HEAVY WEIGHT รัก ▪️ หนัก ▪️ มาก: HEAVY WEIGHT: แจ้งข่าวค่ะ (P.21) (09/10/19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: HEAVY WEIGHT รัก ▪️ หนัก ▪️ มาก: HEAVY WEIGHT: แจ้งข่าวค่ะ (P.21) (09/10/19)  (อ่าน 170065 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คิดถึงหนูพุกมากเลย

ออฟไลน์ Airin_and_Arpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +266/-3
HEAVY WEIGHT รัก ▪️ หนัก ▪️ มาก [Story by ARPO]

บทที่ 3

HEAVY WEIGHT: 3 KG.

 

“ย๊าก!” คือไม่เข้าใจว่าทั้งชมรมร้องเปล่งพลังพวกนี้เพื่ออะไร ผมนั่งปัดแมลงวันไปเรื่อยเปื่อย หลังจากไอ้ฟาโรห์มันไปเข้าประชุมกับน้องปีหนึ่งของมัน หรือที่เรียกว่าเอาหนังหน้ามันไปให้น้องเห็น เด็กๆจะได้กระชุ่มกระชวย มันก็รีบแจ้นออกมาโดยบอกพวกพี่ว่ามันมีซ้อมคาราเต้ ซึ่งพวกพี่เขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นนักกีฬาทีมชาติของชมรม เลยปล่อยตัวออกมาได้อย่างดาย อีกอย่างคณะมันเป็นอินเตอร์เพราะงั้นมันไม่ได้มีอะไรมากเหมือนภาคปกติ


แต่วันนี้ผมโชคดีมากที่ไม่ต้องมานั่งซ้อมกับมันด้วยเพราะว่าวันนี้พวกพี่เขาอยากจะซ้อมท่าให้มันเพื่อการแข่งที่กำลังจะใกล้เข้ามา แล้วพวกพี่ทีมชาติคนอืนๆก็ค่อนข้างซ้อมหนัก วันนี้เลยไม่ได้เปิดชมรมให้คนอื่นมาซ้อมด้วย


คือปกติทางชมรมจะจัดให้คนภายนอกทั่วไปที่อยากจะมาเรียนหรือออกกำลังกายได้มาเข้าร่วมซ้อม เขาจะจัดคนฝึกให้ ก็เป็นพวกสายดำทีมชาตินั่นแหละครับ


ไอ้ฟาโรห์อยู่ในชุดคาราเต้สีขาวผ่องตัดกับสีผิวทองแดงของมัน สาบบเสื้อแหวกจนเห็นแผ่นอกมีไรขนเรียงตัวสวยตามสไตล์หนุ่มอาหรับ สายคาดเอวสีดำสนิทมีตัวหนังสือสีทองอยู่บนสาย


ฟาโรห์มันเรียนคาราเต้มาตั้งแต่ก่อนมันเข้ามหาลัยแล้ว ตามที่มันเคยเล่าให้ผมฟังนะครับ


ตอนนี้มันกำลังซ้อมท่ารำเป็นทีมที่มันจะใช้แข่งกับพี่ในทีมที่เป็นปีสามอีกสองคน ส่วนผมก็มานั่งเป็นซากกะเบืออยู่เนี่ย เฝ้ากระเป๋าแลสัมภาระของมัน ตอนแรกผมจะกลับหอก่อน แต่ว่าอยู่ๆหม่าม้าก็โทรมาบอกว่ามวันนี้ให้กลับบ้านหน่อยเพราะว่าวันนี้วันเกิดอากู๋ เขาเลยจัดเลี้ยงกันนิดหน่อย


หม่าม้าบอกให้เอาไอ้แขกมาด้วย ไอ้แขกมันไปเสนอหน้าที่บ้านผมมาหลายรอบแล้วจนสนิทกับคนในบ้านดี บางวันอาม่าก็เอามันไปเฝ้าร้านทองตรงถนนเยาวราชด้วยกัน ผมปรามาสไว้ว่าไม่ใช่ลูกค้ากลัวหน้าแขกๆของมันจนไม่กล้าเข้าร้าน แต่เปล่าเลยสรุปคือ ลูกค้าเข้าร้านเป็นว่าเล่นจนอาม่ายิ้มหน้าบาน บอกว่าวันหลังจะให้มาเฝ้าใหม่แล้วอาม่าจะแถมสร้อยทองหนึ่งบาทให้มันด้วย


เดี๋ยวก่อน!


นี่มันมาแป๊บเดียวอาม่าจะยกสมบัติให้มันแล้วเร๊าะ!


ตอนแรกๆนะครับ ตอนที่ผมบอกมีเพื่อนเป็นคนแขก ที่บ้านผมเขาก็กลัวๆตามสไตล์คนจีนที่ไม่ค่อยได้สุงสิงกับแขก แต่พอพามาเจอที่บ้านหน่อยนะ เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ ตั้งมันเป็นหลานรักไปอีกคน


ยิ่งไอ้พวกลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของผมนะ กรี๊ดมันบ้านแตก ถ่ายรูปมันลงเฟสรัวๆ


หม่าม้าปริ่มมาก บอกว่า ไอ้ฟารห์ตาสวยหวานมาก อยากให้หนูพุกมีอย่างนี้บ้างจัง เอ่อ...ม้าช่วยดูดีเอ็นเอบรรพบุรุษของแต่ละคนหน่อยเถอะ แค่ลูกตาใหญ่กว่าเม็ดก๋วยจี๊ได้ก็ดีเท่าไรแล้ว อย่าหวังสูงขนาดนั้น


ใช้เวลาสองชั่วโมงชมรมก็เลิกครับ ฟาโรห์มันรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเห็นมันเดินผมเปียกชื้นออกมาจากห้องอาบน้ำ มันคงสระผมด้วย


“เช็ดให้แห้งสิ” ผมโยนผ้าเช็ดผมผืนเล็กให้มัน แต่มันรับไปถือไว้เอาไปโปะหัวแล้วชี้ๆ “ลำบากกูอีกไอ้ห่า เช็ดเองบ้างสิวะ” บ่นประปอดแปดเช็ดผมมันหลังจากที่มันนั่งบนม้านั่งข้างสนาม


“อย่าบ่นสิ” ไม่บ่นแล้วมึงเลิกให้กูทำไหม?


ผมรีบๆเช็ดให้มันเสร็จๆ โยนผ้าใส่หน้ามัน เห็นริมฝีปากยิ้มขำ แกล้งให้กูหงุดหงิดนี่สนุกมากไหม?

 



รถยนต์คันงามของมันจอดเทียบในซอยแห่งหนึ่ง เป็นซอยส่วนบุคคลที่เป็นพื้นที่ของบ้านผมเอง สร้างเป็นทาวเฮ้าส์หลายหลังติดกันตลอดทั้งซอย ด้านหน้าซอยจะมีประตูกั้นเอาไว้ แขวนป้ายเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล


ซอยนี้มีแต่พวกครอบครัวและญาติผมปลูกบ้านอยู่ทั้งนั้น มีบ้านของอาม่าอากงที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของเหล่าลูกหลานให้มานั่งเล่นกันได้ ต่อมาเป็นบ้านของตั่วอี้ที่แต่งงานกับอาเตี๋ยมีลูกสามคน บ้านถัดมาเป็นมาเป็นบ้านของผมป๊าม้ามีลูกสองคนคือผมและน้องสาวอีกคนหนึ่ง ถัดเป็นก็เป็นอากู๋สามคนที่ยังไม่แต่งงาน ซึ่งวันนี้เจ้าของวันเกิดก็คืออากู๋หนุ่มที่เป็นลูกชายคนเล็กของอากงอาม่า


“เฮียมาแล้วๆๆ” เสียงแหลมเสียดแก้วหูผมชะมัด แต่ร่างเล็กๆที่วิ่งเข้ามาไม่ได้มากระโดดกอดผมเหมือนคิดถึงกันแต่อย่างใด กลับเลยไปที่ร่างสูงที่เดินตามเข้ามาทีหลังผม “เฮียชาค่า” มาแล้ว เสียงฉอเลาะเรียก ‘เฮียชาๆ’


“ไงคะ หนูจี๊ด” พ่อยอดชายก็ก้มลงทักทายน้องสาวผม


หนูจี๊ด น้องสาวบังเกิดเกล้าของหนูพุกคนนี้ อายุ 12ปี ซึ่งห่างจากผม เกือบ9ปี แต่ตอนนี้มีพี่ชายคนใหม่ไปแล้วเรียบร้อยครับ


“อาชาหลี้ๆ” และอาม่ากูก็มีหลานคนโปรดคนใหม่


“อาม่า มันชื่อชะรีฟ ไม่ใช่ชาหลี้” ไม่ใช่อะไรหรอกอาม่าผมพูดไทยไม่ชัด ชื่อชะรีฟ มันเลยเพี้ยนเป็นชาหลี้ๆ คนในบ้านผมเลยเรียกว่าชาเฉยๆ


“อาม่าสวัสดีครับ” มันยกมือไหว้อาม่า ป๊าม้าและคนอื่นๆ


“อาพุก ลื้ออ้วนขึ้นหรือเปล่า?” นี่ไม่ใช่คำถามที่อาม่าควรจะถามหลานชายสักนิด


“เท่าเดิมแหละม่า”


“ลื้อเท่าเดิมมากี่ปีแล้วอาพุก” ป๊าผมเดินเข้ามาร่วมด้วย


ป๊าเป็นผู้ชายเชื้อสายจีนหน้าตี๋ผิวขาว ผมเถิกไปข้างหลังเล็กน้อย จริงๆก็เกือบๆกลางหัวละ  ส่วนหม่าม้าเป็นคนจีนเหมือนกันตัวเล็กๆ ใจดี เวลายืนกับไอ้ฟาโรห์นี่ม้าผมคนแคระเลยครับ


“เท่าเดิมก็คือเท่าเดิมอะป๊า” ผมสำทับอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่แท่นบนผนัง มีรูปอากงผมสมัยหนุ่มๆตั้งอยู่ อากงผมเสียไปได้หลายปีแล้วแต่เวลาผมกลับบ้านผมต้องมาสวัสดีอากงตลอด


ทำเหมือนอากงยังเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในบ้าน ผมไม่เคยคิดว่าอากงหายไปไหน เพราะงั้นผมถึงไหว้สวัสดีอากงเสมอเวลาผมเข้าออกบ้าน


ร่างสูงใหญ่ของเพื่อนก็มายืนข้างๆ


“อากงสวัสดีครับ” ผมเคยพามันมาแนะนำตัวกับอากงแล้ว ตอนแรกมันงงๆที่ทำให้ต้องสวัสดีรูปแต่พอผมบอกมันก็ทำตาม


“มาๆ ม้ากับอี้ทำกับข้าวใกล้เสร็จแล้ว พุกมายกไปหน่อย” ม้ากวักมือเรียกให้ไปยกอาหาร


ผมพาร่างเนื้อแน่นของตัวเองไปที่ครัว มีจานเปลใบใหญ่ใส่บะหมี่ปูหอมฉุยกับหม้อกระเพาะปลาน้ำแดง


“มาเดี๋ยวฉันยกเอง” มือใหญ่หนาปาดเข้ามาคว้าหูหม้อยกขึ้นผมเลยยกจานเปลตามหลังมา


“เฮียชาค่า” พอไอ้โรห์วางหม้อบนโต๊ะใหญ่เสร็จ ยัยหมวยเล็กหนูจี๊ดก็ถลาเข้ามา


“ว่าไงคะ อาหมวย” มันทำเสียงเล็กเสียงน้อย เสียงสี่ห้าหกของมัน พูดเพราะกับบรรดาผู้ใหญ่ เด็กในบ้านผมจนหลงมันหัวปักหัวปำ


“สอนเลขหนูจี๊ดหน่อยได้ไหมคะ” ยกสมุดการบ้านให้ ผมชะโงกหน้าไปดู เลขคณิตเด็กประถม


“ให้มันสอนทำไม เดี๋ยวเฮียสอนให้” กูนี่เก่งเลขนะครับ บอกให้


“ไม่อาวว เฮียชอบสอนมั่ว” อ้าวยัยหมวย เดี๋ยวเฮียกระโดดทับหรอก หันไปหัวเราะคิกคักกับไอ้เพื่อนทรยศ อย่ามาเสือกยิ้มเลยไอ้เวร


“มาสิคะ เดี๋ยวเฮียสอนให้” มันซึมซับความจีนจากบ้านผมไผได้อย่างดีเยี่ยม


ผมปล่อยมันสอนหนูจี๊ด หันมาช่วยม้าจัดการของกิน


“อ้าวไอ้พุก กลับบ้านด้วยหรอวะ” เสียงเฮียเครยียวนกวนประสาท “นึกแล้วว่าเอ็งไม่พลาด”


“กลับมาแล้วก็ทำตัวมีประโยชน์หน่อยสิเฮีย” เหน็บกลับซะเลย ยัดจานของกินเล่นใส่มือ


เฮียเคนเป็นลูกชายคนโตของตั่วอี้กับตั่วเตี๋ยไงครับ ยังมีลูกสาวอีกสองคนคือเจ้แคท กับ คิต


เฮียเคนเป็นหลานชายคนแรกของตระกูล ตามมาด้วยเจ้แคท แล้วก็ผม คิต สุดท้ายก็หนูจี๊ด เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแต่เราก็สนิทกันนะครับ เฮียเคนพับเสื้อเชิ้ตขึ้นถึงศอก เฮียแกทำงานเป็นพนักงานบริษัทนี่แหละครับ


อากู๋หนุ่มเจ้าของวันเกิดและอากู๋อีกสองคนก็กลับมาแล้ว


“กรี๊ดด เฮียชะรีฟ” มาแล้วครับ คิตที่ผมพูดถึง เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนมอปลายสตรีล้วน


พ่อแขกนัยน์ตาสวยก็ยิ้มหวานละลายใจชาวบ้านเขา


“กรี๊ด หนูขอถ่ายรูปไปลงเพจได้ไหมคะ” ผมว่ามันต้องเป็นเพจแปลกๆที่พวกผมเข้าไม่ถึง “เฮียชะรีฟคือเมะระดับตำนาน เกรดพรีเมียม”


เคยเจอกองหนังสือการ์ตูนและนิยายแต่หน้าปกนี่เห็นแล้วอยากเผาทิ้ง กูว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยถ้ามีผู้ชายยืนล้วงเป้ากันอยู่บนนิยายเด็กวัยรุ่น


คิตกับเจ้แคทนี่นักสะสมตัวยงเลย มันคือนิยายวายที่สาวไทยยุคปัจจุบันร้อยละสามสิบต้องมีไว้ในครอบครอง อย่าถามว่าอี้กับเตี๋ยรู้หรือเปล่า สองคนนั้นให้เงินไอ้คิตซื้อด้วยซ้ำ


พอไอ้คิตมันติดนิยายชาย-ชายงอมแงม เจ้แคทก็เลยเป็นไปกับเขาด้วย


มันกดถ่ายหน้าด้านข้างของหน้าคมเข้มขณะที่มันกำลังสอนเลขยัยจี๊ดอยู่ มันสอนเก่งมาก อธิบายวิธีคิดหลักๆ แป๊บเดียวหนูจี๊ดก็เข้าใจและทำได้ด้วยตัวเอง


พอคนกลับมากันครบ ก็เริ่มรวมวง บ้านผมเป็นลูกหลานคนจีนเพราะงั้นการกินข้าวรวมกันบนโต๊ะวงกลมถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ละคนมีชาม ช้อน ตะเกียบพร้อม พออาม่าเปิดงาน อวยพรอากู๋เสร็จสรรพ ก็ลงมือได้


มือใหญ่น้ำผึ้งเนียนสวยขยับตะเกียบอย่างคล่องแคล่ว ป๊าม้าผมชื่นชมใหญ่ บอกว่ามันใช้ตะเกียบคล่องมากยกความดีความชอบให้ผมนี่สิ ผมก้มหน้าพุ้ยข้าวสวยเข้าปาก กุ้งอบเกลือตัวโตก็วางลงในจานกับข้าว


ผมหันไปทำหน้าขอบคุณมันที่เอากุ้งตัวอวบมาวางให้


“เฮ้ยชะรีฟ ไอ้พุกมันอ้วนจะตาย ไม่ต้องให้มันกินเยอะ” เฮียเคนคีบกุ้งออกไปจากจานผมต่อหน้าต่อตา หนูพุกถึงกับของขึ้น


“ไอ้เฮี้ยยยยย!” ร้องลั่นบ้าน จนโดนอาม่าเอ็ด


“อาพุก ลื้อเรียกอาเฮียดีๆสิ” คนอื่นก็ขำๆ คือมันเป็นเรื่องปกติ ถ้ากินเงียบๆนี่ไม่ใช่บ้านผมแน่นอน


“เอาตัวใหม่ๆ” เสียงทุ้มเข้มขำเบาๆ แต่ก็เอากุ้งตัวใหม่มาวางให้ ผมรีบคีบมาวางในชามข้าวเลย เดี๋ยวเฮียมันแย่งไปอีกละยุ่ง ใจดีคีบผัดผักที่อยู่ไกลมือมันคืนให้ด้วยจะได้เท่าเทียมกัน


หลังจากจบมื้ออาหาร ก็แค่พูดคุยกัน ไม่มีเค้กก้อนโตเหมือนในหนัง


แต่ว่าแค่ได้กลับบ้านมากินข้าวกับคนที่บ้านแค่นี้ก็ดีแล้ว ขนาดผมยังบางทีก็เหงาๆที่ต้องไปอยู่หอคนเดียว แต่ก็โชคดีมีเพื่อน แล้วไอ้โรห์ละต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว ถึงแม้มันจะมีสายเลือดคนไทยแต่ก็ไม่เกิดและโตที่นี่ มันคงไม่คุ้นเคยเท่าไร ผมคิดว่ามันคงคิดถึงครอบครัวไม่มากก็น้อย


เพราะงั้น...กูจะไม่ขัดมึงที่กำลังฉอเลาะอาม่ากูละกันแต่ถ้าอาม่ากูยกสมบัติให้มึงเมื่อไร ค่อยด่ามันก็ยังไม่สาย!

 



“วันนี้เรามาทำกิจกรรมกันหน่อยดีกว่าครับ เป็นการยืดเส้นยืดสาย…” ผมยืนบิดขาไปมาเพราะความเมื่อยล้า


ไอ้พวกเวร มึงจะซ้อมเชียร์น้องก็ซ้อมไป พุกไม่ว่า จะร้องเพลงล้ออธิการหัวล้านอะไร พุกก็ไม่ว่า แต่ไม่ใช่มาให้กูยืนตากแดดร้อนเปรี้ยงชนิดที่กูจะสุกเป็นหมูหันแบบนี้ กูด่าเลยครับ!


ไอ้แห้งยืนปาดเหงื่อไปเช็ดเหม่งมันไป โอยพี่พักนี่เหงื่อท่วมเหมือนอาบน้ำ ไขมันละลายหมด


“ให้น้องๆเอาผ้าพันขาเอาไว้กับเพื่อน เราจะออกวิ่งไปพร้อมๆกันนะครับ เอ้าพี่ปีสองช่วยน้องพันเท้าหน่อยครับ” ไอ้เพื่อนผมมันให้น้องยืนเรียงหน้ากระดาน เอกญี่ปุ่นมีแค่ยี่สิบคนเองครับ รับน้อยเรียนหนัก พวกพี่ปีสองก็เอาผ้าให้น้องๆพันขากับเพื่อน


นึกภาพออกไหมครับ?


มันเป็นการแบบยี่สิบขาสามัคคีไรงี้ คือต้องพันขากับเพื่อนเป็นแพแล้ววิ่งไปพร้อมๆกัน คือถ้าล้มก็มีสิทธิ์ล้มทั้งแถบ เป็นการวิ่งที่เมื่อก่อนโด่งดังมากในหมู่นักเรียนญี่ปุ่น


พอน้องมันพร้อม ก็ออกตัว ก็ดูท่าทางน้องๆมันก็สนุกนะครับ มีพวกปีสองวิ่งตามด้วยเพื่อดูเผื่อน้องไม่ไหวจะได้ให้หยุด เล่นวิ่งแบบนี้มันก็เสี่ยง ถ้าล้มทั้งแผงอาจจะมีเจ็บตัวได้ครับเพราะงั้นเราต้องป้องกันแต่เนิ่นๆ


ผมกับปองกุลก็วิ่งเยาะตามหลังกลุ่มเพื่อนไป ผมวิ่งไม่ค่อยไหวหรอกครับ เหนื่อย


“เฮ้ยไอ้ปองกุล” ผมร้องขึ้นมาเมื่อมีเพื่อนที่ลากสังขารวิ่งมาด้วยกันทรุดลงไปกองกับพื้น


ปองกุลเป็นลมสงสัยเพราะอากาศร้อนๆ พวกน้องๆเลยถูกสั่งให้หยุดวิ่งไปด้วย เพื่อนบางคนวิ่งเข้ามาดูพร้อมกล่องปฐมพยาบาล ยาดม ผ้าเย็นเอาขึ้นมาหมด


ผมยืนหอบก้มหน้าหายใจ กุมเข่า มองไอ้แห้งมันยังพอมีสติ คงแค่หน้ามืด พอได้ยาดมผ้าเย็นหน่อยก็ค่อยยังชั่ว


“ไอ้พุกมึงกับไอ้โอ๋เอามันไปห้องพยาบาลหน่อยได้ไหม?” ผมพยักหน้าตอบ


ผมไม่ใช่นักกิจกรรมอะไรอยู่แล้ว อีกอย่างไอ้แห้งมันตอนตายเป็นซากขนาดนี้ ไม่เอามันไปพักห้องพยาบาลก็กระไรอยู่


ผมกับไอ้โอ๋ช่วยกันพยุงมันขึ้นมา แต่แม่งกรรมเวรแท้เพราะไอ้โอ๋มันเสียหลักเผลอปล่อยไอ้ปองกุล ผมเลยเสียหลักลงเพราะรีบมาคว้าตัวเพื่อนเอาไว้ ขาไอ้ปองกุลมันอ่อนเต็มที


“เฮ้ย!” เพื่อนคนอื่นๆรีบถลาเข้ามาช่วยกันประคอง แต่ผมดันล้มลงไปกองกับพื้น


ความเจ็บแปล๊บแล่นเข้ามาจนสะดุ้ง สบถด่าตัวเองเพราะน้ำหนักเยอะเลยไม่คล่องตัว


ไอ้ปองกุลมันรอดตายแล้วเพราะคนที่เข้ามาประคองค่อนข้างแข็งแรงทีเดียว ไอ้เท่ช่วยไว้ได้


อย่าสงสัยคนอะไรชื่อเท่ เพราะมันเท่จริงๆครับ หน้าตาดีระดับดูได้ทีเดียว สูงพอๆกับไอ้โรห์ บวกลบสามสี่เซนติเมตร ดีกรีเบาๆแค่เดือนสาขาพวกผม แต่สุดท้ายก็พ่ายให้กับเดือนของอีกสาขาหนึ่งเลยไม่ได้เป็นตัวแทนคณะไปแข่งเดือนมหาลัย


ปองกุลน่ะรอดเพราะไอ้เท่มันช้อนใต้ข้อพับขึ้นไปแล้ว แต่กูสิไม่รอด ห่านจิก ขาแพลงเลยมั้งเนี่ย


“ไอ้พุกกูพาไอ้แห้งนี่ไปห้องพยาบาลก่อนนะ” ไอ้เท่บอก ผมสะบัดมือโบก ไปเหอะๆ


“แล้วมึงไหวไหมเนี่ย” เพื่อนอีกคนเดินมาถาม


กูโง่เองแหละ ฮอล “เออๆ ได้อยู่ แค่ขาแพลงมั้ง”


“มึงลุกไหวไหม?”


เพื่อนสองสามคนพยายามฉุดร่างนุ่มนิ่มขึ้นมา ทุลักทุเลพอสมควรแต่สุดท้ายผมก็ลุกมายืนเหยงๆได้ คือลงน้ำหนักที่จาซ้ายไม่ได้เลยวะ มันแปล๊บๆไปหมด


ผมถูกเพื่อนสองคนช่วยประคองมานั่งพัก หน่วยพยาบาลเอาน้ำแข็งมาให้ผมประคบ ที่ไม่ไปห้องพยาบาลเพราะว่าผมเดินไม่ค่อยไหวครับ ไม่อยากลงน้ำหนักที่ขา


ในใจก็ห่วงไอ้ปองกุลนะครับ ไม่รู้ว่าโอเคไหม


“พ่อมึงมาเอากูตายเลยไหมเนี่ย” ไอ้โอ๋ที่เสร่อเสียหลักล้มเมื่อกี้จนเกิดเป็นความหายนะของชีวิตตรูเดินเกาหัวมานั่งข้างๆ มันมองข้อเท้าที่ผมเอามาวางบนม้านั่ง ถกกางเกงขึ้นมาแล้วเอาแผ่นเจลเย็นประคบเอาไว้


“พ่อกู?” ป๊ากูคงไม่ถ่อจากร้านทองมาถึงนี่หรอก


“ไอ้ห่า ทำเป็นซื่อ พ่อมึงก็ไอ้ชะรีฟไง มันมาแดกหัวกูแน่”


“ไอ้โรห์มันจะมาแดกหัวมึงทำไม”


ไอ้โอ๋ทำหน้าเหมือนเห็นผี


ผมยิ่งงง ไอ้โรห์มันไม่เคยมาแยกเขี้ยวใส่พวกเพื่อนผมนะ มันมาที่คณะบ่อยมากแต่ก็ไม่ได้อะไรนี่หว่า


“เออ กูพูดไปงั้นแหละ” แล้วมึงจะเหวี่ยงกูทำไมไอ้โอ๋


พอประคบไปได้พักหนึ่งเจลก็หายเย็นแต่ว่าขาที่ล้มยังไม่ค่อยดีขึ้นเลย ยังเจ็บๆชาๆ


“มึงล้มแรงกว่าที่คิดนะ” ไอ้โอ๋มองสภาพขา


กูเครียดเลยว่าแล้วจะเดินยังไงวะเนี่ย

 


Pharaoh: Are you done?


Noopook: ยัง แต่กูพักล่ะ *สติกเกอร์หมาร้องไห้*


Pharaoh: What’ s wrong?


Noopook: เปล่าๆ ล้มนิดหน่อย


Pharaoh: Got hurt?


Noopook: ขาแพลงนิดหน่อย ประคบขาอยู่


Pharaoh: I’ll be right there soon!

 



คือมันหมายความว่าจะมาที่นี่เร็วๆนี้? เฮ้ย! กูแปลถูกใช่ไหม? มึงจะโดดเรียนมาเร๊อะ ไอ้แขกถึงมึงจะเรียนอินเตอร์ไม่ใช่ภาคปก แต่มึงจะโดดมามั่วๆไม่ได้


ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมไอ้โรห์พิมพ์แต่อังกฤษเพราะมันเขียนไทยไม่เก่งครับ มันพูดได้แต่เขียนไม่เก่งเพราะงั้นมันเลยไม่ใช่แป้นพิมพ์ไทยเท่าไร ผมก็ฝึกอ่านอังกฤษไปในตัวด้วย


ไม่นานผมก็เห็นร่างสูงใหญ่วิ่งตึกตักเข้ามา ใบหน้าคมแบบแขกดูไม่สบอารมณ์ คิ้วขมวดมุ่นเลย ฟาโรห์หายใจแรง ตามองมาที่ขาผมที่ยกมาวางพาดกับเก้าอี้


ไอ้โอ๋มันหนีไปก่อนแล้ว มันบอกมันจะไปช่วยดูน้องก่อน ดูลุกลี้ลุกรนพึมพำกูตายแน่ๆ


“ไปทำอะไรมา?” เสียงเข้มจัดจนผมรู้สึกได้ แฝงความหงุดหงิด ดุดันหลายส่วน


“ก็ล้มอะ” ผมเบ้หน้าใส่ มันจะมาโมโหผมทำไมอะ ฟังเสียงกับท่าทางก็รู้แล้วว่าโกรธ


“ทำไมไม่ดูแลตัวเอง” มันยกขาผมขึ้นแล้วนั่งลงมาก่อนจะเอาขาผมพาดบนตัก “แล้วล้มได้ไง”


ข้อเท้าผมดูบวมเล็กน้อยและแดงเพราะความเย็น มือใหญ่สีน้ำผึ้งลูบเบาๆ


ผมก็เล่าตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกมันว่าผมไม่ได้ล้มแรงเลย มันยิ่งขมวดคิ้ว


“เพราะพุกตัวใหญ่ ล้มทีมันถึงทิ้งน้ำหนัก เจ็บตัวกว่าคนอื่นสิ” อ้าว เหมือนมึงด่ากูอยู่หรือเปล่าวะ


“ก็ล้มแล้วให้กูทำไงอะ” ขาเริ่มปวด อย่าให้ต้องมาปวดกบาลทะเลาะกับมึงนะ


ฟาโรห์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูด “วันหลังระวังหน่อย เดี๋ยวกลับบ้านเอายานวดทาแล้วพันข้อเท้าเอาไว้”


มันเป็นนักกีฬาเรื่องข้อเท้าแพลง พลิก ซ้น มันน่าจะเข้าใจว่าต้องทำไง


“ไม่ไปเรียนแล้วหรอ” มองเวลามันน่าจะเหลืออีกเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะจบคาบ


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวตามอ่านได้”


ผมมองรุ่นน้องที่กลับเข้ามานั่งรวมกันหลังจากทำกิจกรรมเรียบร้อย ปีสองก็ปล่อยน้องได้พักก่อนจะรวมครั้งสุดท้ายนัดแนะและปล่อยน้องกลับบ้านได้


รุ่นน้องหลายคนให้ความสนใจคนข้างตัวผมมาก แต่มันสนที่ไหนล่ะ เอาขาอวบขาวของผมขึ้นไปพาดตักมันแล้วจับเจลมาประคบต่อ เอาจริงกูเริ่มกระดากสายตาคนมองมาล่ะ คือมองเยอะไปอะไรไป


“ว่าไงมึง กูว่าแล้วว่าต้องรีบแจ้นมา” ไอ้หัวหน้ากิจกรรมเดินมา


“เสร็จยัง จะได้พาพุกกลับ”


“เออไปเถอะ”

 

 


+++++++++++++++++++++++ 100% ++++++++++++++++


สวัสดีค่า

ชะรีฟหนูพุกมาแล้วนะค่า อิอิ ชะรีฟพ่อยอดขมองอิ่มของเรา นางน่ารักที่สุด หนูพุกมันเกรียนตลอดเวลา ไม่เหมือนน้องกระต่ายแคระ ขานั้นเขาน่ารัก แต่ยัยหนูมันกวนตีน วงวารชะรีฟมากที่มีเพื่อนเป็นยัยหนูพุก

ตอนนี้เรามีตัวละครใหม่โผล่มา ใครสังเกตุมาคอมเม้นบอกเราได้นะ ว่าชื่ออะไร ทายถูกเรามีรางวัลให้ อิอิ รางวัลคือ...จะมาบอกตอนหน้านะ คอมเม้นมาบอกชื่อกันเยอะๆน้าาาา อิอิ

ขอบคุณมากๆค่าสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นสำหรับหนูพุกและชะรีฟ


คนเขียนมีทวิตเตอร์แแล้ว ตามไปเม้ามอย หวีดกันได้เลยนะ

สำหรับเรื่องรักหนักมาก ติดแท็ค #ชะรีฟหนูพุก นะจ้า


เยิฟ

ปล. อีกหนึ่งเรื่องของคนเขียน วณิพกพเนจร ไปตามได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0

และเรื่องที่สองคือ รัก ตาม สั่ง
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55235.1380


ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
ขอฝากไปกดไลค์เพจเฟสบุ้คกันได้นะครับบบบ  เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะอัพเดทเวลาที่เรา
หายไปนานๆ หรือว่าติดธุระอะไร เราจะไปอัพเดทไว้ในเฟส หรือว่าบางครั้งจะมีเขียนโมเม้นน่ารักของอีพี่กะน้องเอาไว้เล่นๆที่ไม่
ได้เอามาลงหน้านิยายนะครับ เลยอยากให้ไปพูดคุยในเฟสกันเลยยยย ถ้าคนเขียนหายไปตามจิกในเฟสจะเจอเราเร็วมากเพราะ
เราเล่นประจำ
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
อ่านแล้วเขิน  :impress2:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
หนูพุก นางเกรียนได้โล่มาก  :hao6:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เอ็นดูหนูพุก

ออฟไลน์ blue colour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฟาโรห์มีความหวงหนูพุกมากมาย คิดอะไรรึเปล่าาาาาาาาาาาบอกเรามา :hao3:

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพื่อนๆรู้แฮะว่าหนูพุกพิเศษสำหรับฟาร์โรห์ o18 o18 

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชารีฟพ่อยอดขมองอิ่ม :mew1:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เมื่อไหร่หนูพุกจะรู้คะว่าตัวเองน่ะเป็นคนพิเศษของพ่อชะรีฟ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ฟาโรห์ชอบหนูพุกแน่ๆ อิอิอิ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
โอ้ยยยยยยยยยยยย
ดูแลดีขนาดนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้วจ้าาาาาาาาาาา
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อยากเห็นหนูพุกเขิน ต้องด่าขิงด่าข่ากลบความอายตัวเองแน่

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ฟาโรห์คิดไม่ซื่อกับหนูพุกรึเปล่าเนี่ย แค่หนูพุกบอกว่าล้มนี่รีบแจ้นมาหาเลย  :m12:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ฟาโรห์ชอบหนูพุกแน่ๆ อิอิอิ

ออฟไลน์ zilmp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตัวละครใหม่คือเท่แน่นวลลลลล :katai5:

คือหาแบบฟาโรห์ได้ที่ไหนเนี่ย ชอบๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เท่หรอคะ ขอให้ใช่ 55555

หนูอ้วนเกรียนจริง ไรจริง มีความน่าหมั่นไส้ มีความอิจฉาฟาโรห์ พอเสียงอ่อน เสียงอ้อนที
นอกจากอ้วนแล้ว ชาวบ้านเค้ารู้หมด บอกเลย

ชะรีฟทำใจไปเหอะนะ หนูอ้วนต้องเลี้ยงไขมัน น่ารักมาก มาไวเคลมไว เชียร์ให้รุกหนักๆๆค่ะ

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
คู่ใหม่นี่เท่กับปองกุลใช่ไหม?

ออฟไลน์ ก๊าบก๊าบ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาตามอ่านงับบบบ~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MissMay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เท่ใช่หรือเปล่าคะ? เพราะเปิดตัวอลังเป๊ะปังเวอร์ :m20:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชะรีฟวิ่งแจ้นมาทันทีเลย ห่วงหนูพุกมาก แต่หนูพุกซื่อๆๆๆๆๆๆมาก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดูแลดีเวอร์อ่ะชะรีฟ

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :mew1: เพิ่งมาอ่าน...ชอบค่ะ น่ารักมากและจะติดตามอย่างถึงที่สุด  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Airin_and_Arpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +266/-3
HEAVY WEIGHT รัก ▪️ หนัก ▪️ มาก [Story by ARPO]

บทที่ 4

HEAVY WEIGHT: 4 KG.

 

 

 

 “กลับกันเถอะพุก” ผมพยักหน้ารับ ฟาโรห์ปล่อยขาผมลง ผมยันตัวพยายามจะยืนขึ้น แต่ความเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าเลยนั่งลงไปใหม่

 

“แป๊บนะ ยังเจ็บอยู่วะ” ผมเบ้หน้า

 

ร่างสูงใหญ่ของมันนั่งลงข้างๆ ใบหน้าคมเข้ม ไรหนวดเขียวครึ้มมีเหงื่ออกประปรายเพราะอากาศร้อน

 

“ทำไรวะ” ผมร้องถามเมื่อเห็นมันลงไปนั่งยองๆกับพื้น หันหลังชื้นเหงื่อของมันมาทางผม

 

“ขึ้นมาสิ เดินไม่ไหวไม่ใช่หรือ?” กูเดินไม่ไหวน่ะใช่แต่กูว่าการให้ขี่หลังมึงมันจะไม่ใช่เท่าไรนะ

 

 “ไม่เอาเว้ย!” คนได้มองกันพอดี หนูพุกก็หน้าบางนะ

 

 “อย่างอแง เร็วๆ จะได้กลับแล้ว” ไอ้ฟาโรห์มันไม่พูดเปล่ามันจับแขนผมทั้งสองข้างไปพาดบนไหล่มันแล้วเอื้อมมาจับท่อนขาผม

 

 ผมหน้าเลิ่กลั่ก หลังมันอาจจะเดาะได้เลยนะถ้าเอาผมขึ้นหลังมันน่ะ “โรห์ ไม่ไหวหรอก…” พูดเสียงอ่อนเลยครับ กลัวมันจะพิการจริงๆนะ

 

 

“ไม่เป็นไรนะ ฉันไหว” ผมเลยหลับหูหลับตาขึ้นหลังกว้างขอบมัน มันขยับๆเล็กน้อยก่อนจะยืนขึ้น ผมได้ยินเสียงคนรอบๆฮือฮา คงประมาณแบบยกกูไหวได้ยังไง ผมซุกหน้าลงบนไหล่แข็งไม่กล้ามองคน

 

 

“ฝากถือกระเป๋าพุกมาด้วยสิ” มันหันไปมองหัวหน้ากิจกรรมแล้วค่อยๆเดินออกจากตึก

 

 

“ค่อยๆนะ” หัวหน้ากิจกรรมันช่วยเปิดประตูรถฝั่งคนขับให้ ฟาโรห์เลยหันหลังปล่อยให้ผมนั่งลงกับเบาะ

 

 

ระยะทางจากรถไม่ไกลมากแต่ว่าน้ำหนักผมคงทำให้ฟาโรห์เกือบตายเลย

 

 

“โรห์มึงไหวไหมเนี่ย” ผมบ่นมันหลังจากหน้าสีน้ำผึ้งเนียนขึ้นเหงื่อชื้นเต็มหน้า

 

 

“ไหว” ไหวแต่หอบแดกเลยนะมึง

 

 

“ของจริงๆ”

 

 

มันหันมามองผม “เมื่อย…” มันพูดมาคำเดียวแค่ทำเอาผมหน้าเสีย

 

 

“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องขี่หลัง” ไม่เคยรู้สึกว่าความเนื้อหนังเยอะของตัวเองจะรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน ผมหันหน้าเข้าประตู คือมันรู้สึกแย่นะ ทั้งที่บอกแล้วว่าไม่ต้องๆ

 

 

รู้สึกแย่...น้อยใจ...ใช่ไหม?

 

 

“ไม่เอาสิ ไม่งอน” ฝ่ามือแข็งแค่อุ่นลูบไหล่ผม น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงสองสามสี่ “หนูอ้วนไม่งอนนะ โรห์ล้อเล่น” มันจับหน้าผมไปสบตา นิ้วยาวเรียวดึงแก้มอูมๆของผมจนมันยืด


“อื้อ...ไอ้เอี้ย!” ด่าพ่นน้ำลายใส่หน้าแม่ง


“บอกความจริงนะ โรห์เมื่อยจริง” ผมถลึงตามอง ปากพูดเสียง “แต่มันก็ดีกว่าให้พุกเดินเองแล้วเจ็บตัวกว่าเดิมไม่ใช่หรือ”


กระแสความเป็นห่วงบวกกับสายตาคมหวานย้อยทำเอาผมหุบปากฉับ รู้สึกใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะเท่าไร หัวก็ร้อนๆ น่าจะความดันขึ้นมั้งเนี่ย


“หน้าแดงนะ…” ผมได้ยินมันพึมพำอะไรวะ


“ห้ะ?” เลยยื่นหูเข้าไปใกล้มันอีกนิด


“เปล่า นั่งดีๆไป จะออกรถแล้ว”

 



“อ้าว ไม่ไปส่งที่หอกูอะ” ผมมองนอกกระจก ตึกสูงเสียดฟ้าหรูหราจนน่าขนลุก คอนโดสุดหรูห้องเริ่มต้นถูกๆก็หลายล้านบาท ติดตะเข็บรถไฟฟ้า แต่พ่อยอดชายก็ขับรถมาเรียนทุกวัน กูเลยไม่เข้าใจว่ามันจะมาอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้าทำไมในเมื่อมึงไม่เคยใช้มันให้เป็นประโยชน์


“มานี่แหละ อยู่ที่นั่น พุกอยู่คนเดียว ทำอะไรลำบาก” มันเหล่ขาผมที่กำลังปวดๆได้ที่


มันก็จริงหอผมถึงจะขี้เหร่สู้คอนโดหรูนี่ไม่ได้แต่มันก็อยู่สุขสบาย มีลิฟท์ มีเตียงนุ่มๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนโดหรู ความปลอดภัยระดับดีเยี่ยม ห้องกว้างมากยัดหนูกพุกยี่สิบคนเข้าไปก็ไหว มีแม่บ้านเข้ามาทำอาหารทำความสะอาดทุกวันตอนบ่าย เอ่อ...อันนี้ไม่ได้อยู่ในสวัสดิการส่วนกลางของผู้อยู่อาศัยนะครับ อันนี้แม่ไอ้โรห์มันจ้างมาเองครับ ควักเงินจ่ายเอง


เห็นชะรีฟเล่าให้ฟังว่าป้าแช่มเป็นคนเก่าคนแก่ที่แม่มันรู้จักตอนอยู่ที่ไทยเลยจ้างป้ามาดูแลเรื่องความสะอาดและทำอาหารไว้ให้ ส่วนใหญ่จะเป็นมื้อเย็นเพราะมื้อเช้ามันกินพวกขนมปังปิ้ง ส่วนเที่ยงมันก็กินที่มหาลัย มีแค่ตอนเย็นที่ป้าแช่มจะทำเก็บไว้เป็นกล่องๆให้ แช่เย็นรอมันมาอุ่นร้อน


มาพักที่นี่ก็ดี อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องเครียดว่าจะหากินยังไง ที่แน่ๆไม่มีการเดินออกไปซื้อแน่นอน ถ้าผมกลับหอคงได้แต่นอนแบ๊บติดเตียง


“นั่งรอก่อนนะ เดี๋ยวไปขอรถวีลแชร์ที่เคาน์เตอร์ก่อน” สวัสดิการแพง การบริการก็ระดับพรีเมียมครับ


เพราะไม่นานก็เห็นพี่รปภ.เดินเข็นรถวีลแชร์มาพร้อมกับชะรีฟ


“เดี๋ยวผมเข็นเองครับ เสร็จแล้วจะเอามาคืนให้ครับ”


พอพี่รปภ.กลับไป ไอ้แขกก็มาเปิดประตูฝั่งผมค่อยๆพยุงให้นั่งรถเข็น มันเข็นผมไปทางเข้าคอนโค แล้วมันก็ไปจอดรถตามช่องประจำของคอนโด


“สวัสดีค่ะ คุณชะรีฟ คุณพุก” พี่นุ๊ก สาวประจำเคาน์เตอร์ของคอนโด ผมมาที่นี่บ่อยตั้งแต่ปีหนึ่งพี่เขาเลยจำได้ บางครั้งก็ซื้อขนมมาฝากพี่เขา “เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ?”


“ผมล้มนะครับพี่นุ๊ก” ผมบอก


“ระวังตัวด้วยนะค่ะ”


ผมผงกหัวเป็นเชิงขอบคุณก่อนไอ้แขกจะเข็นรถผมขึ้นลิฟท์มาชั้นเกือบสูงสุด ชั้นบนๆของที่นี่มันเป็นห้องคอนโดชุดแบบกว้างขวาง แต่ราคาไม่น่ารักน่าคบสักนิด


ไอ้โรห์มันซื้อขาดเลยครับ มันบอกว่าแม่มันซื้อทิ้งเอาไว้ให้ พอมันมาเรียนที่ไทยก็เลยมาอยู่ที่นี่


ห้องชุดของมันโทนสีเทาอ่อนผสมขาว สวยแบบสไตล์โมเดิร์น ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โซฟายาวสามารถปรับเป็นที่นอนได้ ทีวีจอใหญ่ฝังผนัง มีส่วนของห้องครัวและโต๊ะกินข้าวขนาดย่อมนั่งได้สี่คน ถัดไปเป็นห้องทำงานและห้องหนังสือ จริงๆมันเป็นห้องนอนแต่ว่าไอ้โรห์มันเอามาทำเป็นห้องทำงานไป ห้องมันมีความเจ๋งที่ผมชอบมากคือ ห้องมันมีชั้นลอย เป็นชั้นลอยที่ไอ้โรห์มันทำเป็นห้องนอนไป คือมีเตียงวางกลาง รอบๆเป็นกระจกกั้นเอาไว้


ผมชอบตรงนั้นที่สุดมาทีไรผมต้องขึ้นไปนั่งเล่นบนนั้น บันไดขัดมันเงาวับติดผนังก็คลาสิก โอยอยากยึดห้องแม่งจัง


“อยู่ที่นี่จนกว่าขาจะดีขึ้นนะ” ไอ้เพื่อนโรห์ครับ มึงจะไม่ให้กูกลับห้องเลยหรือไง หนูบุก แมลงสาบเข้าทำไงวะ ห้องยิ่งรกๆอยู่ คือผมมาอยู่ที่นี่บ่อยเป็นเรื่องปกตินะครับ บางครั้งมาอยู่แบบสองอาทิตย์สามอาทิตย์จนลืมทางกลับหอตัวเองไปชั่วขณะ


ผมทำหน้าบู้บี้ มันเลยบอกว่า “เดี๋ยวให้ป้าแช่มไปทำความสะอาดให้”


เท่านี้แหละทำให้ผมยิ้มตาหยี “ขอบใจ…” แล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้


ไอ้ห่านจิก!


ลืมไอ้ปองกุลไปสนิท!


“โรห์ ขอโทรศัพท์ด้วยจิ” ผมพูดเสียงเพราะ มันพาผมมานั่งที่โซฟา ส่วนมันกำลังเอาสัมภาระมากองที่โต๊ะนั่งเล่น “จะโทรหาปองกุล” มันคงไม่น่าเป็นอะไรมาก


“ฮัลโหล มึงเป็นไงบ้าง!” พอสัญญาณติดรอแป๊บเดียวก็มีคนรับ


[เอ่อ...ไอ้พุก?!] เสียงไอ้แห้งทำไมมันแปร่งวะ


“มึงใครวะ?” ไม่น่าใช่ไอ้แห้ง แต่มันไม่มีเพื่อนคนแล้วนอกจากผมที่จะรับโทรศัพท์มันได้อีก


[กูเท่…]


“เฮ้ย กูถามมึงเป็นใคร ยังจะมากวนตีนบอกมึงเท่อีก มึงจะหล่อเท่ปลาจวดเรื่องของมึง!” ของขึ้นครับ ถามใครเสือกบอกมันเท่ ประสาทแดก


[ไม่ใช่เว้ย กูชื่อเท่ คณะมึงอะไอ้หยั่นหว่อหยุ่น]


อ้อ ไอ้เท่ เอ้าก็กูไม่รู้นี่ ทำปากไม่รู้ไม่ชี้ใส่โทรศัพท์ก่อน


“เออๆ รู้แล้วๆ แล้วไอ้ปองกุลไปไหน ทำไมมันไม่รับเอง” และผมก็มั่นใจว่าไอ้ปองกุลมันไม่ได้รู้จักทักจี่กับไอ้เท่จนให้รับโทรศัพท์แทนกันได้


[เพื่อนมึงหลับอยู่]


“อ้าว แล้วอยู่ไหนกันวะ”


[ยังอยู่ห้องพยาบาล เพื่อนมึงเพลียแดด เขาเลยให้นอนพักก่อน]


กูนึกว่ามันเอาไปปล่อยไว้แล้วกลับเลยเสียอีก ไม่คิดว่าจะอยู่รอด้วย


“งั้นฝากดูมันหน่อยได้ไหม ถ้าตื่นแล้วให้มันโทรหากูหน่อย” ผมอยากไปดูมันนะแต่ว่าตอนนี้มีไอ้เท่อยู่คงไม่เป็นอะไร


[เออๆ]


คุยกับมันอีกหน่อยเรื่องไอ้ปองกุลแล้วผมก็วางสายครับ ได้กลิ่นหอมๆจากครัวลอยมาจางๆครับ ฟาโรห์มันน่าจะอุ่นกับข้าวที่ป้าแช่มทำทิ้งไว้ให้


“พุกหิวยัง” มันโผล่หน้ามาถาม “เดี๋ยวกินข้าวแล้วกินยาแก้ปวดหน่อยก็ดี”


“ป้าทำไรให้กินอะ”


“อืม...ผัดกระเพราหมูสับ ไข่ดาวสามฟอง กับน้ำแกง เอ่อ ไม่รู้วะ” มันเดินถือชามน้ำแกงเอามาให้ผมดู


มะระยัดไส้หมูสับวุ้นเส้น


“มะระยัดไส้”


มองหน้ามันทำหน้านิ่วแล้วขำ “คืออะไร?”


ไอ้แขกแดกมะระไม่เป็น โว๊ะ! แล้วจะให้กูอธิบายว่าอะไรวะ ไม่รู้เว้ยย ภาษาอังกฤษเกรดสองจุดสองต๋อยของกูไม่รู้จะจักมะระเว้ย


“ลองกินดู” ถ้าป้าแกต้มไม่ขมมึงก็รอดมั้งนะไอ้แขก หึๆ


ร่างสูงใหญ่กลับเข้าไปอุ่นอาหารต่อจนเสร็จ ข้าวเปล่าในหม้อที่ป้าแกก็หุงไว้ให้ก่อนกลับไป ปริมาณสำหรับสองคนสบายๆ


ผมรอแป๊บเดียว ฟาโรห์ก็อุ่นทุกอย่างเสร็จ มันเอาวางบนโต๊ะห้องนั่งเล่น ขาวเปล่าสองจานและกับข้าวพร้อม มันเปิดทีวีช่องข่าวประจำวันทั่วไป


กับข้าวป้าแช่มก็อร่อยใช้ได้ หนูพุกถึงกับซัดข้าวสองจาน แต่ว่าจานที่สองไอ้โรห์มันให้แค่ทัพพีเดียว โอย...ยังรู้สึกไม่อิ่มเลย


พักพุงแป๊บนึงมันก็ไล่ผมไปอาบน้ำ มันเอาเก้าอี้พลาสติกในห้องเก็บของออกมา เป็นเก้าอี้เหมือนตามร้านบะหมี่เก๊ยวน่ะครับ ไม่รู้ว่ามันซื้อมาทำอะไรเหมือนกัน ฟาโรห์พยุงผมเข้าไปในห้องน้ำ ตามมาด้วยผ้าขนหนูผืนประจำของผมเวลามาค้างที่นี่ เสื้อผ้าชุดนอนของผมที่ทิ้งเอาไว้


ไม่ต้องนึกถึงโมเม้นแบบพระเอกนางเอกนิยายที่นางเอกยืมชุดพระเอกใส่นะครับ ที่แบบออกมาตัวหลวมโคร่ง ของกูนี่ติดพุงติดตูดเข้าไปอีก เสื้อผ้าไอ้โรห์กูยัดตูดยังไม่เข้าเลย เฮ้อ...หนักพุง เอ๊ย...หนักใจ เพราะงั้นถึงต้องเอาเสื้อผ้ามาทิ้งเอาไว้


กลายเป็นว่าเสื้อผ้าผมกินพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าไปไม่น้อย แน่สิ...เพราะแต่ละตัวมันไซด์แบบ XXL XXXXL เจ้าของห้องมันยังใส่แค่ XL เองครับ


อาบน้ำเสร็จค่อยๆกระดึบๆออกมาจากห้องน้ำครับ ไิ้โรห์มันความคิดดีมาก เอากางเกงบอลขาสั้นกับเสื้อยืดย้วยๆมาให้ใส่ กางเกงบอลนี่หม่าม้าต้องไปหาซื้อไซด์พิเศษ ตามตลาดนัดมันไม่มีขายไซด์ผม


“มานั่งนี่มา” ร่างสูงใหญ่ขยับให้ผมนั่งลงบนโซฟาตัวนุ่ม จับขาผมขึ้นมาวางพาดบนตักมัน ในมือบีบยานวดป้ายบางๆแล้วถูเบาๆ ระหว่างนั้นมันก็พูดไปเรื่อยๆ “พุกนอนที่โซฟาแบดนะ อย่าเดินขึ้นชั้นลอยเลย”


ผมพยักหน้ารับเพราะไม่คิดจะเดินอยู่แล้ว


มือเบามากไม่เข้ากับตัว ความอุ่นซ่านแผ่ขึ้นในใจผมเบาบาง ฟาโรห์ยังเป็นเพื่อนที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย มันไม่เคยรังเกียจในบุคลิกของผม บางครั้งผมทำอะไรเชื่องช้า แต่พอมองรอบๆตัวแล้วก็จะต้องเห็นมันเป็นคนที่รอผมตลอดไม่ว่าเมื่อไร


ป่าป๊าเคยบอกผมว่า...เพื่อนๆดีๆหายาก แต่ถ้าเจอแล้วก็ต้องรักษามิตรภาพดีๆนั้นเอาไว้ตลอดไป


“ขอบใจนะ” ผมยิ้มออกมาจากใจ เมื่อมือใหญ่สีน้ำผึ้งพันผ้ารัดข้อเท้าให้ผมเสร็จ จะมีสักกี่คนที่ดูแลผมขนาดนี้ ถ้าไม่นับครอบครัว มีก็แต่ฟาโรห์นี่แหละที่ใส่ใจผมมากที่สุด


มันขี้บ่นบ้างบางเวลา ห้ามผมไม่ให้กินเยอะบ้าง ข้อนี้แอบนอยด์มันบ่อย แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่แฝงอยู่ในทุกการกระทำของมัน


“ไม่เป็นอะไร” รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากเหนือเคราบางๆ “ดูแลตัวเองหน่อยนะ”


ผมพยักหน้ารับคำ เมื่อมีคนคอยห่วงใย ผมก็ควรจะห่วงตัวเองให้มากๆ


คืนนั้น ไอ้ปองกุลเพื่อนแห้งมันค่อยได้ฤกษ์โทรมารายงานผมตอนกูเกือบจะสิ้นฤทธ์เพราะยาแก้ปวดที่ไอ้โรห์มันให้กิน มันบอกว่ามันถึงหอแล้ว ไอ้เท่น้ำใจงามสงเคราะห์ไปส่งมันที่หอ มันถามถึงอาการขาของผม เลยบอกมันว่าไม่เป็นอะไรมาก คอลไลน์เล่นไปเล่นมากับไอ้ปองกุลบนโซฟาแบดที่หาโฟร์ปรับให้เป็นเตียงนอนท่ามกลางกองผ้านวมนุ่มนิ่มสบายตัวจนเผลอหลับไปจริงๆ แต่ก่อนจะหลับลึก หูผมได้ยินเสียงทุ้มเข้มแผ่วเบา


“Good night หนูอ้วน” พร้อมกับความอุ่นของผ้านวมที่คลุมจนมิดคอ


...ฝันดี ฟาโรห์…

 


สามวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความคิดของผม แน่สิ แม่งเพราะกุเคลื่อนไหวได้ช้ายิ่งกว่าตัวสลอท คือเดินนี่ก็ต้องลากขาเหมือนคนขาเป๋ ขนาดเดินสองขายังช้าแล้วนี่เหลือขาเดียวกูจะไปทำอะไรกินได้


ห่านจิก!


ขาก็ดีขึ้นแต่ไม่มากเท่าไรยังปวดๆบ้างเวลาลงน้ำหนักหรือขยับเร็วๆ เวลาไปเรียนก็มีฟาโรห์ไปส่งที่ตึก หลังจากนั้นก็มีไอ้ปองกุลมาเดินเป็นเพื่อน มันไมได้พยุงหรอกนะครับ เกรงว่าถ้าให้มันพยุงนี่อาจจะล้มหน้าแหกลงไปกองกับพื้นให้ขายขี้หน้ากันทั้งคู่


“ไง ไอ้แห้ง” เสียงคนทักไอ้ปองกุลทำให้พวกผมหยุดเดิน


“อ้าวเท่” ปองกุลมันทักกลับ


“มึงโอเคแล้วใช่ไหม?”


“อื้อ ขอบใจมากนะที่ช่วย” ไอ้ปองกุลพูด ไอ้เดือนสาขามันก็พยักหน้าๆรับไว้


“แล้วนี่พวกมึงไปไหน?”


“ไปหาอะไรใส่ท้อง” ผมพูดถึงจุดประสงค์ที่กำลังลากสังขารไปโรงอาหาร


“เออ...กูไปด้วยดิ” ผมกับไอ้ปองกุลมองหน้ากันงง ปกติพวกผมจะไปกันแค่สองคนไม่ค่อยได้ไปไหนกับคนอื่นเท่าไร แต่วันนี้กลับมีเดือนสาขาหน้าตาดีขอตามไปด้วย บอกเลยไม่ค่อยชินเท่าไรว


แต่เอาเถอะ ไปด้วยกันก็ได้


“เออ ไปดิ” ผมยักไหล่แล้วค่อยๆลากเท้าเดิน


ร่างสูงของไอ้เท่เดินขนาบข้างร่างเล็กๆของไอ้ปองกุลนำหน้าผมไปเล็กน้อย กว่าจะลากสังขารเข้ามาในโรงอาหารได้ผมแถบหมดแรง อากาศก็ร้อนตับแตก ไอ้ปองกุลบอกให้ผมนั่งรอที่โต๊ะ ส่วนมันจะไปซื้อให้โดยมีไอ้เท่เดินตามไปติดๆ


ผมเลยเอามือถือขึ้นมาไลน์บอกพ่อยอดชายว่าอยู่โรงอาหาร มันเลยไลน์มาบอกผมว่าอย่ากินเยอะแล้วตอนเย็นมันจะมารับที่คณะ


ด้วยความหิวผมก็หน้ามืดซัดทั้งข้าวทั้งของกินไปเยอะเหมือนกัน คือพอพ่อไม่อยู่แล้วมันเหมือนชีวิตเปฺนอิสระมากมาย อยากกินอะไรก็กิน


“มึงแดกเยอะไปแล้ว!” ไอ้แห้งมันร้องเสียงแหลมเมื่อผมจิ้้มลูกชิ้นทอดลูกสุดท้ายเข้าปาก “ไอ้ห่าพุก นั่นมันส่วนของกู” ซื้อมาแบ่งกันคนละสองไม้ ไม่หนึ่งมีสี่ลูก ผมกินไปทั้งหมดเก้าลูก ลูกที่เก้านั้นก็น่าจะเดากันได้ว่ามันมาจากไหน


“มึงช้าเอง” ผมลอยหน้าลอยตาตอบ ดูดน้ำเก๊กฮวยชึ่นใจ


ไอ้ซีดแห้งมันทำขมุบขมิบด่าผมแน่นอน มันถอนหายใจก้มลงดูดน้ำในแก้วมัน


อยู่ๆก็มีลูกชิ้นทอดไม้หนึ่งยื่นมาข้างหน้าไอ้แห้ง ผมมองตามไปยงต้นทาง ไอ้เดือนสาขามันยื่นให้ไอ้แห้งที่นั่งข้างมัน ลืมไปว่าไอ้เท่ก็ซื้อมากินเหมือนกัน


“เอาไปดิ” ไอ้ปองกุลหน้าเหวอ


“เฮ้ย ไม่เป็นอะไร”


“เออ เอาไปเถอะ แดกๆไป” มันยัดไม้ลูกชิ้นใส่มือ ปองกุลมันทำหน้าแบบลิงถือลูกชิ้น เอ่อแล้วไอ้หน้าลิงถือลูกชิ้นมันเป็นไงวะ เอาเป็นว่าหน้าเหมือนไอ้ปองกุลตอนนี้แหละ “มึงโดนไอ้หยั่นหว่อหยุ่นมันแย่งแดกนี่เอง ตัวมึงถึงได้ขี้ก้างเป็นไม้เสียบผีอย่างนี้” เอ้าไอ้เท่ปากอยู่ดีไม่ว่าดี ลามมาถึงกู เดี๋ยวก็กระโดดทับหรอกนี่

 

++++++++++++++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++++++++++++++++


สวัสดีค่า

วันนี้เอาหนูพุกกับชะรีฟมาฝากค่า ตอนนี้ทุกคนอย่าหมั่นไส้ยัยหนูนะคะที่มันมีคนดูแลดีเกรดพรีเมียม

ตอนนี้ยัยหนูนางรักเพื่อนแขกขอนางมากนะคะ เลยมีเผยความในใจว่ายัยหนูนางคิดยังไงกับเพื่อนคนนี้บ้างนิดหน่อย แต่คนเขียนคอมเฟิมนะคะว่ายัยหนูนางยังไม่ได้รักพ่อยอดชายเป็นคนรักนะคะ นางยังรักเพื่อนนางแบบเพื่อนสนิทมากๆ

โดยคาแรคเตอร์ของหนูพุกแล้ว นางเป็นคนรักเพื่อนมากนะคะ คือนางขี้อ้อน(ตีน) ทุกคนไปเรื่อยตามนิสัย

แต่ด้านชะรีฟนั้นเราไม่รู้จีว่านางคิดยังไงกับนังหนู ฮ่าๆๆๆ อิอิๆ

ขอบคุณทุกการติดตามที่เอ็นดูมากันตั้งแต่พี่หมีต่ายแคระ จนมาถึงนังหนูเกรียนและพ่อยอดขมองอิ่มของเรา


ตามไปพูดคุยกันได้เฟสบุ้คเพจ มีลิ้งอยู่หน้าหลักของเรื่องนะคะ หรือจะตามไปหวีดกันที่ทวิตเตอร์

ติดแท็ค #ชะรีฟหนูพุก


เยิฟ

ปล. อีกหนึ่งเรื่องของคนเขียน วณิพกพเนจร ไปตามได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0

และเรื่องที่สองคือ รัก ตาม สั่ง
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55235.1380


ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
ขอฝากไปกดไลค์เพจเฟสบุ้คกันได้นะครับบบบ  เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะอัพเดทเวลาที่เรา
หายไปนานๆ หรือว่าติดธุระอะไร เราจะไปอัพเดทไว้ในเฟส หรือว่าบางครั้งจะมีเขียนโมเม้นน่ารักของอีพี่กะน้องเอาไว้เล่นๆที่ไม่
ได้เอามาลงหน้านิยายนะครับ เลยอยากให้ไปพูดคุยในเฟสกันเลยยยย ถ้าคนเขียนหายไปตามจิกในเฟสจะเจอเราเร็วมากเพราะ
เราเล่นประจำ
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao3: น่ารักเหมือนเดิม เรื่องเดินเนิบๆช้าๆแต่มั่นคง  :L1:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
แขกคิดเกินเพื่อนกับหนูอ้วนใช่ไหม

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ y_dao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :L1: ชอบมากกกกกอิจพุกมากอยากได้ฟาโรห์

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด