Feel คนเจ้าอารมณ์ [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Feel คนเจ้าอารมณ์ [จบแล้ว]  (อ่าน 377020 ครั้ง)

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อีคุณเอกสิทธิ์นี่มันเป็นคนยังไง เป็นผู้ใหญ่ซะป่าวแต่กลับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ขนาดอยู่ต่อหน้าอนุชานะ ยังกล้าพูดแบบนั้นอีก ความเงี่ยนครอบงำจิตใจเกินไปแล้วย่ะ  :angry2:

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คุณหนู มาขนาดนี้ ยังไม่รู้ว่านาคินทร์คิดยังงัยอีกหรอ

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
หวังว่าจะบอกความในใจกันเร็วๆน้า

รักกันก็บอกกันไไปเลยน้าาาา  :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
นาคินแอยหึงป่ะเนี่ย ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
นาคินทร์อย่าแค่ซื่อสัตย์ภักดีสิ
ต้องรุกมห้อนุชามั่นใจบ้าง 5555555

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
เรื่อง : Feel คนเจ้าอารมณ์
คู่ที่ 4 : #นาคินทร์อนุชา
เขียนโดย : +Memew+
+CHAPTER 12 :  อิงแอบแนบชิด






เราสองคนนั่งเงียบกันมาตลอดทั้งเส้นทาง จริง ๆ มันก็ไม่เงียบหรอก เพราะนาคินทร์เปิดเพลงให้ผมฟัง เพลงโปรดของผมนั่นแหละ แต่วันนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่เพราะเลย รถวิ่งใกล้บ้านเข้าไปทุกที ผมไม่อยากให้ช่วงเวลาของเราสองคนจบลงแค่นี้จริง ๆ

“ฉันเบื่อกินข้าวที่บ้านแล้ว ไปหาอะไรกินกันนอกบ้านดีกว่า”

นาคินทร์หันมามอง

“คุณหนูอยากไปที่ไหนล่ะครับ”

“ที่ไหนก็ได้ ข้างทางก็ได้ เพราะสภาพนาคินทร์แบบนี้ ขึ้นห้างคงไม่เหมาะ”
นาคินทร์ก้มมองตัวเอง เพราะนอกจากเหงื่อแล้วยังเลอะฝุ่นเลอะโคลน ผมไม่รังเกียจหรอก ชอบด้วยซ้ำ แต่ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง

“งั้นคุณหนูเลือกนะ นาคินทร์จะขับรถวนไปเรื่อย ๆ”
นาคินทร์เลี้ยวไปยังเส้นทางที่ไม่ใช่ทางไปบ้าน ผมอมยิ้มนิด ๆ เราขับรถไปเรื่อย ๆ กระทั่งไปเจอร้านอาหารน่ากินร้านหนึ่งข้างทาง แต่ดูสะอาดและคนเยอะมาก ร้านไหนคนรุม เดาเอาไว้ก่อนว่ามันต้องอร่อยแน่ ๆ

ข้อเสียของการหาของกินข้างทางคือหาที่จอดรถยากนี่แหละ ร้อนอบอ้าวด้วย กว่าจะได้ที่จอด เราต้องเดินกันไกลร่วมห้าหกร้อยเมตร

“ถ้าไม่อร่อยนี่จะเอาระเบิดมาปาเลย”
ผมบ่น เช็ดเหงื่อตรงหน้าผากเบา ๆ นาคินทร์หัวเราะ

“กินที่บ้านก็จบแล้ว”

“ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
ผมหันไปบอก

“ครับ เปลี่ยนแล้วไง เปลี่ยนจากนั่งในห้องแอร์เย็น ๆ มาเดินตากควันรถร้อน ๆ ริมถนน”
เถียงไม่ออกเลย

ผมจะบอกว่าหมายถึงเปลี่ยนบรรยากาศจากกินข้าวกับครอบครัวมาเป็นกินข้าวกับนาคินทร์สองคนต่างหาก ผมปิดปากเงียบ ชวนมาเอง ยังไงก็ห้ามบ่น คนบนทางเท้าเยอะมาก ช่วงกำลังออกหาของกินของพวกทำงานออฟฟิศเลย

“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
ผมโดนกระแทกไหล่จากสาวออฟฟิศที่มัวแต่ก้มหน้าจิ้มมือถือเพลิน ๆ ผมยิ้มให้นิดหนึ่งไม่เอาความ ทั้งที่ใจจริงหงุดหงิดแทบตาย

มัวแต่เล่นมือถือไม่มองทาง เดี๋ยวแช่งให้เดินตกท่อหรอก

“ขอโทษนะครับคุณหนู” นาคินทร์พูดขึ้นมาเบา ๆ ขยับมาเดินนำ จับมือผมไว้ “คนเยอะ คุณหนูเดินตามนาคินทร์ดีกว่า” แล้วนาคินทร์ก็เดินดุ่มไปด้านหน้า ทั้งที่มือซ้ายจับมือผมไว้คล้ายกับเด็กสักคนที่มากับผู้ปกครอง

ผมหน้าร้อนผ่าว ไอ้ที่หงุดหงิดร้อนรุ่มเมื่อครู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง ผมก้มมองมือที่ถูกกุมไว้จากคนตัวสูง อมยิ้มนิด ๆ ผมรู้ว่านาคินทร์ทำไปเพราะต้องการปกป้องและดูแลผม แต่ผมก็แอบคิดลึกมากไปกว่านั้น

ผมกระชับจับมือของนาคินทร์แน่นขึ้น ถ้านาคินทร์จับมือผมไว้แบบนี้ ให้เดินอีกสักสองกิโล ผมก็ทนไหว
 

เวลาแห่งความสุข มักผ่านไปรวดเร็วเสมอ ไม่นานเราก็เดินมาถึงร้านอาหาร นาคินทร์กำลังจะพาไปนั่งยังโต๊ะที่ว่างพอดี แต่ผมยื้อไว้

“เมื่อกี้ฉันเห็นแวบ ๆ ว่ามีอีกร้านน่ากินตรงนู่น เดินไปดูก่อนไหม”

“มีด้วยเหรอ ขับรถมานาคินทร์ยังไม่เห็นเลย”

“นาคินทร์ขับรถ จะเห็นได้ยังไง”

นาคินทร์ขมวดคิ้ว แต่ก็พยักหน้าเห็นด้วย

“นำไปสิ”
ผมบอกเสียงเรียบ ทั้งที่ภายในกำลังยิ้มกริ่ม นาคินทร์ก้าวนำไปก่อนผมก้าวตามไปติด ๆ กระทั่งเดินมาถึงปลายทางซึ่งติดสี่แยกไฟแดงพอดี ไม่มีร้านอาหารที่ผมว่ามาสักร้าน

แน่นอน ก็มันไม่มีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

ผมยิ้มแหะ ๆ

“สงสัยฉันหิวจนตาลาย”

นาคินทร์ส่ายหัว

“กลับไปร้านเดิมดีกว่าครับ เลยเวลาอาหารมามากแล้ว เดี๋ยวโรคกระเพาะถามหา”
ผมพยักหน้า นาคินทร์เดินนำเหมือนเดิม โดยมีผมเดินตาม

ผมอมยิ้ม ไม่ได้อยากหลอกลวงนาคินทร์แบบนี้ แต่มันรู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้ใช้เวลาร่วมกันแบบนี้ 

ยังดีที่โต๊ะที่เราเล็งไว้ตัวนั้นยังว่างอยู่ เรารีบไปจับจองทันที ผมเป็นคนสั่งเหมือนเดิม นาคินทร์เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย ไม่ค่อยเรื่องมากเรื่องอาหารการกินหรอก ผมเล่าเรื่องที่ออกไซต์งานให้คนตัวสูงฟังระหว่างรออาหาร นาคินทร์เป็นผู้รับฟังที่ดีสำหรับผมเสมอ ไม่นานอาหารก็มา

“อร่อย”
ผมใช้ตะเกียบคีบผัดผักกระเฉดน้ำมันหอยใส่ปาก ติดกลีบกระเทียมโขลกมาด้วยชิ้นหนึ่ง หอมกรุ่นเชียว

“หือ นี่ก็อร่อย”
ผมชิมจานต่อไป ตามธรรมเนียมเดิมผมแหละครับ มาร้านอาหารไหนครั้งแรก ผมจะสั่งแหลกเพื่อชิมรสชาติ ครั้งต่อไปจะได้รู้ว่าร้านนี้เมนูไหนเด็ด ซึ่งนาคินทร์ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะดูจะเป็นคนที่กินทิ้งกินขว้างไปสักหน่อย ด้วยความเสียดาย เจ้าตัวก็ฟาดเรียบจนพุงยื่น(นิด ๆ) ส่วนผมกินเท่าที่อิ่มครับ ราคาสบายกระเป๋าพอควร

“ขืนกินข้าวนอกบ้านบ่อย ๆ นาคินทร์คงอ้วนเป็นหมูแน่ ๆ”

“แล้วใครใช้ให้กินจนหมดล่ะ ฉันแค่สั่งมาเยอะเพราะต้องการเทสว่าจานไหนอร่อย”

“กินไม่หมดก็ทิ้ง เสียของเปล่า ๆ”

ผมส่ายหน้า

“เราเสียเงินซื้อมาแล้ว ทิ้งก็จะเป็นอะไรไป”

“นาคินทร์ถือครับ คนบ้านนอก กินอะไรก็ต้องกินให้หมด กินทิ้งกินขว้างเกิดมาชาติหน้าจะไม่มีให้กิน นาคินทร์ว่าครั้งหน้า คุณหนูทดลองแค่เมนูสองเมนูก็พอ มาครั้งต่อไปค่อยสั่งที่เราไม่เคยสั่ง อาจไม่รู้ในเวลาเดียว แต่ดีกว่าต้องเสียของ ถึงคุณหนูจะมีเงินจ่าย แต่มันเป็นนิสัยที่ไม่น่ารักนัก ผมว่าแทนที่จะเอาเงินมาจ่ายเพื่อทดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ สู้เอาไปบริจาคให้เด็กที่แทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อกินจะดีกว่า”

ผมหน้าชาไปกับสิ่งที่นาคินทร์พูด นาคินทร์นิ่งไป 

“ขออภัยครับที่นาคินทร์พูดจามากไป นาคินทร์จะไม่พูดอีก”

ผมก้มหน้า ตอนแรกก็รู้สึกแย่อยู่หรอก แต่มันก็จริงของนาคินทร์ ผมเป็นลูกคนรวย เกิดมาก็มีให้กินจนครบสามมื้อ ไม่เคยเกิดมาอดอยากหรือลำบากมาก่อน ถ้านาคินทร์ไม่พูด ผมก็ไม่คิด

“ไม่หรอก นาคินทร์พูดถูก มันเป็นนิสัยที่เกิดจากความเคยชินน่ะ”

“ขอโทษที่นาคินทร์อาจแสดงความคิดเห็นอะไรที่เป็นส่วนตัวมากไป นาคินทร์แค่เสนอแนะในมุมของนาคินทร์ คุณหนูจะไม่เห็นด้วย หรือไม่ทำตามก็ได้ นั่นเป็นสิทธิ์ของคุณหนู”

ผมยิ้ม

“นาคินทร์เป็นคนดี ความคิดของนาคินทร์ มันมาจากแก่นลึกของความรู้สึก ฉันไม่ใช่เด็กสอนยากนะ พูดได้สอนได้ เพราะไงนาคินทร์ก็อายุเยอะกว่าฉัน”

“แต่คุณหนูเป็นเจ้านาย”

“เจ้านายที่ไม่ฟังคำพูดของลูกน้องเลย ไม่ใช่เจ้านายที่ดีหรอกนะ”     

นาคินทร์มองหน้า ยิ้มในดวงตา

“คุณหนูน่ารักสำหรับนาคินทร์เสมอ”

ผมหน้าร้อนผ่าว ผมรู้ว่านาคินทร์พูดไปแบบไม่คิดอะไร คำว่าน่ารักสำหรับนาคินทร์ มันก็เหมือนคำพูดที่ผู้ใหญ่เอาไว้พูดกับเด็กห้าขวบ เวลาที่เด็กทำอะไรถูกใจแล้วได้รับคำชม

แต่ผมอยากให้คำว่าน่ารักของนาคินทร์ มีความหมายมากไปกว่านั้น

ฟ้าแลบนิด ๆ ผมกับนาคินทร์เงยหน้ามอง

“ฝนทำท่าจะตกแล้ว เรารีบกลับกันดีกว่า”
ผมพยักหน้าเห็นด้วย เรียกเช็กบิล เรารีบพากันเดินกึ่งวิ่งไปที่รถ แต่เดินไปได้แค่ครึ่งทางฝนก็พากันโปรยลงมาเบา ๆ

“คุณหนูครับ”

ผมหันไปมองคนเรียก เห็นนาคินทร์ในสภาพเปลือยเปล่าท่อนบนขยับเข้ามาชิด ยกเสื้อที่ผมไม่รู้ว่านาคินทร์ถอดออกตั้งแต่เมื่อไหร่มากางขึ้นเหนือหัวผมเพื่อกันฝนให้ ผมหน้าร้อนผ่าว แผงอกกว้างอยู่ไม่ห่างจากแผ่นหลังผม มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เข้าใจอารมณ์พวกนางเอกเอ็มวีเลย เราพากันก้าวเร็ว ๆ ไปที่รถ

ฝนตกแรงขึ้นเรื่อย ๆ นาคินทร์เปิดประตูให้ผมขึ้นไปก่อน แล้วตัวเองก็อ้อมไปเปิดฝั่งคนขับ หัวกับหน้าผมแทบจะไม่ถูกเม็ดฝน ในขณะที่นาคินทร์เปียกไปหมด คงเพราะเอาเสื้อและตัวตัวเองมาปกป้องผมเป็นหลัก นาคินทร์สตาร์ทเครื่อง เปิดแอร์ให้เบาที่สุด

“หนาว”
ผมสยิวกายเบา ๆ เพราะความหนาว

“อดทนเอาหน่อยนะครับ”
ผมพยักหน้า ฝนตกแรงมากจนแทบมองไม่เห็นเส้นทาง รถติดมากด้วย ผมนั่งตัวสั่นในขณะที่นาคินทร์ยังนั่งชิลล์

“พายุคงเข้า”
นาคินทร์เปรยเบา ๆ เคาะนิ้วกับพวงมาลัย ขยับหรี่แอร์ลงอีก

“นาคินทร์ไม่หนาวบ้างรึไง”

“หนาวครับ แต่ทนได้”
ผมพยักหน้าเข้าใจ

ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงบ้าน นาคินทร์จอดรถ วิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้

“อาบน้ำสระผม อย่าลืมทานยาดักไว้ด้วยนะครับ ไม่งั้นหวัดกินแน่ ๆ”

ผมพยักหน้ารับคำอีกที

“นายเองก็เหมือนกัน”

“ครับ”
นาคินทร์รับปาก ผมเดินเข้าบ้านไป บรรดาแม่ ๆ นั่งดูทีวีกันหน้าสลอน

“เพิ่งกลับเหรอลูก ตัวเปียกมาเชียว”

“ครับ เจอฝนระหว่างทาง”

“ไป รีบไปอาบน้ำ อาบเสร็จลงมากินยาดักไว้ก่อนนะ เดี๋ยวหวัดกิน”
แม่ผมบอก ผมรับคำ วิ่งขึ้นห้องไป ได้น้ำอุ่น ๆ ทำให้ความหนาวที่มีมาก่อนหน้าเบาบางลง พออาบน้ำเสร็จผมก็ลงไปข้างล่าง แม่ผมรีบเอายามาให้กิน

 
ผมอยู่กับครอบครัวจนถึงเวลาเข้านอน ฝนด้านนอกก็ยังไม่หยุดตก พายุยังโหมแรง ทุกคนแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน ผมขึ้นห้องตัวเองไปเหมือนกัน เดินขึ้นเตียง

คิดถึงนาคินทร์แฮะ ทั้ง ๆ ที่ก็เพิ่งแยกย้ายกันไปเมื่อตอนเย็น

ความรักมักทำให้คนเป็นทุกข์ ผมเคยได้ยินคำนี้มาก่อน แต่การรักคนที่ไม่ได้รักเรา มันเป็นทุกข์ยิ่งกว่า

ผมนอนหงายจ้องมองเพดานประดับดวงไฟที่ถูกปิดสนิท เสียงฝนยังดังกระทบหน้าต่างไม่หยุด พอ ๆ กับเสียงฟ้าคำราม แสงไฟที่แลบแปลบปลาบเข้ามา

ผมขยับพลิกหันข้าง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ผมรู้สึกว่าเตียงผมมันกว้างเกินไป กว้างจนดูเคว้งคว้าง ผมชักรู้สึกชื่นชอบฟูกนอนแคบ ๆ เก่า ๆ ของนาคินทร์มากกว่า มันเล็กจนคนที่นอนอยู่ด้วยกันต้องเบียดชิดกัน ผมกระชับกอดผ้าห่มแน่น มันไม่รู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจเหมือนผ้าห่มสีมอ ๆ ของนาคินทร์เลย ผมขยับดึงมันขึ้นมาดม มันไม่มีกลิ่นสาบสางของนาคินทร์ด้วย กลิ่นมันสะอาด

สะอาดจนเกินไป

ผมพยายามข่มตาให้หลับ แต่ทำยังไงมันก็ไม่หลับสักที เสียงฟ้ายังคงดังกระหึ่ม อยากให้คืนนี้ นาคินทร์กอดผมไว้จัง

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นอีกรอบ ผมเม้มปากแน่น ขยับลุกนั่ง ยกเข่าขึ้นมากอด กัดเล็บ มองไปทางหน้าต่างบานนั้น

“นาคินทร์”
ผมเรียก หวังให้เสียงผมทะลุผ่านหน้าต่างส่งไปถึงคนตัวโต ป่านนี้นาคินทร์คงหลับไปแล้ว ผมหันมองไปทางมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ หยิบมันมาดู กดอันล็อก จะมีใครรู้ว่าบ้าง ว่าผมเปลี่ยนหน้าจอจากรูปตัวเองมาเป็นรูปของนาคินทร์ตอนทำงานแล้ว

ผมจ้องมองมัน ราวกับภาพในมือถือนั้นจะมีชีวิตเดินออกมาหาผม เลื่อนไปมองเบอร์ที่ผมจำได้ขึ้นใจ เบอร์ที่โชว์ภาพใบหน้านาคินทร์ตอนยิ้มร่าให้ผม

ไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนเกินไปไหม แต่ผมอยากได้ยินเสียงเขา ไม่ได้เห็นหน้า ได้ยินเสียงก็ยังดี

ผมตัดสินใจ กดโทรออก จะโทรแค่รอบเดียวเท่านั้น ถ้านาคินทร์ไม่รับเพราะนอนไปแล้วหรือเสียงฝนดังจนไม่ได้ยินเสียงก็แล้วไป ผมจะไม่รบกวนเขาอีก

เสียงรอสายผมดังอยู่สักพัก ผมเม้มปากแน่น เสียงสัญญาณสุดท้ายสิ้นสุดลงพร้อมกับความเงียบ ไม่มีเสียง’ครับ คุณหนู’ตอบรับเหมือนที่เคยได้ยินทุกครั้งที่ผมโทรหา

นาคินทร์คงหลับไปแล้ว

ผมจ้องมองใบหน้ายิ้มแย้มนั้น ก่อนสะดุ้งเฮือก เพราะอยู่ ๆ มือถือผมก็แผดจ้าขึ้น สายที่เรียกเข้าเป็นใบหน้าของคนที่ผมจ้องมองเมื่อกี้

หัวใจผมไหวแรง มองมันราวกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เสียงเรียกเข้ายังดังอยู่ไม่หยุด แต่ผมทำอะไรไม่ถูกกระทั่งมันเงียบเสียงไป

“ไอ้บ้าอนุชา ทำไมไม่รับวะ!”
ผมตำหนิตัวเอง จ้องมือถือนิ่ง รอสักพัก ถ้านาคินทร์โทรกลับมาอีก ผมจะรีบกดรับทันที

แต่ทุกอย่างนิ่งสนิท ผมเม้มปากแน่น ตัดสินใจกดโทรออกอีกครั้ง สัญญาณดังขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนจะได้ยินเสียงฝนดังแทรกเข้ามา เป็นการบอกให้ผมรู้ว่าฝั่งตรงข้ามกดรับแล้วเรียบร้อย แต่ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาให้ได้ยินเลย

“นาคินทร์” ผมเรียก

“ครับ คุณหนู”
                     .........50%........ผมยิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น

“นอนรึยัง”

“หลับไปแล้วครับ แต่ตื่นเพราะได้ยินเสียงมือถือของคุณหนู เสียงฝนมันดังกลบ นาคินทร์เลยรับไม่ทัน ขอโทษด้วยจริง ๆ คุณหนูมีอะไรให้นาคินทร์รับใช้หรือเปล่าครับ เมื่อกี้นาคินทร์โทรกลับไปรอบหนึ่ง คุณหนูไม่รับ นาคินทร์เลยเดาเอาว่าบางทีคุณหนูอาจเผลอกดโทรออก”

ผมยิ้ม ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงว่ามัวแต่มองหน้านาคินทร์เพลินเลยไม่ได้กดรับ

“ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่นอนไม่หลับเพราะเสียงฝนกับเสียงฟ้ามันดัง”
ผมค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอนหงาย จ้องมองเพดาน “ฉันไม่รู้ว่าจะคุยกับใครดี ตอนนี้นึกได้แค่นาคินทร์คนเดียว” พูดไปแล้วก็เม้มปากแน่น ผมอยากให้นาคินทร์รู้ความรู้สึกลึก ๆ ของผม แต่อีกใจก็ไม่อยากให้รู้ เพราะถ้านาคินทร์รู้ นาคินทร์อาจไม่ชอบ และอาจนึกตำหนิผมก็ได้

“กลัวหรือครับ”

“เปล่า แต่แค่นอนไม่หลับ”

“ผมว่าเสียงฝนตกเป็นเสียงที่เพราะนะ ฟังเพลิน ๆ แล้วชวนง่วงดีออก”
เสียงพูดนั้นฟังดูสบาย ๆ จนผมพลอยรู้สึกสบายใจไปด้วย

“ปกติฉันก็ชอบฟังเสียงมันนะ ฟังแล้วหลับสบายดี แต่วันนี้ไม่รู้เป็นไง เสียงมันทำให้ฉันนอนไม่หลับเฉยเลย”

“มีอะไรให้คิดหรือเปล่าครับ”
ผมชะงักไปกับคำถามนั้น แน่นอน ผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

“ก็พอมี” ผมตอบแผ่ว

“อยากเล่าให้นาคินทร์ฟังไหม”

ผมเม้มปากแน่น

ก็คิดถึงนายไงล่ะ

“อย่าเลย ดึกแล้ว ไม่อยากหาเรื่องปวดหัวมาให้นาคินทร์ด้วย เอาเป็นว่าแค่ได้ยินเสียงของนาคินทร์ ฉันก็รู้สึกสบายใจแล้ว หลังจากวางสายคงนอนหลับฝันดี”
ได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายทาง

“คุณหนูครับ”

“หือ”
ผมครางรับ เขี่ยมือกับที่นอนไปมา ใจจริงอยากให้มันเป็นแผงอกกว้าง ๆ ของนาคินทร์มากกว่า

“นาคินทร์อยากให้คุณหนูนอนหลับฝันดีนะครับ”

ผมอมยิ้ม กลิ้งไปจนสุดเตียงอีกด้าน

“ที่นอนฉันมันกว้างเกินไปนาคินทร์”

ปลายทางเงียบ

“ฉันชักติดใจที่นอนแคบ ๆ พื้นแข็ง ๆ ผ้าห่มสีมอ ๆ ที่มีกลิ่นสาบ ๆ ของนาคินทร์แล้ว เข้าไปทีไร หลับไม่ได้สติทุกที”
ปลายทางยังเงียบอยู่ ผมเม้มปาก รอคอยว่าอีกคนจะพูดอะไร

“ขอบคุณที่ให้เกียรติครับ แต่คุณหนูเหมาะกับที่นอนกว้าง ๆ ผ้าสะอาด ๆ กลิ่นหอม ๆ มากกว่า”
ผมเป็นฝ่ายเงียบบ้าง นั่นเป็นคำตอบกราย ๆ ว่านาคินทร์คงไม่ชอบให้ผมไปแย่งที่นอนเท่าไหร่ ยิ่งคนที่เคยมีอะไรกันมา อาจทำให้เขาคิดรังเกียจและไม่อยากให้ผมไปนอนด้วยอีกแล้วก็ได้

เสียงฝนดังสนั่น ผมเดาไม่ออกว่าอันไหนดังกว่ากันระหว่างจากเครื่องของนาคินทร์กับห้องของผม

“คุณหนูครับ”

“หือ”
ผมครางรับในลำคอ

“เห็นเงียบไป คิดว่าหลับไปแล้ว”

“เปล่ายังไม่หลับหรอก คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ”

“นาคินทร์”
ผมเรียกคนตัวสูงอีกรอบ

“ครับ”

“นาคินทร์เป็นคนหวงที่นอนเหรอ”

“เปล่าครับ ทำไมคุณหนูคิดแบบนั้น”

“ก็ขอไปนอนด้วยทีไรปฏิเสธทุกที”

“เหตุผลก็อย่างที่ผมบอกไปแล้ว คุณหนูเหมาะกับเตียงกว้าง ๆ ผ้าสะอาด ๆ มากกว่าฟูกนอนแคบ ๆ เหม็นอับจากดิน”

“ทั้งที่ฉันบอกว่าฉันชอบสิ่งนั้นมากกว่าเตียงกว้าง ๆ น่ะเหรอ”

นาคินทร์นิ่งไป

“ฉันแค่เกิดมาเป็นลูกคนรวยนะนาคินทร์ ไม่ได้หมายความว่าจะชอบสิ่งที่คนไม่รวยเขาชอบกันไม่ได้”
นาคินทร์นิ่งไปพักใหญ่

“คุณหนูติดดินมากกว่าที่ผมคิดอีกนะครับ”

“ถ้าศึกษาดี ๆ จะรู้ว่าบางครั้งฉันก็มนุษย์ตุ่นดี ๆ นี่เอง”

เสียงนาคินทร์หัวเราะดังมาให้ได้ยิน พลอยพาเอาผมรู้สึกเบิกบานในหัวใจไปด้วย ผมชอบให้นาคินทร์ยิ้ม ผมชอบให้นาคินทร์หัวเราะ ผมชอบให้นาคินทร์มีความสุข

“พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้านะครับ”

“ง่วงแล้วเหรอ ถ้าง่วงนาคินทร์วางสายก่อนก็ได้”

“เปล่าครับ แต่นาคินทร์เป็นห่วงคุณหนูนั่นแหละ กลัวจะดึกมากจนโผเผพรุ่งนี้”

ผมอมยิ้ม

“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ฉันยังไม่ง่วงจริง ๆ”

“ทำยังไงถึงจะทำให้คุณหนูของผมง่วงได้นะ”
ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงนั้นถามมาในลักษณะหยอกเย้าหรือว่าถามเพราะอยากรู้จริง ๆ กันแน่ มันก้ำกึ่งกัน ฟังดูเหมือนจะเย้าแต่ก็ดูจริงจังจนผมคาดเดาไม่ออก

“ถ้าได้นอนบนฟูกเน่า ๆ ของนาคินทร์ ได้ห่มผ้าห่มสีมอ ๆ อาจทำให้หลับเร็วขึ้นก็ได้ แต่รู้ว่านาคินทร์คงไม่ชอบ หรือรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับสถานะของฉัน”
ผมดักคอไว้ก่อน

นาคินทร์นิ่งไปนาน

“ครับ ที่นี่ไม่เหมาะกับคุณหนูหรอก”
คำนั้นยิ่งย้ำให้ผมรู้สึกแย่ กำลังจะอ้าปากบอกลา

“แต่ถ้าคุณหนูชอบ นาคินทร์ก็พร้อมจะยกมันให้คุณหนู ไม่ต่างกับตัวและหัวใจนาคินทร์ตอนนี้เลย”

หัวใจผมเต้นรัว ที่นอนของนาคินทร์ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นได้เท่ากับคำพูดท่อนสุดท้ายนั้น

หัวใจของนาคินทร์ หัวใจแบบไหน

“ถ้าตอนนี้ ฉันจะขอไปนอนด้วยล่ะ”

“นาคินทร์จะไม่ขัดคำสั่งคุณหนูครับ ถ้ามันทำให้คุณหนูมีความสุขและนอนหลับได้ แต่ตอนนี้ฝนตกหนักมาก”

“ฉันจะไป”
ผมตอบกลับอย่างมุ่งมั่น

“ครับ งั้นนาคินทร์จะรอ”
คำพูดนั้นทำให้ผมยิ้มได้

“ฉันอาจเปียก เตรียมชุดไว้ให้หน่อยแล้วกัน”

“งั้นให้นาคินทร์ไปรับดีกว่าครับ”

“อย่าเลย ขืนให้นาคินทร์มาได้พากันเปียกทั้งคู่ ให้ฉันเปียกคนเดียวก็พอ ฝนตกแรงมากด้วย เปียกแน่ ๆ”

“ครับ ระวังตัวด้วย บางส่วนน้ำอาจขังจนเป็นโคลน เดินระวังพวกสัตว์เลื้อยคลานที่จะออกมาเดินป้วนเปี้ยนด้วยนะครับ”
พูดมาซะทำเอาผมไม่อยากไปเลย แต่ก็ทำใจกล้าลุกขึ้นยืน

“ขอบใจที่เตือน งั้นแค่นี้นะ แล้วเจอกัน”
ผมกดตัดสายทันที โยนมือถือลงบนโต๊ะ หันไปรื้อหาร่ม เดินออกจากห้องไป ดีว่าทุกคนเข้านอนกันหมดแล้วเลยไม่มีใครรู้เห็นว่าผมทำตัวได้น่าอายขนาดไหน

ผมเดินเงียบลงไปข้างล่าง กางร่มเมื่อออกไปนอกประตูบ้าน เห็นความแรงของฝนก็อดกลัวไม่ได้ แต่ก็ทำใจกล้า กระชับคันร่มแน่น วิ่งลิ่วฝ่าสายฝนไปทางหลังบ้าน

แค่ออกมาพ้นประตูบ้านแค่สองวา ตัวผมก็เปียกไปแล้วเกือบทั้งตัว ร่มแทบเอาไม่อยู่เพราะความแรงของฝน ผมวิ่งเร็วไปตามทางกระทั่งถึงโรงเลื่อย ผมรีบเคาะประตู นาคินทร์เปิดออก มองผมอึ้ง ๆ รีบดึงมือผมเข้าไปภายใน

“โธ่ เปียกหมดเลย”

ผมลูบหน้าตัวเองเบา ๆ สยิวกายเพราะความหนาว นาคินทร์รีบหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองมาห่มให้ ลูบหัวไหล่เบา ๆ เช็ดน้ำให้

“นาคินทร์ว่าอาบน้ำดีกว่า เปียกขนาดนี้ แค่เช็ดตัวหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าคงเอาไม่อยู่ น้ำฝนในกรุงเทพไม่ได้สะอาดเหมือนต่างจังหวัดด้วย”
ผมพยักหน้าเห็นด้วย นาคินทร์ยกผ้าเช็ดตัวผืนนั้นให้พร้อมชุด พาผมไปส่งที่หน้าห้องน้ำ ผมใช้เวลาอาบไม่นานหรอก เพราะแค่ล้างตัว เดินตัวหอมฉุยเข้าไปในห้องนอนต่อ

เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้กลายเป็นชุดเก่งของผมไปแล้ว

“รู้สึกว่าฉันจะใส่เสื้อตัวนี้บ่อยกว่าเจ้าของซะอีก”
ผมพูดไปขยี้ผ้าเช็ดตัวกับเส้นผมไป นาคินทร์หัวเราะ ขยับมาจับผ้าเช็ดตัวไว้

“นาคินทร์เช็ดให้ครับ ถ้าอากาศไม่เย็นก็อยากให้เป่าด้วยพัดลม แต่ตอนนี้มันเย็น ขืนโดนพัดลมคงป่วย”

ผมไม่ว่าอะไร ปล่อยให้คนตัวสูงทำ ปกติผมจะพับแขนเสื้อขึ้นถึงศอกเพราะความใหญ่ของมัน แต่วันนี้ผมปล่อยยาวคลุมแขนเลยเพราะความหนาวเย็นจากฝนที่กำลังตกหนัก

“หนาวจริง ๆ”
ผมกอดอกสั่น ๆ นาคินทร์ขยี้เช็ดหัวผมให้เบามือ กระทั่งมันหมาด หัวผมตอนนี้คงฟูไม่เป็นทรง

“งั้นคุณหนูรีบนอนเถอะครับ ห่มผ้าห่มจะได้อุ่น ๆ”
นาคินทร์ขยับไปปรับที่นอนให้ ผมคลานขึ้นไปนั่งก่อน แล้วทิ้งตัวลงนอน นาคินทร์ห่มผ้าห่มให้

“อย่าคิดนั่งเฝ้าฉันทั้งคืนหรือแยกไปนอนข้างล่างล่ะ เอาตัวอุ่น ๆ ของนายมาเป็นฮีตเตอร์ให้ฉันเลย”
ผมเรียกเมื่ออีกคนทำท่าจะเดินไปเอาผ้าห่มสำรองมาปู นาคินทร์ชะงัก

“แต่ผมว่า…”

“แต่ถ้านาคินทร์รังเกียจก็ไม่เป็นไร”

“นาคินทร์ไม่ได้รังเกียจครับ แต่…”

ผมจ้องตาคนตัวสูง ตบที่นอนด้านข้างเบา ๆ

“ถ้าไม่รังเกียจก็มานอน แต่ถ้ารู้สึกอย่างนั้นจะนอนที่นั่นก็ได้ ฉันไม่ฝืนใจนายหรอก”

นาคินทร์ถอนหายใจแรง เดินกลับขึ้นมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ดึงผ้าห่มสีมอ ๆ ที่ผมเรียกขานประจำไปคลุมขา สีหน้าดูวิตก

“ฉันไม่บังคับหรอกนะ ถ้ามันลำบากใจขนาดนั้น”

“นาคินทร์ไม่ได้ลำบากใจครับ แต่…”

“แต่อะไร”

“ไม่มีอะไรครับ นอนเถอะดึกมากแล้ว พรุ่งนี้คุณหนูต้องตื่นแต่เช้า เดี๋ยวได้หน้าหมองไปพบลูกค้าหรอก”

ผมหัวเราะ พยักหน้า ขยับหันหน้าเข้าหานาคินทร์

“ขอโทษนะครับ”
คนตัวสูงเอื้อมมือข้ามผมไปปิดไฟหัวเตียง ความมืดปกคลุมไปทั่ว แต่ไม่ได้มากมายเพราะแสงที่ยังแลบแปลบปลาบอยู่ภายนอก นาคินทร์ขยับดึงผ้าห่มคลุมตัว

“ขอฉันนอนชิดนาคินทร์นิดนะ ตัวนาคินทร์ร้อนดี”

นาคินทร์นิ่งไปนานก่อนตอบรับ

“ครับ”

ผมยิ้ม ขยับกระดืบ ๆ เข้าชิดทั้งที่อีกคนยังนอนหงายอยู่ ผมขยับซุกหน้ากับต้นแขนแกร่ง มันแน่นไปด้วยมัดกล้ามและร้อนผ่าวราวกับเครื่องทำความร้อน

“อุ่นจริง ๆ”
ผมพูดเสียงเบา ผมว่าผมไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะผมรู้สึกง่วงจริง ๆ

“คุณหนู”

“หือ…”
ผมครางรับเสียงเบา ขยับไซ้หน้ากับต้นแขนนั้นอีกนิด แล้วสติก็ค่อย ๆ จางหายไป


100%
[ต่อค่ะ]>>http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54278.msg3473629#msg3473629


e-book : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2016 12:31:35 โดย memew »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เรียกมาที่ห้องเถอะ....... เตียงมันกว้างนาาาา เหงาแย่

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   ลงไปหาเองเลยไหมคะคุณหนู.  แอร๊ย ขอเรือนหอด่วนๆคู่นี้คงจะแยกกันยากแล้ว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณหนู ติดนาคินทร์ ซะขนาดนี้
ห่าวเดี๋ยวเดียวก็คิดถึงนาคินทร์ แล้ว
สารภาพรักเลยดีไหม
นาคินทร์ ก็รัก ภักดีคุณหนูมากมาย
จะได้รู้ว่าใจตรงกัน ยิ่งเพิ่มความหวานชื่น
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
  แค่ได้ยินเสียง ก็ไม่พอหรอก เอาอีกๆๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
โอ๊ย มีอะไรพูดกันตรงๆสิคะ

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถ้าทนคิดถึงไม่ไหว ก็ลงไปนอนกับนาคินทร์เลย
 :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ค้างมากกกกกก งื่อออ

รับมาต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
โถ่ลงไปหาที่ห้องก็จบแล้วอนุชา

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลงไปหาเลยสิอนุชา  >__<
มัวชักช้าอยู่ทำไม~




คนแต่งรีบมาต่อไวๆนะ
รอจ้า

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
โอมมม นาคินทร์จงมาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ได้ยินแค่เสียงจะพอหรอออออออ :hao7:

ออฟไลน์ Antisa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฟินแลนด์ มันคือแบบนี้นี่เอง~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
คุณหนูโดนลักหลับอีกแน่ๆ
ใกล้ขนาดนี้ มีหรอจะทนไหว  :hao3:

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z1: :z1: :z1:  แล้วอย่างนี้นาคินทร์ จะไปไหนรอด อิอิอิ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
นาคินทร์เหมือนโดนทำร้าย 555555555
โดนอ่อยแต่กินไม่ได้นะจ๊ะ เอ๊ะ..หรือกินได้ -.,-

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
นาคินทร์จะนอนหลับไหมล่ะนั่น ไม่ใช่ว่าคุณหนูนอนหลับสบายในขณะที่นาคินทร์ตื่นทั้งตาตื่นทั้งตัวนาคินทร์น้อยเหรอ :hao3: :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ว้า แอบสงสารนาคินทร์เนอะอยากกินก็ได้แค่ดมอุตส่าห์เอาไว้ไกลๆมือแล้วเชียว
ชอบจังค่ะ  :katai2-1:   คุยกันเถอะ รักแท้นาดนี้แล้วชนชั้นฐานะก็ช่างมันบ้าง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หึหึหึ จะทนได้อีกนานแค่ไหนเนี่ย?

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คิดถึงงงงงง รอมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
[ต่อค่ะ]


“คุณหนู”
ได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ พร้อมกับสัมผัสที่ผิวแก้ม เพราะอากาศมันหนาวผิดปกติ สัมผัสจากมือนั้นถึงได้ชัดเจนขึ้น

“คุณหนู”
ผมครางอื้อด้วยความขี้เกียจเพราะไม่อยากตื่น

“คุณหนูของนาคินทร์”
เสียงกระซิบนั้นดูราวกับมาจากที่ไกลแสนไกล แต่ความร้อนที่กำลังไล่อยู่บนผิวเนื้อแต่ละจุดตอนนี้มันชัดเจนขึ้น

ผมเอียงหน้าเมื่อมีบางสิ่งร้อน ๆ มาซุกอยู่กับซอกคอ ผมเครือครางออกมาเบา ๆ เงยหน้าขึ้นเมื่อปากนั้นไล่มากลางลำคอต่ำลงไปที่หน้าอก

อือ… อะไร

ผมถามตัวเองเบา ๆ แต่ความง่วงที่มีตอนนี้ ทำให้ผมอยากนอนมากกว่ารับรู้ว่ามันคืออะไร

“คุณหนูของนาคินทร์”
ได้ยินเสียงนั้นกระซิบพร่าก้องเข้ามาในความรู้สึก แล้วหลังจากนั้น ผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีก








ผมสะลึมสะลือลืมตาตื่นอีกที ลุกขึ้นมานั่งหัวฟู มีแสงอ่อน ๆ ลอดมาทางหน้าต่าง ได้ยินเสียงนกพากันร้องจิ๊บ ๆ ที่นี่จะทำให้ผมเข้าใกล้ธรรมชาติได้มากกว่าในห้องติดแอร์ของผมซะอีก

ที่นอนข้าง ๆ ว่างเปล่าเหมือนเคย ผมเกาหัวเกาพุงแกรก ๆ หลับสนิทมาก ไม่ฝันอะไรเลย ผมลุกขึ้นพับผ้าห่มแบบที่นาคินทร์เคยทำ เปิดประตูเดินออกไปนอกบ้าน ชะงักนิดหนึ่งเพราะออกไปก็ปะทะกับหนูแดงเข้าเต็ม ๆ ผมทำหน้าไม่ถูก ไม่เคยเผชิญหน้ากับหนูแดงในสภาพแบบนี้มาก่อน

หนูแดงจะคิดยังไง จะรังเกียจผมไหม ถ้ารู้จะคิดยังไง จะรังเกียจผม ห้ามปรามผมไม่ให้เข้าใกล้พ่อตัวเองหรือเปล่า

“ตื่นแล้วเหรอครับ”
นาคินทร์โผล่หน้าเข้ามาถาม

“นอนหลับฝันดีไหมคะพี่อนุชา”
หนูแดงถามตาม

“ไม่ได้ฝันอะไรเลย หลับเหมือนคนตาย”
ผมพยายามตอบด้วยน้ำเสียงปกติที่สุด หนูแดงหัวเราะ

“ที่นอนกว้าง ๆ นุ่ม ๆ กลับไม่นอน มานอนที่นอนแข็ง ๆ เน่า ๆ ของพ่อได้”

นาคินทร์โขกหัวลูกสาวเบา ๆ

“ลามปามนะ”

หนูแดงยู่หน้า จริง ๆ หนูแดงทำตัวสมกับที่เราอยากได้เป็นน้องสาวมากกว่าพ่อที่เห็นเราเป็นเจ้านายมาแต่ไหนแต่ไร

“หลับสบายดีออก แล้วนี่มาทำอะไรแต่เช้า”

“พอดีจะมาบอกพ่อว่าเสาร์อาทิตย์นี้หนูแดงคงไม่ได้กลับบ้านไปหาปู่ย่าแล้ว เพราะต้องไปออกค่ายกับทางโรงเรียน เพิ่งแจ้งมาวันนี้เอง”

ผมมองหน้านาคินทร์

“งั้นเดี๋ยวเลื่อนเป็นอาทิตย์ต่อไปก็ได้”

หนูแดงยู่หน้าอีก

“ได้ที่ไหนเล่า ลืมไปแล้วรึไง หนูแดงถูกคุณท่านบังคับให้เรียนพิเศษภาษาจีนกับญี่ปุ่นเพิ่ม จะเริ่มอาทิตย์ถัดไป จริง ๆ ถ้าพ่อคิดถึงปู่กับย่ามาก ก็ไปคนเดียวก็ได้ เพราะพวกคุณท่านฝากของไปให้เพียบเลย”

นาคินทร์มีสีหน้าอึดอัด คงไม่ได้บอกหนูแดงไว้ว่าจะเอาผมไปด้วย

“จริง ๆ เราไม่ได้จะไปกันสองคนหรอก คุณหนูเขาขอไปด้วย”

หนูแดงทำหน้างง หันมองมาทางผม ผมทำหน้าอึดอัด กลัวหนูแดงจับความรู้สึกผมได้

“ก็ดีน่ะสิคะ พ่อจะได้มีเพื่อน บ้านหนูแดงสวยค่ะ ธรรมชาติเพียบ พี่อนุชาทำงานมาเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนที่แบบนั้นบ้างก็ดี งั้นพ่อก็จำเป็นต้องไปเลย เพราะมีพี่อนุชาไปด้วย พาพี่เขาไปพักผ่อน”

ผมมองคนตัวสูง ผมยังไงก็ได้ ยกให้เป็นหน้าที่ของนาคินทร์เพราะเป็นบ้านเกิดเขา

“เอาไงครับ”
นาคินทร์หันมาขอความเห็น

“แล้วแต่นาคินทร์เลย ฉันยังไงก็ได้”

“ไปเลยพ่อ เสียน้ำใจพวกคุณท่านที่อุตส่าห์เตรียมของไว้ให้ หนูแดงโทรไปเม้าท์ให้ย่าฟังแล้วเรียบร้อยด้วยว่าน่าจะมีอะไรไปฝากบ้าง พวกท่านกำลังคอยเลย หนูแดงมีของจะฝากไปให้ปู่กับย่าด้วย หนูแดงทำเอง ตอนแรกว่าจะให้กับมือ แต่คงไม่มีโอกาส ฝากพ่อไปละกัน”

นาคินทร์ทำหน้าลำบากใจ

“ก็ได้ พ่อเสียดายที่เราไม่ได้ไปด้วย”

“ไงสงกรานต์ก็ได้กลับ อีกอย่างรีบไปรีบกลับมันไม่สะใจเท่ากับไปอยู่หลาย ๆ วันในช่วงวันหยุดยาวหรอก”
นาคินทร์พยักหน้าเห็นด้วย

“งั้นเดี๋ยววันพฤหัสพ่อจะไปเอาของแพ็คใส่รถเตรียมไว้”

“ค่ะ เดี๋ยวหนูแดงเลิกเรียนแล้วจะรีบกลับมาช่วย”

ผมยืนฟังสองพ่อลูกเขาคุยกันเฉย ๆ

“งั้นหนูแดงเตรียมตัวไปโรงเรียนก่อนนะคะ”
หนูแดงยกมือไหว้ทั้งผมและพ่อตัวเองวิ่งฉิวกลับเข้าบ้านใหญ่ไป บรรดาแม่ ๆ ผมให้หนูแดงพักอยู่ในบ้านใหญ่ไม่ต่างกับแม่บ้านคนอื่น ๆ ซึ่งแต่ก่อนจะพักอยู่บ้านพักคนงานหลังสวน แต่พวกแม่ผมเห็นว่าจะโตเป็นสาวแล้ว ห่วงความปลอดภัยเลยเอาไว้ในบ้านดีกว่า

“งั้นฉันขึ้นห้องไปอาบน้ำก่อนละกัน”

“คุณหนูครับ”
นาคินทร์เบรกผมไว้ด้วยเสียง

“นอนหลับไหมครับ”

“สนิทชนิดไม่ฝันอะไรสักแอะ”

นาคินทร์ถอนหายใจแรง ยิ้มให้นิด ๆ

“เชิญครับ แล้วเจอกัน นาคินทร์จะรอที่เดิม”
ผมพยักหน้ารับ เดินตรงเข้าบ้าน

“ตื่นแต่เช้าเชียวลูก ไปเดินเล่นมาเหรอ”
แม่ถามขณะลำเลียงอาหารมาเตรียมบนโต๊ะ เพราะบ้านเรามีสมาชิกหลายคน บางคนตื่นเช้ามาก บางคนตื่นสาย จึงต้องจัดเตรียมอาหารไว้ให้พร้อมเสมอ

“ครับ”
ผมตอบรับไม่เต็มเสียง ไม่พูดอะไร เดินขึ้นห้องไป

ผมเดินไปหยุดยืนอยู่หน้ากระจกขนาดใหญ่ ใบหน้าดูผ่องใสดี คงเพราะได้หลับลึกตลอดทั้งคืน ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว วิ่งลิ่วลงไปข้างล่าง ทุกคนอยู่กับพร้อมหน้าเลย

“นี่พี่อนุชา ชยันต์ซื้อนี่มาฝาก”
ชยันต์นั่งกินข้าวอยู่ก้มลงหยิบอะไรบางอย่างยื่นมาให้ เป็นถุงกระดาษครับ ไม่หนามาก

“อะไร”
ผมถามขณะยื่นมือไปรับ

“ดูเองดิ”

ผมเปิดอ้าออกดู แค่เห็นว่าเป็นผ้าก็พอจะเดาได้แล้ว

“ไม่ต้องซื้อมาฝากก็ได้”

“ถ้าอยากให้เขาหลงมาก ๆ ก็ต้องนี่แหละ”

ผมชะงัก จ้องหน้าคนพูด นี่ชยันต์รู้มากไปถึงไหนแล้ว ผมไม่พูดอะไรต่อเพราะกลัวคนอื่นสงสัย

“คุยอะไรกันสองคนบอกให้เราเข้าใจกันบ้างสิ ซุบซิบ ๆ กันสองคน อนุชาซุกใครไว้ก็รีบ ๆ บอกมา ส่วนชยันต์ รู้อะไรก็รีบ ๆ บอกมาเหมือนกัน”

“บอกทำไม รอเจ้าตัวเขาบอกเองสิ”
ชยันต์ทำหน้าทะเล้นแบบสวย ๆ หันไปตักอาหารป้อนพี่เชนทร์

แล้วสองคนนั้นก็ตัดขาดจากโลกภายนอกมุ้งมิ้งกันอยู่สองคนจนผมอิจฉา คนอื่นเขาชินแล้วครับ แต่ผมไม่เคยชินเพราะผมอยากมีแบบนี้บ้าง

พออิ่ม ผมเดินออกไปข้างนอก ออกพร้อม ๆ กับพี่เชนทร์และชยันต์ พี่เชนทร์กลายเป็นคนขับรถกิตติมศักดิ์ของชยันต์ไปแล้วครับ ชยันต์ผละจากจับแขนพี่เชนทร์มาเดินชนไหล่ผม ผมหันไปมองน้อง ในมือถือถุงผ้าที่ชยันต์ให้มาด้วย

“หน้าผ่องเชียว สงสัยน้ำเชื้อนาคินทร์จะดี”

ผมชะงักกึก จับแขนชยันต์ไว้ พี่เชนทร์หันมามองตาม ขมวดคิ้ว ผมอึกอัก คืออยากพูดกับชยันต์แต่ไม่อยากให้พี่เชนทร์รู้

“พี่เชนทร์ พี่ไปรอชยันต์ที่รถก่อน ขอคุยธุระส่วนตัวกับพี่อนุชานิด”
รายนั้นก็พูดง่ายดี พยักหน้า บางครั้งผมก็ทึ่งในความสามารถของน้องผมนะ อ่านใจคนเก่ง คอนโทรลคนเก่ง ใช้งานคนเก่งด้วย บางทีผมก็กลัว

“ที่พูดหมายความว่ายังไง”
ผมถามกลาง ๆ เพราะไม่รู้ว่าชยันต์รู้ไปถึงไหนแล้ว คนสวยประจำบ้านเรายู่หน้า

“ชยันต์กินข้าวไม่ได้กินหญ้าพี่อนุชา มีตาก็มองไม่ได้มีไว้ปิดตาดำอย่างเดียว”

ผมจิ๊ปาก วาจาเหลือร้ายจริง

“แล้วที่พูดหมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่า…”
ชยันต์มองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม มองรถของนาคินทร์ที่ขับมาจอดยังจุดจอดเพื่อรับผม

“พี่อนุชาคิดยังไงกับคนสวนของเราล่ะ”

ผมชะงัก

“ก็ไม่คิดอะไร เขาเป็นคนซื่อสัตย์ดี”

ชยันต์ยิ้มในดวงตา

“ปากแข็ง รักนาคินทร์ใช่ไหม”

เหมือนโดนหมัดใหญ่ ๆ ซัดมาที่กลางใจ ผมตาโตพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดว่าชยันต์มองออก

“ชยันต์รู้…”
ผมถามเสียงแผ่ว

“ก็บอกแล้วว่ากินข้าวไม่ได้กินหญ้า”

ผมหลุกหลิกสายตาไปมา

“แล้วคนอื่นในบ้านล่ะ”
ผมเม้มปากด้วยความหวาดหวั่น

“ไม่รู้กันหรอก คิดกันไม่ถึง แต่ชยันต์เป็นพวกชอบสังเกต” ใช้คำว่าเสือกน่าจะเหมาะกว่า “พี่เชนทร์ก็รู้”

ผมตาโต ชยันต์ยักไหล่

“แต่รายนั้นถ้าไม่บอกก็ไม่รู้เหมือนกัน ชยันต์บอกเอง”

ผมเริ่มคิดหนัก ถ้าคนอื่นรู้จะเป็นยังไง แค่หนักใจที่นาคินทร์ไม่ได้คิดอะไรกับผมก็มากพอแล้ว นี่ถ้าคนอื่นรู้ว่าผมชอบผู้ชาย แถมยังเป็นคนสวนที่ฐานะต่ำกว่ามากจะทำไง

นาคินทร์เปิดประตู ก้าวลงมาจากที่นั่งคนขับ เขาเห็นผมแล้ว ยิ้มให้อย่างที่เคยทำ ผมไม่ได้ยิ้มตอบ หันมามองชยันต์ ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้จะพูดอะไร

“ตอบคำถามชยันต์ได้หรือยัง”

ผมเม้มปากแน่น ก้มหน้าหลบสายตา

“ยากนักรึไง กับแค่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง”
ชยันต์พูดขึ้นเสียงเรียบ

“นาคินทร์เป็นคนสวนนะ เป็นผู้ชาย เป็นพ่อลูกหนึ่ง และที่สำคัญ เขาไม่ได้คิดอะไรกับพี่”

ชยันต์มองผมเหมือนเห็นเขางอกออกมาที่หัว

“นี่อาหารเที่ยงพี่อนุชาเป็นหญ้าผสมเกลือหรือเปล่า”

ผมขมวดคิ้วมองงง ๆ

รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองจะโดนด่า

“คนสวนแล้วไง ผู้ชายแล้วไง เป็นพ่อลูกหนึ่งแล้วไง เรื่องแค่นั้นมันไม่ใช่อุปสรรคในการจะรักหรอก ยกเว้นพี่จะทำให้มันเป็นอุปสรรคเอง บ้านเราก็ใช่ว่าจะดูถูกเขา มองเขาต่ำต้อย ยกเว้นพี่นั่นแหละที่มองว่าเขาต่ำเอง ฐานะเป็นแค่เปลือกนอก เงินทองมันแค่เปลือกนอก มันสำคัญเท่าตัวตนของเขารึไง ไม่ดีจริงเขาคงอยู่กับเราไม่ได้มานานขนาดนี้หรอก”

คราวนี้เป็นผมเองที่อึ้ง

“ผู้ชายแล้วไง ผมก็ผู้ชาย พี่เชนทร์ก็ผู้ชาย พี่กวินทร์ พี่ชาย พี่เชิดวุธต่างก็เป็นผู้ชาย ถามจริงว่าพวกผมมีปัญหามากหรือน้อยต่างกับคู่ปกติตรงไหน อะไรที่คู่ปกติมีปัญหา เราก็มีเหมือนกันนั่นแหละ”

“มีลูกแล้วไง ดีออก ไม่ต้องคลอดเอง ไม่ต้องเครียดเรื่องมีคนดูแลตอนแก่ พวกผมยังต้องคิดมากกว่าอีก เพราะถ้าไม่อยู่ด้วยกันจนแก่ก็ต้องหาเด็กมาเลี้ยง ยุ่งยากกว่าอีก”

“ส่วนเรื่องความคิดของนาคินทร์…” ชยันต์นิ่งไป ทำท่าจะพูด ก่อนเงียบเสียงลง “มันเป็นเรื่องของพี่กับเขาแล้วละ ชยันต์จะไม่ยุ่งเรื่องนี้ เอาเป็นว่า ชยันต์ให้นาคินทร์ผ่าน ส่วนพี่อนุชาจะทำให้ตัวเองและนาคินทร์ผ่านไปได้ไหมเป็นเรื่องของพี่ ชยันต์จะไม่ยุ่งเรื่องนี้”

ผมนิ่งไป นาคินทร์ยังยืนอยู่ท่าเดิม ผมก้มมองชยันต์อีกครั้ง

“มีความเป็นไปได้สักนิดไหมที่เขาจะรักพี่บ้าง รักในฐานะคู่ชีวิตไม่ใช่รักเจ้านายแบบที่เขารู้สึกกับพี่อยู่ทุกวันนี้”

ชยันต์เลิกคิ้วสูง มุมปากยกขึ้นคล้ายกับจะหัวเราะ

“อ๋อ…มิน่า”

ผมขมวดคิ้วบ้าง

“มิน่าอะไร”

“เปล่า ๆ เพลา ๆ กินหญ้าลงบ้างนะพี่ เอาไว้ให้ควายมันกิน อย่าไปแย่งมันกินเลย”

“ชยันต์!”
ผมปราบฉุน ๆ

ชยันต์หัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าไปมา

“เดี๋ยวให้ถึงที่สุดก่อน ชยันต์ถึงจะช่วย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา จะรอดูว่าพี่ชายของชยันต์จะฉลาดหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง ไปละ”
แล้วเจ้าตัวก็โบกมือให้ผมแค่นั้น วิ่งลิ่วไปหาพี่เชนทร์ รายนั้นจับหลังคนรักตัวเอง ขยับปากพูดอะไรสักอย่างที่ผมเดาไม่ออกว่าพูดอะไร

ก่อนเจ้าตัวยุ่งจะเข้าไปนั่งในรถ พี่เชนทร์หันมามอง ยิ้มให้นิดหนึ่ง ผมเม้มปากแน่น รู้สึกกระดากเหมือนกันเพราะพี่เชนทร์รู้แล้ว


To be Con...
อ่านกันให้สนุกนะขอรับ คิสสส




e-book : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด