สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สะใภ้ขายาว : Chapter 21 รับผิดชอบ  (อ่าน 21419 ครั้ง)

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*******************************************************************************************

สะใภ้ขายาว

คำเตือน : นิยายเรื่องนี้ ฝ่ายรุก/เมะ(ลูซ) มีนิสัยตุ้งติ้ง
เนื้อหามีความทะลึ่ง ลามกจากอุปนิสัยของเมะ
หากใครรับไม่ได้ กรุณาปิดบทความนะคะ

--------------------------------------------------------------

"ผม...ลูซ....ขอรับริวจังเป็นสามี...ผมจะเป็นภรรยาที่น่ารักและแสนดี...

ริวจังจะรับผมเป็นภรรยาใช่ไหม"



"ไม่รับโว้ยยย ยังไงก็ไม่ร๊าบบบ!!!!"



เมื่อนักธุรกิจหนุ่มหล่อน่ารักแสนเจ้าชู้

โดนบังคับให้แต่งงานกับหนุ่มหน้าสวยตัวสูงที่อายุน้อยกว่า

แม้ครอบครัวฝั่งสามีจะแสนรักว่าที่สะใภ้ขายาว

แต่คุณสามีกลับไม่ยอมรับเป็นภรรยาแถมยังต่อต้าน

....

..

.

งานปลุกปล้ำคุณสามีสุดหล่อจึงเกิดขึ้น!!!



 

____________________________________________
[/size]

ติดตามการอัพได้ที่ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/ :mew3:

หมายเหตุ นามปากกาผู้แต่งคือ Akikoneko17  หรือนักอ่านจะเรียกว่าอากิ ก็ได้ค่ะ เพราะนักเขียนจะแทนตัวเองว่าอากิ ย่อมาจากนามปากกา  :katai2-1:

 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 14:47:50 โดย Akikoneko17 »

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว :Intro
«ตอบ #1 เมื่อ06-05-2016 18:26:58 »

Intro

   สายลมพลิ้วไหวพัดผ่านร่างกายที่ยังเยาว์วัย เสี้ยวหน้าสวยนั้นอยู่บนร่างเด็กตัวน้อยที่ยืนเหม่อลอยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ผมสีทองไสวไปตามแรงลม เรียกร้องให้สายตาของเด็กวัยแปดขวบจับจ้องที่ร่างเล็กที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่อาจละสายตา
   
“อ๊ะ…”
   พอรู้ตัวว่าถูกมอง คนตัวเล็กก็ค่อยๆหันหน้ามามองเด็กชายที่เอาแต่จ้องเขา นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลยิ่งสะกดให้เด็กชายยืนนิ่ง
   
“นางฟ้า”

   นั่นคือประโยคแรกที่ออกมาจากปากเด็กวัยแปดขวบ เด็กตัวเล็กอายุเพียงห้าขวบในชุดสีขาวสะอาดตานั้นเอียงคอเพียงนิด
เงยหน้าขั้นสบสายตามองคนที่ตัวสูงกว่า

   “ใคร…”

   เสียงใสออกมาจากปากเล็ก ใบหน้าหล่อเหลาแต่วัยเด็กเริ่มเห่อร้อนด้วยความรู้สึกที่เขินอาย

   “เราชื่อ…ริว”

   เด็กชายเอ่ยบอก ขาค่อยๆขยับก้าวเดินไปใกล้คนตัวเล็ก เด็กน้อยคลี่ยิ้มสวย ยิ่งเพิ่มความน่ารักให้เป็นเท่าตัว

   “ริวจัง…”
   เสียงเรียกนั้นช่างน่ารัก จนคนฟังใจเต้นแรง ริวขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กตัวเล็กมากขึ้น เขาไม่เจอเด็กคนไหนน่ารักมากขนาด
นี้ เด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาคงจะอายุประมาณห้าหกขวบ ทั้งๆที่อายุแค่นี้ แต่ทั้งสวย ทั้งน่ารักจนริวไม่อาจจะละสายตาไปได้

   “เธอ…ชื่ออะไรเหรอ…”

   เด็กชายที่มีเชื้อสายของไทยและญี่ปุ่นเอ่ยขึ้น พร้อมกับยิ้มหวานให้กับตัวเล็กที่มีหน้าตาค่อนไปทางชาติตะวันตก ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลสบเข้ากับเด็กชายตัวสูงกว่าอย่างขัดเขิน

   “ลูซ…”

   “ชื่อเพราะจังเลย”

   ด้วยความที่เป็นคนชอบอะไรที่สวยงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เด็กตรงหน้าในสายตาเขาคือนางฟ้าตัวน้อยๆ

   “จริงเหรอ…”

   เด็กตัวเล็กก้มหน้าถามด้วยความเขินอาย ริวเองก็หน้าแดงก่ำอย่างเขินไม่แพ้กัน ไม่คิดเลยว่าการมาเดินเล่นในสวนหน้า
บ้านที่ประเทศไทย จะทำให้เขาพบกับนางฟ้าตัวน้อยที่แสนสวยงามแบบนี้

   “นางฟ้า…”

   ริวไม่ได้จำว่าเด็กตรงหน้าบอกว่าชื่ออะไร เพราะเด็กชายเหมือนเพียงแต่ต้องการอยากจะใกล้ชิดกับลูซเท่านั้น ดวงตาคู่
สวยสบเข้ากับดวงตาของริว  ริวเลื่อนมือไปจับมือของลูซ หัวใจของเด็กชายเต้นแรง เขารู้สึกตกหลุมรักเด็กตรงหน้า ความรักในวัยเด็กช่างบริสุทธิ์เสียเหลือเกิน

   “ถ้านางฟ้าโตขึ้นแล้ว…นางฟ้า…แต่งงานกับริวได้ไหม”

   เด็กตัวเล็กไม่เอ่ยตอบ ได้แต่ยิ้มเขิน แต่สุดท้ายก็ค่อยๆเหลือบตามองริว เด็กทั้งสองสบตากัน

   .

   .

   .
   

   กรุ้ง กริ้ง!

   เสียงกระดิ่งดังขึ้น พร้อมกับการสั่นไหวไปมา ราวกับต้องการบอกให้ทุกคนรับรู้ว่ายามนี้กำลังจะมีงานมงคล ดอกไม้
มากมายถูกประดับเอาไว้อย่างสวยงามภายในโบสถ์ ชายหนุ่มในชุดสีขาวสะอาดตายืนยิ้มหวานอย่างมีความสุข ใบหน้าหล่อน่ารัก
ของเจ้าของร่างในชุดเจ้าบ่าว ยืนกุมมือตัวเองแน่น วาดฝันถึงเจ้าสาวแสนสวยที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในไม่ช้า ภายในงานมี
แขกมาร่วมพิธีมากมาย
   ประตูโบสถ์เปิดออก พร้อมกับร่างร่างหนึ่งที่อยู่ในชุดเจ้าสาวที่เดินเข้ามา ใบหน้าที่สวยงามของนางฟ้าตัวน้อย ทั้งร่างกาย
และใบหน้าของนางฟ้าตัวน้อยยังเหมือนกับเด็กตัวเล็กที่เขาเคยขอแต่งงานในยามที่เขานั้นอายุเพียงแค่แปดขวบ

   …นางฟ้า…

   ความรู้สึกแห่งความสุขนี้มากล้นจนริวต้องคลี่ยิ้มราวกับเพ้อฝัน เขาจับจ้องใบหน้าสวยงามที่ราวกับสวรรค์ปั้นแต่งของเด็ก
ตรงหน้า
   “แต่งงานกันนะครับ นางฟ้า…”

   นั่นคือคำพูดที่ริวพูดย้ำอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาลงเพื่อซึมซับความสุข แต่ทว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้น….

   !!!

   นางฟ้าตัวน้อยที่เขาจะแต่งงานด้วยกลับแปรเปลี่ยนไป เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กว่าเขาประมาณยี่สิบเซนติเมตรที่อยู่ในชุดเจ้าสาว แต่ใบหน้าสวยงามนั้นยังคงเหมือนกับนางฟ้าของเขาไม่มีผิด แม้จะเปลี่ยนไป แต่เค้าโครงหน้านั้นก็ยังเหมือนกับในตอน
เด็ก

“ผม...ลูซ....ขอรับริวจังเป็นสามี...ผมจะเป็นภรรยาที่น่ารักและแสนดี...

ริวจังจะรับผมเป็นภรรยาใช่ไหม”

   ชายหนุ่มในชุดเจ้าสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ร่างกายใหญ่โตค่อยๆขยับเข้ามาใกล้กับริวมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่มือใหญ่นั้น
จะรั้งร่างที่เล็กกว่าตนเข้ามาใกล้
   “ริวจัง…ลูซเป็นเจ้าสาวของริวจัง ลูซดีใจที่สุดเลย”

   “อึก”

   ใบหน้าหล่ออยู่ในสภาวะที่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ร่างกายถูกชักพาเข้าไปใกล้กับร่างที่สวมชุดเกาะอกสีขาวทั้งๆที่แผ่นอกนั้น
แบนราบ ผมสีทองนั้นเปล่งประกายงดงามจนคนมองต้องกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ
   …ผู้ชาย…นี่มันผู้ชายชัดๆ…

   “ริวจังตอบสิ…ว่าริวจังจะรับลูซเป็นภรรยา”

   ใบหน้าสวยหล่อขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้ ริวถอนหน้าหนี ทั้งเกลียด ทั้งกลัว ทั้งหลอนกับสิ่งตรงหน้า

   …ไม่…ไม่เอา นี่มันผู้ชาย!!!!

   “รับสิริวจัง…แล้วเราจะได้จ๊วบกันไง จ๊วบๆๆ…”
   หนุ่มตัวสูงทำปากจู๋ หลับตาพริ้ม จะเข้าไปจูบปากกับริว เจ้าบ่าวหน้าหล่อผวาดิ้นพล่านด้วยความกลัว มือยกปัดป่ายเพื่อหนี
จากคนตรงหน้าราวกับเจอสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัว

   “มามะ…มาเป็นสามีของลูซ…ยอมรับลูซเป็นภรรยานะริวจัง จ๊วบๆๆๆ”

"ไม่รับโว้ยยย ยังไงก็ไม่ร๊าบบบ!!!!"

.

.

.
"ไม่รับโว้ยยย ยังไงก็ไม่ร๊าบบบ!!!!"

เสียงหวานแผดร้องดังลั่นห้องนอน พร้อมกับมือเล็กที่ปัดป่ายมา ร่างกายดิ้นพล่าน ก่อนที่จะสะดุ้งลืมตา

เฮือก!!!   

ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปีสะดุ้งเฮือกนั่งหลังตรง เหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มหน้า ดวงตาทั้งคู่สั่นไหว ใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา
จากอก จนต้องยกมือทาบอกตนเอง

…ฝัน…

นี่เราฝันไปอย่างนั้นเหรอ…
   “ฮู่…”

   ริวยกมือลูบหน้าตัวเอง เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางความมืด สติที่ขาดหายไปเริ่มจะกลับมา แล้วก็ระลึกได้ว่าตอนนี้เขาอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง

   “ริวจาง…อื้อๆๆ”

   …ฝัน…

   มันคือความฝันสินะ…เขาหลับตาลงแล้วลืมตาใหม่ก็พบว่าทุกอย่างมันอยู่ในความเงียบ ดังนั้น…มันต้องเป็นฝันแน่ๆ

หมับ!!!
แต่ทว่าสัมผัสจากมือหนาที่ล้วงเข้าไปใจกลางลำตัวก็ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ตาโตอย่างตกใจสุดขีด

   “ริวจังน้อยจับแล้วนุ่มนิ่มจังเลย  ลูซช๊อบชอบ”

   “อ๊ากกกกกกกกก!!!”
   




100%
ฝาก เพจด้วยนะคะ  https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/?ref=bookmarks
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2016 18:36:47 โดย Akikoneko17 »

ออฟไลน์ Nene promporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: สะใภ้ขายาว : Intro
«ตอบ #2 เมื่อ06-05-2016 21:47:08 »

โอยย ไม่รู้จะสงสารใครดี
สู้ๆนะลูซ เอาสามีมาเป็นเมียให้ได้นะ
5555
เนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ สู้ๆ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Intro
«ตอบ #3 เมื่อ07-05-2016 00:56:40 »

ชอบๆ555555

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Intro
«ตอบ #4 เมื่อ08-05-2016 09:11:48 »

 :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ Taohoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-3
Re: สะใภ้ขายาว : Intro
«ตอบ #5 เมื่อ08-05-2016 11:35:22 »

 :hao4: :mew5:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
Re: สะใภ้ขายาว : Intro
«ตอบ #6 เมื่อ08-05-2016 17:17:09 »

 :laugh: เรื่องนี้สลับบทบาทกันชิมิคะคนแต่งจ๋า
นายริว แกเสร็จลูซแน่ๆ  :hao6:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
1   
สัญญาแต่งงาน

   
   
“ขออนุญาตค่ะ”

ห้องทำงานขนาดใหญ่ถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างของเลขานุการสาววัยเกือบสามสิบปีที่เดินเข้ามาในห้อง เรียกสายตาของชายหนุ่ม
วัยยี่สิบสี่ปีที่กำลังง่วนกับการอ่านเอกสารบนโต๊ะ

“อ่า…มีอะไรเหรอครับ?”

ริมฝีปากสวยเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย เมื่อเห็นร่างของเธอ กมลชนกหรือเลขานุการของชายหนุ่มเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม

“คุณเรียวให้ดิฉันนำเอกสารมาให้คุณค่ะ แล้วก็ท่านเรียกคุณไปพบด้วยค่ะ”

ริว…ชายหนุ่มร่างเล็ก มีใบหน้าที่หล่อน่ารักด้วยความที่เป็นลูกครึ่งระหว่างไทยและญี่ปุ่น มารดาเขาเป็นคนไทย ส่วนบิดาของเขา
เป็นคนญี่ปุ่น และได้ทำธุรกิจที่เมืองไทยมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัท ส่วนเขาในตอนนี้ยังอยู่ในฐานะหัวหน้าที่ค่อยๆเรียนรู้การ
ทำงานไปเรื่อยๆ

“ครับ ขอบคุณมากครับ”

ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปีเอ่ยขอบคุณหญิงสาวพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่กระชากใจสาวๆมาหลายคน เขารับเอกสารจาก
เลขาของตัวเองแล้วเปิดอ่าน เลขาสาวกรีดยิ้มสวยก่อนจะหมุนกายเดินออกจากห้องไป

…กิตติศัพท์ของริวก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความเจ้าชู้ แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ชายร่างใหญ่ แต่ก็มีหน้าตาและร่างกายตามสมัยนิยมแบบคนญี่ปุ่นและเกาหลีที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงไทยในสมัยนี้…

หลังจากที่อ่านเอกสารเพียงครู่ ชายหนุ่มก็ยันกายลุกขึ้นยืนเพื่อเดินตรงไปหาบิดาของเขาที่อยู่ในห้องของประธานบริษัท

ชายหนุ่มมายืนอยู่หน้าห้องที่ถูกปิดอยู่ เขาหันไปมองเลขาวัยประมาณเกือบสี่สิบปี แล้วส่งยิ้มให้

“ช่วยบอกท่านประธานทีสิครับ ว่าผมมาแล้ว”

“ค่ะ”

เธอคลี่ยิ้มรับ แล้วกดต่อสายไปยังในห้องเพื่อแจ้งว่าบุตรชายของท่านประธานได้มาถึงแล้ว จากนั้นเธอจึงหันมาเอ่ยกับริว

“ท่านประธานบอกว่าให้เข้าไปได้เลยค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ริวยิ้มหล่อ แล้วหมุนกายไปดันประตูเข้าไปในห้อง ก็พบว่าผู้เป็นพ่อกำลังนั่งรอเขาอยู่ ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามาหาชายชราวัยเกือบ
หกสิบปี

“เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ?”

เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับท่านประธานบริษัท

“เย็นนี้มีนัดที่ไหนหรือเปล่า?”

“อ่า…ก็มีนะครับ ทำไมเหรอ?”

วันนี้เขามีนัดกับแฟนสาว แต่ถ้าจะให้พูดให้ถูกน่าจะเรียกว่ากิ๊กมากกว่า เพราะสำหรับริวแล้ว เขามีคู่ควงเยอะจนบางครั้งแทบจะ
ไม่ได้จำด้วยซ้ำว่าปัจจุบันเขาคบอยู่กี่คนกันแน่ เพราะเขาเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ถ้าจะมีผู้หญิงสวยๆเข้ามาหา

“วันนี้เหมือนแม่แกจะมีนัด”   

เรียว ชายชราที่เป็นคนญี่ปุ่นแต่มาอยู่เมืองไทยเสียนานจนตอนนี้พูดไทยได้ชัดไม่ต่างกับคนไทย เขามองหน้าลูกชายที่เป็นลูกคนกลางของบ้าน เขามีลูกทั้งหมดสามคน ทั้งลูกคนโตและคนเล็กต่างเป็นผู้หญิง มีเพียงแค่ริวเท่านั้นที่เป็นผู้ชาย

“เอ๋? หมายถึงนัดผมด้วยเหรอครับ?”

ริวเลิกคิ้วเพียงเล็กน้อย ใบหน้าแสดงถึงความสงสัย เรียวระบายยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

“อ่า…จริงๆเย็นนี้ผมมีนัดนะครับคุณพ่อ”

วันนี้เขามีนัดทานข้าวกับดาราสาวคนหนึ่ง ริวเองก็เคยติดตามผลงานของเธอมาพอสมควร ใบหน้าสวยหวานของเธอยังตราตรึงใจ
เขาอยู่เลย

“เอาเถอะน่า…ยังไงแกก็มีสาวๆรออีกเป็นโขยงไม่ใช่หรือไง?”

“โถ่…คุณพ่อคร้าบ…แต่คนนี้เนี่ย แจ่มที่สุดแล้วนะครับ”

ริวอธิบายพร้อมกับทำไม้ทำมือ ใบหน้าบ่งบอกว่าเสียดายมากๆถ้าไม่ได้ไป เรียวถอนหายใจเฮือกใหญ่กับนิสัยของลูกชาย เขาไม่เคยเห็นว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะไปจริงจังกับใครสักคนสักที

“แจ่มสุด…แต่ก็ไม่คิดจะเอาทำเมียใช่ไหมฮะ!”

“โถ่…เรื่องนั้นอย่าเพิ่งพูดสิครับ ผมเพิ่งจะยี่สิบสี่เองนะครับคุณพ่อ”   

   เรียวถอนหายใจเฮือกใหญ่กับท่าทางของลูกชาย เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้หนังแล้วมองหน้าเจ้าลูกชายตัวดี

   “ถ้าไม่อยากไป แกก็โทรไปคุยกับแม่แกเองแล้วกัน”

   แทนที่จะช่วย แต่กลับโยนทุกอย่างให้ชายหนุ่มแทน ริวเงียบไป ถ้าให้พูดกันตรงๆ ในครอบครัวของเขา คนที่ใหญ่ที่สุด ก็คือมารดาของเขานั่นเอง

   “เอ่อ… คุณพ่อช่วยผมหน่อยไม่ได้เหรอครับ?”

   ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วราวกับอ้อนวอน เรียวหรี่ตามองเจ้าลูกชายตัวแสบแล้วส่ายหน้าช้าๆ เป็นเชิงบอกว่า…ช่วยไม่ไหว
จริงๆ

   “เฮ้อ…”

   สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี ทำไมมารดาของเขาต้องมานัดทานข้าว ในวัน
ที่เขากำลังจะมีเดทด้วยก็ไม่รู้
   ครืด…ครืด…

   โทรศัพท์มือถือราคาแพงที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเริ่มสั่นขยับไปมา ริวเริ่มสนใจ ชายชราเองก็ก้มมอง


   “ใครครับคุณพ่อ…คุณแม่หรือเปล่า?”

   แม้ไม่อยากจะให้ผู้เป็นแม่โทรมา แต่ริวก็หนีความจริงข้อนี้ไม่พ้น เพราะปลายสายก็คือมารดาของเขาจริงๆเสียด้วย

   “อืม…เมียฉันเอง”

   “ก็แม่ผมนั่นแหละครับ”

   ถึงจะเบี่ยงเบนคำตอบด้วยคำอื่น แต่สุดท้ายความหมายมันก็เหมือนกันอยู่ดี ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา นั่งมองบิดาที่กด
รับสาย
   “ว่าไงจ๊ะที่รัก”

   [คุณคะ ตกลงตาริว จะมาไหมคะ?]

   เสียงปลายสายที่ตอบกลับมานั้นใสหวานน่าฟัง ผู้เป็นสามียิ้มอ่อน ก่อนจะเริ่มยิ้มเจื่อน เมื่อเห็นเจ้าลูกชายหยิบกระดาษ
เปล่ามาเขียนข้อความ

   ‘ผมมีธุระ’
   เรียวอ่านข้อความบนกระดาษที่ริวชูให้ดูแล้วเบ้ปาก ก่อนจะค่อยๆเอ่ยเสียงอ่อนกับภรรยา

   “เห็นลูกบอกว่ามีธุระน่ะคุณ”

   [ธุระ?]   

   เสียงใสหวานเริ่มเปลี่ยนขุ่นมัว เรียวเริ่มรับรู้ถึงชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น มองหน้าลูกชาย หวังว่าจะเห็นใจคนเป็นพ่อบ้าง

   “เอ่อ…ถ้าลูกไม่ไปได้หรือเปล่า”
   แทบจะกลั้นใจถามออกไป ก่อนจะหลับตาแน่น เพราะพอจะรู้อยู่ว่าสิ่งที่จะได้รับกลับมามันจะน่ากลัวแค่ไหน

   [อะไรนะคะ…]

   ใบหน้าของชายชราเริ่มเปลี่ยนไปราวกับจะร้องไห้ เพราะภรรยากดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว เขาเองก็พอจะรู้แล้วว่าไม่ควรตอบ
ด้วยคำถามเดิม

   “เดี๋ยวลูกจะไปหาเย็นนี้เลย กี่โมงจ๊ะที่รัก เดี๋ยวผมให้ลูกแต่งตัวหล่อๆไปเลยนะจ๊ะ”

   ริวหน้าเหวอไปทันที เมื่อเห็นคนเป็นพ่อตอบรับไปแบบนั้น ดวงตาคู่สวยแทบจะหลั่งน้ำตา
   …ทำไมคุณพ่อทำกับผมแบบนี้!!!...

   “จ้าๆๆ ทุ่มหนึ่งเหรอจ๊ะ จ้าๆๆ ที่รักจะไปรอก่อน โอเคจ้า จ้า…รักนะจ๊ะ”

   คนเป็นลูกชายยิ้มเจื่อน  หัวเราะแห้งๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไงดี มือเล็กตบเข้าที่หน้าผากตัวเอง

   “โถ่…คุณพ่อ…ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ล่ะครับ”

   “อย่ามาว่าฉันสิไอ้ลูกคนนี้…แกต้องฟังเสียงของแม่ของแกด้วย”
   “คุณพ่อก็กลัวคุณแม่เกินเหตุ”

   ริวเบ้ปาก เรียวทำหน้าเอือมระอา ยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับชายหนุ่ม

   “งั้นแกโทรไปคุยเอง”

   ชายหนุ่มยิ้มเจื่อน แล้วหัวเราะแห้งๆ

   “ไม่เป็นไรล่ะครับ คุณพ่อว่าดี ผมก็ว่าดี”   

   เรียวมองอย่างเอือมๆ คิดในใจว่า ลูกชายกับเขา…มันก็ไม่ได้ต่างสักเท่าไหร่หรอก


-------+++++-------

   ริวแต่งตัวใส่สูทเรียบร้อยเดินตามบิดาที่พาเขามายังห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาว ปกติที่บ้านเขาไม่ค่อยได้มา
ทานที่โรงแรมสักเท่าไหร่ เพราะถึงจะมีฐานะร่ำรวยแต่ว่ามารดาของเขาก็ถือว่าเป็นคนที่พอเพียง ไม่ได้ใช้ชีวิตตามกระแสสังคม
มากนัก ส่วนมากก็มักจะทานอาหารที่บ้าน บางครั้งก็ลงมือทำอาหารเอง เพราะมารดาของเขาเป็นรักและใส่ใจคนในครอบครัว
มากๆ

   “อ่า…นั่นไง แม่ของแก”
   เสียงของเรียว ทำให้ลูกชายที่หันไปแจกยิ้มให้กับพนักงานสาวต้องหันมามองบิดาของตน ร่างเล็กมองเห็นมารดาอยู่ที่โต๊ะ
อาหาร แต่ทว่าที่โต๊ะนั้นไม่ได้มีเพียงแค่มารดาของเขาเท่านั้น

   “ยัยรันก็มาด้วยเหรอครับ?”

   รัน น้องสาวคนเล็กที่อายุ 18 ปี ก็อยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยเช่นกัน เขาหันไปมองหน้าบิดา

   “อืม แต่ดูเหมือนพี่แกจะไม่ได้มาด้วยนะ เห็นบอกว่าติดธุระ”

   เรียวกำลังหมายถึง ริน พี่สาวคนโต ที่อายุยี่สิบเจ็ดปี ซึ่งไม่ได้มาร่วมทานมื้อเย็นกับพวกเขาด้วย

   “อ้าว…แล้วทำไมทีผมติดธุระ แม่ไม่ยอมล่ะครับ”

   ลูกชายคนกลางแทบจะร้องไห้เมื่อได้ยินคำตอบของบิดา เรียวยิ้มจางๆแล้วเอ่ยต่อ
   “ก็วันนี้เป็นวันสำคัญของแก”

   เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เดินตามบิดาไปจนถึงโต๊ะอาหารและก็พบว่ามารดาของเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่ว่าอยู่กับ
แขกด้วย ซึ่งหญิงวัยกลางคนที่หน้าสวยงดงาม เมื่อเขาเห็นก็พอจะทำให้เขานึกบางอย่างออก

   “คุณน้าน้ำเพชรใช่ไหมครับ?”

   น้ำเพชร เป็นรุ่นน้องของราตรีที่เป็นมารดาของริว เธอเคยมาที่บ้านของริวในตอนที่ริวยังเด็ก และมาอยู่หลายครั้ง เขาพอจะ
จำได้ แต่ก็พอรู้ว่ามารดาของเขาก็มักจะติดต่อกับรุ่นน้องคนนี้อยู่เสมอ

   “ใช่แล้วจ่ะ…หลานริวโตขึ้นแล้วหล่อจริงๆนะจ๊ะ”
   “ขอบคุณครับ”

   ชายหนุ่มยิ้มรับคำชมของน้ำเพชร เขาหันไปมองชายตัวใหญ่ผมสีทอง ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่อยู่ข้างๆ เขาขมวดคิ้วเพียงนิด

   “อ่า…หรือว่าคุณน้า…เลโอ”

   เลโอ ยิ้มรับ ชายชราตรงหน้าอายุมากกว่าเมื่อก่อนมาก เท่าที่เขาจำได้ ตอนนั้นที่เขาเจอคุณน้า ชายชราดูหนุ่มกว่านี้มาก
ตอนนี้ผมสีทองนั้นเริ่มเจือไปด้วยสีขาวเสียแล้ว พร้อมกับร่างกายที่ดูอ้วนท้วมมากกว่าเดิม

   “สวัสดีครับ”

   ริวยกมือไหว้ทั้งสองคน ราตรีเงยหน้ามองลูกชาย แล้วเอ่ยเรียก
   “ริว มานั่งตรงนี้สิลูก”

   “ครับ คุณแม่”

   “ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะริว”

   เลโอเอ่ยทัก เขาเป็นชาวฝรั่งเศสที่แต่งงานกับน้ำเพชรซึ่งเป็นคนไทย และน้ำเพชรยังเป็นรุ่นน้องของราตรีที่สนิทสนมกัน
มาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน

   “ครับ คุณน้าทั้งสองสบายดีไหมครับ”

   “สบายดีจ้า มีเจ็บป่วยบ้าง ตามประสาคนแก่”

   “ยังไม่แก่เลยครับ คุณน้ายังดูสาวอยู่เลย”

   “แหม่…ปากหวานจริงๆนะคะ ลูกชายพี่ราตรี”

   “ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ปากหวานน่าฟัง เธอก็คงไม่อยากได้เป็นลูกเขยหรอกใช่ไหม”

   …ลูกเขย…
   คำกล่าวของมารดาทำให้คิ้วสวยทั้งสองของริวต้องขมวดเข้าหากัน

   …มันหมายความว่ายังไง?...

   ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ จนสุดท้ายเขาต้องหันไปถามมารดาที่นั่งอยู่ข้างๆเขา

   “หมายความว่ายังไงครับคุณแม่…ที่บอกว่าลูกเขย?”

   ลูกชายคนเดียวของตระกูลงงหนัก รันที่นั่งอยู่ใกล้ๆก็อมยิ้ม แล้วเอ่ยบอกพี่ชาย

   “ก็อย่างที่คุณแม่บอกล่ะค่ะพี่ริว”
   “?”

   ราตรีเห็นลูกชายงงหนัก เธอก็เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี

   “ก็ริวต้องแต่งงานกับลูกของน้าน้ำเพชรในเดือนหน้า ก็ต้องเป็นลูกเขยสิจ๊ะ”

   “ตะ แต่งงาน!”

   ตุบ! โพล๊ะ!

   ริวยันกายลุกขึ้นด้วยความตกใจ มือพลาดไปปัดแก้วน้ำตกจนเปื้อนสูทและกางเกงของตน เขายิ้มเจื่อน รู้สึกผิดที่แสดง
กิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าทุกคน
   “เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ”

   “ไม่เป็นไรจ้า”

   น้ำเพชรเอ่ยบอกอย่างใจดี เธอมองริวด้วยความเอ็นดู เลโอเองก็เช่นกัน   “ไปห้องน้ำไป”

   เรียวเอ่ยกับลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมากนัก ริวพยักหน้า แล้วหันไปเอ่ยกับทุกคน

   “เอ่อ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

   “จ้า”

   ดูเหมือนทุกคนจะไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่ริวรู้สึกสับสนจนงงไปหมด เพราะเขายังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
   …มันหมายความว่ายังไง…ที่เขาต้องแต่งงาน…

   ร่างบางพรูลมหายใจออกมา ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยความงง นอกจากจะไม่รู้อะไรเลย เสื้อผ้าของเขายังจะมาเปื้อนน้ำส้ม
อีก ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้

   ตุบ!

   “อ๊ะ”
   เพราะมัวแต่ก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง ทำให้ไม่ได้มองว่ามีร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำ ทำให้ทั้งคู่ชนกัน

   “ขอโทษครับ ขอโทษครับ”

   ริวรีบก้มหัวขอโทษอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันเงยหน้าไปมองอีกฝ่าย รู้แค่ว่าเขาสูงเลยอกอีกฝ่ายมานิดเดียวเท่านั้น

   “ไม่เป็นไรครับ”

   น้ำเสียงนุ่มทุ้มนั้นน่าฟัง จนริวต้องเหลียวหลังไปมอง ก็พบว่าเห็นแต่แผนหลังกว้างเท่านั้น ผมสีทองนั้นน่ามองจนไม่อาจจะ
ละสายตา จากความสูงและรูปร่าง เขาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นชาวต่างชาติทางฝรั่งยุโรปมากกว่าเอเชีย
   “เฮ้อ…ทำไมเราไม่สูงแบบนั้นบ้าง”

   อาจจะเป็นเพราะว่ามารดาเขาตัวเล็ก และดูเหมือนเขาจะได้รับทางฝั่งมารดามาเสียเยอะ เขาเลยสูงแค่นี้ แต่นั่นก็คงแก้ไข
อะไรไม่ได้อีกแล้ว อาจจะเป็นเพราะตอนเด็กเขาไม่ค่อยชอบดื่มนมสักเท่าไหร่ เลยไม่มีตัวช่วยในเรื่องความสูง มาคิดได้ตอนนี้ก็
เหมือนจะสายไปเสียแล้ว

   ริวเดินตรงเข้าไปเช็ดสูทที่เปื้อนด้วยกระดาษทิชชู่ โชคดีที่เขาใส่สีดำทั้งชุด ไม่อย่างนั้นคราบเลอะคงจะเห็นได้ง่ายจนไม่

น่ามอง เขาละความสับสนออกจากในใจ เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานที่มารดาบอก มันอาจจะเป็นเพียงแค่มุขตลกขำๆของราตรีก็
เป็นได้ เขาไม่อยากจะคิดว่ามันคือเรื่องจริง
   หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ริวก็เดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร เขาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นร่างของใครอีกคนที่

เพิ่มมาบนโต๊ะ
   …ผมสีทอง…

   เขารู้สึกคุ้นว่าเหมือนเคยเห็น ดวงตากลมเบิกกว้าง เมื่อคิดออกว่า ผู้ชายคนนี้คงจะเป็นคนเดียวกับคนที่เขาเดินชนตรงที่
ห้องน้ำ

   …แล้วคนคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับคุณน้าน้ำเพชรและคุณน้าเลโอ…
   ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย แต่คิดไปฝ่ายเดียวก็เหมือนจะไม่ได้คำตอบอะไรขึ้นมา ขาเรียวเล็กก้าวเดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร

   “อ้าว มาแล้วเหรอลูก”

   “ครับ…”

   เขายืนอยู่ทางด้านหลังของเลโอ น้ำเพชร และชายแปลกหน้าตัวสูง

   “ไม่เจอกันตั้งนาน ลืมน้องไปหรือยังจ๊ะ”

   “เอ๊ะ?”

   ริวเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ชายปริศนาค่อยๆยืนขึ้น หันกายไปหาร่างเล็ก ทำให้คนตัวเล็กที่มองชายตรงหน้าถึงกลับนิ่งไป
   “อ่า…”

   โครงหน้าที่งดงามราวกับจิตกรสรรสร้าง ริมฝีปากเรียวสวย จมูกโด่งได้รูปรับเข้ากับวงหน้า ดวงตาคู่สวยทั้งสองนั้นมี
นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล ผมสีทองที่ประดับอยู่นั้นแต่งเติมให้ใบหน้าของชายตรงหน้าเขาดูสวยงามราวกับเทพบุตรนางฟ้าที่แยกกัน
ไม่ออก

   ริวอึ้งกับไปกับภาพตรงหน้า ราวกับเจอหุ้นปั้นที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย แทบหาข้อติบนใบหน้าที่งดงามนี้ไม่ได้เลย
งดงามจนเสียเขารู้สึกอิจฉา

   …ผู้ชายที่ช่างเพอร์เฟคคนนี้คือใครกัน…

   “คิดถึงริวจัง จังเลย!!”
   เพียงแค่ชั่วพริบตา ความตกตะลึงในความงดงามของริวก็หายไป เมื่อร่างกายสูงใหญ่นั้นถลาเข้ามาโอบกอดร่างเล็กเอาไว้
แน่นราวกับรู้จักกันมานาน

   …นะ นี่มันอะไรกัน…   

   “คิสสสส!!!”

   จ๊วบ!
   ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อการทักทายครั้งแรกที่เจอกันคือริมฝีปากร้อนที่เขาคิดว่าสวยงามมาทาบทับกับปากเล็ก

   …นะ นี่มันอะไรกัน…

   …ถูก…นางฟ้าจูบ…
   …ไม่ใช่!!!....ไอ้หมอนี่มันเป็นผู้ชาย!!!

   ริวเบิกตาโพลง ได้สติ เขาออกแรงผลักร่างของชายหนุ่มตรงออกไปอย่างสุดแรงเกิด แทนที่ชายตัวโตจะสำนึกกับหัวเราะ
คิกคักอย่างมีความสุข

   “ตายแล้ว มาถึงก็ทักทายกันซะหวานเชียว น่ารักจริงๆเลยน้า”

   เสียงนั้นไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็คือมารดาที่เขาเคารพรัก ริวยืนค้างราวกับวิญญาณออกจากร่าง ในสมองคิดแค่ว่านี่มันเกิด
เรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ เขาไม่เห็นจะเข้าใจ ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย งงไปหมดแล้ว แต่เหมือนปากมันค้าง พูดอะไรออกมาไม่ถูก

   “ลูซคิดถึงริวจังมากๆ ริวจังดีใจไหม เดือนหน้าเราก็จะได้แต่งงานกันแล้วน้า”

   ตอนนี้ร่างบางยังคงยืนอึ้งกับท่าทางดีอกดีใจ และรอยยิ้มสวยที่ส่งให้มาไม่หยุด ในขณะที่ริวงงหนัก ทำไมไอ้ผู้ชายคนนี้ถึง
ได้มาจูบเขา และทำไมทุกคนถึงได้ยิ้มแย้มมีความสุข

   “ดีใจด้วยนะคะพี่ริวเรื่องแต่งงาน พี่ริวต้องเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดเลยค่า”

   “จะ เจ้าบ่าว…แต่งงาน”

   ตอนนี้ริวเหมือนโดนแช่แข็งไปไปเสียแล้ว เขายืนนิ่ง และกำลังประมวลความคิด ถ้ามีคนบอกว่าเขาคือเจ้าบ่าว งั้น…ไอ้
ผู้ชายตัวโตผมทองนี่ก็คือเจ้าสาวอย่างนั้นเหรอ!!!

   “มะ ไม่….ไม่จริง”
   “จริง!”

   ทุกคนพร้อมใจกันบอก และคนที่ดูเหมือนจะทำให้สติของริวไม่เหลืออีก ก็คงไม่พ้นมารดาสุดที่รักของเขา

   “นี่ไงจ๊ะ สัญญาแต่งงาน”
   ใบกระดาษที่ถูกเก็บไว้รักษาอย่างดีถูกยกขึ้นมายื่นให้ริวดู ดวงตากลมจับจ้องที่ข้อความบนกระดาษ แต่ที่สะดุดตามาก
ที่สุดก็คงจะเป็นคนที่ลงชื่อในนั้น ก็คือชื่อของเขาเอง แถมยังมีลายนิ้วมือของเขาประทับเอาไว้อีกด้วย ทั้งวันและเวลานั้น คงเป็น
ช่วงเวลาที่เขาอายุประมาณแปดขวบ

   “ทั้งลายเซ็น ทั้งลายนิ้วมือ ก็เป็นของริวจัง ส่วนตรงนี้เป็นของลูซ…ลูซมาแต่งงานกับริวจังตามสัญญาแล้วน้า”

   คนตัวโตคลี่ยิ้มหวาน พร้อมกับรับสัญญาแต่งงานมาชี้ไปมาตรงลายเซ็นทั้งของคนตัวเล็กและของตน ราวกับต้องการยืนยัน
ความจริง ในขณะที่คนฟังทรุดลงไปกับพื้น ร้องออกมาดังลั่น ราวกับคนสติแตก

   “มะ….ไม่...ไม่จริงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!”

   


100%
8/5/59

ฝากเพจคนแต่งด้วยน้าาา https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/notifications/

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
สนุกอะ รออ่านต่อ :laugh:

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :o8: :o8: :o8: :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 1 สัญญาแต่งงาน
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-05-2016 14:15:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 1 สัญญาแต่งงาน
«ตอบ #10 เมื่อ10-05-2016 12:20:33 »

ชอบๆๆๆๆๆ มาอัพต่อด่วนค่ะ   :katai4:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 1 สัญญาแต่งงาน
«ตอบ #11 เมื่อ10-05-2016 13:15:42 »

ตลก!!! 55555

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
2
เจ้าสาวแสนสวย

   
“ริวจัง…ริวจัง”

   เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอย่างน่ารัก ในขณะที่คนตัวเล็กนอนหลับตาพริ้ม คิ้วทั้งสองกระตุกเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ริวจะเริ่มขึ้นลืมตา
ขึ้น ภาพที่อยู่เบื้องหน้าจากที่มัวๆเริ่มเปลี่ยนเป็นชัดเจน

   …สวยจัง…   

   เปลือกตาบางปิดลงอีกครั้ง หากนี่คือความฝัน เขาขอหลับฝันถึงนางฟ้าต่อไปได้ไหม แต่ทว่าเสียงทุ้มที่ดังขึ้นอีกก็เหมือน
กระชากคนตัวเล็กให้หลุดออกมาจากความคิดนั้น


   “ริวจัง…ถ้าไม่ยอมลืมตาอีก ลูซจะจูจุ๊บล่ะน้า”

   ทันทีที่จบประโยคของชายหนุ่ม สมองของริวก็ประมวลผลอย่างทันทีทันใด เขาลืมตาขึ้นอย่างตกใจ เห็นใบหน้าสวยนั้น
กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ลูซหลับตา ทำปากจู๋จะเข้ามาจูบปากของริว มือเล็กรีบดันใบหน้านั้นให้ออกห่างอย่างรวดเร็ว

   “อ๊ากก!!! ออกไปไอ้กะเทยโรคจิต!”

   สติทุกอย่างกลับคืนมาแทบจะทันที ภาพความทรงจำเลวร้ายตั้งแต่แรกพบเข้ามาในสมอง

   …เขาถูกไอ้ผู้ชายตัวใหญ่นี่จูบ…

   แม้จะหน้าสวยแค่ไหน แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะรูปร่างของลูซก็ไม่ได้บอบบางเหมือนกับผู้หญิง ดูยังไงก็ผู้ชายชัดๆ ก็มี
แค่หน้าเท่านั้นที่พอจะทำให้ริวรู้สึกประทับใจในตอนแรกเจอ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าริวรู้สึกเซ็งหนักที่ใบหน้าสวยๆมาอยู่บนร่าง
ของผู้ชายคนนี้

   “ลูซไม่ได้เป็นกะเทยสักหน่อย”

   ชายหนุ่มเอ่ยบอก ใบหน้าเริ่มแสดงถึงความไม่พอใจแต่ก็เพียงเล็กน้อย เขาหย่อนกายนั่งลงใกล้กับริว ร่างบางสะดุ้ง แทบ
จะกระโดดตัวถอยหนี มองไปรอบไปรอบๆห้อง

   …ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน…

   “ที่นี่ที่ไหน แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วนาย…ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วทุกคน อึก”

   ทุกคำพูดต้องถูกเก็บลงไปในลำคอ เพราะริมฝีปากร้อนของลูซเคลื่อนมาประทับกับปากเล็ก ทุกคำพูดหายไป มีเพียง
ดวงตาที่เบิกกว้าง

   …จูบ…

   …เขาถูกขโมยจูบอีกแล้ว…

   “ริวจังถามเยอะขนาดนั้น ลูซเลือกตอบไม่ถูกเลย”


   เขาเอ่ยขึ้นเมื่อถอนริมฝีปากแล้ว ริวนั่งนิ่ง กระพริบตาปริบๆ สมองเหมือนขัดข้องไปเสียแล้ว

   “งั้นเดี๋ยวลูซ ตอบทีละคำถามแล้วกันน้า”

   คนตัวโตอมยิ้ม แล้วเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่ริวนั่งมึนงง
   …ทำไม…ทำไมเขาจะต้องมาถูกผู้ชายจูบ…   

   แค่คิดก็แทบอยากจะร้องไห้ เรื่องแบบนี้มันควรจะทำกับผู้หญิงสวยๆมากกว่าไม่ใช่หรือไง มองยังไง ไอ้คนที่กำลังอ้าปาก
พูดอย่างกับนก มันก็คือผู้ชายชัดๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
   “ริวจังเป็นลม คุณป้าเลยพาริวมาเปิดห้องพักที่โรงแรม อ่อ…แล้วลูซก็อยู่ดูแลริวจัง…ริวจังไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ เพราะว่า
มันคือหน้าที่ของเจ้าสาวแสนสวยอย่างลูซ”

   พูดไปก็ทำท่าทางบิดไปมาอย่างกับเขินอาย ริวกระพริบตาถี่ๆ คิดไม่ถึงกับสิ่งที่ได้ยิน แต่มันก็ช่วยทำให้คนที่กำลังมึนงง
ได้สติกลับมาแทบจะทันที   

   “นายกำลังจะบอกว่า นายจะเป็นเจ้าสาวของฉันอย่างนั้นเหรอ!”

   “ใช่แล้ว”

   “ฉันไม่เชื่อ!”

   ริวพูดเสียงจริงจัง ใบหน้าหล่อน่ารักเต็มไปด้วยความไม่พอใจ นี่มันต้องเป็นเรื่องตลกขำขันแน่ๆ มารดาของเขาอาจจะกำลัง
กลั่นแกล้งเขาอยู่

   “ทุกคนกำลังแกล้งฉันใช่ไหม?”

   ถ้าจะให้พูดถึงวันเกิด มันก็เพิ่งจะผ่านไปเมื่อสองเดือนก่อน หากมารดาจะแกล้งเขาก่อนในวันเกิดก็ไม่น่าใช่ ถึงแม่จะไม่รู้
เหตุผลที่คนเป็นแม่กลั่นแกล้ง แต่ริวก็เชื่อว่าเรื่องที่ลูซพูดนั้นไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะต้องมา
แต่งงานกับผู้ชาย

   บรรยากาศภายในห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราและดูโรแมนติก ไม่ได้ทำให้ริวรู้สึกตาม เพราะตอนนี้ในสมองคิดเพียงแค่ว่า
เขาจะต้องรู้ความจริงให้ได้ว่ามารดาและทุกคนรุมหัวแกล้งเขาเพื่ออะไร

   “แกล้ง?”

   เสียงทุ้มดังขึ้นเกือบจะขึ้นโทนสูง ก็รู้สึกงงไม่น้อยกับคำพูดของริว ลูซขมวดคิ้วฉับ เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเนียนขยับ
ตัวเข้าไปใกล้ชิดคนตัวเล็ก

   “ก็ใช่น่ะสิ นายกับคุณแม่และทุกคน คงอำฉันอยู่ ฉันไม่เชื่อหรอก…ว่านายจะแต่งงานกับฉันจริงๆ”

   พอเริ่มมีสติ เขาก็เริ่มคิดทบทวน เรื่องอะไรจะไปเชื่อง่ายๆ เอกสารนั่นอาจจะเป็นของปลอมก็ได้ มารดาเขาอาจจะแกล้งทำ
มันขึ้นมา…แต่ว่า…แล้วจะแกล้งทำขึ้นมาเพื่ออะไรนั้น เขาคิดไม่ออกจริงๆ

   “ริวจังเนี่ยน้า…คิดมากจริงๆ”

   ลูซอมยิ้ม รู้สึกว่าท่าทางที่จริงจังและขบคิดของริวนั้นช่างน่ารัก น่ามอง จนไม่อาจจะละสายตาได้ ริวหันไปมองลูซ

   “เฮ้อ…นายสารภาพมาดีกว่า ว่าทำแบบนี้ไปทำไม?”

   “เอ๋? ทำไมแบบนี้ นี่หมายถึงอะไรเหรอ?”

   “ก็ที่บอกว่าจะแต่งงานกับฉัน แล้วยังจะเป็นเจ้าสาวอีก โกหกฉันทำไมกัน”

   ท่าทางเอือมระอาของริว ทำให้ลูซขมวดคิ้วอย่างงงหนัก เพราะทุกอย่างคือความจริง แต่กลายเป็นว่าคนตัวเล็กไม่เชื่อเสีย
อย่างนั้น

   “ไม่ได้โกหกนะ พวกเราต้องแต่งงานกันจริงๆ ริวจังจำไม่ได้เหรอ ริวจังเป็นคนขอลูซแต่งงานเองเลยน้า ตอนเด็กๆไง”

   คำกล่าวของลูซทำให้ริวเงียบไป สมองเริ่มประมวลผลถึงภาพความทรงจำในตอนเด็กที่เริ่มไหลเข้ามาให้เขาได้นึกถึง

   .
   .

   .
   “แม่ค้าบ…ริวอยากแต่งงานกับนางฟ้า”

   เด็กชายวัยแปดขวบเดินจูงมือเด็กตัวเล็กที่ใบหน้าสวยงาม ราตรีมองหน้าเด็กน้อยแล้วอมยิ้ม

   “ริวอยากแต่งงานกับน้องเหรอจ๊ะ”

   น้ำเพชรเดินเข้ามาถามพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วเหลือบตามองลูซที่ก้มหน้าก้มตาอย่างขัดเขิน

   “ใช่ค้าบ คุณแม่จัดงานแต่งให้ริวทีนะค้าบ”

   “ต๊าย…ลูกคนนี้ ไวไฟจริงๆเลยน้า”

   ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมา เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายที่ดูกระตือรือร้นอยากจะแต่งงานกับเด็กน้อยแสนน่ารัก ราตรียิ้มให้กับน้ำ
เพชร ทั้งคู่เองก็ยิ้มให้กัน

   “ต้องรอให้โตก่อนนะลูก ตอนนี้ลูกกับน้องยังเด็กอยู่เลย”

   ริวหน้าเสีย เริ่มเบะปากอยากจะร้องไห้ขึ้นมา

   “แต่ริวอยากแต่งงานกับนางฟ้าตอนนี้ คุณแม่ค้าบ ให้ริวแต่งกับนางฟ้านะค้าบ คุณน้าค้าบ ให้ริวแต่งนะค้าบ”

   เด็กแปดขวบเข้าไปอ้อนราตรีที่เป็นมารดาโดยการโอบกอดเอว แล้วช้อนสายตามองน้ำเพชรอย่างออดอ้อน ลูซเดินเข้าไป
จับมือมารดา

   “ลูซอยากแต่งงานกับพี่ริวไหมจ๊ะ”

   น้ำเพชรก้มลงมาถามลูกชายตัวเล็กที่ในยามนี้ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นผู้ชาย ลูซพยักหน้าอย่างขัดเขิน เขาเองก็ไม่ค่อยจะรู้
เรื่องแต่งงานนัก แต่เด็กตัวน้อยรู้สึกแค่ว่าต้องพยักหน้าตอบกลับไป
   “งั้น…เป็นอันว่าตกลงแล้วกันนะจ๊ะ”

   หญิงสาวเอ่ยขึ้น ก้มมองหน้าลูกชายที่คลี่ยิ้มอย่างมีความสุข ราตรีลูบผมนิ่มของลูกชายตัวแสบวัยแปดขวบที่ยิ้มแย้มดีใจ
เดินเข้าไปจับมือของเด็กตัวเล็กกว่า

   “ริวจะแต่งงานกับนางฟ้า เจ้าสาวแสนสวยของริว”

   ริวยิ้มกว้าง พุ่งกายเข้าไปจุ๊บปากเล็กของลูซทันที ในขณะที่เด็กตัวเล็กเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่ก็ไม่ได้ผลักไสออก

   .

   .

   .

   …ชัดเจน…   

   ความทรงจำในอดีตเริ่มไหลเข้ามาในหัวไม่หยุดหย่อน ริวเริ่มจำได้แล้วว่าเขาเป็นคนขอลูซแต่งงาน แถมยังไปมอบจูบแรก
ของตัวเองให้กับกะเทยโรคจิตนี่อีก แค่คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ เขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นใบหน้าสวยที่กำลังส่งยิ้มมาเป็นระรอกคลื่น
อย่างไม่หยุดหย่อน

   “ริวจังจำได้หรือยัง?”

   …ถ้าตอบว่าจำได้…ต้องซวยแน่ๆ…

   ริวจำได้เกือบทุกอย่าง แม้จะไม่ทั้งหมด แต่เขาก็จำได้ว่าเขาและลูซได้เซ็นชื่อลงในสัญญาแต่งงาน แต่เขาเองก็ไม่คิดเลย
ว่า เรื่องในสมัยเด็กๆมันจะส่งผลต่อเขามากขนาดนี้

   “เฮ้อ…”
   เขาถอนหายใจออกมาอย่างปวดจิต ไม่รู้จะหาทางแก้ยังไง ยิ่งเห็นใบหน้าสวยที่แสดงถึงความกระตือรือร้น เขายิ่งเซ็งหนัก

   “ฉันจำไม่ได้”

   แน่นอนว่าเขาพูดโกหก แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกในชีวิตสักนิดที่ต้องพูดโกหกกับคนอื่น กับสาวๆ ที่เป็นคู่ควงของเขา เขาก็พูด
โกหกมาตั้งมากมาย เวลาที่เวลานัดชนกัน หรือเวลาที่ต้องปลีกตัวจากคนหนึ่งไปหาอีกคนหนึ่ง

   “อะไรกันริวจัง ลองนึกดีๆสิ”

   คนตัวโตเริ่มหน้าเสีย เขาไม่อยากจะคิดว่าริวลืมไปแล้ว ทั้งที่เขายังจำฝังใจ ถึงแม้ตอนนั้นจะอายุเพียงแค่ห้าขวบก็ตาม นั่นก็เพราะริวเป็นรักแรก เป็นคนมอบจูบแรก เป็นคนแรกที่ขอเขาแต่งงาน ขอให้เขาเป็นเจ้าสาว

   …เขาคือเจ้าสาวแสนสวยของริวจัง…

   นั่นคือสิ่งที่ลูซคิดมาตลอดในเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา เรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ในวันนี้เขากลับมาทำตามสัญญา
ริวคือคนที่เขารักมาตลอด ไม่ว่ายังไง เขาก็จะต้องแต่งงานกับริวให้ได้
   “ก็ฉันจำไม่ได้ ไม่เห็นจะเคยจำได้เลย ว่าฉันไปขอนายแต่งงาน”

   เรื่องอะไรเขาจะต้องพาตัวเองไปเดือดร้อนเพราะเรื่องตอนเด็กๆ ตอนนั้นมันก็แค่เรื่องเด็กเล่นกัน ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ

ตอนนี้เลยสักนิด เขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับผู้ชายอยู่แล้ว
   …เพราะเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ…   

   ถึงแม้ริวจะมีหน้าตาหล่อน่ารักและตัวเล็ก แต่ความคิดและนิสัยของเจ้าตัวไม่ได้เป็นไปตามนั้นสักเท่าไหร่ เขาคือผู้ชายคน
หนึ่งที่รังเกียจพวกรักร่วมเพศ และไม่เคยคิดที่จะพาตัวเองไปเป็นอะไรแบบนั้น

   “แต่ลูซไม่ได้โกหกนะ ริวจังจะโทรไปหาคุณป้าราตรี กับคุณแม่น้ำเพชรก็ได้นะ”
   คนตัวสูงเอ่ยขึ้นด้วยความหวัง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อจะกดโทรหามารดาของตน ริวเบิกตากว้าง รีบจับมือของลูซให้
หยุดทันที ลูซชะงัก ริ้วรอยแห่งความเขินอายเกิดขึ้นที่แก้มทั้งสอง ดวงตาคมกริบมองใบหน้าหล่อน่ารัก

   “ริว…”
   เสียงทุ้มนั้นดูเต็มไปด้วยความเสน่หา ริวขนลุกซู่ รีบชักมือกลับ แต่คนตัวสูงไวกว่าจับมือริวเอาไว้ พร้อมกับริมฝีปากสวยที่
จุมพิตที่หลังมือเล็ก

   “ลูซดีใจสุดๆเลย ที่ริวจังจับมือ…”

   อึก….   

   คนตัวเล็กได้แต่กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ รู้สึกหายใจติดขัด ยิ่งลูซเอามือเขาไปแนบแก้ม กดยิ้มหวานอย่างยั่วยวน มันยิ่งทำให้ริวขนลุก ออกแรงทั้งหมดที่มีกระชากมือตัวเองกลับ

   “อ๊ะ!”

   ร่างสูงร้องออกมาอย่างตกใจ ที่คนตัวเล็กกระชากมือกลับอย่างแรง แต่เขาก็ไม่คิดจะโกรธเคือง

   …ริวก็คงจะเขินสินะ…   
   พอเห็นใบหน้าและการแสดงของลูซ ริวก็ยิ้มแหย

   …ตูไม่ได้เขินเฟ้ย!! แต่ขยะแขยง!!!...

   ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุก ที่ผู้ชายตัวใหญ่มาแสดงท่าทีเหนียมอายไม่ได้มีความแมนเอาซะเลย

   “ฟังนะ…ฉันจะไม่แต่งงานกับนาย”
   ประโยคของริว ทำให้ลูซที่กำลังยิ้มหวานอย่างมีความสุข ต้องหุบยิ้ม แล้วขมวดคิ้วฉับ

   “ริวหมายความว่ายังไง?”

   เสียงทุ้มเริ่มไม่มีความสนุกสนาน ใบหน้าสวยงามนั้นเริ่มเผยให้เห็นถึงความเครียด

   “ก็หมายความว่าฉันไม่แต่งกับนาย นายจะบ้าหรือไง คิดอะไรอยู่ ผู้ชายด้วยกัน จะแต่งงานกันเนี่ยนะ ไม่คิดว่ามันแปลกหรือไง”

   สิ้นคำพูดของริว ริวคิดว่าลูซคงจะตัดใจ และหยุดเรื่องนี้ไป เพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่ทว่าผลตอบรับ มันกลับไม่เป็นดังที่
ชายหนุ่มคิดเอาไว้

   “ฮ่าๆๆ  คิคิ นี่ริวจังเป็นห่วงเรื่องนี้เองเหรอ…ริวจังไม่ต้องคิดมากหรอกน้า ต่างประเทศเขา คนเพศเดียวกันเขาก็แต่งงานกัน
เยอะแยะ ที่ไทยก็มี ที่เพศเดียวกันแต่งงานกัน สมัยนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อยน้า”

   คนตัวสูงตอบอย่างอารมณ์ดี ริวแทบจะกุมขมับตัวเอง อยากจะศีรษะเอาฟาดกับขอบเตียงหลายๆครั้ง เพื่อจะช่วยให้สมอง
ของเขาหาคำพูดมาพูดกับไอ้ฝรั่งลูกครึ่งนี่ได้ผลสักที
   …เอาวะ…ต้องลองใช้วิธีนี้…   

   ริวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเอ่ยขึ้น

   “ฟังนะ…ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆ”

   คนฟังทำหน้างง เลิกคิ้ว แล้วเอ่ยถามทันที

   “ช่าย…ลูซเห็นแล้วล่ะ ว่าริวเป็นผู้ชาย”
   …ใครก็ได้ เอาไม้หน้าสามมาให้เขาที เขาอยากจะทุบหัวไอ้ผมทองนี่จริงๆ…นี่มันโง่ หรือมันมึน หรือมันอะไรกันแน่วะ!!!...

   คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ยังไม่อยากมีเรื่องกับคนที่เด็กกว่า เขาพยายามพูดมันออกไปอีกครั้ง

   “ฉันไม่ใช่เกย์...แมนทั้งแท่ง! รู้เอาไว้ซะด้วย!”

   …คราวนี้…น่าจะชัดเจนพอแล้วนะ…
“เอ๋...”

เสียงทุ้มที่แสดงความสงสัยดังขึ้น ริวไม่ทันได้ใส่ใจ แต่ทว่าดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อ…   

หมับ!

การกระทำเกิดขึ้นโดยที่ริวไม่ได้ทันได้ตั้งตัว เมื่อมือหนาของลูซเคลื่อนเข้ามาจับใจกลางลำตัวของริวอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่จับ แต่
มือหนานั้นกำลัง…คลำ…บีบ…คลึง
“อ่า...จับแล้วเป็นแท่งจริงๆ...แต่ว่าน้า เหมือนปากกาเลย เล็กจังเลยแฮะ”

“อ๊าก!!!!! จับตรงไหนของแกห๊า!!!!! ตายซะเถอะ ไอ้กะเทยโรคจิต!!!!”

ความอดทนทั้งหมดสิ้นสุดลง ในยามนี้ริวสติแตก ยกเท้าถีบร่างของลูซอย่างแรง จนชายหนุ่มตัวสูงที่ไม่ได้ระวังตัวเซล้มนอนไปบนเตียง

   “แก…แกกล้ามาก มาจับน้องชายของช้าน!!!”

   ความโกรธ ความโมโห ความอาย ผสมกันจนแยกไม่ออก ร่างเล็กกระโดดขึ้นไปทับร่างสูง แล้วเลื่อนมือไปจับคอเสื้อของ
ลูซ กระชากเขย่าๆ แรงๆจนร่างนั้นผงกขึ้นลงมา

   “ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก๊!!”

   หมับ!
   ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอีกครั้ง เมื่อรับรู้ได้ถึงมือร้อนที่เลื่อนมาจับก้นนิ่มแล้วบีบขยำเบาๆ

   “คิคิ ก้นริวจังนิ่มจังเลย”

   “อ๊ากกกกกกก ฉันจะฆ่าแก!!”

   คราวนี้เป้าหมายเปลี่ยนไปที่คอแกร่ง มือเล็กออกแรงบีบสุดกำลัง ถึงจะตัวใหญ่กว่าแต่พอโดนบีบคอก็เหมือนจะขาดอากาศหายใจ โอบกอดร่างเล็กแน่นจนตัวแทบจะชิดกัน

   ปัง!

   เสียงประตูห้องเปิดขึ้น ริวชะงัก แล้วปล่อยมือจากคอแข็งแรง ลูซที่กำลังหายใจไม่ออกนั้นก็หายใจโล่งขึ้น นึกว่าตัวเองจะ
ตายเสียแล้ว
   “ว้ายยยยย!!! ตายแล้ว นี่มันอะไรกัน”

   เสียงของน้ำเพชรดังขึ้นอย่างตกใจ เธอรีบเดินเข้ามาหาทั้งสองคนบนเตียง ริวหันไปมอง ก็เห็นว่ามีทั้งมารดาบิดา ไหนจะ
ยังคุณน้าน้ำเพชรและคุณน้าเลโอได้เข้ามาในห้อง ร่างบางกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เหงื่อเริ่มผุดบนใบหน้า

   …นี่เขาจะโดนข้อหาพยายามฆ่าหรือเปล่า…

   “น้าไม่คิดเลยนะ…ว่าริวจะทำกับลูซแบบนี้”
   น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของน้ำเพชร ทำให้ริวรู้สึกหวั่นใจ เขาก้มหน้าต่ำลง

   “ผมขอโทษครับ”

   “นั่นสิ…แบบนี้แม่ก็ใจคอไม่ดีเหมือนกัน ”
   “คุณแม่…”

   ริวเงยหน้ามองมารดา ที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนตำหนิและผิดหวังในตัวเขา แต่ประโยคต่อมาของมารดาก็ทำให้ริวอึ้งจนพูด
ไม่ออก

   “เดือนหน้าก็จะแต่งแล้วแท้ๆ…มาชิงสุกก่อนห้ามแบบนี้มันไม่ดีเลยนะตาริว”



100%
11/5/59
ฝากเพจด้วยนะคะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :m20:

ริวเอ้ย

สงสัยงานแต่งงานจะมาเร็วกว่าที่คิดแล้วล่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 3 นางฟ้า
«ตอบ #14 เมื่อ13-05-2016 18:08:11 »

3
นางฟ้า

   
เรื่องที่เกิดขึ้นมันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ทำไมทุกคนถึงได้ทึกทักว่าเขากำลังจะชิงสุกก่อนห่ามไอ้กะเทยโรคจิต ผู้ชายตัวใหญ่แบบนี้
ถึงหน้าจะสวยแค่ไหน แต่ริวก็ยังไม่บ้าพอที่จะไปขืนใจไอ้ผู้ชายตัวโต

   “คิกคิก”

   เสียงหัวเราะในลำคออย่างมีความสุขของลูซ แทบจะทำให้คนตัวเล็กสติแตก ชายหนุ่มเด้งพรวดจะลุกออกแต่ก็เสียท่าคนตัวสูง เพราะลูซกำลังโอบกอดเขาอยู่ พอพยายามจะยันกายลุก ก็โดนวงแขนแข็งแรงกดลงมา ทำให้ชายหนุ่มเสียหลักฟุบลงไป
จนปากร้อนกดลงมาจูบกับคางสวย
   “อุ๊ย”

   ดูเหมือนทุกคนที่อยู่ในห้องจะตกใจเบิกตากว้าง แต่แทนที่จะรู้สึกแย่ เสียงเหล่านั้นกลับดูตื่นเต้นดีใจเสียมากกว่า โดยที่ไม่ได้มองเลยว่าคนตัวเล็กที่โดนกระทำในตอนนี้รู้สึกอย่างไร

   ริวรวบรวมสติ เขารีบยันกายตัวเองออก โดยไม่คิดชีวิต เขาไม่คิดจะตกอยู่ในสภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้อง
หลุดพ้นจากบุคคลอันตรายนี้ให้ได้ คนตัวโตยอมลดปราการแข็งแกร่งลงทำให้ริวสามารถหลุดออกมาจากอ้อมกอดของเขาได้
ชายหนุ่มตัวสูงค่อย ๆ ยันกายนั่งพิงหัวเตียง ในขณะที่ริวแทบจะหยิบผ้ามาเช็ดปากตัวเอง

   ท่าทางเอียงอาย ราวกับเสียบริสุทธิ์นั้นทำให้ริวอึ้งหนัก ทุกคนต่างเข้ามาหาชายหนุ่ม สายตาที่มองนั้นเต็มไปด้วยความ

กดดันพอสมควร เหมือนจะต้องการบอกว่า เขาควรจะรับผิดชอบที่ไปทำเกินเลยและลวนลามว่าที่เจ้าสาว
   …แต่จะมีใครสักคนที่เข้าใจบ้างว่า เขาต่างหากที่กำลังโดนว่าที่เจ้าสาวคนนี้ลวนลาม…แถมเขายังเหมือนจะเสียเปรียบทุก

ทาง…ไม่มีใครเข้าใจเขาเลย…
   “ริวต้องรับผิดชอบ”

   เสียงของราตรีบ่งบอกว่าไม่คิดจะยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่าย ๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามองมารดา อย่างเขาจะให้ไปรับผิดชอบ
ไอ้ผู้ชายตัวโตนี้อย่างไรกัน
   “ผมไม่เข้าใจครับคุณแม่”
   “ลูกชายของพี่ทำกับลูซแบบนี้ พี่คงต้องรับผิดชอบ”

   “จริงเหรอคะ น้องดีใจจังเลยค่ะ”
   รุ่นพี่รุ่นน้องต่างคุยกันอย่างถูกอกถูกใจ ริวหน้าเสีย เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีที่จะกำลังตามมา


   “ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้น มันเสื่อมเสียกับน้องนะตาริว น้องเสียเปรียบ”

   …เสียเปรียบ…ใครกันแน่ที่มันเสียเปรียบ!
   ริวอยากจะทึ้งผมตัวเองแรงๆ นี่มารดาของเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ คงไม่ได้คิดจะทำอะไรแปลกๆ อีกใช่ใช่ไหม
เพราะแค่จับเขาแต่งงานกับไอ้กะเทยตัวใหญ่ มันก็เกินจะทนแล้ว ยังไงเขาก็ไม่มีวันยอมแต่ง ไม่มีวันยอมอยู่ใกล้ๆ ไอ้โรคจิตนี้แน่

“ก่อนแต่งงาน แม่จะให้น้องเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ริวต้องดูแลน้องนะลูก”

   “!!!”

   คนตัวเล็กแทบจะลมจับ ร่างกายโงนเงน ลูซเข้าไปประครองร่างบาง ริวที่กำลังจะหลับตา พอได้รับสัมผัส ก็ลืมตาขึ้น เขา
เด้งตัวถอยหนีด้วยความตกใจ ลูซเลิกคิ้วด้วยความงุนงง แต่ก็ไม่วายส่งยิ้มหวานให้

   …ทำไม…

….ทำไมใบหน้าสวยๆ แบบนี้ ต้องไปอยู่บนร่างผู้ชายด้วย!!...

   สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับเขาเลยจริงๆ  ถ้าคนตรงหน้าเขาเป็นผู้หญิง การตอบตกลงเรื่องแต่งงานอาจจะง่ายเสียยิ่งกว่าสิ่ง
ใด แต่เพราะลูซเป็นผู้ชาย และเขาเองก็ไม่ใช่เกย์ ไม่ได้มีรสนิยมบริโภคผู้ชายด้วยกัน

   “เอาเป็นว่า เดี๋ยวสัปดาห์หน้า หนูลูซ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของป้าได้เลยนะจ๊ะ”
   “ครับ คุณป้า”

   ลูซตอบพร้อมกับรอยยิ้มสวย แล้วหันไปกอดริวจากด้านข้าง วางคางเกยไหล่เล็ก เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างร่าเริง

   “ดีใจจังเลย ลูซจะได้ซ้อมเป็นภรรยาก่อนวันจริงด้วยล่ะ คิคิ”


   คนพูดดูจะมีความสุขมาก ในขณะที่คนฟังนั่งอึ้ง ตัวค้างเป็นหินไปเสียแล้ว ทั้งพ่อทั้งแม่ต่างก็เข้าข้างเจ้าลูซนี่ แล้วหลังจากนี้ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร แค่คิดริวก็แทบจะสิ้นสติ แต่เพราะเขาเป็นลมสติแตกมารอบหนึ่งแล้วจะให้เป็นซ้ำๆ มันก็ออกจะเกิน
ไปหน่อย

   

-------+++++-------

   บ้า!!

   เรื่องทั้งหมดมันต้องไม่ใช่เรื่องจริง!!!

   ร่างเล็กลืมตาโพรงอยู่ในห้องนอน พรุ่งนี้ก็คือวันจันทร์ นั่นก็คือวันที่จะเริ่มต้นชีวิตอันแสนน่าสงสารของเขา
   …เจ้านั่น…ไอ้กะเทยโรคจิตนั่น…จะเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับบ้านของเขา…

   ก๊อกๆๆ

   ริวไม่อยากจะเปิดประตู แต่ด้วยมารยาท เขาก็ต้องเด้งกายลุกจากเตียง เดินไปเปิดประตู แล้วก็พบกับสตรีที่อายุมากกว่า
เขาเพียงไม่กี่ปี
   “พี่ริน”

   “ก็ใช่น่ะสิ ฉันเอง”

   “มีอะไรครับ”

   ริวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย แค่คิดถึงวันพรุ่งนี้ เขาก็เซ็งจนไม่อยากจะทำอะไร แม้จะพยายามบอกกับตัวเองว่าไม่ให้คิดมาก แต่พอคิดแล้วใจมันก็ว้าวุ่นไปหมด เจอกันวันแรกก็โดนจูบ แถมยังโดนจับ…

   …อ๊ากกก….

   แค่คิด มือเล็กก็แทบจะเลื่อนไปดึงทึ้งผมตัวเองอย่างแรงเหมือนกับคนบ้า ดวงตาคู่สวยนั้นลนลาน คิดไม่ตกว่าควรจะทำ
อย่างไร เขาจะทำอะไรได้บ้าง แล้วเขาจะไปไหน หรือเขาจะต้องหนีไปอยู่คอนโด แล้วทำไมเขาจะต้องเป็นฝ่ายหนี ในเมื่อที่นี่มัน
คือบ้านของเขา ไม่ใช่ของเจ้านั่นสักนิด
   “เป็นอะไรของแกห๊า!”

   รินแทบจะตะโกนถามเมื่อเห็นน้องชายทรุดลงกับเก้าอี้ ทึ้งรั้งผมของตัวเอง ริวหลุดออกมาจากความคิดที่ฟุ้งซ่าน

   …ใครจะไปคิดว่าเจ้ากะเทยโรคจิตนั่นมันจะมีผลต่อสมองของเขามากขนาดนี้…

   …น่ากลัวโคตรๆ …

   “คุณแม่ให้ฉันมาเรียกแกไปกินข้าว”

   “ผมไม่หิว”

   ริวเดินโซเซ แล้วล้มลงกับเตียง ใบหน้าฟุบลงกับเตียง รินเข้าไปกระชากคอเสื้อของริว สีหน้าของเธอแสดงถึงอาการไม่พอใจ

   “อย่ามาลีลา ลงไปกินข้าว”

   “โถ่…พี่ริน พี่ไม่ใช่ผม พี่ไม่เข้าใจหรอกครับ”   

   “เข้าใจ? เข้าใจอะไร?”
   “ก็เรื่องที่ผมโดนบังคับให้แต่งงานกับเจ้ากะเทยนั่น”

   ริวยันกายนั่ง ใบหน้าง้ำงอ รินเบ้ปาก แล้วหย่อนกายนั่งลงข้างๆกับน้องชาย เธอถอนหายใจออก

   “ฉันเองก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณแม่ทำหรอกนะ”

   คำสารภาพของพี่สาว ทำให้ริวแทบจะตาโต เนื่องจากพี่สาวของเขาไปต่างประเทศ เพิ่งจะกลับมาเมื่อไม่กี่วัน และเพิ่งจะมี
โอกาสได้คุยกันวันนี้ ชายหนุ่มขยับเข้าไปหารินทันที

   “จริงเหรอครับ!”

   ริวคลี่ยิ้มแห่งความดีใจและความหวัง เขารู้ว่าทั้งพ่อ ทั้งแม่และน้องสาว ต่างก็ชื่นชอบและเข้าข้างลูซ แต่ตอนนี้เขากำลังจะ
มีพวก นั่นก็คือพี่สาวของเขา
   “จริงน่ะสิ ใครจะไปอยากมีน้องสะใภ้เป็นแบบนั้นล่ะ”

   พอได้ยินคำกล่าวของพี่สาว ชายหนุ่มก็พุ่งไปกอดคนเป็นพี่ด้วยความปลื้มปิติ

   “ผมดีใจจริง ๆ เลยครับ ที่พี่รินอยู่ข้างเดียวกับผม”

   “เฮ้อ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันจะไปขัดใจอะไรแม่ได้ล่ะยะ”
   “ผมไม่ยอมแต่งงานกับไอ้กะเทยนั่นแน่ๆ ”


   “แล้วคิดว่าฉันอยากจะยอมหรือไง”
   “ถ้าไม่ยอม พี่ก็ช่วยผมสิครับ”

   “หืม? ช่วย? ช่วยยังไง”

   หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่น้องชายบอกกล่าว ริว กระตุกยิ้ม ถึงแม้จะยังคิดไม่ออกว่าควรจะทำ
อะไร แต่เขาก็คิดว่าคงต้องทำทุกวิถีทางที่จะกำจัด ขับไล่ ลูซออกไปให้ได้

   “ผมก็ยังคิดไม่ออกหรอกครับ แต่ว่าผมคงต้องทำทุกอย่างให้เจ้านั่น ตัดใจจากผม แล้วก็ขอยกเลิกงานแต่งให้ได้”

   “อืม…เอาเป็นว่า ฉันจะช่วยแกทุกทางก็แล้วกัน”
   “จริงนะครับ พี่ริน”

   “จริงสิ!”

   เพราะในอดีตก็มีความทรงจำที่ฝังใจ คนรักแรกของเธอที่เคยคบกันมาเกือบสามปี  มาขอเลิกด้วยเหตุผลที่ว่า

   …เขาคิดว่าเขารักผู้ชายด้วยกัน…

   มันทำให้รินรู้สึกเจ็บใจมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ไม่คิดจะให้อภัยพวกผิดเพศแบบนั้นเด็ดขาด เธอไม่คิดจะมีน้องสะใภ้เป็นผู้ชาย เธอต้องมีน้องสะใภ้เป็นผู้หญิง

   “ขอบคุณมากนะค้าบ พี่ริน”

   ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้แน่น กดหอมแก้มนิ่มของเธอซ้ำๆ จนรินเบ้หน้าหนีแล้วดันหน้าริวออก

   “รีบลงไปกินข้าวได้แล้วย่ะ! ทุกคนรอนานแล้ว”

   “ครับผม!”




-------+++++-------

   Rrrrrr

   ชายหนุ่มในชุดสูท หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย เสียงจากปลายสายทำให้เขาต้องระบายยิ้มออกมา

   “ว่าไงวะ”

   [วันนี้ว่างเปล่า ฉันเจอที่เจ๋งๆ ว่ะ]
   “ที่ไหนอะ…น่าสนใจมากหรือเปล่า”

   ริวเหลือบตาขึ้น พลางคิดจินตนาการตามน้ำเสียงของเพื่อนรักที่โทรมา พอได้ยินประโยคตอบรับ ชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มอย่าง
พอใจ



   [แจ่มๆ ทั้ง สเปคแกทุกคนเลย อกเป็นอก เอวเป็นเอว]

   แค่คิดก็พาลจะน้ำลายไหล ริวสะกดกลั้นความต้องการเอาไว้ เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเลิกงาน ชายหนุ่มออก

จากบริษัท รีบตรงไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่

   “ได้เลย…เดี๋ยวคืนนี้เจอกัน”

   อารมณ์ที่เคยขุ่นมัว เพราะต้องมานั่งระแวงว่าสัปดาห์นี้จะมีคนมาอยู่ร่วมชายคาได้ลืมเลือนไป เพราะตอนนี้ริวได้รับสิ่งที่เร้าใจมากกว่า คืนนี้คงเป็นการเที่ยวที่ชวนให้เขาได้พักผ่อนหย่อนใจ แค่คิด…ชายหนุ่มก็สุขเสียจนแทบทนไม่ไหว

   เขาพาตัวเองมาหยุดอยู่ที่หน้าคลับแห่งหนึ่ง พอเข้าไป ก็เจอกับพนักงาน พอบอกชื่อคนที่จองห้องเอาไว้ พนักงานก็ผาย

มือเดินนำเขาไปยังห้องวีไอพี

   แกร็ก
   ประตูห้องถูกเปิดออกไป ริวยกมือทักทายเพื่อนรักที่นั่งอยู่คนเดียว ขาเรียวยาวนั่นยกขึ้นมาไขว่ห้าง ในมือมีแก้วไวน์อยู่

   “ไหนวะ สาวๆ ของแก”

   คนตัวเล็กมองจนทั่วแล้วก็ไม่พบว่ามีใคร วาโยเพื่อนตัวสูง ผิวขาวสะอาด ใบหน้าหล่อตามสไตล์คนจีนยกมือตบที่เบาะ

โซฟา
   “นั่งก่อนดิวะ ใจเย็นๆ”


   “เออ”
   ริวตอบรับอย่างเซ็งๆ หย่อนกายนั่งลงใกล้ๆ เพื่อนรัก วาโยเป็นเพื่อนกับเขามาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย เพราะว่ามีนิสัยคล้ายๆ
กัน เลยทำให้อยู่ด้วยกันได้ วาโยเองก็เจ้าชู้เหมือนกับเขา เพียงแต่รูปร่างของชายหนุ่มนั้นสูงโปร่งกว่าเขา วาโยสูง 183
เซนติเมตร ในขณะที่เขาสูงแค่ 170 เซนติเมตร แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นเพื่อนของพวกเขาแตกต่าง


   แขนเรียวยาว พาดลงบนไหล่เล็ก ริวหันไปมองวาโย เขาเอนศีรษะพิงกับพนักพิงโซฟา วาโยมองเพื่อนรัก แล้วก็ได้แต่
สงสัย

   “เป็นอะไรวะ ดูหน้าเครียดๆ”
   “จะมีเรื่องอะไรล่ะ”

   “อ๋อ…เรื่องที่แม่แก บังคับให้แกแต่งงานอะนะ?”

   “เฮ้อ”

   พอได้ยินเสียงถอนหายใจของเพื่อน วาโยก็รู้เลยว่า สิ่งที่เขาคิดมันถูกต้อง มือร้อนตบบ่าเพื่อนรัก เป็นเชิงให้กำลังใจ

   “ถ้าแกไม่อยากแต่งก็บอกแม่แกไปสิวะ อีกอย่างแกก็เพิ่งจะยี่สิบสี่เอง ให้พี่สาวแกแต่งไปก่อนสิ”

   “ฉันบอกแล้ว แต่คุณแม่บอกว่า ถ้าไม่ยอมแต่งจะตัดแม่ตัดลูก”
   “เฮ้ย! คงไม่ขนาดนั้นมั้ง แกเป็นลูกนะเว้ย”

   “แกก็รู้ว่าคุณแม่เป็นคนพูดจริงทำจริง”

   ไม่ใช่ว่าริวไม่เคยขอร้องมารดาว่าไม่อยากแต่งงาน แต่มารดาเขาก็ไม่ยอม แถมยังบอกว่าถ้าไม่แต่งจะตัดแม่ตัดลูก รวมทั้ง
ตัดออกจากกองมรดกเสียด้วย
   “เอาน่า…แม่แกจะให้แต่งงาน ฉันเชื่อว่าคนคนนั้นต้องสวยใช่ไหมล่ะ”

   “อืม…ก็สวย”

   ริวปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลูซเป็นคนที่มีหน้าตาสวยมาก และถูกใจเขามากที่สุด ในบรรดาผู้คนที่เขาเคยเจอ ยอมรับเลยว่าเคย
เก็บเอาใบหน้านั้นไปฝัน แต่ความฝันของเขาก็เหมือนฝันร้าย เมื่อกลับกลายเป็นว่านางฟ้าที่แสนงดงามนั่น คือ…ผู้ชาย
   “แกก็ชอบคนสวยนี่หว่า ได้เมียสวยๆ แล้วจะมีปัญหาอะไรวะ มีผู้หญิงสวยๆ มาแต่งงานด้วย แกน่าจะดีใจ”

   “ผู้ชาย…”

   เสียงเรียบๆ ของริว สร้างความประหลาดใจวาโย เขาเคยบอกเพื่อนรักไปแล้วก็จริงว่าเขาจะแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้บอกไปว่า
ต้องอดสูถึงขั้นแต่งกับผู้ชายด้วยกัน

   “แกหมายความว่าไงวะ”

   วาโยถามออกไปด้วยความงงหนัก ที่อยู่ๆ ริวก็พูดคำว่าผู้ชายออกมา ร่างสูงถอนหายใจอย่างเซ็งจัด

   “เจ้าสาวของฉันเป็นผู้ชาย มันสูงตั้ง 189 เซนติเมตร ไอ้กะเทยเปรตนั่น ฉันต้องแต่งงานกับมัน”
   ริวพรั่งพรูถ้อยคำที่แสนเจ็บปวด มือเล็กแทบจะยกขึ้นมาขยุ้มผมของตัวเอง พอคิดทีไรแล้วเขาแทบจะสติแตก เขาอยากจะ
บ้า เขาต้องแต่งงานกับไอ้ผู้ชายนั่น เขาเกลียดมัน ไอ้กะเทยโรคจิต ไอ้….


   สารพัดคำด่าที่เกิดขึ้นในสมองของริว อยากจะผลักไสเจ้าโรคจิตนั้นให้ไปไกล ๆ แต่อีกไม่นาน เจ้านั่นก็จะย้ายเข้ามาในบ้าน
 …เขารับไม่ได้ รับไม่ได้!!!...

   พนักงานหนุ่มเดินเข้ามารับออเดอร์ วาโยละสายตาจากเพื่อนรักแล้วหันไปสั่งอาหารเพียงไม่กี่อย่าง ริวเงยหน้าขึ้น อ้าปาก
ออกไปเสียงดัง

   “เหล้า! ไปเอาเหล้ามา! เอาเยอะๆ เอามาเยอะๆ เลย”
   ชายหนุ่มสั่งออกไปรัวเร็ว ตอนนี้เขาเหมือนคนจะสติแตกแล้ว เขาคิดหนทางอะไรไม่ออก ขอแค่ดื่มเหล้า อาจจะช่วยได้


   “เฮ้ย ใจเย็นๆ สิวะ”
   “เร็วๆ สิน้อง”

   ริวหันไปเร่งพนักงาน พนักงานหนุ่มก้มหัวเพียงนิด เอ่ยปากตอบรับ แล้วเดินออกจากห้องไป วาโยเห็นสภาพเพื่อนรักไม่

ค่อยดี จึงหยิบโทรศัพท์กดโทรหาเจ้าของร้านให้ส่งสาว ๆ มาช่วยทำให้เพื่อนเขาอารมณ์ดีขึ้น

   “เครียดอะไรอยู่เหรอคะ?”

   เสียงใสๆ พร้อมกับผู้หญิงสามคนนั้นเดินเข้ามาในห้อง ริวละสายตาจากแก้วเหล้าที่เขาได้สั่งไป มือเล็กกำลังยกแก้วเหล้า
กระดกดื่มเป็นอันต้องชะงัก ใจของเขาเต้นแรงเมื่อเห็นต้นขาขาวเนียนที่โผล่พ้นชุดเดรสสีดำมันวาว

   อึก…แม่เจ้าโว้ย…

   เลือดในกายเดือดพล่าน พวกเธอขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ ริว ชายหนุ่มหลุดออกมาจากความคิดที่แสนกังวล วาโยเอง จากที่ตอนแรกจะเข้าไปปลอบใจเพื่อน แต่พอเห็นของสวยๆ งามๆ อยู่ตรงหน้าแล้ว เขาก็ไม่คิดจะสนใจ เพราะตอนนี้ริวเองก็เหมือนจะ
สนุกไปกับสุรานารี เสียจนไม่คิดถึงความทุกข์ที่กำลังกังวลใจ

   แม้จะเป็นคนที่ชอบเที่ยว แต่ว่าวาโยก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อการงานที่ได้รับ เขาเองก็เป็นถึงระดับผู้บริหาร เรื่องผู้
หญิงก็เหมือนเป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ต้องเลือกเสพโดยไม่ให้กระทบต่อหน้าที่การงานจนมากเกินไป เขาไม่ได้ดื่มมากมายเหมือนกับริว อันที่จริงในยามปกติแล้ว ริวจะไม่ค่อยเป็นพวกนักดื่มสักเท่าไหร่นัก แต่เหมือนว่าวันนี้เจ้าตัวจะเครียดหนักถึงได้กระดกน้ำสี
อำพันลงคอราวกับเป็นน้ำเปล่า และแน่นอนว่าผลสุดท้ายของมันก็คือ…

   “เฮ้ย! ริว พอได้แล้ว เมาแล้วนะโว้ย”
   นาฬิกาบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน วาโยคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับแล้ว พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่ต้องไปทำงานเหมือน มาเที่ยววัน
นี้ก็เหมือนมาคลายเครียด ริวโงนเงน จะจับแก้วเหล้ายกดื่ม ทั้งๆ ที่แก้วนั้นมันว่างเปล่าไปแล้ว

   “คราย…ครายเมา ม่ายมีสักนิ๊ดด”

   “พรุ่งนี้แกก็ต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอวะ ลุกๆ กลับได้แล้ว”

   วาโยยืนขึ้น กระชากแขนของเพื่อนให้ยืนตาม เขาหันไปยิ้มให้กับสาวๆ และบอกพวกเธอให้กลับไปได้แล้ว โดยที่ไม่ลืมให้
เงินเล็กๆ น้อยๆ แก่พวกเธอก่อนที่จะไป

   “ไอ้เชี่ยริว…แกจะทำให้ฉันต้องลำบากอีกแล้วใช่ไหมวะ”
   ร่างสูงพรูลมหายใจออกมาอย่างเซ็งจัด เขาโทรเรียกพนักงานให้มาช่วยลากเพื่อนเขาไปที่รถ ดูท่าแล้ววันนี้ริวคงจะขับรถ
กลับบ้านเองไม่ได้ เขาเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของเพื่อน สุดท้ายวาโยก็เป็นคนพาริวกลับไปส่งที่บ้าน

   “ว้าย! ตายแล้ว”

   “ริวเมาหนักน่ะครับคุณแม่ ผมเลยมาส่ง”

   “เหลวไหลจริงๆ เจ้าลูกคนนี้”

   ราตรีเอ่ยตำหนิบุตรชาย เธอมองวาโยที่ประครองร่างของริวไปวางไว้ที่โซฟาใจกลางบ้านหลังใหญ่

   “นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับคุณแม่”
   “จ้า ยังไงแม่ก็ขอบใจมากนะจ๊ะ ที่อุตส่าห์พาตาริวมาส่ง”

   “ไม่เป็นไรครับ ลาล่ะครับ”

   ชายหนุ่มยกมือไหว้ราตรี ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ทำไมสภาพ
ลูกชายของเธอถึงได้เป็นแบบนี้

   “มีอะไรกันเหรอครับคุณป้า”

   เสียงทุ้มดังขึ้น ราตรีสะดุ้งเล็กน้อย ในเย็นวันนี้ลูซได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอแล้ว ชายหนุ่มเดินลงมาจากบันได วันนี้
ต้องนอนต่างที่ จึงนอนไม่ค่อยหลับ เขาเลิกคิ้วเมื่อเห็นร่างที่นอนอยู่บนโซฟา

   “เอ๊ะ…ริวจัง”
   ใบหน้าหล่อน่ารักแดงก่ำ เสื้อผ้าที่สวมก็ไม่ค่อยเรียบร้อย กระดุมเสื้อถูกปลดจนถึงสามเม็ด ราตรีถอนหายใจออกมา

   “ตาริวนี่เหลวไหลมากๆ ลูซคงจะผิดหวังมากเลยใช่ไหมจ๊ะ”

   “ไม่หรอกครับคุณป้า ผู้ชายก็ต้องดื่มสังสรรค์กันอยู่แล้วล่ะครับ”   

   ว่าที่ลูกสะใภ้เอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม ราตรียกมือทาบอก ใบหน้าปลื้มปริ่ม ว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอช่างแสนดี เธอนี่เลือกลูกสะใภ้ไม่ผิดเลยจริงๆ

   “อย่าเรียกว่าป้าเลยนะ มาซ้อมเรียกคุณแม่ดีกว่านะลูก”

   “ครับ คุณแม่”

   พูดไปก็เขินไป ลูซเองก็เขินที่ต้องเรียกราตรีว่าแม่ แต่พอคิดอีกที อีกไม่นานเขาก็จะเป็นสะใภ้ของที่นี่ แค่คิดก็มีความสุข
จนแทบจะคลั่ง
   “แล้ว…ริวจัง”

   “อ่า…สงสัยคงต้องปล่อยไว้ตรงนี้  เพราะว่าทุกคนก็คงเข้านอนกันหมดแล้ว”

   “ถ้าคุณแม่ไม่ว่าอะไร ลูซขอเป็นคนพาริวจังไปนอนในห้องได้ไหมครับ ลูซ อยากดูแลริวจัง ถ้าริวจังอยู่ตรงนี้ ริวจังอาจจะ
ไม่สบายก็ได้”

   “ต๊าย…ตาย ลูกแม่ ช่างเป็นคนดีอะไรอย่างดี ตาริวต้องดีใจมากแน่ๆ ถ้าตื่นมาแล้วเห็นหนูอยู่ดูแลใกล้ๆ”

   ร่างสูงบิดกายเล็กน้อยอย่างเขินอาย เขาพยักหน้ารับคำชมของว่าที่แม่สามี แล้วเข้าไปช้อนตัวริวขึ้นมาในท่าเจ้าสาว
   “ไหวไหมลูก”

   “สบายมากครับคุณแม่…เพราะภรรยามีหน้าที่ดูแลสามีนี่ครับ”

   ชายหนุ่มเอ่ยไป ก็เขินไป ราตรีได้แต่มองตามคนตัวสูงที่อุ้มลูกชายเธอด้วยแขนทั้งสองข้าง รู้สึกดีใจมากเหลือเกินที่ต่อ
จากนี้เธอคงจะหมดห่วง เพราะว่ามีลูกสะใภ้ที่น่ารัก

   ขาเรียวยาวก้าวเดินขึ้นบันได แขนแข็งแกร่งข้างหนึ่งนั้นซ้อนเข้าใต้วงแขนเล็ก โอบอุ้มลำตัว ส่วนแขนอีกข้างก็ซ้อนเข้าที่
ข้อพับขาทั้งสอง ริวปรือตามองอย่างมึนงง สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมา ในขณะที่คนตัวสูงก้าวเดินตรงไปยัง
ห้องนอนของริว
   “นางฟ้า…”


   ชายหนุ่มเอ่ยออกมาราวกับเพ้อ มือเล็กขยับเลื่อนไปสัมผัสแก้มของนางฟ้าตรงหน้า ลูซคลี่ยิ้ม ใช้มือดันประตูเข้าไปให้นอน แล้วยกเท้าดันให้ประตูปิด ใช้ไหล่กด

สวิซต์เปิดไฟให้ห้องสว่าง เขาเดินตรงไปยังใจกลางห้อง

   “สวย…นางฟ้า…บนสวรรค์”

   ริวเอ่ยเสียงหวาน ลูซค่อยๆ วางร่างบางลงบนเตียง  เขาคลี่ยิ้มอย่างงดงาม ริวมองอย่างเพ้อฝัน ยกมือไปลูบแก้มของลูซ
นิ้วเล็กไล่ต่ำลงมาที่ริมฝีปาก

   “ริวจัง…”

   ลูซเรียกเสียงแผ่ว ดวงตาคู่สวยทั้งสองปรือปรอย แก้มแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกฮอล์ เขาส่งยิ้มหวานให้กับนางฟ้าตรงหน้า ลูซค่อยๆ ขยับกายเคลื่อนเข้าไปใกล้ มือลูบไล้ไปตามตัวของชายหนุ่ม


   “สวรรค์…”
   คนตัวเล็กเอ่ยเสียงแผ่วเบา แต่ก็ทำให้ลูซได้ยินชัดเจน เขากระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ

   “ไม่ต้องห่วงนะริวจัง…ลูซจะดูแลริวจังเป็นอย่างดี…”


   “อ่า…”

   “จนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นเลยล่ะ…หึหึ”
   

   100%
13/5/59

ฝากเพจด้วยนะคะ :) https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 3 นางฟ้า
«ตอบ #15 เมื่อ13-05-2016 18:33:46 »

นางฟ้า succubus สินะ คึคึ

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 3 นางฟ้า
«ตอบ #16 เมื่อ15-05-2016 13:29:34 »

นางมารในคราบนางฟ้าสินะลูซเนี่ย  :hao6:
ตอนหน้านี่คนแต่งจะสนองนี๊สคนอ่านไหมเจ้าคะ  :m13: :m13:

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 3 นางฟ้า
«ตอบ #17 เมื่อ15-05-2016 18:24:50 »

 :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
4
ดูแลเป็นอย่างดี




   ว่ากันว่า การดื่มเหล้าเหมือนจะช่วยให้หลุดพ้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แต่มันก็ไม่ได้ถาวรนัก เพราะถึงสติของตัวเองจะ
พยายามหนีไปจากปัญหาสักแค่ไหน แต่ปัญหา…ตัวปัญหาก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
   “ถึงลูซจะไม่ชอบให้ริวจังดื่มเหล้า…แต่ว่าแบบนี้มันก็ไม่เลวแฮะ”

   ลูซนั่งลงข้างๆกับกายบาง เขาไล้ข้อนิ้วไปตามใบหน้าเรียวของริว ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ แก้มเล็กนั่นกำลังขึ้นสี
ระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

   “อื้อ…”   
   คนตัวเล็กรู้สึกรำคาญ ที่มีมือใหญ่มาลูบไล้ที่ใบหน้า เขาบิดกายไปมาอย่างไม่สบายตัว ลูซเห็นแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

   “อึดอัดเหรอริวจัง”

   “อื้อ…”

   เสียงครางในลำคอ ยิ่งทำให้ลูซได้ใจ เขาเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าออก ก่อนจะค่อยๆ แหวกสาบเสื้อออกอย่าง
ช้าๆ

   “อ่า…หัวนมของริวจัง…”

   สายตาของลูซจับจ้องอยู่ที่ยอดอกเล็กที่อยู่บนแผ่นอกบาง เขาแลบเลียริมฝีปากของตนเอง

   …ถึงจะไม่ใช่สีชมพู…แต่ก็น่ากินสุดๆ…

   ปลายนิ้วเริ่มถูไถขยี้ยอดอกสีเนื้อที่ออกไปทางเข้มซึ่งเข้ากับผิวขาวเหลืองของชายหนุ่ม เพราะริวก็ไม่ใช่ผู้ชายอ้อนแอ้น
เพียงแค่โครงร่างของร่างกายเล็กกว่าผู้ชายทั่วไปก็เท่านั้น   

   ฝ่ามือร้อนลูบไล้ไปตามผิวกายที่เนียนนุ่ม ผิวของริวละเอียดสวย กายเล็กกระตุกเบาๆ เมื่อเล็บคมสะกิดเล่นที่ยอดอกซึ่ง
กำลังตอบสนองต่อการปลุกเร้า จนเริ่มชูชันขึ้นมา
   “ริวจังอยากให้ลูซดูดเหรอ…”

   ดูเหมือนว่าคนตัวสูงจะเข้าข้างตัวเองแบบสุดกู่ เขามองจุกเนื้อที่แข็งยั่วยวนสายตา ที่จริงลูซก็ไม่ใช่คนที่ชอบฉวยโอกาส
ใครเลยแม้แต่น้อย…ยกเว้นแต่กับริวจัง

   “เพราะว่าริวจังดูอึดอัด ลูซก็เลยจะช่วยหรอกนะ”

   เสียงทุ้มนั้นดูเหมือนจะใจดี แต่ทั้งหมดก็เหมือนจะทำไปเพื่อตัวเองล้วนๆ ปลายลิ้นร้อน แตะลงที่ยอดอกเล็กอย่างแผ่วเบา
ริวสะดุ้ง มือของเขาปัดป่ายไปมาบนพื้นเตียง

   “อื้อ…”

   ลูซเองที่ตอนแรกกะแค่ว่าอยากจะลองสัมผัสดูสักเล็กน้อย เพราะการลักหลับว่าที่สามีมันคงจะไม่ดีนัก แต่ของที่เขาอยาก
จะกินมันอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป…ถ้าไม่เรียกว่าโง่…ก็คงโคตรโง่

   “อะ อึก”
   เสียงครางหวานดังขึ้นเป็นระยะ เมื่อลูซเริ่มรัวลิ้นแตะกับยอดอกสวย ในขณะที่มืออีกข้างก็เลื่อนไปขยี้ยอดอกอีกช้า เขาดูด
เม้มจุกเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย ริวรู้สึกได้ถึงความสุขสมที่ร่างกายของเขาได้รับ จึงแอ่นอกขึ้นให้คนตัวสูงได้สัมผัสมากกว่าเดิม

   “ริวจัง…”

   ลูซครางเสียงแหบพร่า เขางับกัดยอดอกเล็กอย่างแผ่วเบา ขยับปากเลื่อนไปดูดเม้มทำรอยรักที่แผ่นอกไว้หนึ่งรอย ก่อนจะ
ผละออก ริวยังคงนอนหลับไม่ได้สติ

   “ถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนล่วงหน้า กับการดูแลของลูซก็แล้วกันนะ”

   ชายตัวสูงขยิบตา ก้มลงมาจูบแก้มเล็ก ก่อนจะเดินไปหาผ้าและกะละมังใบเล็ก ลูซเริ่มปลดเสื้อของริวออก เขารู้สึกเขินเล็ก
น้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มคิดจะหยุดปลดเสื้อผ้าของว่าที่สามี

   “ลูซเขิ๊น เขิน”

   แม้จะพูดอย่างนั้น แต่มือร้อนนั้นราวกับปลาหมึก เขาใช้มือหนึ่งจับผ้าเช็ดไปตามผิวกาย ส่วนมืออีกข้างก็ใช่ว่าอยู่เฉย กลับ
ลูบไล้เล่นไปเรื่อย สายตาคมเลื่อนต่ำลงมาที่ใจกลางลำตัว เขาระบายยิ้ม

   “อืม…ลูซไม่ได้จะลวนลามริวจังเลยน้า แต่ว่ามันจำเป็น”

   เขาเอ่ยบอกอย่างน่ารัก ใบหล่อสวยนั้นไม่ได้มีความรู้สึกผิดแต่อย่างใด เสื้อผ้าส่วนล่างของริวถูกมือใหญ่ปลดเปลื้องอย่าง
รวดเร็ว เหลือเพียงแค่ชั้นในสีน้ำเงินเข้มที่อยู่บนกายเล็ก
   “สีแมนจังเลย”

   แต่ก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่นั้นเลื่อนไปสัมผัสความเป็นชายผ่านเนื้อผ้า ลูซลูบไล้มันไปตามความยาวของแท่งเนื้อ

   “อ่า…”

   เขาพยายามหักห้ามใจ เปลี่ยนเป้าหมายมาเช็ดตัวให้กับริวแทน แต่เพียงไม่นาน ความต้องการมันก็มากกว่า ใบหน้าสวย
ก้มลงไปจูบไล้ที่ต้นขาเล็ก อดไม่ได้ที่จะดูดเม้มทำรอย แสดงความเป็นเจ้าของ
   …ริวจังเป็นของลูซคนเดียว…

   

-------+++++-------

   กว่าริวจะตื่นมา ก็เกือบเป็นช่วงสายของอีกวัน เขารู้สึกปวดหัวตุบ ๆ นั่นก็คงมีสาเหตุมาจากสุราที่ได้ดื่มเข้าไป

   “อ่า…”

   ริวยันกายลุกนั่งพิงหัวเตียง เขาสะบัดศีรษะไล่ความมืดงง มองไปรอบๆ ก็พบว่าเขากำลังนอนอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ความทรงจำสุดท้ายคือเขาอยู่กับเพื่อนตัวสูง พวกเขานั่งดื่มด้วยกัน แล้วทำไมเขาถึงกลับมาอยู่ที่นี่ได้


   ...วาโยคงพาเขามาส่งที่บ้าน…
   ปกติเขาก็ไม่เคยดื่มมากมาย เมื่อคืนดื่มหนักขนาดนั้น ไม่รู้มารดาเขาจะว่ายังไง ชายหนุ่มพรูลมหายใจเมื่อถึงหน้าของราตรี

   “คุณแม่จะฆ่าแกไหมเนี่ย ไอ้ริว…”

   ริวหลับตาลง เขาเหลือบตามองนาฬิกา ที่บอกว่าเวลาว่าสายแล้ว ริวตกใจรีบยันกายจะลงจากเตียง แต่ทว่าร่างเขาก็แทบ
จะทรุดลงไปกับพื้น   
   “โอ๊ะ! ริวจัง!”

   ร่างกายที่เกือบจะบาดเจ็บถูกชายตัวสูงใหญ่เข้ามาโอบประครอง ริวหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกขอบใจที่มีคนมาช่วย
เขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงได้หน้าทิ่มลงพื้นไปแล้ว

   …เดี๋ยวนะ…เสียงเมื่อกี้มัน…

   “ริวจังเนี่ยล่ะก็…ระวังตัวหน่อยสิ ลูซเป็นห่วงน้า”
   …ชัดเลย!...

   ริวตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้าง จากที่รู้สึกมึนหัวอยู่แทบจะหายปลิดทิ้ง เพียงเพราะได้เห็นหน้าของลูซ มันเหมือนกับการเจอสิ่งที่น่ากลัว จนร่างกายสั่นระริก
   “อ่า…นอนพักน้าริวจัง”

   นอกจากจะตกใจที่เจอกับลูซแล้ว เขายังต้องมาตกใจที่โดนอุ้มในท่าเจ้าสาวแล้ววางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม

   …นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!...

   “ริวจังยังเมาค้าง นอนอยู่เฉยๆ ก่อนน้า”   

   ลูซดูมีความสุขเสียจนริวหมั่นไส้ เขาพยายามคิดทบทวน แล้วก็ได้คำตอบว่า ชายหนุ่มคงจะเข้ามาพักที่บ้านของเขาแล้ว

   “ลูซดีใจที่สุดเลยที่ได้อยู่บ้านเดียวกับริวจัง”

   แต่ริวไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดเดียว เขาอยากจะต่อต้านร่างสูงตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ร่างกายของเขามันอ่อนล้าเสีย
จนน่ารำคาญ
   “เมื่อคืนริวจังเมามากเลยน้า”

   นั่นสินะ…แล้วเจ้านี่รู้ได้ยังไง…

   …หรือว่าเจ้านี่ก็เห็นตอนที่เขาเมาด้วย…

   “ลูซมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ”

   เจ้าบ้านี่ช่างเหมือนกับภูตผี นี่อ่านใจเขาออกหรือไงกัน ถึงได้รู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร

   “แล้วลูซก็เป็นคนอุ้มริวจังขึ้นมาด้วยน้า”

   “!!!”

   ดวงตาคมเบิกกว้าง เขามองหน้าลูซ ไม่อยากจะคิดสภาพของตัวเองที่โดนอุ้มขึ้นมาบนห้อง

   …แต่เดี๋ยวนะ! ไอ้กะเทยโรคจิตนี่อุ้มเขาขึ้นมา แล้ว…แล้วเขาโดนทำอะไรหรือเปล่า!...

   “นาย…นายทำอะไรฉันหรือเปล่า!”

   ริวเข้าไปกระชากคอเสื้อของลูซ ร่างสูงแสยะยิ้มอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเอียงคอให้ดูน่ารัก แต่ในสายตาของริว มันดูน่า
ต่อยให้หน้าพังเสียมากกว่า

   “แล้วริวจังคิดว่าลูซทำอะไรล่ะ คิคิ”
   หนอย…ไอ้บ้านี่มันกำลังกวนประสาทเขา

   ริวหายใจเข้าปอด พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ถ้าให้สู้กับเจ้าตัวใหญ่ในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาสู้ไม่ไหวอย่างแน่นอน

   “บอกมา!”

   เขาพยายามเค้นเสียงถาม ลูซอมยิ้ม แล้วเอ่ยตอบอย่างมีความสุข

   “ลูซก็แค่ถอดเสื้อผ้าริวจัง…”

   “ฮะ!!!”

   คนตัวเล็กอ้าปากค้าง ลูซหัวเราะคิกคัก

   “แล้วก็ใส่เสื้อผ้าให้ริวจัง”

   “แล้วระหว่างที่แกถอดเสื้อผ้าฉัน แกทำอะไรบ้างห๊า!”

   ชายหนุ่มตัวเล็กแทบจะสติแตก เขากระชากคอเสื้อของลูซอย่างแรง จนใบหน้าสวยเคลื่อนเข้ามาใกล้

   จุ๊บ!
   “!!!”

   ริงเบิกตากว้างเมื่อคนตัวโตจูบเข้าที่ริมฝีปากเล็กอย่างรวดเร็ว

   …ไอ้กะเทยชอบฉวยโอกาส…

   ถ้าริวเป็นผู้หญิง เขาคงจะกรี๊ดลั่นห้องไปแล้ว เขาอยากจะต่อยหน้าไอ้กะเทยบ้านี่ให้แรงๆ แต่ว่า…เขาก็ไม่อยากให้หน้า
สวยๆ นี้ต้องบาดเจ็บ

   …ก็…เขาชอบคนสวย แต่…ไม่ใช่ผู้ชาย!

   “ลูซก็แค่เช็ดตัวให้ริวจังเท่านั้นเอง…”
   “แค่นั้น…จริง ๆ น่ะเหรอ…”

   พอเห็นรอยยิ้มที่ไม่ดูเหมือนว่าจะแค่นั้น ก็ทำให้ริวแทบจะปรี๊ดแตก

   “บอกฉันมา! ว่าแกทำอะไรฉันอีกบ้าง!”

   “แหม…ริวจังเนี่ย ชอบโมโหจังเลยน้า ระวังจะไม่หล่อน้า”
   “นั่นมันเรื่องของฉัน ฉันบอกให้ตอบ แกก็ตอบคำถามฉันมา”

   “อืม…อยากรู้จริง ๆ เหรอ…”

   “ก็ใช่น่ะสิ”

   “!!!”

   ลูซให้การกระทำแทนคำพูด เขาเลื่อนมือไปถกเสื้อของริวอย่างรวดเร็ว เสื้อนอนตัวบางถูกเลิกขึ้นจนถึงแผ่นอก

   “ทำบ้าอะไรของแกห๊า!”

   เขากระชากมือใหญ่ออก แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะแรงของลูซเยอะกว่า ลูซพูดอย่างอารมณ์ดี

   “ก็ริวจังอยากรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าลูซทำอะไรบ้าง”

   ใจหนึ่งก็อยากรู้  แต่อีกใจเขาก็กลัวว่าตัวเองจะรับไม่ได้ ริวกรอกตาคิดอย่างสับสน ใบหน้าหล่อน่ารักดูเครียดและคิดมาก
แต่มันก็น่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาของลูซ
   “ลูซไม่ได้ทำอะไรริวจังมากมายหรอกน้า แค่ขอค่าตอบแทนนิดๆ หน่อยๆ ก็เท่านั้นเอง”

   นิดหน่อยของริวกับลูซนั้นต่างกัน ชายหนุ่มพยายามจะหยุดคิด เพราะเขาไม่อยากจะรับรู้ว่าเขาเสียเปรียบไปกะเทยโรคจิต
นี่ไปมากขนาดไหน

   …ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว…โยนมันทิ้งไป มันอาจจะดีต่อเขามากที่สุด ไม่อย่างนั้น เขาอาจจะเป็นฝ่ายที่เครียดหนัก ที่ต้องไปรับรู้
ว่าเสียท่าไอ้คนตรงหน้านี้ไปมากแค่ไหนแล้ว…
   “ช่างเถอะ นายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”


   “ไม่ได้หรอกน้าริวจัง ลูซจะเข้ามาดูแลริวจัง…ให้ริวจังดูแลลูซเถอะน้า ลูซจะดูแลริวจังเป็นอย่างดี”

   “ดูแล! ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เดี๋ยวแค่ไปอาบน้ำก็ อ๊ะ!”
   คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เมื่อผ้าห่มที่คุมกายถูกเลิกเปิดออก ก่อนที่มือใหญ่นั้นจับเข้าที่ใจกลางลำตัวของเขาอย่างรวดเร็ว
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง

   “ทำบ้าอะไรของแกห๊า!!!”

   “แหม…ก็เช้าๆ แบบนี้ ริวจังตื่น ริวจังน้อยก็ตื่นเหมือนใช่ม้า”

   พลัก!

   ริวผลักลูซออกอย่างแรง มันก็เป็นปกติ ที่ตื่นนอนมาแล้วส่วนล่างจะตื่นตัว แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ เจ้าบ้านี่มันลวนลามร่างกายของเขาได้ง่ายเกินไปแล้ว

   “ออกไปจากห้องฉัน!”

   “หืม…จะให้ออกไปได้ยังไง ลูซต้องดูแลริวจัง”

   “ดูแล! ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรต้องดูแล..”
   “จริงเหรอ?”

   “ก็จริงน่ะสิ อ๊ะ!”

   ริวร้องเสียงหลง เมื่อลูซดึงกางเกงนอนให้ต่ำลงพร้อมกับกางเกงใน เผยให้เห็นความเป็นชายที่ตื่นตัวและเริ่มแข็งขืน

   “นะ นี่แก…”
   “ตรงนี้ของริวจัง..ต้องการการดูแลนี่นา”

   ลูซพูดอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมกับขยิบตาให้ ริวใจเต้นรัว เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมร่างกายถึงได้แข็งทื่อไปหมด ปล่อยให้
มือใหญ่นั้นลูบไล้แท่งเนื้อของเขา

   “ยะ หยุดนะ”

   ทั้งที่คิดว่าตัวเองกำลังห้ามออกไปเสียงดัง แต่ในความเป็นจริงมันช่างแผ่วเบานัก ลูซกระตุกยิ้ม เริ่มขยับมือรูดชักแก่นกาย
เล็ก
   “อะ อึก”

   มือบางขยุ้มเข้ากับผ้าปูเตียง ใบหน้าหล่อเริ่มเห่อร้อน เขาอยากจะขยับกายหนี แต่สัมผัสที่ได้รับจากลูซมันก็สร้างความรู้สึก
แปลกๆ

   “ขอชิมนะริวจัง”
   “!!!”

   ชายหนุ่มตกใจกับคำขอ ใบหน้าสวยนั้นหันมามองอย่างออดอ้อน ริวหลงเคลิ้มไปชั่วขณะ

   …ก็สวยมากจริงๆ…

   “อ่า…”
   เขาเริ่มเคลิ้ม เมื่อได้รับสัมผัสจากลิ้นที่อ่อนนุ่ม ริวหลับตาลง ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น ลิ้นสวยนั้นกำลังลากเลียไปตาม
ความยาวของแก่นกาย ดวงตาคมปรือมองอย่างยั่วยวน ลูซลากลิ้นต่ำลงมาที่พวงเนื้อที่อยู่ใต้ส่วนที่ตั้งชัน

   “อะ อึก”

   สัมผัสที่ได้รับสร้างความเสียวกระสันจนเกินบรรยายได้ ชายหนุ่มเคลื่อนปากมาดูดเม้มที่ส่วนหัวของแท่งเนื้อ ริวกระตุกเกร็ง
เพราะเขาเสียวจนแทบจะบ้า ความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมือใหญ่นั้นรูดชักส่วนโคนไปพร้อมกันกับลิ้นร้อนที่ระรัวลงที่ปลาย
ยอด
   จ๊วบ จ๊วบ

   ลูซดูดส่วนหัวของแก่นกายจนได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบ เขาเอ่ยเสียงพร่าอย่างปลุกเร้าคนตัวเล็กให้ได้เขินอาย

   “กำลังพอดีคำเลยริวจัง”

   “อึก…”

   ริวหันหน้าหนี ความคิดทุกอย่างเหมือนหลุดหายไป อยากจะผลักไสร่างตรงหน้า แต่ก็เหมือนไม่มีแรง มือพยายามจะยื่นไป
ดันกายสูงให้ออกห่าง แต่มันก็เหมือนว่าร่างนั้นอยู่ไกลเหลือกิน

   “อ๊า…”

   สุดท้ายก็เผลอปล่อยเสียงครางหวานออกมาจนได้ เมื่อปากสวยนั้นครอบครองตัวตนของรูดจนสุดโคน เขารูดปากขึ้นลงจนเกิดเสียงสวบสาบ

   “อะ อื้อ อึก”

   …เสียว…จนแทบจะคลั่ง…

   ยิ่งได้เห็นใบหน้างดงามที่กำลังหยอกเย้ากับช่วงล่างของเขา ริวก็ใจเต้นรัวไม่หยุด ลูซเองก็ปรนเปรอแก่นกายเล็กจนถึงใจ

   “มะ ไม่ ไหว พอ พอ ออกไป”

   ปากก็พยายามจะเอ่ยไล่ เพราะร่างกายของเขาตอบสนองต่อสัมผัสของชายหนุ่มจนน่ากลัว พอคิดว่าความสุขสมนี้ได้รับ
จากเพศเดียวกัน ริวก็แทบจะทนไม่ได้ เขาพยายามดันร่างของลูซให้ออกห่าง แต่ลูซก็ไม่ยอมง่ายๆ ริวเองเหมือนจะหมดแรง เมื่อ
ปากร้อนนั้นดูดเม้มอย่างหนักหน่วง
   “อะ อ๊ะ อ๊า!!”

   กายบางกระตุกเกร็งพ่นฉีดน้ำรักขาวขุ่นเข้าไปในโพรงปากร้อน ลูซผละปากออกมา เขากลืนน้ำในปากลงคออย่าง
เอร็ดอร่อย ริวนั่งหอบหายใจ ใบหน้าแดงก่ำปรือตามองชายหนุ่มที่เลียมุมปากที่เปื้อนน้ำรัก ลูซมองคนตัวเล็กด้วยสายตาที่
เร่าร้อนพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

   …ก็บอกแล้ว…ว่าลูซจะดูแลริวจังเป็นอย่างดี…

   …ดีจนถึงใจเลยใช่ไหมล่ะ…ริวจัง…

100%
ขอฝากเพจด้วยน้า https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ขอแปะเรื่องเรื่องๆ ที่อัพที่เล้านะคะ
 
'Royal tiger สามีผมเป็นเสือ' http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53735.msg3378907#msg3378907

 คุณพ่อครับ...มาเป็นเมียผมเถอะ  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52889.msg3378912#msg3378912

ออฟไลน์ nekochan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตายๆๆๆๆ คู่ผัวตัวเมียนี่เร้าร้อนสุดๆ 55555
หนูริวสามี?เกือบเสร็จภรรยาสุดสวยซะและ55555555555555 รอๆต่อไปค่าา อยากรู้ว่าริวจะรักว่าที่ภรรยาอย่างไง  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :a5:

ตายละ ลูซดูแลงี้ สามีไม่หมดแรงทุกเช้าเลยเหรอค้าาาาาาา  :o8:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 3 นางฟ้า
«ตอบ #21 เมื่อ16-05-2016 00:00:08 »

สนุกดี พระเอกหน้าหวานแต่สูง แอ๊บติงต๊องเวลาอยู่ต่อหน้ารึเปล่า?  :hao3:

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :m3: อร๊ายยยยย ริวจังเอ๋ย นายเสร็จลูซแน่
แหมลูซจ๊ะ เรานี่ร้ายเดียงสาเจงๆเยย  :teach:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตำแหน่งสะใภ้คงมีการเปลี่ยนแปลง

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่ารักจังงงง

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 5 ดินเนอร์
«ตอบ #26 เมื่อ19-05-2016 22:12:18 »

5
ดินเนอร์




   ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับริวมันเหมือนโดนสวรรค์กลั่นแกล้ง ใครจะไปคิดว่าเป็นผู้ชายคาสโนว่า อยู่ดีๆ ก็ต้องมาถูกจับคลุมถุง
ชนให้แต่งงาน แต่นั่นก็ไม่ร้าวรานเท่ากับการที่เขามีเจ้าสาวตัวสูงใหญ่ และที่สำคัญ…ยังเป็นผู้ชาย!!!

   ผมนิ่มถูกมือเล็กยกขึ้นมาขยี้อย่างลวกๆ คิดสภาพไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปในหลังจากนี้ แค่คิดว่าถ้ากลับบ้านแล้ว
ต้องไปเจอหน้าของคนคนนั้น ริวก็แทบจะบ้าตาย

   …ไอ้กะเทยโรคจิต…   

   คำนิยามคำเดียวของริวที่มีต่อลูซคือคำคำนี้ เขาเอนกายพิงพนักพิงของเก้าอี้ตัวนุ่ม เปลือกตาปิดลง อยากให้จิตใจผ่อนคลายลืมเรื่องที่ต้องคิดมาก

   “มะ ไม่ ไหว พอ พอ ออกไป”

   “อะ อ๊ะ อ๊า!!”

   ริวสะดุ้งลืมตา ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่หลับตาแล้วเผลอหลับไป ภาพความทรงจำเลวร้ายจะย้อนกลับเข้ามาในความคิดของ
ตน แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่เขาจำใบหน้างดงามได้ตราตรึงในหัวใจ

   …ทำไมใบหน้าที่งดงามนั่นต้องไปอยู่บนร่างที่เป็นผู้ชาย…

   …แถมยังเป็นผู้ชายลามกเสียอีก…
   “เฮ้อ…”

   เขาไม่อยากสติแตกมากกว่านี้แล้ว ริวเหลือบตามองเวลา นาฬิกาบอกเวลาเลิกงานแต่เขายังไม่อยากจะกลับบ้าน

   …บ้านที่มีไอ้กะเทยโรคจิตอาศัยอยู่ในตอนนี้…

   “โทรหาไอ้โยดีกว่า”

   จะเรียกว่ายังไม่เข็ดก็คงจะได้ ถึงวันนั้นเขาจะเมากลับไปเลยทำให้พลาดพลั้งเสียท่าให้กับลูซ แต่ครั้งนี้จะไม่มีอีกแล้ว เขา
จะไม่ดื่มจนเมามาย ยังไงเขาก็ต้องกลับบ้านอย่างรอดปลอดภัย

   “รับสายสักทีสิวะ”

   คนใจร้อนยังคงกระวนกระวายใจ เขากำลังหาทางหนีออกจากความวุ่นวายที่มีอยู่ในตอนนี้ ริวยันกายลุกขึ้น เดินวนไปมาใน
ห้อง เขารู้สึกกระสับกระส่ายจนแทบจะทนไม่ได้ พอเพื่อนสนิทไม่ยอมรับสาย เขาก็แทบจะปาโทรศัพท์มือถือ

   “ไอ้เพื่อนเลวเอ้ย”

   ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ใจก็ไม่ได้เกลียดวาโยอย่างจริงจัง เขาแค่รู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น

   “ไปคนเดียวก็ได้วะ”

   ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเขาจะเดินทางท่องเที่ยวราตรีในยามค่ำคืน ริวหมุนกายจะเดินออกจากห้อง แต่ทว่าเสียงโทรศัพท์มือถือ
ที่ดังขึ้น ทำให้เขาต้องรีบหยิบมากดรับสาย

   “ฉันโทรไปตั้งนาน ทำไมแกไม่รับ!”

   แทบจะตะคอกลงไปในโทรศัพท์ เพราะคิดว่าคนที่โทรกลับมาต้องเป็นวาโยเพื่อนรักของเขาแน่ๆ


   [โวยวายอะไรกันตาริว นี่แม่เอง]
   พอได้รับรู้ว่าเป็นเสียงมารดา ริวก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รู้สึกกลัวเกรงกับน้ำเสียงนั้นขึ้นมาทันที เขาพอจะรับรู้ได้ว่า

มารดาเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อยที่เขาไปหงุดหงิดใส่

   “คุณแม่เองเหรอครับ ผมนึกว่าไอ้โย”

   [ก่อนรับสายก็ดูรายชื่อก่อนสิ]
   “ขอโทษครับ”

   เขาต้องรับผิดไปโดยปริยาย ไม่อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้นไปได้  ริวแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่

   “แล้วคุณแม่โทรมามีอะไรหรือเปล่าครับ?”

   [นี่เราลืมนัดไปแล้วหรือไง?]

   “นัด? นัดอะไรครับ?”

   คนเป็นลูกชายทำหน้างงหนัก เขาไม่รู้ว่าเขาไปนัดอะไร ยังไง ในขณะที่ราตรีเริ่มจะเคืองเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

   [ก็วันนี้ ลูกนัดลูซไปทานมื้อเย็นไงจ๊ะ]

   “ห๊า!!!”

   เขาไม่เคยจำได้ว่าไปนัดไอ้กะเทยตัวใหญ่นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอเอนกายนั่งคิดดีๆ เขาก็จำได้ขึ้นมาว่าเขาไม่ได้ออกปาก

นัดเจ้านั่น แต่คุณแม่ของเขาต่างหากที่คะยั้นคะยอในตอนเช้าให้เขาพาลูซไปดินเนอร์กันนอกบ้าน เขาเองก็อยากจะออกจากบ้าน
ไวๆ เลยได้แต่เออออ ตอบกลับไปอย่างส่งๆ แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นว่ากำลังหาเรื่องเข้าตัว
   …แล้วจะได้ไปเที่ยวไหมวะเนี่ย…


   จากเป้าหมายที่คิดว่าจะออกไปเจอสาวสวยสักคน กลายเป็นต้องกลับมาคิดหนักว่าจะรับมือผู้ชายตัวใหญ่นั้นได้อย่างไร

   [รีบกลับมาแล้วกัน น้องรออยู่]
   “ครับ”

   สุดท้ายก็เอ่ยตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้ เขายกมือกุมขมับตัวเอง รู้สึกเหมือนอยากจะตายวันละร้อยหน

   “ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ!”

   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เขาหลับตาอยู่และไม่คิดจะลืมตา หยิบโทรศัพท์ขึ้นรับสาย และคิดว่าคนที่โทรมาคือมารดา

   “ครับๆ ผมรู้แล้วครับ จะรีบกลับไปรับสะใภ้คุณแม่ไวๆเลยครับ”

   [อะไรกันวะ ฉันไปเป็นแม่แกตอนไหน]

   เสียงขบขันนั้น ริวจำได้ขึ้นใจว่าคือวาโย เขาพ่นลมหายใจแรง แล้วเริ่มระบายความหงุดหงิดใส่เพื่อนตัวสูงผ่านสาย
โทรศัพท์

   “แกนะแก! ทำไมถึงเพิ่งมาโทรเอาป่านนี้!”

   [เอ้า ไอ้นี่ ฉันก็ยุ่งบ้างดิวะ เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเนี่ย โทรมามีอะไร]

   “เออ แค่อยากจะชวนไปสังสรรค์สักหน่อย แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว ฉันคงต้องถ่อกลับบ้านไปรับไอ้กะเทยโรคจิตนั่นมากิน
ข้าว”

   [โห ชีวิตแกดูน่ารันทดใจจริงๆ]


   “ก็เออน่ะสิ ไม่ต้องมาสมเพชฉันเลย ไอ้เพื่อนเลว”
   [อ้าว พอหงุดหงิดแล้วพาลนี่หว่า]

   “ถ้าช่วยหาทางแก้ให้กันไม่ได้ ก็ต้องพาลนี่ล่ะ”

   เหมือนคำตอบนั้นจะเป็นการบอกให้วาโยช่วยหาวิธีทำให้เขาหลุดพ้นจากลูซ วาโยถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายังไม่เคยเห็น
หน้าของลูซเลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไร

   [เออๆ ก็กำลังช่วยคิดอยู่นี่ไง]

   “ทำไงดีวะ”

   การสื่อสารกันผ่านเสียงตามสาย มันช่างน่ารำคาญ เขาอยากไปนั่งจับเข่าคุยกับวาโยเลยมากกว่า งานนี้ต้องพยายามหา
แผนการมาขัดขวางล้มเลิกการแต่งงานให้ได้

   “คิดออกยังวะ”

   ริวใจร้อน ในขณะที่วาโย แทบจะกุมขมับคิด ใครมันจะไปคิดออกกับในเวลาอันสั้นแบบนี้

   [คิดไม่ออกโว้ย]

   “แม่งเอ้ย คิดไม่ออกก็ไม่ต้องมาคุยกันเลยนะ แค่นี้ล่ะ ฉันต้องกลับบ้านแล้ว”

   เขาวางสายจากเพื่อนรัก ริวไม่ได้โกรธเคืองอะไรวาโย เพียงแต่ว่าตอนนี้เขากำลังคิดไม่ตก เขาออกจากห้องทำงานของตัว
เอง เพื่อขับรถมุ่งตรงกลับบ้าน

   ถึงแม้จะไม่อยากจะทำกลับไปหาผู้ชายตัวสูงหน้าสวย แต่สุดท้ายเขาก็พาร่างตัวเองมาหยุดอยู่ใจกลางบ้าน

   “กลับมาแล้วเหรอลูก”

   พอเห็นหน้าลูกชาย ราตรีก็พุ่งมาหาริวทันที ใบหน้าที่ดูเบื่อโลกของริวไม่ได้ทำให้ราตรีรู้สึกไม่พอใจ เธอดึงแขนลูกชายให้
เดินมานั่งที่โซฟา

   “แล้วเจ้านั่น”

   “หมายถึงลูซ?”

   “ครับ แล้วว่าที่สะใภ้ของคุณแม่ไปไหนล่ะครับ ไม่ใช่ผมจะต้องมานั่งรอ”

   “แหม…อยากจะน้องขนาดนั้นเชียว”

   ท่าทางที่ดูพอใจของราตรี ไม่ได้ตรงกับความจริงในใจของริวเลยแม้แต่น้อย ริวพรูลมหายใจอย่างเซ็งจัด เขาไม่อยากมา
นั่งรอกะเทยโรคจิตสักเท่าไหร่

   “ริวจังงงงง”

   เสียงเรียกยานคางนั้น ฝังอยู่ในความทรงจำของริวไม่เสื่อมคลาย เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ร่างกายสูงใหญ่ในชุด
สีชมพูนั้นทำให้เขาหายใจติดขัด
   ลูซอยู่ในชุดสีชมพูหวาน เขาสวมกางเกงขายาวรัดรูปสีขาวสะอาดตา เสื้อสีชมพูนั้นเป็นคอวีเว้าเห็นแผ่นอกขาวเนียน ยิ่ง
ขับผิวกายของลูซให้งดงาม ไหนจะผมสีทองที่ไม่ได้ถูกมัด แต่ปล่อยให้ลู่ไปตามโครงหน้า ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเหมือนสะกดริว
เอาไว้

   …สวยมาก…

   ใบหน้าที่งดงามนั้นทำให้ริวใจเต้นแรง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่า คนตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้หญิง แถมร่างกายนี้ยัง
สมชาย ไม่ได้เข้ากับใบหน้าที่สวยราวนางฟ้าเลยสักนิด

   “ดูแลน้องด้วยนะริว”
   “ครับแม่”

   แม้ไม่อยากจะตอบรับ แต่เขาก็รับปากไปจนได้ ริวยันกายยืนขึ้น ลูซส่งยิ้มหวานมาให้ เขารู้สึกสยองพิลึก แต่ก็ไม่ได้พูด
อะไรออกไป

   “!!!”

   เขาเบิกตากว้าง เมื่อลูซเข้ามาควงแขน ริวเงยหน้ามองคนตัวโต แล้วก็เห็นรอยยิ้มส่งมาให้

   …น่ากระทืบให้ตาย…

   แต่ด้วยขนาดตัวที่ตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองยังสู้ลูซไม่ไหว ก็ลูซไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กสักนิด

   “ปล่อยสิ”
   “ไม่เอา ลูซอยากควงแขนริวนี่นา”

   ไม่ว่าเปล่า แต่ศีรษะนั้นกลับเอนมาซบไหล่เล็ก ริวกลอกตาไปมาอย่างเอือมระอา อยากจะทำอะไรสักอย่างกลับไป แต่ก็ทำ
อะไรไม่ได้ นอกจากพรูลมหายใจออกมาอย่างเซ็งจัด

   “แต่ฉันรำคาญ”

   “คิคิ”
   แทนที่จะสำนึก ลูซกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน นั่นทำให้ริวแทบอยากจะบ้าตาย เขาไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเพราะยังอยู่ในบ้าน
รอให้ออกจากบ้านก่อนเถอะ…เดี๋ยวได้รู้เรื่องกัน!   

   แม้จะรำคาญผู้ชายข้างๆมากแค่ไหน แต่ริวก็ยังข่มใจเอาไว้ เขาพยายามขับรถต่อไปโดยที่พยายามจะไม่ใส่ใจ ในใจก็เริ่ม
วางแผนที่จะพาให้ผู้ชายตัวสูงแถมยังลามกนี้อยู่ห่างๆ ถ้าให้ดีคงต้องบอกว่าให้ออกไปจากชีวิตของเขาไปเลย แต่ทุกอย่าง
เหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่นิดเดียว

   “ริวจัง จะพาลูซไปร้านไหนเหรอ?”

   ท่าทางตื่นเต้น แถมยังหันมาฉีกยิ้มหวาน พาให้ริวใจสั่น ไม่ได้สั่นเพราะหวั่นไหว แต่เป็นเพราะหวาดกลัวเสียมากกว่า ไม่รู้
ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แค่คิดก็เริ่มอยู่ไม่สุขเสียแล้ว

   สัญญาณไฟแดงที่ยาวนานในยามเย็น ยิ่งพาให้ริวเครียดหนัก ลูซหันซ้ายหันขวา แล้วมองหน้าคู่หมั้นของตน

   “หาอะไรของนาย”

   เมื่อทนความสงสัยไม่ไหว ริวก็ถามออกไป ลูซขยับกายเข้าไปใกล้ริว เขากระซิบข้างใบหูเล็ก

   “หาน้ำดื่ม”

   คำตอบนั้นทำให้ริวสะดุ้งแทบจะสุดตัว เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนว่ากำลังตกใจอะไรกันแน่ อาจเป็นเพราะคำว่า ‘น้ำ’ ที่ลูซ
พูดขึ้นนั้นมาพร้อมกับฝ่ามือร้อนที่สัมผัสเข้าที่ใจกลางลำตัว

   สัญญาณจราจรที่เปลี่ยนไป ทำให้ริวสะดุ้งตัวได้สติ เขารีบเหยียบคันเร่งทันที ลูซหัวเราะในลำคอแล้วถอยกายออกห่าง แค่
เห็นหยาดเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าหล่อ เขาก็พอจะเข้าใจความกลัวของคนตัวเล็ก

   ลูซแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เพราะยังไง เขาก็อยากให้ริวพาเขาไปดินเนอร์ในที่ที่น่าจดจำ

   การเดินทางใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก ในที่สุดริวก็พาลูซมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง พอรถยนต์จอด ริวก็รีบลงจากรถทันที
ประหนึ่งว่าเขาไม่อยากจะอยู่ใกล้กับลูซให้มากไปกว่านี้ แต่คนตัวสูงก็ไม่ได้คิดมาก เขารีบออกจากรถเพื่อเดินตามคนตัวเล็ก ริว
ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสีชมพู

   “ริวจัง รอลูซด้วยสิ”

   ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ขายาวๆ ก้าวเพียงไม่เท่าไหร่ก็ทันริวแล้ว นั่นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวได้แต่เบ้หน้าอย่างเซ็งจัด

   …ยังไงวันนี้เขาก็ต้องสลัดเจ้ากะเทยโรคจิตนี่ออกห่างให้ได้…

   ความตั้งใจของริวไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เขาเดินตรงไปด้านใน เพื่อเข้าไปยังห้องอาหารที่มารดาเขาจัดการไว้ให้เสียเสร็จสรรพ

   …อะไรจะเอ็นดูว่าที่ลูกสะใภ้ขนาดนั้น…

   ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งเคือง ชีวิตเขาต้องพังลงก็เพราะผู้ชายตัวใจแต่หน้าสวยงามราวกับนางฟ้า ยิ่งได้เห็นหน้าที่พาใจเขาใจสั่น
เพราะความงามที่แสนถูกใจแล้ว ริวก็ยิ่งเคืองและหงุดหงิดมากกว่าเดิม

   “ริวจัง”

   พอได้ยินเสียงใกล้ๆแล้วก็ยิ่งรำคาญ แขนใหญ่ยาวนั้นเข้ามาควงแขนของริว

อย่างมีความสุข ทั้งๆที่ขนาดตัวของทั้งคู่นั้นช่างแตกต่าง ริวเหลือบตามองผู้ชายที่ตัวสูงใหญ่ในชุดสีชมพู เขาจับแขนของลูซอ
อกไปให้ห่างจากร่างกาย

   “เกะกะ”


   “อะไรกันริวจัง ว่าว่าที่ภรรยาตัวเองได้ยังไง”

   ลูซไม่เอ่ยเปล่า แต่กลับขยับร่างเข้ามาจนจมูกโด่งสวยแทบจะชนกับแก้มเล็ก ริวถอนหายใจแรง


   “ไปไกลๆเลยไป”
   แทบจะตะคอกใส่ แม้เขาจะตัวเล็กกว่าลูซ แต่ก็ใช่ว่าจะเตี้ยจนด้อยมาตรฐานชายไทย ลูซมองริวที่เดินกึ่งวิ่งหนีเขา แทนที่
คนตัวสูงจะไม่พอใจ เขากลับแย้มยิ้มอย่างมีความสุข

   “รอด้วยสิริวจัง”


   ความตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ถึงแม้ริวจะผลักไสลูซมากแค่ไหน แต่ลูซก็ไม่คิดจะยอมแพ้หรือว่าถอยห่างออกมา ชายหนุ่มเดินอมยิ้มจนมาถึงโต๊ะอาหารที่จองเอาไว้ ที่โรงแรมนี้นอกจากจะเปิดให้พักบริการแล้วยังมีบริการอาหารรสชาติยอดเยี่ยมอีกด้วย


   “ริวจังอยากกินอะไรเหรอ?”   
   ลูซถามทันที เมื่อหยิบเมนูอาหารขึ้นมา ริวเหลือบตามองเมนูตรงหน้าแล้วไม่อยากจะใส่ใจ แต่ร่างกายมันก็กำลังเรียกร้อง
บอกเขาว่าหิว


   “เอา…”

สุดท้ายริวก็สั่งตามที่ใจอยากสั่งไปจนได้ ตอนแรกเขากะว่าจะพาลูซมาปล่อยที่นี่แล้วก็ชิ่งหนี แต่เขาเองก็ขับรถมาพักใหญ่ ร่างกายก็ล้าพอสมควร อยากจะหาอะไรลงท้อง


…กินให้เสร็จแล้วค่อยหนีก็ยังได้…
ริวตั้งใจว่าจะรีบทานให้เสร็จ แล้วก็พยายามหาหนทางทิ้งลูซเอาไว้ที่ร้านเพียงคนเดียว

อาหารน่าทานถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ คนที่ดูท่าทางดีใจจนเกินหน้าเกินตาไม่ใช่ใคร นั่นก็คือลูซ

“ดีใจจังเลย ได้มาดินเนอร์กับริวจัง”


ไม่เพียงแค่พูด แต่สมาร์ทโฟนราคาแพงก็ถูกหยิบขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมจะถ่ายรูปอัพลงโซเชียล

   “ทำอะไรของนาย!”


   ริวทนไม่ไหว รีบคว้าโทรศัพท์มือถือจากมือของลูซในทันที คนตัวสูงหน้าจ๋อยไปถนัดตา แต่เพียงแค่ครู่ก็คลี่ยิ้ม
   “ริวจังอายเหรอ?”

   “ถามบ้าๆ ใครมันจะไม่อาย”
   ที่อายก็เพราะว่าเขาต้องมาทานมื้อเที่ยงกับผู้ชายตัวใหญ่ แต่ท่าทางกระตุ้งกระติ้ง ถ้าใครมาเห็นจะคิดว่าเขารสนิยมแปลก

ไปคบกับกะเทยก็เป็นได้

   “แหม ไม่เห็นจะต้องอายเลย คนรักกัน เป็นแฟนกัน ก็ต้องมาดินเนอร์ ถ่ายรูป แล้วอัพอวดคนอื่นอยู่แล้วนี่นา”
   คำกล่าวนั้นทำให้ริวอารมณ์ขึ้น เขาโกรธจนหน้าแดงก่ำ แต่ในสายตาของลูซ ริวช่างน่ารักน่าชัง จนเขาอยากจะรั้งคนตรง
หน้าเข้ามากดจูบหนักๆที่ริมฝีปากสวย

   “ไม่น่าริวจัง อย่าโกรธสิ”

   ยิ่งได้ยินเสียงเหมือนจะอารมณ์ดีของลูซ ริวก็ยิ่งโมโห ชายหนุ่มตัวสูงหั่นเนื้อในจานตัวเองแล้วใส่ลงบนจานของริว
   “ลูซให้น้า ริวจังอย่าหงุดหงิดนะ เรามาดินเนอร์กัน”


   รอยยิ้มสวยส่งมาให้ไม่หยุด ยิ่งได้มองใบหน้างดงามที่ประดับด้วยรอยยิ้ม ริวก็ยิ่งรู้สึกแปลก เขาสูดลมหายใจเข้าปอด
พยายามไม่คิดมาก แต่ก็ยากเหลือเกินที่จะต้องทำใจให้มาร่วมดินเนอร์กับคนที่เขาไม่ชอบใจ แต่ถึงกระนั้น รอยยิ้มสวยของลูซก็
ทำให้ริวเคลิ้มไปชั่วขณะ ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้น มันเลยเริ่มจะหายไปบ้าง
   “อร่อยเนอะ ริวจัง”

   “อ่า อืม”   

   เขาไม่รู้จะสนทนาไปทำไม จึงได้แต่ตอบรับลูซที่พยายามหาเรื่องชวนคุยกับเขา เขาอยากทานให้อิ่มแล้วจะได้หนีไปจา

กลูซได้เร็วๆ


   “อ๊ะ ริว”

   เสียงใสๆ นั้นเรียกให้ริวต้องเงยหน้าจากจานอาหาร หญิงสาวตัวเล็ก หน้าอกใหญ่โต ใบหน้าน่ารักนั้น

ลูซดูก็รู้ว่าคงไม่ใช่น้อย…หมายถึงเงินที่ทำหน้าไป

   “อ่า…จินนี่”

   จินนี่เข้ามาโอบกอดไหล่ของริว เธอแทบจะเอียงหน้าซบใบหน้าหล่อ ลูซมองทุกอย่างด้วยท่าทางที่นิ่งเฉย แต่ดวงตาที่เคยฉายแววซุกซน ในยามนี้กลับนิ่งสงบจนริวแปลกใจ

   “แหม มาดินเนอร์กับกะ เอ้ย ใครคะเนี่ย หน้าสวยจังเลยนะคะ”
   จินนี่รู้ดี ว่าริวเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงหน้าสวย เธอเองก็ไม่ได้สวยจนตรึงใจใครได้ แต่ก็ไม่ได้หน้าตาแย่ เพราะเธอเองก็ให้
หมอศัลยกรรมช่วยไว้ตั้งหลายแสน ไหนจะหน้าอกหน้าใจที่เสริมเข้าไปจนใหญ่เกินความพอดีของตัวเธอ

   “เอ่อ คือ”

   สถานการณ์ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยดีนัก ริวเองก็ไม่รู้จะอธิบายกับจินนี่ว่าอย่างไร ที่จริงเขาก็ไม่ได้หลงรักหรือหลงเสน่ห์หญิงสาว
จนมากมาย  ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเท่านั้น  แต่ตอนนี้ในเมื่อเธอมาอยู่ตรงนี้แล้ว เขาก็ควรจะใช้เธอ
ให้เกิดประโยชน์เสียหน่อย

   “อ๊ะ”

   จินนี่แปลกใจที่อยู่ๆริวก็รั้งเธอไปนั่งตัก แต่เธอก็ยินดีที่จะตอบสนองริวในทันที วงแขนเล็กเลื่อนเข้าไปโอบกอดคอของริว

เอาไว้ พร้อมกับส่งสายตาเชิญชวน
   “ทีนี้ นายก็ตัดใจจากฉันได้แล้ว เพราะฉันมีแฟนอยู่แล้ว”

   พอได้ยินแบบนั้น แทนที่จะได้เห็นใบหน้าที่ผิดหวังของลูซ กลับเป็นรอยยิ้มสวยที่เผยให้เห็นราวกับคนอารมณ์ดี


   “แหม…พูดอะไรอย่างนั้นล่ะริวจัง เห็นว่าลูซเป็นคนที่ใจง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ…”

   ลูซละสายตาจากริว ไปมองจินนี่ ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว

   “ก็แค่แฟน…แต่ไม่มีโอกาสได้แต่งงานกับริวจัง…ใครกันแน่…ที่ควรจะตัดใจ”

100%
19/5/59

ฝากเพจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/

ขอแปะลิ้งนิยาย -ของอากิ ที่อัพในเล้านะคะ

Play รักเล่น เล่นรัก (3P)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53773.msg3382715;topicseen#msg3382715

 



'Royal tiger สามีผมเป็นเสือ' http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53735.msg3378907#msg3378907

 
คุณพ่อครับ...มาเป็นเมียผมเถอะ
  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52889.msg3378912#msg3378912



สะใภ้ขายาว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53223.0






ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 5 ดินเนอร์
«ตอบ #27 เมื่อ19-05-2016 23:59:47 »

ลูสน่ากลัวเงียบแน่ๆเลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 5 ดินเนอร์
«ตอบ #28 เมื่อ20-05-2016 05:49:54 »

555555 ลูซจะโหดแล้ว

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
Re: สะใภ้ขายาว : Chapter 5 ดินเนอร์
«ตอบ #29 เมื่อ20-05-2016 17:54:12 »

รอค๊า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด