MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐  (อ่าน 137836 ครั้ง)

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ
ไม่ใช่แค่ยิ้มตาหยี..ส่งมาให้เพื่อกลบเกลื่อนบางอย่าง

รักของสองคนนี้
คงจะยุ่งอีกนาน
เหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งมาราธอน
ไปยังภูเขาโอลิมปัส
หึหึ
 :hao7:

+1 จ้า

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 03:23:55 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ้......สัญญาหน้าตึกมาบุญครอง
นครหินอ่อนเป็นพยาน
เอิ่ม.....ฟ้าฝนเป็นพยานอีกแรง
รักนี้ยืนยาวแน่แท้   :L1: :L1: :L1:
จิว นายกล้ามาก  :mew1: :mew1: :mew1:
ต้นข้าว ตอบรับฉับไว ดีมาก ถูกใจ ไม่เรื่องมาก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มีจูบประทับยืนยันซะด้วย  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อร๊ายยยยยยยย เป็นแฟนกันแล้ว   :mew1: :mew1: :mew1:
โล่งอกที่ไม่มีเรื่อง
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แสนนุ่มนวล ชวนให้เคลิ้ม ประเดิมรัก
เพิ่งรู้จัก ไม่มักคุ้น ชวนลุ้นฝัน
หนึ่งคือหนุ่ม ชวนอีกหนุ่ม กุมใจกัน
พร้อมมุ่งหน้า จะฝ่าฟัน ไม่หวั่นเกรง

อูยยยย อ่านตอนนี้แล้ว
คนอ่านใจแตก อยากจะหาคนมาสัญญากันบ้าง
 :pighaun:

ตึกไหนกำลังจะสร้าง
มีอีกไหม
จะได้ขอให้มาเป็นพยาน
อิอิ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  ชอบตอนนี้จัง บรรยายได้ซึ้งถึงความรักที่ออกจากใจของทั้งคู่

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ผมอ่านแล้วชอบมากเลยครับ ห้างนี้เป็นห้างโปรดผมสมัยผม ม.ปลาย และเป็นความทรงจำส่วนสำคัญของความรักตัวเองด้วย

อ่านแล้วยิ้ม คิดถึงมาก ถึงผมจะไม่ได้แก่เท่าเนื้อเรื่องที่เขียนมา แต่ช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมาของผม ก็ MBK นี่แหละครับ ที่ให้ผมกับแฟนเดินเล่น กินข้าว ดูหนัง และโซนโปรดผมคือชั้น 4 ถ้าไม่ลากผมออก ก็น่าจะอยู่ตั้งแต่เปิดยันปิดห้างได้แน่นอน

แถมบางช่วงมีกล่าวถึงแถวบ้านผมด้วย ที่ชอบสุดคือ หลายสิ่งในเรื่อง ถึงจะเก่ากว่าวัยตัวเอง แต่ก็ตรงกับสมัยที่ผมกับแฟนผมเริ่มคบกันใหม่ ๆ ความไม่ไฮเทคในบางอย่าง ความที่ต้องรอ ความรู้สึกที่ไม่ฉาบฉวยเวลาเราจะรักกัน (ถึงยุคผมจะเริ่มเป็นยุค WWW กับ ฟองสบู่ .com แล้วก็ตาม) มีความ Analog หลายสิ่งที่ผมกับแฟนก็ยังทันได้สัมผัสอยู่บ้าง ถึงจะไม่สุด ๆ แบบในเนื้อเรื่องนี้ก็ตาม

สนุกครับ รออ่านจิวกับต้นข้าวต่อไปนะครับ^^

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๑๐ : ค่ายรบค่ายรัก

 
         "หืม ฝนจะตกหรือ" ต้นข้าวเงยขึ้นไปมองท้องฟ้า

         "ไม่น่าตกมั้ง มันร้องไปงั้นแหล่ะ ฟ้าไม่แดงซักหน่อย" จิวแหงนขึ้นไปมองตาม

         "เออ นี่แว่น กระเป๋ามึงอ่ะ มาเปลี่ยนคืนกันไหม กระเป๋านักเรียนของกูนั่นน่ะมันแคบ กูเอาคลิปหนีบไว้ มึงคงใส่หนังสือไม่ได้หรอก"

         จิว ส่งกระเป๋านักเรียนใบที่เกิดเรื่องของต้นข้าวเมื่อวาน ยื่นคืนมาให้ตรงหน้า ต้นข้าวเลยเปิดกระเป๋าของจิวที่ตัวเองถือใช้มาวันนี้ แล้วสลับของของตัวเองใส่กลับเข้าไป แล้วยื่นให้จิว

         "อ่ะ เรียบร้อย ของมึง แล้วนี่ไอ้พวกรูปโป๊นั่นไปไหนแล้วอ่ะ หรือครูยึดไว้" ต้นข้าวสงสัย

         "ครูเผาทิ้งไปแล้วหลังจากพ่อกูกลับ ครูบอกว่าของซวยๆ แบบนั้นไม่ควรมาอยู่ในโรงเรียนน่ะ เผาต่อหน้ากูเลย" จิวเล่าหน้าเซ็งๆ

         "แล้วนี่น้าเดียร์อะไรของมึงเค้าจะว่าไหมอ่ะ ของเค้าโดนเผาไปแล้ว" จิวถามต่อ

         "โอย ไม่ว่าหรอก เค้าคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าของมันมาส่งบ้านกูเนี่ย  ไม่งั้นน้าเดียร์แกคงแวะมาตามเอาไปแล้วสิ  นี่มันผ่านมาสามสี่เดือนละนะ"  ต้นข้าวอธิบาย

         "อืม ก็ดี โอเค" จิวพยักหน้าหงึกๆ

         "เอ่อ เอ่อ แล้วไอ้กางเกงในแอปเปิ้ลนั่นอ่ะ ไปไหนแล้ว"  ต้นข้าวยังสงสัยอยู่

         จิวหันขวับมามองต้นข้าว ส่งเสียงสองสูงขึ้นทันที

         "ถูกเผาไปแล้วเหมือนกัน ทำไมเหรอ มึงยังอาลัยอาวรณ์กางเกงลิงไอ้เชี่ยดิเรกนั่นอยู่อีกเหรอ  เฮ้ยๆ ตอนนี้มึงจะเที่ยวไปดม ไปดูกางเกงลิงของใครไม่ได้แล้วนะเว้ย  ต่อไปนี้มึงดม มึงจับกางเกงในของกูได้คนเดียวเท่านั้น"

         "บ้าาาาาาา" ต้นข้าวอุทานเสียงระดับเบอร์สี่ หน้าหล่อๆ หมดจดดังทวยเทพมีเลือดฝาดแดงก่ำขึ้นมาทันที

         "กูอำมึงเล่น ฮ่าๆๆ หน้าแดงแล้วหล่อน่ารักฉิบหายเลยนะมึงเนี่ย...เป็นแฟนกัน เค้าต้องหึงต้องหวงกันป่ะวะ กูก็ไม่เคย ฮ่าๆๆ"

         "หึงแม้กระทั่งกางเกงใน ไอ้บ้าเอ้ย" หน้าต้นข้าวยังไม่หายแดง

         "มึงไม่ต้องมาหน้าดำหน้าแดงใส่กูเลย  เอ้า นี่ของๆมึง กูตั้งใจให้มึงนะ"

         สิ่งที่อยู่ในมือของจิว คือเทปคาสเซ็ท ซึ่งก็คงเป็นตลับเมื่อวาน ที่อยู่ในกระเป๋าต้นข้าวแหล่ะ เพลงที่ช่วยกันอัด ของวงคีรีบูน แต่วันนี้มันใส่กล่องเทปมาด้วยแล้ว มีปกเรียบร้อย ไม่ใช่ตลับล้วนๆ แบบเมื่อวาน

         หากแต่มันไม่ใช่หน้าปกของวงคีรีบูนจริงๆ เพราะเทปนี้เป็นเทปคาสเซ็ทเปล่า ซื้อมาอัดเพลงเอง  แต่ที่จิวส่งมาให้นี่ เป็นปกเทปที่ทำมาจาก ส.ค.ส.โรยกากเพชร  พิมพ์เป็นรูปหมูสีชมพูกำลังยิ้ม

         "ฮ่าๆๆ" ต้นข้าวอดขำจนหัวเราะออกมาไม่ได้ "มึงนี่จริงๆ เลยนะ ขี้เกียจหาปกเทปหรือไง ถึงเอา ส.ค.ส. มาแปะไว้แทนเนี่ย"

         "กูตั้งใจเดินหาซื้อมาให้มึงเลยนะโว้ย ส.ค.ส. รูปหมูเนี่ย เอาไว้เตือนใจมึงด้วยไงแว่น ว่าอย่าแดกมาก แดกลูกชิ้นชุบแป้งทอดทีนึงสี่ห้าไม้ กูกลัวมึงอ้วน กูไม่อยากมีแฟนอ้วนนะ กูกลัวเลี้ยงไม่ไหว" จิวทำตาใสซื่อหวานฉ่ำจ้องตาแว่น

         "งั้นดีเลย  กูก็มีของให้มึงเหมือนกัน กูเห็นแล้วคิดถึงมึง เลยเอามาให้มึงด้วยอ่ะ"

         ต้นข้าว หันไปหยิบถุงโชคดี (ถุงกระดาษสีน้ำตาลพิมพ์ตารางหมากฮอส) ที่ถือติดมือมาด้วยตั้งแต่เช้าจากบ้าน ส่งให้จิวทั้งถุง

         "อะไรวะ" จิวรับถุงกระดาษไป แล้วล้วงลงไปหยิบหมูกระดาษออมสินสีแดงแปร๊ดขึ้นมา

         "ฮ่าๆๆๆ เชี่ยแว่น  หน้าเหมือนมึงเลย หมูเนี่ยยย  น่าร๊ากที่สุด" จิวยกหมูกระดาษมาเทียบกับหน้าของต้นข้าว

         "หยั่มมา!!! มึงเนี่ย~" ต้นข้าวทำหน้ากระเง้ากระงอด

         "แล้วมึงไปเอามาจากไหนเนี่ย ตัวกระจี๊ดเดียวแค่นี้เอง กูเคยเห็นหมูกระดาษแดงๆ แบบนี้แต่ตัวใหญ่บะเร่อบะร่า" จิวถาม

         "แถวบ้านกูไง เค้าทำตัวเล็กๆ ออกมาขาย แม่กูซื้อมา กูเห็นแปลกดี เลยเอามาให้มึงอ่ะ มึงชอบไหม"

         "ชอบสิ เพราะมึงให้อ่ะ ชอบหมดแหล่ะตอนนี้" ตี๋หน้าใสพยายามเก๊กหน้าหล่อใส่ต้นข้าว แล้วพูดต่อ

         "แต่กูไม่รู้จะเอาไปทำอะไรอ่ะดิมึง ตังค์กูก็ไม่ค่อยจะเหลือ แล้วจะเอามาหยอดกระปุกหมูนี่ได้ไง กูมีแต่แบ็งค์กาโม่น่ะ เอามาหยอดได้ไหม" จิวเอามือลูบๆ ตรงร่องหยอดเหรียญหลังหมูกระดาษ

         "มึงก็ไม่ต้องเอาไว้หยอดเงินหรอก  กูก็แค่อยากเอามาให้มึง  เห็นมันครั้งแรกก็คิดถึงมึงก่อนเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แบกไปแบกมาทั้งวันเนี่ย" ต้นข้าวถูมือไปมา

         ไม่รู้ว่าเพราะคำว่า --กูก็แค่อยากเอามาให้มึง-- จากปากต้นข้าวนี้หรือเปล่า หมูกระดาษทาสีแดง เขียนลายดอกไม้เอียงโย้เย้แบบเด็กๆ ธรรมดาๆ ในมือจิว ตอนนี้มันเหมือนกลายเป็นหมูที่แกะสลักเจียระไนจากก้อนคริสตัล สวารอฟสกี้ ก้อนใหญ่ๆ ที่มีประกายแพรวพราว แสนงดงาม และล้ำค่าไปแล้ว

         คุณค่าของสิ่งของ มันขึ้นอยู่กับใครเป็นผู้ให้ และใครเป็นผู้รับจริงๆ

         "จิว"

         "หืม"

         "ขอบคุณนะ"

         "ขอบคุณเรื่องอะไร"

         "เรื่องกระเป๋านักเรียนเมื่อวานไง และเรื่องเทปเพลงที่อัดให้กูนี่อีก"

         จิว ขยับตัวเอนพิงพนักม้านั่งให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น เหยียดขาออกไปอย่างสบายอารมณ์ มือข้างหนึ่งวางยาวออกไปบนพนักพิงเก้าอี้  ส่วนอีกมือหนึ่งก็โอบหลังต้นข้าวไปอีกข้างหนึ่ง และเอาหมูกระดาษสีแดงมาเคาะที่หัวไหล่ของต้นข้าวด้านนั้นเบาๆ เป็นจังหวะต่อเนื่องช้าๆ เหมือนกำลังฮัมเพลงอยู่ในใจ

 
         ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันต่อ  สายตาคนสองคนเหม่อมองสูงไปที่อาคารมาบุญครองอีกครั้ง อากาศยิ่งค่ำยิ่งอบอ้าวขึ้น เสียงแมลงกลางคืนอะไรสักอย่างร้องดังหวีดๆ อยู่ไกลๆ สลับกับนานๆ ที มีเสียงแตรรถที่ถนนด้านนอก  และมีเสียงเคาะหมูกระดาษบนไหล่ เบาๆ เป็นจังหวะ ดัง ปุ่กๆๆๆ

         "เอาไว้มันเปิดแล้วเรามาเดินกันนะ ห้างเนี่ย" ต้นข้าวพูดออกมาเบาๆ สายตายังมองอยู่ที่ตึก

         "มาสิ เราเป็นเจ้าของนี่หว่า  ฮ่าๆๆ เหมือนลูกเลย  เห็นมันโตมากับตา  แต่เป็นลูกที่ตัวใหญ่ฉิบ"

         "อื่อ" ต้นข้าวหันไปมองหน้าจิว และลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋า

         "เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวรถเมล์หมด" ต้นข้าวบอก

         "อืม ไปสิ"  จิวลุกหยิบของตาม

         "แว่น ไว้ตอนเรามาเที่ยวห้างนี้  มึงให้กูจูงมือมึงแบบแฟน ตอนเรามาเดินเล่นกันนะ" จิวหันมาทำตากรุ้มกริ่มใส่ต้นข้าว

         ต้นข้าวไม่ได้ตอบจิว  เพราะตอนนั้นมัวแต่พยายามเหยียบพื้นดินให้แน่น ตัวต้นข้าวมันเริ่มจะลอยอีกแล้ว และไหนจะพะวงว่ามีกลีบกุหลาบสีชมพูโปรยลงมาที่หัวหรือยัง...
 

--------------------------------

 
         โรงเรียนที่ต้นข้าวและจิวเรียนอยู่ จะมีกิจกรรมเข้าค่ายของนักเรียนระดับ ม.๕  ในส่วนภาคพิเศษของวิชานันทนาการ ซึ่งจะเป็นคะแนนเก็บรวมไว้ปลายปี

         โดยปีนี้ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมไปเข้าค่ายค้างคืนที่ ค่ายสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี (อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ - ในปัจจุบัน) เป็นเวลา ๑ คืน โดยแต่ละห้องเรียน จะแบ่งเป็นอีก ๔ กลุ่มย่อย เพื่อแข่งขันกันทำกิจกรรมในค่ายด้วย

         และผลการจับฉลาก จิวกับต้นข้าว ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน

         "หน้ามุ่ยเชียวมึง เป็นอะไรอ่ะจิว" ต้นข้าวหันไปถาม

         "จะอะไรอีกล่ะ กูไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับมึงไง" จิวตอบหน้าหงิกๆ

         "โถ ก็ไปด้วยกันอยู่ดี แค่ตอนแข่งขันทำอาหารกลางค่ายประกวดกันเท่านั้นเอง ที่ต้องแยกกันทำนี่"

         "แต่กูอยากนอนเต้นท์เดียวกับมึงไง กูอยากนอนกอดมึง กูกลัวในป่ามันยุงเยอะ" จิวตอบหน้ามึน

         "บ้าเหรอ"

         ต้นข้าวหันไปเอ็ดใส่ แล้วค่อยเสียงอ่อนอ้อยลง

         "...แต่ถ้ามีโอกาส กูก็อยากให้มึงมากอดนะ"

         ได้ยินต้นข้าวพูดดังนั้น มือก็ไวเท่าหูทันที จิวโอบมือสองข้างเข้าโถมกอดต้นข้าวทันทีที่โต๊ะนักเรียนนั่นเอง ต้นข้าวดิ้นขลุกขลักไปมา (ดิ้นไม่แรงมาก...)

         "เฮ้ยๆๆ มึงสองคนนี่ยังไงกัน มานั่งกอดกันอยู่ได้ ห่านี่ กลางวันแสกๆ" เสียงราชา ดังขึ้นข้างๆ

         จิวยังไม่ได้ปล่อยมือจากกอดต้นข้าว แต่ต้นข้าวก็แกะมือจิวทั้งสองออก จนเป็นอิสระแล้วตอนนี้

         "แห่ะๆๆ ไอ้สมนึกมันจะกัดหูกูน่ะ มีอะไรอ่ะราชา" ต้นข้าวเงยขึ้นไปถามเพื่อน

         ราชา เป็นเพื่อนในกลุ่ม เป็นลูกครึ่งแขก หน้าคมๆ มีไรหนวดหนาๆ เหมือนคนมีเชื้อหนักไปทางอินเดีย ตามแขนตามขา มีขนทั่วตัวไปหมด บ้านอยู่สี่แยกบ้านแขก ห่างจากบ้านของสมนึกไปสักสองสามป้ายรถเมล์ ที่บ้านมีกิจการนำเข้าลูกปัดและเครื่องประดับทองเหลืองจากเนปาลเข้ามาขายที่พาหุรัด

         ซึ่งในการจับฉลากนี้ ราชาได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับต้นข้าว คือกลุ่ม ๓ ส่วนศักดิ์สิทธิ์ หรือเอก ได้อยู่กลุ่มเดียวกับจิวในกลุ่ม ๔  และเนติกับสมพล เพื่อนอีกสองคน ไม่ได้อยู่ในสองกลุ่มนี้ โดนแยกไปอยู่กันคนละกลุ่มที่เหลือ

         "กูมาเรียกมึงไปประชุมลับแยกกลุ่มน่ะสิ เรื่องอาหารของเราที่จะทำแข่งประกวดที่ค่ายอ่ะ มันต้องเตรียมซื้อของไปเลย" ราชาบอก

         "ได้ๆ ไปๆ เดี๋ยวนี้แหล่ะ"

         ต้นข้าวลุกขึ้นยืนเตรียมเดินไป แต่ปลายนิ้วมือที่ไขว้ไว้ข้างหลังยังจับแตะอยู่ที่มือของจิว ซึ่งจิวก็กำมือนุ่มนั้นไว้แน่น ยึกยักยึกยัก สะบัดกันไปมาอยู่สักครู่ กว่าจะปล่อยมือกันออกอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วก็ต่างแยกย้ายกันไปประชุมเตรียมกิจกรรมที่จะมาถึงนั้น


--------------------------------


         เช้ามืดของวันเดินทาง ต้นข้าวมาถึงโรงเรียนตีห้าตรงเวลา แต่คนที่มาก่อนคือจิว ตี๋หน้าใสมานั่งอยู่ข้างรถ บขส. แล้ว เพราะพ่อขี่รถจักรยานยนต์มาส่งตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง นั่งยองๆ เข่าท่วมหัวทำหน้าจ๋อยๆ อยู่ พอเห็นต้นข้าวเดินมา ก็รีบลุกขึ้นยืน

         "คิดถึงจัง" ตี๋หน้าใสยิ้มตาหยี

         "คิดถึงอะไร พึ่งแยกจากกันเมื่อวาน" ต้นข้าวแกล้งทำมึน

         "ก็คนมันคิดถึงนี่" จิวอ้อยใส่ต้นข้าว

         "เรานั่งรถคันเดียวกันหรือป่าวอ่ะ" ต้นข้าวมองขึ้นไปที่รถ บขส. สีส้มคาดแถบสีเงิน บนหลังคารถมีทั้งถังน้ำโพลาริส ลังกระดาษ หม้อไห เตาอั้งโล่ และเข่งใส่ผักบรรทุกอยู่เต็ม เพดานรถมีพัดลม ส่วนหน้ากระจกรถมีกระดาษขาวเขียนไว้ว่า ลาดหญ้า/๓+๔

         "อื่อ คันเดียวกัน แต่ต้องนั่งแยกฝั่งตามกลุ่มอ่ะมึง" จิวทำหน้ามุ่ยๆ

         "ถ้าต้องแยกกัน งั้นกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ก็แยกกันตรงนี้เลยละกัน" ต้นข้าวบอกจิว

         "อื่อ" จิวมองตามหลังต้นข้าวไป ทำหน้าครุ่นคิด

         จิวเดินขึ้นรถไปก่อน มีคนนั่งเกือบเต็มแล้ว กลุ่ม ๔ ของจิวได้นั่งฝั่งขวา กลุ่ม ๓ ของต้นข้าวนั่งฝั่งซ้าย และตอนนี้มันเหลือที่ว่าง ๒ ที่ทั้งฝั่งขวาและซ้ายตรงข้ามกัน มีทางเดินคั่น

         จิวลงไปนั่งฝั่งขวาของตัวเอง หันไปมองคนที่นั่งอยู่ก่อนริมหน้าต่าง คือเพื่อนในห้องที่ชื่อไอ้เกตุ จิวไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ ไอ้เกตุเป็นหนุ่มตัวอ้วนดำ ตัวใหญ่ หน้าตามึนๆ เหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรในโลก

         "ดีเกตุ" จิวทัก

         "ดี" ไอ้เกตุตอบมาแบบมึนๆ แล้วก็หันไปมองนอกรถต่อ ไม่ได้สนใจอะไรจิว

         จิว มองไปที่ไอ้เกตุสักพัก แล้วเอามือปิดปาก...

         "โอ่กกกกก แหวะ" จิวทำท่าจะขย้อน จนไอ้เกตุตกใจ หันมามอง

         "เฮ้ย เป็นอะไรไปมึง"

         "อ้วกกกกก จะอ้วก กูเมารถอย่างแรงอ่ะ" จิวขย้อนอีก

         "นี่รถยังไม่ได้ออกนะ!!" ไอ้เกตุมองนอกหน้าต่างรถแบบ งงๆ

         จิว เงยขึ้นมาแล้ว ก้มลงไปปิดปากต่อ

         "เออๆ กูเมาไว้ก่อนแหล่ะ โอย ไม่ไหวแล้ว ขอกูนั่งริมหน้าต่างหน่อย เผื่อโผล่หน้าออกไปอ้วกอ่ะ"

         ไอ้เกตุ เห็นท่าไม่ค่อยดี เลยขยับตัวสลับที่นั่งกันกับจิว ให้จิวไปนั่งริมหน้าต่างแทน

         "มึงมีผ้าขนหนูไหมไอ้เกตุ" จิวทำหน้าผะอืดผะอม หันมาถาม

         "ไม่มีอ่ะ มึงจะทำไม"  ไอ้เกตุทำหน้าแหยงๆ

         "กูชอบอ้วกเรี่ยราด หันซ้ายหันขวาอ้วกแบบควบคุมไม่ได้อ่ะ เผื่อกูหันไปอ้วกรดใส่มึงไง"

         "เฮ้ย เชี่ยนี่ ยังไงของมึงเนี่ย" ไอ้เกตุร้องโวยวาย

         "ไม่งั้นมึงย้ายไปนั่งฝั่งตรงข้ามนู่นสิ มีที่ว่างอยู่อ่ะ ครูไม่รู้หรอกใครเป็นใคร อยู่กลุ่มไหน" จิวชี้ไปที่นั่งฝั่งซ้ายของอีกกลุ่ม

         ไอ้เกตุ ดูทรงแล้วตัวเองไม่น่าจะปลอดภัยจากระยะอ้วกพุ่ง เลยย้ายไปนั่งอีกฝั่งตามที่จิวบอก ซึ่งทางโน้นเพื่อนอีกกลุ่มที่นั่งอยู่ก่อนแล้วริมหน้าต่างกำลังนั่งหลับสัปหงกอยู่

         ต้นข้าวเดินขึ้นรถมาพอดี เห็นเหลือที่ว่างตรงจิวนั่งอยู่เป็นเบาะสุดท้ายทั้งรถ  แถมไม่ใช่ฝั่งของกลุ่มตัวเองด้วย มองอย่าง งงๆ แต่ก็เดินไปนั่งคู่กับจิว หันซ้ายหันขวาไปมา แล้วถามจิวว่า

         "ทำไมแถวกลุ่มฝั่งกูมันเต็มอ่ะ แล้วตรงนี้ไม่มีคนนั่งหรือ"

         จิวหันหน้ามายิ้มหล่อสดใส ฟันขาวจั๊ว แล้วบอกต้นข้าวหน้าตาเฉยว่า

         "อื่อ ว่าง คนนั่งมันไปอ้วกแตกน่ะ"

         "อ้าวเหรอ" ต้นข้าวยังไม่แน่ใจ หันซ้ายหันขวาอีก

         "มึงนั่งตรงนี้แหล่ะแว่น เออ มึงอยากนั่งริมหน้าต่างไหม จะได้ดูวิวสวยๆ ลมเย็นๆ"

         พูดไม่พูดเปล่า จิวลุกขยับดันให้ต้นข้าวเข้ามาแทนที่โดยไม่ต้องตอบ ต้นข้าวเลยต้องไปนั่งริมหน้าต่าง แล้วจิวย้ายออกมานั่งข้างนอกแทน

         ".............."

         เช้าวันนั้น บนถนนสายมาลัยแมน ที่จะมุ่งตรงไปจังหวัดกาญจนบุรี  รถ บขส.สีส้ม-หวานเย็นหลายคัน ขับฝุ่นตลบตามกันไปเป็นแถวๆ แดดเจ็ดโมงเช้าเริ่มส่องเข้ามาในรถ แต่ไม่มีผลกับหนุ่มน้อยหน้าตาดีสองคนในรถ ที่นั่งเคียงคู่กันหลับสนิท คนหนึ่งเอาหัวซบบนไหล่คนข้างๆ และอีกคนเอียงหัวทับกลับลงไป  ส่วนมือที่วางอยู่ชิดกันบนเบาะ กำลังกุมประสานซึ่งกันและกันแน่น


--------------------------------


รถ บขส.สีส้ม หรือรถหวานเย็น ใช้วิ่งทางไกลระหว่างจังหวัด ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๓๐ / คุณลุงหน้าสุดในภาพ กำลังถือ "ถุงโชคดี" ถุงกระดาษพิมพ์ลายตารางหมากฮอส ใช้ใส่ของต่างๆ ที่นิยมถือกันสมัยนั้น



 
"ถังน้ำโพลาริส" น้ำบรรจุขวดเจ้าแรกในประเทศไทย จนคนสมัยนั้นเรียกน้ำบรรจุขวดทุกยี่ห้อว่า "น้ำโพลาริส" กันหมด เหมือนเรียกผงซักฟอกว่า "แฟ๊บ" ไม่ว่ามันจะยี่ห้ออะไรก็ตาม



 
ส.ค.ส. โรยกากเพชร ที่นิยมใช้ส่งอวยพรกันในช่วงเวลานั้น



 
แบ็งค์กาโม่ ของเล่นธนบัตรปลอม ที่พิมพ์ตัวการ์ตูนลงไปบนหน้าธนบัตร




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:25:57 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
แอร๊ยยยยยยย เขินตามอะ   :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  สคส โรยกากเพชร ตอนเด็กๆชั้นประถม ผมยังทันได้ใช้อยู่นะฮ่าๆ
  รอรออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อืม......นึกถึงความหลัง
สคส.โรยกากเพชร สวยจริงๆ
ตอนซื้อเลือกอยู่นั่นแหละ ทั้งที่สวยทุกอัน
แวะร้านขายทุกวัน
เ่ห็นตาเด็กๆ งี้เป็นประกาย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ถ้า MBK เปิดแล้ว
อยากเห็นจิวกับต้นข้าว
ชวนกันไปเดินเล่น จูงมือกันนะ

รอวันนั้น

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
จิวนี่จัดว่าใจกล้ามากกับความรักแนวนี้กับยุค 80-90

รอ MBK เปิดบริการนะครับ^^

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 03:29:17 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
จิวนี่มันร้ายจริง ๆ หึ ๆๆๆ


รออ่านต่อนะครับ^^

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :m20:

จิวเป็นหระเอกสายตลกใช่ไหม เมารถก่อนรถออกเนี่ย

 :L2: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 21:39:00 โดย Billie »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :laugh:
แล้วไอ่เกตมันจะไม่งงเหรอ
อะไรวะ..กูอุตส่าห์หนีอ้วกเมิงมานั่งเบาะนี้ให้แล้ว
ทำไมเมิงยังจะตามมานั่งใกล้ๆกรูอีกเนี่ยะ
ฮ่าฮ่า

รถยังไม่ออกวิ่ง มันรอจะเมารถล่วงหน้า
แต่พอรถออกวิ่ง อ้าววว เสือกนอนหลับเฉยเลย
 :jul3:

แต่จิวก็ทำสำเร็จ ได้นอนซบกับต้นข้าว
นั่งกกกันไปตลอดทาง ฮิ้ววววว

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  ชอบจิวอะ555 หลอกเพื่อนลงคอ เพื่อจะได้นั่งกับข้าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ขำจิวมาก ฮากร๊ากกกกก เลย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รถยังไม่ออก ชิงเมารถซะก่อน
แย่งที่เพื่อน แถมไล่อีกเฉยเลย
หวานกัน บอกคิดถึงกัน จับมือมุ้งมิ้ง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๑๑ : สวรรค์อยู่ในเต้นท์


ค่ายสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า  จ.กาญจนบุรี


         ก่อนเที่ยง คณะนักเรียนของโรงเรียน ก็เดินทางมาถึงค่ายสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า ซึ่งเต็มไปด้วยภูมิประเทศสูงๆ ต่ำ ทั้งทุ่งแห้งแล้ง ทั้งเนินเขาเตี้ยๆ มีบึงน้ำใหญ่

         ภารกิจในวันนี้ คือช่วงบ่ายนักเรียนจะเข้าอบรมในเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ เพื่อจบลงตรงคำว่าสามัคคี ตอนเย็นจะปล่อยให้ไปทำอาหารกลุ่มมาเสนอเพื่อแข่งขันกัน แล้วรับประทานอาหารร่วมกันรอบกองไฟ นอนค้างคืน แล้ววันรุ่งขึ้นเช้าก็ไปทัศนศึกษาต่อ แล้วเที่ยงก็เดินทางกลับ

         และตอนนี้ บ่ายแก่ๆ แล้ว หลังจบการอบรมอันน่าเบื่อสำหรับเด็กๆ ม.๕ แล้ว  ครูฝึกก็ปล่อยเด็กๆ ให้ไปกางเต้นท์ตามกลุ่ม และเตรียมตัวทำอาหารมาแข่งกันคนละหนึ่งอย่าง รวมทั้งหมด ๔ กลุ่ม ๔ จาน และช่วงก่อนนักเรียนจะแยกกัน จิวดึงเสื้อต้นข้าวให้หยุด แล้วจับมือต้นข้าว

         "ต้นข้าว มึงนอนเต้นท์ไหนอ่ะ" จิวถาม

         "กลุ่มกูน่าจะเต้นท์โซน ๓ หมายเลข ๑๒ นะ กูนอนกับไอ้ราชา อ่ะ"

         "อ่อ ไม่ไกลกันเนอะ" จิวทำหน้ายิ้มๆ

         "หึหึหึ ไกลๆ น่ะดีแล้ว ไปได้แล้ว ไปทำอาหารมาแข่ง  เอ้อจิว กลุ่มมึงทำอาหารอะไรอ่ะ" ต้นข้าวถาม

         "โหย บอกก็กลัวดิ ไม่บอกโว้ย มีทีเด็ด" จิวรีบคุยโว

         "มึงก็คอยดูของกลุ่มกูแล้วกัน" ต้นข้าวทำหน้ามีชัยชนะ

         ต้นข้าว กลับมาที่กลุ่ม ตรงกลางกลุ่มเป็นลานโล่งวงกลม สำหรับทำกิจกรรมกลุ่ม ส่วนรอบๆ จะล้อมด้วยเต้นท์นอนของกลุ่มนี้  ซึ่งทั้ง ๔ กลุ่ม เป็นรูปแบบเดียวกันหมด

         ตอนนี้ลานกลางกลุ่มของต้นข้าว ตั้งโต๊ะไม้ขนาดยาวเอาไว้เรียบร้อย บนโต๊ะมีส่วนผสม เครื่องปรุง ต่างๆ รออยู่ บนพื้นทางหัวโต๊ะ ตั้งเตาอั้งโล่เรียงกัน ๕ เตา ซึ่งจุดเตาติดถ่านไว้เรียบร้อย

         เมนูของกลุ่มต้นข้าวที่ทำลงแข่ง คือยำไข่ดาว เพราะคิดว่าช่วยกันทำเป็นจำนวนมากๆ ได้ คนทอดไข่ดาวก็ทอดไป ใช้ไข่เป็ด ๑๐๐ ฟอง ทอดน้ำมันท่วมๆ ไฟแรงๆ ให้ไข่ขาวกรอบกว่าปกติ แล้วสะเด็ดน้ำมันตั้งพักไว้

         นักเรียนในกลุ่มอีกชุดหนึ่งก็ลวกกุ้ง รวนหมูสับ ลวกหมูยอ แล้วเอามาวางโปะข้างบนของไข่ดาวทุกฟอง

         ส่วนคนทำน้ำยำก็ทำไป ซอยพริกขี้หนู ซอยหอมหัวใหญ่ ซอยต้นหอม หั่นมะเขือเทศ บีบมะนาว ใส่น้ำปลา น้ำตาล ผสมกันแล้วเอามาราดบนไข่อีกที โรยหน้าด้วยผักชี เป็นอันเสร็จ ตั้งชื่อเข้าประกวดว่า "ยำฮันนีมูน"

         เมื่อเสร็จเรียบร้อย ก็ช่วยกันยกออกไปที่ลานรอบกองไฟ เอาจานเดี่ยวๆ ที่จัดสวยสุดหนึ่งจานเป็นตัวอย่างไปวางบนโต๊ะประกวด พอวางเสร็จ ต้นข้าวก็คิดว่าของตัวเองน่าจะแพ้แน่ๆ

         เพราะบนโต๊ะมีจานของกลุ่ม ๑ และ ๒ วางรออยู่แล้ว จานหนึ่งเป็นน่องไก่ทอดธรรมดาๆ ส่วนของอีกกลุ่มหนึ่ง ดูอลังการมากๆ เป็นผัดอะไรสักอย่าง เห็นข้างบนที่ผัดราดเป็นพริกชี้ฟ้า กะปิ ปู กุ้ง หอยลาย ปลาหมึก ส่วนข้างล่างเป็นเส้นมาม่า รองพื้นจานด้วยผักกาดหอม กลิ่นหอมโชยตลบ มีป้ายเขียนไว้ว่า "มาม่าผัดทะเลใต้"

         "โห แม่งขนทะเลมาถึงเมืองกาญจน์เลยนะ ลงทุนฉิบหาย" เสียงนักเรียนคนหนึ่งพูดดังๆ ออกมา

         "แล้วของกลุ่ม ๔ ล่ะ" ใครอีกคนถามขึ้น

         "มาแล้ว มาแล้ว" เสียงจิวนำมาก่อนเลย พร้อมถือจานมาวางบนโต๊ะ ทุกคนก็ชะโงกไปดู

         ส่วนต้นข้าวเมื่อมองเห็นก็แอบอมยิ้มจนแก้มจะปริอยู่คนเดียว

         เพราะในจานของกลุ่ม ๔ ก็คือ "ลูกชิ้นชุบแป้งทอด" ของโปรดของคนที่ยืนอมยิ้มอยู่นี่เอง

         ลูกชิ้นชุบแป้งทอดของกลุ่ม ๔ เป็นลูกชิ้นทอดที่แปลกตา ใช้ลูกชิ้นหลากหลายเสียบสลับลงไปในไม้เดียวกัน ทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลาหมึก ลูกชิ้นสาหร่าย ทอดชุบแป้งอย่างดี วางเคียงมากับน้ำจิ้มพริกตำ แบบน้ำจิ้มทะเล หลายคนกลืนน้ำลายเอื๊อก!!

         จิว หันมามองหาต้นข้าว เมื่อเห็นแล้วจากระยะไกล ก็ชี้ไปที่จานลูกชิ้น แล้วเอามือขึ้นมาชี้ที่ต้นข้าว ทำหน้าภูมิใจ เหมือนตัวเองชนะแล้วซะอย่างนั้น ยิ้มยิงฟันจนตาปิดยิบหยีเหมือนเด็กเล็กๆ

         หึหึ!! ทำไมต้นข้าวจะไม่รู้ ดูก็ออกว่านี่ไอเดียใคร ไม่ได้คิดจะทำลงแข่งหรอกนั่น แค่ทำมาเอาใจคนชอบกินลูกชิ้นชุบแป้งทอดเท่านั้น --คิดแล้วก็แทบจะอิ่มมื้อค่ำโดยไม่ต้องหยิบขึ้นมากิน มันอิ่มในอก จิวชนะแล้วล่ะ ชนะใจต้นข้าวนี่


--------------------------------


         หลังจากนักเรียนทั้งหมด ทานอาหารที่ช่วยกันทำร่วมกันแล้ว ก็ประกาศผลรางวัลทำอาหาร  ครูตัดสินให้เท่ากันหมด ได้รางวัลทั้งสี่กลุ่ม โดยให้เหตุผลของความสามัคคี ตามโจทย์ที่มาอบรมกันในวันนี้ หลังจากนั้นก็เล่นเกมส์เล็กๆ น้อยๆ รอบกองไฟ

         ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ ๓ ทุ่มแล้ว กองไฟค่อยๆ มอดลง ครูกล่าวปิดงานคืนนี้ แล้วให้นักเรียนเตรียมตัวไปอาบน้ำเข้านอน แต่ยังมีกิจกรรมสุดท้าย คือให้นักเรียนทุกกลุ่มจับคู่กันฝึกการเฝ้าเวรค่ายตอนกลางคืน เพื่อลองหัดช่วยกันป้องกันภัยให้เพื่อนๆ และทรัพย์สิน โดยมีครูและทหารเดินเวรประกบนักเรียนให้ไกลๆ อีกทีนึง

         โดยคนจับคู่ จะอยู่เวรละ ๑๕ นาที ครบแล้วไปปลุกคนเข้าเวรต่อ กิจกรรมนี้จะสิ้นสุดแค่ตีหนึ่งเท่านั้น

         จิวได้นอนเต้นท์เดียวกับไอ้เกตุ เพื่อนบนรถที่ขามาเปลี่ยนที่นั่งกัน ไอ้เกตุทำหน้าเบื่อๆ ตอนจิวชวนไปอาบน้ำ เพื่อรอมาเข้าเวรที่จับฉลากได้เวรชุดสุดท้ายตอนเที่ยงคืนสี่สิบห้า

         "ง่วงนอนฉิบหายเลยเนี่ย จะให้อยู่เวรทำไมวะ ทหารก็เยอะแยะเต็มค่ายไปหมด พวกครูก็เดินเวรเองอยู่แล้วนี่ ไม่มีใครมาปล้นหรอก มืดก็มืด ยุงก็เยอะ มีผีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดึกๆ ดื่นๆ" ไอ้เกตุบ่น

         จิวหูผึ่งขึ้นมาทันที

         "มีผีด้วยเหรอมึง"

         "เออสิวะ" เกตุตอบ "นี่ค่ายรบนะเว้ย คนมารบกันสมัยโบราณล้มตายที่นี่ไปตั้งเท่าไร" ไอ้เกตุพูดไปก็กลอกตาซ้ายขวาในเต้นท์ไป

         "แล้วมึงกลัวผีมะ" จิวรีบถาม

         "กลัวสิ เชี่ย ผีกะกูนี่ขออยู่ห่างๆ กันเลย นี่กูไม่อยากอาบน้ำหรอกนะ แต่กูไม่กล้านอนในเต้นท์คนเดียวตอนมึงไปอาบน้ำ งั้นกูไปด้วยละกัน"

         "เสร็จกู...เอ้ย ไม่ใช่...มาสิ ถ้ามึงกลัวก็ถือไฟฉายมาด้วยแล้วกัน"

         จิวเปิดเต้นท์คลานนำออกไปก่อน ไอ้เกตุเลยไม่ทันเห็นรอยยิ้มมีเลศนัยของจิว

         หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็เดินกลับเต้นท์ มีเดินสวนกับเพื่อนคู่อื่นๆ ที่ไปอยู่เวรบ้างหลายคู่  พอเปลี่ยนชุดเสร็จ ผลัดกันหลับๆ ตื่นๆ จนเที่ยงคืนครึ่ง ทั้งสองก็ออกไปที่จุดอยู่เวร รอบนอกของกลุ่มเต้นท์ ตรงต้นไม้ใหญ่มหึมา ในมุมมืดตะคุ่มๆ มันมีสองต้นขึ้นอยู่เคียงกัน

         พอจิวไปถึงก็ก้มลงกราบพื้น ท่องอะไรงึมงำๆ ไอ้เกตุมองอย่างหวาดๆ

         "มึงกราบอะไรอ่ะ สมนึก" เกตุเริ่มเสียงสั่น

         "จุ๊ๆๆ มึงพูดเบาๆ ลงมากราบนี่ มึงเห็นต้นไม้สองต้นนั้นไหม ไกลๆ โน่นอ่ะ ดูไกลๆ เหมือนรูปคนกำลังขี่ม้าศึกรบกันอยู่เลย" จิวกระซิบเบาๆ

         ไอ้เกตุรีบทำตัวเบาสุด แล้วก้มลงไปกราบพื้นตาม ตัวเริ่มสั่นพั่บๆ

         "กราบเสร็จ มึงมานั่งเงียบๆ ตรงนี้ อย่าพูดอะไรนะไอ้เกตุ" จิวกรอกตามองไปซ้ายไปขวา

         สองคนนั่งนิ่งๆ ในความมืดสักพัก มีเสียงดังแกรบๆ ข้างหลัง เหมือนใบไม้แห้งมีคนเหยียบ ไอ้เกตุเริ่มทำหน้าหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ หันซ้ายหันขวาไม่หยุด จนอีกสักพักหนึ่ง เสียงจิวร้องอย่างตกใจขึ้นว่า...

         "เฮ้ยยยยยยยยย~"

         "ผี!!!!"

         ไอ้เกตุลุกยืนทันทีที่ได้ยินเสียงจิวร้อง เตรียมจะถลาออกวิ่งแล้ว จิวรีบคว้ามือไว้ทัน

         "เฮ้ย มึงนั่งก่อน รอก่อน กูฟังผีพูดให้จบก่อน" จิวทำตาแข็งๆ ค้างๆ

         "ผะ ผะ ผะ ผี พูดอะไรกับมึง" เกตุเริ่มสั่นหนักเข้า

         "ผีมันบอกว่า มันจะตามกูไปนอนในเต้นท์กับกูด้วยว่ะ" จิวยกมือขึ้นป้องหู เหมือนจะฟังอะไรสักอย่าง

         "มันบอกว่า มันแค้นกู จะตามไปเฝ้ากูตอนนอน จะบีบคอกู" จิวเอามือบีบคอตัวเอง มองไปบนอากาศทำตาเหลือกๆ

         เกตุเหงื่อเริ่มแตก "ฉิบหาย!!! แล้วกูจะทำยังไงเนี่ย"

         "เอางี้ดีไหมไอ้เกตุ กูเป็นห่วงมึง มึงไปนอนอีกเต้นท์นึงก่อนนะ เช้าค่อยกลับมา เต้นท์นั้นปลอดภัยสำหรับมึง"

         "ได้ๆๆ เต้นท์ไหน กูจะไปเลย" เกตุเตรียมวิ่งอีกแล้ว

         "มึงเดินไปโซน ๓ เต้นท์เบอร์ ๑๒ นะ ไปหาไอ้ราชา มันช่วยมึงได้ มึงไปปลุกคนที่นอนเต้นท์เดียวกับไอ้ราชาให้มานอนเต้นท์กูแทน แล้วมึงก็นอนที่นั่น ไป มึงรีบไป" จิวสั่ง

         "แล้วทำไม ไอ้ราชาจะช่วยกูได้ล่ะ" คนกลัวยังไม่วายสงสัย

         "โง่จริงมึงนี่ พ่อไอ้ราชาเป็นหมอผีแขก มึงไม่รู้เหรอ ไปเร็วๆ" จิวทำหน้าจริงจัง

         สิ้นคำปุ๊บ ไอ้เกตุก็เผ่นแน่บไปทันที  ทิ้งให้คนเจ้าเล่ห์หัวเราะอักๆๆ อยู่คนเดียว

 
--------------------------------


         "เจ้าเล่ห์จริงนะ" ต้นข้าว ที่กำลังเข้าเต้นท์จิวมา พูดขำๆ

         ตอนนี้จิว นอนยิ้มอยู่ในเต้นท์ มองต้นข้าวตาประกายวาว

         "ถ้าไม่ฉลาด จะมีคนมานอนให้กอดถึงเต้นท์เลยหรือ"

         "กูว่าพรุ่งนี้มึงโดนไอ้เกตุ กับไอ้ราชา รุมเตะมึงแน่ๆ" ต้นข้าวล้มตัวลงนอนข้างๆ

         "ทำไม มันจะเตะกูเรื่องอะไรล่ะ"

         "อ้าว ก่อนกูเดินออกมาจากหน้าเต้นท์ ได้ยินไอ้เกตุมันถามราชาเสียงสั่นเลยว่า พ่อมึงเป็นหมอผีเหรอ แล้วเสียงไอ้ราชาก็ตวาดมาว่า พ่องมึงสิเป็นหมอผี!! พ่อกูขายกำไลแขกอยู่พาหุรัดเว้ย ค-ว-ย"

         "ฮ่าๆๆๆๆๆ" จิวหัวเราะจนตัวโยน หัวไหล่สั่นกึกๆ

         "มึงก็ระวังให้ดีเหอะ" ต้นข้าวแอบค้อนใส่คนนอนข้างๆ

         "ช่างแมร่งมัน มาคุยเรื่องเราดีกว่า" จิวหันตัวไปใกล้ แล้วเริ่มกอดต้นข้าว "ขอกอดหน่อย"

         "กอดอย่างเดียวนะเว้ย ครูกับทหารเดินยามอยู่รอบเต้นท์เนี่ย" ต้นข้าวเตือน แต่ก็ไม่ได้ปัดมือจิวออก

         "รู้แล้วน่า เต้นท์นี่ก็ไม่มีฝาล็อค ใครจะทำอะไรได้ล่ะ"

         "มึงนี่ก็แปลกเนอะ บ้านกูก็มี ห้องกูก็มี กอดกันง่ายจะตาย จะทำให้มันวุ่นวายทำไมวะ" ต้นข้าวเอามือไปลูบแขนจิวที่กอดตัวเองอยู่เบาๆ

         "กูไม่ชอบของง่าย กูชอบอะไรที่ได้มายากๆ น่ะ" จิวกอดต้นข้าวแน่นขึ้น แล้วพูดต่อว่า

         "แว่น กูขอมึงอย่างนะ กูรู้ มึงอ่ะเป็นคนง่ายๆ แต่กูขอนะ มึงอย่า -ง่าย- สำหรับใครก็ได้ทุกคนนะ" จิวพูดน้ำเสียงจริงจัง

         ต้นข้าวกอดจิวตอบแน่นขึ้น

         "รับปากกูสิ เงียบทำไมอ่ะ" จิวเตือน

         "อือ"

         "ขอกูหอมแก้มทีนึงนะ" จิวกระซิบ

         "หอมอย่างเดียวนะ" อีกคนกระซาบไม่แพ้กัน

         ไม่มีเสียงตอบ แต่ลมหายใจร้อนๆ มาอยู่ตรงแก้มต้นข้าวแล้ว มันหยุดนิ่งอยู่ตรงแก้มสักอึดใจใหญ่ เหมือนอยากจะซึมซาบกลิ่นให้ติดอยู่ปลายจมูกไปนานๆ

         ต้นข้าวหลับตาลง

         หลังจากนั้น ความร้อนจากปลายจมูกของอีกฝ่าย เริ่มลากขึ้นมาแผ่วๆ ลากช้าๆ จากแก้มโดยไม่ได้ยกจมูกออก มันเลื่อนมาเรื่อยๆ จนไออุ่น และสัมผัสได้ของเนื้อปากนุ่ม เริ่มมาอยู่ที่ริมฝีปากล่างของต้นข้าว มันขบลงไปเบาๆ แล้วหยุดนิ่ง

         สักครู่หนึ่ง ไอร้อนก็เริ่มเลื่อนไปที่ริมฝีปากบนของต้นข้าว ตอนผ่านร่องปาก ปากต้นข้าวเผยออ้าออกเล็กน้อย แต่ไอร้อนนั้นผ่านขึ้นไปก่อน เนื้อปากนุ่มไปหยุดขบเม้มอีกเนิ่นนานที่ริมฝีปากบน

         แล้วมันเคลื่อนที่อีกแล้ว ครั้งนี้มันเลื่อนลงมาแล้วหยุดกลางปากเลย สัมผัสครั้งนี้เริ่มไม่อุ่นแล้ว มันเริ่มเป็นไอร้อนขึ้นเรื่อยๆ สัมผัสเนื้อปากแตะกันแผ่วๆ เบาบาง เปิดช่องให้ความร้อนค่อยๆ ลอยออกมาผสมระหว่างกัน

         ทิ้งระยะ แบบให้ใจเต้นโครมครามขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายผู้จู่โจม ก็กดริมฝีปากแนบสนิทลงไป บดแน่นขึ้น บดแน่นขึ้น จนไม่เหลือช่องว่างใดๆ แล้ว

         "................"

         ถ้าหากตรงทุ่งลาดหญ้านี้จะเคยเป็นสมรภูมินรก หนักหนาสาหัสมาขนาดไหนในอดีต  คงต้องยกเว้นพื้นที่ในเต้นท์เล็กๆ ตรงนี้ คืนนี้

         เพราะตอนนี้มันเป็นสวรรค์น้อยๆ ไปแล้ว


--------------------------------


         เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันที่สดใส แดดร้อนแรงของทุ่งเมืองกาญจน์ กลายเป็นสีชมพูในสายตาของหนุ่มน้อยจิวและต้นข้าว  และตอนนี้ทั้งสองกำลังเดินไปขึ้นรถบัสสีส้มกันแล้ว เพื่อไปทัศนศึกษาต่อ

         "แว่น นี่ครูเค้าจะพาไปไหนต่ออ่ะ กูไม่ได้อ่านตารางเดินทางมา" จิวถามอย่างขี้เกียจ อ้าปากหาว

         "ไม่รู้เหมือนกัน เห็นว่าจะพาไปสะพานอะไรไม่รู้อ่ะ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่ทำจากเหล็ก"

         "อะไรวะ สะพานทำจากเหล็ก จะไปดูทำไม ที่สะพานพุทธยอดฟ้าแถวบ้านมึงก็มี ต้องถ่อมาดูถึงนี่ ง่วงนอนฉิบหาย"

         "ก็ใครใช้ให้นอนดึกล่ะเมื่อคืนน่ะ" ต้นข้าวหันไปยิ้มๆ ประกายตาวิบวับ

         "ต่อให้ไม่ได้นอนอีกสิบคืน ถ้ามีโอกาสแบบในเต้นท์เมื่อคืน กูยอมว่ะ" จิวก็มีประกายฉ่ำในตาไม่แพ้กัน
 

--------------------------------

 
         "เอาล่ะนะคะนักเรียน" ครูสาวที่ตอนนี้กลายเป็นไกด์แล้ว พูดผ่านโทรโข่งบนรถ

         "เดี๋ยวเราจะลงไปเที่ยวกันที่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว กันนะคะ ทางจังหวัดกาญจนบุรี พึ่งโปรโมทให้ชวนกันมาเที่ยวตอนต้นปี ๒๘ นี้เองค่ะ

         เมื่อก่อนนี้ สะพานนี้ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหรอกค่ะ แต่พอมีภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง The Bridge on the River Kwai เข้ามาฉายในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แล้วโด่งดังมาก สะพานนี้เลยพึ่งจะมาเป็นที่รู้จัก ก่อนพวกนักเรียนจะเกิดเมื่อสิบปีนี้เองค่ะ ชื่อของสะพานข้ามแม่น้ำแควนี้ ก็พึ่งจะตั้งขึ้นตอนนั้นเอง ตั้งตามชื่อหนัง ก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อเรียกนะคะ

         สะพานนี้มีความสำคัญมากนะคะ คือว่าเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง บลา บลา บลา..."

         เสียงครูไกด์ ลอยผ่านหูกล่าวถึงประวัติของ "สะพานเหล็ก" ตามที่จิวและต้นข้าวเห็นว่าไม่เห็นน่าสนใจสักนิด ตอนนี้ทั้งคู่นั่งตัวชิดติดกันบนเบาะรถเดียวกัน (ซึ่งแน่นอนว่า ไอ้เกตุ ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่นั่งตรงนี้อีกแล้ว --คงละเหี่ยใจเต็มที่แล้วกับคู่นี้)

         และต้นข้าวกำลังชะโงกมองออกไปนอกรถ ดูวิวสองข้างทางเพลิน ซึ่งเป็นทุ่งนาเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา

         "เอาหัวกลับเข้ามา อย่าชะโงกออกไปนอกรถ อันตราย มีรถสวนมา"

         จิวบอกต้นข้าว พร้อมกับเอามือไปจับตรงหน้าผากของต้นข้าวเบาๆ ดึงหัวกลับเข้ามาในรถ แล้วเอามือกดตรงหน้าผากของต้นข้าวให้มาเอนซบกับไหล่ของจิว และขณะนี้ รถเริ่มเลี้ยวเข้าจอดที่ลานโล่งๆ ริมแม่น้ำแล้ว

         "นักเรียนคะ ตามที่ครูเล่าประวัติของสะพานข้ามแม่น้ำแควไปแล้วนะคะเมื่อสักครู่บนรถ เดี๋ยวลงไปข้างล่าง ครูไม่ตามไปเล่าแล้วนะคะ มันเป็นที่โล่ง เสียงโทรโข่งครูจะได้ยินไม่ทั่วกัน

         นักเรียนก็ไปเดินดูตามจุดที่ครูบอกนะคะ แยกย้ายกันไปหลายๆ จุด จะได้ไม่แย่งวิวกัน และเดี๋ยวครูนิล จะมาคอยเดินถ่ายรูปให้นักเรียนด้วยค่ะ ใครอยากถ่ายรูป เรียกครูนิลนะคะ"

         เสียงครูผ่านโทรโข่งสุดท้ายก่อนรถจอดสนิท นักเรียนเริ่มทยอยลงจากรถ และมายืนอยู่ตรงปลายสะพาน ที่ได้ยินมาว่ามีประวัติศาสตร์อันขื่นขม
 
         "สะพานข้ามแม่น้ำแคว"


--------------------------------


ภาพยนตร์เรื่อง The Bridge on the River Kwai ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่ทำให้สะพานนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:26:24 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
จิววางแผนอะไรอีกอะ  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ตลกมากๆ จิวแกล้งเกตุ 555

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:
o18 แผนนี้คือจะหาเรื่องนอนเต้นกับข้าว ป๊ะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไอ่ตี๋เจ้าเล่ห์
แต่น่ารักอ่ะ

อิจฉาข้าว
อิอิ

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
อ่านเจอลูกชิ้นปุ๊ป รู้เลย....

ติดตามต่อไปครับ^^

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จิว วางแผนไปหาแว่นน่ะแหละ

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
จิวเป็นไรแน่ๆ เลยอะ   :mew4: :mew4:

= ช่วยกันลุ้นนะคะ


มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ
ไม่ใช่แค่ยิ้มตาหยี..ส่งมาให้เพื่อกลบเกลื่อนบางอย่าง

รักของสองคนนี้
คงจะยุ่งอีกนาน
เหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งมาราธอน
ไปยังภูเขาโอลิมปัส
หึหึ
 :hao7:

+1 จ้า

= ของดี ต้องได้มายากๆ หน่อยค่ะ อิอิ


โอ้......สัญญาหน้าตึกมาบุญครอง
นครหินอ่อนเป็นพยาน
เอิ่ม.....ฟ้าฝนเป็นพยานอีกแรง
รักนี้ยืนยาวแน่แท้   :L1: :L1: :L1:
จิว นายกล้ามาก  :mew1: :mew1: :mew1:
ต้นข้าว ตอบรับฉับไว ดีมาก ถูกใจ ไม่เรื่องมาก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มีจูบประทับยืนยันซะด้วย  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= เป็นการขอความรักที่อลังการกันเลยทีเดียว


อร๊ายยยยยยยย เป็นแฟนกันแล้ว   :mew1: :mew1: :mew1:
โล่งอกที่ไม่มีเรื่อง
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

= น่าดีใจแทนทั้งคู่นะคะ


แสนนุ่มนวล ชวนให้เคลิ้ม ประเดิมรัก
เพิ่งรู้จัก ไม่มักคุ้น ชวนลุ้นฝัน
หนึ่งคือหนุ่ม ชวนอีกหนุ่ม กุมใจกัน
พร้อมมุ่งหน้า จะฝ่าฟัน ไม่หวั่นเกรง

อูยยยย อ่านตอนนี้แล้ว
คนอ่านใจแตก อยากจะหาคนมาสัญญากันบ้าง
 :pighaun:

ตึกไหนกำลังจะสร้าง
มีอีกไหม
จะได้ขอให้มาเป็นพยาน
อิอิ

= สงสัยใน พ.ศ. นี้ ต้องหาตึกที่สูงที่สุดในประเทศแทนแล้วค่ะ อิอิ


  ชอบตอนนี้จัง บรรยายได้ซึ้งถึงความรักที่ออกจากใจของทั้งคู่

= ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ


ผมอ่านแล้วชอบมากเลยครับ ห้างนี้เป็นห้างโปรดผมสมัยผม ม.ปลาย และเป็นความทรงจำส่วนสำคัญของความรักตัวเองด้วย

อ่านแล้วยิ้ม คิดถึงมาก ถึงผมจะไม่ได้แก่เท่าเนื้อเรื่องที่เขียนมา แต่ช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมาของผม ก็ MBK นี่แหละครับ ที่ให้ผมกับแฟนเดินเล่น กินข้าว ดูหนัง และโซนโปรดผมคือชั้น 4 ถ้าไม่ลากผมออก ก็น่าจะอยู่ตั้งแต่เปิดยันปิดห้างได้แน่นอน

แถมบางช่วงมีกล่าวถึงแถวบ้านผมด้วย ที่ชอบสุดคือ หลายสิ่งในเรื่อง ถึงจะเก่ากว่าวัยตัวเอง แต่ก็ตรงกับสมัยที่ผมกับแฟนผมเริ่มคบกันใหม่ ๆ ความไม่ไฮเทคในบางอย่าง ความที่ต้องรอ ความรู้สึกที่ไม่ฉาบฉวยเวลาเราจะรักกัน (ถึงยุคผมจะเริ่มเป็นยุค WWW กับ ฟองสบู่ .com แล้วก็ตาม) มีความ Analog หลายสิ่งที่ผมกับแฟนก็ยังทันได้สัมผัสอยู่บ้าง ถึงจะไม่สุด ๆ แบบในเนื้อเรื่องนี้ก็ตาม

สนุกครับ รออ่านจิวกับต้นข้าวต่อไปนะครับ^^

= ขอบคุณมากๆ ค่ะ และยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เรื่องของจิวและต้นข้าว จะทำให้ระลึกถึงความหลังอันแสนหวานครั้งนั้นได้อีกค่ะ


แอร๊ยยยยยยย เขินตามอะ   :o8: :o8: :o8:

= อิอิอิอิอิอิ......


:L2: :L1: :pig4:

น่ารัก

= คนเขียนใช่ไหมคะที่น่ารัก 555+


  สคส โรยกากเพชร ตอนเด็กๆชั้นประถม ผมยังทันได้ใช้อยู่นะฮ่าๆ
  รอรออ่านตอนต่อไปคับ

= คิดถึง ส.ค.ส. แบบนั้นเนอะ


อืม......นึกถึงความหลัง
สคส.โรยกากเพชร สวยจริงๆ
ตอนซื้อเลือกอยู่นั่นแหละ ทั้งที่สวยทุกอัน
แวะร้านขายทุกวัน
เ่ห็นตาเด็กๆ งี้เป็นประกาย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= ใช่แล้วค่ะ มีความสุขม๊ากมาก ตอนนั้น อิอิ


ถ้า MBK เปิดแล้ว
อยากเห็นจิวกับต้นข้าว
ชวนกันไปเดินเล่น จูงมือกันนะ

รอวันนั้น

= เรามารอให้ถึงวันนั้นกันค่ะ


จิวนี่จัดว่าใจกล้ามากกับความรักแนวนี้กับยุค 80-90

รอ MBK เปิดบริการนะครับ^^

= มาช่วยกันรอนะคะ


จิวนี่มันร้ายจริง ๆ หึ ๆๆๆ


รออ่านต่อนะครับ^^

= ร้าย แต่น่ารักเนอะ 555+


:m20:

จิวเป็นหระเอกสายตลกใช่ไหม เมารถก่อนรถออกเนี่ย

 :L2: :pig4:

= 55555555+


:impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
:mew1: :mew1: :mew1:


:laugh:
แล้วไอ่เกตมันจะไม่งงเหรอ
อะไรวะ..กูอุตส่าห์หนีอ้วกเมิงมานั่งเบาะนี้ให้แล้ว
ทำไมเมิงยังจะตามมานั่งใกล้ๆกรูอีกเนี่ยะ
ฮ่าฮ่า

รถยังไม่ออกวิ่ง มันรอจะเมารถล่วงหน้า
แต่พอรถออกวิ่ง อ้าววว เสือกนอนหลับเฉยเลย
 :jul3:

แต่จิวก็ทำสำเร็จ ได้นอนซบกับต้นข้าว
นั่งกกกันไปตลอดทาง ฮิ้ววววว

= น่าอิจฉาที่สุด


  ชอบจิวอะ555 หลอกเพื่อนลงคอ เพื่อจะได้นั่งกับข้าว

= จิวน่าร๊ากกกกก ที่สุด


ขำจิวมาก ฮากร๊ากกกกก เลย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รถยังไม่ออก ชิงเมารถซะก่อน
แย่งที่เพื่อน แถมไล่อีกเฉยเลย
หวานกัน บอกคิดถึงกัน จับมือมุ้งมิ้ง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= น่ารักเนอะ อิอิอิ


จิววางแผนอะไรอีกอะ  :hao3: :hao3:

= แผนสูงเนอะ หนุ่มน้อยคนนี้ 555+


ตลกมากๆ จิวแกล้งเกตุ 555

= สรุปแล้ว เกตุนี่น่าสงสารสุด ตกเป็นเหยื่อของหนุ่มน้อยจิว อิอิอิอิ


:L2: :pig4:
o18 แผนนี้คือจะหาเรื่องนอนเต้นกับข้าว ป๊ะ

= นั่นสิเนอะ แผนสูงจริงๆ หมอนี่  :hao7:


ไอ่ตี๋เจ้าเล่ห์
แต่น่ารักอ่ะ

อิจฉาข้าว
อิอิ

= เขียนเอง ก็เริ่มหลงรักจิวเองแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ


อ่านเจอลูกชิ้นปุ๊ป รู้เลย....

ติดตามต่อไปครับ^^

= แผนสองแผนสาม เยอะที่สุด หนุ่มจิวนี่ อิอิอิ
ขอบคุณมากนะคะ ที่ติดตามเรื่องกัน  :impress2:


จิว วางแผนไปหาแว่นน่ะแหละ

= นั่นสินะคะ ดูท่าทาง แผนสูงจริงๆ น่ารักเนอะ  :-[


-----------------------------

ขอบคุณทุกๆ ท่านมากนะคะ  :mew1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2017 21:39:07 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 03:33:21 โดย กำปงพิราเทวี »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด