ก่อนเปิดม่านครั้งที่แปด
ทำไมต้องโกหก!?
พลิกไป… พลิกมา…
…พลิกมา …พลิกไป
โอเค… ผมว่าผมนอนไม่หลับแล้วแหละ!
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงยังลืมตาอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ร่างกายมันก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากการซ้อมละครแบบโหดซะขนาดนี้ แต่กลับไม่อาจจะข่มตานอนให้หลับลงได้เลยจริงๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากการนอนผิดที่ หรือเป็นเพราะ… ไอ้รุ่นพี่หน้าโหดที่นอนอยู่อีกห้องนึงกันแน่ =_=
ผมตัดสินใจพลิกตัวอีกหนึ่งครั้ง… ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่ในห้องนอนประจำของพี่กัปตัน ที่มีกลิ่นตัวของพี่กัปตันเต็มไปหมด หมายถึง… กลิ่นตัวด้านดีน่ะนะ -..- เพราะอีกห้องใช้เอาไว้สำหรับเวลาที่พ่อแม่ของกัปตันมาพัก พี่เขาก็เลยย้ายไปนอนที่ห้องนั้นแทน เนื่องจากว่าผมค่อนข้างเกรงใจน่ะ เตียงพ่อแม่เขา ก็ต้องให้ลูกเขานอนสิถึงจะไม่น่าเกลียด … แต่ถึงจะนอนคนละห้องกัน ซึ่งมันก็ทำให้ผมสบายใจน่ะนะ แต่ทำไม… กลับทำให้ผมคิดถึงพี่กัปตันตลอดจนนอนไม่หลับเลย เอ่อ… หมายถึงว่าคิดถึงเฉยๆ นะ ไม่ใช่คิดถึงแบบ… โอ้ยยย! ช่างมันเถอะ ยิ่งพูดก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ ผมว่าผมลุกออกไปหาน้ำกินดีกว่า!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมก็ตัดสินใจลุกออกจากเตียงในทันที แล้วเดินออกไปหาน้ำดื่มในครัว โดยไม่เปิดไฟเลยแม้แต่ดวงเดียว เพราะกลัวว่าแสงจะรอดเข้าไปในห้องของพี่กัปตัน นอกจากจะไม่ปิดไฟแล้ว ยังต้องเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเจ้าของห้องตื่นด้วย เอ? บริบทแบบนี้มันคล้ายๆ กับ… พวกโจรย่องเบายังไงก็ไม่รู้นะ =_=
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เจตนาผมก็มีเพียงแค่ไม่ต้องการรบกวนพี่กัปตันเท่านั้นแหละ เพราะขืนแกตื่นมาเจอกับผมตอนนี้ ผมก็ต้องเห็นหน้าพี่เขาอีก แล้วสุดท้ายก็จะ ‘คิดถึง’ ไม่เลิกจนนอนไม่หลับอีก เห้อออออ~ คนอะไรทำไมถึงได้มาวนเวียนอยู่ในหัวผมนานขนาดนี้นะ เรียกว่า… หลอนจนนอนไม่หลับเลยเนี่ย!
ผมพยายามสะบัดหัวแรงๆ สองสามทีเพื่อไล่เรื่องไร้สาระออกไปจากหัวซะ ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลมั้ย? แต่มันก็พอจะช่วยให้ผมยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอย่างสบายใจมากขึ้น ก่อนจะจัดการล้างแก้วเก็บให้เข้าที่ (คือรู้ว่าถ้ากลับไปก็ยังไม่หลับไง เลยล้างแก้วซะเลย!) ซึ่งทุกอย่างก็ยังคงเป็นปกติดี จนกระทั่ง…!
พรึ่บ!!
จู่ๆ ไฟในห้องครัวก็สว่างวาบขึ้น ขณะที่ผมกำลังตั้งท่าจะเดินกลับไปที่ห้อง ทำให้เห็น… O_O!! พะ…พี่กัปตัน… พี่กัปตันยืนอยู่ที่ประตูครัวโดยสวมอันเดอร์แวร์ของ Calvin Klein เพียงตัวเดียว!!!
O_O โอ้ มาย ก้อด!!!
“เป็นอะไร ทำไมทำตาโตแบบนั้นล่ะ?” พี่กัปตันถามออกมาด้วยความสงสัย หน้าตายังดูมีอาการง่วงอยู่เลย
“พะ…พี่กัปตัน!!”
“อะไร??”
“ทะ…ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า!!”
พี่กัปตันทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองสำรวจตัวเองที่เล่นเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพ็คกับอันเดอร์แวร์ตัวเดียวแบบนั้น ไม่อายผีสางเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขาเลยหรือไงนะ!! (ได้ข่าวว่าอยู่ในคอนโด) ละ…แล้วแทนที่จะเขินอาย รีบวิ่งไปใส่เสื้อผ้าอย่างที่ผมจินตนาการไว้ กลับบกลายเป็นว่าพี่เขาดันเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมซะอย่างงั้น แถมยังเป็นรอยยิ้มแบบคนเจจ้าเล่ห์ซะด้วย! ไอ้อาการง่วงๆ ก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดแล้วด้วย…
“ทำไมล่ะ แปลกตรงไหนกัน ก็พี่ชอบใส่แบบนี้นอนนี่นา

”
“ตะ…แต่ว่าวันนี้พี่ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ผมก็อยู่ด้วย พี่ควรจะแต่งตัวให้มันมิดชิดกว่านี้สิ!”
ไม่เอานะไอ้ฟาง! ต้องมองสูงๆ เข้าไว้ มองสูงๆ!!
“พอดีพี่เป็นพวกขี้ร้อนน่ะ ใส่เยอะๆ แล้วมันจะนอนไม่หลับ อย่าถือสากันเลยนะ

”
พี่กัปตันยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ต่อไป แถมยังค่อยๆ เดินก้าวเข้ามาใกล้ผมด้วย! ดูก็รู้ว่าจงใจจะแกล้งกันชัดๆ!! เพราะว่าตอนนี้ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวมาก -///- คงจะแดงจนไอ้พี่หน้าดุนี่สังเกตได้แล้วล่ะมั้ง…
“โอเคๆ ตามใจพี่เถอะ งั้น… ผมไปนอนก่อนแล้วกันนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ

”
ผมตั้งใจว่าจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่ก็ถูกพี่กัปตันเอามือกันไว้ซะก่อน อา~ นี่พี่เขาจะทำอะไรกันแน่เนี่ย ผมชักจะไม่สนุกแล้วนะ หรือว่านี่… ผมจะกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงซะแล้ว!?
“พี่จะทำอะไรน่ะ!?”
พี่กัปตันไม่ได้แค่กางมือออกเพื่อกันตัวผมเท่านั้นนะ แต่ยังเดินอาดๆ เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ด้วย! จนผมไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากถอยหนี!
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่ยังไม่อยากให้ฟางกลับไปนอน เพราะว่าพี่มีเรื่องอยากคุยด้วย

”
“อะ…เอาไว้คุยกันตอนเช้าก็ได้พี่ ตอนนี้คงไม่เหมาะ!”
“ไม่เอา พี่จะคุยตอนนี้ เพราะพี่อยากรู้ว่า…”
“อ๊ะ!”
“…ทำไมฟางต้องหน้าแดงด้วย

”
ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าตัวเองถอยหลังหนีจนติดกับเคาน์เตอร์ครัวแล้ว เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่กัปตันเข้ามาประชิดตัวผมแล้วด้วย!
น่ะ…นี่มันจะแนบเนื้อไปแล้วนะ!!!
“ปล่อยน่ะพี่!!” ผมพยายามดันกล้ามแขนแข็งแรงที่คร่อมตัวผมอยู่ออก ในขณะที่หน้าของผมกับพี่กับตันก็ห่างกันแค่คืบ ส่วนตัวนี่… ขอไม่พูดนะ ขอไม่พูดดดดด~~ T__T!!
“ไม่ปล่อย จนกว่าฟางจะตอบมาว่าทำไมต้องหน้าแดงด้วย

”
“กะ…ก็ผมเขินแทนพี่นี่ คนอะไรไม่อายฟ้าอายดิน!!”
“แล้วทำไมต้องเขินด้วย ไหนว่าไม่ชอบผู้ชายไง แล้วจะเขินทำไมล่ะ ผู้ชายเห็นผู้ชายเปลือย ก็ต้องปกติดิ

”
“ก็…” โอ้ยยยยยยยยยยย~ ไม่รู้ว่าควรจะเถียงอะไรออกไปเลยจริงๆ!! คือแบบ… จริงอยู่ที่ว่าเวลาผู้ชายเห็นผู้ชายด้วยกันเปลือยมันก็ต้องไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว แต่พี่กัปตันนี่มันจัดว่าเป็น ‘คนรู้จัก’ แล้วไง จะให้มาเฉยๆ มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ป่าววะ!? แต่คิดว่าถ้าพูดไปก็คงจะป่วยการ เพราะดูก็รู้ว่าไอ้หน้าดุนี่มันจงใจจะแกล้วผมอยู่แล้ว! ดังนั้น… “เอาเถอะ ผมจะรู้สึกยังไงมันก็เรื่องของผม แต่ถ้าพี่ไม่ยอมปล่อยผมนะ ผมขึ้นเข่าใส่…แน่!!”
ผมตัดสินใจขู่อย่างจริงจัง กะว่าถ้าพี่กัปตันยังไม่ยอมปล่อย ผมจะขึ้นเข่าใส่…ของพี่กัปตันแรงๆ สักที เอาให้จุกจนลงไปนอนกองกับเพื่อนเลย!!
“โห~ โหดจัง

” ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผมนะ เพราะในทันทีที่ผมขู่ออกไป พี่กัปตันก็ยอมผละออกจากผมในที่สุด
ผมไม่อยู่ต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป ในเมื่อตอนนี้พี่กัปตันดูห่างออกจากผมเพื่อเซฟตัวเอง ผมเลยอาศัยจังหวะนั้นรีบวิ่งหนีออกจากครัวแล้วเข้าห้องนอนในทันที! แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงของตัวร้ายหัวเราะไล่หลังมาด้วย!!
“ระวังจะเก็บภาพพี่ไปฝันนะครับน้องฟาง ฮ่าๆๆๆ~”
ผมทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างแรงด้วยความรู้สึกหลายๆ อย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือความหงุดหงิดที่ถูกไอ้พี่กัปตันแกล้งเข้าใจได้ แถม… ภาพเต็มตัวของพี่กัปตันที่ใส่แค่อันเดอร์แวร์ตัวเดียวก็เข้ามาติดอยู่ในหัวผมอีก!!
โอ้ยยยย~ แล้วแบบนี้จะนอนหลับมั้ยเนี่ย TT__TT
* * * * * * *
เช้าวันต่อมา
การเริ่มวันใหม่เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากลำบากมาก เพราะในขณะที่ผมพยายามลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ พี่กัปตันก็จะคอยส่งยิ้มกรุ่มกริ่มมาให้ผมตลอด!! ขนาดว่าผมหนีเข้าไปทำอาหารเช้าให้ในครัว พี่แกยังตามมายิ้มกรุ่มกริ่มให้เลย จะออกปากไล่ก็ไม่กล้า เดี๋ยวจะมีช่องว่างให้ไอ้พี่กัปตันมันสามารถแกล้งผมได้อีก แบบว่า… ‘ทำไมต้องไล่ด้วย พี่ก็แค่ยิ้มเอง ไหนฟางบอกว่าไม่ชอบผู้ชายไง แล้วพี่ยิ้มให้มันจะเป็นอะไรไปล่ะ

’ …นี่คือผมคิดเองนะ แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าจะต้องโดนพูดแบบนี้ใส่แน่ๆ ถ้าไล่พี่แกออกไปก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น ปล่อยเลยตามเลยดีกว่า -^-
ซึ่งพอผมทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะช่วยให้พี่กัปตันหยุดยิ้มกรุ่มกริ่มใส่ผมได้บ้าง จนกระทั่งมันเกิดเหตุการณ์ที่ว่า…
“อร่อยจังเลยฟาง ฝีมือแบบนี้นี่เปิดร้านอาหารได้สบายเลยนะ” พี่กัปตันชมด้วยรอยยิ้มธรรมดาๆ ทั่วไป ก่อนจะตักคำใหญ่ๆ ใส่ปากเพื่อโชว์ให้ผมเห็นว่ามันเป็นมื้อที่อร่อยจริงๆ แล้วด้วยความที่คำมันใหญ่ไง ก็เลยมีเม็ดข้าวเลยออกมาติดที่มุมปากของพี่เขาอย่างไม่รู้ตัว ซึ่ง… ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ผมยื่นมือไปหยิบข้าวเม็ดนั้นออกมา…
“ดูซิ กินเลอะเทอะเป็นเด็กๆ ไปได้นะพี่”
ก็เลยทำให้… พี่กัปตันส่งยิ้มกรุ่มกริ่มให้ผมอีกครั้ง T__T
ผมต้องพยายามไม่คิดมากกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่มบนใบหน้าของพี่กัปตัน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วแทบจะเลิกคิดถึงมันไม่ได้! แถมยังลามนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ ‘หน้าใกล้กัน’ ที่หน้าโทรทัศน์ จนถึง ‘ฉากประชิด’ ในห้องครัว นี่ดีนะที่เมื่อคืนผมไม่เก็บเอาไปฝันด้วย ไม่งั้นผมได้รู้สึกอยากจะบ้าตายมากกว่านี้แน่!!
…แต่ก็ยังมีอีกสิ่งนึงที่ช่วยให้พี่กัปตันสามารถเลิกยิ้มกรุ่มกริ่มใส่ผมได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งสิ่งนั้นก็คือการซ้อมละครแบบติวเข้มชนิดที่ว่าไม่มีหยุดพักเหมือนกับเมื่อคืนนี้ T__T ก็นะ ถือว่าต้องยอมแลกเอา ระหว่างซ้อมจนเหนื่อยตาย หรือว่าเจอยิ้มกรุ่มกริ่มจนจะเป็นบ้าตายน่ะ ต้องเลือกเอา ต้องเลือกเอาาาาา!!
โดยการซ้อมในวันนี้นั้น พี่กัปตันให้ผมเล่นต่อจากเมื่อคืนที่ค้างไว้จนกระทั่งจบเรื่อง ตอนแรกก็คิดว่า เออ จบแล้ว คงจะได้พักดื่มน้ำอะไรแบบนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าพี่กัปตันให้เริ่มซ้อมใหม่ตั้งแต่ต้น! แล้วคนอย่างผมมันมีทางเลือกมากนักหรอ T__T แน่นอนว่าไม่!
แต่ในขณะที่ผมกำลังจะเริ่มแสดงฉากแรกอยู่นั้นเอง จู่ๆ ไอโฟนที่ผมวางเอาไว้ใกล้ตัวก็สว่างวาบขึ้นมา ก่อนที่ผมจะเห็นว่ามีการโทรเข้ามาโดยพี่ฟิล์ม โอ้วววว~ ขอบคุณสวรรค์ T_T
“พี่กัปตัน พี่ชายผมโทรมา ผมต้องรับสายนี้อะ”
“โอเค รับเสร็จก็รีบมาซ้อมต่อนะ”
“รู้แล้วน่า!” ผมแสดงความไม่พอใจให้พี่กัปตันได้เห็นบ้างกับความโหดของเขา แต่เจ้าตัวกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลย แถมยังก้มดูบทต่อไปเรื่อยๆ อีกต่างหาก นี่… พี่กัปตันเขาจริงจังมากไปเปล่าวะ =_=?
ผมตัดสินใจเดินห่างออกมาจากพี่กัปตันก่อนที่จะรับสาย เพราะว่าตอนนี้พี่ฟิล์มคิดว่าผมอยู่บ้านไอ้กบ ถ้าเกิดว่ามีเสียงของคนที่ไม่ใช่ไอ้กบดังเล็ดรอดเข้าไปตามสาย กลัวว่าจะต้องสร้างเรื่องเพื่ออธิบายกันยาว…
“ว่าไงพี่ฟิล์ม คิดถึงฟางสินะ ถึงได้โทรมาน่ะ” ผมกรอกเสียงลงไปอย่างร่าเริง แต่กลับกลายเป็นว่า…
(ทำไมต้องโกหก!?)
…พี่ฟิล์มดันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงโกรธๆ ซะอย่างงั้น!
ตายล่ะ นี่พี่ฟิล์มจับได้แล้วหรอเนี่ย!?
“ฟะ…ฟางไปโกหกอะไรพี่ฟิล์มที่ไหนกัน”
(ก็โกหกเรื่องที่บอกว่าจะไปนอนบ้านกบ แต่กลับไปนอนค้างกับรุ่นพี่ที่ชื่อกับตันน่ะสิ!)
อาาาา~ ซวยแล้ว! พี่ฟิล์มจับได้แล้วจริงๆ ด้วย TT_TT
เป็นเพราะว่าเมื่อวานนี้ตั้งใจว่าจะเตี๊ยมกับไอ้กบแล้วแหละ แต่ยังไม่ทันจะได้เล่ารายละเอียดว่าทำไมถึงมานอนค้างที่คอนโดพี่กัปตันเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกไอ้พี่ทีมเข้ามาหาเรื่องซะก่อน เป็นไงล่ะ ความแตกเลย T__T
“พะ…พี่ฟิล์มรู้ได้ไงว่าฟางไม่ได้ไปค้างที่บ้านไอ้กบ”
(พี่แวะไปที่บ้านกบมา ตั้งใจจะเอาขนมไปให้ฟางกับกบ เพราะเห็นว่าต้องซ้อมละครกัน แต่กลายเป็นว่าพี่ไม่เห็นแม้แต่เงาน้องตัวเอง!)
“อา~ ใจเย็นก่อนดิพี่ฟิล์ม เรื่องนี้ฟางอธิบายได้นะ T__T” ผมเริ่มเสียงอ่อยลงเรื่อยๆ หวังว่าจะให้พี่ฟิล์มเห็นใจผมบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ผล…
(ยังไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ฟางรีบกลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้เลย อ้อ แล้วก็พาไอ้คนที่ชื่อกัปตันมาด้วยนะ งานนี้คงมีเรื่องที่จะต้องคุยกันยาว!!)
“แต่ว่า…”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร พี่ฟิล์มก็วางสายไปซะแล้ว เล่นเอาซะผมอยากจะร้องไห้ออกมาเลย T__T ฮือ~ ไม่น่าโกหกพี่ฟิล์มเลยอะ ลำพังกลับบ้านไปโดนเทศน์ก็ยังไม่เท่าไหร่หรอกนะ แต่นี่พี่ฟิล์มเล่นให้ผมพาพี่กัปตันไปด้วยน่ะสิ คราวนี้ล่ะ คงได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่!
แล้วนี่… ผมจะบอกกับพี่กัปตันยังไงดีล่ะเนี่ย T__T
“พี่กัปตัน…”
ผมเดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์ที่ต่างไปจากตอนแรกมากๆ จนพี่กัปตันที่กำลังสนใจบทอยู่ต้องรีบหันมาสนใจผมแทน
“เป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้? แล้วเมื่อกี้ใครโทรมา เอ๊ะ หรือว่าไอ้ทีมมันโทรมาขู่!?”
แหมๆ อย่าเพิ่งมโนตอนนี้ได้มั้ยครับ ฟังผมพูดให้จบก่อนสิพี่!
“ไม่ใช่หรอกพี่กัปตัน แต่ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วแหละ T_T”
“เรื่องอะไร?”
“พี่ชายผมจับได้ว่าผมโกหกเรื่องที่มานอนคอนโดพี่กัปตัน ก็เลยสั่งให้ผมรีบกลับบ้านด่วน T_T”
“อ้าว!? แล้วไปโกหกพี่เขาทำไมล่ะ”
“ก็จะให้บอกว่ามาค้างที่คอนโดพี่ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อพี่ยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการสอบสวนจากพี่ฟิล์มเลย ผมก็เลยต้องโกหกว่าไปนอนบ้านไอ้กบแทน แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงตอนนี้ก็ความแตกแล้ว ผมคงต้องรีบกลับบ้านโดยด่วน T_T”
“โอเค งั้นไปเก็บของเลย แล้วก็ไม่ต้องปฏิเสธนะ เพราะว่าเดี๋ยวพี่จะนั่งรถไปส่งเราที่บ้านเอง”
“ไม่ต้องกลัวพี่ คราวนี้ผมไม่ปฏิเสธพี่แน่ T_T”
“อ้าว ทำไมล่ะ? ปกติเห็นดื้อตลอด”
“เอ่อ.. ก็เพราะว่าพี่ฟิล์มเขาเรียกพี่ไปพบด้วยน่ะสิ T__T”
“อ้าวววว~ งานเข้าซะงั้น =_=”
“T_T”
* * * * * * *
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ผมและพี่กัปตันมาถึงบ้านภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ด้วยการเร่งคนขับแท็กซี่ยิกๆ ทำเอาลุงแกเหยียบไปเกือบร้อยยี่สิบด้วยความโมโห! ซึ่งเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวมาก T__T แต่ก็ต้องอดทน เพราะจะต้องทำเวลาให้เร็วที่สุด แต่เมื่อมาถึง…
…ผมกลับไม่กล้าเข้าบ้านซะงั้น T^T
“ทำไมไม่เข้าบ้านล่ะฟาง?” พี่กัปตันถามเมื่อเห็นว่าผมยืนจับประตูรั้วไม่เลิก แต่ไม่ยอมเปิดเข้าไปสักที
“เดี๋ยวพี่ ขอเวลาเดี๋ยว T_T”
ให้ตายเถอะ! ทั้งที่ความเป็นจริงก็คือผมโกหกว่าจะไปนอนบ้านไอ้กบ แล้วไปค้างที่คอนโดพี่กัปตันเพื่อซ้อมบทละครล่วงหน้า แต่ทำไม… ผมกลับรู้สึกเหมือนว่า… ผมเป็นผู้หญิงที่โดนพ่อจับได้เรื่องที่โกหกว่าไปนอนบ้านเพื่อน แต่ที่จริงแล้วหนีไปนอนบ้านผู้ชายอะไรแบบนั้นเลย มันฟีลลิ่งนั้นจริงๆ นะ T^T
“เปิดเข้าไปได้แล้ว ยิ่งช้าก็ยิ่งปล่อยให้พี่เขารอนะ หัดคิดถึงคนที่เขากำลังรออย่างร้อนใจอยู่บ้างสิ”
“เออๆ รู้แล้วน่า T__T”
แล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับพี่กัปตันที่ดูจะไม่กลัวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว กลับมองนั่นมองนี่ สนใจบ้านผมซะงั้น!
“มานั่งนี่” พอผมเดินเข้าไปถึงโซนห้องนั่งเล่น พี่ฟิล์มที่นั่งรออยู่แล้วก็สั่งให้ผมกับพี่กัปตันเข้าไปนั่ง ซึ่งเป็นน้ำเสียงที่โคตรจะนิ่งเลย T^T กลัวอะ!
แล้วพอผมกับพี่กัปตันเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว พี่ฟิล์มก็เปิดฉากเทศน์ผมยกใหญ่เลย ซึ่งผมไม่โกรธพี่ฟิล์มหรอกนะ เพราะว่าทุกสิ่งที่พูดมาล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น แล้วผมก็รู้ว่าพี่ฟิล์มเขาเป็นห่วงผมจนเกินพอดีด้วย แต่นั่นก็ไม่แปลก ผลจากการที่เราเสียพ่อและแม่ไป มันทำให้เราห่วงกันมากขึ้น อย่าว่าแต่พี่ฟิล์มห่วงผมเลย เวลาพี่ฟิล์มหายไปจากบ้านนานๆ ผมก็อดห่วงไม่ได้เหมือนกัน ราวกับว่าพวกเรายังไม่พร้อมจะเสียใครไปอีกตอนนี้ และเพราะว่าเป็นแบบนั้น ผมถึงได้ไม่กล้าที่ตอบโต้อะไรพี่ฟิล์มกลับไปสักคำ ในขณะที่พี่กัปตันเล่นสวนกลับไปไม่หยุด…!
“มันเป็นความผิดของผมเองครับพี่ฟิล์ม อย่าว่าฟางเลยนะครับ”
“นี่! นายจะออกรับแทนน้องฉันอีกนานมั้ย อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีความผิดนะ ไว้ฉันพูดกับน้องฉันเสร็จเมื่อไหร่ นายคือรายต่อไป รู้ไว้ซะด้วย!”
“ถ้าอย่างงั้นก็รวบความผิดทั้งหมดมาที่ผมคนเดียวเถอะครับ… อะไร?” พี่กัปตันหยุดพูด แล้วหันมาสนใจผมที่กระตุกแขนเสื้อพี่เขาไม่เลิก เพราะผมต้องการจะเตือนให้พี่กัปตันหยุดเสียที แต่กลับกลายเป็นว่าพี่กัปตันไม่สนใจผมอีกแล้ว T^T ก่อนจะหันกลับไปหาพี่ฟิล์มต่อ… “นั่นแหละครับ อย่าว่าฟางเลย ถ้าจะโทษก็ให้โทษที่ผมคนเดียวเท่านั้น แต่ผมขอยืนยันอย่างลูกผู้ชายเลยนะครับว่าการไปค้างที่คอนโดผมครั้งนี้ ไม่มีเรื่องเสียหายอย่างแน่นอน เราสองคนแค่ไปซ้อมบทละครกันในฐานะนักแสดงกับผู้กำกับละครเท่านั้น และที่สำคัญคือเราแยกห้องนอนกันด้วยครับ ถ้าจะมีอะไรเสียหายมากที่สุด ก็น่าจะเป็นตอนที่… ฟางเห็นผมใส่อันเดอร์แวร์ตัวเดียวน่ะครับ”
O_O ละ…แล้วไปบอกเขาทำมายยยยยยยยยยย!!!
“อะไรนะ!?”
“มันเป็นอุบัติเหตุน่ะครับพี่ คือผมใส่อันเดอร์แวร์ตัวเดียวนอน แล้วก็ออกมากินน้ำ พอดีเจอกับฟางที่ลุกมากินน้ำอยู่เหมือนกัน เรื่องมันก็มีแค่นั้นแหละครับ

”
หึ!! เรื่องมันก็มีแค่นั้นงั้นหรอ!? ไหนๆ ก็เล่ามาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมพี่ไม่เล่าตอนที่พี่จู่โจมเข้ามาประชิดตัวผมไปด้วยเลยล่ะ!!
“โอเค อยากออกรับแทนน้องฉันมากใช่มั้ย งั้นตามมานี่ ไปคุยกันที่ห้องฉันแบบตัวต่อตัว!”
น่ะ…นั่นไง เข้าห้องสอบสวนแล้วววว~ T___T
“ได้ครับพี่” แล้วไอ้พี่กัปตันก็ดันไปเออออด้วยอีก ไม่รู้หรือไงว่ากำลังจะเจอสอบสวนชุดใหญ่น่ะ!! แล้วถ้าพูดอะไรไม่ถูกหูพี่ฟิล์ม อาจจะโดนอดีตนักมวยเสยคางเอาได้นะ!!
“เดี๋ยวก่อนพี่ฟิล์ม ไม่ต้องถึงขนาดนั้น…”
ผมพยายามจะห้าม แต่ว่า…
“หยุดเลยฟาง นี่ไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของพี่กับไอ้หน้าดุนี่!”
“มะ…เมื่อกี้พี่เรียกผมว่าไงนะ!?” พี่กัปตันดูตกใจกับฉายาใหม่ที่ได้รับ
“ไอ้หน้าดุไง หน้าแกมันดุจะตาย จะให้เรียกว่าไอ้น่ารักหรอ!?”
“เอ่อ…” พี่กัปตันถึงกับเงิบ รีบหันหน้ามาหาผมเพื่อขอคำยืนยันว่าตัวเองหน้าดุจริงมั้ย? แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่พยักหน้า เพราะว่าผมก็เรียกพี่เขาแบบนั้นเหมือนกัน พี่ฟิล์มกับผมนี่สมแล้วที่เป็นพี่น้องกันนะ T__T
“ตามมา!”
แต่พอเจอพี่ฟิล์มออกคำสั่ง จอมเผด็จการเด็กๆ อย่างพี่กัปตัน ก็ถึงกับต้องรีบวิ่งตามจอมเผด็จการผู้ใหญ่อย่างพี่ฟิล์มขึ้นไปบนห้องทำงานทันที…!
ผมที่กลายเป็น ‘คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง’ ทำได้เพียงแค่กระวนกระวายใจอยู่ข้างล่างเท่านั้น เพราะว่าห้องทำงานของพี่ฟิล์มเป็นแบบเก็บเสียง ทำให้ผมไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างพี่ทั้งสองคนนั้น ได้แต่รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รออยู่ที่ห้องนั่งเล่น จนผ่านไปเกือบ… ครึ่งชั่วโมงได้มั้ง ก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดตามมา พร้อมกับ… เสียงหัวเราะ!?
ทั้งพี่กัปตันและพี่ฟิล์มเดินลงมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับว่าคุยกันถูกคอซะอย่างงั้น? ซึ่งผมไม่ค่อยจะเห็นแบบนี้เท่าไหร่นัก ขนาดไอ้กบยังเดินคอตกออกมาเลย น่ะ…นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!?
ผมพยายามส่งสายตาให้พี่กัปตันเป็นเชิงถามว่า ‘มันเกิดอะไรขึ้น?’ แต่ไอ้พี่หน้าดุกลับทำเพียงแค่ยิ้มหวานให้ผมเท่านั้น…!?
“เอาล่ะ พี่เข้าใจเรื่องทุกอย่างดีแล้ว แต่ถึงยังไงพี่ก็ต้องลงโทษเรื่องที่ฟางโกหกพี่อยู่ดี เพราะฉะนั้น ห้ามไปนอนค้างที่บ้านใครเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ เข้าใจมั้ย?”
“ขะ…เข้าใจครับ” ถึงไม่ห้าม ผมก็คงไม่กล้าไปนอนค้างบ้านใครอีกสักพักใหญ่ๆ เลยแหละ T_T
“แล้วก็ฝากส่งเจ้ากัปตันมันด้วย เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปแต่งตัว เราเองก็เหมือนกันนะฟาง พอส่งกัปตันเสร็จแล้ว ก็รีบเข้าบ้านมาแต่งตัวดีๆ เดี๋ยวกลางวันนี้พี่จะพาไปกินข้าวนอกบ้าน เข้าจะมั้ย?”
“เข้าใจแล้วครับ”
ไม่ต้องงงว่าทำไมผมตอบได้แค่ว่า ‘เข้าใจแล้วครับ’ เพราะคนที่เขามีความผิดน่ะ เขาจะไม่ค่อยพูดมากกันหรอก ดูอย่างผมเป็นตัวอย่างนี่ไง T__T
ทันทีที่สั่งการทุกอย่างเรียบร้อย พี่ฟิล์มก็เดินขึ้นไปเปลี่ยนชุดบนห้อง เหลือแค่ผมที่เดินออกไปส่งพี่กัปตันที่หน้าบ้านเท่านั้น แต่ยังไม่ทันจะถึงประตู ผมก็ไม่อาจจะเก็บความสงสัยได้อีกต่อไป!
“มันเกิดอะไรขึ้นพี่กัปตัน ทำไมทุกอย่างถึงกลับตาลปัตรแบบนี้!?”
“ก็ไม่มีอะไรนี่

พี่ว่าพี่กัปตันเขาก็คุยสนุกดีออก”
“แล้วเขาไม่สอบสวนอะไรพี่เลยหรอ!?”
“คำว่าสอบสวนมันเกินไปมั้ง ก็แค่ถามเฉยๆ น่ะ ส่วนใหญ่ก็คงจะอยากรู้ว่าทำไมพี่ถึงมายุ่งกับฟางนั่นแหละ”
“แล้วพี่ตอบไปว่าไง?”
“ก็บอกว่ามายุ่งด้วยในฐานะที่พี่เป็นผู้กำกับละครเวทีที่ฟางเล่นอยู่” อ๋อ~ แล้วไป -_- “แล้วก็มายุ่งในฐานะชายรักชายที่ต้องการจะจีบฟางด้วย

”
O_O อะ…อะไรนะ!!!
“เฮ้ย! พี่พูดถึงขนาดนั้นเลยหรอ!? แล้วพี่ฟิล์มเขาไม่ชกหน้าพี่เข้าให้หรือไง!!?”
“ฮ่าๆๆๆ~ ก็ไม่นี่ แถมยังบอกอีกนะว่าถ้าอยากจะจีบจริง ก็ขออย่าให้มีอะไรนอกลู่นอกทางก็แล้วกัน

”
“จะ…จริงดิ!? พี่ฟิล์มพูดแบบนั้นเลยหรอพี่!?”
นี่ผมว่าผมตกใจเยอะมากเลยนะ! อะไรมันจะขนาดนี้!!? ตอนแรกพี่ฟิล์มเรียกตัวมาเหมือนจะลงโทษประหารชีวิตผมกับพี่กัปตันซะอย่างงั้น แต่ไหงถึงได้จบลงแบบนี้ได้ นี่มันเรื่องจริงหรอเนี่ย!!?
“ก็จริงน่ะสิ พี่จะโกหกฟางทำไม ถ้าไม่เชื่อลองไปถามพี่ฟิล์มดูเองก็ได้ คงจะ… อยากได้พี่เป็นน้องเขยมั้ง ^^” นะ…น้องเขยงั้นหรอ!? “เอาล่ะ ส่งพี่แค่นี้ก็พอ แล้วไว้เจอกันนะ ^^”
พี่กัปตันบอกลาแค่นั้น ก่อนจะเดินจากไปเพื่อหารถแท็กซี่กลับบ้าน ส่วนผม… ได้แต่มองแผ่นหลังของพี่เขา สลับกับตัวบ้านที่มีพี่ฟิล์มอยู่ด้านใน ด้วยความสงสัยที่กำลังเริ่มก่อตัวเป็นก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ว่า… ทำไมนะ…
…ทำไมผู้ชายสองคนนี้ต้องมายัดเยียดความเป็นชายรักชายให้ผมด้วย!!!
จบบทที่ 8
แฮมสเตอร์ : ขอบคุณที่อ่านนะครับ ถ้าหากชอบ หรืออยากพูดคุยถึงเรื่องนี้ในทวิตเตอร์
ฝากรบกวน #บทนางเอก ด้วยนะครับ