SIDELINE. ผมเป็นเด็กเสี่ย (21.03.21) ตอนพิเศษ อาถรรพ์ดินเนอร์ (1) [Updated]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SIDELINE. ผมเป็นเด็กเสี่ย (21.03.21) ตอนพิเศษ อาถรรพ์ดินเนอร์ (1) [Updated]  (อ่าน 128863 ครั้ง)

ออฟไลน์ made in june

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
ทำไมคุณศานนดูแพรวพราวจังอ่ะ ทรีทดีมากกก แถมแอบเจ้าเล่ห์ด้วย 5555

ไหนๆอะไรก็เปลี่ยนแปลงแล้วอยากให้ตุลย์ได้มีเพื่อนกับเค้าสักที :mew6:

ออฟไลน์ kimkidoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อิพวกนั้นมันจะจองเวรจองกรรมตุลย์ไหมเนี่ย กลัว
คุณศานนนน เค้าบอกชอบกันแล้วววว กริ๊ดดดดดดด
 :o8: :o8:

ออฟไลน์ skyberry

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ลุงงงงงง ออกกำลังด่วน ตุลย์นี่ย้ำเรื่องรูปร่างลุงบ่อยมากเลยอ่ะ :m20:

ออฟไลน์ Caramella

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
[9.2]

นับว่าเป็นโชคดีของเขาที่เรื่องวันนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าสิ่งที่ได้มาจะไม่มีราคาที่ต้องจ่าย...


หูได้ยินเสียงแซ่ดแซ่แว่วมาจากทีวี แต่กลับฟังได้ศัพท์สักประโยคเดียว เมื่อต้องเบนความสนใจส่วนใหญ่มาให้สิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้า 


ตุลย์นั่งคุกเข่าบนพื้นที่เล็กๆ ระหว่างโซฟากับโต๊ะซึ่งพูดได้เต็มปากว่าคับแคบสุดๆ ในขณะที่ใช้ปลายลิ้นดูดดุนครอบครองส่วนที่อุ่นร้อนไว้ในโพรงปากโดยมีอุ้งมือหนาช้อนท้ายทอยไว้ ลูบไล้กลุ่มผมช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนบังคับให้เขาทำจนเสร็จสม ถึงกระนั้นหลายครั้งที่อารมณ์พุ่งสูง ศานนท์ก็มักพลั้งมือหนักจนเกือบทำให้การลูบไล้กลายเป็นขยำ


เขาปรนเปรอหนุ่มใหญ่ด้วยลิ้นสลับกับใช้มือรูดรั้ง ดึงอารมณ์ให้พุ่งสูงจนคนด้านบนปลดปล่อยทั้งที่ยังไม่ได้ถอนกายออกจากปาก 


ธวัตรเคยพูดว่า ในบรรดาลีลาบนเตียงอันแสนห่วยแตก การใช้ปากเป็นอย่างเดียวที่เขาทำได้ดี ซึ่งก็น่าจะจริงเพราะอีกฝ่ายไปถึงเร็วกว่าที่คิด


ตุลย์ผละริมฝีปากออก เบี่ยงหน้าเล็กน้อยเพื่อหลบเจ้าของมือถือทิชชู่ที่หวังซับคราบเลอะๆ ตรงมุมปากให้อย่างหวังดี


“...ผมทำเองได้”


เขาหยิบทิชชู่จากมือฝ่ายนั้น ก่อนจะตรงเข้าห้องน้ำ กลั้วปากล้างเอารสชาติขมเฝื่อนคอออก


ที่จริงแล้ว หากศานนท์ต้องการ มันก็เป็นหน้าที่ที่เขาต้องสนองให้ เสมือนกับราคาที่ต้องจ่ายแลกกับความสะดวกสบายที่ฝ่ายนั้นกระเคนให้ในฐานะเด็กเสี่ย ถ้าไม่ติดว่าเขาเพิ่งจะกลับถึงบ้านหมาดๆ เมื่อห้านาทีที่ก่อน พอถูกเรียกร้องปุบปับ สิ่งที่พอจะนึกออกก็มีแค่นี้


นับว่าโชคดีที่ศานนท์ไม่ดึงดันเหมือนพวกลูกค้า


หลังจากส่องกระจกจนแน่ใจว่าจัดการตัวเองเรียบร้อย ตุลย์ก็ออกจากห้องน้ำ เดินลิ่วๆ อ้อมไปยังบาร์เล็กๆ ตรงมุมห้องนั่งเล่น เปิดตู้แช่ไวน์แล้วสุ่มหยิบหนึ่งในบรรดาขวดเหล่านั้นออกมาโดยไม่สนว่ามันคืออะไร ก่อนจะรินใส่แก้วอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ


ตัวเขาก็แค่คนที่ชอบไวน์เพราะหลงใหลกลิ่นและรสชาติของมัน แต่การชอบดื่มก็ไม่ได้แปลว่าต้องรู้จักไปเสียทุกชนิดสักหน่อย


เขาคว้าแก้วเดินอ้อมโซฟากลับไปหาหนุ่มใหญ่โดยไม่ลืมหิ้วขวดติดมือไปด้วย ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะหน้าคนที่กำลังเอนหลังหลับตาพิงผนักด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ ขณะที่ใช้มือคลายเนคไทไปพลาง 


“ดื่มหน่อยไหมครับ ถ้าคุณไม่ถือ?” เขายื่นแก้วไวน์ที่เพิ่งจิบไปเล็กน้อยให้


ศานนท์ลืมตาขึ้นเนือยๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มจนเห็นริ้วตรงหางตา


“ไม่ล่ะ วันนี้ขอผ่านดีกว่า”


ได้ฟังแบบนั้นเขาก็ชักมือที่ค้างเติ่งกลับ ก่อนจะทรุดตัวนั่งตรงพื้นที่โล่งๆ ข้างหนุ่มใหญ่ที่จุคนเพิ่มได้อีกสามคนสบายๆ


 “...แล้วเธอล่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้าง”


ประโยคนั้นช่างให้ความรู้สึกราวกับพ่อแม่ถามลูกตอนที่กลับจากโรงเรียนเสียจริงๆ...


 “ก็เหมือนทุกวันครับ แค่โชคดีกว่าหน่อย แล้วคุณล่ะ”


“...คงเหมือนเธอ”


เมื่อต่างคนต่างเงียบ ก็เหลือเพียงเสียงทีวี แม้ไม่ถึงกับวังเวง แต่พูดได้เต็มปากว่าบรรยากาศตอนนี้ช่างเปล่าเปลี่ยวเงียบเหงาต่างจากเมื่อตอนเช้าโดยสิ้นเชิง


“แม่บ้านล่ะครับ ไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ?”


ตุลย์โพล่งขึ้นดื้อๆ เพราะตั้งแต่กลับมาเมื่อเย็นก็ยังไม่เห็นวี่แววใครเลยนอกจากเจ้าของบ้าน


“กลับไปตั้งแต่บ่ายแล้วล่ะ  ฉันจ้างพวกเธอให้แค่ให้คอยจัดการเรื่องอาหารเช้า ซักรีด กับงานจิปาถะบางอย่างเท่านั้น ไม่ได้พักที่นี่หรอก”


“งั้นแปลว่าคุณอยู่คนเดียวเหรอ”


“ใช่”


“ไม่เหงาบ้างเหรอครับ?”


ถึงตรงนี้หนุ่มใหญ่ก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเฉไฉเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่ว่าใครก็จับได้ พวกเขาพูดคุยกันต่ออีกแค่สองสามคำ จากนั้นศานนท์ก็เป็นฝ่ายขอตัวลุกขึ้นโดยอ้างว่า ‘ง่วง’


“นี่ก็เริ่มดึกแล้ว เธอน่าจะไปอาบน้ำก่อน แล้ว ‘ที่เหลือ’ ค่อยว่ากันคราวหลัง...”


ไม่พูดเปล่า ยังส่งสายตามาที่แก้วไวน์ในมือเขา ครั้นแล้วอารมณ์ที่กำลังดื่มด่ำก็พาลกร่อยไปทันที


แต่คิดว่าจะบังคับให้เขายอมวางครึ่งค่อนขวดที่เหลือได้ง่ายๆ น่ะเหรอ หึ... ไม่มีวัน!


 “ถ้าคุณง่วงก็ไปนอนเถอะ ผมจะอยู่ต่ออีกหน่อย”


ไม่ว่าเปล่า ยังยืนกรานด้วยการหยิบไวน์มารินเพิ่มแล้วดื่มจะๆ ให้เห็นต่อหน้า จากนั้นพวกเขาก็จ้องตากันเงียบๆ อยู่หลายวินาที จวบจนกระทั่งศานนท์เป็นฝ่ายยอมแพ้เองเพราะกลั้นขำไม่อยู่


“ก็ได้ๆ ๆ”


ทว่าไม่ปล่อยให้เขาดีใจนานนัก


“แต่คืนนี้เธอมานอนห้องฉัน”


ตุลย์ปลายตามองแก้วทีหนึ่งก็ตอบอย่างไม่ลังเล “อื้ม ถ้าคุณว่าอย่างงั้น”


ต่อให้ต้องมีอะไรกัน เขาก็ไม่เสียอะไรเพิ่มอยู่แล้วนี่


ได้คำตอบที่พอใจปุ๊บ หนุ่มใหญ่ก็เดินลิ่วๆ ขึ้นบันไดไป ทิ้งเขาไว้กับไวน์หนึ่งขวดที่แสนโปรดปราน ตุลย์นั่งดื่มไปเรื่อยๆ ขณะที่เปิดทีวีแวะดูช่องโน้นช่องนี้ตามประสา แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกเบื่อ อาจเพราะพื้นที่ของบ้านกว้างขวางเกินไปมันถึงให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวเวลาอยู่คนเดียวอย่างบอกไม่ถูก จนอดคิดไม่ได้ว่าศานนท์มีรสนิยมชมชอบการแต่งบ้านแบบนี้หรืออย่างไร ทุกๆ ที่ที่อีกฝ่ายเคยพาเขาไปถึงได้ให้ความรู้สึกคล้ายกันไปหมด



...หรือบางทีอาจเป็นเพราะช่วงที่อยู่อพาร์ทเม้นท์ของธวัตร เขามัววุ่นวายกับเรื่องหนักสมองต่างๆ จนลืมวันลืมคืน พอทุกอย่างว่างลง ก็รู้สึกราวกับอะไรบางอย่างในชีวิตขาดหายไป


ดื่มไปก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปพลาง หลุดจากภวังค์ฟุ้งซ่านอีกทีก็ตอนที่พบว่าไวน์หมดขวดแล้ว ตุลย์กระดกส่วนที่เหลือในแก้วทั้งหมดลงคอ แล้วลุกตามหนุ่มใหญ่ขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนที่ห้อง ก่อนจะออกมาเคาะประตูห้องศานนท์


หวังว่าคงไม่นานเกินไปจนหลับเสียก่อน มิฉะนั้นเขาคงได้กลายเป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง


“เปิดเข้ามาเลย ไม่ล็อคไว้”


พอได้ยินเสียงขานรับจากเบื้องหลังประตู ก็โล่งใจไปเปาะ


ตุลย์ผลักประตูเข้าไป แล้วก็พบว่ามันออกจะคับแคบกว่าของเขาสักหน่อย เนื่องจากห้องศานนท์เป็นห้องเดี่ยวที่มีห้องน้ำในตัว ถัดมาจากเตียง คือร่างของหนุ่มใหญ่ในชุดนอนสีพื้น นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ขณะที่มือถือเอกสารจำนวนหนึ่ง ทว่าพอเขาเดินเข้าไปใกล้ ฝ่ายนั้นกลับถอดแว่นสายตา ก่อนจะปิดโคมไฟลง เท่านั้นก็พอให้ตุลย์เข้าใจนัยยะที่แฝงมากับการกระทำ


ว่ากันว่าคนเรามักจะหันด้านใดด้านหนึ่งเข้าหาผู้คนและปกปิดตัวตนที่เหลือไว้ เพื่อแสดงออกให้เห็นแค่ในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็น


เช่นเดียวกับการที่หนุ่มใหญ่เลือกปกปิดชีวิตส่วนตัวไว้เป็นความลับจากเขา ในขณะที่เขาเลือกที่จะไม่เอาความรู้สึกเกินกว่า ‘คนรู้จัก’ ไปข้องเกี่ยวกับอีกฝ่าย


“คุณทำต่อเถอะ ผมจะนอนแล้ว”


เขาหย่อนก้นนั่งบนเตียง แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่คิดจะสาระแนในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการให้รับรู้ แต่ศานนท์กลับดึงดันจะขึ้นมาบนเตียง


 “เปล่า ฉันแค่ทำฆ่าเวลารอเธอเท่านั้นล่ะ”


เห็นแบบนั้นตุลย์ก็คร้านจะพูดอะไรนอกจากล้มตัวลงนอนหันหลังให้อีกฝ่าย ก่อนที่หนุ่มใหญ่จะเอื้อมไปปิดไฟจน เกิดเสียง ‘คลิ๊ก’ เบาๆ ครั้นแล้วห้องที่เคยสว่างก็มืดลง เหลือเพียงแสงไฟรำไรจากด้านอกที่เล็ดลอดผ่านม่านพอให้เห็นรอบตัวแค่ลางๆ


ตุลย์หลับตาลง ฤทธิ์ไวน์ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจมสู่ห้วงภวังค์ระหว่างความจริงและความฝันอย่างรวดเร็ว รู้สึกได้เลาๆ ว่าตำแหน่งของคนด้านหลังขยับยวบยาบเข้ามาใกล้ ก่อนจะหยุดโดยเว้นระยะประมาณหนึ่งคล้ายระวังไม่ให้ใกล้จนเกินไป แต่กระนั้นเสียงทุ้มนุ่มปานกระซิบก็ยังซึมผ่านเข้ามาในรอยต่อความฝัน


“...ราตรีสวัสดิ์”


เขาได้ยินทุกพยางค์ได้ชัดเจน เพียงแต่เปลือกตาหนักอึ้งเกินกว่าจะตอบรับอะไรไป จึงได้แค่ปล่อยให้มันกลืนหายไปพร้อมกับความฝัน...


--------------------------------


ดูเหมือนหลายอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหลังเรื่องที่ไนท์คลับซาลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน การที่ศานนท์มารับมาส่งเขาถึงมหาวิทยาลัยเป็นประจำก็ชักถูกจับตามอง จนหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องที่เขาอาจเปลี่ยนวิธีหาเงิน หรือแม้กระทั่งกลายเป็นเด็กเสี่ยของใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งอย่างหลังก็ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงนัก จากนั้นก็เริ่มรุกรามไปไกลเกินกว่าจะตีความ


วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ตุลย์มาเรียนตามปกติ พออ๊อดดัง นักศึกษาส่วนใหญ่ก็เร่งรีบทยอยออกจากห้อง ซึ่งตัวเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น ขณะที่กำลังคิดถึงว่าจะหาอะไรใส่ท้องในช่วงกลางวันฆ่าเวลา ตุลย์ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นกลุ่มนักศึกษาชายสามคนยืมล้อมวงกันอยู่หน้าประตู หนึ่งในนั้นก็เป็นคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีแม้จะไม่รู้จักชื่อ...


และราวกับสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของเขา  ผู้ชายคนนั้นหันมองกลับมา ชั่ววินาทีที่ดวงตาสบสานกัน ความรู้สึกบางอย่างลึกๆ ก็บังคับให้เขาเสมองไปทางอื่นทันที


ตุลย์แสร้งทำเป็นไม่รู้จักโดยหวังว่าภาพลักษณ์ใหม่จะช่วยอะไรได้บ้าง ก่อนจะเดินสวนออกไปพร้อมๆ กับฝูงชน แต่กระนั้นดูเหมือนโชคจะไม่เป็นใจนัก เมื่อมือของใครคนหนึ่งคว้าหมับเข้าที่ไหล่ ครั้นพอหันกลับไป ในหัวก็พลันว่างเปล่าลง



“ไม่ได้เจอกันนาน เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้เลยนี่หว่า...”


 เจ้าของใบหน้าที่เขาคุ้นเคยที่สุด เดาะลิ้นทีหนึ่งกับรอให้เวลานี้อยู่นานแล้ว ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะดึงเขาเข้าไปในวงล้อม ท่ามกลางคนจำนวนมากที่กรูกันออกจากห้องบรรยาย


“เอาน่า ฉันมีเรื่องจะถามนายสองสามข้อก็เท่านั้น”


การถูกคุกคามอย่างกะทันหันทำให้ตุลย์เก็บอารมณ์พลุกพล่านไม่อยู่ จนต้องสอดสายตาไปรอบๆ ตามสัญชาตญาณโดยหวังว่าจะพอมี ‘อะไรสักอย่าง’ ที่ใช้เบี่ยงเบนความสนใจคนพวกนี้จากเขาได้ อย่างน้อยก็แค่ชั่วครู่หนึ่ง


แต่แล้วก็สะดุ้งเมื่อคอเสื้อถูกกระชากให้หันมา


“เวลาคุยก็มองหน้ากูสิวะ!”


 คนเป็นหัวโจกเค้นเสียงรอดไรฟัน ผลักร่างเข้าติดกำแพงแล้วดันไว้ด้วยแขนข้างที่คว้าคอ


“ได้ข่าวว่ามึงไม่ได้ทำงานที่คลับแล้วนี่... เลิกขายตัวแล้วทำไมไม่บอก จะหลอกฟันเงินกูฟรีๆ หรือไง!?”


“...........”


ตอนนี้ในหัวเขาทั้งโล่งและสับสนจนคิดอะไรไม่ออก บางทีคำตอบสำหรับปัญหาอาจเป็นเรื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส แต่ทุกครั้งๆ ที่อยู่ใกล้คนพวกนี้ เขากลับรู้สึกไร้กำลังราวกับไม่ว่าจะทำยังไงหรือใช้วิธีไหนก็ไม่อาจต่อกรได้เลย...


---------------------------------------

เจ้าตุลย์ เจ้าเด็กติดเหล้า ถถถถถถถถ
ตอนนี้เหมือนจะสั้นหน่อยเจ้าค่ะ ถ้าชอบแบบยาวเมลล่าต้องใช้ประมาณ 7-8 วันสำหรับ 1 ตอนเป็นอย่างน้อย อยากให้มาสั้นมายาว รีเควสได้เจ้าค่ะ
ตอนหน้าพบกับบทบาทนุ้งจี้กับนุ้งแม็ก ส่วนเจ้าตัวร้ายพวกนี้ดูกันไปยาวๆ ค่ะ ไม่มีดราม่าเศร๊าเศร้านะ แต่มีทึมๆ เหมือนเดิม ถถถถถ
HNY นะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ lighter

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เย้ๆ ดีใจที่ลุงเป็นพระเอกนะคะ
เราเชียร์ลุงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมขาวแซมๆ มีเสน่ห์จะตาย ของอยู่ทีมลุงด้วยคนนะคะ จีบตุลย์ให้ติดไวไวน้าลุง พาเด็กไปเจ้าฟิตเนสด้วยกันบ้าง ลุงจะได้แซ่บๆกว่าเดิมน้า

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ตอนนี้ลุงไม่น่ารัก เรียกให้ตุลย์มาทำทั้ง ๆ ที่เพิ่งมาถึง
ใครเขาจีบกันแบบนี้เล่าลุง!

หรือจริง ๆ นี่แค่มองจากมุมของตุลย์ เลยทำให้รู้สึกเหมือนถูกบังคับ ???

ขอให้ตุลย์เอาตัวรอดจากไอ้พวกนิสัยไม่ดีได้นะ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  ธวัตรสร้างปัญหาให้แล้วสิตุลล์ บอกพวกนั้นไปอัดธวัตรเลย
  รออ อ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สงสารตุลย์อ่ะ อุตส่าห์ที่จะเริ่มต้นใหม่ ถึงจะไม่ได้เปลี่ยนเป็นหน้ามือหลังมือก็เถอะ แต่ก็ดีกว่าเดิมแล้ว ดันเจอพวกบ้าแบบนี้อีก

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ง๊อออออ   มารยังตามอี๊ก

ออฟไลน์ kimkidoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุงงงงมาช่วยตุลย์เร็วววว ทำตัวให้สมเป็พระเอกหน่อย
ตอนนี้ยังไม่รู้สึกถึงัศมีความเป็นพระเอกของลุงเลยนะ :ling1:

ออฟไลน์ 1amKYN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตุลย์ทำไมใจร้ายกะลุงเขาขนาดนั้นหละ  :mew2:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ดูสองคนนี้หาทางบรรจบกันยังไม่ได้ :ling3:

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ง่ะะะ ตัวมารมาอีกแล้ววว ชีวิตตุลย์กำลังจะดีขึ้น ต้องวนมาเจอพวกบ้านี่อีกละ ตุลย์สู้มันอย่าไปยอม :3125:

ออฟไลน์ Caramella

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
10th Night : ยั่ว



มือข้างที่คว้าคอเสื้อดันร่างตุลย์ติดกำแพง


“ได้ข่าวว่ามึงไม่ได้ทำงานที่คลับแล้วนี่... เลิกขายตัวแล้วทำไมไม่บอก จะหลอกฟันเงินกูฟรีๆ หรือไง!?”


“...........”


เห็นแบบนั้นอีกฝ่ายก็ยิ่งได้ใจ “...คิดว่าเงียบอย่างเดียวแล้วกูจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอ?”


ไม่พูดปากเปล่า แต่ยังลากไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบหน้าคนฟัง จากหางตาเลื่อนลงไปปลายคางอย่างเชื่องช้าและยั่วยุ จนต้องเขาสะบัดหน้าหนีอย่างทนไม่ไหว


หากปฏิกิริยนั้นกลับทำให้อีกฝ่ายก็เลิกคิ้วยียวน


“ทำไม หรือไม่ชอบ? เห็นว่าตอนนั้นก็ออกจะสมยอมดีแท้ๆ”


ตุลย์ได้แต่กัดฟันแน่น ความรู้สึกทั้งโมโหและหวาดหวั่นตีรวนผสมกันมั่ว แต่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรองทั้งด้านพละกำลังและจำนวนคน เขาทำได้แค่ยื้อแรงไว้ ประคองสติให้อยู่ครบถ้วน และพยายามหาทางออกก่อนที่ตัวเองตกเป็นฝ่ายเจ็บตัว...


แต่แล้วก่อนที่ทุกอย่างจะเลิกเถิดเกินควบคุม จู่ๆ ชายคนนั้นก็ปล่อยมือที่ยึดคอเสื้อเขา เปลี่ยนมาตีสีหน้าเรียบฉาบรอยยิ้ม ขณะที่ทอดสายตามองผ่านกลุ่มคนทางด้านซ้าย


ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินฝ่าผู้คนเข้ามาทางนี้ด้วยท่าทางเร่งรีบ เธอหันรีหันขวางราวกับกำลังมองหาใครบางคน ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะหยุดตรงกลุ่มคนกำลังหาเรื่องเขา ตามด้วยฝีเท้าสาวฉับๆ ดิ่งตรงมา


โดยที่รอจังหวะอยู่แล้ว เจ้าของรอยยิ้มกรุ่มกริ้มโบกมือทักทายหล่อน แต่ทว่าแทนที่เธอจะหยุดทักคู่สนทนา กลับเดินเลยมาหาเขาเสียนี่


“เราเดินวนหาตั้งนานแหนะ นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก” ผู้หญิงที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มแบบสาวจีนยิ้มราวกับโล่งใจที่หาเขาพบ โดยไม่หันไปมองคนที่ยืนเก้อด้านหลังแม้แต่หางตา


กระทั่งทนการหมางเมินต่อไปไม่ไหว ชายคนนั้นก็เอ่ยทัก


“หวัดดี จีจี้”


“อ๋อ ว่าไง กาย” หญิงสาวหันมายิ้มให้ราวกับเพิ่งนึกได้ว่าอีกฝ่ายมีตัวตน “พอดีวันนี้เรามีธุระกับตุลย์น่ะ ถ้ากายไม่ได้มีอะไรสำคัญกับเขาแล้ว เราขอยืมตัวหน่อยได้ไหม”


ผู้ชายชื่อ ‘กาย’ ปรายตามองเขาที่หนึ่งอย่างลังเลราวกับกลัวเสียเครื่องมือต่อรองไป


“คุยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ”


“ไม่ได้หรอก ตุลย์กับเราทำโปรเจ็คด้วยกัน วันนี้เราจะวางแผนงาน คุยกันสั้นๆ ตรงนี้ไม่รู้เรื่องหรอก กายก็น่าจะรู้ว่าเราไม่ใช่คนทำงานชุ่ยๆ ทีนี้เราขอตัวเขาหรือยัง?”


กายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตอบด้วยน้ำเสียงนุ้ม “ก็ได้ครับ ถ้าจี้อยากได้เขา ก็เอาไป”


“อื้ม ขอบใจ” ออกจะห้วนไปสักหน่อยสำหรับคำขอบคุณ แต่กระนั้นผู้ฟังก็ดูจะพอใจกับคำตอบที่ได้รับ


“มากับเราเร็ว แม็กกับฟ้าอยู่ด้านนอกนานแล้ว”


จีจี้กวักมือเรียกเขาก่อนจะถือวิสาสะจูงฝ่าฝูงชนลงบันไดไปชั้นล่างอย่างเร่งรีบ และต่อให้ไม่หันกลับไปมอง ตุลย์ก็รู้สึกถึงสายตาเฉือดเฉือนของผู้ชายคนนั้นมองตามไม่ห่าง


ดูเหมือนเขาเพิ่งจะหาเหาใส่หัวเพิ่มให้ตัวเองอีกหนึ่งแล้ว...


เดินลงมาจนคนเริ่มซาลงบ้าง เธอก็ปล่อยมือ ลดฝีเท้าที่แสร้งทำเป็นเร่งรีบหนักหนาลง เปลี่ยนเป็นการเดินสบายๆ โดยที่สายตาจับจ้องมายังร่างเขาไม่วาง


“พวกนั้นหาเรื่องเธอเหรอ?”


ตุลย์เลิกคิ้วงงๆ แต่พอก้มมองเห็นปกเสื้อยับยู่ยี่เขาก็เข้าใจคำถาม “เหมือนพวกนั้นจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่”


“แหงล่ะ พวกนั้นไม่เคยชอบใครอยู่แล้ว” เธอว่าราวกับเป็นเรื่องปกติ “ทางที่ดีเราว่าเธออย่าไปยุ่งกับอัธพาลแบบนั้นดีกว่า หาเรื่องคนอื่นไปทั่วคิดว่าเท่นักหรือไงก็ไม่รู้”


“เธอก็ไม่ชอบพวกนั้นเหรอ?”


เท่าที่เขาเคยได้ยินมาสมัยมัธยม ปกติแล้วผู้หญิงมักจะชอบคนที่ทำให้รู้สึกโลดโผนโจนทะยานได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นผู้ชายชอบมีเรื่องต่อยตีหรืออะไรเทือกนั้น


แต่ผู้หญิงตรงหน้าเขากลับส่ายหน้าหวือ “หือ? ใครจะไปชอบลงกัน ตามตื้อจนน่ารำคาญแบบนั้น เราล่ะเบื่อจะตาย!”


“..........”


“เจอเราที ก็ทักทุกห้านาทีอย่างกับไม่ได้เจอกันห้าปีงั้นล่ะ ยิ่งตอนยิ้มนะ เราขนลุกเลยรู้หรือเปล่า หลอนติดตาจนจะเก็บไปฝันร้ายอยู่แล้ว แค่พูดถึงยังขนลุกเลยเนี่ยเห็นไหม” ว่าไปเธอก็ถูกแขนแรงๆ ประกอบ


“..........”


“รู้หรือเปล่า ตอนเปิดเทอมแรกๆ กายอ่ะตามติดเราแจ เรียกว่ามีเราที่ไหนต้องมีนายคนนั้นที่นั่น อย่างกับวิญญาณแค้นรอสิงร่างเวลาเผลอเลยนะ มีช่วงหนี่งหนักจนเราแทบจะหยุดเรียนไปเข้าวัดฟังธรรม เพื่อว่าจะช่วยแผ่ส่วนกุศลให้ได้บ้าง”


“.........”


ว่ากันว่าจีจี้ที่ทุกคนรู้จัก เป็นนักกิจกรรมสดใสน่ารัก ด้วยภาพลักษณ์แบบสาวจีนผิวขาว และความที่เธอเข้ากับคนง่ายจึงทำให้ตกเป็นที่หมายปองของผู้ชายหลายคน แต่ทว่าจีจี้คนนี้ที่กำลังคุยกับเขา ดูจะผิดจากภาพลักษณ์ที่ทุกคนนิยามไว้มาก เพราะนอกจากเธอจะพูดเป็นต่อยหอยแล้ว วาจาจะค่อนไปทางเฉือดเฉือนเสียด้วย


ตุลย์ฟังเธอบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุดตลอดทางเดินลงบันได ส่วนใหญ่ก็มักเป็นเรื่องวีรกรรมทั้งหลายที่ผู้ชายชื่อกายสร้างไว้ไม่หยุดหย่อนราวกับเก็บกดมายังไงอย่างงั้น จวบจนพวกเขาทั้งคู่ลงมาถึงใต้ตึก เธอก็ตรงเข้าไปทักทายเพื่อนชายที่นั่งเท้าคางเล่นโทรศัพท์อยู่บนโต้ะม้าหินด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แต่พอทั้งคู่สบตาเท่านั้น โลกทั้งใบก็สดใสขึ้นทันที


“หาฟ้าไม่เจอเหรอ?”


แม็กส่ายหน้าเหนื่อยๆ “ฟ้ากลับไปแล้ว เพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้เลย ปล่อยให้รอซะตั้งนาน”


“เอาเถอะ อย่างน้อยก็เจอตุลย์”


ฝ่ายนั้นดูแปลกใจเมื่อได้ยินชื่อ ก่อนจะมองเลยมายังที่เขาเดินรั้งท้ายจีจี้


“นึกว่านายไม่ได้เขาเรียนซะอีก ไม่เห็นหน้าในคาบเลย”


นั่นเพราะเขาตั้งใจไม่ทำตัวให้เป็นจุดสังเกตของคนอื่นต่างหาก


“เปล่า ฉันอยู่แถวหลังๆ” ตุลย์ตอบอย่างขอไปที


“เออ ก็ยังดี อย่างน้อยก็พอมีคนมา ดีกว่ามารอฟรีๆ เป็นชั่วโมง”


 “ทีนี้จะเอายังไงดี” คราวนี้เป็นจีจี้ที่ถอนหายใจ “ถ้าฟ้าไม่มาก็ต้องบรีฟงานใหม่ทั้งหมดอีกรอบ แต่เราจองร้านอาหารเอาไว้แล้ว ไม่อยากโทรยกเลิกนัดเลย...”


“งั้นก็ไปกันทั้งสามคนนี้แหละ” แม็กปรายมองเขาแว่บหนึ่งเหมือนไม่มีทางเลือก “ยังไงก็จองเอาไว้แล้ว เราก็หิวแล้วด้วย จะคุยงานหรือไม่คุยเอาไว้กินอะไรก่อนค่อยว่ากันทีหลังก็ได้”


“ก็ได้ ตกลงตามนั้น”




ร้านอาหารที่จีจี้โทรจองไว้เป็นร้านที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านนัก อาจเพราะราคาที่จัดว่าค่อนข้างแพงพวกกับทำเลในซอกซอยที่เข้าถึงได้ยาก จึงนับว่าเหมาะสำหรับการทำงานในระหนึ่งทีเดียว พอหย่อนก้นลงบนเก้าอี้เสร็จสับ เจ้าหล่อนก็เริ่มสั่งอาหารโน้นนี่อย่างสบายใจ พอๆ แม็กที่หยิบจับอะไรคล่องแคล่วเพราะคุ้นเคยกับร้านนี้เป็นอย่างดี


แต่พอสั่งอาหารเสร็จเท่านั้น เธอก็ยิงคำถามเกี่ยวกับตัวเขาใส่รัวๆ ราวกับเห็นเป็นเรื่องแปลกใหม่ มันเริ่มต้นจากความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโรงเรียนมัธยมที่เขาจบมา ซึ่งพอเขาตอบตามความเป็นจริงว่า เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ห่างจากเขตตัวเมืองพอสมควร และไม่สะดวกสบายนัก เธอก็ร้องโอ้โหใหญ่โต ก่อนจะเริ่มถามคำถามอื่นๆ อย่างสนอกสนใจเป็นพิเศษ อย่างเช่น ชีวิตที่โน้นเป็นยังไง วิวสวยไหม ตลอดไปจนถึงเหตุผลที่ทำไมเขาเลือกเรียนที่นี่


ซึ่งดูสนอกสนใจเอามากๆ เสียจนคนข้างๆ กลายเป็นหมัน...


ตุลย์ชำเลืองมองเพื่อนชายที่ตีสีหน้าเอือมกึ่งไม่พอใจทุกครั้งที่เขาคุยกับจีจี้ บางครั้งเผลอมองนานเกินไป อีกฝ่ายก็ถลึงตาใส่เหมือนไม่สบอารมณ์หนักหนา


“นี่ๆ ตุลย์”


หญิงสาวสะกิดเขาทีหนึ่ง ขณะเลื่อนจานอาหารที่เพิ่งมาเสิร์ฟให้พร้อมๆ กับของแม็ก


“ถามอะไรอย่างสิ แต่เธอจะไม่ตอบก็ได้นะ”


“อะไรเหรอ”


“จากที่ได้ยินมา... เรื่องที่เธอเป็นเด็กเสี่ยอ่ะ จริงเหรอ...?”


สิ้นประโยคคำถามโต๊ะทั้งโต๊ะก็เงียบกริบ แม้แต่แม็กที่นั่งนิ่ง ตีหน้าเบื่อหน่ายไม่สนใจอะไรนอกจากขึงตาใส่เขาเวลาคุยกับจีจี้ก็ยังหันมองด้วยแววตาใคร่รู้


ดูเหมือนนี่คงเป็นหนึ่งในคำถามสุดป็อปปูล่าที่ทุกคนอยากรู้คำตอบจากเขาล่ะมั้ง...


พอเห็นว่าชักเงียบนานเกินไปผู้ร่วมโต๊ะเริ่มกระอักกระอั่ว ตุลย์ก็เลือกตามความเป็นจริง ยังไงเสียก็ยังมีคนอีกมากมายต่อคิวรอขุดคุ้ยเบื้องหลังของเขาอยู่ แทนที่จะโกหก สู้ตอบแบบเปิดเผยไปเลยไม่ง่ายกว่าหรือ?


“ก็ใช่ ถ้าจะเรียกแบบนั้น”


คราวนี้เป็นแม็กที่ร้อง ‘ห๋า’ เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ฟัง เจ้าตัวทำท่าจะพูดอะไรต่อ แต่สุดท้ายก็ปิดปากเงียบก่อนจะเอ่ย ‘ขอโทษ’ ที่เสียมารยาททีแรก


 กลับกัน เป็นจีจี้ที่ดูไม่ระแคะระคายอะไรเลย หลังจากฟังเรื่องของเขาจบ เธอก็พูดจ้อ เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี่ให้ฟังต่ออย่างสนุกสนาน ไม่ลืมพาดพิงถึงผู้ชายคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา


“จำที่เราเล่าเรื่องกายตามตื้อแรกๆ ได้ไหม ตอนนั้นเราอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงก็พาลระแวงไปหมด ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันหลายๆ คนเวลาเจอพวกนั้นจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นเราหัวเสียมากเลย จนกระทั่งแม็กอาสาช่วยนี่แหละ ได้ผลดีอย่างกับไม้กันหมา หลังจากนั้นเราก็สนิทกันเร็วมากๆ เห็นขี้เก็กมีมาดแบบนี้แต่จริงๆ แม็กอ่ะ เป็นคนดีแล้วก็รั่วมากเลยนะ! วันนั้นยังไปช่วงอาจารย์เป็นแรงงานยกของอยู่เลย เสร็จแล้วก็มานอนแผ่อยู่บนม้าหิน บ่นใส่เราไม่หยุดว่าเหนื่อยๆ ๆ ไม่น่าไปอาสาทำ”



“โถ่ จี้!” คนถูกพาดพิงร้องเสียงดังประท้วง “ไปเล่าให้คนอื่นฟังทำไม”


“ก็มันตลกดีนี่ ขนาดทำเสร็จไปแล้วก็ยังจะบ่นอีก ฮ่าๆ ๆ” ว่าไปเธอก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปพลาง 


หลังจากคุยสัพเพเหระกันเสร็จ พวกเขาก็คุยเรื่องแผนงานต่ออีกเล็กน้อยพอเป็นพิธี คงเพราะจู่ๆ ฝนหลงฤดูก็ทำท่าจะตกเสียอย่างนั้น จึงทำให้ต้องรีบแยกย้ายกันกลับเร็วกว่าปกติ


ระหว่างที่รอเช็คบิล จีจี้ก็ขอตัวไปเขาห้องน้ำ ทิ้งเขาไว้กับแม็กแค่สองคน พอลับสายตาจากเธอ ชายหนุ่มก็เผินหน้าออกไปนอกหน้าต่างเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ ขณะที่ตุลย์นั่งหยิบจับอะไรบนโต๊ะฆ่าเวลาไปพลาง


“จะทำไงให้เธอรู้ว่าชอบดีวะ”


คงอัดอั้นตันใจมากหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ จู่ๆ คนที่วางตัวไม่ใส่ใจอะไรตั้งแต่แรก กลับหันมาหาเขา แล้วขยี้หัวแรงๆ พึมพำกับตัวเองเหมือนเสียสติ


“โอ้ย แล้วนี่กูไปพูดกับคนแปลกหน้าทำไมวะเนี่ย!”


“จีจี้น่ะเหรอ”


“..........” อีกฝ่ายไม่ตอบ แต่เม้มปาก มองไปทางด้วยใบหน้าขึ้นสี


ไม่ผิดจากที่คาดไว้จริงๆ


ว่ากันตามตรงเขาไม่ใช่กูรูเรื่องความรักความสัมพันธ์อะไร แต่สายตาที่แม็กมองเธอ ต่อให้เป็นคนเพิ่งเจอกันก็เดาออกได้ง่ายๆ ว่าคิดเกินกว่าเพื่อน เพราะมันมักจะเจือด้วยความห่วงใยมากเกินไปเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกสิ่งที่อีกฝ่ายคิดแทบทะลุผ่านสีหน้า แววตาและการกระทำทั้งหมด


“ถ้าอยากให้เธอรู้นายก็ต้องแสดงออก”


“แสดงออกยังไง?”


“ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายที่ไม่ชัดเจน นายต้องแสดงให้เธอรู้ว่าชอบ แต่ก็อย่ารุกจนเกินไป มันทำให้รู้สึกเหมือนถูกคุกคามมากกว่า”


“แล้วมันต้องเริ่มยังไง?”


 ชายหนุ่มลากเก้าอี้ นั่งหลังตรงชิดโต๊ะเหมือนกำลังฟังภาระกิจยิ่งใหญ่ที่หากพลาดลายละเอียดยิบย่อยก็อาจล้มเหลวทั้งหมด


ตุลย์เกาคาง บังเอิญว่าสายตาเหลือบไปเห็นร้านดอกไม้ฝังตรงข้ามเข้าพอดิบพอดี


“ดอกไม้เป็นยังไง? ผู้หญิงน่ะชอบให้คนใส่ใจ”


ฝ่ายนั้นดูลังเลลังชำเลืองมองกลุ่มเมฆสีเทาเข้ม “มันจะใช้ได้แน่เหรอวะ อีกอย่างฝนก็จะตกแล้ว ถ้าข้ามถนนออกไปตอนนี้อาจจะกลับมาแบบตัวแห้งไม่ทันก็ได้”


“เรื่องนั้นนายก็ลองดู อีกสักพักเธอคงกลับมาแล้ว” ตุลย์จงใจทิ้งช่องว่างไว้ให้อีกฝ่ายขบคิด


ชายหนุ่มมองร้านดอกไม้สลับกับห้องน้ำหญิง ก่อนจะลุกพรวดขึ้น “ก็ได้ เอาวะ!”


ว่าแล้วเจ้าตัวก็วิ่งอย่างรีบร้อนข้ามถนน พรวดพราดเข้าไปในร้านดอกไม้โดยเร็ว ตุลย์มองตามหลังคนที่วิ่งหายเข้าไปด้านใน ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้รอไปพลาง


จำได้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้จักก็เคยบอกว่าชอบดอกไม้


ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่า ‘บี’... คนที่เขารักเหมือนพี่สาว แต่กลับไม่มีโอกาสได้พูดอะไรก่อนจากมา...



ต่อให้อยากจะกลับไปที่นั่นเท่าไหร่ เขาก็ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำได้ ตอนนี้เขาคือ ‘เด็ก’ ของศานนท์ ไม่ว่าตัดสินทำอะไรก็ย่อมต้องบอกให้อีกฝ่ายรู้ และยิ่งเป็นไปไม่ได้เมื่อเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับไนท์คลับของธวัตร ซึ่งหนุ่มใหญ่ไม่คิดจะเข้าไปยุ่มย่ามแต่แรกแล้ว


เพื่อป้องกันเรื่องวุ่นวายที่อาจเกิดตามมาเพราะความเข้าใจผิด คืนที่ออกมาเขาจึงหักซิมทิ้ง


อย่างน้อยๆ ก็เป็นเครื่องการันตีว่าศานนท์ไม่อาจนำมันมาเป็นข้ออ้างใช้ประโยชน์จากเขาได้อีก


จะว่าขี้ระแวงก็ไม่ผิด ประสบการณ์ที่ได้จากธวัตรเป็นสอนให้เขาระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม เพราะหากการกระทำใดมีช่องโหว่ แม้เพียงนิดเดียวคนๆ นั้นก็พร้อมจะใช้ประโยชน์จากรอยแตกเล็กๆ เหล่านั้น เล่นงาน บีบบังคับให้เขาเดินตามตาหมากที่อีกฝ่ายกำหนด เป็นเช่นนั้นทุกครั้งแม้แต่วันที่เขาจากมา


ดังนั้น เขาจะไม่กลับไปหาคนๆ นั้นอีก...


“อ้าว แม็กรีบกลับไปแล้วเหรอ?” ตกอยู่ในภวังค์จนไม่ทันรู้สึกตัวว่าจีจี้ยืนอยู่ข้างๆ


ตุลย์ปรายมองไปทางร้านดอกไม้ ก็เห็นประตูเปิดพร้อมกับร่างที่วิ่งพรวดออกมาตอนฝนเริ่มลงเม็ด เขาจึงเลือกจะถ่วงเวลาต่อ


“เห็นว่าออกไปซื้อของใกล้ๆ นี้ อีกเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้วล่ะ”


“เหรอ” เธอทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ข้าง พร้อมมุ่ยหน้า “นึกว่าหนีกลับไปไม่บอกเราเสียอีก หมู่นี้ยิ่งทำตัวแปลกๆ อยู่ด้วย”


ยังไม่ทันที่ตุลย์จะพูดต่อ เสียงกระดิ่งร้านก็ดังขึ้น ชายหนุ่มก้าวฉับๆ มาที่โต๊ะทั้งร่างโทรมเหงื่อ ในมือถือดอกไม้ช่อหนึ่ง ก่อนจะยื่นดอกไม้ช่อนั้นให้เธอ เห็นเธอยืนอึ้ง แม็กก็เกาหัวแก้เก้อเขิน ไม่วายชำเลืองมองเขาแบบขอความช่วยเหลือ


“เอ่อ... ไม่ได้ให้เนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรอก แค่...”


คงกลัวว่าจะปล่อยให้รอนานเกินไป หญิงสาวจึงรับช่อดอกไม้มา “ขอบคุณนะแม็ก ไม่เห็นต้องซื้อให้เลย”


“เอ่อ...” เจ้าของชื่อยิ้มแหย แล้วโบ้ยมาทางเขา “หมอนี่บอกว่าเธอน่าจะชอบดอกไม้”


ตุลย์แทบสำลักน้ำที่กำลังจิบ โชคดีที่เขายังพอมีสติรู้ตัวจึงกลืนมวลน้ำลงคอได้โดยไม่เผลอไอขัดจังหวะบรรยากาศสีชมพูของทั้งคู่เสียก่อน


“อ๋อ ชะ ชอบสิ ...ชอบๆ” จีจี้กอดช่อดอกไม้ไว้แทนคำตอบ “ขอบคุณมากนะแม็ก มันสวยมากเลย”


“...ไม่เป็นไร”


หลังใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะปรับอารมณ์สู่สภาวะปกติ และคุยกันได้โดยไม่เก้อเขิน ทั้งสองคนขอกลับโดยที่แม็กอาสาไปส่งจีจี้ที่ลานจอดรถ แต่ก่อนไปก็ไม่วายเหวี่ยงแขนพาดคอเขา


“แผนเจ๋งว่ะ ขอบคุณนะโว้ยไอ้เพื่อนรัก!”





หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ทั้งคู่ก็มักป่วนเปี้ยนอยู่ในวงจรชีวิตเขาไม่ห่าง ทีแรกเริ่มจากการย้ายมานั่งข้างๆ ต่อมาก็ชวนกินข้าว และเริ่มออกไปไหนมาไหนด้วยกันนอกเวลาเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างตุลย์และทั้งสองก็ดูจะไปได้ดีเกินคาด และยิ่งกว่านั้น เมื่อมีสาวป็อปอย่างจีจี้อยู่รอบกาย บรรยากาศที่เคยน่าอึดอัดในมหาวิทยาลัยก็พาลดูดีขึ้น จนถึงขั้นว่าหลายคนที่ไม่เคยเข้าหาก็เริ่มพูดคุยกับเขาเป็นกิจลักษณะ


เนื่องจากวันพรุ่งนี้มีสอบควิสคาบเช้า จีจี้เลยอาสาติวให้พวกเขาทั้งคู่หลังเลิกเรียน แต่ด้วยความที่เป็นวิชาท่องจำ หญิงสาวจึงช่วยได้เพียงแค่เล่าลายละเอียดคร่าวๆ ให้พอเข้าใจ ส่วนที่เหลือก็เป็นหน้าที่ที่พวกเขาต้องไปจำเอาเอง ซึ่งมันไม่ควรมีอะไรยากไปกว่านั้น


 ทว่าดูเหมือนใครบางคนจะไม่ยอมทำความเข้าใจเสียที


 “จี้ ตรงนี้มันยังไง เราไม่เข้าใจ”


แม็กเกาหัวแกรกๆ ใช้เวลาวนเวียนอยู่ตรงจุดเดิมราวครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยัง ‘ยืนกราน’ ว่างง จนต้องหญิงสาวต้องอธิบายซ้ำอีกรอบ


“ทีนี้เข้าใจมากขึ้นไหม?”


“...ก็อาจจะ”


คนฟังได้ยินก็มุ่ยหน้าเท้าคางเหนื่อยๆ “ถ้ายังงงตรงนี้อยู่ เราจะติวให้อีกรอบตอนเย็นแล้วกัน ตุลย์ล่ะ โอเคไหม เข้าใจหรือเปล่า อยู่ติวกับเราอีกรอบไหม?”


เขามองเธอสลับกับอีกคนที่ทำเหมือนเข้าใจอะไรยาก ก่อนจะลอบขำ


ต่อให้หมอนี่สมองช้ายังไง ก็ไม่มีทางช้าขนาดเรียงเคียงอะไรไม่ได้เลยหากเจ้าตัวไม่แสร้งทำ


เห็นแบบนั้นตุลย์จึงคิดว่าควรเปิดโอกาสให้คนสองคนสานสัมพันธ์กันมากกว่าจะอยู่เป็นส่วนเกินเกะกะคนมีความรัก


“ไม่ดีกว่า ฉันว่าจะกลับเลย ถามไอ้แม็กมันเถอะ อีกนานไหมกว่าจะเข้าใจ”


คนถูกพาดพิงตาโตเหมือนไม่เชื่อว่าเขาจะรู้ทัน ก่อนจะส่งสายตาระยิบระยับเมื่อตุลย์คว้ากระเป๋าสะพายพาดไหล่


“ทำเป็นพูดไปเหอะว่ะ เดี๋ยวจะเอาคะแนนสอบมาโชว์”


“เออ เอาที่อยู่หน้านั้นให้รู้เรื่องก่อนเหอะ” เขาทิ้งท้ายก่อนเดินแยกมา


หลังจากผ่านเรื่องราวแย่ๆ มาตลอดช่วงสองสามเดือน บางทีนี่อาจเป็นฟ้าหลังฝนสำหรับเขาก็ได้


----------------------

ขัดหยาบๆ เลยค่ะ ไม่ได้เช็คละเอียดก่อนลง ขออภัยล่วงหน้าเลย ที่หายไปนานคือเพลียเดินทาง + ติด webcomic ของ lezhin ถถถถถ มีแต่งานดีๆ สตอรี่แน่นๆ อร่อยทั้งนั้น แอร๊ยยย
แต่ทุกคนอย่าเพิ่งลืมน้องกายนะคะ ถถถถ นางเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญ เผลอๆ อาจจะสำคัญกว่า จี้กับแม็กเสียอีกและอีกสักพักนางจะก่อเรื่องค่ะ 555+ มาบอกไว้ก่อนเพราะยังมีอีก 4 ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญกับชีวิตหนูตุลย์ เร็วๆ นี้จะเปิดตัว 1 ใน 4 ประมาณ ตอนที่ 12 เจ้าค่ะ
ตอนหน้าพบกับ คนแก่ vs คนเมา จะเกิดอะไรขึ้นต้องติดตาม อิอิ #ลงไปหมอบกราบลา
ปล.ไม่ชอบเล๊ย เวลามีแต่คนสมหวังเนี่ย ถถถถถถถถถ


>>READ10.2<<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2017 10:31:38 โดย Caramella »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
แม็กดูเด็กน้อย ไร้เดียงสาเลยพอเจอตุลย์ ฮ่าฮ่าฮ่า

กายนี่เป็นสัมภเวสีที่ตายยากสินะ

ขอให้จีจี้ปล่อยแสงเผาให้มอดไหม้ไปเลย! ย๊ากกกกก !!!

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Snimsoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชีวิตดีแล้ว เย้  :z2:
ดีแบบนี้ไปนานๆนะ แต่เหมือนฟ้า(คนแต่ง)จะไม่เป็นใจ ถถถถ ไอ้กายนี่ไปแล้วไปลับเลยได้มะ น้องตุลย์ของเค้าต้องการชีวิตดีๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ชีวิตเริ่มดีแล้ว :mew1:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 ตอนนี้ไม่มีเสี่ยอะ  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เสี่ยหาย? ไปฟิตหุ่นอยู่เหรอค่ะ?ฮ่าๆๆๆ :hao7:

ออฟไลน์ Brand_Zess.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เสี่ยต้องฟิตหุ่น

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เกลียดกายมาก แย่ๆๆ

ออฟไลน์ kimkidoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีใจจังที่ตุลย์มีเพื่อนแล้ววว
ตั้งแต่มาอยู่กะศานนท์ชีวิตเหมือนจะดีขึ้นๆนะเนี่ยยย
ตอนนี้พระเอกค่าตัวแพง? ไม่ยอมออกเลย5555

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนนี้ไม่มีคุณศานน์ แต่กลับอ่านแล้วอมยิ้ม ดีจังที่ตุลย์ได้ใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นบ้าง  o13 :กอด1:

ออฟไลน์ pimmyfang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบมากกกกกก รอตอนต่อไป :hao6:

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คิดถึงแล้วค่า  :mew2:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เหมือนลมสงบก่อนพายุจะมา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด