พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|  (อ่าน 89301 ครั้ง)

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432


รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0


...

สวัสดีค่าาา ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยน๊า ^^

เกริ่นนำ


เคยเห็นแต่พวก’หมอ’ มาตามจีบ ‘วิศวะ’ ออกจะบ่อย

เห็น ‘วิศวะ’ ไปตามจีบ ‘หมอ’ ออกจะบ่อย

ฮิตไรนักหนา..

แต่ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาเจอกับตัว จู่ ๆ ไอ้ว่าที่หมอปี 1 หน้าตาหล่อ ดูสะอาดเหมือนไม่มีผิดภัย

แต่ที่ไหนได้...อันตรายกว่าวิศวะอีก!!

และมันจะมายุ่งอะไรกับชีวิตผมก็ไม่รู้

แถมมันยังรู้ชื่อเล่นที่ผมไม่เคยบอกใครอีก!!!!!

“มันเป็นใคร ทำไมรู้เรื่องผม!!”

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2018 20:31:55 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
“หมู”

คณะแพทย์ศาสตร์ ปี 1

สูง 188 ผิวไม่ขาวไม่ดำ ผมดำสนิท แววตาคมเข้ม
ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดี อัจฉริยะ


“ศิลา”

หรืออีกชื่อที่ครอบครัวเรียก “หมวยเล็ก”
คณะวิศวะ ปี 2

ผู้ชายสูง ผิวขาว หุ่นบาง หน้าสวย
อะไรก็ได้ง่าย ๆ เป็นคนชิว ๆ ไม่ถือตัว
พยายามทำตัวให้เถื่อนมากเข้าไว้



“โทษนะครับ แถวนี้มีคนชื่อพี่...หมวยเล็ก ไหม”


นั่นคือประโยคแรกที่มันเดินก้าวดุ่ม ๆ เข้ามาคณะของผม
และใครจะรู้ว่าแค่ประโยคเดียว มันคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
ที่ทำให้ผมผูกพันกับมันตลอดกาล....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2017 22:31:42 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 1



          มหาวิทยาลัย YY



            [ P: ศิลา ]



            ...วิศวะขึ้นชื่อว่าเป็นคณะที่โหด! หลายคนบอกมาแบบนั้นแหละ นั่นแหละที่ผมชอบเพราะมันเถื่อนดี! แต่กว่าผมจะได้มายืนอยู่ในคณะนี้ในฐานะพี่ปี 2 ก็ยากลำบากเหมือกันกว่าจะขอป๊ามาเรียนที่นี่ได้



            ซึ่งผมเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเรียนรอดมาถึงปี 2 ...แต่ก็รอดมาแล้วล่ะวะ



            ผมไม่ชอบเวลาคนอื่นมองว่าผมดูอ่อนแอ! ด้วยความที่เป็นคนสูง ผิวขาว หุ่นบาง สูง 174



            แล้วก็เออ...หน้าสวย พวกมันพากันตั้งฉายาผมมาแบบนั้น แทบจะเป็นดาวของคณะวิศวะไปแล้ว แต่ผมไล่กระโดดเตะปากไอ้ที่มันพล่ามว่าผมสวยเกือบหมด มันเลยพากันขยาดและไม่ล้อผมอีก ล้อเล่นน่าครับ ไม่ได้ทำอะไรโหดขนาดนั้นนน...แค่ด่าพวกมันเกือบหูชาก็เท่านั้น


            ชีวิตของผมควรจะปกติสุขดีครับ...หมายถึงแค่ตอนนี้น่ะนะโดยที่ผมไม่รู้เลยว่า ชีวิตของผมมันกำลังจะเปลี่ยนไป...เพราะไอ้เด็กบ้าคนหนึ่ง

           


            วันนี้เป็นวันที่เริ่มเปิดมหาวิทยาลัยพวกเด็กปีหนึ่งพากันทยอยเข้ามาทำกิจกรรมตามที่แต่ละคณะจะจัดสรรเวลา มันก็จะมีไอ้พวกที่ชอบมาส่องเด็กใหม่ส่งเสียงวี้ดวิ้วตามประสา พวกมันจะคิดไหมว่าน้อง ๆ จะกลัว ไปส่งสายตาใส่ขนาดนั้น


            “ไอ้ศิลา ไปห้องน้ำนานชิบ” เสียงของไอ้เสาเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมของผมดังขึ้น ฟังไม่ผิดหรอกครับ มันชื่อเสา ไอ้นี่มันสูงมากยังกับเสาไฟฟ้า แถมสูงหล่อเข้ม มีตำแหน่งเป็นรองเดือนปีก่อนด้วย แต่มันไม่โสด มีแฟนแล้ว แถมแฟนมันเป็นดาวแพทย์อีก สวย หุ่นเพรียวมาก!


            ผมมองไอ้พวกเพื่อนที่นั่งประชุมกันอยู่อีกหลายคน ก็ประชุมพวกเรื่องรอเตรียมรับน้องนี่แหละ ว่าใครจะเป็นพี่ว๊ากบ้าง


            “ปีนี้มึงจะรับหน้าที่อะไร พี่พยาบาลมะ เหมาะกับมึงดี” ไอ้นนท์เพื่อนอีกคนของผมพูดขึ้น


            “เดี๋ยวปากมึงจะได้แตก” ผมยกเท้าเตรียมถีบ มันเลยรีบยกมือห้าม


            “ไอ้สาด กูล้อเล่น”


            “หรือมึงจะสายว๊าก” ไอ้เสาเสนอบ้าง ดูแต่ละอย่างที่พวกมันเสนอ...ไม่เหมาะอะไรกับผมสักอย่าง


            ทางที่ดีผมอยากอยู่เฉย ๆ


            “กูว่าแม่งว๊ากไม่ได้หรอกมัน น้องปีหนึ่งได้มานั่งจ้องหน้ามันชัวร์”


            “โว้ย อะไรของพวกมึงวะ กูขออยู่ฝ่ายพวกน้ำกับของกินให้น้อง ๆ ก็ได้ มึงกับมึงอยู่กับกู” ผมชี้ไปที่เสากับนนท์ มันก็ไม่ได้คัดค้านอะไรอยู่แล้ว ฝ่ายนี้สบายสุด ผมรู้ว่าไอ้พวกนี้มันขี้เกียจครับ...(ผมก็ขี้เกียจ ฮ่า!)


            “กูเจอน้องคนหนึ่งแจ่มชิบ อยากจะเดินเข้าไปขอเบอร์ ตัวเล็ก ๆ น่าทนุถนอมมาก” ไอ้นนท์พูดพลางทำท่าเพ้อ ผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เคี้ยวขนมตุ้ย ๆ


            “ให้มันน้อย ๆ หน่อยมึง น้องกุ๊กไปไหนแล้ว?” แฟนคนล่าสุดของไอ้นนท์มัน


            “เลิกแล้ว”


            “เชี่ย!” ผมด่า


            “เหี้ย!” ไอ้เสาเลยช่วยด่าต่อ นนท์มันกรอกตาใส่พวกผมนิดหน่อย


            “จ๊ะ ด่ากูมาเลย เพื่อนเอาให้เต็มที่!”


            “ทำไมได้เลิกวะ ก็เห็นดูรักกันน่าจะนาน”


            “ไม่รู้ว่ะ กูว่าเหมือนมีบางอย่างไม่ใช่” มันว่าพึมพำ


            “กูเห็นมึงพูดอย่างนี้ทุกคนไอ้สัสนนท์” เสาด่าอย่างไม่ได้จริงจัง พวกมันตบหัวกันเชิงหยอก ผมเลยหัวเราะ


            ก่อนทุกสายตาจะหยุดกึกแล้วหันไปมองผู้ที่เดินเข้ามาภายในตึกคณะวิศวะ


            เชรด...ผู้ชายสูงชะลูด 188 ผิวไม่ขาวไม่ดำ ผมดำสนิท แววตาคมเข้ม หน้าหล่อคม หน้าเหมือนซื่อ ๆ มันใส่ป้ายชื่อมาด้วย เดาไม่ยากน่าจะเป็นปี 1 แถมยังเป็นป้ายชื่อของคณะแพทย์!!...


            แล้วมันมาทำไรที่คณะวิศวะไม่ทราบ ไอ้น้องเอ็งมาผิดคณะแล้วเฟ้ย...


            แต่ประโยคแรกที่มันถามออกมาทำเอาผมหันขวับไปสบตากับมันที่มองพอดิบพอดี


            “โทษนะครับ แถวนี้มีคนชื่อพี่...หมวยเล็ก ไหม”


            ถามแค่นั้นทุกอย่างเงียบกริบ...


            เห้ย....ชื่อนี้เป็นชื่อที่ผมไม่เคยเอ่ยถึงมากที่สุด!!


            “ก๊าก! ไอ้น้องมาผิดคณะป่าว มาหาแฟนเหรอ นี่คณะวิศวะนะเว้ย ไอ้เชี่ยไหนมันจะชื่อหมวยเล็กได้วะ” ประธานคณะวิศวะมันหัวเราะกับเพื่อนเหมือนขำมาก

            ...ไอ้เชี่ยที่พวกมึงว่า ก็กูนี่แหละครับที่ชื่อ ‘หมวยเล็ก’ มันเป็นชื่อที่ป๊ามักเรียกผมเสมอเวลาอยู่บ้าน เนื่องด้วยผมมีพี่ชายสองคน ปกติจะเรียกว่า เฮียใหญ่ เฮียกลาง และผมเป็นลูกคนสุดท้อง ป๊าดันอยากได้ลูกสาวสักคน แต่ผมกลับเป็นผู้ชาย ด้วยความที่ผมดันเกินมาตัวเล็ก ๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม...(ตอนเด็กน่ารักจริง ๆ นะ) ป๊าเลยเปรียบเสมือนผมเป็นลูกสาวของบ้าน รักทนุถนอมมาก! นั่นก็เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นอีกชื่อของผม...หมวยเล็ก


            แต่ไอ้นี่มันเป็นใครฟะ...หรือมันอาจจะไม่ได้มาพูดถึงผมก็ได้ แต่ในคณะเรามันก็มีผู้หญิงไม่เยอะนะเฟ้ย!


            เริ่มร้อนตัว...


            “น้องมาผิดคณะรึเปล่าวะ” ไอ้เสาถาม แม้มันจะรู้ว่าจริง ๆ อีกชื่อของผมคือหมวยเล็ก เพราะไอ้นี่เป็นเพื่อนผมตั้งแต่เรียนมัธยมมันเลยรู้ และไอ้นนท์เพิ่งมารู้ตอนอยู่ปี 1


            สายตาคมกริบจ้องมาที่ผม...


            “ผมว่าผมมาถูกนะครับ....” มันจ้องผมตาไม่กระพริบ “หรือผมอาจจะมาผิด...”


            อะไรของมันวะ กวนชิบบบบ...


            “จ้องหน้ากูทำไม?” ด้วยความที่ทนไม่ได้จากการที่มันมายืนจ้องหน้าผม


            “จ้องไม่ได้เหรอครับ” ไอ้สูงโย่งตรงหน้า ควรจะใช้คำนี้เพราะมันน่าจะสูงกว่าไอ้เสาด้วยซ้ำ


            “ไม่ได้”

            “พี่ชื่ออะไรอ่ะ...” จู่ ๆ มันก็ถาม แล้วประเด็นไม่ใช่อะไรคือมันถามผมคนเดียว ในคณะที่ทุกคนในคณะมองกันเป็นตาเดียว

            “ทำไมกูจะต้องตอบมึงด้วย?” โวะ มันประสาทรึเปล่า

            “เพราะผมอยากรู้”

            “กูไม่ให้มึงรู้” คนตรงหน้ากระตุกยิ้ม...น่าจะตั้งชื่อยิ้มนี่ว่า ยิ้มหล่อ...มีลักยิ้มด้วย


            “ผมชื่อ หมู นะครับ จำชื่อผมไว้ด้วยนะ” เมื่อเห็นผมไม่บอกชื่อมันก็พ่นชื่อออกมาเองซะงั้น


            “หา?”


            “อยู่ปี 1 คณะแพทย์ศาสตร์”


            “มึงบอก..”


            “หอพักอยู่ XXX” เดี๋ยว! นั่นมันหอตรงข้ามกูนี่...


            “ทำไม...”


            “บายครับ หมวยเล็ก” เขาโน้มมากระซิบผมเหมือนให้ได้ยินกันสองคน ก่อนจะหมุนตัวออกไป ท่ามกลางความต้องการ(เผือก) ของพวกที่นั่งเรียงกันอยู่



            “เชี่ย...” ผมสบถ มันเป็นใครวะ!!



            หมูไหน หมูแผ่น หมูกรอบ หรือหมูย่าง...ไม่ใช่ละ ผมค่อนข้างจำคนได้แม่น ว่าผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อนแน่ ๆ!!


            “โห..ใครวะ ดูเหมือนจะรู้จักฉายาสุดคาวาอิของมึงด้วย” เสาถามเบา ๆ แล้วกดแชทกับแฟนไปด้วย


            “เดี๋ยวกูจะได้เตะปากมึงก่อน...กูไม่รู้ มันเป็นใครวะ”


            “มึงไม่รู้แล้วพวกกูจะไปรู้ไหม”


            “มันต้องการอะไรจากกูวะ” ผมหันไปถาม ก่อนจะได้รับคำตอบจากนนท์ที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ ปกติไอ้นี่มันจะไปกับแฟนล่ะครับ แต่นี่มันเลิกแล้วมันเลยว่าง


            “อาจจะมาจีบมึงก็ได้” ผมหันขวับ


            “พูดเรื่องห่านอะไร”


            “กูบอกว่าน้องมันอาจจะมาจีบมึงก็ได้ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเหรอหมอเขาฮิตจีบวิศวะจะตายไป” ผมขมวดคิ้ว ก็พอจะได้ยินเรื่องแบบนี้มาเหมือนกัน เห็นมีรูปตามเพจก็มี


            แต่เฮ้ย!...มันไม่ใช่ประเด็นไหมล่ะ จู่ ๆ เจอคนที่(คาดว่า) น่าจะรู้จักชื่อเล่นที่ผมแสนน่ารักที่ป๊าให้มาแต่มันก็เป็นอะไรที่ผู้หญิงโคตร ๆ ถ้าเกิดมีใครรู้...โดนล้อยันลูกบวชแน่ ๆ !


            ไอ้นั่นมันเป็นใครมาบอกชื่อพร้อมที่อยู่ กะจะให้ผมตามไปกระทืบมันได้ถูกที่ใช่ไหม


            “เออน่า มึงก็อย่าเพิ่งไปคิดมากเลย น้องมันก็คงอยากรู้จักแหละ” ขอบคุณคุณเพื่อนที่ปลอบใจมากเลยยยยยยย... ไม่ได้ช่วยให้กูดีขึ้นสักนิด


            “เออไม่คิด” ผมตัดบท แม้ว่าภายในใจจะยังคิดอยู่ก็เถอะ

 

            |เริ่มสัปดาห์ของการพบปะรุ่นพี่|


            “ทำไมมึงไม่ไปเองวะ!!” ผมตะโกนด่าไอ้เสาที่กำลังยกมือไหว้อ้อนผม


            “กูนัดจีไว้อ่า...ผิดนัดโดนด่าแน่ ๆ”


            “ไอ้เพื่อนเลว มึงจะไปดูหนังกับแฟนแล้วทำไมไม่พากันไปดูน้องวะ” ผมด่ามันอีก เพราะไอ้นี่มันจะหนีไปดูหนังแฟนดาวของมันแหละครับ และก็ต้องเดือดร้อนผมให้ไปดูน้อง ๆ ของคณะเราไปแข่งดาวเดือน และก็ไปแข่งกีฬา ผมรับหน้าที่ไปดูน้องที่จะคัดนักกีฬา


            “โอ๊ย มึงก็ดูแลบาสช่วยกูป่ะวะ นะนะนะ เดี๋ยวกูช่วยสืบเรื่องไอ้หมูกรอบของมึงให้ก็ได้”


            “มันไม่ใช่น้องหมูกรอบของกูโว้ย! เออ จะไปก็ไปรำคาญมึงจริง ๆ แล้วไอ้นนท์หายหูไปไหนของมันตั้งแต่บ่าย ๆ แล้ว” ผมสบถพร้อมกับขยี้หัวของตัวเอง


            ไอ้หมูกรอบ...อย่าให้กูรู้นะว่ามันเป็นใคร จะได้เห็นดีกันแน่ ๆ!



            @โรงยิม


            “พี่สวัสดีครับ” หนึ่งในน้องคณะของผมที่เพิ่งจะเจอกันไม่กี่ครั้งยกมือไหว้ผม พวกมันไม่ค่อยกลัวผมหรอกครับเพราะผมไม่ใช่พี่ว๊าก   


            “ดี ๆ พวกมึงจะเล่นบาสกันใช่ไหม?” ผมนับจำนวนคนดู สายตาก็เหลือบไปเห็นข้างมุมสนามที่มีคณะแพทย์อยู่ แถมอิเจ้ที่กำลังชี้แจงอยู่ดันมองมาที่ผม


            “เอ้า เด็ก ๆ สวัสดีพี่ปี 2 คณะวิศวะสุดหล่อหน่อยเร็ว...” ขอบคุณเจ้มากที่มองว่าผมหล่อ

           
           อยากจะหมอบกราบ...สงสัยกำลังคัดพวกดาวเดือนอยู่ล่ะมั้ง


            “สวัสดีค่ะ/ครับพี่ปี 2 คณะวิศวะสุดหล่อออ...” น้องแกก็ซื่อสัตย์ดีพูดตามกันทุกคำอย่างพร้อมเพรียง นึกถึงตอนตัวเองผ่านมาก็ตลกชะมัด สภาพตอนปี 1    ผมปวกเปียกกว่านี้มาก...(ยังมีแย่กว่านี้ด้วยใช่ไหม) ผมยกมือรับพอเป็นพิธี


            ยังไม่ทันจะหันไปคุยกับพวกรุ่นน้องตัวเองผมก็ชะงักกึก กับเสียงกรี๊ดของคณะอื่นที่อยู่รอบ ๆ แบบว่าในโรงยิมช่วงนี้คณะไหนจะเข้ามาใช้ก็ได้ สาว ๆ เลยได้โอกาสมาส่องหนุ่มคณะอื่นด้วย


            และต้นเหตุเสียงกรี๊ดก็มาจาก...ไอ้หมูกรอบ (ตั้งฉายาให้แล้ว) มันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามา ใบหน้าที่มีเหงื่อไหลลงมา ทำให้มันเอามือเสยผมประดุจถ่ายโฆษณา...ที่บ้านกินไรเป็นอาหารวะ ท่าจะหล่อระเบิดขนาดนั้น ถ้าลงเดือนด้วย ผมว่าคณะอื่นมีดับอ่ะ...


            “กรี๊ดดด แก...ฉันไม่คิดว่าจะได้มาเข้าที่เดียวกันกับหมูเลยอ่ะ...เขินตัวจะแตก”

            “จริง...ดูดีมากเลยอ่ะ เขินนน”


            “เขาฉลาด โปรไฟล์ดี บ้านรวย ลูกชายคนเดียวอีก!”


            และอีกหลายเสียงจากหลายคณะที่มันกระเด็นเข้าหูผม


            “ทำไมมาสายคะ น้องหมู...แบบนี้ต้องโดนทำโทษนะเนี่ย มาเป็นตัวแทนประกวดเดือนมหาวิทยาลัยซะดี ๆ” ยัยเจ้นั่นประกาศใส่โทรโข่งจนได้ยินก้องทั้งโรงยิม


            เหมือนต้องการข่มคณะอื่นเลยแฮะ...ผมมองหน้าคณะผมแต่ละคนที่...เถื่อนพอสมควร สาว ๆ สมัยนี้ชอบหน้าตาขาวใส คม ๆ เหมือนอยากไอ้หมูกรอบเนี่ยนะ


            ไม่รู้ทำไมทั้ง ๆ ที่อยู่ไกล ผมกลับรู้สึกแววตาของเขาที่มองมาทางผม เหมือนทุกคนในคณะอื่นรอบ ๆ จะลุ้นให้ไอ้นี่ลงประกวด พากันมองประดุจเป็นคณะตัวเอง


            “ถ้าพี่ว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ผมไม่อยากให้คาดหวังกับผมมากนักนะ” ปากมันพูดแบบนั้นแต่ดันขยิบตาโปรยเสน่ห์ให้สาว


            โอ้โห...ไอ้นี่ไม่เบา


            ผมกอดอกมองเด็กในคณะที่นั่งทำตาปริบ ๆ มองสาว ๆ ที่พากันมองแต่หมู


            “คณะเราใครเป็นเดือนวะ” ผมถามรุ่นน้องเพราะไม่ได้สนใจเรื่องที่เลือกเดือนคณะตัวเองเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบเสียงโทรโข่งจากฝั่งมุมของคณะแพทย์ศาสตร์ก็เรียกความสนใจของผมซะก่อน


            “พี่วิศวะปี 2 ตรงนั้นน่ะครับ...” ไอ้คนที่ถือโทรโข่งพูดอยู่ป่าว ๆ ไม่ใช่ใคร แต่เป็นไอ้คนที่ทำให้เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มอยู่นี่ไงล่ะ


            ผมที่กอดอกอยู่มองงง...มองซ้ายมองขวา...มีกูเป็นปี 2 คณะวิศวะอยู่ตรงนี้คนเดียวนี่หว่า


            มันจะเรียกทำไมมมมมมม....


            ทุกคนเงียบกริบเหมือนรอฟัง...


            ผมมองมันนิ่ง ๆ เก็บอาการสุด ๆ....เชี่ย มันจะพูดอะไร ถ้าพูดว่าหมวยเล็กออกมา ผมจะแก้ตัวยังไง



            “เห็นเขาว่าวิศวะหน้าโหด...ทำไมผมเห็นคนน่ารักล่ะครับ”

         

             ประโยคเดียวจบ...



            จบด้วยเสียงกรี๊ดดังสนั่นของสาว ๆ .....แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับ...



            ....มันไม่ได้พูดถึงผม มันพูดถึงใครไม่รู้ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ผม!!....ผมมั่นใจ


            แล้วทำไมวันนี้ผมต้องมายืนเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะคนเดียวด้วยยยยย...



...

ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ^^

ร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวฟิน ๆ กันเถอะะะ เยิฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2017 22:49:54 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 น้องหมู รู้จัก พี่หมวยเล็กมาก่อนแน่เลย
แต่พี่หมวยเล็กคงจำน้องหมูตอนนั้น ที่ต่างจากตอนนี้ไม่ได้
น้องหมูกรอบ รุกพี่หมวยเล็กน่าดู
“เห็นเขาว่าวิศวะหน้าโหด...ทำไมผมเห็นคนน่ารักล่ะครับ”
รอตอนใหม่  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

สูงชะลู่ ------ ชะลูด

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แหม หมวยเล็กจ๊ะ ที่ว่าตัวเองไม่น่ารักน่ะ เป็นเพราะที่จริงแล้วหน้าสวยสินะจ๊ะ (หัวเราะ)

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
หมวยเล็กของน้องหมู อิอิ

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 2



            [พาร์ตของศิลา]



            “ว่ะฮ่า ๆ !! เห็นเขาว่าวิศวะหน้าโหด...ทำไมผมเห็นคนน่ารักล่ะครับ” ไอ้เสาพูดล้อประโยคที่ผมได้ยินมาเมื่อวานอีกครั้ง



            “ถ้ามึงยังไม่หยุดหัวเราะกูจะเอาถังน้ำแข็งฟาดมึง!”



            “มึงยกให้ไหวก่อนเถอะ ก๊าก กูว่าน้องมันชักจะยังไง ๆ แล้วนะ ชมมึงว่าน่ารักเนี่ย”



            หลังจากไอ้หมูนั่นพูดคำนั้นออกมาผมก็เดินหนีออกมาจากโรงยิมทันที ผมไม่ได้หนีมันนะ! ผมแค่ทำธุระของตัวเองเสร็จแล้วก็เลยเดินหนีออกมา...(เหรอวะ)



            “เพราะพวกมึงแหละ เออไอ้นนท์เมื่อวานมึงหายไปไหนมาวะ ทิ้งกู” ผมกับเสามองไอ้นนท์ที่เอามือเท้าคางเหมือนเพ้อ ไอ้นี่มันเลิกกับแฟนแล้วถึงกับเอ๋อเลยเหรอ



            “ไอ้สัดนนท์!” ไอ้เสาจัดการเรียกสติเข้าให้



            “ไรของมึงวะ” มันโวยเชียวครับ



            “มึงแหละนั่งเหม่อ ไอ้ศิลาพูดกับมึง”



            “พอดีมีธุระพาแม่ไปธนาคาร ลืมบอกพวกมึงรีบ” มันบอกแค่นั้น





            “นิ่ง!!” ผมถึงกับสะดุ้งกับเสียงไอ้ถั่วดำที่เป็นเฮทว๊ากของวิศวะปีนี้ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันชื่อถั่วดำ....มันเป็นกระเทยครับ แบบแต๋วมาก แต่มันแมนกว่าพวกผมมากนะ ก็คิดดูละกันว่ามันมาเรียนวิศวะอ่ะ



            “กูสะดุ้งไปถึงขั้วหัวใจ ถั่วดำแข็งแกร่งมากว่ะ” ไอ้เสาทำท่าทำทาง



            “นั่นเมียเก็บมึงไม่ใช่เหรอ”



            “ไอ้ห่า ขนลุกโว้ย กูไม่ชอบผู้ชาย กูมีจีของกูอยู่แล้ว” ไอ้เสาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ผมหัวเราะ ส่วนไอ้นนท์เล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจชาวบ้านชาวช่อง





            พวกผมเหมือนทำตัวไร้ประโยชน์ แต่จริง ๆ ไม่ใช่ครับ ก็อยู่ฝ่ายเสิร์ฟน้ำก็รอแต่เสิร์ฟน้ำไง ระหว่างนี้พวกผมก็จับเข่าคุยกันเรื่อง(ไร้)สาระทั้งนั้น ส่วนพวกนั้นก็ปล่อยให้ว๊ากน้องต่อไป



            “อ้อ กูไปสืบ ๆ เรื่องน้องหมูกรอบของมึงมาละ”





            “ไม่ใช่ของกูเดี๋ยวฟาดด้วยแข้งหรอก...” ผมไม่ได้อยากรู้หรอกนะ “ว่ามาสิ แล้วมึงไปรู้มาจากไหนวะ”



            “แหม ทำเหมือนไม่อยากรู้แต่รีบถามเชียว”



            “กวนตีน มึงอย่าลีลา”





            “กูก็ได้ข่าวจากพวกแฟนคลับทั้งหลายแหล่ของไอ้น้องหมอหมูกรอบนั่นแหละ จบจากสหศึกษาอินเตอร์ มีแต่พวกรวย เพอร์เฟคเรียนอยู่นั่น น้องสอบเข้าแพทย์ติดด้วยคะแนนลำดับต้น ๆ เลยเว้ย”





            โห..หล่อ รวย แถมยังฉลาดอีก นั่นคนหรือเครื่องจักรกล



            “แล้วมึงจำได้ไหมว่า เคยรู้จักน้องมันรึเปล่า?” ไอ้เสาถามขึ้นหลังจากที่เล่าไปด้วย



            “ไม่ว่ะ กูว่ากูไม่เคยรู้จักมันนะ...” เพราะถ้ารู้จักผมก็ต้องจำได้สิ ผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าเคยเจอเขามาก่อนสักกะนิด



            “เหรอ ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก” ไอ้นนท์พูดเสริม เออว่ะ...ไอ้นี่พูดง่าย



            แล้วเวลามันมาพูดกรอกหูกูว่า หมวยเล็กเล่า!! ...คาใจที่สุด



            “จะบอกว่าน้องมันเสน่ห์แรงมากนะ สาว ๆ ต่อคิวเป็นขบวนรถไฟ” เสาพูดพลางหยิบขนมมาแกะกิน อ้าวไอ้รุ่นพี่ไร้จิตสำนึก นั่นมันขนมน้องปี 1 โว้ย...แต่ผมก็หยิบมากินด้วยเมื่อมันยื่นมาให้ผมกิน



            “ช่างหัวมัน ไม่เกี่ยวกับกูเรื่องสาว ๆ ของมัน” ที่ผมอยากรู้ก็แค่เรื่องที่มันกล้าเรียกว่า หมวยเล็กกับผมก็เท่านั้นแหละ



            “หรือมึงอาจจะคิดมากไปก็ได้นะ บางทีมันอาจจะตาดีเห็นมึงขาว ๆ ตัวบาง ๆ”



            “ถ้ามึงยังพูดต่อจะเอาขวดน้ำปาหน้าจริง ๆ นะ!” ผมเตรียมจับขวดน้ำ ไอ้เสาเลยไปหลบหลังนนท์ที่นั่งหัวเราะคลิปตลกในโทรศัพท์ เพื่อนผมแต่ละคนแม่งเหมือนไม่เต็มบาท...



            “งั้นมึงก็เข้าไปถามน้องมันตัวต่อตัวเลยดิ ง่าย ๆ” เสาเสนอขึ้น เหมือนจะเป็นความคิดที่ดีแต่บอกเลยครับว่า มันไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน!....



            ก็ตั้งแต่ไอ้คำว่าน่ารักกลางโรงยิมเมื่อวานละ...





            |กลางสนามกีฬาใหญ่|

            แดดร้อน ๆ ของช่วงประมาณบ่ายโมงเป็นอะไรที่ร้อนสุดขั้วมาก แต่พวกน้องปี 1 คณะต่าง ๆ ก็ยังต้องมานั่งรวมกันเป็นแบบคลาสเชียร์ใหญ่ แอบสงสารแฮะ...แต่ตอนปี 1 พวกผมก็เคยผ่านมาเหมือนกัน บอกเลยว่าร้อนก็ร้อนแถมยังต้องมาฟังพี่ว๊ากตะโกนใส่อีก



            “ศิลา! เราฝากกล่องพยาบาลไว้หน่อยสิ อาจารย์เรียกให้เราเอาเอกสารเรื่องรับน้องไปให้แกเซ็นด่วน” ยัยหัวหน้าประจำชั้นปี 2 ของพวกผมยัดกล่องพยาบาลใส่มือของผม



            ยังไม่ทันจะตอบรับอะไรเธอก็วิ่งหนีหายไป ผมเหลือบสายตามองหน้าไอ้เสากับไอ้นนท์ที่แม่งยืนอยู่คุมเชิงน้องเป็นพี่ว๊ากหน้าดุ อยู่อีกมุมหนึ่งนู่น





            แล้วกูจะต้องมาถือกล่องพยาบาลทำเปี๊ยกอะไรอยู่ตรงนี้...อย่าเพิ่งมีคนเป็นลมตอนนี้เลยนะ



            ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้สายตาของผมดันมองไปสบตากับ...เจ้าของดวงตาคมกริบที่จ้องผมเมื่อวาน



            แม้มันจะทำหน้านิ่งนั่งระเบียบเชียร์อยู่ แต่แววตามันแม่ง...เหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา



            คณะแพทย์ดันมานั่งอยู่ใกล้คณะวิศวะ เป็นไปได้ยังไง....



            ระหว่างที่จ้องกับดวงตาคมผมก็สะดุ้งเสียงถั่วดำว๊ากขึ้น





            “พี่พยาบาล!!” อ๋อ มันเรียกพี่พยาบาล...ผมก็ยืนเฉยและรู้สึกว่าทุกสายตาเหลือบมาหาผม



            เหลือบมาทำไมวะ... ไอ้เสาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามผมชี้ให้ผมดูที่มือตัวเอง



            โอ๊ะ...กล่องพยาบาลอยู่กับกูครับ...



            “น้องขอยา! พี่พยาบาลทำหน้าที่ด้วย!!”  ไอ้ถั่วดำว๊ากผมอีกรอบ ผมยิ้มแหย่ ๆ เชี่ยยย...กูไม่รู้จักยา



            ผมเดินไปหาน้องคณะตัวเองที่ยกมืออยู่ด้านหลัง



            “มึงเป็นไร” ผมนั่งยองลงข้างน้องมัน



            “ปวดหัวครับ” น้องมันตอบ



            แต่ผมกลับรู้สึกว่ามีสายตามองมาที่ผม หมูมันมองแวบหนึ่งก่อนจะหันไปหาหน้าคลาส



            เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอกมึง..



            “พี่ยาผมล่ะ” น้องมันเรียกผมอีกรอบ ผมเลยค้นยาในกล่องดู...อันไหนวะ น่าจะอันนี้ ผมยื่นให้



            “พี่...มันยาแก้ปวดประจำเดือน ผมขอพาราเซตามอล” มันบอกชื่อยาเต็มเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้พวกเพื่อนปีเดียวกับผมขำเบา ๆ



            ใครใช้ให้เอายาแก้ปวดประจำเดือนมาใส่ไว้ล่ะวะ!!..โวะ ผมหยิบพาราให้ไอ้น้องที่ปวดหัวพลางปิดกล่อง พยาบาลก็ไม่ใช่ดันต้องมาทำ





            “เฮ้ย น้องเดือนมึงไหวไหมหน้าซีด ๆ นะ” เสียงของพี่ปี 2 ที่ดูแลน้องคณะแพทย์พูดขึ้น



            ทุกคนดูให้ความสนใจมากก็เพราะคำว่า ‘น้องเดือน’ จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ไอ้หมูกรอบ มันหน้าซีด ๆ จริงด้วยแฮะ



            “ผมขอยาดมก็พอครับ” เสียงเข้มตอบ และทุกสายตาก็เหลือบมาที่ผม



            อะไรกับกูอีกแล้ว...


            “กูว่าให้น้องแกเข้าไปพักในร่มเหอะ เดี๋ยวต้องไปประกวดเดือนมหาลัยอีก” ไอ้พวกปี 2 อีกคนพูด


            “ไอ้ศิลา...” พวกมันกวักมือเรียกผม แถมเรียกชื่อผมชัดเจน...หมูเงยหน้ามองผม





            “เดี๋ยวน้องลุกไปกับพี่ศิลาก็แล้วกัน มึงดูแลน้องด้วยละกัน พยาบาลคณะกูไปดูแลน้องผู้หญิงที่เป็นลมละ” มันสั่งความไม่ได้ถามผมสักคำ


            แต่ถามว่าผมปฏิเสธได้ไหม กล่องพยาบาลคามืออยู่ก็คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องพาไอ้หมูนี่ไปพักที่ข้างสนามเย็น ๆ เสากับนนท์ส่งสายตาล้อผมใหญ่





            “ไม่พยุงผมเหรอ” ผมกำลังจะพามันเดินไปที่นั่งข้างสนามก็ต้องเลิกคิ้วกับรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏออกมา



            “มึงไม่ได้เป็นไรจะพยุงทำไม?” เราเดินมานั่งลงตรงข้างสนามไกลจากที่ว๊ากพอสมควร ผมกำลังค้นกล่องหาสำลีและแอมโมเนียอยู่



            “พี่ศิลา...” ผมชะงักกับเสียงที่ดังขึ้น พอเงยหน้าก็ชะงักกับเขาที่แกล้งยื่นหน้าเข้ามา


            ผมเอาสำลีไปแปะหน้าเขาด้วยความตกใจ ทำให้มันร้องออกมา



            “โอ๊ยพี่ แสบตา” เขาทำท่าเอามือปิดตาไว้....แย่แล้ว ไปทำร้ายร่างกายเดือนคณะเขากูจะโดนยำไหม



            “ไหน ๆ กูดูหน่อย โดนตาเหรอวะ เอามือออกไปดิ!” ผมดันมือของหมูที่ปิดหน้าไว้และดูตาของเขาชัด ๆ ว่าแดงไหม....ไม่แดง แววตาคมกริบจ้องมองผมไม่กระพริบ



            พร้อมกับรอยยิ้มกวน...ไอ้เชี่ย! มันหลอกผม



            “สนุกเหรอมึง!”



            “เปล่า มันแสบจริง ๆ เมื่อกี้” เขาแถหน้าด้าน ๆ “ก็หายเจ็บตอนพี่มาส่องดูให้เมื่อกี้แหละ...”



            “ตาหวาน ๆ ของพี่ช่วยได้เยอะ” ผมหันขวับ



            “ตาหวานอะไรของมึง ประสาทป่ะ”  เขายกยิ้ม



            “ผมบอกว่า พี่ศิลาตาหวาน”



            “อยากโดนลูกเตะกูมากใช่ไหม ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ!” ผมเริ่มขึ้น จะถามมันให้รู้เรื่องไปเลยดีไหม!



            “ก็ผมพูดความจริง” หมูนั่งขัดสมาธิเอายาไปดมพลาง ๆ ดูไม่ได้เกรงกลัวผมสักนิด



            นี่ผมอยู่คณะวิศวะนะเว้ย คณะที่มีแต่คนเกรงขาม...เถื่อนด้วยนะ...



            ถามมันดีไหมวะ....ถ้าถามก็จบแล้ว! สรุปถาม



            “ที่มึงเรียกกูว่า....”



            “หมวยเล็ก” เขาหันมาตอบเหมือนรู้ว่าผมจะถาม “ทำไมเหรอครับ มันเป็นชื่อของพี่เหรอ”



            “บ้า!...ไม่ใช่ชื่อกู” ผมปฏิเสธ แต่แอบเห็นแววตาหมองลงของไอ้หมูนิดหนึ่งแฮะ...



            “แล้วมึงมาถามหาคนชื่อนี้ทำไม แถมยังมาพูดชื่อนี้กับกู กูก็เลยสงสัยไง” ผมถามแถ ๆ หมูหัวเราะในลำคอ ผมว่าไอ้นี่ทำอะไรรู้สึกมันจะดูดีไปหมดแอบอิจฉา





            “พอดีเป็นชื่อของคนที่ผมอยากจะเจอ ผมรู้แค่ว่าอยู่มหาวิทยาลัยนี้ก็เลยมาตามหาตามคณะนั้นคณะนี้ดู....”





            “พอผมเห็นพี่ก็ดันนึกถึง เจ้าของชื่อนี้ขึ้นมาน่ะครับ...เหมือนมากจริง ๆ” ผมชะงักกับเขาที่หันหน้ามาจ้องหน้าผมอีกครั้ง



            “หน้าสวย แก้มอมชมพู ริมฝีปากเรียวเล็ก...นั่นแหละครับ หมวยเล็กของผม



            เชี่ย...นั่นมันคุณสมบัติของผู้หญิงชัด ๆ



            แสดงว่าหมวยเล็กของมันคงไม่ได้หมายถึงผม เฮ้อ...นี่ก็ร้อนตัวไปก่อน ตกอกตกใจหมด



            “ยังไงมึงก็หาเขาให้เจอละกัน” ผมอวยพรอย่างคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผม หมูทำหน้าขรึมและจู่ ๆ ก็ลุกขึ้น



            “มึงจะไปไหน?” ผมมองงง ๆ



            “จะกลับไปนั่งรับน้องกับเพื่อนครับ” เขาบอก



            “อ้าวเฮ้ย จะบ้าเหรอ ก็เขาบอกให้มึงพัก เดี๋ยว ๆ” ไอ้หมูเดินก้าวฉับไปข้างหน้าเร็วมาก หรือขามันยาวเลยก้าวไว...สรุปขากูสั้นครับ



            “ศิลา! กล่องพยาบาลล่ะ” แม่หัวหน้าห้องของผมกลับมาแล้ว และผมก็ไม่ทันได้เรียกหมูที่เดินกลับไปนั่งให้พี่ว๊ากกลางแดนต่อ


            อะไรของมันฟะ ไม่ชอบอยู่ร่ม ๆ ชอบตากแดด ดูหน้าซีดลงด้วย...ปล่อยมันไปเหอะ ไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับผมเล๊ย!



            ……..

            ………



            “มึงคุยกับน้องเขารึยังวะ น้องว่าไง” หลังจากเลิกคลาสใหญ่ พวกผมก็พากันเก็บข้าวเก็บของมาไว้ที่คณะตัวเอง



            “คุยแล้ว น้องมันบอกว่าเป็นชื่อของคนที่น้องอยากเจอ ไม่เกี่ยวกับกูเว้ย” ผมพูดอย่างอารมณ์ดี แต่ไอ้เสากับไอ้นนท์ทำท่าเหมือนไม่เชื่อ



            “มึงชื่อที่น้องมันพูดเหรอว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง น้องพูดเหรอ”



            อะไรของพวกมัน....



            “ไม่ได้พูดแต่กูตีความเป็น”



            “จ๊ะ ฉลาดมาก....แต่ดูท่าทางเหมือนน้องเขาอยากจะรู้จักมึงมากกว่านะกูว่า” จู่ ๆ ไอ้เสาก็พูดขึ้นแล้วส่งสายตาให้ผมมองไปที่หน้าคณะตัวเอง



            หมูยืนอยู่หน้าคณะเด่นเป็นสง่าเชียว มันมาทำอะไรที่นี่? หมูก้าวดุ่ม ๆ เข้ามาหาพวกผมที่ยืนอยู่



            “สงสัยจะมาหาหมวยเล็กอีกวะ” ไอ้เสาล้อกันกับไอ้นนท์ ไอ้พวกเพื่อนขี้ล้อ



            “พี่ศิลา จะกลับหอรึยังครับ” หา???  พวกผมถึงกับอ้าปากค้าง ครั้งนี้มันเรียกชื่อเต็มของผมชัดเจน



            แต่ที่อึ้งคือประโยคคำถามที่ถามต่างหาก!


            “จะกลับหรือไม่กลับมันเกี่ยวอะไรกับมึง”


            “เกี่ยวครับ ผมขอไปรอเพื่อนอยู่หอพี่ก่อนได้ไหม” ห๊ะ...ห๊ะ...!


            “คือว่าผมลืมคีย์การ์ดไว้กับเพื่อนอ่ะ มันไปดื่มสังสรรค์ก็เลยไม่มีกุญแจเข้าห้อง” หมูพูดออกมาต่อ



            ...นั่นมันปัญหาของมึง ไม่ใช่ของกู...



            “กูก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับกูตรงไหน ใช่ไหม” ผมหันไปขอความเห็นจากไอ้เสาและไอ้นนท์ที่พากันมองเหมือนพิจารณาหมูอยู่ ก่อนจะกระตุกยิ้มให้ผม


            มันเป็นยิ้มที่ทะแม่ง ๆ ชะมัด


            “กูว่าน้องก็น่าสงสารนะมึง” ไอ้เสาเสนอ ไอ้เพื่อนชั่วววว....



            “จริง อยู่มหาลัยเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกันดิวะ” ไอ้นนท์สมทบ พวกฟายยยย.....


            หมูยิ้มเหมือนพอใจกับสิ่งที่เพื่อนผมพูดมาก


            “งั้นมึงก็ไปหอไอ้พวกนี้ละกัน อยากช่วยนักนี่” ผมโยนให้พวกมัน แต่ก็ได้รับเสียงปฏิเสธทันควัน


            “อ้าว ก็น้องมันขอไปรอห้องมึง อีกอย่างหอมึงอยู่ตรงข้ามน้องนี่” ไอ้เสาโยนกลับมาให้ผมเหมือนเดิม ไอ้เพื่อนไม่รักดี...ผมบอกพวกมันเองแหละว่าน้องมันบอกว่าอยู่หอตรงข้ามผม


            เหมือนเป็นการเปิดทางให้หมูหาข้ออ้างขึ้นมาอีก



            “นั่นไงครับ หอพี่ศิลาอยู่ใกล้หอผมที่สุดไง...ผมเลยมาขอไปรอแป๊ปเดียว” เขาอ้างพร้อมทำตาปริบ ๆ



            “พี่จะให้ผมนั่งรออยู่ข้างถนนแล้วโดนยุงกัดเหรอครับ” ทำเสียงน่าสงสารไปด้วย...โถ่วววว..กูไม่สงสารมึงงงงง!!



            ...จะไม่สงสารเด็ดขาด...เกลียดความเป็นคนดีของตัวเองจัง (ทนสายตาอ้อนไม่ไหวก็ว่ามาเถอะ)



            “เออ!! ก็ได้วะ วุ่นวายแม่ง กูคิดค่ารอด้วย มันใช่กงการอะไรของกูไหม” ผมว่าอย่างหงุดหงิด



            “งั้นเดี๋ยวผมไปรอที่รถนะ กลับพร้อมกันนี่แหละ” หมูพูดกระตือรือร้นพร้อมกับขยิบตาให้ผม ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็ยิ้มล้อ



            “กูว่าน้องมันสนใจมึงชัวร์” << ไอ้เสา



            “น้องมันก็โคตรหน้าตาดีอ่ะ รู้จักไว้ก็ไม่เสียหาย” << ไอ้นนท์ 


            นี่พวกมึงดูรักกูกันจังงงงงง....และพวกมันสองคนก็กลับหอของมันที่คนละทางกับผม โดยไม่สนใจใยดีว่าผมจะกลับกับไอ้หมูกรอบนี่ได้รึเปล่า


            นี่มันอะไรฟะ!!




            |หอ A|

            ระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกันกับหมู ผมกับเขาก็ไม่ได้คุยกันเลยแม้แต่นิดเดียว ดีแล้วล่ะที่ไม่คุย เพราะไม่มีอะไรจะคุยอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้สึกว่าเขาแอบมองผมเป็นระยะ ๆ....



            ผมเดินเข้ามาในหอโดยที่มีไอ้หมูกรอบเดินตามหลังติด ๆ ปกติผมจะให้ไอ้นนท์มาส่งครับ หรือไม่ก็กลับแท็กซี่เอง ป๊าไม่อนุญาตให้ผมขับรถด้วยความเป็นห่วงและไม่ไว้ใจให้ผมขับ


            ยังไม่ทันจะไขกุญแจเข้าห้องผมก็หันไปถามเขาก่อน



            “เพื่อนมึงบอกว่าจะเอาคีย์การ์ดมาให้ตอนไหน” สาว ๆ ที่พากันเดินผ่านมาถึงกับตะลึงหมูที่อยู่ในสภาพเสื้อนักศึกษาลุ่ย ๆ ผมว่ามันนั่งตากแดดมาทั้งวันน่าจะเหนียวตัวน่าดู


            “ก็ประมาณ 3-4 ทุ่มอ่ะครับ” เขาบอก ผมดูนาฬิกาที่มันเพิ่งจะทุ่มเอง! “พี่จะออกไปอีกไหม”


            “ก็ไม่...” ไม่แน่ใจต่างหาก..


            “แล้วคิดรึยังจะกินข้าวอะไรเย็นนี้” หมูยังซักถามต่อ


            “ยัง” ผมตอบแล้วไขเปิดประตูห้อง หมูเดินเข้ามาตามผมอย่างสงบเสงี่ยม ป๊าเป็นคนหาหอให้ผมอยู่เองครับ เพราะป๊าจะดูทุกอย่างตั้งแต่ยามรักษาความปลอดภัย ยันแม่บ้าน ห้องนี้ก็ใหญ่พอสมควรสำหรับคนเดียว กว้าง สบาย โล่ง ไม่อึดอัด


            “งั้นเราออกไปหาไรกินไหมพี่ กว่าเพื่อนผมจะเอาคีย์การ์ดมาให้” มันเสนอ ก็ความคิดดีแฮะ ผมจะได้ไม่ต้องให้ไอ้นี่อยู่ในห้องผมนาน ๆ ด้วย



            “เอางั้นก็ได้ แต่กูขออาบน้ำก่อนละกัน” ผมว่า ชี้ให้เขาไปนั่งรอที่ปลายเตียง ส่วนผมก็กำลังจะถอดเสื้อตามความเคยชินก็ชะงักเมื่อสบตากับแววตาคมในกระจกที่สะท้อนออกมา


            หมูมันกำลังมองผมถอดเสื้อตาไม่กระพริบ...ไอ้ห่านนนน.... ผมรีบเอาเสื้อลงแล้วคว้าเช็ดตัวเดินหนีเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ใช่สิ...วิ่งเลยต่างหาก


            สายตากรุ่มกริ่มของมันรู้สึกไม่ชอบมาพากลชะมัด...



            “ไม่ต้องรีบก็ได้นะครับ ผมรอพี่ศิลาได้...” เขาตะโกนไล่หลังมา



            ใครรีบ...!! กูแค่จะมาอาบน้ำไปกินข้าวเร็ว ๆ....หิวไงหิวววว....




..................................................................................................
หวังว่าน้องหมูจะเข้าไปอยู่ในใจของคนอ่านเเล้วนะคะ >< :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2017 15:27:15 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao3: น่ารักดีค่ะ....รอตอนต่อไป ขอยาวๆและบ่อบๆนะค่ะ  o13

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 3



            [พาร์ตของศิลา]



            “พี่ศิลาครับ อันนี้มะ”



            “พี่ศิลาครับ อันนี้ด้วยไหม”



            “พี่ศิลา...”



            “โว้ย!...เรียกชื่อกูทำไมนักหนาวะ” ผมตบโต๊ะอาหารทำเอาพนักงานที่กำลังเสิร์ฟอยู่โต๊ะอื่นสะดุ้ง ก็ไอ้คนตรงหน้าพี่ศิลา ศิลาอยู่นั่นแหละ โว้ย...กูรู้ว่ากูชื่อศิลา



            หมูหัวเราะยิ้มร่าเหมือนสนุก กูรุ่นพี่มึงนะครับ...ไอ้ฟาย



            “ก็อาหารมันน่ากินทุกอย่าง เลยอยากให้พี่บำรุงไง”



            “บำรุงทำไม”



            “ก็พี่ตัวเล็กไม่รู้เหรอ จิ้มลิ้มมากเลย...หมวยเล็ก” เขาพูดคำหลังเบา ๆ แต่ผมได้ยินนะเว้ย!!



            “อย่ามาเรียกกูงั้นนะ ไม่งั้นก็จะลุกออกจากร้านจริง ๆ ด้วย” เขาเลยยกมือห้ามผมไว้ก่อน



            “ล้อเล่นครับ ล้อเล่น...ไม่เรียกแล้ว” ทำไมผมต้องมาต่อร้องต่อเถียงกับไอ้หมูกรอบนี่ด้วยไม่เข้าใจ



            “นี่ไอ้หมูกรอบ...” ผมเผลอเรียกชื่อที่ตั้งฉายาให้เขา “เออ หมู”



            “ไม่!..” เขาตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น(?) “พี่เรียกผมว่าหมูกรอบก็ได้...น่ารักดี”



            ห๊ะ....



            “ฉายาที่อยากตั้งให้ผมใช่ไหม เรียกเลย” เขาดูจะชอบมันมากราวกับว่า มันเพราะมาก ไอ้หมูกรอบเนี่ยนะ เป็นชื่อที่ทำให้อยากกินหมูกรอบราดซอสน้ำหมูแดงไปด้วย...อร่อยแน่ ๆ



            “ถ้ากูอยากเรียกจะเรียกเอง” ผมทำฟอร์ม หมูทำหน้าหง่อยลงนิด ๆ ก่อนจะถามผม



            “ว่าแต่พี่มีอะไรจะพูดเหรอครับ?”



            “ลืมแล้ว” อันนี้ผมลืมจริง ๆ ไม่ได้กวนมันแต่อย่างใด...มัวแต่มองหน้ามันแหละ



            “อ้าว...กวนจังครับ ทำไมลืมง่ายจัง” เขาทำตาปริบ ๆ



            “ลืมแล้วก็คือลืม! อย่ามาถามกูเซ้าซี้ได้มะ” ผมส่งสายตาดุให้มันก็เลยเลิกถาม



            ร้านที่หมูพาผมมา (มันรีเควสเอง) เป็นร้านอาหารตามสั่งข้างทางที่มีคนเข้ามากินเยอะเหมือนกันอยู่ไม่ห่างจากหอของผมมากนัก เพิ่งเคยเข้าครั้งแรกนี่แหละ แต่ผมรู้สึกเกร็งมาก...ก็เพราะว่าสายตาของผู้หญิงที่นั่งกินข้าวกันโต๊ะอื่นมองมารวมที่โต๊ะของผม



            ...พวกเธอไม่ได้มองผมนะครับ แต่มองไอ้หมูกรอบตรงข้ามผมต่างหาก



            หมูพับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นไปเกือบถึงข้อแขนเผยให้เห็นเส้นเลือดที่สาว ๆ พากันชอบกรี๊ด ดูเหมือนมันจะรู้ด้วยว่าคนรอบข้างมองมัน มีการโปรยยิ้มให้สาว ๆ อีก



            เหอะ..คิดว่ามันหล่อมากนักรึไงวะ..หมั่นไส้



            “มองหน้าผมทำไมครับ?” ผมไม่ได้มองมันนนน...



            “กูไม่ได้มอง กูมองรถที่วิ่งตามถนนต่างหาก” ไอ้หมูกำลังจะพูดต่อแต่อาหารก็มาเสิร์ฟซะก่อน



            ผมมองอาหารตรงหน้าอย่างน้ำลายไหล โอ๊ยมันน่ากินทุกอย่างเลยแฮะ...แต่ที่น่าแปลกใจมากก็คือ



            ...ทำไมมันมีแต่ของโปรดผมทั้งนั้น....ไอ้หมูมันเป็นคนสั่งหมดเลยนี่



            “ถูกใจทุกเมนูเลยใช่มะ” เสียงเข้มของหมูดังขึ้นพร้อมกับตะเกียบที่คีบหมูกรอบมาให้ผม



            “ชอบ หมูกรอบ ไหมครับ” มันเน้น ผมกำลังจะตอบก็ชะงัก



            “กูไม่ชอบ มันมีไขมัน!” ผมหันไปสนใจตักอย่างอื่นกินแทน ผมเคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ ด้วยความหิวโดยไม่สนใจว่าไอ้คนตรงหน้ามันจะมองหรือทำหน้ายังไงอยู่



            ไอ้เชี่ยนี่ก็จ้อง...และก็ยิ้ม...จ้อง...และก็ยิ้ม....



            กว่าจะกินข้าวอิ่ม! ผมเกือบจะเป็นบ้ากับสายตาที่ไอ้หมูมันมอง ไม่ทราบว่ามันจะมองอะไรกันนักกันหนา แต่ด้วยความที่ขี้เกียจมีเรื่องกับเขาแบบสุด ๆ เลยเลือกที่จะไม่พูด



            “เดี๋ยวแชร์กันจ่าย” ผมควานหากระเป๋าเงินของตัวเอง แต่หมูก็วางแบงค์พันจ่ายบิลไปเฉยเลย



            “ไม่เป็นไรพี่ ผมเลี้ยง” ผมเลิกคิ้ว



            “ไม่ต้อง จะมาเลี้ยงกูทำไมวะ คนละครึ่ง” ผมไม่ยอม จู่ ๆ จะมาเลี้ยงผมทำไมไม่ทราบไม่ได้รู้จักสนิทอะไรกันซะหน่อย



            “ก็เป็นค่าที่พี่บอกว่าให้ผมรอกับพี่ไง” หมูอ้าง



            “มึงไม่เห็นจะอยู่ห้องกูถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ” ผมยืนกรานให้มันรับเงินที่ผมยื่นให้ “เอาไปสิวะ”



            “ผมไม่เอาครับ ก็พี่ยอมมากินข้าวกับผมไง..หรือไม่ก็เอาไว้เลี้ยงผมคืนมื้ออื่นก็ได้” เขาดีดนิ้วเหมือนคิดอะไรออก



            แล้วกูจะมากินกับมึงอีกครั้งทำไมไม่ทราบบบ...!!



            ยังไม่ทันจะเถียงอะไรกับมันจบ เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นซะก่อน



            +ป๊า+ เหยด...ป๊าโทรมา!!



            “เดี๋ยวกูไปคุยโทรศัพท์แป๊ป มึงก็รอเงินทอนมึงละกัน” ผมรีบลุกเดินออกไปนอกร้านทันที พร้อมกับกดรับเบอร์ที่กำลังโทรเข้า



            (“ อาหมวยเล็ก!! ทำไมรับช้าอย่างนี้หา”) ผมรับสายป๊าก็พูดกลับมา อ๊าก...หูผม แถมชื่อประจำตัวผมก็มาเต็ม ๆ



            “ก็ควานหาโทรศัพท์อยู่ไงครับป๊า”



            (“อยู่ไหน กินข้าวรึยัง หืม?”) ป๊าของผมมักจะโทรมาถามข่าวคราวแบบนี้เป็นประจำแหละครับ ก็บอกแล้วว่าป๊าหวงผมยังกับลูกสาว นี่กว่าจะขอมาเรียนคณะวิศวะแสนเถื่อนนี่ก็อ้อนวอนขอสุด ๆ ได้เฮียใหญ่กับเฮียกลางช่วยอีกแรง โฮะ ๆ



            “กินแล้วครับป๊า เพิ่งกินนี่แหละ”



            (“ก็ดีแล้ว ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ป๊ากับม๊าคิดถึงหมวยเล็กมาก ๆ...(ป๊าก็ปล่อย ๆ  หมวยไปบ้างเหอะ มันโตแล้วนะเว้ยป๊า)...ไอ้เฮียใหญ่หุบปากไปเลย ป๊าจะปล่อยหมวยเล็กได้ไง..”) ผมได้ยินเสียงเฮียใหญ่พูดขำ ๆ ก็หลุดขำไปด้วย



            คิดถึงบรรยากาศที่บ้านมาก ๆ เลยแฮะ ผมไม่ได้กลับบ้านมาสักพักแล้วล่ะครับ ก็ขึ้นปี 2 มามันก็ต้องรับผิดชอบเรื่องรับน้องด้วย เลยได้มาอยู่ที่หอตั้งแต่มหาวิทยาลัยยังไม่ไปเปิดเทอมเลยด้วยซ้ำ



            (“หมวยเล็กไปนอนเถอะ เดี๋ยวป๊าก็จะนอนแล้ว”) ป๊าบอกกลับมา



            “ครับป๊า หมวยเล็กรักป๊านะ รักม๊าด้วย” ผมบอกกลับอย่างลืมตัวว่าตัวเองอยู่ข้างนอก พอวางสายไปก็ต้องสะดุ้งโหย่งกับเสียงเข้มที่ดังขึ้นด้านหลัง



            “พี่ศิลา..” ผมหันหน้าไปปะทะใบหน้าหล่อคมที่โน้มตัวมาหาผมที่เตี้ยกว่านิดเดียว...(จริง ๆ เตี้ยกว่ามากอยู่)



            “ไอ้เชี่ยหมู!!” ผมผงะ หมูหัวเราะพอใจ



            “ฮ่า ๆ ผมชอบฉายาหมูกรอบ มากกว่าเชี่ยหมูนะครับ” เขายิ้มต่อปากต่อคำกับผม



            “มึงมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ถามเหมือนร้อนตัว...



            หมูกดรีโมทเปิดรถเหลือบมองผมด้วยสายตากวนตีนสุด ๆ



            “อยากให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้ตอนไหนล่ะครับ?”



            “กูไม่พูดกับมึงละ!! แม่ง...กวน” ผมสบถเดินจ้ำอ้าวขึ้นรถไป หมูก็เดินขึ้นรถแล้วพาผมกลับมาที่หออย่างความปลอดภัย



            เกือบกระทืบไอ้หมูกรอบนี่ในรถซะแล้ว...เหอะ โทษฐานกล้าต่อปากต่อคำกับรุ่นพี่



            | หอ A |



            ผมลงจากรถก่อนจะมองไอ้หมูที่เปิดกระจกรถยิ้มแฉ่งอยู่ เห็นเมื่อกี้ก่อนมาถึงหอผมเพื่อนมันโทรบอกแล้วล่ะครับ ว่าเพื่อนมันกลับมาละ ดี! จะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระของผม...จริง ๆ ไม่ได้เป็นภาระเลยสักนิด แถมมันยังมาเลี้ยงข้าวผมอีก เป็นเหตุการณ์งง ๆ แต่ก็เอาเถอะได้กินของโปรดจนอิ่มท้องก็โอเค



            “เจอกันพรุ่งนี้ที่มหาลัยนะครับ พี่ศิลา”



            “กูไม่อยากเจอมึงอ่ะ บาย” ผมบอกพร้อมยกมือบ๊ายบายและหันหลังเดินกลับไปหอของตัวเอง



            โดยที่ไม่รู้ว่าหมูมองจนผมเข้าไปในหอแล้วถึงจะยอมขับรถกลับไปหอตัวเองที่ฝั่งตรงข้าม



            ............

            ...........



            เสียงสั่งระเบียบเชียร์ตั้งแต่เช้าของถั่วดำดังขึ้นอย่างไม่มีผ่อนแรง กำลังสงสัยว่ามันไปเอากำลังจากไหนมา แถมยังไม่หลุดขำด้วยนะ แต่ถ้าหลังเลิกคลาสไม่เห็นหน้าน้อง ๆ ปี 1 ถั่วดำกรี๊ดสนั่นมากครับ ผมก็ยังคงรับหน้าที่เดิมคือเด็กเสิร์ฟน้ำกับไอ้พวกเสากับนนท์นี่แหละ



            “มึงเสร็จน้องยัง” นั่นคือคำถามแรกของไอ้พวกเพื่อนชั่วที่โยนผมไปให้ไอ้หมู ถามได้น่าเอาปืนลูกซองมายิงมาก



            ผมเอามือฟาดพวกมันไปคนละทีด้วยความหมั่นไส้และคันไม้คันมือ



            “เสร็จเชี่ยอะไรวะ! กูไปกินข้าวกับมันเฉย ๆ คิดอะไรบ้าอะไรของพวกมึง” 



            “แหม มีกินข้าวด้วยเว้ย...ก้าวหน้า” ไอ้เสาหันไปหัวเราะคิกคักกับไอ้นนท์ที่นั่งเล่นเกมเหมือนเดิม ไอ้นี่ก็กะจะเล่นแต่เกมทั้งวัน



            มาก้าวนงก้าวหน้าบ้าไร...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับไอ้เด็กนั่นสักนิด



            “เออ! ไอ้ศิลามึงไปห้องซ้อมดาวเดือนกับกูด้วยนะวันนี้” จู่ ๆ ไอ้เสาก็พูดขึ้น



            มันเกี่ยวอะไรกับกูอีกครับ...พวกนี้ชอบโยนแต่งานมาให้ผมตลอด!



            “กูไม่ไป”



            “เอ๋า ไม่อยากไปดูน้องหมูกรอบของมึงหน่อยเหรอ ป่ะ ๆ อย่าลืมว่าตอนประกวดครั้งก่อนมึงก็ไปช่วยดูแลเหมือนกัน” เสาทำตาปริบ ๆ



            “กูจะฟ้องเจ้นิ่มถ้ามึงไม่ไป ว่ามึงแม่งไม่มีน้ำใจจะช่วยเหลือกองประกวดเล๊ย...” มันแกล้งบ่น



            “เออ ๆ! ไปก็ไป มึงแหละแม่งไม่เคยจะทำหน้าที่เป็นรองเดือนที่ดี ได้มาได้ยังไงวะตำแหน่งนี้”



            “กรรมการเมากาวแหละกูว่า” ไอ้นนท์จากที่เงียบมานานก็พูดว่าไอ้เสาด้วย เสาเลยเอามือไปกอดคอนนท์แล้วทำท่าบีบ



            เป็นอะไรที่ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีกเลยก็คือ กองประกวดดาวเดือน...ถ้าจะถามว่าผมไปเกี่ยวอะไรด้วยกับพวกดาวเดือนทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้เป็น คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ จะเล่าสั้น ๆ แบบกระชับใจความสำคัญ ผมดันเป็นเพื่อนกับไอ้เสา (รองเดือนมหาวิทยาลัย) เพื่อนสนิทของผมเองแหละ มันก็บังคับให้ผมไปเป็นเพื่อนมันด้วย และเจ้นิ่มที่ไอ้เสากล่าวถึงไว้เมื่อกี้ ดันมาต้องตาต้องใจในใบหน้าของผม (เจ้แกชมว่ามันขาว สวย เนียน) เจ้แกกะจะดันผมให้เป็น ดาววิศวะ แทนดาวที่ประกวดอยู่ตอนนั้นด้วยซ้ำ....ด้วยความที่เจ้นิ่มถูกชะตากับผม ก็เลยได้ช่วยงานอยู่แถว ๆ กองนั่นแหละ และงานที่ผมช่วยก็คือ...เติมหน้าให้เดือนคณะนั่นคณะนี้บ้าง



            แต่ที่มันพีคไปกว่านั้นคือ...ผมดันได้ไปสอนรำให้กับดาวของคณะครุศาสตร์ด้วยน่ะสิก็เลยมีชื่อเสียงในพวกกองประกวดดาวเดือนซะงั้น....รู้เรื่องนี้ก็เหยียบไว้ให้มิดเลยนะครับ เพราะมีไม่กี่คนในกองหรอกที่รู้  คนนอกไม่รู้



            ถามว่าทำไมคนอย่างผมรำเป็น ก็ป๊าส่งผมไปเรียนมาไงครับ...เรียนตามแบบฉบับหญิงไทยเป๊ะ..ยังมีอีกหลายวิชาที่ป๊าส่งผมไปเรียนมา แต่ผมไม่บอกทุกคนหรอกครับว่าไปเรียนอะไรมาบ้าง...





            เวลาประมาณ 15:00 น.



            @ห้องซ้อมดาวเดือน



            ผมโดยเพื่อนทรยศครั้งที่ 2  ไอ้เพื่อนชั่วววว...พวกมันทิ้งผมให้มาที่กองคนเดียวอีกแล้ว! ตอนแรกไอ้เสาเดินมาด้วยกับผม แต่จู่ ๆ มันดันบอกว่า แม่มันโทรตามตัวไปทำธุระให้ด่วน โอ๊ย ผมว่าผมควรจะได้ตำแหน่งรองเดือนแทนไอ้เสาอ่ะ! ถ้าจะให้ผมมาทำงานอยู่ในกองประกวดขนาดนี้!



            เสามันเดินมาพร้อมผมก่อนจะขอตัวออกไป ผมที่เดินเข้ามาในห้องแล้วแถมพวกน้อง ๆ ดาวเดือนที่ถูกคัดเลือกไว้ยังมองมาที่ผมกันพรึบ จะแอบย่องออกไปก็ไม่ทันซะละ



            “อ๊ายยย!! นี่มันนางฟ้าของบ่าววว...น้องศิลา” เจ้นิ่มอยู่ปี 4 แล้วล่ะครับ คณะบริหารธุรกิจเป็นประธานใหญ่ในการดูแลกองประกวดดาวเดือน เจ้แกวิ่งเข้ามากอดผมไว้หมับ



            ‘นางฟ้าของบ่าว’ ทำเอาผมขนลุกซู่ มีคำดีกว่านี้ไหมวะ....แต่ก็ไม่กล้าขัดเจ้แกเพราะดูจากแข้งแล้ว ผมไม่น่ารอด



            “สวัสดีเจ้...เออ หายใจไม่ออก” ผมดันเจ้ออกนิด ๆ



            “แหม ไม่เจอกันตั้งนานตั้งแต่การประกวดจบยังสวยเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ!” ....หล่อครับหล่อ.....



            “จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากมา” ผมพึมพำ เจ้แกหันขวับมา “อ้อ ก็กะจะมาช่วย ๆ เจ้ดูน้องนี่แหละครับ แวะมาดูเด็กคณะตัวเองด้วย” ผมว่า เจ้นิ่มก็ยิ้มกว้างมาให้ผม และจับไหล่ของผมให้ไปยืนอยู่ต่อหน้าน้องดาวเดือนที่ทำตาปริบ ๆ เหมือนกำลังพากันแต่งหน้า



            สงสัยจะไปถ่ายรูปโปรไฟล์การประกวด



            “เอ้า เด็ก ๆ ทักทายพี่ศิลา ปี 2 คณะวิศวะหน่อยเร็วววว...พี่เขาถือเป็นดาวของกองประกวดเชียวนะ”



            ทั้ง ๆ ที่ก็มีอยู่หลายคณะที่นั่งเรียงกันอยู่แต่คนที่ผมมองเห็นชัดที่สุดคือ หมู มันนั่งอยู่หลังสุดแต่กลับเด่นกว่าคนอื่นชะมัด สงสัยเพราะมันตัวสูง...



            ไอ้พวกรุ่นน้องพากันทำตาโตเหมือนฟังเรื่องตื่นเต้น....กูจะบ้ากับฉายาดาวของกองประกวด หมูที่นั่งทำหน้านิ่งแต่แววตากลับยิ้มเหมือนอยากจะหัวเราะ ผมรู้!  ผมดูมันออก ว่าแต่ผมจะไปดูมันทำไมฟะ!



            หลังจากแนะนำฉายาอันหน้าอายของผมเสร็จทุกคนก็เริ่มทำงานกัน ผมเดินไปหาไอ้รุ่นน้องเดือนคณะของผม มันหน้าเถื่อน ๆ หน่อย หล่อผิวเข้มชายไทยแท้มาก



            “มึงชื่ออะไรนะ กูจำไม่ได้” ผมถามรุ่นน้องตัวเองแต่สิ่งที่ได้ยินกลับมากลับไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการ



            “หมูครับ” เสียงตอบมาจากไอ้เดือนคณะแพทย์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คณะผม



            “กูถามน้องกู” ผมมองเสื้อผ้าหน้าผมของหมูที่ยังไม่ได้ทำอะไรมาก แต่กลับเหมือนนายแบบพร้อมเดินแฟชั่นวีคในชุดนักศึกษามาก



            นี่มึงจะไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาได้แจ้งเกิดเลยเหรอ....



            “ผมชื่อโชครับ” รุ่นน้องผมตอบพร้อมกับหัวเราะไอ้หมู “อยากพูดกับพี่ศิลาคณะกูก็บอก”



            “ใช่ อยากคุยกับพี่ศิลามาก...พี่เขามีเบอร์ปะวะ” หมูถามไอ้โชกลับ ราวกับว่าผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ เดี๋ยว...อย่าบอกว่าไอ้สองคนนี่มันเป็นเพื่อนกันนะ!



            “ถามเองดีไหมวะ พี่เขาก็ยืนอยู่ตรงนี้” ยัง...มันยังไม่หยุดเล่นกันอีก



            “พวกมึงสองคนเล่นกันพอยัง”  ผมมองด้วยสายตานิ่ง ๆ ไม่รู้มันดุไหม เก๊กไว้ก่อน โชเลยลุกหนีไปก่อนเพราะต้องไปถ่ายโปรไฟล์คิวต่อไป



            หมูเงยหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มโปรยเสน่ห์ที่สาวหลายคนเห็นแล้วอาจจะกรี๊ดจนคอแหบคอแห้งไปเลยก็ได้ แต่ผมก็แค่มองนิ่ง ๆ



            “ผมพูดจริงนะ” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้นหลังจากที่เราจ้องกันอย่างไม่ยอมแพ้



            “พูดอะไรจริง”



            “เบอร์น่ะ...” เขาลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวไปถ่ายโปรไฟล์ต่อจากคณะที่ถ่ายเสร็จ



            “ผมอยากได้เบอร์พี่ศิลาจริง ๆ เดี๋ยวกลับมาขอนะ” มันเอาไหล่มาสะกิดผมนิด ๆ ก่อนจะเดินผ่านผมไป ...ขะ..ขอเบอร์บ้าบอไรวะ!! ไม่ให้โว้ย



            ถามจริงว่าวันนี้ผมมานั่งทำอะไรอยู่ในกองประกวด ไม่ได้ทำอะไรสักอย่างนอกจากนั่งเถียงกับไอ้หมูที่กลับมานั่งเก้าอี้ของมันปุ๊ปของทวงขอเบอร์ผมอยู่นั่นแหละ



            “ให้ไม่ได้เหรอ” เสียงตื้อจากคนข้าง ๆ ทำเอาผมเริ่มรำคาญ



            “ศูนย์” ผมตอบออกไป มันเลิกคิ้ว “ก็มึงบอกขอเบอร์ไง กูให้ตัวเดียวคือเลข 0 นอกนั้นไปหาเอง”



            “โหย จะซุ่มยังไงให้เจอ หมดเป็นแสนก็ไม่เจอ...ให้หน่อยนะสิบหลัก นะ” หมูทำตาปริบ ๆ มันคิดว่ามันน่ารักเหรอ....



            แล้วกูจำเป็นต้องให้เหรอออออออ....!



            “เอ้า! เด็ก ๆ วันนี้ถือว่าพวกหนูได้ให้ความร่วมมือดีมากกกก...ปรบมือให้ตัวเองค๊า!!...” เจ้นิ่มปรบมือเสียงดังเรียกความสนใจของหมูให้หันไปสนใจแทนที่จะมาตื้อขอเบอร์กับผม



            “แล้วก็มีเรื่องอยากจะแจ้งน้องดาวเดือนทุกคนว่า ให้ไปเตรียมคิดการแสดงตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยนะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยซ้อมกัน...คิดไว้แล้วไปหาซ้อม ๆ ได้เลยนะจ๊ะ สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้จ้า!” เจ้นิ่มร่ายยาวมาเป็นกิโลจนผมเกือบจะหลับ



            แรงสะกิดเสื้อจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองไอ้คนที่สะกิด...เพื่อนเล่นเหรอวะ



            “พี่ศิลา...”  เสียงที่ไอ้หมูเรียกผมมันชวนขนลุกชะมัด มันเป็นน้ำเสียงทุ้ม ๆ ฟังดูอ่อนโยนแปลก ๆ



            “อะไรของมึง สะกิดกูแบบนี้เพื่อนเล่นเหรอ”



            “นี่ถ้าไม่เกรงใจผมกะจะกอดเลย” ผมลุกขึ้นพรึบ หมูเลยหลุดหัวเราะพร้อมกับลุกขึ้นตามผม



            “ผมแค่จะถามพี่ว่า มีการแสดงอะไรแนะนำผมไหม”



            ตอนนี้คนในกองประกวดทยอยกันกลับกันเกือบหมดแล้ว อ้าวเฮ้ย...อย่ามาทิ้งกูไว้กับไอ้นี่เซ่



            “ไม่มี” ผมตอบทันควัน



            “เอ๊ะ สองคนนี้ทำไมดูสนิทกันจัง” เจ้นิ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องแต่งตัวคนสุดท้ายมองพวกผมด้วยสายตาแปลกใจและส่งสายตาวิ้ง ๆ ให้ไอ้หมูด้วย



            “ผมว่าจะให้พี่ศิลาแนะนำการแสดงให้น่ะครับ...แต่เหมือนพี่เขาไม่อยากช่วยเลย” หมูทำเสียงให้น่าสงสารเหมือนผมใจร้ายมาก ....ตอแหลลล



            และผมก็ต้องตาโตกับความคิดของเจ้นิ่ม



            “ทำไมไม่ช่วยน้องล่ะคะ น้องศิลาก็รำเก่งนี่...พี่ว่าถ้าน้องหมูใช้การรำแบบตัวพระเอกเป็นการแสดง สาวก็น่าจะกรี๊ดเยอะนะ รักษาวัฒนธรรมไทย”



            เฮือก...ไปบอกไอ้หมูมันทำไมเล่าเจ้!!



            “พี่ศิลารำเป็นด้วยเหรอครับเนี่ย!” หมูตาลุกวาวประดุจเห็นของที่ตื่นตาตื่นใจ



            เออ กูรำเป็น กูเก่ง...แต่เรื่องอะไรจะไปยอมรับล่ะครับ



            “ไม่ / ใช่จ๊ะ” ผมตอบพร้อมกับเจ้นิ่มที่ตอบพร้อมกัน



            “เจ้มีหลักฐานนะ!” ผมเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นโทรศัพท์ไอโฟนพลัสเครื่องใหญ่ของเจ้นิ่มผู้ไม่ยอมแพ้ เปิดหาคลิปของผมอยู่



            อย่าว่าถ่ายเก็บไว้ด้วย!! ตอนไหนฟะ...



            หมูเองก็ตั้งใจดูสิ่งที่เจ้แกบอกจะโชว์ ส่วนผมเองก็ตั้งใจดูเหมือนกันว่ามันคลิปตอนไหนวะ!



            ผมมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเบิกตากว้าง....กับคนที่อยู่ในจอโทรศัพท์มันคือผม! เป็นตอนที่ซ้อมให้น้องดาวดู ผมใส่จงกระเบนสีแดงแบบนางรำ มืออ่อนช้อยอรชร ร่ายรำมือไม้อ่อนในเพลงลาวดวงเดือน  ผิวขาวรึว่าไฟนีออนมาเอง ช่วงนั้นผมค่อนข้างขาวมากเพราะเพิ่งเข้ามาที่มหาลัยใหม่ ๆ แถมยังผอมกว่านี้ด้วย ตัวเล็กมาก หลังจากปีสองมาเริ่มตากแดดเลยผิวไม่ขาวมาก...แต่ก็ขาวอยู่ดี (อะไรของมึงครับศิลา)





            หมูดูคลิปที่ผมรำและมองอึ้ง ๆ เหมือนมันไม่อยากจะเชื่อ....กูเองก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน พอมองสายตายิ้มประจำตัวของมันก็รู้เลยว่าผมต้องได้สอนมันแน่



            เชี่ยแล้ว...ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมรำได้ก็มันเหมือนผู้หญิงน่ะสิ!!....แถมจะให้ไปสอนคนอย่างไอ้หมูกรอบรำเนี่ยนะ!! บ้าไปแล้ว



            ...ผมจะไม่สอนมันเด็ดขาดโว้ย!!...ยื่นคำขาด การแสดงอันอื่นก็มีจะมารำทำไมมมม...แก้เสื้อโชว์ซิคแพคแร็บบีบอยก็ทำไปเซ่!!.....




...

ขอพื้นที่ให้น้องหมูของเราด้วยค่าา 555555 ><  :L1:
ฝากน้องหมูไว้ในอ้อมกอดด้วยน๊าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2017 20:02:41 โดย vampire_rose »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
5555

ปล. ห้อยท้ายวันที่ลงนิยายหลังชื่อตอน ด้วยจะดีมากเลยค่ะ คือ ตามอ่านไม่ถูก ถ้าลงวันที่ลงจะได้เห็นว่าอัพแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2017 22:59:56 โดย love:seungri »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
มาupเร็วมาก...นักเขียนน่ารักมากมาย...ขอบคุณมากค่ะ....ขอแบบเร็วๆและยาวๆอย่างต่อเนื่องนะค่ะเพราะเรื่องน่ารักน่าอ่านน่าติดตามมากมาย :mew1:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
น้องหมูสู้ๆ

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1


ชูป้ายไฟ เชียร์หมูกรอบ
 :110011:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
หิวเลย อยากกินกะเพราหมูกรอบเลย :laugh:

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สอนน้องเขารำหน่อยยย

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 4



            [พาร์ตของศิลา]



            ไม่ก็คือไม่!....ไม่รอดหรอกไอ้ศิลาเอ๊ย...


            นี่มันเรื่องบ้าบออะไรของผม ใช่ธุระของผมไหม? ก็ไม่!...แต่ถามว่าผมปฏิเสธไอ้หมูได้ไหม ผมเพิ่งรู้ว่าเห็นมันหน้าหล่อใสใสแต่ร้ายกาจมาก!! มันกล้าขู่ผมและตั้งเงื่อนไขกับผม


            “ถ้าพี่ยอมช่วยผมคิดการแสดง...ผมจะไม่เอาเรื่องที่พี่รำได้ไปบอกใครแน่นอน”



            คิดว่าเรื่องแค่นี้มันจะขู่ผมได้เหรอ!!...เออ มึงขู่ได้ T.T ก็ผมไม่อยากให้ใครรู้


            เรื่องนี้เจ้นิ่มก็มีส่วนรู้เห็น ดูเหมือนจะชอบอกชอบใจไอ้หมูมาก ผมว่ามันควรจะเอาตำแหน่งไปเล๊ย ไม่ต้องประกงประกวดมันละ! แถมเจ้ยังมาประจานคลิปต่อหน้าไอ้หมูอีก


            หลังจากที่มันขู่ผมเสร็จก็บังคับเอาเบอร์จากผมให้ได้ แต่ถามว่าผมจะยอมให้เบอร์มันครบทุกตัวเหรอ เหอะ ๆ ไม่มีวันครับ...ผมให้มันเดาอีก 3 ตัว โฮะ ๆ ผมเชื่อว่าคืนนี้ยังไงมันก็หายังไม่เจอแน่ ๆ!!




            @หอA



            ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงพลางคิดเรื่องการแสดงให้กับหมู แต่ไม่ใช่ว่าผมใส่ใจมันนะ! เพราะไม่อยากสอนรำมันนั่นแหละครับ เลยต้องพยายามคิดหาการแสดงอันอื่น ว่าแต่มันทำอะไรได้บ้างผมจะไปรู้ไหม



            เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมกระเด้งตัวอย่างตกใจ แต่พอเห็นชื่อ +ไอ้เสา+ ก็ไม่ได้รีบรับ      รึว่าจะเป็นไอ้หมูซะอีก เอ๊ะ...แล้วผมจะไปนึกว่ามันโทรมาทำไมวะ!



            “ไง ไอ้เพื่อนชั่วมึงทิ้งกู!” ผมรับสายพร้อมด่าไม่จริงจัง



            (“โหย กูพาแม่มาทำธุระ อ้อ กูเจอน้องหมูกรอบของมึงด้วย”) เหมือนไอ้เสามันจะติดเรียกว่าน้องหมูกรอบของผมไปซะละ เบื่อจะเถียง



            “เจอที่ไหน”



            (“ฮั่นแน่ ถามกลับเร็วเชียว”) ผมกำลังจะด่ามันก็ตะโกนกลับมาก่อน



            (“กูรู้ว่ามึงกำลังจะอ้าปากด่า แต่หยุดไว้ก่อน ให้กูได้เล่าก่อนกูคันปาก”)



            มึงไปกินหมามุ่ยมาเหรอทำไมคันปาก?..(มุขนี้ผ่านไปเถอะครับ)



            “เออ จะเล่าก็เล่ามา” ผมนั่งขัดสมาธิพร้อมฟังมาก



            (“กูเห็นน้องมันมากับผู้หญิงว่ะ สวยมากด้วย”) แล้วไงมันเกี่ยวอะไรกับผม?...



            “แล้วไง”



            (“อ้าว นี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”) ไอ้เสาถามสะกิด จะให้ผมรู้สึกอะไร? ไอ้หมูนั่นจะไปไหนกับใครก็ไปสิ ไปเลย!!



            “จะให้กูรู้สึกอะไร” ผมว่า ก่อนจะชะงักกับสิ่งที่ไอ้เสาถามต่อ



            (“มึงจะช่วยน้องมันซ้อมการแสดงเหรอวะ เห็นน้องมันบอกเพราะมันเห็นกูพอดี”)



            “มันบอกมึงเหรอ”



            (“เออ บอกว่าจะให้มึงคิดการแสดงให้ มันบอกไม่รู้จะแสดงอะไร”) ไอ้เสาว่า ดี...ที่ไอ้หมูมันรักษาคำพูดที่ไม่ได้บอกใคร



            “ใช่”



            (“โหย...ไรวะ รู้จักกันไม่กี่วันห่วงใยกันเหลือเกิน เพื่อนกูใกล้จะสละโสดยังวะ ต้องไปบอกไอ้สัดนนท์ซะแล้ว”)



            “กวนส้น” ผมด่ามันปลายสายก็หัวเราะเหมือนคนบ้าตามประสามันก่อนจะวางสายไป



            ผมกดดูเวลาที่ตอนนี้ประมาณ 21:00 น. แล้วล่ะครับ เริ่มง่วงชะมัด ผมวางโทรศัพท์คว่ำลงบนเตียง แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกไปอาบน้ำโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นก่อน ผมรับสายเลยโดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมาแต่คิดว่าน่าเป็นไอ้เสาโทรมาอีก



            “ว่าไงไอ้เสา มึงจะชวนกูไปไหนเหรอ” ผมถามรึว่ามันลืมบอกอะไรแต่ก็ต้องชะงักกับเสียงเข้มที่ดังกลับมา



            (“เมื่อกี้สายไม่ว่าง คุยกับคนอื่นอยู่เหรอครับ พี่ศิลา”) เสียงไอ้เดือนแพทย์ชัด ๆ!!



            ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหูมองเบอร์แปลกที่โทรเข้า...มันซุ่มเบอร์ผมเจอได้ยังไง! จำได้ว่ามันเพิ่งแยกกับผมตอนประมาณทุ่มกว่า ๆ ...คือมันมาส่งผมน่ะครับหลังจากที่มันพาผมไปกินข้าว..(ไหนบอกจะไปไม่กินด้วยกันอีกรอบไง) ก็บังเอิญกลับมาด้วยกันก็เลยแวะกินให้จบ ๆ ไป....แต่มื้อนี้ผมแชร์กันจ่ายกับมันนะ!!



            แลดูภูมิใจมาก...



            (“ทำไมเงียบครับ ผมพูดด้วยนะ”) เสียงหมูดังกลับมาอีกครั้ง ทุ้มมากก้องสุด ๆ



            “เออ เพื่อนกูโทรมา...แล้วมึงโทรมาทำไมไม่ทราบ”



            (“โทรไม่ได้เหรอ”) ไม่ได้โว้ย....



            “แล้วจะโทรมาทำไมล่ะ นี่มึงซุ่มเบอร์เหรอ” ผมถามด้วยความอยากรู้ ผมเว้นไว้ให้มันตั้งสามตัว!



            (“ไม่บอกครับ รู้แค่ว่าเจอเบอร์พี่ก็พอแล้ว...พี่ศิลาอย่าคุยกับผู้ชายคนอื่นสิ”) จู่ ๆ มันก็บอก...นั่นมันเพื่อนกูไหมล่ะ



            “ทำไมกูจะต้องฟังมึงด้วย เกี่ยวไรกับมึง” ผมพูดต่อ จากที่จะลุกไปอาบน้ำก็ทิ้งตัวนอนลงที่เตียงของตัวเองเหมือนเดิม



            (“แน่นอนว่าทุกอย่างมันก็ต้องมีเหตุผลในตัวของมันอยู่แล้วล่ะครับ”) มันพล่ามอะไรวะ...



            ผมไม่เข้าใจ ศัพท์แพทย์เหรอ?



            “มึงพูดอะ....” ผมยังถามไม่ทันจะจบปลายสายก็แทรกมาก่อน



            (“บอกกับผมมาก่อนว่าจะไม่คุยกับผู้ชายคนอื่นก่อนนอน...”)



            “ทำไมกูต้อง”



            (“ขอแค่นี้ไม่ได้เหรอครับ แค่อย่าคุยก่อนจะนอน”) หมูย้ำมาตามสาย อะไรของมันนนน...



            ขี้เกียจเถียงกับมัน..



            “เออ ๆ วุ่นวายชะมัด รู้แล้ว” ผมตอบส่ง ๆ ไป



            (“รู้ว่าอะไรครับ?”) อ้าว ไอ้นี่...



            “ไม่ให้คุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่นก่อนนอน” ผมตอบอย่างจำใจและก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องมาตอบอะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ผมตัดสายเขาไปเลยก็ได้ แต่ผมกลับไม่ทำ ก็มันไม่มีมารยาทไงก็เลยไม่ได้ตัดสาย



            ปลายสายมันเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สดใสกว่าเมื่อกี้ ผมชักจะกลัวไอ้หมูขึ้นมาละ มันสติดีอยู่รึเปล่าฟะ



            (“ดีมากครับ...แล้วนี่พี่อาบน้ำรึยัง”)



            “ยัง”



            (“พรุ่งนี้วันเสาร์พี่มีกิจกรรมที่คณะไหม?”) ผมคิดอยู่สักพัก พรุ่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีแฮะ เพราะจะเป็นช่วงเปิดประชุมคลาสเชียร์ใหญ่ก็เลยให้น้อง ๆ ปี 1 ได้พักเสาร์อาทิตย์ ไม่ใช่ว่ารุ่นพี่อย่างพวกผมจะนัดน้องมาทุกวันซะเมื่อไหร่ มันก็ต้องมีเวลาไปพักผ่อนกับบ้างสิครับ



            “ก็ไม่มี” จริง ๆ ผมไม่เห็นจะต้องตอบมันก็ได้...แต่ก็ตอบมันไปแล้ว



            (“งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปรับพี่นะครับ ฝันดีครับพี่ศิลา อย่าลืมไปอาบน้ำล่ะ”) หมูพูดรวบรัดและตัดสายผมทิ้งไปทันที ผมยังไม่พูดอะไรมันก็เออออห่อหมกเองหมด!!



            “ไอ้สัด เดี๋ยว...”



            มันบอกพรุ่งนี้จะมารับ....มารับไหนของมึงงงงงง...ไม่ไปครับ ผมจะถือว่าตัวเองไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดออกมา





            + วันต่อมา +



            ผมกำลังนั่งเช็ดผมตัวเองให้มันแห้งอยู่เพลิน ๆ ดูโทรทัศน์ไปด้วยกับวันพักผ่อนของผม เฮ้....ก่อนเสียงออดหน้าห้องของผมจะดังขึ้น ใครมันมาแต่เช้า...จริง ๆ ไม่เช้าละ ก็มันเก้าโมงกว่าแล้วนี่ครับ



            ผมเปิดประตูและปิดมันลงปัง! เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง...! ไอ้หมูยืนยิ้มแป้นในชุดปกติที่โคตรเหมือนจะไปเดินแฟชั่นโชว์



            “พี่ศิลา เปิดประตูออกมาครับ ผมมารับพี่ไปข้างนอกด้วยกัน” เสียงเข้มเรียก



            “กูไม่ไปโว้ย ใครเขาบอกว่าจะไปกับมึง!” ผมว่ากลับผ่านประตู



            “ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะมารับ จะได้ไปช่วยกันคิดการแสดงไง...ออกมาเดี๋ยวนี้ครับ” มันเรียกแกมบังคับ ใช่เรื่องที่ผมจะต้องช่วยคิดไหม...ถ้าไม่ไปรับปากมันไว้แล้วอ่ะนะ ทำไมผมต้องหางานให้ตัวเองเพิ่มอยู่เรื่อยเลยวะ



            คนดีไงครับ ศรีสังคม โฮะ ๆ....



            แล้วถามว่าคนอย่างผมจะออกมากับไอ้หมูไหม...เออครับ ผมออกมากับมันจนได้ ก็รำคาญมันอ่ะ มันเล่นเคาะ ๆ จนประตูของผมจะพัง เดี๋ยวยามก็ได้ขึ้นมาดูกันพอดีว่าไอ้นี่มายืนเคาะอะไรอยู่หน้าห้องผมอยู่ได้



            และที่ผมอยากจะบ้ากับมันก็คือ...ไอ้หมูขับพาผมมาที่ห้างซะงั้น ผมยอมไปไหนมาไหนกับมันง่ายไปรึเปล่าวะ ยังสงสัยตัวเอง 



            “พากูมานี่ทำไม ไหนบอกจะคุยเรื่องการแสดงวะ” ผมถามขณะที่ลงมาจากรถ หมูเดินอ้อมมาอีกฝั่งมาหาผมที่ยืนกอดอกอยู่ หมูยกนาฬิกาขึ้นดูตาของมันโตนิด ๆ



            “จะ 10 โมงครึ่งแล้ว ป่ะพี่ศิลารีบเข้าไปเหอะ” ไม่บอกเปล่าแต่กลับจูงมือ!..ไม่ใช่สิ มันลากมือผมไปเลยครับ



            เฮ้ยยยย ไอ้เชี่ย กูไม่ใช่สาวน้อยนะ



            “เข้าไปไหนวะ! ปล่อยมือกูเดี๋ยวนี้นะ!” ผมจะบิดมือออกแต่ทว่ามือหนา ๆ ของหมู ที่เพิ่งสังเกตว่าใหญ่กว่ามือของผมอีก กุมมือผมแน่นกว่าเดิม



            “ไปดูหนังครับ”



            “ห๊ะ...? หนังไรของมึง” ผมถึงกับขมวดคิ้ว



            “ซื้อตั๋วแล้ว เรื่องนี้สนุก” หมูยิ้มภูมิใจนำเสนอ อ๋อ หนังเรื่องนี้มันสนุก...ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นละ



            “กูไม่ชอบดูหนัง! ไอ้เชี่ยหมู! ปล่อย!” เสียงเด็ดขาดของผมดังหน้าโรงหนังพอดีเป๊ะ หมูยอมปล่อยมือออกจากผมปั๊ป คนหันมามองเราตาปริบ ๆ



            “ดูหน่อยนะ ผมอยากดูหนังกับพี่” มันอ้อนผมราวกับว่ากำลังง้อแฟน ทำเอาคนรอบข้างแอบเหลือบตามองด้วยความอยากรู้เต็มที่ ก็ไอ้คนที่มันกำลังอ้อนผมอยู่ตรงหน้า โคตรหล่อในสายตาของสาวน้อยสาวใหญ่ที่ยืนรอเข้าไปดูหนังน่ะสิ!



            “มึงก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นมาดูด้วยสิ ถ้าจะชวนกูมาดู กูขอกลับไปนอน” ผมหาอะไรอ้างขึ้นมาและปากก็ดันพูดไปถึงเรื่องที่ไอ้เสาเล่ามาเมื่อวาน หมูเลิกคิ้วนิดหน่อย



            “ได้ไงครับ ผมจะชวนแค่พี่ศิลา” หมูเว้นจังหวะพร้อมกับมองหน้าผมตรง ๆ “คนที่ผมอยากดูด้วยก็มีแค่พี่....” ผมกำลังรู้สึกว่าสายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องมาที่เราสองคน



            “ไหนบอกจะคิดการแสดงวะ!”



            “ทิ้งการแสดงไว้ก่อนเหอะ อยากมาพักผ่อนบ้าง นะนะ ดูหนัง” โอ้โห...กะทิ้งงานเต็ม ๆ สรุปมันหลอกผมให้ออกมาโดยใช้ข้ออ้างการแสดง ไอ้เชี่ยหมู! ...แต่กูก็เชื่อมันและออกมากับมันจนได้ละนะ



            “ก็บอกว่ากูไม่ชอบดูหนัง” ในโรงหนังมันมืดอ่ะ...ผมไม่ชอบ



            “ผมเลี้ยงหมดเลยเอ้า!” มันทำท่าใจป้ำ “ป๊อปคอน 1 ถัง โค้กอีก 1” คิดจะเอาของกินมาล่อคนอย่างศิลา คิดดีแล้วใช่ไหม!!



            “เออ! ดูก็ดู” ผมบอกเรียกรอยยิ้มกว้างของหมู “แต่กูบอกไว้ก่อนนะว่า แค่เสียดายตั๋วหนังที่มึงซื้อมาก็เท่านั้น เปลืองเงิน!”



            หมูไม่ได้พูดอะไรตอบแค่เอาแต่ยิ้มคนเดียวเหมือนพวกคนบ้า มันเดินไปซื้อพวกป๊อปคอนกับโค้กตามที่มันบอก 1 ชุด เอามาให้ผม เรื่องที่มันเลือกดูคือโฉมงามกับเจ้าชายอสูร....บอกทีว่ามันเลือกเรื่องเอง





            เมื่อถึงเวลาดูหนังทุกคนทยอยกันเดินเข้าไปในโรงหนัง ผมมองประตูทางเข้าอย่างทำใจนิด ๆ ...ก็ผมไม่ค่อยได้เข้าโรงหนังบ่อยนัก ด้วยเหตุผลที่ไม่ชอบเวลาเขาปิดไฟ มันเป็นโหวง ๆ ไม่ชิน



            “กลัวความมืดของโรงหนังเหรอ” มันอ่านใจผมเหรอ! ผมเงยหน้ามองหน้าหมูและมองมือหนาที่แบแล้วยื่นมาให้ผม



            “อะไร”



            “จับไว้ไงครับ พี่จะได้รู้ว่ามีผมอยู่ตรงนี้เสมอ” เชี่ยยย....มุขนี้เอาไปใช้กับสาวได้นะ แต่เอามาใช้กับผมไม่ได้



            “ไร้สาระ! ใครกลัวความมืดของโรงหนังกันวะ” ผมสะบัดหน้าหนีเดินก้าวดุ่ม ๆ เข้าไปในโรงหนังที่ปิดไฟแล้วเหลือแค่ไฟตรงเก้าอี้...ชิบหายจริง ๆ จากที่ก้าวเร็วก็กลายเป็นก้าวช้า



            ไม่น่าอวดเก่งเลยว่ะ ผมมองไม่เห็น....



            จู่ ๆ มือหนาก็เอื้อมมาจับมือของผมไว้จากด้านหลัง แรงสัมผัสจากมือของไอ้หมูกุมผมไว้เบา ๆ กำลังว่าจะหันไปด่ามันแต่ก็ต้องเงียบเพราะอยู่ในโรงหนัง



            “ตามผมมานี่ ที่นั่งเราอยู่ตรงนั้น” เขาพูดเสียงกระซิบ และโค้งของทางไปกับพวกที่นั่งที่นั่งอยู่ก่อนเราแล้ว เมื่อเรานั่งลงที่นั่งแล้วก็ยังมีไอ้หน้าด้านที่จับมือผมไว้เนียน ๆ



            “ปล่อยมือกูได้แล้ว ไอ้หมู” ผมกระซิบเบา ๆ แม้จะมืดแต่ผมก็ยังเห็นรอยยิ้มขี้เล่นของมันอยู่ดี



            “ว่าจะแอบจับเนียน ๆ พี่ศิลารู้ทันจนได้” ผมชักมือตัวเองกลับด้วยความรู้สึกสปาร์คที่มือแปลก ๆ



            พวกผมหยุดพูดกับเมื่อหนังเริ่มฉาย...ผมยื่นถังป๊อปคอนให้ไอ้คนข้าง ๆ กินด้วย หมูเหลือบสายตามามองแต่ไม่หยิบ สิ่งที่มันทำคืออ้าปาก...หาวเหรอ แต่เปล่าครับที่มันอ้าปากก็เพราะ



            “ป้อนหน่อย”



            “.......”



            “นะ...” มันเรื่องอะไรของกูต้องมาป้อนมันนนนนน....ด่าเสียงดังก็ไม่ได้



            “เรื่องมาก” ผมหยิบป๊อปคอนยัดใส่ปากไอ้หมูไป มันก็เคี้ยวเหมือนพอใจมากกกกก ผมแทบอยากจะปาทั้งถังใส่หน้ามันไปเลย เดี๋ยวจะโดนดีไม่ใช่น้อย....





... มีต่อข้างล่าง

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ต่อจากข้างบน......

 

        ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกว่าหนังจะจบ สนุกดีครับภาพสวยแสงสีดี แถมยังโรแมนติกอีกด้วยอ่ะ...ผมแอบซึ้งน้ำตาซึมด้วยล่ะ ผมกับหมูเดินออกมาจากโรงหนังพร้อมกับสาว ๆ ที่พากันเดินออกมาโรงหนังโรงเดียวกัน พวกเธอมองไอ้หมูตาเป็นมัน กำลังสงสัยว่าทำไมไม่มีผู้หญิงมองผมบ้างฟะ...



             Rrrr



            เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมหยิบออกมารับเมื่อเห็นว่าเป็นไอ้เสาโทรมา และก็เป็นจังหวะที่หมูหันมาพูดกับผมพอดี



            (“ไอ้สัด กว่ากูจะโทรติด มึงอยู่ไหนวะ...”)



            “พี่ศิลาอยากกิน...” เสียงของหมูดังเข้าไปในสายพอดี



            (“เชรดดดด....มึงอยู่กับน้องหมูกรอบเหรอ โวะ โทษ ๆ กูมาขัดจังหวะป่ะ วิศวะเรากำลังจะสั่นคลอนรึเปล่าวะ หมอมาแรงงง...”) ไอ้เสาพูดแซว



            วิศวะสั่นคลอนเชี่ยไรครับ...



            “ไอ้สัดเสาอย่าพูดจากวนส้น เออกูอยู่กับน้องมัน มึงมีไร” ผมถามกลับและก็ต้องงงกับหมูที่ทำหน้าบึ้งขึ้นมาซะงั้น เมื่อกี้ก็เห็นยิ้มอยู่นี่หว่า



            แถมมันยังเดินหันหลังหนีผมอีก อ้าว ๆ ...



            (“กูว่าจะมายืมชีทมึงไปลอกหน่อย แต่มาละมึงไม่อยู่เดี๋ยวกูไปยืมไอ้นนท์ก็ได้สัด เที่ยวให้สนุกเถอะ หึหึ”)



            “เออ ๆ เค เฮ้ย ไอ้หมูมึงจะเดินไปไหนวะ...งั้นกูแค่นี้นะ เชี่ยมันเดินหนีกูไปไหนแล้วไม่รู้” ผมตะโกนเรียกแผ่นหลังสูงที่เดินห่างออกไป อารมณ์ไหนของมันอีกละเนี่ย ทำเอาไอ้เสาที่อยู่ในสายหัวเราะลั่น



            (“ฮ่า ๆ! ตามไปเลยมึง กูว่าน้องมันงอนที่มึงไม่สนใจแหง ๆ รับโทรศัพท์กูเนี่ย...โชคดี อย่าลืมพามานั่งกินเหล้ากับพวกกูอย่างเป็นทางการด้วยนะ พวกกูจะอวยพร”)



            “อวยพรเชี่ยไร เพ้อเจ้อละ เออ ๆ บาย” ผมวางสายพร้อมกับมองหาไอ้หมูกรอบที่เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้



            “ไปไหนของมันวะ!” ผมเดินไปตามทางที่คาดว่าหมูจะเดินไป มองซ้ายก็แล้ว มองขวาก็แล้วแต่ก็ไม่เห็น ก่อนผมจะหมุนตัวหันหลังกลับไปปะทะกับแผงอกของคนที่ผมกำลังหาอยู่พอดี



            เฮ้ย...มันมายืนข้างหลังตั้งแต่ตอนไหน



            “ไอ้หมูกรอบ ไปไหน...มา?”



            “ผมอยู่ในสายตาพี่ศิลาด้วยเหรอครับ?” จึก...คำถามแนวไหนของมัน ผมเงยหน้ามองแววตาเข้มที่จ้องมองผมอยู่เหมือกัน



            “ก็อยู่ไง มึงก็ยืนอยู่กูตรงหน้ากูอยู่เนี่ย” ผมตอบ หมูยกยิ้มและเค้นหัวเราะในลำคอ



            “นั่นสินะครับ...คุยกับเพื่อนพี่เสร็จแล้วเหรอ ถึงได้มาหาผมได้”



            “เออ คุยเสร็จละ”



            “พี่นี่สนิทกับผู้ชายจังเนอะ” ก็กูเป็นผู้ชายครับ ก็ต้องสนิทกับผู้ชายดิ...ถามแปลก ๆ



            “ผมไม่ชอบให้พี่สนิทกับผู้ชายคนอื่น” คราวนี้มันพึมพำจนผมไม่ได้ยิน ผมเลิกคิ้วขึ้นมองใบหน้าหล่อที่เหมือนคิ้วจะขมวดคิ้วเป็นปมอยู่แล้ว



            “มึงพูดว่าอะไรนะ...แล้วนี่จะทำคิ้วเป็นปมหาอะไร” จึก ๆ ผมเอามือไปจิ้มตรงคิ้วของหมู



            “มึงจะถามกูว่าอยากกินอะไรใช่ไหม งั้นลงไปหาไรกินกัน” ผมชวนทำให้หมูหลุดยิ้มออกมา



            ...ค่อยสมกับเป็นมันหน่อย รอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก...



            “ครับ! พี่อยากกินอะไรล่ะ” ดูไอ้หมูจะสดใสขึ้นมาทันทีทันใด หรือที่มันทำหน้าตึง ๆ เมื่อกี้เพราะมันหิว



            “พิซซ่ามะ กูไม่ได้กินนานละ เดี๋ยวเลี้ยงพิซซ่า”



            “พี่ศิลาจะเลี้ยงได้ไง...”



            “ถ้าไม่ให้กูเลี้ยงก็ไม่ต้องมากินกับกู” ผมเด็ดขาด...จริง ๆ ไอ้หมูเลี้ยงทั้งหนังทั้งป๊อปคอนแล้วไง ก็เลี้ยงมันคืนบ้าง รุ่นพี่ที่ดีครับ...เลี้ยงรุ่นน้อง



            หมูทำหน้าลังเล ทั้งอยากกินแต่ก็ไม่อยากให้ผมเลี้ยง...แต่ในที่สุดหมูก็ยอมพยักหน้าตกลง



            “แต่พวกสปาเก็ตตี้ผมเลี้ยงนะ พี่เลี้ยงแค่พิซซ่า” ยังมีการตั้งเงื่อนไขกับกูอีกจนได้นะครับ....



            “เออ ๆ ตามนั้นแหละ ไปเหอะ กูหิวจนจะกินป้ายพิซซ่าตรงนี้ได้อยู่ละ” ผมว่าพร้อมกับลูบท้องของตัวเอง แต่การกระทำแค่นั้นของผมกลับทำให้ไอ้หมูพูดคำนี้ออกมา



            “ฮ่า ๆ! พี่น่ารักว่ะ” เริ่มสงสัยว่ามันจะเรียนหมอไหวไหม...ท่าทางสมองมันจะไม่ไหวแล้วนะนั่น



            “ไอ้เชี่ยหมู” ผมทำเสียงดุแต่ก็ไม่ได้ทำให้ไอ้หมูหยุดหัวเราะเลย...มันบ้าครับทุกคน มันบ้า!



            ..............

            ..............



            บอกเลยว่าอิ่มมาก! เป็นวันหยุดที่ใช้คุ้มมาก ดูหนังแถมยังกินเกือบทั้งวันด้วย นี่พวกผมตระเวนกินของอยู่ในห้างจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มอ่ะ คิดดู ห้างต้องให้ค่าโฆษณาพวกผมมาเดี๋ยวนี้



            ระหว่างที่กำลังจะกลับไปที่ลานจอดรถ ผมก็ดันไปเจอกับไอ้หน้าจรวดคู่อริเก่าของรุ่นน้องพวกผมที่เคยไปตีกันแบบว่าศึกลูกผู้ชายไรงี้ครับ โลกเรามันกลมเนอะ ผมลืมไปจะแปลกอะไรถ้าจะบังเอิญมาเจอกัน แต่ผมเป็นพวกประเภทที่ไม่ค่อยอยากยุ่งหรือมีเรื่องกับใคร แต่ถ้ามันมาหาเรื่องผมก่อนผมก็ไม่ยอมเหมือนกันครับ! และดูท่าทางไอ้หน้าจรวดจะเห็นผมละ (ตั้งฉายาให้มันเพราะมันหน้ายาวมาก) ผมจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นนะตอนแรกถ้ามันไม่ได้มาแกล้งเดินชนไอ้หมูแล้วพูดหาเรื่อง



            ปึ่ก



            “เฮ้ย...ไอ้น้องเดินชนกูแล้วทำไมไม่ขอโทษวะ” ไอ้หน้าจรวดผลักไหล่ของไอ้หมู อ้าวไอ้นี่วอนตีนซะแล้ว หมูมันก็เหมือนจะรู้ว่าไอ้พวกนี้จงใจหาเรื่อง



            “ขอโทษครับ” หมูตอบเสียงเรียบและกำลังจะพาผมเดินหนี แต่ไอ้พวกนี้ก็จ้องจะหาเรื่องให้ได้ ผมกำหมัดแน่นด้วยความใจเย็น...(กำลังเย็น)



            “ไรวะ! แค่คำขอโทษเองเหรอ...รุ่นพี่! มึงแม่งไม่สอนเหรอวะ ว่าต้องยกมือไหว้” ไอ้หน้าจรวดเริ่มพาดพิงมาถึงผม



            “กูไม่ได้อยากมีเรื่องกับพวกมึงวันนี้” ผมตอบแค่นั้นและกำลังจะพาไอ้หมูเดินหนี แต่ร่างสูงที่ยืนข้างผมกลับมองไอ้พวกนั้นเหมือนไม่กลัว



            เป็นกูกูกลัวนะเฮ้ย...ไอ้หมูกรอบมาได้แล้วโว้ยยย....



            “ไอ้เด็กอ่อนมึงมองหน้ากูทำไม? อยากมีเรื่อง?” มึงแหละไอ้หน้าจรวดหาเรื่องพวกผมชะมัด ผมดึงชายเสื้อของหมูที่ยืนประจันหน้ากับไอ้หน้าจรวด



            “เปล่าครับ...แต่ที่บอกว่าให้ยกมือไหว้เวลาขอโทษอ่ะ ผมจะทำเฉพาะกับคนที่น่าเคารพเท่านั้นแหละครับ” เสียงเรียบ ๆ กล่าวออกมาจากปากหมู แต่มันก็เป็นคำที่ทำให้ไอ้หน้าจรวดฟิวส์ขาดทันที



            เชรด...ไอ้หมูมันพูดได้คมมาก แต่ผมว่าอีกไม่กี่วิมันจะวอนหมัดที่ไอ้จรวดง้างขึ้น และผมก็เชื่อว่าไอ้หมูไม่ทันระวังแน่ ๆ



            “ปากดีนะมึง!!” ไอ้จรวดมันพูด



            เชี่ย....



            เชี่ยยยยย ไม่ได้โว้ย หน้ามึงต้องประกวดเดือนนะไอ้หมูกรอบ!!



            ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมวิ่งเข้าไปกันหมัดของไอ้จรวดที่ปล่อยออกมาใส่หมู และหมัดหนัก ๆ ของไอ้จรวดก็ต่อยลงที่หน้าของผม



            พลั่ก!!



            “อัก!...” เหี้ยย!! เจ็บโคตร ผมเซนิด ๆ ส่วนไอ้หมูยืนอึ้งมันอึ้งมาก...แต่ผมว่ามันดูตกใจมากกว่า โอ๊ยปากผมมีกลิ่นคาวเลือดมาเต็ม....มือหรือตีนวะ!! เจ็บ



            “พี่ศิลา!!!!” ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อเสียงรปภ. ก็เป่านกหวีดมาแต่ไกลผมเลยรีบคว้าแขนไอ้หมูวิ่งกลับไปที่รถของมัน



            “มานี่เร็ว!” ผมจับมือมันและวิ่ง รู้สึกชาหน้าโคตร ๆ แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก(เหรอ...)



             ผมเองก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมออกตัวรับแทนเขาแบบนั้น ก็หน้าของไอ้นี่สำคัญนี่ มันต้องประกวดเดือนมหาวิทยาลัยอีก จะมีรอยได้ยังไง...ผมกับหมูวิ่งกลับมาที่รถของมันก็แทบหอบ แต่ยังไม่ทันจะหายจากอาการหอบที่วิ่งมาเหนื่อย ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อไอ้หมูดันผมติดกับรถ



            “เชี่ย ไรของมึงไอ้หมู....”  แต่เมื่อผมมองแววตาตื่นตกใจพร้อมกับมือสั่นของมัน ผมก็เหวอไปเหมือนกัน



            “เจ็บ...” มันพูดออกมาคำเดียว



            “ห๊ะ...?” และผมก็ต้องสะดุ้งอีกรอบ



            “เจ็บ!!!...พี่ศิลาเจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บเพราะผม!!!” เฮือก....ดูมันเหมือนช็อกเลยอ่ะ เป็นไรวะ



            “ใจเย็น ๆ ได้ไหมวะ กูไม่ได้เจ็บมาก” ผมบอกช้า ๆ แต่ก็เริ่มแสบหน่อยแล้วล่ะ ปากกูแตกเลยครับ



            “พี่ปกป้องผมทำไม...ทำไมไม่ให้ผมโดนต่อย ผมปากเสียเอง!”



            “หน้ามึงจะเป็นเดือนนะไอ้หมู จะมีรอยได้ไงวะ อีกอย่างพวกนั้นมันพวกคู่อริคณะกูนี่แหละ มันจ้องจะหาเรื่องอยู่ละ ไม่เกี่ยวกับมึงหรอก” ผมบอกตามความจริง แต่ก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อจู่ ๆ มือหนาเอื้อมมาแตะมุมปากที่แตกของผม



            “พี่เจ็บ...เลือดออกด้วย เพราะผม...เพราะผม” มันยังโทษตัวเองอยู่นั่นแหละ “ทำไมต้องเอาตัวมาบังผมด้วย” เออ..นั่นสิ กูเองก็สงสัยเหมือนกันว่า เอาตัวไปบังมันทำไม....เพราะมันเป็นรุ่นน้องไง....



            ผมมองหมูที่เอาแต่มองหน้าผมด้วยความที่รู้สึกผิดมากทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่คนที่ต่อยผมด้วยซ้ำ และก็ไม่ใช่คนที่โดนต่อย แต่มันทำหน้าราวกับเจ็บปวดมากกว่าผมอีก...



            “โถ่วเว้ย!!” หมูสบถออกมาทำให้ผมสะดุ้งอีกรอบ



            ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก!! “ผมทำให้พี่เจ็บตัว” ไอ้หมูปล่อยหมัดรัวใส่รถของตัวเองที่มันเอามาค้ำกั้นผมไว้   ผมตาโต ไอ้โง่!!....ไปต่อยรถเดี๋ยวมือมึงจะเจ็บนะเว้ย ผมรีบคว้าไอ้คนที่เริ่มจะบ้า



            “ไอ้เชี่ย! รถมันเจ็บนะเว้ย...” ผมคว้ามือของมันมาดูแต่ปากกลับสวนทางกัน ดูท่าทางมันเริ่มไม่ฟังกะจะต่อยรถท่าเดียว



            “ช่างมัน! ซื้อใหม่ได้” โห...ไอ้รวยยยย มือมึงจะเจ็บไงโว้ยยย



            “ไอ้หมู หยุด” ผมรั้งมือมันที่จะปล่อยไปต่อยเหมือนระบายอีก



            “ไอ้เชี่ยหมู หยุด...”



            “ไอ้หมูกรอบ...หยุดนะ...” ชื่อสุดท้ายผมเอ่ยเหนื่อย ๆ คือแบบว่าแหกปากจนเจ็บปากแล้ว และชื่อสุดท้ายก็ทำให้ไอ้หมูหยุดได้จริง ๆ ...เหมือนใจเย็นลงด้วย แต่มันก็ทำหน้าเศร้าอยู่ดี



            “มึงจะเป็นหมอใช่มะ...งั้นก็ทำแผลให้กูหน่อยละกัน” ผมบอก หมูพยักหน้าช้า ๆ...มึงกวนตีนกูหน่อยก็ได้...ทำตัวไม่ถูกเว้ย เห็นหน้าเศร้า ๆ แล้วไปไหนไม่เป็นเลยครับ



            “ครับ งั้นไปหอผมนะ”



            “ทำไมต้องไปหอมึงวะ”



            “หอผมมีกล่องพยาบาลไง” ผมขมวดคิ้ว...ห้องกูก็มีกล่องพยาบาลโว้ย



            “ไปที่หอกูก็ได้...” ไม่อยากไปหอมันอ่ะ ดูอันตราย หมูคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย...ดูบรรยากาศจะดีกว่าเมื่อกี้มาก



            “ไม่เอาครับ หอผมของครบครันกว่า สะดวกกว่า กว้างกว่าห้องพี่มากด้วย” มันอวด...



            “เกี่ยวตรงไหนวะ กูไม่...” นิ้วชี้ของร่างสูงแตะที่ริมฝีปากของผม ชะงักกึกเลยครับ



            “อย่าครับ พี่ศิลาห้ามมาเถียงหมอ...” หมูยกยิ้ม และอยากจะบ้าตายกับประโยคต่อมา



            “เป็นคนไข้ของหมอห้ามดื้อนะครับ” ได้ทีแล้วเล่นใหญ่มาก ไอ้อารมณ์เศร้า ๆ หายไปไหนหมดแล้ววะเมื่อกี้!!



            กูแค่ปากแตกเฉย ๆ เว้ยยยยย....จริง ๆ ไม่ต้องทำแผลด้วยซ้ำ.....รู้สึกอยากเอาหัวโขกรถ ไม่น่าไปเปิดโอกาสให้มันมาทำแผลเลย.....ผมคิดผิดใช่ไหมครับทุกคน....ไอ้หมูมันจะยิ้มอะไรนักหนา โว้ย!!



...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ^^ ฝากหมูกรอบกับพี่ศิลาไว้ด้วยยยย เยิฟ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1

ไม่ต้องเชียร์แล้วมั้งค่ะน้องหมูกรอบเนี่ย
ดูพี่หมวยเล็กจะไปไหนไม่รอดแล้วละ  5555

 :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ว๊ายยยยย หมวยเล็กจะเข้าห้องผู้ชายยยย :hao6:

ออฟไลน์ iaum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รอพี่หมวยเล็กสอนน้องหมูรำเด้อ  o13

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts
น่ารักจังงงงงงงงงง

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :serius2:



สงสารรรรร

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
น้องหมูกรอบ
ดูแลพี่หมวยเล็กด้วยนะ

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 5



            [พาร์ตของศิลา]





          | หอ B |



            ผมมองห้องของหมูที่กว้างมากอย่างที่มันบอกจริง ๆ หอพักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของผมก็หรูไม่แพ้กับหอของผมเลย แถมยังเหมือนมีแต่พวกรวย ๆ อยู่กันที่นี่ด้วยแฮะ สีห้องเป็นโทนน้ำเงินเข้ม ส่วนมากของใช้ก็จะเป็นสีนี้โทนนี้ไปหมดเลย หมูที่เดินตามเข้ามาก็เดินนำไปห้องนอนของมัน



            “มานี่สิครับพี่ศิลา ผมจะทำแผลให้” ผมส่ายหน้าและเลือกที่นั่งตรงโซฟาห้องรับแขก



            เรื่องอะไรผมจะต้องเข้าไปในห้องนอนของมันด้วย....



            “มานั่งทำแผลตรงนี้ก็ได้” ผมบอก หมูหัวเราะเล็กน้อย



            “กลัวผมทำอะไรเหรอครับ?” ใครกลัวมึงงงงง ไอ้หมูกรอบ....มึงน่ากลัวตรงไหน



            เขาเดินถือกล่องพยาบาลเล็ก ๆ ออกมาด้วยพร้อมกับนั่งลงข้างผม



            “กลัวอะไร? มึงจะทำอะไรได้” ผมไหวไหล่และชะงักเมื่อเขาเอามือมาค้ำโซฟาไว้ทำให้หน้าของมันจะชิดผมอยู่แล้ว!



            “ผมทำได้หลายอย่างนะครับ พี่ศิลา...”



            “ไอ้เชี่ย! ยื่นหน้าเข้ามาทำไมวะ” ผมดันหน้าของหมูออก เขาเลยหัวเราะออกมาอีก



            “ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า...ถ้าจะทำผมทำไปนานแล้ว” มันพึมพำอะไรกับกล่องพยาบาลครับ?...



            ผมไม่ได้ยินที่เขาพูดอีกละ



            “เบา ๆ นะมึง” ผมบอกดักไว้เมื่อเห็นเขาเอาสำลีมาซับเลือดตรงปากของผม



            “จะทำเบา ๆ ที่สุดเลยล่ะครับ...ไม่ต้องกลัวนะ” หมูบอกอย่างละมุน...แต่ผมว่ามันไม่ได้หมายถึงเรื่องแผลแน่ ๆ ก็ดูสายตาที่มันมองผมสิ! ผมเป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่กลับมามองด้วยสายตาเจ้าชู้กรุ่มกริ่ม



            ไปกรุ่มกริ่มใส่สาว ๆ ของมึงนู่นนน....ไอ้ขายหม้อ



            ผมนั่งเผชิญหน้ากับเขาที่นั่งหันหน้ามาหาผมที่นั่งขัดสมาธิอยู่ มือหนาค่อย ๆ บรรจงซับแผลมุมปากของผมอย่างเบามือ....มืออ่อนโยนมากแฮะ สมแล้วที่จะเรียนหมอ...



            “เคลิ้มเหรอ” จู่ ๆ เสียงเข้มก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก



            “เคลิ้มเชี่ยอะไรของมึงวะ...” ผมหันหน้าหนีและรู้สึกว่าห้องเริ่มตกอยู่ในความเงียบ ชวนคุยอะไรดีวะ อย่าเงียบดิ...กูไม่ชอบ ก่อนผมจะนึกออกแล้วหันไปหาหมูที่กำลังก้มหน้าลงมาปิดกล่องพยาบาลพอดี



            มันก้มมาใกล้ผมมากกก....



            ริมฝีปากของผมแตะเบา ๆ ที่หน้าผากของหมูทันที....เชี่ยอีกแล้ว



            “ไอ้เชี่ย! มึงก้มมาทำไมวะ!!” ผมโวยวายขึ้นมาแก้ต่างตัวเอง หมูหลุดยิ้มออกมา



            “ก็พี่ศิลาจะหันหน้ามาทำไมล่ะ ผมก็เก็บของอยู่ดี ๆ...โดนพี่จุ๊บหน้าผากเลยแฮะ” ยังมีหน้ามาย้ำให้ฟังอีก!!



            “พูดมาก!” ผมดุมันเลยยอมเงียบ “เออ เรื่องการแสดงอ่ะ...มึงคิดว่าจะรำไหวไหม” ผมถาม หมูทำตาลุกวาวอย่างตื่นเต้น



            “พี่ศิลาจะสอนเหรอครับ??...จริงอ่ะ!” ถ้าไม่สอนแล้วกูจะตกลงทำเบื้อกอะไรวะ.....



            “ก็จะสอน ถ้ามึงคิดจะเอาการแสดงนี้จริง ๆ บอกเลยว่ามันไม่ง่ายนะเว้ย...”



            “ผมเองก็คิดว่ารำนี่น่าสนใจอย่างที่เจ้นิ่มแนะนำแหละครับ ก็เลยกะว่าจะเอาอันนี้...ถ้าพี่สอน  ผมจะตั้งใจซ้อมทุกคาบที่เข้าเรียนกับพี่ศิลาเลย...” หมูโน้มหน้าเข้ามาใกล้เหมือนเด็กน้อยซน ๆ



            “ตกลงพี่จะสอนจริงใช่ไหม” เกลียด...ไอ้ความยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้



            “เออ ก็กูตกลงกับมึงไว้แล้วนี่” ผมว่า “เดี๋ยวกูกลับไปห้องกูก่อนดีกว่า” ผมมองนาฬิกาในห้องที่บอกเวลา มันจะสองทุ่มแล้วนี่....



            ผมจะลุกขึ้นยืนแต่มือหนากลับคว้ามือของผมไว้ซะก่อน



            “พี่ศิลานอนนี่ก็ได้นะ มันเริ่มดึกแล้วไม่เหนื่อยเหรอ” ผมขมวดคิ้ว หอผมอยู่ตรงข้ามมันเองนะ จะมาเหนื่อยไรของมันวะ



            “กูไม่เหนื่อย หออยู่แค่นี้เอง” ผมจะบิดข้อมือออกแต่ดูหมูไม่ยอม



            “งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง แต่ให้ผมไปอาบน้ำก่อนแป๊ปหนึ่ง” ทำไมผมจะต้องรอให้ไอ้นี่ไปส่งด้วย



            “ทำไมต้องไปส่งกู กูกลับเองได้”



            “ไม่เอา มันเริ่มดึกอันตราย” เฮ้ย...กูเป็นผู้ชายนะ ใครจะมาทำอันตรายกู....ไอ้หมูนี่มันเริ่มบ้าแล้วแหง ๆ



            “เออ ๆ ก็ได้ รีบไปอาบน้ำสิมึง” แต่ด้วยความที่ขี้เกียจเถียงไปมากับมันก็เลยต้องจำใจรอ ผมไล่ไอ้หมูที่ยิ้มพอใจไปอาบน้ำซะ ผมมองมันที่เดินยิ้มร่าเริงเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง



            ...จะมาห่วงอะไรนักหนาวะ หอผมก็อยู่ตรงข้ามเนี่ย....แต่ที่บ้ากว่าน่าจะเป็นผมที่บ้าจี้นั่งรอให้มันไปส่ง เหอะ ๆ ผมที่นั่งรออยู่โซฟา จู่ ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นอัลบั้มที่อยู่ตรงโต๊ะแก้วตรงโซฟา





            ชื่อของอัลบั้มทำให้ผมสะดุดตามาก...#หมวยเล็กของหมู ผมมองลังเลนิด ๆ ...



            คำว่า หมวยเล็กของหมู ทำเอาผมสะอึกเล็กน้อย...นี่คือหมวยเล็กคนที่ไอ้หมูมันบอกว่าอยากเจอสินะ ผมเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะสะดุ้งเมื่อหมูที่ผมคิดว่าเข้าไปอาบน้ำแล้วเดินออกมาชุดเดิม    เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ผมถืออยู่



            พรึบ! อัลบั้มที่อยู่ในมือของผมกลับไปอยู่มือของหมูเรียบร้อย มันดึงไปรวดเร็วมาก...ท่าทางมันหวงอัลบั้มอันนี้มาก...



            หมูชะงักเล็กน้อยเมื่อผมเงยหน้ามองเขา



            “ขอโทษทีกูไม่ได้ตั้งใจจะหยิบของมึงมาดู” ผมบอกด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจแปลก ๆ “กูจะกลับหอละ มึงไปต้องไปส่งกูหรอก” ผมยืนขึ้นทำท่าจะเดินออกไป



            “พี่ศิลา ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดึงอัลบั้มมาจากพี่แต่มัน...”



            “ถ้ามันสำคัญนัก มึงก็เก็บไว้ดี ๆ สิวะ! กูกลับเองได้ไม่ต้องมายุ่งกับกู!” ผมสั่งเด็ดขาดและเดินออกไปจากห้องของหมูทันที โดยที่ไม่ได้หันหลังกลับไปดูว่ามันจะตามผมมารึเปล่า



            มันจะตามผมมาทำไมล่ะ...



            ผมกลับมาที่ห้องก็ทิ้งตัวนอนลงที่นอนแสนนุ่มของตัวเอง พลางข่มตาลงไม่ถึง 5 นาที โทรศัพท์ของผมก็แจ้งเตือนมาว่ามีไลน์เข้า ใครวะ...ผมเลื่อนดูเฟรนที่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนและเหมือนจะเพิ่งแอดผมเข้ามาด้วย



            + หมูกรอบ + : ฝันดีนะครับ พี่ศิลา ห่มผ้าด้วยนะคืนนี้เขาว่าอากาศจะหนาว ©



            ผมกดอ่านข้อความ...อ่านแล้ว อ่านซ้ำอีกรอบ...



            “ไอ้นี่แม่งบ้า...” ถึงปากจะด่าออกไปแบบนั้นแต่ผมกลับไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมา...



            .................

            ................



            @คณะวิศวะ



            วันนี้ผมมาคณะเพื่อมารับหน้าที่ดูน้อง รู้สึกว่าถั่วดำจะนัดน้องปี 1 มาซ้อมเพลงอะไรของมันก็ไม่รู้เลยทำให้ผมต้องแหกขี้ตามาตั้งแต่เช้า 8:30 ก็ถือว่าเช้าสำหรับผมมากอ่ะ ส่วนไอ้หมูคณะมันก็เรียกมาซ้อมเหมือนกันครับ ถามว่าผมรู้ได้ไง...ก็มันโทรมาบอกเมื่อเช้าอ่ะ ผมไม่ได้อยากจะรู้สักนิด!



            ผมเดินมาโต๊ะประจำของตัวเองก็เจอไอ้เสาที่ดูแปลก ๆ ...ทำไมมันดูเพลีย ๆ แบบนั้นวะ



            “ไอ้เสา...ไอ้เสา ไอ้สัดเสา!!” ผมโบกมือไปมาหน้ามัน ไอ้เสาก็เอาแต่เหม่อนี่เรียกหลายรอบละ กว่ามันจะได้ยินก็ตอนที่ผมเรียกเสียงดังครั้งสุดท้าย



            “อะไรวะ...เสียงดังชิบ” มันพูดเอื่อย ๆ ผมนั่งลงตรงข้ามด้วยความรู้สึกสงสัย



            “มึงแหละ เป็นเชี่ยไรฮะ ดูเหม่อ ๆ หน้าซีดมากอ่ะมึง” ไอ้เสาเอามือจับหน้ามัน ผมรู้สึกไปเองไหมว่าไอ้เสามันกำลังทำหน้าเครียดเล็กน้อย



            “แล้วนี่มึงเห็นไอ้สัดนนท์มะ” ผมถามแต่ไอ้เสากลับสะดุ้ง...?



            “กูไม่รู้” เสาตอบทันควัน อะไรของมันครับ ปกติเห็นตัวติดกับไอ้นนท์มากไปไหนมาไหนผมก็เห็นพวกมันไปด้วยกันตลอดนะ แถมมันจะมาพร้อมกันด้วย



            “เออ ไอ้ศิลา กูเลิกกับจีแล้วนะ” จู่ ๆ ไอ้เสาก็พูดขึ้น ผมตาโตกับสิ่งที่มันพูด ก็จี ที่เป็นดาวแพทย์ที่กำลังคบกันรักหวานจ๋าอยู่นี่หว่า!?



            “เฮ้ย ตอนไหนวะ ทำไมเลิก? ก็เห็นรักกันอยู่ดี ๆ”



            “ก็เลิกเมื่อเช้า...มึงกูขออะไรหน่อยได้ไหมวะ” เพิ่งเคยเห็นไอ้เสามันทำหน้าเครียดมากแบบนี้เป็นครั้งแรก ปกติมันจะเป็นพวกฮา ๆ ไงครับ กวนตีนคนอื่นไปทั่วตามประสามัน แต่สีหน้ามันตอนนี้บ่งบอกว่าคิดมากจริง ๆ



            “ว่ามา จะขออะไรวะ”



            “อย่าบอกเรื่องที่กูเลิกกับแฟนให้ไอ้นนท์รู้...แค่นี้แหละที่จะขอ” ผมประโยคของไอ้เสาด้วยความงงและเอ๋อ....รึว่ามันจะขออะไรซะอีก ห้ามบอกไอ้นนท์เนี่ยนะ



            จริง ๆ ก็อยากจะถามว่าทำไม แต่ดูจากสีหน้าเหม่อ ๆ ของไอ้เสาแล้ว ผมเลือกที่จะยังไม่ถามมันดีกว่า เดี๋ยวตอนมันอยากเล่าก็คงเล่าเองแหละ



            “จะว่าไปมึงก็ไปเอาชีทกับไอ้นนท์เมื่อวานมาไม่ใช่เหรอ” ดูเหมือนไอ้เสาจะสะดุ้งอีกรอบ



            “ก็ไปเอามาลอกแล้ว....มึงแหละ เป็นไงกับน้องหมูกรอบ...เออ เพิ่งเห็น หน้ามึงไปโดนไรมาวะ” เสามองหน้าผมและพิจารณาเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าหน้าผมมีรอยช้ำ



            ก่อนผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ไอ้เสาฟัง



            “ไอ้เหี้ย!! มันกล้าต่อยมึงเหรอ กูว่าต้องเจอหน่อยแล้วล่ะ” ไอ้เสาทำท่าขึ้นผมรีบยกมือห้าม สภาพมึงจะไม่ไหวอยู่แล้วไอ้เสาเอ๊ย มันจะรู้ไหมว่าหน้ามันซีดมาก



            “ใจเย็นเถอะมึง กูว่าอย่าไปสนใจมันเลย...ช่างมันเถอะ ว่าแต่มึงเหอะไหวไหมเนี่ย หน้าแม่งซีดได้อีก” ผมทักไอ้เสาที่ทำท่าเหมือนจะหลับให้ได้



            “อ้าว ไอ้สัดนนท์มาจนได้นะมึง” ผมเหลือบไปเห็นไอ้นนท์เดินมาแต่ไกลพร้อมกับถุงเซเว่น ไอ้เสาเงียบลงทันที



            ฟุบ! ถุงเซเว่นถูกวางลงตรงหน้าของไอ้เสา ผมเหลือบมองเพื่อนสองคนของตัวเองอย่างงง ๆ พวกมึงสองคนไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่ไหมเนี่ย ปกติไอ้เสาจะชอบไปกอดคอของไอ้นนท์ตามประสามัน แต่นี่ไอ้เสาเงียบกริบ



            “กูกินข้าวมาเมื่อเช้าแล้ว” เสียงของเสาตอบเรียบ ๆ ก่อนไอ้เสาจะลุกขึ้นและเซนิด ๆ



            “เฮ้ย ๆ ไอ้สัดมึงไหวนะ” ผมร้องจะเข้าไปช่วย ไอ้นนท์ที่ยืนอยู่ใกล้ก็เหมือนจะคว้าตัวไอ้เสาไว้เหมือนกัน



            “กูไหว กูว่าจะกลับไปนอนซะหน่อย เดี๋ยวกูแวะไปหาแฟนก่อนละกัน” ไอ้เสามันบอกพร้อมกับมองตาผมอย่างรู้กัน ....อ๋อ ลืมไปมันห้ามผมบอกไอ้นนท์ว่ามันเลิกกับแฟนแล้ว



            ผมมองไอ้เสาที่เดินหนีไปแล้ว ส่วนคนที่ยังยืนอยู่ตรงนี้คือไอ้นนท์ที่ยืนทำหน้านิ่งขรึม พวกมึงสองคนเป็นเชี่ยอะไรกันนนนน....บอกกูทีเซ่



            “ของกินที่ซื้อมาฝากไอ้เสานี่ทำไง?” ผมชี้ ไอ้นนท์ก็ยักไหล่



            “ถ้ามึงจะกินก็เอาไปเถอะ” ผมเหลือบมองในถุงที่มีแต่ของโปรดของไอ้เสาทั้งหมด เหมือนไอ้นนท์ตั้งใจจะซื้อมาให้เสาโดยเฉพาะเลยแฮะ...ผมเลยจับยัดใส่มือไอ้นนท์



            “เอาไปให้คนที่มึงตั้งใจจะซื้อให้เถอะ...อ้าว มึงจะไปไหนวะ” ไอ้นนท์รับไว้และหมุนตัวเดินออกไป



            “ไปหาดูสาวสวย ๆ แถวม.เรานี่แหละ เผื่อเจอสวยอึ้ม” ไอ้นนท์ว่าเรียบ ๆ แกมเจ้าชู้แต่เหมือนประชดยังไงชอบกล อ้าว...แล้วทำไมเหลือผมอยู่เป็นพี่ฝ่ายดูแลน้ำเล่า ไอ้เพื่อนชั่วมันทิ้งผมครั้งที่ 3 แล้ว!!!





            เวลา 16:00น.



            ผมเก็บของเข้าไปไว้ในห้องชมรมก่อนจะออกมาเจอไอ้หมูกรอบที่ยืนพิงต้นไม้อยู่ ราวกับนายแบบกำลังโพสท่า     
 หมั่นไส้...จำเป็นต้องดูดีไรขนาดนั้นวะ สาเหตุที่มันมายืนรอผมก็เพราะจะให้ผมไปซ้อมรำให้ครับ ดูท่าทางขยันจังเลยเนอะ!



            “เลิกแล้วเหรอ” ผมถามมันขึ้น เห็นว่าเพิ่งเลิกจากคณะตัวเองมาแถมยังวิ่งมาอีก มันจะอยากรีบซ้อมอะไรเบอร์นนั้น



            “ยังครับ...ผมยังไม่ได้คบกับพี่เลยจะเลิกได้ไง” ผมเงยหน้ามองหมูที่ดูจะชอบอกชอบใจกับการปล่อยมุขเน่า ๆ ของมันออกมา แนะนำให้ไปเล่นกับสาวที่เขากรี๊ดมึงนะครับ..



            กูไม่กรี๊ด...



            “กวนส้นคนอื่นจริงมึงนิ แล้วนี่จะไปซ้อมที่ไหน” ผมทำเป็นมองข้าม ๆ ไอ้มุขแป๊กที่มันพยายามจะพูด หมูก็แอบทำหน้าหง่อยนิดหน่อยแต่ก็ยังยิ้มอยู่ดี



            “ห้องผมไหม” วนไปห้องมันอีกละ...



            “ทำไมต้องห้องมึง?”



            “ก็ห้องผมกว้าง พื้นที่ก็มี หรือพี่จะเถียง?” ก็ถูกอย่างที่มันพูดมาครับ ห้องของไอ้หมูมันกว้างแถมมีพื้นที่เยอะอีก แต่แม่ง...ผมรู้สึกไม่อยากไปหอของไอ้หมูเลย แต่ถามว่าเลี่ยงได้ไหม...



            “เออ ๆ ก็ได้ ตามนั้นแหละ” ผมพยักหน้าตกลงเอื่อย ๆ แต่ยังไม่ทันจะเดินไปที่รถเสียงเล็กหวานตามฉบับแอ๊บแบ๊วก็เรียกชื่อของไอ้หมู



            “หมู!...” ผมกับไอ้หมูหันไปมองหญิงสาวตัวเล็กแต่ส่วนเว้าส่วนโค้งไม่เล็กสักนิด...เหอะ ๆ



            “อ้าว ชมพู่...ว่าไง” เธอยื่นขนมให้กับไอ้หมูแล้วยกมือไหว้ผมที่เป็นรุ่นพี่ สงสัยปี 1 เหมือนกันกับไอ้หมูกรอบ แถมดูท่าทางสนิทด้วย ก็ดูแขนที่เธอยื่นมาเกาะแกะหมูสิ...



            “ซื้อมาฝากจ๊ะ...เจ้านี้เป็นเจ้าที่หมูชอบไปทานกับครอบครัวไง เราเห็นแล้วคิดถึงหมู คิดถึงตอนที่เราไปกินด้วยกัน...” รู้สึกว่าเธอจะเน้น ๆ คำว่ากินด้วยกันมาทางผมแฮะ...ผมคิดไปเองรึเปล่าวะ ว่าเธอมองผมเหมือนไม่ชอบ(?)



            “โหย จริงด้วย ไม่เห็นต้องลำบากเลย...แต่ก็ขอบคุณนะ!” หมูยิ้มกว้างให้กับของกิน ผมมองอย่างหมั่นไส้...ไอ้เห็นแก่กินเอ๊ย (ไปว่าน้องเขาทำไมล่ะไอ้ศิลาเอ๊ย)



            “กูไปรอที่รถละกันนะ” ผมพูดขึ้นก่อนจะเดินหันหลังไปจากไอ้หมูที่ยืนคุยอยู่กับสาวน้อยชมพู่คุคิ(ตั้งฉายาให้คนอื่นอีกแล้ว)





          |หอ B|



            เมื่อมาถึงหอพักไอ้หมูผมก็เดินก้าวดุ่ม ๆ เข้าไป ราวกับว่าตัวเองอยู่หอพักนี้ซะงั้น หมูก็วิ่งตามผมเข้ามาติด ๆ และพยายามพูดกับผมมาตลอดทาง แต่ผมก็ไม่ได้พูดกับมัน



            “พี่ศิลา พี่ศิลาเป็นอะไรไปครับ ทำไมไม่ยอมพูดกับผม?” เสียงที่ดังตามหลังเหมือนง้องอนทำเอาคนอื่นที่เดินผ่านมองด้วยความอยากเผือกสุด ๆ



            หมูไขกุญแจห้องเปิดประตูให้ผมเดินเข้าไปในห้องที่ผมเพิ่งจะมาเมื่อวานนี้เอง...



            “ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจรึเปล่า....” ไอ้หมูยังคงจ้อไม่หยุด ผมเลยยกมือสต็อปมัน ถามว่าผมเป็นอะไรเหรอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร! หงุดหงิด...แค่รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาก็เท่านั้น



            “เปล่า มึงเอาโน้ตบุ๊คมาเปิดดูเพลงรำหน่อย” ผมบอกอย่างเป็นงานเป็นการ รีบซ้อมรีบเสร็จไป  หมูเมื่อเห็นว่าผมยอมพูดก็ยิ้มออกมา...ยิ้มทำไมวะ 



            “นี่ครับ...” โน้ตบุ๊คเครื่องบาง ๆ ของมันถูกยื่นมาให้ผม “พี่ศิลากินขนมไหมครับ” ไอ้หมูยื่นขนมที่สาวน้อยชมพู่ให้มายื่นให้ผม



            “กูไม่กิน ไม่ชอบขนมอันนี้” ผมตอบกลับ หมูเลยกระตุกยิ้มและไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ ไอ้หมูเดินหายเข้าไปในห้องครัวเอาขนมไปเก็บไว้ ส่วนผมก็ค้นดูยูทูปการรำไป หมูเดินกลับออกมาพร้อมกับแก้วชาเขียวร้อน ๆ กลิ่นมันหอมมาก...ผมชอบชาเขียวมาก แถมกลิ่นหอมนี้ยังกลิ่นคล้ายกับยี่ห้อที่ป๊าชอบซื้อมาชงให้ผมกินบ่อย ๆ



            “อันนี้พี่น่าจะชอบแน่ ๆ” ชาเขียวถูกยื่นมาตรงหน้าผม “ชาเขียวสำหรับพี่ศิลาครับ” มันยื่นมาอีกเมื่อเห็นผมไม่ยอมรับ ผมรับมาก่อนจะดมดู...หอมสุด ๆ ผมจิบดูก่อนจะวางมันลง



            หมูคุกเข่าลงนั่งตรงพรมใกล้กับโซฟาที่ผมนั่งอยู่ เออ มึงเป็นเจ้าของห้องนะ ไปนั่งพื้นทำเบื้อกอะไรตรงนั้นฟะ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเมื่อมันมองมาที่หน้าของโน้ตบุ้ค



            “พี่ค้นเจอยังว่าจะเอาเพลงไหนสอนผม?”



            “กูว่าจะให้เอาเพลงนี้แหละ...ท่าน่าจะง่าย สำหรับมึงอ่ะนะ” ผมชี้แล้วหันไปหาไอ้หมูที่นั่งอยู่



            “มึงมีพื้นฐานการรำมาไหม เผื่อกูจะข้ามอะไรที่มึงได้แล้ว จะได้ไม่ต้องสอน” ผมถาม หมูก็ทำท่าคิด



            “เคยเรียนนาฏศิลป์ตอนมัธยมนะ ตั้งวงเป็น....แค่นั้นแหละครับที่จำได้” เดี๋ยวนะ...จำได้อยู่แค่นี้เนี่ยนะไอ้บ้า เหมือนผมหางานหนักมาให้ตัวเองชะมัด ขนาดกว่าผมจะรำเป็นก็หัดตั้งนานแหนะ ป๊าจับผมไปส่งโรงเรียนสอนรำเกือบเป็นเดือน



            “แล้วพวกท่าตั้งจีบ มึงจีบเป็นไหม?” ผมเลื่อน ๆ เซฟเพลงไว้และถามไปด้วย



            แต่ก็ต้องชะงักกับประโยคตอบกลับ...



            “จีบเป็นครับ...ก็กำลังจีบอยู่เนี่ย” ผมเงยหน้าจากจอไปมองหน้าของหมูที่เอามือค้ำกั้นไว้ที่โซฟาอยู่ข้างหน้าผม เหมือนปิดทางไม่ให้ผมออกไปไหน เชี่ยอะไรของมึงอีกเนี่ย.....



            “ไหนจีบของมึง?” ผมมองมือมันที่ไม่ได้ตั้งวงจีบสักนิด หมูยกยิ้มแล้วเอามือมาปิดจอโน้ตบุ้ค



            “ไอ้สัดมึงปิดจอทำไม...” ผมโวยเพราะกำลังดูยูทูปอยู่ แต่แววตาคมตรงหน้าที่จ้องผมอยู่ทำให้ผมจ้องคืน



            “มองตาผมสิ แล้วพี่จะรู้ว่าผมกำลัง จีบพี่ศิลาอยู่นะ....” จึก...จีบพี่ศิลาอยู่นะ...ประโยคเสียงทุ้มฟังละมุน ถ้าสาวมาได้ยินคงไม่ต้องหลับต้องนอนกันล่ะครับ กรี๊ดลั่นแน่ ๆ ยิ่งสีหน้าแววตาของไอ้หมูอีก



            ....พีคมาก...



            “พูดเชี่ยอะไร...” ผมทำหน้านิ่ง ๆ



            แต่ในใจกำลังคิดว่า...มันจะพูดอะไรต่อ อะไรของมัน!!!!! มึงทำให้กูแอบกลัวนะเฮ้ย...



            “พูดว่าจีบครับ และผมก็จะไม่ปล่อยให้พี่หนีออกจากห้องผมไปไหนด้วยคืนนี้...เราจะมาเริ่มซ้อมรำกันนะครับ” ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก...



            บอกทีว่ามันพูดเพื่อต้องการจะแกล้งผม...แต่แววตาจริงจังทำเอาผมนิ่งไป จีบบ้าบออะไรของมันวะ กูวิศวะ เถื่อน ๆ นะเว้ย....(ตรงไหนของมึงเถื่อนครับไอ้ศิลา)  ผมว่าผมทำตัวเถื่อนแล้วนะ!



            ...วิศวะเรากำลังสั่นคลอนรึเปล่าวะ...คำพูดของไอ้เสาแว่วเข้ามาในความคิดผม แม่ง...หรือว่าจะเป็นอย่างที่ไอ้เสาพูด...กำลังสั่น....



            ใช่ สั่น.... หมายถึงโทรศัพท์บนโต๊ะของไอ้หมูที่สั่นอยู่ต่างหาก!!



            ครืด ครืด...เสียงโทรศัพท์ของหมูที่ดังขึ้นทำให้มันละสายตาไปแต่พอมันเห็นเบอร์ก็รีบคว้า แต่ผมก็บังเอิญเห็นแวบ ๆ ...เบอร์แม่งคุ้นมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร รู้สึกขอบคุณเบอร์นั้นด้วยซ้ำที่โทรมาขัดจังหวะผมกับไอ้หมู มันเดินหายไปคุยโทรศัพท์ในห้องของมัน



            เดี๋ยว....ขัดจังหวะอะไรของมึงครับศิลา! ไม่ได้จะทำอะไรกับไอ้หมูกรอบนั่นซะหน่อย.....



            พอคิดถึงคำพูดของไอ้หมูเมื่อกี้แล้ว เชี่ยจริงจัง....คืนนี้ผมจะหนีกลับห้องตัวเองยังไงวะ....



            มันพูดจริงหรือแกล้งอำผมเล่น...คิดจะเล่นกับคณะวิศวะไม่ใช่เรื่องง่ายนะเว้ย...วิศวะเถื่อนนะ...


            ...เเต่ไม่เป็นไรครับ ถ้ามันเข้าใกล้ผมในระยะประชิดเมื่อไหร่ ก็เตรียมตัวเจอตีนผมกระทืบได้เลย เพราะอีกวิชาที่ป๊าให้ผมไปเรียนมาก็คือ...มวยไทยครับ โฮะ ๆ ...มันได้ก้านคอเคล็ดเเน่ ๆ ไม่ต้องไปเป็นเดือนเเม่งละ ถ้าเข้ามาใกล้ผมอีก (คิดจะทำร้ายเขาซะเเล้ว)



..........................................

 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เยิฟ ๆ  เดี๋ยวจะได้เห็นพี่ศิลาสอนน้องหมูรำเเล้วล่ะค่ะ 55555  :L1: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2017 19:15:09 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เห้ยยยย หมวยเล็กหวั่นไหวเร็วมาก 5ตอนเองลูกกกก เล่นตัวไปก๊อนนนนน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด