Poor Boy…รักที่มองไม่เห็น [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (06/01/60) End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Poor Boy…รักที่มองไม่เห็น [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (06/01/60) End  (อ่าน 53991 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
**************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*****************************************************************************************
ผลงานจางบิวตี้

เซต ครอบครัวเทพพยัคฆ์
Dragon's Love รักร้ายนายมังกร (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51339.0

Lion's Love รักร้ายนายเย็นชา (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52668.0

Tiger's Love รักร้ายนายเพลย์บอย
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54447.0

Fox's Love รักร้ายนายเจ้าเล่ห์
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55655.0


เซต Poor Boy
Poor Boy รักนี้ไม่มีเสียง (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51770.0

Poor Boy รักไม่ได้
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54025.0


Poor Boy รักที่มองไม่เห็น
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55595.0




เซต Sex toy
Sex Toy ผมถูกบังคับให้ขายตัว (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52620.0

Sex Toy ผมไม่ได้ขายตัวเว้ย!
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54540.0


Sex Toy ผมขายตัวครับ!
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55704.0
[/color][/size]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2017 17:32:29 โดย Jang_B2UTY »

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy…รักที่มองไม่เห็น [Yaoi Boy’s Love]




Open : 10/09/59
Close : 06/01/60




Noah : คิดว่าฉันจะปล่อยนายไปหรือไง ไม่มีทาง!
Meok : คนใจร้าย คนเห็นแก่ตัว คุณจะทำร้ายผมไปถึงไหน!














เปิดเรื่องใหม่ค่า!!!! เป็นเรื่องสุดท้ายของเซตนี้แล้วววววว ยังคงความดราม่า ความละครหลังข่าวเหมือนเดิม 555555 ใครไม่ชอบแนวนี้แนะนำให้ลีฟออกไปเลยนะคะ อย่ามาก่อดราม่าให้คนแต่งปวดหัว 555555  ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ >__<
___จางบิวตี้___


[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2017 17:33:02 โดย Jang_B2UTY »

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Intro

…5ปีก่อน…

‘นายตาบอดงั้นเหรอ?’
‘ครับ’


-------------------------------------------------------------------------


‘ผมอยากมองเห็นหน้าของคุณ’
‘ถึงตาของนายจะมองไม่เห็น...งั้นใช้หัวใจของนายสัมผัสมันแทนสิ’


-------------------------------------------------------------------------

…5ปีต่อมา….


‘บอกว่าอย่ามายุ่งไงวะ! ไสหัวไปไหนก็ไป!!’
‘ฮึก คนใจร้าย’


-------------------------------------------------------------------------


‘ถ้าฉันลืมตาขึ้นมา ฉันอยากเจอนายเป็นคนแรก’
‘ผม...คือ...’



-------------------------------------------------------------------------

‘ได้โปรด...ปล่อยผมไป....’
‘ไม่มีทาง...นายเป็นเมียของฉัน ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไป แม้เราจะต้องตกนรกก็ตาม! ’





























Introแบบงงๆ 55555 มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรปานนี้ นี่แต่งเองยังงงเอง 55555 ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ตอน1ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ยังไม่รับปาก แต่ก็ฝากติดตามด้วยค่า ^O^
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :mc4: ลงชื่อคอยอีกเหมือนเดิม

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
Intro มาคล้ายๆกับ รักไม่มีเสียงเลย มารอติดตามครับบบบบบบ

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตาม ตาม ตาม ตาม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3

ออฟไลน์ Minzero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มารอคร้าา แค่intoก็นาติดตามมมมมมม :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 1

 

        คนทุกคนบนโลกสามารถมองเห็นสิ่งสวยงามบนโลกใบนี้ได้โดยดวงตา ‘หมอก’เองก็เคยเป็นอย่างนั้นเช่นกันแต่เมื่อ2ปีก่อน หมอกเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เขาสูญเสียการมองเห็น หมอกจมกับโลกแห่งความมืดมากว่าสองปีแล้ว แรกๆก็ยอมรับว่านึกเสียอกเสียใจกับโชคชะตาอันร้ายกาจนี้ไม่น้อยแต่ตอนนี้เขาสามารถทำใจยอมรับมันได้และจะเดินหน้ายืนอยู่บนโลกแห่งความมืดของตัวเองต่อไป



          “ขนมครับ ห่อละยี่สิบ สามห่อห้าสิบครับ” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับตะกร้าขนมที่เจ้าตัวคอยเดินถือเร่ขายตามชายหาดอย่างนี้ประจำทุกวัน แม้ว่าหมอกจะตาบอดแต่เพราะเขาเกิดและโตที่นี่มาจึงไม่แปลกที่เขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับมันแม้ว่าจะมองไม่เห็นก็ตาม หมอกจะมาขายของที่ชายหาดกับแม่ทุกวัน หมอกไม่มีพ่อ ตั้งแต่จำความได้เขาก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อและแม่เองก็ไม่เคยพูดถึง แม้ว่าเขาอยากจะถามถึงแค่ไหนแต่เขารู้ว่ามันคงต้องเป็นเรื่องสะเทือนจิตใจของแม่มากเขาก็เลยไม่เคยคิดจะถามออกมา



          “วันนี้คนเงียบๆ ขายไม่ดีเลย” แม่ของหมอกหรือมยุรีพูดขึ้น



          “ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ นี่ยังบ่ายๆอยู่เลย เดี๋ยวเย็นๆก็คงขายได้” หมอกว่าพร้อมยิ้มๆให้กำลังแม่ซึ่งเขาก็ไม่หรอกว่าตอนนี้แม่ทำหน้าแบบไหนแต่จับได้จากน้ำเสียงแม่คง กำลังไม่สบายใจอยู่แน่ๆ แต่ก่อนแม่ของเขาเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลประจำอำเภอหนึ่งของจังหวะภูเก็ตแต่พอหมอกตาบอดแม่ของเขาก็ต้องลาออกแล้วมาดูแลเขาแล้วเปลี่ยนอาชีพเป็นทำขนมขายตามชายหาดแทน



          “แม่ก็หวังอย่างนั้นเช่นกัน”…ตกเย็น…ปรากฏว่าวันนี้ขนมขายไม่ดีอย่างที่คิดหมอกและผู้เป็นแม่จึงต้องเอาขนมที่เหลือกลับบ้านโดยปริยาย ร้านของเขาจะทำขนมแบบวันต่อวัน จะไม่เอาขนมค้างคืนไม่ขายเด็ดขาด ขนมที่เหลือถ้ากินไม่หมดก็จะเอาไปแจกจ่ายเพื่อนบ้านบ้าง ให้เด็กๆแถวบ้างบ้านซึ่งดีกว่าให้มันเสียไปเฉยๆ



          “เดี๋ยวหมอกไปเอาใบตองมาให้แม่นะครับ” หมอกพูดขึ้นหลังจากที่ถึงบ้านบ้านของเขาอยู่ไม่ห่างจากชายหาด เดินไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงและหลังบ้านก็จะปลูกต้นกล้วยเอาไว้เพื่อเอาใบตองมาทำขนม



          “ระวังด้วยนะลูก เย็นแล้วงูเงี้ยวเขี้ยวขอนมันเยอะ” ผู้เป็นแม่ว่าอย่างเป็นห่วง



          “แม่ไม่ต้องห่วงครับ” หมอกว่ายิ้มๆก่อนจะเดินไปยังหลังบ้านทันที มือบางคลำๆใบตองเพื่อสัมผัสดูว่าแก่พอที่จะเอาไปห่อขนมได้แล้วหรือยัง ซึ่งนับว่าตั้งแต่เขาตาบอดเขาก็มีประสาทสัมผัสด้านอื่นดีขึ้น เหมือนกับว่าสร้างมาทดแทนประสาทสัมผัสด้านการมองเห็นของเขา



ซวบๆ

เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้หมอกชะงักไปทันที เสียงเหมือนกับฝีเท้าของคนกำลังเดินมาทางนี้ มาจากด้านในป่ากล้วย หมอกรู้สึกถึงความอันตรายจึงพยายามคลำหาอะไรแถวนั้นที่จะสามารถใช้ต่อสู้ได้ก็พบกับท่อนไม้ไม่เล็กไม่ใหญ่อันหนึ่ง



ซวบๆๆ

          “อย่า! ผมมาดี” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับมือหนาที่จับไม้ที่หมอกทำท่าจะฟาดเอาไว้ หมอกทำหน้าตกใจทันทีที่อีกคนคว้าไม้ของเขาเอาไว้



          “ปล่อยนะ!” หมอกว่าอย่างหวาดระแวง



          “ผมปล่อยแน่…แต่ผม…” เสียงของอีกคนดูขาดห้วงแปลกๆ



พรึ่บ

ก่อนที่ร่างสูงจะเซมาปะทะร่างของหมอกทันทีทำให้หมอกต้องจับอีกคนไว้โดยอัตโนมัติ



          “คุณ…เลือดนี่” หมอกพูดขึ้นเมื่อสัมผัสได้กับน้ำเหนียวๆกลิ่นคราวเลือดตรงแขนของอีกคน



          “ช่วย…ช่วยผมด้วย” สิ้นเสียงทุ้มที่แผ่วเบาร่างสูงก็ไม่ได้สติทิ้งน้ำหนักลงที่ตัวหมอกทันที หมอกเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะรีบพยุงอีกคนไปที่บ้านทันที



          “แม่ครับแม่ แม่ครับ!!” หมอกเรียกแม่เสียงดังทำให้ผู้เป็นแม่ตกใจต้องวิ่งออกมาดูทันที



          “เกิดอะไรขึ้นลูก…ว้าย ตายแล้ว ใครกันนี่” มยุรีว่าอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าลูกชายพยุงใครบางคนมาด้วย โดยที่ต้นแขนของอีกคนอาบไปด้วยเลือด ร่างกายเปียกปอนไปหมด



          “ช่วยเขาด้วยครับแม่” หมอกว่าด้วยความร้อนใจ มยุรีจึงรีบไปช่วยลูกชายพยุงชายหนุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านทันทีและใช้วิชาพยาบาลเก่าของเธอทำแผลให้อีกคน ซึ่งดูแล้วว่าน่าจะเป็นแผลถูกยิงแต่ดีที่ถูกยิงแบบถากๆแต่อาจจะเพราะเสียเลือดเยอะอีกคนจึงสลบไป



          “เขาเป็นยังไงบ้างครับแม่” หมอกถามขึ้นเมื่อผู้เป็นแม่ทำแผลให้ชายหนุ่มคนแปลกหน้าเสร็จ



          “ปลอดภัยแล้วล่ะลูก แต่ต้องให้เขาได้พักผ่อนหน่อย เขาเสียเลือดมาเยอะ”หมอกพยักหน้ารับคำของผู้เป็นแม่แต่ในใจก็อดเป็นห่วงชายหนุ่มคนแปลกหน้าไม่ได้ไม่รู้เป็นใคร ไปไงมายังไงถึงได้ถูกยิงมาแบบนี้ ในใจก็อบคิดว่าอีกคนจะเป็นคนไม่ดีแต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เฮ้อ…ถ้าเขามองเห็นก็คงจะดีจะได้ประเมินใบหน้า แววตาของอีกคนได้…วันต่อมา…หมอกตื่นนอนขึ้นมาก็ได้ยินเสียงแม่กำลังเหมือนคุยอะไรกับใครบางคนอยู่



          “ตื่นแล้วเหรอหมอก คุณโนอาร์เขาฟื้นแล้วนะ”



          “บอกแล้วไงครับไม่ต้องเรียกผมว่าคุณ” เสียงทุ้มว่าค้านขึ้นมาทำให้หมอกรับรู้ได้ทันทีว่า ‘โนอาร์’ คือชื่อของชายหนุ่มแปลกหน้าที่เขาช่วยไว้เมื่อวาน



          “แล้วจะให้ฉันเรียกยังไงล่ะคะ วางตัวไม่ถูกเหมือนกัน” แม่ของหมอกว่าอย่างขำๆ



          “คุณน้าเรียกผมว่าโนอาร์เฉยๆดีกว่าครับ”



          “งั้นก็ได้ค่ะ นี่หมอก…มาทำความรู้จักกับโนอาร์สิ พี่เขาอายุมากกว่าหมอก3ปีพี่เขามาจากต่างประเทศด้วยนะคะ หมกชอบเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เหรอลูก ถามพี่เขาได้นะ” แม่ของหมอกพูดขึ้น



          “ถ้าคุณหายดีแล้ว ผมว่าคุณไปจากที่นี่ดีกว่า ผมกับแม่ไม่อยากติดบ่วงแหเดือดร้อนไปด้วย” หมอกพูดขึ้นซึ่งทำเอาโนอาร์ขมวดคิ้วทันที



          “หมอก…ทำไมพูดแบบนี้ล่ะลูก”



          “ก็แม่บอกว่าเขาโดนยิงมา หมอกเลยคิดว่าเขาคงต้องมีเรื่องมาแน่ๆ ถ้าเรายังยุ่งกับเขา เราอาจจะติดบ่วงแหได้นะครับแม่” หมอกว่าด้วยน้ำเสียงจริงจังและเป็นกังวล



          “แต่แม่ว่า…”



          “ใช่ ผมโดนตามล่ามา ผมถูกยิงตกทะเลแต่ผมคิดว่าคนพวกนั้นคงคิดว่าผมตายแล้ว คงไม่มีทางตามหาผมอีกแน่” โนอาร์ว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง…ย้อนกลับไปเมื่อสองวันก่อน เขามาดูงานกับผู้เป็นพ่อที่ภูเก็ต ซึ่งธุรกิจของพ่อของเขาเป็นเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีศัตรูมากมาย ขณะที่พ่อของเขากำลังเจรจาธุรกิจอยู่บนเรือลำใหญ่กลางทะเลซึ่งกำลังจัดงานเลี้ยงไปด้วย เขาก็ถูกศัตรูลอบยิงตกทะเลเพราะเขาคือทายาทคนเดียวของบ้าน เป็นผู้สืบทอดคนเดียวของตระกูล



          “นั่นไงครับแม่ เขามันตัวอันตราย” หมอกว่าด้วยความไม่พอใจ ยิ่งได้รู้ว่าอีกคนถูกตามล่ามาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกับแม่กำลังไม่ปลอดภัยไปด้วย



          “โนอาร์เขาบอกแม่ว่าคนของเขาจะมารับเขากลับภายในสามวัน” แม่ของหมอกพูดขึ้นแต่หมอกก็ขมวดคิ้ว



          “แต่ว่า…”



          “เอาน่ะหมอก แม่เชื่อว่าโนอาร์จะไม่ทำให้เราเป็นอันตรายไปด้วยหรอก เวลานี้แม่ว่าเราช่วยกันดูแลโนอาร์ให้หายดีไม่ดีกว่าเหรอ?” ผู้เป็นแม่ว่าเพื่อโน้มน้าวจิตใจลูกชาย หมอกทำท่าจะปฏิเสธออกมาแต่พอได้ยินเสียงเว้าวอนของผู้เป็นแม่แล้วก็ต้องยอมตกลงในที่สุด



          “ครับ”…เพราะวันนี้มีสมาชิกมาอยู่ที่บ้าน แม่ของหมอกจึงออกไปขายขนมคนเดียวแล้วให้หมอกอยู่บ้านกับโนอาร์แทนตาคมนั่งมองใบหน้าหวานของคนที่ช่วยชีวิตเขายิ้มๆ ใบหน้าหวานใสที่ดูไม่มีพิษมีภัย แต่จมูกเชิดรั้นนั้นก็บ่งบอกถึงความดื้อไม่ใช่น้อย ไม่คิดว่าที่นี่จะมีเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักๆอยู่ด้วย แต่แปลก…โนอาร์กลับรู้สึกว่าดวงตากลมนั่นมันแปลกไป มันเหมือนไม่มีเงาอะไรสะท้อนอยู่ภายในมันเหมือนกับว่า…



      “นายตาบอดงั้นเหรอ?” โนอาร์ถามขึ้นทันทีกับสิ่งที่ตัวเองสงสัย



          “ครับ” หมอกตอบออกมาสั้นๆ โดยที่มือก็กำลังนั่งเช็ดใบตองอยู่เพื่อเตรียมตากแดด โนอาร์ชะงักไปทันทีกับคำตอบของอีกคน



          “กี่ปีแล้ว?”



          “สองปีครับ” หมอกยังคงตอบสั้นๆเหมือนเคยเพราะยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจอีกคนอยู่



          “นายดูไม่ค่อยพอใจฉันนะ” โนอาร์ที่พอจะจับน้ำเสียงของอีกคนได้จึงถามขึ้น



          “ถ้าให้พูดตรงๆมันก็ใช่ แต่เมื่อคุณยืนยันว่าจะไปจากบ้านผมในอีกสามวันผมก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยแม่ดูแลคุณ” หมอกว่าพร้อมกับเชิดปากขึ้นอย่างไม่รู้ตัวโนอาร์ยกยิ้มนิดๆกับท่าทางน่ารักๆของอีกคน



          “งั้นเป็นการตอบแทน…ให้ฉันสอนภาษาอังกฤษให้มั้ย น้ามยุรีบอกว่านายชอบภาษาอังกฤษ” โนอาร์ถามขึ้น หมอกชะงักไปทันที มันจริงอย่างที่อีกคนว่าเขาชอบเรียนภาษาอังกฤษมาแต่ไหนแต่ไร เคนใฝ่ฝันว่าถ้าเข้าระดับมหาวิทยาลัยเขาจะเรียนสายแต่ความฝันของเขาก็จบลงเมื่อเขาตาบอด เขาไม่ได้เรียนต่อกระทั่งมัธยมปลายความรู้ที่มีตอนนี้ก็แค่มัธยมต้นเท่านั้น



          “ผม…”



          “ถือว่าเป็นการตอบแทนที่นายช่วยฉันไง” หมอกกัดปากอย่างครุ่นคิด เห็นแม่บอกว่าอีกคนกลับมาจากต่างประเทศเสียด้วยงั้นแปลว่าต้องเก่งภาษาอังกฤษพอตัวงั้นก็…



     “อื้ม…ถ้าคุณไม่รังเกียจลูกศิษย์ตาบอดแบบผม” โนอาร์ยกยิ้มกับคำตอบอีกคน



          “ไม่หรอก…ไม่เคยคิดรังเกียจ” แต่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นต่างหาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กรี๊ดดดดดดดดด มีความละมุนตั้งแต่แรกเริ่ม 5555 อย่าพึ่งถามหาความดราม่านะคะ ใจเย็นๆๆๆๆๆๆ >___< ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ อ่านๆ เม้นๆเน้ออออออ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
มันละมุนมากกกก จนไม่อยากให้ดราม่าตามฉบับ poor boy เลย  :hao5: :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 2

 

        โนอาร์กลายเป็นครูสอนภาษาอังกฤษของหมอกไปโดยปริยาย ซึ่งการสอนของเขาจะเน้นให้อีกคนได้สนทนามากกว่าเพราะอีกคนมองไม่เห็น การเขียน การอ่านจึงลำบากมาก สิ่งที่เขาจะสอนได้ก็คงจะเป็นการสนทนาในสถานการณ์ต่างๆและการฟังเพื่อให้อีกคนได้นำไปประยุกต์ใช้ได้



          “สำเนียงคุณดีจัง คุณเป็นลูกครึ่งหรือเปล่า” หมอกถามขึ้นเมื่ออีกคนสอนการสนทนาภาษาอังกฤษให้เขา สำเนียงอีกคนเป๊ะจนแอบคิดว่าเป็นเจ้าของภาษามาเอง



          “ลูกเสี้ยวน่ะ” โนอาร์ตอบ พ่อของเขาเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ฮ่องกง ส่วนแม่ของเขาเป็นคนไทย เขาก็เลยเป็นลูกเสี้ยว



          “ชาติไหนบ้าง” หมอกถามอย่างสนอกสนใจ นานมาแล้วที่เขาได้มีเพื่อนคุยที่นอกจากแม่ เพราะตั้งแต่ที่เขาตาบอดแล้วต้องใช้ชีวิตออยู่บ้านเขาก็ไม่เคยได้รับรู้ถึงคำว่าเพื่อนอีกเลย หมอกไม่มีเพื่อน มีเพียงแม่คนเดียวที่เป็นทุกอย่างสำหรับเขา



          “พ่อเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ฮ่องกง ส่วนแม่เป็นคนไทยน่ะ” โนอาร์ตอบพร้อมกับตาคมที่มองไปที่ใบหน้าใสของคนตรงหน้า ใบหน้าใสที่กำลังทำท่าตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยินมันทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย โนอาร์ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งผ่านชีวิตมา20ปี มีทั้งแฟนและคู่ควงทั้งหญิงทั้งชายมากมายแต่ทำไมกันนะ...ทำไมกับคนตรงหน้ามันถึงได้รู้สึกแตกต่างออกไป ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงแค่อยากครอบครองเพราะน่าสนใจแต่กลับคนตรงหน้าเขาอยากเก็บไว้ข้างกาย ทะนุถนอมแก้วใสใบนี้ไว้กับตัวเอง



          “ว้าว งั้นคุณก็ต้องพูดภาษาจีนได้ด้วยสิ”



          “อื้ม...ก็พอได้” หมอกทำหน้าตื่นเต้นอีกครั้งกับคำพูดของอีกคนซึ่งมันทำให้โนอาร์ยกยิ้มขึ้นมาทันที ตากลมของคนตรงหน้าถ้ามันสวยมาก แวววาวราวกับคริสตัลแต่น่าเสียดายที่มันไม่มีภาพสะท้อนกลับมา



          “งั้นสอนภาษาจีนผมแบบง่ายๆได้มั้ย ผมอยากเรียนภาษาจีนมานานแล้ว”หมอกว่าพร้อมทำหน้าอ้อนๆซึ่งก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหนแต่มันเหมือนเป็นความเคยชินไปแล้วเวลาที่เขาจะออดอ้อนแม่เขาก็จะทำตาโตกระพริบปริบๆใส่ฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้เห็นใจและใจอ่อน



          “แต่ค่าจ้างภาษาจีนจะแพงหน่อยนะ” โนอาร์ว่าขำๆ หมอกเชิดปากใส่อีกคนทันที



          “มีค่าจ้างด้วยเหรอ? ผมไม่มีเงินหรอกนะ”



          “แล้วใครว่าจ้างด้วยเงินกันล่ะ” หมอกขมวดคิ้วอย่างงุนงงกับคำพูดของอีกคน



          “แล้วจ้างด้วยอะไรล่ะ?” โนอาร์กระตุกยิ้ม



          “เอาไว้จะบอกทีหลังละกันนะ...แต่ถ้านายอยากเรียนฉันจะสอนให้” หมอกยิ้มกว้างทันทีกับคำตกลงของอีกคน...เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง...หมอกรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้เรียนภาษาจีนจากอีกคน แม้ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆแค่พวกคำทักทาย การนับเลขอะไรแบบนี้แต่มันก็สนุกดีเหมือนเขาได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆมากขึ้น



          “ผมอยากลองเขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาจีนบ้างจังแต่ผมก็มองไม่เห็น” หมอกว่าขำๆกับความคิดของตัวเอง



          “งั้นฉันจะช่วยให้นายเขียนเอง” โนอาร์ว่าพร้อมกับขยับตัวเองมานั่งซ้อนหลังอีกคนเอาไว้ หมอกทำตาโตอย่างตกใจกับความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น มือหนาจับดินสอใส่มือบางพร้อมกับใช้มือของตัวเองจับมืออีกคนเอาไว้



          “ชื่อของนายภาษาจีนเขียนแบบนี้” โนอาร์ว่าก่อนจะจับมืออีกคนลากเส้นเขียนภาษาจีนเป็นชื่อของหมอก



          “ยากมั้ย?” โนอาร์ถามขึ้น



          “ผมเขียนได้ๆ” หมอกตอบออกมา แม้ว่าเส้นจะเยอะหน่อยแต่เพราะเป็นคำสั้นๆคำเดียวเขาก็เลยพอจำได้ ร่างบางเขียนชื่อตัวเองลงกระดาษอีกครั้งอย่างสนุกมือโนอาร์ก็มองท่าทางน่ารักๆของอีกคนด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเอื้อมมือมาจับมือของหมอกอีกครั้ง



          “งั้นลองเขียนคำนี้ดู” ว่าแล้วโนอาร์ก็จับมือของอีกคนลากเส้นเป็นตัวอักษรจีนสามตัว



          “แปลว่าอะไรเหรอ?” หมอกถามขึ้นอย่างงุนงง



          “แปลว่า...”



          “กลับมาแล้วจ้า” เสียงของผู้เป็นแม่ดังขัดขึ้นทำให้โนอาร์ต้องผละออกจากหมอกทันที หมอกทิ้งดินสอก่อนจะมองไปทางต้นเสียงที่คุ้นเคยทันที



          “น้าซื้อกับข้าวมาเยอะแยะเลย วันนี้ขนมขายดี มากินข้าวกันเร็วโนอาร์” แม่ของหมอกหันมาชวนโนอาร์ โนอาร์พยักหน้ารับก่อนจะอาสาเอาตะกร้าขายขนมของหญิงสาวไปเก็บให้ ก่อนจะยกยิ้มกับตัวเองที่เผลอไผลสอนอีกคนเขียนคำนั้นไป...ฉันรักเธองั้นเหรอ? เร็วไปมั้ยไอ้โนอาร์!...จากที่ติดต่อผ่านโทรศัพท์ของแม่ของหมอก คนของพ่อโนอาร์จะมารับโนอาร์ให้วันพรุ่งนี้ ที่ไม่สามารถมารับได้เลยก็เพราะการเจรจาธุรกิจยังไม่เสร็จ พ่อของเขากลัวจะเกิดอันตรายกับเขาอีกก็เลยให้ซ่อนตัวไว้ก่อน พอเจรจาผ่านไปด้วยดีพวกคู่แข่งก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้แล้ว



          “เห็นแม่บอกว่าพรุ่งนี้คุณจะกลับแล้ว” หมอกถามขึ้นขณะที่นั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านกับอีกคนในยามเย็น แม้ว่าจะรู้จักกันแค่สองวันแต่หมอกก็รู้สึกว่าอีกคนเป็นคนดีไม่น้อย  อีกคนใจดีช่วยสอนหนังสือทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนให้เขา อีกคนเป็นเพื่อนคุยที่ทำให้เขาไม่เหงาเหมือนทุกๆวัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นในสองวันที่ผ่านมามัน

ทำให้หมอกรู้สึกไม่ดีที่พรุ่งนี้อีกคนจะกลับไปแล้ว



          “อื้ม...น่าจะตอนสายๆ” โนอาร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่คาดเดาไม่ถูก ใจหนึ่งก็ไม่อยากกลับไปแต่อีกใจก็บอกว่าเขาต้องกลับไป ตาคมหันมามองคนข้างกายตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะสามารถมาเจออีกคนได้ก็จริงแต่เขาไม่คิดว่านักธุรกิจหน้าใหม่ที่พึ่งได้รับตำแหน่งรองประธานบริษัทจะมีเวลาว่างขนาดนั้น ในใจอยากจะชวนอีกคนไปอยู่ด้วยให้รู้แล้วรู้รอดแต่มันเร็วไปหรือเปล่า รู้จักกันแค่สองวัน แค่สองวันเท่านั้น



          “ถ้าคุณกลับไปผมคงเหงาๆ” หมอกว่าตามที่ใจคิด ใบหน้าใสเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด



          “นายไม่อยากให้ฉันกลับงั้นเหรอ?” โนอาร์ถามขึ้นซึ่งเป็นคำถามที่ออกมาจากใจ หมอกชะงักไปทันทีกับคำถามของอีกคน ตากลมสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด



          “ผะ...ผม”



          “ฉันไม่อยากกลับไป” โนอาร์พูดขัดขึ้นก่อนที่อีกคนจะได้ตอบออกมา หมอกนิ่งไปทันทีกับคำตอบของอีกคน



          “แต่ฉันจำเป็นต้องกลับ” โนอาร์พูดต่อ



          “ผมรู้...” หมอกว่าออกมาเสียงแผ่วเบา



          “จำได้มั้ยว่าที่ฉันเคยบอกว่าจะเอาค่าจ้างสอนภาษาจีน” โนอาร์พูดขึ้น หมอกพยักหน้า



          “คุณจะเอาอะไรงั้นเหรอ?” สิ้นคำถามของร่างบาง ริมฝีปากหนาก็ประทับลงมาที่ริมฝีปากบางทันทีแม้ว่าจะแค่แผ่วเบาแต่ก็ทำให้หมอกหัวใจเต้นระรัวไม่น้อย ตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจพร้อมกับใบหน้าใสที่ขึ้นสีระเรื่อ



          “สิ่งที่ฉันอยากได้” โนอาร์ว่าออกมาหลังจากที่ผละออกมาจากอีกคน



          “คะ...คุณ....” หมอกยังคงทำหน้าตกใจไม่เลิก โนอาร์ยกยิ้มนิดๆกับท่าทางอีกคนก่อนจะจับมืออีกคนมาจับไว้ก่อนจะหยิบปากกาออกมาเขียนที่มือบาง ซึ่งเป็นภาษาจีนที่หมอกจำได้ว่าอีกคนเคยสอนเขาเขียนแต่เขายังไม่รู้ความหมายของมัน



          “คำนี้...”



          “หว่ออ้ายหนี่” แม้ว่าจะไม่เคยเรียนภาษาจีนแต่หมอกก็รู้ว่าคำนี้หมายความว่ายังไง อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง



          “หว่ออ้ายหนี่งั้นเหรอ?” หมอกทวนคำพูดของอีกคน



          “ใช่...หว่ออ้ายหนี่...ฉันรักนาย” โนอาร์กระซิบข้างหูบาง หมอกรู้สึกว่าตัวเองตัวลอยได้ ร่างบางเบาบางไปหมด ความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในช่องท้องความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันได้



          “ฉันรู้ว่ามันเร็วไปสำหรับคนที่เจอกันแค่สองวันแต่สำหรับฉัน...นายคือรักแรกพบ ไม่ใช่เพราะนายช่วยชีวิตฉันแต่เพราะอะไรหลายๆอย่างที่ฉันคิดว่านายคือคนที่ฉันตามหาจริงๆ” โนอาร์ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถ้าอีกคนมองเห็นก็คงจะได้เห็นถึงความจริงใจที่สื่อผ่านทางสายตาของเขา



          “ตะ...แต่คุณกับผม...เรา...ผู้ชาย แล้วเรา...” หมอกทำหน้าสับสนอย่างหนักจนคิ้วเรียวขมวดมุ่นจนโนอาร์ต้องเอานิ้วไปคลึงที่ระหว่างคิ้วของอีกคนให้คลายปมออก



          “ฉันแค่อยากบอกความรู้สึกของฉัน นายไม่ต้องคิดมากหรอก รู้แค่ว่าตลอดสองวันที่ฉันอยู่ที่นี่ฉันรู้สึกดีและอยากจะอยู่กับนายต่อแต่ฉันไม่สามารถทำได้” โนอาร์ว่าเพราะกลัวว่าอีกคนจะคิดมาก



          “ผมเองก็เช่นกัน ผมอยากให้คุณอยู่ที่นี่ต่อ” หมอกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่โนอาร์ก็ได้ยินอย่างชัดเจน



          “ไม่ต้องตอบรับความรู้สึกของฉันแค่รับรู้ความรู้สึกของฉันก็พอ” สิ้นเสียงทุ้มปากหนาก็ประกบลงมาอีกครั้ง แผ่วเบาแต่ทว่าลึกซึ้ง ลึกซึ้งถึงขั้วหัวใจของคนทั้งสองคน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พระ-นายรักกันเร็วมากกกกกกกก 555555 เอาเถอะค่ะรักไม่ต้องการเวลานี่เนอะ อิๆเฟิร์นยังตกหลุมรักบีสท์ตั้งแต่แรกเห็นรูปได้เลย 555555 (ได้ข่าวว่าไม่เกี่ยว) ไม่อยากดราม่าแต่มันต้องดราม่า อิๆ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โอ้ยยยยย มันหวานจนคิดถึงความดราม่าไม่ออกเลยยยย  แต่คงต้องดราม่าซินะ  :sad4: :sad4: :sad4:

ดราม่าไม่ว่า แต่ขอให้คู่นี้จบแบบหวานๆ ชัดเจน เคลียร์ๆ หน่อยน้าาาา ไม่อยากให้เป็นแบบ 2 เรื่องแรก  :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 3

 

        และวันนี้ก็เป็นวันที่โนอาร์ต้องกลับแล้ว คนของพ่อของร่างสูงมารับร่างสูงที่บ้านของหมอกตามเวลาที่หมอก แม้ว่าร่างสูงจะอยากประวิงเวลาอยู่กับอีกคนนานแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในใจก็คิดว่ายังไงต้องมีโอกาสได้เจอกันแต่อีกใจก็คิดว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้



          “ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมนะครับ” โนอาร์ว่าพร้อมไหว้ขอบคุณแม่ของหมอกด้วยความซาบซึ้งใจ



          “ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ น้าคิดว่าต่อให้ไม่ใช่น้าใครๆก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น” มยุรีว่าอย่างใจจริงก่อนจะมองหาลูกชายที่ไม่รู้หายไปไหน ทำไมไม่ออกมาส่งโนอาร์



          “หมอกไปไหนกันนะ” มยุรีพึมพำออกมา โนอาร์เองก็มองหาอีกคนเช่นกัน



          “ผมคิดว่าคงอยู่บนบ้าน งั้นผมขออนุญาตแปบนึงนะครับ” โนอาร์ว่าก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้านและไปยังห้องของอีกคนทันที



แอดดดดด

เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้หมอกที่นั่งนิ่งอยู่ในห้องต้องหันไปมอง



          “แม่เหรอครับ? เขาไปแล้วใช่มั้ยครับ?” หมอกถามขึ้น



          “ยังหรอก” เสียงทุ้มของอีกคนดังขึ้นทำให้หมอกชะงักไปทันที



          “คะ…คุณ”



          “ทำไมไม่ลงไปส่งฉันล่ะ” โนอาร์ว่าพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆอีกคน พร้อมมองใบหน้าใสที่คิดว่าอาจจะไม่มีทางได้พบเจอกันอีกแล้ว



          “ผม…” หมอกกัดปาก

 

         “ฉันอยากเห็นหน้านายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีก” โนอาร์ว่าก่อนที่มือหนาจะไล้ไปที่หน้าใสเบาๆ หมอกหัวใจเต้นแรงเพราะความหวั่นไหวก่อนจะค่อยๆเต้นช้าลงเมื่อนึกได้ว่าแม้จะหวั่นไหวหรือว่ารู้สึกดีแค่ไหนแต่เขากับอีกคนก็ต้องจากลากันอยู่ดี ความรักที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ความรักที่ไม่ถูกที่และไม่ถูกเวลามันจะมีโอกาสดำเนินต่อไปได้งั้นเหรอ?



          “ผมอยากมองเห็นหน้าของคุณ” หมอกว่าพร้อมกับหันหน้าไปทางอีกคน มือบางค่อยๆยกขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของอีกคนเช่นเดียวกัน ไล่ตั้งแต่คิ้วหนา ตาคม จมูกโด่งมาจนถึงริมฝีปากของอีกคน โนอาร์ยกยิ้มกับท่าทางของอีกคนก่อนจะจับมือบางมากุมไว้



“ถึงตาของนายจะมองไม่เห็น...งั้นใช้หัวใจของนายสัมผัสมันแทนสิ” สิ้นเสียงทุ้มริมฝีปากหนาก็ประกบลงมาที่ริมฝีปาก แม้ว่าจะตกใจแต่หมอกก็หลับตาพริ้มตอบรับจูบของอีกคน ปากบางค่อยๆเผยออกให้อีกคนได้สอดแทรกลิ้นเข้ามาเชยชิมความหวานภายใน โนอาร์ไม่รอช้า สอดแทรกลิ้นหนาเข้าไปเกี่ยวพันลิ้นเล็กของอีกคนทันที



          “อื้มมมม” หมอกค่อยๆดันอีกคนออกเมื่อเริ่มหายใจไม่ออก โนอาร์ยอมผละออกแต่โดยดีก่อนจะเอื้อมมือมาเช็ดน้ำใสๆที่มุมปากบาง ยอมรับไปว่าเมื่อกี้เขาเผลอตัวไปจริงๆ ถ้าอีกคนไม่ดันเข้าออก เขาคงเอาแต่ใจต่อไปเลิกแน่ ก็ใครใช้อีกคนหอมหวานขนาดนี้กัน



          “สัญญาว่าจะกลับมาหานาย” โนอาร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง หมอกทำตาโตทันที



          “คุณพูดจริงๆนะ” โนอาร์ยิ้มกับท่าทางเด็กๆของอีกคน



          “จริง…และวันนั้นฉันจะบอกคำว่ารักกับนายอีกครั้ง…รอฟังฉันนะ”…โนอาร์ไปแล้วอีกคนไปแล้ว…นับตั้งแต่วันที่จากกันก็ผ่านไปเกือบสามเดือนแล้วที่หมอกไม่ได้ข่าวคราวของอีกคนอีก ทั้งๆที่อีกคนก็มีเบอร์โทรศัพท์ของแม่เขา ทั้งๆที่อีกคนก็รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหนแต่ทำไม…หมอกยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสมเพชตัวเองนิดๆที่ดันไปเชื่อคำสัญญาของอีกคน ทั้งเชื่อและเฝ้ารอ รอมาแล้วสามเดือน     



          “เหม่ออะไรเหรอหมอก” ผู้เป็นแม่ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกชายนั่งนิ่งขณะที่กำลังช่วยเธอเช็ดใบตอง



          “เอ่อ…เปล่าครับแม่”



          “แม่นึกว่าไม่สบายเสียอีก” มยุรีว่าพร้อมมองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของคนเป็นแม่ นอกจากความห่วงใยก็ยังมีสายตาของความเสียใจเสียใจที่เป็นแม่ที่ไม่ดีพอ ไม่มีปัญญาแม้กระทั่งหาเงินมารักษาลูกชายเพียงคนเดียว



          “แม่ต่างหากที่ไม่สบาย วันก่อนหมอกได้ยินแม่ค้นยาในตู้ออกมากิน” หมอกว่าตามที่รู้



          “เอ่อ…แค่ไข้หวัดนิดหน่อยน่ะ” มยุรีตอบไม่เต็มเสียงนัก

 

         “ถ้าป่วยก็หยุดพักเถอะนะครับแม่ หมอกเป็นห่วงแม่ หมอกไม่อยากให้แม่ป่วย”หมอกว่าพร้อมคลำมือมาที่แม่แล้วจับมือแม่มากุมไว้ มยุรีน้ำตาคลอมองลูกชายอันเป็นที่รัก



          “โอเค ต่อไปแม่จะไม่ฝืนตัวเอง แม่จะไม่ทำให้หมอกเป็นห่วงนะ”…จากสามเดือนก็กลายเป็นหกเดือน หมอกยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆของตัวเองต่อไปโดยการช่วยแม่ขายขนมที่ชายหาดแบบที่เคยทำมา แต่ไม่รู้ว่าหมอกคิดมากไปเองหรือว่าอะไรช่วงนี้เขาได้ยินเสียงแบบเปิดตู้ยาหายากินบ่อยมาก เขาเคยถามว่าแม่เป็นอะไรแม่ก็จะตอบว่าปวดหัวเป็นไข้ธรรมดาแรกๆเขาก็เชื่อแต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเชื่อแล้ว เขาห่วงแม่ กลัวว่าแม่จะเป็นอะไรหนัก แม่ไม่ยอมไปหาหมอ บอกแต่ว่ากินยาเดี๋ยวก็หาย



          “เจ้าหมอกๆๆ” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นทำให้หมอกที่กำลังนั่งเช็ดใบตองต้องเดินออกมาหน้าบ้านทันทีเพราะจำเสียงได้ว่านี่เป็นเสียงของป้าแจ๊ดที่ขายของอยู่ที่ชายหาดด้วยกัน



          “ครับป้า”



          “แม่เอ็งอยู่โรงพยาบาล ไปกับข้าเร็วๆ” หมอกทำหน้าตกใจทันที ร่างบางแข็งทื่อกว่าจะรู้ตัวก็เมื่อป้าแจ๊ดพาไปขึ้นรถยนต์แล้ว



          “แม่เป็นอะไรครับป้า” หมอกถามขึ้นขณะที่อยู่บนรถ วันนี้เขากับแม่ขายของหมดเร็วกว่าปกติ พอกลับมาบ้านแม่ก็บอกว่าจะออกไปตลาดสักหน่อยก็เลยให้เขานั่งเตรียมของอยู่บ้าน



          “เห็นว่าเป็นลมกลางตลาด ไม่ได้สติเลย” หมอกหน้าเสียทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน ร่างบางร้อนอกร้อนใจไม่น้อย มือบางนั่งกุมกันแน่นได้แต่ภาวนาให้ผู้เป็นแม่ปลอดภัย…พอมาถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอ ป้าแจ๊ดก็พาหมอกมายังห้องฉุกเฉินทันที



          “นี่จ่ะลูกชายของมยุรี” ป้าแจ๊ดบอกกับหมอประจำตัวแม่ของหมอกขึ้น



          “งั้นหมอขอคุยกับลูกชายคุณมยุรีส่วนตัวนะคะ” คุณหมอผู้หญิงว่า เมื่อป้าแจ๊ดเดินออกไปหมอกก็ถามหมอทันที



          “แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ ปลอดภัยใช่มั้ยครับ”



          “ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วค่ะแต่…” คุณหมอเว้นวรรคพร้อมทำหน้าลำบากใจเธอเองก็รู้จักมยุรีมาตั้งแต่เป็นพยาบาลอยู่ที่นี่และรู้ดีว่ามยุรีมีลูกชายตาบอด



          “แต่อะไรครับคุณหมอ” หมอกหน้าเสีย



          “…คุณไข้เป็นเนื้องอกในสมองค่ะ หมอเชื่อว่ามยุรีคงไม่บอกหนูแน่ๆ แถมยังไม่ยอมรักษาจนมาถึงระยะสุดท้ายแบบนี้” หมอกช็อกไปทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน ตากลมหน่วงคลอไปด้วยน้ำตาก่อนจะค่อยๆปล่อยมันลงมาอย่างไม่รู้ตัว

 

         “ฮึก…”



          “หมอพยายามคุยกับมยุรีแล้วให้เธอรักษาตัวแต่เธอก็ไม่ยอม” หมอกน้ำตาไหลพรากเมื่อพอจะรู้เหตุผลที่แม่ไม่ยอมรักษาตัวก็เพราะ…เงิน แม่เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อจะพาเขาไปผ่าตัดตา แม่ยอมเจ็บ ยอมทรมานเพื่อจะให้เขามองเห็น



          “ฮึก…ไม่มีทาง ฮึก รักษาแม่แล้วเหรอครับ” หมอกถามเสียงพร่าทั้งน้ำตา



          “หมอขอโทษจริงๆค่ะ” หมอกร้องไห้สะอึกสะอื้นทันทีกับคำตอบของผู้เป็นหมอผู้เป็นหมอมองเด็กหนุ่มด้วยความสงสารจับใจแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้จริงๆ อย่างที่บอกถ้ามยุรีเข้ารักษาตัวตั้งแต่เนิ่นๆก็จะรักษาได้ทันการแต่ตอนนี้…มันกินเวลามาเป็นปีแล้ว มันยากที่จะเยียวยาจริงๆ…หลังจากที่พูดคุยกับหมอเสร็จ หมอก็พาหมอกมาหาแม่ที่อยู่ในห้องพักฟื้นผู้ป่วยหนักหรือว่าไอซียูนั่นเอง แม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่หมอกก็ได้ยินเสียงอุปกรณ์แพทย์ราวกับในละครที่บ่งบอกว่าแม่ของเขายังหายใจอยู่



          “หมอก…” เสียงแหบแห้งของผู้เป็นแม่ดังขึ้น



          “ฮึก แม่ครับ” หมอกเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่พร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงทันที



          “ไม่ร้องนะลูก หมอกของแม่ต้องเข้มแข็งสิ” ผู้เป็นแม่ว่าน้ำตาคลอ มือเหี่ยวย่นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าลูกชาย



          “ทำไมแม่ทำแบบนี้ล่ะครับ ฮึก ทำไมไม่รักษาตัว ฮึก”

 

         “แม่ขอโทษ…แม่อยากให้หมอกมองเห็นเร็วๆ แม่อยากให้ลูกของแม่กลับมามีอนาคตที่สดใสอีกครั้ง ฮึก แม่…”



          “ฮึก หมอกมองเห็นแล้วไม่มีแม่ ฮึก มันจะมีค่าอะไรครับ ฮึก มันไม่มีค่าอะไรเลยถ้าหมอกลืมตาขึ้นมาคนแรกที่หมอกเห็นไม่ใช่แม่ ฮึก” มยุรีร้องไห้ไม่ต่างจากลูกชาย ทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอโทษลูกชายในใจที่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องอีกครั้ง เธอมันโง่เองที่ลืมคิดไปว่าถ้าไม่มีเธอลูกชายคนนี้จะอยู่ยังไง ถ้าไม่มีเธอแล้วลูกชายคนนี้จะมีความสุขได้อย่างไร



          “ฮึก แม่ขอโทษ” มยุรียังคงพร่ำบอกคำขอโทษพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาหมอกจับมือผู้เป็นแม่มาแนบแก้มเอาไว้



          “แม่ต้องเข้มแข็งนะ ฮึก แม่ต้องอยู่กับหมอกต่อไปนะ ฮึก”



          “…” มยุรีไม่ตอบแต่กลับร้องไห้ออกมา

 

         “ฮึก แม่สัญญาสิครับ ฮึก สัญญาสิ ฮึก”



          “ฮึก แม่สัญญา” ว่าแม่จะยู่กับหมอเท่าที่แม่จะมีแรงหายใจ…กว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่มยุรีนอนอยู่ที่โรงพยาบาล หมอกมาเฝ้าผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลทุกวัน คอยหาเรื่องพูดคุยกับแม่ ไม่ให้แม่เหงา



          “หมอก…แม่มีอะไรจะบอก” หมอกชะงักไปทันทีกับคำพูดของผู้เป็นแม่



          “ครับแม่?”



          “เมื่อวานแม่…ติดต่อไปหาพ่อของหมอกมา” หมอกนิ่งไปทันทีกับคำว่าพ่อที่ออกมาจากปากของผู้เป็นแม่ พ่องั้นเหรอ?...เขามีพ่อด้วยงั้นเหรอ?



          “แม่อยากให้หมอกไปอยู่กับ…”



          “ไม่ครับ หมอกไม่ไป หมอกจะอยู่กับแม่” หมอกพูดขัดขึ้นทันที



          “หมอก…” มยุรีเรียกลูกชายเสียงแผ่ว

 

         “หมอกจะอยู่กับแม่ หมอกจะไม่ไปไหน ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” หมอกว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง…หลายวันผ่านไป…อาการของมยุรีทรุดหนักจนหมอกไม่สามารถเข้าเยี่ยมผู้เป็นแม่ได้ ร่างบางเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องไอซียูทุกวันพร้อมกับในใจก็สวดมนต์ภาวนาให้แม่อาการดีขึ้นแต่เหมือนว่าคำขอของเขาจะไม่ได้ผลเมื่อหมอบอกว่าแม่ต้องการจะเจอเขา…ครั้งสุดท้าย…



          “แม่ ฮืออออออ” หมอกเข้ามาในห้องแล้วกอดแม่ทันทีโดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนยืนอยู่ที่เตียงแม่เช่นกัน



          “ไม่ร้องสิหมอก แม่บอกแล้วไงว่าไม่ให้ร้อง” ผู้เป็นแม่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเหมือนไร้เรี่ยวแรง



          “ฮือออออออ” หมอกยังคงร้องไห้แล้วกอดแม่

 

         “นี่น่ะเหรอ…ลูกของเรา” หมอกชะงักไปทันทีกับเสียงทุ้มที่ดังขึ้น ร่างบางผละออกจากแม่ก่อนจะถามขึ้น



          “คะ…ใครครับ?”

 

         “หมอก…ไปอยู่กับพ่อเขานะลูก” มยุรีว่าพร้อมกับคว้ามือลูกชายกับคนรักเก่าเอาจับมือกันไว้ หมอกตกใจทำอะไรไม่ถูก



          “แม่ ฮึก”

 

         “พ่อเขาสัญญากับแม่แล้วว่าจะทำให้มองหมอกเห็น จะทำให้หมอกมีอนาคตที่สวยงามอีกครั้ง อยู่กับพ่อหมอกต้องเป็นเด็กดีเหมือนที่อยู่กับแม่นะลูก ฮึก แม่รักหมอก ฮึก รักมาก ฮึก รักที่สุด…”



ตี๊ดดดดดดดดด

เสียงสัญญาณบางอย่างดังขึ้นก่อนที่มือของแม่จะปล่อยออกจากมือของหมอก หมอกรับรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างบางยืนนิ่งน้ำตาไหลพรากไม่มีเสียงใดๆหลุดรอดออกมานอกจากเสียงของคนข้างๆที่ดังขึ้น

          “ต่อไป…ไปอยู่กับพ่อนะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฮืออออออออ มีความดราม่าทั้งตอน ดราม่าเข้าไป ดราม่าแล้วดราม่าอีก ฮือออออออTOT เรื่องราวมันพึ่งเริ่มต้นนะคะ มีคนสงสัยแน่ๆว่าอินังโนอาร์หายไปไหน ตอนหน้ารู้กันเนอะ อิๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โฮฮฮฮฮฮ   จำเป็นต้องดราม่าขนาดนี้มั้ย  :hao5: :hao5: :hao5:

พ่อหายไปไหนมา มาทำไมตอนนี้วะ :angry2: :angry2: :angry2:

ถ้าตามอินโทรก็ 5 ปีซินะกว่าจะได้เจอกัน

ทำไมคนอ่านเรื่องนี้น้อยจัง หรืออ่านแต่ไม่เม้นอ่ะ เม้นให้กำลังใจคนเขียนหน่อย เด่วคนเขียนน้อยใจไม่มาต่อละแย่เลย

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 4


        …ฮ่องกง…

เกือบปีแล้วที่โนอาร์มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ที่เขาถูกลอบทำร้ายจนเกือบถึงขั้นชีวิต พ่อของเขาก็ส่งเขากลับมายังบ้านเกิดเพื่อฝึกฝนทักษะการต่อสู้ เพราะคนเป็นนายนอกจากจะต้องใช้สมองเก่งแล้วต้องใช้กำลังเก่งด้วย ใครๆก็รู้ว่าวงการธุรกิจเป็นวงการที่รายล้อมไปด้วยศัตรู หามิตรแท้ได้ง่ายๆไม่ เพื่อความอยู่รอดต้องรู้จักป้องกันตัวเอง แม้ว่าจะผ่านมาเกือบปีแต่โนอาร์ก็ยังคงไม่ลืมใบหน้าใสของใครบางคนที่เขาได้ทิ้งหัวใจเอาไว้ อยากจะกลับไปหาตามสัญญาแต่ก็ไม่สามารถทำได้ รู้สึกผิดและรู้สึกขอโทษอีกคนและหวังว่าถ้าพรหมลิขิตมีจริงคงจะนำพาให้เขาได้เจอกับอีกคนอีกครั้ง



          “ได้เวลาเรียนยูโดแล้วครับนายน้อย” เสียงทุ้มของบอดี้การ์ดคนสนิทดังขึ้น โนอาร์พยักหน้ารับก่อนจะเดินตาม ‘เซน’ ออกไปยังโรงฝึกยูโด โนอาร์มาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงไม่ว่าจะเป็นยิงปืน มีด ดาบ ยูโด เทควันโดหรือแม้กระทั่งมวยไทย เวลาเกือบปีทำให้เขาแข็งแรงขึ้นมากและเชื่อว่าอีกไม่นานพ่อของเขาคงตามตัวเขากลับไทยเพื่อไปช่วยงานบริหารแน่ๆ รอก่อนนะหมอก…รอฉันก่อนนะ…ทางด้านของหมอก…หลังจากที่แม่เสียชีวิตหมอกก็เข้ากรุงเทพมาอยู่กับพ่อและครอบครัวใหม่ของพ่อ หมอกได้รับการผ่าตัดตาทันทีที่มาถึง แม้ว่าจะอดตกใจไม่ได้ที่รู้ว่าผู้เป็นพ่อของเขาเป็นคนมีฐานะขนาดไหนแต่พอรู้ว่าที่พ่อกับแม่ของเขาต้องแยกจากกันก็เพราะ…แม่ของเขาเป็นเมียน้อย…ฟังไม่ผิดหรอก แม่ของเขาเป็นเมียน้อยจริงๆ พ่อกับแม่ของเขาและรักกันแต่เพราะพ่อมีคู่หมั้นอยู่แล้วจึงต้องกลับไปแต่งงานกับหญิงสาวที่ปู่กับย่าของเขาเลือกไว้ให้ ซึ่งเป็นคนที่ฐานะเดียวกัน แม้ว่าจะแต่งงานกันแล้วแต่พ่อก็ยังมาเจอแม่จนในที่สุดภรรยาของพ่อจับได้และยื่นคำขาดให้แม่เลิกกับพ่อ

แม่จึงเลือกที่จะจากพ่อไป ไปยังบ้านเกิดที่ภูเก็ตโดยไม่ได้บอกพ่อว่ากำลังท้องเขาอยู่เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้…แม้ว่าจะอดดีใจไม่ได้ที่พ่อของเขารวยขนาดนี้แต่มันเจ็บในหัวใจเมื่อรู้ว่าแม่ของเขาเป็นเมียน้อย แต่หมอกก็ไม่คิดจะโทษแม่ หมอกรู้ว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ แม่รักพ่อและเขาก็คิดว่าพ่อเองก็รักแม่เช่นกัน ถามว่าชีวิตของเขาเมื่อย้ายมาอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่เขามีความสุขมั้ยก็ตอบได้เลยว่าไม่…แม่เลี้ยงและพี่ชายต่างแม่เกลียดเขา ซึ่งมันก็ไม่แปลก เขาเองก็เข้าใจ เขาจึงไม่เคยคิดจะปริปากอะไรออกมาแม้ว่าแม่เลี้ยงกับพี่ชายจะทำอะไรกับเขาบ้าง เขาไดแต่ทน…ทนเท่านั้น



          “เรียนเป็นยังไงบ้างหมอก” ผู้เป็นพ่อถามขึ้นขณะที่กำลังกินข้าวเย็นร่วมกัน



          “พอได้ครับพ่อ” หมอกตอบเสียงเรียบๆ หลังจากที่เขามองเห็นพ่อก็ส่งเขาไปเรียน ซึ่งไม่ได้เรียนในโรงเรียนหรอกเพราะอายุเขาเลยเกณฑ์แล้ว พ่อให้อาจารย์มาสอนเขาที่บ้าน สอนวิชาที่จำเป็นและสามารถช่วยงานพ่อในบริษัทได้



          “หึ จะรอดมั้ย ได้ข่าวว่าความรู้แค่ม.3” เสียงของแม่เลี้ยงหรือว่าฝันฤดีดังขึ้น



          “นี่คุณ…” ผู้เป็นสามีหันไปปรามภรรยาที่มักจะชอบจิกกัดลูกชายอีกคนตลอด



          “หรือมันไม่จริงคะ  คุณคิดได้ยังไงว่าจะเอาไอ้เด็กนี่ไปช่วยงาน รู้ไปถึงไหนก็อายไปถึงนั่น ยิ่งถ้ารู้ว่าแม่มันเป็นเมีย…”



          “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะคุณหญิง!” ผู้เป็นสามีตะวาดเสียงดังทำให้คุณหญิงของบ้านเงียบลงทันที



          “เฮอะ แตะต้องไม่ได้สินะคะ ก็ดี…ดีจริงๆ” ฝันฤดีจิกสายตาใส่หมอกก่อนจะหันมาหาลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ



          “แกก็ดูพ่อแกนะฟ้า ต่อไปแกก็คงเป็นหมาหัวเน่า”



          “นั่นน่ะสิครับ ต้องแกเด็กนี่มา พ่อก็สนใจแต่เด็กนี่ อย่าลืมสิครับว่าฟ้าก็ลูกชายพ่อเหมือนกัน” ‘ฟ้า’ ว่าอย่างไม่พอใจเช่นกัน หมอกนั่งเงียบนิ่งกับสงครามย่อมๆที่เกิดขึ้นเป็นประจำบนโต๊ะอาหาร



          “ก็เป็นลูกพ่อทั้งคู่ คุณหญิงก็อย่าเสี้ยมลูกนัก ยังไงหมอกก็เป็นน้องของฟ้า” ผู้เป็นพ่อว่า ฟ้าเบะปากก่อนจะมองไปที่หมอก



          “ฟ้าไม่มีน้องครับ!” พูดจบฟ้าก็ลุกออกไปจากโต๊ะอาหารทันทีก่อนจะตามไปด้วยผู้เป็นแม่ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตกอยู่ในความเงียบเมื่อเหลือเพียงหมอกและผู้เป็นพ่อเท่านั้น

 

         “คือหมอก…”

 

         “ไม่ต้องพูดอะไรหรอก กินข้าวเถอะ ส่วนเรื่องที่คุณหญิงเขาพูดหรือฟ้าพูด อย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะ” หมอกพยักหน้ารับคำของพ่อแต่ในใจก็อดที่คัดค้านไม่ได้ จะไม่ให้เขาเก็บมาใส่ใจได้ยังไงในเมื่อคุณหญิงด่าแม่เขาทุกวัน ด่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเจ็บ…เจ็บจนอยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้…4ปีผ่านไป…หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของฮ่องกงลงข่าวดังครึกโครมถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ข่าวจะไม่ดังเลยถ้าผู้เสียชีวิตไม่ใช่คุณนายของตระกูลใหญ่และทายาทคนเดียวของตระกูลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าทางตำรวจจะพยายามหาเบาะแสขนาดไหนแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ถูกจงใจทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุธรรมดา แนบเนียนเสียจนไร้ร่องรอย  จนนายใหญ่ของตระกูลต้องบินตรงจากไทยมาที่ฮ่องกง



          “โนอาร์เป็นอย่างไรบ้าง!” เสียงทุ้มถามขึ้น สีหน้าเคร่งขรึมที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆทำให้ลูกน้องต่างพากันหวาดกลัว ขนาดพึ่งเสียภรรยาไปแต่กลับทำหน้านิ่งได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าคนๆนี้มีหัวใจเป็นอะไรกัน



          “ปลอดภัยแล้วครับแต่นายน้อย…” ผู้เป็นนายใหญ่ขมวดคิ้วกับคำว่าแต่ของลูกน้อง



          “ทำไม?”



          “…นายน้อยสูญเสียประสาทการมองเห็นครับ” ผู้เป็นนายใหญ่นิ่งไปทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน มือหนากำแน่นด้วยความเครียดแค้น ภรรยาตาย ลูกชายตาบอด พวกมันต้องชดใช้!!...ไม่รู้ว่านอนหลับไปกี่วันแต่ร่างสูงในชุดของโรงพยาบาลค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาแต่สิ่งแรกที่เขาเห็นกลับเป็นความมืด โนอาร์ขมวดคิ้วทันทีแขนหนาที่ไร้สายน้ำเกลือยกขึ้นมาสัมผัสบริเวณดวงตาก็พบว่ามีผ้าพันไว้



          “ใครอยู่บ้าง!” เสียงทุ้มดังขึ้น



          “ครับนายน้อย” เสียงของคนสนิทดังขึ้น



          “นี่มันบ้าอะไร ทำไม…” โนอาร์ว่าออกมาด้วยความยากลำบาก เหมือนกำลังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

         “นายน้อยครับคือ…”

 

       “กูถามว่านี่มันเรื่องเชี่ยอะไร!!” โนอาร์อาละวาดเสียงดังพร้อมกับทำท่าจะแกะผ้าที่ตาออกแต่เซนก็มาจับไว้



          “อย่าทำแบบนี้ครับนายน้อย”



          “แล้ว…แม่ล่ะ แม่อยู่ไหน แม่ปลอดภัยหรือเปล่า” โนอาร์ถามขึ้นทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่แค่เขาที่ประสบอุบัติเหตุ



          “…” ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของบอดี้การ์ดคนสนิท



          “ไอ้เซน!!”



          “แม่แกตายแล้ว” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยของผู้เป็นพ่อดังขึ้นทำให้โนอาร์ชะงักไปทันทีมือหนาปล่อยจากคอเสื้อของเซนแล้วทิ้งลงข้างตัวด้วยความช็อค



          “พ่อพูดอะไร…” เสียงทุ้มเค้นออกมาอย่างยากลำบาก



          “พูดความจริง…แม่แกตายแล้วและแกกำลังตาบอด แกต้องเข้าฝ่าตัดให้เร็วที่สุด” ผู้เป็นพ่อว่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งเป็นน้ำเสียงที่โนอาร์เกลียดที่สุด แม่ตาย?เขาตาบอด? แต่พ่อกลับเฉยมาก เฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนๆนี้ไร้หัวใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ดีแต่เผด็จการ บงการชีวิตเขา บงการจนชีวิตเขาบัดซบแบบนี้!! ย้อนกลับไปเมื่อ5ปีก่อน หลังจากที่เขาเรียนทุกอย่างตามที่พ่อสั่งเขาก็จะกลับไทย ในใจก็หวังว่าจะไปหาอีกคน คนที่คิดถึงอยู่ตลอดเวลา แต่พ่อกลับสั่งให้เขาอยู่ฮ่องกงต่อ ให้อยู่ดูแลกิจการที่นี่แทนพ่อที่อยู่ที่ไทยจนกว่ามันจะลงตัว เขาประท้วงสุดใจแต่พ่อก็เอาหมอกมาขู่ พ่อเอาเด็กตาบอดคนนั้นมาขู่ว่าถ้าเขาไม่ทำตามที่พ่อต้องการ พ่อจะทำให้หมอกหายไป หึๆ เขาบอกแล้วคนๆนี้ไร้หัวใจ ไร้หัวใจมาก เขาทำตามที่พ่อบอกซึ่งก็รอแล้วรอเล่าจนผ่านมา5ปี และในวันนี้ไอ้กิจการบ้าบอที่พ่อต้องการให้มันยิ่งใหญ่มันกลับมาทำร้ายตัวเขาและแม่! อย่างที่บอก…ทำธุรกิจก็ย่อมมีศัตรู มีแต่ความแกร่งแย่งไม่จบไม่สิ้น พ่อทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร จะต้องยิ่งใหญ่หรือรวยล้นฟ้าแค่ไหนถึงจะหยุด!



     “ผมไม่ผ่าตัด” โนอาร์ว่าเสียงเรียบ ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วทันที



          “แกว่าไงนะ”



          “ผมบอกว่าผมไม่ผ่าตัด” โนอาร์พูดซ้ำ



          “แกจะบ้าหรือไง!! แกเป็นทา…”



          “ผมเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล ใช่…พ่อพูดคำนี้ให้ผมฟังจนเบื่อละ และเพราะไอ้คำนี้แหละมันทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้ มันทำให้ผมต้องเสียแม่ เพราะฉะนั้นลองไม่มีไอ้ทายาทบ้าบอนี่แต่มีแต่ไอ้บอดนี่แทน พ่อจะทำยังไง ผมอยากรู้จริงๆ” ผู้เป็นพ่อยืนนิ่งกับคำพูดของลูกชาย ก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้เดือดดาดไปมากกว่านี้



          “ถ้าฉันจะต่อลองกับแกล่ะ เด็กนั่น…”



          “หึๆ หมอกไม่อยู่แล้ว พ่อไม่ต้องเอาเด็กนั่นมาต่อลองกับผม พ่อต่อลองกับผมมาห้าปี พ่อน่าจะพอได้แล้วนะ” โนอาร์ว่า ใช่…เขาให้คนของเขาตามสืบเรื่องหมอกแต่อยู่ๆอีกคนก็หายไป ถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้สิ่งที่รู้รู้แค่ว่าแม่ของหมอกตายแล้ว…เขาไม่รู้ว่าอีกคนไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่กับใครและเป็นยังไงบ้าง ซึ่งมันก็ผ่านมา5ปีแล้วบางทีเขาคงเชื่อได้แล้วล่ะว่า…พรหมลิขิตไม่มีจริง

           

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มีความเนื้อเรื่องพลิกไปพลิกมา 5555 มีใครเดาถูกมั้ย? ไม่งงกันนะคะ ผ่านไปห้าปีแล้วคนเรามันก็ต้องเปลี่ยนกันบ้าง อิพี่โนอาร์นี่ทนอยู่กับความกดดันตลอดยิ่งมีเรื่องแบบนี้ด้วย ยิ่งกลายเป็นคนแข็งกร้าวไปใหญ่ อิๆ ลืมภาพมุ้งมิ้งนั่นซะแล้วจำภาพโนอาร์คนใหม่เน้อออออออ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งืออออ รออ่านตอนต่อไป   :katai5: คู่รองอย่าพึ่งมานะเราอยากอ่านตอนต่อไปของคู่หลักก่อน 55555+

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เรื่องที่แล้วแค่ลูกคนที่เคยรักก็เกลียดจะแย่ละ เรื่องนี้ลูกเมียน้อยเลยหรอ  :hao5: :hao5: :hao5:

อึ้งมากกกก พระเอกตาบอดแทนซะงั้น จะทำไงต่อไปหล่ะเนี่ย หรือทำไปทำมาหมอกกลายมาเป็นคนดูแลโนอาร์หล่ะ  :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 5

 

        “ไม่เอา ฟ้าไม่ไปครับ!!” เสียงโวยวายของพี่ชายต่างมารดาดังขึ้นตั้งแต่เช้าทำให้หมอกที่กำลังจะออกไปช่วยพ่อทำงานต้องชะงัก ตอนนี้หมอกเป็นผู้ช่วยพ่ออยู่ที่บริษัทด้วยความที่เจ้าตัวสนใจภาษาอังกฤษและภาษาจีน ทำให้ผู้เป็นพ่อส่งเสริมให้หมอกเรียนด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งใช้เวลาไม่นานหมอกก็เรียนจบและกลับมาเป็นผู้ช่วยด้านงานเอกสารให้กับบริษัท



          “แกไม่ไปไม่ได้ ทางฉันกับคุณเฉินเราตกลงเรื่องนี้กันแล้ว แล้วแม่ของแกก็เอาแกใส่พานไปถวายให้บ้านนั้นอย่างกับอะไร” ผู้เป็นพ่อว่าอย่างไม่พอใจ



     “แม่ครับ” ฟ้าหันไปมองผู้เป็นแม่อย่างไม่เข้าใจ



          “ตระกูลเรากับตระกูลคุณเฉินกำลังจะร่วมหุ้นกัน เราก็ต้องเป็นดองกันสิฟ้า” ผู้เป็นแม่ว่า



          “แต่...” ฟ้ากัดปาก แม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเขาต้องแต่งงานกับผู้ชาย ซึ่งสมัยนี้มีมากมายยิ่งแต่งเพราะธุรกิจแล้วไม่ว่าจะเพศไหนๆถ้าสามารถทำให้ครอบครัวเกี่ยวดองกันได้ก็ทำกันได้ทั้งนั้นแต่ที่ฟ้าไม่ยอมรับคือว่าคู่แต่งงานของเขา…ตาบอด!! ใช่ ตาบอด แล้วเขาก็ต้องไปดูแล ไม่มีทาง ยังไงก็ไม่มีทาง!!



    “ไม่รู้แหละนี่คืคำสั่งของพ่อแล้วแกก็ห้ามขัด” พูดจบผู้เป็นพ่อก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินมาหาหมอกที่ยืนรออยู่ทันที หมอกเดินตามผู้เป็นพ่อขึ้นรถเพื่อออกไปที่บริษัททันที



          “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับพ่อ” หมอกถามขึ้นขณะที่นั่งอยู่ในรถ



          “ฟ้าต้องแต่งงานน่ะ” หมอกทำหน้าตกใจนิดๆกับสิ่งที่ได้ยินแต่เมื่อคิดๆดูแล้วพี่ฟ้าที่อายุมากกว่าเขาก็น่าจะถึงเวลาที่จะแต่งงานมีครอบครัวเสียที



          “แล้วทำไมพี่ฟ้าเชาไม่ยอมล่ะครับ?” ว่าแล้วผู้เป็นพ่อก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังทันที หมอกชะงักไปทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่พี่ชายต่างมารดาต้องแต่งงานด้วยเป็นผู้ชายอีกทั้งตอนนี้กำลังตาบอด หน้าที่ของว่าที่ภรรยาในอนาคตอย่างพี่ฟ้าก็คือไปดูแลว่าที่สามีและต้องทำยังไงก็ได้ให้อีกคนยอมผ่าตัด เพราะอีกคนไม่ยอมผ่าตัดซึ่งผู้เป็นพ่อของเขาก็ยังไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร



          “ผู้ชายกับผู้ชาย” หมอกพึมพำออกมาเบาๆแต่ผู้เป็นพ่อก็ได้ยินอยู่ดี



          “สมัยนี้มันเปิดกว้างแล้วล่ะ ยิ่งแต่งงานเพราะธุรกิจยิ่งไม่มีข้อกังหาใดๆ เพียงแค่ได้เกี่ยวดองกับผู้ถือหุ้นร่วมก็พอ” หมอกพยักหน้ารับกับสิ่งที่ได้ยินแม้ว่าในใจจะแอบคัดค้านว่าคนเราถ้าไม่รักกันจะสามารถแต่งงานแล้วอยู่ร่วมกันได้งั้นเหรอ? แต่ก็นะ...อย่างพ่อของเขากับคุณหญิงก็เช่นกัน บางทีครอบครัวคนรวย ครอบครัวไฮโซก็มีวงจรอะไรบางที่อย่างที่ยากกว่าคนฐานะธรรมดาๆอย่างเขาจะเข้าใจ…ทางด้านของโนอาร์ ร่างสูงไม่ยอมรับการผ่าตัดแม้จะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่วิธีในการประชดประชันผู้เป็นพ่อที่ดีนักก็ตาม เมื่อเห็นว่าลูกชายยังคนทำตัวเป็นปริปักกับตัวเองแบบนี้ผู้เป็นพ่อหรือรู้จักกันในนามนักธุรกิจว่าคุณเฉิน ก็หาวิธีที่จะทำให้โนอาร์ยอมผ่าตัดให้จงได้ ซึ่งวิธีนั้นก็ต้องใช้ตัวช่วยเสียหน่อย การทำธุรกิจคือการลงทุน การลงทุนก็ต้องหวังมิตรที่ดีและการผูกมิตรที่ดีก็ต้องเกี่ยวดอง แม้ว่ามันจะดูแปลกเสียหน่อยที่จะให้ลูกชายแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันแต่เพื่อความมั่นคงทางธุรกิจเขาคิดว่าเขาตัดสินใจไม่พลาดเฉินยื่นข้อเสนอให้อีกฝ่ายโดยการให้คู่แต่งงานของลูกชายต้องมาดูแลที่ฮ่องกงพร้อมทั้งทำยังไงก็ได้ให้โนอาร์ยอมผ่าตัด ซึ่งอีกฝ่ายก็ตกลงแล้ว



          “ฉันกำลังจะกลับไปดูบริษัทที่ไทย” เสียงของผู้เป็นพ่อพูดขึ้นโนอาร์ที่นั่งอยู่ก็นิ่งไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา



          “เดี๋ยวฉันจะส่งคนมาดูแลแกที่นี่” ผู้เป็นพ่อพูดต่อ



          “ไม่จำเป็น” โนอาร์ว่าเสียงเรียบ



          “แต่แกต้องมีคนดูแล”



          “ดูแล? หึๆ อย่าคิดว่าผมรู้ไม่ทันพ่อ ไอ้เรื่องคู่แต่งงานเพื่อเกี่ยวดองทางธุรกิจนั่นเอาสิ...ถ้าพ่อเอาหมอนั่นมาผมจะทำให้หมอนั่นทนอยู่ไม่ได้เลย” โนอาร์ว่าเสียงเย็นพร้อมยกยิ้มร้ายมุมปาก เฉินถอนหายใจออกมากับท่าทางของลูกชาย



          “แกจะคิดยังไงก็ช่างแต่ฉันจะเอาเขามาดูแลแกเพราะฉันอยากให้แกมีคนดูแลฉันหวังดีกับแกจริงๆ” พูดจบผู้เป็นพ่อก็เดินออกไปทันที โนอาร์นั่งทำหน้านิ่งก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก หวังดีงั้นเหรอ? เป็นความหวังดีจอมปลอมต่างหาก...ฟ้ารู้สึกหงุดหงิดใจตลอดหลายวันมานี้ที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับใครก็ไม่รู้ แม้ว่าเขาจะเป็นเกย์ ยอมรับอย่างเต็มปากเต็มใครแต่เขาก็ไม่ใช่ว่ากับใครก็ได้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นคนพิการตาบอดอีกต่างหาก บ้า! มันเป็นอะไรที่บ้าบอที่สุด!



     “ใจเย็นๆน่ะฟ้า แม่คิดว่ามันต้องมีทางออกสิ” ผู้เป็นแม่พูดขึ้น



          “ไม่ยงไม่เย็นแล้วครับแม่ แม่จะให้ฟ้าไปดูแลคนตาบอดเนี่ยนะ! ชีวิตวัยรุ่นของฟ้า ชีวิตอิสระของฟ้า นอกจากต้องแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ไม่พอ คนๆนั้นยังตาบอดอีก!”ฟ้าโวยวายด้วยความไม่พอใจ



          “แต่คุณโนอาร์เธอหล่อเหลามากเลยนะฟ้า แม่คิดว่าถ้าฟ้าเจอ ฟ้าต้องชอบแน่ๆ” ฟ้ากรอกตากับคำพูดของผู้เป็นแม่



          “ฟ้าชอบผู้ชายก็จริงครับแม่ แต่ไม่ใช่หล่อแล้วฟ้าจะเอาหมด ไม่รู้แหละ ฟ้าจะไปบอกคุณพ่อว่าฟ้าไม่ไป! ฟ้าไม่แต่ง!” ฟ้าทำท่าจะลุกจากโซฟาเพื่อไปหาผู้เป็นพ่อแต่ผู้เป็นแม่ก็คว้าแขนเอาไว้



          “เดี๋ยวสิๆ แกนี่มันใจร้อนจริงๆ แม่มีแผน แกฟังแผนแม่ก่อน” ฟ้าขมวดคิ้วก่อนจะหันมามองผู้เป็นแม่



          “ยังไงครับ?” ผู้เป็นแม่ยกยิ้มไม่ตอบแต่กลับมองไปทางหมอกที่กำลังช่วยป้าแม่บ้านจัดอาหารบนโต๊ะอาหาร



          “หมอก? มันทำไมครับ?” ฟ้าถามอีกครั้ง



          “ก็ให้มันเป็นคนดูแลก็สิ้นเรื่อง” ผู้เป็นแม่ว่าออกมา ฟ้ายังคงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



          “แผนของแม่ก็คือ...เอาไอ้ลูกเมียน้อยนั่นไปดูแลคุณโนอาร์แทนฟ้า ให้มันสวมรอยเป็นฟ้า เรื่องอะไรแม่จะยอมให้ลูกชายของแม่ไปลำบากดูแลคนตาบอดกัน และพออะไรๆเข้าที่ ฟ้าก็สวมรอยกลับมาเป็นตัวเอง” ผู้เป็นแม่อธิบายถึงแผนการที่คิดไว้



          “แล้วจะไม่มีใครจับได้เหรอครับแม่?”



          “ใครจะจับได้ ก็ขู่มันให้ปิดปากเงียบสิ คนอย่างมันไม่กล้าหือกับเราหรอก ส่วนเรื่องจะพามันไปด้วยได้ยังไง เรื่องนี้เดี๋ยวแม่คุยกับพ่อเอง” ผู้เป็นแม่กระตุกยิ้มร้ายอีกครั้งก่อนที่ฟ้าเองก็จะยกยิ้มเช่นกัน...หมอกตกใจไม่น้อยที่ผู้เป็นพ่อให้เขาตามพี่ชายต่างมารดาไปฮ่องกงเพื่อดูแลคู่แต่งงานที่ตาบอดของพี่ชาย โดยแม่เลี้ยงของเขาอ้างว่าพี่ชายของเขาจะได้มีเพื่อน แม้ว่าจะรู้สึกตงิดใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่หมอกก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ หมอกคิดในแง่ดีว่าการที่เขาไปอยู่ฮ่องกง เขาก็จะได้ใช้ภาษาที่เรียนมามากขึ้น อย่างน้อยก็น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์



          “หมอกโอเคใช่มั้ยที่พ่อให้ไปกับฟ้า” ผู้เป็นพ่อถามขึ้นเพราะถ้าลุกชายไม่โอเคเขาก็ไม่อยากจะบังคับ



          “หมอกยังไงก็ได้ครับ บางทีไปอยู่ที่นั่นอาจจะได้ใช้ภาษาจีนเก่งขึ้น” หมอกว่าถึงข้อดีที่คิดเอาไว้ ผู้เป็นพ่อพยักหน้ารับก่อนจะลูบหัวลูกชายเบาๆด้วยความอ่อนโยน



          “ถ้ามีอะไรก็บอกพ่อนะ พ่อเป็นพ่อของหมอก พ่ออยากทำหน้าที่นั้นหลังจากที่ไม่ได้ทำเป็นสิบปี”

 

         “พ่อก็ได้ทำแล้วนี่ไงครับ พ่อให้ชีวิตใหม่กับหมอก พ่อให้การศึกษา ให้ประสบการณ์ชีวิตให้อะไรๆหลายๆอย่างกับหมอก” หมอกว่าด้วยรอยยิ้ม ผู้เป็นพ่อมองลูกชายนิ่งๆแต่ในใจก็อ่อนวาบไปหมด เขาดีใจที่ได้มีโอกาสได้ดูแลลูกชายคนนี้หลายปีที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่าหมอกเป็นเด็กน่ารักและนิสัยดีขนาดไหน เขาไม่เคยเสียใจที่เลือกมีลูกกับมยุรีผู้หญิงที่เขารัก...หมอกกับฟ้ามาถึงฮ่องกงในช่วงบ่ายๆเกือบเย็น รถของทางตระกุลบ้านคุณเฉินมาจอดรอรับเขาทั้งคู่แต่ก่อนที่จะขึ้นรถฟ้าก้หันมาพูดกับหมอก



          “แกไปคนเดียวนะ” หมอกทำหน้าตกใจ



          “ทำไมครับ?”



          “มันคือคำสั่ง...ต่อไปนี้แกชื่อฟ้า แกคือคู่แต่งงานกับคุณโนอาร์ แกต้องสวมรอยเป็นฉัน ต้องดูแลคุณโนอาร์และโน้มน้าวให้เขาผ่าตัดให้ได้” ฟ้าว่าพร้อมมองหน้าหมอกอย่างจริงจัง แม้ว่าจะตกใจกับคำสั่งนั้นแค่ไหนแต่หัวใจของฟ้าก็สั่นไหวทันทีกับชื่อของคนบางคนที่ไม่ว่ากี่ปีก็ยังจำได้ฝังใจ



          “คะ...คุณโนอาร์เหรอครับ?”



          “ใช่...แล้วเรื่องนี้เป็นความลับห้ามให้ใครรู้ ถ้ามีใครรู้ละก็ แม่ฉันไม่เอาแกไว้แน่!” ฟ้ามองหน้าหมอกอย่างขู่ๆ หมอกขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ใจหนึ่งก็บอกว่ามันไม่ถูกต้องที่ทำแบบนี้แต่อีกใจก็บอกว่าคนที่ชื่อโนอาร์คนนั้นอาจจะเป็นคนเดียวกับที่เขารอคอยเลยสั่งให้เขาตอบตกลงลงไปในที่สุด



          “แล้วพี่ฟ้าจะไปอยู่ไหนครับ?” แม้ว่าอีกคนจะไม่ยอมรับเขาเป็นน้องแต่เขาก็ยังนับอีกคนเป็นพี่เสมอ หมอกรู้สึกห่วงไม่น้อยทว่าอีกคนจะไปอยู่ที่ไหน



          “ฉันเอาตัวรอดได้แต่แก...จำเอาไว้ ตอนนี้แกชื่อฟ้า!” พูดจบฟ้าก็เดินลากกระเป๋าเดินทางไปอีกทางทันทีทิ้งให้หมอกยืนนิ่งงันกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจถูกแล้วใช่มั้ยที่ทำแบบนี้ ตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ยที่จะไปหาผู้ชายชื่อเหมือนกับคนๆนั้น ในหัวของหมอกมีคำถามมากมายอยากถามแต่เขาคงไม่สามารถถามออกมาได้ในเมื่อตอนนี้เขาคือ...ฟ้า...หมอกถูกพามายังคฤหาสน์ใหญ่ที่อีกคนอยู่ หมอกตื่นเต้นไม่น้อยกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามตรงหน้า ร่างบางลากกระเป๋าเดินทางตามหัวหน้าแม่บ้านซึ่งเป็นคนไทยชื่อว่าป้านงค์เข้าไปในห้องนอนเพื่อเก็บของ



          “มีอะไรก็บอกป้าได้นะคะ” ป้านงค์พูดกับหมอกอย่างใจดี



          “ครับป้านงค์” หมอกว่ายิ้มๆ



          “ไม่คิดเลยนะคะว่าคู่แต่งงานของนายน้อยจะน่ารักแบบนี้ ตอนแรกป้าคิดว่าจะเป็นพวกผู้ดีหัวสูงเสียอีก” ป้านงค์ว่าตามที่ใจคิดเพราะได้ยินมาว่าอีกคนเป็นลูกชายของนักธุรกิจ มีชาติตระกูลไม่น้อย



          “ไม่หรอกครับ ผมก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละครับ” หมอกว่าด้วยรอยยิ้ม



          “ว่าแต่...เอ่อ...คุณโนอาร์อยู่ไหนเหรอครับ” หมอกถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามาถึงเขาต้องไปพบอีกคน แม้ว่าเมื่อ5ปีก่อนเขาจะไม่เคยเห็นหน้าอีกคน  แต่ถ้าลองใช้หัวใจมองแล้วเขาคิดว่าเขาจะจำอีกคนได้ถ้าได้พบกัน



          “ตามป้ามาสิคะ” หมอกเดินตามป้านงค์ขึ้นมายังชั้นสองของคฤหาสน์ก่อนจะเดินมาถึงห้องริมสุด ป้านงค์พยักหน้าให้หมอกว่าห้องนี้แหละคือห้องของนายน้อยของบ้าน หมอกพยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูเข้าไป...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตัดแบบนี้นี่แหละค่ะ 555555555555 ถ้าบรรยายต่อหลังจากนี้อาจจะยาวเกินไป งั้นปล่อยให้ค้างนิดนึงนะ ได้เจอกันแล้วจะเป็นยังไง ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ้ากกกก เค้าจะเจอกันแล้ว ถึงจะมาในชื่อคนอื่นก็เถอะ

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมอกจะจำโนอาร์ได้หรือไม่! โปรดติดตามตอนต่อไป!  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หมอกบอกโนอาร์ไปเลยเหอะเรื่องสับเปลี่ยนตัว ช่างหัวฟ้าแม่ม

อยากให้คู่นี้ออกจากตระกูลแล้วไปใช้ชีวิตกันเองจัง

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy
( Zen x Fah )



Fah : ฉันสนใจนาย คืนนี้ไปต่อกันมั้ย? 
Zen : คุณเสนอ ผมก็คงต้องสนอง 



















คู่รองจ้า!!!! แรงปะทะแรงนะคะคู่นี้ ใครชอบแนวนี้ฝากด้วยนะคะ >__<
___จางบิวตี้___


ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 1

( Zen x Fah )


        เพราะคำสั่งของผู้เป็นพ่อทำให้ ‘ฟ้า’ ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกงแบบนี้ ฟ้าไม่ชอบใจเลยเรื่องคุมถุงชนอะไรนั่นที่จะให้เขาแต่งงานกับลูกชายหุ้นส่วนบริษัทของพ่อแม้ว่าเขาจะเป็นประเภทชายรักชายก็เถอะ เรายอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำเลยแต่อยู่ๆจะให้แต่งงานกับใครที่ไหนไม่รู้ หน้าตาก็ไม่เคยเห็นแถมยังรู้มาอีกว่าอีกคนตาบอด ซึ่งมันบ้ามาก! บ้าบอที่สุด คิดว่าเขาจะยอมงั้นเหรอ? ไม่มีทางเสียหรอก! แต่ที่ยอมมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็เพราะแม่บอกว่าให้หมอก น้องชายต่างมารดาซึ่งเขาก็ไม่ได้รับอีกคนเป็นน้องเท่าไหร่หรอก แม่ของเขาเกลียดเด็กนั่นจะตายและเขาก็เกลียดมันเช่นกัน แม่ของเขาวางแผนให้หมอกเป็นคนไปดูแลคุณโนอาร์โดยสวมรอยเป็นเขา ซึ่งแผนนี้จะให้พ่อรู้ไม่ได้ ส่วนเขานั้นก็มาชีวิตลั่ลลาอยู่ในฮ่องกงแบบนี้ไงล่ะ วันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่ฟ้ามาอยู่ที่ฮ่องกงและเพราะความเบื่อทำให้ฟ้าออกมาเที่ยวกลางคืนซึ่งเห็นในอินเตอร์เน็ตบอกว่าเป็นร้านที่ระดับคนมีเงินเท่านั้นที่จะมาเที่ยว พอร่างบางก้าวเท้าเข้ามาในร้านสายตาหลายคู่ก็พากันจับจ้องมาที่ฟ้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะใบหน้าขาวใสและหวานราวกับผู้หญิง เพราะร่างกายบอบบางที่มองยังไงก็ไม่คล้ายบุรุษเพศสักนิดหรือเพราะนัยน์ตาเรียวที่กรีดด้วยอายไลน์เนอร์ที่ดูโดดเด่นและมีเสน่ห์



          “ดรายมาตินี่แก้ว” ฟ้าหันไปส่งเครื่องดื่มเป็นภาษาจีนตามที่ตัวเองเคยร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก เพราะมีพื้นฐานในภาษาจีนทำให้ฟ้าไม่ลำบากมากนักในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มือบางรับแก้วเครื่องดื่มจากบาร์เทนเนอร์ก่อนจะยกขึ้นกระดกดื่มพร้อมกับกวาดสายตาสำรวจไนต์คลับไปรอบๆก่อนจะไปหยุดกับร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน ร่างสูงใหญ่ ในเสื้อยืดธรรมดาแต่ดูไม่ธรรมดาเพราะกล้ามเนื้อของอีกคนมันช่างดึงดูดสายตาเสียงจริง แม้ว่าใบหน้าหล่อจะเรียบนิ่งแต่กลับมีเสน่ห์ไม่น้อยในความคิดของฟ้า ร่างสูงเมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังถูกจดจ้องจึงหันไปมองทันทีก่อนที่ตาคมจะสบเข้ากับดวงตาของใครอีกคนซึ่งฟ้าก็ไม่ได้หลบแต่กลับมองอีกคนอย่างสนใจด้วยความเปิดเผย



          “เซน!!” เสียงเรียกของเพื่อนสนิทดังขึ้นทำให้ ‘เซน’ ละสายตาของอีกคนหันไปสนใจเพื่อนสนิทแทนก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปนั่งรวมกับเพื่อนๆที่โต๊ะทันที



          “มาช้าว่ะ” เพื่อนของเซนทักขึ้นพร้อมกับส่งแก้วเครื่องดื่มให้



          “พึ่งเคลียร์งานเสร็จ” เซนตอบก่อนจะยกเครื่องดื่มกระดกหมดแก้ว ช่วงนี้เขายุ่งมากจริงๆไม่ค่อยมีเวลามาสังสรรค์กับเพื่อน เนื่องจากนายน้อยของเขาตาบอดและงานทุกอย่างในความดูแลของนายน้อยเขาต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด เซนเป็นลูกชายของคนสนิทของพ่อของโนอาร์ จึงถูกเลี้ยงดูมาเพื่อดูแลและเป็นคนสนิทของโนอาร์แม้ว่าโนอาร์จะอยากให้เซนเป็นเหมือนเพื่อนก็ตาม แต่เซนก็ไม่อยากจะก้าวข้ามเส้นนี้ไป พ่อของเขาสอนให้เขารักและเคารพนายใหญ่และนายน้อย สอนให้ดูแลทั้งสองคนเหนือชีวิตของตัวเอง



          “ว่าแต่เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามามองไรวะ เจอคนถูกใจเหรอวะ?” เพื่อนของเซนถามทันที เซนยกยิ้มมุมปากนิดๆก่อนจะหันไปมองร่างบางที่เคาน์เตอร์บาร์ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้าไปนั่งด้วย



          “คนนั้นเหรอวะ? กูเองก็ว่าน่ารักดี แต่เหมือนว่าไม่ใช่คนที่นี่” เพื่อนของเซนที่เป็นคนฮ่องกงแท้แต่กำเนิดว่า ส่วนเซนเกิดที่ฮ่องกงแต่กลับเป็นลูกครึ่งฮ่องกง-อังกฤษ



          “อืม...แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนสนใจเยอะ” เซนว่าพร้อมกับมองตามสายตาหลายคู่ที่มองไปที่ร่างบางที่เคาน์เตอร์นั่น

 

         “ไม่ลองเข้าไปจีบวะ” เพื่อนของเซนยุขึ้น เซนส่ายหน้าพร้อมกับกระตุกยิ้ม

 

         “ไม่ดีกว่า คืนนี้ไม่ค่อยอยากไปต่อ”...ยิ่งดึกบรรยากาศในไนต์คลับก็ยิ่งคึกครื้นเหล่าผีเสื้อราตรีพากันอวดลีลาลวดวายที่ฟอล์วอย่างเมามันส์ ฟ้าเองก็เช่นกัน แม้ว่าเวลาที่เต้นจะมีพวกมือปลาหมึกพยายามเกาะเกี่ยวเอวก็เถอะแต่เขาก็พยายามปฏิเสธอย่างเนียนๆเพราะคืนนี้เขาไม่สนใจใครเท่ากับคนๆนั้นอีกแล้ว  ฟ้าเต้นพร้อมกับมองไปทางร่างสูงอย่างเชื้อเชิญก่อนที่ร่างสูงจะกระดกเหล้าเข้าปากแล้ววางแก้วก่อนจะเดินมาทางเขาทันที ฟ้ายกยิ้มนิดๆก่อนจะเดินเข้าไปเต้นใกล้ๆอีกคน



          “ผมชื่อฟ้า” ฟ้าแนะนำตัวทันที



          “ผมเซน” เซนตอบกลับพร้อมกับใช้มือเกี่ยวเอวบางเอาไว้เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายหลายคนพยายามเต้นเบียดอีกคนอย่างเนียนๆ



          “คุณเป็นคนฮ่องกงเหรอ? หน้าคุณเหมือนลุกครึ่งมากว่า” ฟ้าว่าตามที่ใจคิด



          “ผมเป็นลูกครึ่งแล้วคุณล่ะ? คนไทย?” เซนคาดเดาเพราะจากชื่อแล้วน่าจะใกล้เคียงกับคนไทยมากที่สุด



          “เดาเก่งจังนะ” ฟ้าว่ายิ้มๆก่อนจะใช้แขนโอบรอบคออีกคนเอาไว้อย่างยั่วยวนทำให้ร่างกายของคนทั้งคู่บดเบียดเสียดสีกัน เซนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจก่อนจะใช้มือของตัวเองเค้นคลึงไปทั่วกายบางของอีกคน



          “มาคนเดียว?” เซนถามอีกคนขึ้น



          “อื้ม...แต่ไม่อยากกลับคนเดียว” ฟ้าตอบพร้อมกับสบตาเซนอย่างแสดงความต้องการอย่างชัดเจน เซนยกยิ้มอีกครั้ง



          “คืนนี้คงไม่ได้น่ะสิ” ฟ้าทำหน้างอทันทีกับคำพูดของอีกคน



          “คุณคงเจอคนที่ถูกใจแล้วสินะ”



          “ไม่...ผมถูกใจคุณที่สุด” ฟ้ายกยิ้มนิดๆกับคำตอบของอีกคนก่อนจะถามอีกครั้ง



          “แล้วทำไมไม่?”



         “พรุ่งนี้ผมมีงานเช้า กับคุณ...ผมไม่อยากให้มันเสร็จเร็วมากนัก”...ฟ้ากลับมาคอนโดด้วยความรู้สึกแปลกๆในหัวใจ จะว่าเขาใจง่ายหัวใจเต้นแรงกับผู้ชายที่เจอกันไม่ถึงวันก็ด่ามาเลยเถอะเพราะเขากำลังหัวใจเต้นแรงกับเซนจริงๆ แม้ว่าจะคุยกันไม่เยอะเท่าไหร่แต่ฟ้ากลับชอบอีกคนไม่น้อย ทั้งหน้าตา รูปร่าง นิสัย คำพูดคำจาหรือแม้กระทั่งแววตา เขาชอบมันทั้งหมด! แม้ว่าจะเสียดายที่ไม่ได้มาต่อกับอีกคนแต่ตอนนี้ในใจของฟ้ากลับไม่ได้ต้องการแค่วันไนต์สแตนกับอีกคนแล้วสิ มันต้องการมากกว่านั้น!...ฟ้าวนเวียนมาที่ไนต์คลับเดิมกว่าสามวันแล้วแต่กลับไม่เจอเซนเลยฟ้ารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย หงุดหงิดในความโง่ของตัวเองที่วันนั้นไม่ได้ขอเบอร์หรือช่องทางติดต่อของอีกคนไว้เลย หรือเขาคงต้องปล่อยคนๆนั้นให้ผ่านไป ในใจก็อยากจะทำแบบนั้นแต่ทำไมกันนะ ทำไมมันถึงทำไม่ได้...และเพราะไม่อยากหมกมุ่นกับเรื่องของอีกคนมากเกินไปวันนี้ฟ้าเลยออกมาช็อปปิ้งที่ย่านดังของฮ่องกงเพื่อระบายอารมณ์ ซึ่งการช็อปปิ้งก็ถือเป็นกิจกรรมยามว่างหนึ่งของฟ้านั่นแหละ ตากลมมองนาฬิกาข้อมือแบรนด์ดังก่อนจะยกขึ้นมาเทียบกับข้อมือตัวเองและรู้สึกถูกใจไม่น้อยจึงตัดสินใจจะซื้อแต่พอกำลังจะหยิบบัตรเครดิตออกมาจ่ายตาเรียวที่กรีดด้วยอายไลน์เนอร์ก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่คุ้นตา ฟ้ารีบวางนาฬิกาในมือที่เดิมก่อนจะวิ่งตามอีกคนไปทันทีแต่ก็ช้าไปเพราะฟ้ามองหาเซนไม่เจอแล้ว ฟ้ารู้สึกหงุดหงิดใจอีกครั้งที่เป็นแบบนี้ หงุดหงิดตัวเองด้วยที่เป็นบ้าอะไรไม่รู้ถึงได้วิ่งตามหาผู้ชายอย่างกับผีบ้าแบบนี้ ฟ้าไม่คิดผู้ชายคนหนึ่งจะมีอิทธิพลกับเขาขนาดนี้ ฟ้าไม่ใช่คนไร้เดียงสา ฟ้ามีประสบการณ์เรื่องรักและเรื่องเซ็กส์มามากมายแต่ทำไมกันนะ...ทำไมไม่มีใครเคยทำให้เขาเป็นแบบนี้มาก่อน



ครืดๆๆ

เสียงโทรศัพท์ของฟ้าดังขึ้น ร่างบางมองเบอร์ที่โทรเข้าก่อนจะกดตัดสายทิ้งทันทีเพราะคนที่โทรมาคือเจ แฟนเก่าของเขาที่พยายามขอคืนดี ฟ้าเป็นคนไม่เดินถอยหลังอยู่แล้ว เลิกก็เลิก ไม่มีคำว่ารีเทิร์นเพราะเขาไม่ง้อใครอยู่แล้ว คนอย่างเขามีผู้ชายมากหน้าหลายตามาให้เลือกอยู่แล้ว  อย่างที่บอกเขาไม่เคยแคร์ใคร ไม่เคยต้องตามใครยกเว้นผู้ชายคนนี้…คนที่ชื่อว่าเซน!



          “ถ้าคืนนี้ไม่เจอฉันจะหยุดแล้วจริงๆนะ” ฟ้าว่าพร้อมกับกำถุงช็อปปิ้งในมือแน่นในใจรู้สึกอึดอัดไปหมด โอกาสสุดท้ายของนายแล้วนะเซน!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนแรกสั้นๆหน่อยนะคะแค่เปิดตัวคู่รอง 55555 จะให้ได้กันตั้งแต่ตอนแรกก็คงเร็วไปใจเย็นเนอะๆๆๆๆๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
คู่รองมาแล้ว มีสามีคงจะนิสัยดีขึ้นนะฟ้า

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 6

 

พรึ่บ!

      “โอ๊ย!” หมอกร้องขึ้นมาทันทีเมื่อมีหมอนลอยมาปะทะที่ใบหน้าตัวเองอย่างแรง



          “ออกไป” เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้หมอกหันไปมองอีกคนทันที ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาที่บ่งบอกถึงเชื้อชาติของความเป็นลูกครึ่ง ดูดีไร้ที่ติจนหมอกอดที่จะชื่นชมไม่ได้แต่การกระทำเมื่อครู่กลับแย่เสียจนหมอกไม่พอใจ



          “บอกให้ออกไปไง!” เสียงทุ้มว่าอีกครั้งเมื่อไม่ได้ยินเสียงปิดประตูหรือเสียงเดินออกไปจากห้อง โนอาร์รู้ว่าคนที่เข้ามาในห้องคือใคร เพราะคนที่บ้านบอกว่าคู่แต่งงานของเขาเดินทางมาถึงแล้ว ไม่ว่าอีกคนจะมาเพื่อไรก็ตามแต่เขาก็ไม่ต้อนรับอีกทั้งยังจะขับไล่อีกด้วย!



          “ทำไมคุณทำแบบนี้” เสียงหวานว่าออกมาทำให้โนอาร์ชะงัก คุ้นเคย...เขารู้สึกคุ้นเคยในน้ำเสียงนี้อย่างประหลาดแต่ก็นะมันจะเป็นไปได้ในยังไงในเมื่อคนที่เขาคิดหายสาบสูญไม่จากชีวิตเขาแล้ว



          “ฉันไม่ต้อนรับนาย ออกไป...ไม่สิ ทางที่ดี กลับไปซะ” โนอาร์ว่าเสียงเรียบพร้อมกับใบหน้าที่เรียบเฉย



          “แต่ผมมาที่นี่เพื่อดูแลคุณ” หมอกว่า ทำแบบนั้นไม่ได้ เขารับหน้าที่จากพี่ฟ้ามาเพื่อดูแลอีกคนและโน้มน้าวใจให้อีกคนผ่าตัดให้ได้ เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับอีกคนและทำไมพี่ฟ้าต้องมาดูแลคนๆนี้แต่ที่รู้คือคนตรงหน้าคือคู่แต่งงานของพี่ฟ้า



          “ฉันไม่ต้องการ! ไสหัวออกไปซะ!” โนอาร์ว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ หมอกยืนนิ่งอย่างระงับอารมณ์ก่อนจะสาวเท้าออกจากห้องอีกคนไปทันที ป้านงค์ทำหน้ากลืนไม่เข้าคาไม่ออกที่เห็นหมอกเดินออกมา



          “เอ่อคุณฟ้าจะกลับ...”



          “นายน้อยของป้านงค์นิสัยไม่ดีเลยนะครับ พูดจาแบบนี้กับคนที่พึ่งรู้จักได้ยังไงกัน แบบนี้ต้องสั่งสอนเสียหน่อย” ป้านงค์เบิกตากว้างทันทีกับคำพูดของอีกคน



          “หมายความว่ายังไงกันคะ?”



          “ผมไม่ยอมแพ้นายน้อยของป้านงค์หรอกครับ” หมอกพูดออกมาก่อนจะยกยิ้มป้านงค์คลี่ยิ้มทันทีกับคำตอบของอีกคน เธอรู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่น้อยแม้ว่าตากลมจะดูเศร้าหมองและดูท่าทางเป็นคนน่าสงสารแต่ถ้ามองดีๆมันกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น...แม้ว่าจะมาอยู่ในฐานะแขกของบ้านแต่หมอกก็ไม่นิ่งดูดาย มื้อเย็นวันนี้เขาจึงมาช่วยป้านงค์เตรียมอาหารในครัว แองก็ทำอาหารจีนไม่เป็นหรอกแต่เห็นป้านงค์บอกว่าคุณโนอาร์มักจะชอบอาหารไทยมากกว่า



          “นายน้อยของป้านงค์เป็นคนยังไงเหรอครับ” หมอกถามขึ้นขณะที่กำลังช่วยป้านงค์หั่นผัก



          “อืม...ป้าว่านายน้อยเธอเป็นคนจิตใจดีนะคะ อ่อนโยนด้วยแต่ตั้งแต่เสียคุณนายและสูญเสียการมองเห็นไปเธอก็อารมณ์เกรี้ยวกราดแบบนี้นั่นแหละค่ะ”หมอกพยักหน้ารับกับข้อมูลที่เขาได้รับรู้ แปลว่าอีกคนไม่ใช่คนนิสัยไม่ดีเนื้อในแต่ที่เป็นแบบนี้อาจจะเพราะความเสียใจหรือต้องการปิดกั้นตัวเองจากอะไรสักอย่างสินะแต่พอได้ยินคำว่าอ่อนโยนจากปากของป้านงค์ก็ทำให้หมอกเผลอนึกถึงใครบางคนคนที่ชื่อเหมือนคนๆนี้  หมอกสะบัดหัวเบาๆแล้วคิดว่ามันไม่ทางจะเป็นไปได้ โลกไม่ได้กลมและพรหมลิขิตไม่มีอยู่จริง...หลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จหมอก็เป็นคนถืออาหารขึ้นมาให้อีกคนที่อยู่บนห้อง ร่างบางสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องของอีกคนทันที



          “ป้านงค์ หมอนั่นกลับไปแล้วใช่มั้ย?” โนอาณืที่คิดว่าคนที่เดินเข้ามาอย่างทุกวันคือป้านงค์จึงถามขึ้น

 

         “ยังครับ ผมยังไม่กลับ” หมอกตอบกลับไปทันที โนอาร์ขมวดคิ้วทันที



          “ทำไมยังไม่กลับไปอีก เจ้าของบ้านไล่ขนาดนี้แล้ว” โนอาร์ว่าเสียงเย็น



          “จะว่าผมหน้าหนาก็ได้ครับ” หมอกว่าก่อนจะวางอาหารที่โต๊ะข้างหัวเตียงอีกคน ซึ่งเขาต้องทำหน้าที่ป้อนอาหารให้อีกคนด้วย หมอกเองก็ไม่ได้เกี่ยงอะไรเพราะเขาพอจะรู้หน้าที่เวลาดูแลคนป่วยและเขาก็เต็มใจทำ เขาอยากทำดีกับอีกคนให้อีกคนไว้ใจและยอมฟังคำโน้มน้าวของเขาเพื่อนที่เขาจะได้หมดหน้าที่ในเร็ววัน



          “วันนี้ป้านงค์ทำต้มจืดฟักของโปรดของคุณให้ครับ” หมอกว่าพร้อมกับตักข้าวและต้มใส่ช้อนทำท่าจะป้อนอีกคน



พรึ่บ



เคร้ง!



          “ไม่กิน ออกไป!” หมอกสะดุ้งทันทีกับการกระทำและคำพูดของอีกคน มือหนาปัดช้อนในมือเขาล่วงลงพื้นจนพื้นห้องกระจัดกระจายไปด้วยเม็ดข้าว



          “แต่คุณต้องกินข้าวนะครับ”



          “ก็บอกว่าไม่กินไง ออกไป!!” โนอาร์ว่าเสียงดังอีกครั้งจนหมอกต้องยอมถือถาดข้าวออกไป ตากลมมองอีกคนอย่างไม่พอใจนิดๆแต่ก็ต้องพยายามระงับอารมณ์ไว้ แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความอดทนสูงแต่บางทีถ้ามากเกินไปก็ไม่พอใจเหมือนกัน



          “เกิดอะไรขึ้นคะ?” ป้านงค์ที่วิ่งขึ้นมาชั้นบนของบ้านถามขึ้น เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงโวยวายของนายน้อย



          “คุณโนอาร์ไม่ยอมทานข้าวครับ” หมอกตอบกลับ



          “ป้าว่าให้ป้าเป็นคนเอาไปให้ดีกว่านะคะ คุณฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วไปพักผ่อนดีกว่านะคะ” ป้านงค์ว่าพร้อมมองหน้าอีกคนอย่างเห็นใจ เธอคิดว่าคุณฟ้าพยายามจะทำดีกับนายน้อยของเธอแต่ก็นะนายน้อยของเธอต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้จะตายยังไงก็ไม่มีทางอ่อนให้แน่ๆ



          “งั้นก็ได้ครับ” หมอกพยักหน้ารับก่อนจะยื่นถาดอาหารให้ป้านงค์...



          “ให้ป้าเข้านะคะ” เสียงของป้าแม่บ้านคนสนิทดังขึ้นทำให้โนอาร์ที่นั่งนิ่งอยู่มีปฏิกิริยาทันที



          “เข้ามาเลย”



          “ทำไมไม่ยอมทานข้าวล่ะคะ?” ป้านงคืถามขึ้นพร้อมกับวางถาดอาหารที่โต๊ะข้างเตียงของอีกคน



          “ทำไมหมอกนั่นยังไม่กลับไปอีก” โนอาร์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจ



          “นายน้อยไม่ชอบคุณฟ้าเหรอคะ? ป้าว่าเธอก็น่ารักดีนะคะ หน้าตาก็น่ารักกิริยามารยาทก็ดี” ป้านงค์ว่าตามที่ใจคิด



          “ผมไม่มีวันหลงกลแผนของเขา” โนอาร์ว่า ซึ่งเขาที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากพ่อของเขา บอกแล้วว่าเขารู้ว่าพ่อของเขาต้องการส่งอีกคนมาดูแลเขาและโน้มน้าวใจเขาให้ผ่าตัด ทุกการกระทำต้องมีการวางแผนจากคนเจ้าแผนการคนนั้นมาอย่างดี เขาไม่มีทางเชื่อว่าลูกผู้ดีตีนแดงอย่างคนๆนั้นจะยอมมาดูแลคนตาบอดอย่างเขา ไม่มีทาง...



          “แผน? แต่ป้าว่าไม่นะคะ คุณฟ้าเธอดูใสซื่อจะตาย” ป้านงค์ค้านออกมา



          “หึๆ มารยาไงป้า ผมเชื่อว่าคนที่เขาคนนั้นส่งมา ไม่ธรรมดาหรอก” โนอาร์ว่าอย่างมีอคติ



          “เฮ้อ...บอกอะไรไปนายน้อยคงยังไม่เชื่อ ป้าว่าให้คุณฟ้าเธอพิสูจน์ตัวเองสักหน่อยนะคะ ป้าว่าป้ามองคนไม่ผิดหรอก” โนอาร์นิ่งกับคำพูดของหญิงวัยกลางคนก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาแต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด



          “ก็ได้...แต่ถ้าหมอนั่นทนได้นะ”...หมอกทิ้งตัวลงที่เตียงนอนในห้องพักส่วนตัวของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ เขารู้ว่าเขาทำแบบนี้มันไม่ถูก การปลอมตัวเป็นคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย แต่เขาคัดค้านหรือปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เขาไม่อยากมีปัญหากับคุณหญิงและพี่ฟ้า แค่ทุกวันที่อยู่ด้วยกันเขาต้องเจอถ้อยคำดูถูก สายตาดูหมิ่นซึ่งทุกครั้งก็จะลากแม่ของเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เขาทนไม่ได้เลย หัวใจเจ็บปวดไปหมด เขาอยากจะบอกกับพ่อแต่เห็นว่าทุกวันนี้เรื่องงานพ่อก็เครียดพอแล้วเขาเลยไม่อยากหาเรื่องไปใส่สมองพ่ออีก เลยต้องแบกรับมันไว้คนเดียวทั้งหมด



          “แม่ครับ เหนื่อยจัง” หมอกว่าพร้อมกับหยิบรูปของแม่ซึ่งเขาเอาไปใส่กรอปมาไว้แนบอก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีแต่เขาก็ยังคงคิดถึงแม่เสมอ เขาคิดเสมอว่าแม่อยู่ข้างๆเขาตลอดเวลา แม่ไม่เคยจากเขาไปไหน



          “ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงจะดีนะครับ” หมอกว่าออกมาอีกครั้งพร้อมกับน้ำใสที่ไหลลงมาจากตากลม หมอกไม่ได้อยากร้องไห้แต่อยู่ๆความรู้สึกไม่ดีก็ตีตื้นขึ้นมา แม้ว่าจะพยายามเข้มแงตอนที่อยู่ต่อหน้าคุณโนอาร์แต่ความจริงแล้วก็แค่พยายาม...เขายังคงอ่อนแอเหมือนเดิม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อินังโนอาร์จะทำอะไร!!! แค่นี้น้องหมอกก็น่าสงสารพอแล้ว ฮืออออออออออ หมอกไม่ได้ปีกกล้าขาแข็งขึ้นนะคะ น้องแค่พยายามเท่านั้น น้องยังอ่อนแอเหมือนเดิม T^T

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ถ้ารู้ว่าเป็นหมอกนะ ถึงอยากจะหนีก็คงแทบจะขอร้องให้อยู่ดูเลยหล่ะ หึหึ

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 7

 

        วันนี้หมอกก็อาสาเป็นคนเอาข้าวมาให้อีกคนที่ห้องเหมือนเมื่อวาน หมอกจะพยายามทำให้อีกคนไว้ใจและสนิทใจกับเขาเพื่อที่จะโน้มน้าวใจอีกคนแม้ว่ามันจะดูยากมากๆเลยก็ตาม

 

          “อาหารเช้าครับ” หมอกพูดขึ้นพร้อมกับยกถาดอาหารเข้ามาในห้องนอนของอีกคนโนอาร์ไม่ตอบแต่กลับนั่งนิ่งไม่พูดอะไรออกมา หมอกวางถาดอาหารบนโต๊ะข้างเตียงของอีกคนก่อนจะนั่งที่เก้าอี้ข้างๆเพื่อที่จะป้อนข้าวให้อีกคน

 

เคร้ง

          “ใครบอกว่าฉันจะกิน” โนอาร์ว่าหลังจากที่ปัดช้อนในมืออีกคนล่วงพื้น หมอกขมวกคิ้วทันที

 

          “แล้วคุณจะทานอะไรครับ  ป้านงค์บอกว่าทุกเช้าคุณโนอาร์จะทานข้าวต้ม”

 

          “ก็วันนี้ไม่อยากไง” หมอกถอนหายใจออกมากับคำพูดของอีกคน

 

          “แล้วจะรับอะไรครับ ผมจะได้ไปบอกป้านงค์ให้”

 

          “ฉันอยากกินฝีมือนาย” หมอกขมวดคิ้วทันทีกับคำพูดของอีกคน นึกครึ้มอะไรถึงได้อยากกินอาหารฝีมือเขา

 

          “ก็ได้ครับ งั้นผมจะไปทำข้าวต้มฝีมือผมมาให้” หมอกว่าก่อนจะยกถาดอาหารเช้าออกไปจากห้องอีกคน พอลับหลังอีกคนออกไปโนอาร์ก็กระตุกยิ้มมุมปากทันทีเอาสิ…อยากดูแลเขานักใช่มั้ย เขาจะให้ดูแลให้สมใจ จะลองดูซิว่าอีกคนจะทนได้สักกี่น้ำ จะเก่งแต่ปากตามประสาลูกคนมีเงินหรือเปล่า…เพราะตอนแม่อยู่หมอกเคยเป็นผู้ช่วยแม่ในครัวบ่อยๆทำให้หมอกพอที่จะทำอาหารเป็นบ้าง ไม่สิ…เขาทำได้หลายอย่างเลยแหละและก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองหากจะพูดว่าเขาเองก็มีฝีมือในการอาหารทีเดียว…หมอกถือถาดอาหารเช้าซึ่งเป็นข้าวต้มกุ้งฝีมือตัวเองเข้ามาในห้องนอนของอีกคน โนอาร์ได้กลิ่นข้าวต้มหอมๆลอยมาแต่ไกลก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าข้าวต้มมีกลิ่นหอมน่ากินจริงๆแต่ถึงจะน่ากินแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางกินเสียหรอก!

 

      “ผมทำข้าวต้มมาให้แล้วครับ” หมอกว่าพร้อมกับตักข้าวต้มในชามใส่ช้อนทำท่าป้อนอีกคน

 

          “เปลี่ยนใจละไม่อยากกินข้าวต้มแต่อยากกินอย่างอื่น” หมอกชะงักไปทันทีกับคำพูดของอีกคน

 

          “ว่าไงนะครับ”

 

          “บอกว่าไม่อยากกินข้าวต้มไง” โนอาร์ว่าเสียงเรียบ

 

          “แต่ผม…” เขาอุตสาห์ตั้งใจทำมันให้อีกคนเลยนะ

 

          “ทำไม?  มีปัญหาอะไร?” หมอกถอนหายใจออกมาเพราะเริ่มจะจับทางออกในการกระทำของอีกคน

 

          “คุณจงใจแกล้งผม”

 

          “หึๆ งั้นเหรอ?”

 

          “คุณโนอาร์!!” หมอกเรียกอีกคนเสียงดังกับท่าทางกวนประสาทของอีกคน

 

          “ทนไม่ได้ก็กลับไปซะฉันไม่เคยร้องขอให้นายมา กลับไปบอกเขาว่าเขาไม่มีทางทำให้ฉันเปลี่ยนใจได้” โนอาร์ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาซึ่งในความเย็นชานั้นหมอกกลับรู้สึกถึงความเสียใจที่ซ่อนอยู่ หมอกไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับอีกคนแล้วเขาที่ว่าคือใครเพราะหมอกมีหน้าที่มาดูแลอีกคนเท่านั้น

 

          “ผมไม่กลับ” หมอกว่าออกมา

 

          “ว่าไงนะ?” โนอาร์ถามอย่างไม่เชื่อหู

 

          “ผมบอกว่าผมไม่กลับ ไม่ว่าคุณจะขับไล่ผมแค่ไหนมก็ไม่กลับ จนกว่าผมจะทำให้คุณยอมผ่าตัดให้ได้” หมอกว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง โนอาร์กระตุกยิ้มมุมปาก

 

          “แน่วแน่ดีนี่…ก็ได้ ถ้านายต้องการแบบนั้นก็ได้…เราจะมาลองดูกันสักตั้ง!”…หมอกเกลียดโนอาร์! คำๆนี้เป็นคำแรกที่หมอกคิดได้ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เขามาอยู่ที่นี่ การประกาศศึกในวันนั้นทำให้หมอกต้องมาลำบากลำบนในวันนี้ อีกคนหาเรื่องกลั่นแกล้งเขาสารพัด ไม่ว่าจะให้เขาทำอาหารวันละหลายๆรอบจนกว่าอีกคนจะพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำลายความรู้สึกของเขาด้วยคำพูดร้ายๆที่ชอบพูดจิกกัดทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน…ไม่ว่าเขาจะทุบกระจกบอกให้อีกคนเปิดประตูแค่ไหนอีกคนก็ไม่ยอมมาเปิดให้ โนอาร์แกล้งเขา แกล้งให้เขาออกไปรดน้ำต้นไม้ที่นอกระเบียงก่อนที่เจ้าตัวจะกดล็อคประตูระเบียงทำให้เขาไม่สามารถกลับเข้าไปในห้องได้ บ้าบอที่สุด!

 

          “เปิดเดี๋ยวนี้นะคุณโนอาร์!” หมอกตะโกนเสียงดังพร้อมเคาะประตูกระจก

 

          “หึๆ” โนอาร์กระตุกยิ้มกับเสียงเรียกของอีกคนแต่กลับไม่สนใจ ร่างสูงหยิบหูฟังข้างตัวมาใส่ก่อนจะเปิดเพลงฟังอย่างสบายใจจนเผลอหลับไป

 

ซ่า

หมอกนั่งกอดตัวเองด้วยความหนาวสั่นเมื่ออยู่ๆฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา ละอองฝนสาดใส่ตัวเขาจนเปียก ยิ่งลมพัดมาก็ยิ่งหนาว หมอกพยายามตะโกนเรียกอีกคนให้มาเปิดประตูก็แล้วแต่อีกคนก็ไม่ยอมมาเปิดให้ คนใจร้าย!

 

เปรี้ยง!

 

เฮือก!

หมอกสะดุ้งทันทีกับเสียงฟ้าร้อง มือบางที่โอบกอดตัวเองไว้รีบยกขึ้นมาปิดหูทันทีด้วยความหวาดกลัว หมอกกลัวเสียงฟ้าร้อง หมอกไม่ชอบมัน

 

เปรี้ยง!

 

        “ฮึก คุณโนอาร์ เปิดประตูให้ที” หมอกร้องไห้ออกมาก่อนจะเคาะประตูอีกครั้งแต่อีกคนก็ยังนอนนิ่งไม่สนใจเขา

 

เปรี้ยง!

 

          “ฮึก แม่ครับหมอกกลัว” หมอกสะดุ้งอีกครั้งพร้อมกับร้องไห้ไม่หยุด ตัวบางสั่นเทาด้วยความกลัว

 

          “ฮึก คุณโนอาร์ ฮึก เปิดประตูให้หน่อย” หมอกเคาะประตูจนมือแดงแต่อีกคนก็ไม่ยอมเปิดประตูให้เขา หมอกร้องไห้สะอึกสะอื้นจนแทบขาดใจ ยิ่งเสียงฟ้าร้องดังเท่าไหร่กายบางก็ยิ่งสั่นเทามากเท่านั้น…โนอาร์ตื่นมาก็ได้ยินเสียงในตกดังออกมาจากข้างนอก ร่างสูงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะนึกได้ว่าเขาขังอีกคนไว้ที่ระเบียง ว่าแล้วร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงแล้วค่อยๆคลำทางด้วยความเคยชินไปที่ระเบียงทันที

 

แกรก

เสียงเปิดประตูระเบียงดังขึ้นทำให้หมอกที่นั่งร้องไห้อยู่หันไปมอง

 

          “ฮึก คนใจร้าย” โนอาร์ชะงักไปทันทีที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของอีกคน

 

          “ฮึก คนใจร้าย คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง ฮึก คุณมันนิสัยไม่ดี” หมอกลุกขึ้นพร้อมกับทุบตีอีกคนทันทีด้วยความโกรธทำให้โนอาร์รับรู้ถึงความเปียกชื้นที่มาจากร่างบางได้ ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งๆที่ควรสะใจที่ทำให้อีกคนร้องไห้แบบนี้เพราะถ้าเป็นแบบนี้อีกคนคงทนไม่ไหวแน่ๆ ใช่…เขาต้องสะใจสิ พูดออกไปว่าเขาสะใจ

 

          “ทนไม่ได้? ทนไม่ได้ก็ไสหัวไป” โนอาร์ว่าเสียงเรียบ  หมอกกัดปากมองหน้าอีกคนด้วยนัยน์ตาสั่นระริก

 

          “ได้ ถ้าคุณอยากให้ผมไปผมก็จะไปแต่ก่อนไปผมจะบอกอะไรกับคุณให้นะ…คนอย่างคุณ ชีวิตนี้อย่าหวังจะเจอกับความรักที่ดีเลย ในเมื่อจิตใจของคุณมันหยาบกระด้างแบบนี้ จะไม่มีใครรักคุณจริง แม้กระทั่งครอบครัวของคุณ!” หมอกว่าเสียงดัง

 

          “ฟ้า!!” โนอาร์เรียกชื่ออีกคนด้วยความโกรธจัด

 

          “ทำไม? ฮึก รับไม่ได้หรือไง รับความจริงที่ผมพูดไม่ได้หรือไงที่ว่าแม้กระทั่งครอบครัวของคุณก็ไม่มีความรักที่จริงใจให้กับคุณ!”หมอกว่าพร้อมกับเขย่าแขนอีกคนอย่างแรง

 

พลั้ก

 

          “โอ๊ย!!” หมอกร้องออกมาทันทีที่อีกคนผลักเขาอย่างแรงทำให้ร่างบางล้มไปกองกับพื้น โนอาร์ตกใจไม่น้อยกับเสียงร้องของอีกคนเพราะเขาตั้งใจแค่จะสะบัดอีกคนออกเท่านั้นไม่คิดว่าจะแรงจนอีกคนล้มไปกองกับพื้น หมอกเงยหน้ามองใจร้ายทั้งน้ำตา แขนเรียวที่ไถลไปกับพื้นขูดกับพื้นจนเลือดซิบ

 

          “เลว” หมอกว่าสั้นๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที โนอาร์ได้ยินเสียงอีกคนออกไปก่อนจะจับที่มือของตัวเองที่ใช้ผลักอีกคน คิ้วหนาขมวดมุ่นด้วยความรู้สึกว่าเขาทำรุนแรงไปหรือเปล่า

 

          “ไม่…นายทำถูกแล้ว” โนอาร์ว่าก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง แม้ว่าสมองจะบอกเขาทำถูกแล้วแต่ทำไมหัวใจกลับนึกถึงแต่เสียงร้องไห้ของอีกคน เสียงด่าของอีกคนกันนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โอ๊ยยยยย คะแนนติดลบไปแล้วค่ะอิคุณโนอาร์!!!! เรื่องราวอาจจะรวบรัดไปหน่อยนะคะเพราะเวิ่นเวอร์มาหลายตอนแล้ว ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

 

___จางบิวตี้__

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
จะว่าโนอาห์ก็ไม่ได้นะ ก็ไม่รู้นี่ว่าเป็นหมอก คิดว่าเป็นฟ้า ก็เท่ากับยังมีใจยึดมั่นกับหมอกอยู่

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 2

( Zen x Fah )



 

          คืนนี้ฟ้ามาไนต์คลับอีกครั้ง ร่างบางมานั่งโดดเดี่ยวอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มโดยภาษาจีนมาดื่มทันที
         

          "ดรายมาตินี่แก้ว" บาร์เทนเนอร์พยักหน้ารับก่อนจะส่งแก้วเครื่องดื่มให้กับร่างบาง ฟ้าสอดส่องสายตามองหาใครอีกคนที่เขามองหาอยู่หลายวัน ฟ้าไม่เข้าใจว่าเขากำลังเป็นบ้าอะไร ผู้ชายคนเดียว เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงทำเขาเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอ


          "ขอโทษนะครับนั่งด้วยได้มั้ยครับ" เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้ฟ้าหันไปมอง ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีดำดูดีไม่น้อยในความคิดของฟ้ากำลังส่งยิ้มหวานมาที่เขา


          "เชิญครับ" สิ้นเสียงหวาน ร่างสูงก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆฟ้าทันทีก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเนอร์

 

          "คุณเป็นคนต่างชาติ?" ร่างสูงถามฟ้าเป็นภาษาอังกฤษ

         

          "ใช่ครับ คนไทย" ฟ้าตอบพร้อมกับกระดกเครื่องดื่มจนหมดแก้ว

           "ผมหวังเก้อครับ" ร่างสูงแนะนำตัว

          "ฟ้าครับ" ฟ้าแนะนำตัวกลับอย่างมีมารยาท ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงเล่นหูเล่นตาอย่างสนใจคนตรงหน้าไปแล้วเพราะอีกคนก็ดูดีไม่น้อยแต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์ทำแบบนั้นจริงๆ

 

          "คุณดูเหงาๆนะ" หวังเก้อว่าพร้อมยิ้มมุมปากนิดๆ

 

          "ผมดูเป็นแบบนั้นเหรอ?" ฟ้าเลิกคิ้วถามกลับ

 

          "ใช่...คุณดูเหมือนกำลังรอใครบางคน" ฟ้าหัวเราะนิดๆทันทีกับคำพูดของหวังเก้อ หมอนี่เป็นหมอดูหรือไง เดาแม่นไปแล้ว แต่ไม่ทันที่ฟ้าจะได้สนทนาอะไรกับอีกคนต่อตากลมที่กรีดด้วยอายไลน์เนอร์จนเฉี่ยวคมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่เขากำลังรออยู่ที่ฟอลว์เต้น...เซน!! ว่าแล้วร่างบางก็วางแก้วแล้วลุกขึ้นทันที

 

          "คุณจะไปไหน" เก้อหวังถามอย่างงงๆ

 

          "ใช่...ผมกำลังรอใครบางคนอยู่อย่างที่คุณว่านั่นแหละ" ว่าแล้วฟ้าก็เดินเข้าไปที่ฟอลว์ทันที เซนที่กำลังยืนอยู่เหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่เมื่อมีมือบางมาจับไหล่ให้เขาหันไปร่างสูงก็หันตามทันที เซนกระตุกยิ้มทันทีที่คนที่เข้ามาหาเขาคือคนที่เขาอยากเจอพอดี...หลังจากวันนั้นที่เจออีกคนที่ไนต์คลับ เซนก็งานยุ่งจนไม่มีเวลาหยุด อย่ว่าแต่หยุดเลย เวลาหายใจยังยากแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าขาวใสมีเสน่ห์ของอีกคนก็ยังตราตรึงอยู่ในหัวเขาและเสียดายไม่น้อยแต่วันนั้นไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อกันไว้ทำให้วันนี้เขากลับมาที่นี่อีก เพื่อหวังว่าจะเจออีกคน

 

          "ไม่คิดว่า..." ไม่ทันที่เซนจะพูดจบริมฝีปากบางก็ประกบลงมาทันที เซนยกยิ้มมุมปากก่อนจะจูบกลับไปทันที มือบางที่จับไหล่หนาอยู่เปลี่ยนมาโอบคออีกคนทันที ลิ้นหนาเกี่ยวพันกับลิ้นดล็กอย่างร้อนแรงอย่างไม่สนใจคนรอบข้างซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องปกติที่จะได้เห็นในไนต์คลับแบบนี้
 

          "ใจร้อนชะมัด" เซนว่าหลังจากถอนจูบกับอีกคน
 

          "คงงั้น" ฟ้าเชิดปากใส่อีกคน
 

          "อยากร้อนกว่านี้มั้ยล่ะ" เซนกระซิบถามข้างหูบาง ฟ้าหน้าร้อนผ่าวกับน้ำเสียงที่แสดงถึงความต้องการของอีกคน
 

          "ถ้าตอบว่าอยากล่ะ" ฟ้าช้อนสายตาขึ้นมาสบตากับอีกคนอย่างไม่เกรงกลัว เซนกระตุกยิ้มอีกครั้งก่อนจะประกบจูบอีกคนอีกครั้งและร้อนแรงไม่แพ้ครั้งแรก...สองร่างกอดก่ายกันเข้ามาในห้องหรู ริมฝีปากทั้งสองยังไม่ละออกห่างกันเลยแม้แต่น้อย มือหนาค่อยๆถอดเสื้อผ้าของอีกคนออกในขณะที่ร่างบางเองก็ปลดกระดุมเสื้อของอีกคนออกเช่นกัน


ตุบ
ร่างสองร่างพากันทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ เซนละจูบออกจากฟ้าก่อนจะสบตากับอีกคน
 

          "คนขี้ยั่ว" เซนพูดกับฟ้ายิ้มๆ ฟ้ายกยิ้มเช่นกันพร้อมกับไล้นิ้วมือไปที่แผงอกแกร่งและกล้ามหน้าท้องของอีกคน
 

          "แล้วชอบมั้ย?" เซนไม่ตอบแต่กลับยกยิ้ม ก่อนที่ปากหนาจะซุกไซ้ที่ซอกคอขาว ฟ้าเชิดหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสของอีกคนกว่าจะรู้ตัวอีกทีร่างสองร่างก็เปลือยเปล่า นิ้วเรียวสอดเข้าไปในช่องทางของอีกทางเพื่อเบิกทางจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้วสามนิ้วตามลำดับ
 

          "อ๊ะ...อ๊า..." ฟ้าร้องครางเมื่อนิ้วของอีกสะกิดโดนจุดภายใน เซนยกยิ้มอย่างพึ่งพอใจก่อนจะถอนนิ้วออกแล้วใช้ปากฉีกถุงยางอนามัยก่อนจะสวมเข้ากับแก่นกายที่เริ่มขยายตัว ก่อนจะค่อยๆสอดแก่นกายเข้าไปในช่องทางของอีกคนทันที
 

          "อื้อ...." ฟ้าร้องครางออกมาพร้อมกับมือบางที่จิกเข้ากับต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของอีกคนเพื่อระบายความเสียวซ่าน เซนแช่ตัวเพื่อให้ช่องทางคุ้นชินก่อนจะเริ่มขยับเข้าออก
 

          "อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า...ซี้ดดด...อ๊า" เสียงหวานครางกระเส่าไม่ขาดปากพร้อมกับสะโพกบางที่แอ่นรับสัมผัสของอีกคนอย่างเต็มใจ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของฟ้าแต่เขากล้าบอกได้เลยว่าครั้งนี้ดีกว่าครั้งไหนๆ
 

          "อื้มมมม" เซนก็อดไม่ได้ที่จะครางในลำคออย่างพึงพอใจในช่องทางที่คับแน่นของอีกคน ร่างสูงกระแทกตัวอย่างแรงจนเตียงสั่นครอนแต่นัานก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของคนทั้งคู่ลดลงเลย
 

          "อ๊ะ" ฟ้าสะดุ้งเมื่ออีกคนจับขาของเขาเกี่ยวเอวก่อนจะอุ้มร่างบางในขณะที่ร่างกายยังสอดใส่กันอยู่ ทุกย่างก้าวเดินแก่นกายใหญ่ก็เสียดสีกับช่องทางของอีกคนจนฟ้าซี๊ดปากด้วยคสามเสียวซ่าน
 

          "ต่อนะ" เซนกระซิบข้างหูบางเสียงพร่าพร้อมกนะแทกตัวใส่อีกครั้งในขณะที่แผ่นหลังบางเสียดสีกับกำแพงห้องไปมา การร่วมรักในท่ายืนสร้างความเสียดซ่านให้กับฟ้าไม่น้อย ร่างบางโอบคออีกคนแน่นก่อนจะกัดลงที่ไหล่หนาระบายความเสียวซ่าน สะโพกสอบขยับเข้าออกอย่างรุนแรงจนในที่สุดก็ปลดปล่อยออกมา
 

          "อ๊า!!" ฟ้าหอบหนักทันทีที่ปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องของอีกคน ใบหน้าใสซบลงที่ไหล่หนาด้วยความเหน็ดเหนื่อย
 

          "เหนื่อยแล้วหรือไง" เซนถามขึ้น ฟ้าช้อนสายตาขึ้นมามองอีกคน
 

          "เหนื่อย" เซนหัวเราะเบาๆกับคำตอบของอีกคน
 

          "แต่ผมยังไม่เหนื่อย" ฟ้าเบิกตากว้างกับคำพูดของอีกคนแต่ไม่ทันได้ทักท้วงร่างสูงก็พาร่างบางมาที่โต๊ะหน้ากระจกแล้วจับร่างบางให้ยืนหันหลังให้ก่อนจะสวมถุงยางอนามัยอันใหม่แล้วสอดแก่นกายเข้าไปอีกครั้ง
 

          "อ๊า!!" ฟ้าร้องครางทันทีที่อีกคนสอดใส่เข้ามา
 

          "ใบหน้าคุณร้อนแรงเป็นบ้า" เซนว่าข้างหูบางก่อนจะขบกัดเบาๆ ฟ้ามองใบหน้าตัวเองในกระจกก็อดหน้าร้อนผ่าวไม่ได้ นี่เขาจริงเหรอ...ให้ตายเถอะ ดาราหนังโป๊ยังต้องอาย
 

          "อื้อ...ขยับเร็วสิ" ฟ้าว่าอย่างขัดใจเมื่ออีกคนเอาแต่แกล้งขยับเข้าออกช้าๆแต่เน้นๆ
 

          "วอร์มก่อนไง" เซนว่าอย่างขำๆที่ได้แกล้งอีกคน
 

          "อื้ออ...ไม่เอาแบบนี้" ฟ้าส่ายหน้าไปมา
 

          "งั้นแบบนี้เป็นไง" สิ้นเสียงทุ้มสะโพกหนาก็ขยับเข้าออกแรงและรัวจนฟ้าร้องครางไม่ขาดปาก เสียงครวญครางของคนทั้งคู่ดังทั่วทุกซอกทุกมุมของห้องหรู ไม่ว่าจะเป็นที่พื้นพรม บนโซฟา ริมระเบียงหรือกลับมาจบที่บนเตียงนอนอีกครั้ง กว่าพายุอารมณ์จะจบลงก็ปาไปตี3...แสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาทำให้ฟ้าค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ร่างบางนิ่วหน้าไปนิดเพราะเมื่อขยับตัวก็รู้สึกเจ็บช่วงล่าง ตากลมสอดส่องมองไปรอบห้องก็อดหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นร่องรอยเสื้อผ้าของเขาและอีกคนที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง ไหนจะเศษซากถุงยางที่อีกคนถอดทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ
 

          "ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงทุ้มถามขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวบนเอวหนึ่งผืน ฟ้ามองที่แผงอกแกร่งที่มีรอยแดงๆซึ่งน่าจะเป็นฝีมือเขานี่แหละ
 

          "อื้ม...จะไปไหนอ่ะ" ฟ้าถามเมื่ออีกคนกำลังแต่งตัว
 

          ทำงานน่ะ มีประชุมตอนบ่าย" เซนตอบพร้อมกับติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบหรูไปด้วย ฟ้ายากจะถามว่าอีกคนทำงานอะไรแต่มันจะดูละลาบละล้วงไปหรือเปล่าในเมื่อเขาทั้งคู่พึ่งรู้จักกัน เอ่อ...พึ่งรู้จักกันแต่ได้กันแล้วอ่ะ
   

          "ผมสั่งอาหารเช้าไว้ให้คุณแล้ว อย่าลืมกินล่ะ" ฟ้าพยักหน้ารับ เซนทำท่าจะเดินออกจากห้องไปแต่ฟ้าก็เรียกอีกคนไว้ก่อน
 

          "เดี๋ยวสิ" เซนหันกลับมาพร้อมเลิกคิ้วถาม
 

          "เอ่อ...เราจะยังเจอกันอีกใช่มั้ย?" ฟ้าอยากจะตบปากตัวเองแรงๆที่ถามอะไรบ้าๆออกไป เขาไม่รู้ว่าอีกคนคิดยังไงกับเรื่องเมื่อรืนแต่สำหรับเขา...เขาไม่อยากให้มันเป็นแค่วันไนต์สแตน เซนยกยิ้มกับคำตอบของอีกคนก่อนจะเดินเข้ามาหาร่างบางบนเตียวก่อนจะ...


จุ๊บ
จูบปากอีกคนเบาๆแล้วผละออก
 

          "เจอสิ...สำหรับคุณไม่ใช่วันไนต์สแตนหรอก" ฟ้ายิ้มออกมาทันที เซนเองก็ยิ้มเช่นกันก่อนจะบอกลาอีกคนเพื่อออกไปทำงาน ฟ้าอาบน้ำแล้วถือวิสาสะเอาเสื้อเชิ้ตอีกคนมาใส่แล้วออกมากินข้าวที่อีกคนสั่งไว้ให่ด้วยอารมณ์เบิกบานแต่เช้า...ให้ตายสิ เขาหยุดยิ้มไม่ได้เลย!!ทางด้านของเซนก็อารมณ์ดีมาประชุมจนพนักงานคนอื่นๆงุนงงไม่น้อย เซนไม่ใช่คนชอบยิ้มแต่วันนี้กลับมีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากหนา
 

          "มีอะไรดีๆหรือเปล่าคะ?" เลขาส่วนตัวของเซนถามขึ้น
 

          "เปล่าหรอกๆ เออ...วันนี้ผมจะเข้าไปหาคุณโนอาร์นะ" เซนว่า...พอเลิกงานเซนก็ไปหาโนอาร์เพื่อเอาเอกสารไปให้อีกคนเซนทันที
 

          "นั่นใครน่ะ" เซนถามคนใช้ในบ้านพร้อมมองไปที่ร่างบางที่กำลังนั่งทำหน้าหงิกหน้างออยู่กับผู้เป็นนาย
   

          "อ้อ...คุณฟ้าค่ะ คนที่นายใหญ่ส่งมาให้ดูแลนายน้อย เห็นว่ากันว่าคือคู่แต่งงานด้วยนะคะ" เซนพยักหน้ารับกับข้อมูลที่ได้รับรู้ อีกคนหน้าตาน่ารักไม่น้อยแม้จะเป็นผู้ชาย เขาก็ไม่รู้หรอกว่านายน้อยของเขาว่าไงแต่จากที่สังเกตที่มุมปากหนาที่แอบมีรอยยิ้มเล็กๆแล้ว นายน้อยคงแพ้หลุมพรางของนายใหญ่เข้าสักวัน
 

          ขอโทษครับ ผมมาหานายน้อยน่ะครับ" เซนทักทายหมอกด้วยภาษาไทยที่เขาเองก็พอพูดได้ หมอกหันมามองอีกคน
 

          "เอ่อ...ครับ" หมอกพยักหน้ารับก่อนจะถือหนังสือที่เหมือนว่าเอามาอ่านให้อีกคนฟังเดินออกไป ทำให้เหลือเพียงโนอาร์กับเซนเท่านั้น
 

          "นายดูอารมณ์ดีนะครับ" เซนแกล้งแซว ทำให้โนอาร์ชักสีหน้าทันที
 

          "อารมณ์ดีอะไร เปล่าสักหน่อย" เซนยกยิ้มในความปากแข็งของนายน้อย
 

          "ว่าแต่มีอะไร" โนอาร์ถามขึ้น
 

          "มีเอกสารที่ต้องเซนครับ ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งมากเมื่อไหร่นายจะกลับมาทำครับ ผมหัวหมถนจนไม่ทัเวลาหายใจแล้ว"
 

          "กูตาบอดนี่" โนอาร์ว่าพลางยักไหล่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
 

          "แต่นายควรผ่าตัดนะครับ"
 

          "บอกว่าไม่ไง กูจะไม่ทำในสิ่งที่เขาต้องการแน่ๆ" โนอาร์ยืนยันคำเดิม
 

          "แล้วนายไม่อยากเห็นหน้าคุณฟ้าเหรอครับ" โนอาร์ชะงักทันทีกับคำถามของคนสนิท
 

          "กู..."
 

          "นายไม่ต้องตอบผมหรอกครับ เก็บไว้ตอบตัวเองพอ...ถ้านายเซนเสร็จแล้วผมขอตัวก่อนนะครับไม่อยากขัดความสุขนายแล้ว"เซนว่าพร้อมเก็บแฟ้ม
 

          "เออไปไหนก็ไป...เอ้ย! ขัดความสุขบ้าไรวะ!" โนอาร์อุทานออกมา เซนไม่ตอบแต่กลับยิ้มๆก่อนจะบอกลานายแล้วเดินออกไปก่อนจะยกยิ้มอีกครั้งเมื่อมีข้อความหนึ่งเข้ามาในโทรศัพท์
 

          ‘เมื่อไหร่จะกลับอ่ะ ผมรอกินข้าวกับคุณอยู่นะ...ฟ้า’























































ร้อนแรงได้แค่นี้จริงๆค่ะ 5555555 พยายามแต่งให้แรงกว่านี้แต่เราไสยไสย >__< ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ไม่ค่อยมีคนอ่านเลยเสียใจมากกกกกก T^T


___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 8

 

        หมอกกลับมาที่ห้องนอนก็กอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ความรู้สึกอ่อนแอถาโถมเข้าหาตัวเองอย่างจังกับการกระทำที่ใจร้ายของอีกคน อีกคนใจร้ายมาก ใจร้ายที่ทำกับเขาแบบนี้  เขาไม่อยากจะทนอีกแล้ว! พอร้องไห้จนพอใจหมอกก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาทั้งหมดก่อนจะเอามาใส่กระเป๋าเดินทางเขาจะโทรหาพี่ฟ้าว่าเขาไม่สามารถทำเรื่องที่อีกคนสั่งได้จริงๆ ให้เขาไปทำอะไรก็ได้แต่ไม่ใช่ต้องดูแลผู้ชายคนนี้! ผู้ชายเย็นชา ใจร้าย ไร้หัวใจคนนี้!...หมอกตื่นมาแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวจะบอกลาป้านงค์ว่าเขาจะกลับไทย แม้ว่าจะกะทันหันไปหน่อยแต่เขาก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อจริงๆ



          “ว่าไงนะคะคุณฟ้าจะกลับ” ป้านงค์อุทานด้วยความตกใจทันทีเมื่อหมอกบอกว่าเขากำลังจะกลับไทยวันนี้ ซึ่งเขาพึ่งจองคั๋วเครื่องบินเมื่อคืนไฟต์ตอนบ่ายโมงของวันนี้



          “ใช่ครับ” หมอกตอบเสียงแผ่ว



          “เกิดอะไรขึ้นกันคะ หรือว่า...อ๊ะ ข้อศอกคุณฟ้าเป็นแผลนี่คะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ บอกป้ามาเถอะนะคะ” ป้านงค์ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยยิ่งเห็นรอยแผลถลอกเป็นทางที่แขนของอีกคนก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วง



          “ผม...ผมยอมแพ้แล้วครับป้านงค์” หมอกตอบพร้อมกับสบตาหญิงวัยกลางคนตากลมสั่นระริกพร้อมมีน้ำตาหน่วงคลออยู่ข้างใน



          “ผมไม่สามารถอยู่ดูแลหรือแม้แต่โน้มน้าวจิตใจคนที่มีจิตใจเย็นชาหยาบกระด้างคนนี้ได้อีกแล้วล่ะครับ” หมอกว่าต่อพร้อมกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาที่กำลังเอ่อคลอจะไหลลงมา



          “เฮ้อ...ป้าเข้าใจคุณฟ้าค่ะเพราะพอจะรู้ว่านายน้อยเป็นยังไงแต่ว่า...นายน้อยเธอเป็นคนน่าสงสารนะคะ” ป้านงค์ว่าพร้อมมองหน้าหมอกด้วยใบหน้าเศร้าหมอก



          “ที่นายน้อยตาบอดก็เพราะศัตรูของนายใหญ่อีกทั้งนอกจากจะสูญเสียการมองเห็นแล้วนายน้อยยัง...ยังเสียคุณผู้หญิงไปในเวลาเดียวกันด้วยค่ะ” หมอกชะงักไปทันทีกับคำบอกเล่าของหญิงวัยกลางคน อีกคนเสียแม่ในวันที่ตัวเองก็ตาบอดด้วยงั้นเหรอ? หมอกรู้สึกใจกระตุกเพราะเรื่องราวของอีกคนคลับคล้ายคลับคลากับเรื่องราวของเขาเสียเหลือเกินอีกคนไม่ได้มีโอกาสมองหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้ายเหมือนเขาแต่เขายังดีกว่าที่ยังได้กอดแม่ ได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่เป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่อีกคน...ไม่แม้แต่ได้สัมผัสมัน



          “ป้าไม่ได้พูดเพื่อรั้งคุณฟ้านะคะแต่ป้าอยากเล่าเรื่องนายน้อยในมุมของป้าให้คุณฟ้าฟังก็เท่านั้น นายน้อยเธอเป็นคนอ่อนโยน เป็นคนดีแต่หลังจากที่เสียคุณผู้หญิงและสูญเสียการมองเห็นไปนายน้อยเธอก็มีอารมณ์รุนแรงแบบนี้แหละค่ะ อีกทั้งเธอยังฝังใจโกรธนายใหญ่ที่เธอคิดว่าเป็นสาเหตุทำให้คุณผู้หญิงตายและทำให้เธอต้องตาบอดแบบนี้” หมอกพอจะประติดประต่อเรื่องราวได้ขึ้นมา แบบนี้ก็ไม่แปลกใช่มั้ยถ้าอีกคนจะเกลียดเขาเพราะเขามาในนามของพี่ฟ้า พี่ฟ้าที่เป็นคู่แต่งงานของอีกคนที่ถูกส่งมาโดยผู้เป็นพ่อแต่...อีกคนก็ใจร้ายกับเขาเกินไป คนใจร้าย!



          “ถ้าคุณฟ้าตัดสินใจดีแล้วป้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ แต่ก่อนไปทานข้าวก่อนนะคะ ถือว่าเป็นมื้อสุดท้ายฝีมือป้าละกันนะคะ” หมอกพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามป้านงค์เข้าไปในครัวเพื่อทานข้าวฝีมืออีกคน...ทางด้านของโนอาร์วันนี้ไม่มีอีกคนเอาอาหารมาให้เขาแต่กลับเป็นป้านงค์ที่ถือถาดอาหารมาให้เขา โนอาร์ไม่ได้เปิดปากถามอะไรออกมาเพียงแค่นั่งกินข้าวไปเงียบๆเท่านั้น



          “คุณฟ้าเธอจะกลับแล้วนะคะ” ป้านงค์พูดขึ้นขณะที่ป้อนข้าวร่างสูง



          “...” ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของโนอาร์ที่หญิงวัยกลางคนก็พอดูออกว่าอีกคนกำลังฟังเธออยู่



          “ป้าไม่รู้หรอกนะคะว่านายน้อยไปทำใจร้ายอะไรใส่คุณฟ้า แต่ป้าเห็นที่แขนคุณฟ้ามีแผลถลอกอยู่ด้วย” ป้านงค์ว่าต่อพร้อมกับตักข้าวไปที่ปากของอีกคนแต่โนอาร์กลับชะงักไม่ยอมอ้าปากรับ



          “ถึงคุณฟ้าจะเป็นคนที่นายใหญ่ส่งมาเพื่อดูแลนายน้อยแต่นายน้อยไม่เห็นจะต้องเกลียดต้องไม่ชอบใจคุณฟ้าเธอเลยนี่คะ เธอเป็นคนดี เป็นคนน่ารักมากเลยนะคะ และป้าก็เห็นว่าเธอดูแลนายน้อยดีมาก” โนอาร์คิดตามที่อีกคนพูดก็อดยอมรับไม่ได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอีกคนดูแลเขาดีจริงๆ ไม่ว่าเขาจะกลั่นแกล้ง จะเอาแต่ใจแค่ไหนแต่อีกคนก็อดทน อาจจะมีเถียงบ้างอะไรบ้างแต่อีกคนก็ยังคงดูแลไม่ได้เอาเรื่องผ่าตัดมาเป็นประเด็น



          “ใครว่าผมเกลียด” โนอาร์พูดขึ้น ป้านงค์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจทันที



          “งั้นแปลว่าไม่ได้เกลียดเหรอคะ?” โนอาร์นิ่งไปสักครู่พร้อมกับในสมองที่ทบทวนความผิดของตัวเองเมื่อคืนนี้ เสียงร้องไห้ ถ้อยคำตัดพ้อของอีกคนมันทำให้เขารู้สึกไม่ดีจนนอนไม่หลับ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่ที่รู้คือเขา...ไม่อยากให้อีกคนไป



          “พาผมลงไปข้างล่างที”...หลังจากที่กินข้าวฝีมือของป้านงค์เสร็จหมอกก็จัดการล้างจานให้เรียบร้อยซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของเอยู่แล้วแม้ว่าป้านงค์จะบอกให้เขาไม่ต้องทำก็ตามแต่มันเป็นความเคยชิน ไม่ทำไม่ได้เสียแล้ว



          “อ๊ะ” หมอกชะงักทันทีที่หันหลังกลับไปเจออีกคนที่ไม่คิดว่าจะเจอกำลังนั่งรถเข็นอยู่ตรงหน้าเขา  หมอกมองอีกคนนิ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะทำท่าจะเดินเลี่ยงออกมา



          “ได้ยินว่านายจะกลับ” เสียงทุ้มถามขึ้นทำให้หมอกชะงักทันที



          “ใช่...คุณคงพอใจ” หมอกตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว



          “ใครบอกว่าฉันพอใจ” หมอกขมวดคิ้วทันทีกับคำพูดของอีกคน



          “ก็คุณเกลียดผม คุณไม่ชอบใจที่ผมมาอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นการที่ผมไปๆซะคุณคงพอใจไม่ใช่หรือไง” หมอกว่าด้วยความโกรธ



          “...” ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากอีกคน หมอกถอนหายใจออกมาก่อนจะบอกลาอีกคนส่งท้าย



          “ลาก่อน...หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก” ว่าแล้วร่างบางก็ทำท่าจะเดินไปหยิบกระเป๋าที่เอามาวางไว้ที่ห้องแขก



          “ขอโทษ” หมอกชะงักอีกครั้งกับคำพูดที่ออกมาจากปากองอีกคนแม้ว่าจะแผ่วเบาแต่เขากลับได้ยินมันอย่างชัดเจน



          “ว่าไงนะ”



          “ขอโทษ...ขอโทษที่ทำไม่ดีกับนาย ที่ทำให้นายเจ็บตัว” หมอกมองที่แขนตัวเองที่เป็นรอยแผลยาวจากการที่ล้มขูดกับพื้นเมื่อวาน



          “ไม่เป็นหรอกครับ ถ้าสิ่งที่คุณจะพูดมีแค่นี้ งั้นผม...”



          “อย่าไป” โนอาร์พูดขัดขึ้นมาทันทีก่อนที่ร่างบางจะพูดจบประโยค หมอกเบิกตากว้างอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำๆนี้จากปากของอีกคน



          “คะ...คุณ”



          “ฉันอาจจะจิตใจหยาบกระด้างแบบที่นายว่า ฉันอาจจะใจร้ายไม่มีหัวใจอย่างที่นายว่าแต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากมีหัวใจ” โนอาร์ว่าออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองที่หมอกสามารถสังเกตได้



          “ฉันโกรธพ่อ โกรธที่ทำให้แม่ตาย ทำให้ฉันต้องมาตาบอดเพราะไอ้ความบ้าอำนาจอันล้นฟ้า เงินทองมากมายนั่น ฉันถึงไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมองเห็น ไม่อยากทำในสิ่งที่พ่อต้องการ ไม่อยากให้เขามาบงการชีวิตของฉันได้อีก” โนอาร์ว่าต่อซึ่งเป็นความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขา เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากเล่าให้อีกคนฟัง



          “แต่คุณก็ไม่ควรทำร้ายตัวเองแบบนี้ การที่คุณไม่ผ่าตัดมันไม่ใช่แค่พ่อคุณที่ทุกข์ใจแต่หลายๆคนรอบตัวของคุณก็ทุกข์ใจไปด้วย อีกทั้งแม่ของคุณ...ผมเชื่อว่าถ้าท่านเห็นคุณตอนนี้ ท่านคงจะเสียใจมากและคงจะร้องไห้ที่ลูกชายของท่านมีสภาพแบบนี้” หมอกว่าก่อนจะเดินเข้ามาหาอีกคนซึ่งโนอาร์ก็รับรู้ได้ดีจากการได้ยิน



          “ฉัน...” โนอาร์ขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกัดปาก



          “คุณไม่ต้องฟังผมก็ได้แต่ผมอยากให้คุณคิดเรื่องนี้อีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อพ่อคุณแต่เพื่อตัวคุณต่างหาก” โนอาร์นิ่งกับคำพูดของอีกคน เมื่อเห็นว่าอีกคนนิ่งไปหมอกก็เดินออกมาเพราะคิดว่าคำพูดของเขาคงจะโน้มน้าวจิตใจอะไรอีกคนไม่ได้ แม้ว่าหลังจากที่ฟังเรื่องราวของอีกคนจะทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบ ความโกรธเมื่อวานมลายหายไปหมดแต่เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่นี่ต่อเพราะเขาคิดว่าถ้าอีกคนยังคิดแบบนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางโน้มน้าวจิตใจอีกคนได้แน่ๆ



          “งั้นอยู่กับฉันได้มั้ย” เสียงทุ้มพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งเป็นไปด้วยความอ้อนวอนซึ่งหมอกสัมผัสได้



          “ผมงั้นเหรอ?”



          “ใช่...อยู่ทำให้จิตใจหยาบกระด้างของฉันอบอุ่นขึ้น นายทำมันได้หรือเปล่า”อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายของหมอกสั่นไหวขึ้นมาทันทีกับคำถามองอีกคน  ตากลมมองไปที่ใบหน้าหล่อที่มันไม่ได้มีความล้อเล่นแต่อย่างใดมันกลับเต็มไปด้วยความจริงจัง



          “ถ้าผมทำได้ล่ะคุณจะว่าไง” โนอาร์กระตุกยิ้มมุมปากซึ่งไม่ใช่การแสยะยิ้มหรือกรีดยิ้มร้ายแบบที่หมอกเคยเห็นแต่เป็นรอยยิ้มเล็กๆจากมุมปากของอีกคน



          “นายก็จะได้มัน...ได้หัวใจที่อบอุ่นของฉัน”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โอ๊ยยยยยย อิคุณโนอาร์!!! กว่าจะคิดได้ก็เกือบสายไปแล้วมั้ยล่ะ! 55555 อย่าพึ่งงงนะคะว่าเขาไปรักกันตอนไหน ยังค่ะยังแค่ต่างฝ่ายต่างเปิดใจให้กันเฉยๆ อิโนอาร์เองก็เริ่มละทิ้งศักดิ์ศรีไรงี้ เปิดใจให้น้องหมอก(ที่เข้าใจว่าเป็นฟ้า) ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ใครรอฉากหวานๆ อิๆ >___<
ปล อ่านแล้วช่วยคอมเม้นบ้างอะไรบ้างก็ได้ค่าาาา คือไม่สนุกยังไงคนเขียนจะได้รู้ ฮืออออออออออ

___จางบิวตี้____

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด