วถอดกางเกงยีนส์ให้มันครับ แต่วันนี้จะไม่ถอดเสื้อ

ผมเช็ดหน้าให้มัน จากขมวดคิ้วยุ่ง มันเริ่มผ่อนคลายครับ ผ่อนคลายจนผมกลัวที่จะเช็ดตัวมันต่อ ผ้าผืนเดิมชะงักตอนที่จะเช็ดคอ ผิวแทนเกือบขาวของมันตอนนี้แดงเถือก ไม่เหลือส่วนไหนเหลืองอีกแล้วครับ ผมเลยมาเช็ดแขนทั้งสองข้าง คนเมาหายใจแรงครับ แปปเดียวหน้ามันก็แห้ง ผมเลยเช็ดหน้าให้มันซ้ำอีกรอบ

หมับ! มันจับมือผม ผมนี่ตาโตเลย ไม่นึกว่ามันจะขยับตัวไหว

มือมะนาวไม่เชิงจับมือผมครับ มันคงคิดว่าจับผ้าเย็นอยู่ เพราะมันถูไปถูมาบนหน้า แล้วก็จับมือผมที่จับผ้าอยู่ไปเช็ดๆรอบคอมันอีก ผมมองที่มือตัวเองสลับกับมองหน้ามัน ตอนที่มองอยู่นั่นเองมันก็ครางในคอออกมาเบาๆ

ชิบหาย เริ่มแล้วเหรอ กูยังไม่ได้ปิดไฟเลย ขอกูไปปิดไฟก่อนได้ป่าวว่ะ (นี่ผมกำลังคิดอะไร?)

มือมันเลื่อนมาที่อก แต่มีเสื้อครับ มันเลยเลื่อนต่ำลงๆ จนเกือบจะถึงสะดือ จะถึงสะดือ จนถึงสะดือ! ผมชักมือออกทันทีครับ มือมันก็กระเด้งตกตุ้บลงข้างตัว แล้วก็นิ่งไป

นาวไม่ขยับมือมาเช็ดตัวเองต่อแล้วครับ ทั้งที่ผ้ายังกองอยู่ตรงนั้น ผมนี่ถอนหายใจเลย มันขยับตัวไปนอนตะแคงขดเป็นกุ้งครับ ผมเลยหยิบผ้าเย็นออก ห่มผ้าให้มัน เดินไปปิดไฟ ซักผ้าตากในห้องน้ำ อาบน้ำนอนดีกว่า บางทีมันอาจจะหลับไปเลยก็ได้ ผมอาจจะคิดมากไปเอง


ผมล้มตัวลงนอนให้เบาที่สุด ดึงผ้าห่มมาปิดแค่พุงครับ เมื่อกี้จากที่ใช้แสงไฟในห้องน้ำส่องดู มันยังนอนท่าเดิม แต่หดตัวมากกว่าเก่า สงสัยหนาว แต่ผมว่าแอร์กำลังดีนะ ไม่ได้หนาวอะไร เลยไม่ได้ปรับแอร์

รางวัลจากฝากฟ้าทำผมมึนจริงครับวันนี้ ถ้าเมานิดๆ ปกติผมจะหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เสียงหายใจหนักข้างตัวทำให้ผมนอนไม่หลับครับ เพราะมันหายใจไม่สม่ำเสมอ และกำลังขยับยุกยิก

มันดึงแขนผมข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มไปกอดครับ ตัวมันสั่นๆ ผมเลยเอี้ยวตัวไปหยิบรีโมทจะเพิ่มแอร์ ก็มีมือกับแขนพาดตัวผมไม่ให้ลุกขึ้น

เอาแล้วไง ตั้งนานทำไมไม่ขยับ มาขยับตอนกูมานอนทุกที

“มึงหนาวเหรอ กูจะเพิ่มแอร์ให้” ผมพูดกับมันทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีสติครับ

“ร้อน” อ้าว มีเสียงตอบกลับมา เล่นเอาผมงงเลย ก็ยังฟังรู้เรื่องนี่หว่า

“มึงเป็นใคร?” ผมหยั่งเชิงถามครับ

“มานาว”

“กูล่ะ กูเป็นใคร”

“แมต” มะนาวเรียกชื่อผมเบาเหมือนมันอยู่ในความฝัน

“มึงกำลังกอดกูนะ มึงรู้ตัวรึเปล่า?”

“ไม่เป็นไร นี่มันเป็นความฝันนี่นา” มันพูดก่อนจะเอาหน้าผากมาซบไหล่ผม ผมถอนหายใจ ยกแขนข้างที่ยังว่างดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเราทั้งคู่ กลัวมันหนาว

มันเลยได้ใจ ปีนมาก่ายผมเกือบทั้งตัว กลายเป็นนอนหนุนแขนผม เหมือนผมเป็นฝ่ายกอดมันซะงั้น

เปล่านะ ผมเปล่า ผมไม่ใช่คนเริ่ม ผมไม่ผิด

ครับ ผมไม่ใช่คนเริ่ม เพราะคนที่เริ่ม กำลังเริ่มอย่างอื่นที่หนักกว่าเดิม

มือมันเลื่อนจากอกผม ต่ำลงมาพักที่พุง ให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องอยู่แป็ปเดียวเท่านั้น มันก็ทำให้ผมต้องกลั้นหายใจไปเลย
มือมันกุมอยู่ที่เป้าผมครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะรู้มั้ยว่าวางมืออยู่บนอะไร แต่ไม่ช้าไม่เร็วมันคงรู้ครับ ผมนี่หลับตาปี๋เลย ข่มความรู้สึกยังไงก็ข่มไม่ลง สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยจากคนอื่นทำผมห้ามตัวเองไม่ได้ครับ น้องชายเจ้ากรรมกำลังค่อยๆพองตัว

เพราะผมกลั้นหายใจจนเลือดลมสูบฉีดแน่ๆ ไม่ใช่เพราะมันมาจับไม่ใช่เพราะสัมผัส

พระเจ้า มันกำครับ กำผมรอบตัวเลย มิดบ้างไม่มิดบ้างก็เต็มมือมันนั้นแหละครับ

มะนาวมึงจะปล้ำกูเหรอ ใจเย็นเว้ย!

ผมตัดสินใจลุกพรวดขึ้นครับ จับมะนาววางลงกับเตียงเหมือนเดิมห่มผ้าให้มันลวกๆ แล้วเดินลงมาจากเตียง ไปหยิบผ้านวมสำรองมาปูนอนบนพื้นข้างเตียง ไม่งั้นคงเลยเถิดไปถึงไหนๆ

ผมนอนได้แป็ปเดียวเท่านั้นครับ มะนาวลุกขึ้นนั่ง ผมมองเห็นจากแสงที่ลอดผ้าม่านเข้ามาในห้อง แล้วเหมือนจะมองมาทางผม เหมือนผีที่คืบคลานมาในความมืด โหยยยย ให้ตาย

มึงจองเวรจองกรรมกูมากมะนาว ถ้ามึงลงมา กูจะจัดให้มึงนอนหลับสบายเลย แน่จริงลงมาดิ้ว้า

ผมแค่คิดในใจครับ ไม่คิดจะพูดออกมา แต่เหมือนมันได้ยิน มะนาวเดินลงมา นั่งข้างผม แล้วก็คร่อมผม มันก้มลงจูบผมมือข้างนึงของมันกุมมะนาวน้อยๆ ของตัวเองไว้นิ่งๆ ครับ ผมที่รับจูบเลยเปิดผ้าห่ม แล้วห่มเราทั้งคู่ เพราะกลัวมันหนาว จริงจิ้งงงงง

“อื้มมมมมม” เสียงที่ปกติทุ่มต่ำ ตอนนี้มันครางหวานในคอ พยายามดันส่วนนั้นมาเสียดสีกับของของผมแม้จะมีกางเกงของทั้งสองคนกั้น ผมดึงขอบบ็อกเซอร์ของมันลงนิดหน่อย มะนาวเหมือนจะรับรู้ครับ มันพยุงของมันออกมา ก่อนจะแกะของผมออกมาจากกางเกงนอน แล้วมันก็กำทั้งสองไว้ด้วยกัน ไม่รอบหรอกครับ มันโลภกะฟินทีเดียวสองนี้นา

ผมประคองมันให้นอนลงข้างๆ ตะแคงเข้าหากัน มันพละจูบออกจากปากเพื่อจะพูดชื่อผม

“แม็ต แมต อึ้ อื้ม แมต” เสียงมันทำผมว้าวุ้น ไม่รู้เพราะน้ำเสียง ไม่รู้เพราะไออุ่น ไม่รู้เพราะแอลกอฮอล์ หรือเพราะผมคิดว่ามันรู้ว่าคนตรงหน้าคือผมกันแน่

ผมวางมือตัวเองทับมือของมะนาว มือมะนาวในยามนี้ดูเล็กและน่าทะนุถนอม

ผมทิ้งความยับยั้งชั่งใจไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เหลือเพียงปรารถนาในลมหายใจและเสียงครวญครางของนาวคนตรงหน้า

“อีก เร็วอีก” มะนาวปล่อยมือออกมาโอบรอบคอผม ดึงผมที่ก้มหน้าให้จูบเขา เราจูบกับร้อนแรงกว่าครั้งไหน

“อ้า อ๊า” มือเขาจิกลงบนหลังผมอย่างระบายความอัดอั้น มือมะนาวปัดป่ายไปทั่วร่างผม เหมือนถูกใจกับสิ่งที่ผมปรนเปรอให้
ในที่สุดเราปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน

มะนาวเหมือนเด็กเสียขวัญ ที่ขอร้องให้ผมจูบปลอบซ้ำๆ เขากอดคอผมไว้ไม่ยอมปล่อย ซุกใบหน้าไว้ที่ซอกคอผมในขณะที่ผมเอื้อมมือหยิบทิชชู่บนโต๊ะข้างเตียงที่ตอนนี้อยู่ตรงกับหัวผมพอดี จัดการเช็ดให้มัน เช็ดให้ผมเอง ส่วนที่เปียกยู่บนผ้านวม... ผมค่อยส่งซักพรุ่งนี้แล้วกัน เยอะจนเช็ดไม่ไหวครับ

มะนาวยังส่งเสียงประท้วง ทุกครั้งที่ผมจับมันขยับและเช็ดตัวให้ ผมอุ้มมันกลับขึ้นมานอนบนเตียง ก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มะนาวที่ตอนนี้นิ่งไปแล้ว คงหลับแล้ว



จริงๆ ถ้าผมไม่คิดอะไรกับมัน ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทำไมผมต้องย้ายกล่องทิชชู่จากหลังตู้เย็นมาวางไว้ข้างเตียงตั้งแต่หัวค่ำด้วยล่ะ? ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ



-----------------------------
 จบบทที่ 3 จ้า

  คนเขียน : มนต์พี่แม็ตไม่ขลังเลย 5555 หัวเราะแบบหงายหลัง :laugh:
       แม็ต : เสื่อมแต่มนต์ อย่างอื่นผมไม่เสื่อมนะคนเขียน
  คนเขียน : หูยยยยยย แวร็ง ตอนหน้าอาจจะไม่ได้เสื่อมแค่มนต์ก็ได้ใครจะรู้ หลักฐานก็ไม่มี พยานก็ม่ายมี
       แม็ต : ... (กำลังคิดว่า พยานมันตื่นมาก็ลืมหมด ไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง)
  คนเขียน :  โอ๋ๆ เดี๋ยวตอนหน้าไม่เขียนแกล้งแล้วนะ โอ๋ๆ

เจอกันตอนหน้าน้า บ๊าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:43:45 โดย Brosohub »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 2] 18/01/59
« ตอบ #9 เมื่อ: 20-01-2016 03:16:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
มะนาวเอาอีกแล้ว  :z1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกมากครับ ขนาดเรื่องเพิ่งเริ่มยังไม่มีเหตุการณ์อะไรมากนักแต่อ่านเพลินชวนติดตาม สงสัยเพราะตัวละครแต่ละคนน่ารักมีเสน่ห์
บวกเป็ดทางซ้าย บวกแต้มทางขวา

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


สนุกดีค่ะ เราจะติดตามนะ ^^
แต่ขอนิดนึงได้ไหม ถ้าเป็นไปได้ ใช้กู มึง เต็ม ๆ ไปเลยก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องห่วงเรื่องหยาบไม่หยาบเนอะ เพราะเวลาอ่านแล้วมันรื่นตากว่าเยอะเลย  :pig4:


ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มีใจก็ยอมรับเถอะค่ะว่ามีใจ ชักช้าเดี๋ยวมีใครคาบไปไม่รู้ด้วย
 :m32:
คนเขียนเขียนเข้าใจง่ายนะ นึกภาพตามได้ตลอดเลย ไม่มากไปไม่น้อยไป
และถ้าอัพบ่อยๆได้จะดีค่า 55555+

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0


- บทที่ 4 - ยั่ว -






ผมนอนมองหน้ามะนาวมาสักพักแล้ว ผมตื่นก่อนมะนาวยังนอนนิ่งไม่ขยับตัวเลยครับ

ผมย้อนคิดถึงเรื่องเมื่อคืน และคืนก่อน ทำไมผมไม่รังเกียจ ทำไมผมไม่เดินหนี ทำไมผมไม่ขัดขืนทั้งที่กำลังมีมากพอจะทำได้สบายๆ ทำไมผมไม่หยุดทุกอย่างไว้ ทำไมเป็นผมที่เอื้อมมือออกไปรับเขาทุกครั้ง

ผมเป็นแค่ผู้ชายที่ความต้องการชนะใจ หรือใจผมเป็นของเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

แล้วผมชอบมะนาวตรงไหน? ผมตอบไม่ได้

อะไรในตัวมะนาวที่ทำให้ผมรักเขา ก็ยังไม่มีคำตอบ

ผมไม่ได้รักมะนาว ผมก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก

ถ้าอย่างนั้นที่ผมทำกับมันนี่คืออะไร? แค่หน้ามืดแรงอารมณ์เข้าครอบงำ อย่างนั้นเหรอ?


ถ้าผมแค่อยากระบายแล้วคนตรงหน้าล่ะ? เขาผิดอะไร ทำไมเขาต้องมาโชคร้ายเป็นที่ระบายของผมด้วยล่ะ ทำไมต้องเป็นเขา
ผมคงต้องรู้จักยับยั้งตัวเองให้มากกว่านี้ ก่อนที่อะไรๆ จะสายไป


แล้วผมควรจะทำยังไง

บอกเขาตรงๆ มันเป็นเรื่องที่รับได้ยากนะ

หนีให้ไกลจากเขา แล้วเขาจะไปอยู่ไหน

ปล่อยให้มันเป็นไป แล้วมันจะไปจบตรงไหน นั้นก็เป็นสิ่งที่ผมกลัว


ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำ ทั้งที่ใจยังสับสน

ถ้าผมจะมีอะไรกับใครสักคน ผมเคยตั้งใจไว้ว่า เขาต้องเป็นคนที่ผมรัก แล้วตอนนี้ผมรักเขาไหม มันสับสนไปหมด


ผมออกมาปลุกมะนาวให้ไปอาบน้ำต่อ ถามเขาว่าปวดหัวไหม มะนาวบอกพอไหว วันนี้เขาเลยไม่ต้องกินยา

ถ้าผมถามเขา ว่าจำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม? แล้วเขาตอบว่าจำได้ขึ้นมา ผมจะมองหน้าเขายังไง

ถ้าผมไม่พูดอะไรเลยแล้วผลักไสเขาออกไปจากชีวิตผม ห่างจากผมไปถ้าเขาเจอคนไม่ดีล่ะ ถ้าเขาไปทำร้ายคนอื่นล่ะ


มีทั้งคำถาม และคำตอบ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคำตอบไหนคือคำตอบที่ถูก


............................................

หลังจากนั้นก็ผ่านไปเกือบอาทิตย์มะนาวยังคงมาค้างกับผมในวันที่เมาอีกครั้งสองครั้ง แน่นอนเขาละเมอลวนลามผมทุกครั้ง แต่เรายังไปเรียนด้วยกันนั่งเลคเชอร์ข้างกันกินข้าวกลางวันพร้อมกันเป็นปกติ มะนาวกลายเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับพวกผมไปโดยปริยาย ดูเหมือนจะสนิทกับเอ้กับพงศ์มากกว่าผมไปซะแล้ว

ผมเริ่มที่จะมองตามเขาโดยที่ผมไม่รู้ตัว เริ่มที่จะมองหาเขาในกลุ่มฝูงคน จนกว่าเขาจะนั่งลงข้างๆ ผมเมื่อไหร่ ตอนนั้นผมถึงวางใจ

ผมเอาแต่มองเขามาทั้งอาทิตย์ แล้วตั้งคำถามต่างๆ กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ถามใจตัวเองซ้ำๆว่าความรู้สึกพวกนี้มันคืออะไรกันแน่


“แม็ต อย่ามองนาวแบบนั้นสิ ฉันเขินนะ” ไม่ใช่เสียงมะนาวครับ แต่เป็นเอ้ที่พูด

“เขินอะไร มันจ้องกูเพราะกำลังส่งกระแสจิตมาถามกูว่าผลแลปเสร็จรึยัง”

“อื้ม นั่นดิ” ผมเห็นชอบกับมะนาว “แล้วเสร็จยัง?”

“ยัง ลอกหน่อย เอามากูรู้มึงเสร็จแล้ว”

ผมหยิบของผมให้ เวลามะนาวมีน้อยกว่าผม เพราะลำพังขับรถไปกลับจากบ้านมามหาลัยก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงต่อวันแล้ว ฝนตกรถติดอาจเป็นสาม

“เย็นนี้ใครนอนดึกบ้าง” มะนาวถามคนในโต๊ะ ซึ่งมีน้ำ พงศ์ เอ้ กับผม

“ไมเหรอ? อยากเล่นเซ็กซ์โฟนดึกๆ เหรอ เค้าว่างนะตัว” พงศ์เสนอตัว

“ป่าว กูถามไว้เผื่อกูเป็นศพให้เก็บ เย็นนี้มีเลี้ยงสายรหัส มายันพี่บัณฑิต คงยาว” มันพูดไปเขียนรายงานไป

“ก็กูไปรับไง ยังไงมึงก็มานอนห้องกูอยู่แล้วนี่”

“เผื่อมึงรีบนอน”

“ไม่หรอก กูรอตีฮอน นัดกับพวกไอ้โป่งไว้ น้ำด้วย”

“งั้นกูจะไลน์ไปก่อนเมานะ” ก่อนมานาวจะก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานให้ทันเวลา ไม่นานเราก็แยกย้าย




ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราทั้งหมดเดินออกจากโรงอาหารพร้อมกัน น้ำก็มากระซิบข้างผม

“มึงไม่ได้นัดกูเลย ไอ้แม็ตขี้ตู่”

“กูรู้ มึงจะไม่เถียงไง”

“แหม รู้ใจเหมือนแม่กูเลย” มันว่าผมก่อนจะแยกออกไป


................................................


ตีสอง ผมมายืนอยู่หน้าบรรดาร้านเหล้าที่คาดว่ามะนาวกับสายรหัสจะมาเลี้ยงกันครับ

ผมชำเลืองมองโทรศัพท์บ่อยจนผมเองยังรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ ผมอยู่ไม่สุขตั้งแต่เที่ยงคืน เกือบตีหนึ่งเริ่มเดินไปเดินมาในห้อง ยังไม่ตีสองผมก็ออกมาโดยที่มะนาวยังไม่ไลน์มาบอกหรือส่งสัญญาณอะไรมาบอกเลย ส่วนแต่งตัวนั้นผมแต่งตัวไว้ตั้งแต่สี่ทุ่ม
เผื่อมันแบตหมดโทรไม่ได้ไลน์ไม่ได้ไง ผมเลยออกมา ก็มันเล่นเงียบไปเลย

มองจากนอกร้านไม่เห็นอะไรเลยครับ กระจกมืดมาก บางร้านที่เปิดโล้งก็จะมีเครื่องประดับเอยต้นไม้เอยบังตาเกะกะไปหมด ผมควรไลน์ไปถาม หรือควรเข้าไปหาเลยดี

“อ้าว ไอ้น้องโนอา” พี่ฟ้าประธานรุ่นของปีสองทักผม

“หวัดดีครับ” พี่ฟ้ายังเท่เหมือนเดิม แต่วันนี้มีพร็อบเป็นถุงลูกชิ้นติดมือมาด้วย

“ไง มากินอยู่ร้านนี้หรือหรือร้านข้างๆ ล่ะ” แถวนี้ร้านเหล้าทั้งแถบครับ ยาวไปโน้น

“เปล่าพี่ มาหาเพื่อน” ถามคนนี้แหละ เข้าท่าสุดแล้ว “พี่รู้มั้ยครับว่าพี่เทกับมะนาวนั่งร้านไหน” 

“อ้อ มารับมะนาวอ่ะดิ ร้านนี้ไง ป่ะ เข้าไปพร้อมกันเลย” พี่ฟ้าขี้ร้านถัดไป

“ครับ” ถามถูกคนจริงๆ

ผมเดินตามพี่ฟ้าเข้าไปในร้าน มองหามะนาวไปเรื่อยก็ยังไม่เจอจนพี่ฟ้าไปหยุดที่โต๊ะโต๊ะหนึ่ง มองจากข้างหลังผมเห็นพี่เทนั่งอยู่ริมข้างหนึ่งของโซฟา อีกข้างเป็นใครก็ไม่รู้ ผมไม่รู้จัก แต่ทั้งสองนั่งอยู่ห่างกันเหมือนเว้นที่ไว้ให้คนสักสองคนนั่งตรงกลางระหว่างพวกเข้าได้

“โห ไปซื้อลูกชิ้นแปปเดียว KO ไปแล้วหนึ่ง” ผมเดินมาใกล้พอจะเห็นว่าพี่ฟ้าหมายถึงอะไร

มะนาวครับ มันนอนเหยียดบนโซฟาตัวยาว หัวอยู่บนตักของคนแปลกหน้า ขาพาดเลยไปทางพี่เท ที่สำคัญ เสื้อมันไปไหน?

“อ้าวแม็ต มาได้ไงวะ”

“...”

“กูเจอหน้าร้าน” พี่ฟ้าตอบเองเสร็จสัพ “แนะนำตัวเลยมึง”

“หวีดดีครับ ผมแม็ตปีหนึ่งภาคคอมครับ”

“มา กูแนะนำสายรหัสก่อน พี่โจ้ปีสาม ปีสี่มีสองคนพี่วีกับพี่ขุน พี่บัณฑิตยู่ยี่ พี่เปเป้ กับพี่ชนะ” คนสุดท้ายคืนคนที่มะนาวนอนตักเขาอยู่ครับ และหน้าตาเหมือนพี่ใหญ่สุดด้วย ผมไหว้รอบโต๊ะ จนหยุดที่คนสุดท้ายที่เขามองผมแปลกๆ “คนนี้น้องรหัสโนอาพี่ มีแววป่าวๆ” ประโยคหลังพี่เทป้องปากพูดด้วยระดับความดังเท่าเดิม ผมไม่รู้พี่แกจะป้องปากทำไม

พี่เทเรียกให้ผมนั่ง พี่ผู้หญิงสองคนในโต๊ะจัดที่นั่งให้ผมตรงกลางระหว่างเขา แถมทำท่าดีใจ ผมนั่งลงเขินๆ แต่ก็ยังมองมะนาวที่คงยังไม่รู้ว่าผมมาแล้ว

“เออ ไอ้ยีนส์เห็นคงชอบเลยล่ะ”

“อะไรเหรอครับ? พี่ยีนส์คือใครเหรอ”

“อ้อ รุ่นน้องพี่ ไม่มีอะไรหรอก แล้วเรามาหาเพื่อนเหรอ?” พี่ยู่ยี่ถาม

“ครับ มันบอกจะไลน์มา แต่เงียบไปผมเห็นดึกแล้วก็เลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ไปนอนคอนโดพี่ก็ได้” พี่ชนะพูดขึ้น

“...” ผมจะพูดยังไงดี อำนาจในน้ำเสียงของพี่บัณฑิตทำให้ผมพูดไม่ออก

“มะนาวมันบอกแล้วมันไม่ไปกับพี่นิ ฮ่าๆๆ” พี่เททำท่าล้อเลียน

“มันก็ไม่ไปกับมึง” พี่ชนะพูด “พรุ่งนี้วันเสาร์กูไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว เดี๋ยวกูเอามันไปค้างคอนโดกูเอง มันเมาไม่รู้เรื่องงี้แล้วเนี่ย”

“จริงๆ คือผมมารับนาวครับ” ผมต้องรีบพูด ก่อนเขาจะเอามะนาวไปจริงๆ

“น้องมะนาวจะไปนอนห้องมึงเหรอ? มันบอกมันอยู่บ้านนี่”

“ครับ”

“ใช่พี่ ถ้ามันไม่กลับบ้านมันจะค้างกะข้างรหัสมัน คราวที่แล้วก็ค้าง” พี่เทเคี้ยวลูกชิ้นของพี่ฟ้าไปพูดไป

“ใครก็ไม่รู้ทิ้งมันตั้งแต่วันเปิดเทอม” พี่ฟ้าแซว

“เหี้ย เมท มึงก็ย้ำจัง”

“เพื่อนจะเป็นภาระน้องรึเปล่า พี่ว่าพี่ดูเองดีกว่า หลานรหัสทั้งที”

“...”

พี่ชนะทำท่าเขย่าปลุกมะนาว

“ป่ะ มะนาว กลับกับพี่”

“ไม่!”

“เห็นมั้ยพี่ จะเอามันกลับตั้งแต่ตีหนึ่งละ มันยอมที่ไหน”

“ผมไม่กลับ” พี่ชนะพยุงหิ้วปีกมะนาวลุกขึ้นยืน

“ม้าย โผมกลับม่ายด้าย โผมจาอยู่นี่”

“นาว เดินดีๆ” สองคนหิ้วปีกกันไปอย่างยากลำบาก

ผมลุกขึ้นยืน มะนาวตัวเล็กกว่าพี่ชนะเยอะก็จริง แต่ความยวบยาบของคนเมาทำให้การเดินดูไม่มั่นคงเลย

“นาว” มะนาวหันมาทางผมที่เขากำลังจะเดินผ่านผมไป เขาหยุดทันที แล้วพยายามมองผมอยู่นานเหมือนว่าไม่แน่ใจว่าผมเป็นใคร

“แมต”

“อื้ม กูมารับ กลับกับกูมั้ย?” ผมรู้สึกเลยว่าคนทั้งโต๊ะมองผมกับนาวสลับกัน แม้กระทั้งโต๊ะใกล้ๆก็มอง

“กับๆๆๆๆ กับกับมึงๆ” แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ผมกลัวครับ มะนาวเดินเข้ามากอดรอบคอผม วางคางไว้บนไหล่ผม ต่อหน้าทุกคน ผมว่าผมหน้าแดง แต่แสงสลัวคงพออำพรางได้

แต่ตอนที่ผมเห็นสายตาของพี่ชนะที่มองผมเนี่ยสิ ผมบอกไม่ถูกเลย

ผมไม่รู้เขาคิดอะไร แต่ผมกลัวว่าเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไร สายตาที่เหมือนมองทะลุได้ทุกอย่างนั่น

“มันรอมึงมารับนี่เอง นี่มึงสั่งให้มันไม่กลับกับใครไว้ใช่มั้ย มันถึงทำเหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้เงี้ย” พี่เทออกความเห็น ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันจำได้รึเปล่าว่าบอกให้ผมมารับ

“เปล่าครับ นาวเป็นคนบอกเองว่าให้ผมมารับถ้ามันไม่ไหว มันคงกลัวผมมาแล้วไม่เจอมันมากกว่า”

“เออ คนเมา คนไม่เมาอย่างกูไม่เข้าใจตรรกะมันหรอก”

“แน่ใจเหรอมึงไม่เมา”

“ไอ้เหี้ยเมทเลว”

“ผมขอโทษแทนเพื่อนนะครับพี่ชนะ พี่อุส่าใจดีกับมัน” ผมขยับให้มันอยู่ในท่ากอดคอข้างเดียว พยุงไหล่มันไว้

“ไม่เป็นไร ถ้ามึงดูกับได้กูก็โอเคอยู่แล้ว กลัวมึงไม่ไหวมากกว่า ดูท่าจะเอาเรื่องนะ” พี่ชนะเอาเสื้อมะนาวพาดบ่าผมให้ ผมพึมพำขอบคุณเบาๆ ก่อนจะจับมันใส่เสื้อตรงนี้เลย

“ครับ ลานะครับพี่ๆทุกคน” ผมล่ำลาจนครบทุกคน

ใช่ ไอ้นี่เมาแล้วเอาเรื่องน่าดูเลยล่ะครับ


..................................


ผมกลับมาถึงห้อง ความตื่นเต้นกับการเจอพี่บัณฑิตทีเดียวหลายๆ คนยังไม่ทันหายดี ตอนนี้ผมเริ่มระแวงไอ้คนข้างๆ ไม่รู้มันจะออกอาการอีกเมื่อไหร่ ดูท่ามันจะเมามาก แต่ก็ยังมีสติเพราะรู้ว่าผมเป็นผม

“นาว ถอดรองเท้าก่อน” หลังปิดประตูผมก็บอกมัน มันทำตามเหมือนเด็กที่ฟังรู้เรื่องแต่พูดไม่ได้ มะนาวเหยียบส้นรองเท้าผ้าใบของตัวเองจนรองเท้าหลุดออกทั้งสองข้าง

“ไป ไปนอน”

มันพุ่งตัวลงเตียงผมทันที

“ถอดกางเกงเองไหวมะ”

มะนาวส่ายหน้าช้าๆ สองรอบ ผมเลยถอดกางเกงตัวนอกให้มัน  เช็ดหน้าเช็ดตาให้ทั้งที่ระแวงมันแทบตาย แต่ก็ยังทำนั่นนี่ให้เหมือนเคย ได้กินทีไรไม่เคยยั้งมือ ไม่ดูแลตัวเองเลย

หรือผมจะเป็นฝ่ายไปนอนที่อื่นดี ผมหยิบมือถือ ไลน์ไปหาน้ำที่อยู่หอตรงข้าม

       Maths : มึงนอนยังวะน้ำ

       Maths : ไปนอนด้วยดิคืนนี้

 Backwater : กูอยู่บางแสน

       Maths : เหี้ย มึงไปตอนไหนวะ

 Backwater : เมื่อกี้ อิอิ

 Backwater : ว่าแต่มึงเป็นไร ไม่มีที่นอนเหรอ? ลืมกุญแจ?

       Maths : เปล่า ไม่มีไร แค่นี้แหละ

 Backwater : ส่งรูปภาพถึงคุณ

น้ำส่งรูปพี่เลมาให้ผมดูครับ พวกเขานั่งปูเสื่ออยู่ริมหาด ไปไม่ชวนแม่ง


หมับ มีแขนปริศนากอดคอผมจากด้านหลัง มะนาวเริ่มแล้วครับ วันนี้ไวมาก ทุกทีต้องรอผมปิดไฟทำท่าว่าจะนอน วันนี้มันมาแล้วครับ

“เฮ้อ มะนาว มึงรู้ตัวอยู่รึเปล่าเนี่ย หึ” ผมถอนหายใจ หันไปมองหน้ามันตรงๆ

“นี่แม็ตไง แมตตตต”

“มึงรู้ตัวมั้ยว่าเมาแล้วทำอะไรไปบ้าง กับคนอื่นมึงจะทำอย่างนี้กับเขามั้ย?”

“ไม่อ่ะ” มะนาวพูด ทำท่าเหมือนเด็กถูกดุ

“ไม่ทำหรือไม่รู้? มึงเมาตื่นมาก็จำอะไรไม่เคยได้ มึงจะรู้ได้ไงว่ามึงทำหรือไม่ได้ทำ ถ้าเกิดเขาทำอะไรรุนแรงเกินเลยกับมึงขึ้นมาแล้วอ้างว่ามึงเริ่มก่อน มึงจะเป็นไง รู้ตัวรึเปล่าว่ามึงเสี่ยงกับเรื่องอันตรายมากแค่ไหน”

“ไม่ ฮึก ฮื้อๆๆๆ”

“อ้าว ร้องให้ไมวะ” มะนาวเบะจนหน้ายับ กูผิดอีกดิ!

“แม็ตดุ แมตน่ากลัว” มันปล่อยคอผม ลงไปนอนขดอยู่มุมเตียงที่ไกลออกไป

“เฮ้ย กูพูดเพราะกูเป็นห่วงมึงนะ” เมื่อกี้ผมคงจริงจังมากไป

ครับ ผมยอมรับแล้วว่าตอนนี้ผมห่วงเขาจริงๆ จังๆ เขาหน้าตาดี เฟรนลี่เข้ากับคนง่าย ถ้าตั้งแต่เปิดเทอมไม่มีผมอยู่ข้างๆ ตลอด คงมีทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้าหาเขาหลายคนแล้ว

ทำไมผมจะไม่เห็น เวลาที่คนอื่นมองมะนาวอย่างปลาบปลื้ม เพียงแต่ว่าพอมองมาข้างหลังมะนาวมักเห็นผมมองอยู่ คนพวกนั้นก็หลบตาหลบหน้าไปเอง

ถ้าเจอคนที่แน่พออย่างพี่ชนะล่ะ?

ถ้าผมไม่อยู่ตรงนั้น...


ผมปิดไฟล้มตัวลงนอนอีกฝั่งของเตียง สายตาก็ยังมองไปที่แผ่นหลังของคนที่เมาจนกลายเป็นคนขี้น้อยอกน้อยใจ รอดูท่าทีว่าวันนี้ก่อนมันจะขยับตัวเข้ามาหาผมไหม ถ้ามันเข้ามารุกผมอีก ผมจะจับมันไปราดฝักบัวเย็นๆ ให้ซ่างเมาเลยจริงๆ

หงุดหงิดจนตัวเองรู้สึกได้ เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมไม่โอเคกับการเมาของมัน ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวมันร่างกายมันผมไม่มีสิทธิ
ผมรอดูจนแน่ใจอยู่นาน คงหลับจริงๆ ไปแล้ว ผมห่มผ้าให้มะนาว ก่อนจะนอนลงแล้วหลับตาบ้าง


...............................................

“เฮ้ย!” มะนาวลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง ทำหน้าตาตื่นเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง มันนั่งหอบอยู่กลางเตียง

ผมที่ดูหนังใส่หูฟังอยู่ต้องกดพอสแล้วหันไปถาม

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

มะนาวเห็นหน้าผมแล้วถอนหายใจ

“เปล่า เห้อ” ถอนหายใจอีกที “กูนึกว่ากูไม่ได้นอนนี่”

“มึงไม่นอนนี่แล้วจะไปนอนไหน”

“ก็... ขอบใจว่ะ” ผมยืนยาแก้ปวด กับน้ำให้มันซดแก้คอแห้ง “ก็เมื่อคืนที่กูจำได้อย่างสุดท้ายคือพี่เทจะให้กูไปนอนห้องเขาเพราะเห็นกูเมาแล้ว”

“แล้วมึงบอกพี่เขาว่าไง”

“กูบอกแค่กูไม่ไป กูไปไม่ได้”

“มึงไม่บอกพี่เขาไปเลยวะ ว่าเดี๋ยวกูไปรับมึงให้เขาจะได้ไม่ต้องห่วง ถ้าจะช่วยก็ช่วยโทรบอกกูแทนมึงที่เมา”

“กู กู” มะนาวอ้ำอึ้ง “กูกลัวมึงไม่ไปรับกู”

“...” ผมถอนหายใจ

“กลัวมึงลำบากใจที่กูมาค้างด้วยบ่อยๆ ขนาดเมื่อคืนกูเมาๆ กูยังฝันว่ามึงด่ากูเลย คิดดูคิดจนเก็บไปฝัน กูก็เกรงใจเป็นนะเว้ย” ผมนั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะหนังสืออีกครั้ง กอดอก ฟังจากที่มันพูดมาผมพอจะเข้าใจแล้วนั่นทำให้ผมเย็นลงนิดหน่อย

“ไม่ใช่เลย”

“กูไม่อยากให้มึงต้องมีภาระ”

“มึงฟัง” มันตั้งใจฟังครับ ก้มหน้าเหมือนผมจะดุมันอีก

“ต่อไปนี้ ถ้ามึงกินเหล้า ทั้งไปกับกูหรือกูไม่ได้ไปด้วย มึงไม่ต้องขับรถกลับบ้าน อันตราย ถ้ากูปล่อยมึงกลับ กูคงรู้สึกผิดถ้ามึงเป็นอะไรไป และที่สำคัญ” มะนาวพยักหน้าเข้าใจ “ไม่ต้องไปค้างที่อื่น ให้มาค้างกับกู กูมีเหตุผลของกู แต่เชื่อกูเถอะว่ากูหวังดีกับมึงจริงๆ”

“ถ้าไม่เมากูนอนห้องคนอื่นได้ป่ะ?”

“ได้ แต่ห้องกูก็ได้ มึงชินกับห้องกูแล้วนี่”

“แล้วทำไมเมาแล้วค้างที่อื่นไม่ได้?” มะนาวขมวดคิ้วกอดอกสงสัย

“เออน่า ไปกินโน้น ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้”

“...” มะนาวเดินเซๆไปทางตู้เย็นที่ผมวางถุงน้ำเต้าหู้ไว้ข้างบน ผมก็เลยหันกลับมาดูหนังในคอมต่อ

“ดูโด้ยอิ ต่อลำโพลงๆ” มันกินไปพูดไป แก้มตุ่ยๆ ตาเบลอๆ ก็น่ารักดี

“สรุป มึงจะไม่บอกจริงๆ เหรอว่าทำไมถ้ากูเมากูไปนอนห้องคนอื่นไม่ได้” สักพักใหญ่ๆมะนาวก็ถามขึ้นมาอีก

“...” ผมนึกว่ามันจบไปแล้ว มันยังไม่จบอีกกกกก

โว้ยยยยยย กูจะบอกมึงยังไงว่ะ

“บอกมาเถอะ กูจะได้คอยระวังตัวเองด้วยไง เพื่อกูจะได้ไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนไง”

เอาไงดีว่ะแม็ต เอาไงๆๆๆ

บอกไม่บอก บอกไม่บอก

มะนาวนั่งบนเตียง จ้องตาผมรอคำตอบ ผมขอหลบตาหน่อยแล้วกัน ผมเขินนะเอาจริงๆ

“แน่ใจนะว่าถ้ามึงรู้แล้วจะทำให้มึงระวังตัวมากขึ้น”

“อื้ม”

ถึงมันจะรับปากแต่ผมก็ยังลังเล...

“มึงเมาแล้วมึงอ้อล้อ”

“บ้านมึงคนเหนือทำไมใช้คำใต้ แล้วมันแปลว่าอะไร” แม่ผมเป็นคนเชียงรายครับ มะนาวเอียงคอสงสัย

ดูเหมือนมันจะยังไม่เข้าใจ ผมต้องพูดซ้ำอีกเหรอ นี่ผมต้องแปลอีกเหรอ โอ้ย ทำไมมันยากเย็น

“มึงเมาแล้วมึงจะยั่วคนที่อยู่ใกล้ๆ”

“มึงหมายถึง ยั่วโมโห ใช่มะ?” มะนาวทำคิ้วกระตุกเหมือนรู้ความหมายของผมแต่พยายามแปลไปในทางอื่น

“ไม่ใช่” ถ้าใช่กูจะเขินทำซากอะไรครับ “มึงอย่าให้กูต้องขยายความมากกว่านี้เลย” ดูจากท่าทางกูเอาแล้วกัน ให้พูดเต็มคำว่า ‘ยั่วยวน’ ผมไม่กล้าจริงๆ แค่นี้ก็รู้สึกหน้าแดงแล้ว

“เชี้ย!” มะนาวกลิ้งไปกับเตียง ดึงผ้าห่มตามไปด้วย ม้วนเป็นดักแด้ป้องกับตัวขั้นสูงสุด

“...” ผมหันทางหน้าจอคอม และหลับตา

พูดไปแล้วๆๆๆๆ มันจะว่ายังไงวะ ถ้ามันลาออกไปเลยล่ะ โอ้ย คงไม่มั้ง อย่างมากก็เลิกคบผมเป็นเพื่อน

“ที่มึงรู้นี่เพราะว่า กู... กับมึงงั้นสิ”

มึงอย่าเว้นแบบนั้นมันดูน่ากลัวกว่าเก่าอีก

“ตายๆๆๆๆ กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

ที่เดิมนั่นแหละ ไว้ไหนก็สายไปแล้วตอนนี้

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

มึงจะอยากรู้ไปทำม้ายยยยยยยยย

“ก็ตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมนั้นแหละ” เอาสิ บอกแล้วก็บอกให้หมด “ไม่เป็นไร กูไม่ถือ คือกูเข้าใจว่ามึงเมาไง”

 “มึงไม่รังเกียจกูเหรอ”

“มันไม่ถึงขนาดนั้น มึงอย่ามองตัวเองไม่ดี มึงบอกเองว่าก่อนนี้ไม่เคยกินเหล้าหนักๆ เลย เพิ่งมากินตอนเข้ามหาลัย ก็แปลว่ามึงไม่ได้ไป เอ่อ ไปยั่วคนอื่นไม่เลือกหน้า”

เท่ากับผมยอมรับว่าเป็นคนแรกที่มันมายุ่งด้วยจริงๆ แบบที่มันไม่รู้ตัวด้วย โอ้ยยยยย

คิดได้อย่างนั้นผมอยากย้อนกลับไปไม่พูดประโยคเมื่อกี้นี้

“ที่กูไม่อยากให้มึงไปค้างกับคนอื่น กูกลัวเขามองมึงไม่ดี ดีไม่ดีมึงอาจจะเจอของจริง มึงจะซวยเอา”

“กูเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่ะเพื่อน ขอบใจจริงๆ กูจะเชื่อฟังมึงทุกอย่างเลยเพราะงั้นมึงอย่าให้กูไปทำเรื่องน่าอายกับคนอื่นเชียวนะเว้ย”

“เออดิ กูก็บอกอยู่นี่ไง ว่าห้ามไปนอนไหนถ้ามึงเมา” พูดไปพูดมาเหมือนผมกำลังบอกมันว่า มึงยั่วกูได้ตามสบายแบบไม่ต้องเกรงใจยังไงยังงั้น ผมขอนอนตายอย่างสงบ

“อื้ม เข้าใจแล้วๆๆๆๆๆๆ”

เสียงหนังยังเล่นต่อไป ส่วนเราเงียบไม่มีใครพูดอะไร

พูดไปหมดแล้ว ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว พูดมากก็เข้าตัว เงียบดีกว่า


พรึบ! ปึ้ง!

มะนาวเปิดผ้าห่ม ลุกจากเตียงแบบกะทันหัน เขาคว้ากางเกงตัวเองที่ผมแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำไป มีเสียงน้ำไหล กับเสียงกดชักโครก เขาคงฉี่ แล้ว

แล้วผมจะตั้งใจฟังทำไมเนี่ย!

ผมทึ้งหัวตัวเองเรียกสติ

แล้วทำเป็นดูหนังต่อ

ทำเป็น!

โอเค ผมยอมรับก็ได้ว่าผมไม่มีสมาธิดูหนังแล้ว ตอนนี้เอาแต่มองไปที่ประตูห้องน้ำ เอานิ้วเคาะขอบโต๊ะ และเม้มปากไม่รู้จะทำอะไรวางตัวยังไง ผมไม่ได้กลัวว่ามันจะโกรธ หรือไม่พอใจ แต่กลัวมันเปลี่ยนไป กลัวมันจะมองผมเปลี่ยนไป เราเพิ่งเป็นเพื่อนกันได้สองอาทิตย์ และเราก็เข้ากันได้ดี เอ่อ... หมายถึงเป็นเพื่อนที่ดีครับ ถ้ามันเปลี่ยนไปชีวิตที่เหลือของเราคงกระอักกระอวนพิลึก เจอหน้ากับแทบทุกวิชา เทอมนี้วิชาที่เราไม่ตรงกันมีแค่วิชาเดียวเอง

ไม่นานมะนาวก็เปิดประตูออกมาครับ เขาตรงไปหยิบโทรศัพท์ ของเขาที่ผมชาจต์ไว้ให้ข้างเตียงแล้วไปที่ประตูห้อง ที่ผมแขวนกุญแจห้องรวมกับพวงกุญแจรถของมะนาวไว้ เขาคว้าพวงกุญแจของเขาแล้วพูดกับประตู

“วันจันทร์เจอกันเว้ยเพื่อน”

แล้วเขาก็เปิดประตูวิ่งไปเลยครับ ผมยังไม่ทันขยับตัวหรือพูดอะไรเลย

เออ ไปซะก็ดี กูจะได้ไม่ต้องหน้าแดง



---------------------------------------
TBC.


คิดว่ามะนาวจะเลิกยั่วไหม?
หึ หึหึหึ
มาทวนชื่อเรื่องกันจ๊ะ 'ย้ำรัก' ย้ำแล้วย้ำอีก ฮ่าๆๆๆๆ (แอบยิ้มกรุ้มกริมอยู่คนเดียว)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:54:53 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
«ตอบ #15 เมื่อ22-01-2016 23:01:22 »

ลงมาตั้งหลายตอน ขอแวะตอบคอมเม้นหน่อยน้า

B52 - เม้นต์แรก รู้สึกลุ้นและขอบคุณสำหรับกำลังใจจริงๆค่า

●GreenTEA● - ตอนนี้ไม่มี ผิดหวังล่ะสิ อิอิ ขอบคุณสำหรับการติดตามจ้า ชอบอะไรไม่ชอบอะไรบอกได้น้า

insomniac - ใช่เลยคะ เรื่องเพิ่งเริ่ม อีกยาวววววเลยคะ ฝากติดตามเรื่อยๆน้าาาาา

Malimaru - ขอบคุณค่า สำหรับคำแนะนำ ต่อไปจะให้แม็ตหยาบคายตามวัยให้มากขึ้นเนอะ ฮ่าๆๆ แต่จะบอกว่าที่คนเขียนไม่ได้ให้แม็ตพูดคำหยาบบ่อยๆเหมือนคนอื่นเพราะมีเหตุผลของเขาค่ะ (เด็กผู้ชายคนนี้โตไปจะเป็นผู้ชายอบอุ่นนะ อิอิ) มีไรอีกแนะนำได้น้าาาาา

PaiPo - พูดไม่ทันขาดคำค่ะ มีรางๆว่าจะมีคนมาคาบไปคนนึงแล้วค่ะ เรื่องอัพจะพยายามนะคะ

เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
«ตอบ #16 เมื่อ22-01-2016 23:43:50 »

มะนาวต้องระวังตัวให้มากกว่านี้
ไม่งั้นเมทจะทนไม่ไหวนะเออ  o18

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
«ตอบ #17 เมื่อ23-01-2016 00:25:16 »

พ่อคนดี ส่วนคนเมามันเมาได้ตลอดซิน่า

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 4 ยั่ว] 22/01/59 22:42
«ตอบ #18 เมื่อ26-01-2016 13:25:21 »



โอ้พ่อแมท พ่อพระเอกของป้า... อย่าแทงกั๊กอย่างนี้สิลูก
หวั่นไหวกับเขาก็ยอมรับดี ๆ นาวมันไม่ทำแบบนี้กับใครหรอก ไม่เชื่อถามพี่ชนะดูสิ หึ หึ หึ
แต่ถ้าหนูจะดึงเช็งไปเรื่อย ๆ ก็สุดแล้วแต่หนูนะลูก แต่ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องนาวมันจะไปกินเหล้าแล้วเผลอหลับที่ไหนอีกหรือเปล่า... ถ้ารอดพ้นสายตาหนูไป นาวอาจจะได้ที่นอนใหม่ที่ไม่ใช่ห้องแมทก็ได้นะ - นี่ป้าไม่ได้ขู่นะ ป้าแค่ช่วยหนูเบิกเนตรเฉย ๆ อิอิ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^  :3123:




ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #19 เมื่อ28-01-2016 01:13:04 »

- บทที่ - 5 - วน -


-------------------------------------


การเจอหน้ากันอีกครั้งในเช้าวันจันที่แสนตื่นเต้นผ่านไปแล้วครับ ผมพยายามทำตัวปกติ  ถึงโรงอาหารก็ไลน์บอกมะนาวเหมือนทุกที มะนาวมาถึงก็ทักทายผมปกติ คุยเล่นกับเพื่อนๆ ปกติ ถึงแม้ลึกๆ ผมกับมันจะไม่ปกติ (ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าผมว่ามะนาวเองก็ไม่ปกติ) มีบางช่วงที่เรามองหน้ากันนิ่งๆ จะว่าร้อนตัวก็ได้ครับ ต่างคนต่างหาอะไรทำ ก่อนจะต่างหลบตาแต่ไม่ได้พูดอะไร มะนาวเองก็คงรู้สึกถึงบางอย่างเหมือนกัน

จนตอนบ่าย แลปเสร็จเร็วครับ ผมกับมะนาวต้องรอเข้าเชียร์ เนี่ยแหละปัญหา

“อีกตั้งชั่วโมงครึ่ง จะไปรอเวลาเข้าเชียร์ที่ไหน?”

“ใต้ตึก ห้องสมุด?  ร้านกาแฟ? โรงอาหาร? หรือจะไปห้องมึง”

“ห้องสมุดก็ได้” ผมรีบตัดสินใจ ก่อนที่เขาจะเลือกอะไรที่ผมกลัว

จริงๆ ถ้าลำพังผม ผมก็คงกลับหอนอน แต่พอมีมะนาวอยู่ด้วย ผมไม่อยากอยู่กับเขาลำพังแบบสติสัมปชัญญะครบถ้วนแบบนี้
อย่างน้อยก็ควรปล่อยเวลาผ่านไปสักพักก่อนล่ะนะ


เราเอาสรุปแลปที่เพิ่งทำการทดลองไปเมื่อกี้มานั่งทำ

“แม็ต กูถามหน่อย”

“ว่ามา”

“มึงลำบากใจรึเปล่าที่กู เอ่อ กูไปค้างห้องมึงบ่อยๆ”

“ไม่นี่”

“แต่ คือ คือกูหมายถึงว่ากูเป็นภาระนะเว้ย กูแบบ ทำเรื่องวุ้นวายให้มึง”

“นี่ กูยังไม่รู้สึกเดือดร้อนเลย มึงจะคิดมากทำไม”

“ก็มึงเป็นคนดี”

“กูเป็นคนธรรมดา ถ้ากูไม่โอเคกูก็บอกมึงเองแหละน่า”

“จริงนะ”

“เออ”

“แล้วทำไมมึงไม่เหมือนเดิม”

“อย่างกะมึงเหมือนเดิมงั้นแหละ”

“งั้น กูจะทำตัวเป็นภาระมึงเหมือนเดิม” ผมยกปากกาขึ้นเคาะหน้าผากมะนาว

“แป็ก! อย่าเยอะๆ” มะนาวลูบหน้าผากตัวเองไปมาเถียงแบบไม่มีเสียง ก่อนจะก้มลงเขียนรายงานต่อ


“แม็ต”

“หื๋อ?”

“ขอบใจว่ะ”

“ค่อยพากูไปเลี้ยงบุฟเฟ่แล้วกัน”

“บุฟเฟ่เบียร์เป็นไง”

“เอาจริงดิ?”

“กูล้อเล่นคร้าบบบบ แบบนั้นกูก็เป็นภาระมึงคือเก่าดิ”


 หลังจากนั้นมะนาวคอยตอบไลน์ และเข้าเฟสอยู่เรื่อยๆ เหมือนคุยกับใครอยู่ แต่ผมไม่ได้ถาม

สักพักผมก็รู้คำตอบ เอ้กับน้ำเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับ

“เดี๋ยวเข้าเชียร์กัน” เอ้พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผิดปกติ

“นึกไงอยากเข้าเชียร์” มะนาวถามเอ้ ปกติเธออิดออดที่สุด แรงบันดารใจเดียวในการเข้าเชียร์ของเอ้คือ ประทานเชียร์

“วันนี้มีแนะนำชุมนุมชมรมไง ได้ข่าวว่าชุมนุมกีฬาจะยกมาทั้งชมรม คงพรึบพับ เต็มเวที” อ้อ ประเด็นของเอ้คือจะไปส่องคนหล่อ

“เออ นั่นดิ” มะนาวนึกได้

“จะเข้าชุมนุมอะไรกัน? คิดไว้บ้างยัง เขาบังคับนี่” น้ำถามไปทั่วโต๊ะ

“ไม่มี ไปเลือกวันนี้แหละ” เอ้กับมะนาวตอบชัดเจน

“มึงอ่ะน้ำ มึงเลือกทุกอย่างไม่ได้นะ” น้ำเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านครับ ทั้งกีฬา ดนตรี และหน้าตา

“กูมีในใจแล้วกันน่า มึงเหอะ จะเลือกอะไร”

“ว่าจะเลือกเครื่องกล” ได้ข่าวว่ามีทริปขับมอเตอร์ไซย์ไปไกลๆกันด้วย น่าสนุก

“อะไร มึงคิดถึงอรวรรณว่างั้น?”

“นิดนึง”

“เออ นั่นดิ คิดถึงอรวรรณอ่ะ เวลาพี่แม็ตอยู่กับอรวรรณนะ หล่อลากมันฟินมากเลย ให้ตาย อยากถ่ายรูปลงไอจีรัวๆ” เอ้เพ้ออีกแล้วครับ

“ไปกันยัง ใกล้เวลาแล้ว” ผมสายหัว ลุกขึ้นเป็นเชิงบังคับให้หยุดเพ้อ

นั้นสิ ไม่เห็นหน้าอรวรรณมาตั้งนาน ต้องให้สายแอบถ่ายรูปส่งมาให้ดูแก้คิดถึงซะแล้ว


......................................................................


วันนี้เป็นการเข้าประชุมเชียร์ที่สบายสุดๆครับ ไม่ต้องระเบียบมาก คุยกันก็ได้ หัวเราะก็ได้ เพราะไม่มีคนทำหน้าดุคุมพวกเรา แต่เป็นการพรีเซ็นผลงาน กิจกรรมของชมรม หลายชมรมได้รับความสนใจครับ อย่างชมรมเชียร์หลีดเดอร์ หนุ่มๆ ออกอาการสนใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่สนใจเข้าชมรมนะครับ สนใจพี่ที่มาโชว์เสต็บหลีดมือความพร้อมเพรียงเป้ะๆ ในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอที่ปกติพวกพี่ๆ เขาไม่ใส่ครับ เพราะมันผิดระเบียบ ชมรมรักบี้มากับชุดเสร็จศึก คือพี่ๆเขาคงไปซ้อมมาแล้วจริงๆ ทั้งเหงื่อทั้งโคลน มาเต็มครับ ชมรมเครื่องกลที่ผมแอบสนใจเอารถโกคาทขับเข้ามาครับ มีมอเตอร์ไซย์อีกสองคันด้วยหล่อๆ ชมรมยิงปืน ยกบีบีกันมายิงข้ามหัวพวกเราครับ ผู้หญิงบางคนตกใจเสียงปืนจนกรี๊ดกันลั้น แต่ละชมรมเรียกว่างัดไม้เด็ดมาอวดกันเต็มที่ ส่วนใหญ่มากันด้วยชุดทำกิจกรรมชมรมครับ บอลก็ชุดบอล ยูโด บาส พีคสุดชมรมว่ายน้ำครับ ตัวเปียกเหมือนเพิ่งขึ้นจากสระด้วย

มีชมรมที่มาวันนี้เยอะมาก มีเวลาแค่สี่ห้านาทีพี่ๆเขาก็ใช้กันคุ้มครับ แถมยังมีปิดท้ายบอกว่ามีบางชมรมมาไม่ได้วันนี้ ถ้ามาหมดจะขนาดไหน

ผมถูกเชิญให้เข้าชมรมบาสอย่างที่หมอดูน้ำคาดการณ์ไว้ครับ มีแค่ส่วนสูงก็ใช่จะแปลว่าเล่นบาสเก่งเสมอไปนะ ถ้าเอาไปยืนเกะกะให้เต็มสนามก็พอคุยกันได้

แต่มันก็แล้วแต่ผม พี่ที่เข้ามาคุยเป็นพี่โรงเรียนเราจำกันได้แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไร เขาก็ไม่ได้บังคับ เพียงแต่พี่ๆกดดันว่า ถ้ารักคณะ อยากทำอะไรเพื่อคณะ ก็มาอยู่ชมรมบาสกับพวกเขา

ผมไปไม่เป็นเลย…

ทำไมแม้แต่กับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนก็รู้จุดอ่อนผม ว่าผมปฏิเสธใครไม่เป็น น้ำตาจะไหล


“เป็นไงมึง” น้ำนั่งลงตรงข้ามผม

“กูถูกชวนเข้าบาส” ผมบอกไปตรงๆ

ในตอนที่เขาปล่อยเราทยอยเดินออกจากห้องประชุมเชียร์ พี่ๆแต่ละชมชมจับจองพื้นที่สองข้างทางจนคณะที่ปกติเงียบสงบ วุ้นวายเหมือนตลาดนัดเลยครับ ใครสนใจชมรมไหนก็เดินเข้าหาได้เลย ใครเดินงงเหมือนผมก็มีพี่ชมรมโน้นชมรมนี่จูงมือเข้าไปชมไปฟังเขาฟรีเซ็นแข่งกันครับ

“มึงยังดี กูโดนชวนเข้าหลีด” มันทำหน้าไม่คาดฝัน

“ไม่ดีตรงไหน ใครๆก็อยากเป็นหลีด อยู่ท่ามกลางสาวๆสวยๆหุ่นดีๆ มีแต่คนมองคนกรี้ดนะ”

“ไม่ดี กูจะไม่มีเวลาเลยนะเว้ย ช่วงไหนมีงานนี่ซ้อมยันสว่าง”

“เพื่อคณะไง” เหมือนผมที่คงเข้าชมรมบาสเพื่อคณะ

“ไม่เอา กูจะไม่อยู่หลีด” อ้อ ผมลืมไปว่าน้ำไม่ใช่คนใจดีพร่ำเพรือ แบบผม เหอๆ

“แล้วมึงจะไปอยู่ไหน”

“ชมรมพระพุทธศาสนา” มันยักคิ้วสองข้างสลับกันไปมา ดูก็รู้ว่าคงมีความคิดแผลงๆอะไรอยู่

“ทำไมว่ะ? ลองอธิบายมาดิ”

“หนึ่งกูจะมีเวลา เพราะเลเป็นคนไม่มีเวลา กูเป็นแฟนที่ดีก็เลยต้องทำตัวมีเวลา แล้วแม้กระทั้งการเข้าชมรม ออกงานนอกสถานที่ไปทำบุญตักบาตร กูก็พาเลไปด้วยได้เสมอ เพราะชวนคนไปทำบุญถือเป็นงานชมรมอย่างหนึ่ง คิดดูทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน กูจะได้มีบุญร่วมกันเยอะๆ เป็นไงความคิดกู”

“ดี เอาตามนั้นเลยมึง”

“แล้วมึงอ่ะ?”

“กูก็บาสไง”

“ฮ่าๆๆๆ” น้ำตบโต๊ะชอบใจ บอกซ้ำๆว่า ว่าแล้วๆอยู่นั้น ผมมองไปทางหน้าห้องประชุมเชียร์ พวกนั้นยังเต้นอยู่เลย

“ส่วนพวกนั้นไม่ต้องเดา” น้ำมองตามสายตาผม

“เออ สันชัวร์”
 
สักพักน้ำก็มีเบนซ์สีขาวมารับ ผมบอกไปรึยังว่าน้ำนิ่งมีแฟนแล้ว เป็นคุณหมอจบใหม่ รุ่นพี่โรงเรียนผมเอง

สองคนนี้เรียนไม่ทันกันหรอกครับคนหนึ่งจบอีกคนเพิ่งเข้าม.1 แต่มาเจอกันได้เพราะพี่ทะเลกลับมาแนะแนวน้องๆเกี่ยวกับการเรียนต่อ ทั้งสอบหมอและชีวิตการเรียนหมอ ตอนนั้นไอ้เพื่อนผมก็แอ๊ปเป็นสนใจเรียนหมอ ขอเฟสไว้ทำทีเป็นปรึกษาเรื่องเรียน ไม่นานมันก็จีบติด เพื่อนผมหล่อนี่ครับ ฮ็อตกว่าผมเยอะ

จากตรงนี้มองไปแทบมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร ผมเห็นพงศ์แน่ๆล่ะ เพราะเขากลมๆกว่าคนอื่น มะนาวน่าจะใช่ที่ใส่ชุดนักศึกษาชายทางซ้าย ผมนั่งรออยู่อีกนาน กว่าพวกนั้นจะมาสมทบ
 

“เลือกชมรมได้ยัง?” ผมถามทันทีที่พวกเขาเข้ามาใกล้

ได้แล้ว!” สามคนประสานเสียงแย่งน้ำผมไปสลับกันกิน เช็ดเหงื่อปาดคางกันนั่งหอบ พวกนี้เต้นจนเสื้อนักศึกษาชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ดูมีความสุขมาก

“มือกลองหล่อมาก” พงษ์ออกความเห็น

“คนที่ถือโข่งก็หล่อ” เอ้เสริม

อย่างนี้นี่เองที่มาของความสุขของพวกนี้

“โข่งสีส้มป่ะ?” มะนาวหันไปถามเอ้ท่าทางตกใจ

“ใช่ รู้จักเหรอ?”

มะนาวหันมาหาผม “เอ้ชอบพี่เทว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

“เฮ้ยจริงดิ้ พี่มึงเหรอ โอ้ยมึง พี่มึงหล่อ”

“ปกติกากจะตาย แต่วันนี้มันเท่ดี กูอยากเท่แบบพี่เขาบ้าง คงสนุกดี”

“ผัวที่สามของกู มึงอย่าแรดมากค่ะ กูหึง อยู่เป็นผัวกูคนเดียวแบบนี้ดีแล้ว”

ผมหัวเราะเพราะพงศ์เริ่มลุกขึ้นปีนขึ้นบนตัวมะนาวและพยายามสวมกอด

“ไปกินข้าวกันเถอะ” ผมชวนทุกคนไปหาอะไรกินโต้รุ่งข้างนอก หลังๆมานี่เสร็จจากเชียร์เราก็ไปกินข้าว มะนาวส่งทุกคนที่หอแล้วค่อยกลับบ้าน เป็นการเลี่ยงเวลารถติดด้วยมะนาวบอก

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ เราไปมีตติ้งของสันกันนะ” เราเริ่มออกเดิน พงษ์หมุนไปหมุนมาข้างหน้าอย่างร่าเริง

“ใช่ ไป ฉันเล็งพี่มือกลองคนซ้าย กับพี่... พี่เขาชื่ออะไรนะ พี่เทเหรอ แม็ตก็ไปด้วยกันสิ เขาเลี้ยงปีหนึ่งทุกคนอยู่แล้ว” เอ้บอก

“เดี๋ยวดูอีกทีแล้วกัน ป่ะ หิว” ผมชี้ให้เอ้กับพงศ์เดินไปลานจอดรถที่ผมจอดรถมะนาวไว้

แต่มีคนเดินช้า ผมเลยต้องหันไปมอง มะนาวที่เดินรั้งท้ายอยู่ๆ ก็ถามผม

“กูไปกับพวกนั้นได้มั้ยถ้ามึงไม่ไป”

“ได้ดิ อยากไปก็ไปเถอะ เดี๋ยวกูค่อยไปรับ”

“จริงนะ”

“เออ ไปดูส่งสองคนนั้นด้วยไง”

“แล้วมึงดูชมรมอะไรไว้”

“บาสมั้ง พี่เขามาขอร้องเอง มีพี่โรงเรียนที่จำกูได้เคยเล่นด้วยกันตอนนี้เขาก็อยู่บาส ก็คง บาสนั่นแหละ”

“ถ้ามึงแข่ง กูไปเชียร์แน่นอน”

“อาจจะได้นั่งข้างสนามเป็นสำรองทั้งเกมก็ได้”


“ไหนบอกหิวค่ะ จะสวีตกันอีกนานไหม เดี๋ยวแม่จับปล้ำทั้งคู่เลย” พงศ์เอนตัวพิงรถ ตั้งขาตั้งฉากกับรถโพสท่ารอไป บ่นไป


..............................


ในที่สุดมะนาวก็ลากผมออกมาด้วยจนได้ เห้อ... ผมนี่ช่างใจอ่อนไปเรื่อย

เอ้ถึงกับออกปากว่าจะเมาให้เต็มที่ เพราะมีผมพากลับ

ยกพวกไปร้านไหนเขาแทบจะปิดร้านให้ วันนี้ก็เหมือนกันสันทนาการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ นอกจากจะเหมาเกินครึ่งร้าน ยังเหมาโต๊ะ เหมาเก้าอี้ไปเยอะแล้วด้วย เมื่อกี้ผมเห็นคาตา พี่ขึ้นไปเต้นบนโต๊ะจนโต๊ะทะลุ! ถ้าไม่บังเอิญรู้มาก่อนว่าร้านนี้เป็นของรุ่นพี่ผมคงงงว่าทำไมพวกนี้ไม่โดนไล่ออกจากร้านไป

งานเลี้ยงเริ่มมาครึ่งทาง แต่หลายคนไปถึงเส้นชัยแล้วครับ ดูจากอาการสุดเหวี่ยงจริงๆ

“หวีดดีแม็ต มากับชมรมสันเหรอ?”

ผมทันไปตามเสียงทักทาย ใครนะหน้าคุ้นๆ

“เราซีไง ที่เจอกันวันก่อน”

“อ้อ ซี”

“ขอนั่งด้วยได้ไหม?”

“เอ่อ เอาสิ” ซีไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยเหมือนวันก่อนผมถึงจำเธอไม่ได้ คืนนี้เธอมาในชุดกางเกงขาสั้นมากเสื้อกล้ามสีดำ ผมที่เคยรวมเวลานี้ก็ปล่อยเป็นลอนใหญ่ดูเข้ากันดี เธอเป็นคนตัวเล็กๆ เล็กจนผมรู้สึกว่าตัวเองใหญ่เทอะทะไปเลย

“พี่ๆ เขาร่าเริงกันจังเนอะ เนี่ยเรามากับหลีดเพิ่งมายังไม่ทันเมาเลย ดูสิเต้นกันจะคนอื่นไม่กล้าเข้าร้านนี้แล้วมั้ง”

“ซีกินเหล้าด้วยเหรอ?” ผมแปลกใจ

“เพิ่งลองกินเนี่ยแหละ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ทำไมเหรอ หน้าอย่างเราไม่น่าดื่มใช่ป่ะ?”

“ใช่” ผมตอบไปตรงๆ ยอมรับว่าทีแรกนึกว่าเธอจะไม่ดื่ม เพราะนอกจากจะจำลุคเด็กเรียนของเธอได้แล้ว เธอยังไม่น่ารอดปากเสือปากตะเข้

“แน่ะ เป็นห่วงเราเหรอ” เธอชี้หน้าผมอย่างจับผิด ถ้าตอบใช่อีกเขาจะเข้าใจผิดไหมนะ

“คนสมัยนี้น่ากลัวนะ”

“แล้วเราต้องกลัวแม็ตไหม?”

“ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้นแหละ”

“อื้มๆ เราจะระวังตัวนะ” ซีพูดยิ้มๆ ยกแก้วตัวเองขึ้นแตะริมฝีปาก แต่ก็ชะงัก “นี่ ยังไม่ได้ชนแก้วเลย มาๆ ชนกันหน่อยๆ”

 “ผัวขาาาา มานั่งทำอะไรอยู่นี่ เขาเต้นกันอยู่โน้น มาๆๆๆ มาเต้นกัน”

พงศ์มาจากไหนไม่รู้ครับ ลากแขนผมลุกขึ้น เข้ามากลางวง แก้วที่ถืออยู่ก็ติดมือมาด้วย พงศ์จับไหล่จับแขน เต้นไปรอบๆตัวผม ผมส่ายหัวเบาๆ อยู่ๆเอ้ก็มาจับมือกับพงศ์ แล้วทำอย่างเดียวกันคือเต้นไปรอบๆ ผม มีพี่ๆอีกหลายคนเต้นอยู่รอบๆ แปปเดียวเอ้กับพงศ์ก็หันไปสนใจรุ่นพี่ที่ออกสเต็ปเต้นท่าเดียวกันเป็นสิบคนเหมือนซ้อมกันมา ผมเห็นแล้วแอบทึ่งนิดนึง มากกว่าท่าเต้นคือดูเขาสนุกกันมากๆ

มะนาวมายืนโยกเบาๆ ข้างๆ ผม ก่อนจะแย่งแก้วผมไปดื่ม

“กำลังคอแห้งพอดี”

“รีบกินเดี๋ยวก็เมาเร็วหรอก”

“เมาให้ตายกูก็ปลอดภัยแน่นอน” มะนาวยักคิ้วให้ผม แถมยังเต้นท่ากวนตีนใส่ แม่ง น่าเตะ

“มึงรู้ได้ไงว่าปลอดภัย มึงแค่จำมันไม่ได้ต่างหาก” ท่าทางมั่นใจเหลือก้ำเหลือเกินของมันทำให้มั่นไส้จนผมหลุดปาก เผลอขุดหลุมฝังตัวเอง

“มึงจะสารภาพว่าทำอะไรกูรึไง?”

“กู กูเปล่า”

“เห็นมะ กูปลอดภัยดี กินเท่าไหร่ก็ได้” มะนาวซ้ำจนหมดแก้ว แล้วคืนแก้วให้ผม


ผมเดินออกมาชงเหล้าแล้วนั่งเฝ้าโต๊ะต่อยาวที่แทบไม่มีคนนั่งอีกครั้ง เอ้ก็ออกมาหยิบแก้วแล้วกลับไปเต้นกับเพื่อนๆ พี่ๆ ต่อ

“ไม่เต้นกับเขาเหรอ” ซีแยกตัวออกจากฝูงคนมาทักทายผมอีกครั้ง

“ไม่ดีกว่า เราไม่ค่อยถนัด”

“อ้าว?”

“ตามเพื่อนมาน่ะ มันชวนมา”

“อ้อ นี่ เมื่อกี้ยังไม่ทันชนแก้วเลย มาๆๆๆ”

“ได้ ชนแก้ว”

เสียงแก้วกระทบกันเบาๆ ก่อนซีจะบอกผมว่าหมดแก้วนะ ผมก็ทำตามไม่ได้ขัดอะไร เธอเองก็ยกดื่มจนหมดแก้วเหมือนกัน

“แม็ตอยู่หอไหนเหรอ?”

“ซอย 2 ทำไมเหรอ”

“เรากำลังหาหอใหม่ คือเรากะว่าจะย้ายหอน่ะ หอที่อยู่ตอนนี้ไม่ค่อยโอเค”

“อ้อ เราอยู่หอ PP.”

“ห้องโอเคมั้ย กลางคืนเสียงดังรึเปล่า”

“ไม่นะ ก็โอเคเลย หาของกินก็ง่าย”

“แล้ว แม็ตอยู่คนเดียวหรือมีรูมเมท”

“อยู่คนเดียว”

“เหรอ อืมมมม ห้องใหญ่ไหม?” ซีชวนผมคุยเรื่องหาหอ ถามนั่นถามนี่หลายอย่าง คงเพราะเป็นผู้หญิงเลยต้องละเอียดถี่ถ้วนในการหาหอมั้ง ทำให้ผมไม่ต้องนั่งเฝ้าโต๊ะคนเดียว ก็ดีนะ


..........................................................................


ผมพามะนาวขึ้นหอ วันนี้เขาก็ยังทำค่าเฉลี่ยความเมาของตัวเองได้ดี นั่นคืออยู่ที่ค่าเมาเหี้ยๆ วันหลังถ้าเขาอยากกินผมจะซื้อมาให้กินที่ห้อง กินเสร็จก็นอนอืดอยู่ในห้องนี่เลย

ผมหิ้วปีกเขาเข้ามาในห้อง กดเปิดไฟ มะนาวปล่อยแขนออกจากคอผมไป เขาเดินได้ผมเลยไม่ประคอง มะนาวปลดซิบกางเกง เหยียบขากางเองตัวเองแล้วสะบัดๆออกด้วยตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวคว่ำลงที่นอน

ทำเองก็เป็นนิ หึ

ผมเหลือบไปเห็นเงาสะท้อนตัวเองในกระจก ผมกำลังยิ้ม?

ความรู้สึกของผมต่างจากก่อนหน้านี้ ทำไมก็ไม่รู้ ผมมีความกลัวกังวน หรือระแวงเกี่ยวกับท่าทีของเขาน้อยลง มันกลับเป็นความตื่นเต้น และเหมือนรอคอยให้มันมาถึงอยู่กลายๆ ไม่ว่าเขาทำอะไร ผมเฝ้ามองอย่างยินดีไปซะทุกอย่าง ขนาดเขาหลับ หลับเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ผมยังมองเขาแล้วมองเขาอีก

ผมคว้าผ้าผืนเดิมไปทำให้เปียก เพิ่งสังเกตว่าต้นขาและผิวใต้ร่มผ้าของเขาขาวกว่าข้างนอก ผมไม่เคยกล้ามองเขาอย่างเต็มตา แรกๆไม่สนใจที่จะมอง ต่อมาก็กลายเป็นไม่กล้ามอง

แล้วทำไมอยู่ๆ ผมมายืนมองคนเมานอนอย่างนี้ล่ะ?

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดและความรู้สึกแปลกๆ ออกไป แล้วเดินไปอาบน้ำ ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน จัดการแต่งตัวนอนเหมือนปกติ นั่นคือเสื้อกล้ามตราห่านกับกางเกงนอนขายาว

ผมปิดไฟล้มตัวลงนอน มะนาวยังไม่หลับดี พลิกตัวไปมาอยู่เลยก่อนผมปิดไป ผมห่มผ้าให้เขาพร้อมๆกับห่มผ้าให้ตัวเอง
“ก็อกๆๆ” ผมเอียงหูฟัง เหมือนมีคนเคาะห้อง แต่ไม่แน่ใจว่าห้องผมหรือห้องข้างๆ

ไม่นานก็มีเสียงเคาะซ้ำ ผมยืนดูตาแมวก็เห็นผู้หญิง ถอยไปพิงกำแพงฝั่งตรงข้าม มองมาสลับกับก้มหน้ารออยู่ เอาไงกะไอ้บนเตียงดีวะ จะตื่นมาแก้ผ้าตัวเองต่อหน้าสาวขึ้นมาทำไงว่ะกู

ผมเลยเปิดประตูออกไปเพราะเป็นคนรู้จัก ออกมายืนคุยหน้าห้องเพราะผมไม่ได้เปิดไฟในห้อง ปิดประตูเบาๆแบบไม่ล็อกด้วย
“ซี มีอะไรรึเปล่า” ผมค่อยข้างแปลกใจที่เห็นเธอมาห้องผมในเวลาแบบนี้

“คือ เข้าไปคุยในห้องได้ไหม ตรงนี้เดี๋ยว... เอ่อ เสียงดังรบกวนคนอื่น”

“เรื่องอะไรเหรอ?”

“เรื่องสำคัญ คือ พูดตรงนี้ เออ มันไม่ดี” คงเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ไม่งั้นเธอคงไม่มาดึกๆ ดื่นๆ ใช่ไหมล่ะ

“อ้อ” ผมเลยเปิดประตูค้างไว้เดินนำเข้าห้องเป็นเชิงต้อนรับ กดเปิดไฟให้สว่างมองเห็นทุกอย่าง “แต่เพื่อนเรานอนอยู่นะ”

มะนาวอยู่ในท่านอนคว่ำ หันหลังมาให้พวกเรา และมีผ้าห่มคลุมทั้งตัวปิดถึงหู

แหม ทีสาวมาทำเป็นนอนนิ่งเรียบร้อย

เอ้ะ แต่ผมเป็นคนห่มผ้าให้มันเองนี่นา? เออๆ ช่างมันเถอะ

“แม็ตมีเพื่อนมาค้างด้วยเหรอ”

“อื้ม” ผมตอบง่ายๆ ไม่ได้ขยายความอะไรเพิ่ม ซีดูไม่กล้าเข้าห้องผมเท่าไหร่

“เออ เรากลับดีกว่า”

“อ้าว ไหนบอกมีสำคัญ”

“ไม่ ไม่มีอะไรหรอก”

หื๋อ? เธอเดินไปแล้ว

งงครับผมเห็นซีเดินเร็วๆ ไปลงบันไดไปแล้ว ผมเกาหัวเดินไปปิดประตูงงๆ คุยข้างนอกก็ไม่ยอม บอกขอเข้าห้องพอให้เข้ามาก็ไม่เข้า ถ้ามีเรื่องสำคัญจริงก็คงพูดแล้วล่ะ ผมปิดไฟอีกครั้ง เดินมานอนงงๆ แต่งงเรื่องซีได้ไม่นานผมก็มีเรื่องอื่นให้สนใจครับ เหอะๆ เกือบลืมไปว่ามีมะนาวนอนรอออกฤทธิ์อยู่ข้างๆ โอ้ๆ ไม่ต้องเรียกร้องความสนใจมากก็ได้ กูสนใจมึงแน่นอนไม่ต้องห่วงๆ

ในความมืดมะนาวดึงแขนผมไปกอด ไม่สิดึงไปกัด ผมมองเห็นเขาขมวดคิ้วทำหน้าจริงจังมาก มะนาวล็อกแขนผมไว้กอดแน่น ปากยิงฟันงับต้นแขนผมซ้ำๆ ไม่เจ็บเพราะมันกัดไม่ติดครับ อะไรของมัน ฮ่าๆๆๆ

ดูเขาตั้งใจมากขมวดคิ้วจนเป็นปมใหญ่ ผมที่นอนหงายยกแขนอีกข้างมาใช้นิ้วชี้จิ้มลงกลางปมพวกนั้น เขาว่าทำอย่างนี้จะทำให้คนที่ขมวดคิ้วอยู่คลายความกังวนลงได้ ผมยิ้มในความมืด เพราะดูเหมือนจะได้ผล มะนาวค่อยๆ ผ่อนคลายและลดอาการเกร็งไปทั้งตัวลง เขาเลิกพยายามกัด เป็นพยายามดูดแขนผมอย่างกับเด็กดูดนม

อยู่ๆมะนาวก็คว้ามือผมที่จิ้มหน้าผากเขาอยู่ มันไม่ได้รวดเร็วอะไร เพียงแต่ผมรอที่จะมองว่าเขาจะทำอะไร มะนาวจับมือผมไปแปะลงบนแก้มเขา มือใหญ่ๆ ของผมปิดใบหน้าตะแคงของเขาเกือบหมด ฝ่ามือเล็กๆของเขากุมทับมือผมไว้ไม่ให้ปล่อย ใบหน้าที่ผมคิดว่าหลับใหลเอียงคอขยับเข้าหามือผมช้าๆ เขาแตะหน้าผากกับแขนผมและยิ้มออกมาในแสงสลัว

แล้วจะให้ผมเอามือออกได้ยังไง แบบนั้นมันคงดูใจร้าย ผมหมุนตัวนอนตะแคง เพราะถูกเขายึดแขนทั้งสองข้างไว้เลยขยับตัวได้ลำบาก

“หนาวรึไง?” ผมเอ่ยถามกับความมืด รู้ว่าเขาคงไม่มีความสามารถในการตอบ แต่ผมก็ยังพูดออกมา

ถ้าเขาบอกว่าใช่ ผมจะกอดเขาไว้ในอ้อมกอดดีรึเปล่า?

หรือถ้าเขาบอกร้อนแบบคราวที่แล้ว ผมจะคลายร้อนให้เขาดีไหม?   

ผมเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมกับคนตรงหน้านี้ ถึงเต็มใจทำอะไรๆ ให้ ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน

ผมก็ยังทำ

ตอนนี้เรานอนตะแคงเข้าหากันเขายกมือผมขึ้นแล้วเอาไปวางข้างหลังเขา เหมือนผมกำลังจะโอบเขาเข้ามาในอกนี้ มะนาวขยับตัวเข้ามาใกล้ จนหัวเขาอยู่ใต้คางผม มะนาวโอบแขนรอบเอวผมและกอดผมเต็มแรง

ผมโอบรอบตัวเขา ยกมือขึ้นสางเส้นผมเขาเบาๆ ผมเขานุ่มนิ้มไม่เหมือนผมของผู้ชายเลย แถวยังหอมอยู่ตลอดเวลา ใช่ ตลอดเวลา ผมได้กลิ่นนี้บ่อยๆ จนจำได้ขึ้นใจ ผมก้มลงฝังจมูกบนผมเขา

ใช่ กลิ่นนี้แหละ เขา

มะนาวเริ่มเบียดสะโพกเข้าหาผมจนเราแนบชิด ผมถึงรู้ว่าเราต่างพร้อมด้วยกันทั้งคู่ มะนาวเป็นฝ่ายดึงสะโพกผมให้ชิดกับเขา เบียดกันไปมา ผมเริ่มอึดอัด มันคับแน่นเหมือนรู้ว่ายังไงๆคืนนี้ก็จะได้ปลดปล่อยก่อนนอน

“อื้ม” เสียงครางในลำคอทำให้ผมเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง เช่นกันกับเขา ผมปล่อยมือจากท้ายทอยเขาลงมาแตะบั้นท้ายเขาเบาๆ เขาเหมือนกระตุกตกใจ แต่มันก็แค่ตอนแรก มะนาววนสะโพกแกล้งส่วนหน้าของเรา จนผมต้องจับหมับลงแล้วดึงเขาเข้าหาตัว พอเป็นผมที่รั้งเราไว้ด้วยกัน มะนาวก็ทิ้งจากสะโพกผมมือเขาร้นกางเกงผมลง ก่อนจะปล่อยส่วนนั้นของเขาออกมาแตะผมเบาๆ ผมยิ่งดึงให้เราแนบร่างกันมากขึ้น มะนาวถกเสื้อผมขึ้นใช้ฟันลากไปตามหน้าอกผมเหมือนหมั่นเคี้ยว พร้อมๆ กับกำร่างเราทั้งคู่ไว้ในมือ มือเล็กนวดวนไปมารอบๆ ยั่วอารมณ์ ผมบีบสะโพกเขาแรงๆจนเขาครางอย่างพอใจ ผมหายใจถี่รัว คนในอ้อมกอดเองก็หอบถี่ๆ อยู่ตรงหน้าอกผม

“อื้ม... อื้อ...มะแมต”

เสียงสั่นพร่าของเขา ลมหายใจร้อนๆ ของเขา ดึงผมให้จมดิ่งอีกครั้ง

เราวิ่งวนเป็นวงกลมซ้ำๆ จำไม่ได้แล้วว่าเริ่มจากตรงไหน และมองไม่เห็นเส้นชัยอยู่บนเส้นทางนี้เลย เพราะเหมือนเราต่างปิดตาตัวเองไว้...


-------------------------------------
TBC.


ฝากติชมเช่นเคยนะค่าาา

สงสัยกันได้แล้วนะว่ามะนาวคิดอะไรในใจอยู่บ้าง 5555
นางร้ายนะบอกเลยย อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2016 00:36:41 โดย Brosohub »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
« ตอบ #19 เมื่อ: 28-01-2016 01:13:04 »





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #20 เมื่อ28-01-2016 01:37:27 »

แน่ใจนะว่ามะนาวเมาแล้วไม่รู้ตัว  :hao3: จัดเต็มตลอด ส่วนแม่ซีหล่อนก็นะ แรดมาเชียวดีนะพ่อคนดีศรีสังคมอย่างแมตตามไม่ทัน

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #21 เมื่อ28-01-2016 04:03:02 »

เราว่ามะนาวแอ๊บเนียนเมาพอๆกับซีแอ๊บธุระนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าแม๊ตจะแอ๊บไม่รู้เรื่องตามหรือเปล่า?
สาวตามมาหาถึงห้องกลางดึก
เป็นคนอื่นปรุแล้วมั๊งนี่

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #22 เมื่อ28-01-2016 06:16:34 »

ซีนี่ไม่เบาเลยนะ หึหึ

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #23 เมื่อ28-01-2016 07:42:12 »

เอิ่ม...ตกลงชะนีน้อยซีจะเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องใช่มั้ย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #24 เมื่อ28-01-2016 10:18:40 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #25 เมื่อ28-01-2016 11:40:00 »

ณ จุดๆนี้ไม่รู้จะเม้นออกมายังไงดี...

เอาเป็นว่าจะรอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #26 เมื่อ28-01-2016 14:22:10 »

ซีอะไรนี่อ้อยแมตอยู่รึ

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #27 เมื่อ28-01-2016 20:09:11 »

แม็ตเอ้ย รอบตัวแต่ละคนไม่ใช่เล่นเลย
อยากอ่านมุมมองของมะนาวบ้างจัง

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #28 เมื่อ29-01-2016 08:00:10 »

 :mew1:

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [ทบที่ 5 วน] 28/01/59
«ตอบ #29 เมื่อ29-01-2016 22:20:07 »

มะนาวดูลังเลๆนะ แบบเกรงใจแม็ตงี้ แคร์ความรู้สึกงี้ ต้องมีใจแน่นอน!
ใครคืออรวรรณ?
ซีนางร้าย!

โธ่ๆ มะนาวเต้นยั่วนี่จะไปเตะมะนาวได้ลงคอเลยเหรอแมตตตตต? จริงๆอยากจับทำอย่างอื่นก็บอกกกกก
เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองค่าาาา เมื่อไหร่คนอ่านจะได้ฟินยาวๆ มาจิ้จ๊ะแป็ปๆแล้วก็ไป โหยยยย
สู้ๆน้าคนเขียน  :ped149:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด