<<คดีรักนักดูดวง>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<คดีรักนักดูดวง>>  (อ่าน 137663 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 5 [2/11/59]
«ตอบ #60 เมื่อ03-11-2016 16:41:33 »

อู้หู!

สนุกมาก!

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 5 [2/11/59]
«ตอบ #61 เมื่อ04-11-2016 00:33:33 »

 :katai1:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #62 เมื่อ05-11-2016 13:00:49 »


                                                                     คดีรักนักดูดวง

                                                                         บทที่ 6


                 กว่าจะกลับมาถึงห้องแถวของพาลีก็เย็นจนเกือบค่ำ สุดเขตแจ้งเหตุกับสมบัติเจ้านายของเขาเรื่องอุบัติเหตุและจัดแจงเรื่อง

ประกันรถในขณะที่พาลียังยืนอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถยนต์ของพาลีถูกนำไปอู่ที่สุดเขตไว้ใจเพื่อตรวจสอบสภาพรถว่ามีการตัดสาย

เบรกจริงหรือไม่ หลังจากนั้นสุดเขตจึงพาเขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทั้งที่พาลีบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรสุดเขตก็ยังไม่ยอม


               “ไม่ได้เป็นเหี้ยอะไร หน้าผากมึงกระแทกกับกระจกรถดังโครมขนาดนั้น ถ้าความโง่ของมึงรั่วออกมาเป็นมลพิษต่อสิ่ง

แวดล้อมจะทำยังไง”


                ในที่สุดพาลีก็ต้องยอมให้สุดเขตลากไปโรงพยาบาลและกลับมาพร้อมยาคลายกล้ามเนื้อ เขาคิดมากเรื่องที่สุดเขตบอกว่า

เขาถูกปองร้ายจนใบหน้ามีแต่ความเคร่งเครียด สุดเขตมองอย่างนึกเห็นใจ


               “ทำใจดีๆโว้ย อย่าเพิ่งตาย”


              “สัส ไปไกลๆเลยไอ้เขต”


               พาลีอยากจะประเคนฝ่าเท้าให้สุดเขตเสียเหลือเกินแต่เขาก็ยกเท้าไม่ไหว ความปวดเมื่อยร้าวระบมมาเยือนจนแทบจะขยับ

ตัวไม่ได้แม้จะไม่ได้มีบาดแผลสักแห่งนอกจากรอยเขียวช้ำที่หน้าผาก


             “เป็นไงบ้างวะ”


             สุดเขตถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยอย่างไม่รู้ตัว เห็นสภาพที่พาลีขยับตัวช้าๆพร้อมกับนิ่วหน้าก็พอจะเดาอาการได้ว่าตอนนี้พาลีคง

ขัดยอกไปหมดทั้งร่าง


             “ปวดไปหมดจนไมกล้าขยับ กูก็ไม่ได้มีแผลตรงไหนทำไมแม่งระบมแบบนี้วะ”


             “แรงกระแทกของรถตอนชนไงมึง ไม่มีแผลแต่ก็ทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ นี่ดีนะว่าเป็นกูขับ ถ้าเป็นมึงขับแบบเงอะงะแล้วสาย

เบรกถูกตัดจริง ป่านนี้ไปเฝ้ายมบาลแล้ว”


              พาลีไม่กล้าเถียง เขาเห็นด้วยกับสุดเขตในเรื่องนี้เพราะพาลีขับรถยนต์ไม่แข็ง สุดเขตรู้ได้จากตอนที่พาลีขับรถไปโรงพักใน

ช่วงเช้า


               “รีบไปกินยาแล้วนอนพักดีกว่าว่ะไอ้ลี แต่ว่ามึงจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนไหวไหมวะสภาพแบบนี้”


              พาลีกะพริบตาปริบๆขณะประเมินร่างกายตนเอง เขายันกายลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้อย่างยากลำบาก เสียงโอดโอยลอดออกมา

เบาๆจนสุดเขตนึกสงสาร


               “ทำท่าแบบนี้พรุ่งนี้ก็ขึ้นไปไม่ถึงหรอก มานี่ ขี่หลังกูไปดีกว่า”


              พาลีชะงักเมื่อสุดเขตก้าวมายืนอยู่ตรงหน้า เขารีบละล่ำละลักปฏิเสธ


              “เฮ้ย ไม่เป็นไร กูว่ากู่ค่อยๆเดินขึ้นไปเองก็ได้ เราไม่ใช่เด็กกันแล้ว”


              “มึงอย่าหยิ่งหน่อยเลย”


              สุดเขตส่ายหน้า


             “แค่กูช่วยเหลือมึงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรสักหน่อย ขึ้นมาขี่หลังกูเร็วๆเข้าไอ้ผู้ใหญ่ลี”


             พูดจบสุดเขตก็หันหลังให้พาลีและย่อตัวลง พาลีมองแผ่นหลังกว้างก่อนจะตัดสินใจโน้มตัวลงไปบนแผ่นหลังนั้นพร้อมกับใช้

แขนสองข้างโอบคล้องเกี่ยวกันรอบคอสุดเขต  รอจนสุดเขตลุกขึ้นยืนจึงค่อยใช้ขาเกี่ยวไปรอบเอวสุดเขตกันตก ส่วนสุดเขตก็ใช้มือยึด

ต้นขาของพาลีไว้และพาเดินขึ้นบันได

               พาลีปล่อยให้สุดเขตพาขึ้นชั้นบนของตัวตึกไปอย่างเงียบๆ เขาได้แต่ลอบมองท้ายทอยตลอดจนหลังหูของสุดเขตแล้วยิ้ม

โดยไม่ให้สุดเขตเห็น เหตุการณ์วันนี้ทำให้พาลีรู้ว่าในช่วงเวลาคับขันที่เขายังตกใจอยู่สุดเขตกลับควบคุมอารมณ์และช่วยแก้ไข

สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงความมีน้ำใจที่สุดเขตมีให้เขา

                 บางทีพาลีอาจจะต้องมองสุดเขตในอีกแง่ดีขึ้นโดยไม่ปล่อยให้อคติมาบังตา


               “เอ้า ถึงแล้ว เห็นตัวผอมๆเสือกหนักชิบหาย”

   
                สุดเขตวางพาลีลงใกล้เตียงนอน


               “ไปอาบน้ำแล้วแดกยาแก้ปวดซะจะได้นอน อ้าว แล้วทำไมหน้าแดงอีกแล้วล่ะ หรือว่าคราวนี้เป็นไข้”


              “กูไม่ได้เป็นไข้”


               พาลีก้มหน้าพูดเสียงเบาจนสุดเขตส่งเสียงดุ


             “อย่าดื้อสิวะ มานี่ซิ”


                สุดเขตดึงแขนพาลีที่ทำท่าจะหนีเขาให้เข้ามาใกล้ เขาหลังยกมืออังหน้าผากพาลีและพูดราวกับตนเองเป็นผู้ใหญ่กำลังดุ

เด็กดื้อ


              “ตัวมึงรุมๆเหมือนเป็นไข้จริงๆด้วย อย่าอาบน้ำเลยเดี๋ยวอาการหนัก”


             “ไม่อาบได้ไง ทั้งเหงื่อทั้งกลิ่นควันรถ เหม็นตายห่ากูนอนไม่ลงหรอก”


             พาลีพยายามค้านแต่กลับถูกฝ่ามือหนาของสุดเขตผลักให้เสียหลักไปบนเตียง


             “กูเช็ดตัวให้มึงเอง”


             สุดเขตตัดสินใจในขณะที่พาลีตาเหลือก


            “เหี้ย ไม่ได้โว้ย มึงจะเช็ดตัวให้กูเนี่ยนะ”


             “ทำไมจะไม่ได้ เกิดสะดิ้งขึ้นมาอีกล่ะมึง อยู่เฉยๆอย่าลีลา”


            สุดเขตเท้าเอวมองอย่างระอา


             “ไหน ผ้าขนหนูเช็ดตัวมึงมีหรือเปล่า บอกกูมาว่าเก็บอยู่ตรงไหน”


              พาลีมองสุดเขตตาคว่ำแต่สุดเขตมองกลับด้วยสายตาคาดคั้นเขาจึงยอมบอก สุดเขตเดินไปค้นในตู้เสื้อผ้าตามที่พาลีบอก

ก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำด้านนอกและกลับเข้ามาพร้อมกะละมังใส่น้ำ


               “กูเช็ดเองก็ได้”


               พยายามแย่งผ้าขนหนูผืนเล็กที่สุดเขตบิดน้ำจนหมาดแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดเขตส่ายมือหนีจนพาลีต้องยอมแพ้


               “ถอดเสื้อกับกางเกงออกสิวะ ยิ่งช้าไข้ยิ่งสูงนะมึง”


               สุดเขตบังคับ เขาเอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของพาลีออกอย่างรวดเร็วและคาดคั้นให้พาลีถอดมันออกรวมทั้งกางเกงจน

เหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาวตัวเดียวที่ยังปกปิดสายตา สุดเขตใช้ผ้าขนหนูเช็ดใบหน้า ลำคอ แขนขาและลำตัวให้พาลีในขณะที่พาลีนั่ง

เงียบมองการกระทำของสุดเขตที่ทำให้กำแพงในหัวใจของเขาแทบจะพังทลายไปหมดสิ้น


               “เฮ้ย”


               พาลีสะดุ้งจากภวังค์ เขารีบหยุดมือของพาลีที่ทำท่าเหมือนจะยกขอบกางเกงในของเขาขึ้น


               “ทำเหี้ยอะไรไอ้เขต”


               “อ้าว ก็เช็ดจู๋มึงไง”


               สุดเขตเลิกคิ้วหน้าตาใสซื่อ


               “ไม่เช็ดมันหมักหมมเชื้อราแดกตายห่า”


               “เอาผ้ามานี่ ตรงนี้กูเช็ดของกูเอง”


               พาลีหน้าแดงก่ำโดยไม่ใช่เพราะไข้แน่ๆ เลือดลมพากันตีวนอยู่บนใบหน้าจนรู้สึกได้ชัดเจน เขาดึงผ้าขนหนูจากมือของสุด

เขตแล้วล้วงเข้าไปเช็ดเจ้าน้องชายลวกๆก่อนจะโยนผ้าใส่กะละมังน้ำ


               “สาแก่ใจมึงหรือยังไอ้เหี้ยเขต”


               สุดเขตหัวเราะเบาๆ เขานึกเอ็นดูใบหน้าง้ำที่มองเขาตาคว่ำ ดูออกว่าอีกฝ่ายคงขัดเขินที่ต้องมาโป๊ต่อหน้าเขา ทั้งที่สุดเขต

ชินเสียแล้วจากการที่ต้องอยู่กับเพื่อนผู้ชายสมัยเรียนตำรวจ


               “มึงจะเช็ดหน้าอีกรอบไหมวะเดี๋ยวกูบิดน้ำให้”


               “เช็ดพ่องง” พาลีด่า


               “มีมึงคนเดียวในโลกมั้งที่เอาผ้าที่เช็ดจู๋แล้วกลับมาเช็ดหน้า ไป มึงเอาน้ำไปทิ้งเดี๋ยวนี้”


               สุดเขตหัวเราะลั่นอย่างห้ามไม่อยู่ เขายกกะละมังน้ำออกไปนอกห้อง พาลีรีบฉวยโอกาสนั้นรีบหาชุดนอนจากตู้เสื้อผ้ามาใส่

จากนั้นเขาก็รีบกลับมาคลุมโปงหนีหน้าสุดเขตอยู่บนเตียง


               ได้ยินเสียงสุดเขตเปิดประตูกลับเข้ามาแต่พาลีก็ยังนอนนิ่งอยู่ในโปงจนกระทั่งสุดเขตดึงผ้าห่มออก


               “อย่าเพิ่งนอน ลุกมาแดกยา”


               “กูไม่ชอบกินยา”


               “จะแดกดีๆหรือต้องให้กูลงมือดัดขามึงอีกสักท่อนหือไอ้ลี”


               นั่นแหละพาลีจึงได้ยอมลุกขึ้นมารับยากับแก้วน้ำที่สุดเขตส่งให้ เขากลืนยาลงคอเหมือนเด็กที่ถูกผู้ปกครองบังคับให้กินยา

ขม ดื่มน้ำหมดแก้วเขาก็กระแทกแก้วคืนใส่มือสุดเขต


               “กูแดกแล้ว มึงก็ไปไกลๆตีนกูเหอะ กูจะนอน”


               พูดจบพาลีก็หนีหน้าสุดเขตด้วยการล้มตัวลงนอนซุกกายในผ้าห่มอีกครั้ง เขาหลับตาหนีจึงไม่ทันได้เห็นความห่วงใยที่ฉาย

อยู่ในดวงตาคมของสุดเขตจนกระทั่งพาลีหลับไปด้วยฤทธิ์ยา




               หลับไปนานเท่าใดพาลีก็ไม่รู้ รู้แต่เขาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดของห้องเพราะเสียงตุ๊บเหมือนเสียงของหนักๆร่วงหล่น

พาลีปรับสายหน้าให้ชินกับความมืดแล้วจึงผงกหัวขึ้นมองไปรอบๆห้อง เขาเห็นสุดเขตกำลังนอนหน้านิ่วอยู่บนพื้นห้องข้างๆโซฟานั่นเอง

               แอบยิ้มอยู่ในความมืด พาลีลุกจากเตียงด้วยความสบายตัวมากขึ้น อาการปวดระบมบรรเทาไปบ้างแล้วเมื่อเขาลุกจากเตียง

ก้าวเดินไปหาสุดเขต


               “นอนยังไงให้ร่วงได้วะ”


               สุดเขตแยกเขี้ยวใส่พาลีที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่พลางดันกายขึ้นนั่ง


               “โซฟาแม่งเท่าแมวดิ้นตาย มึงลองมานอนดูบ้างไหมล่ะ”


               พาลีเห็นใจสุดเขตขึ้นมาครามครัน เขานึกถึงน้ำใจที่สุดเขตช่วยเขาเมื่อหัวค่ำจึงเอ่ยปากออกไปอย่างลืมตัว


               “ไปนอนบนเตียงกับกูก็ได้”


               “พูดแล้วห้ามคืนคำนะมึง”


               สุดเขตทำตาโต เขารีบคว้าหมอนและผ้าห่มไปที่เตียงของพาลีอย่างรวดเร็วราวกับกลัวพาลีจะเปลี่ยนใจ ส่วนพาลีนั้นเมื่อรู้สึก

ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็นึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองนักที่เป็นฝ่ายเปิดโอกาสไปสู่ความใกล้ชิดที่เขาเองเป็นคนตั้งกำแพงไว้ แต่ในเมื่อพูดไป

แล้วพาลีก็ไม่อยากเสียคำพูดจึงทำได้แค่เดินกลับไปล้มตัวลงนอนยังฝั่งที่เขานอนอยู่และยกเท้าเขี่ยสุดเขตเบาๆ


               “นอนคนละฝั่ง ห้ามล้ำแดน”


               “โอ๊ย ไอ้คนหวงถิ่น มึงไม่เยี่ยวรดแสดงความเป็นเจ้าของเสียเลยล่ะวะ นอนได้แล้วกูง่วง”


               สุดเขตหันมาต่อว่าไม่จริงจังก่อนจะหลับตาลง พาลีเม้มปากแน่นก่อนจะตะแคงกายหันหลังให้สุดเขตและหลับตาลงตาม




มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2016 13:06:34 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #63 เมื่อ05-11-2016 13:07:55 »

ต่อกันตรงนี้...



                ติณณ์พ่นบุหรี่เป็นควันยาวขณะนั่งพิงหัวเตียง ร่างกายของเขามีเพียงผ้าเช็ดตัวพันปกปิดท่อนล่างไว้หลวมๆกลางเตียงกว้าง

ที่มีร่องรอยสมรภูมิรบเต็มไปหมด เขาใช้เท้าเขี่ยซากถุงยางอนามัยใช้แล้วสามชิ้นที่กระจายอยู่บนเตียงลงพื้นอย่างไม่ยี่หระรวมทั้งหลอด

เจลใสที่ถูกบีบจนหมดหลอดด้วย

               เขาหันไปตามเสียงเปิดปิดของประตูห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนของคอนโดมิเนียมชานเมือง ชายคนหนึ่งรูปร่างเตี้ยกว่าเขา

เล็กน้อย ใบหน้าบ่งบอกว่าอยู่ในวัยสี่สิบเศษแต่ดูแลตนเองดีเสมอจนไม่มีไขมันส่วนเกินบนร่างกาย ชายคนนี้ปรากฏอยู่ในเนื้อหาข่าวทั้ง

แวดวงบันเทิงและแวดวงธุรกิจ เขาเป็นเจ้าของค่ายบันเทิงที่ติณณ์สังกัดอยู่


               “สบายตัวไหมครับคุณกิจ”


               ติณณ์ยิ้มเอาใจเมื่อเจ้าของนามศุภกิจเดินมาถึงเตียงนอน แต่รอยยิ้มของติณณ์ก็ต้องหุบลงเมื่อศุภกิจคว้าบุหรี่จากปากของ

เขาขยี้ลงไปบนที่เขี่ยบุหรี่


               “บอกแล้วไงว่าอย่าสูบบุหรี่ใกล้ๆพี่”


               ศุภกิจเอ็ดเสียงเข้ม


               “ควันบุหรี่มันจะติดตัวพี่ไป ถ้ามีคนสงสัยจะลำบาก”


               “ครับพี่กิจ ผมขอโทษ”


               ติณณ์กัดฟันฝืนยิ้มและเอ่ยออกไป เขานึกเคืองที่อีกฝ่ายขัดขวางความสำราญแต่ก็ต้องอดทนเพราะศุภกิจยังมีประโยชน์กับ

เขา ติณณ์ดึงศุภกิจให้นั่งลงมาเคียงข้างและโอบกอดเอาใจ

               ติณณ์ลักลอบมีความสัมพันธ์กับศุภกิจมานานแล้ว ตั้งแต่เขายังเป็นผู้เข้าแข่งขันรายการเรียลลิตี้ที่ศุภกิจเป็นเจ้าของ มีอยู่ครั้ง

หนึ่งที่ทีมงานพาผู้เข้าแข่งขันไปพบกับเจ้าของค่าย และติณณ์ก็ได้สบตากับศุภกิจครั้งแรกในวันนั้น คนอย่างติณณ์มีหรือจะดูไม่ออกถึง

ความนัยของสายตาที่สบกัน

                ไม่นานหลังจากนั้นก็มีรถยนต์คันหนึ่งมารับติณณ์จากสถานที่ถ่ายทำรายการไปในยามดึก เขาถูกพาตัวมาที่คอนโดมิเนียม

แห่งนี้ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นสถานที่ที่ศุภกิจมีไว้ใช้สำหรับ “คลายเครียด”

               ข้อเสนอถูกยื่นให้แต่ติณณ์ก็ไม่ปฏิเสธโอกาสตรงหน้า แม้ว่าเขาจะเป็นเสือผู้หญิงแต่เมื่อต้องกระทำกับผู้ชายด้วยกันก็ไม่ใช่

เรื่องยากสำหรับติณณ์ที่จะเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ศุภกิจทำตามสัญญาคือดันให้ติณณ์ก้าวขึ้นไปถึงรองแชมป์และผลักดันงานละครให้เล่น

เป็นพระเอกในเวลาต่อมาแลกเปลี่ยนกับการที่เขาต้องมาช่วยให้ศุภกิจ “คลายเครียด” บ้างตามที่ศุภกิจสั่ง


               “ที่ถูกเรียกตัวไปสอบสอนเป็นไงบ้าง”


               ศุภกิจไต่ถามอย่างอารมณ์ดีขึ้นเมื่อหนุ่มใต้สังกัดเอาอกเอาใจ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ติณณ์ก็สบถออกมา


               “ใครจะไปนึกว่ามันจะเกิดเรื่อง”


               ติณณ์พูดอย่างหงุดหงิด


               “ผมมีอะไรกับยายคุณนายนั่นเพราะเขาเปย์หนักก็เลยเอาใจหน่อย แต่กำลังจะหาทางเลิกเพราะเบื่อปากผู้หญิง เรื่องมันก็มา

เกิดขึ้นเสียก่อน”


               “ผู้หญิงน่ะน่าเบื่อ”


               ศุภกิจกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงดูแคลน


               “รักใครชอบใครก็ทุ่มเทให้เขาหมด โดยไม่สนใจว่าคนที่ตัวเองทุ่มให้จะสนใจหรือเปล่า”


               “แต่พี่กิจก็ใช้คุณสมบัตินี้หากินกับผู้หญิงอยู่นะครับ”


               ติณณ์เอ่ยสัพยอกอย่างรู้ทันพลางใช้มือของเขาลูบไล้ร่างกายอีกฝ่ายอย่างรู้ใจว่าชอบให้สัมผัสจุดไหน


               “ช่วยไม่ได้ ก็อยากโง่กันเอง แล้วยิ่งมาเจอคนอย่างนายด้วยแล้ว น่าสงสารผู้หญิงพวกนั้นชะมัด”


               สงสารตัวเองด้วยเถอะ


               ติณณ์รำพึงอยู่ในใจ เขามองศุภกิจด้วยความสมเพช


               ชีวิตของติณณ์จะไม่หยุดอยู่แค่ค่ายละครกระจอกๆแค่นี้แน่ ความฝันในวงการบันเทิงยังอีกยาวไกลและติณณ์พร้อมจะทำทุก

อย่างให้เขาได้ไปถึงฝั่งฝัน ตอนนี้เขาจะใช้ศุภกิจเป็นสะพานให้เขาเดินข้ามและเมื่อไหร่ที่ติณณ์ก้าวถึงอีกฝั่งเขาจะไม่หันกลับมามอง

สะพานอย่างศุภกิจอีกต่อไป

               แต่ตอนนี้ศุภกิจยังมีความจำเป็นอยู่ ติณณ์จำต้องรักษาความสัมพันธ์ของเขากับศุภกิจนี้ไว้จนกว่าจะถึงวันนั้น


                “เพราะแบบนี้แหละผมถึงได้เบื่อผู้หญิง”


               ติณณ์ยิ้มเก๋อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่ทำให้แฟนคลับพากันพร่ำเพ้อ เขาผลักให้ศุภกิจล้มลงไปบนเตียงกว้างและซุกหน้า

ลงกับซอกคอ


               “พอได้มารู้จักพี่กิจและคลายเครียดให้พี่แล้ว ผมชักไม่อยากกลับไปหาผู้หญิงซะแล้วสิ”


               “ปากหวานนะติณณ์ อยากได้อะไรอีกล่ะ”


               ติณณ์ลอบยิ้ม เขาใช้มือนวดเฟ้นไปตามร่างกายของศุภกิจจนอีกฝ่ายดิ้นพล่าน


               “พรุ่งนี้จะปิดกล้องละครแล้ว ผมขอบทพระเอกแนวตบจูบอีกสักเรื่องได้ไหมครับพี่กิจ เรื่องแนวนี้ชาวบ้านชอบ”


               “อือ น่าสนใจนะ เดี๋ยวจะหาเรื่องมาให้ ติณณ์ พี่อยากอีกแล้ว...แต่ถุงยางล่ะ พี่ไม่อยากให้มีร่องรอย...”


               “ไม่ต้องกลัวครับพี่ ผมมีอีกกล่อง และผมจะไม่ทำให้ใครจับได้เด็ดขาดว่าพี่เป็นเมียผม”


               ก็แค่นี้

               ง่ายเหมือนปอกกล้วย

               ติณณ์ก็แค่ใช้ร่างกายที่เป็นสมบัติชิ้นงามให้เป็นประโยชน์ ใครๆก็อยากไปถึงจุดหมายและเขาจะทำทุกทางอย่างเช่นตอนนี้ที่

ติณณ์กำลังทำอยู่ เมื่อเขาเริ่มต้นบทราคะบทใหม่กับศุภกิจอีกครั้ง



                   TBC

            :m31: :m31:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #64 เมื่อ05-11-2016 13:28:18 »

ตอนพาลีกับสุดเขตอยู่ด้วยกันน่ารักดี

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #65 เมื่อ05-11-2016 13:43:19 »

ติณณ์ก็คงเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยแต่ไม่น่าจะใช่ฆาตกร :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #66 เมื่อ05-11-2016 13:54:07 »

เอิ่มตินนนน

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #67 เมื่อ05-11-2016 16:18:28 »

คนแบบติณณ์นี่... โอ้โหแฮะ

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #68 เมื่อ05-11-2016 17:43:26 »

 ไอ้นักร้องนี่มันน่าโดนแม่ยกแก้แค้นด้วยการตัดเจี้ยวจริงๆ

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #69 เมื่อ05-11-2016 17:43:43 »

ไอ้คุณกิจนี้แหล่ะ มี%เป็นคนว่าจ้างฆ่ามาก  เดา 555 //สุดเขตกับพาลีเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ แต่เถียงกันอย่างกับเด็ก มีความน่าร๊ากกกกกกก ขำความปากจัดสุดเขต แหย่ได้แหย่ดี แหย่ให้เขาเหวี่ยง ทำตาคว่ำใส่ละชอบนักนะ 55555555 พาลีก็น่ารักอ่อนๆ มีแอบเขินเขาด้วยอะ วุ้ยๆ กำแพงจะพังตอนไหน ยิ่งได้ไปนอนด้วยกันนะ ทีนี้ละ อื้อออออออ กำแพงพังแน่ๆ 55555 ว่าแต่ใครจะกลิ้งไปกอดใคร คอยดูเถอะ 555555 //ชอบบบค่ะชอบๆ สงสัยแม่งทุกคน 55555 ตามติดต่อไปค่ะ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
« ตอบ #69 เมื่อ: 05-11-2016 17:43:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #70 เมื่อ05-11-2016 17:56:37 »

พาลีเหมือนจะดื้อแต่ก็ยอมสุดเขตตลอด

ดูเหมือนเกือบทุกคนในเรื่องนี้จะลักลอบมีความสัมพันธ์ซ้ำซ้อนกันทั้งนั้นเลย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #71 เมื่อ05-11-2016 18:27:47 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #72 เมื่อ05-11-2016 19:28:04 »

กำลังมันเลย ใครนะที่เป็นผู้ร้าย :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #73 เมื่อ05-11-2016 19:31:09 »

โหห นิยายน้ำดี สนุกกกกเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ thanapontigy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #74 เมื่อ05-11-2016 19:54:27 »

Dark นิดๆ สนุกดีค่ะ
:hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #75 เมื่อ05-11-2016 20:24:27 »

 :m20: สุดเขต อยากเช็ดมากกกกนะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 6 [5/11/59]
«ตอบ #76 เมื่อ05-11-2016 23:40:43 »

คือดี~

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #77 เมื่อ06-11-2016 21:08:23 »



                                                                       คดีรักนักดูดวง

                                                                           บทที่ 7


               ลืมตาตื่นมาในตอนเช้าตามปกติแต่ในเช้าวันนี้พาลีกลับมองเห็นใบหน้าของสุดเขตเป็นสิ่งแรกเขาถึงกับสะดุ้งโหยง จน

กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเองนั่นแหละที่อนุญาตให้สุดเขตมานอนบนเตียงเดียวกันเมื่อยามดึก พาลีรีบเลื่อนสายตาลงมาจึงเห็นเพิ่มเติมอีก

ว่าลำตัวของเขาอยู่ห่างจากสุดเขตที่นอนตะแคงข้างหันหน้าชนกันกับเขาเพียงแค่ไม่ถึงสองคืบ

               มันไม่ได้ใกล้จนถึงกับอยู่ในอ้อมกอด แต่มันก็ไม่ไกลเกินกว่าจะทำให้หัวใจของพาลีเต้นรัวเหมือนตอนฝึกกระโดดหอสมัย

เรียนรด. ยกเว้นเพื่อนสนิทอย่างซีซั่นและบอมเมื่อตอนยังเด็กเขาก็ไม่เคยนอนร่วมเตียงเดียวกับใครอีก พาลีแปลกใจที่ความรู้สึกมันช่าง

แตกต่าง สุดเขตไม่เหมือนบรรดาเพื่อนสนิทของเขาแม้แต่นิดเดียว

               มองเห็นเปลือกตาของสุดเขตขยับยิกๆพาลีรีบยันกายขึ้นนั่งและขยับหนีให้ระยะห่างกว้างจากเดิมในขณะที่สุดเขตยกแขนบิด

ขี้เกียจก่อนจะลืมตาเต็มที่และหันมามองเขาพร้อมคำถาม


               “ฟื้นแล้วเหรอมึง”


               “กูยังไม่ตาย สัส”


               นั่นคือคำทักทายแรกของวันนี้ระหว่างพาลีและสุดเขต


               “ก็เห็นนอนเป็นตายจนกูเกือบจะโทรเรียกรถฉุกเฉิน”


               สุดเขตหยอกเย้าตั้งแต่เช้า เขาลุกขึ้นนั่งยืดเส้นยืดสายจากนั้นก็ลงมายืนข้างเตียงและเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการวิดพื้น

อย่างเช่นที่ทำเป็นประจำ พาลีมองอย่างนึกทึ่งเขาไม่แปลกใจเลยที่กล้ามเนื้อหน้าอกและต้นแขนของสุดเขตแน่นจนแทบปริขนาดนั้น


               “มองอะไร อย่ามัวแต่มอง มึงน่ะหัดออกกำลังกายบ้างเหอะ อย่ามัวแต่บ้าอ่านการ์ตูนหมกตัวอยู่ในห้อง หัดออกไปตากแดด

รับวิตามินอย่างคนอื่นเขาบ้าง ดูมึงสิทั้งผอมทั้งซีดเหมือนผีจีนแล้ว”


               “กูไม่ใช่ต้นไม้ กูไม่ต้องสังเคราะห์แสงด้วยแดด”


               พาลีไม่ชอบออกกำลังกาย เท่าที่เรียนรด.หรือนักศึกษาวิชาทหารเมื่อตอนมัธยมปลายพาลีก็ขยาดแล้ว ดีที่เขารับประทาน

อาหารไม่หนักมากนักรูปร่างจึงไม่ใช่คนเจ้าเนื้อ แต่ที่สุดเขตบอกว่าผอมแห้งนี่ก็ออกจะเกินไปหน่อย


               “นั่นแหละ แต่มึงก็ต้องฝึกออกกำลังกายไว้บ้างมันดีต่อสุขภาพ แล้วอย่าลืมว่าช่วงนี้มึงยังไม่ปลอดภัย ความคล่องตัวในการ

หลบหลีกก็จำเป็นนะมึง มานี่เลย”


               สุดเขตลุกจากท่าวิดพื้นและเอื้อมมือไปดึงแขนพาลีให้ลงมาจากเตียง


               “กูจะเป็นพี่เลี้ยงให้เอง ไหนมึงลองวิดพื้นให้กูดูหน่อย”


               พาลีจนต่อเหตุผลที่สุดเขตยกขึ้นมาอ้าง เขาคว่ำหน้าไปกับพื้นห้องและวิดพื้นอย่างคนไม่มีแรงได้แค่สองถึงสามครั้งกำลัง

แขนก็หมดต้องทิ้งตัวลงไปนอนหน้าคว่ำอยู่บนพื้นโดยมีสุดเขตยืนเท้าเองมองอย่างระอา


               “แค่ไม่กี่ทีก็หมดแรงแล้วไอ้ลีเอ๊ย ขนาดแขนมึงยังวางไม่ถูกตำแหน่งเลย ตอนม.ปลายมึงก็เรียนรด.ใม่ใช่หรือไง”


               “มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบใช้แรง”


               พาลีอดหันไปเถียงไม่ได้


               “แล้วหลังจากสอบรด.ผ่านกูก็ไม่ได้ออกกำลังอีกเลย แล้วมึงจะให้กูใช้เป็นแต่แรงควายเหมือนมึงได้ยังไง”


               สุดเขตถอนหายใจ เขาย่อตัวลงไปคุกเข่าและใช้ท่อนแขนของเขาคร่อมไปบนแผ่นหลังและจับแขนของพาลีให้ตั้งตรงถูก

ตำแหน่ง


               “อะ คราวนี้มึงลองออกแรงวิดพื้นอีกรอบ ท่านี้เลยนะ”


               พาลีออกแรงโดยให้กำลังอยู่ที่หัวไหล่ แขนของเขาได้มุมกับลำตัวดีขึ้นจนใช้แรงน้อยกว่าเก่าทำให้เขาวิดพื้นได้มากขึ้นจน

ได้เกือบครบสิบพาลีก็หมดแรงทิ้งกายลงไปกับพื้น และเมื่อพลิกกายกลับมาพาลีเพิ่งเห็นว่าสุดเขตยังคงย่อตัวอยู่ใกล้จบสบตาในระยะ

ประชิดหัวใจของพาลีก็พลันเต้นแรงทันที


               “เอ่อ ออกแรงจนเหงื่อออก กูไปอาบน้ำดีกว่า”


               พาลีหลบสายตา เขาผลักอกของสุดเขตให้พ้นพอที่เขาจะรีบเบี่ยงกายแล้วลุกหนีก้าวพรวดเปิดประตูห้องออกไปยังห้องน้ำ

ด้านนอกอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้สุดเขตมองตามด้วยใบหน้าอ่อนโยนอย่างที่น้อยคนนักจะได้เห็น

               บอกตามตรงว่าคืนที่ผ่านมาเขานอนหลับไม่สนิทนัก อาจเป็นเพราะกังวลในอาการของพาลี สุดเขตได้แต่นอนหลับๆตื่นๆขึ้น

มาดูว่าพาลียังมีไข้อยู่หรือไม่ และครั้งหนึ่งที่เขาตื่นมาก็พบว่าพาลีมาซุกตัวคุดคู้อยู่ชิดแผงอกจนสุดเขตอดไม่ได้ที่จะโอบแขนไปรอบลำ

ตัวนั้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นโดยที่พาลีไม่รู้สึกตัว

               สุดเขตตั้งข้อสงสัยกับความรู้สึกตัวเอง เขาไม่ชอบหน้านิ่งๆของพาลีเพราะมันดูหยิ่งยะโส ทำให้สุดเขตไม่เคยคิดจะทำความ

รู้จักสนิทสนมพาลีมากไปกว่าเพื่อนร่วมห้องที่นั่งห่างๆกันคนหนึ่งเท่านั้น หากแต่เมื่อได้มาใกล้ชิดกันเพราะเหตุร้ายจึงทำให้สุดเขตรู้ว่า

เขาเข้าใจผิด พาลีไม่ได้หยิ่งเพียงแต่เป็นคนคิดถี่ถ้วนในทุกๆกรณีต่างหากพาลีจึงไม่ค่อยพูดจา และเหตุนี้ทำให้พาลีรู้สึกผิดไม่น้อย

                บางทีสุดเขตก็ควรจะมองพาลีในแง่มุมใหม่โดยไม่ใช้อคติมาบดบังตัวตนที่แท้จริงของพาลี






               วันนี้ในตู้เย็นมาวัตถุดิบมากพอที่พาลีจะทำกับข้าวง่ายๆให้สุดเขตและเขาได้กินกันมากกว่าไข่เจียวอย่างเช่นเมื่อวานนี้ ฝีมือ

ทำอาหารของพาลีนั้นดีพอจะทำให้สุดเขตแปลกใจ


               “เมื่อวานมึงแกล้งทำไข่ไหม้ใช่ไหมไอ้ลี”


               พอลิ้มชิมรสแล้วสุดเขตก็พอจะเดาได้ เขาจึงเงยหน้าถามอย่างคาดคั้นแต่พาลีก็ทำเพียงก้มหน้ากลั้นยิ้มขำเท่านั้น


               “แสบนักนะมึง”


               พาลีต้องฝึกทำอาหารเองตั้งแต่มารดาเสียชีวิตเพราะอยู่กับบิดาเพียงสองคนจนจบมัธยมปลาย ฝีมือด้านอาหารแม้จะไม่ได้

อร่อยเหมือนเชฟชั้นเลิศแต่ก็ทำได้ดีพอที่จะไม่น้อยหน้าใคร สุดเขตจึงกินอาหารมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อยผิดจากเมื่อวาน


               “เออ ไอ้ลี เมื่อวานนี้มึงดูดวงให้กูบอกว่าจะเจอคู่ วันนี้มึงดูให้กูอีกรอบได้ไหม กูอยากรู้ว่าคู่ของกูเป็นยังไงบ้าง”


               พาลีสำลักอาหารจนคว้าแก้วน้ำมาดื่มตามแทบไม่ทัน เขาไอจนหน้าแดงก่ำ


               “มึงจะดูทำไมบ่อยๆ” พาลีพยายามแย้ง


               “ดูไปมันก็ไม่ได้บอกชัดเจนหรอกว่าเนื้อคู่มึงจะเป็นใครกันแน่”


               “เอ๊า ไอ้นี่ เวลาลูกค้ามึงเขาอยากดูมึงห้ามเขาแบบนี้หรือเปล่าวะ น่านะไอ้ลี กูอยากมีแฟนโว้ย กูเหงา”


               หายใจขัดขึ้นมาทันทีเมื่อปะทะกับสายตาอยากรู้อยากเห็น พาลีนึกไม่ออกว่าเขาจะหาข้ออ้างอะไรในการปฏิเสธ


               “บอกวันเดือนปีเกิดมึงมา”


               สุดเขตยิ้มแป้น เขารีบบอกออกไปทันที พาลีนั่งนิ่งคำนวณการตัวเลขไปครู่หนึ่งจึงได้เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามกด

ให้เรียบที่สุด


               “ดวงเนื้อคู่ของมึงเหมาะจะเป็นคนที่เกิดในดาวสี่หรือดาวพฤหัส เป็นคนสุขุมเยือกเย็นไม่ค่อยแสดงออก เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ

รักสงบ ยุติธรรมแต่ก็รักในศิลปะ ส่วนใหญ่จะมีอาชีพเป็นนักการเมือง ครูอาจารย์ หมอ ทนายความ และเอ่อ นักพยากรณ์”


               ปลายประโยคเสียงเบาหวิวจนแทบจะกลืนหายไปไหนลำคอ พาลีกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมกันกับที่สุดเขตกะพริบตาปริบๆ

เมื่อคุณสมบัติทั้งหมดที่พาลีเอ่ยมานั้นมันช่างเข้าเค้ากับตัวคนพูดเสียเหลือเกิน

               ส่วนพาลีนั้นพูดจบก็ได้แต่เม้มปากแน่น ด้วยความเป็นนักโหราพยากรณ์ทำให้เขาไม่อาจเอ่ยคำเท็จ และพื้นดวงของสุดเขต

เจ้าเรือนปัตนิก็กำลังมีดาวศุภเคราะห์กุมอยู่อันหมายถึงเกณฑ์คู่ครองอย่างไม่ต้องสงสัย


               “เหมือนมึงเลยเนอะ”


               สุดเขตพูดเสียงเบา เขาสบตากับดวงตาสับสนของพาลี


               “มึงก็อย่าไปยึดกับคำทำนายให้มาก” พาลีตอบกลับเสียงเบาพอๆกัน “ยังไงมันก็เป็นแค่สถิติ มันอาจจะมีผิดพลาดกันบ้าง”


               “แล้ว เอ่อ ไอ้ลี มึงเกิดวันอะไรวะ”


               พาลีสะดุ้งในใจ เขาได้แต่ใคร่ครวญคำตอบว่าจะตอบอะไรที่ไม่ให้เข้าตัว แต่ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็แผดดัง

ขัดจังหวะจนพาลีแทบจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารีบรับมันอย่างรวดเร็ว


               “ครับพี่ทิพย์”


               พาลีดีใจที่น้ำทิพย์โทรมาในเวลานี้ไม่ว่าธุระนั้นจะคืออะไรก็แล้วแต่ มันเปิดโอกาสให้เขาหลบจากสายตาคมคู่นั้นและทำที

เป็นสนใจกับน้ำทิพย์ทั้งที่ตอนนี้หัวใจของพาลีเต้นรัวไปหมด


               “ลีจ๋า โทษทีนะที่ต้องกวนแต่เช้า ลีจำเรื่องที่พี่จะให้ลีไปออกรายการวาไรตี้ได้ไหม”


               น้ำทิพย์รัวคำพูดมาราวกับกลัวว่าพาลีจะปฏิเสธ


               “รายการเขาแจ้งมาให้ไปพรุ่งนี้นะจ๊ะ”


               “พรุ่งนี้หรือครับ ทำไมเร็วจัง ไหนพี่ทิพย์บอกว่าอีกหลายวันไง”


               พาลีถามอย่างแปลกใจ


               “คิวเลื่อนกะทันหันน่ะ อีตาดาราที่ชื่อติณณ์น่ะสิ ตอนนี้มีข่าวเรื่องแฟนคลับตัวแม่ถูกยิงตายรายการก็เลยขอคิวด่วนเพื่อจะถาม

เรื่องนี้ด้วย”


               หัวคิ้วของพาลีย่นเข้าหากัน เขานึกถึงท่าทางเย่อหยิ่งที่เห็นบนโรงพักแล้วความหนักใจก็เข้ามาเยือน แต่เพราะรับปากกับน้ำ

ทิพย์แล้วพาลีจึงจำเป็นต้องรับคำ เขานิ่งฟังรายละเอียดเรื่องเวลาและสถานที่จากน้ำทิพย์อีกครู่หนึ่งจึงได้วางสาย สุดเขตที่ฟังบท

สนทนาข้างเดียวจากพาลีจึงได้รีบเอ่ยถาม


               “มีอะไรด่วนเหรอ”


               “ต้องไปถ่ายรายการกับนักร้องชื่อติณณ์พรุ่งนี้ รายการคงอยากเล่นข่าวที่อยู่ในกระแสล่ะมั้ง”


               สุดเขตพยักหน้ารับรู้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นโหมดจริงจังเมื่อเป็นเรื่องงาน


               “กูจะไปกับมึงเอง แต่จะไปสภาพปกติอาจจะไม่ดี เอางี้ เดี๋ยวกูแปลงโฉมเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่เสียหน่อยป้องกันเอาไว้ก่อน

ไอ้ลี ต่อไปนี้กูจะกลายเป็นคนขับรถลูกกระจ๊อกของมึงชื่อ ชื่ออะไรดีวะ ชื่อไข่ก็แล้วกัน มึงต้องเรียกกูว่าไข่ ห้ามหลุดเรียกชื่อจริงกูนะ”


               พาลีนิ่งฟังอย่างตั้งใจ แต่พอสุดเขตเอ่ยชื่อใหม่ของเขาให้พาลีฟัง พาลีก็หลุดหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่


               “คนเหี้ยอะไรชื่อไข่ ชื่อคนตายเพราะๆมีตั้งเยอะเสือกไม่เลือก”


               “เอาน่า ชื่อนี้แหละเท่ดีออก เหมาะกับคนขับรถหล่อๆอย่างกู”


               สุดเขตไม่รอช้า เขาโทรศัพท์สั่งการให้จ่าสุชาตินำแฟ้มข้อมูลของพาลีพร้อมทั้งอุปกรณ์ปลอมตัวของเขามาให้ที่ห้องแถว

ของพาลีและโทรศัพท์บอกให้คนขับรถที่บ้านนำรถมาให้ที่นี่เช่นกันเพราะรถของพาลีอยู่ในอู่ ในช่วงสายของวันจ่าสุชาติก็นำสิ่งที่สุดเขต

ต้องการมาให้ก่อน หลังจากนั้นไม่นานรถญี่ปุ่นรุ่นหรูคันโตสีดำเป็นมันปลาบก็มาจอดหน้าห้องแถวของพาลี เจ้าของห้องได้แต่อ้าปาก

ค้างเมื่อมองรถคันนั้น


               “พอดีพ่อกูเขารวย แต่กูน่ะเป็นตำรวจจนๆ ยืมพ่อมาใช้ก่อนว่ะให้สมศักดิ์ศรีหมอดูระดับประเทศอย่างมึงหน่อย”


               สุดเขตยักคิ้วแผลบ พาลีนึกขึ้นได้ว่าฐานะทางบ้านของสุดเขตมีอันจะกินถือว่าเข้าขั้นเศรษฐีในละแวกนั้น และเมื่อได้ข้อมูล

ของติณณ์มาแล้วสุดเขตก็ใช้เวลาศึกษาตลอดทั้งวัน เขาให้พาลีศึกษาข้อมูลของติณณ์ด้วย


               “ไม่ต้องเครียดมาก”


               สุดเขตเตือนก่อนจะบังคับให้พาลีเข้านอนแต่หัวค่ำ


               “ยิ่งเครียดก็ยิ่งมีพิรุธ มึงเป็นตัวของตัวเองก็พอ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของกูเอง”



มีต่ออีกนิด...



ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #78 เมื่อ06-11-2016 21:12:42 »



ต่อกันตรงนี้...




                พาลีมาถึงสตูดิโอก่อนเวลานัดเล็กน้อย รถยนต์ที่เขานั่งมาเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถอย่างนิ่มนวลด้วยฝีมือการขับของ

คนขับรถที่ชื่อว่าไข่ ซึ่งเมื่อพาลีเห็นนายไข่ครั้งแรกในตอนเช้านั้นเขาถึงกับทึ่งในการปลอมตัวของสุดเขต

               สุดเขตไล่พาลีให้ลงมารอที่ชั้นล่างในขณะที่เขาทำการแปลงโฉม ใช้เวลาไม่นานร่างสูงของสุดเขตก็ปรากฏที่บันไดจากชั้น

บน พาลีเบิกตากว้างเมื่อสุดเขตในวันนี้มีหนวดเครารกครึ้มผมเผ้ารุงรังกว่าเคย เขาสวมเสื้อลายสก็อตตัวเก่าและกางเกงยีนส์สีซีด มัน

ทำให้พาลีเกือบจำไม่ได้ว่านั่นคือสุดเขต


               “มองเหี้ยอะไร อ้อ มองอะไรครับคุณลี”


               นายไข่หันมาแยกเขี้ยวใส่พาลีที่เขาบังคับให้นั่งตอนหลังของรถ พาลีเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าสุดเขต


               “เหมือนพวกทวงหนี้ว่ะ”


               “งั้นเอาเงินมาให้กูไอ้ลี ประเดี๋ยวทวงเสียจริงๆหรอก ไป ลงรถได้แล้ว”


               พาลีอมยิ้มขณะลงจากรถโดยมีสุดเขตก้าวตามลงมา


               “เดี๋ยว ไอ้ลี”


               สุดเขตคว้าแขนของพาลีไว้ เขามองอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย


               “ระวังตัวให้มาก เราไม่รู้ว่าไอ้ติณณ์อะไรนี่มันจะเกี่ยวข้องกับการตายของคุณนายสมรแค่ไหน อะไรที่รู้ว่าอันตรายห้ามเสี่ยง

เข้าใจไหม”


               หัวใจของพาลีไหวรัวเมื่อรับรู้ถึงความห่วงใยนั้นได้ รอยยิ้มอ่อนโยนจึงผุดขึ้นมาส่งคืนให้สุดเขต


               “รู้แล้ว กูไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามหรอกน่า”


               ดวงตาทั้งสองคู่สบกันด้วยความเข้าใจราวกับกำแพงที่ต่างตั้งไว้ได้ถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายลงไปจนมองเห็นกันและกัน จาก

นั้นพาลีก็เป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปในสตูดิโอโดยมีสุดเขตเดินตามไปห่างๆในฐานะคนติดตาม

               เดินเข้าไปในสตูดิโอที่แสนวุ่นวายด้วยผู้คน น้ำทิพย์รออยู่แล้วเธอแนะนำพาลีให้ฝ่ายประสานงานรู้จัก พาลีถูกพาไปที่ห้อง

แต่งตัวที่สุดเขตตามเข้าไปไม่ได้ เขาได้แต่มองตามพาลีด้วยความเป็นห่วง

               พาลีเพียงแค่ถูกไล้แป้งเบาๆและทาริมฝีปากด้วยลิปกลอส ผมของเขาได้รับการแต่งทรงตามสมัยนิยม ประกอบกับเสื้อเชิ้ตสี

อ่อนเมื่อสวมสูทพอดีตัวที่ทางรายการเตรียมไว้ให้เขากลับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีท่าทางสุขุมชวนมองจนกลายเป็นที่สะดุดตา

สำหรับคนที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาใหม่ในห้องแต่งตัวพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดทักทายจากบรรดาสาวประเภทสองที่เป็นช่างแต่งตัว พาลีหัน

ขวับไปตามเสียงและเขาก็ได้สบตาเป็นครั้งแรกกับติณณ์ แขกรับเชิญในวันนี้

                นักร้องนักแสดงสุดหล่อยิ้มทักทายคนในห้องแต่งตัวอย่างคุ้นเคย เขาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ถัดจากพาลีและปล่อยให้ช่างเสริม

สวยจัดการกับทรงผมของเขา ติณณ์พูดคุยอย่างอัธยาศัยดีผิดกับที่พาลีเคยเห็นที่โรงพักราวฟ้ากับเหว


               “มาช้าไปหน่อยขอโทษนะครับ”


               ติณณ์หันไปยกมือไหว้ทักทายเจ้าของรายการที่เดินเข้าห้องแต่งตัวมาหาเขา ทั้งคู่พูดคุยกันพักใหญ่ก่อนที่ติณณ์จะหันมา

มองพาลี


               “แล้วคุณคือนี้คือ?”


               “อ้าว พี่ก็ลืมแนะนำ” เจ้าของรายการสาวใหญ่เอ่ยขึ้น


               “คนนี้ชื่อน้องลี พาลีจ้ะ เป็นหมอดูชื่อดังที่สุดและหล่อที่สุดในยุคนี้ นี่พี่เองก็อยากให้น้องลีดูดวงให้นะ ถ่ายทำเสร็จก็ว่าจะ

รบกวนน้องลีหน่อย”


               ติณณ์ถือโอกาสพิจารณาพาลีอย่างสนใจ ใบหน้าของพาลีดูนิ่งขรึมและเยือกเย็น ดวงตาเรียวรับกับคิ้วดกดำที่โก่งรับพอดีกัน

จมูกโด่งปลายมนเข้ากับริมฝีปากหยักชวนให้ค้นหา สเน่ห์บางอย่างของพาลีทำให้ติณณ์มองจนพาลีอึดอัดแต่ก็ต้องฝืนยิ้มรับการทักทาย

จากติณณ์


               “สวัสดีครับคุณพาลี ผมติณณ์ฮะ วันนี้ดูดวงผมให้ละเอียดๆเลยนะครับ ช่วงนี้ดวงแย่เหลือเกิน”


               ติณณ์ยื่นมือมาตรงหน้า พาลีชะงักไปชั่วอึดใจก่อนจะยื่นมือออกไปจับกับมือนั้นเป็นการทักทาย


               กระแสบางอย่างผ่านวูบเข้ามาในหัวจนพาลีสะดุ้งเมื่อได้สัมผัสมือกับติณณ์ มันเป็นความรู้สึกคล้ายกับวันสุดท้ายที่ได้พบสมร

ไม่มีผิด ความรู้สึกนั้นที่เรียกว่าลางสังหรณ์นั่นเอง



                                                         TBC

     มีเรื่องสั้นมาฝากกันจ้า แนวใสๆไม่ใส่เสื้อผ้า ^^
     
          อภินืหารมนตรา จันทราสะกดใจ


            :hao3: :hao3:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2016 21:21:30 โดย Belove »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #79 เมื่อ06-11-2016 21:30:11 »

มาแล้วๆๆ  หลังจากที่จะอ่านๆมาหลายวันในที่สุดก็ได้อ่านวันนี้

น้องชายลี(ญาติห่างๆญลี 555)  ช่างมีดวงที่น่ากลัวเกินเหตุมาก  คือ ลางสังหรแม่นเกิ๊น  และถ้ารอบนี้แม่นอีก  คงต้องให้ว่าที่(ผัว)เขตรดน้ำมนต์ซะแล้วววว 
ปล.เรื่องนี้อิรุงตุงนังมาก  ตั้งแต่ผัวคุณนายสมรยันติณ 
 :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2016 23:30:04 โดย yymomo »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
« ตอบ #79 เมื่อ: 06-11-2016 21:30:11 »





ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #80 เมื่อ06-11-2016 21:46:11 »

อย่าบอกนะว่านายตินจะโดนฆ่า :ling3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #81 เมื่อ06-11-2016 21:51:05 »

อ้าวถ้าพาลีจับมือติณณ์แล้วมีความรู้สึกคล้ายกับวันสุดท้ายที่ได้พบสมร

ไม่มีผิด อย่าบอกนะว่าติณณ์ก็อาจโดนฆ่าปิดปากด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #82 เมื่อ06-11-2016 22:02:05 »

 o22

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #83 เมื่อ06-11-2016 22:12:37 »

สงสัยตินจะไม่รอด

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #84 เมื่อ06-11-2016 22:21:49 »

 o13


มาต่อๆๆๆๆ

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #85 เมื่อ06-11-2016 22:30:56 »

อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับติณณ์
โดนพวกคู่ขายิงตายรึเปล่า  :hao3:

ว่าแต่ลีกับสุดเขตนี่เริ่มกิ๊กกั๊กกันแล้วรึเปล่าเนี่ย 55555 มีความน่ารักวรั๊ยยย  :hao6: :hao6:

 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #86 เมื่อ06-11-2016 22:32:46 »

เอาแล้วววววววยังไงละเนี้ย"เหมือนวันสุดท้าย+ลางสังหรณ์" ติณณ์มันจะ...???? เฮ้ยแล้วงี้ใครหว่ะ ใครๆ? จะเกิดไรขึ้น? สงสัยต่อไป //วู้ยยยยส์เนื้อคู่สุดเขต จะบอกว่าไม่เหมือนหรอก แต่มันใช่พาลีเลยล่ะ ไอ้คุณสมบัติที่กล่าวมาอ่ะ 55555 จบรายการนี้กลับไปอย่าลืมถามวันเกิดพาลีที่ค้างไว้นะ 555555555 อ้าวอะดิต่างคนเริ่มๆรู้มองกันใหม่ รู้สึกดีๆต่อกันมากขึ้น มีความเป็นห่วงเป็นใย กำแพงสั่นคลอน ใจมันสั่นหวิวๆอาร๊ายยยยยยยย ตรูเขิน >////< 555 ชอบอ่ะ ชอบ #พาลีสุดเขต รอตอนต่อไปเลยค่ะ มีความคืบหน้าคดียังไงรอตามค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #87 เมื่อ06-11-2016 22:34:22 »

 :L2: :L1: :pig4:

ลุ้นตัวโก่ง

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #88 เมื่อ07-11-2016 08:26:08 »

คงไม่ใช่ว่าติณณ์จะตายเป็นรายต่อไปหรอกนะ

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 7 [6/11/59]
«ตอบ #89 เมื่อ07-11-2016 18:38:54 »

เริ่มแล้ว เริ่มหวานละนิดหนึ่ง   นี้ยังไม่มีชื่อว่าใครฆ่านะ เหมือนตัวละครยังออกมาไม่หมด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด